Before Honeymoon.
มาอัพให้นิดนึงก่อนเน้อ เดี๋ยวทำรายงานเสร็จจะมาอัพเพิ่ม
มาสั้นๆ ไม่ว่ากันนะคะ
...
เช้าแล้ว....ไวเหมือนโกหก...
หันมองคนข้างๆ....ยังหลับปุ๋ยอยู่เลย ขนาดหน้าตอนหลับยังดูดี แอบอิจฉานิดๆ
เหมือนเด็กเลยวะ....แก้มน่าหยิกมากอะ
เหลือบตาไปมองนาฬิกา หกโมงครึ่ง....
ตื่นเช้าครั้งแรกในรอบสามปีของไอ้ปิงปิงเลยครับ =_= นี่ถ้าอยู่บ้านคุณนายบุษกร(แม่ผมเอง)คงดีใจจัดฉลองโต๊ะจีนแหงๆ ผม
ค่อยๆย่องลงจากเตียงให้เงียบที่สุด แว่บเข้าห้องน้ำอย่างว่องไวพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ถือวิสาสะฉกมาจากตู้เสื้อผ้าที่ผมคิดเอา
เองว่า เค้าน่าจะเตรียมไว้ให้ผมใช้
ตรงอ่างล้างหน้ามีแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเตรียมไว้เรียบร้อยพร้อมทั้งผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าชุดใหม่ โพสอิทสีเหลืองสดแปะอยู่ที่
กระจกเขียนข้อความว่า
‘พี่เตรียมไว้ให้ปิงปิงครับ....
พี่ไวน์’
ผมยิ้มให้กับข้อความสั้นๆอันนั้น
แหม..จะน่ารักไปไหนครับพี่ไวน์!!
นี่ถ้าเป็นผู้หญิงนะ ผมคงจีบพี่ไวน์มาเป็นแม่ของลูกผมแล้วแหละ.......หึๆๆๆ
แต่ความรักมันไม่เกี่ยวกับเพศนี่หว่า ถ้าคนๆนั้นมันใช่สำหรับเรา ก็ต้องคว้าไว้อย่าปล่อยให้หลุดมือใช่ไหมละครับ
นึกๆดูแล้วหล่อโฮกอย่างพี่ไวน์เป็นไปได้รึที่จะโสด?
ยอมรับแหละว่าตอนนี้ผมรู้สึกปลื้มพี่ชายคนนี้มาก
พี่ชายในฝันเลยแหละ พี่ไวน์เนี่ย....
ภายนอกดูเคร่งขรึม น่าจะสนิทด้วยยาก
แต่เท่าที่เห็นก็แค่เด็กขี้อายอย่างที่คุณแม่เค้าบอก
เป็นคน ไม่ค่อยพูด ใส่ใจคนอื่นอย่างคาดไม่ถึง อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง
มองโลกในแง่ดีเกินไปจนดูขัดกับบุคลิกภายนอกที่ดูเหมือนคนที่ผ่านโลกมามาก
ยิ่งเรื่องเมื่อคืนนะ คนอะไรไม่รู้จักระวังตัวเอาเสียบ้างเลย
ถ้าผมเกิดบ้าอยากใช้สิทธิความเป็นสามีขึ้นมา พี่ท่านเสร็จผมเรียบร้อยโรงเรียนปิงปิงไปแล้วเหอะ
อุ๊ย เผลอคิดอกุศล! =_= พี่ไวน์แกออกจะแมน ถ้าพี่แกรู้เข้า คงไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกับผมแหงๆ
แต่ก็นะ การแต่งงานครั้งนี้มันไม่ถูกต้อง......
พี่ไวน์แกเป็นคนดี พี่เค้าควรมีอิสระในการใช้ชีวิต.....
และสมัยนี้มันก็หมดยุคของการรคคลุมถุงชนแล้ว
เพราะงั้น.....
ผมจะกลับบ้าน
สาบานได้ว่า
ต้มมาม่ายังไม่ทันสุกผมก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้ว!!!
นี่ซิที่เขาเรียกว่า รวดเร็วปานสายฟ้าแล่บ!
แต่ผมมั่นใจว่าตัวผมสะอาดนะ ไม่ได้วิ่งผ่านน้ำมาเฉยๆแน่ ผมถูกสบู่ด้วยนะเออ
ขอบคุณที่ดูแล ผมกลับก่อนนะพี่ไวน์ บายครับ.....
ติ๊ดๆๆๆ!!!!
เสียงเรียกเข้าโทรศัพ์มือถือดังขึ้นทันทีที่เด็กหนุ่มเจ้าของร่างโปร่งก้าวออกจากรั้วบ้าน มือใหญ่คว้ามากดรับว่องไว
พร้อมกรอกเสียงลงไป อาการไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนแม้แต่น้อย
“ว่าไง?”
“บอส มัวแต่เฝ้าพระอินทร์อยู่เหรอคะ รู้ไหมเนี่ยว่าเมียบอสหนีออกจากห้องหอแล้วน่ะ”
เสียงหวานใสติดกวนประสาทอวัยวะเบื้องล่างดังมาตามสาย คนฟังยิ้มบางๆอย่างไม่ถือสา
“ฉันรู้น่า ว่าเค้าจะไปไหน”
“ค่าๆ น่าสงสารจริงๆที่คนดีๆอย่างอาปิงต้องมาเจอคนอย่างบอส เฮ้อ ว่าแต่ แอ้ม ไปหรือยังคะ?”
ดูก็รู้ว่าหญิงสาวปลายสายกำลังหลอกด่าเขาอยู่ทางอ้อม แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้โกรธหรือว่าอะไรเธอสักนิด เพราะด่าซึ่งหน้าเธอก็ทำ
ออกบ่อย
“แล้วเธอคิดว่ายังไงละซอล”
“แหม มีหรือจะรอด ถ้าไม่ทำอะไรเค้า เค้าคงไม่เผ่นหนีไปแต่เช้าหรอกคะ จริงไหมละ? นี่แสดงว่าบอสใช้กำลังบังคับขืนใจเค้าใช่
ไหมเนี่ย ต๊าย!!!!!! ป่าเถื่อน หญิงสกุลถังรับไม่ได้จริงๆ”
สาวเจ้ายังคงจีบปากจีบคอพูดต่ออย่างมันส์ปาก
“เปล่า ฉัน
ยังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น....”
ไวน์บอก
“เฮ้ยยยยยย!!!!!!! จริงดิ เป็นไปไม่ได้ บอส
เซ็กส์เสื่อมเหรอ!!!”
ปลายสายร้องลั่น จนคนฟังรู้สึกปวดหูจนอยากจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
“มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ บอสรีบไปโรงพยาบาลเถอะคะ อายุแค่นี้แต่เหี่ยวเป็นมะเขือเผามันไม่ปกติแล้วละคะ”
ที่ผิดปกติน่ะมันสมองเธอมากกว่านะยัยซอล.....
ไวน์คิดในใจ แต่ก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำกลับ เพราะรู้จักนิสัยคนปลายสายเป็นอย่างดี
“ซอลถามจริงๆเถอะคะบอส ทำไมบอสไม่จัดการรวบหัวรวบหางอาปิงซะเลยคะ ไหนๆก็ได้เข้าหอด้วยกันแล้ว โอกาสดีๆแบบนี้
ทั้งที ปล่อยให้หลุดมือไปได้ไงคะ อุกกาบาตตกใส่หัวบอสจนสมองได้รับความกระทบกระเทือนขึ้นมาหรือไงคะจู่ๆถึงได้กลายเป็น
คนดี๊ คนดี ซอลละไม่เข้าใจบอสเลยนึกยังไงถึงปล่อย บอสต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
“ถ้าทำอย่างนั้นก็ได้แค่ตัว......เธอก็น่าจะรู้ว่ากับปิงปิง ฉันอยากได้อะไรที่มากกว่านั้น”
ไวน์กล่าวนิ่งๆ ดวงตาฉายแววหมายมาด มากด้วยเล่ห์
“โหย! รอไปอีกซักสิบปีเถอะคะเฉื่อยเฉาะแฉะแบบนี้น่ะ ไม่ได้แอ้มแน่ๆคะ ดีไม่ดีระวังเหอะหมาตัวอื่นมันจะคาบไปแดก!”
ยัยตัวแสบนั่นกำลังด่าว่าเขาเป็นหมา.......
ได้ทีใส่ซะหลายดอกเชียวนะ
“แต่ตะกี้บอสบอกว่า.....
ยัง.....นี่แสดงว่าถ้าซื้อใจไม่สำเร็จ บอสก็จะปล้ำเค้าอยู่ดีละซิท่า ดิฉันรู้ทันเถอะคะ ยิ่งถ้าได้อยู่ใกล้ชิดกัน
ทุกวี่ทุกวันแล้วด้วย บอสไม่มีทางทนไหวหรอก เชื่อซิ!!”
“พูดมากน่า....ว่าแต่เตรียมเรื่องฮันนีมูนที่ฉันสั่งไว้พร้อมหรือยัง”
“พร้อมคะพร้อม รอบอสเลือกอยู่เนี่ยว่าจะเดินทางแบบไหน จะนั่งเครื่องแป๊บเดียวถึง หรือนั่งเรือชิมลมชมวิวใช้เวลาสักสองเดือน
เดินทางถึงที่หมายดีคะ อ๋อ ดิฉันไม่แนะนำให้ขับรถไปเองนะคะ เก็บแรงขับรถไว้ทำอย่างอื่นดีกว่าจริงไหมคะ”
ไวน์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับพฤติกรรมไม่ค่อยจะสมหญิงของลูกน้องสาว
เป็นเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะรู้เท่าทันเขาเกือบทุกเรื่อง เคยมีหลายคนพูดด้วยซ้ำว่าแม่สาวแสบนั่นคือ
เขาในภาคผู้หญิง
หลานลำดับที่ยี่สิบเจ็ดของตระกูลถัง
มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของปิงปิง
เธอชื่อว่าซอล
ไวน์รู้สึกขอบคุณที่สาวเจ้าเกิดก่อนปิงปิง ไม่เช่นนั้นชีวิตเค้าคงได้บรรลัยแน่ถ้าบรรดาผู้ใหญ่จับเขาแต่งงานกับหล่อน
“บอส....ดิฉันรู้นะคะว่าคุณคิดจะทำอะไร.....ฮิๆๆๆ”
ช่างเสียงหัวเราะที่ได้ยินแล้วชวนให้รู้สึกหงุดหงิดไม่เคยเปลี่ยน
“ดูแลเค้าด้วย”
“ค่าๆ แหม ก็กำลังตามติดอยู่ทุกฝีก้าวอยู่นี่ไงคะ บอสไม่ต้องห่วงฝีมือระดับนี้แล้ว เคยพลาดซักงานไหมละ!”
พูดจบหญิงสาวก็ตัดสายทิ้ง