†ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: †ღ♥ Łove Âccident!! วุ่นรัก พิทักษ์ใจ ♥ღ†(นายนิค&คุณกาย) ตอนพิเศษ Happy Valentine's Day  (อ่าน 571394 ครั้ง)

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ร้ายพอกัน

ฮาดี..

anna1234

  • บุคคลทั่วไป

satan666

  • บุคคลทั่วไป


มาแล้วค่ะ :m4:

หาแฟนให้เรโอสักคนสิครับ

น้องตั้มไง  โตพอจะใช้การได้แล้ว 555 ให้เรโอเอาใจเด็กๆน่ารักดีนะครับ

อิอิ
ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น 

สาวแว่นนี่หมายถึงแว่นในเรื่อง  oneday หรือเปล่า
แล้วที่ยกมือหมายถึงเห็นด้วยใช่ไหมเอ่ย หรือไม่ใช่หว่า งงพี่เหมือนนะเนี๊ยะไรเขียนเองงงเอง

แฟนของเรโออ่ะมีแน่นอน แต่ไม่ใช่ในภาคนี้ แล้วก็ไม่ใช่ไอ้เด็กตั้มด้วย :jul3:

ว๊ายตายแล้ว! อุ๊บไว้ก่อนๆ  :o8:

ส่วนสาวแว่นเนี่ย แล้วแว่นในเรื่องoneday อ่ะ สาวรึเปล่าล่ะ หุหุ :laugh:



:oni1: ตกลง สาวแว่นนี่มันอะไรยังไงเหรอคุณน้อง ชักเง็ง :jul3:


รีบไปส่องกระจกดูนะ เด๋วได้คำตอบเอ๊งง อร๊ายยเขิล :o8:  :laugh:



.
.
.
มาต่อกันดีกว่า :oni1:



--------------------------------------------



...

เรโอกลับไปแล้ว... โดยมีตั้มขับรถไปส่งที่สนามบิน ทั้งที่มันเพิ่งมาที่นี่เมื่อวานนี้แท้ๆ เช้าวันนี้ก็กลับซะแล้ว... มันทำให้ผมรู้สึกโหวงๆอย่างไรไม่รู้ ความรู้สึกผิดมันตื้ออยู่เต็มอก รู้สึกแย่ที่ไม่สามารถทำอะไรให้มันได้มากกว่านี้...

มันเองก็คงเข้าใจความรู้สึกของผมดี ถึงได้พยายามทำตัวให้เป็นปกติ เพื่อไม่ให้ผมรู้สึกลำบากใจ... แต่นั่นแหละ! ยิ่งมันทำแบบนั้น... ผมกลับรู้สึกแย่มากกว่าเดิม ยังไงก็ตาม ผมหวังว่าการไปพักผ่อนของมันครั้งนี้ จะทำให้เพื่อนผมคนนี้กลับมาร่าเริงสนุกสนาน โดยที่ไม่ต้องฝืนใจทำแบบนี้อีก...

“คุณทำดีที่สุดแล้ว...” หนุ่มฝรั่งเข้ามาโอบไหล่ผมที่กำลังยืนเหม่อมองท้องทะเลไกลตาอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก

“ไม่ใช่หรอก... ฉันแค่ทำเท่าที่ฉันจะทำได้เท่านั้น สำหรับพวกเรามันอาจจะดีที่สุด แต่สำหรับกับมัน...”

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ นายนิคก็ยกมาปิดปากผมเบาๆเสียก่อน

“ชู่วว... ไม่เอาน่า...เลิกคิดมากได้แล้วครับ คุณพูดแบบนี้เท่ากับทำร้ายน้ำใจของหมอนั่นรู้ไหม”

ผมก้มหน้านิ่ง.... ชายหนุ่มดึงผมเข้ามาโอบกอดเอาไว้ หน้าของผมซบอยู่ที่อกอุ่น แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกสุขใจเลยในตอนนี้...

“เรื่องความรักมันไม่เข้าใครออกใครหรอกคุณก็รู้... มันไม่ผิดเลยที่เขาจะรักคุณ เรื่องแบบนี้มันกำหนดอะไรตายตัวไม่ได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เรารักจะรักตอบไหม แต่มันก็ห้ามความรู้สึกอยากรักของตัวเองไม่ได้... ผมเข้าใจเขาดี เพราะแต่เดิม ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ผมก็อยากจะลองเสี่ยงดู... ผมโชคดีกว่าใคร โชคดีกว่าเขา... ที่คนที่ผมเสี่ยงรัก ยอมเปิดใจให้ผม... ” เขายิ้มอบอุ่นให้กับผมที่เงยหน้าขึ้นมามอง

เขาทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น... มันอบอุ่นจากภายใน จนไม่คิดเลยว่า ผู้ชายตรงหน้าผมคนนี้จะทำให้ใจของผมคนนี้อยากจะแอบอิงใครขึ้นมา ได้ท่วมท้นเท่ากับเขา

“เพราะฉะนั้น... คุณควรจะรู้สึกยินดี และเป็นกำลังใจให้เขาจะดีกว่า อย่าทำให้ความเข้มแข็งของหมอนั่นดูไร้ค่า คุณควรจะยิ้มรับ กับสิ่งที่หมอนั่นได้ทุ่มเทให้กับคุณ สำหรับกับผมเอง ที่เป็นคนที่รักคุณเหมือนกัน ผมรู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร... หมอนั่นอยากให้คุณยิ้มได้อย่างมีความสุข เขาคงไม่อยากให้ความรู้สึกของเขาที่มีให้กับคุณ กลายเป็นภาระทางจิตใจให้คนที่รักหรอก... คุณเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการบอกไหมครับ?”

“อื้อ...” ผมพยักหน้าตอบรับเบาๆ ก้มหน้าซบที่ไหลแข็งแรงของเขา ด้วยความรู้สึกสบายใจมากขึ้น...

“เข้าใจแล้วก็เงยหน้ามายิ้มให้ผมดูหน่อยสิ”  เขาบอกเสียงอ่อนโยน ผมจึงเงยหน้ามายิ้มกว้างให้เขา

“แบบนั้นแหละคนเก่ง มาๆ ให้ผมจูบที หมั่นเขี้ยวจัง!”

จุ๊บๆ! เขาจับหน้าผมล็อคไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาจุ๊บปากผมซ้ำๆ แล้วกัดปลายจมูกผมเบาๆอีกหนึ่งที

“ฮ่าๆ จมูกแดงเลย น่ารักๆ”

“ไอ้บ้า! น้ำลายติดเลย” ผมทำหน้าเบ้ใส่ เอามือเช็ดจมูกตัวเอง แล้วนำไปเช็ดกับเสื้อของนายนิค

“ฮะๆ อะไร แค่นี้รังเกียจเหรอที่รัก! ทีตอน... ผมทั้งดูดทั้งเลีย...” หนุ่มฝรั่งทำหน้ากรุ่มกริ่มส่งสายตาหื่นๆมาให้ผม จนเลือดสูดฉีดที่ใบหน้าผมขึ้นมา

“เฮ้ย! เดี๋ยวโดนถีบ หุบปากเลยนะ!”

ผมทำท่ายกขาเตะนายนิค จนเขาหัวเราะล่า รีบชิ่งหนีผมเข้าไปในบ้าน จนผมต้องวิ่งไล่ตามเตะก้นด้วยความโมโหปนขำ แถมนายบ้านี่ยังทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา หันมาตีก้นตัวเองล้อเลียนผมอีก

“แหมๆ สวีทหวานต้อนรับยามเช้ากันเลยนะคะ เกินหน้าเกินตาพวกเราแล้วนะ คิกๆ” 

น้องหยกร้องแซว เมื่อผมวิ่งไล่นายนิคมาจนถึงโต๊ะอาหารที่เธอกับแฟนหนุ่มกำลังนั่งทานข้าวต้มฝีมือไอ้เรโอมันอยู่ ริชาร์ตเองก็มองพวกผมขำๆเช่นกัน

“ฮะๆ ก็พวกผมไม่อยากน้อยหน้าพวกคุณไง จริงไหมครับที่รัก?” ยังมีหน้าหันมาขอเสียงสนับสนุนจากผมอีก เรื่องอะไรที่ผมจะยอมเล่นด้วยล่ะ!

“มาจริงไหมอะไร เดี๋ยวจะโดน!” ผมขู่ใส่อย่างไม่จริงจัง ก่อนจะผละเข้าครัวไปหาน้ำดื่ม เพราะผมยังมีไข้อ่อนๆอยู่เลย แล้วยังมาออกกำลังวิ่งไล่ตามอย่างนี้อีก จะไม่ให้รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติได้ยังไง

เมื่อเห็นผมไม่เล่นด้วย นายนิคจึงหันไปคุยร่วมวงกับน้องหยก เรื่องโปรแกรมเที่ยวที่จะไปหลังจากผมหายดีแล้ว ซึ่งผมก็ปล่อยให้พวกเขาคุยกันไป ส่วนผมก็ปลีกตัวขึ้นห้องมานอนต่อ เพราะรู้สึกปวดหัวและปวดแผลขึ้นมา

เสียงโทรศัพท์มือถือของผมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ร้องดังขึ้นกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาหยิบดู ได้ยินเสียงน้ำไหลจากห้องน้ำ นายนิคคงกำลังอาบน้ำอยู่ ผมมองหน้าจอมือถือ ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมา

พี่ทิพย์... โทรมาทำไมกัน...?

หลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน ตอนนั้นผมยังเด็กมาก ธาราทิพย์พี่สาวแท้ๆของผมถูกพาตัวไปอยู่กับแม่ ส่วนผมอยู่กับพ่อ ด้วยความที่ยังเด็ก และพี่สาวผมก็อายุห่างจากผมถึงสี่ไป ทำให้ตอนเด็กๆเราไม่ค่อยได้เล่นด้วยกัน ผมจริงไม่สนิทกับพี่สาวตัวเองสักเท่าไร ยิ่งพ่อแม่แยกทางกัน ความเป็นพี่น้องยิ่งห่างไกลกัน...

ผมได้รับการติดต่อจากพี่ทิพย์ในช่วงระยะหลังๆ ก่อนที่ผมจะจบปริญญาโท พี่ทิพย์ส่งจดหมายมาหาผมเดือนละฉบับ โดยที่พี่ทิพย์ได้ไปติดต่อขอที่อยู่ผมจากคุณลุงคุณป้าที่อังกฤษ แต่ผมก็เขียนตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เพราะช่วงนั้นผมค่อนข้างที่จะเรียนหนัก

จนกระทั่งผมเรียนจบ และศึกษางานจากบริษัทของพ่อที่อเมริกาหนึ่งปี จากนั้นพ่อก็ออกคำสั่งให้ผมมารับตำแหน่งที่ประเทศไทย นั่นจึงทำให้ผมได้มาพบกับพี่สาวแท้ๆของผม หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานปี...

ผมกดปุ่มรับสายเมื่อมันร้องดังขึ้นอีกครั้ง ความจริงไม่อยากจะรับเลย ตั้งแต่ครั้งล่าสุดเมื่อสองเดือนก่อนที่พี่ทิพย์ติดต่อมา... ผมก็พยายามหลีกเลี่ยงจากการพูดคุยกับเธอตั้งแต่นั้น...

[“ฮัลโหล กาย!”]

“ครับพี่ทิพย์ เป็นไงบ้างครับ”

[“พี่จะถามเราต่างหากว่าเป็นยังไงบ้าง โทรไปทุกครั้งก็ฝากข้อความตลอด งานยุ่งเหรอเรา?”]

“...ก็ครับ ผมยุ่งๆ” ผมตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก

[“ไม่ใช่จะหนีพี่หรอกนะ”] เสียงหวานพูดเหมือนรู้ทันผม

“ไม่ใช่..” แต่ผมไม่ทันได้ปฏิเสธ เธอก็พูดแทรกตัดบทผมเสียก่อน

[“เฮ้อ... พี่ไม่อยากจะบังคับฝืนใจเราหรอกนะ ...แต่เราอยากจะหนีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเหรอ ทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าผลจะออกมาเป็นยังไง กายก็หนีซะแล้ว... รองคิดดีๆนะ ว่าจะปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความหลัง หรือจะเลือกเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ ที่อาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้ อย่าคิดว่ามันจะเลวร้าย ก่อนที่จะได้เจอสิ อย่าอคติกับมัน...”]

หัวใจของผมหนักอึ้งเหมือนถูกหินนับพันชั่งถ่วงเอาไว้ ปัจจุบันกับอดีตตีกันยุ่งเหยิงในหัวผมจนสับสนไปหมด ผมหาทางออกให้กับเรื่องนี้ไม่ได้... ผมยังไม่พร้อม ผมยังไม่กล้าพอ...

“ผมยังไม่พร้อมพี่ทิพย์... พี่ต้องให้เวลาผม...” ผมวอนขอน้ำเสียงแหบแห้ง รู้สึกไร้เรี่ยวแรงไปหมดทั้งกายใจ

[“แล้วต้องใช้เวลาเท่าไหร่ หืมม์? แม่ออกจากโรงพยาบาลมาได้3ปีแล้วนะ ท่านหายแล้วนะกาย กลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมแล้ว...”]

“พี่ครับ...ผมไม่มั่นใจ... พี่จะเอาอะไรมาเป็นหลักประกันล่ะ ว่าถ้าผมไปพบแม่ ท่านจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม... ผมคงทำใจไม่ได้ ถ้าผมได้เห็นแม่ในสภาพแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง ความเข้มแข็งของผมที่พยายามสร้างมาหลายปี อาจพังทลายลงจนไม่เหลือชิ้นดี... ”

[“เรากังวลมากเกินไปหรือเปล่า... มันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้นะ เฮ้อ... พี่ก็ไม่ใช่เรา พี่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว แต่พี่แค่อยากให้ครอบครัวของเรากลับมาปรองดองกันอีกครั้งเท่านั้น... ทั้งๆที่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่พี่ก็ยังจะคาดหวังลมๆแล้งๆอีก...”]

ผมสูดหายใจเข้าปอดอย่างหนาวเหน็บ อยากจะร้องบอกว่า สิ่งที่พี่ทิพย์คาดหวังไว้ ไม่เคยอยู่ในความคิดผมเลยสักนิด...

“...”

[“เอาล่ะ พี่จะไม่เซ้าซี้เราในเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะสุดท้าย...เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น ว่าจะละทิ้งความหลังเพื่อเดินหน้าต่อ หรือจะย่ำอยู่กับที่อยู่แบบนี้... แค่นี้นะ กายไปคิดทบทวนให้ดีๆล่ะ”]

แกร็ก!

ประตูห้องน้ำเปิดพร้อมกับนายนิคที่เดินพันผ้าเช็ดตัวออกมา

“อ้าว! ตื่นแล้วเหรอครับ แล้วทำไมคิ้วขมวดแบบนั้นล่ะ ปวดหัวเหรอ?”

ผมหันไปยิ้มแห้งๆตอบรับ โดยที่มือยังคงกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น ผมจะหาทางออกอย่างไรดี ในเรื่องนี้!?

หนุ่มฝรั่งส่งยาแก้ปวดหัวพร้อมกับน้ำดื่มมาให้ผม ก่อนจะหันไปแต่งตัว ผมมองแผ่นหลังกว้างนั้น... หากซบหน้าลงไป ความหนักอึ้งในใจนี้ จะผ่อนคลายลงได้ไหม...?

         



---------------------จบตอน---------------------


 :L2:ให้ๆ













madamkung

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เริ่มมีประเด็นใหม่  :a2: :a2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แล้วกายจะพานิคไปพบแม่มั้ยน๊า รออ่านต่อจ้า  :a2:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
มีปัญหาเข้ามาอีกล่ะเนี่ย  o2

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: มาต่อให้ค้างอีกแล้ว

ออฟไลน์ cartoons

  • "ละอองกอ"
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
มีแต่เรื่อง  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:m4: :m4: พาลูกเขยเข้าบ้าน :m4: :m4:

patiharn

  • บุคคลทั่วไป
มาแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ...กายขี้อ้อนขึ้นนะเนี่ย

ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
มีเรื่องมาให้กายเครียดอีกแล้ว :เฮ้อ:

หวังว่านิคคงจะช่วยได้นะ

ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
กิ้ววว  ว
หายไป6วัน เสียใจมากนะรู้ไหมคนเขียน :o12:

madamkung

  • บุคคลทั่วไป

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:m13: นานไปป่าวอ่ะ

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
:กอด1:พอนเน่เท่ร้าก

รักษาสุขภาพเน้อ
จ้องคอมมากจนตาแห้ง
จะหาว่าพี่สาวไม่เตือนไม่ได้นา

รักนะ
เด็กโง่

 :o8:
ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววว

dokjarn

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2:

 ตามน้องพอนนี่ มาอ่านที่นี่ก็ได้นะ

นิคกับกาย ตำนานพิสูจน์ความรักที่ยาวนาน

แล้วจะยังไงต่อไปล่ะเนี่ย

รอนะคร้าบบบบ

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Middle

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้ในเด็กดีอยู่เหมือนกันครับ รีบๆอัพนะ

zilveria

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะค้าบบบ   :impress2:

ออฟไลน์ karenoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คุณกายจ๋า....

นิคจ๋า....


ไปอยู่ไหนกัน...เมื่อไรจะกลับมา? :m15:[/b]

madamkung

  • บุคคลทั่วไป

เห็ดน้อย

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2: [ :m20:]


 :3123:


 :L2:


 :m26: l love yu. Jub ๆ  :m3:

satan666

  • บุคคลทั่วไป






ช่วงนี้งานยุ่งเหยิงชีวิตวุ่นวาย :serius2: เพิ่งเริ่มทำงานอ่ะ อะไรๆก็เลยยังไม่ลงตัว

เวลาที่มีก็หมดไปกับการทำงาน :เฮ้อ: กลับถึงบ้านก็เหนื่อยสลบ :jul1:  :z3:

สงสัยคงต้องปรับตัวให้ตัวเองถึกทนกว่านี้ :z2: <<<ชอบตัวนี้จัง

ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ  :sad11:

  :man1: :man1:


-------------------------------------------------------





Chapter : 29 ท่องเที่ยว

   




          คุณหยกกับริชาร์ตชวนเด็กตั้มให้พาออกไปเที่ยวชมตามแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอถลาง เช่น วัดพระนางสร้อย อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลาง  ตามที่เด็กตั้มรับอาสาว่าจะพาพวกเขาไปชมดู ซึ่งผมไม่ได้ร่วมทางด้วย เพราะเห็นว่าคุณกายต้องการพักผ่อน จึงบอกว่าจะอยู่ที่นี่ดูแล้วเขา

   อีกอย่าง ผมก็ไม่ค่อยอยากไปสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่ ผมชอบแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า

   อากาศในวันนี้ร้อนอบอ้าวกว่าเมื่อวาน ทำให้ผมต้องอาบน้ำอีกรอบเพื่อคลายความร้อนในร่างกาย ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าคนที่คิดว่าหลับอยู่ตื่นขึ้นมาเสียแล้ว

   ร่างบนเตียงหน้าขาวซีดหัวคิ้วขมวดกันมุ่น ผมคิดว่าเขาตื่นขึ้นมาคงจะรู้สึกปวดหัว สีหน้าถึงไม่ค่อยดีนัก ผมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แล้วส่งยาและน้ำให้เขาทาน ก่อนจะหันไปแต่งตัวให้ตัวเอง

   หมับ!

   ผมสะดุ้งนิดๆ ชะงักการกระทำ ทั้งๆที่สวมใส่เสื้อยืดค้างไว้ที่คอและแขนอีกข้างหนึ่ง

   “เป็นไรไปครับ”  ผมหันหน้ามามองคนที่กอดผมอยู่จากด้านหลัง มือข้างซ้ายที่ยังไม่ได้สอดใส่แขนเสื้อ ทาบลงเบาๆบนหลังมือของอีกฝ่ายที่บริเวณหน้าท้องผม

   “เปล่า... แค่อยากกอดเฉยๆ” เสียงเบาหวิวตอบกลับมา

   “’งั้นให้ผมใส่เสื้อให้เสร็จก่อนนะ” ผมจับมือเขาดึงออกเบาๆ ก่อนจะสวมใส่เสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วหมุนตัวกลับมามองหน้าคุณกาย

   “เป็นอะไรรึเปล่า? สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยนะ ยังคิดมากเรื่องเพื่อนอยู่อีกเหรอ...”

   คุณกายสั่นศีรษะไปมา เอนตัวเข้ามาซบหน้าที่อกผม ผมโอบกอดเขาไว้ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจในการกระทำของเขา

   “...ฉันแค่ฝันร้าย แค่กลัวเท่านั้น ฉันไม่อยากจะนึกถึงเลย...” คำตอบไขข้อข้องใจของเขาทำเอาผมนิ่งอึ้ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู คนเรา... บทจะอ้อนก็อ้อนซะน่ารักเชียว ไม่เหมือนตอนที่หงุดหงิดโมโหเลยสักนิด ทำเอาผมหลุดหัวเราะเบาๆออกมา เมื่อนึกถึงความหลากหลายในบุคคลคนเดียวกันนี้

   “ทีหลังคุณต้องนึกถึงหน้าผมก่อนนอนนะ แล้วคุณจะฝันดี” ผมบอกจนคุณกายหลุดขำออกมาเบาๆ

   “นั่นยิ่งกว่าฝันร้ายอีก...” เขาพึมพำ

   “โหยยย อะไรเนี่ย... งอนดีมั้ยแบบนี้”

   ผมแกล้งทำหน้าบึ้งใส่ ปล่อยมือที่กอดเขาไว้ออกทันที คุณกายจ้องผมยิ้มๆ ก่อนจะผละเดินเข้าห้องน้ำไป โดยไม่ลืมคำพูดทิ้งท้ายก่อนปิดประตูลง

   “ตามใจ... งอนไปก็ไม่ง้อหรอกนะ”

   



   


        อาหารมื้อเที่ยง เป็นฝีมือผมเอง คราวนี้ล่ะ! จะทำให้คุณกายติดใจจนลืมอาหารฝีมือของไอ้เรโอนั่นไปเลย

   “นิค เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว ออกไปเดินเล่นข้างนอกกันนะ” เขาเอ่ยชวนขณะที่เรากำลังนั่งทานอาหารกันสองคน ผมรู้สึกมีความสุขจริงๆเลยวันนี้ ที่ได้อยู่กับคุณกายตามลำพังสองต่อสอง โดยที่ไม่มีตัวมารมาคอยขัดขวางอีก

   “แต่แดดยังไม่ร่มเลยนะครับ ผมกลัวไข้คุณกลับอีก”

   “ก็อยู่แต่ในบ้านมันอึดอัดนี่ เบื่อด้วย! หรือจะให้ฉันไปทำงานอ่ะ เออใช่! มีงานที่ขนมาทำด้วยนี่นา...”

