[เรื่องเบาๆ]Stair.ขยับรัก ข้ามขั้น : จบ P22 6/07/2554(รุ่นพ่อ?vsรุ่นลูก?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเบาๆ]Stair.ขยับรัก ข้ามขั้น : จบ P22 6/07/2554(รุ่นพ่อ?vsรุ่นลูก?)  (อ่าน 411871 ครั้ง)

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ่า รู้สึกน้องนพจะมีเซ็กเร็วจัง ม.2 เอง รึว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วหว่า  :really2:
ยิ่งน้องวีเพื่อนรูมเมท มีตั้งกะตอน ม.1 โอ้ว แม่เจ้า รึข้าพเจ้าเป็นสาวหัวโบราณไปแล้วกันนี่ ฮ่าๆ
แต่ถึงยังไงก็ชอบเรื่องนี้มากอยู่ดี อิอิ ชอบนายเอกแก่กว่าพระเอกอ่ะ   :-[

ขอบคุณค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ ทิวลิปสีส้ม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
อยากบอกว่ารออ่านตอนที่คุณไพฑูรย์จะโผล่มาอย่างใจจดจ่อ
และขอยกมือสนับสนุนตอนพิเศษช่วงที่สองคนนี่อยู่ด้วยกันแล้วด้วยอีกคนค่า (^_^)/

RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าจายยแทนนพ  :o12: แต่เข้าใจครูต้าน่ะ
อนาคตก็สำคัญ คิดว่าครูคงคิดเยอะถึงได้ตัดสินใจย้ายไป

ต่อไปเป็นใคร?? ใช่คนที่ชอบไปสะพานป่าวเน้อ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ่านช่วงนี้แล้วซึมเลย วูบๆโหวงๆ บรรยากาศของการลาจากที่ดีแต่คนอ่านอยากร้องไห้แทน :monkeysad:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกให้นพคนน่ารัก
แต่คิดถึงลุงไพนะ ^^

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
บันทึกของนายนพรัตน์ (ช่วงที่4)
6 พฤษภาคม 254x
ในที่สุด ผมก็สอบติดโรงเรียนที่หวังไว้ล่ะ พอดีว่ามันไปทางเดียวกับที่ทำงานของพี่นพด้วย พี่นพดีใจใหญ่เลย บอกว่าคราวนี้ก็ได้ไปรับไปส่งผมแล้ว ผมก็ดีใจนะ เพราะพี่นพจะได้ไม่ต้องเวียนรถไปส่งผม วันนี้มาโรงเรียนวันแรก ผมคิดว่าจะสายแล้ว แต่ปรากฏว่าเข้าไปครูยังไม่ตรวจแถว อ้อ เพิ่งรู้จากเพื่อนอีกคนหนึ่งเหมือนกันว่าที่กรุงเทพฯเขาไม่ค่อยจับแถวสายกันหรอก เพราะรู้ว่ารถติด
ที่นี่เป็นโรงเรียนที่มีแต่ชั้นม.ปลาย เพื่อนที่เข้ามาทั้งหมดเลยเป็นหน้าใหม่หมดเลย แบบว่าต่างคนต่างเพิ่งรู้จักกัน ผมได้เพื่อนใหม่มาหลายคน แต่คนที่ดูจะประทับใจที่สุดคือคนที่นั่งข้ามผมนี่แหละ มันชื่อเอ้ ย้อมหัวทองมาเลย เลยถูกเรียกไปห้องปกครองแต่เช้า พอดีว่าผมสูงเลยต้องไปนั่งแถวหลัง มันมาถึงเหลือที่ว่างอยู่ข้างผมพอดี นั่งแล้วถามผมว่า หัวข้ามีอะไรผิดปกติตรงไหนวะ ผมบอกมี ตรงที่ผิดหูผิดตาครูไง มันตบมือผาง แล้วบอกว่าผมน่าจะเข้ากับมันได้ จากนั้นครูก็ดุพวกผมสองคนว่าให้เงียบๆ กันหน่อย
ตอนเที่ยงผมเลยไปกินข้าวกับเอ้ เพราะไม่มีใครอยากเข้าใกล้มัน สงสัยจะทรงผมมันมั้ง แต่ผมว่าก็แปลกๆ ดีนะ อีกอย่าง เอ้ย้อมผมทอง แต่ก็ยังสอบเข้ามาได้ ผมไม่เห็นว่าเอ้จะไม่ดีตรงไหนเลย
-------------------------------------------------
   15 พฤษภาคม 254x
   วันนี้ผมได้เจอพี่นัทด้วยล่ะ ไม่ได้เจอกันนานสุดๆ แถมยังได้เจอเพื่อนคนอื่นของพี่นพด้วย ตอนเย็นพี่นพมารับผม แล้วพาไปกินข้าวน่ะ โอ๊ย พวกพี่ๆ รุมทักผมใหญ่เลย หาว่าพี่นพพาคนอื่นมา เปี๊ยกมันจะตัวใหญ่แบบนี้ได้ไง พี่นพเลยท้าว่าให้ไปพิสูจน์ดีเอ็นเอกันเลยแมะ ต่างคนต่างดูตื่นเต้นที่เห็นผมสูงขนาดนี้ พี่นัทเดินมาแล้วเอามือแตะๆ กับหัวผม บอกว่าเอ็งจะสูงกว่านี้อีกมั้ยเนี่ยเปี๊ยก จะสูงกว่าพี่แล้วนะ ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน เหมือนจะยังสูงขึ้นเรื่อยๆ น่ะ
   พวกพี่ๆ กินข้าวเสร็จก็ไปร้องคาราโอเกะกันต่อ โอ๊ย ผมน่ะไม่ได้ร้องคาราโอเกะนานแล้ว เลยร้องจนเสียงแห้งเลยล่ะ พวกพี่ๆ บอกว่า เชื่อแล้วว่าเป็นไอ้เปี๊ยก เพราะบ้าร้องเพลงเหมือนพี่มันเด๊ะเลย แถมยังเสียงแมวเหมือนเดิม แต่ตัวเท่าควายขนาดนี้แล้ว
   กลับมาอยู่กับพี่นพแล้ว ผมมีความสุขดี ได้เจอพี่ๆ สมัยที่ผมยังตัวกะเปี๊ยกอยู่ แต่ผมยังคิดถึงครูต้าอยู่นะ ผมพกผ้าเช็ดหน้าที่ครูให้ไปโรงเรียนทุกวันเลย
---------------------------------------------------
   2 มิถุนายน 254x
   เอ้มันชอบเรียนวิชาศิลปะ เลยลากผมไปลงทะเบียนเรียนกับมันด้วย ผมวาดรูปไม่เก่งนะ เลยไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ แต่วันนี้แปลกล่ะ มีครูเข้ามาสอนใหม่ ไม่สิ จริงๆ เป็นครูที่สอนมานานแล้ว แต่ลาป่วยไปตอนปิดเทอม เพิ่งกลับมาสอนต่างหาก
   ครูชื่อพิสุทธิ์ อายุสักยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดได้แล้วมั้ง ผิวครูออกสีเข้มหน่อยนะ แต่คงไม่สบายนานมาก ขนาดผิวเข้มยังเห็นเลยว่าซีด
   เราเข้าไปนั่งเรียนกันที่หน้าห้องพักครู เพราะนักเรียนลงน้อย มีแค่สามสี่คนเอง ห้องพักครูศิลปะอยู่ใกล้ๆ กับน้ำตกเทียมที่สวนด้านหลังโรงเรียน ครูนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทางง่วงๆ บอกให้พวกผมลองวาดอะไรที่เห็นมาให้ดูสักรูปหนึ่ง ผมไม่รู้จะวาดอะไร เพราะวาดไม่เก่ง หันซ้ายหันขวา เห็นครูนั่งหลับไปแล้ว เลยนึกสนุกวาดครูตอนหลับแทน แต่วาดเป็นการ์ตูนน่ะนะ
   ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ครูตื่นมาแล้วเรียกหางาน พวกเราก็เอาไปส่ง พอถึงงานผมครูถามทันทีว่าผมวาดใคร ผมก็บอกว่าผมวาดครูน่ะ ครูมองหน้าผม ถามชื่อ แล้วยกนิ้วชี้ขึ้นมา วงหน้าผมเอาไว้ แล้วบอกว่าระวังจะอายุไม่ยืน ผมก็อึ้งสิ จากนั้นครูก็ปล่อยเลิก
   เอ้ดูจะประทับใจครูพิสุทธิ์มาก บอกว่าครูโคตรอาร์ต แต่ผมสิ งงแตก ผมว่าผมวาดรูปการ์ตูนไม่ได้น่าเกลียดมากนะ ไม่ได้วาดครูน้ำลายยืดด้วย แต่ครูก็ดันโกรธผมอีก สัปดาห์หน้าผมไปถอนวิชานี้ออกดีกว่า
-------------------------------------------------
   29 มิถุนายน 254x
   ผมเริ่มมีเพื่อนเยอะขึ้นแล้ว แต่ทุกคนยังกลัวเอ้อยู่ดี ทั้งๆ ที่ผมว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวหรอกนะ มันไปย้อมผมกลับเป็นสีดำแล้ว แต่ผมเห็นว่ามันเจาะลิ้น มันบอกผมว่าอย่าบอกครูนะ ไม่งั้นมันจะเจาะลิ้นผมด้วย ผมเลยบอกว่าไม่เจาะผมก็ไม่บอกหรอก เพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะบอก มันเลยตบไหล่ผม แล้วบอกว่าเลือกนั่งข้างผมคิดไม่ผิดจริงๆ
   ที่นี่เรียนหนักกว่าโรงเรียนเก่าผมเยอะเลย ทุกคนขยันอ่านหนังสือกันจนผมเริ่มรู้สึกเครียด มีเอ้นี่แหละที่ดูสบายๆ มันชอบไปนั่งแถวๆ ห้องศิลปะ ผมเลยไปนั่งกับมันด้วย เพราะพอไปแล้วรู้สึกสบายใจดี เอ้คุยไม่เก่งนะ ชอบวาดรูปเงียบๆ วันดีคืนดีมันก็วาดรูปผมใส่กระดาษสมุดแล้วเหน็บใส่หนังสือเรียนผมด้วยล่ะ
   ครูพิสุทธิ์อยู่ที่ห้องพักครูเกือบตลอด บางทีก็ออกมานั่งวาดรูป พอเห็นหน้าผมแกก็ทำมือเป็นวง แล้วก็ยิ้มที่มุมปากนิดๆ ไม่รู้ว่าแกผูกใจเจ็บกับผมหรืออยากแกล้งผมกันแน่ แต่ผมยังไม่ถอนวิชาแกหรอกนะ เพราะไม่มีวิชาอื่นให้ลงแล้ว ผมคงต้องเรียนวิชาศิลปะกับแกต่อไปจนหมดเทอมนี่แหละ
----------------------------------------------------------
   8 กรกฎาคม 254x
   วันนี้ผมไปที่ห้องสหกรณ์โรงเรียน นึกถึงครูต้าทุกทีเลยเวลาไปซื้อของที่นี่น่ะ แต่ครูที่ห้องสหกรณ์เป็นผู้หญิง แถมอายุเยอะมากแล้ว ห้าสิบแล้วมั้ง ใส่แว่นหนาเตอะ แกหูไม่ค่อยดี เวลาจะซื้ออะไรถ้าแกอยู่ต้องตะโกน แต่แกใจดีนะ แนะนำว่าผมจะซื้อของไปทำอะไร ใช้แบบไหนดี
   ขากลับผมเห็นครูพิสุทธิ์ยืนเกาะผนังอยู่ตรงหน้าห้องน้ำอาจารย์ เลยเข้าไปถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ครูสั่นหัว แล้วบอกว่าแค่หน้ามืดนิดหน่อย ผมเลยอาสาว่าจะพาครูไปที่ห้องพยาบาล ครูบอกว่าไม่ต้อง แต่ก็ยังยืนอยู่แบบนั้นแหละ ผมเลยยืนเป็นเพื่อนครู กลัวครูจะเป็นลมล้มลงไป ครูผอมมากเลยน่ะ ตัวก็ซีด ขนาดว่าครูผิวเข้มหน่อยแล้วนะ สักพัก ครูเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วบอกให้ผมช่วยพยุงครูไปที่ห้อง
   ห้องครูมีรูปวาดเยอะเลย ส่วนใหญ่เป็นรูปวิวน้ำตกใกล้ๆ กับห้องพักนั่นแหละ ครูสเก็ตช์รูปสวยมาก ใช้แค่ดินสอไม้ธรรมดาแท้ๆ แต่วาดออกมาสวยสุดๆ ไปเลย ครูนั่งลงตรงเก้าอี้ พอเห็นผมยืนมองรูป ก็เลยบอกว่าหยิบไปใบหนึ่ง ครูให้ ผมไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรเลยบอกว่าไม่เป็นไร ครูก็บอกว่าหยิบไปสิ ครูให้แล้ว เลือกไปใบหนึ่ง ครูพูดจริงจังมาก จนผมจำต้องเลือกหยิบมารูปหนึ่ง เป็นรูปผีเสื้อที่เกาะอยู่บนดอกดาวเรืองนะ ครูมองผมแล้วกำชับซ้ำว่าห้ามเอาไปทิ้งนะ เก็บให้ดี ถ้ารู้ว่าเก็บไม่ดีครูจะแช่งให้สอบตก ผมล่ะอยากร้องไห้กับครูพิสุทธิ์จริงๆ เลย วันหลังจะไม่เดินมาแถวนี้อีกแล้วล่ะ
------------------------------------------------------
   16 กรกฎาคม 254x
   ผมเข้าชมรมบาสฯของโรงเรียนแล้วล่ะ ผ่านรอบคัดตัวสบายๆ พอพี่นัทรู้ว่าผมเล่นบาสฯ เลยนัดผมว่าวันเสาร์ให้ไปเล่นด้วยกัน ผมเลยแซวว่าพี่นัทไม่เล่นบอลแล้วเหรอ พี่นัทบอกว่า เหนื่อย สนามบอลกว้าง อายุจะเลขสามแล้วต้องลดดีกรีความห่ามลงหน่อย
   พักนี้พอเลิกเรียน พี่นพมารับผมไปกินข้าวกับพี่ๆ พวกนี้ล่ะ วันดีคืนดีก็ไปร้องคาราโอเกะกันด้วย สนุกดี ผมชอบนะ พวกพี่ๆ ตลกกันเหมือนเดิมเลย
------------------------------------------------------
   7 สิงหาคม 254x
   วันนี้พวกพี่นพไม่ไปคาราโอเกะกันล่ะ กินข้าวเสร็จแล้วไปเที่ยวผับกันแทน พี่นพก็ดี อุตส่าห์เตรียมเสื้อผ้ามาให้ผมเปลี่ยน ลอกคราบจากเด็กม.4 เป็นนักเที่ยวราตรีกับเขาได้เหมือนกัน พวกพี่นัทแซวกันใหญ่ว่าอาจจะมีใครได้เปิดซิงผม เพราะท่าทางผมคงจะเพิ่งเคยเที่ยวผับครั้งแรก ผมพยักหน้าเลยนะ เรื่องที่ยังไม่เคยเข้าผับน่ะ แล้วถามว่าเขาไม่ตรวจบัตรผมเหรอ พี่คนหนึ่งบอกว่าไม่เป็นไร ตำรวจมาเดี๋ยวพี่เคลียร์เอง อื้อหือ พวกพี่ๆ ว่าแบบนี้ผมก็กลั้นใจลองของตามพี่เขาล่ะ แต่ก่อนจะไปถึงผับ พี่นพก็อธิบายในรถยืดยาวว่ามันดีและไม่ดียังไง ลงจากรถแล้วยังพูดไม่หมดเลย จนพี่นัทแซวว่าตกลงจะให้ผมเข้าไปรึเปล่า แต่สุดท้ายผมก็ได้เข้าไปล่ะนะ
   ผับที่พวกพี่นพมาเป็นผับค่อนข้างจะวัยรุ่นหน่อย มีทั้งผู้หญิงผู้ชายแต่งตัวแปลกๆ เดินบ้าง เต้นบ้าง อยู่ทั่วผับ ผมเข้ามาแล้วไม่ชอบเลย มันมืดๆ แคบด้วย แถมไฟก็กะพริบแว้บๆ ปวดตาจะตาย เหม็นบุหรี่อีกต่างหาก แต่เห็นพี่เขาดูคึกคักกันผมเลยต้องพยายามคึกตามเขาไปด้วย
   พี่นพพาผมไปนั่งตรงบาร์ พอเปิดเมนูเห็นราคาค่าน้ำ ผมหันไปมองพี่นพทันที เกือบจะถามไปแล้วว่านี่น้ำหรืออะไรกันเนี่ย ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ แต่นึกขึ้นได้ว่าพี่นพบอกไว้แล้วว่าของในนี้แพง แต่อยากให้ผมเข้ามาศึกษาเอาไว้ ผมมองหาน้ำที่ถูกที่สุดในเมนู สุดท้ายพี่นพเลยสั่งน้ำมะนาวให้ผม เพราะน้ำแต่ละอย่าง ผมเห็นแล้วนึกไม่ออกว่าจะดื่มเข้าไปได้ยังไง
   ผมกับพี่นพนั่งดื่มน้ำอยู่ตรงบาร์ ขณะที่คนอื่นๆ ก็สนุกกันไปตามเรื่อง สักพักพี่นัทก็เดินเข้ามาแล้วลากพี่นพออกไป บอกว่าเลิกทำตัวเป็นพ่อลูกอ่อนได้แล้ว พี่นพบอกผมว่าถ้าใครชวนออกไปไหน ไม่ต้องไปนะ นั่งอยู่แถวนี้แหละ ผมก็พยักหน้า เพราะไม่อยากไปไหนกับใครอยู่แล้ว จากนั้นพี่นพก็โดนพี่นัทลากออกไป
   ผมนั่งอยู่สักพักก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาทัก ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้เลยล่ะ ใส่น้อยกว่านี้อีกนิดจะเหมือนพวกนางแบบหนังสือโป๊อยู่แล้ว ถ้าพี่นพคิดจะมาหาพี่สะใภ้ในนี้นะ ผมขอค้านหัวชนฝา ผมอยากได้พี่สะใภ้สวยแบบธรรมชาติ ดูผู้ดี มารยาทงาม ไม่ต้องแต่งหน้าหนาขนาดนี้หรอก
   ผมคุยกับผู้หญิงคนนั้นตามมารยาท สงสัยจะเห็นว่าผมไม่ค่อยคุยเท่าไหร่มั้ง สักพักเธอก็เดินออกไป ผมนั่งหน้ามู่ทู่อยู่กับแก้วน้ำมะนาว จนพี่ที่ผสมเครื่องดื่มอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ถามว่าผมไม่สบายเหรอ ผมเลยบอกว่าเปล่า ผมแค่เหม็นบุหรี่
   พี่ที่ชงเครื่องดื่มคนนี้ก็ใจดี ชวนผมคุยเล่น ว่าไม่ชอบบุหรี่แล้วทำไมมาที่แบบนี้ล่ะ ผมเลยบอกพี่เขาว่าพี่ชายพามา อยากให้เรียนรู้เอาไว้ เขาเลยถามว่าผมอายุเท่าไหร่ ผมบอกว่าผมไม่ตอบแล้วกัน เดี๋ยวตำรวจจับ เขาหัวเราะใหญ่ แล้วบอกว่าผมน่ารักดี คนเป็นพี่คงดีใจ ผมก็พยักหน้านะ บอกว่าผมอยากให้พี่ดีใจที่มีผมเป็นน้องชายเหมือนกัน จากนั้นก็ถามว่าผมเรียนที่ไหน ผมก็ตอบเขาไปตามตรงนั้นแหละ เขาก็ทำตาโตแล้วบอกว่าพี่ชายต้องภูมิใจมากแน่ๆ เลย ที่นั่นสอบเข้ายากมากเลยนะ ผมก็พยักหน้าตามเขาแหละ แต่ก็นึกในใจว่าไม่เห็นยากตรงไหน ยากตอนที่ต้องปรับตัวใหม่เท่านั้นแหละ จากนั้นเขาก็ถามชื่อ พอผมบอกว่าเปี๊ยก เขาก็ขำ บอกว่าตัวใหญ่ขนาดนี้ยังจะชื่อเปี๊ยกอีก ผมเลยบอกว่าตอนเด็กๆ ผมตัวเล็กนะ เพิ่งมาโตไม่กี่ปีนี่เอง เขาเลยถามต่อว่าแล้วเพื่อนไม่หัวเราะเหรอ ตัวใหญ่แต่ชื่อเปี๊ยกนะ ผมว่าเพื่อนก็ขำนะ เลยเรียกชื่อหน้ากันหมดเลย มันเลยไปเหมือนกับชื่อพี่ชายผม แต่ไม่รู้จะบอกเพื่อนให้เลิกเรียกยังไงเหมือนกัน ก็เลยปล่อยเลยตามเลย มีแต่เอ้นี่แหละยังเรียกผมว่าเปี๊ยกอยู่ มันบอกว่าชื่อน่าประทับใจดี
   หลังจากนั้นผมก็ถามเขาถึงพวกขวดเครื่องดื่มที่วางอยู่เต็มไปหมด แล้วถามว่าทำไมพี่เขาถึงมาทำอาชีพแบบนี้ เขาว่าเขาชอบน่ะ ชอบงานบริการ ชอบเจอคนเยอะๆ มาทำงานแบบนี้ได้เจอคนแปลกๆ มีดีบ้างไม่ดีบ้าง เป็นสีสันของชีวิตดี วันนี้ได้เจอผมก็ถือว่าเป็นคนแปลกนะ แต่ก็น่ารักล่ะ ไม่คิดว่าจะมีเด็กอย่างผมมาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย เขาบอกว่าพี่ชายผมดีนะ พาผมมาแบบนี้ ผมก็ว่างั้นแหละ พี่นพดีที่สุดอยู่แล้วล่ะ
   ผมคุยอยู่กับพี่ที่เคาน์เตอร์บาร์จนจะห้าทุ่มได้ พวกพี่นพถึงกลับกัน เห็นว่าปกติกลับกันดึกกว่านี้นะ แต่เห็นผมมาด้วย เลยกลับหัวค่ำหน่อย ผมบอกพี่นพเลยว่าคราวหลังผมไม่มาแล้ว พี่ๆ จะได้ไม่ต้องพะวง แล้วบอกอีกว่า ถ้าพี่นพหาแฟนในนี้นะ ผมไม่รับเข้าบ้านแน่ พี่นพหัวเราะ แล้วตบไหล่ผม บอกว่าแค่อยากให้ออกมาเปิดประสบการณ์ใหม่เท่านั้นเอง ผมทำตัวเป็นคนแก่ขี้บ่นไปได้
------------------------------------------------------------
   20 สิงหาคม 254x
   ใกล้สอบปลายภาคแล้วล่ะ แปลว่าเหลืออีกหนึ่งเทอมผมก็จะได้ขึ้นม.5แล้ว วันนี้ผมกับเอ้เดินผ่านห้องพยาบาล เห็นมีที่วัดส่วนสูงกับเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่ เลยไปชั่งน้ำหนักกับวัดส่วนสูงกัน ผมสูงร้อยเจ็ดสิบห้าแล้วล่ะ ส่วนเอ้สูงกว่าผมหน่อย ร้อยเจ็ดสิบแปด แต่ผมหนักกว่านะ สงสัยจะเพราะเล่นกีฬาล่ะมั้ง ถึงเอ้จะดูเฮ้วๆ แต่มันค่อนข้างจะผอมนะ วันนี้มันใส่กางเกงหลุดตูดจนโดนครูปกครองทักอีกแล้วล่ะ ครูบางคนเรียกผมไปคุย บอกว่าอย่าไปสนิทกับมันนัก เดี๋ยวจะเสียการเรียน แต่ผมนั่งกับเอ้มาจะเทอมแล้ว ยังไม่เห็นว่าเรียนไม่รู้เรื่องตรงไหนเลย เอ้ไม่ชวนคุยนะ แค่ฮัมเพลงกับวาดรูปตอนเรียนเท่านั้นเอง
   ตกบ่ายผมต้องเข้าคาบครูพิสุทธิ์ วันนี้ครูบอกว่าจะมีสอบปลายภาค เพิ่งรู้ว่าวิชาศิลปะมีสอบปลายภาคกับเขาเหมือนกัน คะแนนวิชานี้ผมน่าจะห่วยบรม เพราะผมวาดรูปไม่เอาอ่าวเลย วาดได้แต่การ์ตูนง่ายๆ พอดูออกว่าเป็นคนหรือต้นไม้เท่านั้นแหละ แต่ครูพิสุทธิ์บอกว่าวิชานี้ครูจะตัดเกรดแค่ 1กับ4 ไม่ให้เอฟ เพราะศิลปะไม่มีใครผิดใครถูก มีแต่ถูกใจหรือไม่ถูกใจเท่านั้นแหละ ผมว่าผมได้เกรดหนึ่งแน่นอน แต่ไม่เคยเห็นครูวงคะแนนเอาไว้ในรูปวาดเลย พอเวลาส่งงานครูจะให้กองรวมไว้ วันก่อนผมเห็นว่าครูเก็บงานของนักเรียนแต่ละคนใส่แฟ้มเอาไว้ด้วยล่ะ
   ครูพิสุทธิ์ให้โจทย์งานปลายภาคว่าให้ไปวาดสิ่งของที่อยากวาดมาหนึ่งอย่าง แต่ไม่เอาวาดเหมือนนะ ครูย้ำเลยนะว่าถ้าใครวาดเหมือนมาให้ตก ให้ใส่จินตนาการของตัวเองเข้าไปด้วย ให้รู้ว่าทำไมถึงอยากวาดสิ่งของพวกนี้ โดยไม่ต้องเขียนมาเป็นตัวหนังสือ บอกว่าเดี๋ยวหมดคาบแกจะเรียกส่ง คาบเรียนของครูจริงๆ น่ะ ชั่วโมงเดียว แต่วันนี้พวกเด็กม.4 จะว่างตั้งแต่บ่ายไปจนเลิกเรียน คือมีเรียนแค่คาบบ่ายคาบเดียวนั่นแหละ สงสัยเพราะแกชอบเรียกตรวจงานวันเดียวกับที่สั่ง เด็กเลยไม่ค่อยลงวิชาแกล่ะมั้ง เพราะกลัวไม่ได้กลับบ้านเร็ว แต่ผมไม่รีบกลับบ้านอยู่แล้ว เพราะต้องรอพี่นพมารับ เรียนวิชาแกผมก็ไม่เสียหายอะไร นอกจากจะเสียเกรดนี่แหละ
   ผมนึกอยู่ตั้งนาน แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะวาดอะไร เลยหันไปถามเอ้ วิชาครูพิสุทธิ์ดีตรงถามกันได้ คุยกันได้ ครูบอกว่าถ้ากล้าลอกกันครูก็ไม่ว่านะ แต่ถ้าลอกไม่ถูกใจครูจะหักคะแนน ผมก็ไม่เคยถามหรือลอกใครเวลาสอบวิชาอื่นหรอกนะ แต่วิชาแกผมไม่ไหวจริงๆ เลยต้องถาม
   เอ้ร่างภาพแล้วล่ะ เป็นรูปอะไรซักอย่างที่ยังดูไม่ออก พอผมถามมันก็บอกว่า มันจะวาดรูปแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ที่มีมือมันกับพ่อจับอยู่ เพราะพ่อเป็นคนสอนมันขี่มอเตอร์ไซค์ โห.. ไอเดียมันล้ำลึกมาก ผมกลับมานั่งมองกระดาษเปล่าของตัวเองต่อ ผมจะวาดอะไรดีล่ะ อะไรที่ผมอยากวาดนะ อะไรที่ผมวาดได้นะ
   นั่งไปสักพัก อากาศก็ร้อนน่าดู ผมเลยวางกระดาษเปล่าเอาไว้แล้วไปล้างหน้า พอหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดผมก็นึกออกเลยว่าจะวาดอะไร ผมจะวาดผ้าเช็ดหน้าที่ครูต้าให้นี่แหละ ง่ายและวาดได้แน่นอน
   ผมกลับมานั่งมองกระดาษอีกสักพัก เพราะวาดผ้าเช็ดหน้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ นึกอยู่ตั้งนานว่าจะวาดอะไรให้รู้ว่าทำไมผมถึงอยากวาดผ้าเช็ดหน้า วาดมือจับเอาไว้ตลกแน่นอน เพราะฝีมือเขียนรูปผมห่วยสุดๆ ไม่เก่งเหมือนเอ้ สุดท้ายผมเลยวาดผ้าเช็ดหน้าที่มีรูปการ์ตูนลายแมวเหมียวอยู่ แล้ววาดรูปตัวเองเป็นการ์ตูนจับปลายไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านวาดรูปครูต้ากำลังถักผ้าเช็ดหน้าให้ผมอยู่ ผมวาดไปนึกถึงครูไป ไม่รู้ป่านนี้ครูจะเป็นยังไงบ้างนะ ไปสอนที่ใหม่เด็กจะดื้อรึเปล่า จะคุมห้องสหกรณ์เหมือนเดิมมั้ย แล้วครูจะคิดถึงผมบ้างรึเปล่าหนอ
   สงสัยผมจะคิดมากจนออกทางสีหน้า สักพักเอ้ก็ทักว่าผมวาดอะไร ทำไมวาดไปยิ้มไปแบบนั้น ผมเลยให้มันดู มันก็เลยถามว่าอีกฝั่งใครน่ะ ผมบอกว่าครูที่โรงเรียนเก่า มันเหล่มองผมแล้วถามว่า ผมริจีบครูตั้งแต่อยู่ม.ต้นเลยเหรอ แถมครูผู้ชายด้วยนะ เป็นเกย์หรือไง ผมบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ครูเขาน่ารักน่ะ มันเลยบอกว่าว่างๆ เล่าให้มันฟังบ้าง มันอยากรู้ว่าทำไมผมถึงชอบผู้ชาย เออ ผมก็เขินเหมือนกันนะ ถามแค่นี้ผมก็ร้อนหน้าหมดแล้ว ยังจะมาบอกให้เล่าให้ฟังอีก ผมไม่เล่าหรอก
   ครูพิสุทธิ์เรียกเก็บงานก่อนเลิกเรียนนิดหน่อย ครูหยิบงานขึ้นมาดูแล้วถามแรงบันดาลใจเหมือนที่เคยทำทุกที ผมว่าแต่ละคนไอเดียเจ๋งๆ ทั้งนั้นเลยล่ะ พอถึงคิวผม ครูหรี่ตา แล้วถามว่าวาดแฟนหรือไง คนอื่นหันมามองหน้าผมเลยนะ ผมก็เขินสิ จู่ๆ ครูมาทักต่อหน้าเพื่อนแบบนี้ แต่ผมก็พยักหน้าล่ะ บอกว่าแฟนเก่า เลิกกันไปแล้ว ครูยิ้มๆ แล้วปล่อยเลิก เอ้แซวผมใหญ่ บอกว่าวาดเก่ง ครูดูแว้บเดียวก็ออกเลย ผมเลยบอกมันว่าผมแค่วาดการ์ตูนง่ายๆ เอง มันบอกว่าการ์ตูนหรืออะไรเอาให้ดูออกเข้าใจก็ได้เหมือนกันนั่นแหละ แล้วบอกว่าผมน่าจะไปเอาดีทางวาดการ์ตูน แต่ผมไม่ได้ชอบวาดนี่นา เอ้บอกว่าครูพิสุทธิ์เจ๋งจริง ศิลปะต้องแบบนี้แหละ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำ
--------------------------------------------------
   10 กันยายน 254x
   วันนี้มารับผลสอบ พี่นพมาด้วย คะแนนปลายภาคผมดีทีเดียวล่ะ มีแต่เลขสี่เรียงกันเป็นตับ มีสามแถมมานิดหน่อย พี่นพงี้ยิ้มแก้มปริเลย บอกว่านี่ขนาดผมไม่เรียนพิเศษนะ ถ้าเรียนจะขนาดไหน แต่ผมรีบบอกพี่นพว่าผมไม่เรียนเด็ดขาด เพราะเปลืองเงินพี่นพ แล้วผมก็ชอบจะไปเที่ยวกับพวกพี่นพมากกว่าด้วย
   ที่น่าแปลกคือ วิชาของครูพิสุทธิ์ผมได้สี่ด้วยล่ะ ผมงี้อึ้งเลยนะ หันไปถามเอ้ เอ้บอกว่ามันก็ได้สี่ แล้วบอกต่อว่าครูพิสุทธิ์ไม่ได้คิดคะแนนตรงวาดรูปเหมือนไม่เหมือน แต่คิดคะแนนที่ไอเดียการวาดต่างหาก ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมไม่คิดว่าไอเดียผมจะถูกใจครูจนให้สี่ได้นะเนี่ย แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ครูไม่ให้หนึ่งผม ไม่งั้นพี่นพหน้ายู่แน่ๆ
------------------------------------------------------

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
   25 กันยายน 254x
   ผมออกจากบ้านไปห้าง เพราะเอ้โทรชวนไปดูหนังตั้งแต่เมื่อวาน ช่วงปิดเทอมนี้ผมหัดขึ้นรถเมล์แล้วล่ะ วันแรกๆ ก็นั่งไปที่ทำงานพี่นพ วันแรกเลยด้วย พี่นพเป็นห่วงสุดๆ แต่ผมก็ไปถึงล่ะนะ เพราะกลัวผมเหงา พี่นพเลยพาผมไปที่ทำงานด้วย แต่วันไหนถ้ามีเพื่อนโทรมาชวนไปเที่ยว พี่นพก็จะรีบบอกให้ผมตกลงเลยล่ะ ให้ค่าเที่ยวแถมมาด้วยแน่ะ แต่ผมไม่ค่อยอยากรับหรอก เกรงใจพี่เขา พักนี้ผมเลยมองหางานพิเศษทำอีกแล้ว ว่าจะลองทำขนมไปขายที่ทำงานพี่นพดู แต่ผมทำขนมไม่เอาอ่าว เดี๋ยวลองหาอย่างอื่นดีกว่า น่าจะทำได้สักอย่างหนึ่งแหละ
   เอ้เดินหัวทองเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกลเลย พอเห็นหน้าผมก็บอกว่า อยากลองย้อมบ้างมั้ย ไม่แพงหรอก ย้อมกันเอง ผมสั่นหัวทันที กลัวพี่นพเป็นลมตอนเห็นหัวผม มันเลยหัวเราะ เอ้แต่งตัวเฮ้วมาก อย่างกับพวกเด็กร็อก แต่มันฟังเพลงหลายแบบนะ มีทั้งเพลงรุ่นพ่อ ไปจนถึงเพลงคลาสสิกที่ผมไม่ค่อยจะรู้จัก ฟังจากที่มันฮัมในห้องเรียนน่ะ
   ก่อนดูหนังเราก็แวะกินข้าวกันก่อน ผมเลยเพิ่งรู้ว่าพ่อเอ้เสียไปเมื่อปีที่แล้ว แม่มันเลยแต่งงานใหม่ มันไม่ชอบพ่อเลี้ยง เลยขออยู่คนเดียว สรุปว่าตอนนี้มันอยู่คนเดียวนั่นแหละ แล้วมันก็ถามว่าผมอยู่กับใคร ผมเลยบอกว่าอยู่กับพี่ชาย เพราะพ่อแม่เสียไปตั้งแต่ผมยังเด็กๆ มันเลยถามว่าพี่ผมอายุเท่าไหร่แล้ว จากนั้นก็ชมว่าพี่ผมเลี้ยงผมดีนะ ดูไม่เหมือนเด็กขาดพ่อขาดแม่เลย อืม.. ผมก็ว่างั้นแหละ ถึงผมจะแอบน้อยใจนิดหน่อยเวลาถึงวันพ่อวันแม่ แต่ผมก็เข้าใจนะว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว ผมมีพี่ชายพี่สาวที่ดีขนาดนี้ผมก็พอใจแล้วล่ะ
   เราดูหนังจบก็ไปต่อกันที่เกมเซนเตอร์ เอ้เล่นเกมเก่งมากเลยล่ะ ผมหยอดไปสอบรอบ เล่นไม่ได้เรื่อง เสียดายเงินเลยมายืนดูมันเล่นแทน คนมายืนดูมันเล่นเยอะเลยนะ แหม..ผมอดภูมิใจในตัวเพื่อนไม่ได้จริงๆ นะเนี่ย ขากลับมันขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งผมถึงบ้าน เอ้ขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่มาก แต่ใส่หมวกกันน็อกเรียบร้อยนะ เอามาเผื่อผมด้วยใบหนึ่ง ตอนมันชวนผมยังกลัวๆ ว่าจะโดนตำรวจเรียกรึเปล่า เพราะยังอายุไม่ถึงกำหนดที่จะทำใบขับขี่ด้วยกันทั้งคู่ มันบอก ไม่เป็นไร ทางไปบ้านผมไม่มีด่าน มีก็ยังมีซอยให้เลี่ยง มันการันตีอีกว่ามันขี่มาตั้งแต่อยู่ม.2 โดนจับไม่เป็นปัญหาหรอก เห็นมันยืนยันหนักแน่น ผมเลยยอมซ้อนท้ายมัน เป็นการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในรอบหลายปีของผมเลยล่ะ ตอนอยู่ประถมเคยซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปกับพี่หนิงเหมือนกันนะ แต่นานแล้ว ซ้อนคราวนี้ผมเลยบอกเอ้ว่าอย่าซิ่งมาก ผมกลัวตก มันก็รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน
   โชคดีที่เอ้ไม่ซิ่ง ไม่งั้นผมคงต้องกระโดดลงแน่ๆ มันขี่มอเตอร์ไซค์เก่งเหมือนกัน รู้ทางซอกแซ่กดีอย่างกับเคยรับจ้าง แป๊บเดียวก็ฝ่ารถติดมาถึงบ้านผมแล้ว พี่นพอยู่บ้านพอดีเลยชวนเข้าไปดื่มน้ำดื่มท่า มันก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมันจะรีบไปทำงานพิเศษต่อ ผมตาโต รีบถามว่ามันทำงานอะไร ที่ไหน มันยิ้มๆ บอกผมว่าค่อยคุยกันวันหลัง แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับไป
   พี่นพเลยถามว่าเพื่อนผมคนนี้โอเคมั้ย ผมว่ามันก็ดีนะ ไม่ได้ชวนผมไปเกเรเกตุงอะไร พี่นพถามอีกว่าผมคงไม่คิดจะจีบเพื่อนคนนี้หรอกนะ ผมสั่นหัวเลย ถึงผมจะไม่มีอารมณ์กับผู้หญิง แต่ผมไม่มีอารมณ์กับเอ้หรอก แค่คิดยังไม่เคยคิดเลยล่ะ แอบเคืองพี่นพเหมือนกันนะเนี่ย คิดอะไรของพี่ก็ไม่รู้
---------------------------------------------
   1 ตุลาคม 254x
   ตอนเช้าเอ้โทรมาถามว่าผมยังสนใจเรื่องงานพิเศษของมันอยู่อีกมั้ย ผมก็บอกว่าสนอยู่ มันเลยนัดผมช่วงสี่โมงเย็นว่าจะมารับที่บ้าน เดี๋ยวจะพาไปดู พอบอกพี่นพ พี่นพก็ถามใหญ่เลยว่างานอะไร ผมบอกว่ายังไม่แน่ใจเหมือนกัน เห็นว่าเป็นร้านอาหาร พี่นพก็ทำท่าเป็นห่วงบอกว่าระวังถูกหลอกไปขายตัวนะ ผมบอกว่าผมไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะ ไม่มีใครอยากเอาผมไปขายหรอก พี่นพก็เลยบอกว่าไม่แน่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้เด็กผู้ชายยังถูกจับไปขายซ่องได้เลย ผมว่าตัวใหญ่แบบผมเขาคงไม่อยากเอาไปขายแล้วล่ะ เปลืองข้าว สุดท้ายพี่นพเลยบอกว่าถึงแล้วให้โทรมาบอกหน่อยแล้วกัน จะได้ไม่เป็นห่วงมาก ผมก็รับปาก
   สี่โมงเอ้ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงบ้านผม แถมชวนพี่นพด้วยนะว่าจะไปด้วยกันมั้ย เพราะวันนี้วันเสาร์ พี่นพเลยบอกว่างั้นเอามอเตอร์ไซค์จอดไว้ที่บ้านก่อน เดี๋ยวนั่งรถพี่ไป มันก็ตกลง ผมไม่รู้ว่ามันมีแผนจะใช้รถพี่นพรึเปล่านะเนี่ย
   ปรากฏว่าจุดไต้ตำตอสุดๆ เพราะร้านที่เอ้มันจะชวนผมไปทำงาน เจ้าของร้านบังเอิญรู้จักกับพี่นพอยู่แล้ว พอคุยกันสักพัก พี่นพถึงได้บอกว่า มิน่า คุ้นๆ หน้าเอ้ ที่แท้เป็นดีเจอยู่ที่ร้านนี้นี่เอง เอ้ก็ดูจะแปลกใจปนๆ ดีใจล่ะ มันบอกว่าพี่เจ้าของร้านคนนี้ใจดี เขาอยากได้เด็กเสิร์ฟพาร์ทไทม์เพิ่มอยู่ ผมมาสมัครน่าจะได้ เดี๋ยวให้พี่ชายมาดูน่าจะโอเค แต่ปรากฏว่าเป็นคนรู้จักพี่นพด้วย เลยง่าย สรุปว่าพี่นพยอมให้ผมมาทำงานพิเศษที่นี่ช่วงเย็นล่ะ ตั้งแต่หกโมงถึงสามทุ่ม เพราะจะได้ไม่เสียการเรียนตอนเช้า เอ้ดีใจใหญ่ บอกว่าผมกับมันคงดวงสมพงษ์กันจริงๆ
-------------------------------------------------------
   20 ตุลาคม 254x
   ผมมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านเดียวกับเอ้ได้เกือบยี่สิบวันแล้วล่ะ สนุกดี ไม่มีใครจับก้นผมเหมือนตอนสมัยเรียนม.ต้นแล้วนะ แต่จีบผมแทน มีตั้งแต่ขอเบอร์โทร ยันชวนไปดื่มต่อหลังเลิกงานเลยล่ะ ผู้หญิงก็มี ผู้ชายก็เยอะนะ แต่ผมไม่ไปหรอก ไม่ถูกใจสักคน ถึงถูกใจก็ไม่ไปอยู่ดี ผมมาทำงานนะ ไม่ได้มาให้ใครจีบ เล่าให้เอ้ฟังเอ้บอกว่า วันหลังบอกไปเลยว่าพรากผู้เยาว์อายุยังไม่ถึงสิบแปดติดคุกหัวโตนะ ผมก็ขำ บอกว่ามันน่าจะไปเรียนกฎหมายนะ จะได้เป็นทนายให้ผม มันบอกว่ามันไม่เรียนหรอก มันอยากเรียนทางศิลปะ อยากเป็นนักศิลปะ วาดรูปบ้างแต่งเพลงบ้าง ผมเลยถามว่ามันจะเอาอะไรกิน มันก็บอกว่าเอาที่ทำอยู่เนี่ยแหละกิน แต่มันจะไม่ทำงานในกรอบเด็ดขาด เออ ตามใจมันก็แล้วกัน ชีวิตมันนี่นา
   เอ้ฟังเพลงเยอะเพราะเป็นดีเจด้วยรึเปล่าไม่รู้ มันเปิดเพลงได้ทุกแบบ มิกซ์ผสมกันได้ด้วยนะ วันนี้มันเอาเครื่องเล่นเอ็มพีสามแบบพกพามา แล้วเปิดเพลงให้ผมฟังเพลงหนึ่ง บอกว่าเพลงนี้มันมิกซ์เอง เออ ฟังแล้วก็แปลกๆ ดีนะ ผมเลยถามมันว่า มันไม่เล่นดนตรีเหรอ มันบอกว่ามีกีตาร์อยู่ตัวหนึ่ง พอเล่นได้อยู่นะ มันมีเขียนเพลงเอาไว้ด้วย แต่หาคนร้องไม่ได้ เพราะเสียงมันไม่ดี ร้องแล้วเหมือนเป็ด ผมก็อยากจะอาสาร้องให้มันอยู่หรอก แต่ตอนนี้เสียงผมแตกน่าเกลียดมาก อย่าว่าแต่ร้องเพลง ขนาดพูดยังรำคาญตัวเองเลย พี่นพบอกว่าสักพักเสียงก็เข้าที่แล้ว แบบนี้แหละใกล้จะเป็นหนุ่มเต็มตัวเข้าไปทุกที
----------------------------------------------------
   3 พฤศจิกายน 254x
   ผมขึ้นม.4 เทอมสองแล้ว วิชาเลือกมีให้เลือกเยอะจนตาลาย แต่ส่วนใหญ่เป็นตัวสองทั้งนั้น.. สุดท้ายผมเลยต้องไปลงวิชาศิลปะ2ต่อ แน่นอนว่าคนสอนไม่ใช่ใครอื่น ครูพิสุทธิ์อีกแล้ว
   แต่ไม่เป็นไร ลงเรียนของครูพิสุทธิ์ก็ได้ เพราะเทอมที่แล้วครูก็ให้ผมเกรดสี่ เทอมนี้ก็น่าจะพอไปไหว แม้จะรู้สึกแปลกๆ กับวิธีให้คะแนนของครูก็ตาม แต่วิชาอื่นที่เป็นตัวหนึ่งก็แทบจะไม่เหลือให้ผมลงแล้ว มีพวกวิชาทำอาหาร ซึ่งถ้าผมลงไป คงติดศูนย์อย่างไม่ต้องเดา ผลการเรียนของเอ้เทอมที่แล้วเฉี่ยวเส้นยาแดงแบบผ่าแปด แต่มันดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไร เพราะมันบอกว่าเกรดไม่สำคัญ ให้เรียนจบก็พอแล้ว ผมว่ามันฉลาดเลยนะ มันเรียนๆ เล่นๆ โดดๆ ของมันยังสอบผ่านได้แบบนี้ ผมล่ะสงสารคนอื่นที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนทำเกรดอย่างเอาเป็นเอาตายจริงๆ
----------------------------------------------
   12 พฤศจิกายน 254x
   ปีนี้ผมไม่ได้ลอยกระทงกับครูต้าแล้ว แต่ได้มาลอยกับพวกพี่นพแทน แต่ละคนหากระทงกันมาพิสดารดีทั้งนั้น บางคนยืมใช้กระทงคนอื่นอีกต่างหาก พวกพี่ๆ นี่ขำกันตลอดเวลาเลย
   พี่นัทฮาสุด เพราะทำกระทงจากกระดาษ บอกว่าย่อยสลายได้แน่นอน แต่พอจุดธูปจุดเทียน ลอยไปสักพักไฟก็ลุกพรึบ คนอื่นขำกันท้องคัดท้องแข็ง แต่พี่นัทยังทำวางมาด บอกว่าแบบนี้แหละเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ เรื่องความขำนี่ผมยกให้พี่นัทเลย
--------------------------------------------------------------
22 พฤศจิกายน 254x
   เทอมนี้ครูพิสุทธิ์สอนทฤษฎีสี มีบรรยายสองคาบแรก พอคาบสามครูก็ให้เราไปละเลงสีเล่นกันสนุกมือ ปกติที่ผมเคยเรียนน่ะ ครูจะให้ใช้สีน้ำบ้าง สีไม้บ้าง ตอนเล็กๆ เลยก็สีชอล์ก สีเทียน แต่ครูพิสุทธิ์มาแปลก สมเป็นครูจริงๆ นั่นแหละ ครูให้เราใช้สีทาบ้านนะ วาดกับแปรงทาสีลงบนผ้าใบแผ่นใหญ่เลย ใช้ลานตรงหน้าห้องพักครูนั่นแหละ
   เทอมนี้นักเรียนหายไปคนหนึ่ง เลยเหลือสามคน มีผม เอ้ แล้วก็เพื่อนสายศิลป์อีกห้องหนึ่ง จริงๆ วิชาศิลปะมีอาจารย์เปิดสอนสองคนนะ แต่ของครูพิสุทธิ์เด็กลงน้อย เพราะเวลาเรียนมันไปกินคาบว่างช่วงเลิกเร็วด้วยมั้ง แล้วครูก็แทบไม่สอนอะไรเลย ให้ไปคิดกันเอาเอง นักเรียนเลยอาจจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่เพื่อนที่เรียนสายศิลป์กับเอ้ปลื้มครูสุดๆ เลยล่ะ ส่วนผมคงเรียกว่าตกกระไดพลอยโจน ต้องทนเรียนกับแกต่อ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับแกมากหรอกนะ แค่รู้สึกว่าแกแปลกๆ เท่านั้นเอง
   เทอมนี้เหมือนครูจะอาการดีขึ้นนะ หน้าเริ่มสดใสขึ้นแล้ว ผมยังไม่ได้ถามสักทีว่าครูป่วยเป็นอะไร ไม่อยากถามด้วยแหละ กลัวโดนครูกวนประสาท ครูยิ่งดูกวนๆ แบบเงียบๆ อยู่ ไม่รู้ว่าจะหยอกหรือเอาจริงกันแน่
   วันนี้ท่าทางครูอารมณ์ดี สั่งงานเสร็จก็ลากเก้าอี้ออกมานั่งดูพวกเราละเลงสีกันบนผ้าใบ พอเงยหน้าขึ้นไปมองอีกทีก็เห็นครูกำลังนั่งวาดรูปอยู่ คงรูปพวกเรานั่นแหละ เพราะครูถือจานสีอยู่ในมือด้วย ครูเห็นผมเงยหน้าขึ้นก็ยิ้มที่มุมปากอีก แล้วเอาพู่กันวงอากาศ ผมกลัวโดนครูคาดโทษอีกเลยรีบก้มหน้าก้มตาละเลงสีกับพวกเอ้ต่อ
   สีทาบ้านฉุนนิดหน่อย แต่เพราะลานมันโปร่งแล้วอากาศถ่ายเทล่ะมั้ง ทำไปสักพักเริ่มมันส์กัน ลืมเรื่องเหม็นสีไปเลย เอ้เอาสีดำวาดเส้นยาวๆ ต่อกัน มันว่ามันจะลองทำภาพเรขาคณิตที่มองเห็นเป็นอีกรูปหนึ่งจากระยะไกลดู ส่วนเชษฐ์ เพื่อนอีกคนที่อยู่สายศิลป์ก็เริ่มใช้แปรงจุ่มสารพัดสีแล้วแปะๆ ลงไป บอกว่าจะสร้างสีใหม่โดยใช้ระยะการมอง
   ไอเดียเพื่อนผมแต่ละคนช่างล้ำลึก เหลือผม ยังนั่งเอาแปรงจุ่มสีเล่นอยู่ เพราะไม่รู้จะเริ่มอะไรดี คนหนึ่งวาดเส้นไปแล้ว อีกคนเล่นจุดสีไปแล้ว ผมควรทำอะไรดีล่ะ
   ผมนั่งแช่อยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ จนเอ้ทักว่าจะกินแรงกันเหรอ ผมเลยต้องรีบเอาแปรงมาทาๆ ลงไปบนผ้าใบ แต่ส่งสัยจะยกแปรงแช่นานไปหน่อย พอป้ายลงไปแทนที่จะได้สีเรียบๆ ดันได้สีด่างเป็นรอยร่องกระเบื้องด้านล่างแทน ผมได้ไอเดียทันที ผมจะทาสีเป็นรอยร่องกระเบื้องนี่แหละ ส่วนภาพจะออกมาเป็นยังไงเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ให้มีงานส่งก่อนก็แล้วกัน
   กติกาครูพิสุทธิ์พิสดารเหมือนเคย ให้พวกผมวาดจากคนละมุมนะ แล้วต้องวาดให้เจองานคนอื่น วาดเข้าไปในงานคนอื่นเลย งานใครไม่มีเพื่อนวาดทับ ปรับตก พวกเราเลยแข่งกันวาด เอ้เร็วกว่าเพื่อน แป๊บๆ เข้ามาในงานผมแล้ว แต่ผมสิ พอไปถึงงานเชษฐ์ สีมันไม่เป็นร่องกระเบื้องเสียงั้นแหละ เอาไงดีล่ะ ผมเลยต้องทำเนียน วาดร่องกระเบื้องเอาเอง หวังว่าครูคงไม่ปรับผมตกหรอกนะ
   เชษฐ์ก็ฮา แปะสีไล่หลังเอ้แล้วบอกว่า เร็วๆ จะไล่ทันแล้วนะ เราละเลงสีแข่งกันอย่างกับแข่งวิ่ง สนุกสุดๆ ไปเลย เพิ่งรู้ว่าเรียนวิชาศิลปะก็สนุกขนาดนี้ได้เหมือนกันนะเนี่ย กว่าจะเล่นกันเสร็จ ก็เลอะเทอกันน่าดู ขนาดครูให้หาผ้ากันเปื้อนมาใส่แล้วนะ สียังกระเด็นไปเลอะเสื้อเป็นหย่อมๆ เลย แต่ไม่มีใครโมโหใครนะ เพราะสนุกด้วยกันหมดทั้งสามคน
   ตอนพวกเราวาดรูปเสร็จ ครูก็คงวาดรูปเสร็จพอดีเหมือนกัน เพราะตอนเงยหน้าขึ้นไปเห็นครูเดินออกมาจากห้อง จานสีกับกระดาษไม่อยู่แล้ว คงเอาไปเก็บนั่นแหละ พอเห็นพวกเราเลอะเทอะก็บอกให้ไปล้างหน้าล้างมือเอาสีออก ทิ้งผ้าใบไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวแห้งแล้วครูจะให้คนมาเก็บ ผมสัยว่าครูจะเอาผ้าใบผืนใหญ่ขนาดนี้ไปขึงที่ไหน คงไม่ใช่หน้าโรงเรียนหรอกนะ ครูบอกว่าอีกเดือนหนึ่งครูจะมีนิทรรศการ จะเอาไปโชว์งานนั้นแหละ เดี๋ยวจะใส่ชื่อพวกเราสามคนลงไปด้วย ในฐานะเจ้าของผลงาน พวกเราตื่นเต้นกันใหญ่ ว่างานจะได้ไปโชว์ในแกลเลอรีกับเขาด้วย
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
   2 ธันวาคม 254x
   วันนี้เอ้วาดรูปสอดเอาไว้ในสมุดผมอีกแล้ว แต่แปลก คราวนี้ไม่ยักจะใช่รูปผมแฮะ ปกติเอ้จะวาดรูปผมเวลานั่งเรียนแล้วสอดเอาไว้ พร้อมกับเขียนแซวเล็กๆ น้อยๆ ผมเก็บใส่แฟ้มเอาไว้ทุกรูปเลยนะ เพราะเอ้วาดสวยดี
   รูปที่เอ้สอดมาคราวนี้เป็นรูปผู้หญิง พอผมหยิบขึ้นมาดูแล้วหันไปมอง เอ้ก็ยิ้มๆ แล้วถามว่าสวยมั้ย ผมก็พยักหน้า เป็นรูปผู้หญิงผมยาว หน้าตาสะสวยเลยล่ะ แต่ไม่ใช่คนในห้องแน่นอน มันพูดต่อว่ามันเพิ่งฝันถึงเมื่อคืน นี่แหละรูปนางในฝันของมัน ผมพยักหน้า แล้วถามว่ามันจะตามหามั้ย มันบอกไม่หา เดี๋ยวถ้าดวงสมพงศ์กันนางในฝันจะมาหามันเอง เออ เอากับมันสิ ผมเลยถามต่อว่าแล้วมาสอดไว้ในสมุดผมทำไม มันเลยบอกว่าอยากให้ผมเก็บไว้ เพราะผมเป็นคนที่มันวาดรูปเอาไว้มากที่สุด พอวาดคนใหม่ เลยอยากให้ผมเก็บไว้คู่กับรูปเดิมของมัน ผมไม่เข้าใจมันเลย แต่ก็เก็บเอาไว้ล่ะ
-------------------------------------------------------
   20 ธันวาคม 254x
   วันนี้พวกเราได้ออกไปนอกโรงเรียนด้วยล่ะ ออกไปกับครูพิสุทธิ์ ครูบอกว่าจะพาไปงานเปิดนิทรรศการของครูเอง ไปดูรูปบนผ้าใบที่เราวาดกันวันก่อน เราก็ตาโตเลยทั้งสามคน เพราะตั้งแต่วาดเสร็จ ยังไม่เห็นเลยว่าภาพรวมมันเป็นยังไงแน่ ทั้งผม ทั้งเอ้ ทั้งเชษฐ์ ลงความเห็นพ้องต้องกันว่าคงดูได้ ไม่งั้นครูคงไม่เอาไปโชว์
   ครูพิสุทธิ์เห็นไม่ค่อยสบายอย่างนี้ แต่เวลาเดิน ครูเดินเร็วสุดๆ เลยล่ะ เราไม่ค่อยเห็นครูยืนหรือเดินไปเดินมาเท่าไหร่ เพราะปกติครูจะนั่งตลอด สั่งงานแล้วบางทีก็ลุกออกมานั่งดู ไม่เคยเห็นครูยืนดูเลย ก็เข้าใจว่าครูขาไม่ค่อยดี แต่สงสัยจะเข้าใจผิด เพราะครูเดินเร็วจริงๆ
   ครูเป็นคนผิวสองสี ไม่ถึงกับคล้ำจนดำนะ ผิวแบบคนไทยโบราณล่ะมั้ง หน้าตาเรียบร้อย และดูง่วงๆ ตลอดเวลา ครูไว้ผมยาวนะ แต่มัดเอาไว้ด้านหลัง ปกติครูจะใส่เสื้อผ้าฝ้าย คอกลมบ้างคอวีบ้าง แขนยาวแขนสั้นสลับกันไป แต่ไม่เคยเห็นครูใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อราชการแบบที่ครูคนอื่นใส่เลยล่ะ ครูสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ แต่ดูสูงกว่าความจริง เพราะครูผอมมาก แถมขายาวด้วย
   พวกเราเดินมาถึงรถครู เอ้ดึงมือผมเลยล่ะ กระซิบว่าโอ้โห รถเก่าแบบนี้แพงสุดๆ ครูขับรถเบนซ์มานะ แต่เป็นรถเบนซ์สมัยสักห้าสิบปีที่แล้วได้มั้ง เอ้ว่างั้น สภาพดีอย่างกับรถใหม่ ครูให้พวกเราเข้าไปนั่งในรถ รถครูไม่ใส่น้ำหอมล่ะ แต่ใส่ใบเตยไว้แทน หอมดีเหมือนกัน
   ครูขับรถพาพวกเราสามคนไปที่อาคารซึ่งครูจะใช้แสดงงานศิลปะ เอ้บอกว่าเรียกว่าแกลเลอรี พอจอดรถเสร็จ ยังไม่ทันลงจากรถ ก็มีคนมาต้อนรับล่ะ ท่าทางจะเป็นคนรู้จักของครูมั้ง เพราะเห็นเรียกครูว่าคุณน้อย
ครูนั่งอยู่ในรถสักพัก ท่าทางจะหน้ามืด คนที่เดินมาเลยเข้ามาช่วยพยุง คนที่มารับครูใส่เสื้อผ้าไหมสีออกไข่ไก่หน่อยนะ ตอนแรกมาคนเดียว แต่สักพักก็ทยอยออกมาอีกสามสี่คน ผมเริ่มรู้สึกว่าพวกนี้เหมือนบอดีการ์ดมากกว่าคนรู้จักกับครูแล้วละ เพราะเดินมาล้อมหน้าล้อมหลังครู ล้อมเราเข้าไปด้วย
   ครูเดินไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันถึง แสงแฟลตจากกล้องถ่ายรูปก็พุ่งวาบเข้ามาจนผมตาพร่าเลยล่ะ ได้ยินเสียงคนที่เดินล้อมพวกเราอยู่บอกว่าคุณน้อยไม่ชอบให้ถ่ายรูป เก็บกล้องลงก่อน พวกเราเห็นนักข่าวถือกล้องวีดีโอบ้าง กล้องถ่ายรูปบ้าง บางคนถือไมค์เตรียมสัมภาษณ์ เลยเดินตัวลีบตามหลังครูเหมือนลูกเป็ด เอ้กระซิบว่าพอได้ยินมาเหมือนกันว่าครูเป็นศิลปินที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ผมเห็นด้วยเลยล่ะ ก็ดูท่าทางครูสิ เหมือนคนดังตรงไหนกัน
   นักข่าวเดินตามหลังมา ตอนที่ครูพาพวกเราไปที่ห้องแสดงผลงาน โห.. ห้องกว้างมากเลยล่ะ แอร์เย็นเจี๊ยบ ผมเห็นครูทำท่าเหมือนจะหนาว แล้วคนที่ยืนล้อมเราอยู่ก็เอาเสื้อคลุมมาคลุมให้ครู ผมว่าครูร่างกายไม่ค่อยดีน่าจะบอกให้เขาลดแอร์ลงด้วยจะดีกว่า
   ครูใส่เสื้อคลุมแล้วหันมาหาพวกเรา ผมเห็นครูยิ้มหน่อยๆ ด้วย ท่าทางครูจะยิ้มไม่ค่อยเก่งน่ะ ครูบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปดูผลงานชิ้นเอกของเรา อยู่กลางห้องเลย เรามองหน้ากัน ดีใจใหญ่ ดีใจที่ได้โชว์ก็ดีใจนะ แต่ดีใจที่ในที่สุดจะได้เห็นงานของตัวเองมากกว่า
   แล้วครูก็พาเราเดินไปตรงกลางห้อง เราเห็นสแตนด์ขึงผ้าใบแล้ว แต่งานเรามีผ้าคลุมอยู่อีกที ครูเดินไปแล้วบอกให้เราสามคนดึงผ้าออก เราตื่นเต้นกันมากเลยล่ะ เพราะนักข่าวยืนตั้งกล้องรออยู่ด้านหลัง ผมมือสั่นเลยนะตอนจับผ้าที่คลุมอยู่น่ะ เราสามคนมองหน้ากันแล้วกลั้นใจดึงผ้าออก
   โห... ผมยืนอึ้ง นี่งานฝีมือพวกเราสามคนหรือนี่ ตอนแรกที่ผ้าหล่นลงมานะ แสงแฟลตวาบจนพวกผมเกือบจะมองภาพไม่เห็นเลยล่ะ ต้องรอพักหนึ่ง เราถึงถอยกันออกมา เราอยากเห็นภาพของเราชัดๆ น่ะ ผมเห็นเส้นที่เอ้วาด เห็นรอยประสีที่เชษฐ์ประเอาไว้ เห็นแผ่นกระเบื้องของตัวเองทับๆ กันอยู่ เห็นแล้วโคตรอายเลย เราถอยกันออกมาเรื่อยๆ นะ เพราะอยากเห็นงาน ได้ยินเสียงแว่วๆ ด้านหลังว่าให้นักข่าวถอยออกไปอีก หลีกทางให้เราดูผลงานตัวเอง
   ผมไม่ค่อยเข้าใจงานศิลปะนะ แต่ผมว่ามันดูดีทีเดียวล่ะ พอดูแล้วนึกออกเลยว่าเส้นตรงนั้นเอ้ลากมาเมื่อไหร่ รอยประตรงนี้เชษฐ์ทำตอน ไอ้ตอนวาดกระเบื้องแผ่นนั้นผมทำอะไรอยู่ เชษฐ์กระตุกมือผมแล้วบอกว่า นั่นไง เห็นรูปต้นไม้ที่มันซ่อนไว้มั้ย ผมมองไม่ออกนะ แต่แบบ เออ มันสวยดีน่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นฝีมือของพวกเราสามคน
   หลังจากนั้นครูพิสุทธิ์ก็เริ่มพูด ผมเพิ่งเห็นแกพูดมากก็วันนี้แหละ แกบอกว่ารูปนี้คือรูปที่แสดงให้เห็นถึงพลังที่แตกต่างกันของเด็กหนุ่มวัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงจากเด็กเข้าสู่วัยรุ่น เป็นวัยรอยต่อระหว่างความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ เป็นการวาดภาพโดยอาศัยแรงผลักดันจากจิตใต้สำนึกล้วนๆ ไม่มีการตีกรอบหรือวางแผนใดๆ ทั้งสิ้น ภาพที่ออกมาจึงสื่อออกมาจากจิตวิญญาณของผู้วาดโดยตรง เป็นธรรมชาติ ปราศจาการปรุงแต่ง และท่าทางที่พวกผมแสดงออกตอนที่เปิดภาพก็เป็นความจริงและความงามของความเป็นธรรมชาติของวัยรุ่นโดยแท้จริง ซึ่งคิดว่าหลายๆ คนที่ได้เห็นคงจะได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานเพิ่มขึ้น
   ผมเขียนคร่าวๆ นะ เพราะแกพูดได้งงกว่านี้อีก แต่ทุกคนก็ปรบมือนะ พวกเราเลยเขินกันใหญ่ ยืนเกาะกันกลมป๊อกอยู่ข้างครูนั่นแหละ ครูบอกว่าภาพนี้เป็นชื่อของพวกเราสามคน เป็นงานที่พวกเราสร้างร่วมกัน ขอให้ภูมิใจร่วมกันนะ เพราะถ้าไม่มีคนใดคนหนึ่งภาพคงไม่สวยแบบนี้ ผมเขินนะ ผมว่าผมน่ะวาดไม่เอาอ่าวสุดๆ ยังจะได้มาขึ้นโชว์กับเขาแบบนี้อีก
   จากนั้นพวกเราก็ถูกสัมภาษณ์ เขาสัมภาษณ์ครูก่อนแหละ แล้วค่อยมาสัมภาษณ์พวกเราต่อ ผมถึงได้รู้ว่าครูเพิ่งเปิดแสดงงานครั้งแรก หลังจากหายจากวงการไปนานเพราะอาการป่วยเรื้อรัง เห็นว่าครูเป็นโรคเกี่ยวกับเลือดหรืออะไรนี่แหละ ฟังไม่ค่อยชัดนะ คนที่มาสัมภาษณ์มีทั้งคนไทยและต่างชาติเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติเสียมากกว่า พวกเรายืนถ่ายรูปคู่กับผลงานของตัวเองจนเมื่อย ส่วนครูแอบหลบไปนั่งเฉยเลย ก็รู้หรอกว่าครูร่างกายไม่ค่อยดี แต่ช่วยทำอะไรกับนักข่าวพวกนี้ก่อนที่พวกผมจะปวดขาดีกว่านะ
   สงสัยครูจะได้ยินเสียงประท้วงในใจของพวกผม ไม่ก็เริ่มเห็นแล้วว่าพวกผมหน้าหงิก เพราะยืนนาน ครูเลยลุกขึ้น พอครูลุกเท่านั้นแหละ นักข่าวแห่ไปรุมครูทันที ถามถึงที่มาของผลงานชิ้นอื่นๆ ที่ร่วมแสดงอยู่ ซึ่งครูเป็นคนวาด นั่นแหละ เราถึงมีโอกาสได้เห็นงานครูจริงๆ เสียที
   ครูวาดภาพสวยจริงๆ รูปผีเสื้อกับดอกดาวเรืองที่ครูบังคับให้ผมมาวันก่อนผมว่าสวยแล้วนะ แต่เทียบกับงานที่แสดงอยู่ไม่ได้เลย สงสัยงานนั้นสำหรับครูคือการวาดเล่นล่ะมั้ง ครูมีทั้งงานลายเส้น และงานสี ที่สะดุดตาพวกผมคงจะเป็นงานสีบนกระดาษร้อยปอนด์ธรรมดาชิ้นหนึ่ง ซึ่งแสดงอยู่ไม่ไกลจากสแตนด์ผ้าใบของพวกผมมากนัก ครูให้ชื่อภาพนั้นว่าผลิบาน แต่ไม่ใช่ภาพดอกไม้นะ เป็นภาพพวกเราสามคนนี่แหละ แต่ครูไม่ได้เขียนภาพเหมือน เป็นเส้นกับสีปาดกันไปปาดกันมา ถึงอย่างนั้นพอรวมกันแล้วก็ดูออกว่าเป็นรูปที่วาดตอนที่พวกเราสามคนละเลงสีบนผ้าใบกันอยู่ แปลกดี มีแค่สีและเส้นง่ายๆ แค่นี้ แต่งานครูดูมีชีวิตชีวาอย่างประหลาดเลยล่ะ เหมือนว่าจะขยับได้เลย เอ้กับเชษฐ์มีความรู้ด้านศิลปะดีกว่าผม เลยตื่นเต้นกันใหญ่ บอกว่าครูเก่งจริงๆ ผมเพิ่งเห็นชื่อเต็มครูนะ เลยรู้ว่าครูเป็นมล.ด้วย ตายล่ะ ผมแอบบ่นครูในใจไปเยอะเลยว่าครูเพี้ยน แบบนี้จะโดนจับรึเปล่าเนี่ย
   ครูตอนแรกครูจะพาพวกเราไปกินอาหารที่ภัตตาคารแถวๆ นั้นแต่พอเดินเข้าไปเห็นพวกเราเกรงกันตัวลีบ เลยเปลี่ยนใจ ไปร้านอาหารธรรมดาๆ แทน ผมว่าครูน่ะเหมาะมาดเดินดินกินข้าวแกงมากกว่าคุณชายเสียอีกนะเนี่ย
   ผมกลับบ้านมาเล่าให้พี่นพฟัง พี่นพตื่นเต้นใหญ่ รีบเปิดทีวีรอ พอเห็นผมออกในข่าวศิลปะบันเทิงแวบๆ ก็โทรหาพี่นัท ชวนกันว่าวันเสาร์นี้จะพากันไปดูงานผม แหม..ผมก็เขินพวกพี่ๆ เหมือนกันนะเนี่ย ที่ได้โชว์แบบนี้เพราะพึ่งบารมีของครูพิสุทธิ์แท้ๆ
--------------------------------------------
   31 ธันวาคม 254x’
   จะปีใหม่อีกแล้ว ปีนี้ผมอายุสิบหกแล้วล่ะ เร็วดีจริงๆ ได้คุยกับพี่แนนบ่อยขึ้นแล้ว เพราะใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ต้องเสียค่าโทรทางไกล แถมได้เห็นรูปเจสซิกาด้วย โตขึ้นสวยวันสวยคืนเหมือนพี่ผมแล้ว ส่วนพี่หนิงเพิ่งมาเจ้าแป๋มหลานผมมาเยี่ยมเมื่อวาน แวบๆ ก็จะสามขวบแล้วล่ะ เวลานี่มันผ่านไปเร็วจริงๆ นะ ผมเริ่มหันมามองพี่นพ พี่นพยังไม่มีแฟนเลย ผู้หญิงสักคนผมก็ยังไม่เห็น นี่พี่นพจะครองตัวเป็นโสดเลี้ยงผมไปจนอายุสามสิบหรือไงนะ ผมอยากให้พี่แต่งงานแต่งการสักที อยากเห็นหลาน อยากเป็นอาบ้างแล้วล่ะ
   ส่วนตัวผมก็ยังเรื่อยๆ คิดถึงครูต้าบ้างบางครั้ง สำหรับผม ครูต้าเป็นความทรงจำที่ดีเสมอแหละ ไม่รู้ว่าอนาคตผมจะรักใครและมีใครรักผมได้แบบครูรึเปล่า
----------------------------------------------------
   17 มกราคม 254x
   วันนี้วันอะไรของผมนะ เอ้ไม่มาโรงเรียน เพราะไม่สบาย มันโทรบอกผมแล้วว่าให้จดงานเผื่อด้วย เห็นไหมล่ะ มันก็ขยันเรียนเหมือนกัน ไม่เหมือนกับที่ครูๆ ชอบบ่นกันเสียหน่อย ผมเลยต้องไปกินข้าวกับเด็กผู้หญิงอีกกลุ่มที่เดินมาชวน ไม่ค่อยสนิทหรอก แต่พอคุยกันได้
   เดินลงบันไดมาดีๆ นี่แหละ พี่ม.5มีเรื่องอะไรกันไม่รู้ ไล่ตีกันมาแล้วหนีขึ้นบันได ชนผมเกือบตกบันได เพื่อนผู้หญิงกรี๊ดกันใหญ่เลย พอทรงตัวได้ อะไรบางอย่างแข็งๆ ก็ปลิวมากระแทกหัวผม ผมตาพร่าเลยล่ะ คราวนี้ได้ยินเสียงเพื่อนผู้หญิงร้องกันวุ่นวาย บอกว่าผมหัวแตก แต่ผมตกใจกว่าอีก ไม่ได้เจ็บนะ แต่ตอนนั้นมันมองอะไรไม่เห็นไปพักหนึ่งเลยล่ะ คิดว่าตาบอดแล้ว ได้ยินเสียงพี่ม.5ตะโกนว่า ห่าเอ๊ย ปาไม่ดูตาม้าตาเรือ โดนน้องหัวแตกแล้ว ผมยกมือขึ้นลูบหัวนะ แล้วก็รู้สึกเปียกๆ ตกลงนี่ผมหัวแตกจริงๆ หรือนี่ สักพักตาผมก็เริ่มมองเห็น ข้างหนึ่งน่ะเลือดเข้าไปจนแดงเถือกแล้วล่ะ ขณะกำลังยืนงงๆ พี่ผู้ชายคนหนึ่งก็มาจับแขนผม แล้วพาผมไปห้องพยาบาล
   ปรากฏว่าผมหัวแตกเป็นแผลยาวเลยล่ะ ครูที่ห้องพยาบาลห้ามเลือดให้แล้วจะเรียกรถพยาบาลมารับผมไปเย็บแผลต่อ ผมบอกครูว่าอย่าเพิ่งโทรบอกผู้ปกครองผม เพราะกลัวพี่นพจะเป็นห่วง ไม่เป็นอันทำงานอีก เดี๋ยวผมจะโทรบอกเองตอนถึงเวลาแล้ว ปรากฏว่ายังไม่ทันที่ครูจะเรียกรถพยาบาล ครูคนหนึ่งก็เดินเข้ามาแล้วถามว่าจะไปโรงพยาบาลมีอะไรจะฝากบ้างรึเปล่า ครูจะออกไปตรวจร่างกายตามใบนัดหมอ ครูที่ห้องพยาบาลก็จับผมส่งให้ครูคนนั้นเลย พอผมเงยหน้าขึ้นมองก็เพิ่งเห็นว่าเป็นครูพิสุทธิ์ ครูพิสุทธิ์มองผมครู่หนึ่ง ท่าทางแกจะตกใจอยู่เหมือนกัน เลยรีบจูงผมไปที่รถ แล้วบึ่งรถไปโรงพยาบาลเลย เออ เห็นเฉื่อยๆ อย่างนี้น่ะ แกขับรถเร็วไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ
   ผมไปถึงห้องฉุกเฉินด้วยอาการปวดหัวร้าวระบมไปหมด เจ็บจนกัดฟันกรอดๆ หมอแกะผ้าพันแผลออกแล้วฉีดยาชา จากนั้นก็เย็บแผล พอยาชาออกฤทธิ์ ผมก็สบายขึ้นมาหน่อย จริงๆ จะบอกว่าเจ็บน้อยลงแล้วมึนๆ แทนจะดีกว่า
   เย็บแผลเสร็จหมอบอกให้ผมนั่งสักพักค่อยลุกเดิน เพราะเสียเลือดไปเยอะเหมือนกัน ผมก็เลยนั่งตรงเก้าอี้แถวนั้นตามที่หมอบอก เล็งๆ ตู้โทรศัพท์ใกล้ๆ ว่าเดี๋ยวหายมึนแล้วจะเดินไปโทรหาพี่นพ แล้วครูพิสุทธิ์ก็เดินมาทัก ผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าแกเป็นคนขับรถพาผมมา ผมเลยรีบยกมือขอบคุณ แกเลยถามว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ผมเงยหน้าขึ้นมองครู เพิ่งรู้ว่าครูก็ถามอะไรแบบคนปกติได้เหมือนกันน่ะ คือผมไม่ได้ไม่ชอบใจอะไรครูเป็นการส่วนตัวหรอกนะ เพียงแต่ไม่ค่อยชินกับวิธีการพูดของครู เลยไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ ผมบอกครูว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่หัวแตก เย็บไปสี่เข็ม ครูถามว่าไปโดนอะไรมา ผมเลยเล่าเรื่องที่รุ่นพี่ทะเลาะกันให้ฟัง ครูนั่งฟังแล้วพยักหน้า บอกว่าวันหลังระวังๆ หน่อย อืม... ผมเพิ่งรู้ว่าครูพูดแบบคนปกติได้ก็วันนี้แหละ
   แล้วครูก็ถามว่าโทรให้ใครมารับแล้วหรือยัง ผมบอกว่ายัง กำลังจะโทรให้พี่ชายมารับ ครูเลยบอกว่าครูไปส่งให้ก็ได้ ไหนๆ ก็มาด้วยกันแล้ว ผมเกรงใจครูนะ แต่ว่าพี่นพยังไม่เลิกงานเลย สุดท้ายผมเลยยอมให้ครูไปส่ง
   ตอนขึ้นรถผมนึกได้ว่าครูมาหาหมอ เลยถามว่าครูหาหมอแล้วหรือยัง ครูบอกว่าเรียบร้อยแล้ว ผมเลยถามต่อว่าครูไม่สบายเป็นอะไร ครูบอกว่าเป็นโรคเลือดจาง กับเกล็ดเลือดต่ำ เป็นทางกรรมพันธุ์ มิน่าล่ะ ถึงได้เห็นครูตัวซีดๆ อยู่ตลอดเลย ผมถามครูว่าแล้วขับรถเองแบบนี้ที่บ้านไม่เป็นห่วงเหรอ เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าเทอมก่อนก็เห็นครูทำท่าจะเป็นลมหนหนึ่งแล้ว ครูบอกว่าก็ห่วง แต่ครูอยากขับรถเอง ผมว่าครูแอบดื้อเหมือนกันนะเนี่ย
   ครูขับรถมาส่งผมที่บ้าน ก่อนจะออกรถครูถามอีกนะว่าไม่เป็นอะไรแล้วแน่นะ ผมเลยบอกครูว่าไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ครูขับรถกลับดีๆ นะ อย่าขับเร็วมาก เผื่อเป็นลมไปจะได้ไม่อันตราย ครูหัวเราะล่ะ ไม่ได้หัวเราะเสียงกิ๊กกั๊กแล้วยิ้มจนเห็นฟันแบบครูต้านะ ครูพิสุทธิ์หัวเราะหึๆ ในคอแล้วยิ้มตรงมุมปาก ผมว่าครูนี่แปลกสุดๆ เลยล่ะ
   สักพักผมก็โทรหาพี่นพ กันโดนพี่นพด่าว่าทำไมไม่ยอมโทรบอก พี่นพก็โมโหใหญ่ บอกว่าทำไมโรงเรียนปล่อยให้เด็กทะเลาะกันขนาดนี้ พี่จะไปโรงเรียนเลยล่ะ ผมเลยขอไว้เพราะมันเป็นแค่ลูกหลงเอง ไม่ใช่เรื่องราวอะไรใหญ่โตหรอก ได้ยินเสียงพี่นพครางฮือแล้วบอกผมว่าเดี๋ยวไว้จะรีบกลับบ้านไปดู ถ้าปวดหัวก็กินยาแก้ปวดไปก่อน แล้วก็นอนพักซะ พี่ทำอย่างกับผมเป็นหวัดเลยแน่ะ
----------------------------------------------
   26 มกราคม 254x
   ผมตัดไหมบนหัวแล้วล่ะ เอ้บ่นอุบมาตลอดอาทิตย์เลยว่ามันจะต้องหาคนที่ปาก้อนหินใส่ผมจนหัวแตกให้เจอให้ได้ ผมล่ะปวดหัวกับมันจริงๆ ห้ามพี่นพไม่ให้มาโรงเรียนได้แล้วก็ต้องมาห้ามเพื่อนตัวเองไม่ให้ไปหาเรื่องคนอื่นต่ออีก ผมบอกมันว่าเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุ แล้วก็ให้มันแล้วกันไปเถอะ มันเลยบอกว่าผมพูดอย่างกันคนแก่ ผมว่าแก่ไม่แก่ไม่เห็นจะเกี่ยวสักหน่อย ผมแค่ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตเท่านั้นเอง
   วันนี้มีเรียนวิชาครูพิสุทธิ์อีกแล้ว แต่คราวนี้ครูไม่แกล้งผมด้วยการทำมือทำไม้หรือพูดแปลกๆ แล้วล่ะ ครูเอายามาให้ผมตลับหนึ่ง บอกว่าทาแผลก่อนนอนจะได้ไม่เป็นแผลเป็น ผมว่าครูเริ่มเหมือนคนปกติขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้ว เลยบอกขอบคุณครู จริงๆ แล้วครูก็ใจดีหรอกนะ วันที่ผมหัวแตกก็อุตส่าห์บึ่งรถไปส่ง แถมรับกลับมาส่งบ้านด้วย วันนี้ก็เอายามาให้อีก ครูแค่อาจจะนิสัยแปลกกว่าคนปกติเท่านั้นเอง
   วันนี้ครูให้เราวาดรูปของเพื่อนอีกคน ในแบบที่เราคิด ผมกับเอ้หันมองหน้ากัน แล้วค่อยมองหน้าเชษฐ์ มีนักเรียนแค่สามคนสงสัยจะจับคู่วาดไม่ได้แน่ เราเลยตกลงกันว่า เอ้จะวาดผม ผมจะวาดเชษฐ์ ส่วนเชษฐ์จะวาดเอ้อีกที เออ คงจะตลกดีพิลึก
   ครูพิสุทธิ์นั่งอยู่ในห้องพักครู คงสเกตช์ภาพพวกเราอยู่ เพราะผมเห็นครูถือดินสอก้มๆ เงยๆ อยู่ที่โต๊ะ พอเห็นผมหันไปครูก็ยิ้มที่มุมปากอีกแล้ว ผมเลยรีบหันหน้ากลับมาวาดรูปต่อ เอาเถอะ ครูไม่อยากให้พวกผมรู้ตัวผมก็จะทำเป็นไม่รู้ตัว ยังไงครูก็วาดรูปสวยสุดๆ อยู่แล้ว วาดอะไรออกมาก็สวยทั้งนั้นแหละ
    พวกเราสามคนวาดรูปกันออกมาตลกสุดๆ เอ้วาดผมเป็นแมว ส่วนผมวาดเชษฐ์เป็นดอกดาวกระจาย ส่วนเชษฐ์วาดเอ้เป็นรูปเหลี่ยมๆ ซ้อนๆ กันอย่างกับรูปปิกัสโซ่ เราเห็นรูปของแต่ละคนแล้วก็ขำกลิ้ง ถามเหตุผลว่าทำไมถึงวาดแบบนี้ เอ้บอกว่าผมอ่ะเหมือนแมว เออ ผมไม่เถียงก็ได้ เพราะหลายคนก็บอกผมแบบนี้เหมือนกัน ส่วนผมนะ ผมว่าเชษฐ์ชอบปิ้งไอเดียนั่นไอเดียนี่ แถมชอบใช้สีแปลกๆ ผมเลยวาดเป็นต้นดอกดาวกระจาย เพราะยิ่งงอกยิ่งกระจาย ส่วนเชษฐ์บอกว่า ที่วาดเอ้เป็นเรขาคณิตเพราะเอ้เป็นคนเถรตรง ตรงนี้ผมกับเอ้ขำกลิ้ง เออ จะว่าถูกมันก็ถูกล่ะนะ เอ้มันเถรตรงจริงๆ ย้อมหัวทองมาตั้งแต่วันแรก ไม่ตรงไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว สงสัยจริงๆ ว่าตอนมาสอบเข้ามันย้อมด้วยรึเปล่า
   ครูพิสุทธิ์รับงานไปแล้วก็เก็บใส่แฟ้มเรียบร้อยอีกเช่นเคย บอกว่าพวกเราเรียนจบหรือถอนวิชาแกเมื่อไหร่ แกจะให้คืนไปเป็นที่ระลึก เอ้บอกว่าเจอกันยาวแน่ครู ผมเรียนยาวไปถึงม.6แน่นอน เชษฐ์ก็กะยิงยาวไม่ต่างกัน ส่วนผมได้แต่ยิ้มๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนวิชาแกไหวไปได้อีกกี่เทอม ก็ผมวาดรูปไม่เก่งนี่นา
---------------------------------------------------------------------
   14 กุมภาพันธ์ 254x
   ผมแอบเซ็งวันนี้นิดหน่อย เพราะเมื่อสองปีก่อนวันนี้เป็นวันที่ผมขอคบครูต้า แล้ววันนี้เมื่อปีก่อนเป็นวันที่ครูต้าบอกผมว่าครูจะย้ายโรงเรียน ก็เหมือนกับวันบอกเลิกนั่นแหละ ปีนี้ผมเลยไม่ตื่นเต้น ใครจะให้ดอกไม้ใครก็ให้ไปเหอะ แต่โรงเรียนสหฯนี่ดอกไม้ขายดีกว่าโรงเรียนชายล้วนอีกนะ ผมเห็นเด็กผู้หญิงบางคนหอบดอกไม้เป็นถุงๆ เลยล่ะ พี่ม.5บางคนถือแบบที่เป็นช่อใหญ่ๆ มาเลย ส่วนผม ได้บ้างนิดหน่อย จากเด็กผู้หญิงนะ ชีวิตผมคงจะเริ่มปกติกับชาวบ้านเขาบ้างแล้วมั้ง เอาไว้เอาไปอวดพี่นพดีกว่า พี่นพจะได้สบายใจ เลิกเพ่งเล็งว่าผมจะชอบเพื่อนผู้ชายเสียที
   ผมเอาดอกกุหลาบเหน็บไว้กับกระเป๋า เสื้อก็พอมีหัวใจติดอยู่บ้างหรอก แต่ไม่ขนาดสมัยเรียนม.ต้น ที่นี่เขาเน้นให้ดอกกุหลาบกันมากกว่า วันนี้เอ้โดนเรียกไปห้องปกครองอีกแล้ว สาเหตุเพราะมันใส่ตุ้มหูมาเรียน ผมจำได้ว่าเทอมนี้มันโดนเรียกเรื่องนี้สามครั้งแล้วล่ะ แต่มันก็ยังแอบใส่มานะ มันบอกว่าชอบ ถอดนานๆ แล้วเดี๋ยวลืม รูที่เจาะไว้มิดต้องไปเจาะใหม่อีก ผมก็ว่ามันน่าจะเจ็บ แอบสงสารมันนิดหน่อยเหมือนกันที่ต้องใส่ๆ ถอดๆ มันรอให้เรียนจบก่อนแล้วค่อยเจาะไม่ได้หรือไงนะ
   ผมเดินเตร็ดเตร่มาจนถึงน้ำตกเทียมหน้าห้องพักอาจารย์ศิลปะ วันนี้เรียนวิชาครูพิสุทธิ์อีกแล้วล่ะ แต่ผมมาก่อนเวลา เพราะเอ้ไปห้องปกครอง ปกติผมมานั่งแถวนี้แล้วจะรู้สึกสบายใจนะ ถึงจะแอบกลัวความแปลกของครูพิสุทธิ์นิดหน่อยก็เถอะ แต่วันนี้น้ำตกมีแต่คู่รักเกิดใหม่หรืออาจจะรักกันมาสักพักหนึ่งแล้วนั่งกันเต็มไปหมด ผมเห็นแล้วแสลงใจพิกล เลยคิดว่าจะไปเข้าห้องสมุด แต่พอเดินผ่านห้องพักครูเห็นครูพิสุทธิ์นั่งอยู่ เลยเปลี่ยนใจเดินเข้าไปหาแกแทน เพราะนึกขึ้นได้ว่าจะบอกขอบคุณเรื่องยาที่ให้มาวันก่อน ทาแล้วแผลยุบและเรียบเร็วจริงๆ นั่นแหละ
   ครูพิสุทธิ์เงยหน้าขึ้นมองผมครั้งหนึ่งตอนผมเปิดประตูเข้าไป แล้วแกก็ก้มลงไปวาดรูปของแกต่อ ประตูห้องครูเป็นกระจกใสน่ะ มองจากข้างในจะเห็นข้างนอกชัดเลย แต่มองจากข้างนอกบางทีมีแสงสะท้อนเลยทำให้มองไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ผมรู้ว่าครูอยู่เพราะเปิดไฟเอาไว้นี่แหละ
   ผมเข้าไปก็บอกขอบคุณแกเรื่องยา คราวนี้ครูวางดินสอ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม เรียกผมให้ก้มลงไปใกล้ๆ แล้วเอาปลายนิ้วลูบหัวผมตรงที่เป็นแผล เออ มือครูนุ่มโคตร สมกับเกิดมาในตระกูลผู้ดีเลยล่ะ ครูบอกว่าดีแล้วที่ไม่เป็นแผลเป็น ยาที่ให้ไปก็เก็บให้ดีล่ะ เขาไม่ผลิตออกมาแล้ว ผมพยักหน้า แล้วครูก็ขยับรูปที่อยู่บนโต๊ะมาให้ผม เอ่อ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเห็นครูวาดรูปนะ ผมเคยเห็นแล้ว รูปผมเองเอ้ก็วาดให้บ่อยๆ แต่เพิ่งเคยเห็นครูวาดรูปผมนี่แหละ
   รูปที่ครูส่งให้เป็นรูปหน้าผมเลย กำลังยิ้มอยู่ มองตรงด้วยนะ ผมแอบใจเต้น ครูวาดหล่อกว่าตัวจริงเกินไปแล้วล่ะ หน้าผมไม่หล่อขนาดนี้หรอก ครูบอกว่าเอาไปสิ ครูให้ แล้วก็หยิบยางลบขึ้นมาลบรอยเลอะตรงหน้าผากออก นี่ครูวาดกระทั่งรอยแผลบนหัวผมด้วยเหรอเนี่ย ผมรู้สึกเขินขึ้นมาเลยนะตอนนั้นน่ะ พอครูลบเสร็จก็รีบหยิบรูปขึ้นมาม้วน ครูเลยตีมือทีหนึ่งแล้วบอกว่าเก็บให้มันดีๆ สิ ถ้าไม่อยากได้ก็บอก จะได้เผาทิ้ง โห.. ครูพูดจาน่ากลัวแบบนี้อีกแล้ว ผมเลยรีบเปิดกระเป๋า หยิบแฟ้มขึ้นมาแล้วเอารูปใส่ลงไป พอเงยหน้าก็เห็นครูยิ้มที่มุมปาก หรือว่าครูจะกระตุกปากได้แค่นี้นะ ผมทำใจดีสู้เสือ ยิ้มให้ครู แล้วบอกว่าขอบคุณมากนะครับ ครูก็พยักหน้า แล้วถึงได้ถามว่าทำไมวันนี้มาคนเดียว ผมเลยเล่าเรื่องเอ้ให้ครูฟัง ครูเลยถามผมว่าที่ลงทะเบียนเลือกวิชาเพราะตามเพื่อนหรือ ผมก็ตอบว่าใช่ ครูก็เลยบอกว่าถ้าเทอมหน้าไม่อยากลง ไปลงตัวอื่นก็ได้ เพราะเทอมหน้าเขาจะเปิดตัวหนึ่งใหม่อีกหลายวิชา ผมเกรงใจครูนะ เลยบอกก่อนว่าไม่แน่ผมอาจจะลงต่อ เพราะวิชาครูสนุกดี ครูยิ้มที่มุมปากอีกแล้วล่ะ ผมว่าครูยิ้มได้แค่นี้แน่เลย ผมเลยถามครูว่าทำไมถึงมาสอนศิลปะล่ะ ครูก็ทำหน้างง ผมเลยรีบพูดต่อว่าทำไมครูไม่เป็นศิลปินเต็มตัวไปเลย มาสอนเด็กอย่างพวกผมไม่เบื่อหรือ ครูว่าครูชอบนะ ได้เห็นจินตนาการของเด็กๆ แล้วครูมีแรงบันดาลใจ ผมไม่ค่อยเข้าใจครูนักหรอก แต่ก็พยักหน้า
   กลับมาบ้านผมหยิบรูปที่ครูวาดขึ้นมาจากกระเป๋า ผมรู้ว่าครูเป็นคนแปลกนะ ผมรู้ว่าครูชอบวาดรูป สงสัยจะเพราะว่าครูเป็นคนดังมาวาดรูปให้ผม ผมเลยใจเต้นเป็นพิเศษล่ะมั้ง แต่ทำไมไม่รู้ ผมแอบคิดว่าครูจะจีบผมล่ะ ผมนี่เพ้อเจ้ออีกแล้ว
-------------------------------------------------------
**
อีกประมาณสามตอนน่าจะถึงตอนคุณนพเจอกับคุณไพฑูรย์นะคะ จริงๆ ฉันเขียนถึงแล้วล่ะค่ะ แต่รู้สึกว่ามันห้วนสุดๆ เลยแก้อยู่....ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ^^

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อีกสามตอนเลยเหรอ  โห  แต่อ่านไดอารี่ของนพแล้วน่ารักจังเลยค่ะ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
กรี๊ดดด กรีดร้องงงง ครูพิสุทธิ์เป้นครูที่ได้ใจเราสุดๆ ชอบบบ อาร์ตแบบนี้อ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
นพน่ารักอ่ะ เป็นเด็กน่ารักตรงๆใสซื่อ
ไม่งั้นคงไม่แซะจนจีบแฟนแต่ละคนติดหรอก โฮ่ย น่ารักไปนะเนี่ย

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
อีก 3 ตอนแน่ะ เค้าอยากอ่านตอนเจอลุงอ่า แง๊วๆ รอต่อปายยย  :z3:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
โดนครูจีบอยู่แน่ ๆ เลยนพ...ให้เดานะ รูปส่วนใหญ่ที่ครูวาดในห้องต้องเป็นรูปนพแน่เลย :o8:
เฮ้อ...กว่าจะเจอคุณไพฑูรต้องอกหักกี่ครั้งเนี่ย  :sad4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
นพอยู่ม.ปลายแล้ว
แลมีแนวโน้มว่าก่อนจะจบม.หก
จะต้องมีแฟนเป็นครูอีกคนแน่เลย

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
กินเด็กหรือหลอกเด็ก  :impress2: ก็ชอบ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกรักและเอ็นดูนพรัตน์มากขึ้นทุกวัน
เด็กอะไรรู้คิด คิดโตกว่าอายุจริงๆ สงสัยคนที่เคยเลี้ยงดูเค้าตอนเด็กๆ
ต้องเป็นคนดีมากๆ แล้วต้องให้ความรัก ความอบอุ่น ความเข้าใจ อย่างเต็มที่
นพรัตน์ถึงได้ออกมาในรูปแบบ แบบนี้น่ะ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ครูมีโรคประจำตัวเยี่ยงนี้ มีอะไรกะนพจะเป็นไรมั๊ยอ่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อ่านไปอ่านมา ทำท่าว่า เริ่มจะหลงเสน่ห์ ครูพิสุทธิ์ แล้วละทำไงดี   :-[

สงสัยงานนี้ เปี๊ียก โดนจีบไม่รู้ตัวละมั้ง

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
น้องขึ้นมอปลายแล้ว แต่ก็ยังใสเหมือนเดิม
ยิ่งโตขึ้น ความซื่อใสเนี่ยยิ่งเป็นสเน่ห์เลยนะ
ตามติดชีวิตน้องนพต่อไป :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BiGgYDrIb

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ครูพิสุทธิ์นี่ คล้ายๆคุณไพฑูรย์เลยนะ นิ่งๆขรึมๆหน่อย แต่จริงๆแล้วก็ใจดี ไม่มีอะไร

MokGaLaKom

  • บุคคลทั่วไป
ท่าทางนพจะได้แฟนอีกคนแล้วซิ
อ่าๆ ครูพิสุทธิ์แน่เลยที่นพบอกว่าครูไปแต่งงาน

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ชื่นชมคนแต่งมากๆเลยค่ะ มันยาวได้ใจอ่านกันเพลินไปเลย

มีลูกมีหลานอยากได้แบบน้องนพจริงๆ ถึงจะรักคนแก่ก้อเถอะ

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :laugh:

อีก3ตอน

รวบรัดได้ไหมครับ 555

อย่างอ่านตอนนั้นไวไวอ่ะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
นพนี่ดวงสมพงษ์กับครูสินะ ^^

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
น่ารัก ใสๆ ได้อีกอ่ะคุณนพ
หวายย ใกล้จะได้อ่านตอนเจอคุณไพ แล้ว
อิอิ

ออฟไลน์ MimicClub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-3
 :o8:  รักนพจังเลย นพน่ารักจัง คนแต่งขยับนทำงาน+ ให้จ้า

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ครูพิสุทธิ์ชอบนพแน่เลย(?) นพเองเริ่มชอบครูพิสุทธิ์แล้วแน่ๆ
ชอบอ่านไดอารี่ของนพอ่ะ ยินดีให้มีอีกหลายๆตอน จะได้รู้จักนพเยอะๆ ^^



+ และ :กอด1:

yun

  • บุคคลทั่วไป
ไดอารี่ของเจ้าเปี๊ยก ยิ่งอ่านไปอ่านมา ก็ยิ่งชอบ
เหมือนแมวอ้อนๆ 
พี่นพก็น่ารัก และก็เป็นครอบครัวที่รักกันดี

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
แต่เราชอบนะ ไม่เบื่อ ไปเรื่อยๆได้เลยค่ะ ชอบอ่านมุมของนพ น่ารักดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด