ตอนที่ 17“กัสจ๊ะวินจะไปส่งจริงๆเหรอ”
“อืม”
“แหม ไม่ยอมห่างกันเลยน้า”
มายเพื่อนสนิทเอ่ยแซวเค้าที่ตอนนี้กำลังเก็บของลงกระเป๋าเตรียมรอคนที่เมื่อวานอยู่กับเค้าทั้งวันมารับเพื่อพากลับไปทำงานที่โรงพยาบาล เมื่อวานนี้หลังออกจากโรงหนังวินก็พาไปหาข้าวทานในร้านบรรยากาศร่มรื่นแถวชานเมือง เรียกบรรยากาศเก่าๆระหว่างเรากลับมาวินจำได้ว่าเค้าชอบอะไรสั่งอาหารมาซะเต็มโต๊ะเลย เรากินกันไปคุยกันไปเวลาก็ผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว กว่าเค้าจะมาถึงบ้านมายได้ก็เป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าไปแล้ว เพื่อนสาวคนสนิทถึงกับโทรศัพท์ตามเลยว่าอยู่ไหนแล้วเพราะเป็นห่วงและมายอยู่คนเดียวส่วนมิคกลับบ้านไปหาครอบครัว
“กัสจ๊ะเจ้าชายมารับแล้ว รออยู่ข้างล่างแน่ะ”
มายเข้ามาเรียกหลังจากขอตัวไปดูเรื่องอาหารเช้าหลังจากนั่งช่วยเค้าเก็บของลงกระเป๋าพักนึงแล้ว มีสาวใช้ของเพื่อนมาช่วยถือกระเป๋าของเค้าลงไปให้ บริเวณส่วนห้องอาหารมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วหัวโต๊ะเป็นคุณแม่ของเพื่อนสาวที่เดินเคียงข้างกันมา ด้านซ้ายจากหัวโต๊ะได้เว้นที่ไว้หนึ่งที่ถัดไปเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่งอยู่พร้อมส่งยิ้มกว้างมาให้ทำเอาใจเค้าสั่นขึ้นมา
“มาจ๊ะน้องมาย น้องกัส มาทานข้าวลูก”
พอเค้านั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ว่างไว้คุณแม่เพื่อนจึงเอ่ยปากชวนทานข้าวเช้าทันที หนุ่มข้างตัวรีบเลื่อนชามข้าวต้มกุ้งควันกรุ่นตรงหน้ามาให้และเอื้อมมือแตะข้อศอกเค้าเชิญชวนให้เริ่มทานแถมด้วยการช่วยเติมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพราะเห็นว่าเป็นของชอบด้วย ระหว่างมื้ออาหารเช้าคุณแม่ชวนคุยตลอดแถมซักประวัติหนุ่มหล่อข้างตัวเค้าละเอียดยิบ ตอนหลังแอบมากระซิบบอกเค้าว่าต้องสืบประวัติว่าที่ลูกเขยแม่ไว้ก่อนเค้าก็เขินไปตามระเบียบ คุณแม่นับเค้าเป็นลูกไม่ต่างจากมาย เพราะช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเค้ามาค้างที่บ้านนี้บ่อยมากเกือบทุกเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่มีรายงานเร่งด่วนทำให้คุณแม่นับรวมเค้าเป็นลูกไปด้วย เหตุที่บ้านเค้าอยู่ต่างจังหวัดจึงกลับบ้านไม่บ่อยนัก
“เดินทางปลอดภัยนะลูกถึงแล้วโทรมาบอกด้วยนะจ๊ะ วินลูกขับรถดีๆนะดูแลลูกกัสของแม่ด้วย”
คุณแม่เอ่ยขณะโอบกอดเค้าหลังจากเราเดินมาถึงรถของวิน
“ครับแม่ไม่ต้องห่วงยังไงผมก็ต้องดูแลหัวใจตัวเองอยู่แล้วครับ”
วินพูดตอบคุณแม่เพื่อนและหันมาส่งสายตาหวานให้เค้าเมื่อจบคำ นี่ก็ไม่รู้จะหวานเรี่ยราดอะไรขนาดต่อหน้าผู้ใหญ่ยังทำได้เล่นเอาเค้าเขินจนไม่กล้าสบตาใครเลย
“ฮ่าๆๆๆ วินพูดถูกใจแม่มากเลย ไปลูกเดินทางได้แล้วเดี๋ยวจะถึงเย็นเกินต้องไปรับน้องมิคอีกใช่มั้ย”
“ครับแม่ งั้นกัสลานะครับเดี๋ยวถ้ากัสว่างจะมาให้แม่เลี้ยงอีกครับ”
เค้าเอ่ยลาพร้อมยกมือไหว้แนบอกแม่ของเพื่อนรักโอบกอดรอบเอวแถมด้วย ใครจะว่าเค้าขี้อ้อนขี้ประจบก็ได้แต่เค้าก็รักคุณแม่ของเพื่อนคนนี้ไม่ต่างจากแม่ตัวเองเลย คุณแม่คงอดใจไม่ไหวหอมแก้มเค้าฟอดใหญ่และหัวเราะชอบใจเลย ตามด้วยแม่เพื่อนรักตัวดีแกล้งโอดโอยว่ามีลูกใหม่ลืมลูกสาวไปเลย พาเอาวงสนทนาฮาครืนกับการหยอกของแม่ลูกคู่นี้ หลังจากเราล่ำลากันแล้วเค้ากับวินที่ตอนนี้ขับรถอยู่ออกเดินทางมุ่งหน้าไปรับเพื่อนสนิทอีกคนที่โทรมาว่าพร้อมแล้วและรอราชรถไปรับอยู่ ระหว่างทางเราสองคนแทบไม่มีคำพูดต่อกันมีเพียงเสียงเพลงรักที่เปิดคลอเบาๆมือเค้าถูกเกาะกุมด้วยมือที่ว่างจากพวงมาลัยของร่างสูงข้างกาย เพลงถัดมาที่ได้ยินทำให้เค้าตั้งใจฟังมือหนาผละจากมือเค้าเพื่อเปิดเสียงให้ดังขึ้นพร้อมหันมามองสบตา เค้าอ่านปากจากคนข้างกันได้ว่า “ให้กัสครับ”
*จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ
ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร
จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ
เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด และไม่มีใครนอกจากเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ
จับผิดระแวงกันทุกวี่วัน นั่นมันยิ่งทำให้ความสัมพันธ์
มันเริ่มที่จะจืดจางหายไป แค่ไว้ใจกันได้ไหมเธอ
อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร
เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม
ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้
จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร ถ้าใจเรายังผูกกัน
ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน
เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ เนื้อหาของเพลงที่ได้ยินทำเอาเค้าน้ำตาซึมเบือนหน้ามองวินที่ตอนนี้มองตรงไปข้างหน้าเพื่อขับรถ แต่แอบเหลือบมองมาทางเค้าเป็นระยะเค้าจึงพลิกมือขึ้นจับกระชับฝ่ามือหนาและออกแรงบีบเพื่อให้รู้ว่าเค้าเข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการสื่อด้วยเพลงนี้ แม้เราจะเคยจากกันทั้งที่ยังรักกันเพราะคนที่ไม่หวังดีต้องการแยกเราออกจากกัน แต่ในที่สุดเราก็กลับมาเคียงข้างกันได้ อุปสรรคที่ผ่านมาช่วยพิสูจน์รักที่วินมีต่อเค้า วินคงเห็นน้ำตาที่ซึมออกมาทางหางตา รีบจอดรถข้างทางแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าค่อยๆซับน้ำตาให้
“กัสร้องไห้ทำไมครับ หืม”
“อืม นิดหน่อยเองไม่เป็นไรหรอก”
“หรือซึ้งที่วินเปิดเพลงนี้ให้ครับ”
วินยิ้มกว้างที่ได้รู้ว่าเค้าแอบปลื้มกับเพลงนี้แถมมาด้วยสายตาล้อเลียนอีกต่างหาก
“กัสร้องไห้เพราะซึ้งหรือดีใจได้นะครับ แต่วินจะไม่ยอมให้กัสร้องเพราะเสียใจอีกแล้วนะครับคนดี”
วินก้มหน้ามาหาและขโมยหอมแก้มเค้าตอนที่ไม่รู้ตัว คนเจ้าเล่ห์นี่จะแอบตอดเล็กตอดน้อยไปถึงไหนกันนะเมื่อวานนี้ก็เหมือนกันแก้มช้ำไปหมดแล้ว
“วินอ่ะ เน่ามากกกกก ฮิๆๆๆ”
เค้ารีบเอามือกุมหน้าตัวเองทั้ง 2 ข้างกลัวโดนขโมยหอมแก้มอีกแต่เค้าลืมตำแหน่งสำคัญไป
“จุ๊บบบ”
“วินอ่ะ รีบออกรถเลยเดี๋ยวมิคก็บ่นหรอก”
ความร้อนที่ลามตั้งแต่หน้าไปใบหูลงไปที่ลำคอเค้ารับรู้ถึงสายความร้อนนี้ได้คนอะไรเจ้าเล่ห์ที่สุด หลังเอ่ยปากให้ออกรถเค้าก็หันหน้าหนีไปนอกรถทันที ก็แอบได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของคนข้างๆ และมือเค้าข้างที่อยู่ในมืออีกฝ่ายถูกยกขึ้นพร้อมสัมผัสอุ่นวาบที่ข้อนิ้ว เรียกใบหน้าเค้าให้หันกลับไปมองจ้องตาวินอีกครั้ง อ๊ากกกจะให้เค้าอายไปถึงไหนเนี่ย จะดึงมือออกก็ไม่ได้โดนยึดแน่นเลย รถออกตัวอีกครั้งพร้อมมือที่ผละไปแต่ไม่นานก็กลับมาจับดังเดิม เพลงต้นเหตุเมื่อครูก็ถูกเปิดฟังวนอีกครั้ง
..........................................................................
บริเวณหน้าบ้านพัก 2 ชั้นภายในโรงพยาบาล ชายหนุ่ม 3 คนช่วยกันขนของจากรถที่จอดอยู่หน้าบ้านหลังนี้มีทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าและถุงของฝากหลายถุง นี่ถ้าเค้าต้องนั่งรถโดยสารมากันเองกับมิคคงแย่แน่ๆ คนตัวเล็กข้างตัวเค้านี่แหละที่ขนซื้อของมามากมายบอกว่าต้องฝากพี่พยาบาลคนนั้น น้องเภสัชคนนี้ ให้วุ่นไปหมด อ้างอีกว่ามีราชรถมาส่งก็ขนมาให้คุ้มดูซิข้ออ้างของคนชอบช็อปปิ้งเนี่ย
“กระเป๋าใบนี้ของกัสเหรอ มิคไม่เคยเห็นอ่ะ”
มิคหันมาถามเค้าเมื่อเราช่วยกันขนของออกจากรถมาไว้ในบ้านหมดแล้วและชี้ไปที่กระเป๋าหิ้วใบเล็กที่ตนสงสัย เค้ามองไปที่กระเป๋าน่าสงสัยทันทีและส่ายหัวตอบแทนการพูด
“ของวินเองครับมิค”
เค้าและมิคหันไปหาคนที่ตอบออกมาพร้อมแสดงสีหน้าแววตาสงสัยไปให้ว่าแล้วเอามาทำไม
“อ้าว วินยังไม่ได้บอกเหรอว่าจะมาเที่ยวที่ทำงานกัสน่ะ”
เค้าส่ายหน้าผมยุ่งไปเลย วินเอาอะไรมาพูดเมื่อวานอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่เห็นจะได้ยินนี่ แล้วไหงว่าตู่กันแบบนี้เนี่ยแล้วนี่อะไรทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมส่งยิ้มซื่อๆมาอีก
“ไม่อ่ะ วินอย่ามาตู่ไม่เคยบอกกัสซะหน่อยว่าจะมาเที่ยวที่นี่”
“นี่ก็จะเย็นแล้วให้วินขับกลับไม่สงสารวินเหรอครับ หือ”
ทำมาพูดออดอ้อนแถมเดินมาชิดอีกเค้าผงะถอยหลังนิด อย่ามาทำหน้าอ้อนแบบนี้นะเดี๋ยวใจอ่อนเลย ชิ เค้าแพ้หน้าออดอ้อนของวินที่สุด
“นี่หวานกันก็มีลิมิตหน่อยนะ สงสารบุคคลที่ 3ตรงนี้ด้วย ชิ ไม่อยู่แล้วไปเก็บของดีกว่า”
มิคเอ่ยแซวเรา 2 คนขึ้นก่อนที่วินจะเข้ามาใกล้เค้ากว่านี้ โอ้ยวันนี้เค้าจะหน้าไหม้ก็รอบกันเนี่ย
“ไปครับกัส วินอยากเห็นห้องของกัสแล้วน้า”
ถ้าเค้ามองไม่ผิดเหมือนเห็นหูแหลมๆโผล่ออกมาจากหัววินเลย ‘ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์’ เอ้ยยย เค้าโดนวินจับข้อมือจูงขึ้นบันไดไปเหมือนจะรู้ว่าห้องเค้าอยู่ไหนซะงั้น จนเราเข้ามาในห้องเรียบร้อยวินวางของไว้ข้างตู้เสื้อผ้าพร้อมสำรวจไปทั่วทั้งห้องและเดินไปนั่งบนเตียง ส่วนเค้าก็เดินไปเก็บของออกจากกระเป๋าระหว่างที่เก็บของก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องจากข้างหลังจึงหันไปสบตาคู่นั้น เจ้าของดวงตาที่จับจ้องเค้าพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆส่งมาให้ตอนนี้เอนตัวลงนอนตะแคงข้างท้าวศอกกับที่นอนพยุงศีรษะไว้หันมาทางเค้า พอเห็นเค้าจ้องกลับเจ้าตัวจึงพลิกตัวคว่ำหน้ากดหน้าลงกับหมอนพร้อมสูดกลิ่นจากหมอนของเค้าและหันมาส่งสายตาให้
“กลิ่นเดียวกับแก้มกัสเลย”
หน้าร้อนอีกแล้วขยันหยอดเค้าจริงๆเลยผู้ชายคนนี้ แบบนี้ต้องจัดการเอาคืนบ้าง
“คืนนี้วินนอนห้องกัสนะ เดี๋ยวกัสไปนอนกับมิคเองวินจะได้นอนสบายๆ”
เค้าพูดพร้อมจ้องหน้าส่งสายตาจริงจังไปให้คนที่นอนอยู่แต่ปากอมยิ้มน้อยๆทำเอาวินเด้งตัวลุกขึ้นพร้อมโอดโอย
“ไม่เอานะครับกัสนอนห้องนี้กับวินนะ”
ร่างสูงผลุดลุกขึ้นเตรียมเดินตรงมาหาเค้า
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะวิน คืนนี้กัสจะนอนกับมิคส่วนวินต้องนอนห้องนี้คนเดียว หรือว่าถ้าวินไม่ตกลงงั้นกัสจะให้วินกลับวันนี้เลย”
วินทรุดตัวกลับไปนั่งตามเดิมหันหน้าหนีทำปากยื่น ตัวโตขนาดนี้ยังกล้าทำแบบนี้อีกเหรอดูไม่ได้ซะเลย แต่เค้าก็สะใจที่ได้แกล้งคนตรงหน้านี้ได้ นี่แค่เอาคืนเล็กๆน้อยๆนะเพราะสองวันมานี้ทำเอาเค้าอายไปหลายรอบแล้ว
“ครับ วินนอนห้องนี้คนเดียวก็ได้ กัสใจร้ายอ่ะ”
นั่นยังทำเสียงเล็กเสียงน้อยพูดกับเค้าอีก ‘พ่อคนเจ้าเล่ห์แสนงอนของเค้า’
....................................................................
*เพลง
“ไม่มีตรงกลาง” ของจิรากร
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ^^
ตอนนี้เป็นพาทของกัสนะคะ และยังอมหวานให้คนอ่านหมั่นไส้นายวินอยู่
แต่คงไม่เลี่ยนเท่าตอนที่แล้ว เพราะหลายคนบอกเลี่ยนเกิ๊นนนน
ขอแอบแทรกเพลงด้วยแบบชอบเพลงนี้อ่ะค่ะแต่ไม่รู้มันจะเข้ากันมั้ยน้อ
และขอ
ทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ค่ะ
ปล.มีอะไรก็เม้นได้เหมือนเดิมนะคะ และ+1ให้กับทุกท่านแล้ว