A17
ไม่เคยคิดเลยนะว่าผมต้องมาร้อนใจมากขนาดนี้ ดทรฯหาเขาหลายรอบมากแต่เขาไม่รับสาย ไม่พอนะปิดเครื่องหนีอีก ทรมานใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงได้ทรมานมากมายขนาดนี้
“มึงๆ ว่างคุยไหม”
อีวิวมันโทรฯมาครับตอนแรกรีบตะครุบนึกว่าฮัทซะอีก นี่ถ้าอีวิวมันเห็นผมถอนหายใจที่เบอร์ที่โชว์ไม่ใช่เขานี่มันคงแอบเคืองผมมากเลยล่ะ
“อืม ว่าไงมึง”
“เรื่องอีแจงน่ะ”
“หือ อีแจงทำไม” ผมก็ยังคงทำเสียงเหนื่อยหน่ายอยู่ครับ ไม่มีกะใจจะยินดียินร้ายกับใครเลย แม้แต่เพื่อนรักของผมเอง ใจคนเรานี่มันควบคุมอะไรหลายๆอย่างในร่างกายได้เนอะ แม้แต่จะเดินจะนั่งผมยังทำได้ไม่เป็นปกติสุขเลย ผมปวดใจจัง ปวดใจจนอยากจะร้องไห้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ทำไมผมปวดใจจังเลย
“มันเสียท่าให้ไอ้พี่พุทแล้วสิมึง”
มันทำเสียงสูงครับ แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
“อืม แล้วไง”
“หา นี่มึงเป็นอะไรไอ้ฮิ้นท์ มันพลาดท่าให้ไอ้พี่พุทแล้วนะ มันโดนข่มขืน มึงได้ยินไหม”
เอ่อ อีวิวมันกรี๊ดใส่ผมครับแล้วมันก็ร้องไห้ ตอนนี้เองผมถึงได้สติคืนมา
“หา อะไรนะ มึงว่าอะไรนะอีวิว”
“ไอ้เชี่ยนั่นมันขืนใจอีแจงน่ะสิมึง มึงรีบกลับมาได้ไหม”
เอ่อ เอาเป็นบทสรุปเลยละกันนะครับ ผมให้พี่ชายผมมาส่งที่บ้านทันทีหลังจากที่ไปลากมันมาจากเตียงเพราะมันเพิ่งจะออกเวรมา ตอนแรกมันบ่นล่ะครับ แต่คงเห็นสีหน้าของผมแล้วมันเลยไม่บ่น
“อยู่ไหนมึง”
พอถึงบ้านผมก็โทรฯหาอีวิวทันทีครับ
“อยู่ที่ท่าน้ำที่วัด”
“อีแจงล่ะ”
“อยุ่นี่ล่ะ”
น้ำเสียงของมันไม่ดีเลยครับผมรีบวิ่งไปทั่วดทันที
“มึง”
ผมเห็นหน้าอีแจงแล้วผมร้องไห้ออกมาเลยครับ มันร้องไห้อยู่เหมือนกัน มีไอ้ทักที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ใกล้ๆ
“กูจะไปเอาเลือดปากมันออก ยอมไม่ได้นะเว้ย กูไม่ยอม”
“ใจเย็นก่อนได้ไหม เห็นไหม อยากรู้ๆ พอรู้แล้วคุมอารมณืให้ได้หน่อยสิมึง”
อีวิวมันปรามไอ้ทักครับเพราะดูท่าทางมันจะเอาจริงนะ
“เป็นไงบ้างมึง”
ผมครางออกไปเดินไปหามันที่นั่งอยู่ที่ริมน้ำ
“ไม่มีอะไรมากหรอกมึง เสียแล้วก็เสีย แต่กูแค่เจ็บใจ สัดจริงๆ”
อีแจงมันโพล่งออกมาครับ ร้องไห้น้ำหูน้ำตาแตก ผมเองก็อดไม่ไหวกอดมันไว้ อีวิวก็ร้อง มีไอ้ทักที่กำหมัดแน่นเตะนั่นเตะนี่อยู่
“มึงจะเอายังไงต่อไป จะบอกแม่มึงไหม”
พอเราร้องจนพอใจผมก็เอ่ยขึ้นล่ะครับ มันส่ายหน้า
“มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกมึง”
“หือ ยังไงของมึง” อีวิวถามครับผมเองก็สงสัย
“ก็มันไม่แย่ไง จะว่ามันขืนใจ ข่มขืนกูก็ไม่ถูก”
เอ่อ ผมกับอีวิวมองหน้ากัน ไอ้ทักตอนนี้มันนั่งอยู่ไกลๆครับคงไม่ได้ยิน
“อะไรของมึง อย่าบอกนะว่า” ผมร้องขึ้นมาแล้วมองหน้ามัน
“แหมมึงกูบอกแล้วว่าเสียตัวน่ะไม่เท่าเจ็บใจ ก็มันหลอกกูว่าจะเคลียร์มันไปหากูถึงบ้านนะ แม่กูไปบ้านป้า” มันเว้นช่วงให้เราสงอคนอยากรู้ครับ
“ตอนแรกกูบอกให้เคลียร์ที่บ้านกูนั่นล่ะ แต่มันบอกว่าอยากจะพากูไปนั่งรถเล่น ไหนๆก็จะบอกเลิกกับมันอยู่แล้วกูเลยเอาวะ ครั้งสุดท้ายไง แต่แม่งมันพากูไปกระท่อมปลายนา ตอนแรกกูวิ่งมันจะข่มขืนกูนั่นล่ะ แต่ที่กูเจ็บใจคือมันพาไอ้เหี้ยเก้มาด้วย”
“หา” เราสองคนร้องขึ้นพร้อมกันหน้าซีด
“บ้าเหรอมึง กูไม่ได้โดนรุมโทรมเว้ย” มันแก้ตัวครับแล้วเล่าต่อ
“กูเลยบอกมันว่าให้พากูไปที่ไหนก็ได้ที่มีเราสองคน ตอนแรกกูกะว่าจะชิ่ง แต่มันฉลาดไม่เบา มันให้ไอ้เหี้ยเก้ตามหลังมาด้วย มันเลยพากูไปบ้านมัน กูจะร้องล่ะแต่มันต่อยท้องกู”
“เหี้ย” ผมสองคนเหมือนนัดกันครับร้องออกมากับอีวิว
“นั่นล่ะ กูคิดตอนนั้นว่าถ้าหากว่ากูขัดขืนหรือท่ามาก กูไม่พ้นเป็นเมียมันสองคนแน่ๆ กูเลยขอร้องมัน ว่าถ้าจะมีอะไรกับกูให้ใส่ถุง”
อีแจงมันหัวเราะนะครับ แต่เคยเห็นไหมคนที่หัวเราะทั้งน้ำตา มันมีหัวใจที่เข้มแข็งมากๆ แม้แต่เรื่องที่ผมคิดว่าสำหรับเด็กสาวอย่างมันจะถือเป็นเรื่องสำคัญแล้วตั่มนยังฝืนแสดงความเข้มแข็งของมันออกมา
“กูไม่ท้องหรอก พวกมึงไม่ต้องห่วง ดีเหมือนกันเสียวดี”
“อีบ้า” ผมรู้นะว่ามันเจ็บมันอาย แต่สิ่งที่มันแสดงออกมาผมเองต้องยอมก้มหัวให้มันเลย ผมได้แต่เม้มปากบีบมือมันครับ อีวิวเองก็กอดตัวมันไว้
“เอาน่า วันนี้กูนอนบ้านมึงได้ไหมวิว”
มันพูดออกมาครับหลังจากจะเห็นว่าเราจะกลับมาดราม่าอีกครั้ง
“ไม่มีปัญหา อยุ่กี่วันก็ได้นะมึง”
“งั้นคืนนี้เรากินหมูทะกันดีไหมมึง” ผมชวนครับเพราะคงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้อยู่กับเพื่อนๆ สรุปว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้อีกนอกจากเราสี่คน อีแจงมันทำตัวปกติมากครับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่ผิดปกติมากที่สุดคือไอ้ทัก เพราะมันหุนหันกว่าใครเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ จะไปต่อยปากไอ้พี่พุทท่าเดียวเลย
“ว่าแต่มึงจะกลับไปกรุงเทพฯอีกไหมอ่ะ เสร็จยังคอร์สทำหน้ามึงน่ะ”
ไอ้ทักมันถามขึ้นตอนที่เรากินหมูกะทะกันล่ะครับ พ่อผมเป็นเจ้ามือให้สบายไปเลย
“ยังอ่ะ เหลืออยู่ครั้งนึงมั้งแต่คงไม่ไปแล้วล่ะ อยู่กับพวกมึงดีกว่า อยุ่โน่นน่าเบื่อออก ไม่มีไรทำ”
“อ้าวแล้วไหนบอกมีหนุ่มมาจีบไม่ใช่เหรอ” นี่อีวิวครับ
“หือ ว่าไงนะ” ส่วนนี่ใครน่าจะรู้
“อีบ้า จีบบ้าอะไรล่ะ มันโทรฯมาหาทุกวันเลยนะ มาดักรอที่หน้าหอด้วยอ่ะ น่ากลัวมากๆเด็กกรุงเทพฯ”
“ไหนมันจะโทรฯมาเมื่อไหร่ วอนซะแล้วไอ้นี่ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าให้กูไปด้วยๆ ก็ไม่เชื่อ”
“จ้าพ่อนักเลงโต แดกๆเข้าไปเถอะมึงน่ะตักไปเต็มอยู่คนเดียวไม่เห็นจะแดก เอามานี่” อีแจงมันโวยครับเพราะไอ้ทักมันตักของกินไปที่ถ้วยของมันเยอะกว่าใครแต่ขู่ฟ่อๆอยู่ไม่ยอมกินสักที
“อ๊ะ” เอ่อ มันเป็นคราวซวยหรืออะไรไม่รู้ครับ ไอ้นั่นมันโทรฯมาพอดี ผมมองที่หน้าจอเสร็จก็อึ้งอยู่
“มานี่กูรับเอง” ไอ้ทักมันจะยื่นมามาตะครุบเอาโ?รสัพท์ของผมครับ
“เฮ้ยอย่านะมึง ให้มันคุย ไหนมึงลองเปิดสปีกเกอร์ซิ” อิววมันร้องห้ามไว้ครับ
“ตรงไหนล่ะมึง กูทำไม่เป็น”
“ควาย ของมึงป่ะเนี่ย เอามานี่”
“จะดีเหรอมึง เสียมารยาทนะ”
“เออนั่นดิ มึงไปคุยกับมันดิไป” อันนี้อีแจงครับผมเลยเดินออกมานอกบ้านโดยมีไอ้ทักมันเดินตามออกมาติดๆ อีวิวด้วย เอาเข้าไป
“อืม” ผมรับสายครับ
“ว่าไงคะที่รัก วันนี้ไปดูหนังกันไหมเดี๋ยวจะไปรับ”
“เราอยู่ที่บ้านแล้ว ไมได้อยู่กรุงเทพฯ”
ผมพูดเสียงเบาครับไม่อยากหใสองตัวนี่ได้ยินมากนัก
“อ้าว ทำไมไปไหนไม่บอกกันเลยวะเฮ้ย กูเป็นแฟนมึงนะ” มันโวยวายครับ แหมถ้าเป็นแฟนกูจริงมาเรียกกูๆมึงนี่ก็อย่าหวังเลยไอ้บ้า
“ก็มาแบบฉุกละหุกอ่ะ ทำไมเหรอ”
“ไม่ได้นะเว้ย บ้านมึงอยู่ไหนกูจะไปหาเลย”
“บ้าเหรอ มีไรอีกไหมเนี่ย แค่นี้นะยุ่งอยู่”
“ทำไรวะ”
“คุยกะผู้ชาย” ผมวางสายไปเลยครับรำคาญมันมาแสดงอำนาจอะไรแถวนี้ไม่ชอบ แต่นะก็น่าจะรู้ว่ามันก็ต้องโทรฯเข้ามาอีกจนได้
“เอามานี่เลย กูทนมานานแล้ว” ไอ้ทักครับมันแย่งเอาโทรศัพท์ไปจากมือผมแล้วทำท่าว่าอย่าเข้ามาแย่งคืน ผมก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยยืนลุ้นอยู่ว่ามันจะว่ายังไง
“โทรฯมาหาเมียชาวบ้านมันสนุกเหรอวะมึง นี่เมียกูเว้ย ไอ้สัด ไปตายซะ”
เอ่อ มันกดวางสายแล้วกดปิดเครื่องทันทีครับ ผมอ้าปากค้าง อีวิวหัวเราะคิกคัก
“มันต้องใช้ไม้นี้เว้ยมันถึงจะอยู่” มันทำท่าเหมือนว่ารู้สึกผิดหน่อยๆ
“แง๊วว ตบหัวเค้าไมอ่ะ”
“ควาย บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าพูดแบบนี้ ใครเมียมึงไอ้สัด”
ผมโวยวายครับ แหมนะได้ทีนี่มันเอาใหญ่เลยนะไอ้เชี่ยนี่
“ก็จบไหมล่ะ จบ เห้นไหมมึงก็เห็น”
มันแย้งครับผมนี่ไม่รู้จะว่ายังไงดี เออๆ ยอมมันสักที เราก็กลับเข้าไปกินหมูกะทะต่อล่ะครับ คุยเรื่อยเปื่อยเรื่องนั้นเรื่องนี้จนดึกก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งแน่นอนไอ้ทักมันก็ต้องมานอนกับผม
“ตกลงไอ้นั่นมันเป็นใครวะ มันทำอะไรมึงบ้าง”
นั่นไงครับคิดไว้ไม่มีผิดว่าไอ้ทักมันต้องซัก ผมถอนหายใจเบื่อจะตอบเหลือเกิน
“ก็ไม่มีอะไร มันไมได้ทำอะไรกู มึงเป็นบ้าป่ะ”
“กูไม่เชื่อไม่งั้นมันจะเรียกมึงที่รักเหรอ มึงไปให้อ่ามันป่ะเนี่ย ยิ่งน่ารักๆอยู่ด้วย”
“เอ๊ะมึงนี่ยังไง พูดดีๆนะใครให้ท่าใคร ปากหมานะมึง จะทำไมในเมื่อมันน่ารักเอง อิอิ”
อิอิ แอบหัวเราะ ผิดเหรอที่น่ารัก แหมทีกูอ้วนนี่เบะปากใส่กูเหลือเกินนะพวกมึง ทีหน้าใส ผอมขึ้นมาหน่อยทำเป็นเยอะ
“ไม่ได้นะ กูไม่ยอม”
มันกอดตัวผมแล้วดันๆเข้ามาครับ ผมก็ยันมันออก
“กอดหน่อยดิ๊ ไม่ได้กอดนานคิดถึงนะ รู้ป่ะ”
“ไอ้บ้า จะมากอดทำไมกูร้อน”
“ร้อนเชี่ยไรนี่มันจะเข้าหน้าหนาวแล้วนะ อย่าดัดจริต ให้กูกอดซะดีๆ”
อ้าวกูผิดอีกว่างั้น ผมเลยยอมครับ อิอิ ใจง่ายไปไหมเนี่ยก็มันกอดเฉยๆนี่นะ ไม่ได้ทำอะไร ผมก็เลยไม่อะไรมากเดี๋ยวมันหาว่าดัดจริตอีก เลยนอนหลับไปในอ้อมกอดมันนั่นล่ะครับ จะว่าไปผมยังเป็นห่วงฮัทอยู่นะ แต่ก็อย่างว่าเรื่องอีแจงมันแรงกว่าผมต้องห่วงเพื่อนรักของผมก่อนสินะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าอีแจงมันเข้มแข็งมากๆ แทบจะไม่อยากเชื่อว่าอีนี่มันยังซิงอยู่ แว้กก จะว่าไปผมห็ยังซิงๆอยู่นะเออ อิอิ
“ฮิ้นท์เอ้ย มีเพื่อนมาหาน่ะลูก”
แม่ผมมาเคาะประตูห้องปลุกแต่เช้าครับ ผมงัวเงียตื่นขึ้น ถีบไอ้ทักออกไปให้ไกลจากตัวเดี๋ยวแม่เข้ามาเห็นจะซวย
“อือ”
ผมครางออกไปเพราะถ้าไม่ตอบรับคุณนายแจ่มเธอเข้ามาลากคอลงจากเตียงแน่ๆ
“เร็วๆเขามารอนานแล้วนะ”
“อือๆ แม่ล้างหน้าก่อน”
ผมงัวเงียลุกขึ้น ใครวะ อ๊ะ อย่าบอกนะว่าฮัท ตายๆ หน้าตาตอนตื่นนี่ยังไงวะเนี่ย ไมได้ๆ ผมรีบวิ่งลงจากเตียงทันที
“ไปหนาย”
“มีคนมาหา นอนต่อไปเถอะมึงน่ะ”
ผมหันไปบอกมันแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ทานั่นทานี่ อิอิ เพิ่งตื่นแต่เราจะต้องทำให้ประทับใจ คอยดูๆ
“ไหนอ่ะแม่เพื่อนน่ะ ฮัทป่าว”
“โน่นแน่ะนั่งอยู่ศาลา เด็กในเมืองนะ ชื่อทิว คุยเก่งนะพ่อเราติดเลย”
หือ ใครนะ ผมชะงักเท้าครับ หา อย่าบอกนะว่าไอ้บ้านั่นมันมาหาผมถึงนี่ มาได้ไงมันรู้จักบ้านผมได้ยังไง แว้กก ผมค่อยๆโผล่หน้าออกไปดูล่ะครับ เห็นมันนั่งคุยกับพ่อผมอยู่ที่ศาลาท่าน้ำจริงๆด้วย หัวเราะเอิ๊กอ้ากเลยนะพ่อผม
“อ้าว มาโน่นล่ะ งั้นพ่อไปในสวนก่อนนะ ให้ฮิ้นท์พาไปดูสวนมะม่วงสิลูก”
ลูก?? นี่มาสนิทกันตอนนไหนเนี่ย อารมณ์เสียหมดเลย โอ๊ยน่าจะตื่นมากระเซอะกระเซิงไม่ต้องล้างหน้าแปรงฟันมาดีกว่านะถ้ารู้ว่าไอ้นี่มา
“มาทำไม”
คำแรกจากปากผมครับหน้าตานี่คงจะหงิกงอไม่แพ้กัน
“เอ๊ะ ฮิ้นท์นี่อะไร เพื่อนเขาอุตส่าห์มาเยี่ยมจากกรุงเทพฯนะ นิสัยไม่ดี”
นั่นไงครับพ่อตุ๋ยเอ็ดเอาเลย ผมเลยทำหน้าประหลับประเหลือก ส่วนมันก็ยิ้มอย่างพอใจ หนอยแน่มึงคอยดูนะ ผมรอให้พ่อเดินไปก่อนครับ
“คิดถึงดิถึงมา”
“มาได้ไง รู้จักบ้านเราได้ไง”
“ไม่ใช่เรื่องยากคนอย่างไอ้ทิวถ้าอยากรู้อะไรต้องรู้ทุกเรื่อง”
มันยักไหล่ครับ ทำท่ากวนประสาทมากเดี๋ยวเจอกูถีบลงคลอง แต่ผมก็ได้แต่ยืนหน้าบูดอยู่นั่นล่ะครับจะทำอะไรมันได้เนอะมันหน้าหนาขนาดนี้ แน่ะยังเอนหลังลงนอนบนที่นั่งอีกนะครับท่าน
“บ้านมึงนี่น่าอยู่ดีเนอะ บรรยากาศดีจัง ฮ้าว น่านอนด้วยน้ำใสจริงๆ เฮ้ยมีปลาๆ”
ดูมันครับ หนอยไม่สนใจผมเลยนะเอาหมอนอิงมานอนเอนหลังพิงพนักสบายใจเฉิบอยู่
“ใครวะ”
เอ่อ ไอ้ทักครับมันเดินลงมาจากบนบ้านแล้ว ตายแล้วๆ มันเหมือนเพิ่งตื่นนอนมาด้วยตายังปรือๆอยู่เลย
“มึงเป็นใคร เป็นเพื่อนเหรอฮิ้นท์”
มันทำตาดุใส่ไอ้นั่นครับแล้วหันมาถามผม
“อ้าวไอ้เชี่ยนี่ แล้วมึงล่ะเป็นใคร”
ไอ้นั่นก็ลุกขึ้นทันทีครับ เอาล่ะสินักเลงกับนักเลงเจอกันผมนี่ยืนนิ่งเลยยังคิดไม่ออกว่าต้องทำยังไง
“อ้าวสัด กูถามดีๆนะ”
“กูก็ถามดีๆ กูเป็นแฟนฮิ้นท์ ทำไมกูจะมาหาแฟนกูไมได้ไง แล้วมึงล่ะเป็นใคร”
เอ่อ มันลอยหน้าลอยตาพูดหน้าตาเฉยเลยครับ ไอ้ทักกำหมัดแน่น
“แฟนเชี่ยไร กูนี่ไงผัวมัน เพิ่งนอนด้วยกันมาเนี่ย อย่ามาโมเม อ้อ มึงนี่เองที่โทรฯมาใช่ไหม ไอ้เชี่ย ยุ่งกับเมียชาวบ้านเหรอมึง”
ไอ้ทักปรี่เข้าหาครับผมตักสินใจกระโจนเข้าขวางมาต่อยกันตอนนี้ตายพอดี พ่อแม่รู้เข้าผมนั่นล่ะที่จะซวย
“หยุดนะ อย่ามาทะเลาะกันที่นี่ นายกลับไปก่อนได้ไหม เราไม่อยากให้พ่อแม่รู้”
“รู้ก็รู้ไปดิ กูชอบมึงนี่”
“หน้าด้าน เชี่ยกูไม่เคยเจอ มันมีผัวแล้ว กูนี่ไงผัวมัน สัดนี่แดกตีนกูสักทีก่อนดีไหมค่อยคิดได้”
“มึงไอ้เชี่ย”
“หยุดนะ กูบอกให้หยุด กูไม่เอาทั้งสองคนนั่นล่ะ พอใจยัง อย่าทำให้กูเสียหายนะกูไม่เอาไว้ทั้งสองคนนั่นล่ะ”
“ไอ้ฮิ้นท์”
ไอ้ทักครางออกมาครับ หยุดทั้งสองคนผมกัดฟันพูด หนอยแน่เกินไปแล้วจะมาอะไรกับกูมากมายวะเนี่ย ไอ้นั่นมันก็อ้าปากครับ คงไม่คิดว่าผมจะเกรี้ยวกราดได้ขนาดนี้ สรุปว่ามันยอมกลับไป แต่ก็ยืนกร่างใส่กันอยู่นะไม่ยอมลงง่ายๆ จนผมต้องไล่ไอ้ทักขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟัน ไอ้นั่นมันถึงยอมไปเสียที เฮ้อนะ
“มึงโอเคไหมมึง” ผมถามออกไปทันทีที่เจอหน้าอีแจงครับ
วันเปิดเทอมเราสามคนรีบไปโรงเรียนครับไปรออีแจงมันเพราะห่วงมันมากๆ ไม่รู้ว่ามันจะโอเคไหม เพราะเท่าที่โทรฯคุยกันมันก็ปกติดีนะ แต่ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าอีแจงมันเข้มแข็งมากๆ มากเสียจนน่ากลัว
“อืม ยังไม่ตายหรอกพวกมึง”
มันยิ้มมาแต่ไกลแต่ยิ้มที่รู้เลยว่ามันฝืนทำ คิดๆไปแล้วเด็กสาวที่มั่นใจสวยอย่างมันไม่น่ามาเจออะไรแบบนี้เลยนะ แฟนที่คบหาเรียกกันว่าแฟนแต่มันไม่เคยปล่อยตัวเพราะมันอ้างว่ามันยังไม่ถึงเวลา มันรักษาตัวเองดีมาโดยตลอดแต่ทำไมมันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ
“เออ ไม่ตายก็ดีแล้ว ไปหาไรแดกก่อนดีกว่ามึงกูอยากกินอะไรหวานๆ”
ไอ้ทักมันก็ไปตบบ่าอีแจงล่ะครับ เราสี่คนก็เดินไปที่โรงอาหารเพราะมันยังเช้าอยู่มากคนยังไม่เยอะ อีกนานกว่าจะเข้าแถว พอตอนเข้าแถวอาจารย์ก็ประกาศเรื่องกีฬาสี เออจริงสินะเทอมสองเขาจะเน้นเรื่องกีฬาสีนี่ลืมไปเลยกู
To be Continued