อะไรเนี่ยคนเรา! ผมมองหน้าเขาอย่างนิ่งอึ้ง นี่ขนาดมาพักผ่อน ยังมีแก่ใจขนงานมาทำอีกเหรอ... ถึงตอนแรกเขาจะบอกกับผมว่ามาทำงาน แต่ก็เห็นเขารับปากกับคุณหยกเอาไว้แล้ว ว่าจะผักผ่อนเหมือนกันกับเธอ

   “พอๆ หยุดเลย เลิกคิดซะ ไอ้เรื่องเอางานมาทำ คุณมาพักผ่อนนะครับไม่ได้มาทำงาน!”

   “งั้นก็ออกไปเดินเล่นกันนะ” คุณกายยิ้มเล็กๆ จนผมหน้าเหวอ  ...และสุดท้ายผมก็จนมุมจนได้

   ฟ้าใสทะเลสวย... ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นจริงๆ วันนี้ฟ้าโปร่งเมฆน้อย แดดจึงแรงกว่าปกติ ผมสวมหมวกปีกถักสานสีขาวที่แอบหยิบมาจากในบ้านลงบนศีรษะของเขา คุณกายเลิกคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ

   “ไปเอาหมวกของใครเขามา?”

   “ไม่รู้เหมือนกัน... ของคุณหยกมั้งครับ ผมเห็นมันวางอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น สงสัยเธอลืมหยิบไป” ผมมองคุณกายอมยิ้มๆ ไม่คิดว่าเขาใส่หมวกแบบนี้ จะน่ารักขนาดนี้ สงสัยหมวกปีกกว้างแบบนี้เป็นรูปแบบที่ผู้หญิงเขานิยมกัน ทำให้เวลาคุณกายสวมใบหน้าเลยดูหวานน่ารักขึ้น เหมือนกับดอกไม้บานเลยล่ะ! ฮะๆ

   “ฮะๆ น่ารักจังแฟนใครเนี่ย?” ผมหลุดขำออกมา

   คุณกายหน้าหงิก ถอดหมวกออกมาปาใส่หน้าผม แต่ผมมือไวคว้าไว้ทัน

   “ไอ้บ้า! นี่มันหมวกผู้หญิงนะ!”

   “เหมาะกับคุณดีออก” ผมบอกยิ้มกลั้วหัวเราะ “อีกอย่าง...หมวกแบบนี้บังแดดดีจะตายไป แดดร้อนๆจะได้ไม่ส่องตรงหัวคุณจนไข้กลับ ไม่รู้ล่ะ... ถ้าไม่ใส่หมวกเดินเล่น ก็กลับเข้าบ้านไปนอนดีกว่า”

   “นี่! กล้าขู่ฉันเหรอ...” เขาเม้มปากมองผมตาดุ แต่ผมไม่กลัวหรอก... หึหึ

        “เปล่า!...ผมบังคับเลยต่างหาก” ผมทำลอยหน้าลอยตาบอกเสียงสูง ก่อนจะสวมหมวกให้เขาใหม่อีกครั้ง แล้วคว้ามือคุณกายที่กระฟัดกระเฟียดใส่ พาเดินออกไป

        “คุณไม่ต้องอายหรอกน่า นี่มันหาดส่วนตัวนะ หรือว่าคุณอายผม?” ผมถามยิ้มๆ จนคุณกายหันมามองผมตาขวาง

       “แกล้งกันอยู่ได้ สนุกนักรึไง”

       “กับคุณเท่านั้นแหละ...” ผมยิ้มกว้าง ส่งตาเชื่อมๆไปให้ จนเขาเสหน้าไปทางอื่น ยังทำปากแบะใส่อีก มันน่าจับมาจูบเสียให้เข็ดจริงๆ!

       แดดวันนี้ค่อนข้างแรง พวกเราเลยเดินเล่นกันอยู่ไม่นาน ผมจึงต้องพาคุณกายกลับ เพราะดูคนป่วยจะหน้าแดงเพราะกระไอร้อนไปหมดแล้ว

        “ทีตอนไม่ป่วย ผมชวนไปเล่นน้ำ บ่นเสียยกใหญ่เลยว่าร้อนอย่างนั้นร้อนอย่างนี้ ทีมาตอนนี้ นึกยังไงอยากออกไปเดินเล่น?” 

       “นายบ่นเรื่องนี้มารอบที่เท่าไรแล้วเนี่ย...” คุณกายงึมงำ ขมวดคิ้วมองหน้าผม

        “ก็เพราะคุณน่ะสิ...” ผมกำลังจะพูดต่อ แต่ชายหนุ่มสวนคำตัดบทผมขึ้นมาเสียก่อน ด้วยน้ำเสียงที่เจือความหงุดหงิด

       “หยุดบ่นได้แล้ว! ก็ฉันเบื่อนี่ เอาแต่นั่งๆนอนๆ คนมันก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ!”

        ผมยืนมองคนเหวใส่ตาปริบๆ ก่อนจะก้มลงเก็บหมวกที่เขาเพิ่งปามันลงไปกับพื้นทรายด้วยอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาปัด

      “ขอโทษคร้าบบ! ที่บ่นน่ะ เพราะห่วงหรอกนะ...” ส่งยิ้มอ้อนๆให้ โบกหมวกในมือพัดไปมาให้คนตรงหน้า

      “แล้วบ่นขึ้นมาให้มันได้อะไร!”

     “โอ๋ๆ อย่าอารมณ์เสียสิครับ เดี๋ยวปวดหัวนา... มาๆ ขี่หลังผม จะได้ถึงบ้านไวๆ”

       ผมย่อตัวลงหัวหลังให้คนหน้าบึ้ง ความจริงเดินอีกหน่อยก็ถึงบ้านแล้ว แต่ผมอยากเอาใจแฟนผม ง้อสักหน่อย เผื่อหน้ายุ่งๆนั่นจะได้คลายลงบ้าง

       น้ำหนักตัวของคุณกายทาบทับลงกับแผ่นหลัง ผมจึงเอามือช้อนต้นขาของเขาเกี่ยวเอาไว้กับตัว แล้วลุกขึ้นเดิน ศีรษะของเขาซบลงบนบ่าของผมนิ่งเงียบ
 
       “ปวดหัวหรือเปล่าครับ?” ผมหันไปถาม

       “เปล่า... แค่เวียนหัวนิดหน่อย...”

      “เห็นไหม ผมเตือนคุณแล้ว แต่คุณมันดื้อ...”

      “นายนิคค!” น้ำเสียงรอดไรฟันนั่น ทำเอาผมต้องปิดปากเงียบลงอีกครั้ง แล้วส่งยิ้มแหยๆให้คนหน้าบึ้งตึง จะให้ทำอย่างไรล่ะ คนมันยิ่งรักยิ่งห่วงนี่... ก็แฟนผมทั้งคนนี่นา

       ตกเย็นพวกคุณหยกก็กลับมากัน หอบของฝากมาพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด ดูท่าจะมีความสุขกันมาก เพราะใบหน้าของคู่รักคู่นี้เจือไปด้วยรอยยิ้มไม่จางหาย

       “เดี๋ยววันนี้หยกโชว์ฝีมือทำอาหารเย็นเองค่ะ พวกเราแวะซื้อของสดมากันแล้ว อาหารทะเลที่นี่สดจริงๆหยกซื้อมาเยอะแยะเลย ไม่รู้จะกินกันหมดไหม คิกๆ” เธอพูดไปหัวเราะตัวเองไป แถมริชาร์ตแฟนหนุ่มยังเหน็บเธออีกว่า เหมือนเกิดมาไม่เคยเห็นของกิน คนโดนว่าเลยหันไปตีแขนชายหนุ่มด้วยแรงที่ไม่เบานัก จนผมหลุดขำออกมา

        “เอ้อ.. แล้วพี่กายล่ะคะ ไปไหน?” เธอมองซ้ายมองขวาไปทั่วบ้าน มองหาคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับผม

       “นอนอยู่บนห้องน่ะครับ วันนี้ไปตากแดดมา”

      “อ้าว! ยังไม่หายดี พาคนป่วยออกไปเจอลมเจอแดดทำไมล่ะคะ”

       “ผมเปล่านะ คนเขาดื้อจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” ผมบอกยิ้มๆ จนคุณหยกที่ขมวดคิ้วทำท่าไม่พอใจเมื้อกี้ ยิ้มขำออกมา เมื่อพอจะเดาเรื่องราวได้

       “นิคก็อย่าตามใจสิ เรื่องไหนกำราบได้ก็กำราบ” นายริชาร์ตชี้แนะ ไม่ต้องห่วงว่าพวกเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะเราใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน เพื่อไม่ให้ริชาร์ตเขากลายเป็นส่วนเกินของวงสนทนาไป

        “รวมทั้งเรื่องบนเตียงด้วยใช่ไหมครับ” ผมยิ้มกริ่ม มองสบตากับหนุ่มอังกฤษอย่างรู้ๆกัน

        “พวกคุณคุยอะไรกันเนี่ย!” หญิงสาวโวยหน้าแดง ก่อนจะเดินหนีพวกผมเข้าไปในครัว โดยมีผมกับเพื่อนใหม่หัวเราะร่วนตามหลัง


...


       จากการประคบประหงมเป็นอย่างดีด้วยฝีมือผมเป็นเวลาสามวัน ตอนนี้คุณกายหายดีแล้ว แต่ยังต้องกินยา และเปลี่ยนผ้าพันแผลอยู่ทุกวัน

        วันทุกวัน ผมมีเขาอยู่ข้างกายแบบนี้ บางครั้งก็นึกว่าเหมือนฝัน แต่ความเป็นจริงที่เขาตอบรับกลับมาให้ผม... ทำให้สิ่งที่เคยนึกฝันเป็นจริงขึ้นมาอย่างเด่นชัด ความสุขที่ผมได้สัมผัสจากเขา เปรียบไม่ได้เลยกับความสุขที่แล้วมาในชีวิต ผมดีใจที่ผมได้มายืนอยู่ตรงนี้ ดีใจที่ได้มีเขาอยู่เคียงข้างแบบนี้

         แล้วต่อไปนี้ ยังจะมีอะไรอีกที่ผมจะต้องการไปมากกว่าเขา เพราะที่สุดของผมแล้ว คือคุณกายเท่านั้น...






-----------------------------------------------------------------






        วันสุดท้ายของการมาพักผ่อนครั้งนี้ ร่างกายผมหายดีแล้วแม้ว่ายังต้องกินยากับทำแผลอยู่ก็ตาม การมาเที่ยวครั้งนี้ดูจะวุ่นวาย และมีอุปสรรคขัดขวางไปบ้าง แต่ผมก็รู้สึกมีความสุข มันต่างออกไปจากการมาเที่ยวครั้งก่อนๆของผม เป็นความอบอุ่นและมิตรภาพ เราทั้งหมดเข้าใจกัน ไม่มีการแบ่งแย่งใดๆ

         ที่สำคัญที่สุด อาจเป็นเพราะการมาเที่ยวครั้งนี้ของผม มันมีความหมายมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมและเขาคนนั้น เข้าใจซึ่งกันและกัน...

       มันอาจจะเรียกว่าความรัก อย่างที่เขาคนนั้นว่าก็ได้ ผมสัมผัสได้ถึงสิ่งพิเศษในจิตใจที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นความแปลกประหลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครนอกจากตัวเขา ถามตัวเองว่า ยังคงกลัวไหม? บอกตามตรงว่ายังคงหวั่นใจอยู่ รูปแบบของความรักครั้งนี้ มาพร้อมกับอุปสรรคอย่างเห็นได้ชัด ปัญหาที่แบกไว้บนบ่าไหล่ดูจะมากว่าเดิม... แต่เมื่อหันไปมองหน้าเขา ผมกลับสลัดลืมปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผมยิ้มให้กับตัวเอง 

        อะไรที่เปลี่ยนผมให้เชื่อมั่นถึงเพียงนี้หรือ...? มันคือแววตาของเขาไง... แววตาที่ไม่ว่าเวลาไหน ภาพสะท้อนข้างในนั้น ยังคงเป็นตัวผมคนนี้...

       “ไหนๆก็วันสุดท้ายแล้ว คุณกายก็แข็งแรงดีแล้ว ผมว่าวันนี้เราไปเที่ยวพร้อมๆกันเป็นการส่งท้ายกันดีกว่า” หนุ่มผมบลอนด์นัยน์ตาสีมรกตเสนอแนะขึ้นขณะที่พวกเรากำลังร่วมรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน

         เช้านี้ป้าใยเป็นคนลงมือเตรียมอาหารเช้าให้พวกเรา ฝีมือของแม่ไอ้ตั้มยังคงเด็ดเหมือนเดิม จนน้องหยกเอ่ยชมไม่ขาดปาก ถึงกับจะสมัครเป็นลูกศิษย์ ขอจดสูตรเด็ดเคล็ดลับกลับไปทำกินเองที่อังกฤษ ทำเอาป้าร่างท้วมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนแก้มแทบปริ

        “ดีเลยค่ะ ขับรถเล่นไปชมหาดสวยๆ ที่ยังไม่ได้ไป และก็เตรียมอาหารไปปิกนิกด้วยเลย” หญิงสาวส่งเสียงสนับสนุนเป็นคนแรก ตามด้วยแฟนหนุ่มที่พยักหน้าเห็นด้วยอยู่ด้านข้าง
 
        “คุณกายว่าไงครับ ดีมั้ย?” นายนิคหันมาถามผมที่นั่งเงียบยิ้มอยู่คนเดียวมานานแล้ว

        มือใหญ่ของเขากุมมือผมเอาไว้ที่ใต้โต๊ะ หันมาทำหน้าสงสัยกับท่าทีของผม

        “เป็นอะไรครับ ยิ้มอยู่คนเดียว” เสียงนุ่มก้มลงถามผมข้างใบหูพร้อมกับลมอุ่นๆที่เป่ารด ทำเอาผมใจเต้นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

         “ปละ...เปล่า แค่ดีใจน่ะ อยากไปเที่ยว” ผมละล่ำละลักบอก หน้าร้อนวาบขึ้นมา ทั้งที่อุณหภูมิในบ้านไม่ได้ร้อนเลย

         “หึๆ” เสียงหัวเราะในลำคออย่างพึงใจดังจากคนด้านข้าง ทำเอาผมต้องลอบเตะขาเขาจากใต้โต๊ะอย่างนึกหมั่นไส้ขึ้นมา



...



        เมื่อตกลงโปรแกรมวันสุดท้ายกันเรียบร้อยแล้ว น้องหยกก็ไปเข้าครัวช่วยป้าใยเตรียมอาหารกลางวัน จะได้เอาไปปิกนิกกันแล้วชมหาดสวยๆไปพลางๆ คุณริชาร์ดกับนายนิคเดี๋ยวนี้ซี้กันเหลือเกิน คุยกันซะออกรสออกชาติ บางทีผมก็แอบได้ยินพวกเขาคุยกันเรื่องผมกับน้องหยก แถมบ่อยซะด้วย ผมล่ะหมั่นไส้จริงๆ ป่านนี้ผมจะเหลืออะไรไว้สู้หน้าคุณริชาร์ดล่ะเนี่ย ยิ่งหลังๆเขาชอบมองผมแบบยิ้มๆบ่อยๆ เล่นเอาขนลุกไปเลย...

         ทุกอย่างเตรียมพร้อม พวกเราก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางกัน และผู้เป็นสารถีก็คงนี้ไม่พ้นคนชำนานทางอย่างเด็กตั้มเช่นเดิม  ครั้งนี้พวกเราเลือกใช้รถแวนในการเดินทาง เพราะนั่งสบายไม่ต้องเบียดเสียดยัดเหยียดกัน แถมท้ายรถยังจุของใช้จำเป็นได้มากด้วย

         สภาพอากาศในวันนี้ ดูเหมือนจะเป็นใจให้กับการเดินทางท่องเที่ยวเหลือเกิน วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง เมฆน้อย แสงแดดแฝดจา บวกกับวิวท้องทะเลสีฟ้าไล่ระดับตามความตื้นลึกของท้องทะเล ทำให้รู้สึกว่า นี่แหละได้อารมณ์ของการเที่ยวทะเล!

        เราขับรถแวะตามหาดชื่อดังต่างๆของหาดภูเก็ต จอดลงไปถ่ายรูปกันไม่ได้หยุด โดยเฉพาะน้องหยก รู้สึกจะตื่นตาตื่นใจมาก เธอถ่ายรูปตลอดตามวิวข้างทางไม่ได้หยุด

         จนในที่สุดเราก็มาหยุดอยู่ที่หาดป่าตอง ในเวลาบ่ายสี่โมงเย็น แดดเริ่มออนจางลงบ้างแล้ว เลยตกลงกันว่าจะกินอาหารเย็นกันที่นี่เลย ส่วนผมเกิดอยากเล่นน้ำขึ้นมากระทันหัน หลังจากมาภูเก็ตครั้งนี้แล้วไม่เคยเอาตัวไปจุ่มน้ำทะเลเลยสักครั้ง แถมยังไปชมหาดสวยๆมาซะหลายที่ แต่ก็ทำได้แต่ตาดูเท่านั้น

        ผมรบเร้านายนิคจะไปเล่นน้ำ แต่เขาดันอิดออดบ่นนั่นบนนี่เสียยกใหญ่ หลังจากที่เราตกลงกันแล้วว่า ผมจะอยู่เล่นน้ำ ส่วนน้องหยกกับคุณริชาร์ดจะไปเดินหาซื้อของฝากกลับบ้าน โดยมีเด็กตั้มเป็นไกด์พาเดิน ให้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการทำกิจกรรมของแต่ละคน แล้วค่อยมาพบกันที่ร้านอาหารริมหาดป่าตองชื่อดังร้านหนึ่ง ตามที่นัดแนะกันไว้

       “แดดยังร้อนอยู่เลยนะครับ”

      “ก็ทากันแดดสิไม่เห็นจะยาก อีกอย่างนี่มันสี่โมงแล้วนะ แดดไม่แรงหรอก” ผมบอกพลางฉุดลากแขนนายนิคไปที่ริมหาด

       “แต่กางเกงว่ายน้ำ...”

      “ฉันใส่มาเรียบร้อยแล้ว อยู่ข้างในเสื้อผ้า”

      “โห... เตรียมพร้อมเลยนะ กะจะเล่นน้ำลูกเดียวเลยใช่ไหมวันนี้”

      “ใช่!”

       “แต่นี่เพิ่งอาทิตย์เดียวเองนะครับ แผลคุณยังไม่หายดีหรอก เดี๋ยวน้ำเข้าแผล...” มันยังไม่หยุดบ่น จนผมชักเริ่มรำคาญ

        “ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ตายหรอก ตกลงจะมาไม่มา... ไม่มาฉันไปเล่นคนเดียวก็ได้!” ผมหมดความอดทน สลัดมือออกจากมือนายนิค แล้วเดินดุ่มๆไปที่ชายหาด

         “เฮ้อ... ครับๆ ตกลงผมจะขัดที่รักไม่ได้เลยใช่ไหมครับ รอก่อนสิครับ!” หมอนั่นเหมือนจะจำยอมเดินตามหลังผมมา ผมแอบยิ้มเล็กๆ แต่ไม่หันไปมองหรอก...

        ผมถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงว่ายน้ำ แล้วเอาเสื้อผ้าให้นายนิคถือ ชายหนุ่มทาครีมกันแดดทั่วตัวผมโดยไม่พูดอะไร แต่หัวคิ้วนี่ขมวดกันมุ่นเชียว...

       “นี่ๆ เล่นน้ำด้วยกันนะ” ผมเอานิ้วจิ้มๆที่คิ้วผูกโบว์นั่น แล้วเอียงคอยิ้มๆ ฮ่าๆ ชอบล่ะซี้... หมอนี่ชอบจังเลย เวลาผมอ้อนๆแบบนี้ เขาชอบบอกว่าน่ารักน่าฟัด แต่ผมไม่เห็นจะเห็นด้วย ผมว่าพอผมทำมันเหมือนคนปัญญาอ่อนหน่อยๆมากกว่า เฮอะๆ

        เขายกมือมากุมมือผมแล้วดึงออก หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นผ่อนคลายลง

        “เล่นแป๊บเดียวนะครับ และก็อย่าไปลึก ผมจะคอยดูคุณอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวของหาย และก็อย่าไปไกลจากสายตาผมนะ และก็...”

       “พอๆ พอก่อน” ผมรีบเบรกไว้ก่อนที่เขาจะสั่งนู่นสั่งนี่ยาวเหยียดจนหมดอารมณ์เล่นน้ำไป “ฉันรู้แล้วน่า ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ!”  บอกเสร็จผมก็รีบลงไปเล่นน้ำก่อนจะ ให้นายนิคได้ทันโต้แย้งอะไรอีก แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงบ่นดังมากระทบหู

        “โตแต่อายุมากกว่ามั้ง” ผมเลยหันไปแลบลิ้นใส่ แล้วขยับปากบอกช้าๆเน้นๆ จนหมอนั่นหัวเราะขำ

   

          ‘ปากกกดี... นาย-แหละ-เด็ก-โข่ง-หื่น-กามมม’




 



                                     :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:









anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 น่ารักจริงๆคู่นี้ :L2:

เป็นไงบางจ๊ะพอนนี่ หายยุ่งหรือยัง

คิดถึงนะ :จุ๊บๆ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2008 20:57:45 โดย ไต๋ »

satan666

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^

เจ็บหัวไหมพี่แอน ระวังหัวแตกนะ  :กอด1:










sodamini

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2:



จิ้มก่อนอ่านทีหลัง


คิดถึงนิค+กายมากมาย



 :z2: :z2: :z2:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
:z3: <---- ไอ้ตัวนี้เหรอ

ไม่เจ็บหัวหลอกเจ็บมือดิ อิอิ

แอบเอาไอ้ตัวนี้มาจองที่ไว้ก่อนไง

กลัวไม่ทันอ่ะ อิอิ :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด