“!!!!???” คราวนี้เขาขยับหน้าหันมามองผมทันที “อะไรนะครับ เล่นจี้เอว?”
“เออ!” ผมพูดกระแทกเสียงใส่หน้า “พี่เล่นกับเพื่อน มันไปโดนส่วนไหนโจไม่ทราบ”
“ตะ... แต่พี่นิตเล่นกับเพื่อน มันดู....” เขาตะกุกตะกัก “ดูอย่างกับเขาจะกดพี่นิตบนเก้าอี้แน่ะ”
“บ้าเรอะ!!” ผมตาวาดแว้ด “คนหัวเราะจะตายแล้ว โจเห็นเป็นงั้นได้ไง สมองโจคิดอะไรอยู่น่ะ!!”
“ขอโทษนะครับ!” เขาโพล่งออกมาอีก “ผมขอโทษ ตะ... แต่ แต่พี่นิตอย่าไปเล่นแบบนี้กับคนอื่นอีกได้ไหม?”
“นี่!” ผมขึ้นเสียงอีก “ชีวิตพี่นะ พี่จะเล่นอะไรกับใครมันก็เรื่องของพี่ โจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามพี่น่ะ!!”
สุภาพงษ์ดูอึ้งๆ ไปอีก แต่ผมเนี่ย เดือดปุดๆ เลย นี่ชีวิตผมนะ เขาเจ้ากี้เจ้าการมาสั่งโน่นสั่งนี่ได้ไง
“ตะ... แต่” สุภาพงษ์ตะกุกตะกักขึ้นมาอีก เหอะ! จะแต่อะไรอีกล่ะ พูดม้าๆ ล่ะก็ ผมจะด่าให้น้ำตาร่วงหนักกว่านี้เลย
“แต่พี่นิตชอบผมคนเดียวใช่มั้ย?”
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมถลึงตามองเขา นี่เขานึกบ้าอะไรพูดแบบนี้ออกมาน่ะ เขาทำผมเจ็บแทบตาย ทำผมปวดอกแทบตาย ยังจะ... ยังจะกล้ามาพูดแบบนี้ใส่ผมอีก
“พี่นิตอย่าเกลียดผมนะ”
นั่น ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก เขาก็แย่งพูดอีกแล้ว ผมทนไม่ไหว ต้องทุบเขาไป “เด็กบ้า!”
เขากอดผมแน่นกว่าเดิม “ชอบผมนะ”
โอ๊ย!! นี่เขาร้องไห้จนสติเลอะเลือนหรือไง เขาทำกับผมขนาดนี้ ยังจะให้ผมชอบเขาอีกเหรอ ผมทุบหลังเขาอีกหลายครั้ง ดึงปึ๊กๆ เลย
“พี่ไม่ชอบ ไม่ชอบหรอก ไม่ชอบเด็กปากร้ายนิสัยเสียแบบนี้หรอก”
สุภาพงษ์กอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก นี่กะจะเอาให้ตับไตไส้พุงผมทะลักออกมาเลยหรือไงน่ะ!
“ขอโทษนะครับ ผมจะไม่ปากร้าย ผมจะไม่นิสัยเสียกับพี่นิตอีกแล้ว”
ผมฮึดใจ ทุบเขาแรงๆ อีกที “พี่ไม่เชื่อหรอก โจเคยบอกพี่ว่าไม่ขี้หึง โจยังขี้หึงเลย”
ผู้ชายตัวใหญ่ที่ทำท่าเหมือนจะรัดผมจนตับหลุดออกมาชะงักไปหน่อยหนึ่ง เหอะ! นั่นไงล่ะ รู้ตัวแล้วล่ะสิว่าพูดเรื่องโกหกใส่ผมน่ะ ผมได้ทีรีบพูดต่อ “คิดจะมาเป็นแฟนพี่ ถ้ายังรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ล่ะก็ ไม่ต้องมายุ่งหรอก”
“............................”
“อุ๊!” ผมต้องอุทานออกมา เพราะเขารัดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก จากนั้นก็พูดตะกุกตะกัก “ถะ... ถ้ารับได้... พี่นิตให้ผมเป็นแฟนนะ นะ”
ผมถูกกอดจนพูดไม่ออก ต้องออกแรงผลักเขาเป็นการใหญ่ “เด็กบ้า ปล่อยพี่นะ จะฆ่ากันหรือไง”
“พี่นิต” เขาพูดเสียงตื่นเต้น “ให้ผมเป็นแฟนนะ ผม... ผมจะไม่โมโหพี่แล้ว ผมขอโทษนะ”
ผมทุบเขาป้าบใหญ่ เสียงดังดี แต่ผมเจ็บมือชะมัดเลย “ไม่ พี่ไม่เชื่อโจแล้ว พี่ไม่อยากเสียใจอีกแล้ว”
สุภาพงษ์อึ้งไปอีก สักพักก็พูดออกมา “พี่นิต... ขอโอกาสผมอีกครั้งเถอะ”
“ไม่!”
“..............”
“โจทนได้หรือไง พี่ไม่มีเวลามาดูแลโจ ไม่มีเวลามาใส่ใจโจอย่างที่คนเป็นแฟนกันเขาทำหรอกนะ พี่จะคุยเล่นกับเพื่อน จะไปค้างบ้านใคร พี่ไม่บอกโจหรอกนะ พี่อยากทำอะไรพี่ก็ทำ พี่ไม่อยู่ตัวติดกับโจยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก”
“ตะ... แต่พี่นิตจะไม่ทำอะไรกับคนอื่นอย่างที่ทำกับผมใช่มั้ย?” สุภาพงษ์พูด แล้วเงยหน้ามามองผม เลยโดนผมตบอีกที คราวนี้ผมเล็งดี ตบอีกข้าง แก้มเขาจะได้ช้ำพอกัน
“ถ้าคิดว่าพี่ง่ายขนาดนั้นล่ะก็ เลิกยุ่งกับพี่เถอะ เราจะได้ไม่ต้องเสียน้ำตาอีก”
ผู้ชายตัวใหญ่ที่โดนตบจนแก้มอีกข้างเห่อขึ้นมา สั่นศีรษะดิกๆ “ผมขอโทษนะครับ ขอโทษนะ”
ผมหันหน้าไปทางอื่นเสีย เพราะผลักก็แล้ว ตีก็แล้ว ตบก็แล้ว เขาไม่ยอมปล่อยผมสักที ให้ตายสิ จะยึดอะไรผมนักหนานะ
“ให้โอกาสผมอีกครั้งนะ”
“......................”
“นะครับ... ชีวิตนี้ผมรักพี่ได้คนเดียวจริงๆ”
ผมตัวสั่นนิดๆ บ้าจริง อย่ามาพูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้กับผมได้มั้ยเล่า!
“ถ้าโจทำนิสัยแบบนี้อีก ไม่ต้องกลับมาให้พี่เห็นหน้าแล้วนะ พี่ไม่ให้อภัยโจแล้ว”
สุภาพงษ์ทำหน้าตื่นๆ ก่อนจะเม้มปาก แล้วพยักหน้า “ครับ ผม... ผม.... ผม.....”
เขาพูดเป็นติดอ่างอยู่พักใหญ่ หน้าแดงจัดเลย ผมรออยู่ว่าเขาจะพูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะพูดไม่ออกสักที เลยเปลี่ยนเป็นดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง
“พี่นิต... ขอบคุณนะ... ขอบคุณ”
“..............” บ้าจัง ผมน่ะเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆ โดนเขาด่า โดนเขาดูถูก แถมยังโดนเขาหลอกล่อจนต้องมายอมตกลงพูดอะไรแบบนี้อีก แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นเขาทำท่าดีใจกับคำพูดของผมขนาดนี้ ผมอดสะท้อนใจขึ้นมาไม่ได้
นี่ถ้าผมเป็นคนนอก แล้วเห็นเขามาหลงชอบอะไรคนแบบผมล่ะก็ ผมยุให้เขาเลิกยุ่งไปแล้วล่ะ
เขา... เขาจะทนผมได้จริงๆ เหรอ นิสัยแบบผม ท่าทางแบบผม... เขาจะไหวเหรอ.... แล้วผมจะทนเขาไหวมั้ย ถ้าเขาทำแบบนั้นอีกล่ะ ผมคง....
จู่ๆ น้ำตาผมก็ร่วงผล็อยออกมาอีก บ้าจริง! ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ เมื่อคืนผมอุตส่าห์บอกตัวเองเสียดิบดี ว่าต่อไปนี้จะไม่ให้ใครเข้ามาทำผมเจ็บอีก ผมอุตส่าห์ก่อกำแพงเสียดิบดี กะว่าไงๆ ก็จะไม่ยอมอีกแล้ว แต่....... แต่แค่เจอเขาร้องไห้ แค่เจอเขาอ้อนแค่นี้ ผมก็..........
“โจ... อย่าทำแบบเมื่อวานกับพี่อีกนะ” บ้าเอ๊ย ทำไมผมต้องพูดแล้วน้ำตาไหลขนาดนี้ด้วยนะ สุภาพงษ์เงยหน้าขึ้นมา พอเห็นหน้าผมเขาก็น้ำตาร่วง แล้วรีบกอดผมอีก “ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมจะไม่ทำอะไรให้พี่เสียใจอีกแล้ว”
ผมน้ำตาไหลอีก นี่เขาเก่งเรื่องทำใหผมขี้แยไปตามเขาด้วยหรือไง เขากอดผมสักพัก ก็พูดออกมา “พี่นิต.... ตกลงเป็นแฟนผมนะ”
“ไม่!”
“..........”
“ขนาดพี่ไม่เป็นแฟนโจ พี่ยังเจ็บขนาดนี้เลย ถ้าพี่เป็น...”
“..............”
“พี่ไม่เป็นหรอก”
“ตะ... แต่พี่ยังชอบผมอยู่ใช่มั้ย?”
“?!” อะไรน่ะ ทำไมถึงต้องใช้คำว่ายังชอบด้วยล่ะ หมายความว่าไง หมายความว่าก่อนหน้านี้เขารู้ว่าผมเคยชอบขางั้นเรอะ!?
ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก สุภาพงษ์ก็กอดผมแน่นขึ้นอีก “ไม่เป็นไร ให้พี่นิตชอบผมก็พอ”
“ไอ้!” นานๆ ผมอยากจะด่าคนด้วยคำไม่สุภาพนะเนี่ย แต่โอ๊ย! เขากอดแน่นอย่างกับจะรัดผมให้ตาย นี่ผมโทรเรียกศูนย์นเรนทรหรือป่อเต๊กตึ๊งให้เขาคีมตัดเหล็กมางัดแขนเขาออกได้มั้ย ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองแรงมากอย่างกับอะไร
โชคดีที่ก่อนผมจะขาดอากาศตาย เขาก็ยอมคลายวงแขนออกเสียที ก่อนจะขยับมามองผมด้วยหน้าโทรมๆ ขอบตาบวมๆ แก้มช้ำๆ สองข้าง ด้วยสายตาที่แสดงอาการดีใจอย่างปิดไม่อยู่
“พี่นิต... ผมรักพี่นะ รักพี่คนเดียว”
ผมไม่รู้จะทำไงแล้ว จะเอาหน้าซุกไหล่เขาก็ไม่ทัน จะหนีออกจากวงแขนเขาก็งัดไม่ออกสักที จนเขา... เขาขยับมาจูบผม
นี่ผมง่ายอีกรึเปล่านะ
“โจ...” ผมพูด หลังจากเขาผละริมฝีปากออก คราวนี้เขาแค่เม้มลงมาเบาๆ ไม่ได้ใช้ลิ้นหรืออะไรอย่างคราวก่อนแล้ว
“ครับ”
“พี่เคยจูบกับโจคนเดียวนะ... พี่จะไม่จูบกับคนอื่นอีกแล้ว”
“............”
“เรื่องวันนั้น ก็ครั้งแรกของพี่นะ พี่ไม่มีครั้งที่สองกับใครอีกแล้ว”
“....................”
“พี่ไม่ใจง่ายกับใครหรอกนะ”
สุภาพงษ์เม้มปาก ดึงผมไปกอดอีก “ขอบคุณนะพี่นิต ผมรู้แล้ว ผมขอโทษจริงๆ ผมรู้แล้วว่าพี่ชอบผม ผม.... ผม........”
จากนั้นเขาก็หอมแก้มผม จูบปากผมเบาๆ อีกครั้ง ผมล่ะแทบน้ำตาร่วงออกมา
ไม่ใช่ว่าดีใจอะไรหรอกนะ ผมเสียใจน่ะ เสียใจที่กำแพงที่ผมอุตส่าห์ก่อไว้อย่างดี มันไม่ได้ช่วยกั้นเขาได้เลย ไม่รู้เขามุดรอยแยกเข้ามาในกำแพงใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่ บ้าจัง นี่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเขากลายมาเป็นส่วนหนึ่งในโลกบิดๆ เบี้ยวๆ ของผมแล้ว
เขาจะทำลายโลกเบี้ยวๆ ของผมอีกรึเปล่า ผมไม่รู้ คำพูดของเขาเชื่อได้แค่ไหน ผมไม่รู้เลย แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะทนอยู่ในโลกเบี้ยวๆ ของผมได้อีกนานแค่ไหน เขาจะมั่นคงกับคำพูดของตัวเองไปนานขนาดไหน
ถ้าวันหนึ่งเขาเกิดทนผมไม่ได้ หรือผมทนเขาไม่ได้ล่ะ?!
ผมขยับตัวมามองหน้าเขาชัดๆ อืม... โทรมจริงๆ เลยนะ ถ้าไม่อคติก็คงพอรู้ว่าเขาคงเสียใจไม่แพ้ผม บ้าจริงเชียว แบบนี้ผมคงจะไล่เขาออกจากใจไปไม่ได้ง่ายๆ แน่ๆ แต่ถ้าจะให้เขาเข้ามาลึกเกินไปมันก็เสี่ยง...
เพราะงั้น.... ลองทอดเวลาออกไปหน่อยแล้วกัน ดูอาการของเราไปอีกสักระยะ ดูว่ามันจะไปในแนวทางไหนกันแน่ แล้วถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ค่อย.....
ผมยกมือขึ้นปัดผมเขาออก เช็ดน้ำตาให้เขา ลูบแก้มเขาที่โดนผมตบ สุภาพงษ์เงยหน้ามองผม ก่อนจะพูดเสียงพร่า “พี่นิต...”
ผมหลับตา จากนั้นเขาก็จูบมาอีกครั้ง
บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่มีผมกับเขาเป็นตัวเอก เราสองคนผลัดกันเขียนเรื่องคนละบท ไม่รู้ว่าตอนจบเขาจะได้เป็นพระเอกหรือผู้ร้าย แล้วก็ไม่รู้ว่าผมจะได้ครองตำแหน่งอะไร
ผมเดาไม่ออกว่าเรื่องนี้จะจบยังไง จะสุขหรือจะเศร้า จะโศกจะเหงา หรือจะตื่นเต้นสดใส
แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อตอนไหน ผมเองก็ยังไม่รู้เลย บางทีมันอาจจะไปต่อเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันจบสิ้นก็ได้
ก็นี่มันเรื่องราวชีวิตผมกับเขา ไม่ใช่เรื่องราวในนิยายนี่นา...
ตอนจบจะเป็นยังไง คงต้องรอให้ผมกับเขาช่วยกันเขียนต่อไปล่ะมั้ง
----------------------------------------
** เอ่อ.... พอเขียนถึงตอนนี้แล้ว พอลงประโยคสุดท้ายปุ๊บ คำว่า "จบ" มันก็โผล่มาในหัวเราะทันที จนอยากจะ... อยากจะพิมพ์ลงไปท้ายตอนจริงๆ ว่า"จบ" แต่!! ถ้าเราพิมพ์ลงไปล่ะก็ จะต้องถูกคนอ่านกระทืบแน่ๆ เลย
(อ้อ! รู้ตัวนี่!!!)
งั้น... ยังไม่จบก็แล้วกัน (แหะๆ)
อันที่จริงเรื่องนี้เริ่มต้นแบบหลวมๆ ถือว่าเป็นนิยายที่เราทำโครงไว้หลวมมาก-มากที่สุด (น่าเสียใจและเพลียใจจริงๆ) ตอนแรกคิดว่าคงไม่ยาวมาก เพราะเรื่องไม่มีอะไร หลวมโพรก ก็แค่นายซึนสองคนมาเจอกัน สุดท้ายเดี๋ยวก็(น่าจะ)รักกัน แต่ทว่า!! เรื่องราวมันดันยืนยาวกว่าที่เราคาดเอาไว้!!! เพราะความหลวม(ของโครงเรื่อง) และความอายุมากของคุณพนิตแท้ๆ!! เออ ของนายโจด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ ลืมไปเลยว่าความสัมพันธ์เฉื่อยๆ แบบนี้มันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ (นั่นแปลว่าใช้จำนวนหน้าเข้าช่วยนั่นเอง!!)
แล้วคนอย่างพี่นิตก็ใช่ว่าจะมีบทสรุปอะไรตายตัวกับเขา แต่... แต่...... แต่เราก็ได้เขียนฉากธรรมดาที่สุด ที่ยังอึ้งตัวเองว่าเขียนลงไปได้ยังไงในบทที่16
อันที่จริงไม่ใช่คนที่ชอบเขียนดราม่าที่มีการเข้าใจผิดระหว่างพระเอกนางเอกเนื่องจากมีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง ทำนองว่าทำท่าให้ชวนเข้าใจผิดแบบ.... ละครไทยอย่างนี้มาก่อนเลย (ช็อกกับตัวเองสุดๆ
)
แต่เนื่องจาก... เนื่องจาก..... เนื่องจาก!!! เนื่องจากเราอยากเห็นดราม่า (โห...) และ เราอยากปล่อยบทให้คุณภูมิ กับนายกั้ง (อ้าว ไหนบทนายกั้งวะ... ลืมแล้ว ฮ่าๆ) เราก็เลย... ก็เลยจัดไป (เพราะจะทำให้พิศดารแบบเรื่องอื่นมันก็Epic อลังการ ไม่เข้ากับเนื้อหามากไป เอาวะ ขอธรรมดาสักเรื่องก็ได้ (โอ๊ย ช็อก... ช็อกค่ะช็อก!!)
สรุป... สรุปว่ายังไม่จบ ฮ่าๆๆๆ
ส่วนใคร ที่ลุ้นจะหาพระเอกให้นายกั้ง กับหานายเอกให้คุณภูมิ มีลุ้น!!(แต่อาจจะเรื่องอื่น)
แอบคิดเนื้อเรื่องคู่นี้ไว้นิดๆ แระ รับรองไม่ธรรมดา ฮ่าๆๆๆๆ
(หัวเราะเสียสติ)
ส่วนพี่นิต กับนายโจ.... ปัดมดๆๆๆๆ โอ๊ย มดกัด (อันที่จริงแรกเริ่มเดิมที ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีดราม่ารุนแรงขนาดนี้นะเนี่ย แต่ว่า... ก็เขียนไปแล้วน่ะนะ แหะๆ)
โอย.. แลดูเพ้อเจ้อ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ^^
****ต่ออีกนิด... สงสารพี่นิตอ่ะ... อุตส่าห์ก่อกำแพง ทำ่่ท่าจะพาดคาน... คาดไม่ถึง โจไม่ต้องฝ่ากำแพงแล้ว เพราะเข้ามาเรียบร้อยแล้ว โถ... พี่นิต เหนื่อยฟรีเลยอ๊า แพ้ใจโจไปนานแล้ว ไม่รู้ตัว!!
ดังนั้น นายโจ ถ้าไม่รักษาน้ำใจพี่นิตอีกล่ะก็ แกตายแน่ ฉันจะเด้งแกออกจากตำแหน่งพระเอก ยกคานมาหามพี่นิตแทน.. ให้พี่นิตนั่งคานสมใจ แล้วให้นายโจน้ำตาตกใน (พร้อมคนอ่าน<<โดนเตะ
) โจจ๋า รักถนอมพี่นิตให้มากกว่านี้อีกนะจ้ะ.. เพราะอย่างพี่นิต ไม่มีขายแล้วนะ เพราะเป็นของเออเร่อ หายากหาเย็น ได้ยากได้เย็น ได้มาแล้วต้องรักษาดีๆ เพราะพังง่าย เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานแล้ว (แต่เรื่องอย่างนั้น ยังใหม่อยู่ ว๊ายย โจอ๊ะ!!<<อีนี่เป็นอะไรมากไหม)