มาต่อแล้วจ้าๆ
ตอบรีพลายจ้า...
cargo - - ถ้ากายเป็นอะไรนะ จะโดนมิใช่น้อย
>>> ใครโดนอ่ะ โหดร้าย ken_krub - - ยังคงเป็นกำลังใจให้เสมอครับ
>>> ขอบคุณค่ะTHIP - - เหอ เหอ จะคอยดูกายอาละวาดอ่ะ
>>> เด๋วก็ได้ดูล่ะ อิอิTurn_righT - - ทามมายทำแบบนี้... คุณ satan666 ใจร้ายมั่กมาก
>>> เค้าไม่ใจร้ายน๊า ต่อด่วน!!!! เพื่อเพื่อนมนุษย์ตาดำๆ
>>> อิอิเชียร์นิคก้าบพี่น้อง..
>>> ไม่เชียร์กายบ้างหรอ Tetjinen - - กายอย่าคิดมากยังไม่โดนน่ะ
>>> โดนไรอ่ะ anTon - - นิค ดูแลกายดีดีนะคับ
>>> มันแน่อยู่แล้ว กายผู้น่าสงสารแต่ก้อแอบโหด
>>> เป็นสีสันอ่ะbigynew - - นิคนายเยี่ยมมาก ว่าแต่มาต่อเร็ว ๆ นะครับ รออยู่อ่ะ
>>> มาต่อแล้วจ้าJaHkoNY - - โย่วววว ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน:m11:
>>> เก่งจัง ตอนแรกก็สงสัย ที่แท้ก็พูดภาษาไทยได้นี่เอง พระเอกนิโคลัสของเรา
>>> ช่ายแล้วกายนี่ชอบตื่นมาเจอช็อตเด็ดตลอด 555
>>> ขำๆ ถ้ากายดื้อมากก็จับมัดเลยนิค 555 ป่วยๆอย่างนี้ไม่มีแรงหรอก อิอิ ต้องรีบจัดการทำคะแนน
ช่วงนี้กายคงไม่มีเวลาต่อปากต่อคำซักเท่าไหร่ เหอะๆ
>>> แอบโหดนะเนี่ยคนเรา อยากอ่านต่อแล้ววววว มาต่อ
>>> จ้าๆyoki - - อิอิมารายงานตัวอ่านนิยายแย้วเจ้าค่ะ รีบมาอัพต่อเร็วๆน่ะค่ะ
>>> จ้า ขอบคุณน๊า b|ueBoYhUb - - อ่านไปขำไป ตลกนิคเราทำงานอยู่ตลกคาเฟ่ป่าว อ่านแล้วมันจั๊กกะจี้ไงไม่รู้
ต้องมาเป็นเปรตแต่เช้าใครจะไม่ช๊อค
>>> น่านสิ เจอเปรตตัวผู้แต่เช้า รับอรุณเลยล่ะ nartch - - ทิ้งไว้ตอนกายเป็นลมมมม จะสบายใจกว่ามะเนี่ยยยยยย? ? ?
>>> มะรุสิ อิอิแค่คิดถึงฤทธิ์เดชนายกาย.... เป็นห่วงพี่นิคจิง ๆๆๆๆๆ ดันตื่นมาเจอชอร์ทเด็ดซะด้วยยย
ทามม๊ายยยยย ทามมายไม่ตื่นมาเจอตอนกำลังนั่งกุมมืออดตาหลับตานอนเฝ้า.....
>>> นายนิคไม่มีดวงเรื่องภาพพจน์ไงรีบมาต่อให้ไว.....
>>> รับทราบ อิอิปล.. แค่นี้กายก็น่าสงสารละนา...พี่นิคก็ลำบากลำบน...อย่าไปแกล้งทั้งคู่เลยยยยนะ...
>>> ครายแกล้งๆ ไม่รู้ไม่ชี้ :m21LonelyBoiZ - - อารมณ์ค้างอ่ะ แงงง
>>> ขนาดนั้นเลย เปงกำลังใจให้นะคับ อิอิ
>>> ขอบคุณค่ะ deshiwa - - อ่าครับพี่กายตื่นมาคงจะโวยวายแน่เลย
>>> เด๋วก็รุ อิอิรับประกันได้ อิอิ เอาใจช่วยคนนิค ครับผม
>>> ไม่มีใครอยู่ข้างกายเลยนะ รักกันเร็วๆๆนะครับ
>>> อันนี้ก็ต้องติดตาม========================================================================
ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนตึ้บ! ปวดหัวมากๆ แถมยังไม่รู้ด้วยว่าตัวเองตื่นมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ผมงุนงงสับสนมาก ดูจากห้องที่ผมอยู่ในตอนนี้ก็พอจะคาดเดาออกว่ามันเป็นห้องของโรงแรม แล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?
คิดแล้วก็เหมือนเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวผมมาก่อน เหมือนกับว่าผมเคยตื่นขึ้นมาอย่างงุนงงในห้องของโรงแรมในทำนองนี้ แล้วมันเมื่อไหร่กันล่ะ?
แอ๊ด...!! ประตูห้องน้ำในตัวห้องเปิดออก พร้อมๆกับที่ร่างๆหนึ่งปรากฏกายขึ้นในสภาพล่อนจ้อน
สิ่งที่ผมนึกไม่ออก ทำให้ผมนึกขึ้นได้ทันที ราวกับภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ย้อนกลับมาฉายซ้ำใหม่อีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่ราวกับฝันร้ายสำหรับผม แล้วในตอนนี้มันก็ได้เกิดขึ้นแล้วอีกครั้ง
สองมือผมรีบลูบคลำร่างกายของตนทันทีโดยสัญชาตญาณ แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าร่างกายของผมยังคงมีเสื้อผ้าสวมใส่อยู่
หนุ่มฝรั่งคนที่เคยสร้างความอัปยศให้กับตัวผม ยังคงส่งยิ้มมาให้ผมอย่างหน้าไม่อาย ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนเขาหลอกหลอน หนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้น ทั้งๆที่ไม่อยากเจอแต่กลับได้เจอ ผมอยากจะบ้าตายจริงๆ เห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ผมนั่งตัวเกร็งขึ้นทันที
“รู้สึกยังไงบ้างครับ? ดีขึ้นรึยัง?” เขาเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนผมแทบอยากจะกระโจนหนีออกไป
“อย่าเข้ามาใกล้นะ... แค่กๆๆ” ผมไอออกมาไม่หยุดด้วยความเจ็บคอ เสียงผมตอนนี้มันแหบแห้งมากเหมือนกับไม่ใช่เสียงผมเลย ลำคอของผมแห้งผาด ผมรู้สึกหิวกระหายน้ำเป็นอย่างมาก
“อย่าเพิ่งพูดอะไรสิครับ คุณคงจะเจ็บคอ อ่ะ นี่น้ำครับ จะได้รู้สึกดีขึ้น” ราวกับเขารู้ใจผม หนุ่มฝรั่งจึงรินน้ำใส่แก้วส่งให้ผมดื่ม ผมรับน้ำมาดื่มโดยค่อยไม่เต็มใจเท่าไรนัก
“เดี๋ยวกินข้าวก่อน แล้วค่อยทานยานะครับ” เขาเดินไปหยิบถาดอาหารจากรถเข็นมาวางที่โต๊ะข้างเตียง ผมได้แต่มองการกระทำที่ดูสบายๆของเขาอย่างงุนงง
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันจะกลับบ้าน!” ผมบอก ขยับตัวลุกออกจากเตียง แต่แล้วผมก็ต้องทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นห้องทันที เพราะแขนขาไร้เรี่ยวแรงพอที่จะพยุงตัวยืนอยู่ได้
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณกาย?!!” หมอนั่นรีบถลาเข้ามาหาผม แล้วจับแขนผมเพื่อจะช่วยพยุงตัวผมขึ้น ผมรีบสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขาทันที
“อย่ามาใกล้ฉัน ไปให้พ้น!” ผมรีบขยับตัวหนีทันที เห็นเขาสะดุ้งตกใจกับท่าทีของผม สายตาของเขาดูเศร้าหมองลง แต่ผมไม่สนหรอก ทำไมผมจะต้องไปแคร์ความรู้สึกของไอ้หมอนี่ด้วย
ทันใดสายตาที่หม่นหมองลงของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุดันแข็งกร้าวอย่างรวดเร็วจนผมตกใจ แล้วไอ้หมอนั่นก็แบกผมขึ้นพาดบาแล้วโยนร่างผมลงบนเตียง ผมนอนตัวงอด้วยความทรมาน แรงกระเทือนจากการกระแทกกับเตียง ทำให้ผมรู้สึกปวดหัวหนักยิ่งกว่าเดิม
“เป็นคนป่วยก็ควรจะนอนพักผ่อนอยู่นิ่งๆสิครับ กรุณาอย่าได้ฝืนทำอะไรเกินตัวอีก” ได้ยินเสียงของเขาดังแว่วมากระทบหู ผมทำได้เพียงแค่นอนกัดฟันกรอดด้วยความขุ่นข้องโมโหเท่านั้น
ผมนอนฟุบหน้าลงกับหมอนด้วยอาการปวดเศียรเวียนเกล้า ได้ยินเสียงของหมอนั่นเดินไปมาอยู่ในห้อง เสียงซวบซาบเหมือนกับกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่
“มากินข้าวก่อนเถอะครับ ร่างกายจะได้แข็งแรง” เสียงเตียงยุบยวบลงทำให้ผมสะดุ้งนิดๆ “คุณกายครับ...” เขาเรียกอีกครั้งเมื่อเห็นผมยังนอนคว่ำหน้านิ่งอยู่
“ไม่กิน...” ผมตอบกลับไปทั้งๆอย่างนั้น ผมยังไม่อยากจะทำอะไรในตอนนี้ทั้งสิ้น ทั้งๆที่ผมยังคงปวดหัวแทบบ้าอยู่อย่างนี้
“คุณต้องกินอะไรบ้างนะครับ อย่าดื้ออยู่อย่างนี้เลย เพื่อตัวคุณเองนะครับ” เขาจับตัวผมพลิกให้หันกลับมาทางเขา สีหน้าแววตาของเขาแสดงออกถึงความเป็นห่วงผมอย่างมาก ทำให้ผมเห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างไรไม่รู้
“ฉันปวดหัว... อย่ามายุ่งกับฉัน” ผมบอกไปด้วยความเย็นชา โดยเฉพาะในคำหลัง แต่เขากลับไม่สะทกสะท้านใดๆ แถมยังส่งยิ้มอย่างนุ่มนวลมาให้ผมอีก จนผมรู้สึกขยะแขยงนัยน์ตาพิลึก
“ถ้าปวดหัว คุณก็ต้องกินข้าวเพื่อจะได้กินยาแล้วนอนพักไงครับ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนนุ่มนวลของหนุ่มฝรั่ง ทำให้ผมแทบอยากจะหูหนวกซะให้ได้ ผมพยายามเพ่งมองความเสแสร้งของเขา แต่กลับไม่พบว่าเขาเสแสร้งแต่อย่างใด ทุกการกระทำของเขาราวกับเป็นการถ่ายทอดออกมาจากใจของเขาจริงๆ
อะไรของเขากัน ทำไมถึงจะต้องมาปฏิบัติต่อผมอย่างนี้ด้วย ราวกับว่าผมเป็นคนที่สำคัญสำหรับเขามากเสียอย่างนั้น เขาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นนั่ง แต่ผมขัดขืนเขาแล้วพยายามลุกขึ้นนั่งเอง ผมไม่อยากทำตัวอ่อนแอต่อหน้าเขา ผมไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างให้เขากดขี่ข่มเหงผมได้ง่ายๆ ไม่อยากให้เขาทำตัวตามอำเภอใจเมื่อเห็นว่าผมอ่อนแอแบบนี้
__________จบตอน__________