กระดานแผ่นนี้...ขอที่ให้ผมได้ไหมครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กระดานแผ่นนี้...ขอที่ให้ผมได้ไหมครับ  (อ่าน 181574 ครั้ง)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ๊ะ  :o รถไฟเกือบชนกันละ  :laugh: เจ้ระวังตัวนะ  :kikkik:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เจ๊คับ  ผมมารอตอนต่อไปอยู่นะคับ :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ถึงคุณน้อง....A  GE
เจ้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช่กรหรือเปล่า  แต่จะใช่หรือไม่มช่  เจ้ก็ไม่สนหรอกเคอะ  เพราะว่าไม่ได้ชอบไง อิอิ

ถึงตาถั่วพูห์
งง-อาไร?  อย่ามา-งง-กะเรื่องของอิฉันนะ เพราะอิฉันเองก็ยัง-งง-เองเลย  :sad4:

ถึงแดนนี่
เจ้ว่ากรมันไม่ได้ตั้งใจจะทำไรหรอก  แค่บังเอิญมาเจอกันที่เที่ยวเฉยๆ  เพราะว่ามันก็มีแฟนแล้วด้วย(เจ้แอบเห็น...หล่อนำหน้าเจ้ไปสามโค้งแล้วเคอะ)

ถึงหนู....shell
ครั้งนี้เกือบไปแต่ครั้งหน้าชนกันเต็มๆ
 :pighaun:


..................................................

........มาถึงแล้วครับ  ร้านพี่สาวมันเป็นลานเบียร์เล็กๆ แถวๆ งามวงศ์วานครับ  แล้วตูจะกลับหอไงเนี้ย...ถ่อมาเสียตั้งไกลขนาดนี้  พอเข้าไปในร้านก็เจอพี่สาวกับพวกลูกน้องเด็กเสิร์ฟในร้านกำลังมีสังสรรค์กันอยู่อะครับ  พวกผมสามคนเลยทำตัวเนียนๆ เข้าไปร่วมแจม อิอิ  แต่เราสามคนก็โดนจับแยกกันนั่งกันนะครับ  แมทนั่งโน้น  ผมนั่งนี่(ขนาบข้างด้วยเด็กหนุ่มหน้าตาโอเคสองคน  หัวใจเบิกบานๆ) ส่วนพี่แบงค์ถูกพี่สาวไอ่เสื้อขาวลากไปนั่งด้วยกัน 

เอาละครับมหกรรมชนแก้วเริ่มต้นขึ้นแล้วครับ  จากเมื่อกี้ร้านเหล้ามาคราวนี้ร้านเบียร์  แต่ผมก็บ่หยั้น  แอ่นสู้สุดริ้ด  ชนมา?  ตูชนกลับ  กับแกล้มอีกบานตะเกียงผมก็สวาปามเข้าไป  ของฟรีนิครับ  งั้นก็ต้องกินซะให้มันเรียบ!

ชนไปชนมาเริ่มมึนๆ หันไปดูสองคนโน้นมั่งจิว่ามันจะเป็นไงกันมั่ง  อ้าว! อิพี่แบงค์ลงไปนอนยาววัดพื้นอยู่ข้างหน้าต่างแล้วครับ  เหลือผม(ที่ไม่ไหวแล้ว)กะไอ่แมทที่สภาพยังดูดีกว่าใคร  แต่เดี๋ยวครับ  ไอ่เสื้อขาวมันมานั่งข้างไอ่แมทตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี้ย  เมื่อกี้ผมยังเห็นมันนั่งข้างอิพี่แบงค์อยู่เลย  แต่ช่างมันเหอะ!  มีพี่สาวมันนั่งอยู่ด้วยอีกคนคงไม่เป็นไร  อีกอย่างไอ่เสื้อขาวมันก็รู้อยู่แล้วนิว่าแมทเป็นแฟนผม 

“พี่คะอย่าไปสนใจคนอื่นเลยคะ  มามะ...หนูป้อนให้” น้องนีเด็กเสิร์ฟร่างอวบเรียกผมให้หันมาอ้าปากรับยำปลาหมึกแห้งที่เธอตักเตรียมป้อนผมอยู่  ผมก็หันไปทำตามที่หล่อนว่า  เคี้ยวๆ แล้วกลืนแล้วก็มีคำที่สอง...สาม...สี่ต่อไปแล้วก้ตอบท้ายด้สยการที่ผมโดนหอมแก้มดำๆ ฮื่อๆ

“พี่เนี้ยน่ารักจังเลย  ไม่น่าเป็นเกย์เลยอะ  เลิกเหอะพี่  ผู้หญิงมีดีนะหนูจะบอกให้”

เอาเข้าแล้วไหมละ?  น้องนีชวนให้ผมเลิกเป็นเกย์ซะงั้น  ไม่ไหวอะครับ....ผมแพ้อาหารทะเล  เลยไม่ชอบทานหอย ครับ อิอิ  กลัวท้องเสีย  ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกส์

ผมก็นัวเนีย เฮ้ย! เนียนๆ นั่งกินนั่งป้อนไปกะน้องนีเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าไม่ไหวแหละ  เลยขอตัวไปเอาออกในห้องน้ำหน่อย

“น้องครับ...ห้องน้ำไปทางไหนครับ?” ผมถาม

“จะให้น้องพาไปไหมคะพี่?”

“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ  ผมเดินไปเองได้  ตกลงมันไปทางไหนครับ?”

แล้วเธอก็ชี้ทางสว่างมาให้ผม......ผมก็ลุกเดินโซเซโต๋เต๋ออกไป  พอถึงห้องน้ำปิดประตูเท่านั้นแหละ  กลอนเกลินไม่ลงไม่ล๊อคมันแล้ว  ไม่ไหวๆ    ชักโครกจ๋า....พี่มาหาน้องแล้ว  อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์  :really2:

......ผมสลบไสลคาชักโครกด้วยสภาพที่คิดว่าทุเรศมากๆ อยู่นานเท่าไหร่ไม่รู้ก็ได้ยินเสียงแมทเข้ามาเรียก

“ไปตัว! กลับห้องกันดีกว่า  จะเช้าแล้ว”

“เช้าแล้วหรอ  ทำไมรีบกลับจัง” ถามเหมือนยังไหวนะ

“อืมเช้าแล้ว  ไปเหอะ! อย่าพูดมากเบื่อคนเมา  กลับบ้านได้แล้ว” มันหันมาย้ำผมอีก 

ผมก็โตเต๋ออกมาโดยมีแมทมันพยุงมาตลอดทาง  ส่วนอิพี่แบงค์เดินหน้าซีดเป็นนกกระยางต้มตามมาแบบไม่ได้สมดุลสักเท่าไหร่  แต่ผมก็ไม่มีกำลังจะไปดูมันแล้วอะครับ  พี่เพ่อช่างหัวมันไปก่อนวันนี้....ตูไม่ไหวแล้ว  ตูอยากอ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์  แหวะ!!

...........เกือบบ่ายสามโมงที่ผมได้สติตื่นขึ้นมาครับ  อ้าว!  ไอ่แมทกะพี่แบงค์นนนั่งดูทีวีกันเฉย  พวกเมิงไม่เมากันหรือไงวะเนี้ย?

“อ้าว! ตื่นแล้วหรอตัว?” เป็นแมทครับที่หันมาเห็นผมเป็นคนแรก

“อืม...ปวดหัวชะมัดเลยอะ”

“กินยาไหม?” มันเดินเข้ามาจับนู่นจับนี่ถาม

“ก็ดีนะแต่ว่ายาไม่มีอะ” ผมบอก

“งั้นเดี่ยวเค้าลงไปซื้อมาให้นะ  อ้อ! ลงไปเติมน้ำด้วยดีกว่า” มันว่างั้น

“ให้พี่ลงไปเป็นเพื่อนไหมแมท” พี่แบงค์เสนอตัวเข้าช่วย

“ไม่เป็นไรครับพี่  ผมลงไปเองได้”

แล้วมันก็เดินถือถุงใส่ขวดน้ำและกระเป๋าตังค์ตัวมันเองออกไป  ขนาดมาอยู่ที่นี่นะครับ...ผมยังไม่เคยต้องออกตังค์เลยสักกะบาทเดียว  แมทจ่ายตลอด

“บริการกันดีเหลือเกินนะเคอะคุณน้อง  พี่หละอิจฉาจริงๆ” พี่แบงค์แซวผมขำๆ

“อย่ามาสะตอเลย  ผัวพี่มีจนจะรอบกรุงแล้ว  ยังจะมาอิจฉาไรกะน้องอีก?”

“ก็อยากได้แบบนี้มั่งอะ  ทำไมยะ? ก็ที่ชั้นมีมันไม่ได้อย่างใจพี่เลยนี่หน่า”

“แหม่พี่ก็บอกไปนั้น  บางทีเราก็โมโหมันเหมือนกันนะ  ตอนแรกๆ ดูเหมือนว่าจะเข้าท่าเข้าทางดีอยู่หรอก  แต่หลังๆ มันดูโง่ๆ ทึ่มๆ ไงไม่รู้  ยิ่งพอมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพแล้วยิ่งไปกันใหญ่  ไม่ได้ดั่งใจเลย”

“แหม่เธอก็!  เธอนะมันคนเอาใจยาก  ใครเขาจะไปเดาใจเธอถูกหละ”

“ไม่นะพี่  บางทีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันก็.......” และอีกมากมายที่ผมบ่นๆ ไปกะพี่แบงค์  ก็ความจริงทั้งนั้นแหละครับ  ทั้งเรื่องมันเจ้าชู้เรื่องเพื่อนมัน  เรื่องมันสูบบุหรี่  เรื่องปัญหาที่บ้านมันโทรมาว่าผมเรื่องอะไรอีกสารพัดที่ผมไม่พอใจในตัวแมทและผมก็ไม่เคยพูดให้เจ้าตัวมันฟังแต่กลับมาเล่าให้พี่แบงค์ฟังหมดเลย  ก็เพื่อนซี้นี้ครับมีไรก็ต้องเล่าให้ฟังดิ  เวลาปรึกษาเขาจะได้ให้คำปรึกษาที่ดีกะเราไง

“สรุปว่าไม่พอใจ  ว่างั้น?” พี่แบงค์ถามผม

“แต่ตอนนี้ที่น้องมีอยู่ในมือ...แมทมันก็โอสุดแล้วนะพี่”

“คะคุณน้อง  แม่คนไม่สวยแต่ช่างเลือก  เลือกมากๆ ระวังนะตัวนั้นแหละที่จะโดน...” 

ยังไม่ทันที่พี่แบงค์จะพูดจบประโยคแมทมันก็เปิดประตูเจ้ามาก่อน  วงนินทาลับหลังของผมกับพี่แบงค์เลยแตกกระเจิงกันไปคนละทางสองทาง

“ลุกขึ้นมากินขนมแล้วกินยาก่อนตัว” แมทหันมาพูดกับผมตอนเอาขวดน้ำใส่ตู้เย็นใกล้จะเสร็จแล้ว

“ครับๆ แล้วนั้นตัวซื้อยาไรมาเยอะแยะเลยอะ?”

“ก็พวกยาแก้โน้นแก้นี่นะ  เห็นว่าห้องตัวไม่มียาอะไรเลย  เค้าก็เลยซื้อมาติดเอาไว้  เผื่อวันไหนตัวเกิดป่วยขึ้นมาแล้วเค้าไม่ได้อยู่ดูแล”  มันซื้อมาเยอะเลยครับ  แล้วก็แกะใส่ตลับที่มันมีช่องเล็กๆ หลายๆ ช่องเอาไว้  ไม่รู้มันไปเอาตลับมาจากไหน  ลายแมวเหมี่ยวคิตตี้(ขัดกับหน้าเข้มๆ ของมันมาก) ซึ่งของแบบนี้ไม่มีในห้องผมแน่นอนครับ  ถึงผมจะสาวแตกแต่ก้ไม่หวานแว๋วเหมือนไอ้แมทมัน 

เราสองคนมีบุลคิกที่ต่างกันมากเลยครับ  มันแมนผมสาวแตก  มันหวานแต่ผมไม่  แต่ที่เหมือนกันคือ...เราของดูละครรักแปดพันเก้าด้วยกัน  เราดูหนังเรื่อง เดอแลตเทอ  แล้วเราก็ร้องไห้เหมือนกัน  นี้ละครับอาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบมัน  .....มันร้องไห้เป็นเพื่อนผมเวลาที่เราดูหนังหรือดูละครเศร้าๆ ด้วยกัน  เพราะเหตุนี่ไงครับ  ที่ทำให้ผมคิดว่าผมรักมันมากขึ้นไปอีก

“อืมๆ เอามาเร็วๆ หิวแล้วเดี๋ยวกะว่าจะออกไปเยาวราชไปหาไรกินเสียหน่อย  อยากกินหมี่จับกังกับติ่มซำนะ  ตกลงไว้กะพี่แบงค์แล้ว”

“ก็เอาดิ  อะ!กินยาซะ”  มันยื่นยามาให้ผม 

ผมก็รับมากินไปงั้นๆ แหละครับ  ไม่ยากให้มันเสียน้ำใจ  ความจริง....แฮงค์อย่างนี้มันต้องถอนครับมันถึงหาย  ผมก็เลยตกลงลับๆ กะพี่แบงค์ว่าคืนนี้เราจะไปแรดกันอีก  อิอิ


 :monkeylaugh2: :monkeylaugh2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007 00:38:45 โดย oaw_eang »

jammy

  • บุคคลทั่วไป
กรำเจ๊สอง ยังจะไปตะลอนๆอีก เหอๆ  :pandalaugh:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เรื่องราวอ่านแล้วแทบหายใจไม่ออก
มันตื้อๆไงไม่รู้ ชีวิตคนเรานี่เขาถึงบอกว่ายิ่งกว่านิยายเสียอีก
ประสบการณ์สองนี่ เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายเลย
รอวันที่จะขาด แล้วตกลงมาจะเจ็บไหมหนอ
 :ped144:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ขนาดนั้นเลยหรือตาบลู  :myeye:


แฮงค์ก็ต้องถอนสิเคอะนู๋แดนนี่  เจ้ทำผิดตรงไหนเคอะ?


....................................................

............ “โคตรอิ่มเลยพี่  ดูท้องน้องดิ”  ผมอวดท้องกลมโตนูนเหมือนนังธงธง หมกจ๊กให้พี่แบงค์ดู

“ก็กินเข้าไปขนาดนั้นนี้คะ  หมี่ชามเท่ากะละมังสองชาม  ยัดลงไปได้ไงไหว”

“ก็คนมันอยากกินนี่หว่า  ไม่ต้องพูดมาก  หยุด! หุบปากไปเลย  ไม่ต้องมาด่าฉันต่อ  แล้วนี่แมทมันหายไปไหนของมันอะพี่” ผมจัดการติดเบรคปากพี่แบงค์เรียบร้อยแล้วก็ชะเง้อหาหวานใจของผม

“โน้น....มันเดินถอยลงไปคุยโทรศัพท์  ไม่รู้ใครโทรมามันน่าสงสัย” พี่แบงค์ว่า

นั้นไงครับ!  ชีเริ่มแล้ว....กระบวนการยุให้คู่เขาทะเลาะกัน  ความจริงพี่แกก็เกริ่นๆ เรื่องทะแม่งๆ ของแมทมาตั้งแต่เมื่อตอนที่เรานินทาแมทกันเมื่อบ่ายแล้วหละครับ  แต่ช่างมันเหอะ! มันอยากทำไรก็ทำไป....ผมเริ่มชินเสียแล้วหละครับ  แต่ขออย่างเดียวอย่าให้มันเป็นอะไรที่แบบ...ต่อหน้าต่อตามากนัก  ถ้าเป็นแบบนั้นน่ะไม่ไหว  มากเกินไปครับพี่น้อง

“นี้นุ!” พี่แบงค์เรียกผมที่กำลังอยู่ซื้อน้ำรากบัวต้มมาดื่มแก้กลุ้มเรื่อง....สามีแรดชิบ

“ไรพี่?” ผมหันไปถามแก

“พี่ว่าเราไปไหว้พระที่วัดมังกรกันไหม?  มาแถวนี้แล้วไม่เข้าไปเสียหน่อยมันก็กระไรอยู่”

“เอาดิพี่! เดี๋ยวเราซื้อน้ำมันไปเติมในตะเกียงกันด้วยดีกว่า  ชีวิตข้างหน้าเราจะได้ไม่มืดมน”

“เออๆ ใช่  งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำมันก่อนนะ”

“หน้าวัดก็มีพี่!”  ผมตะโกนตามหลังไปแต่ก็ไม่ทันแล้วครับ  พี่แบงค์แล่นไปโน้นแล้ว  เห็นพี่แกแรดๆ อย่างนี้นะครับ....พี่แกชอบเข้าวัด  วันเสาร์วัดอาทิตย์เราสองคน(ถ้าพี่อันที่อยู่เชียงใหม่มา กทม. ด้วยก็จะเป็นสาม) มักจะไปซื้อดอกบัวสีขาวมั่งชมพูเป็นกำๆ มาจากปากคลองตลาดแล้วเอามันพับกลีบจัดเป็นพุ่มใส่พานให้สวยๆ แล้วเอาไปถวายองค์พระศรีศากยมุณีในโบสถ์วัดสุทัศน์ฯแล้วก็รอสวดมนต์ทำวัตรเย็นไปด้วยเลยอยู่บ่อยๆ

พวกผมก็อย่างเนี้ยแหละครับ  ไม่ชอบซื้อของที่ขายหน้าวัดไปถวายพระ  ผมว่าความตั้งใจมันต่างกันแรงอานิสงส์ที่จะได้จากการทำบุญมันก็ต่างกันไปนะผมว่า(อันนี้ผมคิดเอาเอง)  เวลาจะไปไหว้พระหรือไปวัด  ผมกะพี่แบงค์ก็จะเตรียมของไหว้ไปเองจากบ้าน  ก็จำพวกธูปเทียนไม้ขีด  ดอกไม้  น้ำมันเติมตะเกียงอะไรพวกเนี้ยอะครับ  เพราะคิดว่าการเตรียมไปจากบ้านมันดูตั้งใจจริงมากกว่า  แล้วจากที่ได้อ่านหนังสอมาเขาบอกว่า...การทำบุญจะได้บุญมากหรือน้อยให้ดูจากเจตนาที่จะทำ  หากเจตนาดีเจตนามาก....แม้ว่าของที่สละไปเป็นทานในการทำบุญนั้นจะมีราคาต่ำน้อย  แต่ผลแห่งบุญแห่งทานที่ทำนั้นกลับมากยิ่งนัก

อันนี้ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะครับ  ว่าแล้วมันคันปาก...ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่า...วันนั้นพระอินทร์กันสาธยายธรรมให้เหล่าเทวดาบริวารทั้งหลายฟังอยู่นั้น  ก็บังเกิดเป็นเทพธิดาองค์หนึ่งจุติขึ้น ณ เบื้องอุตรทิศขององค์อินทร์มีรัศมีกายสีเหลืองเจิดจรัสจ้ายิ่งนักและสถิตอยู่ในทิพยวิมานศีทองผ่องสะคราญตา

องค์อินทร์เลยตรัสถามว่าเหตุใดเทพธิดาองค์นั้นจึงได้มีกายทิพย์และวิมาณที่สวยงามเช่นนี้  นางเลยบอกว่า....วันหนึ่งขณะที่นางมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์  นางได้ทราบข่าวมาว่าวันนี้พระสมณโคดมบรมพทุธเจ้าจักเสด็จบิณฑบาตผ่านมาทางถนนหน้าบ้านของตน  ด้วยความดีใจยิ่งนางวิ่งกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหาสิ่งของมีค่ามาใส่บาตรถวายเป็นพทุธบูชา  พอเข้าไปในบ้าน...นางกลับหาสิ่งใดไม่ได้เลย  มีเพียงบวบอยู่สองผล  นางจึงถือติดมือมาแล้วรีบวิ่งไปโดยเร็วเพราะหมายใจอย่างยิ่งที่จะใส่บาตรแด่พระพทุธองค์

ขณะที่นางกำลังวิ่งและมีจิตใจจดจ่ออยู่แต่การเอาผลบวบใส่บาตรรถวายพระพทุธองค์อยู่นั้น  นางไม่ได่สังเกตถึงหนทางที่นางนั้นกำลังแล่นไปเลย  ทันใดนั้น! นางถูกวัวที่ยืนขวางทางขวิดเข้าที่ช่องท้องไส้ไหลตายคาที  แต่ด้วยอานิสงส์แรงกล้าแห่งการคิดดีเพื่อจะทำดีจึงทำให้นางได้มาจุติเป็นเทพธิดาและมีกายและทิพยวิมานสีดังทองดอกบวบเช่นนี้  องค์อินทร์และเหล่าบริวารจึงพากันสาธุการไปกับนางด้วย   เหตุผลก็มีด้วยประการละฉะนี้หละครับ 

นอกเรื่องมาเสียนาน....กลับมาที่เยาวราชกันต่อ  พอผมตะโกนบอกพี่แบงค์ไม่ทันก็เลยยืนรอน้ำรากบัวต้มจากอาแป๊ะต่อไป  สักพักแมทมันก็เดินมายืนข้างๆ

“ซื้อไรอะ?” มันถาม

“น้ำรากบัว....กินไหม?”  ผมตอบมันแต่ในใจก็เริ่มงอนๆ นิดหน่อยเพราะได้แรงยุมาจากพี่แบงค์เยอะอยู่เหมือนกัน

“เอาน้ำใบบัวบกแทนได้ปะ?” มันถามขำๆ

“เอาไว้ให้ช้ำในก่อนนะแล้วจะต้มให้กิน” ผมบอกมันตอนที่รับถุงน้ำรากบัวต้มสองถุงใหญ่ๆ (ซื้อกลับไปเก็บไว้กินที่ห้องด้วย  ก็นานๆ จะมีเวลาว่างมาร่อนแถวนี้สักทีหนึ่ง)


.....  แล้วเราก็เข้าไปไหว้พระในวัดมังกรครับ  แหม่ๆ พระหลวงจีนลูกวัดวัดนี้ทำไมมันถึงได้งามกันไปเสียหมดน้อ  รูปนั้นก็งามรูปนี้ก็งาม  ขนาดยังเป็นเณรยังมีวี่แววว่าโตขึ้นก็จะงามตามอย่างพวกหลวงพี่  อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  แม้แต่พระแต่เจ้าอิฉันยังไม่เว้นเลยหรือเคอะเนี้ยส์?
ปล. ชมว่าหลวงพี่งามนะไม่บาป  แต่ถ้าคิดเกินไปกว่านั้นบาปเคอะ? (หลวงอาวัด xxx บอกมา)

พอเข้าไปถึงพี่แบงค์ก็แจกจ่ายธูปคนละกำกับน้ำมันพืชเติมตะเกียงคนละขวด  แล้วเราก็ลงมือจุดธูปไหว้พระกัน  พอถึงตอนนี้ผมก็แยกเดินไปไหว้ครับ  ไม่อยากไหว้ใกล้ๆ กันกับแมท..กลัวหวั่นไหวไม่มีสมาธิเพ่งจิตขอพรพระน่ะ  ไม่รู้ทำไม?  น่าจะไหว้ใกล้ๆ กันจะได้ขอพรให้เป็นแฟนกันไปนานๆ เนอะ  แต่ไม่เอาดีกว่า  เขินมันอะ!  เวลาไหว้พระอย่างนี้จิตใจมันต้องมีสมาธิเดี๋ยวไม่งั้นมันจะไม่ขลัง  พรที่ขอไปมันจะได้ไปถึงองค์พระแล้วองค์พระจะได้พิจารณาคำอฐิษฐานและชี้ทางสว่างให้เราไง  อิอิ

ผมก็เดินออกมาไหว้ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ที่ด้านหน้าก่อน  แล้วไปไหว้เทพเจ้าโชคชะตา  ไหว้นั้นไหว้นี้  ถึงไปถึงไหว้พระศรีอาริยเมตไตรย์-องค์ประธานของวัด  อฐิษฐานนานมากๆ แบบว่าขอพรให้คนนั้นคนนี้....ก็คนในครอบครัวนะแล้วก็ขอให้เพื่อนบางคนที่มันกำลังมีปัญหา สุดท้ายก็ขอให้ตัวเองกับด้วย....แต่ไม่ยักกะขอให้เรารักกันตลอดไป  ทำไมผมไม่ขอนะ

พอไหว้เสร็จ....ก็ลุกไปเติมน้ำมันในตะเกียงแล้วเดินเข้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ข้างใน  อฐิษฐาน  ปักธูปเสร็จ  กำลังจะกลับมากราบพระก็มีคนเดินเข้ามานั่งคุกเข่าไหว้พระข้างๆ ผมเลยหันไปมองแว่บหนึ่งแบบว่าขัดใจจัง  อุตส่าห์กำลังจะกราบพระสวยๆ มีคนเข้ามาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้มันเลยเขิน....กราบพระไม่ออก  ตูอุตส่าห์หนีเข้ามาไหว้เข้าในแล้วนะนึกว่าจะไม่มีคน  เมิงยังอุตส่าห์มาขัดจังหวะตูได้อีก  อยากรู้หนักว่าใคร  เลยหันไปดูหน้ามัน

 :sad5: แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์

กรครับ! นี้มันจะตามมาหลอกหลอนอะไรขนาดนี้  นี่เจอกะมันสามครั้งติดๆ กันแล้วนะเนี้ย  เป็นไปได้ไงฟ่ะ  กรุงเทพฯเมืองตั้งใหญ่  ผู้คนก็เยอะแยะมากมาย  ที่ทางจะให้เดินให้ไปก็มีตั้งแยะ  แล้วทำไมช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมถึงเจอมันบ่อยจัง  เร็วๆ นี้ก็ปาเข้าไปสามครั้งแล้วนะครับ

“มองอะไร?  ไม่เคยเห็นคนไหว้พระหรือไงครับ?” กรถามผมทั้งๆ ที่มือยังพนมและมีธูปอยู่ในมือ

“เอ่อ...เปล่า!  ไหว้พระไปเถอะ  ไม่กวนแล้ว” ผมพูดพลางตั้งท่าจะเดินเลี่ยงออกมา

“รอก่อนสิ  มีเรื่องจะคุยด้วย” กรเรียกผมไว้แล้วหลับตาไหว้พระต่อไป  ผมเลยเดินออกมายืนรอต้องตู้ที่มีพระพทุธรูปปางทรงเครื่องฯเยอะๆ นั้นอะครับ

“ไม่ยักกะรู้ว่าเข้าไหว้วัดพระเป็นเหมือนกัน  แปลกจัง”  กรเดินเข้ามาคุยกับผม

“แปลกตรงไหน?  คนมันใจดีใจบุญก็อย่างงี้แหละ” ผมว่า

“แต่หน้านุไม่ให้เลยนะ”  กรยังไม่วายแหนบผมอีก  ผมนี้ก้แปลกแล้วจะยืนอยู่ให้เขาแหนบทำไมกัน  ทำไมไม่เดินออกไปเสียเลย

“ทำไมช่วงนี้นุไม่โทรหากรเลยอะ”  กรถามผมที่ยืนยิ้มทำหน้าไม่รู้สึกรู้สากับคำแหนบของกรเมื่อกี้

“ก็พอดีไม่ค่อยว่างนะ  แล้วเห็นกรไม่ค่อยอยากจะคุยโทรสัพท์กับนุสักเท่าไหร่นักนิ” ใจจริงผมอยากจะพูดแรงๆ กว่านั้นแต่ทำไมไม่พูดออกไปก็ไม่รู้

“หรอ?  พอดีช่วงนั้นมันยุ่งๆ หลายเรื่องนะ  แล้วพอดีวันนั้นกำลังไปงานศพเพื่อนที่ชลบุรีนะเลยอารมณ์ไม่ค่อยดีไปหน่อย  โทษทีนะ”  กรยังอุตส่าห์จำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันสุดท้ายที่เราคุยทางโทรศัพท์กันได้ด้วย...ผมนึกว่ากรคงจะลืมมันไปแล้ว

“ช่างมันเหอะ  นุก็ไม่ได้ใส่ใจไรมากหรอก”

“นุโทรหากรใหม่อีกได้เปล่า  นะๆ โทรทุกวันเลยนะ”  กรคะยั่ยคะยอให้ผมทำเหมือนเดิมอีก

“เพื่ออะไรอะ?  โทรทำไม?  กรเองก็มีแฟนอยู่แล้วมั่งนุว่า  แล้วกรจะให้นุทำอย่างนั้นอีกไปทำไมกัน”

“ก็.......  กรขอร้องหละนะ  โทรหากรต่อเถอะ  กรรู้สึกว่ากรอยากคุยกะนุต่อนะ  ไม่รู้ทำไมเหมือนกันกรก็ไม่เข้าใจตัวเอง”

“นุว่าคนอย่างกรคงมีคนรอคิวโทรหาเยอะทุกวันอยู่แล้ว  คงไม่จำเป็นต้องให้นุโทรไปหรอก  ว่าไหม?”  ผมเริ่มพูดออกไปอย่างที่ใจอยากพูด  เพราะจะว่าไปผมก็มีเรื่องแค้นกรเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ  งั้วันนี้ผมขอแหนบคืนหน่อยเหอะ

“คนอื่นก็คนอื่นสิ...ไม่เห็นจะเหมือนกันเลย  พอกรไม่ได้ยินเสียงนุมาหลายๆ วันเข้ากรก้รู้สึกว่ามันเหมือนอะไรขาดๆ หายๆ ไปสักอย่างน่ะ”

“ฮึ! หรอ?  นุดีใจจัง”

“งั้น......” กรยังไม่ทันจะได้พูดต่อ  แมทมันก็เดินเข้ามาตามหาผมพอดี

“อ้าวตัว! ยืนอยู่นี้เอง  ไปเหอะพี่แบงค์ออกไปรอข้างนอกแล้ว”  แมทมันว่า

“อ้าวเหรอ! อืมๆ ไปเหอะ  ผมไปก่อนนะ” ผมหันไปบอกกรแล้วเดินตามแมทไปเลย  ไม่แม้แต่จะหันไปดูหรือฟังว่ากรจะตอบรับคำลาของผมหรือเปล่า  เพราะตอนนี้กรไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาผม
......................................................


 :110011: :110011:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มาวัดยังมาเจอเหอะๆ
คิดถึงกันจนน้ำหูน้ำตาไหลเลยป่าว
เพราะเจ้าวัดเนี่ยะ ผมเข้าไปแล้วต้องรีบวิ่งออกมา
ทั้งคนทั้งควัน อะไรมันจะขนาดนี้
 :call:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
หยั่งกะผีหลอกวิญญาณหลอนเนอะเจ๊สอง :sad5:  เจอได้ทุกที่เหอๆ :kikkik: 

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ตอนนั้นมะคิดอารายชะมะคับเจ๊ :fox2:  แล้วตอนนี้อ่ะคิดอารายกับกรอะยัง :pighaun: :pighaun:  ว่าแต่เจ๊หม่ำได้ไงอ่ะ  บะหมี่จับกังสองชาม :o :o :o  น่ากัวมั่กๆ ท้องมะแตกเหรอคับ :dont2: :dont2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

อิเจ้คับ วัดมังกรอะ ไปแล้วใจจะละลาย หลวงจีนตี๋ๆ งามๆ อย่างที่เจ้บอกแหละ

ไปที่ไหร ไม่เคยได้บุญหรอก ทำบาปตลอด พระเจ้าก้ไม่เว้น

 :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ่านความเห็นแต่ละคนพูดถึงวัด ถึงหลวงพี่กันแล้วจะบ้าตายย  แต่ตรูก็เป็นหว่ะ  :laugh5:

"เพราะตอนนี้กรไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาผม" อ่านแล้วแปลก ๆ เจ้ กรนี่จาเป็นเนื้อคู่เจ้ป่าวเนี่ย   :confuse:
แต่เค้าก็ว่าแมทน่ารักอ่า  แม้ว่าจะเจ้าชู้ไปหน่อยก็เหอะ

รออ่านต่อค๊าบบ  :yeb:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
หุหุ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเจ้กินบะหมี่จับกังได้ถึง 2 ชาม
ก็ตอนเจ้บรรยายอาหารเช้าที่บ้านเจ้ กับตอนกินของในรถไฟก็พอจะเห็นภาพอยู่
ว่าแต่บะหมี่จับกังสองชาม อิ่มเหรอเจ้  :kikkik:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ว้ายๆ  อินังพวก-ทุ-ศีล ทั้งหลาย  อิอิ

บาปนะเฟ้ยพวกหล่อนถ้าไปคิดเกินกว่า......หลวงจีนน่ะรูปงาม

เห็นมะ?....  เข้าวัดไหว้พระมันก็ดีอย่างงี้แหละ   :monkeylaugh2:

ปล. อย่าว่าแต่หมี่จับกังสองชามเลยเคอะ  หมูย่างเมืองตรังสองโลอิชั้นยังฟาดเรียบคนเดียว

แต่ตอนนี้มีคู่แข่งที่แบบว่าสูสีกันมากๆ เลยเคอะ  บางทีอิฉันก็สู้ไม่ไหว  แพ้ราบคาบ  :pandalaugh:

...............................................
....วันนี้ผมมาร้านที่สี่ครับ  ร้ายเกย์แถวนี้ก็มีอยู่สี่ร้านอะ  ร้านที่ผมมาวันนี้มันอยู่ตรงตีนสะพานลอยพอดีเป๊ะ  ประมาณว่าข้ามถนนมาก็เดินตรงเข้าร้านไปได้เลย

“คนเยอะดีจังเลยเนอะวันนี้” อิพี่แบงค์แจ๋นพูดขึ้น  วันนี้ผมผมพี่แบงค์ ไอ่แมท  แล้วก็พี่อันที่ลงมา กทม. อย่างกะทันหันเพราะว่ามาตามงานให้อาจารย์หรือไงนี่หล่ะครับ

“คนเยอะแล้วไม่ดีหรอพี่  วันนี้มีแต่สเปคพี่ทั้งนั้นเลยอะ” ผมตอบพี่แกไปพลางก็ชงเหล้าแจกไปพลาง  ไอ่แมทมันก็ก้มลงมาคุยกะพี่อันกระหนุงกระหนิง  ทำยังกะว่ารู้จักกันมาสามชาติแล้วอย่างงั้นแหละส์

วันนี้สนุกมากเลยครับ....ผมได้อยู่ท่ามกลางคนที่ผมรักสามคน  แน่นอนครับ...ไอ่แมทคนหนึ่ง  พี่แบงค์เป็นคนที่สองและพี่อัน...พี่นอกไส้ของผมอีกคนหนึ่ง  พี่อันนี้หละครับที่เป็นเกย์ไอดอลของผมสมัยที่เข้ามากรุงเทพฯใหม่  ตอนนั้นยังเป็นตุ๊ดส์บ้านนอกอยู่เลย  แต่พี่อันอะ!  โห.....เริ้ดทุกอย่างเลยครับ  ผมเลยพยายามแอบเลียนแบบพี่อันเหมือนกัน  แต่สุดท้ายก็รู้ว่าไม่ใช่ทางของตัวเองเพราะ look พี่อันแกเป็นเกย์ไฮโซหรูหรา  แต่ look ผมมันออกไปทางด้านสปอร์ตๆ หน่อย  ส่วนอิพี่แบงค์หล่อนเป็นเกย์สาวสวยครับ  จนไอ่วุฒิมันบอกว่า...สามคนสามสาว = ชาลีแองเจิ้ล อิอิ!

พอเต้นไปเต้นมา....จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาเครื่องแมทที่มันฝากไว้ที่ผม  ผมเลยยื่นไปให้มันโดนที่ก็ไม่ได้สนใจจะดูว่าเป็นเบอร์ใครเพราะกำลังร่าเริงอยู่กะพี่สองคนซึ่งแต่ละคนก็จบคอร์สเอนเตอร์เทนต์มาหรือไงไม่ทราบ  รู้แต่ว่าอยู่ด้วยกับพวกพี่เขาแล้วมันสนุกจริงๆ
แมทเลยขอตัวเอาไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก....ผมก็ไม่ได้ติดใจไรครับ  คงเป็นพวกเพื่อนๆ มันโทรมามั่ง  แล้วก็ชนแก้วเล่นเอาล่อเอาเถิดกับหนุ่มๆ โต๊ะข้างๆ เป็นที่สนุกสนานบันเทิงใจและกายต่อไป

“นุ! ทำไมแมทมันหายไปนานจัง” พี่อันทักขึ้นซึ่งๆ จริงๆ แล้วผมก็เอ๊ะใจอยู่เหมือนกันนั้นแหละครับ  แต่ไม่อยากคิดไรมาก  พอพี่อันทักขึ้นมาอย่างนี้ผมก็ใจหาย

“นั้นสิเคอะ! มันหายไปนานมากแล้วนะเคอะคุณน้อง  นี่ก็....” พี่แบงค์ยกข้อมือขึ้นส่องดูเวลา “....เกือบชั่วโมงแล้วนะที่มันหายไป” น้านนนนนนนน  คุณพี่อิฉัน! รู้สึกว่าจะจับผิดไอ่แมทมันได้ลึกมากเลยนะเคอะ

“หรือมันไปมีเรื่องอยู่กะคนอื่น” ผมนึกและพูดออกมาตามที่คิด “หรือว่ามันจะโดนรถชน” คิดแบบนี้แล้วผมก็ใจหาย

“ไม่หรอกมั่งตัวมันออกจะใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปทำไรมัน  อีกอย่างคนแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีเรื่องท้าตีท้าต่อยกันสักเท่าไหร่นิ” พี่อันว่า

“เออเนอะ! แล้วมันหายไปไหนของมันนะพี่” ผมเริ่มรู้สึกกังวลใจขึ้นมาตะหงิดๆ  เป็นห่วงมันเหลือกำลัง  มันเป็นอะไรไปหรือเปล่านะ

“ช่างมันเหอะนา! เสร็จเรื่องมันคงมาเองแหละ” พี่อันพูดปลอบๆ ผมเมื่อเห็นสีหน้าผมไม่ค่อยสู้ดีนัก

“ครับๆ” ผมว่างั้น

แต่เวลาก็ผ่านไปจนเกือบจะสองชั่วโมงแล้วแมทมันก็ยังไม่กลับเข้ามา  ผมก็ไม่เป็นอันต้นันแรดแล้วครับ  ร้อนใจไปหมด  มันหายของมันไปไหนนะแต่พยายามไม่แสดงออกว่าผมกำลังกังวลใจสุดๆ เรื่องที่แมทหายไปนานขนาดนี้

“พี่พาไปเดินเล่นเอามะ” พี่แบงค์พูดขึ้น

“เออ! ไปดิ  ให้นังนี่มันพาไปเดินเล่นเสียหน่อย  จะได้สบายใจและฉลาดขึ้นมามั่ง”  พี่อันพูดเสริมอีกแรง  แต่ทำไมวันนี้สองคนนี้เป็นไรไม่รู้ครับ  พูดจากันแปลกๆ เหมือนมีเรื่องรู้กันสองคนแล้วทำไมไม่ยอมบอกผมด้วยนะ


......พี่แบงค์พาผมเดินเข้าร้านโน้นออกร้านนี้เหมือนตามอย่างปกติสุดมาถึงร้านสุดท้าย  ร้านที่สี่  ที่มันแต่งร้านเป็นธีมสีม่วงๆ ชมพูๆ ไงครับ

“อ้าว! ไม่เข้าไปหรอพี่” ผมถามพี่แบงค์ที่แกดันหยุดยืนอยู่ตรงปากซอยข้างๆ ร้านนั้นซึ่งมันจะเป็นกระจกมองทะลุเข้าไปข้างในได้

“ไม่ต้องเข้าไปหรอกคุณน้องยืนตรงนี้ก็เห็น” ชีว่า

“อะไรของพี่อะ?  เห็นอะไร?” ผมถามแล้วก็หันหน้าไปมองตามปลายนิ้วที่พี่แบงค์ชี้ออกไป  เธอไม่พูดไม่จาครับเอาแต่ชี้ๆ

สิ่งที่ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาผมตอนนี้คือ  คนตัวสูงๆ โย่งๆ ตาคมๆ สวยๆ ที่ผมคิดว่าผมรู้จักเป็นอันดีและรู้สึกว่ารักมันมากกกกกกกกกกกกก...ใช่ครับ มันคือไอ่แมท!!  

มันกำลังยืนอยู่กับไอ่เสื้อขาวคนที่เข้ามาจีบพี่แบงค์เมื่อวาน  สีหน้าท่าทางไอ่เสื้อขาวดูมีความสุขระริกระรี้มากๆ เลยครับ  

ระดับความโมโหพุ่งปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด  :3029: :3029:

สูงขึ้นจนเส้นเลือดในหัวสมองผมเต้นตุ๊บๆ  แกทำอย่างงี้กับฉันได้ไงว่ะไอ่แมท  กรูอุตส่าหืเป็นห่วงเมิงแทบตายว่าเมิงไปเป็นอะไรลำบากอยู่ที่ไหนหรือเปล่า  แต่ที่ไหนได้..เมิงกับมายื่นทำหน้าระรื่นอยู่กับคนอื่นแบบนี้  แล้วทำวันไหนไม่ทำ  ดันมาทำในวันที่เพื่อนกรูมากันพร้อมหน้าอีก  กรูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาทำให้เห็นกันต่อหน้าต่อตาแบบนี้

ส่วนไอ่เสื้อขาวนั้น  จกเอาผัวกรูมากกได้อย่างงี้มีความสุขมากนักใช่ไหมเมิง  ได้ๆ  เดี๋ยวเมิงก็จะสุขจนล้นเอ่อแน่เมิงคอยดู.... :pigangry2:


.....ผมทำท่าจะเดินบุกเข้าไปตบมันทั้งสองคนในร้านแมร่งมันเลย  โมโหสุดๆ เลยครับ  ตบแมร่งมันล้างน้ำกลางร้านเหล้านั้นแหละดีแล้ว  สาดดดดดดดดดด  เชี้ยพอกันทั้งตัวผู้ตัวเมีย  อัปปรีย์สุดๆ เลย  วันนี้เป็นไงเป็นกันวะ  กรูขอตบแมร่งมันทั้งคู่เลย

“อย่าคะคุณน้อง!!  อย่าเข้าไป!!!!!” พี่แบงค์เอาตัวมาขวางผมเอาไว้

“พี่ปล่อยผมนะ!  พี่ไม่เห็นหรอว่ามันสองตัวทำอะไรไว้กับผม?  พี่จะให้ผมทนยืนอยู่เฉยๆ อย่างงั้นหรอ?” ผมพยายามสลัดตัวให้หลุดจากพี่แบงค์

“ไม่นะคะคุณน้อง  ไม่ๆ  พี่เข้าใจแต่ไม่ใช่ตอนนี้”  พี่แบงค์อย่ารั้งตัวควายๆ ของผมเอาไว้

“มันไม่ไหวแล้วพี่  ยังไงวันนี้กรูของตบแมร่งเชี้ยมันทั้งสองคนเลย  เสือกแหกตากรูดีนักพวกมัน”

“นะๆ พี่ขอ  อย่าเพิ่งมีเรื่องกันเลย  นะๆ กลับไปหานังอันมันก่อนเถอะนะๆ  กลับไปปรึกษากันก่อน”  พี่แบงค์แทบจะทรุดลงอ้อนวอนผม  ผมก็เลยใจอ่อนยอมกลับไปกะพี่แบงค์แต่ในใจผมนะ....ร้อนสุดๆ  คอยดูนะเมิงกลับมาแล้วกูจะตบโชว์แมร่งมันกลางร้านนั้นแหละ

“ใจเย็นๆ นะครับนุ” เสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นมาตอนผมเดินผ่านร้านขายบุหรี่แถวๆ นั้น  ผมเลยหันไปดู

เป็นกรอีกแล้วครับ!!!  มันจะอะไรของมันนักหนาวะ  แมร่ง! กรูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย

“เออ!” ผมตอบกรไปแล้วเดินดุ่มๆ กลับไปร้านเดิมที่พี่อันกำลังรออยู่  พอเข้าไปที่โต๊ะ...พี่อันก็พยักเพยิบกันกะพี่แบงค์สองคนเหมือนจะรู้ๆ กัน

“นี่พีสองคนไปรู้ไรกันมา?  บอกผมมาเลยนะ!” ผมเปิดฉากเค้นความในที่สองคนนั้นไม่ยอมบอกผมเสียที

“ก็เมื่อวานตอนที่เราไปต่อกันที่งามวงศ์วานนะ  ตอนที่เธอเมาเข้าไปอ้วกในห้องน้ำ...พี่เห็นไอ่เสื้อขาวมันเข้ามานัวเนียกับไอ่แมท” พี่แบงค์ว่างั้น

“จริงหรอพี่?!!” ผมตะลึงถามตาโต  อะไรมันจะขนาดนั้นวะ  มันเริ่มมาตั้งแต่เมื่องวานแล้วหรอ?

“เออสิ  ตอนแรกพี่ก็นึกว่ามันเข้ามาจีบพี่...ที่ไหนได้  มันใช่พี่เป็นสะพานเข้ามาหาผัวคุณน้องมากกว่าตะหาก”  พี่แบงค์เล่าหน้าเสียๆ

“พอเมื่อวานที่พี่โทรมาหานังนี่เรื่องว่าจะลงมา...” พี่อันพูดบ้าง “....มันเลยเล่าให้พี่ฟัง  มันว่ามันไม่กล้าบอกให้เธอรู้  กลัวจะกลายเป็นว่ามันทำให้ผัวเมียเขาทะเลาะกัน”

“พวกพี่เลยปิดบังผม?”

“แล้วจะให้พี่ทำไงได้คะ?  เรื่องผัวเมียทะเลาะกัน....คนนอกอย่างพี่เข้าไปยุ่งมากๆ มันก็ไม่ดีนะเคอะ”

“พวกพี่เลยปรึกษากันว่าจะทำไงดี....มันเลยออกมาแบบนี้” พี่อันว่า

.....ผมก็เข้าใจพวกพี่เขาสองคนนะว่าพี่เขารู้สึกและคิดกันยังไง  ผมไม่โทษพี่เขาหรอกครับ  แต่ไอ่ตัวต้นเรื่องนะสิ.....มันน่านะ  นั้นไงครับมันเดินเข้ามาพอดีเลย  ผมกำแก้วเหล้าไว้ในมือแน่

“โทษทีครับพอดีเพื่อนมันคุยธุระนานไปหน่อย”

“เพื่อนหรอแมท...เพื่อนหรอ?”  ผมถาม

“จ๊ะ  เพื่อนโทรมานะ”

“เพื่อนใช่ไหม?  นี่แนะ!!...”

ผมสาดเหล้าแก้วในมือใส่หน้ามันเต็มๆ เลยครับ  พวกพี่อัน  พี่แบงค์ร้องเสียงหลง  โต๊ะข้างๆ ก็หันมาดูผมกะแมทกันเป็นตาเดียวเลย.....
.............................................................



 :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
โอยสงสารเจ๊อะ ให้ผมไปช่วยยำไม๊เจ๊  :pigangry2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
โหย  เจ๊  :o :o  เสียดายเหล้า :serius3: :serius3:  น่าจะเอาเปนท่านี้ดีก่า  :beat: เจ็บตัวแต่ไม่เปลืองเหล้า :laugh3: :laugh3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2007 13:14:17 โดย A GE »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
โหเจ้ มาโกหกกันซึ่งหน้าขนาดนี้ แถมอยู่ในถิ่นเจ้ด้วย  :serius2:
จัดการเลย  :pigangry2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
โห.... เจ้สองยังไม่นอนเหรอเนี่ย  เป็นมนุษย์ค้างคาวว้อยยยยยยย

ว่าแต่เจ้  เอาเหล้าสาดหน้า  สะจายยยยยยแบบเจ็บปวด ๆ  :impress3:

รออ่านต่อ  :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เหอะๆ เจ็บปวดมากเลยนะครับที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 :monkeycry4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
โหเจ๊เสียดายเหล้าอ่ะ วันหลังสาดหมัดดิไม่เปลืองแต่เจ็บนิดนึงนะ :yeb:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
มารออยู่คับ :sad4: :impress: :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
......เปล่าหรอกครับผมไม่ได้ทำอย่างนั้น  ผมแค่คิดว่าจะทำเฉยๆ แต่คิดไปคิดมาด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างแล้วไม่ทำดีกว่า  ผมเลยยกเหล้าแก้วนั้นขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว 

“พี่อันพี่แบงค์....วันนี้น้องกลับก่อนนะ” ผมบอกลาพี่สองคนที่ยังยื่นอึ้งๆ งงๆ อยู่แล้วเดินออกมาเลยครับ

“ตัวๆๆ  ตัวจะไปไหนนะ  รอเค้าด้วย”  แมทมันตะโกนแล้วเดินตามผมมา  แต่ผมก็ไม่สนใจครับเดินตรงไปเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านเลย  แท๊กซี่ก็เป็นใจวิ่งเข้ามาจอดเทียบท่าแทบเท้าผมเลยครับ  ผมเลยเปิดประตูขึ้นไปนั่งแล้วบอกทางพี่เขา

“ไปสาธุประดิษฐ์ครับ” ผมบอกพี่เขาแล้วกำลังจะปิดประตู

“ไม่ไปครับ” ไอ่แมทมันโผล่หัวตามเข้ามาในรถ “ตัว! ลงมานี่นะ” มันพยยามเข้ามาดึงแขนผมฉุดให้ลงไป

“ไม่!  พี่ออกรถเลยครับ”  ผมดิ้นรนปัดป้องแกะมือมันออกแล้วก็บอกพี่แท๊กซี่เขา

“ไม่ให้ไป!!  พี่ไม่ต้องไปฟังเขา  ผมไม่ให้แฟนผมกลับ....พี่ไม่ต้องไปส่งเลย  แฟนผมต้องกลับกับผม!!”

“ไม่โว้ยยยยยย  ปล่อยนะบอกให้ปล่อยไง”  ผมก็ดิ้นๆ แถมเอาเท้าเตะมันถีบมันให้ถอยไป  โดนไปหลายดอกเหมือนกันครับแต่มันก็ไม่ยอมถอย

“น้องลงไปเคลียร์กลับแฟนดีๆ ก่อนไหม  เดี๋ยวสีรถพี่ถลอก” พี่แท็กซี่ว่ามา

“ไม่พี่!!  ผมกับมันไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว  นี่!! เอาไปเลยแหวนเมิง  กรูขอคืน” ผมถอดแหวนที่ใส่อยู่ในมือปาใส่หน้ามัน  โดนด้วยแหละครับ  มันก็ละมือที่ใช่จับผมข้างหนึ่งไปหยิบแหวนแต่อีกข้างมันก็ออกแรงดึงผมพรวดจนกระเด็นออกมานอกรถ  แล้วมันก็ปิดประตู ปัง! พี่แท็กซี่ก็ดีใจหาย  รีบเคลื่อนรถออกไปเลยครับ

“ถอดทำไม?  ไหนว่าจะไม่ถอดแหวนไง  แล้วนี้มันหมายความว่าไง?” มันดึงผมมายืนฟังมันตะคอกใส่หน้าอยู่ริมฟุตบาธหน้าร้านเหล้า  พี่แบงค์กับพี่อันก็ออกมายืนดูตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่ทราบครับ  คนแถวนั้นที่ยืนอยู่ก็หันมาดูกันใหญ่  แต่ผมหมดไปแล้วหละครับสำหรับ....ยางอาย

“ก็ถอดไง  ตัวจะได้ไปให้พ้นๆ เค้าเสียที  ไปเลยไป  จะไปลงนรกหรือตกเหวตายที่ไหนก็ไป  ไปสิโน้น!!  ป่านนี้อีนั้นมันคงรอตัวไปหามันอยู่แล้วหละ!!”

“มันไม่ใช่อย่างที่ตัวคิดนะ  คนนั้นแค่โทรมา....บอกให้เค้าออกไปหาเฉยๆ เค้าก็กะว่าจะออกไปแป๊บเดียวแล้วก็กลับ  แต่คนนั้นเขารั้งตัวเค้าเอาไว้  กว่าเค้าจะปลีกตัวออกมาได้ก็แทบแย่!!”

“น่าเชื่อมากกกกกกกกกกกกก  ใครเชื่อก็โง่แล้วเป็นควายหละ” ผมเถียงมันเสียงดังไม่แพ้กัน

“ไม่ได้โกหกหรอกนะ  เชื่อกันบ้างสิ  ไป  เข้าไปในร้านเดี๋ยวนี้เลย” มันยังมาสั่งผมอีก  “แล้วแหวนนะใส่กลับคืนไปสะ  แล้วจำไว้นะว่าตัวไม่มีสิทธิ์ถอดแหวนออก”  มันทำหน้าเหมือนจะเข้ามาบีบคอผมให้ตายอย่างงั้นแหละ  ผมก็กลัวๆ นิดหน่อย  ความโมโหเริ่มลดลงแระส์

“นั้นสินุ!  เธอเข้าไปต่อกับพวกพี่เถอะ นะๆ  มีไรก็ค่อยไปพูดจากันที่บ้าน” พี่อันเข้ามาลูบๆ แขนผมหมายจะให้ผมใจเย็นลงบ้าง  ก็ได้ผลครับ....เดินยอมใส่แหวนคืนแล้วก็เดินตามไอ่คนร่างโย่งที่จูงมือผมไม่ยอมปล่อยเลยทีนี้แล้วลากให้ผมเดินเข้าไปต่อด้านในร้านตามเดิม

จนร้านเลิก...  ผมก็นั่งแท๊กซี่กลับกับแมทมันสองคน  ส่วนพี่แบงค์พี่อันคงเห็นท่าไม่ไดีเลยขอแยกตัวออกไปก่อนเลย
.....................................................


สั้นๆ ก็พอเนอะ  :110011: :110011:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
โหเจ๊สองอะเอามาลงน้อยจัง  :serius2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
.....จนสุดท้ายผมกะแมทกลับถึงห้อง....ผมก็ไขกุญแจเข้าไปแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปเลย  ไม่พูดไม่จากะมันตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว

พอออกมาก็เห็นมันนั่งเอามือหมุนแหวนบนนิ้วมันเล่นอยู่บนเตียง   เปิดโคมไฟหัวเตียงดวงเล็กๆ เพียงดวงเดียวเหมือนอย่างที่มันทำอยู่เป็นประจำเวลาอยู่ที่ห้องของมัน

ผมก็เฉยครับ  ไม่ทัก  ไม่พูด  ไม่ไล่ให้ไปอาบน้ำหรืออะไรทั้งสิ้น  เดินไปทรุดตัวลงนั่งหมิ่นๆ บนขอบเตียงอีกฝั่งหนึ่งแล้วเป่าผมให้แห้งกะว่าแแห้งแล้วค่อยนอน

“ตัว.....” จู่ๆ มันก็เรียกผม

“.........” เงียบครับ  ผมยังโมโหมันอยู่มากๆ  เลยไม่อยากจะพูดด้วย

“เค้าไม่ได้เป็นเริ่มนะ ไอ่เสื้อขาวมันโทรมาเอง”

“แล้วไง!” ผมหันไปแว้ดใส่มัน “พูดออกมาได้ว่าไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม  ใครเริ่มมันก็เหมือนกันนั้นแหละ  แล้วไหนเล่ามาสิว่าเรื่องมันเริ่มขึ้นมาได้ยังไงกัน?  อย่าปล่อยให้เค้าเป็นคนโง่อยู่อีกต่อไปเลย”

คราวนี้ผมหันหน้าไปเผิชญกับมันเต็มตัวมันเองก็กระเถิบเข้ามาใกล้ผม  ผมจ้องหน้ามันตาเขม็งความโมโหที่ผมพยายามสะกดกลั้นเอาไว้กลับวิ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆ อีกหน

“ไม่ได้โง่” มันพูดเนือยๆ “ก็เมื่อวานตอนไปต่อกันที่เกษตรนะ  พอตัวกะพี่แบงค์เมา...ไอ่เสื้อขาวมันก็เข้ามาชวนเค้าคุยแล้วก็ขอเบอร์เค้า” มันว่า

“ตัวก็เลยให้ไป  ทั้งๆ ที่เค้าก็อยู่ตรงนั้นงั้นหรอ?”

“ตัวอยู่ในห้องน้ำ...”

“แล้วไง? ห้องน้ำมันก็อยู่ในร้านนั้นนั่นแหละ”

“ก็เค้าเห็นว่ามันมาจีบพี่แบงค์  ก็เลยให้ๆ ไปนะ”

“แกล้งหรือว่าไม่รู้จริงๆ กันแน่นะว่าที่มันเข้ามาขอเบอร์ตัวนะเพราะว่ามันสนใจตัว”

“ก็รู้” มันรับเสียงอ่อย

“รู้แล้วยังให้?”

“ก็ไม่ได้เสียหายไรนิ”

“ไม่ได้เสียหายไร?  ตลอดเวลาที่ผ่านมัน..เรื่องทุกเรื่องกะคนทุกคนที่เค้ามาตัวคิดอย่างงี้ตลอดเลยใช่ไหม?”

“อืม! ก็มันไม่เสียหายจริงๆ นิ  อีกอย่างเค้าไม่ได้เป็นฝ่ายเสนอ  พวกนั้นมันคนเสนอมาต่างหาก”

 “อ๋อ! พอมีคนเสนอมาก็เลยต้องสนองสิ”

“ใช่!!”

“ว่างมากเลยนะ  เที่ยววิ่งแล่นสนองเค้าไปทั่ว  แล้วที่นั่งหัวโด่อยู่นี้เป็นใคร?”

“ก็แฟน....”

“แฟน?! ตัวบอกว่าเค้าเป็นแฟนแล้วตัวยังมาทำอย่างงี้นี้นะ  มันไปด้วยกันไม่ได้เลยนะจะบอกให้”

“แล้วจะให้เค้าทำไง  ก็พวกนั้นมันเสนอมาค้าก็เลยสนองไปก็เท่านั้นแล้วก็จบ  ไม่ได้คิดไรต่อ  แล้วทุกครั้งเค้าก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นด้วย  เค้าอยู่ของเค้าเฉยๆ”

“หึ!!  จะบอกว่าตัวเองไม่ใช่คนผิดว่างั้น?”

“ก็แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นิไม่ใช่หรอ?  เค้าผิดตรงไหน”

“ผิดตรงไหนหรอ?  ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เรื่องทุกเรื่องตัวไม่เคยผิดเลยงั้นหรอ?  ที่ตัวทำมันไม่ได้เรียกว่าผิดเลยใช่ไหม?  ทั้งเรื่องเจ้าชู้บ้าบอคอแตกทั้งหลาย  แล้ววันนี้ยังมาทำต่อหน้าต่อตากันขนาดนี้อีก  ตัวถูกตลอดเลยใช่ไหม? ไม่ผิดเลยใช่ไหม?” ผมโมโหจนลุกขึ้นตวาดใส่หน้ามันที่ลอยหน้าลอยตายืนยันว่ามันไม่ผิด

“ไม่ผิด!!” มันว่า

เปรี๊ยะ!!!!


 :o :o

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เปรี๊ยะ!!!!

ผมตบหน้ามันไปเต็มๆ แรงสุดแรงเกิดที่ผมมี  หน้ามันหันไปตามแรงปะทะของฝ่ามือผม  ผมเจ็บมือจนมือชา  มือผมสั่นระริกทั้งด้วยความโกรธและความเจ็บจากเนื้อกระทบเนื้อ

“นี้เป็นรางวัลสำหรับคนไม่ผิด”

ผมพูดย้ำๆ ใส่หน้ามันแล้วเดินไปล้มตัวลงนอนหันหลังบนเตียง  ส่วนมันจะทำยังไงอยู่ยังไงต่อก็ช่างหัวมัน....ผมไม่สนใจแล้ว
ห้องทั้งห้องเงียบสงัดไปหมด....  ผมได้ยินเสียงมันลุกขึ้นช้าๆ เหมือนมันจะเดินไปหยิบอะไรสักอย่าง...คงเป็นพวกกระเป๋าสตางค์  แล้วมันก็เดินมาหยุดต้องหน้าผมที่แกล้งหลับอยู่  มันหยุดอยู่อย่างนั้นสักพักแล้วมันก็เดินเปิดประตูออกไป  ผมใจหายแว้บ!!  ดึกดื่นอย่างนี้มันจะออกไปไหนของมัน  แต่ช่างมัน!!  เรื่องของมันผมไม่สน  ไปตายซะได้ก็ยิ่งดี

พอมันออกไปได้สักพักผมก็ลืมตาลุกขึ้นนั่ง....  ห้องทั้งห้องนั้นว่างเปล่ามีเพียงผมเพียงคนเดียวที่เรียกว่าสิ่งมีชีวิตอยู่ในห้องนี้  ทุกอย่างมืดไปหมด  มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจผม....ที่ผมทำลงไปมันถูกหรือเปล่านะ  ผมต้องการให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้หรือ?  แบบที่สุดท้ายแล้ว....มีผมนั่งอยู่เพียงลำพังในความมืดอย่างงี้นะหรือ?

ผมค่อยๆ ลุกขึ้นไปเปิดประตูแล้วชะโงกหน้าออกไปดูตามทางเดิน.....ไม่มีวี่แววของสิ่งที่เรียกว่ามีชีวิตอยู่เลย  ทุกอย่างว่างเปล่าหมด  เหมือนโลกทั้งโลกมีผมอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น 

ผมเดินกลับมานั่งที่เตียง  แต่ผมยังเปิดประตูค้างเอาไว้อย่างนั้น  เผื่อว่ามันอาจจะกลับมา  มัน...ที่ผมรักเหลือเกินแต่วันนี้ผมได้ลงมือทำร้ายมันด้วยมือผมเอง  มือข้างขวาที่ผมตบหน้ามันไปยังรู้สึกชาๆ  แล้วมันหละ?  ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง  ผมตบลงไปแรงขนาดนั้น  มันนั่ง...ผมยืน  มันจะเจ็บขนาดไหนกันนะ  ผมไม่อยากจะคิดเลย  แล้วก็มีเสียงเหมือนคนกำลังวิ่งเข้ามา  ผมรีบลุกออกไปดู
เป็นมันครับ  มันจริงๆ ด้วย

“เค้าไปจากตัวไม่ได้  ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วย  ทำไม?” มันเข้ามาก็จับไหล่ผมเขย่าถามใหญ่เลย  แสงจากทางเดินที่ลอดเข้ามาช่วยให้ผมเห็นหน้ามันในความมืดสลัวๆ ภายในห้องได้

แก้มข้างนั้นบวมขึ้น  แต่ที่ทำให้ใจผมแทบสลายไปมากกว่านั้น  คือน้ำตาที่ไหลออกมามากมายจากตาคู่สวยที่ผมเคยอิจฉามันมาตลอด  น้ำตาไหลมาเป็นทางอาบสองแก้ม...ที่ข้างหนึ่งบวมขึ้นเพราะฝีมือผม

“ตัวดีๆ นะ” ผมโผ่เข้าไปกอดมัน  “ไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไปไหน  อยู่ด้วยกันที่นี่แหละ”

“ไม่!  เค้าอยู่ไม่ได้  เค้ารับไม่ได้ท่ตัวทำกับเค้าอย่างงี้  เกิดมาพ่อแม่เค้ายังไม่เคยตีเค้าเลย  แต่ตัว....” มันสะอึกสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดผม มัน...ผู้ชายตัวโตๆ ที่ตอนนี้ร้องไห้เหมือนคนใจจะขาด  อกที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงสะอื้นและหยดน้ำเย็นๆ ที่รดลงมาโดนตัวผมทำให้ใจผมดิ่งวูบลงสู่เบื้องล่าง

“นะตัวนะ!  อยู่ด้วยกันเถอะ  ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น  อยู่ด้วยกันกะเค้าที่นี่”  ผมพูดพลางกระชับอ้อมกอดที่โอบมันไปพลาง  ถึงตอนนี้ผมเองก็ร้องไห้ไม่แพ้มัน

“เค้าอยู่ไม่ได้......  เค้าอยู่กับคนที่ทำร้ายเค้าแบบนี้ไม่ได้  แต่เค้าไปจากตัวไม่ได้  ทำไมตัวต้องรัดเค้าไว้ด้วยห่วงแบบนี้ด้วย  ทำไม!” น้ำตามันยังไหลต่อเนื่อง  ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันและละมือข้างหนึ่งไปปาดน้ำตาให้มันทั้งๆ ที่ผมเองก็มองอะไรไม่ชัดในตอนนี้

“อยู่ได้นะอยู่ได้.....  อยู่กันสองคนเหมือนที่เราอยู่กันมาไง  ตัวอย่าไปไหนเลยนะ  อยู่ด้วยกันก่อน  อยู่ด้วยกันก่อนนะ” ผมพยายามบอกมันด้วยคำพูดประโยคเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา  แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรมันเลย

“ทำไมตัวต้องทำกับเค้าแบบนี้  ทำไมเค้าไปจากตัวไม่ได้  ทำไมโว้ย!!!” มันตะโกนถามใส่หน้าผมแล้วสลัดตัวออกจากอ้อมแขนผมวิ่งไปทางผนังห้องแล้วเอาหัวโขกลงแรงๆ เสียงดังกลึงๆ

ผมโถมเอาตัวเข้าปล้ำกอดขัดขวางมันไม่ให้มันทำอย่างนั้น  เสียงโขกที่ดังสนั่นขนาดนี้มันคงจะเจ็บมาก  มันพยายามสลัดผมออกอีกแล้วโขกหัวลงไปอีก  ผมจึงเอามือเข้าไปบังและรองรับหน้าผากมันไว้ไม่ให้กระแทกโดนผนังแต่กลับกลายเป็นว่าคนที่เจ็บคนผม 

“โอ้ย!!”  ผมร้องขึ้นสุดเสียง  มือข้างนั้นของผมชาร้าวไปทั้งแถบ  ความเจ็บมันแล่นแปล๊บขึ้นมาถึงข้อศอก  ผมทรุดลงนั่งกุมมือตัวเองเอาไว้

“ตัว!!  เป็นยังไงมั่ง” มันยังมีแก่ใจมาถามถึงอาการของผมอีก  แต่ดูหน้ามันสิครับ  เลือดแดงๆ ไหลซึมออกมาจากรอยแผลที่ปริบวมจนเหมือนจะแตกนั่นบนหน้าผากของมัน

“เจ็บไหม?” ผมถามมันกลับโดยที่ไม่สนใจตอบคำถามถึงอาการเจ็บของตัวเองเลย “อย่าทำแบบนี้อีกนะ  ตัวเจ็บเค้าก็เจ็บนะ”
แต่มันไม่ตอบกลับถามถึงอาการของผมอีก  “ตัวเจ็บไหม? เพี้ยง!! หายเจ็บนะครับ” มันจับมือผมขึ้นไปลูบเบาๆ แล้วเป่าให้

“เพี้ยง!! หายเจ็บเหมือนกันนะครับ” ผมชะโงกตัวไปเป่าที่รอยบวมปริที่หน้าผากมันแล้วพูดเหมือนกัน “เรารักกันนะ” ผมบอกมันทั้งน้ำตาก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกอดมันแน่นๆ

“ครับๆ เรารักกันครับ” มันปาดน้ำตาให้ผม แล้วเราก็นั่งร้องไห้กอดกันอยู่ตรงนั้นท่ามกลางความมืดไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แล้วมันก็พูดว่า “ไปนอนนะตัว  ไปนอน.....ดึกแล้ว” มันบอกผมด้วยเสียงเหมือนคนกลั้นสะอื้น  ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย  ลุกขึ้นเดินตามมือคนที่จูงผมไปส่งที่เตียง  มันประคองให้ผมล้มตัวลงนอนแล้วห่มผ้าให้

“แล้วตัวไม่นอนด้วยกันหรอ? จะไปไหน?” ผมถาม

“ตัวนอนเถอะ  เค้าไม่ไปไหนหรอก  จะนั่งอยู่ตรงนี้ข้างๆ ตัวนี้แหละ หลับตานะครับ”

ผมทำตามที่มันบอก  หลับตาลงไปได้สักพักหนึ่ง


เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!!

ผมได้ยินเสียงนี้ซ้ำๆ ดังขึ้นใกล้ๆ  ผมเลยลืมตาขึ้นดู

แมทครับ!!  มันมันนั่งตบหน้าตัวเองอยู่ข้างๆ เตียงผมอย่างนั้น  ผมรีบถลาลงไปคว้าจับมือมันเอาไว้



ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
“พอแล้ว!! พอแล้วตัว  อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ  อย่าทำ” ผมละล่ำละลักห้ามมันไว้  แต่มันก็ยังขืนมือที่ผมรั้งไปตบแก้มตัวเองอีก

“ปล่อยเค้าสิ!  เค้าจะทำให้มันชิน  เค้าจะได้ชินไงว่าตัวตบเค้าแบบนี้  พอเค้าชินแล้วเค้าจะได้ไม่ต้องจากตัวไปไหน”

“ไม่ๆ  เค้าจะไม่ตบตัวอีกแล้ว  เค้าขอโทษ  ขอโทษนะ  ขอโทษจริงๆ” ผมพร่ำขอโทษมันทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง  มันเองก็ไหลออกมาไม่แพ้กันหรอกครับ

“ตัวรู้ไหม?  เค้าพยายามแล้วนะ  พยายามปรับตัวพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นไม่ให้เจ้าชู้เหมือนเก่า  แต่เค้าก็เคยบอกตัวแล้วว่าเค้าเป็นคนเจ้าชู้...”

“....แต่เค้าก็ยังไปรักตัว” ผมแย่งมันบอกเสียก่อน  มันก้มหน้านิ่งไม่ยอมเงยหน้าสบตาผม  ผมเห็นหยดน้ำเปื้อนกางเกงที่มันใส่เป็นวงๆ และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผมเองก็รู้สึกได้ถึงความเปียกที่อกเสื้อของตัวเอง

“ตัวรู้ไหม?  เค้าไม่เคยมองใครอีกเลยนับตั้งแต่หลังจากที่เค้ามีตัว  แต่คนพวกนั้นก้ยังเค้ามาอีก  กับบางคนเค้าก็ปฏิเสธไปแต่กับบางคนเค้าก็สนองเมื่อฝ่ายนั้นเสนอมา”

“ครับๆ  ต่อไปเค้าจะไม่ว่าตัวแล้วครับ นะนะๆ  อย่าตีตัวเองอีกนะ”

“เค้าพยายามแล้วนะตัว  พยายามทำทุกอย่างให้เค้าดูดี  ให้เค้าดูเก่งให้สมกับที่ตัวรักเค้า  พวกเพื่อนๆ ของตัวจะได้ไม่ว่าตัวที่ตัวมาคบกะเค้า  เค้าพยายามแล้ว...แต่เค้าก็ทำได้เท่านี้”

“เท่านี้ก็พอแล้วแมท  เท่านี้เค้าก็พอใจแล้ว”

“ก็ดีครับ!  ตัวรู้ไหมว่าเค้าอยู่โน้นเค้าเหงาแค่ไหน?  มีแฟนก็เหมือนไม่มี....เค้าอยู่หาดใหญ่  ตัวอยู่กรุงเทพฯ  เค้าอยากขึ้นมาหาก็ขึ้นมาไม่ได้เพราะติดเรียน  ได้แต่รอ...รอแล้วก็รอ  รอแล้วรออีกว่าเมื่อไหร่ที่ตัวจะว่างลงไปหาเค้า  ตัวรู้ไหมว่าเค้าดีใจแค่ไหนเวลาที่ตัวลงไปหาเค้า?  บัวมันยังบ่นเลยว่าเค้าทิ้งมันเวลาตัวลงไป  แต่เค้าก็ไม่รู้จะทำไงเพราะเค้าอยากอยู่กับตัวตลอดเวลาที่ตัวลงไปหาเค้า  เค้ากวาดห้องถูพื้น  ล้างห้องน้ำ  เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ตัวใหม่ทั้งครั้งที่ตัวลงไปหาเค้า  เพราะเค้าจำได้ว่าตัวแพ้ฝุ่น  เค้ากลัวตัวคันนอนไม่หลับแล้วไม่อยากจะลงไปหาเค้าอีก”

แมทพูดร่ายยาวออกมาเรื่อยๆ .....ผมนั่งฟังไปด้วยใจรันทด  ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแมทมันทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้

“บางช่วงบางเวลาเค้าคิดถึงตัวมาก...มากจนอยากจะขึ้นมาหาเดี๋ยวนั้นเลยแต่เค้าก็ทำไม่ได้  บางคืนเค้าอยู่คนเดียวเค้าก็คิดถึงตัวนอนดูรูปของตัวในมือถืออยู่คนเดียว  ห้องมันเงียบมากเลย  เงียบจนเค้าต้องร้องไห้  แต่ตัวคงไม่เคยรู้  ยิ่งตอนโทรศัพท์เสีย....เค้าโทรหาตัวบ่อยๆ ไม่ได้  ช่วงนั้นเค้าทรมานมากต้องคอยไปหยอดเหรียญโทรตามตู้  แต่แค่ได้ยินเสียงตัวเค้าก็พอใจแล้ว”

แล้วผมก็รับรู้ว่าการที่แมทมันโทรหาผมเช้าเที่ยงเย็นนั้น  จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่การโทรมาตามความเคยชินของแมทแน่ๆ  แต่มันคือการที่.....ใครสักคนหนึ่งคิดถึงคนอีกคนหนึ่งอย่างมาก  ขอเพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว  ฟังมาถึงตอนนี้....ใจผมเหมือนมีใครมากดบีบด้วยแรงมหาศาล

“ขอโทษนะแมท  ขอโทษ...เค้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย”

“ใช่สิ! ตัวคงไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเค้าเลย  ตัวห้ามไม่ให้เค้าพาใครไปที่ห้อง...เค้าก็ทำ  เค้าไม่เคยพาใครไป  แล้วตัวหละ? .....”

.....แมทเว้นช่วงไปแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม.....

“.....ตัวทำอะไร?  ตัวมาลองเป็นเค้าดูไหม....แล้วตัวจะได้รู้ว่าความรู้สึกของคนที่รู้อยู่ตลอดเวลาว่าแฟนของตัวเองอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน  นอนเตียงเดียวกันกับแฟนเก่าที่มันยังคงรักแฟนของตัวเองอยู่นั้นมันเป็นยังไง?  ตัวชอบพูดอยู่เสมอว่าตัวทรมานใจตลอดเวลาที่เค้าคบกับพี่ฐา  แล้วเค้าหล่ะ?  ตัวจะให้เค้ารู้สึกยังไงที่แฟนตัวเองใส่แต่กกน. เดินไปเดินมาในห้องที่มีคนอื่นอยู่ด้วย  ตัวเคยคิดบ้างไหม?”

“ขอโทษ” มันเป็นเพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่ผมจะสามารถพูดออกไปได้ตอนนี้

“เค้ายอมทะเลาะกับที่บ้านเรื่องตัว....เพื่อที่จะได้คบกับตัวต่อไปอีก  เค้ายอมโดนพ่อแม่ด่าเรื่องไม่ยอมกลับเพียงเพื่อรอและได้อยู่กับตัวตอนที่ตัวลงไปหาเค้าเท่านั้น  ตัวไม่รู้หรอกว่าเค้ามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่กับตัวตอนที่ตัวลงไปหา”

ใช่สิ! สีหน้าของแมทที่เดินยิ้มเข้ามาหน้าผมตอนไปรับผมที่สนามบินผุดขึ้นมาในสมอง  พอแมทเจอผม...แมทก็เดินเข้ามาคว้ากระเป๋าที่ผมหิ้วอยู่ไปถือทันทีแม้ว่าผมจะบอกว่าผมถือเองได้  ห้องแมทจะสะอาดและเรียบร้อยเกินกว่าห้องผู้ชายทั่วไปทุกครั้งเวลาที่ผมลงไปหา  แมทจะกระตือรือร้นพาผมไปโน้นพาผมไปนี่  สรรหาแหล่งของกินแล้วพาผมไปหรือไม่ก็ขลุกอยุ่กับผมทั้งวันไม่ไปไหนถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แม่กระทั้งตอนเรียน...ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่  แมทก็จะแว่บออกมาหาผมทันทีอยู่เสมอ

“ส่วนเรื่องเจ้าชู้เค้าก็ค่อยๆ ปรับแล้วนะ   จากเมื่อก่อนที่เค้าจีบคนไปเรื่อยฟันไปเรื่อย  โทรหาโทรจีบไปเรื่อยเปื่อย  จนตอนนี้เค้าไม่มองใครเลย ไม่เคยเริ่มต้น ไม่โทรหาใครอีกนอกจากตัวคนเดียว  ปล่อยให้พวกนั้นเป็นคนโทรเป็นคนเข้ามาจีบเค้า  แต่ก็มีบ้างที่เข้าไปคุยสนุกๆ ตอนไปเที่ยว  แต่ตัวก็เห็นนิ  เค้าทำต่อหน้าให้ตัวเห็น...ให้ตัวรู้ว่าเค้าบริสุทธิ์ใจนะ  ไม่ได้คิดอะไร”

นี้คือความคิดในใจของแมทที่ผมไม่เคยรู้  แต่สิ่งที่ผมเห็นคงการที่แมทเข้าไปจีบเข้าไปคุยกับคนพวกนั้นซึ่งทำให้ผมโมโหและไม่พอใจแมทมาตลอดที่แมททำต่อหน้าผมแบบนี้  ผมพาลคิดไปอีกแล้วขนาดอยู่ต่อหน้าผมแมทยังทำขนาดนี้...แล้วลับหลังหล่ะ?  แมทจะทำขนาดไหน  ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่ผมคิดเลย

“แต่สุดท้ายเค้าก็รู้ว่าเค้ายังไม่ดีพอสำหรับตัว”

“ตัวรู้ได้ไงว่าตัวไม่ดีพอ?”

“เค้าได้ยินสิ่งที่ตัวพูดถึงเค้ากับพี่แบงค์ตอนที่เค้าลงไปซื้อยากับเอาน้ำไปเติมไง  ความจริงเค้าเดินขึ้นมาตั้งนานแล้วหละแต่ได้ยินเสียงตัวสองคนคุยกันเลยหยุดแอบฟังอยู่หน้าห้อง”

ผมใจหายวาบ....นี้แมทได้ยินสิ่งที่ผมพุดกะพี่แบงค์ในวันนั้นหรอ?  ผมพูดถึงแมทในแง่ไม่ดีไปตั้งเยอะจำพวกเรื่องที่แมทไม่ได้ดั่งใจผมเรื่องต่างๆ  แมทคงรู้สึกแย่มากๆ ที่ได้ยินผมพูดเรื่องพวกนั้นกะพี่แบงค์

“เค้ารู้สึกไม่ดีนะบอกตรงๆ  จะเรียกว่าเสียใจก็ได้  คราวหลังถ้าตัวไม่พอใจเรื่องอไรของเค้าตรงไหนก็มาบอกกับเค้าตรงๆ ก็ได้”

“คือเค้า....เอ่อ....” ผมจนคำพูดไปในที่สุด

“ช่างมันเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้ว  ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตัวในตลอดเวลาที่ผ่านมา...เค้าขอบอกให้ตัวรู้ไว้ว่าเค้ารู้ทันตัวตลอดแต่ไม่อยากพูดเท่านั้น  ทั้งเรื่องที่ตัวจัดการกับพวกที่เข้ามาจีบเค้ายังไงบ้าง  ทั้งเรื่องไอ่......”  แมทเงียบไป

“ไอ่อเล็กซ์นั้นหรอ?” ผมถาม

“อืม.....แต่ช่างมันเถอะ  ตัวไม่ได้เต็มใจนิ  เค้าไม่คิดมากหรอก”

ถึงแมทจะบอกว่าไม่คิดมาก  แต่มือที่กุมเข้าหากันแน่นขึ้นตอนที่ผมเอ่ยชื่อนี้ออกไปทำให้ผมรู้ได้ว่าแมทคงเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก

“ขอโทษนะ  ขอโทษจริงๆ ต่อไปมันจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีกแล้ว  เค้าสัญญา”

“ครับ! เค้าเชื่อตัว  เอาเถอะ!!  ดึกแล้ว....นอนซะนะ  พรุ่งนี้เค้าต้องขึ้นรถกลับบ้านอีก”

“อืม...นอนด้วยกันนะ”

“ตัวนอนก่อนเถอะ  เค้าขอนั่งอยู่ตรงนี้แป๊บนึง”

“ได้ครับ” ผมลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหันหน้ามาหามัน  “แมท....” ผมเรียก

“หือ?!”

“จับมือหน่อย” ผมยื่นมือออกไปหาแมท

“ครับ” แมทหันมายื่นมือให้ผมข้ามไหล่มาแล้วนั่งหันหลังพิงขอบเตียงอยู่อย่างนั้น  สีหน้าไม่ค่อยดีขึ้นสักเท่าไหร่  แมทมันคงคิดมากผมรู้!  เพราะแมทมันเป็นคนอย่างนั้น...คิดมากกว่าพูด

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
.....ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ครับ  ตื่นขึ้นมาอีกที่คงสายๆ แล้ว  สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ  แมทฟุบหลับอยู่ข้างๆ เตียงตรงที่เดิมที่แมทนั่งอยู่เมื่อคืน  มือผมยังอยู่ในมือแมทเช่นเดิม

ตาของแมทบวม...คงเหมือนตาผมตอนนี้  แต่สิ่งที่ต่างออกไป  หน้าผากแมทบวมนูนเป็นสีม่วงคล้ำ  มีรอยแตกปริเลือดที่ซึมออกมาแห้งเกรอะกรัง  ผมอดที่จะเสียน้ำตาให้กับสิ่งที่ผมเห็นอีกครั้งไม่ได้  นี่ผมทำร้ายแมทมันขนาดนี้เลยหรือ? 

ผมค่อยๆ เอื้อมมืออีกข้างไปแตะเบาๆ ที่แผล

“อุ้ย!” แมทสะดุ้งตื่น

“เจ็บมากไหมตัว?”

“ไม่ครับ  ไม่เจ็บเท่าไหร่  กี่โมงแล้วหละ?” แมทเหลียวมองไปรอบๆ หานาฬิกา

“เที่ยงกว่าแล้วอะ” ผมว่า

“งั้นตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วเราไปหาข้าวกินกันดีกว่า” แมทชวน


......แล้วผมก็มาส่งแมทที่ขนส่งสายใต้

“ดีๆ นะ แล้วค่อยโทรคุยกัน” ผมบอกตอนที่แมทกำลังจะเดินขึ้นรถ

“เค้าว่าเราอย่าเพิ่งโทรคุยกันเลย  ลองห่างกันไปสักเดือนแล้ว....” แมทเงียบไปเหมือนยังหาทางออกไม่ได้เหมือนกัน

“ครับ  เค้ายังไงก็ได้  แล้วแต่ตัว”

แมทมันยืนมองหน้าผมนิ่ง....เหมือนมีคำถามในสายตาคู่นั้น  แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

“แล้วเค้าจะโทรหาตัวนะ”  แมทว่า

“เค้าจะรอนะ”  ผมบอกก่อนปล่อยให้แมทก็เดินขึ้นรถไป

ผมยืนรอส่งแมทจนรถเคลื่อนตัวออกไป  ผมเดินตามรถออกมาจนถึงถนนใหญ่แล้วยืนรอให้รถแล่นออกไปจนสุดสายตา


.....นี่ก็หลายวันแล้วครับที่แมทไม่โทรมา  เกือบสี่อาทิตย์แล้วมั่งครับ  ผมยังเฝ้ารอโทรศัพท์จากแมทอยู่เหมือนเดิมทุกวัน  ปฏิทินที่ห้อง...โต๊ะทำงาน...ล้วนแล้วแต่มีรอยกากบาทนับวันที่ผมไม่ได้คุยกับแมทเอาไว้   วันก่อนผมส่งเพลงนี้ไปให้แมทครับ


คำขอร้องขอก้อนหิน
ก้อนหินสักก้อนหนึ่งซึ่งไม่มีคุณค่าใด  ย่อมไม่อยากคิดฝันไกลว่าใครจะเหลียวมองมัน  วันนี้เมื่อชะตาดลให้เธอมาพบกัน  ท่ามกลางความตื้นตันมันแอบมีความสงสัย
จะทนฉันหรือเปล่า? จะดูแลฉันหรือเปล่า? ในวันที่เจอเรื่องราวจะปล่อยมือฉันไหม  หากวันนึงเผลอเรอทำให้เธอต้องเสียใจ  ให้โอกาสใช่ไหม?  ให้อะไรสิ่งเหล่านั้น
จะทนฉันหรือเปล่า?  จะดูแลฉันหรือเปล่า?  บนทางที่มันทอดยาวเธอจะเดินข้างฉัน  ก้อนหินในมือของเธอขอเธอเพียงเท่านั้นจะเต็มใจทำให้กันหรือเปล่า?
[/i]

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ดอกของต้นพญาสัตบรรณที่หน้าตึกเรียนของผมเริ่มบานเต็มต้น กลิ่นหอมเอียนของมันแรงมากขึ้นในเวลากลางคืนแบบนี้

สามทุ่มแล้วครับแต่ผมยังอยู่ที่มหาลัย  ผมโหมทำงานให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่มีเวลาถึงคิดเรื่องของแมทมากนัก  ในระหว่างที่ผมไม่ได้โทรคุยกับแมท....กร....กลับเป็นคนที่โทรเข้ามาหาผมบ่อยครั้ง  ผมเองก็ลืมกรไปเลย  ไม่สิ!  ไม่ใช่ลืม  แต่กรไม่เคยมีตัวตนอยู่ในใจผมเลยต่างหากและมันก็เป็นอย่างนี้มาแต่ต้นแล้ว

เพียงแต่ว่าช่วงนี้....กรโทรมาคุยกับผมบ่อยขึ้น  เมื่อก่อนตอนที่ผมโทรไปหากรตอนแรกหลังจากที่กรมาขอแลกเบอร์ผมไป  ผมก็มีหยอดคำหวานกันมั่งจีบกันมั่งไปตามประสา  แต่สำหรับช่วงนี้....กรโทรมาคุยด้วยเรื่องสับเพเหระต่างๆ ไม่มีการหยอดคำหวานหรือจีบกันใดๆ ทั้งสิ้น  มันเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่โทรมาหาเพื่อนอกีคนหนึ่งมากกว่าครับ  และมันก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยจนคืนนี้

“เป็นไงบ้าง?  กลับถึงห้องยัง?”

“ยังเลย  ผมยังอยู่ที่มหาลัยอยู่เลยอะ  กรอะ!  อยู่ไหน?”

“กำลังออกมาหาซื้อไรกินก่อนเข้าบ้านนะ  นุหละ! กินข้าวยัง?”

“กินแล้วครับ  พอดีเมื่อเย็นให้รุ่นน้องซื้อข้าวขึ้นมาฝากนะ  เอ้ย! กรๆ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะมีสายเข้า” ผมรีบร้อนบอกกรแล้วกดสลับสายทันทีโดยที่ไม่ได้รอฟังกรตอบอนุญาตก่อนตามมายาท  เพราะสายที่ซ้อนเข้ามา....มันเป็นสายจากคนที่ผมไม่ได้คุยด้วยนานแล้วเกือบเดือนและผมก็รอสายจากคนคนนี้อยู่ทุกลมหายใจ

“หวัดดีครับ”  ผมกรอกสายลงไปตามเสียง

“ดีครับตัว  อยู่ไหนอะ?”

“ยังอยู่มหาลัยอยู่เลย  ดีใจจังตัวโทรมาหาวันนี้  คิดถึงมาก...รู้ปะ?”

“อืม...เค้าก็คิดถึงเหมือนกัน” ผมใจชื้นขึ้นมาเป็นกองเมื่อได้ยินประโยคนี้ของแมท “แต่ตัว....เค้ามีไรจะบอก”

“ไรหรอ?  ว่ามาสิ”

“เราเลิกกันเหอะ!”

เหมือนโลกทั้งโลกมันหยุดหมุนไปเลยครับ  ผมได้แต่ยืนิ่งเงียบไม่มีคำคำไหนหลุดออกมาจากปาก ผมค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหันหลังพิงระเบียงทางเดินอยู่ตรงนั้น

“ตัวอย่าเงียบสิ” แมทว่า “เค้ามาคิดดูดีแล้ว  เค้าทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ ที่ตัวตบเค้าแบบนั้นแม้ว่าเรื่องอื่นๆ เค้าจะรับมันได้ก็เถอะ  เค้าเลย.....”

“ช่างมันเถอะแมท” ผมรีบขัดขึ้นเพราะไม่อยากได้ยินเหตุผลอะไรที่มากไปกว่านี้ “แต่นี้ไปทางเดินของตัวที่เคยบอกเค้าไว้คงไม่มีเค้าเดินเคียงอีกแล้วนะ”

“ตัวอย่าพูดอย่างนี้สิ  เค้าไม่สบายใจ”

“มันจะไม่มีเรื่องให้ไม่สบายใจอีกแล้วหละตัว  ขอให้โชคดีนะ  ว่างๆ ถ้าเมื่อไหร่ตัวเปิดสวนอาหารอย่างที่ตัวฝันไว้  แล้วเค้าจะไปชิมนะ  ตั้งแต่คบกันมาเค้ายังไม่ได้ชิมฝีมือตัวเลยเนอะ....ว่ามะ? 5555” ผมฝืนทำร่าเริงคุยไปอีกสองสามประโยคแล้ววางสายไป

ผมก้มหน้ากอดเข่าอยู่ตรงนั้น  แต่แปลกที่วันนี้ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดออกมาให้เห็น  มีเพียงความรู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเท่านั้น  เหมือนว่าสมองผมกำลังจะสั่งให้ตัวเองหยุดหายใจไปซะที  แล้วเสียงโทรศัพท์ผมก้ดังขึ้นอีกครั้ง  ผมหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นกรอีกแล้ว

“อืม....” ผมพูดได้เพียงเท่านี้  เพราะผมกำลังจะเริ่มร้องไห้

“นุ!!  นุเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม  บอกกรสิ  กรอยู่กับนุตรงนี้แล้วนะ!!”

“ทำไมต้องเป็นกรด้วย  ทำไมไม่เป็นคนอื่น  ทำไม?.....”

“นุ!!  นุเป็นอะไรครับ  ไม่เป็นไรแล้วนะ  มีไรบอกกรได้  กรอยู่ข้างนุเสมอนะ”

“.........” ผมไม่พูดไม่จาเอาแต่ร้องไห้ต่อไป  ส่วนกรก็ไม่ได้ตัดสายทิ้งยงคงถือสายรอผมอยู่อย่างนั้น  จนผมสงบลง

“บอกกรได้ไหมครับว่าเรื่องอะไร?” กรถาม

“คนนั้นเค้าทิ้งผมไปแล้ว”

“ไม่เป็นไรนะครับ  ทำใจดีๆ ไว้  แล้วนุจะเข้มแข็งขึ้นนะครับ”

“ครับ”

ผมคุยกับกรไปอีกสักพักแล้วผมก็ขอวางสายไป  ก่อนเลิกคุยกัน...กรยังย้ำให้ทำเข้มแข็งอีกรอบ


ตี 2.10 น.
ผมกำลังข่มตานอนให้หลับ  หลังจากหลับยาวตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนเพิ่งตื่นมาเมื่อตอนห้าทุ่ม  ผมก็ยังไม่ง่วงอีกเลย
คืนนี้....ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับการคิดถึงใครบางคน  การที่คิดถึงที่ได้แต่คิดและมันคงไม่มีทางถึงได้เลย  เค้าคนนั้นคงไม่รู้หรอกว่า  กลางดึกของคืนเดือนมืดอย่างคืนนี้ มีใครคนหนึ่งกำลังคิดถึงเค้าอยู่จับใจ...จากมุมเล็กๆมุมหนึ่ง...บนโลกใบนี้
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา...พิมพ์ข้อความบางอย่างลงไป

“ไม่มีอะไร  แค่ตื่นขึ้นมาแล้วคิดถึง....ก็เท่านั้นเอง”
                                               แล้วผมก็.............................................................กดลบมันทิ้งไป

มีแมงปอตัวหนึ่งบินหลงเข้ามาในบ้านผม  มันพยายามบินออกไปนอกหน้าต่างแต่ไปไม่ได้  มันจะรู้ไหมนะว่าที่ตรงนั้น....ที่มันมองเห็นเหมือนไม่มีอะไรกั้น  หากแต่ความจริงแล้ว  มันมีกระจกใสแผ่นบางๆ ขวางทางอยู่

เสียงกระพือปีกของมันดังอยู่เรื่อยๆ แสดงถึงความพยายามที่จะบินออกไป  เสียงนั้นดังเป็นช่วงๆ  เริ่มแรกก็ดังเป็นช่วงยาวแล้วค่อยๆ สั้นลง......และสั้นลง  จากถี่กลายเป็นห่างแล้วก็หายไป  สุดท้าย...................

                                         เสียงนั้นก็หายไป

แมงปอตัวนั้นขาดใจตายอยู่ริมบานหน้าต่างที่มันพยายามจะบินออกไป  มันหมายความว่าอะไรใครก็ได้บอกผมที





เรื่องราวของผมและแมทมันควรจะจบลงตรงนี้แล้วใช่ไหมครับ....นั้นสิ  ผมเองก็คิดว่างั้น



พอแล้ว  พอแล้ว......ขอยืมคำคุณเอจากเรื่องยิ่งเป็นเพื่อนสนิทฯ มาใช้หน่อยนะครับ  มันช่างเหมาะกับโอกาสและความรู้สึกของผมในตอนนี้จริงๆ



จบบริบูรณ์

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
คุณเจ๊ใจแข็งไปอะป่าวคับ :dont2: :dont2:  คนเราเมื่อยังรักกันก็คงจะต้องมีบ้างที่ผิดใจกันนะคับ :angry2: :angry2:  พอแม็คบอกเลิกคุณเจ๊ก็ให้เค้าตัดบทง่ายๆอย่างนี้เหรอคับ :sad5: :sad5:  แต่อย่างว่าอาจเปนเพราะมะช่ายคู่หนังคู่กระดูกกันก็เลยทำให้มีอันต้องแยกกันไป :catrun:  ว่าแต่หลังจากนั้นคุณเจ๊ก็มะยอมติดต่อกับแม็คอีกเลยเหรอคับ  แบบว่าอยากรู้ว่ายังส่งข่าวคราวถึงกันบ้างอะป่าวคับ :undecided: :undecided: :undecided:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องของเจ๊เเล้วทำให้ผมคิดอะไรได้หลายอย่างเลยนะครับ ว่าคนเราเมื่อมีปัญหากันก็ควรจะพูดคุยปรับความเข้าใจกันและพยายามที่จะไม่ใช้อารมณ์  เพราะการที่เราไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตนได้เเล้วเเสดงมันออกไปอย่างไม่ระวังมันมักจะทำให้ทุกๆอย่างยิ่งเลวร้ายลงจนอาจกลายเป็นจุดแตกหักที่ไม่สามารถจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก   เเละอีกอย่างที่ผมได้รู้จากเรื่องนี้คือคนบางคนที่ทำตัวไม่ดีอาจจะมีสาเหตุลึกๆของตัวเองที่คนนอกอย่างเราๆอาจจะไม่ได้รับรู้ก็ได้ที่สำคัญคือหากเรามีคนรักสักคนเราก็ต้องพยายามใส่ใจเค้าให้มากเมื่อต้องอยู่ห่างไกลกันเราก็ต้องยิ่งหมั่นโทรหาหมั่นเอาใจใส่มิให้เค้าต้องเหงาหงอยเมื่อเรามิได้อยู่เคียงข้าง  สิ่งที่ผมคิดได้ในวันนี้ผมจะนำมันไปใช้  หากวันใดที่ผมได้พบคนที่ผมรักในอนาคต  :give2:  ขอบคุณเจ้สองสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้นะครับ  ผมขอให้เจ๊ได้พบเจอกับคู่เเท้ของเจ๊ในเร็ววัน แล้ววันนั้นผมจะไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เจ๊นะครับ อิๆ  :pighaun:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เจ็บปวดจริงๆ
ต้องเลิกกันเพราะทิฐิหรือ
แต่ถ้าแมทจะเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้
ยิ่งคบกันไปก็ยิ่งเจอแต่ความทุกข์นะ :3028: :3028:

ไม่รู้สิ จะบอกว่าไม่ให้รักมันก็คงทำไม่ได้
แต่ถ้าฝืนได้ก็หันเดินไปหาคนที่เขาพร้อมจะรักกันดีกว่า
 :monkeycry4: :monkeycry4: :monkeycry4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด