ขอโทษนะครับที่หายไปนาน ช่วงนี้กำลังวุ่นวายกับวิทยานิพนธ์ครับ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ ผมก็จสอบะ Defend แล้ว (สอบจบ) ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอโทษจริงๆ นะครับ
..........
เมื่อไอ้เกมกลับบ้าน 3
..........
วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วของการอยู่ที่บ้าน คิดถึงที่รักจังเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างหนอ หะหะ วันนี้ตื่นเช้าหน่อยเพราะต้องตักบาตรเช้า ตามจริงไม่ได้อยากตื่นเลย แต่คุณนายที่บ้านนี่สิ บ่นๆ จนนอนต่อไม่ไหว เฮ้อ... กะจะนอนตื่นสายๆ ซักหน่อย...
“ตื่นเช้าเป็นกับเขาด้วยเหรอครับ พี่เกม...” หนุ่มน้อยหน้าใสกิก เดินผิวปาก ในมือถือสิ่งของที่บ่งบอกว่า กำลังจะไปตักบาตรเช้าเช่นกัน...
“เดินไปกับผมไหมหละครับผม จะได้มีเพื่อน” ไอ้นี่ ชักปีนเกลียว
“ให้เกียรติด้วยนะครับ...” ธนดล ยังคงเอ่ยเอื้อยต่อไป
“ปากแกนี่น้า... ไอ้ดล...” ผมพูดพลางส่ายหัวกับไอ้ความปีนเกลียวของมันอย่างเอือมระอา ไม่ใช่ว่าผมไม่ชิน แต่... ผมไม่ชอบครับ แหะๆ
“ทำไมเหรอครับ น่า... (จูบ) เหรอครับ” เสียงมันหายไปในคอ พร้อมกับรอยยิ้มอย่างทะเล้น ตามประสาเด็กเทคนิคห่ามๆ
“ทะลึ่งแล้วมึง จะไปทำบุญซะหน่อย ทำอารมณ์กูหม่นเลย...” ผมเอ่ยออกไปอย่างระอา
“เดี๋ยวผมปลุกให้... เอาไหมหละครับ 55+” มันพูดขึ้นพลางวิ่งออกไปข้างหน้า มันคงรู้ชะตากรรมตัวเองดี ว่ามันกำลังโดนเตะ...
..........
บทสวดกรวดน้ำจบลงพร้อมกับน้ำหยดสุดท้ายจากแก้วใบใหญ่ในมือผมและน้องดล ก่อนที่ผมและน้องดลจะเดินออกไปข้างนอกศาลาเพื่อจะกรวดน้ำตรงโคลนต้นไม้ใหญ่ ที่ใบกำลังปลิวไหวต้องลมยามเช้าอย่างเอื่อยๆ...
“......” ผมและน้องดลกำลังแผ่เมตตาแด่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ก่อนจะลุกขึ้นและเดินกลับเข้าไปในศาลา เพื่อเก็บสิ่งของกลับบ้าน...
“พี่เกมจะกลับมหาวิทยาลัยตอนไหนหรือครับ...” ดลเอ่ยขึ้นทันทีหลังพ้นขอบขัณฑสีมา
“พรุ่งนี้ตอนสายๆ นะ ทำไมหรือ...” เดินกันไป คุยกันไป กับหนุ่มน้อยน่าใส พร้อมบรรยากาศยามเช้า โรแมนติกไปอีกแบบ
“งั้นเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมไปส่งที่ บขส. ได้ไหมครับ ยังไงซะผมก็ไม่มีเรียน”
“ตามใจแล้วกัน พี่ขึ้นรถตอนเที่ยง มาทานข้าวกับพี่ก่อนแล้วกัน” ผมพูดพลางยิ้มให้เด็กหนุ่มด้วยน้ำใสใจจริง
“เริ่มด้วยอาหารเช้ามื้อนี้เลย ได้ไหมครับ...” เด็กหนุ่มพูดพลางอมยิ้มอย่างดีใจ
“ได้อยู่แล้ว... พี่จะโชว์ฝีมือทำกับข้าวให้ดู หุหุ”
“จะทานได้ไหมหละครับ...” ดลพูดด้วยสีหน้ายียวน ก่อนที่ผมจะยกเท้าขึ้น ดลวิ่งหนีอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงหัวเราะ ทั้งของผมและดล แล้วมิตรภาพของผมแล้วน้องดล ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ...
มื้อเช้ามื้อนี้ มีขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ ดลช่วยผมหยิบนู่นนี่เรื่อยๆ แถมยังสั่งให้ผมใส่นู่นบ้าง ใส่นี่บ้าง หน้าตากับข้าวเลยออกมาซะน่าดู รสชาติดีอย่าบอกใครเชียว...
“เห็นไหมพี่เกม... ใส่ไอ้นี่อร่อยออก...” มันกำลังชื่นชมกับรสชาติของอาหารที่มันมีส่วนร่วม
“ครับผม น้องดล อร่อยจริงๆ...” ขอประชดหน่อยแล้วกัน 55+ แล้วเราทั้งสองก็ทานอาหารที่เราช่วยกันทำมื้อนี้จนหมด และดลก็ช่วยผมล้างถ้วยชาม ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เด็กคนนี้มันดื้อจริงๆ
“วันนี้พี่เกมทำอะไรเหรอครับ...” ดลเอ่ยถามขึ้นเมื่อล้างถ้วยชามเสร็จเรียบร้อย
“คงนอนเล่นเฉยๆ... แล้วดลหละ ไม่มีเรียนเหรอวันนี้...” ผมเอ่ยกลับ
“ไม่มีครับ งั้นผมขอมาขลุกอยู่กับพี่ได้เปล่าครับ อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ...” ดลเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสนุก
“ก็ได้... แต่เราต้องหยิบหนังสือมาอ่านด้วย ไม่งั้นไม่อนุญาต...” ดลสีหน้าละห้อย สงสัยมันจะขี้เกียจอ่านหนังสือ
“ครับๆ” เด็กหนุ่มรับปาก ก่อนจะเดินออกไป เพื่อมุ่งหน้ากลับไปเตรียมตัวกลับมาที่นี่อีกครั้ง
..........
เก้านาฬิกาแล้ว แต่ต้นไม้ภายนอกยังคงทำหน้าที่ให้ความเย็นและความสดชื่นแก่บ้านหลังนี้เป็นอย่างดี ผมนั่งมองบรรยากาศภายนอกบนโต๊ะเขียนหนังสือ ส่วนไอ้ดลกำลังเข้าเฝ้าพระอินทร์ เสียงกรนเบาๆ ดังขึ้นพร้อมกับการยุบพองของหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ ไอ้ดลมันดูดีพอควร แม้ส่วนสูงมันจะน้อยไปหน่อย แต่อย่างมันคงมีคนมีจีบไม่น้อย ใบหน้าได้รูป จมูกเป็นสัน ปากชมพู ตัวขาวๆ หึหึ ถ้าไม่ติดว่ามีเต๊บแล้ว ไอ้ดลไม่พ้นมือผมแน่...
“...” ไอ้ดลมันขยับตัว บิดขี้เกียจ ลืมตาขึ้นแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่มันจะมาหยุดสายตาที่ผม แล้วเผยอปากยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“ไง... เฝ้าพระอินทร์ได้เลขกี่ตัว นิดๆ หน่อยๆ มึงก็ยังเอานะ...” มันไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ พร้อมลอบยิ้มอย่างอายๆ มึงจะน่ารักไปไหนอีกหวะไอ้ดล...
“หะหะ... ขอโทษครับ” มันพูดขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะพลิกตัวกลับแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือ
“พี่เกมคิดอะไรอยู่เหรอครับ... คิดถึงแฟนชัวร์ๆ” มันพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ผมทีหนึ่ง ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่ส่งรอยยิ้มให้มัน ก่อนที่ผมจะลุกเดินมาล้มตัวลงบนเตียงตัวเอง ข้างๆ มัน
“ทำไมบ้านพี่เกมเงียบจัง” มันพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่หนังสือ
“พ่อกับแม่พี่ไปบ้านคุณยาย ส่วนน้องพี่ไปโรงเรียน...” ผมอธิบายให้มันฟัง มันพยักหน้า ก่อนจะเงียบไปพร้อมๆ กัน ผมจึงหลับตาลงเพื่อผ่อนคลาย
ผมรู้สึกถึงการขยับตัวอย่างแผ่วเบาของดล ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามีอะไรซักอย่างมีวางไว้บนหน้าอกผมอย่างตั้งใจ และกอดรัดผม...
“มีอะไรเหรอดล...” ผมถามมันโดนไม่ได้ลืมตา ดูมันจะชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะชักมือกลับ แต่ผมเอื้อมไปจับมือมันไว้ เกิดความเงียบขึ้นสักครู่ ก่อนที่มันจะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“ผมนึกว่าพี่เกมหลับซะแล้ว หะหะ…” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองหน้าไอ้ดล ที่ตอนนี้มีสีแดงระเรื่ออยู่บนใบหน้า
“จะลักหลับพี่รึไง พี่ไม่ยอมนะ ถ้าจะทำอะไรต้องทำตอนที่รู้สึกตัวสิวะ...” หะหะ ได้ผล หน้ามันแดงเป็นลูกตำลึงเลยครับ ผมจึงดึงหน้ามาซบที่หน้าอกผม หน้าอกมันสัมผัสกับสีข้างผม เสียงหัวใจของดลเต้นอย่างรวดเร็ว ปานจะออกมาภายนอก
“ผมได้ยินเสียงหัวใจพี่เกมแล้ว...” เสียงดลพูดขึ้นที่หน้าอกผม มือข้างซ้ายผมโอบไหล่ดลไว้และจับที่หัวมัน แก้มใสๆ ของมันสัมผัสที่หน้าอกผม แขนขวามันราบไปกับพื้น แขนซ้ายกอดผมไว้อย่างหลวมๆ ก่อนที่ผมจะพลิกตัวนอนตะแคง ดูดลจะชะงักนิดหนึ่ง ผมดึงมันขึ้น หน้ามันจึงซบอยู่ที่ซอกคอผม ลมหายใจแผ่วๆ รดคอผมอย่างสม่ำเสมอ แขนซ้ายผมเป็นหมอนให้มันหนุน ส่วนแขนขวากอดเอวบางๆ ของมันไว้อย่างหลวมๆ เช่นเดียวกับมัน
ผมค่อยๆ เชยหน้าของดลให้เลยขึ้นมา รู้สึกมันจะสั่นน้อยๆ สายตาหลุบลงไม่กล้าสู้ แก้มใสเจือไปด้วยสีชมพูดอ่อนๆ ก่อนที่ผมจะประทับรอยจูบลงที่ปากได้รูปของดล สายตาผมยังคงจับจ้องอาการของดลอยู่ตลอดเวลา แต่เด็กหนุ่มกับหลับตาลงด้วยความตื่นเต้น รสจูบที่ผมมอบให้ดลวันนี้แตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อน ทั้งความรู้สึก ความอ่อนโยน แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความเร่าร้อน
ดลยังคงเม้มปากแน่นด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวใจของเด็กหนุ่มยังคงทำหน้าที่เต้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ดลกอดคอผมแน่น มือซ้ายผมจับหัวดลไว้ ส่วนมือขวาสอดส่ายเข้าไปในเสื้อของดล สัมผัสเบาๆ ที่ยอดอก ดลครางในคอเบาๆ ก่อนจะเผลออ้าปากขึ้น โอกาสของผมมาถึง ลิ้นผมทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม สอดส่ายเข้าไปสำรวจโพลงปากของ ดลอย่างเร่าร้อน กลัวเด็กหนุ่มจะขาดอากาศหายใจ ผมจึงถอนปากออกจากปากหวานนุ่ม ดลหน้าแดงหอบหายใจนิดๆ และยังคงกอดคอผมไว้อย่างเคย
“เป็นไง...” หนึ่งคำถามที่ออกจากปากผม ทำเอาดลหน้าแดงซ่านมากขึ้น ก่อนจะมุดหน้าลงมาซบที่อกผมอย่างเขินอาย มือขวาผมจึ้งเอื้อมไปช้อนหน้าของดลเงยกลับขึ้นมาอีกครั้ง
“อายเหรอครับ...” เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆ
“พี่เกมนี่เก่งจังเลยนะครับ...” ดลพูดขึ้นอย่างอ่านๆ แต่ผมยังคงมองหน้าเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น มองด้วยสายตาพิศวาสหรือเปล่า ไม่ทราบได้ แต่ดลไม่กล้าที่จะสู้สายตาผม
“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหมครับ...” ดลเงยหน้ามามองผมอย่างช้าๆ แก้มใสแดงซ่านขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ด้วยท่าทางเขินอาย...
“น่ารักจัง...” ผมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะก้มลงจูบที่ปากนุ่มนั้นอีกครั้ง ดลเอ๊ย... แกเปิดทางให้กูมากเกินไปแล้ว อีกหน่อยแกจะลงเหลือคำว่า ผู้ชายไหมนะ...
“อือ...” เสียงครางเบาๆ ในคอของดลเกิดขึ้น เมือผมละจากปากนุ่มไปที่หู ก่อนจะไซ้ซอกคอขาวอย่างอ่อนโยน บัดนี้เสื้อของดลได้พ้นออกจากร่างกายแล้ว ดลเอ๊ย แกนี่มันน่ากินจริงๆ ขาวๆ มีกล้ามหน่อยๆ นั่นสเป๊ค กูเลย...
ดลครางดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อปากผมไซ้ลงมาสัมผัสกับยอดหน้าอก หน้าอกแข็งเป็นไต ก่อนที่ผมจะเลื่อนขึ้นไปแลกจูบกับดล มือทั้งสองกำลังปลดเข็มขัดเด็กหนุ่ม ในที่สุดกางเกงของดลก็หลุดพ้นปลายเท้า เหลือเพียงอาภรณ์เพียงผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกาย ชั้นในสีขาวสะอาดตาที่กำลังทำหน้าที่ห่อหุ้มสัญลักษณ์แห่งเพศชาย แต่หน้าที่ของมันแทบจะไม่เห็นผล เพราะสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายนั้น แทบจะดันชั้นในนั้นจนเกือบจะปริแตก
ผมเอื้อมมือไปสัมผัสสิ่งนั้นภายนอกชั้นในอย่างแผ่วเบา ดลครางหนักกว่าเก่า แต่ปากผมยังปิดปากนั้นเอาไว้ ถ้าปากนั้นเป็นอิสระ คงส่งเสียงออกมาดังน่าดู ในที่สุดชั้นในสีขาวสะอาดตาก็หมดหน้าที่ของมัน เมื่อผมดึงมันออกจากร่างกายของดลอย่างแผ่วเบา สัญลักษณ์นั้นตั้งตรงแข็งขัน ชูชันท้าสายตา แต่มีเพียงมือผมเท่านั้นที่สัมผัสมันอย่างแผ่วเบา
“พี่เกม...” ดลครางเรียกชื่อผมอย่างกระสัน แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงหลับตาอยู่ ก่อนที่ผมจะละออกจากตัวดลอย่างเสียดาย เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างนึกเสียดายสัมผัส ผมถอดอาภรณ์ในร่างกายออกจะหมดทุกชิ้น เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบเด็กหนุ่มข้างหน้า เด็กหนุ่มหลบสายตาด้วยความอายเมื่ออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากปลายเท้าผม ผมล้มลงคร่อมเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนที่จะก้มลงจูบปากนุ่มนั้นอีกครั้ง...
(โครมไฟ เอิ๊กกกก)
..........
ป.ล. ผมอาจจะมาลงได้อาทิตย์ละครั้งนะครับ ไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ ครับ
ป.ล.2 ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้วันหลังนะครับ