"เพื่อรัก ฉันต้องเริ่ด" *Special Project* A21,The End : 5 Feb 2012; P52
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "เพื่อรัก ฉันต้องเริ่ด" *Special Project* A21,The End : 5 Feb 2012; P52  (อ่าน 337309 ครั้ง)

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ไม่อยากเศร้าแล้ว ตอนหน้ารีบๆดีกันนะ

ออฟไลน์ dxxppos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จะได้เจอกันไหม หัวใจของฮิ้นท์
จะเข้าใจกันไหม หัวใจของฮัท

ไม่ไหว เศร้ามากมาย..       .ฮิ้นท์สู้ๆ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เศร้าๆๆๆๆ  แต่ด่าทักไม่ออก  คนเราอะน้า มันรักใครก็ต้องพยายามทำให้ตนสมหวังทั้งนั้น  แต่อยากด่าฮัท  ป๊อดจริงๆเลย

ว่าแต่  ทำไมรายละเิีอียดที่สองคนเล่า  เหตุการณ์มันไม่ตรงกันแฮะ 

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :กอด1:
สู้ๆๆนะจ๊ะ ฮิ้น

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องฮิ้นท์เราร่ำไห้ชุดใหญ่เลย
รอฮัทรุกหนักอยู่นะ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :monkeysad: :m15: :sad11:น้องอิ๊กกี้โรคจิต55555+
ร้องไห้จนขี้มูก :t3:แล้วนะ อย่าทำแบบนี้เลย ให้กำลังใจเสมอ :pig4:

ออฟไลน์ JA(e)jung

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮิ้นน่าสงสารอ่ะ
ตอนนี้เสียน้ำตาไปเป็นลิตร
ฮัทแมร่งอ่อน :z6:แมร่งเลย หมันไส้ว่ะ
ทักสู้ๆเว้ย(เปลี่ยนไปเชียร์ทักแทน)
ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :t3: :เฮ้อ:นานแล้วนะครับอิ๊กกี้ มาต่อให้อ่านด้วยนะ :L1:

ออฟไลน์ なおみ™

  • เดียวดาย...ในโลกกว้าง
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1892
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-6
จริงๆ แล้วยังอ่านไม่จบเลยคุณอิ๊กกี้
แต่ขอมารายงานตัวให้รู้ว่ากลับมาแล้ว  :laugh:


ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ทักทายผู้อ่านจากผู้เขียน

         ก่อนอื่นก็ต้องขอสวัสดีกับทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวของนายฮัทและฮิ้นท์มาตลอดนะครับ  บางท่านอาจจะมีคำถามและรู้สึกว่าทำไมฮัทมันเป็นคนแบบนี้   ทำไมไม่ได้เรื่อง  ทำไมลังเล  ทำไมไม่มั่นคง ฯลฯ  อันนี้ผมสังเกตได้จากคอมเม้นท์ต่างๆที่มีมาตลอด  เข้าใจครับว่าส่วนใหญ่คงรู้สึกว่า  ไม่ได้ดั่งใจนั่นเอง   

         วันนี้เลยอยากมาอธิบายอะไรๆให้ทุกท่านเข้าใจมากขึ้นนะครับว่าทำไมฮัทมันถึงเป็นแบบนั้น     ถ้าหากว่าเราจะลองจิตนาการไปว่าฮัทคือคนที่มีชีวิตจริงๆมันก็จะเป็นแค่เพียงเด็ก ม.5 จากรร.ต่างจังหวัดคนนึงเท่านั้นเอง   ดังนั้นไอ้เรื่องความคิดอ่านและการตัดสินใจอะไรบางอย่างก็คงออกมาไม่ได้อย่างที่เราๆหวังไว้บ้างแหละ  และการที่เด็กผู้ชายคนนึงอยู่ๆจะกลายมารักกับผู้ชายด้วยกันมันก็เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเด็กอย่างฮัทมัน   เพราะว่ามันเป็นคนที่แคร์สังคมรอบข้างมากโดยเฉพาะพ่อกับอา   กังวลไปสารพัดว่าพ่อจะเอาหน้าไปไว้ไหนถ้าลูกเป็นเกย์เพราะพ่อเค้าก็มีหน้ามีตาในวงสังคมแถบนั้น   ลองคิดดูครับว่าสังคมต่างจังหวัดน่ะ  ลองถ้ามีเรื่องให้นินทากันล่ะก็มันจะเร็วมาก  จากปากต่อปากแป๊บเดียวก็รู้กันทั้งหมู่บ้าน  ลามไปเป็นตำบล  สุดท้ายก็คงได้รู้กันไปทั้งจังหวัด   ฮัทมันจะกลัวเรื่องนี้มากที่สุดแล้ว

         และทั้งหมดนั้นมันก็ยิ่งทำให้ฮัทของเราต้องแบกรับความรู้สึกเหล่านี้ไว้เยอะเกิน   ไอ้รักน่ะมันก็รักมากไม่ใช่ว่าไม่ได้รัก   แต่เรื่องนี้มันไม่ได้จบง่ายๆแค่รักกันแล้วก็ไปได้กันจากนั้นก็แฮบปี้เอนดิ้งไง  เพราะถึงตอนนี้มันเท่ากับว่าฮัทมันจะต้องเลือกระหว่างความรักของตัวเองกับความรู้สึกของพ่อกับอา   ว่าจะรักษาอะไรเอาไว้และจะต้องทิ้งอะไรไปซึ่งเค้าก็ได้เลือกแล้ว  เชื่อเถอะครับว่าทุกอย่างมันทำให้เราได้เห็นแล้วว่า   นี่แหละมันคือชีวิตจริงที่บางทีก็ไม่ได้สวยหรูได้ดั่งใจเหมือนในนิยายเสมอไป   และบางทีเราก็ต้องเจอกับความสูญเสียบ้าง   มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคนเราแหละครับ

         และจากที่คุณอิ๊กกี้เองก็เคยได้ระบุไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่า   นิยายเรื่องนี้เป็นการนำเค้าเรื่องมาจากเรื่อง "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก"  เอามาเปลี่ยนอีกนิดหน่อยแต่โดยรวมๆก็ยังคงเค้าเรื่องนั้นอยู่   ทุกท่านจะสังเกตเห็นเหมือนกันว่า   ทำไมมาริโอ้หรือพี่โชนก็ไม่บอกนางเอกไปว่าตัวเองรักเค้ามาก   ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นอะไรที่ขัดใจคนดูมากอยู่เหมือนกัน   แสดงให้เห็นว่าบางมุมของอารมณ์ตัวละครมันย่อมมีอะไรบางอย่างที่ทำได้และไม่ได้อยู่   และคงต้องบอกว่าเราไม่ได้เป็นตัวละครตัวนั้นๆเราก็คงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าไม่ทำแบบนี้  ไม่ทำแบบนั้น
   
         และที่ผมยังต้องขออภัยไว้ตรงนี้เลยก็คงเพราะว่าบางทีคนแต่งเองก็ยังมีประสบการณ์น้อยมากครับ  เพิ่งจะได้เขียนนิยายมาไม่กี่เรื่อง    หลายๆครั้งที่เขียนไปหวังจะถ่ายทอดอารมณ์ของฮัทมันให้ได้อย่างใจที่คิดไว้แต่ก็ทำไม่ได้   อยากสื่อให้ทุกๆท่านเข้าใจอารมณ์ของฮัทว่าตอนนี้คิดยังไงแต่บางทีมันก็ออกมาไม่ดี   ยังไม่ตรงกับที่ผมต้องการเท่าไหร่    จึงไม่แปลกที่หลายๆท่านอาจยังไม่พอใจว่าฮัทมันไม่ได้อย่างใจ   ซึ่งอันนี้ผมขอน้อมรับข้อผิดพลาดนี้ไว้โดยดีครับและจะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น   

         ท้ายนี้ถ้าใครอยากติชมอะไรก็ได้เลยนะครับ  ผมเองยินดีรับฟังไว้เป็นข้อมูลเพื่อเอามาปรับปรุงงาน  และหวังว่าทุกท่านคงเข้าใจอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับตัวละครของเรื่องนี้ได้ดีขึ้นแล้วนะครับ   ขอบคุณมากครับ


Ps. อันนี้เพื่อนเขาฝากมาลงนะครับ เขาเครียดในการเขียนบทพี่ฮัทของเรามาก ยังไงๆเอาใจช่วยหน่อยนะคร้าบ
จุ๊บๆๆ

อิ๊กกี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2012 10:42:41 โดย eiky »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
B19
ตอนนี้ผมอยากตายไปเลยว่ะ  ยิ่งพยายามเคลียร์ตัวเองมากเท่าไหร่ก็เหมือนว่าเรื่องมันจะยิ่งยุ่งเข้าไปอีก  มันต้องโกรธผมแน่ๆ  ป่านนี้คงหาว่าผมทำแบบนี้จงใจประชดมัน 

         " นี่มันอะไรกันแหวน  ทำแบบนี้ทำไมหา... "  ผมโวยทันทีที่ลงมาจากเวที  แต่แหวนก็ทำหน้าไม่สะทกสะท้านซะอีก

         " เอ๊ะ... แล้วทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย  ก็ให้มันดูดีดูน่ารักเหมือนคู่รักจริงๆไง  เพื่อความสมจริงอ่ะ  เห็นมั๊ย... คนดูชอบกันแค่ไหนตบมือกันให้สนั่นถล่มทลายซะขนาดนี้"  แหวนแก้ตัวได้แบบว่า... ผมเซ็งโคตร

         " หึ...นี่แหวนคิดยังงั้นจริงๆน่ะเหรอถามจริง  เราไม่ได้เป็นควายนะจะได้ดูไม่รู้ว่าแหวนคิดอะไรอยู่น่ะ  ไหนว่าเราคุยกันเรื่องนี้รู้เรื่องไปแล้วไง" 

         " เอ๊ะ... ฮัทนี่  ก็เราบอกแล้วว่าเราแค่ทำไปตามบทที่มันควรจะเป็นก็แค่นั้นเอง  ทำไมต้องมาโกรธอะไรอีกไม่รู้นะ ไปดีกว่า..."  เจ้าหล่อนตัดบทไปดื้อๆแล้ววิ่งออกจากห้องแต่งตัวไปเลยครับ  ให้มันได้งี้สิว้า

         " เว้ย...ย แมร่ง...ง"  ผมสบถอย่างหัวเสียพลางถอดเสื้อโค้ทที่ใส่อยู่เหวี่ยงไปบนพื้น

         " เฮ้ย... ไอ้ฮัท  เมื่อกี๊มันยังไงกันวะ  มีบทเลิฟซีนด้วยเหรอน่ะ"  ไอ้ป่านกับไอ้วินเดินมาถามผม

         " ก็แหวนอ่ะดิทำนอกบทกะกู   ยังงี้กูก็ตายดิ  คนอื่นเค้าจะคิดว่าไงล่ะ"

         " อ้าว... เหรอวะ งั้นมึงจะเอาไงเนี่ย"  ไอ้วินเอ่ยขึ้นเพราะรู้ดีว่าผมหมายถึงใคร  ส่วนไอ้ป่านยังทำหน้างงๆ

         " จะเอาไงล่ะ  ก็ต้องไปเคลียร์กะมันน่ะสิวะไม่งั้นจะทำไง  แมร่งเอ๊ย...  ซวยฉิบหายเลย"  ผมบ่นแล้วก็ลุกขึ้นจะเปลี่ยนชุด

         " เฮ้ยๆ  เดี๋ยว... ตกลงนี่พวกมึงสองคนยังไงกันวะ  ไอ้ฮัท  ไหนมึงบอกกูดิ๊  ที่มึงว่าเนี่ยมันหมายความว่าไงวะ  ต้องไปเคลียร์กะมันเนี่ย  บอกกูมาซะดีๆเลย"  ไอ้ป่านทวงถามทันที  ก็แน่ล่ะครับมันต้องสงสัยแน่เพราะผมยังไม่ได้เล่าเรื่องผมกับไอ้ฮิ้นท์ให้มันฟังซะที  มัวแต่วุ่นวายสารพัดเรื่อง

         " เออๆ  แล้วกูจะเล่าให้ฟังว่ะรับรอง  จะบอกมึงทุกอย่างให้หมดเปลือกเลย  แต่ตอนนี้กูขอไปจัดการเรื่องของกูก่อนนะเว้ย  ขอโทษทีว่ะ"

         " อ่ะเฮ้ย... เชี่ย... ได้ไงวะ  มาทำให้กูอยากแล้วจากไปเหรอ  เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้เลยนะ  มันจะยาวแค่ไหนกันเชียววะเรื่องมึงเนี่ย  เล่ามาเลยๆ  เดี๋ยวนี้เลยมึง"  มันยังไม่ยอมว่ะ  เฮ้อ....

         " เว้ย... มึงนี่ก็... เออๆ  งั้นไอ้วินมึงช่วยเล่าให้มันฟังทีละกัน  กูต้องรีบไปจัดการเรื่องของกูก่อนว่ะ  สงสัยอะไรมึงถามไอ้วินมันได้เลย  กูไปล่ะ"  ผมโยนให้ไอ้วินมันซะเลยมันก็พยักหน้ารับ   ไอ้ป่านมันจะโวยขึ้นมาอีกแต่พอเห็นท่าทางผมร้อนๆใจมันก็ไม่อยากซักผมต่อ

         พอผมวิ่งออกมาแล้วลองมองหาฮิ้นท์มันก็ไม่เจอแล้วไม่รู้ว่ามันไปไหน  แต่พอเดินกลับมาใกล้ๆห้องแต่งตัวหลังเวทีอีกก็เห็นไอ้ทักมันยืนอยู่ครับ  สงสัยพวกฮิ้นท์มันก็คงต้องอยู่ด้วยกันในห้องแน่

         " ทัก... ไอ้ฮิ้นท์ล่ะวะ"  ผมเริ่มถามไอ้ทักมันก่อน  มันก็หันมามองผมคิ้วขมวด

         " ทำไมวะ  มึงจะมาทำไมมันอีก"

         " กู... มีเรื่องต้องคุยกะมันว่ะ"

         " เรื่องอะไรของมึงอีกวะ  ก็เราคุยกันแล้วไง  กูขอแค่ว่ามึงอย่ามาอะไรกะมันอีก  ในเมื่อมึงบอกจะหลีกทางให้กูแล้วก็อย่าคืนคำดิวะ"

         " เออ... กูก็รู้อยู่  แต่นี่กูแค่อยากอธิบายให้มันฟังแค่นั้น  ว่ากูไม่ได้มีอะไรกับแหวนจริงๆ"

         " เหอะ... เพื่ออะไรวะ  ถึงมันฟังมึงแล้วไง  แล้วมึงกะมันก็จะจูบปากคืนดีกันเหรอวะ  มึงจะเอายังงั้นเหรอ"  มันยิ่งลอยหน้าลอยตาพูดประชดผมอีก

         " ก็ไม่ได้หมายถึงยังงั้น  กูแค่อยากให้มันเลิกเข้าใจกูผิดๆก็แค่นั้น  แล้วอีกอย่างนะเว้ย  กูว่ามึงน่าจะถามไอ้ฮิ้นท์มันมั่งนะ  ว่ามันจะเลือกใคร  ถ้ามึงคิดว่ามันจะเลือกมึงแน่ๆเพราะกูไปจากชีวิตมันเนี่ย  แล้วเกิดมันมารู้ทีหลังว่ามึงทำยังงี้มึงจะว่ายังไงวะ"

         " แล้วมึงจะมากลัวทำไมวะ  มึงไม่พูด  กูไม่พูดแล้วใครจะรู้ได้  นอกซะจากว่ามึงจะคืนคำที่มึงเคยรับปากกูไว้นั่นล่ะ"  ผมฟังมันแล้วก็อ่อนใจจริงๆ  โมโหเหมือนกันนะครับเนี่ยที่มันงี่เง่ายังงี้  แต่ก็จนใจล่ะ   สรุปว่ายังไงซะมันก็จะขวางไม่ให้ผมเข้าไปหาไอ้ฮิ้นท์มันอยู่ดี

         " มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอกว่ะ  กูลองมาคิดๆดูแล้ว  กูว่ามันไม่แฟร์กับไอ้ฮิ้นท์มันนี่หว่า  มันต้องได้เป็นคนเลือกเองสิวะว่ามันจะรักใคร   ไม่ใช่ให้มึงหรือกูมาตัดสินแทนแบบนี้  มึงลองคิดดูดีๆละกันว่าที่กูพูดน่ะมันจริงมั๊ย"

         " งั้นนี่สรุปว่ามึงจะคืนคำพูดมึงใช่มั๊ยวะ  หา... ตกลงมึงก็จะต้องมาแย่งมันไปจากกูให้ได้ใช่มั๊ย"  มันเริ่มเสียงเข้มขึ้นแล้วขยับเข้าใกล้ผมเตรียมจะมีเรื่องเต็มที่  ไอ้ผมก็ไม่มีถอยอยู่แล้ว

         " ไอ้ทัก... ทำอะไรอยู่  เข้ามาซ้อมบทเร็ว... อ้าว... ฮัท"  ยัยวิวครับ  โผล่ออกมาจากในห้องแต่งตัวเรียกไอ้ทักพอดี  แต่พอหันมาเห็นผมก็มองผมแบบว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่  ส่วนไอ้ทักก็หันมามองผมอย่างเอาเรื่องก่อนจะเดินเข้าห้องไป

         " เอ่อ... วิว  ฮิ้นท์มันอยู่ในนั้นมั๊ย  เราขอคุยด้วยหน่อยสิ  แค่แป๊บเดียวเอง...."  ผมลองถามวิวดู

         " โทษนะ... ฮิ้นท์มันคงยังไม่พร้อมจะคุยอะไรกันตอนนี้หรอกเพราะต้องใช้สมาธิน่ะ  เดี๋ยวก็จะขึ้นเวทีแล้ว  มีไรไว้คุยหลังแสดงละกันนะ"  ยัยวิวพูดแล้วก็เชิดใส่ผมหนึ่งทีแล้วกลับเข้าห้องไปเลย  เฮ้อ... ให้มันได้ยังงี้สิว้า  อะไรๆมันแย่ไปหมดจริงๆ

         ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น  ได้แต่เดินคอตกกลับออกมาหาไอ้วินไอ้ป่านที่ยืนกันอยู่แถวๆหน้าเวทีรอดูการแสดงของห้องไอ้ฮิ้นท์

         " ทำหน้ายังงี้แสดงว่างานเข้าสิมึง  ตกลงมันโกรธมึงเหรอวะ"  ไอ้วินถามผม

         " เออว่ะ... เรื่องยาวแน่กู  แม่งเว้ย...ย  ทำไมช่วงนี้มันมีแต่เรื่องวะกู"

         " เอาน่ะ  ใจเย็นมึง  มันโกรธเราก็ง้อวะ  ตื้อมันเข้าไปดิ  เดี๋ยวมันก็ต้องใจอ่อนจนได้น่ะ"  ไอ้ป่านแนะนำบ้างพลางตบไหล่ผมเบาๆแล้วยิ้มเหมือนปลอบใจ

         " อืม... ขอบใจว่ะ  เออ... แล้ว  ไอ้วินมันเล่าให้มึงฟังหมดแล้วใช่ป่ะ"

         " เออ... "

         " แล้วมึง... อืม... มึงจะว่าไงล่ะวะ  ที่กู...."

         " เออ... จะให้กูว่าไงล่ะ  เรื่องแค่นี้  ไอ้ห่า... ยังไงมึงก็เพื่อนกู  จะให้กูเลิกคบพวกมึงรึไง  ปัญญาอ่อนน่ะ... "  มันว่าแล้วก็กอดคอผมไว้กับไอ้วิน  ทำให้ผมยิ้มออกมาได้ทันที

         " อืม... ขอบใจว่ะ ตอนแรก ทั้งกูทั้งไอ้วินก็ไม่มั่นใจหรอกว่ามึงจะรับได้  ขอบใจนะเว้ยที่เข้าใจพวกกู" 

         " โอ๊ย... มึงไม่ต้องมาซึ้งอะไรหรอก  กูอ่ะยังไงก็ได้  คบกันมาไม่ใช่ปีสองปีนะเว้ย  แค่นี้อ่ะกูรับพวกมึงได้อยู่แล้ว... แต่ว่า........."  มันพูดแล้วก็ทิ้งท้ายไว้อีก

         " อะไรวะ..." ไอ้วินหันมาถามมันทันที  มันก็ยิ้ม

         " ก็ถ้าเวลากูจะมีแฟนมั่งอ่ะ  กูขอมีแฟนผู้หญิงนะเว้ย   ฮ่าๆๆ  ไม่เอาแบบพวกมึงล่ะนะ"  มันว่าแล้วก็หัวเราะ  ผมกับไอ้วินก็หัวเราะตามมันไปด้วย  เฮ้อ.... หายเครียดไปได้หน่อยนึงครับ  ก็ยังดี  แต่ตอนนี้ไอ้ที่จะทำให้ผมต้องเครียดต่อกำลังจะเริ่มแล้ว  มันอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ

         พิธีกรบนเวทีประกาศว่าต่อไปเป็นละครจากห้องไอ้ฮิ้นท์มัน  เสียงปรบมือดังเกรียวกราวแล้วฮิ้นท์มันก็เดินออกมา   ผมพยายามจ้องมองมันเขม็งแทบจะอยากตะโกนเรียก   หวังแค่ให้มันหันมามองผมหน่อยแต่มันก็ไม่สนใจสักนิด  มันยังคงแสดงของมันต่อไปยังงั้น

         เรื่องราวที่แสดงก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนนึงไปหลงรักเจ้าหญิงแล้วไม่สมหวังเลยไปขอพรจากซานตาคลอสซะงั้น  ดูเรื่องมันออกจะแปลกๆแต่พอได้ฟังเพลงที่มันร้องออกมาแล้ว   ใจผมแทบสลายเลยว่ะ  ผมรู้ตัวทันทีเลยว่ามันคงจงใจแต่งเพลงนี้มาต่อว่าผม  เนื้อหาของเพลงมันทั้งเศร้าและหดหู่แถมมันร้องไปก็น้ำตาไหลไปด้วยซึ่งไม่ว่าใครๆที่เค้าดูอยู่ก็คงคิดว่าฮิ้นท์มันอินมาก   แต่ผมเองรู้ดีว่าที่มันเป็นแบบนี้คงเพราะผมเอง

         สุดท้ายก็เป็นผมที่ทนต่อไปไม่ได้ต้องเดินออกไปข้างนอกซะเอง   ผมทนดูมันร้องไห้แบบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว   ไม่เคยนึกเลยว่าอะไรๆมันจะยิ่งเลวร้ายลงไปเรื่อยๆถึงขนาดนี้จากที่เข้าใจกันผิดไปแค่นิดหน่อยแต่ตอนนี้มันยิ่งบานปลายไปซะขนาดนี้

         " ใจเย็นๆเว้ย... ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มากไว้ให้ฮิ้นท์มันอารมณ์เย็นๆลงกว่านี้อีกหน่อยแล้วมึงค่อยเข้าไปคุยกะมันละกัน  ไม่งั้นขืนมึงยิ่งจะลุยเข้าไปตอนนี้มันก็คงยิ่งโกรธว่ะ กูว่า...  แล้วไหนจะพวกเพื่อนๆมันอีก"  ไอ้วินตามมานั่งข้างๆผมพร้อมกับไอ้ป่าน

         " สงสัยก็คงต้องยังงั้นล่ะว่ะ  เห็นยังงี้แล้วกูเป็นห่วงมันนะ  ทำไมอะไรๆมันเลยเถิดไปได้ขนาดนี้วะเนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ"  ผมบ่นแล้วก็ได้แต่กุมขมับ  พยายามจะคิดหาทางอะไรสักอย่างแต่ก็คิดไม่ออกจริงๆ  แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ผมว่าผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง  ผมคงต้องคุยกับมันให้ได้ก่อนสักนิดก็ยังดี  อย่างน้อยๆก็ให้มันได้รู้ว่าผมเองรู้สึกผิดเหมือนกัน

         " เฮ้ย... มึงจะมาทำไมอีกวะ  เห็นมั่งมั๊ยเมื่อกี๊อ่ะ  มันเป็นยังงั้นก็เพราะมึงนี่แหละ"  ไอ้ทักโวยผมอีก  ทันทีที่ผมเดินไปที่ห้องแต่งตัว

         " แล้วมึงจะอะไรนักหนาวะ  มันจะคุยกะเพื่อนมึงนู่น  ไม่ได้เกี่ยวไรกะมึงเลย  นี่มันเรื่องของพวกมันแค่สองคนนะเว้ย"  ไอ้ป่านมันเริ่มโวยไอ้ทักมั่ง

         " เหอะ... เรื่องของมัน  แต่ว่ามันอ่ะเพื่อนกูเว้ย  ถ้ามึงหวังดีกะมันจริงกูว่ามึงกลับไปเหอะ  อย่ามารบกวนมันตอนนี้เลย  มันเสียใจมากคงไม่อยากฟังอะไรมึงทั้งนั้นแหละ  โอเคมั๊ย"  ไอ้ทักยังคงยืนกรานและงี่เง่าของมันต่อไป

         " ปัดโธ่เว้ย... ไอ้ห่านี่....  "  ไอ้วินไม่พอใจขึ้นมาอีกคนแต่ผมยกมือห้ามมันซะก่อนมันเลยหยุดแค่นั้น

         " เอาล่ะๆ  กูไปก่อนก็ได้วะ  แต่ฝากดูแลมันด้วยละกัน  ไปกันเหอะ"  ผมต้องยอมแพ้มันจนได้เพราะก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว   ไม่งั้นเดี๋ยวคงได้มีเรื่องกันไปใหญ่โตอีก  แค่นี้ก็แย่พอแล้ว

         พอตอนงานเลิกพวกเราจะกลับบ้านกันแต่ผมไม่เห็นเงาแหวนเลย  พอผ่านไปสักแป๊บแหวนก็โทรมาหาผมบอกว่าเดี๋ยวจะกลับกะไอ้วินเพราะจะไปฉลองกันต่อที่บ้านเพื่อน   ผมก็ต้องตามใจเค้าล่ะ  แต่ตอนนั้นบอกตรงๆว่ายังห่วงฮิ้นท์มันมากเลยรอๆอยู่แถวนั้นก่อน 

         สักพักก็เห็นมันออกมากับไอ้ทักแล้วซ้อนท้ายไอ้ทักขับออกไป  ผมรีบขับตามไปจนถึงบ้านมันโน่นเลย  แต่แค่ไปจอดอยู่ใกล้ๆนะครับ  ไม่ได้เข้าไปใกล้บ้านเพราะไม่อยากให้มันเห็นผมตอนนี้   นึกในใจว่าอย่างน้อยมาเห็นมันกลับถึงบ้านปลอดภัยแล้วก็ยังดี  จากนั้นผมก็กลับบ้านไปอย่างเซ็งๆ

         -

         -

         ผมยอมทนรอจนกระทั่งถึงวันจันทร์   ได้เห็นมันตอนเข้าแถวเช้าอยู่กับพวกวิวแจงและไอ้ทักเหมือนเคยแต่รู้สึกเหมือนกะว่ามันเองไม่อยากมองมาทางผมด้วยซ้ำ  แสดงว่ามันก็ยังคงโกรธผมอยู่

         " เฮ้ย... แย่ว่ะ  กูว่างานเข้ามึงเพิ่มอีกงานแล้วนะ  ดูรูปที่บอร์ดดิ"  ไอ้วินชี้ให้ผมดูรูปถ่ายวันงานที่ตอนนี้เค้าเอามาติดรวมกันบนบอร์ด  ที่สำคัญเค้าถ่ายตอนที่แหวนจูบผมเต็มๆอยู่รูปนึงซะอีก

         " แมร่งเว้ย... ทำไมต้องเอารูปนี้มาติดด้วยวะ"  ผมบ่นแล้วพยายามจะเลื่อนกระจกบอร์ดออกทั้งที่ก็รู้ว่าเค้าล๊อคไว้

         " ทำไงว้า... ไม่รู้ไอ้ฮิ้นท์มันเห็นรูปนี้รึยังอ่ะดิ  กูไปบอกอาจารย์ให้เอาออกไปดีกว่า" 

         " เดี๋ยว... กูว่าทำงั้นไปก็แค่นั้นล่ะว่ะ  เอาว่าตอนนี้มึงรีบหาทางเข้าไปเคลียร์กะมันให้ได้ก่อนเหอะ  จะดีกว่านะ"  ไอ้ป่านออกความเห็น  ผมก็ต้องยอมตามนั้น   จนกระทั่งตอนพักเที่ยงผมกำลังจะไปเดินตามหาฮิ้นท์มันแต่พอดีเดินไปเจอวิวกะแจงซะก่อน

         " วิว... แล้วฮิ้นท์ล่ะ"

         " นี่... ฮัท... ช่วงเนี้ย  เราขอได้มั๊ย... อยู่ให้ห่างๆจากฮิ้นท์มันไว้หน่อย  ไม่งั้นมันคงทำใจไม่ได้  เราไม่อยากเห็นเพื่อนเราเป็นทุกข์ยังงี้นะ  ขอร้องล่ะ"  วิวเอ่ยเสียงเรียบๆด้วยหน้าที่ดูเศร้ามาก

         " เอ่อ... เดี๋ยวสิ  คือเรา.... "

         " ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ  พวกเราพอเข้าใจดีว่าฮัทคงแค่ไม่อยากให้พวกเราคิดแบบนี้หรือมองฮัทในแง่ร้ายๆพวกเราก็เข้าใจนะ  แต่ว่าเราสงสารฮิ้นท์มันน่ะ  ถ้าห่างๆกันไปซะฮิ้นท์มันก็คงทำใจได้ไปเองแหละ  เราขอละกัน" 

         " มันไม่ใช่แบบนั้นหรอกวิว  เพราะที่จริงเราน่ะ..."  ผมกำลังจะหลุดพูดออกไปอยู่แล้วว่าผมเองก็รักมันเหมือนกัน 

         " ฮัท... ทำอะไรอยู่น่ะ  อ้อ... มาคุยอะไรอยู่กะอีพวกโลว์คลาสอยู่นี่ทำไมนะ  เสียเวลา  ไปกันเหอะ  แหวนหิวแล้วนะ"   แหวนมาขัดจังหวะพอดีอีกจนได้ 

         " วู้ย... ค่า.... อีพวกเราน่ะมันโลว์คลาส   ใครเค้าจะเหมือนแกล่ะค้า... อีไฮโซ   แต่ขอโทษนะ  ไฮโซแต่หน้าไม่ค่อยมียางอายกล้าจูบผู้ชายต่อหน้าธารกำนัลน่ะ  จริงมั๊ยแก... " ยัยแจงสวนกลับแหวนทันควันแล้วหันไปเออออกับวิว

         " อี.... "  แหวนของขึ้นชี้หน้าสองคนนั้นทันที  ผมเลยยกมือขึ้นห้าม  ก็ตามเคยอ่ะนะ

         " เอ้า... พอๆๆ เอาล่ะ  จะไปกินข้าวใช่มั๊ย  ก็ไปสิ... โรงอาหารอยู่ทางโน้น"  ผมว่าแล้วก็เดินนำไปอย่างเอือมระอามาก  ชั่วโมงนี้มันหดหู่ใจจนไม่รู้จะว่าไงแล้วจริงๆ  เฮ้อ....
         
         ผมกลับมานั่งคิดนอนคิดไม่รู้กี่ตลบว่าจะทำไงให้ได้คุยกะมัน  แน่นอนว่าโทรไปไม่รู้กี่ทีมันก็ไม่รับเพราะโกรธผมซะขนาดนี้  แต่พรุ่งนี้ที่รร.เราก็จะมีงานส่งท้ายปีเก่านี่หว่า  คงแยกกินเลี้ยงกันห้องใครห้องมันแล้วก็มีจับฉลากกันไปเหมือนทุกปี   งั้นผมจะลองหาโอกาสไปหามันที่ห้องละกัน


To be Continued

l_k

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับผม แต่อย่าจบแบบ MV นาที ของว่านเลย  :o12: :o12:

min_min

  • บุคคลทั่วไป
แอบมาลงมะบอกกันเรยยย อิอิ

จะได้คุยกันเมื่อไหร่เนี่ยยยย

ออฟไลน์ ๐DeAchieS๐

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ทำไมมาสั้นจางงงงงงง

กะลังอิน เลยยยยยยย

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

เป็นกะลังใจให้นะครับ

สุสุ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
พอวันรุ่งขึ้นผมก็ทำตามแผนที่คิดไว้   ลองเดินไปหามันที่ห้องซะเลย  ตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าผมจะบอกมันให้หมดว่าผมรักมันเหมือนอย่างที่มันก็รักผมเหมือนกัน  แต่พอผมเดินไปถึงห้องมันก็ต้องชะงักเพราะได้ยินเสียงโห่ฮา  เป่าปากเกรียวกราวดังออกมา

         " จริงๆเหรอวะ  นี่ตกลงมึงคบกันแล้วเหรอ  ไอ้ทัก  มึงเป็นแฟนกับไอ้ฮิ้นท์แล้วเนี่ยนะ" 

         " เออ... กูนี่แหละ  เป็นแฟนกะมันแล้ว  ใช่มั๊ยจ๊ะที่รัก..."  เสียงไอ้ทักพูดและภาพที่ผมเห็นก็คือมันโอบไหล่ไอ้ฮิ้นท์ไว้แล้วรวบเข้ามานั่งชิดกะมัน

         " มึงไม่ต้องมาพูดมากเลยนะ  ใครบอกจะเป็นแฟนกะมึงกัน  กูไม่เคยพูดนะ"  ฮิ้นท์มันโวยวายออกมาแล้วก็ผลักไอ้ทักออก

         " แหม... แค่นี้ทำอายไปได้  เปิดตัวกันไปเลยสิจ๊ะที่รัก  ไม่ต้องอายใครเค้าหรอกน่า  คนกันเองทั้งนั้น"  พูดไม่พูดเปล่า  ไอ้ทักหอมแก้มมันโชว์ทุกคนอีกด้วย

         " วู้ๆ  งั้นต้องดื่มฉลองแล้วเว้ย  คู่รักเขย่าวงการว่ะ  เอ้า  ดื่มๆ"  เสียงเพื่อนมันชวนให้ฉลอง  แต่ผมเองทนดูได้แค่นั้นต้องเดินหนีออกมาอย่างเร็วที่สุดจากตรงนั้น   หัวผมมึนชาไม่มีความรู้สึกอะไรอีกแล้ว  รู้แค่ว่าอยากไปจากตรงนั้นให้พ้นจนเดินลงไปในสนามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว

         ผมล้มตัวนอนไปกับสนามหญ้าอย่างไม่กลัวจะเปื้อน   มองขึ้นไปบนฟ้าหม่นๆที่ตอนนี้มีแต่เมฆแล้วทบทวนทุกอย่างว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น   ฮิ้นท์มันยอมรับไอ้ทักแล้วเหรอ  สรุปว่ามันเลือกไอ้ทักแล้วใช่มั๊ย  และมันไม่เลือกผม

         ก็คงเป็นยังงั้นสินะ  มันคงไม่เลือกคนที่ทำให้มันเจ็บขนาดนั้นหรอก  มันคงเหนื่อยกับผมมามากพอแล้ว  ไม่ใช่ความผิดของมันหรอก  ผมตะหากที่ผิดเพราะผมทำแต่เรื่องให้มันต้องเสียใจ   งั้นต่อไปผมคงต้องตัดใจแล้วล่ะนะ  จบลงแค่นี้แล้วกัน  ความรักของผม........

         แล้ววันพรุ่งนี้ผมจะเป็นยังไง  ผมจะอยู่ยังไงกัน  เพราะวันเวลาที่ผ่านมาที่ผมมีมันทำให้ผมรักมันมาก   แต่นี่ผมต้องเสียมันไปแล้ว  ต่อไปผมจะไม่มีสิทธ์ได้รักมันอีกแล้ว

         " นี่... ทำไมมานอนอยู่ข้างสนามนี่ล่ะ  นายบุญณรงค์  เป็นอะไรไป หือ..."  เสียงอ.สุพจน์ดังขึ้นแล้วชะโงกหน้าลงมามองผม

         " เอ่อ... เปล่าครับ  ไม่ได้เป็นอะไร"  ผมรีบลุกขึ้นทันที  อ.สุพจน์แกก็มองด้วยความเป็นห่วง

         " มีอะไรรึเปล่าล่ะ  หน้าตาเราดูไม่ค่อยจะดีเลย  เล่าให้ครูฟังก็ได้นะ"  ผมฟังเสียงอ.สุพจน์ที่ถามอย่างเป็นห่วงนั่นแล้ว  อยู่ๆมันก็รู้สึกตื้อไปหมด  ความเจ็บปวดเสียใจมันหลั่งไหลล้นขึ้นมามาเหมือนจะระเบิดออกจนผมต้องกอดแกไว้แล้วร้องไห้ออกมาจนตัวสั่น

         " อาจารย์ครับ.... ผม... ผม..... "

         อ.สุพจน์แกคงตกใจนิดนึง   จากนั้นก็ตบไหล่ผมเบาๆแล้วลูบอย่างอ่อนโยน  ผมก็กอดแกไว้แน่นซึ่งมันกลับทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด

         " ใจเย็นๆ  ค่อยๆตั้งสติเราให้ดี  ยังไม่ต้องบอกครูตอนนี้ก็ได้นะ  เอาล่ะ...  ไปนั่งตรงอัฒจันทร์ก่อน  ไป..."  อ.สุพจน์บอกผมแล้วเดินพยุงพาผมไปนั่งที่อัฒจันทร์ข้างสนาม

         " ถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่หนักหนานักล่ะก็นะ  เราก็ค่อยๆตั้งสติแล้วคิดหาทางไปแล้วกัน  ครูพอเข้าใจดี  อย่างเราถ้ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องสำคัญมากเราก็คงไม่ระเบิดความรู้สึกมายังงี้หรอก  ใช่มั๊ย"  อ.สุพจน์ถามผม

         " ครับ... ผมเสียใจน่ะครับ  เสียใจที่ตอนนี้คนที่ผมรักเค้าไม่เลือกผมแล้วน่ะ"

         " อืม... ครูก็เดาๆอยู่ล่ะนะว่าคงเป็นเรื่องนี้เอง  แล้วถ้าเป็นยังงั้นเธอคิดว่าจะทำยังไงต่อไปล่ะ"

         " ผมก็... อืม... ไม่รู้เหมือนกันครับอาจารย์  ก็คงต้องทำใจน่ะครับ  แต่ก็ไม่รู้จะทำได้ง่ายๆมั๊ย"

         " หึๆ  ก็ยังงี้ล่ะนะ  คนมีความรักก็ต้องยึดติดกับมันเป็นธรรมดา  ไม่แปลกหรอกถ้าจะตัดใจไม่ได้ง่ายๆ  แต่เชื่อเถอะ  สักวันเธอจะทำได้เอง  ถึงวันนั้นแล้วเธอก็จะเข้าใจทุกอย่างและเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อตัวเราเองไง"  อ.สุพจน์สอนผมแล้วยิ้ม   มันเป็นคำพูดง่ายๆไม่ซับซ้อน   ไม่ชวนซึ้งกินใจอะไรแต่ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจและหวังดีของแกอย่างชัดเจน   และมันช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ

         " ขอบคุณนะครับอาจารย์ที่หวังดีกับผม"  ผมก้มลงไปกราบกับตักแกทันที  ซึ้งใจที่นาทีนี้ผมมีแกเตือนสติไม่ให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้   อ.สุพจน์แกก็ยิ้มแล้วลูบหัวผมเบาๆ

         " หึๆ เอาเถอะ ครูก็ห่วงเด็กดีๆอย่างเราไง  เรื่องแบบนี้มันเกิดได้กับทุกคนนะ   อยู่ที่ว่าคนเหล่านั้นจะรับมันได้สักแค่ไหน  จะเตลิดเปิดเปิงไปก่อนจนเสียผู้เสียคนรึเปล่าเท่านั้นแหละ  ครูก็หวังนะว่าเราจะเข้าใจ  จำไว้ล่ะ  ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรากับใจของเราเท่านั้นจงอยู่กับมันให้ได้เพื่อตัวของเราเองนี่แหละ  วันข้างหน้ายังรอเราอยู่และยังมีคนที่รักและหวังดีกับเราอีกตั้งมากมาย  ขอให้คิดแบบนี้แล้วกัน  เชื่อครูเถอะแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นได้เอง"   คำสั่งสอนทิ้งท้ายของอ.สุพจน์ยังดังก้องหัวผมอยู่ขณะที่ผมเดินกลับมาที่ห้อง  ไอ้วินไอ้ป่านก็มองหน้าผมอย่างสงสัยที่ผมทำหน้านิ่งๆไม่บ่งอาการอะไร

         " อ้าว... เป็นไงมั่งวะ  ตกลงได้ความว่าไงมั่ง  เรื่องมึงน่ะ"  ไอ้ป่านถามขึ้นก่อน  ผมเจ็บแปลบขึ้นมาวูบนึงทันทีเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อกี๊

         " ก็... แย่ว่ะ  มันคงจบแล้วว่ะเรื่องกูน่ะ"  ผมพูดไปใจก็เหมือนเริ่มจมดิ่งไปกับความเศร้าอีก  อยากทำใจให้ได้ทันทีอย่างที่อ.สุพจน์สอนเมื่อกี๊นะ   แต่ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี

         " เอาน่ะ... ใจเย็นเว้ย  ตัดใจไปซะก็ดีเหมือนกันว่ะมึง  อะไรๆที่มันคลุมเครือจะได้จบไปซะที  มาๆ  มากินข้าวกันก่อนเว้ย"  ไอ้วินเอ่ยชวนผม

         " กู... อยากกลับบ้านว่ะ  ไม่ดิ... อยากไปไหนก็ได้ที่มันโล่งๆกว้างๆ  เผื่อมันจะสบายใจขึ้นมั่ง"

         " เฮ่ย... จะไปตอนนี้เลยเหรอวะ  งานยังไม่เลิกเลย  แต่ก็... เออๆ  ไปก็ได้"

         " เฮ้ย... พวกมึงกินกันอยู่ที่นี่ไปก่อนเหอะ  นานๆทีห้องเราจะมีเลี้ยง  มึงสนุกกันไปเหอะ" ผมปฏิเสธพวกมันเพราะไม่อยากพลอยทำให้พวกมันหมดโอกาสสนุกไปด้วย

         " วะ... ไอ้นี่... ไอ้งานแค่นี้อ่ะกูไม่อะไรหรอกน่ะ  ตอนนี้กูอยากอยู่เป็นเพื่อนมึงมากกว่า  ไปๆเดี๋ยวแวะเอาเบียร์บ้านกูไปกินด้วยกันเลยเว้ย  กูเลี้ยงเอง"  ไอ้ป่านออกปากเองเลยเพราะบ้านมันขายของชำด้วยก็ต้องขายเบียร์อยู่แล้ว 

         เสียงโทรศัพท์ดังพอดีผมก็รับ  ไอ้โด่งมันโทรมาบอกผมว่ารออยู่หน้ารร.แล้วกำลังจะเข้าไป  ผมก็งงนิดนึงว่ามันจะมาทำไมเลยเดินออกไปหามัน

         " ฮ่าๆๆ  สุขสันต์วันปีใหม่เว้ยเพื่อน  มา... มาฉลองกันดีกว่า"  ไอ้โด่งมันยิ้มร่าเดินมาหาพวกผม

         " โห... นี่มึงถ่อมาหาพวกกูเพื่อฉลองเนี่ยนะ  เพื่อนๆมึงที่โน่นไม่มีใครเอามึงแล้วรึไงวะ"  ไอ้ป่านแซวมัน  มันก็หันมาค้อน

         " สัด... ปากดี  กูอุตส่าห์ซื้อเบียร์มาเผื่อด้วย  งั้นอย่าแดกเลยนะ  กูกลับไปฉลองกะเพื่อนกูก็ได้"  ไอ้โด่งมันว่าแล้วก็หันหลังกลับเหมือนงอน  ไอ้ป่านไอ้วินก็รีบกระโจนไปห้ามมันทันที

         " เฮ้ยๆ  สราด... กูล้อเล่น  แค่นี้ทำงอนไปได้น่า  มาๆ ไหนๆมึงก็จะมาฉลองกะพวกกูแล้วนี่  อย่าให้เสียเที่ยวดิวะ"  มันสองคนทำเป็นนวดเฟ้นเอาใจไอ้โด่งกันใหญ่หวังจะแดกเบียร์มัน

         " แต่ว่านะ  งานนี้มันอาจจะกร่อยๆว่ะ  มีคนที่ไม่พร้อมจะฉลองอยู่ตรงนี้อ่ะดิ"  ไอ้วินว่าแล้วหันมามองผม

         " เออน่ะ  จะไปแดกกันก็ไปดิวะ  กูก็อยากแดกด้วย   ว่าแต่ว่ามึงเอาเบียร์มาด้วยเหรอวะ  ไอ้โด่ง"

         " เออดิ... กูจิ๊กพ่อกูมาได้ลังนึงว่ะ ฮ่าๆๆ  มีคนเอามาให้ที่บ้านเพียบเลย  แอบเอามาลังนึงเค้าไม่รู้หรอก"

         " เจ๋งมากคร้าบ  เดี๋ยวเรารีบไปกันเลยดีกว่าครับป๋า"  ไอ้ป่านเรียกไอ้โด่งเป็นป๋าทันทีเลยว่ะ ดูมัน...

         " เฮ้ยๆ เดี๋ยว... กูว่าไม่ต้องไปไหนกันแล้วล่ะ  เสียเวลาว่ะเพราะคงไม่มีที่ไปหรอก  รึมึงจะไปบ้านใครล่ะ  นี่เราจะไปแดกเบียร์นะเว้ย  ไม่ได้ไปทำรายงาน  พ่อแม่พวกมึงเค้าคงชื่นชมกันหรอก  จะไปแดกเบียร์กันอ่ะ"  ผมเบรคพวกมันไว้

         " อ้าว... ไม่งั้นมึงจะเอาไงล่ะ"

         " ไปกันหลังรร.ที่เดิมเรานี่แหละว่ะ  น้ำแข็งเดี๋ยวเรากลับไปเอาที่ห้องแบ่งใส่กระติกแยกมาก็ได้ง่ายๆ  กับแกล้มก็ฉกเอามาจากที่กินกันในห้องนั่นแหละ"  ผมออกความคิด  พวกมันก็เห็นด้วยแล้วทำตามทันที  ไอ้ป่านไอ้วินกลับไปที่ห้องเอาน้ำแข็งกับขนม  ส่วนผมกะไอ้โด่งก็ช่วยกันหิ้วลังเบียร์เดินไปที่ประจำเราหลังรร.กัน   

         ปกติพวกผมจะมานั่งเล่นกันที่นี่ประจำครับเพราะหลังรร.เราเป็นทุ่งโล่งที่ห่างออกไปจะเป็นสวนผลไม้และทุ่งนาของชาวบ้าน   และตรงนั้นจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ริมสระน้ำบรรยากาศร่มรื่นน่านั่งมาก

         " ดีนะมึงที่ลุงยามเค้าคงไม่เห็นมึงขนลังเบียร์ขับเข้ามาในรร.อ่ะ"

         " ฮ่าๆ ก็คนเรามันต้องรู้หลบเป็นปีก  รู้หลีกเป็นศูนย์หน้าดิวะ  เรื่องไรกูจะให้เค้าเห็นว่าเอาเบียร์เข้ามาล่ะ" 

         " เชี่ยไรของมึงวะ  เค้ามีแต่รู้หลบเป็นปีก  รู้หลีกเป็นหางเหอะ"  ผมเบรคมัน  มันก็หัวเราะ

         " ฮ่าๆๆ นั่นน่ะมันเชย  โบราณไปแล้วเว้ย  ของกูนี่อ่ะคำพังเพยใหม่เข้ากับทีมฟุตบอลไง"  มันว่าแล้วยักคิ้วให้ผมอย่างอารมณ์ดี 

         " ว่าแต่มึงเหอะ... เป็นอะไรไปวะ  หน้าตาไม่ได้สดชื่นเลยเนี่ย"  มันเริ่มถามอาการผมขึ้นมา  ก็ไม่แปลกที่มันจะดูออก

         " ก็ไม่ได้เป็นไรหรอก  กูอกหักว่ะ"  ผมตอบไปซื่อๆ

         " เฮ่ย... มึงอ่ะนะ  อกหัก  บ้าแล้ว  ใครวะจะบ้าหักอกคนอย่างมึง"  มันทำท่าไม่เชื่อ

         " เออ... มีก็แล้วกัน   ไม่งั้นกูจะมานั่งตรมอยู่นี่เหรอวะ"

         " อ่ะ... เล่ามา... "  มันนั่งเอียงคอรอฟังเต็มที่  ผมเลยต้องเล่าให้มันฟังทั้งหมดตั้งแต่ต้น  นึกกลัวอยู่เหมือนกันว่ามันจะรับได้มั๊ยถ้ารู้แล้วว่าผมรักผู้ชาย   เพื่อนมันกลายเป็นเกย์ไปอีกคนแล้ว

         " อ้าว... แล้วมึงก็เดินออกมาเลยเนี่ยเหรอ  กะว่าจะตัดใจไปเลยเนี่ยนะ"  มันย้อนถามผมอีก

         " วะ... ไม่งั้นมึงจะให้กูทำไงล่ะ  ว่าแต่มึงรับได้เหรอวะ  ที่กูเป็นเกย์ไปแล้วอ่ะ"

         " เอ้า... มึงนี่  แล้วถ้างั้นกูต้องทำไง  รู้ว่ามึงเป็นเกย์แล้วบอกมึงว่ากูรังเกียจ  เลิกคบกะกูเหอะ  ยังงี้เหรอ... ไร้สาระว่ะ  คนอย่างกูจะคบใครกูไม่สนว่ามันเป็นอะไรหรอกว่ะ  กูสนว่ามันสนิทใจกะกูแค่ไหนมากกว่าว่ะ  โอเคมั๊ย"   คำตอบมันก็ทำให้ผมยิ้มได้อีก  เหมือนกับที่ไอ้ป่านบอกผมนี่แหละ 

         " เออ... มึงพูดเหมือนไอ้ป่านเลยว่ะ  ขอบใจนะเว้ยที่ไม่รังเกียจกู  รู้มั๊ยว่ากว่ากูจะทำใจบอกพวกมึงได้กูก็แทบแย่  กลัวเหมือนกันว่าพวกมึงจะรับไม่ได้เลิกคบกะกูไปเลย"

         " งั้นมึงก็เลิกกลัวได้แล้ว  กูไม่อะไรทั้งนั้นแหละ  มึงกะกูเห็นกันมาเท่าไหร่แล้ววะตั้งกี่ปีเข้าไปแล้ว  พอๆไม่ต้องซีเรียสแล้ว  วันนี้วันดีส่งท้ายปีเก่าแล้วเว้ย  ทำใจให้สบายๆวะ  อะไรๆก็ลืมก็ทิ้งแมร่งไปก่อนละกัน  มาฉลองกันเว้ย"  มันเปลี่ยนเรื่องไปทันทีหวังให้ผมร่าเริงขึ้นล่ะมั๊ง  พอดีกับที่ไอ้วินไอ้ป่านหอบของกันมา      

         " เอาล่ะ  น้ำแข็ง  กับแกล้มพร้อมเว้ย  ลุย..."  สิ้นคำไอ้วินพวกมันก็เปิดเบียร์เทลงแก้วกัน  ส่วนไอ้ป่านก็เอากีต้าร์โปร่งจากห้องชมรมดนตรีของมันมาเล่นด้วย

         " เฮ้ย... เชี่ย  ไม่ใช่น้ำเปล่า  กระดกอั้กๆเลยมึง  แดกเอาสนุกดิวะ  ไม่ใช่เอาเมา"  ไอ้วินร้องห้ามผมทันทีที่มันหันมาเห็นผมกระดกทีเดียวเกือบหมดแก้ว

         " เออน่า  เป็นไรไปวะแค่นี้  กูไม่คออ่อนขนาดนั้นหรอกน่า  แต่ก็อยากเมาอยู่เหมือนกันแหละ"

         " เออ... อยากเมาใช่มั๊ยมึง  งั้นจัดไป  เต็มที่เว้ยวันนี้"  ไอ้โด่งยิ่งเอาเบียร์เติมให้ผมอีกแล้วก็ยื่นแก้วมันมาชน   จากนั้นพวกมันก็ร้องเพลงกันไปอย่างสนุกล่ะ  ผมก็แค่นั่งยิ้มดูมันไป  ใจพยายามจะไม่คิดเรื่องอะไรอีกแล้วล่ะนะ  แต่ก็อดไม่ได้ต้องนึกถึงหน้าไอ้ฮิ้นท์มันขึ้นมาจนได้

         ได้แต่หวังว่าที่ผมตัดใจจากมันแบบนี้ผมคงทำถูกแล้วนะ  ปัญหาทุกอย่างมันจะได้จบๆไปซะที  ไม่ต้องมีใครเสียใจอีกแล้ว  แค่ผมเสียใจคนเดียวก็พอ  และหวังว่าฮิ้นท์มันคงมีความสุขจริงๆได้ซะทีเพราะไอ้ทักคงรักมันมากจริงๆ

         ส่วนผมเองถึงตอนนี้จะยังไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้ไปจะทำไง  แต่ก็ช่างเถอะ  อย่างที่อ.สุพจน์พูดไว้ล่ะครับ  ผมยังมีคนที่รักและเป็นห่วงผมอีกตั้งมากมาย  ที่เห็นๆอยู่นี่ก็ไอ้พวกนี้ไง  มันทั้งรักและห่วงผมมากแค่นี้ผมก็โอเคแล้วล่ะ

         " โห... กูว่าเดี๋ยวพวกเรากลับกันดีกว่าว่ะ  ไม่ไหวแล้วเว้ย  ยุงเยอะฉิบหาย"  ไอ้ป่านเริ่มบ่นเพราะนี่มันก็เย็นมาก  ห้าโมงกว่าแล้วมั๊ง

         " เออๆ  งั้นเตรียมเก็บข้าวเก็บของกันเว้ย  อ้าว... ไอ้ฮัท  ว่าไงมึง  ลุกไหวมั๊ยน่ะ"  ไอ้โด่งยื่นมือมาจะฉุดผมลุกขึ้น   แต่พอผมลุกขึ้นไปมันก็มึนหัวหนักอึ้งไปหมดเลยเซหัวทิ่มไปซะงั้น

         " นั่น... กูว่าแล้ว  เมาอ่ะดิมึง"

         " เฮ่ย... ไม่ใช่เว้ย  กูแค่มึนๆ"

         " เออๆ  งั้นเดี๋ยวไปกะกู  กูจะขี่ไปส่งมึงเอง  รถมึงก็จอดฝากยามเขาไว้นี่แหละ  พรุ่งนี้ค่อยกลับมาเอารถ"  ไอ้โด่งสรุปง่ายๆแล้วก็ลงมือเก็บพวกข้าวของที่เอามากลับไปขึ้นรถ

         " ตกลงเอาไงวะ  มึงจะไปส่งมันที่บ้านใช่ป่ะ ไอ้โด่ง"  ไอ้ป่านหันมาถาม

         " เออ... แล้วเดี๋ยวกูคงขอค้างกะมันไปเลยละกันคืนนี้  ขี้เกียจขับกลับแล้วว่ะ  ดีเหมือนกัน  กูจะได้มีเพื่อนเค้าท์ดาวน์ด้วย"  ไอ้โด่งตอบแล้วมันก็ยิ้มร่า

         " เฮ้ย... งั้นกูไปแจมด้วยเว้ย  จะได้เค้าท์ดาวน์กัน"  ไอ้ป่านมันจะขอตามไปบ้านผมอีกคน

         " กูด้วยๆ  แหม... ไม่ชวนเลยมึง"  ทีนี้ไอ้วินก็เอามั่ง  จะไม่ถามกูกันซะหน่อยเหรอ  ไอ้เวร  กูเจ้าบ้านนะเว้ย

         " เออ... สรุปว่าจะไปบ้านกูกันหมดนี่เลย  ก็... แล้วแต่มึงเว้ย"  ผมหันไปพูดได้อยู่แค่นั้นเพราะตอนนี้รู้สึกมึนงงมากๆ  หวังว่าอีกสักเดี๋ยวคงดีขึ้น

         ตอนนี้ผมนั่งคอพับอยู่กะหลังไอ้โด่งบนมอเตอร์ไซค์มัน  ยอมรับว่าผมคงเมาจริงๆ  ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเมานี่แหละ  เดี๋ยวถ้ากลับไปถึงบ้านแล้วคงต้องทำเนียนๆขึ้นห้องไปไม่ให้พ่อกะอาวดีรู้ว่าผมเมา

         พอเข้าบ้านไปก็รีบชิ่งขึ้นห้องกันไปอย่างไวครับ   พ่อผมอ่ะไม่อยู่พอดีเพราะเค้าไปกินเลี้ยงกะเพื่อนๆ  ก็คงพวกลุงวัฒน์ล่ะครับ  อยู่แต่อาวดี  ซึ่งโชคยังดีที่เค้าคงไม่ได้สังเกตอาการอะไรของผม  งานนี้เลยรอดไป

         " เออ... เดี๋ยวกูขี่ไปบ้านกูแป๊บนึงว่ะ  ว่าจะไปเอาโค้กมาสักลิตรแล้วก็ขนมมากินกัน  รอบนี้เป็นซอฟท์ดริ๊งค์เว้ย  แล้วเดี๋ยวมาเค้าท์ดาวน์ด้วยกัน"  ไอ้ป่านเสนอเพราะที่บ้านมันก็เป็นร้านชำอยู่แล้ว  ไอ้วินมันก็บอกว่าจะตามไอ้ป่านไปด้วยพวกมันเลยกลับไปบ้านไอ้ป่านด้วยกัน

         ผมกะไอ้โด่งรอพวกมันอยู่สักพักพวกมันก็กลับมาหอบหิ้วขนมห่อกับโค้กลิตรมาอีกสองขวดพร้อมน้ำแข็ง   แล้วปาร์ตี้เค้าท์ดาวน์ก็เริ่มอีกครั้ง

         อาการผมเริ่มดีขึ้นบ้าง  ปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้นจากที่มึนๆงงๆ  แต่ก็ได้แค่นั่งดูพวกมันร้องเพลงกันไป    ตอนนี้ผมเริ่มนึกถึงฮิ้นท์มันว่าป่านนี้มันจะทำอะไรอยู่นะ   คงฉลองกับไอ้ทักยัยวิวยัยแจงกันอยู่ล่ะมั๊ง  ก็ดีแล้วล่ะ

         จากนี้ไปผมต้องทำใจให้ได้  ไอ้ความรู้สึกที่ว่าผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีมันก็ต้องเปลี่ยนให้ได้   เพราะจากนี้ไปผมคงไม่มีมันอีกและจะต้องยอมรับความจริงอันนี้ให้ได้สักวัน

         " เอาเว้ย... อีกห้านาทีเท่านั้น  มาๆ  เดี๋ยวเตรียมตัวเค้าท์ดาวน์กันเว้ย  ฮ่าๆๆ"  ไอ้วินบอกให้พวกเราเตรียมตัว  แล้วมันก็รีบรินโค้กใส่แก้วให้ทุกคน

         " เอ้อ... มีใครจะกล่าวไรก่อนมั๊ยวะ  โอกาสฤกษ์งามยามดียังงี้ไม่ได้มีบ่อยๆกูอยากฟังสุนทรพจน์ว่ะ"  ไอ้ป่านเปรยขึ้นมา  ไอ้โด่งมันก็พยักหน้ารับ

         " มา... กูเอง... เนื่องด้วยว่าเรากำลังจะผ่านจากปีเก่าไปยังปีใหม่แล้ว  ตัวกูเองกูดีใจฉิบหายที่โชคดีได้มาเจอพวกมึงไม่งั้นวันเค้าท์ดาวน์อย่างเนี้ยเหรอ  กูคงนอนแกร่วเซ็งอยู่กะบ้านว่ะเพราะกูไม่เคยมีใครที่สนิทด้วยจริงๆจังๆสักคน  แล้วกูเองก็ไม่อยากไปอะไรกะใครด้วยว่ะเพราะกี่คนๆแมร่งก็ไม่เคยมองกูในแง่ดีกันหรอก  หาว่ากูมีพ่อเลวก็คงเชื้อไม่ทิ้งแถว   นึกไม่ถึงว่ะว่าตั้งแต่ได้กลับมาเจอไอ้ฮัทแล้วก็ได้มารู้จักพวกมึงแค่ไม่นานมานี่ทำเอากูเปลี่ยนไปเลยว่ะ  ตอนนี้กูรู้สึกชีวิตกูมีความสุขมากๆ    กูรู้สึกว่าต่อไปนี้กูไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวอีกแล้วเพราะกูยังมีเพื่อนที่รักกูจริงๆอย่างพวกมึงอยู่  ขอบใจพวกมึงมากว่ะ"  มันร่ายยาวมาอย่างซึ้งเลยครับ  ผมสามคนนั่งนิ่งฟังมันตาแทบไม่กระพริบ

         " เออ... กูเองก็ดีใจว่ะ  ตอนนั้นที่กูเห็นมึงเป็นคนเครียดๆชีวิตไม่มีจุดหมายแล้วกูรู้สึกไม่ดีเลย  ยังไงซะมึงก็เพื่อนกูมาตั้งแต่ไหนๆแล้วกูเองก็ไม่อยากให้มึงกลายเป็นคนแบบนั้นว่ะ  แต่พอหลังๆนี่เห็นมึงดูมีความสุขกว่าเก่าตั้งเยอะนี่กูก็โคตรสบายใจเหมือนกัน"  ผมยิ้มบอกกับมันอย่างเปิดใจ   เพราะจากที่ฟังมันแล้วผมยิ่งสบายใจนะ  ที่ได้รู้ว่ามันก็รู้สึกดีๆกับผมกับไอ้ป่านไอ้วินยังงี้

         " แล้วอีกอย่างนะ  กูเองก็อยากขอบใจพวกมึงเหมือนกัน   ที่ไม่ว่ายังไงกูก็มีพวกมึงอยู่ด้วยตลอดไม่ว่าจะสุขจะทุกข์แค่ไหน   บางทีเวลานี้ชีวิตกูอาจจะกำลังตกไปถึงขีดสุดแล้วก็ได้  แต่แค่ที่พวกมึงเป็นห่วงกูยังงี้กูก็ดีใจแล้วว่ะ  ขอบใจนะเว้ย"  ผมระบายความในใจออกมาบ้าง  มองสบตาพวกมันมันก็ยิ้มให้ผม

         " เออ... ก็นี่แหละเว้ย  ไม่งั้นมึงจะมีเพื่อนไว้ทำไม  จริงมั๊ย  เอ้า  เฮ้ย.... อีกสิบวิเว้ย  เตรียมตัวๆ"  ไอ้วินมองนาฬิกาอย่างตื่นเต้นแล้วมันก็ผลุดลุกขึ้น  พวกผมก็รีบลุกตามมันออกไปที่นอกระเบียงห้องผม  ตอนนี้ท้องฟ้ายังมืดๆมีดาวไม่กี่ดวงให้เห็นกับพระจันทร์เสี้ยวเท่านั้น

         " สิบ... เก้า... แปด... เจ็ด.... "  พวกมันสามคนเริ่มนับถอยหลัง  ผมก็เริ่มนับตามมันไปด้วย

         " สาม.... สอง....  หนึ่ง.... เฮๆๆ หวัดดีปีใหม่โว้ย  ฮ่าๆๆ "  ตอนนี้พวกมันกระโดดดีใจกอดกันและในขณะนั้น  มองไปทางตลาดของตัวอำเภอเราก็เห็นแสงพลุและได้ยินเสียงเพลงดังจากลำโพงมาแต่ไกล  คงมีงานฉลองอยู่แถวนั้นแน่ๆ

         " เออ... หวัดดีปีใหม่ด้วยเว้ย  ปีนี้กูขอให้อะไรๆมันผ่านไปได้ด้วยดีละกัน  แล้วให้อะไรที่เลวร้ายมันพ้นไปกับปีเก่าด้วยเถอะ"  ผมอธิษฐานออกมา

         " เหมือนกัน... แล้วกูก็ขอให้มึงกลับมาเป็นคนเดิมเร็วๆนะเว้ย  สิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้มันก็จะเป็นแค่อดีต  มึงก็ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจอีกแล้วนะเว้ย  มันเสียเวลาเปล่าๆ  มาเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกะพวกกูดีกว่าว่ะ  วันข้างหน้ามันยังมีอะไรอีกเยอะ  โอเคมั๊ย"  ไอ้โด่งมันพูดซึ้งอีกแล้วครับ   ผมก็ยิ้มตอบแล้วตบไหล่มันเบาๆ

         " เออ... กูขอบใจว่ะ  มึงไม่ต้องห่วงกูนะ  ถึงตอนนี้กูจะเสียใจแค่ไหนแต่ขอเวลากูทำใจอีกหน่อยก็คงพอ  ชีวิตกูคงไม่ย่ำอยู่กับที่นานมากหรอก  สักวันกูคงลืมได้เองว่ะ"

         " ดีมาก... ต้องยังงี้สิวะ  เอ้า... มา  ชนเว้ยชน...  เพื่อมิตรภาพ.... "  ไอ้โด่งเอาแก้วมาชนผม  ไอ้ป่านไอ้วินมันก็เอามั่ง   เราดื่มฉลองกันต้อนรับวันใหม่ของปีใหม่ที่ดีกว่า  ปล่อยให้อะไรๆมันผ่านไปซะกับปีเก่านั่นล่ะ 

         คืนนั้นกว่าจะได้นอนก็ผมนั่งคุยกับพวกมันไปเรื่อย  ยิ่งได้อยู่กับพวกมันยังงี้ผมยิ่งรู้สึกดีมากไม่รู้สึกว่าเป็นทุกข์เสียใจอะไรอีกแล้ว  ผมนอนคิดถึงวันพรุ่งนี้ว่าผมจะเป็นยังไง  ที่ผมกังวลก็แค่ว่าถ้าผมต้องเจอฮิ้นท์มันผมจะทำหน้ายังไง  จะวางตัวยังไงมากกว่า   นี่คงเป็นเรื่องที่ทำให้ผมลำบากใจที่สุดแล้วมั๊งตอนนี้

         -

         -

         พอเช้าผมก็ว่าจะปลุกพวกมันแต่มาคิดอีกที  เออ... ปล่อยมันนอนกันไปเหอะ   วันนี้พอมองออกไปข้างนอกผมกลับรู้สึกว่าอากาศดีนะ  แม้จะเพิ่งเช้ามืดอยู่   และไอ้ที่ผมอุตส่าห์ตื่นมาแต่เช้านี่ก็ไม่ใช่อะไรครับ  เพราะวันปีใหม่ยังงี้อาวดีเค้าต้องเตรียมของใส่บาตรพระแน่   ผมเองก็ใส่บาตรเช้าวันปีใหม่ทุกปีอยู่แล้วนี่   เพราะงั้นปีนี้จะพลาดได้ไง  อีกอย่างผมก็อยากทำอะไรที่มันดีๆเพื่อเริ่มต้นปีด้วยล่ะ  เผื่ออะไรดีๆมันจะได้เข้ามาในชีวิตบ้าง  และหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของผมนะ

         อาวดียิ้มที่เห็นผมลงมาแต่เช้า  ผมก็ช่วยอาเค้าเอาของใส่บาตรออกไปเตรียมหน้าบ้าน  ว่าจะถามถึงพ่อผมอยู่แต่เดาเอาว่าป่านนี้พ่อคงค้างอยู่บ้านเพื่อนๆเค้าเหมือนกันครับ   พอรออยู่สักพักพระท่านก็ผ่านมาผมกับอาก็เอาของใส่บาตรแล้วรับพร   รู้สึกดีและโล่งใจขึ้นมากๆเหมือนพลังของผมมันฟื้นกลับมาเลยนะครับตอนนี้  ไม่ได้แค่คิดไปเอง

         พอสักสิบโมงผมก็ขึ้นไปปลุกพวกมันลงมากินข้าวแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านไป   ผมติดรถไอ้โด่งไปเอารถที่รร.แล้วก็ขับกลับมาบ้าน  ก่อนไปไอ้โด่งมันยังทิ้งท้ายไว้นะว่า  ขอให้ผมทำใจให้ได้เร็วๆ  มีไรก็โทรไปหามันได้  มันเต็มใจช่วยเสมอ  มันก็คงไม่รู้หรอกว่าแค่ที่ผมได้รู้ว่าพวกมันห่วงผมกันขนาดนี้ผมก็โอเคแล้ว  ไม่ต้องให้มันมาช่วยอะไรผมอีกหรอก

         พอผมขับรถกลับไปถึงบ้านก็เห็นพ่อนั่งอยู่กับอาวดี  บนโต๊ะมีกระเช้าของขวัญอยู่ตั้งสามอันเลย  ไม่รู้ใครให้พ่อผมมา

         " เออ... ว่าไงเรา  วันนี้อยากไปเที่ยวไหนกันมั๊ย  เดี๋ยวพ่อพาไปเอง  ไปกันสามคนเนี่ยแหละ"  พ่อผมเอ่ยชวน

         " ก็ดีเหมือนกันครับ  ว่าแต่จะไปไหนกันดีล่ะ" 

         " อืม... ไปน้ำตกกันมั๊ยลูก  ไม่ได้ไปตั้งนานละ"

         " ครับ... ดีเลย  งั้นเดี๋ยวไปกันเลยนะครับ"  ผมรับคำหน้านิ่งๆจนพ่อมองหน้าผมอย่างสงสัย

         " เป็นไรไปล่ะลูก  ทำไมเสียงฟังดูเนือยๆไปยังงี้ล่ะ" 

         " อ๋อ... ไม่มีไรครับ  ผมยังง่วงๆน่ะ"  ผมแก้ตัวไปก่อน  ยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องตอนนี้

         หลังจากที่อาวดีเตรียมของกินจากในครัวนิดหน่อยใส่ปิ่นโตไปด้วย  พวกเราก็มาขึ้นรถและออกเดินทางไปยังน้ำตกแห่งนึงซึ่งไม่ไกลมาก   ระหว่างทางอยู่ๆพ่อผมก็ทวงถามเรื่องข้อเสนอของลุงวัฒน์ขึ้นมา

         " ตกลงเอ็งจะว่าไงล่ะลูก  ที่ลุงวัฒน์เค้าเสนอมาน่ะ  พ่อเองน่ะก็เห็นว่าดีล่ะนะ  โอกาสงามๆแบบนี้ใครๆเค้าก็อยากได้กันทั้งนั้น  ได้ไปเรียนต่อที่โน่นแถมทีมสโมสรเค้าก็มาจองตัวเราไว้เลย   แล้วยังมีโควต้าเรียนต่อมหา'ลัยให้เราอีกนะ  อนาคตสดใสเห็นๆเลย" 

         ผมนั่งนิ่งฟังพ่อพูดใจก็นึกถึงเหตุผลที่ผมจะปฏิเสธข้อเสนอนี้  ตอนแรกนั่นผมยอมรับว่าผมเองไม่อยากไปแค่เพราะไอ้ฮิ้นท์มันนี่แหละ   แต่ตอนนี้อะไรๆมันเปลี่ยนไปแล้วนี่นะ

         ถึงผมจะยังทนอยู่ที่นี่ต่อไปผมก็คงเป็นได้แค่เพื่อนมันแค่นั้น  วันนึงเราก็ต้องจากกันไปอยู่ดีถ้าเรียนจบ  จากกันไปโดยที่ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไปเลยด้วยซ้ำและอาจไม่เหลือกระทั่งคำว่าคนเคยรักกัน   เพราะงั้นผมจะยังมีเหตุผลอะไรอีกล่ะที่จะเรียนต่อที่นี่และปฏิเสธโอกาสที่ดีขนาดนี้ 

         " ถ้างั้นผมตกลงครับพ่อ   ผมจะไปเรียนต่อที่โน่นตามที่ลุงวัฒน์เค้าบอกมาครับ  ดีเหมือนกันแหละ  จบไปผมจะได้ไปเรียนต่อที่ดีๆกะเค้าได้มั่ง"  พูดไปพ่อกับอาวดีก็หันขวับมามองผมทันที  สายตาและรอยยิ้มของพ่อน่ะบ่งบอกว่าเค้าดีใจมาก   แต่อาวดีสิครับ  กำลังขมวดคิ้วมองผมอย่างสงสัย

         " เฮ้ย... จริงเหรอวะ  ตกลงเอ็งจะไปเรียนต่อที่โน่นจริงๆนะเว้ย  ดีมาก... ไอ้ลูกพ่อ  ฮ่าๆๆ ทีนี้ล่ะเว้ย  เอ็งต้องรุ่งแน่นอน"  พ่อแทบจะหันมากอดผมทั้งที่ขับรถอยู่จนอาวดีที่นั่งคู่กับพ่อข้างหน้าต้องบอกให้มองทางข้างหน้าดีๆ

         " เราแน่ใจแล้วใช่มั๊ยลูก  ถ้าตัดสินใจไปแล้วน่ะ  จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ"  อาวดีถามขึ้นราวกับว่าเค้ารู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

         " ครับ... ผมแน่ใจแล้วจริงๆครับอา  โอกาสดีๆแบบนี้ถ้าทิ้งไปก็น่าเสียดายแย่  ยังไงผมก็ไม่เปลี่ยนใจทีหลังหรอกครับ"

         " อืม... จ้ะ  ดีแล้วล่ะลูก"  อาวดียิ้มน้อยๆแล้วพยักหน้าให้ผมอย่างเข้าใจ   แน่นอนว่าผมเองตัดสินใจแล้วเรียบร้อย  และผมมั่นใจมากยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ผมต้องตัดสินใจเลยล่ะ

         ลาก่อนนะ  ความรักครั้งแรกของผม  ดีใจที่ผมได้เจอมันและมันได้สอนอะไรให้ผมเรียนรู้เยอะมาก  แต่ท้ายที่สุดถึงผมจะรักษามันไว้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร   เพราะผมก็จะทำใจให้ได้และเดินต่อไป  ทิ้งทุกอย่างให้เป็นอดีตไปนั่นแหละ

         ส่วนตัวฮิ้นท์มันเองก็คงจะได้มีความสุขจริงๆซะทีกับคนที่รักมันมากอย่างไอ้ทัก   แค่นี้ผมก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะ  แต่ผมก็คงไม่ลืมหรอกว่าครั้งนึงผมเคยรักมันมากแค่ไหน   แม้ว่าต่อไปนี้มันก็คงเป็นแค่อดีตจริงๆ........................

เขียนโดย เพื่อนของอิ๊กกี้

ปล. โว้ะคอมที่บ้านค้างนิเลยลงได้ครึ่งเดียว ค้างข้ามวันเลยนิ อิอิ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
สงสารฮัทอ่ะ
แต่ไม่เป็นไร
ยังไงฮัทก็ต้องคู่กับฮิ้นท์อยู่ดี อิอิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เศร้า...
มีกี่คนที่สมหวังกับรักครั้งแรก...



ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ไม่อยากให้ ฮัทไปเลย แต่ เค้า ว่า ยังไงฮิ้นท์ก็ต้องรอฮัทแน่ ดีไม่ไดี อาจจะเจอกันอีกทีตอนเรียนมหาวิทยาลัย

ถึงตอนนั้น อะไรๆน่าจะลงตัวกว่านี้ ได้แต่หวังไม่ให้ ทักมันรวบหัวรวบหางฮิ้นท์ ไปก่อน  :monkeysad:



-----------------------------------------------------------------

อิ๊กกี้ ฝากบอกเพื่อนด้วยนะว่า ทำดีแล้ว เพราะแต่งมาให้ คนอ่าน อินได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว เป็นกำลังใจให้ทั้งอิ๊กกี้แล้วก็เพื่อนด้วย

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
มาม่าแบบรุนแรงอ่า

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
คาราคาซัง แล้วก็ไม่เคลียร์สักอย่าง ตีความผิดๆ เพลียยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :m15:น้ำตาไหลพรากๆๆๆๆ สุดทรมานหัวใจเจ็บปวดไปกับความรัก
ช่างทรมาน แม้นิยายยังเจ็บปวดแล้วชีวิตจริงละจะขนาดไหน เห้อออ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
รัก มักไม่สมหวังเสมอไป :sad4:
แต่ คนที่ใช่ยังไงก็ใช่ ไม่ว่าจะห่างกันแค่ไหน  :L2:

คิดถึงพี่อิ๊กนะ :กอด1:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
ขอให้ฮิ้นได้กะทัก เร็วๆๆๆ 555

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ฮัทคงสับสน และเลือกจะเดินไปข้างหน้าแบบไม่หันกลับมา
เดินไปเพื่อตัวเอง ...
แต่ซักวัน ที่ทำใจได้แล้ว พอมาย้อนคิด อาจจะเห็นอะไร
ถ้าได้เจอกันอีกครั้งหลังจากนี้ จะเป็นยังไง

ปล. เคืองทักมาก ,, คนที่คิดเองเออเองมีเยอะจริงๆ

ออฟไลน์ beery25

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-0

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
เห้อออออ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น่าสงสารจริงๆ

TeuyHom

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยอ่ะ

ฮัทต้องสู้ต่อไปสิ  อย่าหนีไปแบบนี้สิ  ไม่เอา......ไม่ยอมนะ  สู้ๆๆๆต่อไปนะ

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ส่งไม้ให้ทักโดยไม่สารภาพรักกับฮินท์ซะงั้น ตัดใจง่ายจริงพ่อคุณ

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
งี่เง่า!!!!!!!!!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด