บันทึกของนายนพรัตน์ (ช่วงที่4)
6 พฤษภาคม 254x
ในที่สุด ผมก็สอบติดโรงเรียนที่หวังไว้ล่ะ พอดีว่ามันไปทางเดียวกับที่ทำงานของพี่นพด้วย พี่นพดีใจใหญ่เลย บอกว่าคราวนี้ก็ได้ไปรับไปส่งผมแล้ว ผมก็ดีใจนะ เพราะพี่นพจะได้ไม่ต้องเวียนรถไปส่งผม วันนี้มาโรงเรียนวันแรก ผมคิดว่าจะสายแล้ว แต่ปรากฏว่าเข้าไปครูยังไม่ตรวจแถว อ้อ เพิ่งรู้จากเพื่อนอีกคนหนึ่งเหมือนกันว่าที่กรุงเทพฯเขาไม่ค่อยจับแถวสายกันหรอก เพราะรู้ว่ารถติด
ที่นี่เป็นโรงเรียนที่มีแต่ชั้นม.ปลาย เพื่อนที่เข้ามาทั้งหมดเลยเป็นหน้าใหม่หมดเลย แบบว่าต่างคนต่างเพิ่งรู้จักกัน ผมได้เพื่อนใหม่มาหลายคน แต่คนที่ดูจะประทับใจที่สุดคือคนที่นั่งข้ามผมนี่แหละ มันชื่อเอ้ ย้อมหัวทองมาเลย เลยถูกเรียกไปห้องปกครองแต่เช้า พอดีว่าผมสูงเลยต้องไปนั่งแถวหลัง มันมาถึงเหลือที่ว่างอยู่ข้างผมพอดี นั่งแล้วถามผมว่า หัวข้ามีอะไรผิดปกติตรงไหนวะ ผมบอกมี ตรงที่ผิดหูผิดตาครูไง มันตบมือผาง แล้วบอกว่าผมน่าจะเข้ากับมันได้ จากนั้นครูก็ดุพวกผมสองคนว่าให้เงียบๆ กันหน่อย
ตอนเที่ยงผมเลยไปกินข้าวกับเอ้ เพราะไม่มีใครอยากเข้าใกล้มัน สงสัยจะทรงผมมันมั้ง แต่ผมว่าก็แปลกๆ ดีนะ อีกอย่าง เอ้ย้อมผมทอง แต่ก็ยังสอบเข้ามาได้ ผมไม่เห็นว่าเอ้จะไม่ดีตรงไหนเลย
-------------------------------------------------
15 พฤษภาคม 254x
วันนี้ผมได้เจอพี่นัทด้วยล่ะ ไม่ได้เจอกันนานสุดๆ แถมยังได้เจอเพื่อนคนอื่นของพี่นพด้วย ตอนเย็นพี่นพมารับผม แล้วพาไปกินข้าวน่ะ โอ๊ย พวกพี่ๆ รุมทักผมใหญ่เลย หาว่าพี่นพพาคนอื่นมา เปี๊ยกมันจะตัวใหญ่แบบนี้ได้ไง พี่นพเลยท้าว่าให้ไปพิสูจน์ดีเอ็นเอกันเลยแมะ ต่างคนต่างดูตื่นเต้นที่เห็นผมสูงขนาดนี้ พี่นัทเดินมาแล้วเอามือแตะๆ กับหัวผม บอกว่าเอ็งจะสูงกว่านี้อีกมั้ยเนี่ยเปี๊ยก จะสูงกว่าพี่แล้วนะ ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน เหมือนจะยังสูงขึ้นเรื่อยๆ น่ะ
พวกพี่ๆ กินข้าวเสร็จก็ไปร้องคาราโอเกะกันต่อ โอ๊ย ผมน่ะไม่ได้ร้องคาราโอเกะนานแล้ว เลยร้องจนเสียงแห้งเลยล่ะ พวกพี่ๆ บอกว่า เชื่อแล้วว่าเป็นไอ้เปี๊ยก เพราะบ้าร้องเพลงเหมือนพี่มันเด๊ะเลย แถมยังเสียงแมวเหมือนเดิม แต่ตัวเท่าควายขนาดนี้แล้ว
กลับมาอยู่กับพี่นพแล้ว ผมมีความสุขดี ได้เจอพี่ๆ สมัยที่ผมยังตัวกะเปี๊ยกอยู่ แต่ผมยังคิดถึงครูต้าอยู่นะ ผมพกผ้าเช็ดหน้าที่ครูให้ไปโรงเรียนทุกวันเลย
---------------------------------------------------
2 มิถุนายน 254x
เอ้มันชอบเรียนวิชาศิลปะ เลยลากผมไปลงทะเบียนเรียนกับมันด้วย ผมวาดรูปไม่เก่งนะ เลยไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แต่วันนี้แปลกล่ะ มีครูเข้ามาสอนใหม่ ไม่สิ จริงๆ เป็นครูที่สอนมานานแล้ว แต่ลาป่วยไปตอนปิดเทอม เพิ่งกลับมาสอนต่างหาก
ครูชื่อพิสุทธิ์ อายุสักยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดได้แล้วมั้ง ผิวครูออกสีเข้มหน่อยนะ แต่คงไม่สบายนานมาก ขนาดผิวเข้มยังเห็นเลยว่าซีด
เราเข้าไปนั่งเรียนกันที่หน้าห้องพักครู เพราะนักเรียนลงน้อย มีแค่สามสี่คนเอง ห้องพักครูศิลปะอยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกเทียมที่สวนด้านหลังโรงเรียน ครูนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางง่วงๆ บอกให้พวกผมลองวาดอะไรที่เห็นมาให้ดูสักรูปหนึ่ง ผมไม่รู้จะวาดอะไร เพราะวาดไม่เก่ง หันซ้ายหันขวา เห็นครูนั่งหลับไปแล้ว เลยนึกสนุกวาดครูตอนหลับแทน แต่วาดเป็นการ์ตูนน่ะนะ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ครูตื่นมาแล้วเรียกหางาน พวกเราก็เอาไปส่ง พอถึงงานผมครูถามทันทีว่าผมวาดใคร ผมก็บอกว่าผมวาดครูน่ะ ครูมองหน้าผม ถามชื่อ แล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมา วงหน้าผมเอาไว้ แล้วบอกว่าระวังจะอายุไม่ยืน ผมก็อึ้งสิ จากนั้นครูก็ปล่อยเลิก
เอ้ดูจะประทับใจครูพิสุทธิ์มาก บอกว่าครูโคตรอาร์ต แต่ผมสิ งงแตก ผมว่าผมวาดรูปการ์ตูนไม่ได้น่าเกลียดมากนะ ไม่ได้วาดครูน้ำลายยืดด้วย แต่ครูก็ดันโกรธผมอีก สัปดาห์หน้าผมไปถอนวิชานี้ออกดีกว่า
-------------------------------------------------
29 มิถุนายน 254x
ผมเริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้นแล้ว แต่ทุกคนยังกลัวเอ้อยู่ดี ทั้งๆ ที่ผมว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวหรอกนะ มันไปย้อมผมกลับเป็นสีดำแล้ว แต่ผมเห็นว่ามันเจาะลิ้น มันบอกผมว่าอย่าบอกครูนะ ไม่งั้นมันจะเจาะลิ้นผมด้วย ผมเลยบอกว่าไม่เจาะผมก็ไม่บอกหรอก เพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะบอก มันเลยตบไหล่ผม แล้วบอกว่าเลือกนั่งข้างผมคิดไม่ผิดจริงๆ
ที่นี่เรียนหนักกว่าโรงเรียนเก่าผมเยอะเลย ทุกคนขยันอ่านหนังสือกันจนผมเริ่มรู้สึกเครียด มีเอ้นี่แหละที่ดูสบายๆ มันชอบไปนั่งแถวๆ ห้องศิลปะ ผมเลยไปนั่งกับมันด้วย เพราะพอไปแล้วรู้สึกสบายใจดี เอ้คุยไม่เก่งนะ ชอบวาดรูปเงียบๆ วันดีคืนดีมันก็วาดรูปผมใส่กระดาษสมุดแล้วเหน็บใส่หนังสือเรียนผมด้วยล่ะ
ครูพิสุทธิ์อยู่ที่ห้องพักครูเกือบตลอด บางทีก็ออกมานั่งวาดรูป พอเห็นหน้าผมแกก็ทำมือเป็นวง แล้วก็ยิ้มที่มุมปากนิดๆ ไม่รู้ว่าแกผูกใจเจ็บกับผมหรืออยากแกล้งผมกันแน่ แต่ผมยังไม่ถอนวิชาแกหรอกนะ เพราะไม่มีวิชาอื่นให้ลงแล้ว ผมคงต้องเรียนวิชาศิลปะกับแกต่อไปจนหมดเทอมนี่แหละ
----------------------------------------------------------
8 กรกฎาคม 254x
วันนี้ผมไปที่ห้องสหกรณ์โรงเรียน นึกถึงครูต้าทุกทีเลยเวลาไปซื้อของที่นี่น่ะ แต่ครูที่ห้องสหกรณ์เป็นผู้หญิง แถมอายุเยอะมากแล้ว ห้าสิบแล้วมั้ง ใส่แว่นหนาเตอะ แกหูไม่ค่อยดี เวลาจะซื้ออะไรถ้าแกอยู่ต้องตะโกน แต่แกใจดีนะ แนะนำว่าผมจะซื้อของไปทำอะไร ใช้แบบไหนดี
ขากลับผมเห็นครูพิสุทธิ์ยืนเกาะผนังอยู่ตรงหน้าห้องน้ำอาจารย์ เลยเข้าไปถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ครูสั่นหัว แล้วบอกว่าแค่หน้ามืดนิดหน่อย ผมเลยอาสาว่าจะพาครูไปที่ห้องพยาบาล ครูบอกว่าไม่ต้อง แต่ก็ยังยืนอยู่แบบนั้นแหละ ผมเลยยืนเป็นเพื่อนครู กลัวครูจะเป็นลมล้มลงไป ครูผอมมากเลยน่ะ ตัวก็ซีด ขนาดว่าครูผิวเข้มหน่อยแล้วนะ สักพัก ครูเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วบอกให้ผมช่วยพยุงครูไปที่ห้อง
ห้องครูมีรูปวาดเยอะเลย ส่วนใหญ่เป็นรูปวิวน้ำตกใกล้ๆ กับห้องพักนั่นแหละ ครูสเก็ตช์รูปสวยมาก ใช้แค่ดินสอไม้ธรรมดาแท้ๆ แต่วาดออกมาสวยสุดๆ ไปเลย ครูนั่งลงตรงเก้าอี้ พอเห็นผมยืนมองรูป ก็เลยบอกว่าหยิบไปใบหนึ่ง ครูให้ ผมไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรเลยบอกว่าไม่เป็นไร ครูก็บอกว่าหยิบไปสิ ครูให้แล้ว เลือกไปใบหนึ่ง ครูพูดจริงจังมาก จนผมจำต้องเลือกหยิบมารูปหนึ่ง เป็นรูปผีเสื้อที่เกาะอยู่บนดอกดาวเรืองนะ ครูมองผมแล้วกำชับซ้ำว่าห้ามเอาไปทิ้งนะ เก็บให้ดี ถ้ารู้ว่าเก็บไม่ดีครูจะแช่งให้สอบตก ผมล่ะอยากร้องไห้กับครูพิสุทธิ์จริงๆ เลย วันหลังจะไม่เดินมาแถวนี้อีกแล้วล่ะ
------------------------------------------------------
16 กรกฎาคม 254x
ผมเข้าชมรมบาสฯของโรงเรียนแล้วล่ะ ผ่านรอบคัดตัวสบายๆ พอพี่นัทรู้ว่าผมเล่นบาสฯ เลยนัดผมว่าวันเสาร์ให้ไปเล่นด้วยกัน ผมเลยแซวว่าพี่นัทไม่เล่นบอลแล้วเหรอ พี่นัทบอกว่า เหนื่อย สนามบอลกว้าง อายุจะเลขสามแล้วต้องลดดีกรีความห่ามลงหน่อย
พักนี้พอเลิกเรียน พี่นพมารับผมไปกินข้าวกับพี่ๆ พวกนี้ล่ะ วันดีคืนดีก็ไปร้องคาราโอเกะกันด้วย สนุกดี ผมชอบนะ พวกพี่ๆ ตลกกันเหมือนเดิมเลย
------------------------------------------------------
7 สิงหาคม 254x
วันนี้พวกพี่นพไม่ไปคาราโอเกะกันล่ะ กินข้าวเสร็จแล้วไปเที่ยวผับกันแทน พี่นพก็ดี อุตส่าห์เตรียมเสื้อผ้ามาให้ผมเปลี่ยน ลอกคราบจากเด็กม.4 เป็นนักเที่ยวราตรีกับเขาได้เหมือนกัน พวกพี่นัทแซวกันใหญ่ว่าอาจจะมีใครได้เปิดซิงผม เพราะท่าทางผมคงจะเพิ่งเคยเที่ยวผับครั้งแรก ผมพยักหน้าเลยนะ เรื่องที่ยังไม่เคยเข้าผับน่ะ แล้วถามว่าเขาไม่ตรวจบัตรผมเหรอ พี่คนหนึ่งบอกว่าไม่เป็นไร ตำรวจมาเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง อื้อหือ พวกพี่ๆ ว่าแบบนี้ผมก็กลั้นใจลองของตามพี่เขาล่ะ แต่ก่อนจะไปถึงผับ พี่นพก็อธิบายในรถยืดยาวว่ามันดีและไม่ดียังไง ลงจากรถแล้วยังพูดไม่หมดเลย จนพี่นัทแซวว่าตกลงจะให้ผมเข้าไปรึเปล่า แต่สุดท้ายผมก็ได้เข้าไปล่ะนะ
ผับที่พวกพี่นพมาเป็นผับค่อนข้างจะวัยรุ่นหน่อย มีทั้งผู้หญิงผู้ชายแต่งตัวแปลกๆ เดินบ้าง เต้นบ้าง อยู่ทั่วผับ ผมเข้ามาแล้วไม่ชอบเลย มันมืดๆ แคบด้วย แถมไฟก็กะพริบแว้บๆ ปวดตาจะตาย เหม็นบุหรี่อีกต่างหาก แต่เห็นพี่เขาดูคึกคักกันผมเลยต้องพยายามคึกตามเขาไปด้วย
พี่นพพาผมไปนั่งตรงบาร์ พอเปิดเมนูเห็นราคาค่าน้ำ ผมหันไปมองพี่นพทันที เกือบจะถามไปแล้วว่านี่น้ำหรืออะไรกันเนี่ย ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ แต่นึกขึ้นได้ว่าพี่นพบอกไว้แล้วว่าของในนี้แพง แต่อยากให้ผมเข้ามาศึกษาเอาไว้ ผมมองหาน้ำที่ถูกที่สุดในเมนู สุดท้ายพี่นพเลยสั่งน้ำมะนาวให้ผม เพราะน้ำแต่ละอย่าง ผมเห็นแล้วนึกไม่ออกว่าจะดื่มเข้าไปได้ยังไง
ผมกับพี่นพนั่งดื่มน้ำอยู่ตรงบาร์ ขณะที่คนอื่นๆ ก็สนุกกันไปตามเรื่อง สักพักพี่นัทก็เดินเข้ามาแล้วลากพี่นพออกไป บอกว่าเลิกทำตัวเป็นพ่อลูกอ่อนได้แล้ว พี่นพบอกผมว่าถ้าใครชวนออกไปไหน ไม่ต้องไปนะ นั่งอยู่แถวนี้แหละ ผมก็พยักหน้า เพราะไม่อยากไปไหนกับใครอยู่แล้ว จากนั้นพี่นพก็โดนพี่นัทลากออกไป
ผมนั่งอยู่สักพักก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาทัก ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้เลยล่ะ ใส่น้อยกว่านี้อีกนิดจะเหมือนพวกนางแบบหนังสือโป๊อยู่แล้ว ถ้าพี่นพคิดจะมาหาพี่สะใภ้ในนี้นะ ผมขอค้านหัวชนฝา ผมอยากได้พี่สะใภ้สวยแบบธรรมชาติ ดูผู้ดี มารยาทงาม ไม่ต้องแต่งหน้าหนาขนาดนี้หรอก
ผมคุยกับผู้หญิงคนนั้นตามมารยาท สงสัยจะเห็นว่าผมไม่ค่อยคุยเท่าไหร่มั้ง สักพักเธอก็เดินออกไป ผมนั่งหน้ามู่ทู่อยู่กับแก้วน้ำมะนาว จนพี่ที่ผสมเครื่องดื่มอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ถามว่าผมไม่สบายเหรอ ผมเลยบอกว่าเปล่า ผมแค่เหม็นบุหรี่
พี่ที่ชงเครื่องดื่มคนนี้ก็ใจดี ชวนผมคุยเล่น ว่าไม่ชอบบุหรี่แล้วทำไมมาที่แบบนี้ล่ะ ผมเลยบอกพี่เขาว่าพี่ชายพามา อยากให้เรียนรู้เอาไว้ เขาเลยถามว่าผมอายุเท่าไหร่ ผมบอกว่าผมไม่ตอบแล้วกัน เดี๋ยวตำรวจจับ เขาหัวเราะใหญ่ แล้วบอกว่าผมน่ารักดี คนเป็นพี่คงดีใจ ผมก็พยักหน้านะ บอกว่าผมอยากให้พี่ดีใจที่มีผมเป็นน้องชายเหมือนกัน จากนั้นก็ถามว่าผมเรียนที่ไหน ผมก็ตอบเขาไปตามตรงนั้นแหละ เขาก็ทำตาโตแล้วบอกว่าพี่ชายต้องภูมิใจมากแน่ๆ เลย ที่นั่นสอบเข้ายากมากเลยนะ ผมก็พยักหน้าตามเขาแหละ แต่ก็นึกในใจว่าไม่เห็นยากตรงไหน ยากตอนที่ต้องปรับตัวใหม่เท่านั้นแหละ จากนั้นเขาก็ถามชื่อ พอผมบอกว่าเปี๊ยก เขาก็ขำ บอกว่าตัวใหญ่ขนาดนี้ยังจะชื่อเปี๊ยกอีก ผมเลยบอกว่าตอนเด็กๆ ผมตัวเล็กนะ เพิ่งมาโตไม่กี่ปีนี่เอง เขาเลยถามต่อว่าแล้วเพื่อนไม่หัวเราะเหรอ ตัวใหญ่แต่ชื่อเปี๊ยกนะ ผมว่าเพื่อนก็ขำนะ เลยเรียกชื่อหน้ากันหมดเลย มันเลยไปเหมือนกับชื่อพี่ชายผม แต่ไม่รู้จะบอกเพื่อนให้เลิกเรียกยังไงเหมือนกัน ก็เลยปล่อยเลยตามเลย มีแต่เอ้นี่แหละยังเรียกผมว่าเปี๊ยกอยู่ มันบอกว่าชื่อน่าประทับใจดี
หลังจากนั้นผมก็ถามเขาถึงพวกขวดเครื่องดื่มที่วางอยู่เต็มไปหมด แล้วถามว่าทำไมพี่เขาถึงมาทำอาชีพแบบนี้ เขาว่าเขาชอบน่ะ ชอบงานบริการ ชอบเจอคนเยอะๆ มาทำงานแบบนี้ได้เจอคนแปลกๆ มีดีบ้างไม่ดีบ้าง เป็นสีสันของชีวิตดี วันนี้ได้เจอผมก็ถือว่าเป็นคนแปลกนะ แต่ก็น่ารักล่ะ ไม่คิดว่าจะมีเด็กอย่างผมมาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย เขาบอกว่าพี่ชายผมดีนะ พาผมมาแบบนี้ ผมก็ว่างั้นแหละ พี่นพดีที่สุดอยู่แล้วล่ะ
ผมคุยอยู่กับพี่ที่เคาน์เตอร์บาร์จนจะห้าทุ่มได้ พวกพี่นพถึงกลับกัน เห็นว่าปกติกลับกันดึกกว่านี้นะ แต่เห็นผมมาด้วย เลยกลับหัวค่ำหน่อย ผมบอกพี่นพเลยว่าคราวหลังผมไม่มาแล้ว พี่ๆ จะได้ไม่ต้องพะวง แล้วบอกอีกว่า ถ้าพี่นพหาแฟนในนี้นะ ผมไม่รับเข้าบ้านแน่ พี่นพหัวเราะ แล้วตบไหล่ผม บอกว่าแค่อยากให้ออกมาเปิดประสบการณ์ใหม่เท่านั้นเอง ผมทำตัวเป็นคนแก่ขี้บ่นไปได้
------------------------------------------------------------
20 สิงหาคม 254x
ใกล้สอบปลายภาคแล้วล่ะ แปลว่าเหลืออีกหนึ่งเทอมผมก็จะได้ขึ้นม.5แล้ว วันนี้ผมกับเอ้เดินผ่านห้องพยาบาล เห็นมีที่วัดส่วนสูงกับเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่ เลยไปชั่งน้ำหนักกับวัดส่วนสูงกัน ผมสูงร้อยเจ็ดสิบห้าแล้วล่ะ ส่วนเอ้สูงกว่าผมหน่อย ร้อยเจ็ดสิบแปด แต่ผมหนักกว่านะ สงสัยจะเพราะเล่นกีฬาล่ะมั้ง ถึงเอ้จะดูเฮ้วๆ แต่มันค่อนข้างจะผอมนะ วันนี้มันใส่กางเกงหลุดตูดจนโดนครูปกครองทักอีกแล้วล่ะ ครูบางคนเรียกผมไปคุย บอกว่าอย่าไปสนิทกับมันนัก เดี๋ยวจะเสียการเรียน แต่ผมนั่งกับเอ้มาจะเทอมแล้ว ยังไม่เห็นว่าเรียนไม่รู้เรื่องตรงไหนเลย เอ้ไม่ชวนคุยนะ แค่ฮัมเพลงกับวาดรูปตอนเรียนเท่านั้นเอง
ตกบ่ายผมต้องเข้าคาบครูพิสุทธิ์ วันนี้ครูบอกว่าจะมีสอบปลายภาค เพิ่งรู้ว่าวิชาศิลปะมีสอบปลายภาคกับเขาเหมือนกัน คะแนนวิชานี้ผมน่าจะห่วยบรม เพราะผมวาดรูปไม่เอาอ่าวเลย วาดได้แต่การ์ตูนง่ายๆ พอดูออกว่าเป็นคนหรือต้นไม้เท่านั้นแหละ แต่ครูพิสุทธิ์บอกว่าวิชานี้ครูจะตัดเกรดแค่ 1กับ4 ไม่ให้เอฟ เพราะศิลปะไม่มีใครผิดใครถูก มีแต่ถูกใจหรือไม่ถูกใจเท่านั้นแหละ ผมว่าผมได้เกรดหนึ่งแน่นอน แต่ไม่เคยเห็นครูวงคะแนนเอาไว้ในรูปวาดเลย พอเวลาส่งงานครูจะให้กองรวมไว้ วันก่อนผมเห็นว่าครูเก็บงานของนักเรียนแต่ละคนใส่แฟ้มเอาไว้ด้วยล่ะ
ครูพิสุทธิ์ให้โจทย์งานปลายภาคว่าให้ไปวาดสิ่งของที่อยากวาดมาหนึ่งอย่าง แต่ไม่เอาวาดเหมือนนะ ครูย้ำเลยนะว่าถ้าใครวาดเหมือนมาให้ตก ให้ใส่จินตนาการของตัวเองเข้าไปด้วย ให้รู้ว่าทำไมถึงอยากวาดสิ่งของพวกนี้ โดยไม่ต้องเขียนมาเป็นตัวหนังสือ บอกว่าเดี๋ยวหมดคาบแกจะเรียกส่ง คาบเรียนของครูจริงๆ น่ะ ชั่วโมงเดียว แต่วันนี้พวกเด็กม.4 จะว่างตั้งแต่บ่ายไปจนเลิกเรียน คือมีเรียนแค่คาบบ่ายคาบเดียวนั่นแหละ สงสัยเพราะแกชอบเรียกตรวจงานวันเดียวกับที่สั่ง เด็กเลยไม่ค่อยลงวิชาแกล่ะมั้ง เพราะกลัวไม่ได้กลับบ้านเร็ว แต่ผมไม่รีบกลับบ้านอยู่แล้ว เพราะต้องรอพี่นพมารับ เรียนวิชาแกผมก็ไม่เสียหายอะไร นอกจากจะเสียเกรดนี่แหละ
ผมนึกอยู่ตั้งนาน แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะวาดอะไร เลยหันไปถามเอ้ วิชาครูพิสุทธิ์ดีตรงถามกันได้ คุยกันได้ ครูบอกว่าถ้ากล้าลอกกันครูก็ไม่ว่านะ แต่ถ้าลอกไม่ถูกใจครูจะหักคะแนน ผมก็ไม่เคยถามหรือลอกใครเวลาสอบวิชาอื่นหรอกนะ แต่วิชาแกผมไม่ไหวจริงๆ เลยต้องถาม
เอ้ร่างภาพแล้วล่ะ เป็นรูปอะไรซักอย่างที่ยังดูไม่ออก พอผมถามมันก็บอกว่า มันจะวาดรูปแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ที่มีมือมันกับพ่อจับอยู่ เพราะพ่อเป็นคนสอนมันขี่มอเตอร์ไซค์ โห.. ไอเดียมันล้ำลึกมาก ผมกลับมานั่งมองกระดาษเปล่าของตัวเองต่อ ผมจะวาดอะไรดีล่ะ อะไรที่ผมอยากวาดนะ อะไรที่ผมวาดได้นะ
นั่งไปสักพัก อากาศก็ร้อนน่าดู ผมเลยวางกระดาษเปล่าเอาไว้แล้วไปล้างหน้า พอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดผมก็นึกออกเลยว่าจะวาดอะไร ผมจะวาดผ้าเช็ดหน้าที่ครูต้าให้นี่แหละ ง่ายและวาดได้แน่นอน
ผมกลับมานั่งมองกระดาษอีกสักพัก เพราะวาดผ้าเช็ดหน้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ นึกอยู่ตั้งนานว่าจะวาดอะไรให้รู้ว่าทำไมผมถึงอยากวาดผ้าเช็ดหน้า วาดมือจับเอาไว้ตลกแน่นอน เพราะฝีมือเขียนรูปผมห่วยสุดๆ ไม่เก่งเหมือนเอ้ สุดท้ายผมเลยวาดผ้าเช็ดหน้าที่มีรูปการ์ตูนลายแมวเหมียวอยู่ แล้ววาดรูปตัวเองเป็นการ์ตูนจับปลายไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านวาดรูปครูต้ากำลังถักผ้าเช็ดหน้าให้ผมอยู่ ผมวาดไปนึกถึงครูไป ไม่รู้ป่านนี้ครูจะเป็นยังไงบ้างนะ ไปสอนที่ใหม่เด็กจะดื้อรึเปล่า จะคุมห้องสหกรณ์เหมือนเดิมมั้ย แล้วครูจะคิดถึงผมบ้างรึเปล่าหนอ
สงสัยผมจะคิดมากจนออกทางสีหน้า สักพักเอ้ก็ทักว่าผมวาดอะไร ทำไมวาดไปยิ้มไปแบบนั้น ผมเลยให้มันดู มันก็เลยถามว่าอีกฝั่งใครน่ะ ผมบอกว่าครูที่โรงเรียนเก่า มันเหล่มองผมแล้วถามว่า ผมริจีบครูตั้งแต่อยู่ม.ต้นเลยเหรอ แถมครูผู้ชายด้วยนะ เป็นเกย์หรือไง ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ครูเขาน่ารักน่ะ มันเลยบอกว่าว่างๆ เล่าให้มันฟังบ้าง มันอยากรู้ว่าทำไมผมถึงชอบผู้ชาย เออ ผมก็เขินเหมือนกันนะ ถามแค่นี้ผมก็ร้อนหน้าหมดแล้ว ยังจะมาบอกให้เล่าให้ฟังอีก ผมไม่เล่าหรอก
ครูพิสุทธิ์เรียกเก็บงานก่อนเลิกเรียนนิดหน่อย ครูหยิบงานขึ้นมาดูแล้วถามแรงบันดาลใจเหมือนที่เคยทำทุกที ผมว่าแต่ละคนไอเดียเจ๋งๆ ทั้งนั้นเลยล่ะ พอถึงคิวผม ครูหรี่ตา แล้วถามว่าวาดแฟนหรือไง คนอื่นหันมามองหน้าผมเลยนะ ผมก็เขินสิ จู่ๆ ครูมาทักต่อหน้าเพื่อนแบบนี้ แต่ผมก็พยักหน้าล่ะ บอกว่าแฟนเก่า เลิกกันไปแล้ว ครูยิ้มๆ แล้วปล่อยเลิก เอ้แซวผมใหญ่ บอกว่าวาดเก่ง ครูดูแว้บเดียวก็ออกเลย ผมเลยบอกมันว่าผมแค่วาดการ์ตูนง่ายๆ เอง มันบอกว่าการ์ตูนหรืออะไรเอาให้ดูออกเข้าใจก็ได้เหมือนกันนั่นแหละ แล้วบอกว่าผมน่าจะไปเอาดีทางวาดการ์ตูน แต่ผมไม่ได้ชอบวาดนี่นา เอ้บอกว่าครูพิสุทธิ์เจ๋งจริง ศิลปะต้องแบบนี้แหละ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำ
--------------------------------------------------
10 กันยายน 254x
วันนี้มารับผลสอบ พี่นพมาด้วย คะแนนปลายภาคผมดีทีเดียวล่ะ มีแต่เลขสี่เรียงกันเป็นตับ มีสามแถมมานิดหน่อย พี่นพงี้ยิ้มแก้มปริเลย บอกว่านี่ขนาดผมไม่เรียนพิเศษนะ ถ้าเรียนจะขนาดไหน แต่ผมรีบบอกพี่นพว่าผมไม่เรียนเด็ดขาด เพราะเปลืองเงินพี่นพ แล้วผมก็ชอบจะไปเที่ยวกับพวกพี่นพมากกว่าด้วย
ที่น่าแปลกคือ วิชาของครูพิสุทธิ์ผมได้สี่ด้วยล่ะ ผมงี้อึ้งเลยนะ หันไปถามเอ้ เอ้บอกว่ามันก็ได้สี่ แล้วบอกต่อว่าครูพิสุทธิ์ไม่ได้คิดคะแนนตรงวาดรูปเหมือนไม่เหมือน แต่คิดคะแนนที่ไอเดียการวาดต่างหาก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมไม่คิดว่าไอเดียผมจะถูกใจครูจนให้สี่ได้นะเนี่ย แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ครูไม่ให้หนึ่งผม ไม่งั้นพี่นพหน้ายู่แน่ๆ
------------------------------------------------------