กลับมาแล้วค่ะ แหะๆ
เพิ่งจาสอบเสร็จมาสดๆร้อนๆวันนี้
และจากลับมาลงเรื่องได้ตามปกติแล้วจ้า
ขอบคุณทุกๆคนมากเลยน๊า นึกว่ากลับมาจะหากระทู้มะเจอซะแล้ว
ขอโทษที่ปล่อยให้รอ มาต่อกันเลยดีกว่า
==========================================================================
ผมลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นโอบล้อมรอบตัวผมอยู่ ความรู้สึกนี้ทำให้ผมมึนงง ผมกระพริบตาถี่ๆไล่ความรู้สึกง่วงงุนออกไป เมื่อสติค่อยๆกลับคืนมาผมก็นึกขึ้นได้ทันที!
เร็วเท่าความคิด ผมรีบขยับตัวออกจากการโอบกอดของหนุ่มฝรั่งนั่นทันที หมอนี่กล้าดียังไงมานอนกอดผม! คิดแล้วก็อยากจะตั้นหน้ามันนัก แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ เพราะว่าถ้าเกิดเขาตื่นขึ้นมา โอกาสในการหนีรอดของผมก็จะหมดไปทันที
การที่ต้องล่อนจ้อนต่อหน้าไอ้บ้านี่อีกครั้งทำให้ผมรู้สึกย่ำแย่มาก มันเหมือนกับว่าผมไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว สิทธิส่วนตัวของผมนั้นได้ถูกเขาแย่งชิงไป คิดแล้วก็น่าเจ็บใจนัก ผมสอดส่องสายตามองหาเสื้อผ้าของผมที่หมอนั่นถอดออกไป แต่มองหาเท่าไหร่ ผมก็หาไม่เจอเลย ไม่รู้ว่าหมอนั่นเอาไปไว้ไหนแล้ว
ผมจึงหากระเป๋าเดินทางของผมแทน ผมหามันจนทั่วห้อง แต่ก็หาไม่เจอ ผมเริ่มรู้สึกใจไม่ดี ไม่อยากให้ตัวเองเปลือยอยู่แบบนี้เลย ไม่รู้ว่าไอ้บ้านั่นเอาทุกอย่างไปไว้ไหนหมด ผมรู้สึกโมโหอย่างมาก เพราะแม้แต่เสื้อผ้าของหมอนั่นผมก็ยังไม่พบเจอแม้สักชิ้น ผมเห็นเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแขวนอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งผมก็ไม่มีความกล้าพอจะนุ่งมันหลบหนีออกไป
ผมเดินเข้าหาหมอนั่นที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยความเดือดดาล มีทางเดียวเท่านั้นที่ผมจะได้เสื้อผ้าใส่! คือปล้นเอาจากตัวหนุ่มฝรั่งนั่น!
ผมตบกระบาลมันไปทีหนึ่งเพื่อทดสอบว่าหมอนี่หลับสนิทหรือไม่ แม้จะเสี่ยงอยู่บ้างถ้าเกิดเขาตื่นขึ้นมา แต่ผมก็ต้องทำ ปรากฏว่าชายหนุ่มเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อยเท่านั้น แต่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา มันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจขึ้น
ผมจัดการขึ้นคร่อมตัวเขา ถลกเสื้อยืดที่เขาใส่ขึ้นมา การถอดเสื้อคนที่นอนอยู่เป็นอะไรที่ยากมาก เพราะถ้าเป็นเสื้อเชิ้ตธรรมดา ก็ทำแค่เพียงปลดกระดุมออกเท่านั้น แต่เสื้อยืดนี่ต้องถอดให้ลอดพ้นศีรษะและแขนของเขาด้วย
ผมจับแขนของเขาให้ชูสูงขึ้น แล้วพยายามดึงเสื้อให้สูงขึ้นพ้นตัว แต่จู่ๆก็มีมือมาจับแขนผมไว้แน่น ผมสะดุ้งตกใจรีบปล่อยมือออกจากเสื้อนั่นทันที เขาจับมือทั้งสองข้างของผมไว้แน่น ลืมตาขึ้นมองผม ก่อนจะหลุบตาลงมองเรือนร่างของผมที่ค่อมอยู่บนตัวเขา
ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่ทราบสาเหตุ การสบตากับนัยน์ตาสีมรกตนั่นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะผมรู้สึกว่าเขากำลังมองผมอย่างทะลุปรุโปร่ง จนผมไม่อาจหลบหนีไปไหนได้
“คุณอยากมีอะไรกับผมเหรอครับ? ถึงได้พยายามจะปลุกปล้ำถอดเสื้อผ้าผมนัก” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม มองตาผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม จนผมอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้เสียให้ได้
เขากระชากตัวผมลงมาแนบติดกับตัวเขา ผมพยายามสะบัดแขนออกแต่ก็สู้แรงของหนุ่มฝรั่งนี่ไม่ได้เลย ผมรู้สึกทั้งเจ็บใจทั้งโมโห
“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ!” ผมพยายามกระเถิบตัวออก แต่เขากลับพลิกร่างผมลงนอนบนเตียงแล้วเขาขึ้นมาคร่อมผมไว้แทน ผมเริ่มใจไม่ดี รู้สึกกลัวการกระทำต่อไปของเขา
“คุณรู้ไหม... ว่าร่างกายของคุณยั่วยวนใจผมมาก” เขากระซิบข้างหูผม ก่อนจะเลียเขาที่ใบหูของผมจนผมสะดุ้งเฮือก! เขาเลื่อนสายตามาสบตากับผม ผมรีบหลุบตาทันที พยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาอย่างถึงที่สุด
“ยะ... หยุดนะ อุ้บ!!” จู่เขาก็จูบผมอย่างหนักหน่วง ผมพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้น รู้สึกได้ถึงลิ้นร้อนๆของเขา ที่เบียดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผม ลิ้มชุ่มๆนั่นพยายามหยอกล้อกับลิ้มผม ผมรู้สึกสมองขาวโพลน ร่างกายสั่นสะท้าน ร่างกายของผมเริ่มไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน ราวกับถูกคนตรงหน้าดึงดูดไปเสียหมด
ผมหอบหายใจถี่รัวทันทีเมื่อเขาถอนจูบออก รู้สึกมึนหัวเป็นอย่างมากราวกับคนขาดออกซิเจน เห็นเขาผละตัวออกไป แล้วเริ่มเปลื้องผ้าของตนออก ผมมองหมอนั่นด้วยความตื่นตกใจทันที!
“จะ...จะทำอะไรน่ะ! ออกไปนะ ออกไปให้พ้น!” ผมเริ่มรนราน รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ราวกับผมได้ตกนรกทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มกลับทำแค่เพียงส่งยิ้มมาให้ผมเพียงเท่านั้น
ความหวาดกลัวเริ่มครอบงำจิตใจของผม ผมรีบกระเถิบตัวหนี เมื่อเขาโน้มตัวเข้ามาหาผมอีกครั้ง ถึงผมจะเคยมีอะไรกับไอ้บ้านี่มาก่อน แต่ผมก็จำอะไรไม่ได้ ไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกในตอนนั้นว่ามันเป็นยังไงด้วยซ้ำ
เขารั้งตัวผมเข้ามาหาอย่างไม่ยากเย็น ด้วยพละกำลังที่เหนือกว่า “ผมจะทำให้คุณมีความสุขยังไงล่ะครับ”
“ฉันไม่ต้องการ ไปให้พ้นนะ!” ผมรู้สึกได้ถึงเสียงตัวเองที่กำลังสั่นเครืออย่างควบคุมไม่อยู่ เขาเริ่มโลมเลียร่างกายของผม จนผมรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วทั้งสรรพางค์กาย ฝ่ามือของเขาจับที่ส่วนนั้นของผมจนผมสะดุ้งเฮือก!
“หนะ...ไหนนายบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันไง!” ผมรีบตะโกนบอก เขาหัวเราะในสำคอเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงมาจูบผมอีกครั้ง
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสัญญากับผมรึเปล่า ว่าต่อไปนี้จะไม่ดื้อดึงกับผมอีก” เขากระซิบข้างหูผม แล้วเป่าลมอุ่นๆรดหู จนผมรู้สึกขนลุกซู่ จากนั้นเขาก็เริ่มขยับมืออย่างช้าๆ การกระทำของเขามันทำให้ผมรู้สึกหายใจติดขัด
“พอได้แล้ว! หยุดนะ! อึ่ก! ฉันสัญญา! ฉันสัญญาแล้ว! ขอร้องล่ะ หยุดสักที ได้โปรด...” ผมขอร้องทั้งน้ำตา ร่างกายผมสั่นไปหมด ผมรู้สึกว่าตัวเองย่ำแย่เหลือเกิน จิตใจผมพยายามต่อต้าน แต่ร่างกายผมกลับทรยศ!
เขาหยุดการกระทำในทันทีทันใดแล้วดึงผมเข้ามาโอบกอด “คุณสัญญาแล้วนะครับ” ผมพยักหน้าเบาๆโต้ตอบเขา ตอนนี้ผมรู้สึกสมเพชตัวเองสุดๆ ผมไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย ได้แต่ตกอยู่ในการบงการของเขาเท่านั้น มันน่าคับแค้นใจจนเกินทน
“ในเมื่อคุณสัญญากับผมแล้ว ผมก็จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณด้วย” เขายิ้มให้ผมดวงตาหวานฉ่ำ ผมรีบเบือนน่าหนีอย่างสะอิดสะเอียน
“ว่าแต่...เจ้าหนูของคุณมันตื่นแล้ว ให้ผมช่วยจัดการให้ไหมครับ” หมอนั่นยื่นหน้ามาถามผม ผมรีบผลักมันออกไปทันที
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!!” ผมรู้สึกโมโหเลือดขึ้นหน้า ไม่เคยรู้สึกโมโหใครมากมายเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต ทำไมชีวิตผมถึงต้องมาเจอกับไอ้บ้านี่ด้วย มันเป็นความเลวร้ายสำหรับผมจริงๆ
“อ่า...ครับ งั้นผมขอตัวไปจัดการของผมละกันครับ” เขาลุกออกจากเตียงไป โดยไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อผ้าของตนเข้าห้องน้ำไปด้วย ผมดึงทึ้งผ้าห่มอย่างหงุดหงิดใจ ปาหมอนกระแทกประตูห้องน้ำเพื่อระบายความขุ่นข้องโมโหที่อัดอั้นตันใจ เมื่อไรชีวิตผมถึงจะหลุดพ้นจากความเลวร้ายนี้สักที
__________________________________