มาแล้วๆ ดึกไปป่าวเนี่ย
nartch - - มาไงเนี่ย...น้องหยก....เวรกรรม โดนบังคับดูตัวซะละ....กายจะทำไงล่ะเนี่ยยยย
ที่สำคัญลำบากนิคอีก....กลุ้มเว้ยยยยย >>> ต้องอ่านต่อค่ะ ว่าจะกลุ้มต่อรึเปล่า อิอิ
ken_krub - - เป็นกำลังใจให้ครับ >>> ขอบคุณมากๆค่ะ
deshiwa - - อ่าครับผม พี่กายโดนพ่อบังคับ อิอิ ใช่ครับก็ว่าสมัยนี้ยังมีแบบนี้อยู่อีกเหรอครับ >>> ก็นะ น่าจะมีนะ
แล้วพี่กายจะทำไงอ่าครับ ถ้าพ่อรู้ว่าพี่กายเป็นเกย์อ่า >>> ต้องติดตาม อิอิ
เหอๆๆ ไม่อยากจะคิด แล้วพระเอกของเราไปไหนเนี้ย
มาช้วยนายเอกด่วนๆๆๆ อิอิ
อ่าครับผมกลับบ้านไม่อยู่หลายวันคงไม่ได้มาอ่านนะครับ >>> รับทราบจ้า มะเป็นไร แต่ต้องกลับมาติดตามด้วยล่ะ อิอิ
กลับมาจะรีบมาอ่านละกันครับผม เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ >>> จ้า...
@PeaZa@ - - นายเอกเรานี้ หน้าสงสาร (หรือป่าว) >>> มะรุจิ
bigynew - - โอ้มาต่อเร็ว ๆ นะครับ อยากรุ้ว่าน้อง หยก จะน่ารักขนาดไหน
สงสัยต้องเรื่องธุรกิจแน่เลยงานนี้ >>> จะเป็นยังไงต่อน๊า... หุหุ
cargo - - มีอะไรจะบอกอะ มาน น้อยๆ ยังไงมะรู้ ว่าปะ มาต่อ วายวายนะ ฮับ >>> อ่าว น้อยไปเหรอ ก็กลัวจะอ่านมะทันกันอ่ะจิ เลยค่อยๆลง งั้นคราวนี้เพิ่มให้อีกละกาน
anTon - - หง่ะ
อารัยเนี่ย พ่อเกี่ยวรัยง่ะ >>> ก็พ่อนี่นา
พ่ออยากดั้ยก้อปัยหาเองดิ >>> ฮ่าๆๆ
เกี่ยวรัยกับกายอ่ะ >>> นั่นจิ
ต้องเก็บ กาย ไว้หั้ย นิค คนเดียว >>> ไม่เข้าข้างนายกายกันเล้ยย
jammy - - นายเอกอุปสรรคชีวิตเยอะเหลือเกินพระเอกจะไปไหวมั้ยเนี่ย >>> ก็ต้องเอาใจช่วยล่ะค่ะ
- - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - -
หลังจากนั้นผมกับพ่อก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนามาพูดคุยเรื่องโปรเจ็คหลายอย่างที่กำลังจะดำเนินการของบริษัท ผมต้องรายงานความคืบหน้าให้พ่อฟังโดยละเอียดถี่ถ้วน พร้อมทั้งฟังคำแนะนำของท่าน เพื่อนำไปปฏิบัติตาม ถึงผมจะได้ชื่อเป็นประธานเครือบริษัท แต่ถึงอย่างไรพ่อของผมก็ยังคงดำรงตำแหน่งสูงสุดในฐานะประธานใหญ่อยู่ดี ดังนั้นผมจึงได้แต่รับฟังแล้วนำไปดำเนินการตามคำสั่งเท่านั้น
ทุกวันนี้ เป็นผมที่ต้องดูแลการดำเนินกิจการของบริษัทแทนพ่อทุกอย่าง ส่วนพ่อผมเพียงแค่คอยรับฟังรายงานความเป็นไปของกิจการบริษัท และคอยควบคุมบงการผมอยู่เบื้องหลังเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงตัวผมก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นหุ่นเชิดของพ่อหรอก
พวกเราพูดคุยกันได้สักพัก พ่อผมก็ขอตัวกลับ บอกว่าจะไปพักร้อนที่ฮาวายต่อ ซึ่งผมก็สามารถคาดเดาได้เลยว่า สาเหตุของการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อไปพักร้อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนใหม่ของพ่อมากกว่า
ผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่าผมเสียด้วยซ้ำ
ผมอยู่สะสางงานที่นี่นิดหน่อย ก่อนจะกลับไปอยู่กับคุณลุงคุณป้าต่อตามที่ได้สัญญากับพวกท่านเอาไว้ ประมาณเกือบเที่ยง คุณป้าก็มาเรียกผมไปทานข้าวด้วยกัน ผมถึงพึ่งนึกขึ้นได้ว่า ต้องโทรไปชวนน้องหยกทานอาหารกลางวัน ตามบัญชาของพ่อ
ผมปฏิเสธการทานข้าวกับคุณลุงคุณป้าด้วยความลำบากใจ แล้วขับรถออกมาข้างนอก พร้อมทั้งโทรหาเธอ เพื่อบอกสถานที่นัดพบ เธอบอกว่ากำลังรอโทรศัพท์จากผมอยู่พอดี ซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเท่าไหร่ เพราะยังไงมันก็ต้องเป็นฝีมือของพ่อผมอยู่แล้ว
เมื่อผมมาถึงร้านอาหารที่นัดพบ ซึ่งเธอเป็นคนเลือกเองและมารออยู่ก่อนแล้ว ผมก็กวาดตามองหาเธอทั่วร้าน ก่อนจะพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังโบกมือยิ้มร่าให้ผม ผมยิ้มทักตอบ ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอ
ผมจ้องมองหน้าเธอพลางครุ่นคิด เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า ทำไมพ่อไม่จีบเธอเอาเองซะเลย ในเมื่อถูกใจเธอออกขนาดนั้น แต่ผมก็มารู้เอาทีหลังว่า พ่อของเธอคนนี้เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพ่อผมนั่นเอง
หยกฟ้า ลูกสาวเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศอังกฤษ ตอนนี้เธอกำลังศึกษาปริญญาโท ที่ Oxford University ทางด้านกฎหมาย เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีเลยทีเดียว ดูฉลาดหลักแหลมและมั่นใจในตัวเองมากๆ ความจริงก็ไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าเธอจะมาเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตของผม
“กว่าเราจะได้พบกันนะคะ...” เธอมองผมยิ้มๆเชิงหยอกล้อ
“อ่ะครับ... ต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันเข้าใจ ความจริง...” เธอเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ต้องหยุดลง เมื่อพนักงานร้านเดินมารับออเดอร์ที่โต๊ะ เราจึงหยุดการสนทนาลงแล้วสั่งอาหารกัน
ระหว่างรออาหารมาเสริฟ์ ผมก็เฝ้ารอว่าเธอจะพูดอะไรต่อจากที่ค้างไว้ แต่เธอก็ไม่ได้พูด เอาแต่นั่งส่งยิ้มให้ผมอยู่นั่นแหละ ผมเลยคิดจะพูดก่อน อยากให้เธอกับผมทำความรู้จักสนิทสนมกันก่อน แล้วเรื่องความสัมพันธ์ในระดับที่สูงขึ้น ค่อยว่ากันทีหลัง ผมอยากให้มันค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า
“ผมขอถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหมครับ?”
“เชิญเลยค่ะ ถ้ามันไม่เป็นคำถามที่ยากเกินไป”
“คุณคิดยังไง กับความร่วมมือของพ่อของพวกเรา?” ผมถามออกไปตรงๆ เพราะผมอยากจะรู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเรื่องแบบนี้ ใช่คิดเห็นแบบเดียวกับผมรึเปล่า? เธอจ้องมองผมนิ่งๆ สักพักก็แย้มยิ้มพราวเสน่ห์มาให้ผม ก่อนจะเริ่มเปิดปากพูดสิ่งที่เธอคิด
“ความจริงฉันอยากเจอและพูดคุยกับคุณมาตลอด ตั้งแต่ดิฉันทราบว่าพ่ออยากได้คุณมาเป็นลูกเขยแล้วล่ะค่ะ” ผมนิ่งอึ้งกับคำพูดที่เปิดเผยของเธอ พูดอะไรไม่ออกอีก ได้แต่มองหน้าเธออย่างเดียวเท่านั้น แล้วผมก็ต้องอึ้งอีกครั้งกับคำพูดถัดมาของเธอ
“แต่ดิฉันคงจะทำตามความต้องการของพ่อไม่ได้หรอกค่ะ เพราะดิฉันมีคนรักอยู่แล้ว... ที่ดิฉันอยากพบและพูดคุยกับคุณมาตลอด ก็เพื่อจะบอกสิ่งนี้แหละค่ะ แต่ดูเหมือนคุณจะไม่ค่อยอยากเจอดิฉันสักเท่าไหร่... ” เธอทำหน้าเศร้าๆกับคำพูดสุดท้าย ก่อนจะมองผมเป็นเชิงขอโทษ
“ไม่หรอกครับ ผมรู้สึกดีใจมากเลยที่ได้พบกับคุณในวันนี้” ผมส่งยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ เธอก็ยิ้มตอบผมอย่างดีใจเช่นกัน
ผมทั้งอึ้งทั้งโล่งใจ ที่ทุกอย่างลงเอยแบบนี้ มันเหนือความคาดหมายของผมเลยล่ะ ถ้ารู้ว่าเธอต้องการแบบนี้ ผมคงไปพบกับเธอนานแล้ว คงไม่บ่ายเบี่ยงจนถึงทุกวันนี้หรอก แต่ผมก็นึกเสียดายอยู่บ้าง ถ้าเธอไม่บอกว่ามีคนรัก ผมอาจจะลองจีบเธอดูสักตั้ง
ที่สุดแล้วเรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ ผมกับเธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจต่อกัน แล้วเริ่มต้นมิตรภาพได้อย่างสนิทใจ ได้น้องสาวมาคนหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็อยากจะลองมีน้องกับเขาบ้าง
______________จบตอน_______________