“กรี๊ด เยสเซอร์” นี่คือท่าทางดีใจของทีมสีฟ้า ที่พอลุกลงก็วิ่งเข้ามาล้อมวงกันกลางสนามจับมือกันแล้วเปล่งเสียงออกมา ไม่พอนะครับเพราะท่าทางคือทำท่าถอนสายบัว ตลกมากๆเหมือนล้อเลียนทีมสีแดง พอหมุนตำแหน่งอีแจงขึ้นมาอยู่ข้างหน้ากับพี่ฝน ส่วนน้อยไปเสริ์ฟ พอเสริ์ฟไปฝั่งโน้นก็รับมา ตั้งไปหัวเสาเช่นเคย อีแหวนก็ขึ้น พี่ฝนบล็อกลงฝั่งสีแดง ได้แต้มครับท่าน
“กรี๊ดด สวยเวอร์ เยสเซอร์” ทีมสีฟ้าสร้างเสียงหัวเราะให้กับกองเชียร์ที่ตอนนี้หลั่งไหลเข้ามาในโรงยิมเยอะมากครับ เพราะเป็นรายการสุดท้ายก่อนพักเที่ยงอแจงส่งลูกต่อครับ คราวนี้สีแดงรับลูกดีมากตั้งไปหัวเสาแต่มีตัวหลอกเหมือนจะตีลูกเร็ว พี่ฝนเหมือนหลง อีแหวนตบ แต่สีฟ้ารองลูกไว้ได้ใครไม่รู้ไม่ทันมองพุ่งรับสุดตัว
“ว้ายน้อยเอามา” อีแจงครับ น้อยก็วิ่งไปเซ็ตแต่เหมือนเซ็ตลูกให้จะข้ามตาข่ายไปเลย แต่อีแจงมันกระโดดรอตีลูกเร็วตามน้ำ
“อึ๊ก กรี๊ดด” เอ่อ
“ว้าย กรี๊ดดด” อีวิวครับกรี๊ดออกมาเต็มปากรวมทั้งผม ฮ่าๆๆ ส่วนในสนามก็ทำท่าสะใจสุดๆเพราะอีแจงมันยัดลูกเข้าไปตรงหน้าอีแหวนเต็มๆหน้าหงายเลย แต่ด้วยสปิริตนักกีฬามันกรี๊ดเสร็จมันก็ทำท่ายกมือขอโทษ แต่พอหันหลังมาก็กรี๊ดกันสนั่นกับทีม ผมแอบกระโดดดีใจ สะใจที่สุด เอาบทสรุปเลยก็แล้วกันนะครับ อีแจงตบอัดหน้าอีแพงไปสองที ตบอัดอีแหวนไปสาม ไม่นับพวกตัวประกอบอื่นๆอีก แต่ทีมเราก็โดนเหมือนกันนะ เราชนะไป สามต่อสอง เล่นกันแบบว่ามาราธอนมากๆ สนุกมากๆ ร้องเชียร์จนเสียงแหบแห้งไปหมด แทบจะไม่อยากเชื่อว่าทีมโรงเรียนจะแพ้ทีมของสีฟ้า ฮ่าๆๆ มีความสุขที่สุด
“โว้ย สะใจเป้นบ้าเลย ลูกนั้นนะที่ตบอัดนมมันน่ะ สะใจมาก แน่มากมึงอีแจงไม่เสียแรง” อีวิวครับ
“แหมใครล่ะกูเล็งไว้แล้วเถอะ หนอย สม โดนซะบ้าง ร้องไห้เลยนี่ที่สีมันแพ้น่ะ สมน้ำหน้าคงจะประมาทคนสวยอย่างพวกเรา กรี๊ด” อีแจงครับ พวกเราเดินไปที่โรงอาหาร บ่ายกว่าแล้วครับยังไม่ได้กินข้าวเลย ไอ้ทักมันก็มาเชียร์ไอ้นั่นยิ่งออกอาการสะใจแบบว่าเวอร์มาก สีแดงเขม่นหลายคนแต่มันก็ไม่ได้ใส่ใจ
“สะใจเว้ย ไปกูเลี้ยงน้ำเปล่า” ไอ้ทักมันมากอดคอผมครับ ตอนนี้ไมได้สนใจอะไรแล้ว มีความสุขมากๆ จากอะไรไม่รู้ รู้สึกว่าวันนี้มันแดดดีเหลือเกิน ฮ่าๆๆ
“ไอ้บ้า ตอนเย็นพี่ๆเขาจะพาไปเลี้ยงหมูทะล่ะที่ได้รางวัลขบวนแห่อ่ะ พวกมึงก็ต้องไปอยู่แล้ว อดไว้กินตอนนั้นดีกว่า” ผมบอกครับ เราก็ไปกินข้าวราดแกงตามปกติ ตอนบ่ายมีแข่งรอบชิงบางรายการ ซึ่งไม่มีสีฟ้าเลย ฮ่าๆๆ สรุปเราไปแอบนอนกองกันอยู่ในห้องสมุดล่ะครับ พักผ่อนๆ
“มึงๆเสียงดนตรีอะไรอ่ะ” อีวิวมันงัวเงียตื่นขึ้นครับ
“เฮ้ย ฮัทร้องเพลงนี่” ผมร้องขึ้นรีบลุกจากพื้นที่นอนกองกันหมดสภาพอยู่ตรงนั้น
“อ๊ะ จริงดิ เร็วๆเลยรีบไปเดี๋ยวไม่ได้ที่นั่งข้างหน้า”
“เดี๋ยวดิไปล้างหน้าล้างตาก่อนดิมึง” ผมแย้งครับเพราะหน้าตาตอนตื่นนี่คงไม่ไหวจะเคลียร์
“แหมเติมแป้งหน่อยไหมล่ะมึง เยอะนะพักนี้” อีแจงครับ
“อีบ้า ก็ไปแบบขี้ตาเต็มตาแบบนี้มึงจะกล้าไปไหมล่ะ” ผมว่ามันครับ สรุปเราก็ไปล้างหน้าล้างตา ทาแป้งบางๆ อิอิ เรารีบไปจองที่หน้าเวทีเลยครับเสียงดนตรีดังนั่นเขาลองเครื่องหรอกนะ ฮ่าๆ ตื่นเต้นเวอร์ไปหน่อย
“ฮัทร้องนำเหรอ” ผมถามไปกับลมกับอากาศเพราะเห็นเขายืนยิ้มอยู่บนเวที ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฮัทใส่กางเกงยีนส์สีดำ เสื้อเชิ้ตสีฟ้า หล่อฟาดมาก แว้กก ใจจะขาด
“เออสิ ได้ข่าวว่าเสียงดีมากนะมึง อิอิ อยากฟังแล้วอ่ะ” อีวิวเป็นลมตอบให้ผมครับ ไม่สนใจฟังมันแล้วล่ะสายตาจ้องมองอยู่ที่ฮัทเทพบุตรของผมคนเดียว เสียงเขาลองกลองลองกีตาร์ได้ยินแล้วใจเต้นจังเลย สักพักพิธีกรก็ออกมาประกาศล่ะครับ งานกีฬาสีประจำปี แต่ทุกปีที่ผ่านมาผมไม่ได้รู้สึกว่าอยากมีส่วนร่วมด้วยขนาดนี้เลยนะ ปีนี้ผมมีความสุขมาก กลิ่นของแดดที่เผาหญ้าที่ภารโรงเพิ่งจะตัดเสร็จก่อนวันงานไม่กี่วัน กลิ่นของปลายฝนต้นหนาว กลิ่นของชายคนที่ผมรัก มีความสุขจริงๆ สุขจนไม่รู้จะบอกว่าอะไรดีมันคับมันแน่นในอกไปหมด
“กรี๊ดดด” ผมสะดุ้งเลยครับเพราะเพลงแรกแค่ดนตรีขึ้นเสียงกรี๊ดก็กระหึ่มดังมากๆ ยิ่งฮัทเดินออกมานะ
“กรี๊ดดด” เอาบ้างวะ แตกสาวก็แตกไม่ไหวแล้ว ผมลุกขึ้นตามอีแจงอีวิวทันที ส่วนไอ้ทักมันยืนอยู่หน้าเวทีแล้ว ฮัทร้องเพลงเพราะมากๆ สนุกๆมาก ผมเต้นตามเลยนะทั้งที่ไม่เคยเต้น แว้กก เต้นท่าแบบว่าประหลาดๆ
“ไอ้บ้า มึงเต้นท่าอะไรเนี่ย นี่ๆ เต้นท่าแม่ได่เหมือนกูสิ” อีวิวมันมาสะกิดผมครับ
“ไม่เอา กูจะเต้นท่าจับนก” ผมไม่สนใจทำท่าจับนกบนฟ้าไปตามประสาคนน่ารัก อิอิ
“บ้ามึง มานี่ทำท่านี้ ปูไต่แขน” อีแจงครับ เออเข้าท่าๆ เราสามคนเลยทำท่าปูไต่แขนเหมือนมัน ไอ้ทักเห็นก็เข้ามาเต้นด้วย สรุปว่าเป็นบ้ากันสี่คน ผมเต้นไปมองฮัทไป มีความสุขจริงๆ เสียงกีตาร์โปร่งดังขึ้นครับ ฮัทยืนเด่นอยู่บนเวที ป่านเป็นคนเล่นกีตาร์ เสียงกีตาร์ เพลงนี้มัน
“ได้ใกล้ชิดเพียงลมหายใจ แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน แค่เพื่อนเท่านั้น แต่มันเกินห้ามใจ ที่มันค้างในความรู้สึก ว่าลึกๆเธอคิดยังไง รักเธอเท่าไหร่แต่ไม่เคยพูดกัน” เอ่อ ผมยืนนิ่งเลยครับ เสียงของฮัทเหมือนมีมนต์สะกด ทุกคนเงียบกริบ เขามองมาที่ผม เขากำลังส่งสายตามาที่ผม ไม่ใช่ฝันใช่ไหม นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เขากำลังจะบอกอะไรผมผ่านเพลงนี้หรือเปล่า ทำไมใจผมมันเต้นแรงขนาดนี้ ทำไมหัวใจผมมันเหมือนจะหลุดออกมา น้ำตาเริ่มเอ่อแล้ว ผมเม้มปากแน่นไม่อยากให้ผิดสังเกต ไม่อยากให้ใครมาทำลายวินาทีนี้เลย ถ้าหากว่าผมหลับตาผมคงจะได้ยินเสียงที่เพราะที่สุดในโลกกำลังร้องเพลงบอกรักผมถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป แต่ถ้าหากว่าผมหลับตาผมก็จะไม่ได้เห็นใบหน้าของคนที่ผมรักมากที่สุดในตอนนี้ ผมเหมือนลอยอยู่บนอากาศ ผมเหมือนอยู่บนวิมาน
“โหย เพราะโคตรๆ” เพลงจบไปแล้วพร้อมกับเสียงกรี๊ด ผมค่อยรู้สึกตัว ยิ้มออกมา
“เขาบอกอะไรมึงป่ะเนี่ย” อีแจงครับมันมาสะกิด ผมได้แต่ยิ้ม
“โอ๊ยนะ อิจฉาคนกำลังมีความรัก หวานโคตรๆเลยอ่ะมึงอีแจง” อีวิวเสริมอีกแรงครับ ไอ้ทักมันไปคั่วเด็กอยู่อีกฝั่งเลยไมได้ยิน ผมเองคิดไปไกลเลยล่ะครับ เขาต้องพยายามจะสื่ออะไรออกมาแน่ๆ สายตาที่มองมาแววตาที่จ้องมองผม ประกายตานั้นมันมีความหมายและผมคิดว่าผมเองก็เข้าใจ ผมอ่านมันออกมีเพียงผมที่อ่านมันออก ให้ตายเถอะ เรารักนายมากๆแล้วฮัท ไม่ไหวแล้ว
ที่ร้านหมูกระทะในตอนเย็นสมาชิกสีฟ้าพรึ่บเต็มร้านฉลองชัยกันเสียงดัง เพื่อนๆพี่ๆ น้องๆต่างก็สนุกสนานเฮฮา ผมเองนั่งโต๊ะเดียวกับเพื่อนมีอีแจงไอ้ทักแล้วก็ตัวประกอบถาวรอย่างอีวิว อีนี่สีชมฟูไปเลี้ยงร้านลาบมันไม่ยอมไปกับเขานะ จะว่าไปพวกเราแยกจากกันไมได้จริงๆนั่นล่ะครับ
“โอ๊ย อิ่มว่ะมึง อิ่มแล้วง่วงจัง กลับกันยังอีวิวกูง่วง” พอเริ่มดึกอีแจงมันก็บ่นขึ้นล่ะครับ อีวิวก็เออออตามกัน สองคนมันกลับก่อนแล้ว ไอ้ทักโน่นเลยครับไปกินเหล้ากับรุ่นพี่บอกจะไปต่อกัน ส่วนผมน่ะเหรอ อิอิ นั่งส่งสายตามองฮัทอยู่น่ะสิ กลัวว่าจะมีใครมาวอแว อิอิ
“เราจะกลับล่ะนะ นายจะกลับยัง” เอ่อ เหมือนเขาอ่านสายตาผมออกเลยนะ ฮัทเดินมาที่โต๊ะผมแล้วพูดขึ้น แว้กก เขินจัง
“กลับ กลับสิ นายจะกลับแล้วเหรอ แล้วท่าทางง่วงมากขนาดนี้จะขับระไหวเหรอ” ผมเห็นท่าไม่ดีเลยถามไปครับ วันนี้ท่าทางฮัทจะเหนื่อยอยู่มากเพราะทั้งเล่นกีฬานั่งรถ ร้องเพลง ทำหลายอย่าง สรุปเลยละกันนะครับ ว่าผมชวนเขาไปนอนที่บ้านเพราะมันใกล้กว่าบ้านเขา และเขาก็โอเค แว้กกก ไม่พอๆ เขายังนั่งซ้อนท้ายผมด้วย เบรคบ่อยๆดีไหมเนี่ยเขาจะได้สัมผัสตัวผมบ่อยๆ อิอิ ผมบ้าไปแล้ว แต่ทำยังไงได้หัวใจมันเต้นแรงดีใจเหลือเกิน มีความสุข ง่วงตอนแรกมันหายไปหมดเลย
“นายรีบอาบน้ำนะ เราจะได้นอนกัน” ผมจอดรถแล้วบอกเขาไปครับ แต่เขาทำหน้าแปลกๆตาโตขึ้นมาเชียว
“ไรอ่ะ ทำไมมองเราแบบนั้น อายน้า” อิอิ อายจริงนี่หว่าก็เล่นมองผมแบบว่าตาหวานซะขนาดนั้น
“อ้อ ปะ เปล่า ไม่มีไร เดี๋ยวเรารีบอาบน้ำก่อนนะ จะได้นอนกัน อิอิ” เอ่อ หัวเราะแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย แว้กก นี่เขาคิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย แว้กก ไมได้ๆ ผมคิดก่อนเขาอีก จ๊ากก ผมไม่ได้ลามกนะ ก็เขาพูดให้คิดเองอ่ะ เอ๊ะ หรือว่าผมเองนะที่พูด ไมได้ๆ ต้องไปอาบน้ำข้างล่างแอบทาครีมพี่อ้อยด้วยดีกว่า อิอิ อันนั้นหอมมาก แรดไปไหมเนี่ย
“อ่ะกางเกง” ผมยื่นกางเกงบอลให้เขาล่ะครับ เขาทำหน้าแปลกๆ ผ้าเช็ดตัวยังพันเอวอยู่เลยนะ
“จะดีเหรอ” เขาถามขึ้นมาเล่นเอาผมงงเลย
“ทำไมอ่ะ เราก็ใส่นี่ไง เราใส่เกงบอลนอนนะ มันสบายดี นายจะใส่บ๊อกเซอร์ป่าวล่ะ”
“ป่าวๆ คือเกงบอลมันลื่นๆอ่ะ เรากลัวว่า” อ่า แว้กกก ผมยืนไม่อยู่เลยอ่ะ ตัวบิดเลย อายจัง
“บ้านะ คิดไรอ่ะฮัท”
“ฮ่าๆ เราแซวไง ยิ่งหนาวๆเผื่อเราเผลอกอดนายทำไงอ่ะ” อ่า เจ็บปวด กอดเลยอย่าพูด ไม่กอดผมนี่ล่ะจะกอดเอง อิอิ
“ตกลงใส่ตัวไหนอ่ะ” ผมพูดแก้เขินไปครับไม่มองหน้าเขากลัวว่าเขาจะอ่านสายตาผมออกว่าผมอยากนอนกอดเขามากๆ แว้กก
“ใส่ตัวนี้ล่ะ หลับแล้วก็คงไม่มีอะไร” อ่านะ ใช่สิตัวเองหลับแล้วเค้าล่ะ คอยดูนะ อิอิ
“พร้อมยังเราปิดไฟนะ” ผมเดินไปยืนเอานี้เตรียมกดอยู่ที่สวิชต์หน้าประตูล่ะครับ เขาใส่กางเกงบอลตัวเดียว??? ใส่เสื้อหน่อยไหมฮัท เอ่อ คือว่าที่จะปิดไฟเพราะเมหือนเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วเถอะ แว้กก
“อืมเอาเลย พร้อมล่ะ” “พรึ่บ” พูดจบปิดไฟเลย ทำไมมันมืดแบบนี้เนี่ย ตายๆ ผมเดินคลำทางไปยังเตียง
“เอ้ย” จะว่าแกล้งก็ไม่ใช่นะครับ ผมชนกับฮัทเข้าอย่างจัง
“โอ๊ย” “ฮ่าๆ” แน่ะเขายังมาหัวเราะอยู่อีก แต่ว่าเสียงนั้นเงียบไปทันทีครับ เพราะตัวเราสองคนล้มลงบนเตียงเหมือนในละคร เหมือนในนิยายเลยอ่ะ ผมทับอยู่บนตัวของเขา ตัวแนบตัวได้ยินเสียงหัวใจเต้นชัดเจน ปากผมจ่ออยู่ที่คางของเขา ปากของเขาจรดอยู่ที่ปลายจมูกของผม ลมหายใจของเราสองคนร้อนจนอึดอัด เสียงหัวใจที่ระรัวระทึก
“อ๊ะ” ผมอยากนิ่งอยู่แบบนั้นนะสักพัก แต่เหมือนว่าอะไรบางอย่างมันจะตื่นเต้นเกินการควบคุม ทั้งของเขาและของผม
“มองไม่เห็นเหรอ” เขายิ้มครับแม้มันจะอยู่ในความมืดแต่ผมก็รู้ว่าเขายิ้ม รอยยิ้มที่วาบหวามเข้าไปถึงหัวใจ
“อื้ม มองไม่เห็น นอนเถอะ” ให้ตายเถอะมาตอนนี้ทำมาเป็นเขิน จะอายอะไรเนี่ยกู โว้ยนะโมโหตัวเอง ผมปีนลงจากร่างของเขาแต่ว่า
“ขอกอดหน่อยได้ไหมฮิ้นท์” เขาเอ่ยออกมาเสียงเบาจนแทบเหมือนเสียงคราง อยากรู้ไหมว่าผมดีใจแค่ไหน น้ำตาของผมมันไหลออกมาเองเลยนะ ผมหันหน้ากลับไปหาเขาแล้วสวมกอดเขาไว้แน่น เขาเองก็กอดผมแน่น ผมจะไม่มีวันลืมคืนนี้เลย
เขียนโดย อิ๊กกี้ อิอิ
ปล. รอนานหน่อยน้า พอดีอากาศมันเปลี่ยนคนเขียนเลยมัวแต่นอน แว้กกก
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ จุ๊บๆๆ