เพิ่งหัดแต่งนะคะ ไม่แน่ใจหรอกคะว่ามันดีแล้ว
ปั่นสุดมือเลยอะ เอ็นซีเนี่ยเขียนยากกว่าฉากฆ่ากันอีก เฮ้อๆๆ
ตรงนี้ฝากถึงเพื่อนๆ(ในม.) อ่านจบแล้วอย่ามาแซวเค้านะ เขินเว้ย
ฝากนักอ่านที่รักติชมด้วยนะคะว่าต้องแก้ตรงไหน เพิ่มตรงไหน ได้อารมณ์หรือยัง
อ่านให้สนุกนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจหนูคะ รักทุกๆคนเลย
มาอ่านๆๆๆ
มาทะเลเพราะอยากเล่นเจ็ตสกีแต่ไหงกลายเป็นนอนดูหนังไปได้ว่ะ....
ถ้าพูดแบบนี้ออกไปพี่ไวน์แกจะลุกขึ้นมาเตะผมลงทะเลไหมเนี่ย
ก็ผมเองแหละ ที่เป็นคนบอกว่าอยากดูหนัง =_=; ขอไปงั้นๆแหละ ไม่คิดว่าพี่ท่านจะหามาให้ดูได้จริงๆ นั่งดูติดต่อกันมาสี่
ชั่วโมง ตาแฉะกันเลยทีเดียว หนังแนวฆาตกรรมโรคจิตกับหนังซอมบี้ ดูแล้วอี๋แต่มันส์ดีวะ โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายที่เป็นนักโทษ
แข่งรถกันอะ ฆ่ากันเลือดกระฉูดดี ดูแล้วสะใจหายเครียดไปเลย ท่าทางพี่ไวน์จะเป็นคอหนังฝรั่งแหะแถมแต่ละเรื่องที่ดูก็แนว
ฮาร์ดคลอทั้งนั้น หลังกินข้าวเย็นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงท้ายด้วยการย้ายตัวเองมานั่งกดเกมเพลย์แข่งกันบนเตียง (ชุดนอนเหมือ
นกันเดี๊ยะอย่างกับฝาแฝดอีกเช่นเคย ใครมันเป็นคนคิดวะ? คงไม่ใช่พี่ไวน์หรอกใช่ไหม??)
บอกได้คำเดียว....
โครตมันส์อะ!!!
ไอ้เกมยิงซอมบี้เนี่ย!!
เล่นไปอย่างอินมาก ตะโกนลั่นว่าฆ่ามันๆ ตายๆๆ แหลกไปซะแก!!! > [ ] <
ความเครียด ความกังวล ความสับสนบินหายไปเกลี้ยงครับพี่น้อง....
ถึงกับลืมไปเลยครับว่าเมื่อสิบสามชั่วโมงที่แล้วผมยังเครียดหัวแทบแตก ประสาทจะแดกอยู่เลย
นึกแล้วอนาถตัวเอง ทำตัวอย่างกับเด็กปัญญาอ่อน -_-;
พอได้สติแล้วอายพี่ไวน์เป็นบ้าว่ะ......เด็กท่าทางไม่เต็มบาตรแบบนี้อะนะจะเป็นสามีของพี่ท่าน เฮ้อ....เป็นผมให้ฟรียังไม่อยาก
จะเอาเลย เหอะๆๆ
ระหว่างรอเข้าด่านต่อไป(สติกลับมาแล้ว ชั่วคราว) ผมก็เหลือบตาไปมองพี่ไวน์ พี่ท่านไม่ได้ออกอาการมันส์หลุดโลกแบบผม
แม้แต่น้อย ตอนเล่นก็นั่งนิ่งขยับนิ้วกดปุ่มเครื่องเล่นในมืออย่างคล่องแคล่ว(ท่าทางจะเล่นบ่อยนะ)ตาจ้องจออย่างมีสมาธิ ไม่ได้
ลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นแหกปากร้องตะโกนอย่างผม พี่ไวน์คงรู้ว่ากำลังถูกมองอยู่จึงหันมาสบตาและอมยิ้มให้ผม อุ๊ย พี่เขามีลัก
ยิ้มด้วยอะ น่ารักว่ะ ชอบๆ อยากมีบ้าง
“ยิ้มไรอะครับ”
ผมถามพลางทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
“ก็...เห็นเรามันส์หลุดโลกแบบนั้นแล้วพี่คิดว่ามันดูน่ารักดี เลยยิ้ม....”
“น่ารักตรงไหน ผมว่าปัญญาอ่อนมากกว่า ผู้ชายตัวโตๆลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาเพราะเกมเนี่ย ว่าแต่พี่เหอะเล่นบ่อยเหรอครับเห็น
กดคล่องเชียว”
“ก็....เมื่อก่อนน่ะ เลิกเล่นไปพักใหญ่แล้วแหละเพิ่งกลับมาเล่นอีกก็ครั้งนี้แหละ มันต้องเล่นเป็นคู่นี่”
“เมื่อก่อนพี่เล่นกับใครหรือครับ”
อุ๊ย! ทำไมกูต้องไปซักไซ้ถามซอกแซกเรื่องของพี่เขาด้วยวะเนี่ย
“น้องสาวน่ะ ที่จริงกะจะแนะนำให้รู้จักแต่เจ้าตัวมีเรื่องด่วนต้องเคลียร์เลยไม่สะดวก ไว้รอกลับไปแล้วพี่จะพามาหาแล้วกัน แต่
เป็นคนที่สมองมีปัญหานิดหน่อยเป็นไปได้ปิงปิงอย่าไปยุ่งกับยัยนั่นมากนักก็แล้วกัน”
โถ่...มีปัญหาทางสมอง น่าสงสารแหะ ว่าแต่ทำไมพี่ไวน์ต้องห้ามเข้าใกล้ด้วยละ จิตใจคนป่วยยิ่งกระทบกระเทือนได้ง่ายอยู่ เรา
ต้องใส่ใจเขามากๆซิถึงจะถูก
“เอ่อ ทำไมละครับ คนป่วยเราต้องคอยให้กำลังใจไม่ใช่เหรอครับ”
“พี่ไม่ได้หมายถึงป่วยแบบนั้น แต่น้องสาวพี่มันไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงสักเท่าไร ชอบกวนประสาทชาวบ้าน ตอนเด็กๆโดนคู่อริไล่
กระทืบออกบ่อย พี่ไม่ได้อยากนินทาหรอก ไว้ปิงปิงเจอก็รู้เองแหละ”
“.......”
เด็กผู้หญิงที่โดนชาวบ้านตามไล่กระทืบ คงจะแสบซ่าส์น่าดูชมนะครับ =____= ตอนยังหัวเกรียนผมก็เคยยกพวกตีกับพวกคู่อริ
บ่อยๆ เลือดรักเพื่อนมันแรงอะ ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนเรามันทำไม่ถูก (มันไปล่อเมียเค้าอะ สมควรโดนกระทืบไหมละครับ) แต่เรา
ทั้งหมดก็ร่วมแรงสหบาทาพวกมันอย่างเมามันส์ ชื่อเสียงไอ้ปิงและพวกพ้องดังกระฉ่อนเลยแหละครับ(ในเรื่องชั่วๆอะนะ) สมัยนั้น
อะ เลือดหัวออกเกือบแทบทุกวัน อ่อ ตั้งแก๊งค์ซิ่งกันด้วยนะ ชีวิตช่วงนั้นเป็นอะไรที่สุดโต่งมากๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
กันเลยทีเดียว ไปนอนเดี้ยงเองบ้าง ไปนอนเฝ้าเพื่อนที่เดี้ยงบ้าง อ่อมีครั้งนึงเคยบุกไปกระทืบคู่อริถึงเตียงพยาบาลด้วย มันเพิ่ง
ออกจากห้องไอซียูมาได้แค่สี่วันเอง แต่ก็แปลก ไม่มีใครมาจับผมแฮะ มีแต่ไอ้เชี่ยนัทอะดิเทศนาผม ทั้งๆที่ไอ้กร๊วกนั่นบังอาจมา
แย่งเมียมันนะ ฮ่วย!! ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมไอ้นัทมันยอมให้ไอ้สารเลวนั่นหยามเอาง่ายๆ เป็นผมนะแม่งจะเอาให้ใช้การไม่ได้ไป
ตลอดชีวิตเลย.....
จบเถอะ อย่าไปกล่าวถึงอดีตอันแสนจะสารเลวของผมเลย.....
ช่วงนั้นอะ ผมทำแม่ร้องไห้ทุกวัน คิดแล้วรู้สึกแย่เป็นบ้า....มันคือตราบาปที่ไม่อาจลบเลือนได้ไปตลอดชีวิตผมเลยครับ
ผมเลิกเชี่ยเอาได้จริงจังก็ตอนขึ้นม.หกเทอมสองนี่แหละ.....
แก๊งค์ซิ่งของผมเป็นอันต้องสลายโต๋เพราะแก๊งค์สาวแสบแก๊งค์หนึ่ง....ไม่ขอเล่าละกันเพราะมันเป็นอะไรที่อัปยศมาก!! ทุกวันนี้
คิดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย ผู้หญิงอะไรน่ากลัวอย่างกับหลุดมาจากนรก
ซอมบี้พวกนี้ยังดูดีซะกว่าอีก
แก๊งค์ผมจึงลดระดับดีกรีความสารเลวลง.....เหลือแค่เด็กเลวธรรมดา แต่ถึงจะเชี่ยยังไง การเรียนของพวกผมก็ไม่ได้เชี่ยตาม
พฤติกรรมนะ (คงเพราะมีไอ้นัทคอยจิกละมั้ง มันเชี่ยน้อยสุดในกลุ่มแล้ว) ไม่ยอมเรียนซ้ำชั้นกันให้เปลืองตังค์พ่อแม่เล่นแน่ๆ
“คิดอะไรอยู่หืม....”
พี่ไวน์กดหยุดเกมและหันมาถามผมเมื่อเห็นว่าผมนิ่งไป
“ก็....เรื่องเก่าๆน่ะครับ....กำลังคิดว่าถ้าผมยังไม่เลิกทำตัวเชี่ยๆป่านนี้ผมจะเป็นยังไง อะไรเทือกๆนั้น....”
“......”
“ผมอาจจะตายหรือไม่ก็พิการมั้ง?”
“.....เสียใจเหรอ....”
พี่ไวน์ถามและเอื้อมมือมาลูบศีรษะผม ผมขยับเข้าไปนั่งพิงพี่เขา ไม่รู้ทำไมรู้สึกชอบเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ ลึกๆมันเหมือนคุ้นเคยอย่าง
ประหลาด.....
“ก็นิดหน่อยกับบางเรื่องน่ะครับ....บางเรื่องที่ไม่น่าทำ....”
“อย่าคิดมาก....คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย....จำเรื่องพวกนี้ไว้เป็นบทเรียน และอย่าพลาดทำซ้ำอีกก็
พอ...”
“พี่รู้หรือครับว่าผมเคยทำอะไรมา....”
“ก็พอจะรู้บ้าง”
ผมหันควับไปจ้องคนข้างๆอย่างตกใจ ถ้ารู้แบบนั้นแล้วทำไมยังเลือกที่จะแต่งงานกับผมอีก ถึงจะเป็นธรรมเนียมก็เถอะ แต่มันน่า
จะมีอะไรมากกว่านั้นซะแล้วละมั้ง
“.....พี่ไวน์...ผมขอถามอีกครั้งนะ...ทำไมพี่ถึงยอมแต่งงานกับผม?”
“.......”
“ไม่ใช่แค่เรื่องธรรมเนียมนั่นแน่ๆใช่ไหมครับ”
ผมคาดคั้น พี่ไวน์ยิ้มน้อยๆก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าผม
“เพราะพี่อยากได้ปิงปิงไงละ....บอกตามตรงนะ ตอนเด็กๆพี่ไม่ค่อยสนธรรมเนียมอะไรนั่นหรอก แต่พอได้สบตาปิงปิงเป็นครั้ง
แรก พี่ก็รู้สึกอยากปกป้องคุ้มครองเด็กตัวเล็กๆคนนี้ ตอนนั้นพี่คิดว่าคงเป็นความรู้สึกของเด็กที่อยากมีน้อง พี่เฝ้าติดตามข่าวของ
เรามาตลอดตามหน้าที่ที่คู่หมั้นควรทำ มันรู้สึกมีความสุขนะ ที่ได้เห็นคนที่พี่สนใจโตขึ้นเรื่อยๆ และยังปลอดภัยอยู่ แล้วตอนพี่อายุ
สิบเจ็ดเราเคยเจอกันด้วยนะ ปิงปิงช่วยพี่ไว้จำได้ไหม......”
ผมทำหน้างงใส่ ผมไปช่วยอะไรพี่แกวะ จำได้แต่ว่าตัวเองเคยทำชั่วอะไรไว้บ้างแต่เรื่องดีๆจำไม่ได้ว่าเคยทำกับเขาด้วย
“วันนั้นพี่ถูกแทงนอนอยู่ในตรอกแคบๆที่ไหนสักแห่ง พี่คิดว่าพี่ไม่น่าจะรอดแน่ๆเพราะติดต่อใครไม่ได้เลย....แต่เรามาเจอพี่พอดี
แล้วเรียกรถพยาบาลให้พี่ด้วย แถมบอกพี่อีกว่าห้ามหลับ ห้ามตายเด็ดขาด ไม่งั้นจะมีคนเสียใจ....ตั้งแต่วันนั้นชีวิตพี่ก็มีไว้เพื่อ
เรา....”
O_O
โหยพี่! ดูหนังจีนมากไปเปล่าเนี่ย แค่ช่วยชีวิตไว้ครั้งเดียวถึงกับยกชีวิตทั้งชีวิตให้ผม?
ไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากถามอะไร พี่ท่านก็ทาบริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากผม.....
O____O
นุ่มนิ่ม รู้สึกดี นานๆนะพี่ เอ๊ย! ไม่ใช่ พี่จูบผมทำไมครับ!!!
ถึงผมจะรู้สึกดีๆกับพี่ แต่เราเพิ่งรู้จักกันได้แค่สองวันเองนะ เร็วไปไหมครับ??? (ได้ข่าวว่าผมตั้งใจจะหาโอกาสจับพี่แกกดอยู่นะ
=_=;) แล้วทำไมไม่ขัดขืนเขาสักหน่อยวะไอ้เชี่ยปิง!! รักนวลสงวนตัวน่ะมึงรู้จักไหม๊??
มือใหญ่รั้งต้นคอผมเข้าหาอีกมือหนึ่งโอบเอวผมไว้ จูบนั้นเนิบนาบและวาบหวามมันเชิญชวนให้ผมเผลอคล้อยตามอย่างช่วยไม่
ได้ ไอ้มือที่ตอนแรกโอบเอวอยู่ดีๆตอนนี้มันอยู่ไม่สุขแล้วครับ สอดเข้ามาใต้เสื้อ ปลายนิ้วเรียวลูบหลังผมแผ่วเบา สยิววะพี่มา
ลูบไล้อะไรแบบนั้น ผมยิ่งเป็นพวกไฟติดง่ายอยู่ด้วย อ๊ะ!! (ทำบ่อยรึไงวะ ดูพี่แกเชี๊ยว เชี่ยวยังกะมือโปร เกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดย
เฉพาะ ผมว่านะพี่ไม่ได้เกิดมาเพื่อผมแล้วแหละ พี่เกิดมาเพื่อล่อลวงผมมากกว่าเหอะ = [ ] = ก็ดูดิ มาอยู่ด้วยแค่สองวันก็เริ่ม
ลงมือปฏิบัติการพังประตู(หลัง)ผมแล้วอะ!!) เรียวลิ้นค่อยๆแทรกเข้ามาเชื่องช้า ไม่เร่าร้อนหรือเรียกร้องใดๆแต่ปลุกเร้าให้ผม
คล้อยตามได้อย่างง่ายดาย ลิ้นของเราทักทายเย้าหยอกกันอย่างอ้อยอิง มันให้ความรู้สึกซาบซ่านอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ในชีวิต จนรู้สึกเหมือนลมหายใจจะขาดห้วงไปพี่ไวน์จึงยอมละริมฝีปากออกอย่างช้าๆ ดวงตาคู่คมจ้องมองผมอย่างมีความหมาย
สองมือวางลงบนไหล่ผมและบีบเบาๆ เราอยู่ใกล้กันมาก มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
“ให้พี่เป็นคนดูแลปิงปิงนะครับ”
โอยย.....ละลายเลยว่ะ....
เกิดมายี่สิบเอ็ดปีไม่เคยมีใครมาพูดแบบนี้ และมองผมด้วยสายตาวาบหวามแบบนี้
โอ๊ย...ปิงปิงระทวย....
จมูกโด่งสวยฝังลงตรงแก้มก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงไปตรงซอกคอ....ซุกไซร้ให้รู้สึกสยิวจนขนลุกไปทั้งร่าง ความเสียวซ่านเกิดขึ้น
น้อยๆ สองมือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้ออีกครั้งนิ้วหัวแม่มือแตะลงตรงจุดยอดผะแผ่วก่อนจะคลึงเบาๆ เสียงกระซิบแผ่วๆตรงริมหูเรียก
ให้เลือดลมฉีดพล่านไปทั่วร่าง
“พี่รักปิงปิงนะครับ....ไว้ใจพี่นะ”
หลังของผมสัมผัสกับที่นอนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้แค่ว่าตัวผมไม่คิดขัดขืนการคุกคามจากคนตรงหน้าแม้แต่น้อย ริมฝีปากบางได้รูปจูบ
เบาๆลงบนแผ่นอกที่มีผ้ากั้นอยู่ สองจุดยอดบนร่างของผมแข็งชันขึ้นสู้ สองมือนั่นทำหน้าที่ได้ดีเสียเหลือเกินแค่เวลาไม่นานร่าง
เปลือยเปล่าของผมก็ปรากฏแก่สายตา
“อ๊ะ....”
เสียงหวานครางผะแผ่วอย่างไม่อาจกลั้น เมื่อชายหนุ่มลากลิ้นผ่านยอดอกที่กำลังแข็งชัน สัมผัสส่วนนั้นอย่างเย้าแหย่ อีกด้านก็
นวดคลึงหยอกเย้าไม่ให้ต้องเหงา ทำอย่างนั้นซ้ำๆย้ำๆสลับกับไปมา ร่างโปร่งบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่าน อุณหภูมิร่างกาย
เพิ่มขึ้นสูงตามอารมณ์ปรารถนา ดวงตาส่อแววหยาดเยิ้มดูยั่วยวนยิ่งนักในสายตาของไวน์
“อือ อ๊า...”
เสียงนั้นกระเส่าทุกครั้งที่ชายหนุ่มใช้นิ้วบดบี้จุดยอดสีสวยนั่น และขบอีกด้านเบาๆ สองแขนผวากอดร่างหนาแน่น ลมหายใจหอบ
ถี่ ชายผู้มากวัยกว่าเลื่อนกายลงไปเบื้องล่างเชื่องช้าราวต้องการกลั่นแกล้งให้เจ้าของร่างโปร่งคลั่งตาย ริมฝีปากอุ่นสัมผัสในทุกๆ
ที่ที่ลากผ่าน ทิ้งรอยตีตราสีกุหลาบไว้ที่หน้าท้องขาวเนียนไร้ไขมันส่วนเกินประปราย
“อา......”
ลิ้นร้อนวนเบาๆตรงแอ่งสะดือแล้วเลื่อนกายต่ำลงกว่าเดิมอีก หนุ่มหน้ามนใจเต้นไม่เป็นส่ำ มือใหญ่ประคองส่วนแข็งขืนเบื้องล่าง
ไว้อย่างนุ่มนวล ก่อนจะเริ่มทำการทักทายเจ้าเด็กจอมคึกตัวน้อยนั่นด้วยจังหวะวอลทซ์ช้าๆชวนฝัน
“อ๊ะ อ๊ะ พี่ไวน์.....อืม.....อ๊ะ......อา”
นิ้วหัวแม่มือวนไล้ตรงส่วนปลายอย่างหยอกเย้า พาให้อารมณ์ของคนใต้ร่างกระเจิดกระเจิงไปอย่างกู่ไม่กลับ จากจังหวะวอลทซ์
เนิบช้ากลายเป็นเพิ่มความถี่ของจังหวะมากขึ้น มากขึ้น จนผู้อ่อนเยาว์กว่าขยับสะโพกไหวตามจังหวะนั้นโดยอัตโนมัติ ผู้มากวัย
กว่ายิ้มอย่างพอใจปนเอ็นดูก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นไปประกบปากดูดดื่ม จูบครั้งนี้ทั้งรุกเร้าและเรียกร้องอยู่ในที ความรู้สึกประทุลุกเป็น
ไฟโหมกระหน่ำอย่างไม่อาจจะดับลงได้ง่ายๆ ไวน์พรมจูบไปทั่วใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างแสนรัก ก่อนจะเลื่อนตัวลงไปทักทาย
เจ้าเด็กจอมคึกเบื้องล่าง.......
“อ๊ะ!!!!”
ปิงปิงร้องอย่างตระหนก ด้วยไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าทำแบบนี้ให้เขา เด็กหนุ่มอยากจะผลักศีรษะของผู้มากวัยกว่าออก แต่ความ
เสียวซ่านที่วิ่งไปทั่วร่างทำให้เด็กหนุ่มทำได้เพียงกดศีรษะของเขาไว้และส่ายสะโพกน้อยๆโต้ตอบการทักทายอันร้อนแรงนั่น มือ
หนาไม่เคยอยู่สุขได้สักนาที นิ้วเรียวไล้วนอยู่บนหน้าท้องเลื่อนลงไปที่สีข้าง ต่ำลงมาจนถึงสะโพกก่อนจะมาหยุดคลึงอยู่ที่สอง
สหายก้อนกลม จุดอ่อนอันร้ายกาจที่ทำให้ปิงปิงถึงกับดิ้นพล่านและครางแทบไม่เป็นภาษา
“อะ อ๊า...... พะ พี่ไวน์ ฮืม ตะ ตรงนั้น อ๊ะ อ๊า ยะ อย่าบีบ อ๊ะ อ๊า ผมจะ ฮืม ไม่ไหว อ๊ะ อ๊า...หยุด อ๊ะๆๆ”
สะโพกของเด็กหนุ่มขยับไหวรุนแรงอย่างไม่อาจควบคุมได้ มันคือสัญญาณบอกว่าเขาจะถึงจุดในอีกไม่ช้า....ในหัวขาวโพลน ลม
หายใจหอบถี่ ร่างทั้งร่างเริ่มเข้าสู่ภาวะเกร็งก่อนจะกระตุกราวกับถูกไฟช็อต สะโพกหยุดเคลื่อนไหว เด็กหนุ่มนอนหอบอย่าง
เหนื่อยอ่อน ร่างกายเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติอย่างช้าๆอีกครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ของเหลวสีขาวขุ่นไหลซึมตรงมุมปาก
ลิ้นเล็กแลบเลียมันเชื่องช้าเก็บกักทุกหยาดหยดไว้ไม่มีเหลือ ดวงตาคู่คมมองดูหยาดเยิ้มผิดปกติเหมือนมีไฟปรารถนาลุกไหม้อยู่
ในนั้น มองแล้วชวนให้รู้สึกหวามไหว ประดุจถูกดึงดูดให้ดำดิ่งลงไปยังเหลวลึก ไม่อาจที่จะถอนตัวขึ้นมาได้ง่ายๆ
ไวน์ไม่ยอมปล่อยให้เวลาผ่านไปนานนัก ขาเรียวถูกแยกออกกว้าง จุดที่ไม่เคยมีใครได้เคยรุกล้ำปรากฏแก่สายตา นิ้วเรียวที่ชุ่ม
ด้วยเจลหล่อลื่นแตะลงตรงส่วนเร้นลับนั้นวนเป็นวงกลมก่อนจะรุกรานเข้าไปภายใน ทุกจังหวะที่สอดแทรกนิ่มนวลและระมัดระวัง
เขาไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มคนนี้ต้องบอบช้ำ ครั้งแรกเขาอยากให้ปิงปิงประทับใจและสุขสันต์ไปกับเกมรักที่เขามอบให้ เมื่อส่วน
นั้นเริ่มชินเขาก็เพิ่มสัมผัสลงไปอีกจากหนึ่งเป็นสองและสามในที่สุด ชายหนุ่มพยายามอย่างยิ่งที่จะข่มให้ตัวเองใจเย็น เขาต้องรอ
จนแน่ใจว่าคนน่ารักของเขาจะบอบช้ำน้อยที่สุด เขาไม่อยากเป็นบุคคลที่สร้างความทรงจำเลวร้ายให้กับคนรัก นิ้วเรียวถอยทัพ
ออกไปและสิ่งที่ใหญ่กว่าก็เข้ามาแทนที่
“อุ๊ก!!!!”
เด็กหนุ่มนิ่วหน้าและเกร็งตัว
มันทั้งจุก ทั้งอึดอัดและปวดร้าวจนรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะแยกเป็นเสี่ยงๆ สองมือเกาะไหล่หนาไว้แน่น จิกเกร็งจนอีกฝ่ายได้
เลือด ดวงตาเรียวคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ไวน์จูบซับน้ำตาของเด็กหนุ่มอย่างปลอดโยน ริมฝีปากแตะกันแผ่วเบาก่อนจะรุกเร้าร้อน
แรงจนกลายเป็นจูบดูดดื่ม สองมือใหญ่ปัดป่ายไปทั่วร่าง มือขาวของอีกคนก็ลงเล็บบนแผ่นหลังของคนด้านบนเป็นทางยาวเพื่อ
ระบายความทรมาณที่ตนได้รับ
ความเจ็บปวดปนความสุขสันต์ที่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายหยุด......
เหงื่อโทรมกาย...ลมหายใจหอบถี่ราวกับเพิ่งผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักมา.....ชายหนุ่มพยายามหักห้ามใจไม่ให้ตนเอง
ขยับตัว แม้ใจปรารถนาที่จะทำอย่างที่สุดก็ตาม
ใจเย็นก่อน.....อีกนิดเดียว....รอให้ปิงปิงชินกับการรุกรานนี้ก่อน....เมื่อนั้นเวลาแห่งความหฤหรรษ์ก็จะมาถึง
ผู้อยู่เบื้องล่างรั้งต้นคอเขาลงแนบริมฝีปากกับริมฝีปาก มันทั้งหวาน นุ่ม และชวนให้อยากสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำอีก ราวกับยาเสพติด
ร้ายแรงที่ไม่อาจขาดมันได้
“ผมพร้อมแล้วครับพี่ไวน์....”
เสียงสั่นพร่ากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะขบเม้มเบาๆที่ติ่งหูของเขาอย่างท้าทาย
“ขยับเถอะ.....”
น้ำเสียงนั้นเว้าวอนขอร้อง ไวน์จูบหน้าผากชื้นเหงื่อของคนรักเหมือนกำลังขอบคุณ ก่อนจะเริ่มขยับบรรเลงเพลงรักอย่างเชื่องช้า
หากหนักแน่นในทุกจังหวะ ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกลคงได้ขับขานร้องบรรเลงเพลงรักกันอีกนาน....
ใช่ไหมปิงปิง?
ขอโทษที่อัพช้านะ คอมเป็นไรไม่รู้อ่า
รีบปั่นมือเป็นระวิง แต่สุดท้ายก็ช้าอ่า
ขอโทษจริงๆค่า
ปล.อาทิตย์หน้าสอบแล้วอะ งดเข้าเล้าชั่วคราว เรื่องนี้จบแล้วนะ (นิสัยไม่ดีชอบตัดจบอะ แหะๆๆๆ) แต่ถ้าอยากอ่านตอนพิเศษหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติม กระซิบบอกกันได้ ไว้สอบเสร็จจะเอามาลงคะ (ถ้ามีคนอยากอ่าน หนูก็จะเอามาลง ไม่มีก็ไม่ลงคะ
)
รักนักอ่านทุกๆคนคะ กอดๆ