- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือเหตุการณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น
สงวนลิขสิทธิ์เฉพาะเนื้อหาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
บ้านพักอลเวง ภาค 0
หลังจากจบม.3 ชีวิตเด็กนักเรียนต่างจังหวัดอย่างผมก็ต้องจำเป็นต้องย้าย รร. เข้าสู่เมืองกรุง ในช่วงแรกที่ผมรู้ ทำเอาเครียดไปพอสมควร ไหนจะต้องจากถิ่นเกิด ไหนจะเพื่อนที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
ที่สำคัญผมยังไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันกับนักเรียนผู้หญิงเลย ร.ร ผมในม.ต้นจะเป็นชายล้วน พอมา ม ปลายถึงจะเปลี่ยนเป็น สหศึกษา ความฝันที่เคยร่วมกันกับเพื่อนๆที่จะได้จีบ ได้แอ้มสาวก่อนปลายเทอมก็มีอันมลายสิ้น !!!
ใช่ครับ!! คุณได้อ่านไม่ผิดหรอก การจีบสาวเป็นกิจกรรมหนึ่งๆ ในหลายกิจกรรมอันไร้สาระที่ เด็กชายวัยม.ปลาย(อาจจะรวมถึง ม.ต้น และประถม)มักจะกระทำกัน ผมก็รู้สึกอยากจะทำแบบนั้นเหมือนกัน นั้นเป็นเพราะความเป็นตัวของผมยังไม่ได้แสดงอะไรออกมายังไงล่ะ
นั้นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ค่อยจะอยากเข้ามาในเมืองที่เต็มไปด้วยมลภาวะ และสิ่งที่อาจทำให้คนใจแตกมากมาย วันที่ผมต้องออกเดินทาง ผมล่ะแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลย เพื่อนที่รักของผมไม่โผล่หัวกันมาซักคน อาจจะเป็นเพราะวันนี้ฝนฟ้าดูจะไม่ค่อยจะเป็นใจให้คนออกนอกบ้านมากนัก
“ เดินทางไป-มาดีนะลูก , ลืมกระเป๋าสตางค์เหรอเปล่า , ของเอามาครบนะ , ฯลฯ” และอีกมากมาย ที่แม่ผมจะคิดได้เฝ้าบอกผม ตลอดจนถึงรถโดยสาร ธรรมดาผมออกจารำคาญด้วยซ้ำ แต่วันนี้ผมกลับตั้งใจฟังที่แม่พูด เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขัด ทำให้แม่ดูจะตั้งอกตั้งใจพูดเป็นพิเศษ นั่นทำให้พ่อเป็นฝ่ายรำคาญซะเอง
“สวัสดีคับ พ่อ-แม่ ” ผมบอกก่อนจะขึ้นรถ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาหนักเอาการ
“เฮ่อ เดินทางวันแรกก็ฤกษ์ดีสุดๆ “ ผมเปรย
จังหวัดที่ผมอยู่จริงๆแล้วก็ไม่ไกลจาก กรุงเทพฯมากนัก เพียง 2 ชม.กว่าๆ ก็ถึงที่หมาย ยกเว้นแต่คุณจะเจอคนขับรถที่คิดว่าทางหลวงเป็นสนามแข่งรถ นั้นแหละย่นเวลาเดินทางได้เกือบครึ่งหนึ่งเลยล่ะ!!
กว่าจะมาถึง ก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว สถานที่ที่ผมต้องพักอยู่ตลอดจนกว่าจะจบม ปลาย เป็นบ้านพักแห่งหนึ่งแถบๆบางเขน ตามความเห็นของผม น่าจะเรียกว่า ”หอพัก” มากกว่า ”บ้านพัก” ที่สำคัญมันสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง คงมีส่วนที่ทำด้วยคอนกรีตไม่มากเพื่อความแข็งแรง ที่บ้านผมได้รับการแนะนำจากเพื่อนบ้านว่า ลูกชายของเค้าเคยมาเช่าอยู่ตอนเข้ามาเรียนพิเศษ จึงตัดสินใจในผมมาอยู่ที่นี่ เหตุผลอีกอย่างที่พ่อแม่ผมอนุมัติ เพราะเป็นหอชาย หมายถึง คนเช่ามีแต่ผู้ชายแหละคับ ผมจะได้ไม่แอบพาใครๆมาทำอะไรได้ยังไงล่ะ แต่หารู้ไม่ !! ที่นี่แหละจะทำให้ ”ความรู้สึกที่ซ่อน” อยู่ในตัวผมถูกปลุกขึ้น (เว่อร์ไปป่ะ)
หอพักที่นี่นับว่าเป็นสถานที่ที่แปลกจริงๆ ทั้งที่อยู่ในตัวเมืองแท้ๆ แต่กลับมีบรรยากาศที่ดูสดชื่น สะอาด และดูมีระเบียบที่ดี (และไม่มีระบบอะไรให้ยุ่งยากเหมือนที่บางที่) หอนี้มีอยู่ 2 ชั้น และรูปทรงค่อนข้างจะไม่ได้ใช้สถาปัตยกรรมอะไรมากมาย เอาเป็นว่าผมจะไม่อธิบายรายละเอียดให้มันซับซ้อนละกัน ที่นี่มีคนเช่าอยู่เพียง 7 คน มีคนดูแล อยู่ 3 คนเอง
แต่ผมก็ต้องแปลกใจ เมื่อมีหญิงสาว วัยมหาลัยมาต้อนรับผม
“ คุณ พงศ์พิพัฒน์ ใช่มั้ยค่ะ ” หญิงสาวเอ่ย “ เชิญด้านในเลย คุณอยู่ห้อง 203 คะ ”
“ ค..ครับ ผมไม่ยักรู้ว่าที่นี่เค้ามีพนักงานดูแลเป็นผู้หญิงนะ ” ผมเริ่มประโยคสนทนา
เธอยิ้มๆ “สวยไม่หยอกเลย” ผมคิด
“ ฉันเป็นลูกเจ้าของหอที่นี่ค่ะ ……… แล้วก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอ ที่จะช่วยกิจการของครอบครัว หรือว่าไง..”
พูดได้ดีซะด้วยซิ เธอพาผมขึ้นไปที่ห้องชั้น 2
“ห้องนี้ค่ะ … ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวมนะ อยู่ด้านล่าง โทรศัพท์ก็ด้วย …ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ไปตามได้นะ ฉันอยู่ห้องข้างล่าง ”
“คนเดียวเหรอ” ผมหยอก
“ กะน้องชาย ” เธอบอกพลางจะเดินลงข้างล่าง
“เออ .. พี่ชื่ออะไรเหรอครับ บาสครับ” ผมแนะนำตัวเอง ที่จริงผมไม่ค่อยชอบชื่อผมเท่าไรหรอก ตั้งแต่ผมพบว่ามีเพื่อนชื่อเดียวกันถึง 2-3 คน ในระยะเวลาเพียง 3-4 ปี
“ เน คะ พี่ชื่อเน ”
“ขอบคุณนะคร๊าาาบ พี่คนสวย” พี่เค้ามองค้อนๆ แล้วก็เดินลงไป ในตอนนี้ผมอยากจะรู้จักคนรอบข้างให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ทำให้ผมอุ่นใจได้ในยามที่ต้องออกมาอยู่คนเดียวอย่างนี้