มาแล้วค่ะ ขอโทษที่มาไม่ตามกำหนดการนะคะ
ไรท์เตอร์เปื่อยค่ะ เป็นๆหายๆ อยู่นั่นแหละ ตอนนี้เซ็งมากกกก
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงวายป่วงมากกกก อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดีๆนะคะทุกคน
--------------------
Chapter : 35 เคลียร์หัวใจ นิคกลับมาแล้ว...ตอนแรกผมรู้สึกน้อยใจเขามาก ที่อยู่ๆเขาก็หายเงียบไปไร้การติดต่อ แต่พอผมได้เห็นหน้าเขาในวันนี้เท่านั้นแหละ ความน้อยใจที่เคยมีก็หายไปไม่มีเหลือ มีแต่ความดีใจแทรกแซงขึ้นมาเท่านั้น จนรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ในอกเด่นชัด
แต่ความดีใจของผมกลับแผ่วลงๆเรื่อยๆ เมื่อได้สักเกตเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเขา ผมคิดว่าเขาคงโมโหที่กลับมาแล้วเห็นผมอยู่กับเรโอสองต่อสอง แต่นั่นมันเรโอเพื่อนสนิทผมนะ!! เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมกับเรโอไม่มีทางเป็นมากกว่าเพื่อนไปได้!
ผมมองหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เรโอเดินไปพูดอะไรบางอย่างกับนิค ดวงตาสีเขียวที่เคยมองผมอย่างอบอุ่นเสมอมา บัดนี้เต็มไปด้วยแววขุ่นเคือง
ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่จ้องมองเขา จนกระทั่งได้ยินเสียงเรโอบอกลา ผมถึงได้ตื่นจากภวังค์ครุ่นคิด หลังจากเรโอกลับไปแล้ว เราทั้งคู่ต่างมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น
ผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรกับเขาดี แววตาขุ่นเคืองเหมือนกับจะต่อว่าผมนั้นทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก นิคนิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยจากปากเขาสักคำ ก่อนที่เขาจะเดินผ่านผมไปเงียบๆ เหมือนไม่อยากจะเห็นหน้าผมในตอนนี้
เสียงปิดประตูห้องนอนดังตามมา ขอบตาผมร้อนผ่าว มองประตูห้องนอนด้วยความน้อยใจที่ประดัง
นี่มันอะไรกัน...?
มันต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ต้องโกรธเขามากกว่า? ถึงเขาจะไม่พอใจที่เห็นผมอยู่กับเรโอ แต่มันก็ไม่เห็นต้องโกรธผมถึงขนาดต้องเมินกันแบบนี้นี่... ผมไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ เราแค่กินข้าวสังสรรค์กันตามประสาเพื่อนฝูง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ทุกอย่างสามารถอธิบายได้
แต่เขากลับเดินหนีผม โดยไม่ถามหรือฟังคำอธิบายจากผมเลย...
ผมทรุดนั่งลงบนโซฟา คว้าขวดไวน์ที่ยังเหลืออยู่รินดื่มอีกครั้ง น้อยใจคนในห้องนอนเหลือเกิน ทั้งๆที่เราไม่ได้เจอหน้ากันมานาน ทั้งๆที่ผมเฝ้าคิดถึงเขามาหลายวันโดยไม่มีเขาโทรมาคุยเหมือนทุกวัน เขาทำผมเป็นห่วงกระวนกระวายใจที่เขาไม่ติดต่อมาหา แต่พอกลับมา กลับทำท่าไม่สนใจผมสักนิด...
หรือที่ผ่านมาเขาไม่คิดถึงผมเลย... ไม่มีคำอธิบายหรือคำขอโทษจากปากเขาสักคำ ผมไม่ใช่เหรอที่ควรจะเป็นฝ่ายงอนเขา? ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ยิ่งนึกก็ยิ่งน้อยใจ!
ผมนั่งดื่มคนเดียวจนไวน์หมดขวด ไวน์แดงของเรโอทำให้ผมหน้าร้อนผ่าว เหลือบดูนาฬิกาบนผนังห้อง จะตีสองแล้วหรือนี่...?
หันไปมองทางประตูห้องนอนที่ปิดสนิทนั่น ยังคงไร้วี่แววจากหนุ่มฝรั่ง หรือเขาจะหลับไปแล้ว...
ไม่จริง... เขาไม่เคยหลับก่อนโดยที่ไม่รอผมเมื่อเราอยู่ด้วยกันเลยสักครั้ง...
ขอบตาผมร้อนผะผ่าว น้ำตาคลอหน่วย เขาไม่คิดจะมาง้อผมเลยหรือไง? เขาคิดจะหลับสบายโดยปล่อยให้ผมนั่งบ้าอยู่อย่างนี้เหรอ?!
ผมลุกพรวดขึ้น ก่อนจะเดินโซเซเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปที่หน้าประตูห้องนอน
แค่เขาออกมาง้อผม หรือแค่ออกมาจากห้องให้เห็นหน้ากันผมก็จะเลิกโกรธเขาแล้ว! กลับมาคราวนี้ไม่รู้เขาจะได้อยู่เมืองไทยสักกี่วัน ความจริงเราไม่สมควรมาโกรธใส่กันแบบนี้เลย เวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันควรจะมีความสุขด้วยกันไม่ใช่เหรอ?
ยัง ไงคืนนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ผมทนไม่ไหวหรอกนะที่จะต้องมาเมินกันทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแบบนี้ ไม่งั้นคืนนี้ผมคงข่มตาหลับไม่ลงแน่ๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เอื้อมมือจับลูกบิดประตู ต่อให้ผมต้องเป็นฝ่ายง้อเขาก่อน ผมก็คงยอมแล้วตอนนี้...
ทั้งที่ผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเลยด้วยซ้ำ ผมกับเป็นฝ่ายคิดจะง้อเขาก่อน? ตัวผมที่เคยเอาแต่คิดเรื่องเหตุผล คิดถึงแต่ความถูกต้อง คนๆนั้นหายไปไหนแล้ว?
ผมยิ้มเยาะให้กับตัวเอง เหตุผลมีอยู่หนึ่งเดียวเท่านั้น...
ก็ตั้งแต่ผมรู้ตัวว่ารักเขาเข้าแล้ว…
.
.
รักผู้ชายที่ชื่อ นิโคลัส แม็คเวลล์ คนนั้น..
ผมหลับตาสูดลมให้ใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะเปิดประตู...
แต่วินาทีที่ผมกำลังจะเปิดประตู บานประตูกลับถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยฝีมือคนในห้อง! แรงกระชากทำให้ผมตัวเซจนต้องจับขอบประตูไว้แน่น
ผม เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ดวงตาสีมรกตเบิกโพลงเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าห้อง สายตาเราประสานกันเนิ่นนาน ไม่มีแม้คำพูดใด มีแต่สายตาของเราเท่านั้นที่กำลังสื่อสารระหว่างกันและกัน...
+++++++++++++++++++++++
ผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่บนเตียงนอน ภาพระหว่างเรโอกับคุณกายก่อนหน้านี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองไม่จางหาย มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดใจเหลือเกิน
ผมเชื่อใจคุณกายว่าไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่าเพื่อนก็จริง แต่มันไม่ใช่กับนายเรโอนั่นสักหน่อย! รู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนตัวเองมีใจให้ เขาก็ควรจะรักษาระยะห่างเอาไว้บ้าง ลองเป็นอย่างนี้ แล้วเมื่อไหร่นายเรโอมันจะตัดใจได้สักทีล่ะ??
อีกอย่างนี่ก็ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว จะสังสรรค์คุยกันอะไรเอาป่านนี้ ผมไม่ได้คิดจะปิดกั้นอิสระของคนรักหรอกนะ แต่ทำอะไรก็ควรดูเวลาดูความเหมาะสมกันบ้าง ตัวเองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วแท้ๆ เขาน่าจะคิดถึงใจผมที่เป็นแฟนเขาบ้างสิ!
ถึงคุณกายจะไม่รู้ว่าผมจะกลับมาวันนี้ แต่ก็ไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจ นั่งดื่มของมึนเมากับเพื่อนที่คิดไม่ซื่อแบบนั้น! ถ้าเกิดมันเมาด้วยกันทั้งคู่ แล้วทำอะไรคุณกายของผมเข้าล่ะ? แล้วดูคุณกายตอนเมาสิ… หน้าแดง ตาหวานเยิ้มขนาดนั้น ยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวแบบนั้น…
โอ๊ยยยยยย!! ยิ่งคิดก็ยิ่งอารมณ์เสีย!
แต่แล้ว… ภาพในคืนวันนั้นที่พบกับคุณกายครั้งแรกก็ผุดวาบขึ้นมาในสมองให้หวนนึก เราเองไม่ใช่หรือ…? ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ ลักหลับคนเมาที่ไม่รู้สึกตัวแบบนั้น…
แล้วผมเอาอะไรมาตัดสินว่าคนอื่นก็จะทำแบบผมเหมือนกัน? ผมเอาความคิดชั่วๆอะไรมาหักล้างความเป็นเพื่อนกันมาสิบปีของพวกเขาสองคน?
ถ้าเรโอเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนั้น ป่านนี้คุณกายก็คงไม่เหลือรอดมาถึงมือผมหรอก…
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่ จนความโกรธเคืองลบเลือนไปไม่มีเหลือ กลายเป็นความสมเพชตัวเองขึ้นมาแทน ผมมันงี่เง่าเอง ที่คิดจะดูถูกความเป็นเพื่อนที่ผูกพันกันมานาน
นั่นสิ… ใครจะรู้ดีเท่าพวกเขา เวลาของสองคนนั้นมันยาวนานกว่าผมนี่ ส่วนผมเป็นแค่แฟนเพียงไม่กี่เดือน จะไปเทียบอะไรได้…
คิดได้ดังนั้น ผมจึงลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างหดหู่ หวังว่าหลังอาบน้ำแล้วจะทำให้ใจผมชุ่มชื่นขึ้นมาได้ เพราะอย่างน้อยถึงผมจะเริ่มต้นกับคุณกายแบบไม่ดีนัก แต่ผมก็มีความจริงใจและรักให้กับคุณกายไม่แพ้ไอ้ลูกครึ่งอิตาเลี่ยนนั่นหรอก!
อาบน้ำอยู่นานจนตัวแทบเปื่อย เพราะมัวแต่คิดวกวนถึงคนนอกห้อง ป่านนี้แล้วเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง จะโกรธผมหรือเปล่าที่เดินหนีเขามาไม่พูดไม่จา เขาคงต้องรู้สึกแย่แน่ๆ แถมก่อนหน้านี้ผมยังขาดการติดต่อจากเขาเป็นอาทิตย์อีก ถ้าไม่โกรธผม ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ไม่ได้การ! ผมไม่น่าปล่อยให้คุณกายนั่งอยู่ข้างนอกแบบนั้นเลย
แต่ก่อนหน้านั้นผมโกรธเคือง จนกลัวว่าจะระเบิดใส่เขานี่นา ผมถึงต้องหลบฉากมาสงบสติอารมณ์ตามลำพังแบบนี้… ไม่รู้ว่าตอนนี้คนคิดมากแบบเขาจะเป็นยังไงบ้าง…?
ผมรีบแต่งตัวลวกๆ เหลือบดูนาฬิกาก็ต้องใจหายวาบ ตีสองแล้วหรือนี่!!
ดึกขนาดนี้มันควรจะเป็นเวลาที่เรานอนกอดกันหลับฝันดีไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่ผมมัวทำบ้าอะไรอยู่แบบนี้!!
ไอ้นิคเอ๊ยยย! รู้ทั้งรู้ว่ามีเวลาพักผ่อนหนนี้แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ยังจะทำให้เวลาที่ควรจะใช้อย่างมีความสุขกับคนรักหมดไปเพราะความหึงไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก
เฮ้อ! ยังไงก่อนอื่นก็ต้องง้อคุณกายก่อนล่ะ ผมจะเป็นฝ่ายยอมรับผิดทุกอย่างเอง ต่อให้คนนอกห้องโกรธใส่ผมแค่ไหนผมก็จะยอมหมดสิ้น…
เมื่อคิดได้ผมก็รีบเปิดประตูห้องนอนออกโดยไม่รอช้า....
+++++++++++++++++++++++++++++