ตอนที่ 30กัส“กัส นายวินเป็นยังไงบ้าง” มิคเข้ามายืนถามชิดเตียงขณะที่เค้าเช็ดเนื้อตัวให้วินเพื่อลดไข้
“มีไข้น่ะมิค แต่ไม่รู้สึกตัวเลย” หลังเช็ดตัวเสร็จเค้าจึงหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยนให้โดยมีมิคเป็นคนช่วย เล่นเอาหมดแรงไปเหมือนกันก็ผู้ชายตัวโตๆที่ไม่รู้สึกตัวต้องจับถอดและใส่เสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดนี่หน่า
“เฮ้อ เล่นเอาหมดแรงเลย” มิคว่าพลางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างร่างหนาของวินเค้าจึงส่งยิ้มขอบใจไปให้ หันกลับมามองหน้าคนป่วยยื่นมือลูบแก้มแดงจากพิษไข้แต่หน้าตาดีขึ้นมากแล้วไม่กระสับกระส่ายเหมือนตอนแรกที่เห็น คนที่นอนไม่รู้เรื่องนี้ถ้ามีใครลักหลับก็คงไม่ยากเลย นึกเรื่องผู้หญิงที่ชื่อ ‘จี’ ขึ้นมาได้จึงหันกลับมาหามิคที่นั่งข้างกัน
“มิคแล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ ตอนนี้อยู่ไหน”
“กลับไปแล้วมั้ง แต่คนชื่อ ‘พล’ รออยู่ข้างนอกน่ะ” คงเป็นผู้ชายที่เข้ามาตอนที่เค้ายืนเถียงกันอยู่หน้าห้องซินะ
เค้าจึงชวนมิคออกไปนอกห้องเพื่อไปคุยกับคนที่รออยู่ซึ่งต้องมีคำตอบให้เค้าได้เรื่อง ‘จี’ ผู้หญิงที่ดูเหมือนจะสนิทกับวิน ก็ในเมื่อคู่กรณียังนอนไม่รู้เรื่องแบบนั้นคงให้คำตอบเค้าไม่ได้แน่ คนที่รออยู่นอกห้องนั่งอยู่ที่ชุดโซฟากลางห้องเงยหน้าขึ้นมองเมื่อรู้ตัวว่ามีคนเดินมาใกล้ เค้าและมิคนั่งลงใกล้กับพลที่นั่งรออยู่และได้รับรอยยิ้มจริงใจส่งมาให้
“สวัสดีครับ ผมพลเป็นหัวหน้าวิศวกรที่นี่ครับ” หนุ่มร่างหนาผิวเข้มแนะนำตัวยิ้มๆ ท่าทางเป็นคนจริงใจ
“สวัสดีครับ ผมกัสและนี่มิคเพื่อนผมเอง” เค้าก้มหัวทักทายนิดนึงและแนะนำตัวเองกับเพื่อนสนิทให้พลรู้จัก
“อ้อ หมอกัสที่เป็นแฟนคุณวินนี่เอง” พลยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเค้าเป็นใคร นี่วินเล่าเรื่องของเค้าให้ลูกน้องฟังด้วยหรอ หน้าเค้าคงแสดงอาการตกใจให้อีกฝ่ายรู้ พลจึงรีบพูด
“ตั้งแต่คุณวินต้องมาดูงานที่นี่เอง ผมได้ยินคุณวินบ่นคิดถึงแฟนตลอดเลยว่าไม่ได้เจอหน้ากันเพราะต้องมาแก้ไขงานที่ผิด
พลาดที่นี่แทนการไปหาหมอกัสที่อีกจังหวัดหนึ่ง และเร่งโหมงานให้เสร็จเร็วๆเพื่อจะได้ไปเห็นหน้าหมอกัสน่ะครับ” พลพูดยิ้มๆ ท่าจะเป็นคนอารมณ์ดีเหมือนกันนะเนี่ยเค้าจึงยิ้มตอบ อายเหมือนกันที่ได้ยินว่าวินพูดถึงเค้าแบบนี้ให้คนอื่นฟัง
“คุณพลครับ ผมอยากรู้เรื่องผู้หญิงที่ชื่อ ‘จี’ เธอเป็นใครครับ ถึงมาดูแลนายวินที่นี่” มิคคงอยากรู้มากจึงถามขึ้นตรงๆ ก็คงไม่ต่างจากเค้านัก
“ก่อนอื่นผมคงต้องขอโทษแทนจีด้วยครับ จีเป็นเพื่อนของผมเองที่เอ่อ...มาชอบคุณวิน ผมขอโทษจริงๆครับที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น จีเป็นคนในจังหวัดนี้ตั้งแต่รู้ว่าผมมาทำงานที่นี่เราก็มาเจอกันตามประสาเพื่อนฝูงที่รู้ว่าเพื่อนมาทำงานใกล้ๆน่ะครับ จนจีมาเจอคุณวินเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนมาเยี่ยมผมที่นี่ตั้งแต่นั้นมาจีก็มาตอแยตามติดคุณวิน ผมก็เตือนจีไปแล้วนะครับว่าอย่าไปยุ่งกับคุณวินมากเพราะคุณวินน่ะมีคุณกัสแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจีจะถูกใจคุณวินมากเลยตามตื้อตลอด คุณวินก็เลี่ยงแล้วนะครับแต่ด้วยงานที่ต้องเร่งให้เสร็จตามสัญญาจึงปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลย”
“แล้วเรื่องที่เธอว่าดูแลวินที่ห้องล่ะครับ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เป็นเค้าเองที่ถามเพราะอยากรู้เรื่องนี้
“คุณวินเริ่มไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืนให้ผมซื้อยามาให้แต่คงไม่ได้กินเพราะยังเห็นว่าซองยายังอยู่สภาพเดิม คุณวินคงเพลียและหลับไปก่อน ตอนเช้าผมไม่เห็นคุณวินมาดูงานจึงมาตามที่ห้องตอนเช้ายังเปิดประตูให้อยู่เลยครับแต่เริ่มมีไข้แล้ว ผมก็เลยไปหาข้าวมาให้คุณวินทานและให้ทานยาครับ แต่ผมเฝ้าคุณวินไม่ได้ต้องไปดูงานต่อจีก็มาเคาะถึงห้องผมจึงฝากให้เฝ้าคุณวินแทนน่ะครับ เพราะตอนนั้นคุณวินหลับไปเพราะพิษไข้แล้ว”
“ฝากปลาย่างไว้กับแมวแท้ๆเชียว” มิคบ่นเบาๆให้เค้าได้ยินแต่ห้องที่เงียบไอ้ที่ตั้งใจให้ได้ยินแค่สองคนจึงเป็นไปไม่ได้ เค้าสบตาพลที่ยิ้มเก้อๆมาให้และมีสีหน้าลำบากใจ จึงส่งยิ้มเข้าใจไปให้พลที่เจ้าตัวก็คงห่วงวินแต่อยู่เฝ้าไม่ได้เพราะมีงานที่ต้องรับผิดชอบ และผู้หญิงที่ชื่อจีก็คงรอโอกาสใกล้ชิดวินอยู่แล้วด้วยเท่าที่ฟังมาเธอคงไม่ทำอะไรคนนอนไม่รู้ตัวเพราะพิษไข้หรอกมั้ง นอกจากแอบตอดเล็กน้อยเท่าที่ทำได้
“ผมคงต้องขอโทษคุณกัสจริงๆครับที่เพื่อนผมทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ แต่ผมยืนยันอย่างหนึ่งนะครับว่าคุณวินไม่ได้คิดอะไรกับจีจริงๆแต่เห็นว่าเป็นเพื่อนของผมจึงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงไป ผมคุยกับจีแล้วครับว่าอย่ามาวุ่นวายที่นี่อีก” เค้าได้ฟังก็ตกใจถึงไม่พูดว่าตัดเพื่อนแต่ก็มีความหมายไม่ต่างกันนัก
“ไม่ต้องรุนแรงขนาดนั้นก็ได้มั้งครับ”
“กัส ทำไมพูดแบบนั้นล่ะก็ดีแล้วนะ เธอจะได้ไม่มาวุ่นวายที่นี่อีก” มิคขัดขึ้นเมื่อดูท่าว่าเพื่อนทำอะไรไม่เด็ดขาด
“จีกับคุณพลเป็นเพื่อนกัน ผมไม่อยากให้ถึงขั้นแตกหัก รอวินหายแล้วค่อยพูดคุยกันดีๆก็ได้นะครับ”
“ผมแล้วแต่คุณวินและคุณกัสครับ ตอนนี้คุณวินเป็นยังไงบ้างครับ”
“หลับอยู่น่ะครับไข้เริ่มลดแล้ว แถวนี้มีอาหารขายมั้ยครับว่าจะปลุกวินทานข้าวและให้ทานยาด้วย”
“แบบนี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ทั้งของคุณวินและคุณสองคนเองนะครับ” พลว่าแล้วก็ขอตัวออกไปซื้ออาหารเย็นมาให้ ในห้องจึงเหลือแค่เค้ากับมิคและคนป่วยที่หลับไม่รู้ตัวในห้อง
“ค่อยเบาใจได้หน่อย นี่ดีนะที่นายวินไม่เล่นด้วยถ้าขืนเล่นด้วยเนี่ยคราวนี้มิคจะจัดการเอาเลือดหัวออกแทนกัสเลย ฮ่าๆๆ”
“หายป่วยเมื่อไหร่คงต้องมาเคลียร์กับจีอีก เฮ้อ พ่อคนเจ้าเสน่ห์นี่ยุ่งจริงทำเอาวุ่นไปหมด หายเมื่อไหร่ต้องคุยกันอีกที กัสต้องขอบใจมิคนะที่นั่งรถมากับกัสตั้งไกลแบบนี้” จับมือเพื่อนมากุมแน่น
“เฮ้ กัสอย่าพูดแบบนี้เราเป็นเพื่อนกันนะ ถ้ามิคปล่อยให้กัสมาคนเดียวเนี่ยก็เป็นเพื่อนที่แย่มากเลยรู้มั้ย เพราะถ้ากลับกันมิคเชื่อว่ากัสก็ต้องทำแบบเดียวกับที่มิคทำถูกมั้ย” ฟังสิ่งที่มิคพูดก็ทำเอาซึ้งกับสิ่งที่เพื่อนทำให้แบบนี้ พยักหน้ารัวยิ้มกว้างส่งกลับไปให้
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น เราจึงสบตากันอย่างสงสัยว่าใครมาหรือว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นย้อนกลับมากันนะ เค้าจึงเดินไปเปิดประตูโดยมีมิคตามมาติดๆ
“อ้าว ฟินน่ะเอง เข้ามาก่อนครับ” เค้าลืมเพื่อนสนิทวินไปเลยที่เมื่อฟินรู้เรื่องจากการที่โทรมาหามิคในรถและว่าจะตามมา
“วินเป็นยังไงมั่งครับกัส แล้วเรื่องผู้หญิงที่รับสายล่ะอยู่ไหน” ฟินที่เพิ่งมาถึงคงเป็นห่วงวินมากเพราะแค่เดินเข้าประตูมายังไม่ได้นั่งก็ถามหาเพื่อนและมองไปรอบห้องเพื่อหาผู้หญิงที่ถูกกล่าวถึงทันที
“นายวินหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องนอนนู่น ส่วนเรื่องผู้หญิงน่ะเค้าเคลียร์กันไปแล้วนายน่ะมาช้ามากกกกก” มิคแจงให้ฟินฟังอย่างหมั่นไส้ เค้าก็ได้แต่ยิ้มๆไปให้
“โธ่ มิคครับฟินรีบสุดแล้วนะไม่รอใครเลย เนี่ยตอนแรกธีกับมนจะมาด้วยนะแต่ฟินให้มันรอข่าวอยู่ที่กรุงเทพฯแทน เพราะเป็นห่วงมิค เอ้ย ห่วงวินและกัสน่ะครับ” อ้าวที่ฟินมาเนี่ยตกลงเป็นห่วงใครกันแน่ หลังได้ฟังมิคทำหน้าไม่ถูกไปเลยจะยิ้มก็ไม่ใช่จะบึ้งก็ไม่เชิง ตลกจังเพื่อนเค้าเนี่ย
“กัสหน้าเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าแดงช้ำแบบนี้” เรียกสายตาจากมิคให้หันมาจ้องหน้าเค้า แล้วหน้าเค้าเป็นอะไรล่ะมิคถึงตาโตและรีบมาลูบที่แก้มเบาๆ
“กัส แย่เลยหน้าเป็นรอยแดงบวมนิดๆด้วย มิคลืมไปเลยว่าโดนยัยจีนั่นตบเอาน่ะ” เค้าลืมไปแล้วด้วยซ้ำเรื่องที่โดนตบ
“ห๊า กัสโดนตบเหรอ แล้วจีเป็นใครครับใช่ผู้หญิงที่รับโทรศัพท์รึเปล่า”
“กัสไม่เป็นไรไม่เจ็บแล้วล่ะมิค ฟิน”
“ห้องนี้ท่าจะไม่มียาทานะ เดี๋ยวมิคไปหาซื้อยาให้รู้สึกว่าข้างล่างจะมีร้านขายยาอยู่” มิคอาสาไปซื้อยาให้รีบลุกจะเดินออกไปทันที แต่โดนรั้งไว้จากฟินที่ขอตามไปด้วยและบอกให้เค้ารออยู่ที่ห้อง
...........................................................................
หลังเค้าเช็ดตัวให้วินอีกครั้งคนบนเตียงก็นอนนิ่งหน้าตาดีขึ้นกว่าตอนที่ได้เห็นครั้งแรกมากเพราะไข้เริ่มลดแล้ว เหตุการณ์คราวนี้ก็เป็นบทเรียนสำหรับเค้าอีกบท ดีที่เชื่อใจ ดีที่ตัดสินใจมาหา ดีที่วินยังมั่นคง และเรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดไปในทางร้ายๆแต่แรก เพราะบทเรียนครั้งก่อนนั้นมีส่วนให้เค้าไม่วู่วามด่วนตัดสินใจ ขณะที่กำลังมองหน้าคนหลับเพลินตาที่ปิดสนิทก็ลืมตาขึ้นมา แต่เหมือนยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่มองมาที่เค้าแบบไม่มีจุดโฟกัส จนเค้าเห็นประกายตาดีใจที่เปล่งออกมาจึงส่งยิ้มบางไปให้
“กัส มาได้ไงครับ หืม” เสียงแหบจากคนป่วยและมือที่กุมทับมือเค้าที่แก้มตัวเอง
“ขับรถมากับมิคครับ รีบมาหาคนป่วยน่ะสิ ที่ป่วยเนี่ยเพราะไม่ดูแลตัวเองดีๆใช่มั้ย” ส่งหน้าบึ้งๆไปแทน ทำเอาวินหน้าหงอไปเลย
“ไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวทานข้าวก่อนค่อยนอนต่อนะ” พยุงวินขึ้นพิงหมอนที่หัวเตียงและหยิบชามข้าวต้มที่เตรียมไว้มาเป่าให้คลายความร้อนก่อนป้อนคนป่วยที่ยิ้มให้และอ้าปากรับข้าวต้มที่เค้าจ่อที่ปาก วินเคี้ยวข้าวไปและขมวดคิ้วคงสังเกตเห็นร่องรอยบนแก้มเค้าแล้ว เอื้อมมือมาลูบแผ่วเบา
“กัสครับหน้าไปโดนอะไรมา ทำไมช้ำแบบนี้” ส่งสายตาเป็นห่วงพร้อมคำถามมาให้และคงต้องการคำตอบมากซะด้วย
“เฮ้อ ก็ผู้หญิงที่ตามตื้อวินอยู่ตอนนี้เป็นคนทำ” วินทำหน้างงและคงนึกออกจึงเปลี่ยนเป็นตกใจแทน
“จีน่ะเหรอที่ทำกัสแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นครับเล่ามาเลยนะ แล้วกัสโดนทำร้ายที่อื่นอีกมั้ย” คนร้อนรนบนเตียงจับแขนจับหน้าพลิกไปมาอย่างสำรวจ
“ใจเย็นวิน ทานข้าวให้หมดและกินยาก่อน เดี๋ยวกัสเล่าให้ฟัง”
วินทำหน้าขัดใจแต่ก็ยอมให้เค้าป้อนข้าวต้มจนเกือบหมดชามตานี่จ้องเค้าเขม็งอย่างรอคอยคำตอบ จนเค้าอดยิ้มขำไม่ได้ ยื่นยาไปให้ก็รีบดื่มน้ำตามทำหน้าแหยทันที เพราะวินเป็นคนที่กินยายากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นี่ถ้าไม่ได้อยากรู้เรื่องเค้ามากขนาดนี้คงต่อรองอีกนานกว่าจะยอมกินยา หลังจากนั้นเค้าจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้วินฟังตั้งแต่เค้าโทรมาแล้วจีรับสายจนเค้าร้อนใจต้องขับรถมาหาวินถึงนี่และมามีเรื่องกับจีที่หน้าห้อง มาถึงตอนนี้วินโมโหใหญ่ที่จีแต่งเรื่องให้ตัวเองและวินดูเหมือนว่าสนิทสนมกันเกินเพื่อนแถมมาทำร้ายเค้าด้วย
“วินไม่ได้เป็นแบบที่จีบอกกัสนะครับกัสเชื่อใจวินนะ” ร้อนรนกุมมือเค้าเขย่าแรงๆ
“ครับ กัสเชื่อใจวินถึงมาหาถึงนี่ไงและคุณพลก็อธิบายให้กัสฟังแล้ว”
“เรื่องจี วินคิดว่าต้องเคลียร์กับเจ้าตัวให้รู้เรื่องอีกทีและจะเอาเรื่องที่มาทำกัสให้เจ็บตัวแบบนี้ด้วย”
“กัสเห็นด้วยนะที่วินจะเคลียร์ แต่เรื่องเอาคืนที่เค้ามาทำร้ายกัสน่ะไม่ต้องหรอก กัสไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นไปกว่านี้น่ะ”
“แต่ว่า เฮ้อ ตามใจกัสนะครับ วินดีใจนะที่กัสมาหาและเชื่อใจวินและก็อยากขอโทษกัสด้วยที่เป็นต้นเหตุให้เจ็บตัวแบบนี้”
วินจับมือเค้าขึ้นไปจรดริมฝีปากตัวเองและยื่นหน้ามาจูบแก้มที่มีรอยช้ำแผ่วเบาแทนคำขอโทษ
“วิน ต่อไปนี้นะถ้ามีใครก็แล้วแต่เข้ามาหาวินแบบจีเนี่ยต้องบอกกัสทุกครั้งเข้าใจมั้ย กัสจะได้รู้เราจะได้ไม่เข้าใจผิดกัน”
“ครับที่รัก วินให้สัญญาว่าจะบอกกัสทุกเรื่องเลย ตอนแรกที่ไม่บอกเพราะวินคิดว่าวินทำตัวชัดเจนกับอีกฝ่ายไปแล้วและงานที่นี่ก็จะเสร็จแล้วด้วยคงไม่ได้เจอกันอีก ที่สำคัญวินไม่อยากให้กัสคิดมาก แต่ที่ไหนได้เรื่องเกือบบานปลายไปแล้ว” วินพูดไปตาเริ่มปรือจากฤทธิ์ยาที่ทานเข้าไปและตั้งแต่ตื่นมานี่ก็ใช้พลังงานไปเยอะร่างกายคงต้องการพักผ่อนแล้ว
“ครับ กัสรู้แล้ว เป็นอันว่าครั้งนี้กัสให้อภัยนะแต่ต้องไม่มีครั้งหน้ารู้มั้ย” วินพยักหน้าตาปรือคงฝืนลืมตาอย่างมาก
“อ่ะ นอนพักได้แล้ว” ประคองให้วินนอนหนุนหมอน โดนวินจับมือไว้ส่งสายตาออดอ้อนมาให้คงอยากให้เค้าอยู่ด้วยซินะ
“นอนนะครับกัสอยู่กับวินตรงนี้แหละ ไม่ไปไหนหรอก”
วินยิ้มบางและหลับใหลไปแล้วแต่มือที่จับกุมไว้ก็ยังไม่คลายออก เค้ายิ้มเอ็นดูคนป่วยที่หลับไปแล้วและคิดถึงประโยคที่ว่าจะอยู่กับวิน ‘ตรงนี้’ ไม่ไปไหนนั้นมีสองความหมายคืออยู่กับวินในตอนนี้ที่นี่และเราจะอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ต่อไป
..................................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป ^O^
บอกแล้วว่าไม่มีมาม่าค่ะ เรากินกันอิ่มตั้งแต่ต้นเรื่องไปแล้ว
ตอนนี้ก็รู้กันแล้วว่ายัยจีนี่ไปไงมาไงนะคะ จีมาหลงสเน่ห์พระเอกเราค่ะเลยอยากได้
ตอนหน้ากัสมีเคลียร์กับยัยจีค่ะและรอติดตามว่าเธอจะแรงแค่ไหนหรือ...??
ปล.+1 ให้ทุกเม้นแล้วนะคะแทนคำขอบคุณจากคนเขียนค่ะ
ปล.2 หลังเหตุการณ์เล้ากลับมาปกติก็ดีใจมากค่ะ แต่พอเปิดนิยายมา โอ้วววว เม้นหาย
เสียดายแทบขาดใจ แต่นักอ่านประจำทุกท่านก็มาเม้นให้กันใหม่ ดีใจค่ะ
น่ารักมากกก
จากใจค่ะ รอติดตามต่อวันศุกร์นะคะมาเอาใจช่วยกัสวินกันค่ะ