†ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: †ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day  (อ่าน 519709 ครั้ง)

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #120 เมื่อ22-10-2007 19:38:52 »

 
              อยากอ่านมากมากมาก  ต่อด่วนคับ  :a6: :a6: :a6: :a6:

ออฟไลน์ light_tao

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-8
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #121 เมื่อ22-10-2007 21:40:11 »

เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

   เรโอเข้ามาปลุกผมที่ห้องตอนเก้าโมงเช้า บอกให้ลงมาทานอาหารเช้าร่วมกัน มันรอผมอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ แล้วพวกเราก็ลงไปที่ห้องอาหารด้วยกัน

   คุณพ่อคุณแม่และน้องสาวคนเดียวของเจ้าเรโอ  โรซีน่า ปีนี้เธอเพิ่งเข้าวิทยาลัย เรียกได้ว่าอายุห่างจากผมและเรโอค่อนข้างเยอะทีเดียว พวกเขามานั่งรอพวกผมที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว  ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย ที่มาอาศัยบ้านเขาอยู่ แต่กลับตื่นช้ากว่าเจ้าของบ้าน แถมยังต้องให้มาปลุกอีก แต่ดูเหมือนครอบครัวนี้จะไม่คิดมากเท่าผม ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พวกเขามักจะปฏิบัติต่อผมเฉกเช่นเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่เสมอ 

   พวกเราร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างเป็นกันเอง คุณพ่อของเรโอถามผมถึงเรื่องงานที่มิลาน ผมก็บอกเท่าที่บอกได้ เพราะถึงบอกรายละเอียดไป จะเสียอรรถรสในการรับประทานอาหารไปเสียเปล่าๆ

   “พี่กาย หน้าพี่ดูซีดเซียวยังไงไม่รู้ ทานน้ำมะเขือเทศหน่อยนะคะ จะได้สดชื่นขึ้น” ผมมองตามโรซีน่าที่ลุกไปรินน้ำมะเขือเทศให้ผมตาปริบๆ พลางหันไปมองคนบนโต๊ะทุกคน ที่กำลังจ้องผมเป็นตาเดียว

   “จริงๆด้วย ลูกดูหน้าซีดๆนะ ไม่สบายรึเปล่า?” คุณแม่เรโอถามผมอย่างห่วงใย

   “เปล่าครับ ผมสบายดี” ผมบอกท่านยิ้มๆ

   “’งั้นก็ต้องกินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีแรง” เจ้าเรโอรีบตักอาหารหลายอย่างลงมาในจานผมชนิดยัดเหยียดไม่ให้ผมได้ทันปฏิเสธ

   “ใช่ๆ กินเยอะๆเลยลูก” แถมคุณพ่อก็ยังสนับสนุนอีก ผมจึงไม่สามารถทัดทานต่อไปได้ จำต้องกินอาหารในจานให้หมด เพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นห่วงอีก

   โรซีน่า ยกน้ำมะเขือเทศมาให้ผมพร้อมรอยยิ้ม เธอเป็นคนสวยมากเลยทีเดียว ตอนเธอเป็นเด็กยังเล่นซนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่เลย ไม่นึกเลยว่าพอโตเป็นสาวจะสวยน่ารักถึงขนาดนี้

   “ขอบคุณครับ” ผมรับแก้วจากเธอมา พร้อมทั้งยกขึ้นดื่มให้เธอเห็น ทั้งๆที่ผมไม่ค่อยจะชอบน้ำมะเขือเทศนี่เท่าไรนัก แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ ผมจึงต้องจำใจดื่มมันเข้าไป

   บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ผมรู้สึกว่า ผมถูกคนเหล่านี้ดึงเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย รับรู้ถึงความอบอุ่นห่วงใยซึ่งกันและกันของคนในครอบครัว รับรู้ถึงความรักที่มีให้ต่อกันด้วยความผูกพัน  ซึ่งผมไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน จากคนในครอบครัวผมเลย

   พอรับประทานอาหารเสร็จ ผมก็ขอตัวไปที่เครือบริษัทสาขามิลาน  โดยที่เจ้าเรโอขับรถไปส่งตามระเบียบ เมื่อเรโอพาผมมาส่งที่บริษัท มันก็ขอตัวไปดูงานที่ร้านต่อ  แล้วบอกว่าถ้าผมจะกลับเมื่อไหร่ ให้โทรเรียกมันมารับ

   ความจริงผมไม่อยากรบกวนมันนัก เพราะคนขับรถของผมที่นี่ก็มี ไม่เห็นต้องลำบากมัน แต่มันก็ยังจะดึงดัน บอกว่ายังไงก็กลับทางเดียวกัน จะสิ้นเปลืองทำไมให้มากความ ผมก็เข้าใจมันดี เลยไม่ได้ว่าอะไรมันอีก

   ผมเดินทางมาที่มิลานในครั้งนี้ เพื่อมาตรวจสอบโครงการอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของบริษัทผม ซึ่งมาเปิดตลาดที่มิลานเมืองแห่งแฟชั่นนี้ และเพื่อเข้าร่วมงานประชุมการเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการชาวอิตาเลี่ยนและยุโรป ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ติดต่อกันเป็นเวลาสามวัน

   เมื่อผมมาถึงห้องทำงานตำแหน่งประธานบริษัท ที่ปรกติจะว่างเว้นไว้ให้ผม ผมก็จัดการเรียกพบประธานสาขา ที่ถือเป็นตำแหน่งสูงที่สุดของสาขา มีหน้าที่ควบคุมดูแลบริษัทสาขามิลานแห่งนี้   

   เมื่อพูดคุยหาลือกับประธานสาขาเสร็จ ผมก็จัดการเรียกประชุมผู้บริหารสาขาทุกคนทันที หัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้คือ  การตรวจสอบการบริหารงานและความพร้อมของแต่ละหน่วยงานในการเป็นเจ้าภาพในงานประชุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้

   ผมต้องการให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟ็คไร้ความผิดพลาด เพราะถ้าเกิดมีความผิดพลาดขึ้นมา นั่นหมายถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทก็จะลดลง และส่งผลต่อความสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการนี้

   เพราะฉะนั้นเพื่อให้ทุกอย่างออกมาไม่ผิดพลาด ผมจึงต้องตรวจสอบแล้วตรวจสอบเล่าเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ตรวจดูการประสานงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกอย่างออกมาลงตัว

   แม้ผมจะดูเข้มงวดไปบ้าง แต่เพื่อไม่ให้สิ่งผิดพลาดเล็กน้อย มากระทบถึงงานใหญ่ ผมก็ต้องทำ ซึ่งผมคิดว่าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบทุกคนจะต้องเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแน่นอน

   การประชุมดำเนินไปอย่างยืดยาวเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น ผมรู้สึกปวดหัวตุ้บๆ อยากจะให้ช่วงเวลาที่ต้องดำเนินงานอยู่ที่มิลาน จบๆไปโดยเร็ว หลังจากนี้ผมจะได้มีเวลาหายใจสะดวกแล้วกลับไปที่เมืองไทยอย่างสบายใจเสียที

   แต่ผมก็ต้องอยู่ที่นี่อีกสามวัน แล้วตลอดช่วงสามวันที่จะถึงนี้ มันจะต้องเคร่งเครียดมากขึ้นกว่าวันนี้อีกเป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน  ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อนึกถึง

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #122 เมื่อ22-10-2007 21:52:46 »

  เย้แอบมีคนมาต่อ ขอยาวยาวได้ปะ   :m26: :m26: :m26:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #123 เมื่อ22-10-2007 21:55:48 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

anTon

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #124 เมื่อ22-10-2007 22:00:53 »

อยากหั้ยนิค เจอ กาย วาย วาย :m18:

แล้วหั้ย กาย เปิดจัยรัก นิค เร็วเร็ว ด้วยคับ :m1:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #125 เมื่อ22-10-2007 22:26:03 »

ลุ้นให้เจอนิคไวไวนะ  :a10:  :a10:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #126 เมื่อ23-10-2007 01:14:33 »

 :เฮ้อ:
ฟังบรรยายชีวิตกายแล้วน่าสงสารคนรวยเหลือเกินนนนนนน  :m23:
มาเป็นคนจนกัดก้อนเกลือกินอย่างเราดีกว่ามะกายยยยยยย......
นิคจะช่วยพี่กายให้หลุดจากวัฎฎะชีวิตนี้ได้รึเปล่านะ.... คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ.... :confuse: :m25:

 :110011: :เชิป2:

ออฟไลน์ light_tao

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-8
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #127 เมื่อ23-10-2007 07:18:35 »

หลังจากการประชุมได้เสร็จสิ้น ผมก็โทรบอกเรโอว่าไม่ต้องมารับแล้ว เพราะว่านี่ก็เป็นเวลาเกือบๆสามทุ่มเข้าไปแล้ว ผมยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลย ฉะนั้นผมค้างที่นี่เลยจะสะดวกกว่า ผมรู้สึกเพลียมาก แต่ก็ต้องอยู่สะสางงานที่บริษัทต่อ

   บนชั้นบนสุดของตึกบริษัทสาขา จะเป็นชั้นที่พักส่วนตัวของผม ซึ่งมีอยู่แบบนี้ทุกแห่งในบริษัทสาขาทั้งหมด ผมยังไม่ได้เข้านอนทั้งที่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว เพราะผมกำลังนั่งตรวจดูเอกสารสำคัญต่างๆที่จะต้องใช้ประกอบในการประชุมวันพรุ่งนี้

   ผมถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างเหนื่อยล้า แล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอน เมื่องานทุกอย่างได้เสร็จสิ้นหมดแล้ว

   ผมนอนก่ายหน้าผากอยู่บนเตียง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยในใจ  แล้วใบหน้าของคนๆหนึ่ง ที่ผมไม่อยากนึกถึง ก็ผุดขึ้นมาในความคิด ใบหน้าของไอ้ฝรั่งนั่น!

   ผมสะลัดศีรษะไปมา ซุกหน้าลงกับหมอน พยายามไล่หมอนั่นออกไปจากความคิดให้ได้ ทำไมผมต้องนึกถึงหน้ามันด้วย! หรือเพราะความเกลียดชังมันฝังใจ ผมถึงลืมหนุ่มฝรั่งคนนั้นไม่ได้สักที

   ผมไม่อยากจะคิดไม่อยากจะนึกถึงคนพันธุ์นั้นเลยจริงๆให้ตายสิ ทำไมจะต้องมารังควานกระทั่งในความคิดผมด้วย อยากจะบ้าตายจริงๆ

   ผมรู้สึกปวดหัวหนึบๆ วันนี้ก็มีอาการแบบนี้มาทั้งวัน สงสัยผมจะโหมงานหนักติดต่อกันนานเกินไปกระมัง ร่างกายถึงได้คอยประท้วงแบบนี้ เห็นทีหลังจากงานในครั้งนี้ ผมคงต้องหาเวลาพักผ่อนร่างกายเสียหน่อยแล้ว

   ผมตั้งโทรศัพท์มือถือให้ปลุกหกโมงเช้า ซัดยานอนหลับไปหนึ่งเม็ดแล้วนอน เพราะถ้าไม่กิน เวลานอนของผมก็จะลดน้อยลง ซึ่งมันไม่ดีเลยเมื่อนึกถึงการประชุมในวันพรุ่งนี้

   ยานอนหลับเริ่มออกฤทธิ์ ความง่วงงุนเข้าครอบงำตัวผม แล้วผมก็หลับไปในเวลาไม่ช้า จนแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด...

   เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นช้ากว่าเวลาที่ปลุกเอาไว้หนึ่งชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะการประชุมจะเริ่มขึ้นเมื่อเวลาเก้าโมง ผมแค่เผื่อเวลาให้กับตัวเองไว้เท่านั้น

   ผมอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงลิฟต์ไปยังชั้นถัดลงมา ที่เป็นชั้นของห้องทำงานประธานบริษัท ผมจัดการติดต่อผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวของทุกคน เข้าประชุมอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้ายก่อนการปฏิบัติงานจริง
   
   การประชุมเป็นไปอย่างรวดเร็ว กระชับสั้นได้ใจความ เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ดังนั้นผมจึงรีบสั่งการและสรุปแผนงานเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนนำไปปฏิบัติตามโดยไม่บกพร่อง
   
   “เอาล่ะ! ผมหวังว่าทุกคนจะเข้าใจหน้าที่ของตน และผมเชื่อมั่นในตัวพวกคุณทุกคน ขอให้ทุกคนโชคดี จบการประชุมเพียงเท่านี้... ”  ผมลุกขึ้นบอกเมื่อทุกอย่างได้เสร็จสิ้นแล้ว

   “ครับ/ค่ะ ท่านประธาน” ผู้ร่วมประชุมต่างขานรับผมอย่างแข็งขัน ผมยิ้มน้อยๆโต้ตอบ เพื่อผ่อนคลายทุกคนจากอาการตึงเครียด เพราะก่อนหน้านี้ผมคงจะทำหน้าเครียดมาก จึงส่งผลให้ทุกคนพากันเคร่งเครียดตามไปด้วย

   ผมเดินออกจากที่ประชุม ท่ามกลางรอยยิ้มของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่ส่งมาให้ เหมือนกับเป็นกำลังใจให้ผม นั่นสินะ! ผมไม่ได้ทำงานคนเดียวสักหน่อย ถ้าไม่มีพวกเขาคอยให้ความร่วมมือ ผมเพียงคนเดียวจะไปทำอะไรได้ มันก็เหมือนกับคนปราศจากแขนขานั่นแหละ ถ้าไม่มีแขนขา จะสามารถเดินไปถึงจุดหมายได้หรือ? 

   งานประชุมการเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการชาวอิตาเลี่ยนและยุโรปในวันนี้ ดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่ติดขัด และผมก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดทั้งสามวันด้วย

   ผมรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปรกติที่เคยเป็น คงเป็นเพราะผมต้องใช้สมองและความคิดอย่างหนักกระมัง ถึงได้เป็นแบบนี้ ถึงภายนอกผมจะดูเหมือนปรกติ แต่นั่นก็เพราะผมแสร้งทำ เพื่อให้คนอื่นเห็นเป็นอย่างนั้น ถ้าผมทำตัวหมดสภาพ งานการที่สำคัญอาจจะเสียหายได้ เพราะฉะนั้นผมจึงต้องอดทนเข้าไว้

   งานประชุมทั้งสามวันผ่านไปอย่างเชื่องช้ามากสำหรับผม แต่ในที่สุดก็จบลงด้วยดี ผมจึงได้ถือโอกาสอันน่ายินดี เปิดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้แก่พนักงานทุกคน เพื่อเป็นการขอบคุณในความร่วมมือที่เป็นไปด้วยดี

   ผมมาเปิดงานเลี้ยงฉลอง แล้วกล่าวสุนทรพจน์ขอบคุณพนักงานทุกคน จากนั้นผมก็ปลีกตัวออกจากงานไป เรโอมารอรับผมที่บริษัท ผมจึงกลับไปพร้อมกับเรโอ ไปอยู่บ้านมันอีกคืน แล้วพรุ่งนี้ผมกะว่าจะขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทยเลย

   “นายดูท่าทางแย่ลงนะ” เรโอเอ่ยขึ้นหลังจากที่ขับรถใกล้จะถึงบ้านมันแล้ว มันมองทางข้างหน้าสลับกับมองหน้าผมไปมา

   “อืม... เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ”

   “งั้นเหรอ? แต่ฉันว่าไม่นิดแล้วม้าง... ท่าทางเหมือนคนหมดแรงแบบนี้” แล้วมันก็เอามือข้างหนึ่งปล่อยจากพวงมาลัยมาแตะหน้าผากผม
   
   “ตัวรุมๆนะ อยู่ที่นี่ต่ออีกสักสองสามวันเถอะ ไว้ดีขึ้นแล้วค่อยกลับก็ได้” น้ำเสียงของเรโอเจือด้วยความเป็นห่วงจนผมรู้สึกได้

   “กินยานอน เดี๋ยวก็หายน่า นายไม่ต้องห่วงหรอก... ฉันอยากรีบกลับเมืองไทยสะสางงานที่คั่งค้างไว้ ฉันทิ้งมันมานานเกินไปแล้ว...” ผมบอกแล้วส่งยิ้มให้มันอย่างฝืนๆ

   “เหอะ! อะไรก็งานๆ ชีวิตนี้มีแต่งาน หายใจเข้าออกอะไรก็งาน ทำไมไม่รู้จักปล่อยวางซะบ้างห๊ะ!! แกจะไปแคร์อะไรมากมายกับบริษัทที่เป็นของไอ้แก่มากตัณหานั่น! หรือแกทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตเพื่อหาเงินให้พ่อแกเสพสุขบำรุงบำเรอเมีย!!” ไอ้เรโอใส่อารมณ์กับผมทนที ดูเหมือนมันจะไม่พอใจกับคำพูดของผมเมื่อกี้เอามากๆ แต่คำพูดของมัน ล้ำเส้นเกินไปแล้ว... ผมไม่อยากจะฟังอีกต่อไป

   “พอเถอะ...” ผมบอกมันอย่างใจเย็น แต่มันก็ยังไม่ยอมหยุด

   “ฉันไม่เข้าใจแกจริงๆเลยว่ะ! แกทำตัวเหมือนกับคนไม่รักตัวเอง แกไม่เคยสนใจหรือใส่ใจในตัวเองเลย แกทำตัวอย่างกับเป็นเครื่องมือให้พ่อแก ทั้งที่แกก็มีเลือดเนื้อจิตใจ !! แกไม่...”

   “หุบปากซะ!!!” ผมตะคอกใส่เรโอเสียงดังอย่างอดรนทนไม่ไหว

   ทั่วทั้งคันรถเงียบสงบในทันใด ผมยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัว หลับตาลงอย่างไม่ต้องการรับรู้เรื่องใดๆอีกทั้งสิ้น ได้ยินเสียงของเรโอดังแว่วทำลายความเงียบขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

   “...แกไม่เป็นห่วงตัวเอง ก็นึกถึงคนที่เป็นห่วงแกซะบ้าง...”

   ผมไม่ได้โต้ตอบคำพูดของมัน แต่จมอยู่ในภวังค์ความคิดของตน ผมเข้าใจดี ในคำพูดทั้งหมดของมัน เข้าใจว่ามันห่วงใยผมขนาดไหน เข้าใจในความรักที่มันมีต่อผมในฐานะเพื่อน แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ ตัวผมเอง...

   ผมไม่เข้าใจในตัวเองจริงๆ...

   ถ้าตัวผมเองยังไม่เข้าใจในตัวเอง แล้วจะมีใครเข้าใจผมได้กันเล่า?

            ____________จบตอน____________

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #128 เมื่อ23-10-2007 09:44:36 »

 :m26:
เอ....เรโอจะแอบชอบกายรึเปล่านะ.... :m28:
นี่ละ กาย ถึงต้องมี พี่นิค มาคอยดูแล... เพราะเอาแต่ทำงานนนนน จนไม่ดูแลตัวเองงงงง  :m12:
รอเวลาพบหน้ากันอีกครั้งงงงง ... เอาใจช่วยพี่นิค...
 :m4:

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #129 เมื่อ23-10-2007 11:56:17 »


       เริ่มแผนการพิชิตได้แล้วนะ   อิอิ     อยากเห็นฉาก sweet แล้วอะ 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
« ตอบ #129 เมื่อ: 23-10-2007 11:56:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #130 เมื่อ23-10-2007 12:29:00 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

satan666

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #131 เมื่อ24-10-2007 00:45:17 »


วันนี้มาต่อให้เอง :a4: ขอบคุณเต๋ามากๆเลยค่ะที่มาช่วยโพสให้

==========================================================================


Chapter: 8 ลักพาตัว 

   เวลานี้ผมกำลังยืนรอคนๆหนึ่งอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ความจริงผมมาถึงที่เมืองไทยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ที่มาอยู่ที่สนามบินอีกครั้งในวันนี้ ก็เพราะว่าเขาคนนั้นกำลังจะมา...
   
   ผมกำลังรอใครอยู่นั้นหรือ? คงต้องย้อนความกลับไปเมื่อสามวันก่อน...
   
   ผมนอนค้างที่บ้านพี่เอหนึ่งคืนเพื่อหารือถึงแผนการต่างๆที่จะสามารถใช้ในการเข้าถึงตัวคุณกายได้ แล้วก็ได้นามบัตรของคุณกายมาจากพี่เอด้วย ซึ่งพี่เอได้รับมาจากเขาตอนที่เจรจาทำสัญญากัน ในนามบัตรมีเบอร์ของคุณกายด้วย แต่ผมยังไม่กล้าโทรไปหรอก ขืนโทรไป เกิดเขาไหวตัวทันจะทำยังไง ผมไม่อยากให้เขาเตลิดหลุดมือผมไปอีกครั้ง
   
   พอเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็ออกจากบ้านพี่เอไปเก็บของที่ห้องพัก แล้วขับรถมาที่คฤหาสน์แถวเคนชิงตัน ที่ๆผมได้พบและพูดคุยกับคุณกายอีกครั้ง
   
   ผมมาด้อมๆมองอยู่หน้าประตูคฤหาสน์อยู่นานสองนาน ภาวนาว่าเขาจะยังอยู่ที่นี่ แม้อีกใจหนึ่งจะคิดไว้ว่าเขาไม่น่าจะอยู่แล้วก็ตาม ผมพอจะเข้าใจในตัวเขาอยู่บ้าง ว่าเขาคงไม่โง่พอที่จะอยู่ที่นี่หรอก นอกจากเขาจะอยากเจอผม ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่จะเป็นอย่างนั้น 

