มาแล้วค่า มาแล้วๆๆ
แต่งานเรียงความภาษาอังกฤษที่ต้องส่งอาจารรย์พรุ่งนี้ยังไม่เสร็จเลย ทำไงดี หนูต้องตายแหงๆ
อะแง ก็ตอนนี้ในหัวเค้ามีแต่อาปิงปิงกับพี่ไวน์อ่า
เฮ้อ........
ผมถอนหายใจยาวอย่างสับสนในชีวิต ไม่เข้าใจเลยจริงๆให้ตายซิ พ่อแม่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย!! มีอย่างที่ไหนจับลูกแต่งงานกับผู้ชาย...ถึงจะเป็นผู้ชายหนังหน้าระดับดารา ชาติตระกูลดี การศึกษาสูงก็เถอะนะ แต่ผมอยากได้เมียที่เป็นผู้หญิงมากกว่าเฟร้ย!! ต่อให้หน้าตาขี้เหร่แค่ไหนผมก็ยอมเอาละวะ!! (-___-‘’)
ผมขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำมาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว เพราะอะไรนะเหรอ เพราะผมยังรับไม่ได้อะดิ ถึงพี่ไวน์จะดูเป็นคนดีไม่มีพิษมีภัยอะไรก็เถอะนะ
บ้าชะมัดผมอยากรู้จริงๆว่าใครมันเป็นคนคิดธรรมเนียมบ้าบอคอแตกนี่ขึ้นมาว่ะ ธรรมดาเค้ามีแต่จับลูกชายกับลูกสาวแต่งงานกัน(เห็นได้บ่อยไปในละครน้ำเน่า) แต่นี่ผู้ชายกะผู้ชาย โอ๊ยย อากงอาม่าคิดอะไรอยู่เนี่ย อาปิงปิงไม่เข้าใจ????
เฮ้อ........
ตอนนี้คนที่จะตอบปัญหาคาใจของผมได้คงมีแต่พี่ไวน์ละมั้ง ท่าทางพี่แกจะรู้อะไรๆเยอะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานกับผู้ชายยังเฉยได้อีก พี่ท่านช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดดีแท้ สงสัยถ้าโลกไม่ถล่มพี่แกคงไม่สะทกสะเทือน เหอะๆ
แกร๊ก!
ในที่สุดผมก็ยอมออกมาจากห้องน้ำ ห้องหอของเราจัดได้น่านอนมาก เตียงกว้างสะใจเห็นแล้วอยากกระโดดขึ้นไปกลิ้งเล่น แต่
ตอนนี้มันไม่มีอารมณ์
“พี่ไวน์ครับ...”
ผมเรียกบุคคลที่กำลังก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะตรงมุมโซฟา
พี่ไวน์เงยหน้าขึ้นหันมามองเป็นเชิงถาม
“ยังไงผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี....ทำไมพี่ถึงยอมแต่งงานทั้งๆที่รู้ว่า....ผมเป็นผู้ชาย...พี่ไม่คิดว่ามันประหลาดเหรอ...”
“สมัยนี้ผู้ชายแต่งงานกันก็ออกเยอะแยะ”
พี่ไวน์ตอบกลับหน้าตาเฉยเสมือนเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา เล่นเอาผมอึ้งพูดอะไรไม่ออก
“พี่รู้ว่าปิงปิงไม่อยากแต่ง ไม่ว่าคนที่ปิงปิงต้องแต่งงานด้วยจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงถูกไหม”
พี่ไวน์ถามพร้อมทั้งลุกขึ้นเดินมาหาผม ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออกเพราะที่แกพูดมามันจริงทั้งหมด มือใหญ่คว้าผ้าขนหนูที่พาดบ่า
ผมอยู่มาเช็ดผมที่เปียกชื้นให้ผมอย่างเบามือ
“ออกมาทั้งที่ผมเปียกแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอก...”
พี่แกบ่นเบาๆ มือใหญ่คู่นั้นให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด
“ปิงปิง...”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียก ผมเงยหน้าขึ้นสบตา
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเราคิดจะทำยังไงต่อไป แต่พี่....จะไม่ทำอะไรทั้งนั้น....”
ผมมองหน้าคนพูดด้วยความฉงน ดวงตาคมกล้าคู่นั้นส่อแววประหลาดคล้ายมีเป้าหมายอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ(จินตนาการบรรเจิดอีกแล้วไอ้ปิงเอ๊ย! =_=;)
“ให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว.....”
O_O! ห๊ะ!!ว่าอะไรนะ????
“นอนเถอะดึกแล้ว.....”
ผมกำลังจะอ้าปากถามเหตุผลแต่พี่แกก็ชิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว
โอ๊ยยยย มาพูดให้ปิงปิงเคลียร์เดี๋ยวนี้นะเว้ย!!!!
ฮ่วย!!! นอนรอก็ได้วะ ออกมาเมื่อไรพ่อจะซักฟอกให้ขาวสะอาดเชียว!!! ชอบพูดอะไรค้างๆคาๆให้คนเขาเก็บมาสงสัย (จะโวกเวกโวยวายตามนิสัยก็ไม่ได้ แค่เห็นหน้านิ่งๆของพี่ไวน์ก็หงอแล้วอ่า กูเป็นไรไปว่ะเนี่ย ทำตัวเหมือนหนูเห็นแมวไปได้ ฮ่วย)
อา
.
.
.
เตียงนิ๊ม นิ่ม นอนสบายดีจัง ชักรู้สึกเคลิ้มๆแล้วแฮะ......งืมๆ
..
..
อืม ไม่ได้ๆ ห้ามหลับเด็ดขาดนะเว้ย
ต้องถามพี่ไวน์เรื่องธรรมเนียมพิสดารนั่นให้กระจ่างก่อน ไม่งั้นคืนนี้เก็บมาละเมอแน่ๆ
ไม่นานนักประตูห้องน้ำก็เปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงที่รอคอยก็เดินออกมาช้าๆในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มที่เหมือนกับผมเปี๊ยบๆ ให้ความรู้สึกประหนึ่งคู่แฝดที่ชอบแต่งตัวเหมือนกันทำอะไรต้องแพ็คคู่ =_=
“ทำไมยังไม่นอน”
เขาถามพร้อมทั้งทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างน่าตาเฉย....
“ก็ผมมีอะไรจะถามพี่นิดหน่อย....”
“ว่ามาซิ”
“ใครเป็นคนคิดธรรมเนียมนี้ขึ้นมาครับ ให้ผู้ชายแต่งงานกันเนี่ย???”
“ธรรมเนียมไม่ได้ระบุให้ผู้ชายสองตระกูลมาแต่งงานกันหรอก แต่มันเป็นคู่อันดับน่ะ”
“???????”
“ธรรมเนียมมีอยู่ว่าหลานที่มีลำดับลงท้ายด้วยเลขแปดของทั้งสองบ้านจะต้องแต่งงานกัน และหลานทั้งสองคนนั่นจะต้องมีความห่างทางสายเลือด แล้วก็ไม่สนเพศหรืออายุ พี่ก็รู้มาแค่นี้แหละ เราสองคนน่ะเป็นหลานลำดับที่ยี่สิบแปดของบ้าน เป็นคนรุ่นที่สามนะ ที่ถูกจับแต่งงานตามธรรมเนียมน่ะ”
เสียงนุ่มทุ้มน่าฟังจังแฮะ.....เฮ้ย!!! ไม่ใช่แระ เป็นบ้าอะไรไปว่ะเรา จ้องพี่เขาตาแป๊วเชียว
“พี่ก็เกือบลืมถามไป ปิงปิงอยากไปฮันนีมูลที่ไหนละ?”
“O_o!” ห๊ะ!!! อะไรนะ ฮันนีมูลงั้นเรอะ!!!
“ต้องไปด้วยเหรอพี่!!???”
ผมถามเสียงดัง
ปิงปิงอยากจะกรี๊ดใส่ มีผู้ชายที่ไหนเขาอยากไปฮันนีมูลกับผู้ชายด้วยกันบ้างวะ!!!
“อืม...ถือว่าไปเที่ยวพักผ่อนช่วงปิดเทอมไง อยากไปที่ไหนละ”
-___- พี่แกช่างเป็นคนที่ไม่รู้จักสะทกสะท้านกับอะไรบ้างเลยจริงๆ
เฮ้อ.............................................
พี่จะเป็นคนมองโลกในแง่ดีไปไหมครับเนี่ย
นี่ถ้าผมนึกบ้าจับพี่แกปล้ำทำเมียขึ้นมา พี่ท่านจะยังเฉยแบบนี้อยู่อีกไหม อยากรู้จริงๆ
เอาเถอะ...ถือว่าได้ไปเที่ยวฟรีละกัน
“ทะเลแล้วกันพี่ ผมอยากเล่นเจ็ตสกีอยู่พอดี”
“อืม งั้นก็รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้เดินทางแต่เช้า”
ร่างสูงบอกก่อนจะล้มตัวลงนอนและหลับตาลง ท่าทางพี่แกจะเหนื่อยมากแฮะ หัวถึงหมอนปั๊บหลับปุ๊บเลย อืม ดูๆไปพี่ไวน์ก็น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็กๆเลยแฮะ ถ้าผมมีน้องชายก็คงจะประมาณนี้ละมั้ง ผมเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วล้มตัวนอนตามพี่แกบ้าง
เฮ้อ....
หลานลำดับที่ยี่สิบแปด.....
คู่แต่งงานตามธรรมเนียมรุ่นที่สาม.....
เอาหละ เอาเป็นว่าผมเข้าใจเรื่องธรรมเนียมพิสดารนั่นอย่างแจ่มแจ้งแล้ว
อืม....
จะว่าไปผมก็ไม่ถึงกับโชคร้ายเสียที่เดียวสักหน่อย
เพราะคนที่ผมแต่งงานด้วยก็ไม่ได้อายุแก่คราวพ่อ
บรรพบุรุษของเราก็ช่างสร้างสรรค์กันซะเหลือเกิ๊น
ถ้าเกิดมีคู่แต่งงานที่อายุห่างกันสีกสี่สิบห้าสิบปีขึ้นมา คงขำไม่ออกแหงๆ เหอะๆ
พ่อกับแม่ผมก็เหลือเกิน บ้าบอไปกับเขาด้วย
เฮ้อ....
ปิงปิงเหนื่อย....