ตอนที่ื่ 69 อดทนไว้...(แรก)

ดึกแล้ว....แต่นิกกี้ยังไม่หลับ....
หลังจากนอนถอนใจก่ายหน้าผากนับแกะแล้วนับแกะอีก หนุ่มหน้าตี๋ก็ลุกจากเตียง
ลงไปชั้นล่างของบ้าน เข้าครัวไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องเย็นๆที่แช่ไว้ออกมา
จัดแจงเปิดดื่มหน้าทีวี... ดูข่าวไป...จิบเบียร์ไปพลางๆ...
แต่ทั้งหมดที่เขาทำ มันไม่ได้ทำให้รู้สึกหายเครียดแล้วเพลิดเพลินเลยสักนิด
นิกกี้มองนาฬิกาติดข้างฝา มันบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว...
ตลอดวันนี้ นอกจากคิดเรื่องตัวเองแล้ว เขายังรู้สึกคิดถึงพี่ชายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แต่ถึงจะโทรไปหาทั้งวันจนโดนพี่บ่น... เขาก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้จนแปลกใจตัวเอง
.... นิกกี้นึกถึงโทรศัพท์ขึ้นมาก็เงยหน้ามองไปข้างบน... เขาไม่ได้หยิบมือถือลงมาด้วย
“เฮ้อ.....ป่านนี้พี่น้ำหลับไปแล้วแหง...”
เจ้าหนุ่มตี๋ถอนใจ ทั้งที่ตาเขามองไปที่ทีวี แต่ความจริงแล้วมันเหม่อลอยไปถึงไหนๆ
คนที่นอนไม่หลับมาตลอด ตั้งแต่โดนเพื่อนบอกเลิกคบอย่างเขา ควรจะทำอะไรดี
นอกจากทำเป็นเก่งต่อหน้าคนอื่น แล้วกลับบ้านมานั่งเหงาเรื่อยเปื่อย
รู้สึกทรมานใจอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้....
ตอนนั้นเอง... ท่ามกลางความเงียบของบริเวณรอบๆบ้าน จู่ๆก็มีเสียงรถ
ขับเข้ามาจอดที่หน้ารั้วบ้านให้ได้ยิน และตามมาด้วยเสียงออดหน้าประตูรั้ว...
“เฮ้ย!?... ใครมาวะ? ป่านนี้...”
นิกกี้ทำหน้างง วางเบียร์กระป๋องในมือลง แล้วรีบเดินออกไปดู
เมื่อออกไปเห็นแขกคนคุ้นเคยที่มาหาเขาถึงบ้านยามวิกาลเช่นนี้
แม้จะแปลกใจแต่หนุ่มหน้าตี๋ก็ยิ้มรับทันที ที่เดินออกมาเจอน้องแบงค์ยืนรอเขา
ในมือหนุ่มน้อยถือถุงของกินถุงใหญ่มาด้วย..
...ประตูรั้วเปิดกว้างต้อนรับเจ้าของรถ BMW สีขาว ให้ขับเข้ามาจอดเรียงต่อจาก
รถของเพื่อนๆเจ้าของบ้านซึ่งฝากจอดไว้อีกสองคัน รวมรถของนิกกี้เข้าไปด้วย
เท่ากับว่าบ้านหลังสีเขียวอ่อนแสนสวยตอนนี้ มีรถหรูสวยสะดุดตาจอดเบียดกัน
อยู่ในโรงจอดรถถึงสี่คัน..
“แบงค์มาได้ไง55 นึกว่าหลับไปแล้วนะเนี่ย พี่คิดถึงก็อุตส่าห์ไม่โทรหา
โห...เอาอะไรมาเยอะแยะ ของกินทั้งนั้นเลยใช่มั้ย555 อย่างนี้พี่ก็อ้วนแย่ดิ....หึ////”
“แบงค์ไปแวะเซเว่นมาครับ... โทรหาพี่นิกแล้วแต่ไม่รับเลย”
“อ๋อ..มือถือพี่อยู่บนห้อง พอดีพี่ลงมาดูทีวีข้างล่าง”
“แล้วทำไมไม่ดูบนห้องล่ะครับ?”
“เอ่อ.......แหะ.. คือ พี่ลงมาจิบเบียร์นิดหน่อยน่ะ ขี้เกียจขึ้นๆลงๆหยิบเบียร์เดี๋ยวมันไม่เย็น
ก็เลยนั่งข้างล่าง....ดูทีวีไปเรื่อย..... ว่าแต่แบงค์มามีอะไรรึเปล่า?”
คำตอบของนิกกี้ ทำเอาแบงค์ชะงักเท้าขณะที่กำลังก้าวพ้นธรณีประตูเข้าบ้านเล็กน้อย
“...........เปล่าครับ....พี่นิกกินเบียร์เหรอครับ... งั้นนี่ก็กับแกล้มครับ..” หนุ่มน้อยยิ้มให้
ชูถุงเซเว่นให้คนรักรุ่นพี่ดูแล้วรับไป
“จ้า55” นิกกี้ยิ้มตาหยี ถือถุงของกินเดินนำหน้าเข้าครัวแล้วรื้อหาจานชามออกมา
จัดของกินต่างๆใส่.. จังหวะนั้นคนมาหาก็รีบเอ่ยปาก
“คืนนี้แบงค์ขอค้างบ้านพี่นิกนะครับ”
“หือ....///// ได้สิ! 55ดีเลย” รีบอนุญาตทันทีทันควันด้วยความดีใจ เขากำลังเหงาๆ
เบื่อๆ เศร้าเซ็งอยู่พอดี มีคนรักตัวเล็กมาอยู่ด้วยดีกว่าเป็นไหนๆ
“พี่นิก...........ดีใจที่แบงค์มาหามั้ยครับ”
“ห๊ะ? ก็ต้องดีใจสิ55 ถามอะไรแปลกๆนะเรา”
“ไม่อยากอยู่คนเดียวตอนนี้ใช่มั้ยครับ...”
“.....หื้อ?..อื้ม....กำลังเหงาเลย...หึหึ...” เอามือขยี้หัวคนถามเล่นอย่างเอ็นดูแล้วยิ้มกว้างให้
“พี่นิก...............พี่นิกไม่ต้องยิ้มกว้างขนาดนั้นก็ได้นะครับ..”
แบงค์ก้มหน้าพูดขณะที่ช่วยดึงถุงไส้กรอกรมควันมาแกะใส่จาน
“ทำไม?..” หนุ่มตี๋ขมวดคิ้วงงทันที หยิบไส้กรอกในจานเข้าปากเคี้ยวพลางถาม
คนรักของเขามีท่าทีแปลกๆ.... “อะไรน่ะแบงค์.. แบงค์เป็นอะไรรึเปล่า..มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
“ถ้าพี่นิกไม่ได้อยากยิ้ม ตอนที่อยู่ต่อหน้าแบงค์ก็ไม่ต้องยิ้มก็ได้ครับ.....ฮึก......ฮึก
….แบงค์ไม่ชอบเลย...ฮึกฮือ....อดทนไว้ทำไมครับ...ฮือออ”
“อ้าวเฮ้ย!!|||||||| แบงค์! อยู่ดีๆร้องไห้ทำไม!?”
นิกกี้ตกใจ จู่ๆแบงค์ก็พูดไปสะอื้นไป เขาต้องรีบดึงตัวมากอดแนบอก เช็ดน้ำตาให้
“แบงค์ขอโทษครับ...ฮือ...เป็นเพราะแบงค์พี่นิกถึงต้องเจอเรื่องอย่างนี้..ฮึกฮึก
...เพราะแบงค์คนเดียว..ฮือออ”
นิกกี้นิ่งฟังอยู่สักพักก็พอจะเข้าใจได้ แบงค์เอาแต่พูดโทษตัวเองอย่างนี้ แสดงว่า
คงรู้เรื่องที่เขาถูกเพื่อนๆรังเกียจจนเลิกคบค้าสมาคมด้วยแล้วแน่ๆ
“..........แบงค์..”
“ฮึก..พี่นิกอย่าปิดแบงค์เลยนะครับ.. พี่บาสเขาบอกแบงค์หมดแล้ว..
ถึงว่าสองสามวันมานี้ไม่เห็นพวกพี่วีพี่อาทเลย...ฮืออ...เพราะแบงค์....แบงค์ขอโทษ”
“ฮึ่ม!!...ไอ้บาส!” นิกกี้ทำหน้าเครียด ขบกรามเอ่ยชื่อเพื่อนอย่างโมโห
สั่งห้ามไว้แล้วเชียวไอ้เพื่อนบ้ามันดันปากโป้งจนได้! เห็นผลที่ตามมาไหมเล่า
ไม่พ้นทำให้แบงค์ต้องเสียใจ.. แบงค์กลัวมาตลอดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
ถึงเอาแต่เฝ้าโทษตัวเอง “แบงค์!||||||||||| อย่าร้องสิ! แบงค์ไม่ผิดนะแบงค์!”
“ฮือ~ ถ้าแบงค์ไม่มายุ่งกับพี่นิก...ฮึก..พี่นิกก็คงไม่ต้องเสียใจอย่างนี้..”
“พูดบ้าๆ!! เรารักกันมีอะไรต้องเสียใจ! พี่มีความสุขได้ยินมั้ย!!!”
“.........พี่นิก...”
“แบงค์ รอพี่ข้างล่างนี่ก่อนนะแป๊บเดียว เดี๋ยวพี่มา ขอไปจัดการไอ้ตัวปากดีก่อน!”
นิกกี้สั่งเสร็จก็รีบจ้ำอ้าวขึ้นบันไดไปชั้นบน ทิ้งให้หนุ่มน้อยตกใจกับอาการโกรธเกรี้ยว
ของแฟนตัวเอง ร้องถามตามหลังไปด้วยหน้าตื่นๆ
“พะพี่นิก!|||||||||| อึก..พี่นิกจะทำอะไรครับ!!?”
..................................
................
......
เมื่อหนุ่มตี๋เข้ามาในห้องนอนของตัวเองได้ ก็ตรงดิ่งไปคว้ามือถือที่วางไว้
บนโต๊ะข้างหัวเตียงทันที เขารีบหยิบมันขึ้นมากดโทรออก
โทรหาไอ้เพื่อนตัวดีที่ทำสาระแนรู้มาก ส่งแบงค์มาหาเขา
“ฮัลโหล? 55ไรวะตี่ ไม่หลับไม่นอนนะมึง” คนรับสายนอนไปแล้วแต่ต้องตื่นมาคุย
บาสหัวเราะใส่ทันที เพราะเห็นว่าเป็นนิกกี้ ยังไม่รู้ตัวว่าทำให้เพื่อนหน้าตี๋โกรธเขาแค่ไหน
“เออกูเองไอ้เชี่ยบาส! กูจะนอนหลับได้ไง แฟนกูมานั่งร้องไห้อยู่ในบ้านกูเนี่ย!
ไอ้สัด! เสือกบอกจนได้นะไอ้ปากไม่มีหูรูดเอ๊ย! กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าไม่ให้บอก
บอกว่าอย่าๆ!! มึงทะลึ่งบอกแบงค์ไปทำไมไอ้เชี่ย!”
นิกกี้เล่นต่อว่าฉอดๆใส่จนบาสมึน
“อ้าวเฮ้ย!||||||| เชี่ยนิก! นี่มึงโทรมาด่ากูเหรอ! กูผิดงั้นสิ!”
“มึงเพิ่งรู้ตัวเหรอ! แบงค์เขารู้เรื่องแล้วเอาแต่โทษตัวเอง! กูไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้
ถึงได้ห้ามมึง แต่มึงแม่งก็สาระแนจริงๆไอ้บาส! ใครใช้ให้มึงพูดวะ!!.......อ๋อ!..นี่มึง!
มึงเกลียดแบงค์ใช่มั้ย! ถึงได้ทำแบบนี้!! เห็นเขาเสียใจแล้วมึงมีความสุขมากงั้นสิ!
ต่อไปมึงไม่ต้องมาเสือกเรื่องของกูอย่างนี้อีกนะ! อย่าทำอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่น
ถ้ามึงไม่สนใจแบงค์ก็เห็นแก่กูบ้าง! จะให้กูต้องกลุ้มใจไปถึงไหนวะแม่ง! ให้ตายเหอะ!”
บาสกำโทรศัพท์แน่น นิ่งฟังด้วยแววตาที่ไหวระริก เขาไม่คาดคิดมาก่อน ว่าการกระทำ
ของตัวเอง จะได้รับผลตอบแทนเช่นนี้
“....มึงคิดจะฟังกูบ้างมั้ยนิกกี้!..”
“กูจำเป็นต้องฟังมึงด้วยเหรอไอ่ควาย!!!”
“ฮึก!..........เอ้อ!!! กูมันเสือก! เสือกเป็นห่วงมึง! เสือกคิดถึงความรู้สึกของมึง
มากกว่าใครๆ! กูลืมนึกไปว่ามึงไม่เคยมีกูอยู่ในสายตา มีแค่ไอ้แบงค์ที่มึงแคร์!!!....
.......ฮึก...เออใช่! กูมันแม่งไม่มีเชี่ยอะไรดีเลย!!!”
บาสพูดแล้วตัดสายทิ้งทันที เขาโยนมือถือให้ห่างตัวไว้บนที่นอนอย่างโมโห
แล้วลงไปนั่งกับพื้นข้างเตียง ปล่อยให้น้ำตาที่อัดอั้น มันไหลออกมาเสียให้พอ..
วันนี้บาสถามที่อยู่จากหนูแนนแล้วไปหาแบงค์ถึงบ้าน.. เพื่อบอกเรื่องที่เขาคิดว่า
แบงค์ควรจะรู้... รู้แล้วจะได้ไปคอยอยู่ข้างๆนิกกี้.. ทำให้เพื่อนเขาทุเลาความเสียใจที่มี
ถึงแม้ตัวเขาเองก็เสียใจไม่ต่างกันไปที่ต้องถูกวีกับอาทโกรธจนพาลเลิกคบไปด้วย
แต่ก็คงไม่เท่ากับนิกกี้ ซึ่งคิดว่าตัวเองโดนเกลียดแล้วยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนๆ
ต้องแตกหักกัน... บาสเตรียมใจไว้แล้วเมื่อบอกแบงค์ไป เขารู้ว่านิกกี้ต้องโกรธ
แต่เขาก็ทนเห็นเพื่อนเศร้าอยู่ลำพังไม่ได้.. และคนที่นิกกี้ต้องการก็ไม่ใช่เขา...
คนที่จะเข้าไปปลอบโยนหัวใจของนิกกี้ได้มีแต่แบงค์เท่านั้น.. เขาจำต้องทำ
“ฮึก...ฮึก.....~~ ฮือ~~อ..ฮืออออ!!!!” บาสนั่งร้องไห้อย่างไม่อายใคร
แน่ล่ะ..ก็เพราะเขาอยู่คนเดียวในห้องนอนของตัวเอง.. ชายหนุ่มปาดน้ำตาทิ้งเท่าไหร่
มันก็ยังไหลออกมาไม่ขาดสาย.... เขาผิดมากใช่มั้ยที่เป็นห่วงมัน..
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด น้อยใจเกินจะเก็บความเสียใจไว้อยู่ พาลโมโหมากเข้าก็ลุกขึ้นมา
ปาข้าวของรอบตัวระบายอารมณ์ ทั้งกองหนังสือ ตะกร้าผ้า แผ่นซีดี หมอน ผ้าห่ม
กระเป๋าเป้ ซองใส่เอกสาร กระจุยกระจายเละเทะเกลื่อนพื้น โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด...
.............เสียง..
...เสียงโครมครามทำเอาคนนอนหลับสะดุ้งตื่น ดังมาจากในห้องของ
คุณลูกชายเจ้าของบ้านผู้หยิ่งจองหอง ...
...เด็กหนุ่มผู้ถูกคนทำเสียงดังสะเทือนหัวเหม็นขี้หน้ายิ่งกว่าอะไรนั้น
ถึงกับลุกมานั่งเหวอกลางที่นอน...
ยู...รู้สถานะของตัวเองว่าเป็นเพียงผู้อาศัยของบ้านหลังนี้ ทางที่ดีจึงไม่ควรเข้าไปยุ่ง
ทั้งที่ใจเขาก็อยากรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...
... แล้วเสียงโครมครามจากห้องข้างๆก็เงียบไป
“เกิดของขึ้นอะไรของเขากันวะ||||||||||...”
คนที่อยู่ในห้องนั้นเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ... เด็กหนุ่มผมตั้งขมวดคิ้วอย่างชั่งใจ
ก่อนลองเอาหน้าแนบกับกำแพงด้านบนหัวนอน แล้วเงี่ยหูฟัง...
เงียบเกินไปหรือเปล่า... หลังจากได้ยินเสียงการทำลายข้าวของขนานใหญ่
ไม่ได้ยินเสียงสบถ กร่นด่าใครแม้แต่แอะเดียว...
ยูถอนใจ คิดว่าคงมีแต่ความเงียบเท่านั้นแล้ว เด็กหนุ่มจึงล้มตัวลงนอนห่มผ้าตามเดิม
แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ต้องสะดุ้งลืมตาโพลงอีกครั้งให้กับเสียงแว่วที่น่าตกใจ
“ฮือออ~~….” .......เสียงร้องไห้!?
ยูรีบลุกขึ้นแนบหูฟังเสียงให้ชัดกับกำแพงห้องบนหัวนอนตัวเอง... “ใช่ด้วย!|||||||||...”
ต้นตอเสียงไม่ใช่ผีสางที่ไหน แต่มาจากคุณพี่ชายเจ้าของห้องข้างๆ...
พังข้าวของเสร็จก็นั่งร้องไห้ต่อหรือ... “เอ๊ะ...?...”
แล้วยูก็ผิดสังเกตอีกครั้ง เมื่อเสียงร้องไห้นั้นปุบปับก็เงียบหายไปเสียเฉยๆ
จนบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบกริบอย่างน่าประหลาดใจ
“หรือเราหูฝาดวะ?|||||||||||”
.........
................
.... ในห้องของบาส.......
ชายหนุ่มเจ้าของห้องนั่งเอามือปิดปากตัวเอง กลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้อย่างตกอกตกใจ
ทั้งที่น้ำตาก็ยังไหล เจ้าตัวกลับเอาแต่คอยกังวล หันไปมองทางผนังห้องฝั่งที่กั้นกลาง
ระหว่างห้องตัวเองและห้องข้างๆ...
มีคนอื่นเข้ามาอยู่ในห้องนั้นแล้ว เขาลืมไป!
ลืมสนิทว่าชั้นนี้ไม่ได้มีแค่เขาอยู่เพียงคนเดียวอีกแล้ว!
เจ้าหลานชายของคุณแม่เลี้ยงคนสวยที่ย้ายมาอยู่ห้องข้างกัน ไม่รู้จะได้ยินเสียงดัง
ที่เขาทำบ้างหรือเปล่า ........ เสียงโครมครามยังไม่น่าอายเท่ากับเสียงแหกปากร้องไห้
เมื่อครู่ของเขา||||||||||||.... ถ้ามันได้ยินขึ้นมา แล้วนี่เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!||||||||
ไอ้มาดร้ายๆที่ชอบข่มมันไว้ คงได้พังป่นปี้ยับเยิน..... เหลือแค่คนอ่อนแออวดเบ่ง
“ฮึ่ม!||||||||||*||....ฮึกฮึก...ฮึ.. บ้าเอ๊ย!..”
บาสบอกตัวเองให้หยุดร้องไห้แบบไม่แมนเลยสักนิดนี้ได้แล้ว
เขากลั้นเสียงสะอื้นน้ำตาตัวเอง กลั้นใจลุกจากพื้น เดินไปเปิดประตูห้อง
คงต้องลงไปล้างหน้าล้างตาแล้วหาอะไรเย็นๆดื่มดับอารมณ์เสียหน่อย...
....แต่.... ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไป บาสก็ต้องตกใจจนสะดุ้ง ผงะหน้าเสีย
ได้แต่อึ้งมองเจ้าคนที่มายืนสบตากันตรงหน้าประตูอย่างไม่คาดคิด..
ไอ้เจ้าคนที่ไม่อยากให้มาเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ที่สุด มันดันทะลึ่งมายืนตัวแข็ง
ทำหน้าเอ๋อเท่อเล่อ จ้องใบหน้าที่อาบด้วยน้ำตาทั้งสองข้างแก้มของเขาเสียตาค้าง...
“อึก!||||||||||||||| คะคือ!! เอ่อคือ!...พี่..พี่บาส!...”
เล่นเอายูเหวอจนพูดไปไม่เป็น เมื่อเขาเปิดประตูออกมาเพราะคิดจะไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง
แต่ด้วยความคิดชั่ววูบในตอนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าห้องบาสไป เด็กหนุ่มลองเขยิบเข้าไป
ใกล้ประตูแล้วแนบหูฟังเพื่อความแน่ใจอีกที ว่ามันไม่ได้มีเสียงอะไรแล้ว
ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้มาเห็นน้ำตาของคุณพี่ชายห้องข้างๆของจริง..||||||||||
อีกฝ่ายนั้นก็เหวอไม่แพ้กัน แถมยังเสียฟอร์มที่ต้องโดนเห็นเรื่องน่าอายจนโมโห
บาสรีบปาดน้ำตาแล้วตะคอกถามยูด้วยความไม่พอใจ
“ฮึก!... -*- ฮึ่ม!!! มาทำอะไรแถวนี้!!? ...แอบฟังเหรอ!?”
“อึก!!|||||||||||||| ผมเปล่านะ! ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังอะไรพี่เลย!”
“แล้วมึงมาอยู่หน้าห้องกูได้ไง!!?.. ฮึ่ม! ไม่ต้องมายุ่งกับกู! ไปให้พ้น!!!”
“........ขะ..ขอโทษครับ|||||||||||..” ยูหน้าเสีย...
ยูถูกบาสด่าไล่อีกครั้ง ในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน
....เจ้าเด็กหนุ่มผมตั้งได้แต่พูดขอโทษเสียงอ่อย เขาเม้มปากด้วยความรู้สึกท้อใจ..
ปกติแล้วยูเป็นคนยิ้มเก่งและร่าเริงมาก เขามักจะยิ้มตาหยี เห็นสีสันของเหล็กดัดฟัน
ชัดเจนเสมอ …แต่ดูเหมือนในเวลานี้ รอยยิ้มสดใสของเขามันมีแต่จะทำให้
คนบางคนเห็นแล้วรำคาญใจเท่านั้น
หลังจากที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรกนั้น.... ยูก็ไม่เคยยิ้มออกต่อหน้าบาสอีกเลย..
แต่เพื่อน้าสาวที่มีพระคุณกับเขามาก เด็กหนุ่มจึงได้แต่ท่องไว้ในใจเสมอว่า... อดทนไว้...
ยูเปลี่ยนใจยังไม่ลงไปชั้นล่าง เพราะดูท่าทางคนตรงหน้าเขาคงมีเป้าหมายเดียวกัน
จึงหันหลังคิดกลับเข้าห้องตัวเองไปก่อน แต่.. ก่อนที่เขาจะก้าวท้าวเข้าห้องไป
กลับต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงบ่นด่าจากคนข้างหลังเต็มสองหู
“ไอ้เด็กเปรตเอ๊ย! เชี่ยไม่มีมารยาท! พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอน!”
ยูสะอึกถึงกับหน้ายุ่งทันที ไอ้คำหลังมันช่างสะกิดใจเขานัก !
เขาไปทำอะไรให้คนคนนี้นักหนานะ!? จึงต้องถูกด่าว่าแรงๆหลายครั้ง
โดนจงเกลียดจงชัง ด่าตัวเขายังไม่พอ นี่ถึงขนาดด่าว่าพ่อกับแม่เขาด้วย!
“ พี่บาส!! ผมไปทำอะไรให้พี่!!? ผมก็อยู่ของผมเงียบๆแล้ว!
ผมให้ความเคารพพี่ทุกอย่าง! พี่ไม่พอใจอะไร!? ทำไมถึงเกลียดผมนักหนา!!?”
คาใจและเหลืออดจนทนไม่ไหว ยูลืมตัวจนหันไปตะคอกถามบาสอย่างใส่อารมณ์
ซึ่งนั่นยิ่งทำให้บาสไม่พอใจมากเข้าไปใหญ่
“ก็เพราะมึง! มาเป็นภาระของพ่อกูไง!!! ไอ้พวกกาฝากคอยดูดเลือดชาวบ้าน!!!”
บาสพูดออกไปแล้ว..... ใจเขาต้องกระตุกกับสายตาที่จ้องมองมาอย่างดุดันของเด็กผู้ชาย
ตรงหน้า ...สายตาที่แข็งกร้าวแต่ไหวระริกอยู่ในที.... บาสรู้สึกบอกไม่ถูกเพราะสายตานั่น
ไม่ได้ทำให้เขากลัว.... แต่มันทำให้ความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นในใจเขาอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ยูกำมือแน่นทั้งสองข้าง กำแน่นและเกร็งอย่างที่สุดจนดูเหมือนตัวเขา
กำลังสั่นให้เห็นนิดๆ... แค่เพียงมองดูก็รู้ได้ ว่าอาการเช่นนี้หมายถึงอะไร
ยูโกรธจนแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่... แต่เขาไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรบาสออกไป
แม้แต่คำเดียว ทำเพียงแค่หลับตาลงเพื่อระงับโทสะ เด็กหนุ่มพยายามกัดกรามแน่น
แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆอยู่สองสามที ก่อนจะรีบหันหลังเข้าห้องตัวเอง
เสียงปิดประตูกระแทกใส่หน้า ดังและแรงพอที่จะทำให้คนข้างนอกสะดุ้งโหยง
........นี่เขาทำให้มันโกรธหรือ!!?... บาสอดคิดแล้วทำหน้าแหยเล็กน้อยไม่ได้
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ยูโกรธเขา... ที่ผ่านมาไม่ว่าเขาจะด่าจะว่ามันอย่างไร ไอ้ยูก็ไม่เคย
มีท่าทีแข็งกร้าวต่อเขาเช่นนี้มาก่อนเลย ...หรือจะเป็นเพราะหนนี้เขาพูดรุนแรงเกินไป..
บาสได้แต่ยืนมองประตูของห้องข้างๆ ด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อคนในห้องนั้นเป็นครั้งแรก....
“........เฮ้อ!...||||||||||||||.... เออ.....ฮึ! กูผิดอีกแล้วสิ!.....เชี่ยเอ๊ย~~ แม่งงง!..
ใครๆก็โกรธกู!!..เอ้อ! ดี! ...เออเอาเข้าไป! โกรธกูกันให้หมดโลกเลยไป!...
กูมันเชี่ย...กูมันเลว....~~ เออกูไม่ดี~~~ เชี่ยสัดๆ...”
บาสบ่นกระปอดกระแปดอย่างประชดชีวิตตัวเอง ขณะที่เดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง..
*****************************
หลังจากได้ยินเสียงคนรักรุ่นพี่ โทรศัพท์ไปด่าเพื่อนสนิทให้ดังลั่นบ้าน
คนที่เป็นสาเหตุก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
“พี่นิกโทรไปว่าพี่บาสเขาทำไมครับ!?”
น้องแบงค์นั่งหน้าบึ้ง หน้างอใส่นิกกี้ที่ทำเป็นไม่สนใจ ยกเบียร์ขึ้นจิบแล้วหยิบนู่นนี่กิน..
“พี่นิก!....ฮึก!! ถ้าพี่นิกไม่ยอมโทรไปขอโทษพี่บาส!
แบงค์จะกลับบ้านจริงๆด้วยนะครับ!”
หนุ่มตี๋ชะงัก มีกรอกตาคิดเล็กน้อย “...........” ก่อนจะทำเฉยเอื้อมมือไปหยิบรีโมทย์ทีวี
“อึก! |||||||||||*|| พี่นิก!!....พี่นิกทำอย่างนี้ไม่ถูกนะครับ! คนที่ผิดน่ะพี่นิกต่างหาก!
ทำไมไม่ยอมบอกแบงค์ครับ!? เรื่องใหญ่อย่างนี้สักวันแบงค์ก็ต้องรู้อยู่ดี!!
พี่บาสเขามาบอกแบงค์มันก็ถูกแล้ว! ถ้าเป็นแบงค์บ้างที่มีเรื่องกับเพื่อนเพราะพี่นิก
แล้วปิดเงียบไว้ไม่ยอมบอกพี่นิก พี่นิกจะรู้สึกผิดแล้วเสียใจมั้ยครับ!!?”
หนุ่มรุ่นพี่หน้าตี๋เถียงไม่ออก แต่ก็ยังแถไปพูดพึมพำไม่ยอมมองหน้าคนตัวเล็ก
ที่เอาจริงเอาจังจ้องหน้าเขาอย่างไม่ลดละ “เอ้อ....||||||||||| ...ก็...แบงค์ก็อย่าโทษตัวเองสิ..”
“ถ้าไม่อยากให้แบงค์รู้สึกผิดไปมากกว่านี้ ... พี่นิกต้องขอโทษพี่บาสก่อนครับ...
อยากจะเสียเพื่อนดีๆไปอีกคนเพราะแบงค์หรือไงครับ.....”
คำพูดของแบงค์ กระทบใจของนิกกี้จนชายหนุ่มต้องหันมามองหน้าคนรักตรงๆจนได้
แล้วเมื่อหนุ่มตี๋ได้มองเข้าไปในดวงตากลมโตที่สั่นไหวราวกับจะร้องไห้ได้ตลอดเวลา
คราวนี้คนใจอ่อนก็ต้องยอมจำนน...
“พี่บาสเขารักพี่นิกมากเลยนะครับ... ถึงพี่เขาจะรู้ว่าสองคนคบกันเขาก็ไม่รังเกียจอะไร
พี่เขาบอกกับแบงค์ว่าไม่มีอะไรจะทำให้เขาเลิกเป็นเพื่อนกับพี่นิกได้หรอก ไม่ต้องกังวล
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พี่บาสบอกว่าจะอยู่ข้างพี่นิกเสมอ...... เขาดีขนาดนี้..ฮึกฮึก
ฮือออ~~..พี่นิกก็ยังไปว่าเขาอีก...ฮืออ ไปว่าพี่บาสเขาทำไมครับ!~ฮือออฮืออ
ถ้าไม่อยากให้แบงค์คิด พี่นิกก็อย่าทำให้แบงค์คิดสิครับ! ว่าเป็นเพราะพี่มาคบกับแบงค์
ถึงไม่เหลือใคร....ฮึกฮืออ”
แบงค์พูดจบก็ลุกจากเก้าอี้ หยิบกุญแจรถ แต่นิกกี้รีบตะครุบมือแย่งกุญแจไป
แล้วดึงให้หนุ่มน้อยนั่งลงที่เดิมพลางซับน้ำตา
“พี่ขอโทษ..........ค้างนี่เถอะนะ....นะ”
“................เชื่อที่แบงค์พูดบ้างมั้ยครับ...”
“ทุกอย่างเลย.................ยกเว้น..”
“อะไรครับ?..”
“ไม่ว่าจะยังไง มันไม่ใช่เพราะแบงค์ แล้วก็ไม่ใช่ว่าไม่เหลือใคร
ดูอย่างตอนนี้สิ... ก็มีแบงค์อยู่ตรงหน้าพี่นี่ไงครับ..”
“...........////// พี่นิก...”
“เพราะงั้น.....อ่ะ...”
“หือ? เอาโทรศัพท์แบงค์มาให้แบงค์ทำไมครับ?”
“ก็โทรหามันให้พี่ทีสิ...แหะ...|||||||| เมื่อกี้พี่ด่ามันไว้เยอะ ป่านนี้ไอ้บาสยังนั่งด่าพี่ไม่เลิกแน่
กลัวมันไม่ยอมรับโทรศัพท์พี่น่ะสิ ..แหะๆ..แบงค์......ช่วยโทรไปแล้วเกริ่นให้พี่หน่อยนะ”
“หึฮะฮะ..ฮะฮะ /////...ได้สิครับ!”
น้องแบงค์ยิ้มออก รีบโทรไปหาบาส... บอกให้รู้ว่านิกกี้เสียใจและอยากขอโทษมากแค่ไหน
ก่อนจะส่งให้ทั้งคู่คุยกันเอง เพื่อเก็บรักษาความรู้สึกดีๆของความเป็นเพื่อนเอาไว้
ไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธเพียงชั่ววูบมาทำลาย..