บทที่ 9
กลับด้วยกันต์
..............................................................................
กินไปคุยกันไป ส่วนใหญ่คุยเรื่องปัจจุบันนี่แหละ ไม่อยากจะย้อนอดีตมาก ผมเล่างานให้พี่กันต์ฟัง เคสสัตว์ที่แปลกๆ มันก็น่าตื่นเต้นดีสำหรับคนไม่ใช่หมอ แต่ผมนะบางทีก็ชินซะแล้ว ผมคนเล่า พี่กันต์คนฟัง ส่วนเรื่องที่พี่กันต์เล่าก็ทั่วๆไป วันๆทำอะไรบ้าง เล่าเรื่องหมา เรื่องที่ไปเรียนนอกมา สารพัดเรื่องเล่าไปเล่ามา กินๆ ดื่มๆ
“เฮ้ยพี่กันต์ ขอตัวแปป ปวดฉี่”
“เมายัง ให้ช่วยไปจับไหม” แม่งนึกว่าพอเหล้าเข้าปากจะเลิกหยอด แม่งสงสัยนึกขึ้นได้หยอดกูอีกละ
“ตลก ไปจับของเด็กพี่เหอะ” ผมสวนแบบหน้ามึนๆ พี่กันต์หัวเราะขำ
“หมายถึงไปช่วยจับตัวเว้ยเผื่อเดินเซ คิดลึก” เหออ คิดไปเอา ถามว่าอายไหม ผมไม่อาย กินเหล้าแล้วหน้าด้านหน้าทน
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะมาเข้าห้องน้ำปล่อยแอลกอฮอล์ออกไปบ้างนิดหน่อย เพิ่มรู้สึกมึนนิดๆแล้วล่ะ กินไปเยอะ แต่ไม่เป็นไรเพราะคนเลี้ยงยังก็มีตังค์จ่าย ยืนฉี่อยู่ก็แม่งหงุดหงิดคนคุยกันเสียงดัง มึงใช้ปากฉี่หรือไงวะ เจี้ยวจ้าวเชียว หน้าแดง ตาแดงแล้ว เมาเหรอเนี่ย ยังไม่เที่ยงคืนมึงจะรีบเรื้อนไปไหนวะ ไอ้คนไม่เมาก็ลากเพื่อนออกไปจากห้องน้ำ ไม่ได้ดูตอนมันฉี่ เพื่อนจับให้ฉี่ด้วยป่าววะ โซซัดโซเวยืนไม่อยู่ขนาดนั้น
“โอ้กกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมยืนล้างมืออยู่... แล้วแม่งก็มาอ้วกใส่อ่างล้างมือข้างๆกู สัสเหม็น จะอ้วกตาม ผมมองไอ้ตัวการอย่างหยามเหยียด ดีนะแม่งไม่กระเด็นมาโดนกู
“เฮ้ยดูเพื่อนดีๆหน่อย” ผมพูดแล้วมองผู้ชายที่ลูบหลังเพื่อนอยู่ มันก้มหัวหัวจะเป็นเชิงขอโทษ ผมพยักหน้าส่งๆแล้วเดินหน้าบูดออกไป
...เวลามีแอลกฮออล์อยู่ในเลือดทำให้ผมอารมณ์ร้อนขึ้นเล็กน้อย
พี่กันต์มองลงไปที่เวทีดนตรีข้างลง ผมนั่งลงเซ็งๆ เจอคนอ้วกพุ่งใส่แม่งหมดอารมณ์จะกิน ดีนะที่กินไปแทบจะหมดทุกอย่างแล้ว ผมกระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ในแก้วจนหมด ยกแขนขึ้นมองนาฬิกาที่บอกเวลา5ทุ่มพอดิบพอดี ดึกกว่านี้ไปทำงานสายแน่
“พี่กันต์กลับเหอะ” ผมบอกพี่กันต์
“ไปดิ เดี๋ยวจ่ายตังค์ก่อน” พูดเสร็จพี่กันต์ก็เรียดเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน ไม่รู้ต้องจ่ายเท่าราคาจริงไหม เป็นหุ้นส่วนแท้ๆ น่าจะได้ลดบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าเท่าไหร่จ่ายแบงค์ไปสองสามใบมองไม่ทันว่าแบงค์อะไรบ้าง เห็นแบงค์พันแวบๆ นี่ผมกินล้างกินผลาญขนาดนั้นเลยเหรอ นี่ขนาดมาแค่สองคนนะ
พอเดินออกมานอกร้าน พ้นเสียงเสียงอึกกะทึกคึกโครม ผมก็หายใจลึกเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด พี่กันต์ที่เดินตามหลังผมมาตบไหล่ผมเบาๆให้รีบเดินมา รถคันงามยังคงจอดอยู่ที่เดิม แต่สองข้างรถไม่มีรถจอดด้วย เออ มีงี้ด้วยอ่ะ แต่ว่าใครจะไปอยากจอดเทียบรัศมีวะ รถโคตรไฮโซ หรือเค้าออกไปแล้วโดยบังเอิญนี่ผมก็ไม่รู้
“ขับกลับป่ะ” พี่กันต์หันมาถามเหมือนจะหยอก ผมยืนพิงรถเงยหน้ามองฟ้าที่ไร้ดาวหันหน้าไปมองพี่กันต์แล้วแสยะยิ้ม แล้วมองซีสี่อย่างพิจารณา
“ถามแบบนนี้แปลว่าอยากทิ้งรถแล้วใช่ป่ะ เค้าบอกเมาไม่ขับ กลับบ้านกินต่อ” คำขวัญประจำใจผมคนเดียว ขืนคิดแบบนี้มันทั้งประเทศล่มจมแน่
“โอเค งั้นนั่งเหอะ”
“พี่กันต์แม่งมอมผมป่าววะ ไม่เห็นเมา” พอนั่งในรถเสร็จผมก็จ้อ เวลากึ่มๆแล้วพูดมากด้วย แต่พอเมาจริงๆหลับเลย
“พี่เป็นเจ้าของร้านเบียร์นะธาม เมาก่อนลูกค้าก็เจ้งพอดี” เออถูกของพี่แกว่ะ
“ลืมไป ว่าผมไม่ใช่เจ้าของร้านแบบพี่กันต์ เฮ้ย แต่ทีผมเป็นหมอหมายังเคยโดนหมากัดเลย โดนมาหมดแล้ว หมา งู นก หนู งู ตะขาบ กิ้งก่า” พูดจบก็ผมถือวิสาสเอนเบาะลงหนึ่ง จะได้สบายๆหน่อย
“กิ้งก่ากัดได้เหรอ”
“ดิ น้ำลายแม่งอย่างเหนียว” ผมนึกไปถึงตอนเรียนรักษากิ้งก่าใหม่ๆ แม่งเสือกพิเรนทร์เองเอามือไปลูบปากมัน กัดเข้าให้ ไม่ได้สาหัส แต่สกปรกโคตร ไม่รู้ไปกินแมงสาบมาหรือเปล่าด้วย
“แล้วเปิดร้านอย่างงี้ทำอาหารเป็นป่ะ หรือมีตังค์จ้างพอครัวอย่างเดียวตามประสาคนมันรวย” ผมถามแบบกวนตีนหน่อยๆ พี่กันต์ยิ้มอีกยิ้มทั้งวัน เป็นคนบ้าป่าววะเนี่ย
“เฮ้ย อยู่คนเดียวมันก็ต้องทำเป็นดิ อร่อยด้วย”
“ขี้โม้ป่ะ เพอร์เฟ็คไปและ แบ่งให้คนอื่นบ้างดิ” ผมชักจะหมั่นไส้แล้วนะ คนอะไรวะ อะไรๆ ก็ทำได้ พ่อแม่เลี้ยงมายังไงตอนเด็กทำไมโดยมาเป็นแบบนี้ พ่อแม่พี่กันต์น่าจะเขียนคู่มือเลี้ยงลูกขาย ท่าทางจะขายดี คนเค้าจะได้เอาไปศึกษา แต่ประเด็นนี่อยากรู้ด้วยว่า เลี้ยงไงให้เป็นเกย์ไปได้ ทั้งๆที่ท่าทางนิสัยไม่ได้ชวนให้เป็นเลยสักนิด ถ้าผมไม่รู้เบื้องหลังก็คงคิดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีสาวตรึม แต่ที่ไหนได้ สาวก็หลง หนุ่มก็เยอะ นั่งกินเบียร์กันอยู่สาวเดินผ่านโต๊ะเยอะมาก ยิ้มให้บ้าง เข้ามาคุยกันแบบกล้าๆเลยก็มี ผู้ชายก็มีเดินมาชนแก้วเฉย ผมก็มีนิดหน่อยล่ะ คนสองคน ไม่ใช่มาแนวพิศวาส แต่เหมือนมาชนแก้วกันเฉยๆ ผู้หญิงคน ผู้ชายสองคน ท่าทางมึนๆแล้วด้วย ไม่เหมือนแบบพี่กันต์สติครบ จัดเต็มหวังผล
“ไม่ได้โม้ เพื่อนที่เป็นเชฟยังชมเลย” เสียงมั่นใจมาก สิ่งนึงที่ผมสังเกตได้มานานแล้วคือพี่กันต์เป็นคนที่รวยแต่ไม่เคยพูดถึงเรื่องเงินตัวเอง(ยกเว้นออพชั่นหนักที่ไม่ต้องพูดก็บอกได้แล้วว่าเป็นยังไง) ส่วนมากชอบจะคุยถึงเรื่องความสามารถประสบการณ์แบบที่ตัวเองทำมากกว่าเม็ดเงินที่ตัวเองหาได้
“ชื่อหมิงป่ะ” ผมพูดลอยออกไปเบาๆ
“เอ้ารู้จักเหรอ” พี่กันต์หูดีนะ อย่างอื่นจะดีเหมือนหูป่ะ... ตาดีไรเงี้ย
“เปล่า เพื่อนเล่าให้ฟังเฉยๆว่าเชฟคนนั้นเป็นเพื่อนพี่กันต์ แต่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว” ผมพูดเรื่อยๆเสียงเรียบๆ ไม่อยากจะเล่าว่าอยู่ที่เดียวกันหรอก
“อ้อ งั้นเหรอ สักวันอาจจะได้รู้จักกัน” ผมคิดในในใจว่า ได้รู้จักแน่ๆ ฮึๆๆๆ
“พี่หมิงนี่เป็นเกย์ป่ะพี่กันต์” พี่กันต์ฟังคำถามนี้ก็หัวเรากร๊ากออกมาในทันใด อะไรจะขำขนาดนั้น นี่ผมถามผิดหรืออะไรหรือเปล่า
“เป็น ...เกือบได้กัน ตอนไปเรียนนอกเจอมันไปปาร์ตี้แล้วเมากันเละเลย เพื่อนแกล้งจับใส่ห้องเดียวกันจะได้กันอยู่แล้ว อยู่ๆแม่งก็ขึ้นคร่อมพี่เฉย ถีบออกแทบไม่ทัน แม่งเกือบเสียตัว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หายเมา สว่างเห็นความจริง ลุกขึ้นมาต่อยกันแทน คิดแล้วก็ฮา” พี่กันต์เล่าไปขำไป ไอ้ผมพอฟังแล้วก็ฮา นึกถึงตอนพี่กันต์กับพี่หมิงมานอนรวมกัน ชายเหนือชายสองคนกำลังเมา เพื่อนจับมานอนด้วยกัน ลูบๆคลำๆมีหางก็นัวเนีย แต่พอเริ่มรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่ก็เสือกหายเมา ลุกขึ้นมาต่อยกัน ถ้าเห็นเหตุการณ์จริงคงดูไม่จืด
“เอ้า พี่หมิงไม่น่ารักเหรอ”
“น่ารักแต่หน้าไง ที่เหลือไม่เลย ไม่ชอบแบบมันกล้าไป เป็นเพื่อนดีแล้ว” พี่กันต์ พูดไปยิ้มไป แต่คู่นี้เค้าก็สมกันดีนะ ก็ได้ๆกันไปไม่ได้เหรอ ดูเพอร์เฟ็คแมนทั้งคู่
“อืออ แล้วแฟนพี่กันต์เป็นแบบไหนล่ะ” ผมก็เสือกอยากรู้เนอะ ก็มันอยากรู้นี่หว่า จะเป็นแบบตัวอ้อนแอ้นๆไหม หรือแบบไหน หรือจะล่ำๆ โหดๆ
“มีคนเดียวตั้งนานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน คบไม่นานคล้ายๆ สไตล์ธามนี่แหละ”
“ทำไมต้องคล้ายธามด้วย” ผมถามกลับ มึนหัวนิดๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แม่งไม่สามารถหยุดคำพูดอะไรในหัวได้เลย คิดอะไรพูดออกมาหมดแล้วตอนนี้ นี่คงไม่โดนปล่อยลงกลางทางใช่ไหมเนี่ยถ้าพูดอะไรกวนตีนๆออกไป
“ก็ชอบสไตล์นี้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ” ผมไม่รู้ว่าพี่กันต์ทำหน้ายังไงตอนพูด เพราะผมหลับตาลงแล้วตอนนี้ แต่ยังตื่นอยู่นะ ปากขยับ ตาปิด หูฟัง
“ธามไม่ได้เป็นเกย์นะ” ผมพูดโพลงออกไป
พี่กันต์ก็พูดกลับมาเร็วพอๆกัน “รู้พร้อมชื่อแล้วข้อนี้ เอาอย่างอื่นซิ มีอะไรที่พี่ยังไม่รู้”
“ธามมีแฟน”
“เลิกกันยัง” พี่กันต์ถามเรียบๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่สนิทกันคำถามนี้คงโคตรหยาบ บอกมีแฟนถามต่อว่าเลิกกันยัง
“ยังม้างงง” ผมประชดลากเสียงยาว “ลดแอร์หน่อยดิ หนาว” ปากด็พูดนะว่าให้ลด แต่ผมก็เด้งตัวขึ้นมาลดเอง พี่กันต์ยิ้มมุมปากอีกแล้ว ยิ้มทั้งวันแต่มียิ้มหลายแบบ อยากรู้ตอนโมโหจะยิ้มไหมแล้วยิ้มแบบไหน
“เลิกกันทำไมล่ะ”
“คุยไม่รู้เรื่อง จุกจิก หงุดหงิด รำคาญ”
“ไม่เสียดายเหรอ” พูดตามตรงว่าเสียงพี่กันต์ตอนถามประโยคนี้โคตรกวนตีน เสียงแบบสูงๆ ถามเหมือนแน่ใจเหรอว่าเลิกแล้วจะไม่เสียดาย หรือคิดผิดหรือเปล่าอะไรแบบนี้
“เสียดายคงไม่เลิก” ผมตอบห้วนๆ ลงไปนอนต่อ
“อย่าหงุดหงิดดิ ล้อเล่นเฉยๆ แต่เลิกก็ดีแล้วล่ะ พี่ดีกว่าชัวร์“ ผมหัวเราะด้วยกับมุขนี้ พี่กันย์ยิ้มกริ่ม
“ใครจะไปดีเท่าพี่กันต์” ผมพูดประชด
“ผู้หญิงชอบคนเลว เป็นผู้ชายก็ชอบคนดีซะนะ” พี่กันต์หันมาสบตาผมแวบนึง แล้วหันไปขับรถต่อ ผมหัวเราะฮึๆ พี่กันต์ร้ายมาก ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ใกล้ถึงคอนโดผมแล้ว กลับไปจะไปอาบน้ำแล้วก็นอนตายไปเลย กินไม่มากเท่าไหร่คงไม่แฮงค์ พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก
“นี่ถามอีกได้ป่ะ” ผมหันกลับมามองพี่กันต์อีกครั้ง เห้อ เกิดมาหล่อนี่ก็ดีเว้ย ทำอะไรก็ดูดี... ผมคงได้ถามอีกคำถามถ้าไม่พอดีกับที่บีเอ็มดับเบิ้ลยูซีสี่เลี้ยวเข้าจอดที่ล่างคอนโดซะแล้ว พี่กันต์หันมายิ้มให้ อันที่จริงก็หน้ายิ้มตลอด
“พอได้แล้วเก็บไว้ถามวันอื่นบ้าง จะทำหนังสือหรือไง ถึงคอนโดแล้ว ไม่ลงหรือไง” พี่กันต์ถามผมที่ยังนั่งนิ่ง ผมพยักหน้าว่าลง มือคว้ากระเป๋าเปิดประตูรถ
“ขอบคุณมากที่เลี้ยง” ผมพูดเบาๆ ก่อนที่จะลุกออกจากรถ
“ไม่เป็นไร หิวอีกเมื่อไหร่ก็บอกพร้อมเลี้ยง แต่เว้นระยะหน่อยนะ ปั่นเงินไม่ทัน ฝันดี” พี่กันต์บอกลา แล้วขับรถออกไป ซี4หายไปลับตา
ผมมองตามรถไป รถสวยจริงๆเถอะให้ตายชอบมาก คิดเสร็จและรู้ว่าไม่มีปัญญาซื้อก็เดินไปที่ประตูทางเข้าคอนโด ผมเดินไปกดลิฟต์ หาวหวอด แต่อยู่ๆ ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกขึ้นมาได้ เหมือนสมองมันพึ่งเริ่มทำงานหลังจากที่เปื่อยยุ่ยอยู่ในกระโหลกผมมานาน ตั้งแต่เจอกันผมไม่เคยบอกพี่กันต์ว่าผมพักที่ไหน วันนี้ตอนคุยกันอยู่ก็ไม่ได้พูดนอกจากบอกว่าอยู่คอนโด ไม่ได้บอกชื่อคอนโด ไม่ได้บอกว่าคอนโดแถวไหน ขากลับก็คุยไร้สาระ ไม่เกี่ยวกับเรื่องคอนโด พี่กันต์ไม่เอ่ยปากถามสักคำว่าคอนโดอยู่แถวไหน ไปทางไหน
...เฮ้ย แล้วมาถูกได้ไงวะ
“ชิบหายละ”
ผมสร่างเต็มตา พึมพำกับตัวเองก้าวขึ้นลิฟต์ มือควักโทรศัพท์จากกระเป๋าออกมา เลื่อนกดโทรออกไปที่เบอร์ของพี่กันต์... ไม่นานปลายสายก็รับ
“ลืมอะไรธาม” พี่กันต์นั่นแหละที่ลืม
“ลืมถามพี่กันต์” ผมพูดเสียงนิ่ง
“ถามอะไร” พี่กันต์ถามเสียงสงสัย แต่ผมซิสงสัยยิ่งกว่า
“พี่กันต์ขับรถมาส่งผมถูกได้ไง ผมไม่เคยบอกสักคำว่าอยู่ที่ไหน”
“.........”
...24-10-2011
วันนี้เข็นออกมาด้วยความยากลำบากเพราะอารมณ์ไม่ค่อยเกิดเลย เห้ออ... เซ็งๆอ่ะช่วงนี้ อารมณ์ติสขึ้น โฉดมาก เหนื่อยใจกะตัวเอง ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องอะไรให้เครียดก็เครียดขึ้นมาได้โคตรบ้าเลย ตอนนี้เลยอาจจะฮาน้อยหน่อย แต่ก็รู้เรื่องอะไรเยอะขึ้นล่ะ มีแต่บทสนทนาล้วนๆ ง่าวๆไป
สนุกไม่สนุกไงก็บอกนะ น้อมรับ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะ (จูงใจๆ)
ทีแรกว่าจะไม่อัพวันนี้แล้ว อาจจะอัพคืนอีกคืน แต่คิดว่าคนอ่านคงรอ ก็เลยไปสางอารมณ์วาดรูป ฟังเพลง คุยไปเรื่อย กว่าจะได้เริ่มก็ตีสองกว่าๆอ่ะ คิดไปพิมไป ตันระเบิดระเบ้อ เบลอสุดๆ
รักใครเชียร์ใครก็เชียร์ต่อไปนะ จ้ะ รักคนอ่าน

วันนี้ขอยังไม่ตอบโพสนะ ตื่นมาแล้วจะตอบแยกอีกที ไม่ไหวแล้ว เด๊่ยวฟ้าสว่างแล้วนอนไม่ได้ T T เมื่อคืนก็นอนไป4ชม.