กระทู้นี้ผมตั้งใจจะรวมเรื่องสั้นหลายๆอารมณ์ไว้นะครับ (หวังว่าน่าจะได้หลายอารมณ์นะ)
อาจจะตอนเดียวบ้าง สองตอนบ้าง แต่จะพยายามไม่ให้ยาวจนเกินไป
อาจจะได้เห็นมุมมองอื่นๆหลายๆมุมของความรักดู..........
ยังไงก็แนะนำติชมได้นะครับ เพราะนี่เป็นการท้าท้ายตัวผมเองที่เขียนอะไรก็ออกมายาวๆทุกทีประจำเองด้วย
ขอบคุณค้าบบบ
จะเก็บมันเอาไว้ไม่ให้มีวันลบเลือน........เมื่อครั้งแรกที่ผมรู้จักกับพี่เอกนั้นผมอายุได้ราวๆสิบปี เขามีอายุมากกว่าผมสองปีและเป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวที่อาศัยอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านใหม่ของผม ตั้งแต่แรกที่ผมได้รู้จักกับเขานั้นเราก็เข้ากันได้ดีมาก แต่ที่จริงแล้ว ผมคิดว่าผมนั้นตกหลุมรักเขาไปแล้วเลยมากกว่า เพียงแต่ว่าผมยังเด็กเกินไปที่จะรู้ตัวก็เท่านั้นเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสองปี ผมก็เริ่มที่จะรู้แล้วว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อเขานั้นจริงๆแล้วมันคืออะไร.........
เมื่อตอนที่พี่เอกอายุสิบสี่ เขาก็สูงถึงร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร บวกกับการที่เขาเป็นคนหน้าตาดีมากอยู่แล้ว มันจึงไม่แปลกเลยที่ผมจะยิ่งรู้สึกหลงใหลในตัวเขามากขึ้นไปอีก เขาเป็นนักกีฬาโรงเรียนและเรียนดี เขาคือต้นแบบทุกๆอย่างสำหรับผมที่ผมฝันอยากจะโตขึ้น เราสองคนเป็นเพื่อนเล่นและเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก เขามักจะมาเที่ยวเล่นและค้างคืนที่บ้านของผมอยู่บ่อยๆ เขาเป็นคนที่ใจดี อบอุ่น และเป็นผู้นำมาก ผมไม่เคยรู้สึกอยู่ใกล้กับผู้ชายคนไหนแล้วจะรู้สึกมีความสุขและถูกปกป้องได้เท่ากับเวลาที่ผมอยู่ใกล้กับพี่เอกเลย และที่ยิ่งไปกว่านั้น พี่เอกเองก็ดูเหมือนจะรักผมมากด้วยเช่นกัน เขามักจะชวนผมไปเที่ยวเล่นและคอยดูแลผมอยู่ตลอด นอกจากนั้นแล้วเขายังไม่เคยมีท่าทีรำคาญหรือไม่พอใจเวลาที่ผมไปป้วนเปี้ยนอยู่กับเขาเลยด้วย
พ่อกับแม่ของผมก็รู้ดีว่าผมนั้นสนิทกับเขามาก จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อของผมก็เดินเข้ามาพูดคุยกับผมในเรื่องนี้
“ลูกชอบเขามากเลยใช่มั๊ย อาร์ท”
ผมรู้สึกว่าใบหน้าของผมร้อนผ่าวขึ้นมาทันที “ครับพ่อ พี่เขานิสัยดีออกจะตาย”
“เขาก็ดูเป็นเด็กดีจริงๆล่ะนะ แล้วเขาดีกับลูกมากรึเปล่า”
“ดีมากเลยครับพ่อ เขาเป็นเหมือนกับพี่ชายแท้ๆของผมเลยล่ะ”
“นั่นก็ดีแล้ว แต่พ่ออยากจะบอกลูกอย่างนึงนะว่า พ่อดีใจที่ลูกมีเพื่อนเล่นที่ดี และอย่างที่ลูกคิด ลูกอาจจะนับถือเขาเป็นเหมือนพี่ชายของลูกเลยทีเดียว พ่อกับแม่ไม่ว่าในเรื่องนั้นหรอก เพราะว่าเราก็ไม่สามารถที่จะมีน้องชายหรือน้องสาวมาเป็นเพื่อนเล่นให้กับลูกได้อีกแล้ว แต่ว่าจำเอาไว้นะลูก เอกน่ะ เขากำลังโตขึ้นเรื่อยๆ เขาเองก็คงเห็นลูกเป็นเหมือนน้องชายคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ในขณะที่เขากำลังโตขึ้นอยู่นี่ สักวันนึงเขาก็อาจจะไปมีกลุ่มเพื่อนของเขา อาจจะไปให้ความสนใจในเรื่องอื่นๆมากขึ้น อาจจะเริ่มคบกับเพื่อนผู้หญิง และคงมีเวลามาเล่นกับลูกน้อยลง ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กผู้ชายอยู่แล้ว ลูกเข้าใจในเรื่องนี้มั๊ย”
ผมไม่คิดว่าผมจะเข้าใจมันเท่าใดนัก แต่ผมก็พยักหน้าตอบพ่อกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
และแล้วในคืนหนึ่ง จุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงผมกับเขาไปตลอดกาลก็เกิดขึ้น คืนนั้นพี่เอกมานอนกับผมที่บ้านเหมือนตามปกติ เราพูดคุยกันในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องโรงเรียน เรื่องกีฬา เรื่องเพื่อน และสุดท้ายเราก็วกเข้ามาถึงเรื่องผู้หญิง....... หรือเรื่องทางเพศนั่นเอง พี่เอกอธิบายให้ผมฟังถึงสิ่งที่ผมเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง ผมไม่กล้าที่จะถามพ่อของผมหรอก และผมก็ไม่เคยกล้าที่จะถามพี่เอกในเรื่องนั้นด้วย แต่เมื่อเราเริ่มคุยกันเรื่องพวกนี้ ผมก็มีความกล้าที่จะซักถามถึงข้อสงสัยของผมเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“มันเป็นเรื่องธรรมดาน่า ตอนพี่อายุเท่าเรา พี่ก็มีขนขึ้นตรงนั้นเหมือนกัน”
“แล้วมันจะหยุดยาวขึ้นมั๊ยอ่ะครับ” ผมถามออกไป “ผมต้องคอยตัดมันเหมือนตัดผมรึเปล่า”
พี่เอกหัวเราะออกมาทันที “ไม่ต้องหรอก อาร์ม แต่ถ้าอยากจะตัดจะเล็มให้มันดูดีขึ้นก็ทำได้ พี่เองก็เล็มมันเหมือนกัน”
“จริงเหรอ พี่เอกตัดขนตรงนั้นจริงๆเหรอ แล้วทำยังไงอ่ะ ไม่กลัวกรรไกรตัดพลาดไปโดนไอ้นั่นเข้าเหรอ”
“ไม่โดนหรอก เวลาจะทำอะไรกับตรงส่วนนั้นน่ะ เราก็ต้องระมัดระวังให้มันดีๆสิ นั่นน่ะ เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของผู้ชายเลยนะ ไม่ว่าจะตอนล้าง ตอนทำความสะอาดก็ต้องดูแลให้ถูกวิธี ไม่งั้นผู้หญิงก็คงไม่ชอบกันพอดี”
ตอนนั้นผมไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่พี่เอกพูดเท่าใดนัก ผมถามคำถามเขาออกไปหลายอย่าง พี่เอกก็คอยตอบและอธิบายเรื่องเพศให้ผมฟังหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสุขอนามัย เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ของชายและหญิง และการหลั่งน้ำอสุจิเวลาช่วยตัวเองอีกด้วย ขณะที่ผมฟังสิ่งที่พี่เอกเล่านั้น ผมก็รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆที่อยู่ภายใต้กางเกงนอนของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะบอกหรือแสดงออกให้เขารู้ ผมจึงได้แต่นอนคว่ำแล้วก็เก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้จนกระทั่งผมผล็อยหลับไป
ในคืนหนึ่งสองสามวันหลังจากนั้น ผมก็กล้าถามสิ่งที่ผมสงสัยอยู่ออกไปจนได้ และสิ่งหนึ่งก็นำพาไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง พี่เอกถอดกางเกงโชว์อวัยวะส่วนนั้นของเขาให้ผมดู จากนั้นเขาก็เอื้อมมือมาดึงกางเกงของผมลงไปแล้วก็สอนวิธีชักว่าวให้กับผม ตอนแรกผมก็ไม่กล้าที่จะจับของเขา แต่เมื่อพี่เอกอนุญาต เราสองคนก็ช่วยกันทำให้กันและกันจนผมได้รู้จักกับการหลั่งออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต
“รู้สึกยังไงบ้าง” พี่เอกถามพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ซึ่งมันช่วยให้ผมรู้สึกคลายกังวลไปได้มากเลยทีเดียว
“มัน..... มันรู้สึกแปลกๆนะครับตอนที่น้ำนี่มันจะออกมาอ่ะ แต่ก็เสียวสุดยอดไปเลย ผมอยากทำอีกนะ”
“แน่นอน เดี๋ยวเราก็ต้องได้ทำกันอีกแน่” พี่เอกยิ้มกว้าง
“จริงๆเหรอ เดี๋ยวพี่เอกจะทำกับผมอีกจริงๆนะ” ผมตาโต รู้สึกดีใจที่ได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น
“แต่ไม่ใช่คืนนี้นะ ไว้พรุ่งนี้ก่อน แต่ว่าคราวนี้พี่จะสอนวิธีทำอย่างอื่นที่เสียวยิ่งกว่าใช้มือธรรมดาๆอีก”
“มันมีแบบนั้นด้วยเหรอ ถ้าไม่ใช้มือแล้วจะใช้อะไรล่ะ” ผมสงสัย
“เอาเถอะ เอาไว้พรุ่งนี้เดี๋ยวก็รู้” พี่เอกลุกขึ้นยืนไปหยิบทิชชู่มาทำความสะอาดร่างกายของเราสองคน จากนั้นเราสองคนก็นอนกอดกันจนหลับไป ก่อนที่ผมจะจมลึกสู่ห้วงนิทรานั้น ผมรู้สึกว่านี่เป็นคืนที่ผมนอนแล้วรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
คืนต่อมาพี่เอกก็ทำอย่างที่เขาพูดเอาไว้เมื่อคืนจริงๆ ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ของชายกับชายเลยแม้แต่นิดเดียว ผมรู้จักคำว่าเกย์กับกะเทยก็จริง แต่ผมก็นึกไปถึงพวกผู้ชายที่มีท่าทางตุ้งติ้งและแสดงออกเหมือนกับผู้หญิง และพี่เอกก็ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลยด้วย ผมไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่ผมกับพี่เอกกำลังจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิดปกติจากสิ่งที่ผู้ชายทั่วไปควรจะทำ แต่ผมก็รู้โดยสัญชาตญาณว่าผมไม่ควรจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใครเด็ดขาด
“โอโห แข็งรออยู่แล้วเลยเหรอเนี่ย” พี่เอกพูดขึ้นเมื่อเขาคว้าเข้ามาที่เป้ากางเกงของผม
“แข็งตั้งแต่เห็นหน้าพี่เอกเมื่อตอนเย็นแล้วครับ” ผมหัวเราะเบาๆแล้วตอบออกไปตามความเป็นจริง
“ถ้างั้นก็พร้อมแล้วใช่มั๊ย.......” พี่เอกชะโงกมากระซิบเข้าที่รูหูของผม และมันทำให้ผมต้องบิดตัวแอ่นเพราะความเสียวบวกกับความจักจี๋เล็กน้อย “ว่าแต่ได้ล้างแบบที่พี่สอนรึเปล่า”
“ล้างครับ สะอาดสุดๆเลยด้วย ผมดึงหนังลงมาแล้วล้างอย่างที่พี่เอกสอนทุกอย่าง”
“ดีมาก......” พี่เอกซุกหน้าลงที่ซอกคอของผมแล้วค่อยๆไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงตรงขอบกางเกง จากนั้นเขาก็ดึงกางเกงของผมลงแล้วก็ใช้ปากครอบเข้าที่น้องชายของผม
ผมสะดุ้งเฮือกแล้วก็ร้องครางออกมาเพราะความเสียวแบบสุดๆทันที พี่เอกจึงต้องถอนปากออกแล้วเงยหน้าขึ้นมาเอานิ้วจุ๊ปากบอกให้ผมเงียบเสียงไว้ ผมยอมทำตามแต่โดยดีขอแค่ให้เขารีบๆก้มหน้ากลับลงไปตรงนั้นก็พอแล้ว และทันทีที่พี่เอกกลับลงไปใช้ปากให้กับผมต่อ ไม่ถึงสองนาทีถัดมา เพราะความเสียวแบบสุดๆที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต ผมก็รู้ตัวแล้วว่าจุดสุดยอดแบบเมื่อคืนนั้นกำลังก่อตัวขึ้นมาแล้ว
“พี่เอก ผมจะแตกแล้วนะครับ” ผมร้องออกมาอย่างยากลำบาก แต่เขาก็ยังไม่ยอมถอนปากออก กลับกัน เขากลับยิ่งเร่งจังหวะและใช้ลิ้นมากขึ้นด้วยซ้ำ จนสุดท้ายผมก็ไม่สามารถอั้นมันไว้ได้อีกต่อไป ผมฉีดน้ำรักเข้าไปในปากของพี่เอกอย่างรุนแรง และเขาก็ทำในสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิด นั่นก็คือเขากลืนมันลงคอไปหมดจนหยดสุดท้ายเลย
“ไง เสียวกว่าใช้มือมั๊ย” พี่เอกคลานกลับขึ้นมาบนตัวของผมแล้วหอมแก้มผมเบาๆ
“สุดๆเลยครับพี่ แต่พี่กลืนมันลงไปหมดเลยเหรอ น้ำนั่นมันกินได้เหรอน่ะ”
“ได้สิ แถมน้ำของอาร์มยังอร่อยมากอีกด้วยรู้รึเปล่า” พี่เอกยิ้มกว้าง
“แล้วน้ำของพี่ล่ะเป็นยังไง พี่เคยชิมของตัวเองรึเปล่า”
เอกส่ายหน้า “ไม่อ่ะ แต่ว่าอาร์มอยากจะลองชิมดูมั๊ยล่ะ”
ผมยิ้มกว้างแทนคำตอบ จากนั้นก็เลื่อนตัวลงไปด้านล่างของเขา พี่เอกพลิกตัวเป็นนอนหงายจากนั้นก็ดึงกางเกงของตัวเองลง ผมพยายามใช้ปากให้ได้แบบที่เขาทำให้กับผม ตอนแรกมันก็ทุลักทุเลนิดหน่อย พี่เอกจะคอยบอกผมอยู่ตลอดว่าให้เก็บฟันยังไง และใช้ลิ้นแบบไหน จนในที่สุดผมก็เริ่มชินกับมันมากขึ้นและพี่เอกก็ร้องครางอย่างพึงพอใจออกมามากขึ้นเรื่อยๆด้วย และไม่นานนัก ผมก็ได้ลิ้นชิมรสชาติของน้ำรักของพี่เอกด้วยเช่นกัน
เมื่อพี่เอกฉีดน้ำหยดสุดท้ายลงคอของผมไปแล้ว เขาก็ดึงตัวผมกลับขึ้นมานอนข้างๆอีกครั้ง
“เป็นไงมั่ง รสชาติของพี่”
“เค็มๆหวานๆ ขมนิดๆน่ะครับ แต่ก็โอเคนะ เพราะมันเป็นของพี่เอกนี่”
พี่เอกยิ้มกว้าง จากนั้นก็จูบลงบนหน้าผากของผมเบาๆ “เก่งมากๆเลย อาร์ม พี่มีความสุขมากเลยรู้มั๊ย”
“ผมทำให้พี่มีความสุขได้จริงๆเหรอครับ พี่เอกชอบไอ้ที่ผมทำไปเมื่อกี๊จริงๆเหรอ” ผมถามอย่างตื่นเต้น เพราะการที่รู้ว่าผมได้ทำให้ผู้ชายคนนี้มีความสุข มันเป็นสิ่งที่จะทำให้ผมภูมิใจและรู้สึกดีมากที่สุดเลยทีเดียว
“แน่นอน อาร์มเก่งมาก และที่สำคัญ ก็เหมือนที่อาร์มพูดนั่นแหละ เพราะเป็นอาร์มทำให้พี่ พี่ถึงได้มีความสุขมากที่สุดเลย........” เมื่อพูดจบ พี่เอกก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้นอีกจากนั้นก็ประทับจูบลงบนริมฝีปากของผม ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยขึ้นสวรรค์ไปเลยทีเดียว “พี่รักอาร์มนะครับ”
“ผมก็รักพี่เอกครับ.......” ผมตอบกลับไปด้วยความสุขและความอบอุ่นที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
หลังจากคืนนั้นเป็นต้นมา ผมกับพี่เอกก็มักจะทำแบบนี้ด้วยกันอยู่เรื่อยๆเท่าที่เรามีโอกาส ผมรู้ตัวแล้วว่าผมรักเขาคนนี้มาก และผมก็คิดว่าเขาเองก็รู้สึกแบบเดียวกันกับผมเช่นกัน จากเริ่มแรกที่ใช้มือ ไปสู่การใช้ปาก และในที่สุด เขาก็สอนผมถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางกายอย่างลึกซึ้ง ผมได้เอาเขาก่อนเป็นครั้งแรกก่อนที่เขาจะขอทำแบบเดียวกันกับผมบ้าง และแน่นอนว่าผมก็ยินดีมอบมันให้แก่เขาด้วย
คืนหนึ่งหลังจากที่ผมกับพี่เอกมีอะไรกัน เช้าวันต่อมา พ่อของผมก็เข้ามาปลุกผมในสภาพที่ผมนอนเปลือยท่อนบนและวางหัวอิงอยู่บนหน้าอกของพี่เอกอยู่ พ่อเองก็ดูไม่มีปัญหาอะไรและเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดดี ผมยังจำถึงรอยยิ้มของพ่อที่เข้ามาดึงตัวผมให้ลุกออกจากตัวของเขาและบอกให้ผมรีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนได้ดีทีเดียว
ตลอดสองปีถัดมา ผมมีความสุขมากจริงๆ ผมนั้นรักพี่เอกมากไปแล้ว มากแบบสุดๆเท่าที่ผมเคยรู้สึกให้กับใครคนอื่นเลยทีเดียว แต่บางสิ่งบางอย่างก็ดูผิดปกติไปสำหรับพี่เอก เมื่อเขาอายุได้สิบหกปี เขาก็ดูจะกลายเป็นคนเก็บตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มตีตัวออกห่างจากผม เริ่มมีอารมณ์แปรปรวน และบางครั้งเขาก็หายตัวออกจากบ้านทีเดียวไปเป็นเวลาหลายวัน พ่อแม่บุญธรรมของเขากังวลเรื่องนี้มาก และแน่นอนว่าผมเองก็เช่นกัน ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง และไม่มีใครที่ผมจะพูดเรื่องนี้ด้วยได้ด้วย บางครั้งเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน พี่เอกก็ดูจะกลับมาเป็นพี่เอกคนเดิม เรามักจะร่วมรักกัน พูดคุยกัน นอนกอดกันตามปกติ แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นมันก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆๆ
ตอนแรกผมคิดว่ามันคือสิ่งที่พ่อของผมเคยบอกผมไว้เมื่อสองสามปีก่อน ที่พ่อบอกว่าบางทีเขาอาจจะเริ่มติดเพื่อนหรือไปสนใจในเพศตรงข้าม แต่ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีความสนใจผู้หญิงคนไหนเลยจริงๆ นอกจากนั้นผมยังสังเกตว่าเขาเริ่มดื่มเหล้าด้วย ที่จริง เขาดื่มหนักมาก ผมไม่รู้ว่าเขาไปเอาเหล้าเบียร์พวกนั้นมาจากไหน แต่บางทีเขาก็คงเอามาจากเพื่อนๆที่โรงเรียนนั่นเอง
ผมไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเป็นพิเศษ แต่เมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลที่พี่เอกต้องล่งแข่ง ผมก็มักจะหาเวลาไปดูและไปเชียร์ทุกครั้ง และสิ่งที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำก็คือ เขาจะใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆในทีมมากเป็นพิเศษแล้วก็เมินเฉยผมไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเคยบอกผมหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าเรื่องระหว่างเราต้องเป็นความลับ และเขาก็ไม่อยากทำตัวผิดสังเกตให้ใครรู้ด้วย ผมยอมทำตามที่เขาพูดทุกอย่างเพราะว่านั่นมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ถึงแม้ภายในใจของผมมันจะเจ็บช้ำมากเหลือเกิน.........
ในที่สุด คืนที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผมก็เกิดขึ้น และมันก็เริ่มต้นเหมือนกับคืนที่ผมมีความสุขที่สุดเลยด้วย พ่อแม่ของผมกำลังจะออกไปร่วมงานเลี้ยงของเพื่อนคนหนึ่งของพวกเขาและจะไม่กลับมาจนกว่าจะดึกมาก ผมกับพี่เอกกำลังทำการบ้านอยู่ในห้องของผมเหมือนกับปกติ แต่ส่วนมากแล้วเราก็เอาแต่นั่งเล่นและพูดคุยกันมากกว่า จนเมื่อพ่อกับแม่ของผมออกจากบ้านไป พี่เอกก็หยิบเบียร์ออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วก็หยิบบุหรี่ออกมาอีกหนึ่งซองด้วย ผมไม่เคยดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มาก่อนและมันก็ทำให้ผมกลัวและกังวลมาก แต่พี่เอกยืนยันกับผมว่ามันจะทำให้ผมมีความสุขและทำให้เราสามารถมีอะไรกันได้ยาวนานมากขึ้นด้วย
ผมดื่มเบียร์นิดหน่อยจนพอรู้สึกมึนๆแต่ปฏิเสธเรื่องบุหรี่ พี่เอกเองก็เริ่มเมามากแล้วด้วยเช่นกัน เราสองคนเริ่มต้นเปลื้องผ้าของกันและกันและเริ่มต้นร่วมรักกันตามปกติ เราสองคนต่างผลัดกันทำให้กันในทุกๆอย่างที่เราทำได้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เราก็นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเพราะความเหนื่อยอ่อน แต่แล้วพี่เอกก็ฝังหน้าของเขาลงบนหน้าท้องของผมแล้วก็เริ่มต้นร้องไห้ ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย และมันก็ทำให้ผมรู้สึกใจหายมากด้วย ผมพยามจะกอดและปลอบโยนเขาในขณะที่ตัวของเขาสั่นไหวไปตามแรงสะอื้น ผมไม่รู้เลยจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
ในที่สุดเขาก็หยุดร้องไห้แล้วก็ผลักผมออกไป ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่านี่มันเรื่องอะไรกัน จากนั้นเขาก็พูดว่าเขาต้องหยุดทำแบบนี้ได้แล้ว เขาบอกว่าเราต้องหยุดทำอะไรแบบนี้กันสักที ที่จริง เราไม่ควรจะได้เจอกันอีกเลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกราวกับตัวเองกำลังร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึกเลยทีเดียว ผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ แต่ผมก็ช็อคมากเกินไปที่จะทำแบบนั้นได้
พี่เอกเริ่มเดินวนไปเวียนมารอบห้องแล้วก็พร่ำเพ้อพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ต้องการจะ “ผิดเพศ” เขาอยากจะรักและมีอะไรกับผู้หญิง เขาอยากจะเป็น “ปกติ” เขาอยากจะมีชีวิตปกติเหมือนกับคนทั่วๆไป เขาบอกว่าเขาไม่อยากจะเป็นแบบนี้อีกแล้ว และบอกผมว่าถ้าเรายังคบกันแบบนี้ต่อไป เขาก็คงไม่สามารถเลิกเป็นแบบนี้ได้แน่
จากนั้นเขาก็เริ่มต้นร้องไห้อีกครั้ง ผมเดินไปหาเขา อยากจะปลอบโยนเขาให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่เขาก็ผลักผมออกไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาผลักผมแรงมากจนกระทั่งผมกระเด็นไปหัวกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะเขียนหนังสือและสลบไป.........
เมื่อผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พี่เอกก็หายไปแล้ว เลือดกำลังไหลลงจากจากหัวของผม และพ่อแม่ของผมก็กำลังห้อมล้อมรอบตัวผมอยู่ พ่อของผมยกตัวผมขึ้นด้วยความช่วยเหลือของแม่ พวกเขาสองคนหยิบเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นมาสวมให้แก่ผมจากนั้นก็ขับรถพาผมไปโรงพยาบาล เลือดที่ไหลออกมานั้นมันก็แค่มาจากแผลเจาะนิดหน่อยเท่านั้น แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ยอมปล่อยตัวผมกลับบ้านจนกว่าจะวันรุ่งขึ้น
เมื่อพ่อกับแม่พาผมกลับบ้านแล้ว พ่อกับแม่ของพี่เอกก็กำลังรอเราอยู่เช่นกัน พวกเราทุกคนนั่งลงในห้องนั่งเล่นและพ่อก็เริ่มซักถามผมทันที
“เมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหัวถึงได้กระแทกแบบนั้น”
“มันไม่มีอะไรจริงๆครับพ่อ ผมสาบาน” ผมตอบ พยายามจะหลีกเลี่ยงชื่อของพี่เอกออกไปให้มากที่สุด
“เอกทำร้ายลูกรึเปล่า” พ่อถามออกมาห้วนๆ
“เปล่าครับ!!” ผมตอบออกไปด้วยความโกรธ
“ถ้าอย่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“ตอนนั้นพี่เอกเขากำลังมีเรื่องไม่สบายใจ ผมก็พยายามจะปลอบเขา แต่เขาก็ผลักผมออกไปแล้วผมก็เลยลื่นล้ม มันก็แค่นั้นเองครับ มันไม่ใช่ความผิดของเขานะพ่อ เขาไม่ได้ตั้งจะทำร้ายผมหรอก เขาไม่มีทางคิดจะทำร้ายผมเด็ดขาด!” ผมร้องออกไป
“อาร์มเห็นเอกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เหรอลูก” พ่อของพี่เอกถามผม
“ผมสลบไปน่ะครับ แต่พอผมฟื้นขึ้นมาพี่เขาก็ไม่อยู่แล้ว” ผมตอบ
“งั้นก็แปลว่าเมื่อคืนอาร์มไม่ได้เจอเขาอีกเลยใช่มั๊ย” พ่อของผมถาม
“เปล่าครับ พ่อ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ พี่เอกอยู่ไหน อย่าบอกนะว่าเขาหนีอกจากบ้านไป” ผมเริ่มรู้สึกกลัวและกังวลมากขึ้นมาทันที
พ่อแม่ทั้งสี่คนมองหน้ากันและกันโดยที่ไม่ยอมสบตากับผม นี่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ไม่ใช่เรื่องดีเลยจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ! เกิดอะไรขึ้นกับพี่เอก!!” ผมลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนออกไปเพราะความหวาดกลัว
พ่อของผมเดินตรงเข้ามาหาผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้ เขากอดผมแน่นมากและเริ่มพูดกับผมเบาๆ
“อาร์ม บางครั้งเรื่องบางเรื่องมันก็เกิดขึ้นได้โดยที่ไม่มีใครคาดคิดนะลูก บางครั้งคนเราก็ทำในสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร จริงๆแล้วพ่อก็อยากจะบอกลูกด้วยวิธีอื่นที่ดีกว่านี้หรอกนะ แต่ก็ดูท่าว่ามันคงไม่มีหนทางอื่นนอกจากบอกลูกออกไปตรงๆเท่านั้น........ เอกเขาฆ่าตัวตายไปแล้วเมื่อคืนนี้ เขาใช้ปืนของพ่อเขายิงตัวตาย กว่าจะมีใครไปพบเขา เขาก็จากไปแล้ว”
ผมมองหน้าพ่อของผมอย่างคาดหวัง........ คาดหวังว่าพ่อของผมจะกำลังล้อผมเล่น คาดหวังว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ สีหน้าของพ่อผมนั้นไม่ได้แปลว่าเขากำลังล้อผมเล่นอยู่ ผมกรีดร้องออกมาอีกครั้งและนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้.........
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากนั้นเกือบหนึ่งวันเต็มๆ พ่อของผมกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมาผมก็หวังไว้ว่าที่ผ่านมาทั้งหมดนั้นจะเป็นเพียงฝันร้าย เป็นแค่เพียงฝันร้ายและผมก็จะได้พบหน้าพี่เอกอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของพ่อแล้ว ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นความจริง....... พี่เอกตายไปแล้ว เขาจากผมไปแล้ว ด้วยน้ำมือของเขาเอง......... การที่เขารักผมเป็นสาเหตุที่ทำให้เข้าต้องตาย การที่มีผมอยู่ทำให้เขาต้องจบชีวิตตัวเองลงแบบนั้น ผมก็อยากจะตายไปให้พ้นๆซะด้วยเหมือนกัน! มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วนี่!
“พ่อรู้ว่าลูกรักเอกเขามากแค่ไหน........” พ่อของผมพูด “เขาทิ้งจดหมายไว้ให้ลูกนะ อาร์ม มันถูกกำอยู่ในมือของเขาตอนที่เราไปพบเขาน่ะ” พ่อยื่นกระดาษสมุดยับๆแผ่นหนึ่งมาให้ผม
ผมรับมันไว้ด้วยมืออันสั่นเทาจากนั้นก็อ่านมัน..........
อาร์ม
พี่ขอโทษสำหรับเรื่องงี่เง่าๆทั้งหมดที่พี่พูดออกไป อาร์มเป็นคนเดียวที่มอบความรักให้แก่พี่ได้มากที่สุดเท่าที่พี่เคยได้รับมาในชีวิตของพี่เลย มากเกินกว่าที่พี่จะคู่ควรด้วยซ้ำ พี่พยายามมาตลอดเพื่อที่จะไม่หลงรักอาร์ม พี่ไม่ได้อยากจะเป็นแบบนี้ และพี่ก็กลัวว่าจะทำให้อาร์มมากลายเป็นแบบพี่ไปด้วย พี่ทนมีชีวิตแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว พี่คิดอยู่เสมอๆว่าสุดท้ายเดี๋ยวเราก็คงจบลงด้วยการเป็นพี่น้องกันหรือเป็นเพื่อนกันธรรมดาๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อเราต่างก็โตมากขึ้น ความรู้สึกเหล่ามันก็เติบโตตามขึ้นไปด้วย พี่หลงรักอาร์มไปแล้ว เพื่อนคนหนึ่งในทีมของพี่เห็นเราสองคนเดินเข้าห้องน้ำห้องเดียวกันวันนั้นหลังเลิกเรียน เขาเห็นพี่จูบอาร์ม ตอนนี้ทุกคนในทีมรู้กันหมดแล้วว่าพี่เป็นเกย์ พี่ต้องลาออกจากทีมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพราะพี่ทนผลลัพธ์ของเรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ พี่ไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป พี่คิดว่าแค่นั้นเรื่องมันก็คงจบสักที แต่ตอนนี้ข่าวมันก็กลับแพร่ออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆคนซุบซิบนินทาหรือแม้แต่เข้ามาล้อเลียนพี่ พี่ขอโทษ อาร์ม แต่พี่ทนใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ได้จริงๆ พี่ไม่มีครอบครัวจะให้ปรึกษา พี่ไม่มีใครเป็นที่พึ่ง อาร์มไม่เคยถามเรื่องพวกนี้กับพี่ พี่ก็เลยไม่เคยบอกอาร์ม แต่พ่อแท้ๆของพี่มันเป็นไอ้ขี้เหล้าที่เอาแต่ทุบตีและซ้อมพี่ตั้งแต่พี่ยังเล็ก และมันก็เคยข่มขืนพี่ด้วยตอนที่พี่อายุได้แปดขวบ แม่พี่ก็ติดการพนันและติดยา และตายไปตั้งแต่หลังจากพี่คลอดออกมาไม่นาน หลังจากที่พ่อของพี่มันทำแบบนั้นกับพี่ พี่ถึงได้หนีออกจากบ้านมาและสุดท้ายก็กลายมาเป็นเด็กที่บ้านอุปถัมภ์ บางทีถ้าพี่มีพ่อแม่แบบอาร์ม พ่อแม่ที่รักพี่ พี่ก็คงผ่านพ้นมันไปได้ พี่อยากให้อาร์มรู้ว่าพี่รักอาร์ม พี่รักอาร์มมาก รักมาตลอดและจะรักตลอดไปด้วย ได้โปรดยกโทษให้พี่ด้วยสำหรับพี่ที่ไม่แข็งแกร่งมากพอ.........
เอก
เมื่อผมอ่านจบผมก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง พ่อเดินเข้ามากอดผมและปล่อยให้ผมร้องไห้เท่าที่ผมต้องการ และผมก็ร้องไห้อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่อีกนานมาก.........
“ผมรักเขา พ่อ ผมรักเขาจริงๆ!” ผมสะอื้น
“พ่อรู้ ลูกรัก พ่อรู้” พ่อพูดเบาๆพร้อมกับลูบหัวผมไปด้วย
“พ่อเกลียดผมรึเปล่าครับ” ผมถามออกไปทั้งๆที่กลัวคำตอบ
“ไม่แน่นอนอยู่แล้ว!” พ่อพูด “พ่อจะเกลียดลูกที่รู้จักรักคนอื่นและมีความรักได้ยังไง โดยเฉพาะคนที่ลูกรักก็เป็นคนที่รักลูกมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลยด้วย”
“แต่ว่านี่มันผิดเพศ มันไม่ถูกต้อง!” ผมสะอื้น
“หยุดเลยนะ!” พ่อพูดเสียงดังจนเกือบจะเป็นการตะคอกใส่ผม “พ่อไม่อยากจะได้ยินเรื่องอะไรแบบนั้นออกมาจากปากของลูกอีกเด็ดขาด! เหตุผลเดียวที่เอกเขาทำแบบนั้นก็เพราะเรื่องงี่เง่าและทิฐิทุเรศๆของคนอื่นที่มองเรื่องพวกนี้ให้เป็นแบบนั้น! สิ่งที่ลูกกับเอกเคยมีให้กันมามันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือเรื่องเลวร้ายอะไรเลยสักนิด แต่มันเป็นสิ่งดีๆและสวยงามมากด้วยซ้ำ! ต่อจากนี้ไปไม่ว่าลูกจะเป็นยังไงหรือทำอะไร ก็จงภูมิใจในตัวของลูกเอง อย่าปล่อยให้ความคิดของคนอื่นมามีผลต่อตัวลูก อย่าปล่อยให้คนอื่นมาทำให้ลูกเกลียดตัวเองและทำให้ลูกต้องมาจบลงแบบเดียวกับเอกเด็ดขาด!”
“ไม่ครับพ่อ ผมจะไม่มีวันฆ่าตัวตายเด็ดขาด ผมทำแบบนั้นกับพ่อและแม่ไม่ได้หรอกครับ” ผมตอบ
เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีกนอกจากกอดกันอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ๆ
วันถัดมาในงานศพของเอก ผมยืนอยู่คนเดียวตรงหน้าฝาโลงของเขาที่เปิดอยู่ ใบหน้าของเขาตอนนี้ไม่ต่างกับใบหน้ายามหลับที่ผมเคยเห็นมันบ่อยๆเลยสักนิด ผมอยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเขา อยากจะประทับริมฝีปากลงบนปากเรียวบางนั่นของเขา อยากจะลูบผมของเขาช้าๆแล้วบอกเขาว่าตื่นได้แล้วนะ ได้เวลาไปเรียนแล้วเหมือนกับทุกๆครั้ง แต่ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว..........
“พี่เอก ผมรักพี่มากเหมือนกันครับ พี่ก็รู้ และผมจะรักพี่ตลอดไป ผมจะไม่มีวันลืมพี่เด็ดขาด! จริงๆพี่ไม่ต้องทำแบบนี้เลย แค่พี่บอกผมว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราสองคนก็คงช่วยกันหาทางออกให้พี่ได้ แค่พี่บอกพ่อแม่ของผม บอกพ่อแม่ของพี่...... พี่ไม่ได้มีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวจริงๆนะครับ พวกเราทุกคนรักพี่มาก........ ผมรักพี่มากจริงๆ.......” ผมเริ่มสะอื้นออกมาอีกครั้ง “พี่คงไม่เคยรู้ แต่พี่เองก็เป็นเหมือนลูกชายของพ่อแม่ผมไปแล้วเหมือนกันนะ พวกเรารักพี่ครับ ผมรักพี่ ผมแค่อยากจะให้มันมากเพียงพอที่จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเท่านั้นเอง......... ผมจะไม่มีวันลืมพี่เด็ดขาดครับ ผมสัญญา ผมจะคิดถึงพี่......... ตลอดไป...........”
ผมร้องไห้ต่ออีกราวๆสิบนาที จากนั้นก็เดินกลับไปยังที่รถ
ทั้งๆที่เราต่างก็รักกัน แต่สุดท้ายความรักเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ พี่เอกเป็นคนดีและมีคนรักเขามากมาย แต่เนื่องจากบาดแผลในอดีตของเขาทำให้เขาไม่สามารถเปิดใจให้กับใครได้อีกเลย มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้น ที่เขายอมเปิดใจให้ผมเป็นส่วนหนึ่งในนั้นได้ แต่ก็เพราะผมอีกเช่นกัน ที่ทำให้เขาต้องต่อสู้กับความสับสนของตัวเองอย่างไร้ทางออก และสุดท้าย เขาก็เลือกที่จะปิดตายเส้นทางชีวิตของเขาด้วยน้ำมือของเขาเอง.........
ผมรักพี่นะครับ พี่เอก......... นับต่อแต่นี้ พี่จะอยู่ในใจของผมตลอดไป ทั้งช่วงเวลา มิตรภาพ และความรักที่เราเคยมีให้แก่กันและกัน ผมจะเก็บมันเอาไว้ในใจไม่มีวันลืมเลือน...........
