ตอนที่ 24วินพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์แล้วชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังพิงโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนอนคลึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายพลางนึกถึงใบหน้าคนรักไปด้วยอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ตั้งแต่วันที่ได้รับบทลงโทษจากกัสที่ให้แค่จับมือก็ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว เค้าที่ไปหากัสทุกสัปดาห์ก็ได้แต่จับมือนอนและมองหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่จับต้องมากกว่านี้ไม่ได้ มันอึดอัดมากที่ถ่ายทอดได้แค่คำพูดว่ารัก มีบ้างที่เค้าแอบขโมยหอมแก้มนุ่มที่เจ้าของหลับสนิทให้พอเป็นแรงใจ แต่อย่าให้กัสได้รู้เชี่ยวไม่งั้นเค้าได้รับโทษเพิ่มแน่ๆ คิดถึงคนรักเพลินๆก็ถูกขัดจังหวะจากสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์มาจากเพื่อนหนุ่มผิวเข้ม ‘ฟิน’
“ไงมึงโทรมาซะดึกมีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีโทรมาไม่ได้เหรอไอ้วิน พอมีคู่หมั้นเนี่ยไม่สนใจเพื่อนฝูงเลยนะ”
“น้อยใจไปได้ไอ้นี่มีไรว่ามาเลย อย่าช้าเดี๋ยวต้องโทรหากัสอีก”
“เออๆ พรุ่งนี้มึงต้องไปหากัสใช่มั้ย ขอกูตามไปด้วยซิอยากไปสูดอากาศต่างจังหวัดบ้าง”
“อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย เออ อยากไปก็ได้แต่กูจะไปออกหน่วยเคลื่อนที่กับกัส พื้นที่มันลำบากหน่อยนะมึงจะไปด้วยหรือจะรอในตัวจังหวัดล่ะ”
“กูไปด้วย ดีเหมือนกันเบื่อๆว่ะ”
“ตามใจพรุ่งนี้มาเจอกูที่บ้านสักบ่ายสามโมงล่ะกัน”
คุยกันเสร็จเค้าก็วางหูไปสงสัยเหมือนกันว่าเพื่อนเค้าตนนี้มันเบื่ออะไรนักหนา แต่ก็ไม่แปลกใจมากนักเพราะฟินเคยเอ่ยปากว่าจะขอตามไปเที่ยวเหมือนกันแต่ยังไม่ว่างและมันคงเบื่อชีวิตเที่ยวกลางคืนแล้วมั้งเพราะในกลุ่มนั้นฟินใช้ชีวิตหนุ่มโสดได้คุ้มที่สุดแล้วเที่ยวได้ทุกคืนแต่งานมันก็ไม่เคยทิ้งก็ดีจะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางและช่วยขับรถ อ้าว เลยเวลาโทรหาที่รักแล้วมัวแต่คุยกับไอ้ฟินเดี๋ยวโดนงอนจะแย่และต้องบอกเรื่องที่ฟินจะตามไปด้วยแต่คงไม่มีปัญหาเพราะจะได้ลูกมือไปเพิ่ม เค้าจะได้มีเวลาสวีทเล็กๆกับกัสบ้าง
.....................................................................
ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านถูกใช้ประโยชน์ให้เป็นสถานที่รับบริการทางการแพทย์ชั่วคราวโดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาให้การตรวจรักษาโรคและให้บริการตรวจรักษาฟันให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ห่างไกลแห่งนี้ กลุ่มคน
ทำงานเหล่านี้ยอมเสียสละตัวในช่วงวันหยุดมาออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ถึงที่แห่งนี้ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่เค้ารักและคิดถึงรวมอยู่ด้วย เวลาล่วงเข้ามาบ่ายมากแล้วอากาศค่อนข้างร้อนแต่กัสก็ยังตั้งใจให้บริการรักษาคนไข้อยู่แม้ต้องทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนตัวเค้าและเพื่อนสนิทที่ติดมาด้วยก็มีหน้าที่เรียกคิวคนที่มานั่งรอ ให้เข้ารับการรักษาหรือช่วยหยิบจับของที่พอช่วยได้ เห็นกัสทำงานไม่ได้หยุดเลยก็เหนื่อยแทนเพราะคนมารอรับบริการเยอะพอสมควรเมื่อรู้ข่าวว่ามีหมอมารักษาถึงที่แบบนี้ต่างจูงลูกหลานมาตรวจรักษาแต่กัสก็ยังยิ้มให้คนไข้ทุกครั้งเมื่อรักษาคนนั้นๆเสร็จแล้ว
“กัสครับพักดื่มน้ำหน่อยนะ เหลือคนไม่มากแล้วเดี๋ยวหมอกัสเป็นลมไปคนไข้จะใจเสียเอาน้า”
กัสจึงถอดผ้าปิดจมูกและเสื้อคลุมตัวยาวออกและส่งยิ้มมาให้ หันไปบอกเพื่อนสนิทตัวเล็ก ‘มิค’ ที่นั่งพักให้มาแทนที่ตน มิคหันมายกมือแตะเปลี่ยนตัวและยิ้มให้กับกัสอย่างล้อเลียน กัสรับน้ำจากเค้าและมานั่งพักตรงส่วนนั่งพักที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ กัสดื่มน้ำที่เค้ายื่นให้มีเหงื่อซึมตามไรผมและจมูกเล็กนั่นเค้าอดเอื้อมมือใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปตามผิวชื้นเหงื่อนั่นไม่ได้เจ้าตัวคงร้อนและเหนื่อยแต่ไม่ปริปากพูดอะไรจนดื่มน้ำหมดแก้ว
“วินเบื่อมั้ยออกมาแบบนี้”
“ไม่หรอกครับที่ไหนมีกัส วินก็ไม่รู้สึกเบื่อแล้ว กัสนั่นแหละเหนื่อยมั้ยทำงานแต่เช้าได้พักแค่ตอนเที่ยงนิดเดียวเอง”
“ก็เหนื่อยนิดหน่อยนะ แต่กัสอยากรีบทำให้ชาวบ้านน่ะมานั่งรอกันตั้งแต่เช้าแล้วเค้าอยู่ไกลจากโรงพยาบาล พวกเรามาเค้าคงดีใจที่มีหมอมารักษาถึงที่น่ะ”
“กัสเนี่ยน่ารักและยังใจดีอีกน้า แฟนใครเนี่ย แฟนกัสโชคดีจังน้าที่ได้กัสเป็นแฟนน่ะ”
“ฮิๆๆๆ พูดเข้าข้างตัวเองก็เป็นคนอะไรเนี่ย”
“แหมๆๆ ไอ้วินมึงเกรงใจคนอื่นมั่งเหอะเค้าทำงานกันอยู่กลับแอบมาสวีทกันสองคน”
หลังคำแซวของนายฟินทำเอากัสตกใจมองไปรอบๆตัวเค้าก็มองตามเห็นพี่พยาบาลที่วัดความดันอยู่ พี่เภสัชที่จ่ายยา และไอ้หมอตี๋พจน์ที่คนไข้เพิ่งลุกไปหันมามองทางเราส่งยิ้มแซวมาให้ แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่กลับมองเฉยและหันกลับไปทันทีคงเห็นภาพบาดตาล่ะซิแต่ช่วยไม่ได้แอบมาหลงคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วเองนี่ เค้าหันกลับมามองหน้ากัสที่ขึ้นสีเพราะคงอายเพื่อนร่วมงานคนอื่นนั่นเอง เค้าเคยถามเหมือนกันว่ากัสอายมั้นที่มีเค้าเป็นแฟนตอนนั้นเจ้าตัวทำหน้ามุ่ยและตอบว่าไม่อายแต่เราก็ไม่จำเป็นต้องปล่าวประกาศแต่ถ้ามีใครถามก็บอกความจริงไปที่ทำงานกัสหลายคนก็รู้แล้วว่ากัสมีเค้าเป็นแฟนแต่ก็ไม่มีใครรังเกียจหรือตำหนิอะไรกลับเป็นว่าอิจฉาที่มีแฟนหน้าตาดีหรือออกแนวแซวซะมากกว่า กัสลุกขึ้นบอกว่าจะไปดูมิคที่ทำงานแทนคงอายสายตาพี่ๆที่ส่งมาล้อตัวเอง เค้านึกเอ็นดูคนขี้อายอยากหอมสักฟอดแต่คนเยอะแบบนี้ไม่กล้าหรอกก็ได้แค่คิด หันกลับมาที่เพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ถึงความผิดที่ทำให้เค้าอดสวีทกับแฟนตัวเองบ้าง
“มึงนี่นะมันน่าโดนเตะซักที แล้วไปไหนมาเนี่ยหายไปตั้งแต่บ่าย”
“แค่นี้ทำเป็นโกรธมึงก็สงสารกูมั่งเถอะไม่มีแฟนมาด้วยนี่หว่า ที่หายไปกูไปถ่ายรูปแถวๆนี้แหละ ธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่เลยไม่ได้เห็นแบบนี้นานแล้ว”
“ไอ้ฟินมึงไม่เบื่อแบบนี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวจะหาว่ากูพาเพื่อนมาลำบาก”
“กว่าจะเสร็จวันนี้เจ้าหน้าที่ที่มาเนี่ยคงเหนื่อยมากนะแค่เห็นยังเหนื่อยแทนเลย นับถือพี่ๆแกว่ะเดินทางก็ไกลต้องมาตรวจรักษาให้คนที่รอตรวจคนก็มาเยอะมาก”
“อืมใช่ดีใจแทนชาวบ้านที่นี่ว่ะ ไอ้ฟินกูเพิ่งเคยเห็นกัสทำงานแบบนี้ครั้งแรกว่ะ กูภูมิใจในตัวกัสมาก”
“ใช่กูก็ภูมิใจ”
เค้าหันไปมองหน้าเพื่อนที่ตอนนี้มองไปทางกลุ่มคนที่ทำงานตรงหน้าสายตามันจับจ้องไปที่คนๆหนึ่ง เฮ้ยมันมองหมอมิคยิ้มๆแบบนี้หมายความว่าไงวะ
“ฟิน มึงมองหมอมิคแบบนี้หมายความว่าไง อย่าเชียวนะมึง”
“ไร กูก็มองคนอื่นด้วยไม่ใช่หมอมิคคนเดียวซะหน่อย คิดมากน่า”
“กูเพื่อนมึงนะ กูคิดมากดีกว่าคิดน้อยว่ะ แต่ขออย่างอย่ามาเล่นๆนะโว้ยคิดให้ดีคนนี้มึงเล่นๆไม่ได้”
รีบเตือนเพื่อนสนิทที่น่าจะคิดไม่ซื่อกับมิคแน่ๆเค้าเป็นเพื่อนกันมานานเพื่อนสนใจใครทำไมจะไม่รู้แต่มันเริ่มสนใจตอนไหนมากกว่า สนใจได้แต่ต้องจริงจังแต่ไอ้คนโสดเจ้าชู้แบบเพื่อนเค้าคนนี้จะจริงจังกับมิคจริงเหรอถ้ามันเล่นๆเค้าแย่แน่ๆเพราะต้องโดนกัสโกรธที่ปล่อยให้ฟินไปทำเล่นๆกับมิคนั่นเอง ฟินหันกลับมามองเค้าเราสบตากันเงียบๆ
“กูยอมรับว่าเริ่มสนใจ แต่มึงสบายใจได้ตอนนี้กูยังไม่แน่ใจแต่ถ้ายังรู้สึกแบบนี้ก็จะไม่เริ่มแน่ๆ กูจะรอจนแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อนถึงจะเริ่ม”
เค้าจึงส่งมือไปตบหลังเพื่อนอย่างเข้าใจในความรู้สึกของมัน ก็ไม่รู้ว่าสนใจตอนไหนเพราะคู่นี้ก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้นานแล้วเท่าๆกับที่เค้ารู้จักกับกัส ฟินลุกขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศการออกหน่วยนี้และเค้าก็ลุกมาช่วยหยิบจับของและเรียกคิวคนที่นั่งรอที่ตอนนี้เหลือไม่มากนักแล้ว จนเสร็จสิ้นการทำงานอันแสนเหนื่อยของวันเจ้าหน้าที่ต่างเก็บของขนขึ้นรถ หลังจากนั้นก็มีคนพาไปสถานที่พักที่เป็นสถานีอนามัยของหมู่บ้านนี้ เพราะคืนนี้เราต้องพักกันที่นี่เดินทางกลับโรงพยาบาลไม่ทันเพราะระยะทางไกลและลำบากพอสมควร สถานที่พักเป็นอาคารสำหรับรักษาคนไข้มีห้องโถงว่างอยู่ส่วนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนอื่นต่างแบ่งไปพักที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่อนามัยคนอื่นด้วย ดังนั้นคนที่พักที่นี่ก็จะมีเค้า กัส มิค ฟิน และหมอตี๋พจน์ พี่ๆที่นี่นำฟูกนอนหมอนผ้าห่มเท่าจำนวนคนมาให้ และจัดอาหารเย็นไว้ให้ที่หน้าสถานีอนามัยกลางลานผืนหญ้ามีชาวบ้านนำอาหารมาเพิ่มให้บางส่วนแสดงถึงน้ำใจเพื่อตอบแทนที่หมอมารักษาถึงที่ พวกเราทั้งหมดที่มาต่างมารวมตัวเพื่อทานอาหารที่มีไม่มากแต่ก็มาจากน้ำใจของพี่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านและมีการพูดคุยกันบ้างระหว่างทานอาหาร
“หมอกัสนี่โชคดีจังน้ามีแฟนแบบนี้ ตามมาดูแลถึงที่เลย หาจากไหนเนี่ย ฮิๆๆๆ”
พี่พยาบาลที่นั่งตรงข้ามกัสเอ่ยแซวขึ้นทำเอาคนร่างบางข้างเค้าที่โดนแซวเต็มๆก้มหน้าก้มตาตักข้าวยิ้มๆไม่ตอบ
“พี่บุษครับ ตรงนี้ยังมีอีกคนสนใจมั้ยครับ”
“แหมน้องฟินเนี่ยอย่ามาพูดเล่นนะพี่บุษเอาจริงนะคะ ยิ่งห่างสามีกับลูกมาแบบนี้ด้วย”
บทสนทนาระหว่างฟินและพี่บุษพี่พยาบาลที่เป็นคนแซวกัสเรียกเสียงหัวเราะมาจากทุกคนได้ยกเว้นก็แต่หมอตี๋คนเดียวที่นั่งเงียบและลุกขึ้นขอตัวไปพักผ่อนทันทีหลังทานเสร็จ กัสมองตามแผ่นหลังที่เดินจากไปพร้อมถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา หันมาสบตาเค้าที่มองกัสอยู่ก่อนแล้วแววตาลำบากใจที่ฉายออกมาทำให้เค้าเข้าใจว่าตอนนี้กัสคงลำบากใจทำตัวไม่ถูกเรื่องหมอพจน์นั่น เค้าเข้าใจนะเรื่องความรักนี่จะให้ตัดทันทีนี่ทำไม่ได้หรอกมันคงต้องใช้เวลา เค้าก็ไม่ได้โกรธที่หมอพจน์นั่นมาชอบกัสแค่หมั่นไส้นิดหน่อยแค่นั้น เรานั่งทานกันคุยกันไปซักพักกัสก็ขอตัวไปพักเค้าจึงเตรียมลุกตามแต่ถูกห้ามไว้ก่อนโดยกัสกระซิบบอกข้างหู
“กัสขอเวลาคุยกับหมอพจน์หน่อยนะครับ”
ฟังทีแรกก็ว่าจะไม่ยอมก็ใครล่ะอยากให้แฟนตัวเองไปอยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง แต่เมื่อนึกถึงหน้าไอ้หมอตี๋นั่นที่ทำหน้าหงอยๆเมื่อมองมาที่เราสองคนตอนใกล้ชิดกันก็นึกเห็นใจขึ้นมาจึงพยักหน้าตอบกลับไป
“วินให้ไม่เกิน 20 นาที ถ้านานกว่านี้วินจะไปตามนะครับ”
กัสส่งยิ้มน้อยๆมาให้และเดินไปทางที่พักที่หมอพจน์เพิ่งเดินเข้าไป หันกลับมาที่โต๊ะตอนนี้เหลือเพียงฟินและมิคคนอื่นขอตัวกลับที่พักแล้ว และเจอสายตาเป็นคำถามของฟินที่ส่งมาเค้าจึงส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไรให้
“ก็ต้องสงสารอีกฝ่ายบ้างนะคนเค้าแอบมองมานานและก็เป็นคนดีด้วย นายโชคดีรู้มั้ยที่กัสกลับมาคบด้วยทั้งๆที่มีคนที่ดีกว่าเข้ามาแท้ๆ”
นั่นสินะเค้าโชคดีที่กัสยังให้โอกาสเราได้คบกันอีกครั้ง ถ้ากัสจะเลือกหมอพจน์เค้าก็ไม่มีสิทธิโวยวายอะไร ฟินตบหลังให้กำลังใจมันคงเข้าใจหัวอกเค้าตอนนี้ล่ะก็เพื่อนสนิทกันนี่
“อาทิตย์หน้าหยุดหลายวันมิคมีโปรแกรมไปไหนมั้ย” ฟินหันไปถามหมอหนุ่มใส่แว่นที่นั่งตรงข้าม
“ว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่น่ะ แต่ยังไม่มีโปรแกรมเที่ยวนายมีอะไรล่ะ”
“ผมอยากชวนไปเที่ยวอัมพวาน่ะไปด้วยกันมั้ย เฮ้ย ไอ้วินมึงทำหน้าตกใจทำไมกูก็จะชวนเพื่อนๆไปกันหมดนั่นแหละ อยากหาที่เที่ยวว่ะช่วงนี้เบื่อๆกรุงเทพ”
ตกใจหมดไม่นึกว่าเพื่อนเค้าคนนี้จะรุกเร็วขนาดนี้ชวนหนุ่มเที่ยวซะแล้วก็ช่วงบ่ายเพิ่งสังเกตว่ามันสนใจหนุ่มน้อยข้างๆนี่เองชวนเค้าเที่ยวซะแล้วมันถ้าจะเอาจริง แต่ดีเหมือนกันสัปดาห์หน้าก็ครบเดือนพอดีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ถือว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูนล่ะกัน
“ยังไม่เคยไปเหมือนกันคนที่เคยไปมาเค้าติดใจกันใหญ่มีทั้งร้านขายของเรียบริมน้ำ ยิ่งของกินที่ทั้งแปลกและก็อร่อยนายฟินนายจัดการเรื่องที่พักได้เลยนะเราไปด้วย เออ นับมายเดียร์ด้วยนะรายนั้นถ้าจะดีใจใหญ่บ่นอยากไปมานานแล้ว”
หมอกัสยิ้มตาหยีเมื่อคิดถึงที่เที่ยวและของกินส่วนเพื่อนเค้ายิ้มน้อยๆจ้องไม่กระพริบไปที่คนที่นั่งตรงข้าม เอาล่ะซิงานนี้ไอ้ฟินมันหวังทำคะแนนแน่ๆ
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” ฟินยิ้มตอบแต่ท่าทางงานนี้นายฟินเจองานหินแน่เพราะท่าทางหมอมิคไม่ได้รับรู้เลยว่าตนได้รับความสนใจจากเพื่อนของเค้า เพื่อนเค้าท่าจะเป็นรองของกินซะแล้วเพราะมิคหันไปนั่งทานขนมหวานที่วางอยู่ตรงหน้าแทนยิ้มหวานที่ฟินส่งไปให้
“คุยอะไรกันอยู่ได้ยินว่าจะไปเที่ยว ไปไหนกันเอ่ย”
เสียงหวานที่นำมาก่อนร่างบางจะเดินมานั่งที่เดิมข้างเค้า สีหน้าของกัสเป็นปกติยิ้มน้อยๆแต่ตามีแววเศร้าอยู่ เค้าหวังว่าทุกอย่างที่กัสไปคุยคงเรียบร้อยนะ แต่เค้าคงไม่ถามกัสเพราะเค้าเชื่อว่ากัสคงจัดการเรื่องหมอพจน์ได้อย่างดีที่สุดและมั่นใจในรักที่กัสมีให้เค้าเพราะถ้ากัสจะชอบหมอพจน์ก็คงคบกันไปแล้วก่อนที่เราจะคืนดีกัน เค้าเชื่อว่าถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้กัสจะต้องบอกแล้วเราจะหาทางออกด้วยกัน กอบกุมมือบางบีบแน่นและส่งยิ้มให้กำลังใจไป ส่วนกัสกระชับมือตอบพร้อมส่งยิ้มให้เค้าสบายใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
“เราคุยกันว่าจะไปอัมพวาอาทิตย์หน้าที่หยุดยาวกัสห้ามปฏิเสธนะ เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว”
มิคเอ่ยชวนและรวบรัดเพื่อนให้ตกลงไปเที่ยวด้วยกัน ทำเอากัสอดหัวเราะเพื่อนตัวเองไม่ได้
“ฮึๆๆ คร้าบกัสไปด้วยอยู่แล้วชวนมายไปด้วยนะเห็นอยากไปมานานแล้ว”
“แน่นอน ถ้าไม่ชวนเราสองคนโดนบ่นหูชาแน่ๆ คิกๆๆ”
เพื่อนกลุ่มนี้นี่เค้ารักและรู้ใจกันจริงๆไปไหนไปด้วยกันตลอด บรรยากาศของเราสี่คนที่นั่งอยู่ชื่นมื่นกันขึ้นมาทันตาเมื่อคุยเรื่องไปเที่ยวต่างวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนบ้างแวะซื้อของฝากอะไร นี่ขนาดยังไม่ได้ไปนะสงสัยถ้าไปจริงๆคงวุ่นวายมาก ส่วนเค้าน่ะเหรอไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรแต่แอบวางแผนเรื่องซ้อมฮันนีมูนในใจคนเดียว
“วินเป็นอะไร ยิ้มคนเดียวอยู่ได้กัสจะเข้าบ้านแล้วนะ”
อ้าว ที่รักทำไมเดินไปถึงนู่นแล้วล่ะทิ้งกันเฉยเลยแค่แอบคิดอะไรๆนิดเดียวเอง
“รอด้วยคร้าบ”
...............................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^
ถือว่าตอนนี้เป็นการเปิดตัวคู่ของหมอมิคนะคะคงรู้แล้วใช่มั้ยว่าใคร
แต่ยังไม่ขอขยายว่าหมอมิคไปโดนใจนายฟินตอนไหนะคะ ฮิๆ อยากให้รอติดตามค่ะ
(แต่ยังไม่ได้เขียนเลยยยยย555) การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่แบบนี้ต้องแสดง
ความนับถือเจ้าหน้าที่มากๆค่ะเพราะไปก็ไกลเหนื่อยก็เหนื่อยต้องไปด้วยใจจริงๆ
เพราะไมได้อะไรตอบแทนนอกจากความสุขใจเล็กๆและความภูมิใจอ่ะค่ะ
ตอนหน้าแอบบอกนิดว่าเค้าจะไปเที่ยวกันแล้วววว รอตามได้น้าว่าไปไหนกันบ้าง
ปล. +1ให้ทุกท่านที่ติดตามและเม้นให้กันแล้วนะคะ และมาเจอกันวันพรุ่งนี้นะคะ
ลืมบอกไป
พรุ่งนี้มีเฮค่ะ