   ผมยืนเกาะประตูรั้วอยู่พักใหญ่ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม
   
   “สวัสดีครับ คุณมาหาใครหรือครับ?” ชายคนนั้นถามผมจากในรั้วคฤหาสน์
   
   “อะ เอ่อ... ผมมาหาคุณกายน่ะครับ” ผมบอกไปด้วยใจที่เต้นระทึก
   
   “คุณชายไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วครับ คุณมีธุระอะไรฝากไว้ไหมครับ? ผมจะได้ไปเรียนคุณท่านให้”ภาษาอังกฤษสำเนียงคนไทยของคุณลุงคนนี้ ทำให้ผมถึงกับยิ้มออกมา เพราะดูท่าเขาจะไม่ค่อยถนัดใช้ภาษาอังกฤษเท่าไรนัก ผมจึงเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยกับคุณลุงแทน
   
   “แล้วทราบไหมครับว่าคุณกายไปที่ไหน? คือ ผมมีธุระที่จำเป็นจริงๆครับ” คุณลุงคนนั้นทำหน้าแปลกใจอย่างมาก ก่อนจะพูดไทยตอบโต้ผม
   
   “คุณชายไปมิลานตั้งแต่เย็นวานแล้วครับ”
   
   “เขาจะอยู่ที่มิลานนานไหมครับ ผมไม่อยากคลาดกับเขาอีก” คุณลุงคนนั้นขมวดคิ้วมุ่น สายตาของเขาดูเคลือบแคลงสงสัยในตัวผม ผมเริ่มรู้สึกหวั่นๆ จึงตอบรับสายตาคุณลุงด้วยการฉีกยิ้มพิมพ์ใจเพียงเท่านั้น
   
   “เอ่อ... รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะไปเรียนถามคุณท่านให้” แล้วคุณลุงคนนั้นก็หันหลังเดินจากไป
   
   ผมได้แต่ยืนครุ่นคิดอยู่คนเดียว คุณกายไปมิลานเมื่อเย็นวาน... เกินการคาดคิดของผมมาก ทั้งๆที่ผมเพิ่งเจอกับเขาเมื่อเช้าวานนี้ พอตกเย็นก็รีบบินออกจากอังกฤษเลยเหรอ? มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเขาจงใจหนีผมกันแน่! ผมได้แต่แค่นยิ้มสมเพชตัวเองอย่างฝืดเคือง
   
   สักพักคุณลุงคนเดิมก็มาเปิดประตูรั้วให้ผม ผมได้แต่ยืนมองการกระทำของเขาอย่างประหลาดใจ
   
   “เชิญครับ คุณท่านต้องการพบคุณน่ะครับ” เขาทำท่าเชื้อเชิญผมให้เข้าไป ตอนนั้นผมรู้สึกขาแข็งทื่อก้าวเดินไม่ออกในทันใด แต่ก็ต้องเดินตามหลังคุณลุงเข้าไปจนได้ ด้วยความคิดที่ว่า

   ไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือเหรอ?!!

   ผมนั่งตัวเกร็งอยู่ที่โถงรับแขกของคฤหาสน์ ยังคงไม่เห็นคุณท่านที่คุณลุงคนนั้นว่าปรากฏออกมาให้เห็นสักที ไม่รู้ว่าคุณท่านคนนั้นเป็นใคร จะใช่ นายธีรพัฒน์ วิริยะมหาดิษกุล คุณพ่อของคุณกายหรือเปล่า? เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพ่อของเขา ผมถึงกับกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นทันที นี่ผมเข้ามาหาผลพลอยได้ หรือเข้ามาหาเรื่องใส่ตัวกันนี่!!

   ในขณะที่ใจผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หวั่นวิตกไปต่างๆนาๆนั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม หัวใจผมเต้นระรัวทันทีขณะเงยหน้ามองคนที่มา แล้วผมก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อหญิงคนนั้นเพียงแค่เอาน้ำมาเสริฟ์แล้วจากไปเท่านั้น

   และแล้วสิ่งที่ผมรอคอยก็มาเยือนจนได้ ชายหญิงวัยประมาณหกสิบคู่หนึ่ง เดินเข้ามาในโถงรับแขก ทั้งคู่ส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาตรงข้ามกับผม

   “เธอเป็นเพื่อนของกายหรอกหรือ?” เป็นฝ่ายหญิงเปิดปากถามผมขึ้นก่อน

   “อ่ะ เอ่อ... ครับ จะว่าอย่างนั้นก็ได้” ผมตอบไปอย่างอึกอัก เห็นคนทั้งคู่ขมวดคิ้วอย่างเคลือบแคลง ผมจึงต้องรีบทำตัวให้เป็นปรกติและเป็นธรรมชาติมากที่สุด

   “กายเขาไปประชุมที่มิลานน่ะ ตอนนี้น่าจะยุ่งจนหัวหมุนเลยล่ะ” ชายอีกคนหนึ่งบอกผม ผมจึงได้แต่พยักหน้ารับคำเท่านั้น แต่ในใจกลับรู้สึกเป็นห่วงคุณกายขึ้นมา ไม่รู้ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยมากหรือเปล่า? มีเวลานอนหลับพักผ่อนบ้างไหม?

   “ได้ยินว่าเธอพูดไทยได้ เป็นลูกครึ่งรึเปล่า? อืม...แต่ดูเหมือนไม่น่าจะใช่นะ คุณว่าไหม?” หญิงคนนั้นมองผมอย่างพินิจพิจารณาแล้วหันไปถามคุณลุงที่นั่งข้างๆอย่างขอความเห็น ผมคิดว่า ที่คนคู่นี้ทราบว่าผมพูดไทยได้ ต้องเป็นเพราะคำบอกเล่าของชายที่มาเปิดประตูให้ผมแน่นอน

   “เปล่าหรอกครับ คุณน้าของผมเป็นคนสอนให้ตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ ท่านเป็นคนที่รักเมืองไทยมากเลยล่ะครับ” ผมไขข้อข้องใจให้กับคนทั้งคู่อย่างภาคภูมิใจ

   “’งั้นหรอกหรือ? ปกติพวกเราไม่ค่อยได้เจอเพื่อนของกายสักเท่าไหร่ นอกจากเจ้าเรโอ ตอนแรกก็นึกว่าหลานของฉันเป็นคนขาดแคลนเพื่อนซะอีก เห็นคบเพื่อนอยู่แค่คนเดียวตั้งนาน ” คุณป้าบอกกับผมยิ้มๆ ผมจึงยิ้มตอบเธอไปด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

   “แล้วพวกคุณทราบไหมครับว่าคุณกายจะกลับไปเมืองไทยเมื่อไหร่?” ผมตัดสินใจถามออกไป เพราะการเจอกับคุณกายที่ประเทศไทยมันง่ายกว่าการไปตามหาในที่อื่น ผมจึงกะว่าจะไปรอเขาที่เมืองไทยก่อน

   “อืมม์ คงหลังจากงานประชุมที่มิลานเสร็จสิ้นล่ะนะ กายคงจะรีบกลับเมืองไทยทันทีเพราะเป็นห่วงงานที่นั่นน่ะ”  คุณป้าบอกผม

   “แล้วทำไมเราไม่โทรไปถามกายเขาดูล่ะ?” คุณลุงถามผมขึ้นมาหลังจากที่เงียบอยู่นาน

   “ผมไม่กล้าโทรครับ กลัวเขาติดงานอยู่ ผมไม่อยากจะรบกวนเขาครับ” ผมบอกไปด้วยความจริงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  “ผมคิดว่าจะไปรอคุณกายที่เมืองไทยก่อนน่ะครับ ถ้าเขาจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่ ผมจะได้ไปรอรับเขาที่สนามบินเลย”

   “อืม... ไว้จะลองโทรถามกายให้ละกันนะพ่อหนุ่ม” คุณป้าบอกผม

   “อ่า...ครับ รบกวนด้วยนะครับ นี่ครับนามบัตรของผม” ผมยื่นนามบัตรให้คุณป้าไป “ถ้าได้เรื่องยังไงอย่าลืมติดต่อผมนะครับ”

   “จ้ะ ชื่อนิคโคลัสหรือ?” คุณป้ามองนามบัตรของผมแล้วถาม



========================================================================

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ o1

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #132 เมื่อ24-10-2007 01:08:14 »

เหอะๆ น่าแปลกอยู่นะ เป็นเพื่อนแต่ไม่กล้าโทร
กลับมาหาถึงบ้าน
 :m29: :m29: :m29:

ไม่ได้จับผิดนะ แต่ถ้าผมเป็นพ่อกาย คงสงสัยนึกว่าเจ้าหนี้มา
 :m20:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #133 เมื่อ24-10-2007 01:37:41 »

 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับขอให้พี่นิคเจอพี่กายเร็วๆๆนะครับ

จะได้รักกันซะที เพราะที่เห็นก็ไม่มีวี่แวว

ว่าจะลงเอยกันได้เลยอ่าครับ

สู้ๆๆเป็นกำลังใจให้เสมอครับ

 :impress: :impress: :impress:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #134 เมื่อ24-10-2007 12:35:38 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #135 เมื่อ24-10-2007 12:50:03 »

มาเปงกำลังใจให้นะคับ อิอิ

สู้ๆๆนะคับ  :a10: :a10: :a10:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #136 เมื่อ24-10-2007 14:03:10 »

 :m4:
แม้จะสั้นไปหน่อยยยย แต่ได้ข่าวคราวพี่นิคก็ ok ละ...
น่าจะเป็นพี่นิคนี่ละน๊ะ...ที่จะจัดระเบียบชีวิตให้กายยยย   :m3:
คิดแล้วอิจฉา,,,,,,,,  :m25:
+1 ให้กำลังใจกันไปปปปปตามระเบียบบบ ทั้งวันละวันนี้....

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #137 เมื่อ24-10-2007 14:34:34 »

ให้กำลังใจคนโพส +1  o15  ให้กำลังใจคนช่วยโพสก็ +1 จ้า  o14

อยากจะลุ้น...แต่ไม่รู้จะช่วยลุ้นยังไง ห่างไกลกันซะขนาดนั้น  :m17:

อ๊ะ!! แต่นิคก็ยังมีหวังนี่เนอะ กายเขาคิดถึงนิคด้วยนะ อิอิ :m12:




three

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #138 เมื่อ24-10-2007 15:14:19 »

 :m7: :m17:แอบย่องมาดูความเคลื่อนไหวครับแล้วเราก็ย่องออกไป :m7: :m7:

ออฟไลน์ yoki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • บ้านนิยายมือสอง
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #139 เมื่อ24-10-2007 15:33:26 »

  :o :oอ่ะ เรื่องนี้ลงที่เด็กดีใช่ป่าวค่ะ  หยกเคยอ่านอิอิ :m18: :m1:

แต่มาอ่านซ้ำอีกทีก็สนุกเหมือนเดิมมาอัพต่อไวๆน่ะค่ะ :m3: :m3: :m3: :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
« ตอบ #139 เมื่อ: 24-10-2007 15:33:26 »





ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #140 เมื่อ24-10-2007 15:51:24 »


      อีกนิดก็ได้เฉียวแล้ว   :a6: :a6: :a6: :a6:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #141 เมื่อ24-10-2007 20:38:03 »

เพิ่งได้อ่าน สนุกมากๆเลยคับ ติดใจซะแล้วสิ อิอิ :m3:

satan666

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #142 เมื่อ25-10-2007 15:16:20 »



b|ueBoYhUb  - - เหอะๆ น่าแปลกอยู่นะ เป็นเพื่อนแต่ไม่กล้าโทร
กลับมาหาถึงบ้าน >>> คนแก่คงมองพิรุตไม่ออกหรอก อิอิ
   

ไม่ได้จับผิดนะ แต่ถ้าผมเป็นพ่อกาย คงสงสัยนึกว่าเจ้าหนี้มา >>> เผอิญว่าไม่ใช่พ่ออ่ะ แต่เป็นลุงกะป้า


deshiwa  - - อ่าครับขอให้พี่นิคเจอพี่กายเร็วๆๆนะครับ >>> เร็วๆนี้แหละ

จะได้รักกันซะที เพราะที่เห็นก็ไม่มีวี่แวว >>> รอดูกันต่อปาย

ว่าจะลงเอยกันได้เลยอ่าครับ >>> ก็ต้องติดตาม อิอิ

สู้ๆๆเป็นกำลังใจให้เสมอครับ >>> ขอบคุณค่า  o15

ken_krub  - - เป็นกำลังใจให้ครับ >>>  o14

LonelyBoiZ  - - มาเปงกำลังใจให้นะคับ อิอิ สู้ๆๆนะคับ >>> อ่ะจ้า

nartch  - - แม้จะสั้นไปหน่อยยยย แต่ได้ข่าวคราวพี่นิคก็ ok ละ...
น่าจะเป็นพี่นิคนี่ละน๊ะ...ที่จะจัดระเบียบชีวิตให้กายยยย   >>> งั้นม้าง
คิดแล้วอิจฉา,,,,,,,,  >>> อิจฉาก็หาจิ อิอิ
+1 ให้กำลังใจกันไปปปปปตามระเบียบบบ ทั้งวันละวันนี้.... >>> ขอบคุณค่ะ

Turn_righT  - - ให้กำลังใจคนโพส +1    ให้กำลังใจคนช่วยโพสก็ +1 จ้า  >>> o15

อยากจะลุ้น...แต่ไม่รู้จะช่วยลุ้นยังไง ห่างไกลกันซะขนาดนั้น  >>> คอยลุ้นละกาน

อ๊ะ!! แต่นิคก็ยังมีหวังนี่เนอะ กายเขาคิดถึงนิคด้วยนะ อิอิ >>> ฮ่าๆ ช่ายๆ

three - - แอบย่องมาดูความเคลื่อนไหวครับแล้วเราก็ย่องออกไป  >>> จาย่องปายหนายยย

yoki  - -  อ่ะ เรื่องนี้ลงที่เด็กดีใช่ป่าวค่ะ  หยกเคยอ่านอิอิ  >>> ช่ายแล่ว

แต่มาอ่านซ้ำอีกทีก็สนุกเหมือนเดิมมาอัพต่อไวๆน่ะค่ะ   >>> จ้า

cargo  - - อีกนิดก็ได้เฉียวแล้ว >>> เฉียวอาราย  :laugh:

pongsj  - - เพิ่งได้อ่าน สนุกมากๆเลยคับ ติดใจซะแล้วสิ อิอิ  >>> ดีใจนะเนี่ย  :m1:




ถ้าค้างก็อย่าว่ากันน๊า บอกไว้ก่อง อิอิ  o17
============================================================================



                “จ้ะ ชื่อนิคโคลัสหรือ?” คุณป้ามองนามบัตรของผมแล้วถาม

   “ครับ เรียกผมนิคเฉยๆก็ได้” ผมบอกยิ้มๆ ในใจลอบดีใจสุดขีด ไม่คิดว่าโอกาสของผมจะได้มาง่ายๆแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูหนทางจะยากลำบากมากแท้ๆ พระผู้เป็นเจ้าคงจะเข้าข้างผม ถึงได้มีโอกาสดีๆแบบนี้เกิดขึ้นกับผม

   หลังจากนั้น ผมก็ขอตัวลาพวกท่านกลับ ความหนักอึ้งในจิตใจผมเริ่มผ่อนคลายลง เรื่องที่คิดว่ายากลำบาก กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่ยากอย่างที่คิด ความเป็นจริงมันไม่ได้เลวร้ายเท่าไรนักเลย

   ผมอยู่เคลียร์ธุระหลายๆอย่างที่อังกฤษวันกว่าๆ รวมทั้งเรื่องจองตั๋วเครื่องบินไปไทยด้วย เมื่อผมไปถึงเมืองไทย ผมก็มัวนั่งรอโทรศัพท์จากคุณลุงคุณป้าอย่างไม่มีกระจิตกระใจทำอย่างอื่น จนกระทั่งข้ามวันไปแล้ว ก็ยังคงไม่มีการติดต่อเข้ามา ผมได้แต่คิดร้อนใจอยู่คนเดียว นี่ผมหวังสูงเกินไปไหมเนี่ย!!   

   จนกระทั่งเช้าวันนี้ สิ่งที่ผมรอคอยก็มาถึง คุณป้าของคุณกายได้ติดต่อมาหาผม บอกไฟลต์บินที่คุณกายจะมา ผมจึงรีบไปเช็คเวลาบินทันที พอตกเย็นผมก็ไปรอรับเขาที่สนามบิน รออย่างใจจดใจจ่อ...

   ผมคิดไปต่างๆนาๆ ว่าถ้าเขาพบกับผมเขาจะมีท่าทียังไง จะรีบหนีผมไปเลยหรือเปล่า? หรือเปิดปากด่าผมก่อน ความจริงตอนปรึกษาเรื่องแผนการกับพี่เอ พี่เขาเสนอแผนลักพาตัวให้ผมทำ แต่ผมไม่อยากใช้แผนนี้ เพราะมันจะมีแต่ผลเสียเกิดขึ้น ผมกลัวว่าเขาจะเกลียดผมกว่าเดิม ผมจึงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

   วันนี้ผมจึงคิดว่าแค่มารอเจอหน้าเขาก็พอ ขืนลักพาตัวที่นี่ คนต้องแตกตื่นกันแน่ และเขาก็คงจะขัดขืนผมอย่างถึงที่สุดแน่นอน

   นั่นไง มาแล้ว... คนที่ไม่ว่าจะยังไง ก็ดูโดดเด่นในสายตาผมเสมอ ไม่ว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่แออัดคับแน่นยังไง ผมก็ยังสามารถมองเห็นเขาได้อย่างเด่นชัด 

   ผมยิ้มกว้างขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ผมเฝ้ารอคอย กำลังเดินมาทางผม ความจริงอยากจะรีบวิ่งไปกอดเขาเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องอดทนระงับใจเอาไว้ก่อน แล้วเฝ้ารอเขาเดินมาใกล้อย่างอดทน

   ผมเพ่งพินิจมองเขาโดยละเอียด ดูเขาท่าทางแปลกๆอย่างไรไม่รู้ หน้าตาเขาดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย หรืองานที่มิลานที่คุณลุงคุณป้าว่า จะหนักหนาสาหัสมาก ถึงกับทำให้คุณกายดูหม่นหมองลงถึงขนาดนี้ ผิดกับตอนที่ผมเจอกับเขาที่ลอนดอนเลย

   เขาคงจะไม่ได้สังเกตเห็นผม จึงยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จนกระทั่งเขาเดินมาใกล้ผม ผมจึงเดินไปประชิดตัวเขา แล้วจับแขนเขาเอาไว้ เห็นเขาเงยหน้ามองผมอย่างงุนงง จากนั้นสายตาเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นตกใจ

   แต่ที่ผมตกใจยิ่งกว่าคือ คุณกายไม่ได้ขัดขืนผม แต่กลับเซเข้ามาซบอกผมซะเฉยๆ ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ

         

                                            _____________________________________

   


               หลังจากคืนที่ผมมีปากเสียงกับเรโอ เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก พอเช้าวันรุ่งขึ้นผมก็เตรียมตัวไปสนามบินทันที แน่นอนว่าเรโอเป็นคนขับรถไปส่งผม แต่ระหว่างทางผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับมัน  และมันก็ไม่ได้พูดอะไรกับผม มันทำแค่เพียงเหลือบมองผมเป็นพักๆเท่านั้น

   ที่ผมไม่พูดคุยอะไรกับมันก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพียงแต่ผมเหนื่อยที่จะพูดก็เท่านั้น กระทั่งการขยับร่างกายผมยังไม่ค่อยอยากจะทำเลย ร่างกายผมตอนนี้มันดูฝืดๆอย่างไรไม่รู้ แต่ผมก็ยังฝืนทำตัวให้เป็นปรกติต่อหน้าเจ้าเรโออยู่ดี

   ก่อนจากลา เรโอเพียงแค่ใช้สายตามองส่งผมเท่านั้น แต่ผมสามารถรับรู้ได้จากสายตาของมัน ว่ามันห่วงใยผมมาก ผมยิ้มตอบรับความรู้สึกของมัน แล้วเดินจากไป

   ตลอดระยะเวลาการเดินทางบนฟากฟ้า ผมหลับเป็นตายมาตลอดทาง เป็นอย่างที่เจ้าเรโอว่าเลย ว่าผมจะอาการแย่ลง แต่ผมก็ไม่ได้นึกเสียใจที่รีบเดินทางกลับไทย เพราะผมคิดว่าผมมาอยู่ที่ไทยผมรู้สึกดีกว่าการอยู่ที่ต่างประเทศมากว่า

   ก้าวแต่ละย่างก้าวของผมช่างหนักอึ้งเหลือเกิน ทำไมสนามบินมันกว้างอย่างนี้นะ เมื่อไหร่จะถึงทางออกสักที ผมเดินลากกระเป๋าไปตามทางอย่างเซ็งๆ

   ตอนนี้ผมปวดหัวมาก เหมือนสมองจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด การมองเห็นของผมในตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร ตาผมมันพร่าๆมองอะไรไม่ค่อยถนัดชัด ผมต้องกระพริบตาถี่ๆแล้วพยายามเพ่งมอง ภาพเบื้องหน้าถึงจะชัดเจนขึ้น

   ผมอยากจะรีบกลับบ้านไปนอนพักผ่อนมาก ไม่อยากให้ตัวเองป่วยอยู่แบบนี้ ผู้คนรอบข้างเดินกันขวักไขว่รอบตัวผม จนผมตาลาย แต่ผมก็ยังกดฟันข่มใจเดินต่อไป

   แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงแรงจับของใครบางคนที่ฉุดแขนผมรั้งไว้ ผมงุนงงมาก หันหน้าไปมองคนๆนั้นด้วยความสงสัย ภาพของคนผู้หนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาผม หน้าเขาเบลอๆ ผมเห็นเขามีอยู่สามหัว ผมจึงเพ่งมองอย่างตั้งใจอีกครั้ง ใบหน้านั้นจึงค่อยๆรวมตัวเข้าหากัน เป็นใบหน้าหนึ่งที่ทำให้ผมตกใจมาก!!       

   แล้วสายตาผมก็เริ่มพร่าเลือน รู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างมาก จากนั้นผมก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกเลย...
         

 
                                            ___________________________________
 






 




   


ออฟไลน์ LonelyBoiZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #143 เมื่อ25-10-2007 15:43:38 »

มาเปงกำลังใจให้นะคับ

อิอิ
  :a9: :a1: :a1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #144 เมื่อ25-10-2007 15:44:42 »

 :impress: :impress: :impress:

พี่กายสลบอ่าอกของพี่นิค อิอิ

ทำงานและเดินทางมาเหนื่อยๆก็งี้อ่าครับ

รักกันเร็วๆๆนะครับ เอาใจช่วยมาตั้งนานละ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ cargo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #145 เมื่อ25-10-2007 15:46:01 »


     ซบ   ซุก   และมันก็จะจุกแน่น  ไปหมด :laugh: :laugh: :laugh:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #146 เมื่อ25-10-2007 15:49:39 »

จะบอกว่าค้างก็ไม่ได้ o21โหยรีบมาต่อนะครับตอนนี้ทรมานตับไตใส้พุงหมดแล้ว :a6:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #147 เมื่อ25-10-2007 15:59:12 »

ตกใจจนเป็นลม ก็ตามแผนลักพาตัวเลยสิเนี่ย  :m3:

nartch

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #148 เมื่อ25-10-2007 15:59:48 »

 :try2:
จะรู้สึกไงดีล่ะตอนนี้....สงสารกาย...แต่ก็ดีใจที่นิคมีโอกาส..... :เฮ้อ:
ไงก็คงต้องฝากพี่นิคดูแลกายให้ดี ๆๆๆๆ .... กายจะได้ประทับใจจจจจ....
เอาใจช่วยกันต่อไปครับบบบบบ.... :m3:

satan666

  • บุคคลทั่วไป
Re: Love Accident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ
«ตอบ #149 เมื่อ25-10-2007 19:05:05 »


เข้ามาแถมให้ก่อนออกไปธุระข้างนอก คนมันใจดีนะเนี่ย  :m19:

เห็นว่าค้างกัน เด๋วจาไม่เสร็จ :m14:

พรุ่งนี้มาดูถ้ารีกานน้อย จาปาชด :m16: แต่งให้นายเอกอาภัพ ว่ะฮ่าๆๆ :laugh: :laugh:

========================================================================



             ร่างของคุณกายทิ้งน้ำหนักลงมาที่ตัวผม แล้วทรุดฮวบลงไป ผมตกใจอย่างมาก รีบโอบกอดคว้าตัวเขาไว้ทันที

   “คุณกายครับ คุณกาย! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า!!” ผมก้มลงมองหน้าเขาอย่างเป็นห่วง แต่ปรากฏว่า เขาได้หมดสติลงไปแล้ว ผมรู้สึกใจไม่ดีเลย...

   ไม่คิดว่าพอเขาเจอหน้าผม จะถึงกับเป็นลมไปแบบนี้ แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่เพราะเจอผมหรอก มันคงจะเป็นเพราะอาการป่วยที่เขาเป็นมาอยู่ก่อนแล้ว ตัวเขาร้อนมาก ใบหน้าก็ดูซีดเซียวผิดจากปรกติ เขาทำงานหนักถึงขนาดล้มป่วยลงแบบนี้เลยหรือ? ผมไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ ว่าถ้าวันนี้ผมไม่ได้มารอเจอเขา ป่านนี้เขาจะเป็นอะไรไปแล้วบ้าง!!

   ผมคว้าตัวเขาอุ้มขึ้นไว้ในอ้อมแขนทันที ผู้คนรอบข้างต่างฮือฮา มุงดูการกระทำของผม แต่ไม่เห็นมีใครจะยื่นมือเข้ามาช่วยผมเลยสักคน ผมได้แต่มองตอบสายตาของผู้คนอย่างหงุดหงิด ลำพังผมแค่พาตัวเขาไปคนเดียวก็ได้ แต่มันติดอยู่ตรงที่กระเป๋าเดินทางของเขานี่แหละ ผมไม่สามารถเอามันไปด้วยได้ จะทิ้งเอาไว้ก็กลัวมันจะหาย ไม่รู้ว่าในนั้นมีของสำคัญอะไรบ้างรึเปล่า?  แต่แล้วก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม

   “เป็นอะไรมากไหมครับ? มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บ้างรึเปล่า?” ผมยิ้มตอบเขาทันทีด้วยความตื้นตันใจ อย่างน้อย ณ ที่นี้ ก็ยังคงหลงเหลือคนที่มีน้ำใจอยู่บ้าง

   “ขอบคุณครับ วานคุณช่วยถือกระเป๋าตามผมมาที” ผมบอกกับเขา แล้วรีบพาคุณกายเดินออกไป โดยมีชายหนุ่มเดินถือกระเป๋าติดตามมา

   ผมเดินมาถึงจุดขึ้นแท็กซี่ คนขับรถแท็กซี่คนหนึ่งที่เห็น รีบลงมาเปิดประตูรถให้ผมทันที ผมอุ้มคุณกายไว้ที่เบาะหลัง โชเฟอร์ก็นำกระเป๋าจากชายหนุ่มคนนั้นใส่ในกระโปงท้ายรถ

   “ขอบคุณ คุณมากนะครับที่ช่วยเหลือ” ผมบอกกับชายคนนั้นด้วยความจริงใจ

   “ไม่หรอกครับ เห็นคนกำลังลำบากผมก็ต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดาอยู่แล้ว” เขายิ้มให้ผม แล้วเบือนสายตาไปมองคุณกายที่อยู่ในรถ  “นั่นแฟนคุณหรือครับ? ดูคุณจะเป็นห่วงเขาเอามากๆ”

   “ใช่ครับ” ผมตอบเขาไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องยั้งคิด

   “พวกคุณดูเหมาะสมกันมากเลยนะครับ หน้าตาดีทั้งคู่เลย ยังไงก็ขอให้ความรักของพวกคุณยืนยาวมั่นคงนะครับ” ผมยิ้มแก้มปริทันทีอย่างถูกใจคำพูดของชายหนุ่ม

   “มันแน่นอนอยู่แล้วครับ งั้นผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ” ผมบอกกับเขาเตรียมจะขึ้นรถไป

   “ครับ ขอให้คุณโชคดีครับ” ผมยิ้มขอบคุณเขา แล้วขึ้นรถไป บอกชื่อสถานที่ๆจะไปกับโชเฟอร์ ผมคิดว่าจะเอากระเป๋าเดินทางของคุณกายไปเก็บที่โรงแรมที่ผมพักก่อน แล้วค่อยพาคุณกายไปหาหมอที่โรงพยาบาล

   เห็นชายหนุ่มคนนั้นยืนโบกมือให้ ขณะที่รถที่ผมนั่งค่อยๆเคลื่อนขับไกลออกไปเรื่อยๆ ผมยิ้มออกมา เมื่อคิดถึงคำพูดของชายคนนั้นอีกครั้ง เหมาะสมกันงั้นหรือ...?

   ผมหันไปมองคนที่นอนสลบไสลอยู่บนตักผมแล้วจึงคลี่ยิ้มออกมา ภาวนาให้คำอวยพรของชายคนนั้นเป็นจริงดังที่เขาว่า  ผมใช้มือเขี่ยปอยผมที่ปรกหน้าเขาออกให้อย่างเบามือ ลูบไล้ใบหน้าของคนที่ผมแสนคิดถึงไปมา แล้วก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากสีซีดของเขาอย่างตราตรึง

   “ผมสัญญาว่าหัวใจของผมจะมีไว้เพื่อคุณตลอดไป แม้ว่าในตอนนี้คุณจะยังไม่ต้องการมันก็ตาม…” ผมกุมมือซ้ายของเขาไว้หลวมๆ แล้วยกขึ้นจุมพิตเบาๆที่นิ้วนางข้างซ้าย...

   เมื่อมาถึงโรงแรมที่ผมพักอยู่ ผมก็เรียกให้พนักงานโรงแรมมายกกระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ แล้วขึ้นแท็กซี่คนเดิม ตรงไปยังโรงพยาบาลใกล้ๆต่อทันที

   พอถึงโรงพยาบาล ผมก็อุ้มคุณกายเข้าไป เรียกนางพยาบาลคนหนึ่งให้ช่วยเหลือ แล้วพยาบาลคนนั้นก็ไปตามบุรุษพยาบาลสองคนนำเตียงเข็นมาให้ หลังจากนั้นผมก็ปล่อยตัวคุณกาย ให้เป็นหน้าที่ของหมอต่อไป

   ผมไม่คิดเลยว่าอาการของคุณกายจะหนักถึงขนาดต้องนอนให้น้ำเกลือหนึ่งคืน คุณหมอบอกว่าร่างกายเขาอ่อนเพลียมากบวกกับเป็นโรคความดันต่ำอยู่ด้วย อาการจึงได้แย่ลงแบบนี้ ผมนั่งเฝ้าเขาอยู่ข้างเตียงโดยไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ ความห่วงกังวลทำให้ผมไม่เป็นอันกินอันนอน

   “คุณอย่าทำให้ผมเป็นห่วงขนาดนี้ได้ไหมครับ...” ผมกุมมือที่เย็นเฉียบของเขาเอาไว้ แล้วนำมันมาทาบกับข้างแก้ม

   ไข้ของเขาลดลงบ้างแล้ว หลังจากที่หมอวัดได้สามสิบเก้าองศา ผมจ้องมองใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา แล้วนึกคิดว่า ทำไมเขาถึงต้องหักโหมงาน ถึงขนาดป่วยไข้ลงแบบนี้ ถ้าเจ้าตัวฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ผมคงต้องต่อว่าเขาสักหน่อยแล้ว ทำไมเขาถึงไม่คิดเป็นห่วงตัวเองบ้างเลยนะ

   รุ่งเช้า คุณกายมีอาการดีขึ้น คุณหมอก็อนุญาตให้คนป่วยไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ ผมจึงได้พาคุณกายกลับไปที่โรงแรมที่ผมพักอยู่ทั้งๆที่เขายังหลับอยู่แบบนั้น

   ผมรู้สึกดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขานานขนาดนี้ เหมือนกับรอคอยเวลานี้มานานแสนนาน การได้มีคนที่เรารักอยู่ใกล้ๆแบบนี้มันช่างรู้สึกดีเหลือเกิน ผมสามารถจ้องมองหน้าเขาได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเฝ้านึกถึงใบหน้าเขาในห้วงความคิดอีก ผมสามารถสัมผัสตัวเขาได้อย่างใกล้ชิด รับรู้ถึงการคงอยู่ของเขา โดยที่ไม่ต้องคิดถึงอยู่คนเดียว

   ผมจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ให้เขา เพื่อที่เขาจะได้สบายตัว แล้วผมก็โทรไปสั่งอาหารสำหรับคนป่วย ให้ทางโรงแรมจัดขึ้นมาให้ ผมไม่ได้รู้สึกง่วงนอนแต่อย่างใด ทั้งๆที่ผมไม่ได้หลับนอนเลยตลอดทั้งคืน ความกระตือรือร้นที่จะอยู่คอยดูแลเขา ทำให้ผมลืมสิ้นทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง

   หลังจากที่พนักงานโรงแรมนำอาหารมาส่งให้ที่ห้อง ผมก็เข้าไปอาบน้ำจัดการกับตัวเองเพื่อรอเวลาที่คุณกายจะฟื้นขึ้นมา ผมหวังว่าหลังจากที่เขาตื่นขึ้นเขาจะไม่ทำตัวดื้อรั้นที่ให้ผมคอยดูแล แต่เห็นทีความหวังของผมจะไม่มีทางเป็นจริงได้ เมื่อผมนึกถึงความร้ายกาจของเขาเมื่อครั้งที่แล้วที่เจอกัน

   คิดดูแล้วผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นกับไฟอยู่เลย คุณกายช่างพยศดื้อรั้นเหลือเกิน พอผมวิ่งตามเขาก็วิ่งหนี พอผมจับตัวเขาได้เขาก็ขัดขืนอย่างสุดแรง พอผมจะบังคับปลุกปล้ำเขา เขาก็สรรหาคำพูดมากล่าวเชือดเฉือนใจผม เฮ้อ...

   ผมถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ผมอยากเห็นคุณกายในแบบที่อ่อนหวานน่ารักบ้าง แล้วมันจะมีวันนั้นไหมนะ วันที่เขาจะยินยอมเป็นศรีภรรยาให้ผมอย่างเต็มใจ คิดแล้วก็ช่างลางเลือนเหลือเกิน 

   ถึงยังไงผมก็จะลองพยายามดู เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ผมจะปล่อยให้ความมีเปรียบหลุดมือไปได้ยังไงกันเล่า! ผมจะใช้โอกาสนี้ทำคะแนนให้กับหัวใจของเขา ทำให้เขามีความรู้สึกที่ดีต่อผมมากยิ่งขึ้น

   เมื่อคิดได้ดังนั้นกำลังใจที่ผมมีก็เพิ่มพูนขึ้นทันใด ผมพร้อมที่จะสู้รบปรบมือกับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว! ผมเดินออกจากห้องน้ำทั้งๆที่ยังไม่ได้ใส่อะไร เพราะเสื้อผ้าผมมันอยู่ข้างนอก ผมไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยนในห้องน้ำด้วย

   แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าคุณกายได้ตื่นแล้ว ผมยิ้มให้เขาอย่างยินดี ตรงกันข้างกับเขาที่จ้องมองผมอย่างตื่นตะลึง!!       
   
         

                                           _______________________________________


สรุปมันก็ยังค้างอยู่ใช่มะ คิกคิก  :m4:








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2007 19:17:08 โดย satan666 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด