พิมพ์หน้านี้ - [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: naitae.ks ที่ 20-09-2007 17:27:31

หัวข้อ: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 20-09-2007 17:27:31
..........

ความรักในวัยเด็ก

กับสัญญาที่มีให้กัน เป็นต้นเหตุของเรื่องราวมากมาย

กว่าจะพบรักแท้ เล่นเอาเหนื่อยเช่นกัน

บททดสอบเล็กๆ ที่ยากจะผ่านไปได้

เป็นกำลังใจหน่อยแล้วกันครับ

..........


ชื่อคนแต่งจะรกบอร์ดไปหรือเปล่าครับ แหะๆ  :m21:

เป็นนิยายที่เขียนขึ้นโดยอ้างอิงจากชีวิตจริงของผมเองนะคร้าบบบ (80%) :m23:

ติชมได้ครับ o14
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 20-09-2007 17:35:33
..........

บทที่ 1 ปฐมบทของความรัก

“สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายเชษฐวัทน์ ครับ ชื่อเล่น เกม ครับ” เสียงของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผมนี่แหล่ะ กล่าวทักทายกับเพื่อนใหม่ของการเข้าเรียนชั้น ป.1 ของผม แล้วทุกคนก็รายงานตัวกันจนเกือบครบ

“สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายเศรษฐ์พล ครับ ชื่อเล่น เต๊บ ครับ” เสียงใสๆ ของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้น ดึงดูดให้ผมในขณะนั้นยุติการคุยกับเพื่อนใหม่หันไปตั้งใจฟัง เต๊บ เป็นเด็กผู้ชายตัวสูงแต่ไม่เก้งก้าง ดูตี๋ๆ ขาวๆ เป็นลูกตำรวจ

“สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายเจษฎา ครับ ชื่อเล่น กุ๊น ครับ” เด็กผู้ชายอีกคนที่ดูน่ารักไม่แพ้เต๊บ กุ๊นเป็นคนตัวเล็กๆ แต่ยังสูงกว่าผมอยู่ ไม่ตี๋ แต่ขาวครับ เป็นเพื่อนคนแรกของผมเลยก็ว่าได้ครับ

“เกม ไปเล่นฟุตบอลกันป๊ะ” กุ๊นชวนผมไปเล่นฟุตบอลครับ

“ไม่เอาอ่ะ เราไม่ชอบ ขอนั่งดูเฉยๆได้เปล่า” ผมตอบกลับไป ผมไม่ค่อยชอบเล่นฟุตบอลเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ผมนั่งดูอยู่ข้างสนามน่ะเป็นของชอบเลยครับ

“ตามใจนะ” แล้วกุ๊นก็วิ่งลงไปเตะบอลกับเพื่อนๆ

“เต๊บนั่งด้วยได้เปล่า” เต๊บนั่นเองครับ เดินมานั่งลงข้างๆผม

“นายไม่ไปเตะบอลกับเพื่อนๆเหรอเต๊บ” ผมถามเพื่อนใหม่ที่มานั่งลงข้าง

“เราไม่แข็งแรงนะ เล่นกลางแดดไม่ได้หรอก แล้วเกมหล่ะ ทำไมไม่ไปเตะหล่ะ” เต๊บถามผม

“เราไม่ชอบอ่ะ ขอแค่นั่งดูเฉยๆพอ” ผมพูดพลางหันกลับไปเชียร์กุ๊นต่อ

“ระวังโดนคนอื่นล้อว่าเป็นตุ๊ดนะ ไม่เล่นบอลอ่ะ” เต๊บพูดขึ้น

“ไม่สนใจอ่ะ จะว่าอะไรก็ว่า เราไม่สนหรอก” แล้วผมก็ลุกขึ้นเดินออกจากตรงนั้นไป

“เดี๋ยวเกม โกรธเราเหรอ ขอโทษนะ” เต๊บเดินตามมาขอโทษผม

“เปล่า แค่เราไม่ชอบคนที่ตัดสินคนอื่นแค่ภายนอกอ่ะ” (ความคิดของเด็กนะเนี่ยะ) ผมกล่าวไป พร้อมกับสัญญาณเตือนให้เข้าเรียนตอนบ่ายดังขึ้น

“เต๊บขอโทษนะ อย่าโกรธนะ” เต๊บยื่นนิ้วก้อยมาให้ผม

“อือ...” ผมยื่นนิ้วก้อยตอบกลับไป

“ทำไรอะ” เสียงกุ๊นดังขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาดึงมือผมเดินกลับห้อง

“เกมโดนไอเต๊บทำอะไรหรือเปล่า เราเห็นเหมือนเกมกับมันทะเลาะกันอะ” กุ๊นถามผม

“เปล่าๆ เราไม่ได้ทะเลาะกับเต๊บ” ผมพูดตอบไปพร้มกับเดินเข้าชั้นเรียนไป

จนเลิกเรียน

“เกม กลับบ้านยังงัยอ่ะ” เต๊บถามผมขึ้น

“เดินกลับอะ พี่สาวกลับก่อนแล้ว” ผมตอบกลับไป

“งั้นเด๋วเต๊บปั่นจักรยานไปส่ง เอาป๊ะ” เต๊บพูดพลางเอามือตบๆที่ที่นั่งของคนซ้อนท้าย

“ไม่เป็นไร เด๋วเราไปส่งเกมเอง” กุ๊นเองครับ อะไรว่ะเนี่ยะ

“บ้านนายไปอีกทางนี่กุ๊น” ผมพูดกับกุ๊น

“ก็เราจะไปส่งอะ” ตามประสาเด็กครับ อยากเอาชนะ

“ไอ้กุ๊นกลับบ้านได้แล้ว” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น พี่สาวของกุ๊นน่ะเองครับ

“กุ๊นกลับเถอะ เดี๋ยวเราให้เต๊บไปส่งก็ได้” แล้วก็เป็นไปตามที่ผมกล่าว กุ๊นยอมให้ผมกลับกับเต๊บ

“กุ๊นเขาเกลียดเต๊บเหรอ เห็นกุ๊นเขาไม่เห็นพูดดีกับเต๊บเลย” นายเต๊บกล่าวขึ้น

“ไม่หรอกมั้งเต๊บ” ผมกล่าวขึ้นก่อนที่จะให้ความสนใจกับขบวนรถไฟที่ผ่านมาพอดี

“เกมเคยนั่งรถไฟป๊ะ” เต๊บถามผม

“ไม่เคยอะ” ผมพูด

“เดี๋ยวถ้าโตขึ้น เต๊บจะพาเกมนั่งรถไฟ เอาป๊ะ” ผมเต๊บพูด

“เอาๆๆๆๆ” ตามประสาเด็กน้อยนะครับ อยากเล่นไปหมด

แล้วเต๊บก็ปั่นจักรยานมาส่งผมถึงบ้าน

“เต๊บจะกลับเลยป๊ะ เราว่ามาทำการบ้านด้วยกันเถอะ จะได้สนุกๆ” ผมเอ่ยชวนเพื่อนใหม่ของผมด้วยไมตรีจิต

“ก็ดีเหมือนกัน” แล้วผมก็พาเต๊บไปไหว้พ่อกับแม่ และปู่กับย่าผม ก่อนที่จะพากันมานอนทำการบ้านที่ลานหน้าบ้าน

“ขอนี้ทำไงอ่ะเกม” นายเต๊บถามผมในข้อที่ไม่รู้ ผมก็ตอบไปถ้าไม่ได้ก็ให้แม่ช่วย กว่าจะเสร็จก็เกือบจะค่ำแล้ว

“เดี๋ยวเต๊บกลับก่อนนะ เดี๋ยวค่ำก่อน” แล้วเต๊บก็เดินไปลาพ่อ แม่ ปู่และย่าผม ก่อนปั่นจักรยานออกจากบ้านผมไป

“พรุ่งนี้เจอกันนะเต๊บ” ผมพูดพลางโบกมือลาเพื่อนใหม่ของผม

“ไปอาบน้ำซะเกม แล้วมาช่วยแม่ทำกับข้าว” แม่สั่งผมก่อนที่ผมจะวิ่งเข้าไปอาบน้ำ แล้วออกมาช่วยแม่ทำกับข้าว การรับประทานอาหารค่ำนั้น พ่อ แม่ ปู่และย่าผมซักผมเรื่องการไปโรงเรียนวันแรกของผมอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ผมจะทานข้าวเสร็จแล้วเข้านอน เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้า ไปโรงเรียนกับพี่สาว ไปเล่นกับเต๊บ เพื่อนใหม่ที่ผมชอบครับ

.........
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-09-2007 19:51:12
หุหุ คนแรก  :m4:  :m4:  :m4:  :m4:
อืม รู้จักกันตั้งแต่ ป.1 เลยรึนี่  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-09-2007 23:46:50
อ่า ได้อ่านอีกเรื่องแล้ว

เปิดตัวมาตื่นเต้นน่าติดตาจริงๆ

ท่าทางเมฆจะก่อเค้ามาแต่เริ่ม

กุ๊นคิดอะไรอยู่หนอ

 :m27: :m27: :m27: :m27: :m27:

หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 20-09-2007 23:51:47
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 21-09-2007 13:56:31
..........

บทที่ 2 Puppy Love (แฟนฉัน)

“หวัดดีเกม...” เสียงกุ๊นตะโกนขึ้น “วันนี้มาเช้าจังนะ” กุ๊นวิ่งเอากระเป๋าไปไว้ที่นั่งของตัวเอง ก่อนวิ่งออกมาที่ลานหน้าห้องเรียนที่ผมนั่งดูเพื่อนเล่นกระโดดยาง

“ก็ตื่นเช้าอะ เลยมาเร็ว กุ๊นหล่ะทำไมมาช้าจัง” ผมถามกุ๊นต่อ

“ก็มันยังง่วงนอนอยู่อ่ะ เลยโดนแม่เอ็ดซะยกใหญ่เลย” กุ๊นพูดจบก็วิ่งออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน

“มาเช้าจังเลยนะเกม” เสียงใสๆ ของเต๊บดังขึ้นข้างหลังผม

“อ้าว... เต๊บ มาตอนไหน ไม่ยักเห็น” ผมกล่าวทักทายเต๊บ

“มัวคุยกับกุ๊นอยู่หล่ะสิเลยไม่ทันมองว่าเต๊บมาหรือยัง” เต๊บพูดแบบงอนๆ

“เหรอ... อืมมม... ขอโทษล่ะกัน” ผมพูดพลางยื่นนิ้วก้อยไปทางเต๊บ

“อื้ออ...” เต๊บยื่นตอบ

“เกม... เต๊บ... นั่งทำอะไร ไปเล่นก่อนเข้าแถวเหอะ” เสียงกุ๊นตะโกนกลับมา

“ไม่หล่ะ เด๋วเหงื่อออก นายเล่นไปเหอะ” เต๊บตะโกนกลับ

“เราเหมือนกัน” ผมตะโกนกลับไปด้วยเช่นกัน


...พักเที่ยง...

“เกมกินข้าวป๊ะ” กุ๊นชวนผม

“เต๊บ... กินข้าว” แล้วกุ๊นก็หันไปชวนเต๊บ ระยะหลังนี้ดูเต๊บกับกุ๊นสนิทกันกว่าเดิม อาจเพราะสองคนมีนิสัยคล้ายๆกันนะครับ เลยดูสนิทกัน ผมเลยพลอยดีใจไม่ต้องคอยมานั่งลำบากใจแบบเก่าอีก

“นี่ๆๆๆ เกม” กุ๊นสะกิดผมพร้อมชี้มือให้ผมดูอะไรบางอย่าง

“เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นเปล่า...” อ้อ! เด็กผู้หญิงนี่เอง

“อืมม... ทำไมเหรอ” ผมหันกลับไปกินข้าวต่อ

“เปล่าไม่มีอะไร แค่เราชอบน่ะ” กุ๊นพูดพลางกินข้าวต่อ เด็กผู้หญิงที่กุ๊นชี้ให้ผมดูนั้นชื่อ เจน เป็นเพื่อนข้างๆห้องผม และเป็นญาติห่างๆกับผมด้วย

“เหรอ” ผมพูด

“อื้ออ น่ารักดี เหมือนตุ๊กตาเลย... แล้วนายอะเต๊บ ไม่ชอบใครบ้างเหรอ” กุ๊นหันไปทางเต๊บ พอเต๊บได้ยินคำของกุ๊นก็หันหน้ามาทางผม

“อื้อ... ก็มีอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้เขารู้หรือเปล่า” เต๊บพูดแล้วก็ยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบครับ

“ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย... เนอะเกม” กุ๊นพูดแล้วหาแนวร่วม

“นั่นดิ” ผมพูด

“ก็แค่แอบชอบอะ” เต๊บพูดแถมแก้มนี่แดงระเรื่อเชียว น่ารักมากกกกก

“อือออ” แล้วการสนทนาก็ยุติลง เพื่อที่เราทั้งสามจะรีบกินข้าวให้เสร็จก่อนไปเล่นเกมกัน เพราะมีเวลานิดเดียวก็เข้าชั้นเรียนแล้ว

“นี่เกม... วันนี้เต๊บไปส่งอีกน่ะ” เต๊บพูดขึ้นระหว่างทำงานที่คุณครูมอบหมายให้ทำในชั่วโมง

“ไม่รู้อะ เราต้องบอกพี่สาวก่อน” ผมยังไม่ตกลงครับเพราะไม่รู้พี่สาวจะว่ายังงัย

“งั้นเดี๋ยวเราไปส่งด้วย เราอยากไปเล่นที่บ้านเกมอะ” กุ๊นพูดขึ้น ผมกับเต๊บนั่งโต๊ะเดียวกัน ส่วนกุ๊นนั่งข้างหน้าผม เพื่อนคงจะจำได้สมัยประถมโต๊ะนักเรียนจะเป็นแบบโต๊ะคู่ ไม่ใช่โต๊ะเดี่ยวแบบมัธยม

“อืมมมม ก็ได้” ผมตอบตกลง

“แล้ววันต่อไปก็ไปบ้านแก... ไอ้เต๊บ” กุ๊นพูดพลางหันไปทางเต๊บ

“แล้วค่อยไปบ้านกู” กุ๊นพูด

“เออๆๆ ก็ดี” สองคนเนี่ยะคุยด้วยภาษาพ่อขุนจริงๆ แต่ถ้าทั้งสองหันมาคุยกับผมเมื่อไหร่จะพูดเพราะมากครับ แปลกดี

“หวังว่าพ่อเมิงคงไม่จับกูเข้าคุกนะ” ความคิดเด็กๆครับกลัวตำรวจกันทั้งนั้น ซึ่งรวมถึงผมด้วย แต่หลังจากที่ผมรู้จักกับคุณพ่อของเต๊บแล้ว ความรู้สึกกลัวก็หมดไปเลยครับ


...เลิกเรียน...

เราทั้งสามคนก็ยกโขยงกันไปบ้านผม กุ๊นมาบ้านผมครั้งแรกเลยดูตื่นเต้นวิ่งไปไหว้ปู่กับย่าผม พ่อกับแม่ผมด้วย รวมทั้งผมและเต๊บด้วย

“งั้นมาทำการบ้านกันมั้ย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” ผมพูดขึ้น แล้วเราก็พากันทำการบ้าน ซึ่งก็ทำไปเล่นไป โดยเฉพาะกุ๊นกับเต๊บมักจะเล่นกันตลอดจนผมได้ว่าถึงยอกเลิกเล่นมาทำการบ้านต่อ ซักพักกุ๊นก็ขอตัวกลับก่อนเพราะกลัวมันค่ำ เต๊บเลยกลับด้วยเพราะกลับทางเดียวกัน

“พรุ่งนี้เจอกันเกม” ทั้งเต๊บและกุ๊นพูดขึ้นพร้อมกัน

“อื้อ” แล้วผมก็เดินเข้าบ้านเพื่อทำการบ้านให้เสร็จจะได้ทำงานบ้านต่อ

“เอ๊ะ... สมุดของเต๊บนี่หน่า” ผมพูดพลางเปิดดูข้างในสมุด ซึ่งเป็นสมุดเขียนเล่นทั่วไป

‘...เต๊บชอบเกมจังเลย...’ เป็นหนึ่งข้อความที่เต๊บเขียนไว้ในหน้าๆ หนึ่งของสมุด ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลย (แก่แดดจังเว้ย...) ก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นหรอก รู้เพียงว่าดีจังที่มีเพื่อนแบบเต๊บ

‘...เกมก็ชอบเต๊บนะ...’ ผมเขียนตอบลงไปใต้ข้อความนั้น ตอนนั้นที่เขียนแค่รู้สึกดีที่มีเพื่อนที่รักเราและเราก็รักเพื่อนเท่านั้นเองครับ แล้วผมก็ต้องรีบทำการบ้านให้เสร็จเร็วๆ เพื่อที่จะไปทำงานบ้านต่อ

..........
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 21-09-2007 14:02:32
..........

บทที่ 3 ความรู้สึกดีๆ

เช้าวันนี้ผมยื่นสมุดเล่มที่เต๊บลืมไว้ที่บ้านผม เต๊บรับไปด้วยสีหน้างงๆ ก่อนที่จะหน้าแดงขึ้นมา สงสัยจะนึกอะไรได้ว่าเขียนอะไรไว้ข้างใน

“เต๊บลืมไว้เมื่อวานอะ” ผมพูดพลางยิ้มให้เต๊บไป ผมสังเกตเห็นเต๊บหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิม พลางหันมาทางผมด้วยสีหน้าที่แดงมากกว่าเดิม สงสัยจะอ่านเจอข้อความที่ผมเขียนไว้ เหอๆๆ

“เกมพูดจริงเหรอ” เต๊บถามผมขึ้น

“อะไร” ผมถามกลับด้วยความสงสัย

“ก็เนี่ยะ...” เต๊บพูดพลางยื่นสมุดเล่มนั้นให้ผมดู

“อ๋อ... ใช่สิ... เต๊บเป็นเพื่อนที่ดีจะตาย” ผมพูดกับเต๊บ ดูเหมือนสีหน้าเขาจะแดงกว่าเดิมซะอีก

“ทำไรอะ ไปเก็บขยะ” เสียงกุ๊นพูดขึ้น

“ชอบเกมก็ไม่บอกเรา” กุ๊นพูดต่อ ทำเอาหน้าเต๊บแดงขึ้นกว่าเดิมอีก

“แต่เกมเป็นเจ้าสาวให้นายไม่ได้หรอกนะเต๊บ” กุ๊นกล่าวต่อ

“ทำไมอะ” ดูมัน ยังอุตส่าห์ถามต่อ ผมก็ได้แต่ยืนฟังสองคนนั้นคุยกัน ไม่รู้เรื่องเอาซะเลย (ผมนะ) ไม่รู้เขาพูดอะไรกันเข้าใจยากชะมัด

“ก็เพราะเกมเป็นผู้ชายนะสิ เพราะฉะนั้นนายกับเกมจึงได้แค่ชอบกันเท่านั้น” กุ๊นสรุปต่อให้เต๊บฟัง แล้วหลังจากนั้นพวกเราทั้งสามก็เดินไปเข้าแถว และเรียนทั้งวันต่อไป…

.........

“คิดอะไรอยู่เหรอเกม” เสียงกุ๊นดังขึ้นข้างหลังผม

“คิดถึงเรื่องเมื่อตอนประถมอะ กุ๊นจำเต๊บได้เปล่า” ผมกล่าวขึ้น

“เต๊บลูกตำรวจนะเหรอ... จำได้สิ” กุ๊นพูดพลางมองหน้าผม กุ๊นตัวสูงขึ้นมากในตอนนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นแค่เด็กม.ต้น แต่ตัวสูงเป็นบ้า

“ไม่รู้มันจะเป็นยังงัยบ้างเนอะ” กุ๊นพูดต่อแล้วก็หันไปทางอื่น

“เฮ้ออออออ... คิดถึงตอนเด็กๆแล้วตลกเป็นบ้าเลย” ผมพูดพลางหันไปทางกุ๊น

“อย่ามองแบบนั้นนะ เรื่องเก่าๆมันผ่านไปแล้วอย่าไปนึกถึงมันเลย” กุ๊นพูดดักคอผมเพราะเรื่องสมัยประถมมีแต่เรื่องฮาๆ เรื่องเปิ่นๆของนายกุ๊นเนี่ยะเป็นที่หนึ่งครับ

“555+” ผมหัวเราะ “แล้วตอนนี้ยังคิดเหมือนเดิมป๊ะกับเจนอะ” ผมพูดพลางมองหน้ามันอีกที

“ไม่แล้วหล่ะ แหม... ตอนนั้นยังเด็กอยู่นะเกม... ตอนนี้นะเราแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่ ไม่รู้เขาจะรู้ตัวหรือเปล่า” กุ๊นพูดพลางหันหน้ามาทางผม แล้วก็ยิ้มให้ผม

“เหรอ... ใครช่างเป็นบุคคลที่โชคร้ายขนาดนั้นว่ะ” ผมพูดพลางหัวเราะ แล้วก็หัวเราะแทบเหนื่อยเพราะกุ๊นแกล้งผมคืนด้วยการจี้เอวผม ทรมานมากเพราะผมเป็นบ้าจี้สุดๆ

“พอแล้วกุ๊น...” ผมยื่นมือไปดึงที่หูกุ๊น เพราะเป็นจุดเดียวที่ผมจะหยุดมันได้เพราะหูมันยานครับ 555+

“เจ๊บนะ” มันเลยหยุดจี้เอวผม แล้วเราก็เดินขึ้นห้องเรียนต่อ...

............

“วันนี้ไปบ้านเต๊บใช่ป๊ะ” กุ๊นพูดขึ้น พวกเราสามคนทำแบบนี้มาตลอดเวลาจนจอนนี้ขึ้น ป.3แล้วก็ยังคงแวะเวียนไปทำการบ้าน พ่อแม่ของแต่ละคนก็ยินดีมากที่พวกผมพากันทำการบ้านและแวะเวียนไปบ้านคนนั้นคนนี้ โดยเฉพาะบ้านของกุ๊นจะดีใจเป็นพิเศษที่ลูกชายเลิกเล่นหันมาทำการบ้านกับเพื่อนๆได้

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” ผมกับกุ๊นกล่าวขึ้นพร้อมกัน

“จ้า... มากันแล้วเหรอ ดีจ๊ะ กินขนมกันก่อนมั้ย” คุณแม่ของเต๊บกล่าวขึ้นด้วยไมตรีจิต

“พ่อมีอะไรจะพูดกับเด็กๆพอดีนะ คือ พ่อต้องย้ายไปเป็นตำรวจที่สระบุรีเดือนมีนาคมนะ” คุณพ่อของเต๊บกล่าวขึ้น ผมกับกุ๊นเลยมองหน้ากันแล้วก็หันไปมองหน้าเต๊บ พวกเราสามคนเลยเดินออกไปที่หน้าบ้าน

“นี่แกจะย้ายที่เรียนตามพ่อแกเหรอเนี่ยะ” กุ๊นพูดขึ้น

“ก็คงเป็นอย่างนั้นนะ กูไม่มีญาติอยู่ที่นี่นี่นา” เต๊บพูดขึ้น

“...” ผมยังคงเงียบอยู่ไม่อยากพูดอะไรเลย

“เงียบทำไมอะเกม” กุ๊นถามผม

“เปล่าแค่ตกใจนิดหน่อยอะ” ผมพูด

“เรายังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะเกม ยังเขียนจดหมายหากันได้” เต๊บกล่าวขึ้น

“เอาเหอะ... กว่าแกจะไปก็ตั้งอีก 4 เดือน เวลาที่เหลืออย่าทำให้เสร้าเลย” กุ๊นพูดขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นพวกเราก็ตั้งใจทำการบ้านให้เสร็จ เพื่อจะได้เล่นวีดีโอเกม ซึ่งผมเป็นคนนั่งดูมากกว่า เพราะเล่นทีไรก็แพ้สองคนนั่นทุกที เลยขอนั่งดูดีก่าจะได้สนุก

หลังจากวันนั้นพวกเราทั้งสามคนใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ทำการบ้านด้วยกัน เพื่อใช้เวลาทั้งหมดให้คุ้มค่ามากที่สุด เต๊บจะเป็นห่วงผมมากกว่าเพราะนอกจากเต๊บกับกุ้นแล้ว ผมแทบจะไม่ได้ไปไหนกับใครเลย แล้วถ้าไม่มีเต๊บก็เหลือแค่กุ๊นที่ผมต้องไปไหนไปด้วย ถ้าเกิดกุ๊นไม่มาโรงเรียนผมจะเป็นอย่างไร

“เวอร์น่าเต๊บ เราโตแล้วนะ จะ 10 ขวบอยู่แล้ว วันไหนกุ๊นไม่อยู่เราก็ไปกับคนอื่นได้น่า เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง” ผมกล่าว

“เกม... ไอ้เต๊บมันอุตส่าห์เป็นห่วงนะ” กุ๊นแย้งขึ้น “แต่นายไม่ต้องห่วงน่า เราไม่แยกจากเกมแน่นอน” กุ๊นหันไปพูดกับเต๊บ

“อ่า... ก็เราไม่อยากให้เต๊บเป็นห่วงนี่นา” ผมพูดขึ้น

แล้วการปิดเทอมก็เข้ามาถึง เดือนมีนาคม 2535 เต๊บต้องเดินทางย้ายตามครอบครัวไปที่ จ.สระบุรี ผมกับกุ๊นก็มาส่งเต๊บที่บ้านพักตำรวจซึ่งเพื่อนๆที่สนิทกับเต๊บก็มาด้วย รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ของผมและกุ๊นก็ตามมาสมทบด้วย

“โชคดีนะเต๊บ อย่าลืมเขียนจดหมายมาหากูกับเกมบ้างนะ” กุ๊นพูดขึ้น

“อย่าห่วงน่า กูเขียนมาแน่” เต๊บพูดขึ้นพลางหันมาทางผมแล้วพูดว่า

“เกมดูแลตัวเองดีๆนะ เด๋วเต๊บเขียนจดหมายมาหาแน่นนอน” เต๊บพูดจบก็ดึงผมเข้าไปกอด ซึ่งกุ๊นก็เลยเดินเข้ามากอดด้วย เราสามคนร้องไห้ด้วยกันจนคุณพ่อและคุณแม่ของเต๊บเดินเข้ามาปลอบพวกเรา

“ถ้าพ่อกับแม่มีโอกาสมาที่อุบลฯ จะพาเต๊บมาเยี่ยมนะจ๊ะ” แม่ของเต๊บกล่าวปลอบพวกเรา ท่านทั้งสองคงเข้าใจดีว่าพวกเราสามคนสนิมกันมาก

“โชคดีนะจ่า” คุณพ่อของกุ๊นกล่าวขึ้นหลังจากที่ได้เวลาเดินทางของครอบครัวนี้แล้ว

“โชคดีนะเต๊บ...” ผมกับกุ๊นกล่าวขึ้นพลางโบกมือลากัน

“อย่าลืมสัญญาที่แกให้กับฉันนะไอ้กุ๊น ถ้ากูรู้ว่ามึงผิดสัญญาเมื่อไหร่กูเอามึงตายแน่” เต๊บพูดพลางเดินขึ้นรถ แล้วรถของครอบครัวนี้ก็เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาของทุกๆ คนที่มาส่ง

“กูไม่ลืมสัญญาหรอกไอ้เต๊บ...” กุ๊นกล่าวขึ้นเบาๆ หลังจากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง ส่วนเกมตกลงกับผมว่าจะไปเล่นกับผมที่บ้านทุกอาทิตย์ เพราะมาทุกวันคงไม่ได้ ต้องช่วยงานของครอบครัวเหมือนกัน

...............

“เหม่ออีกแล้วนะเกม” กุ๊นพูดขึ้นขณะที่เรากำลังอ่านหนังสือในห้องสมุด

“อื้อ... โทดที... กำลังนึกถึงเรื่องสมัยประถมอะ” ผมกล่าวพลางก้มลงไปงานแบบฝึกหัดต่อ

“เรื่องไอ้เต๊บอีกแล้วเหรอ...” กุ๊นพูดพลางทำหน้าบึ้ง

“แล้วไหงต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยหล่ะกุ๊น...” ผมถามอาการของกุ๊นที่ทำหน้าบึ้งใส่ผม

“เปล่า...” กุ๊นพูดจบก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อไป

“กุ๊นยังไม่ลืมเรื่องที่สัญญากับไอ้เต๊บหรอกน่ะ เกม... ไม่ต้องห่วง” กุ๊นพูดต่อแต่ยังคงก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม

“อืมม...” ผมไม่รู้จะว่ายังงัย ก็กุ๊นทำหน้าแบบนั้นนะครับ หน้างอนๆ แก้มป่องๆ น่ารักเป็นบ้า

“เฮ้ย!...” กุ๊นอุทานหลังจากที่ผมยื่นมือไปดึงหูเขา

“เล่นไรเนี่ยะ... จั๊กจี้นะเกม” กุ๊นกล่าวพลางเอามือไปลูบหูตัวเอง

“หายงอนยัง งอนเรื่องไรเนี่ยะ” ผมยิ้มให้กุ๊น “จะ 15 แล้วนะงอนเป็นเด็กๆ” ผมพูดต่อ

“กุ๊นไม่ใช่เด็กแล้วนะเกม กุ๊นโตแล้ว สูงกว่าเกมอีก กุ๊นจะงอนเกมเพื่อให้เกมสนใจกุ๊นบ้าง ไม่ได้เลยเหรอ” กุ๊นพูดจบพลางเก็บหนังสือแล้วลุกออกจากห้องสมุดไป ทำเอาผมงงไปเลยครับ

“เฮ้ย! ...” ผมอุทานพลางวิ่งตามกุ๊นออกไป

“เดี๋ยวก่อนกุ๊น...” ผมวิ่งไปจับแขนเสื้อกุ้น แต่กุ๊นสะบัดมือผมจนหนังสือของกุ๊นร่วง ผมก็ร่วงลงไปกองที่พื้นตามแรงสะบัดของกุ๊น

“โอ๊ย...” ผมร้องเบาๆ เพราะรู้สึกเจ็บที่หัวเข่า ปรากฏว่าหัวเขาผมถลอกนั่นเองครับ

“เป็นอะไรมั้ยเกม...” กุ๊นเข้ามาพยุงผมลุกขึ้นพลางเดินไปเก็บหนังสือแล้วพาผมไปห้องพยาบาล ซึ่งอาจารย์ก็ให้กุ๊นทำแผลให้ผม

“เจ็บมากมั้ย... กุ๊นขอโทษนะ” กุ๊นพูดพลางเอาผ้ามาเช็ดแผลแล้วก็ทายา

“เฮ่ๆๆๆ... เบาๆ ดิ เจ็บน่ะ” ผมร้องเพราะแสบแผล

“แล้วนี่กุ๊นหายงอนเกมยังอะ” ผมถามกุ๊นต่อหลังจากที่เขาทำแผลให้ผมเรียบร้อยแล้ว

“...” กุ๊นพยักแทนการตอบ

“แล้วกุ๊นเป็นอะไร ทำไมถึงโกรธเกมหล่ะ” ผมถามต่อด้วยความสงสัย

“ซักวันเกมจะเข้าใจว่าทำไม” กุ๊นพูดขึ้นด้วยถ้อยคำที่จริงจัง
..........
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (ตอนใหม่ 21 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-09-2007 15:16:25
รึกุ๊นจะชอบเกม  :m28:

รอลุ้นต่อจ๊ะ  :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (ตอนใหม่ 21 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-09-2007 15:43:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (ตอนใหม่ 21 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 22-09-2007 16:41:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [True Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (ตอนใหม่ 21 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 22-09-2007 17:01:00
 :impress:

เพิ่งเข้ามาอ่านครับ

รออ่านต่อไปครับ

 o15
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 24-09-2007 16:18:02
.........

บทที่ 4 ความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มก่อตัวมากขึ้น

อีกไม่กี่วันจะเป็นวันแข่งขันกีฬาภายในของโรงเรียนผม ซึ่งจะมีคนมากมายเข้ามาชม ผมไม่ได้เป็นนักกีฬากับเขาหรอก เพราะยังเด็กอยู่ (เหอๆ เกี่ยวกันมั้ยเนี่ยะ) ที่จริงรุ่นพี่ในคณะสีของผมเขาไม่ยอมให้ผมลง ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ผมเลยได้แต่นั่งดูเพื่อนๆ ซ้อมกันอย่างแข่งขัน รวมถึงกุ๊นด้วย ผมอยู่สีเขียว ส่วนกุ๊นอยู่สีน้ำเงิน โรงเรียนผมมีอยู่ 4 สี คือ แดง เหลือง น้ำเงิน เขียว กุ๊นไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่ผมไม่ได้อยู่สีเดียวกันกับเขา เพราะอะไรผมก็ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้จากเพื่อนๆ คือ กุ๊นไม่ชอบรุ่นพี่คนหนึ่งที่ชอบเข้ามาคุย เข้ามาตีสนิทกับผม (กรูโตแล้วว้อย) ผมก็งงๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมจึงมักจะไปช่วยงานสีน้ำเงินบ้าง แต่เป็นบางครั้งเท่านั้น เพราะเพื่อนๆ ที่อยู่สีเขียวมักจะแซวผม (ที่จริงก็จิกเล็กๆ แหละครับ)

“นี่เกมไม่เล่นอะไรเลยเหรอ” กุ๊นถามผมขึ้นขณะอ่านหนังสือในห้องสมุด

“...” ผมส่ายหน้า “เราเป็นรองประธานสีฝ่ายการเงินหน่ะ เลยไม่ได้เล่น” ผมพูดพลางยิ้มแล้วหันกลับไปอ่านหนังสือ

“เดี๋ยวก็ไม่แข็งแรงหรอก” กุ๊นพูดพลางล้มตัวลงนอนบนตักผม ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพื่อนกันนิ และกุ๊นก็ทำแบบนี้มาตั้งแต่ประถม จนถือเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว

“นี่ๆ หนักนา...” ผมเขย่าตัวกุ๊น ซึ่งก็ไร้การตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น ผมกับกุ๊นมักมานั่งหลบมุมในห้องสมุดตรงนี้ประจำ ถือว่าเป็นมุมโปรด เพราะปลอดจากผู้คน ไม่ค่อยมีคนเดินมาถึงตรงนี้ อาจด้วยเป็นมุมในสุดของห้อง เลยไม่ค่อยมีคนเข้ามา และทุกครั้งที่มาอยู่มุมนี้กุ๊นก็มักจะแอบงีบบนตักผมประจำ ซึ่งผมก็ปล่อยให้กุ๊นนอน ส่วนผมก็อ่านหนังสือที่หามาไปเรื่อยๆ จนกว่ากุ๊นจะตื่น มีอยู่ครั้งหนึ่งผมแกล้งกุ๊นด้วยการเอาสีเมจิกมาเขียนหน้ากุ๊น แต่ไม่ได้เขียนซะน่าเกลียด แค่วาดแค่เติมหนวดให้กุ๊นเท่านั้น ซึ่งหลังจากตื่นนอนกว่าเขาจะรู้ตัวก็ผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง พอรู้ตัวแทนที่มันจะอาย กลับสนุกไม่ยอมไปล้างออก ซึ่งกุ๊นมักจะอ้างว่า ... ‘สวยไมวะ แฟนกูปลูกหนวดกูนะโว้ย’... โห ฮาไปทั้งห้องเลยครับ แต่ครั้งนี้ผมไม่แกล้งมันหรอก สงสารมัน (เหอๆ) แต่ก็แอบๆ เหล่มองหน้ามัน ตังแต่เป็นเพื่อนกับกุ๊นมาเกือบ 10 ปี ผมเพิ่งจะมีโอกาสมองหน้ากุ๊นแบบพินิจพิเคราะห์ก็ครั้งนี้แหละ กุ๊นเป็นเด็กผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาดีคนหนึ่ง เป็นนักกีฬาอีกต่างหาก สูงเกินเด็กอายุ 14 อืมมม เพื่อนเราก็ดูหล่อดีนี่หว่า ระหว่างที่ผมมองดูหน้ากุ๊นนั้น มือผมก็เอื้อมไปลูปหน้ากุ๊นเล่น เพื่อนๆ คงเคยเห็นคนนอนนะครับ เวลาที่เราเอามือไปแหย่เนี่ยะ ตลกมากๆ (มันจะกัดไหมเนี่ยะ) ผมเขี่ยผมกุ๊นอยู่นานจนกุ๊นคงรู้สึกตัวเลยจับมือผมไว้ ทำเอาผมตกใจ (มันรู้ตัวด้วย) มันดึงมือผมไปไว้ที่คอมัน

“มือเกมนี่อุ่นดีจัง” กุ๊นพูดพลางดึงมือผมไปหอม “หอมดีอีกต่างหาก”

“ไอ้บ้า” ผมชักมือกลับ พลางเขกหัวมันทีนึง (เบาๆ)

“โห แค่นี้เล่นหัว” แล้วมันก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด (ขณะที่มันยังหนุนตักผมอยู่)

“ตัวก็หอมด้วย” ไอ้บ้าเล่นไรเนี่ยะ

“พอแล้ว จั๊กจี๋นะ” ผมมันบ้าจี้อยู่แล้วครับ เลยดิ้นใหญ่ แต่ผมรู้จุดอ่อนมันอยู่แล้วว่าเป็นที่ไหน 1 2 3... แล้วมือผมก็ไปถึงจุดสำคัญของกุ๊น นั่นคือ หู นั่นเอง

“ยอมแล้วๆๆๆๆๆ” กุ๊นเป็นฝ่ายร้องบ้าง

“นี่ๆๆๆๆๆๆ” ผมยังดึงหูมันครับ อยากแกล้งกูดีนัก หึหึหึหึ

“...” กุ๊นเงียบ ปล่อยให้ผมเล่นหูมันต่อไป “สนุกพอยัง” มันหน้าบึ้งเฉยเลย

“...” ผมปล่อยมือออกจากหูทั้งสองข้างของกุ๊น “โกรธเหรอ” ผมถามกุ๊น

“...” เงียบ ไร้ซึ่งการตอบสนอง ไรว้า...

“นี่แนะ” ยังไม่ทันที่ผมตั้งตัว กุ๊นก็จี้เอวผมต่อ จนผมล้มลงนอนกลิ้งไปมาทรมาณสุดยอด เพื่อนๆ คนไหนบ้าจี้คงเข้าใจความรู้สึกผมนะ

“...” ต่างฝ่ายต่างเงียบเมื่อกุ๊นล้มลงมาทับผม หน้าของกุ๊นอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบ

“...” เหอๆๆๆ

“(เสียงตามสายของฝ่ายประชาสัมพันธ์)... ประกาศ... ขอให้นายเจษฎา มาพบเพื่อนๆ ที่สนามฟุตบอลด้วย เพื่อนๆ รอซ้อมอยู่ มัวไปจู๋จี๋กับแฟนที่ไหนวะ มาด่วน และขอให้นายเชษฐวัทน์ มาพบประธานสีเขียวที่ตึกวิทยาศาสตร์ด่วนด้วย... โปรดฟังอีกครั้ง (ขออิงกระแสนิดนึง 55+)... ขอให้นายเจษฎา มาพบเพื่อนๆ ที่สนามฟุตบอลด้วย เพื่อนๆ รอซ้อมอยู่ ด่วน และขอให้นายเชษฐวัทน์ มาพบประธานสีเขียวที่ตึกวิทยาศาสตร์ หายไปสองคนแบบนี้น่าสงสัยนะ จบประกาศ...” เล่นกูแล้วไหมหล่ะไอ้ต้นเพื่อนตัวแสบ ประกาศออกทางหอกระจายเสียงขนาดนั้น

“ลุกดิ... หนักนะนี่” ผมพูดพลางลุกเก็บหนังสือไปเข้าที่ (แอบเขินนิดๆ)

“เกม” กุ๊นเรียกผม “ขอโทษนะที่เล่นแบบนั้น” กุ๊นขอโทษผม

“ไม่เป็นไร” ผมพูดจบก็เอื้อมมือไปจับหูมันอีก

“มีเกมเท่านั้นนะที่จับหูกุ๊นได้” กุ๊นพูดพลางเดินออกจากห้องสมุดไป พูดแปลกๆ ไอ้นี่ ว่าแล้วผมก็วิ่งไปพบประธานสี พี่ต่อ อยู่ม. 5 หล่อมาก แต่ผมไม่ได้คิดอารายกับพี่เขานา (แต่พี่เขาคิดอะไรกับผมหรือเปล่า ไม่รู้ เหอๆๆ) ซึ่งก็ไม่พ้นเป็นการประชุมคณะกรรมการสีเรื่องของงานกีฬาที่จะจัดขึ้นอีก 2 วันข้างหน้า ผมก็ต้องแจกแจงเรื่องการใช้เงินให้คณะกรรมการฝ่ายต่างๆ จนครบ พี่ต่อเป็นประธานคณะกรรมการการจัดงานฝ่ายนักเรียนด้วย ทำให้สีเรารับบทหนักที่สุด

“เข้าใจแล้ว ก็ขอจบการประชุมแล้วกัน แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ตัวเองที่ได้รับมอบหมาย” พี่ต่อสั่งงานกับคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ รวมถึงผมที่เป็นรองประธานฝ่ายการเงินด้วย แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ฝ่ายต่างๆ คนที่คุมก็เป็นแค่กรรมการสีเท่านั้น มีผมเป็นรองประธานอยู่คนเดียว ผมก็ถามคนอื่นนะ แต่ก็ไม่มีใครตอบผมได้ซักคน

“เกม เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปตลาดเจริญสีกับพี่นะ หาเพื่อนมาซัก 2-3 คนด้วย” พี่ต่อหันมาคุยกับผม

“ครับ” ผมรับคำ “แล้วพี่ต่อลิสต์รายการที่ต้องซื้อยังครับ” ผมถามพี่เขาต่อ

“อือ เรียบร้อยแล้วหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะ” พี่ต่อพูดพลางยิ้มให้ผมแล้วเดินออกจากตรงนั้นไป

“มีคนหล่อคอยเทคแคร์เนี่ยะ คงไม่เหนื่อยหรอกมั้ง” เสียงกุ๊นดังขึ้นจากข้างหลัง

“อะน้ำ” กุ๊นพูดพลางยื่นแก้วน้ำให้ผม

“ขอบคุณครับ” ผมพูดพลางรับแก้วน้ำมาดื่ม

“แล้วนี่กุ๊นซ้อมเสร็จแล้วเหรอ” ผมถามกุ๊นต่อ

“อือ... วันนี้แค่ซ้อมนิดหน่อย เพราะพี่เขาอยากให้ออมแรงไว้ตัดเชือกกับสีเหลืองวันพรุ่งนี้นะ ถ้าชนะก็จะมีคะแนนสูงกว่าสีแดง แล้วก็จะเข้าไปชิงกับสีของเกมอะ” กุ๊นพูดต่อพลางพากันเดินออกจากตรงนั้นเพื่อกลับบ้าน

“เดี๋ยวกุ๊นไปส่งอีก” กุ๊นพูดพลางติดเครื่องมอเตอร์ไซท์คู่กายเขา ซึ่งแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย

“อืมม” ผมพูดพลางขึ้นนั่ง

“เกาะดีๆ นะ... เด๋วตก” กุ๊นพูดพลางดึงมือผมไปกอดเอวเขา

“ไปหละนะ” กุ๊นพูดอีกทีก่อนที่จะออกตัวไป จนมาถึงบ้านผมซึ่งมันก็ 5 โมงเย็นแล้ว ทางบ้านผมก็เข้าใจที่ผมกลับค่ำเพราะมีกิจกรรม ขอแต่อย่าเสียงานบ้านที่รับผิดชอบเป็นพอ

“ว่าไงไอ้ตัวเล็ก” กุ๊นพูดพลางเดินเข้าไปกอดน้องผม ซึ่งอายุ 7 ขวบแล้ว น้องผมกับกุ๊นค่อนข้างจะสนิทกัน (เข้าใจเข้าทางน้องนะ) น้องผมชอบที่จะเล่นกับกุ๊นเพราะกุ๊นค่อนข้างจะตามใจน้องผม เหตุผลง่ายๆ เพราะกุ๊นเป็นลูกชายคนสุดท้องคนครอบครัวเลยไม่มีน้อง พอครอบครัวผมมีน้อง กุ๊นเลยสนิทกับน้องผมมาก เล่นกันอยู่ซักพักกุ๊นก็ขอตัวกลับบ้าน ผมจึงทำงานบ้านที่ได้รับมอบหมายต่อ...

วันงานกีฬาสีภายใน...

วันนี้เป็นวันงานการแข่งขันกีฬาสีภายในของโรงเรียนผม แต่ละสีต่างตกแต่งแสตนด์เชียร์ของตัวเอง ดูยิ่งใหญ่เป็นบ้า ซึ่งสีผมภายใต้การนำของพี่ต่อก็ไม่น้อยหน้า การเดินขบวนเริ่มตั้งแต่ถนนใหญ่เพื่อรณรงค์การต่อต้านยาเสพติดและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วย เพราะการจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นหลังวันที่ 12 ประมาณ 2 อาทิตย์ ผมได้รับหน้าที่กล่าวเทิดพระคุณแม่ (เจ๋งเปล่า) มีคนบอกว่าวันนั้นนักเรียนหลายคนร้องไห้เพราะบทความเทิดพระคุณแม่ ซึ่งกุ๊นก็ยังบอกผมว่า... “ขนลุกเลยอะเกม” ... เหอๆ แล้วงานกีฬาก็ดำเนินไปอย่างปกติ

“ต่อไป... จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง สีน้ำเงินและสีเขียว” เสียงประกาศจากกองอำนวยการ เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มขึ้น ผมจึงเดินไปนั่งดูที่บริเวณระหว่างแสตนด์เชียร์ของสีน้ำเงินกับสีผม วันนี้กุ๊นเล่นได้ค่อยข้างดี กุ๊นมักจะหันมาโบกไม้โบกมือให้ผม แน่นอนก็จะมีเสียงโห่จากทั้งสีน้ำเงินและสีผม เหอๆๆ ก็มีแต่เพื่อนผมเท่านั้นครับ

“นั่งด้วยคนนะครับ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรเขาก็นั่งลง

“ผมตงครับ” เขาแนะนำตัวกับผม ซึ่งผมก็แนะนำตัวไปเช่นกัน คนที่ชื่อตงเนี่ยะมาจากโรงเรียนในตัวอำเภอ (น่ารักด้วย หุหุ) ผมเพิ่งสังเกตว่ามีเพื่อนเขา 3-4 คนนั่งอยู่ข้างหลังผม ผมก็ไม่ได้สนใจเพราะก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ผมก็คุยกับเขาเรื่อยๆ คุยถูกคอซะด้วย จนได้รู้ว่าเขาอายุมากกว่าผม 1 ปี อยู่ชั้นม.3 ของโรงเรียนดังกล่าว

“สีน้ำเงินนำสีเขียว 1 ประตูต่อ 0” แล้วเสียงเชียร์ของสีน้ำเงินก็ดังขึ้น ผมจึงหันไปมองสีผม ก็ดูไม่เสียใจเลยนี่หว่า กลับสนุกสนานกันซะงั้น ซักพักผมก็เห็นกุ๊นวิ่งไปคุยกับเพื่อนที่ข้างสนามตรงแสตนด์เชียร์สีผม คุยอะไรกันไม่รู้ดูเครียดๆ กุ๊นคุยกับเพื่อนผมซักพักพลางหันและชี้มาทางผม แล้วกุ๊นก็วิ่งเข้าไปในสนามต่อ

“เกม... แป๊บนึง” ต้นเดินเข้ามาตรงที่ผมนั่งแล้วดึงผมลุกจากตรงนั้น ไม่ถึงนาทีกลุ่มนักฟุตบอลในสนามประมาณ 5-6 คน นำโดยกุ๊นก็วิ่งออกจากสนามตรงไปยังตรงที่กลุ่มของตงนั่งอยู่ ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร ทุกอย่างก็ชุลมุนไปหมด ต้นจึงรีบดึงผมออกจากบริเวณนั้นโดยด่วน ซักพักพี่ต่อก็วิ่งสวนผมพร้อมพี่ๆ คณะกรรมการจัดงานไปยังที่เกิดเหตุ... ผมได้ยินแต่ประกาศจากกองอำนวยการให้นักเรียนอยู่ในความสงบ ก่อนที่คณะอาจารย์ฝ่ายปกครองจะวิ่งไประงับเหตุ...

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 24-09-2007 16:22:11
..........

บทที่ 5 ความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อน: บทที่สองของความรัก

เหตุการณ์วันงานกีฬาสีทำให้กุ๊นและเพื่อนๆ โดนพักการเรียน 5 วัน และสีน้ำเงินก็ถูกปรับแพ้ฟุตบอลทันที สีผมเลยได้แชมป์ฟุตบอลไป แต่ก็ฉลองให้สีน้ำเงินเหมือนเดิม ส่วนพี่ต่อก็โดนเรียกเข้าพบผู้อำนวยการ แต่ก็ไม่ได้โดนลงโทษอะไร เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เรื่องนี้ทำให้ห้องของพวกผมโดนปรับคะแนนเกือบ 30 คะแนน จนแทบจะเรียกว่าไม่มีโอกาสคว้ารางวัลห้องเรียนดีเด่นเลย แต่ก็ไม่มีใครโกรธกุ๊นกับเพื่อนที่ก่อเหตุเลย กลับสนับสนุนกันซะงั้น...

“จะทำอะไร ทำไมไม่คิดก่อน ใจร้อนไปไหนเนี่ยะ” ผมว่ากุ๊นหลังจากที่โดนพักการเรียนและกลับมาเรียนเรียบร้อยแล้ว

“ก็ตอนนั้นคิดแค่ว่ามันมายุ่งกับเกม และมีพี่บางคนไม่ชอบหน้าไอ้กลุ่มนี้ด้วย ก็เลย...” กุ๊นพูดพลางก้มหน้าสำนึกผิด

“แล้วเจ็บมั้ยเนี่ยะ ยังช้ำๆ อยู่เลย” ผมพูดขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับตรงรอยฟกช้ำบนใบหน้ากุ๊น

“แค่เกมเป็นห่วงกุ๊น แค่นี้ก็หายแล้ว” กุ๊นพูดซะหวานเชียว เขินนะเนี่ยะ

“เว่อร์ๆ เพื่อนกันก็ต้องห่วงกันดิ” ผมพูดพลางเดินไปหยิบสมุดมาให้เกม

“นี่เป็นบทเรียนที่เราจดตลอด 5 วันที่กุ๊นไม่ได้มาเรียน เอาไปจดไว้อ่านสอบหละกัน” ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม เพราะเพื่อนๆ เริ่มทยอยเข้ามาในห้องมากขึ้น

“ทำอะไรกันนะสองคนนี่” ไอ้ต้นเพื่อนตัวแสบพูดขึ้น

“ไอ้เหี้ยเด๋วปั๊ดเหนี่ยวเลย" ผมพูดขึ้น

“โห ตั้งแต่วิ่งเข้าไปแยกพวกหมาบ้านั่นออกจากกลุ่ม เกมดูเปลี่ยนไปนะ” ก้องพูด ก่อนที่เพื่อนๆ ในห้องจะหัวเราะขึ้น

“เปลี่ยนไงวะก้อง” ต้นพูดขึ้นเสริมก้อง

“ก็ดูเข้ากันดี๊ดีๆ ไงวะ” ก้องพูดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เพื่อนๆ ยิ่งแซวผมเข้าไปใหญ่เลยครับ ส่วนไอ้ตัวต้นเรื่องก็หัวเราะไปกับเขาซะงั้น จะบ้าตาย

“หยุดเสียงดังได้แล้วไอ้ลิงพวกนี้นี่” อาจารย์เดินเข้ามาสอน พวกเพื่อนๆ จึงเข้าประจำที่ของตัวเอง ก่อนการเรียนการสอนจะเริ่มขึ้น...

…….
ผ่านมาแล้วเกือบสามปีแล้วที่ผมและกุ๊นขาดการติดต่อจากเต๊บ ด้วยสาเหตุอะไรไม่แน่ใจ แต่จดหมายของผมและกุ๊นที่ส่งหาเต๊บล้วนถูกตีกลับ จนผมและกุ๊นจนปัญญาที่จะติดต่อเต๊บแล้ว

“เจ็บมากมั้ย” ผมถามอาการของกุ๊น เพราะแผลที่เกิดจากการชกต่อยวันนั้นมันยังปรากฏอยู่

“...” มันส่ายหัว เพื่อให้ผมไม่ต้องเป็นห่วงมัน

“ไม่ต้องมาปฏิเสธเลย เมื่อวันนั้นยังร้องอยู่เลยตอนที่เกมทายาให้อะ” ผมพูด กุ๊นจึงยกมือมาขยี้หัวผม

‘รู้สึกดีจัง’ ผมคิดในใจ ‘อ๊ะ... เราคิดอะไรเนี่ยะ’ ผมคิดพลางปัดมือกุ๊นออก

“เจ็บน่ะ” ผมพูดเพื่อไม่ให้กุ๊นเข้าใจผิดที่ผมปัดมือเขาออก

“ขอโทษ...” แล้วเราทั้งสองก็เดินเข้าชั้นเรียนไป...

“นี่เกม... หลังเลิกเรียนนี้เกมรีบกลับบ้านเปล่า กุ๊นมีเรื่องจะคุยด้วย” กุ๊นถามผมขณะรอเรียน

“...” ผมส่ายหัวเป็นเชิงตอบว่าไม่รีบกลับ

“พวกเมิงจะพากันไปไหนว่ะ... ฮั่นแน่... ไอ้กุ๊นมึงคิดจะ...ไอ้เกมเหรอว่ะ” เพื่อนในห้องแซวกุ๊น

“ไอ้เหี้ย...พวกเมิงนี่คิดอกุศลเป็นบ้า... เด๋วเหอะเมิง” ว่าแล้วกุ๊นก็วิ่งเข้าไปเตะก้นคนที่พูด จนอาจารย์เข้ามาทุกคนถึงเลิกเล่นกัน

“เสียงดังไปถึงห้องพักครูเลยนะ... ไอ้ลิงพวกนี้นิ นั่งลง...” อาจารย์พูดพลางมองไปที่กลุ่มของกุ๊น “...วันนี้ครูมีเรื่องจะบอก” อาจารย์กล่าวต่อหลังจากดุเสร็จ

“วันนี้มีเพื่อนใหม่ที่จะเข้ามาเรียนที่ห้องพวกเธอ... เชิญจ๊ะ” อาจารย์พูดเสร็จก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา

“สวัสดีครับ ผมชื่อ กษณวรรต ครับ ชื่อเล่น เต้ ครับ” เด็กคนนั้นแนะนำตัว แล้วอาจารย์ก็ให้เขาเดินไปนั่งข้างๆ เพื่อนคนหนึ่งใกล้ๆ ผม

“เฮ้ย... เต้” ผมอุทานขึ้น เนื่องจากไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนเก่าสมัยประถม เต้ย้ายโรงเรียนหลังจากเต๊บ 1 ปี

“ทำไมกลับมาอีกเนี่ยะ” ผมถามและจับใจความได้ว่า เต้ย้ายกลับมาอยู่กับย่าที่ไม่มีใครอยู่ด้วยแล้ว เลยได้มาเรียนมัธยมที่นี่ โชคดีจังที่ได้พบเพื่อนเก่า ซึ่งหลังจากนั้นเพื่อนๆ ที่ไม่ได้รู้จักเต้มาก่อนและที่รู้จักเต้แล้วก็มาทำความรู้จักกันใหม่ จนอาจารย์กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อเริ่มเรียน...

.........

หลังเลิกเรียน

“...” หายไปไหนของเขานะ นัดเรามาแท้ๆ กับไม่เห็นหัว ผมมาตามนัดแล้วยังไม่เห็นกุ๊นเลย

“รอนานมั้ย” เสียงกุ๊นดังขึ้นด้านหลังผม

“...” ผมส่ายหน้าพลางพูดว่า “ไม่นานหรอก... แล้วกุ๊นมีอะไรเหรอ”

“...” กุ๊นยื่นบางอย่างให้ผม

“อะไร!” ผมถาม

“เปิดดูดิ” กุ๊นพูด “กุ๊นตั้งใจซื้อให้เกม”

“เฮ้ย....” แหวนเงินแท้ครับ “เราไม่กล้ารับเอาไว้หรอก” ผมพูดพลางยืนคืนกุ๊น

“กุ๊นอยากให้เกมจริงๆ นะ...” กุ๊นทำหน้าเศร้า

“ให้ในโอกาสอะไร” ผมถามต่อเพื่อไม่ให้กุ๊นทำหน้าแบบนั้น

“ก่อนกุ๊นบอก.... เกมตอบคำถามกุ๊ยสักข้อได้มั้ย” กุ๊นถามพลางมองหน้าผม

“...” ผมพยักหน้า

“เกมคิดถึงไอ้เต๊บมากมั้ย” กุ๊นถามผมเกี่ยวกับเต๊บ

“คิดถึงดิ...” ผมตอบ

“...” กุ๊นเงียบพลางเหม่อมองออกไปข้างหน้าซึ่งเป็นสายน้ำ 2 สายที่ทอดมาบรรจบกัน

“เกมชอบไอ้เต๊บใช่มั้ย...” กุ๊นถามผมต่อ

“...” ผมพยักหน้า “ชอบ... เต๊บเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเกมทุกเรื่อง ไม่ให้ชอบได้ไง” ผมพูดพลางมองหน้ากุ๊นที่ขณะนั้น กุ๊นทำหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวดอะไรซักอย่างกับสายนำ 2 สายที่บรรจบกันแต่สีของน้ำกลับไม่ผสมเข้าด้วยกัน ยังคงเป็น 2 สีอยู่

“ทั้งๆ ที่มันไม่ติดต่อเกมแล้ว... ก็ยังชอบมันอยู่อย่างนั้นเหรอ” กุ๊นพูด เหมือนกับพูดกับสายน้ำมากกว่าพูดกับผม

“กุ๊นจะพูดอะไร....” ผมพูดขึ้น เพราะผมไม่อยากให้กุ๊นทำหน้าแบบนั้นอีก เหมือนกับว่าผมเป็นคนทำให้กุ๊นเป็นแบบนั้น

“กุ๊นชอบเกม... กุ๊นรักเกม... ไม่ได้ชอบ ไม่ได้รักแบบเพื่อน...” เกมพูดพลางหันมามองหน้าผม “...กุ๊นรักเกมนะ เกมเข้าใจเปล่า” กุ๊นถามผมต่อ

“...” เป็นผมบ้างที่ต้องมองออกไปที่แม่น้ำที่กำลังไหลเอื่อยๆ อยู่เบื้องหน้า ผมยังคงอึ้งกับคำพูดของกุ๊นอยู่ รักผมงั้นเหรอ คนหล่อๆ อย่างกุ๊น คนที่ผมคิดว่านี่คือเพื่อนที่ผมรักมากที่สุดคนหนึ่งเนียะนะ

“แต่กุ๊นรู้ดี... ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ กุ๊น... คนที่เกมไว้ไจมากที่สุด กับมาคิดกับเพื่อนเกินเพื่อน...” กุ๊นพูดพลางหันหน้าออกไปยังท้องน้ำ “...ยังไงเต๊บก็เป็นคนที่เกมคิดถึง... กุ๊นขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไปนะ” 

“...” ผมยังคงเงียบเหมือนเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขิน หรืออะไร ถ้าพูดตรงๆ ผมก็รักกุ๊นเหมือนกัน แต่... ผมไม่รู้ว่ามันเป็นรักในความหมายใด เพื่อนหรือ... แฟน

“กุ๊นขอโทษนะ... กุ๊นไม่กวนเกมแล้ว” กุ๊นพูดพลางลุกขึ้น แต่ผมเอื้อมมือไปดึงให้กุ๊นนั่งลงเหมือนเดิม กุ๊นทำหน้าแปลกใจ อย่าว่าแต่กุ๊นเลย ผมยังแปลกใจตัวเองเลย

“กุ๊นให้เวลาเกมได้มั้ย” ผมพูดพลางมองหน้ากุ๊น “เกมไม่รู้ว่า ณ ขณะนี้เกมรักกุ๊นในความหมายแบบไหน แต่ที่รู้คนละความหมายกับเต๊บ...” ผมพูดต่อพลางมองออกไปที่แม่น้ำ แต่มือผมยังคงจับมือกุ๊นอยู่ “...เกมขอเวลาเพื่อให้เหมือนกับแม่น้ำ 2 สายนั้นที่ยอมรวมสีเป็นหนึ่งเดียว... ได้มั้ย” ผมหันมามองหน้ากุ๊นอีกครั้ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูยังไงก็น่ารักอยู่เสมอ

“...” กุ๊นดึงผมเข้าไปกอด “กุ๊นจะรอเวลาที่เกมแน่ใจ ว่าเกมคิดยังไง”

“พอได้แล้ว ไม่อายหรือไงกอดคนอื่นเนียะ” ผมพูดแก้เขิน

“กุ๊นก็กอดเกมเหมือนทุกที ไม่เห็นต้องอายเลย” กุ๊นพูดพลางทำหน้าทะเล้นเหมือนเดิม

“สัญญากับเกมได้มั้ยว่าจะทำหน้าแบบนี้ให้เกมเห็นตลอด เกมไม่อยากเห็นหน้ากุ๊นที่เจ็บปวดแบบเมื่อกี๊อีก” ผมพูดพลางจ้องหน้ากุ๊น

“กุ๊นสัญญาครับ” กุ๊นพูดพลางลุกขึ้นพลางตะโกนว่า “ผมข้อสัญญากับแม่นำทั้งสองสาย ผมจะรักและซื่อตรงกับเกมตลอดไป...”

“เวอร์แล้ว... เดี๋ยวคนได้ยินอายนา...” ผมพูดพลางมองออกไปยังแม่น้ำที่รู้สึกว่าจะไหลเร็วขึ้น เหมือนกับหัวใจของผมพองโตขึ้นอีกครั้ง

“ทีนี้เกมจะยอมรับแหวนของกุ๊นได้หรือยังครับ” กุ๊นพูดขึ้นพลางมองไปที่กล่องแหวน “อ้าว... หายไปไหนอะ” กุ๊นพูดขึ้นพลางมองดูรอบๆ “อะนะ... แอบใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” กุ๊นพูดขึ้นทันทีที่มองเห็นแหวนวงนั้นที่นิ้วผม

“ก็...” ผมอายจังที่แอบใส่แหวนวงนี้ “เห็นว่ามันพอดีกับนิ้วก็เลย... ใส่” ผมยิ้มแหยๆ

“แอบจิ๊กหัวใจเค้าไปนานแล้ว ยังแอบจิ๊กแหวนเราอีกนะคนเรา” กุ๊นพูดพลางทำหน้าน่ารักสุดๆ แล้วกุ๊นก็ดึงแหวนออกจากนิ้วผม อ้าว.... ไหนว่าให้วะ

“...” กุ๊นบรรจงสวมแหวนให้ผมที่นิ้วนางข้างซ้ายใหม่ “ขอจองไว้ก่อนเลย พร้อมเมื่อไรเด๋วให้พ่อไปขอ” ดูมันพูด

“บ้า” ผมด่ามันพลางหันไปยิ้มทางอื่น ขนาดว่ายังไม่ตกลงเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการนะเนี่ยะ

“เกมขอเปลี่ยนเป็นนิ้วนางข้างขวาแทนได้เปล่า” ผมพูด เกมก็พยักหน้า คงเข้าใจความหมายของผม

“เราเป็นแฟนกันแล้วนะ แม้จะยังไม่เป็นทางการก็เถอะ” กุ๊นพูดไปยิ้มไป จะยิ้มอะไรหนักหนาเนี่ย

“ให้เวลาเกมหน่อยแล้วกัน” ผมพูดพลางหันออกไปมองแม่น้ำเบื้องหน้าอีกครั้ง หวังว่าชีวิตของผมคงดำเนินไปอย่างราบเรียบเหมือนดังสายน้ำที่ไม่มีวันไหลย้อนกลับนะ... หนักใจจริงๆ

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 24-09-2007 18:01:43
พี่เต้  ผมงง  o2
ใช่เรื่องเดียวกับที่บอร์ดปาล์มปะ

งง งง

*-----*-----*-----*-----*-----*

ไปดีกว่าปวดหัว
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 24-09-2007 18:35:33
 :m18:,มาต่อเรื่อย ๆ เลยนะคะคุณเต้ กำลังตามหาเรื่องนี้อยู่ ขอบคุณมากนะคะที่เอามาลงใหม่
ขอบคุณมาก ๆ คะ :a11:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-09-2007 20:43:41
สาบานรัก  :a2:  :a2:
สายน้ำโขง ขอจงช่วยเป็นพยาน  :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-09-2007 15:32:48
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 26-09-2007 16:56:07
อืมจะเกิดอะไรต่อน้า :a11:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: MamyPoko ที่ 26-09-2007 17:58:48
 o22 :m11: :m4: เรื่องใหม่เข้ามาเจิม   เอ้ย! มาดันครับ
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อัพใหม่ 24 ก.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 26-09-2007 20:56:49
เมื่อไม่แน่ใจตัวเอง การไม่ควรกระทำการใดๆลงไป
เพราะอาจทำร้ายน้ำใจกันและกันได้
 :a3: :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-09-2007 03:30:18
..........

บทที่ 6 การเริ่มต้นของความรักอีกครั้ง

แม้ว่ากุ๊นจะสารภาพรักกับผมแล้วก็ตาม แต่เวลาอยู่ด้วยกันผมกับกุ๊นก็ยังทำตัวเหมือนเดิม เพื่อนๆ ก็คุ้นเคยกับการที่กุ๊นกอดผม เพราะกุ๊นก็ทำแบบนี้ประจำจนเป็นเรื่องปกติสำหรับเพื่อนๆ ไปแล้ว แต่ก็มักมีเรื่องแซวๆ กันเล่นบ้าง เช่น...

“เกม... ไอ้กุ๊นบอกชอบแกว่ะ” เสียงเพื่อนอีกโต๊ะนึงตะโกนมา ซึ่งเพื่อนๆ ก็พากันหัวเราะมากกว่า เพราะชินกับอะไรเทือกๆ นี้แล้ว

“งั้นบอกกุ๊นด้วยว่าเกมก็ชอบกุ๊นเหมือนกัน” เพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกับผมตะโกนกลับไปซะงั้น เล่นอะไรวะพวกนี้นี่...

ตอนนี้เป็นช่วงเทอม 2 ของม.2 กุ๊นย้ายที่นั่งมานั่งกับผม ที่จริงอาจารย์เขาให้จับฉลากนะครับว่าใครจะนั่งกับใคร แต่กุ๊นมันเตรียมกับเพื่อนไว้แล้วว่า ถ้าใครจับได้นั่งกับผม จะต้องสลับที่กับมันทันที

“ก็อยากนั่งกับแฟนตัวเองนะ” มันพูดกับผม เวอร์จริงๆ นายคนนี้ ผมมักจะไปกับกลุ่มผม กลุ่มของพวกเรามักจะชอบหลบผู้คนไปอยู่ริมแม่น้ำ ซุ้มที่พวกเราทำไว้ ชอบหาอะไรไปนั่งกินกัน ในกลุ่มผมจะมีกันอยู่ 5 คน ก็มีผม กุ๊น เก๋ เปิ้ล และก้อ ซึ่งค่อนข้างสนิท แต่กุ๊นเขาก็จะมีกลุ่มไว้เล่นฟุตบอล แต่จริงๆ แล้วเพื่อนๆ ทั้งห้องค่อนข้างจะสนิทกันทุกคน ช่วยเหลือกันทุกอย่าง เรื่องที่ผมและกุ๊นคบกันนั้นจะรู้เฉพาะ 5 คนที่สนิทจริงๆ นี่แหล่ะ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ นั้นจะไม่รู้อะไรมาก แค่แซวๆ เล่นเท่านั้น ส่วนเต้นั้นเข้าก็มีกลุ่มเขาเหมือนกัน ที่จริงกลุ่มผมกับกลุ่มของเต้ค่อนข้างจะสนิทกัน แต่ด้วยทำกิจกรรมต่างกัน กลุ่มของเต้เขาจะเป็นกลุ่มบริหารห้อง ส่วนกลุ่มผมจะออกไปทางกิจกรรม แต่ที่เหมือนกันทั้งสองกลุ่มคือ เรียนเก่งครับ (เหอๆๆ)

“ไงเต้” กุ๊นทักเต้ตอนที่เข้ามาในห้อง

“อืมม...” เต้พูด “แล้วเกมอะ” เต้ถามกุ๊นต่อ

“อยู่นี่ มีไร” ผมพูดขณะที่ค้นหาของอยู่ใต้โต๊ะ

“นั่นแกหาอะไรวะ” เต้ถามผม

“ยางลบหล่นนะ” ผมตอบพลางลุกขึ้นเพราะหาเจอแล้ว

“นี่เต้ พี่ต้าร์เรียนมหาลัยแล้วใช่เปล่า” ผมถามถึงพี่ต้าร์พี่ชายของเต้

“อืมม” เต้กล่าว “เรียนรัฐศาสตร์อะไรนี่แหล่ะ… เด๋วเราไปหาอาจารย์ก่อนนะ” เต้พูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป เต้เป็นรองหัวหน้าห้องนี่นา

“ไปกินข้าวกัน ก่อนเข้าแถว” กุ๊นชวนผม ก่อนที่เราจะเดินลงไปโรงอาหาร แล้วค่อนไปเข้าแถวเคารพธงชาติ...

..........

พักเที่ยง...

“นี่... ฉันรู้ว่าแกสองคนคบกันนะ แต่ไม่ต้องประเจิดประเจ้อขนาดนั้นก็ได้” เปิ้ลแหวใส่ผม

“ก็คนเขารักกันอะ” กุ๊นพูด

“ย่ะ” เปิ้ลพูดพลางนั่งลง

“แล้วก้ออะ” ผมถามหาก้อ

“กำลังมา” เปิ้ลพูด เปิ้ลเป็นสาวห้าวถึงไหนถึงกัน ด่าไฟแล็บ แต่เรียนเก่งมาก ขับทำนองเสนาะได้เพราะอีกด้วย ส่วนเก๋เนี่ยะเป็นสาวหวานเก่งกีฬา (สลับกันมั้ยสองคนเนี่ยะ) โดนเฉพาะวิ่ง 100 เมตร เรียนเก่ง ส่วนก้อเป็นชายหนุ่มที่เข้าขั้นหล่อ ตัวเล็กแต่ไม่มาก เรียนเก่ง โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ ส่วนผมก็ปานกลางครับ มักจะแย่งตำแหน่งขับทำนองเสนาะกับเปิ้ลประจำ กุ๊นแย่ที่สุดในกลุ่ม แต่ก็เรียนใช้ได้ทีเดียว

“โทดที” ก้อพูดพลางนั่งลง

“ทำไรอยู่วะ” กุ๊นพูด สองคนนี้ข้นข้างสนิทกันเพราะบ้านใกล้กัน

“อาจารย์เรียกนะ” ก้อพูด สงสัยอาจารย์จะเรียกเข้าหาเรื่องไปแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ คนเก่งก็งี้แหล่ะ

“เฮ้ย... จะสวีทกันไปแล้วเพื่อน” กลุ่มของเต้เข้ามาสมทบ ไอ้ก้องเพื่อนตัวแสบพูดขึ้น

“ไอ้ห่า ก็ให้กูสวีทกันหน่อยดิวะ” กุ๊นพูด

“นี่” ผมหันหน้าไปเตือนกุ๊น กุ๊นจึงเงียบไป

“เฮ้ย... ไอ้กุ๊นกลัวแฟนว่ะ 555+” ต้นพูดขึ้น

“แล้วต้นหล่ะจ๊ะ” ตาล สาวสวยประจำกลุ่มเต้พูดขึ้น ทำให้พวกเราหัวเราะกัน

“นี่ก้อ เด๋วตอนเย็นเจอกันที่ห้องวิทย์ 1นะ” ว่านพูดขึ้น

“เมิงจะพากันไปทำไรว่ะ” ก้องพูด

“ทำแป๊ะมึงไง” ว่านพูดขึ้น “อาจารย์นัดกูสองคนว้อย” ก่อนที่ก้องกับต้นจะโดนรุม เต้ก็พาเพื่อนไปสั่งข้าว ก่อนที่จะพากันนั่งกินด้วยกัน ก่อนที่จะขึ้นเรียนภาคบ่ายต่อไป...

..........

หลังเลิกเรียน

“พรุ่งนี้ลอยกระทง เกมไปกับกุ๊นนะ” กุ๊นเอ่ยปากชวนผมไปลอยกระทงด้วยกัน ซึ่งมีรึผมจาปฏิเสธ รอคำชวนตั้งนาน

“ไปดิ... แต่กุ๊นต้องมารับเกมนะ” ผมตอบตกลงกุ๊น ซึ่งตกลงกันว่าในกลุ่มเราจะไปลอยกระทงด้วยกัน ซึ่งก็คือท่าน้ำหลังโรงเรียนเรานี่แหละ

“แล้วเกมทำอะไรอะ” กุ๊นชะโงกหน้ามาดูสมุดที่ผมกำลังเขียนอยู่

“บันทึกส่วนตัว” ผมเน้นคำพูดตรงคำว่าส่วนตัว กุ๊นดูชะงักไปและกลับไปนั่งที่ตัวเองด้วยหน้าตาบึ้งๆ

“...” กุ๊นเงียบและพลางหยิบสมุดออกมาทำท่าเขียน

“กุ๊นทำอะไร” ผมถามด้วยความสงสัย

“เรื่องส่วนตัว” เอาแล้วไง โกรธเหรอวะเนี่ยะ...

“โกรธเกมหรอ” ผมพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ “อย่าโกรธเลยนะๆๆๆๆๆ”

“...” ไร้การตอบสนอง เอาไงดีว่ะ

“...” ผมยื่นสมุดบันทึกนั้นให้กุ๊น “ไม่ส่วนตัวแล้ว... หายโกรธนะ”

“...” เงียบอีก เอาไงดีวะ

“...” ผมยื่นมือไปดึงหูกุ๊น “หายโกรธนะๆๆๆๆ... เกมขอโทษครับ” ผมพูดพลางยิ้มงามๆ ให้

“...” กุ๊นยิ้มพลางเอามือไปจับมือผมที่ยังคงจับหูเขาอยู่ “กุ๊นไม่โกรธอะไรซักหน่อยครับ” เขาพูดพลางดึงมือไปจูบ เล่นไรเนี่ยะ เขินนะ…

“บ้า” ผมพูดพลางชักมือกลับ แล้วนั่งเขียนบันทึกต่อ

“แล้วเกมเขียนบันทึกอะไรอะ” กุ๊นถามผมต่อ

“ก็บันทึกเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไง ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับกุ๊นและเกมแหล่ะ” ผมพูดพลางเงยหน้าขึ้นมามองกุ๊น “เผื่อวันหนึ่งกุ๊นทิ้งเกมไปจะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำ”

ไม่มีวัน กุ๊นไม่มีทางทิ้งเกมเด็ดขาด ยังงัยกุ๊นก็จะรักเกมตลอดไป... แม้เกมจะไม่รักกุ๊นแล้วก็ตาม” กุ๊นพูดพลางมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“เกมก็เหมือนกัน” ผมพูดพลางเก็บสมุดและหยิบการบ้านขึ้นมาทำต่อ กุ๊นก็ทำเช่นเดียวกัน ผมและกุ๊นนั่งทำการบ้านจนถึงเกือบ 5 โมงเย็น กุ๊นจึงไปส่งผมที่บ้าน

“ไม่มีใครอยู่...” ผมพูดพลางยื่นแก้วน้ำให้กุ๊น “เด๋วเกมไปกวาดบ้านก่อนนะ กุ๊นไปรอบนห้องก่อนก็ได้ เด๋วทำงานบ้านเสร็จจะตามไป” ผมพูดก่อนจะหันหลังเข้าครัว กุ๊นจึงถือกระเป๋าผมขึ้นไปบนห้องผม...

กว่าผมจะทำทุกอย่างเสร็จก็เกือบชั่วโมง เนื่องจากต้องทำกับข้าวเตรียมไว้ให้พ่อ แม่ พี่สาวและน้องชายด้วย พอเสร็จทุกอย่างจึงตามกุ๊นขึ้นไปบนห้อง

“...” ผมเปิดประตูเข้าไป ปรากฏว่ากุ๊นนอนหลับอยู่ สบายจริงๆ

“หน้าตาตอนหลับอย่างกับเด็กๆ ไอ้เด็กโข่งเอ๊ย” ผมพูดพลางยื่นมือไปดึงหูมันเล่น ดูมันจะไม่รู้สึกตัวเอาซะเลย ผมจึงปล่อยให้กุ๊นนอนแล้วจึงลงไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่พ่อและแม่ผมจะกลับมาจากสวน และน้องชายผมกลับมาจากไปซนข้างนอก

“ก๊อตไปอาบน้ำกับพ่อก่อนค่อยมาดูการ์ตูน” ผมเอ็ดน้องชายแสนซนของผม ก่อนที่จะไปจัดข้าวเป็นสำรับเตรียมไว้ ซักพักพี่สาวผมก็กลับมาจากเรียน ผมจึงขึ้นไปดูกุ๊น

“ตื่นแล้วเหรอ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นกุ๊นค้นอะไรต่อมิอะไรมาดู มันเป็นอัลบั้มภาพของผมนะครับ

“เกมไมไม่ปลุกอะ” กุ๊นพูดแต่ก็ยังคงมองดูรูปพลางยิ้ม

“ยิ้มไรอะ” ผมท้วงมัน

“เปล่า” มันพูดพลางปิดอัลบัมแล้วเดินมานอนบนที่นอนผมต่อ

“หิวมั้ย เด๋วลงไปกินด้วยกัน” ผมพูดพลางเปิดกระเป๋าเอาสมุดการบ้านออกมาวางไว้บนโต๊ะ

“อืม...” กุ๊นพยักหน้า เราทั้งสองจึงเดินลงไปกินข้าวกัน ซึ่งผมก็บอกกับพ่อแม่ผมรู้แล้วว่ากุ๊นจะมาค้างด้วย เนื่องจากการบ้านมันค่อนข้างยากเลยมาทำด้วยกัน พอกินเสร็จผมก็หยิบผ้าขนหนูให้กุ๊นไปอาบน้ำ ส่วนผมก็เก็บกวาดโต๊ะกินข้าว พ่อแม่ผมดูทีวีกับน้องชาย ส่วนพี่สาวก็ขึ้นห้องตัวเองไป พอเก็บกวาดเสร็จผมก็เดินขึ้นห้องไปจัดที่นอน และเตรียมสมุดการบ้าน กุ๊นอาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมาทำการบ้าน ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนี้นะ เพราะพี่สาวผมอยู่ห้องข้างๆ

“เกมตอนเด็กๆ นี่ตลกดีเนอะ” กุ๊นพูดขึ้นขณะที่ช่วยกันทำการบ้าน

“ตลกอย่างไรไม่ทราบ” ผมพูดแต่หน้าก็ยังคงมองที่สมุด

“ก็...” กุ๊นพูดพลางยื่นหน้ามาพูดข้างหูผมว่า “...น่ารักนะ” กุ๊นพุดจบก็ขโมยหอมแก้มผม

“เฮ้ย...” ตกใจดิครับ “...ทำอะไรนะ” ผมพูดด้วยเสียงเบาๆ

“ก็หอมแก้มแฟนตัวเองนะ” กุ๊นพูดเสียงเบาๆ เช่นกัน ไอ้บ้าเล่นไรไม่รู้ อายนะเฟ้ย...

“ไอ้บ้า” ผมพูดพลางดึงหูมัน

“โอ๊ย...” กุ๊นร้องเบาๆ ก่อนที่มันจะหัวเราะผม

“หยุด... ทำการบ้าน ดึกแล่ว” ผมพูดก่อนจะก้มหน้าลงไปทำการบ้านต่อจนเสร็จ...

“เสร็จแล้ว” กุ๊นพูดขึ้นพลางหันไปดูนาฬิกา “นี่มันจะ 5 ทุ้มแล้วอะ ง่วงชะมัด”

“อืมมม… เด๋วเกมไปเอาน้ำมากินนะ” ผมพูดพลางลุกขึ้นเดินลงไปข้างล่าง ซึ่งพ่อกับแม่ผมหลับแล้ว ผมจึงต้องทำให้เงียบที่สุด...

“อื้อ...” ผมยื่นแก้วน้ำให้กุ๊นก่อนจะขึ้นเตียงนอน “ปิดไฟด้วย” ผมบอกมัน

“คร้าบบบบบ” กุ๊นพูดพลางเดินไปปิดไฟ แล้วก็ขึ้นมานอนบนเตียงข้างผม

“กุ๊นขอกอดได้เปล่า” กุ๊นกระซิบผมภายใต้ความมืด

“ได้สิ” ผมพูดพลางขยับเข้าไปกอดมันเช่นกัน เหอๆๆ

“เกมตัวหอมจัง” กุ๊นพูดพลางกอดผมให้กระชับขึ้น ก่อนที่เราจะหลับไปในอ้อมกอดซึ่งกันและกัน...

.........

เช้ามืด

ผมตื่นมาตอนตี 4 ครึ่ง เพื่อที่จะลุกขึ้นมานึ่งข้าว ทำความสะอาดบ้านและไปจ่ายตลาด พี่สาวผมก็ตื่นมาเพื่ออาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเรียน พี่สาวผมเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาประจำจังหวัดครับ (มีเรียนวันเสาร์ด้วย)

“ตัวจะเอาอะไรมั้ย เด๋วเขาไปตลาด” ผมถามพี่สาวผม

“อืมม... เขาเอาน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋แล้วกัน” พี่สาวผมพูดพลางขึ้นไปแต่งตัวก่อนที่ผมจะไปตลาดเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวสำหรับเช้านี้

ผมกลับมาจากตลาดและทำกับข้าวไว้ให้เสร็จ ก่อนที่พี่สาวผมจะออกจากบ้านก็ตี 5 ครึ่งแล้ว พ่อกับแม่ผมลุกขึ้นไปสวน ผมจึงเตรียมกับข้าวจนเสร็จและขึ้นไปบนห้องซึ่งกุ๊นยังคงนอนอย่างสบายอยู่

“...” ผมก้มลงไปหอมแก้มมันทีนึง

“อือ...” กุ๊นขยับตัวก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหน้าผม

“เกมตื่นแล้วเหรอ” กุ๊นพูดพลางขยี้ตาตัวเอง

“อือ... กุ๊นนอนต่อก็ได้นะ ยังไม่ 6 โมงเลย” ผมพูดพลางห่มผ้าห่มให้มัน

“...” กุ๊นดึงผมลงไปกอด “หนาว” มันพูดพลางพลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบน

“ทำไร” ผมพูด

“...” กุ๊นก้มลงมาจูบผม ขอยอมรับเลยนะครับว่าเป็นจูบแรกของผมด้วย

“...” กุ๊นถอนปากออกมาแล้วพลิกตัวลงไปนอนข้างๆ ผม และดึงผมเข้าไปกอด

“ขอโทษครับที่จูบโดยพละการ” กุ๊นพูดพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิม

“ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าแล้วกลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวแม่ก็เป็นห่วงหรอก” ผมพูด

“กุ๊นบอกแม่ไว้แล้วว่าจะมานอนบ้านเกม 2 วันเพื่อทำการบ้าน” มันพูดพลางกอดผมแน่นกว่าเดิม ก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อกุ๊นจะไปล้างหน้าและอาบน้ำด้วย ซึ่งผมก็เก็บผ้าห่มก่อนที่จะลงไปข้างล่างเพื่อกวาดใบไม้หน้าบ้าน เกือบ 7 โมงเช้าแล้ว ผู้คนยังคงผ่านไปมา บางคนก็พาวัว ควายออกไปเลี้ยง บ้างก็ไปตลาด บ้างก็กลับจากสวน ทุกคนต่างก็ดำเนินชีวิตของตัวเองไป

“แล้วนี่ไม่ปลุกก๊อตเหรอเกม” กุ๊นพูดขึ้นหลังจากแต่งตัวแล้วลงมาช่วยผมกวาดใบไม้

“วันหยุดให้มันนอนต่อเหอะ” ผมพูดพลางกวาดใบไม้ต่อ

“กุ๊นหิวมั้ย มีน้ำเต้าหู้ในตู้นะ” ผมพูด

“ไม่อะ รอกินพร้อมคุณพ่อกับคุณแม่ดีกว่า” มันพูดพลางเอาขยะไปเท

8 โมงเช้า พ่อกับแม่ผมกลับมาจากสวน แม่ได้เห็ดโคลนกลับมาด้วย เช้านี้เลยมีแกงเห็ดโคลนกินด้วย พ่อไปปลุกเจ้าก๊อต แม่ทำแกงเห็ดโคลน ส่วนผมและกุ๊นเตรียมสำรับ เกือบ 9 โมงเช้าจึงกินข้าวเสร็จ พ่อผมออกไปข้างนอกเพื่อไปว่าจ้างผู้คนไปเกี่ยวข้าว ซึ่งอีกประมาณอาทิตย์หน้าก็ได้เกี่ยวแล้ว ส่วนแม่ผมก็จัดเตรียมข้าวของที่จะใช้ในการเกี่ยวข้าว เจ้าก๊อตเล่นสนุกกับกุ๊นอยู่หน้าบ้าน ส่วนผมจัดการกับถ้วยชาม พลางคิดในใจว่า ‘ถ้ากุ๊นเป็นหนึ่งในครอบครัวเราก็คงดี แต่กุ๊นเป็นผู้ชาย คงเป็นไปไม่ได้หรอก’ ผมคิดพลางส่ายหัว แล้วจึงก้มจัดการถ้วยชามต่อไป ก่อนที่พ่อและแม่ผมจะออกไปที่ท้องนาเพื่อดูข้าวที่จะเริ่มเกี่ยวอาทิตย์หน้า

“เดี๋ยวกุ๊นกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนนะ... เด๋วพี่กลับมานะเจ้าตัวเล็ก” กุ๊นพูดพลางสตาร์ทรถมอ’ไซต์ออกไป ส่วนเจ้าก๊อตก็ดูทีวีต่อ

“ไม่มีการบ้านเหรอก๊อต” ผมพูดกับเจ้าก๊อตเรื่องการบ้าน ก๊อตอายุจะ 8 ขวบแล้ว อยู่ ป.2 ซนเป็นที่หนึ่ง

“ไม่มี คุณคูไม่ได้ให้” เจ้าก๊อตพูดขณะสนใจทีวีอยู่ ผมไม่ว่าอะไรพลางเดินออกไปเตรียมตัวซักเสื้อผ้าทั้งของพ่อแม่ ของเจ้าก๊อตและของตัวเอง กว่าจะซักเสร็จเล่นเอาเหนื่อย

เกือบเที่ยงกุ๊นจึงมาหาผม ผมจึงเตรียมกับข้าวเพื่อกินกัน เจ้าก๊อตกินเสร็จก็วิ่งออกไปเล่นกับเพื่อนแถวๆ นั้น ส่วนผมและกฎก็ขึ้นไปทำการบ้านบนห้องต่อ...

“เกม ข้อนี้ทำไงอะ” กุ๊นถามผมขณะที่เรานั่งทำการบ้านกัน ซึ่งเราทั้งสองก็ช่วยเหลือในส่วนที่ตัวเองได้ กว่าจะทำการบ้านเสร็จก็ปาเข้าเกือบจะบ่ายสอง พ่อกับแม่ผมกลับมาจากท้องนา กินข้าวเสร็จพ่อผมก็ไปบ้านญาติต่อ ส่วนแม่ผมก็เดินไปคุยกับเพื่อนบ้าน ตามประสาแม่บ้านๆ นะครับ

“เดี๋ยวเราไปเอาใบตองมาทำกระทงดีกว่านะ” ผมเอ่ยปากชวนกุ๊น พวกเราจึงพากันไปเอาใบตองมาทำกระทงกัน เอามาค่อยข้างเยอะ เพราะเผื่อพวกเพื่อนๆ ด้วย พอได้ตามที่ต้องการจึงพากันกลับซึ่งเพื่อนๆ ก็พากันมารอกันเต็มลานหน้าบ้านผม รวมทั้งกลุ่มของเต้ด้วย กว่าจะทำเสร็จก็เกือบ 6 โมง กระทงของเต้ดูสวยกว่าเพื่อนเพราะกลีบกระทงทำจากกาบต้นพลับพลึง ส่วนของผมใหญ่กว่าของคนอื่นเพราะต้องลอยกับกุ๊น (ลอยอันเดียวกันครับ เหอๆ) แล้วทุกคนก็กลับไปอาบน้ำ แล้วค่อยออกไปลอยกันตอนทุ่มหนึ่ง ซึ่งระหว่างนั้นผมก็เตรียมกับข้าวไว้ให้บ้านผม แล้วค่อยอาบน้ำแล้วออกมารอเพื่อนๆ จึงพากันออกไป ซึ่งในตอนนั้นตรงท่าน้ำหลังโรงเรียนพวกผม บริเวณสำหรับลอยกระทงพวกผมคนค่อยข้างเยอะ...

“...” พวกเราพากันอธิษฐาน แล้วจึงปล่อยกระทงออกไป เมื่อกระทงพวกเราลอยลงสู่ท้องน้ำ ได้รับคำชมจากคนรอบๆ ข้างว่ากระทงสวยดีโดยเฉพาะกระทงของเต้ เพราะกลีบกระทงที่ทำจากกาบพลับพลึง เมือต้องแสงเทียนแล้วทำให้กระทงดูสวยมาก เหมือนโคมไฟที่ลอยไปในอากาศ

“เกมอธิษฐานว่าอะไรเหรอ” กุ๊นถามผม

“ถ้าบอกเขาจะเรียกว่าอธิษฐานเหรอ” ผมพูด

“อ่ะนะ... ส่วนกุ๊นอธิษฐานว่า ขอให้เราสองคนอยู่ด้วยกันนานๆ และขอให้เกมรักกุ๊นมากๆ” กุ๊นพูดพลางหันมายิ้มให้ผมแล้วจึงยื่นมามาจับมือผม

“เกมก็อธิษฐานแบบนั้นเหมือนกัน” ผมกระชับมือจับกับกุ๊นให้แน่นนกว่าเดิม พลางยิ้มให้กุ๊น เราต่างยิ้มให้กันภายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญที่เป็นพยานให้เรา...

“ซึ้งกันจังนะ” ก้อพูดขึ้น

“ใช่ๆๆๆ” ก้องพูดขึ้นตาม มันจาอะไรนักหนาว่ะไอ้พวกนี้นี่

“...” ผมกับกุ๊นยิ้มต่อ ก่อนที่เราจะพากันเดินทางกลับ

“มีความสุขจัง” กุ๊นพูดขึ้นขณะที่เราขึ้นมาอยู่บนห้องแล้ว ก่อนที่จะลงไปทานข้าว เพราะต่างคนก็หิวเนื่องจากเกือบ 3 ทุ่มแล้ว จากนั้นจึงพากันขึ้นมาทำการบ้านชิ้นสุดท้าย กว่าจะเสร็จก็ 5 ทุ่ม พี่สาวผมไม่ได้กลับบ้าน เพราะต้องทำกิจกรรมกับทางวิทยาลัย กุ๊นเลยร้องเพลงๆ หนึ่งให้ผมฟังภายใต้ความมืดและอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของกันและกัน


“จากวันที่พบกัน จากวันที่พบเธอ ฉันยังจำยังตื้นตัน...
เธอรับฉันไว้ในใจ เธอให้ความผูกพัน ที่ฉันไม่เคยได้จากใคร

ไม่เคยจะนึกเลย ไม่เคยจะฝันไกล ว่ามีใครที่รักจริง
เมื่อเธอเป็นคนที่แสนดี และเธอก็เป็นเหมือนสิ่ง อยากขอพูดความจริงจากใจ...

ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักจะดีกับเธอ ขอให้เธอได้รู้ไว้
ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักเธอตลอดไป ทั้งหัวใจฉันให้เธอ....

ขอบคุณที่ค้ำจุน ขอบคุณที่ค้ำใจ ให้ฉันมีวันที่สวยงาม
ขอบคุณจริงๆ ที่รักกัน ขอบคุณที่เธอไม่มองข้าม อยากย้ำความรู้สึกจากใจ...

ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักจะดีกับเธอ ขอให้เธอได้รู้ไว้
ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักเธอตลอดไป ทั้งหัวใจฉันให้เธอ....

ยืนยันจากใจ สิ่งใดเธอต้องการ แม้จะเหนื่อยฉันไม่หวั่น ทำได้เพื่อเธอ
ตอบแทนที่เธอให้ความรัก ตอบแทนที่ดีเสมอ จะไม่ทำให้เธอ ต้องผิดหวัง...

ขอบคุณจริงๆ ที่รักกัน ขอบคุณที่เธอไม่มองข้าม อยากย้ำความรู้สึกจากใจ...

ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักจะดีกับเธอ ขอให้เธอได้รู้ไว้
ฉันจะอยู่เป็นคนของเธอ จะรักเธอตลอดไป ทั้งหัวใจฉันให้เธอ....”


กุ๊นร้องจนจบ ทำเอาผมร้องไห้เลยครับ วันนี้ผมแน่ใจตัวเองแล้วว่ารักผู้ชายคนนี้หมดหัวใจเลย ผมซึ้งกับบทเพลงเพลงนี้มากๆ กุ๊นจึงร้องให้ผมฟังอีกรอบ ผมกอดกุ๊นแน่นกว่าเดิม ผมจะไม่มีวันปล่อยคนๆ นี้จากมือผมแน่ ‘ผมรักผู้ชายคนนี้จนหมดหัวใจซะแล้ว’

“กุ๊นรักเกมนะครับ กุ๊นจะอยู่เป็นคนของเกม จะรักจะดีกับเกม ขอให้เกมได้รู้ไว้ กุ๊นจะอยู่เป็นคนของเกม จะรักเกมตลอดไป ทั้งหัวใจของกุ๊นให้เกมคนเดียว” กุ๊นพูดซึ้งมาก ผมได้แต่ร้องไห้เบาๆ ในอ้อมกอดของกุ๊น

“เกมก็รักกุ๊นนะ รักมากๆ ด้วย” ผมบอกกับกุ๊น ซึ่งถือเป็นคำบอกรักกับกุ๊นเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุ๊นสารภาพรักกับผม

“เกมพูดจริงเหรอ กุ๊นไม่ได้หูฝาดนะ” กุ๊นพูดอีกครั้งจะดึงผมเข้าไปหอมแก้ม และกอดผมกระชับกว่าเดิม ก่อนที่จะร้องเพลงนั้นให้ผมฟังอีก ก่อนที่เราจะหลับไปในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของกันและกัน ในฤดูหนาวที่แสนเหน็บหนาว เพลงนั้นยังคงดังก้องให้หูผมจนถึงทุกวันนี้...

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-09-2007 03:40:06
..........

บทที่ 7 เรื่องเศร้าๆ

..........

หลังจากผ่านวันลอยกระทง ทุกอย่างมันตอกย้ำให้ผมมีความรู้สึกพิเศษกับกุ๊นมากๆ จะเรียกว่า “รัก” เลยก็ว่าได้ ดูกุ๊นเขาจะดีใจเป็นพิเศษที่ผมตอบรับความรู้สึกเขาได้ แต่ถึงแม้ผมจะรู้สึกรักกุ๊นมากแค่ไหน แต่การกระทำของเราทั้งสองยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้นครับ (ยกเว้นเพื่อนๆ ในกลุ่ม)...

อีกไม่กี่วันจะเป็นช่วงงานงิ้วประจำปีของหมู่บ้านผม 3 วัน 3 คืน แน่นอนต้องมีคณะงิ้วมาทำการแสดง ผมก็ชอบดูนะ แม้จะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ก็สนุกดี เห็นอาม่า อาซิ่มหัวเราะก็สนุกดี นอกจากการแสดงอุปรากรจีนแล้ว ยังมีการฉายหนังกลางแปลงด้วย กลุ่มพวกผมตกลงกันจะไปดูหนังในวันที่สอง ผมจำไม่ได้ว่าหนังชื่อเรื่องว่าอะไร จำได้แค่ว่า หนุ่มศรราม แสดงคู่กับ นิ้ง กุลสตรี โดยมี อนันต์ บุญนาค เป็นพี่ชายปัญญาอ่อนของหนุ่มอะครับ...

“เด๋วกุ๊นไปรับนะ” กุ๊นพูดกับผมในตอนเที่ยงของวันสุดสัปดาห์

“อืมม” ผมรับคำพลางทานข้าวต่อ

“เด๋วเราไปรับเก๋กับเปิ้ลเอง” ก้อเอ่ยขึ้น

“เราไม่รับปากนะว่าจะไปด้วยได้มั้ย” เปิ้ลพูด “ขี้เกียจอะ แถมต้องอ่านหนังสืออีก”

“จะขยันมากเกินไปแล้ว” ผมพูด

“ฉันไม่ได้เก่งเหมือนเธอนี่จ๊ะ” เปิ้ลพูด แล้วเราก็พากันทานข้าวเที่ยง แล้วยกพลไปยังห้องสมุดต่อ แล้วขึ้นเรียนภาคบ่าย...

คืนวันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน

“คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมขออนุญาตพาเกมไปดูหนังนะครับ” กุ๊นพูดกับพ่อและแม่ผม

“อย่าพากันกลับดึกหล่ะ” แม่ผมพูด ก่อนที่พวกผมจะออกจาบ้านไปราวๆ 2 ทุ่ม ผมและกุ๊นพากันไปรอเพื่อนๆ ที่หน้าทางเข้า

“เด๋วคืนนี้กุ๊นไปนอนด้วยนะ กลับดึกๆ น่ากลัว” กุ๊นพูดพลางกระชับมือที่กุมมือผมอยู่

“หนาวมั้ย” กุ๊นถามผมต่อ ก่อนที่จะเอาผ้าห่มผืนเล็กๆ ที่ติดตัวมาด้วยคลุมไหล่ให้ผม

“ขอบคุณครับ” ผมพูดพลางยิ้ม

“สวีทกันพอหรือยัง” เสียงเก๋นั่นเองครับแซวผมกับกุณ

“มาครบแล้วใช่เปล่าเด๋วเข้าไปเลยแล้วกัน” กุ๊นพูดขึ้นกับทุกๆ คน แต่มือเขายังคงจับมือผมเหมือนเดิม

“พวกนายเข้าไปก่อนนะ เด๋วเรากลับบ้านแป๊บนึง” ก้อพูดขึ้น

“อืมม... พวกเรานั่งอยู่ใกล้รถฉายนะ” เก๋พูด จากนั้นเข้าไปปูเสื่อและพากันนั่ง เก๋และเปิ้ลเดินไปซื้อของกิน ผมกับเกมจึงนั่งอยู่สองคน

“เกมมานั่งตรงนี้” กุ๊นจัดแจงที่ให้ผม ตกลงผมนั่งข้างหน้ากุ๊น โดยมีกุ๊นนั่งกอดผมอยู่ (นึกภาพออกป๊ะ แต่ไม่ได้นั่งตักนะ)

“แหม... จะนั่งห่างกันหน่อยไม่ได้นะ” เปิ้ลพูดขึ้นก่อนที่จะนั่งลง และนั่งรอดูหนัง ในขณะนี้เขากำลังฉายหนังตัวอย่างอยู่

“ทำไมก้อช้าจังน้า” ผมบ่นขึ้น ก่อนที่กุ๊นจะดึงผมให้เข้าไปใกล้กว่าเดิม จนนั่งติดกัน พวกเรานั่งดูซักพักหนังเรื่องที่เรามาดูก็เริ่มฉาย หนังฉายได้ไม่นานเสียงประกาศจากรถฉายหนังก็ดังขึ้น...

“ประกาศ... ขอให้เด็กชายเจษฎา มาพบญาติที่ข้างรถฉายด้วย...” เขาประกาศอยู่สองรอบ

“ชื่อกุ๊นนี่” ผมพูดพลางขยับตัว

“มีอะไรนะ” กุ๊นพูดขึ้นก่อนที่จะลุกเดินออกไปยังที่ญาติมารอพบ...

“เดี๋ยวเรากลับมานะ” กุ๊นเดินกลับมาบอกพวกผม ยังไม่ทันที่ผมจะถามอะไร กุ๊นก็เดินออกจากบริเวณนั้นไป

“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ก้อเดินเข้ามานั่งบนเสื่อ

“อะไร?” ผมถามขึ้น

“คือว่า...” ก้อพูดพลางเว้นวรรคคำพูด และกล่าวต่อไปว่า”...คุณพ่อของกุ๊นเสีย”

“อะไรนะ” ผมอุทานขึ้นพลางมองออกไปด้านนอก กุ๊นคงกลับไปถึงบ้านแล้วมั้ง

“ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย และอย่าเพิ่งถามกุ๊นนะ” ก้อพูด “เด๋วฉันกลับบ้านก่อน แล้วจะตามมาอีก” ก้อพูดก่อนที่จะเดินออกไป

“รออยู่นี่แหล่ะ” เปิ้ลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมอยากเดินตามก้อไป ก็คนมันเป็นห่วงกุ๊นอะ

“กุ๊นบอกว่าเดี๋ยวกลับมา มันก็จะกลับมาน่า” เปิ้ลพูดต่อ

“อืมม” ผมพูดพลางมองออกไปที่จอหนัง ซึ่งผมดูไม่รู้เรื่องแล้ว ใจมันห่วงคนนั้นอยู่...

“...” ประมาณครึ่งชั่วโมงกุ๊นก็กลับมาดูหนังอีกครั้ง ดูหน้าตาไม่เศร้าอะไร แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรเช่นกัน กุ๊นนั่งตรงเดิมและกอดผมไว้ ดูตัวสั่นๆ กุ๊นซบที่แผ่นหลังผม รู้เลยครับว่าเขากำลังร้องไห้อยู่ หลังผมเปียกหมดแล้ว (กุ๊นเป็นคนที่ดูภายนอกเข้มแข็ง แต่อ่อนไหวง่ายมาก)

“...” ผมยื่นมือไปลูบหัวกุ๊นเป็นเชิงปลอบใจ เก๋ เปิ้ลและก้อก็มองมาแล้วยื่นมือมาตบไหล่กุ๊นเบาๆ แต่ก็ไม่พูดอะไรปล่อยให้กุ๊นร้องไห้อยู่อย่างนั้น

“เดี๋ยวเรากลับก่อนนะ พวกนายไม่ต้องห่วง” ผมพูดขึ้นพลางดึงกุ๊นลุกขึ้นแล้วกลับไปบ้านผม

“กุ๊นจะกลับบ้านมั้ย” ผมถามกุ๊นเมื่อออกมาข้างนอกแล้ว

“...” กุ๊นส่ายหน้า “กุ๊นจะไปนอนกับเกม” กุ๊นพูดเสร็จก็ขับมอไซต์ตรงไปบ้านผมทันที ตอนนี้ยังไม่ถึง 4 ทุ่มด้วยซ้ำ พ่อกับแม่ผมเลยยังไม่นอน

“อ้าว... ไม่กลับบ้านเหรอกุ๊น... พ่อเสียใจด้วยนะ” พ่อผมพูดขึ้น

“ครับ... ผมอยากมานอนที่นี่ครับ ไม่อยากกลับไปเห็น...” กุ๊นพูดน้ำตาเขาก็ไหลออกมา “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยกลับครับ”

“อือ... พาเพื่อนไปนอนซะ” พ่อบอกผม ก่อนที่ผมและกุ๊นจะเดินขึ้นไปบนห้องนอน...

“...” นอนกอดผมภายใต้ความมืดและความเหน็บหนาว

“กุ๊น...” ผมพูดขณะที่ยังกอดเขาอยู่ “กุ๊นยังมีเกมนะ”

“ครับผม” กุ๊นพูดขึ้น แม้เสียงยังสั่นๆ แต่ผมก็รู้ว่าเขารู้สึกดีแค่ไหนที่ผมพูดแบบนั้นออกไป ก่อนที่กุ๊นจะร้องไห้ออกมา นานแค่ไหนที่ผมไม่ได้เห็นผู้ชายคนนี้ร้องไห้ ผู้ชายที่เข้มแข็งอย่างกุ๊น กุ๊นยังคงร้องไห้เบาๆ ในอ้อมกอดของผม

“กุ๊นรักเกมนะ...” กุ๊นพูดขณะยังร้องไห้อยู่

“ร้องไห้ขี้มูกโป่งยังมาทำพูด” ผมพูด

“ก็กุ๊นรักเกมจริงๆ นี่นา กุ๊นกลัวจะ...” กุ๊นพูดไม่ทันจบผมก็เอามือปิดปากุ๊นไว้ เพราะผมรู้ว่าเขาจะพูดอะไร

“อย่าพูดอย่างนั้นนะ” ผมพูดพลางยื่นหน้าไปหอมแก้มกุ๊น

“...” กุ๊นหยุดร้องไห้ครับ สงสัยจะเขินจัด

“เด๋วกุ๊นก็เก็บอารมณ์ไม่ได้หรอก” กุ๊นพูดพลางหอมแก้มผม ก่อนที่เราทั้งสองจะหลับไปด้วยกันในค่ำคืนที่แสนเศร้า เหน็บหนาวจนใจสั่น ผมสัญญาว่าจะรักผู้ชายคนนี้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง...

งานศพของพ่อกุ๊นสวดอภิธรรมศพอยู่ 3 วัน วันที่สามถึงจะเคลื่อนศพเข้าวัดเพื่อทำฌาปนกิจ ตลอดเวลา 3 วันผมก็มาช่วยงานที่บ้านกุ๊นตลอด ผมค่อยข้างสนิทกับพี่ชายของกุ๊นกว่าพี่คนอื่นๆ ของกุ๊น สำหรับคุณแม่ของกุ๊นนั้น ผมสนิทกับท่านมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยประถมเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นท่านจึงดีใจมากที่ผมมาช่วยงานศพครั้งนี้

พอเข้าวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันฌาปนกิจศพคุณพ่อของกุ๊น ผมและเพื่อนๆ ในห้องรวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษาห้องผมก็มาร่วมในงานนี้ด้วย กุ๊นต้องบวชพราหมณ์เพื่ออุทิศต่อคุณพ่อของเขา ส่วนพี่ชายของกุ๊นถึงบวชหน้าไฟ ถึงเวลาที่เคลื่อนศพมาที่วัด กุ๊นในชุดขาวดูสุขุมมาก โกนศีรษะและคิ้ว นี่ถ้ากุ๊นบวชผ้าเหลืองคงดูสุขุมมากกว่านี้

“...” กุ๊นมองเข้ามาที่ศาลาพอมองเห็นผมก็ยิ้มให้ผม เวอร์ซะหมอนี่...

จากนั้นเมื่อเคลื่อนศพรอบเมรุครบสามรอบก็ทำการเคลื่อนศพขึ้นไปตั้งบนเมรุ ก่อนที่พระจะสวดมนต์ และเล่าประวัติผู้ตายอย่างย่อๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ผมต้องไปนั่งข้างๆ คูณแม่ของกุ๊นเพื่อคอยปลอบประโลม และคอยยกยาดมให้คุณแม่ เมื่อพิธีต่างๆ เสร็จสิ้นก็ถึงเวลาเคลื่อนศพเข้าสูเชิงตะกอน คุณแม่ของกุ๊นเป็นลมล้มพับหลายรอบ ญาติๆ ต่างทยอยขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ผมและเพื่อนๆ ขึ้นไปด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะลงมารอกันข้างล่าง...

“ขอบใจนะที่มา” กุ๊นพูดขึ้น หลังจากเดินมายืนข้างๆ ผม

“ต้องมาอยู่แล้วสิ” ผมพูดพลางหันไปมองกุ๊น

“มองอะไร... อายนะเนี่ยะ” กุ๊นยิ้มแล้วหน้าก็แดงขึ้น

“อายอะไร เกมแค่มองคนหัวเหม่งแค่นั้นเองอะ น่ารักดีน่ะ 55+” ผมพูดเบาๆ เด๋วคุยอื่นว่าหัวเราะในงานศพ

ผมและเพื่อนอยู่ช่วยงานต่อ ส่วนอาจารย์ขอตัวกลับไปที่โรงเรียนก่อน พวกผมช่วยกับเก็บสถานที่ให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน...

“แม่ขอบใจพวกหนูๆ มากนะจ๊ะ” คุณแม่ของกุ๊นพูดขึ้น ดูท่านคงจะทำใจได้บ้างแล้วหล่ะ

“เดี๋ยวเกมอยู่คุยกับแม่หน่อยนะจ๊ะ” คุณแม่ของกุ๊นหันมาพูดและยิ้มให้ผม

“อยู่โรงเรียนแม่ฝากดูกุ๊นมันหน่อยนะ แม่ห่วงมันมากเลย ยิ่งพ่อกุ๊นมาเสียแม่ยิ่งห่วงมันไปใหญ่” คุณแม่ของกุ๊นพูดกับ

“ไม่ต้องห่วงครับคุณแม่ ผมจะดูแลกุ๊นให้เอง ไม่ไห้ออกนอกลู่นอกทางอย่างแน่นอนครับ” ผมรับคำคุณแม่

“เห็นเกมมั่นใจแม่ก็หายห่วงแล้ว” คุณแม่ของกุ๊นพูดก่อนที่จะผมจะลาท่านกลับบ้าน ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะไปช่วยงานที่บ้านของกุ๊นต่อ...

“ขอบใจจ๊ะ” คุณแม่ของกุ๊นพูดกับผมขณะที่ผมช่วยงานจนเสร็จ เกือบ 6 โมงเย็นแล้วท่านจึงบอกให้กุ๊นไปส่งผมที่บ้าน

“แม่เดี๋ยวกุ๊นนอนที่บ้านเกมนะ จะให้เกมติวหนังสือให้” กุ๊นขออนุญาตคุณแม่ก่อนที่จะขับมอไซต์ออกจากบ้านมาที่บ้านผม...

“กุ๊นไปรอบนห้องก่อนนะ เดี๋ยวเกมทำงานบ้านก่อน” ผมบอกกุ๊นก่อนที่ผมจะทำงานบ้านและหุงข้าว เตรียมอาหารไว้รอทุกคน “ไปอาบน้ำเจ้าก๊อต” ผมไล่น้องชายไปอาบน้ำซึ่งมันก็ทำตาม ราวๆ ทุ่มหนึ่งพ่อกับแม่ผมก็กลับมาจากทุ่งนา ส่วนพี่สาวผมไม่กลับบ้านเพราะทำงานที่วิทยาลัยอยู่ จากนั้นผมก็ชวนกุ๊นลงมาทานข้าวด้วยกัน...

“พรุ่งนี้กุ๊นจะไปโรงเรียนมั้ย” ผมถามกุ๊นเมื่อเราทั้งสองขึ้นมาอยู่บนห้องเรียบร้อยแล้ว

“ไป...” กุ๊นพูด “...แต่คงกลับราวๆ บ่าย 2 เพราะต้องไปเก็บกระดูกพ่ออะ”

“อืมม” ผมพูดพลางหยิบหนังสือออกมา

“ทำไร” กุ๊นทำหน้าสงสัย

“อ้าว... ก็กุ๊นบอกเองว่าจะให้เกมติวหนังสือให้อะ” ผมพูด

“อย่าเพิ่งดิ...” กุ๊นพูดพลางเดินมานั่งข้างๆ ผมแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้ม

“ไอ้บ้า... ทำไรเนี่ยะ” ผมว่ามัน

“เอ๊า... หอมแก้มแฟนตัวเองไม่ได้เหรอไง” กุ๊นพูดพร้อมกับทำหน้าทะเล้น

“เมื่อวันก่อนยังร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นเด็กๆ อยู่เลย ไอ้หัวโล้นเอ๊ย” ผมล้อมัน

“นี่แนะ ล้อกุ๊นเหรอ” กุ๊นพูดพลางยื่นมือมาจี้เอวผม

“หยุดๆๆๆๆๆๆๆ” ผมห้ามมันแต่มันยังจี้ผมอยู่

“...” ผมใช้มุกเดิมคือยื่นมือไปจับหูมัน

“...” กุ๊นเลิกจี้เอวผมก่อนที่จะกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

“ปล่อยได้แล้ว...” ผมพูดขึ้น แต่แทนที่กุ๊นจะฟังผมกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“...” ไม่แค่กอด กุ๊นค่อยๆ ประทับริมฝีปากลงมาที่ปากผมเบาๆ ลิ้นของกุ๊นพยายามเข้ามาในปากผม ไอ้ผมไม่เคยก็เลยเกร็งไม่ยอมเปิดปาก แต่พอนานเข้ากุ๊นก็สามารถแทรกลิ้นเขาเข้ามาได้ เราจูบกันอยู่นานก่อนที่กุ๊นจะถอนปากออก...

“...ทำบ้าอะไร...” ผมพูดติดเขินๆ หน้าผมคงแดงเป็นลูกตำลึงแน่ๆ

“ช่วยกุ๊นหน่อยนะ...” กุ๊นพูดพลางจับมือผมไปวางตรงหน้าขาของเขา เหอๆ

“...” ทุกอย่างจบลง หลังจากผมช่วยกุ๊นและกุ๊นก็ช่วยผม (แค่ภายนอกนะ แก่แดดเป็นบ้าเลย)

“เกมโกรธกุ๊นมั้ย... กุ๊นขอโทษที่ทำแบบนี้นะ” กุ๊นพูดพลางก้มหน้าเหมือนสำนึกผิด

“ถ้าเกมโกรธ เกมคงไม่ยอมให้ทำหรอกน่า” ผมพูด (เหอๆๆ)

“...” กุ๊นพูด ก่อนที่จะกอดผม หลังจากนั้นจึงสลับกันไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างตัว ดีหน่อยที่ยังไม่ได้อาบน้ำทั้งคู่ ไม่อย่างนั้นมีหวังพ่อกับแม่ผมจับได้แน่...

“กุ๊นหลับยัง” ผมพูดขึ้นท่ามกลางความมืดและอากาศที่แสนจะเหน็บหนาว

“อืออ... มีอะไร” กุ๊นพูด

“เปล่านึกว่ากุ๊นหลับแล้ว” ผมพูดพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

“จะลักหลับกุ๊นเหรอ” กุ๊นพลางหัวเราะให้คอ

“บ้า...” ผมพูดพลางเขกหัวกุ๊นทีหนึ่ง ก่อนที่เราจะกอดกันจนหลับไปในค่ำคืนที่เหน็บหนาวอีกครั้ง เพื่อที่จะเก็บแรงเผชิญกับโลกในวันพรุ่งนี้...

ที่โรงเรียน...

“การบ้านเสร็จยังเกม” เสียงเต้ทักผมขึ้น

“อืออ... อ๊ะฝากส่งด้วย นี่ของเรานี่ของกุ๊น” ผมพูดพลางยื่นสมุดการบ้านให้เต้

“ไปกินข้าวป๊ะ” กุ๊นชวนผมไปกินข้าว ตอนนั้นก็ราวๆ 7 โมงเช้าได้ คนยังไม่เยอะเท่าไหร่

“เกมว่ากุ๊นกลับบ้านก็ได้นะ เดี๋ยวเกมลาอาจารย์ให้” ผมพูดเพื่อให้กุ๊นกลับไปเตรียมตัว

“อือ... เที่ยงก่อนล่ะกัน” กุ๊นพูดก่อนที่เพื่อนๆ จะมาสมทบและกินขนม จากนั้นเราก็พากันไปนั่งรอบริเวณเข้าแถว และช่วยกันเก็บขยะแถวๆ นั้น ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ...

“คาบนี้อาจารย์งดสอนนะ ให้พวกเราอ่านหนังสือ เดี๋ยวก่อนหมดชั่วโมงอาจารย์จะมาเทสต์ย่อย” อาจารย์สอนภาษาไทยเข้ามาสั่งงานแล้วก็เดินไปยังห้องตัวเองเพื่อทำงานต่อไป...

“อ่านเสร็จยังกุ๊น” ผมถามกุ๊น

“อือ... อ่านเสร็จแล้ว ง่ายนิดเดียว” กุ๊นพูดพลางจับมือผมใต้โต๊ะ เหอๆ

“อือ...” ผมหันกลับไปอ่านเพื่อทำความเข้าใจอีกรอบ หลังจากนั้นอาจารย์ก็เข้ามาสอบย่อย แล้วเรียนวิชาอื่นต่อไปจนเที่ยง

“เดี๋ยวกุ๊นกลับมารับนะ รอที่สวนวิทยาศาสตร์นะ” กุ๊นสั่งผมก่อนที่จะขับมอไซต์ออกนอกบริเวณโรงเรียนไป จากนั้นผมจึงไปทานข้าวกับเพื่อนๆ แล้วขึ้นเรียนภาคบ่ายต่อไป...

หลังเลิกเรียน

“รอนานมั้ย” กุ๊นพูดขึ้นขณะที่ผมนั่งรอเขาที่สวนวิทยาศาสตร์

“...” ผมส่ายหัว “เพิ่งเลิกเรียน” ผมกล่าวออกไป

“งั้นกลับกัน” กุ๊นพูดจบผมก็ขึ้นซ้อนท้ายมอไซต์ กุ๊นแวะที่บ้านตัวเอง ผมจึงลงไปสวัสดีคุณแม่ของกุ๊น ซึ่งสีหน้าของท่านดีขึ้นกว่าเดิมมาก ท่านคงทำใจได้มากขึ้นกว่าเดิม

“เดี๋ยวเย็นๆ ผมกลับนะแม่ ไปทำการบ้านกับเกมก่อน” แล้วผมและกุ๊นก็มาถึงบ้านผม แล้วก็พากันทำการบ้านและอ่านหนังสือ ซึ่งผมก็เป็นคนติวให้กุ๊น ราวๆ 6 โมงเย็นกุ๊นก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนผมก็ทำงานบ้านต่อไป

ฤดูหนาวปีนี้ช่างหนาวจับใจจริงๆ เรื่องร้ายๆ ต่างๆ ก็ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนหลายคน ทำให้ผมนึกหวั่นในใจน้อยๆ ว่าอีกไม่นานคงเกิดขึ้นกับผมแน่ นี่แหล่ะที่เขาเรียกว่าชีวิต

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-09-2007 03:44:15
..........

บทที่ 8 รักเอย

การคบกันเป็นแฟนระหว่างกุ๊นกับผม ดำเนินไปในกรอบของความถูกต้องเสมอ เพราะผมและกุ๊นต่างก็รู้ว่า ระหว่างผมและเขาไม่มีทางที่สังคมชนบทในขณะนั้นจะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ คำว่าเกย์ในสมัยนั้นไม่มีใครรู้จักหรอกครับ มีแต่คำว่า กะเทย ตุ๊ด เพราะฉะนั้นผมและกุ๊นจึงคบกันในกรอบที่จะมีคนรู้น้อยที่สุด...

ผมและกุ๊นคบกันมาได้เกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ต้นเทอมสองตอน ม.2 จนตอนนี้เราทั้งสองกำลังจะเลื่อนชั้นขึ้นในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนๆ ในกลุ่มผมต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ก้อ สามารถสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด (เบญจมะมหาราช)  เปิ้ล สอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาประจำจังหวัด ส่วนเก๋ลงไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ตอนแรกๆ กุ๊นพยายามคะยั้นคะยอให้ผมไปสอบวิทยาลัยเทคนิคประจำจังหวัด แต่ผมไม่เอาด้วย เพราะผมไม่ชอบสายช่าง แต่อยากเรียนสายสามัญแผนวิทย์-คณิต มากกว่า กุ๊นเลยไปสอบวิทยาลัยเทคนิค ส่วนผมสอบที่โรงเรียนประจำจังหวัดอีกที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงรองลงมา (นารีนุกูล) ซึ่ง 2 สถาบันนี้อยู่ตรงข้ามกัน ผลคือ สอบไม่ติดทั้งสอง กุ๊นไม่เท่าไหร่เพราะมันดูจะดีใจที่ผมสอบไม่ติด ส่วนผมเสียใจนิดหน่อย เพราะเขาต้องการ 50 คน แต่ผมดั๊นสอบได้ที่ 59 จาก 700 กว่าคน ซึ่งมันน่าเสียดายพอควร เพราะฉะนั้นผมและกุ๊นจึงตัดสินใจกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิมที่เพิ่งจบม.ต้นมาหมาดๆ เหอๆ...

“กุ๊นดีใจนะที่ในที่สุดเราก็ต้องเรียนที่เดิมด้วยกันอีกครั้ง” กุ๊นพูดขณะที่เรากำลังรายงานตัวเข้าเรียนที่โรงเรียนเดิมอีกครั้ง

“ทำไมเธอไม่ไปสอบกับนายก้อ เบญจมะฯ เขารับตั้ง เกือบ 100 คน ถ้าเธอไปสอบที่นั้นก็สบายไปแล้ว” อาจารย์หลายๆ คนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน

“แหม... อาจารย์ ถ้าผมสอบติดที่นั่น ผมก็ไม่ได้กลับมาเห็นหน้าอาจารย์อีกนะสิ” ผมพูดเอาใจอาจารย์ๆ เขานะครับทำไงได้ครับไอ้ผมมันเด็กเส้นในโรงเรียนอะครับไม่เคยโดนทำโทษเลย 55+

ผมและกุ๊นได้เรียนห้องเดียวกันอีกครั้งในชั้น ม.4/1 ซึ่งถือว่าเป็นห้องคิง เพื่อนเก่าๆ ของผมหลายคนต่างก็ต่อกันที่นี่ โดนเฉพาะกลุ่มของเต้ เรียนที่นี่ยกฝูงเลยครับ ที่ผมรู้ไม่มีใครคิดจะไปต่อในเมือง เหตุผลง่ายๆ ขี้เกียจนั่งรถ เจริญแท้เพื่อกู...

วันแรกของการเปิดเรียนคือการปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกว่าเพื่อนหน้าใหม่แต่ละคนนั้นอยู่ห้องเดียวกันกับผมหรือเปล่า เพราะฉะนั้นผมจึงคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนเก่ามากกว่า...

“หวัดดีเกม เรานั่งด้วยคนนะ” เสียงเพื่อนคนหนึ่งทักทายผมขึ้น ยุทธนั่นเองครับ ยุทธเป็นเพื่อนต่างห้องสมัย ม.ต้น ยุทธอยู่อีกห้อง แต่เราก็รู้จักกันเนื่องจากต้องทำกิจกรรมร่วมกันหลายๆ อย่าง แน่นอนว่าถ้ามียุทธต้องมีหนุ่มตี๋หน้าหล่ออีกคนแน่นอน (สองคนนี่ไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ ชายแท้ครับ) นั่นคือ หมิง ยุทธเป็นผู้ชายที่หน้าตาพอใช้ได้ รูปร่างสันทัด นิสัยดีมากๆ ส่วน หมิง นั้นเป็นผู้ชายที่หล่อ ขาว ตี๋ (ไม่มีเชื้อจีนเลยแม้แต่นิดส์) นิสัยดีพอควร รักเพื่อน ฉะนั้นตอนนี้ก็มีเพื่อนในกลุ่มแล้ว 4 คน แม้จะน้อย อย่างน้อยก็ไม่เหงานะครับ

“อ้าวๆ เงียบได้แล้วพวกลิง เด๋วท่าน ผอ. จะขึ้นมากล่าวปฐมนิเทศนักเรียนใหม่” เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองดังขึ้น ทำให้เสียงของนักเรียนเงียบลงทันที แล้วห้องประชุมก็กลายเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อที่สุด พอพักเที่ยงพวกเราก็พากันไปทานข้าวกัน โดยมีกลุ่มของเต้อยู่ในโรงอาหารแล้ว (พวกผมไปช้าอะครับ)

“เออนี่ พวกนายจะกินอะไรอะ” กุ๊นพูดขึ้น “เด๋ววันนี้ป๋าเลี้ยงเอง” โหใจป้ำเว้ย

“เฮ้ย พูดแล้วห้ามคืนคำนะเว้ยไอ้กุ๊น” หมิงพูดขึ้น

“เออนะ บอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงดิวะ” กุ๊นพูด ก่อนที่จะเดินไปซื้อกับหมิงสองคน

“ไม่คุยอะไรบ้างอะยุทธ” ผมหันไปคุยกับยุทธ ที่ขณะนี้กำลังนั่งยิ้มอยู่

“เราพูดไม่ค่อยเก่งนี่หน่า เกมก็รู้อะ” ยุทธพูด ใช่ครับ ยุทธเป็นคนที่พูดไม่เก่งเลย ผิดกับ หมิง ที่พูดเก่งพอควร ผมคุยกับยุทธหลายเรื่อง ก่อนที่สองคนนั้นจะถืออะไรมาเยอะแยะ เราทั้งสี่นั่งกินข้าวกันจนอิ่ม ก่อนที่จะขึ้นไปปฐมนิเทศแยกตามห้อง...

“สวัสดีจ๊ะ ครูชื่อ .....” อาจารย์ท่านหนึ่งพูดขึ้น เมื่อนักเรียนทุกคนมากันครบ “และนี่อาจารย์... ครูสองคนจะเป็นที่ปรึกษาของพวกเธอนะจ๊ะ ทุกคนรู้จักครูแล้ว ทีนี้ถึงทีที่พวกเธอจะแนะนำตัวแล้วนะ เริ่มต้นที่เธอก่อน เจษฎา...” อาจารย์แกหันมาที่กุ๊น กุ๊นจึงลุกขึ้นแนะนำตัวเองให้เพื่อนๆ รู้จัก จากนั้นจึงเป็นผม ทุกคนแนะนำกันไปเรื่อยๆ จนถึง...

“สวัสดีครับ ผมชื่อ นายอติยะ ชื่อเล่น ตง ครับ มาจากโรงเรียน.... ครับ” คนที่แนะนำตัวเองว่าชื่อตงลุกขึ้นรายงานตัว แล้วเขาก็หันมายิ้มให้ผม ผมจำเขาได้ดีครับ แม้เหตุการณ์จะผ่านมาเป็นปีแล้ว

“นั่นมันไอ้ตงนี่หว่า มันอายุมากกว่าเรานะ มันคิดไงอยู่เนี่ยะ” กุ๊นพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจ

“อือ...” ผมพยักหน้าก่อนที่จะฟังเพื่อนแนะนำตัว

จากนั้นเมื่อทำการแนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักกันแล้ว อาจารย์ก็ปล่อยให้พวกผมทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แน่นอนต้องเสียงดังแน่ๆ ครับ

“หวัดดีครับ... พบกันอีกแล้วนะ ผมตงครับ” ตงเข้ามาคุยกับผม

“อือ... ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งครับพี่ตง” ผมพูดไปตามมารยาทครับ เพราะเขาอายุมากกว่าผม

“เฮ้ย... ไม่ต้องเรียกพี่หรอก เรียกตงเฉยๆ ก็ได้ครับ” ตงพูดพร้อมหัวเราะ ตงเป็นคนที่หน้าตาค่อนข้างดี ผิวคล้ำ (นึกถึงพี่ป๋อ ณัฐวุฒิ เอาไว้ครับ) นิสัยดีพอควร

“แกมาเรียนนี่ได้ไงวะ” กุ๊นพูดแทรกขึ้นหลังจากเดินกลับมาจากไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ (มันไปรู้จักกันตอนไหนวะ)

“ก็ขับมอไซต์มาเรียนดิวะไอ้นี่ ถามแปลกๆ” ตงพูด

“ไอ้นี่ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” กุ๊นลุกขึ้นตบหัวตง

“เจ็บนะไอ้นี่...” ตงพูด “ก็มาตามหาหัวใจนะ...” ตงพูดพลางหันหน้ามาทางผม แล้วยิ้มหวานสุดๆ

“ไอ้ตง...” กุ๊นพูดเสียงเข้ม “เรื่องนี้กูคุยกับมึงแล้วนะ ห้ามคิดไปไกล” กุ๊นกล่าวต่อ

“นี่ๆๆๆๆ... เรางงไปหมดแล้ว นี่กุ๊นกับพี่ตง เอ๊ย ตง ไปรู้จักกันตอนไหน” ผมพูดแทรกขึ้น

“ก็หลังจากวันที่ต่อยกัน 1 อาทิตย์” แล้วกุ๊นก็เล่าให้ฟังว่าไปเจอและสนิทกันยังงัย ผมเอ๋อไปเลยครับเพราะกุ๊นไม่ได้เล่าให้ผมฟัง กุ๊นก็บอกว่าตอนนั้นยังไม่ได้ตกลงกับผมว่าจะเป็นแฟนกัน เลยไม่ได้เล่า ก็ลืมไปเลย จนตงมาเรียนที่นี่แหล่ะครับผมถึงรู้

“แล้วตงหยุดเรียน 1 ปีเลยเหรอ ไมอะ” ผมถามด้วยความสงสัย

“ก็เราหยุดเพื่อไปหาประสบการณ์การทำงาน พอรู้สึกไม่ไหวเลยกลับมาเรียน” ตงตอบ หลังจากนั้นตงก็เข้ามาเป็น 1 ในสมาชิกกลุ่มใหม่ของผม 5 คนแล้ว มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น

“หวัดดี เรา นิ นะ” ผู้หญิงที่ชื่อนิเดินเข้ามาทำความรู้จักกับกลุ่มผม นิเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เรียนเก่ง ร้องเพลงเพราะ (โดยเฉพาะหมอลำ)

“เราชื่อ แข นะ” แขพูดขึ้น ที่จริงผม กุ๊น หมิงและยุทธก็รู้จักแขเพราะจบม.ต้นมาด้วยกัน เพียงแต่อยู่คนละห้อง แขเป็นผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง เรียนเก่ง รักเพื่อนถึงไหนถึงกัน

“เรา นุช นะ” สมาชิกคนสุดท้ายในกลุ่มผมเป็นผู้หญิงครับ เธอเป็นผู้หญิงร่างสูง เรียนเก่ง นิสัยดี (ไม่รู้คัดมาหรือเปล่า กลุ่มผมถึงมีแต่คนนิสัยดีๆ กันทั้งนั้น) หลังจากนั้นพวกเราก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันทั้งกลุ่ม โดยมีผมเป็นหัวหน้ากลุ่ม แถมผมยังได้เป็นหัวหน้าห้องอีกด้วย...

“เพื่อนๆ ตายแน่” เต้แซวผม คงเพราะผมมีชื่อเสียงขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นคนประหยัดนะครับ เพราะฉะนั้น ผมจึงควบตำแหน่งเหรัญญิกประจำห้องไปด้วย เหอๆ

“เกม น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอเต้” เสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น นั่นก็คือเก่งนั่นเองครับ เก่งเป็นคู่หูเต้นั่นแหล่ะครับ (กลับไปอ่านสะดุดรักนะครับ)

“อย่าไปฟังเต้น่ะเก่ง ไอ้นี่มันขี้โม้” 55+ ผมเผาเพื่อนซะแล้ว…

....................

“เกมรีบกลับมั้ย” กุ๊นถามผมหลังจากเลิกกิจกรรมการปฐมนิเทศทั้งหมด

“ไม่อะ” ผมพูดขึ้น “ทำไมเหรอ”

“ก็พวกเราจะไปฉลองกันไง ในฐานะที่เราได้เป็นเพื่อนกัน” หมิงพูดขึ้น

“อืม... ก็ดี” ผมตอบตกลง จากนั้น ผม กุ๊น หมิง ตง ยุทธ แข นิ และนุช ก็พากันไปฉลองที่ท่าน้ำสันเขื่อนที่กั้นแม่น้ำมูลกัน โดยเราเลือกแพตัวท้ายสุดในการฉลอง (ไม่มีแอลกอฮอล์แน่นอนครับ) หลังจากนั้นก็ต่างพากันลงเล่นน้ำกัน มีผมและตงไม่ได้ลงเล่นแต่ก็นั่งหย่อนขาตรงแพนั่นแหล่ะครับ

“นี่พี่ตง เอ๊ย ตง คิดยังงัยถึงมาเรียนที่นี่หล่ะ” ผมคุยกับตง ในขณะที่คนอื่นลงเล่นน้ำ

“ก็อย่างที่บอกอะ... ตามหาหัวใจ” ตงพูดและหันมามองหน้าผม

“ตามหาหัวใจ?... กับใครหล่ะ” ผมพูดพลางหันหน้าออกไปมองดูเพื่อนๆ ที่กำลังเล่นน้ำ

“เกมลงมาเล่นน้ำด้วยกัน” ยุทธตะโกนเรียกผม

“ตามสบาย” ผมตะโกนกลับออกไป

“ยังไม่ตอบเลยนิว่า กับใคร” ผมหันกลับไปถามต่อ

“ไม่รู้” นายตงพูดสั้นๆ ก่อนจะวักน้ำใส่ผม แล้วเขาก็หัวเราะกระโดดลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ

“สนิทกันเร็วจังนะ” กุ๊นพูดขึ้นหลังจากว่ายน้ำเข้าฝั่งมาหาผม

“หึงเขาหล่ะจิ หุหุ” ผมหยอกมันครับ

“หึงดิ แฟนทั้งคน” กุ๊นพูด ไม่อายคนอื่นเล้ยยย

“อ่ะนะ... อย่าคิดมากน่า กุ๊นไม่เชื่อใจเกมเหรอ” ผมพูดแกมน้ำเสียงน้อยใจ

“ไม่ใช่อย่างนั้น กุ๊นเชื่อใจเกมนะ แต่ไอ้ตงนะ กุ๊นไม่ไว้ใจ” กุ๊นพูด

“ไม่มีอะไรหรอก ถ้าตงเขาชอบเราจริง กุ๊นก็ต้องงลำบากหน่อยนะ” ผมพูดพลางยิ้ม

“ทำไมอะ?” กุ๊นพูดพร้อมหน้าตาที่สงสัย

“ก็กุ๊นต้องทำให้เกมรักมากกว่าเดิมไง ต้องทำให้เกมแน่ใจมากยิ่งขึ้นๆๆๆ เรื่อยๆๆๆๆ และมากกว่าเดิมหลายๆ เท่าด้วย” ผมพูดพลางทำมือกว้างๆ เพื่อให้มันเข้าใจความหมายของผม ขณะที่ผมวาดมืออกไปอย่างไม่ทันระวังตัว กุ๊นก็ดึงผมลงไปในน้ำทันทีครับ เพื่อนๆ ต่างโห่กันอย่างดีใจที่กุ๊นทำให้ผมลงน้ำได้สำเร็จ พวกนี้นี่...

ผมก็เล่นแป๊บนึงครับ ว่ายๆ วนๆ อยู่ใกล้แพนั่นแหล่ะ เพราะผมว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ไม่นานผมก็ขึ้นไปนั่งบนแพอีกครั้ง และถอดเสื้อนักเรียนโชว์หุ้นขี้ก้างให้คนอื่นเห็น เพื่อบิดน้ำออกจากเสื้อแล้วค่อยสวมกลับเข้าไปใหม่

“มองอะไรว่ะ” ผมพูดกับเพื่อนๆ ที่หันมามองผมเป็นตาเดียวกัน ชักเขินๆ แฮะ

“เกมขาวมากวะ” หมิงพูดขึ้น

“อ้าวพวกนี้ อ่านกินเรานี่หว่า 55+” ผมพูดก่อนที่เพื่อนๆ จะพากันหัวเราะ

“...” ตงว่ายน้ำกลับเข้ามาที่แพ และทำเช่นเดียวกับผมก่อนที่จะมานั่งดูคนอื่นๆ ว่ายน้ำเข้าไปที่แก่ง

“ข้ามไปดูเขื่อนมั้ย” ตงชวนผมข้าวแก่งไปดูเขื่อนที่อยู่ตรงข้าม

“ก็ดี เรายังไม่เคยเห็นเลย” ผมกับตงจึงพากันค่อยๆ เดินลัดแก่งโขดหินเพื่อข้ามไปดูเขื่อน โดยที่คนอื่นยังเล่นน้ำ ผมชวนคนอื่น แต่เขาพากันขี้เกียจ แม้กระทั่งกุ๊น...

“โห... ลมเย็นดีจัง” ผมพูดเมื่อข้ามมาถึงสันเขื่อน ลมเย็นมาก

“เกมเป็นแฟนกับกุ๊นเหรอ” ตงพูดขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งเลยครับ

“เอ่อ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไร เหงื่อแตกเลยเรา

“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้น กุ๊นมันบอกเราหมดแล้วหล่ะ เพียงแต่อยากได้ยินจากปากเกมเอง” ตงพูดต่อ

“อือ... ใช่ แต่ตงอย่าบอกคนอื่นนะ เดี๋ยวเขารังเกียจเรา” ผมพูด

“ไม่หรอก เกมไม่บอกคนอื่น เราก็ไม่บอก แต่ถึงเกมบอกไป เพื่อนๆ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก สมัยนี้แล้ว” ตงพูด แต่ดูนัยน์ตาเขาเศร้าๆ ยังงัยไม่รู้

“อืม... ไว้พร้อมค่อยบอกดีกว่า” ผมพูดขึ้นก่อนที่จะชวนตงข้ามกลับไปหาเพื่อนๆ จากนั้นเราก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่พวกเราทั้งหมดไปส่งนุช เพราะนุชเขาอยู่หมู่บ้านที่ไกลออกไปอีก แล้วกุ๊นก็แวะเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปส่งผมที่บ้าน

“กุ๊นไปรอบนห้องนะ” ผมพูดพลางหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ก่อนที่จะแตกตัวและทำงานบ้านจนเสร็จ แล้วขึ้นไปหากุ๊นบนห้อง

“โห... ท่าจะเหนื่อยนะเนี่ยะ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นกุ๊นนอนหลับบนเตียงผม ท่านอนน่ารักซะ

“...ตัวอุ่นๆ แฮะ” ผมเอามือไปจับที่หน้าผากกุ๊น รู้สึกได้ว่าตัวอุ่น สงสัยจะไม่สบาย ก็เล่นน้ำกลางแดดซะขนาดนั้นนี่นะ

“กุ๊น...” ผมปลุกกุ๊น ที่จริงก็ไม่อยากปลุกหรอก แต่ต้องปลุกเพื่อให้มากินข้าวต้มที่ผมทำ และให้ทานยาต่อ ก่อนที่กุ๊นจะล้มตัวลงนอนอีก

“เกมไปบอกแม่กุ๊นแล้วนะว่ากุ๊นจะค้างที่นี่ บอกแม่กุ๊นแล้วหล่ะว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะกุ๊นคงเป็นไข้แดด กินยาเดี๋ยวก็หาย” ผมพูดพลางหยิบเสื้อและกางเกงนักเรียนของกุ๊นขึ้นแขวน รวมถึงกระเป๋าของกุ๊นที่ผมถือมาจากบ้านเขาด้วย

“น่ารักจังเลยแฟนเรา” กุ๊นพูดพลางดึงแขนผมให้ผมนั่งลงข้างๆ ก่อนที่กุ๊นจะหนุนตักและดึงหน้าผมลงไปหอมแก้ม

“เหอๆ” ผมหัวเราะก่อนจะเล่นผมของกุ๊น

“เกมทำแบบนี้แล้วกุ๊นมีความสุขจัง” กุ๊นพูดพร้อมกับดึงมือผมไปไว้ที่หน้าอก ก่อนที่กุ๊นจะหลับไปเพราะฤทธิ์ไข้และฤทธิ์ยา...

“เพื่อนเราเป็นไงบ้างหละ” แม่ผมถามถึงอาการกุ๊น

“กุ๊นหลับแล้วหล่ะแม่” ผมพูดก่อนที่จะจัดสำรับกับข้าวมาให้ครอบครัวผมทาน พี่สาวผมเรียน ปวส. แล้ว ส่วนเจ้าก๊อตน้องชายผมก็อยู่ ป.3

หลังจากกินข้าวและจัดการกับถ้วยชาม ผมก็ขึ้นห้องไปดูกุ๊น อาการกุ๊นไม่ได้มากกว่าเดิม ทำให้ผมสบายใจหน่อย ผมจึงเช็ดตัวให้เขาก่อนจะห่มผ้าให้ แล้วผมก็ล้มตัวนอนลงข้างๆ กุ๊น แล้วก็หลับไปด้วยกันจนถึงเช้าครับ.......

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-09-2007 03:49:00
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจมากๆ นะครับ

ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับการต้อนรับจากบอร์ดนี้จังเลยครับ  o14

ผมจะไม่ว่างหลายวัน เลยมาลงให้อ่านหลายตอนนิดนึง

อย่าแปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงมาลงให้อ่านดึกดื่นขนาดนี้

ก็นี่แหละครับ ผมทำรายงานตั้ง 5 เล่ม ส่ง 2 ตุลา ทุกเล่ม เหนื่อยมากๆ  :m8:

อาทิตย์หน้าสอบทั้งอาทิตย์ คาบเกี่ยวไปถึงอาทิตย์ต่อไป คงราวๆ วันเสาร์และอาทตย์หน้า (6,7 ตุลาคม) ถึงจะได้แวะเข้ามาอีกครั้ง

ขอโทษไว้ล่วงหน้านะครับที่อาจจะทำให้รอนานไปหน่อย

สุดท้ายก็ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกๆ กำลังอีกครั้งนะครับ

ขอบคุณครับ

จากนายเต้ขี้เหร่อเองคร้าบบบบบ  :m9:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 28-09-2007 07:47:54
ว่าทำไมลงยาวที่เเท้ก็หยุดยาวนี่เองเเหะๆ แล้วมาต่อนะครับ :a9:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 28-09-2007 15:59:13
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-09-2007 20:25:19
ได้อ่านสามตอนรวดเลย ขอบคุณมากค่ะ  o15  o15
เรื่องนี้ดูเรียบ ๆ เนอะ แต่ก็อบอุ่นดี  :m13:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 01-10-2007 16:01:05
 :m18:อีกหนึ่งกำลังใจคะ ว่าง ๆ ก็มาลงเพิ่มนะคะรออยู่คะ :a11:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (Up!! 3 ตอนใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-10-2007 23:07:52
อ่านแล้วมัน ลื่นไหลดีแหะ
ดูกุ๊นจะมีอะไรมาให้ตื่นเต้นเรื่อยๆเลยแหะ
แต่อย่าตื่นเต้นมากไปนะ ไม่ดี
 :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (2 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 02-10-2007 22:46:24
บทที่ 9 ลางร้าย

..........

หลังจากที่ผมได้เพื่อนใหม่และเรียนด้วยกันจนขึ้นเทอมสอง กลุ่มของผมเป็นกลุ่มที่ทรงอิทธิพลที่สุด (เรื่องดีๆ นะ) กลุ่มพวกผมมักเป็นที่จับจ้องจากกลุ่มอื่นๆ ทั้งในห้องตัวเองและต่างห้อง เนื่องจากกลุ่มผมรวมคนเก่งเอาไว้ทั้งหมด ตั้งแต่คนที่เรียนเก่งที่สุดเรียงลำดับลงไปจนครบทุกคนนะครับ กิจกรรมเด่นที่พวกเราทำกันมากที่สุด คือ อ่านหนังสือหลังเลิกเรียน แต่ไม่ได้เครียดนะครับ แค่สนุกๆ เท่านั้น และมักยกโขยงกันไปท่าน้ำหลังโรงเรียนทุกครั้งที่ว่างกัน

“เกม... มีคนฝากของมาให้” เพื่อนในห้องผมคนหนึ่งพูด พลางยื่นห่ออะไรซักอย่างให้ผม

“ใครเหรอโต้ง” ผมถามเพื่อนคนนั้น

“ไม่รู้ เปิดดูเอง” มันพูดและยิ้มเล็กๆ ก่อนจะเดินกลับที่โต๊ะตัวเอง

“เปิดดูดิ” นิ้งพูดขึ้น

“ไม่เอาอะ กลัว” ผมพูดพลางเอากล่องดังกล่าววางไว้ที่โต๊ะ

“อะไร?... ให้กุ๊นเหรอ” กุ๊นพูดหลังจากเดินเข้าห้องมา

“เปล่า... มีคนฝากมาให้เกมนะ” ผมพูดพลางจับกล่องนั้นพลิกไปมา

“มานี่เดี๋ยวเปิดให้” กุ๊นพูดพลางหยิบกล่องนั้นไปเปิด

“อืมม... มีช็อกโกแล็ต และการ์ด” กุ๊นพูดพลางหยิบการ์ดนั้นไปอ่าน

“...” กุ๊นเงียบ พลางมองหน้าผมและหัวเราะออกมา “555+”

“อะไร?” ผมเริ่มงงแล้วครับ

“มีคนแอบชอบเกมด้วย” กุ๊นพูดพลางยื่นการ์ดให้ผมอ่าน

   ‘พี่ชอบน้องเกมนะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่แซวไปวันนั้น
   ช่วยรับขนมไว้ด้วยนะครับ ถือว่าเป็นของไถ่โทษนะครับ...
                  พี่โจ้’

“เฮ้ย...” ผมอุทานพลางหันกลับไปมองโต้ง (ก็พี่โจ้กับโต้งเป็นพี่น้องกันอะครับ)

“เพื่อนเรานี่เสน่ห์แรงไม่เบาเว้ย” หมิงล้อผมขึ้น

“ไม่ตลกนะหมิง” ผมพูดขึ้น ก่อนจะเอาขนมให้พวกผู้หญิงกิน ทำไงได้ครับ ไอ้ผมไม่ชอบช็อกโกแล็ตอะครับ

หลังจากนั้นทุกๆ วัน ที่โต๊ะผมมักจะมีขนมมาวางตลอด เพื่อนๆ เลยพลอยไปอานิสงค์ไปตามๆ กัน แรกๆ ผมก็ไม่ชอบเท่าไหร่ แต่พอนานๆ เข้าก็ชินไป เพราะไม่รู้จะทำยังงัย ก็เลยปล่อยไปเลยตามเลย

“นี่กุ๊นจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ” ผมพูดกับกุ๊นถึงเรื่องพี่โจ้

“...” กุ๊นส่ายหน้า “กุ๊นเชื่อใจเกมซะอย่าง ใครจะมาจีบก็ช่างมันดิ” หวานซะ

“อืมม...” ผมไม่รู้จะพูดอะไร ก็มันอายไปซะแล้วววว…

แล้วก็ผ่านปีใหม่มาได้ กลุ่มของพวกผมยิ่งสนิทกันมากขึ้น โดยเฉพาะผมกับตง แทบจะเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันเลยทีเดียว ไม่ติดว่าผมเป็นแฟนกับกุ๊น ผมคงเป็นแฟนกับตงไปแล้วหล่ะ เหอๆๆ ก็ตงเขาเป็นคนดีขนาดนั้นอะ เทคแคร์ผมทุกอย่าง หุหุ...

วันนี้เป็นวันที่ 14 กุมพาพันธ์ ที่โต๊ะผมจึงเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ การ์ดและขนม ไม่รู้มาจากไหนบ้าง ของใครบ้าง

“โหเกม... แฟนคลับนายนี่เยอะเป็นบ้าวะ” หมิงพูดขึ้น

“แต่ของยุทธก็ใช่ย่อยนะ” ผมพูดพลางมองไปที่โต๊ะของยุทธที่ดูไม่ต่างจากโต๊ะของผมเลย

“เฮ้ย... นี่มัน...” กุ๊นพูดขึ้นหลังจากเห็นของบนโต๊ะผม

“แฟนเรามีคนแอบชอบขนาดนี้เหรอวะ...” กุ๊นกระซิบกับผม “...อย่างนี้มันต้องป้องกันซะแล้ว” กุ๊นกระซิบต่อพลางยกมือขึ้นเกาคางตัวเอง

“บ้า” ผมพูดพลางกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องกุ๊น

“โอ๊ะ... เจ็บนา” กุ๊นพูดพลางนั่งลงที่เก้าอี้ และหยิบขนมที่โต๊ะผมมากิน

   ‘ผมแอบชอบพี่เกมมานานแล้ว พี่เกมมีแฟนยังครับ... น้องโต๊ะ’
   ‘พี่เกมน่ารักจังเลยค่ะ... น้องแจง’
    ‘พี่เกมเรียนเก่งจังเลยนะครับ รักพี่เกมครับ
   และอื่นๆ อีกมากมาย

“555+... อันสุดท้ายนี่ตลกชะมัด” กุ๊นหัวเราะขึ้น พลางอ่านข้อความนั้นขึ้น

   ‘พี่เกมกับพี่กุ๊นเป็นแฟนกันหรือเปล่าค่ะ... เป็นกำลังใจนะค่ะ... น้องน้ำ’

“555+” กุ๊นหัวเราะ พลางยื่นให้คนอื่นอ่าน

“กูก็สงสัยเหมือนน้องเขาวะ” หมิงพูดขึ้น พลางยื่นการ์ดนั้นให้ผม

“เหอๆ” ผมหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่จะเดินลงไปเข้าแถวเคารพธงชาติ...

“เฮ้ย...” ผมอุทานขึ้นด้วยความตกใจ ก็อะไรซะอีกหล่ะครับ ก็ขนมที่โต๊ะผมและโต๊ะกุ๊นมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมนะสิครับ

“มีแต่ของไอ้กุ๊น” หมิงพูด ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง

“เสน่ห์แรงไม่เบานะนี่” ผมแซวกุ๊นไป แต่ดูหน้าเขาจะไม่สนุกตามผมเลย

“มีอะไร” ผมถามกุ๊น

“ไม่มีอะไร” กุ๊นพูด ก่อนที่จะเก็บขนมและการ์ดที่เปิดอ่านยัดเข้าไปใต้โต๊ะ

“...” ผมมองด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ใส่ใจด้วย....

ปลายเดือนกุมพาพันธ์...

“อ๊ะ... ของขวัญ” ผมยื่นกล่องของขวัญให้กุ๊นไป หลังจากสอบเสร็จในวันสุดท้าย

“อะไร?” กุ๊นถามผมด้วยความสงสัย

“อ้าว... วันนี้วันที่เท่าไหร่” ผมถามมันกลับ

“28 กุมพา... ทำไม” มันถามผมต่อ

“ไอ้บ้า... วันนั้นเกิดกุ๊นไง อย่าบอกนะว่าจำวันเกิดตัวเองไม่ได้” ผมด่ามันซะ

“อ๋อ... จำได้แหล่ะ เหอๆๆ” ผมพูดพลางยิ้มแหยๆ “เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ป๊ะ”

“จะเอาอะไรหล่ะ” ผมถามขึ้น

“ก็...” ผมพูดพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ห้ามคิดลามกเลยนะกุ๊น... เรื่องนั้นนะมันยังไม่ถึงเวลา” ผมพูดักคอมันก่อน

“เกมอะ... เวลาๆๆๆๆๆ แล้วเมื่อไหร่หล่ะ” มันพูดด้วยความน้อยใจ

“เหอๆๆๆ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหล่ะ” ผมพูดพลางลุกเดินออกจากบริเวณนั้น

“ก็ได้ๆๆ” กุ๊นพูดพลางวิ่งตามผมออกมา....

แล้วช่วงเวลาการปิดเทอมภาคฤดูร้อนก็เข้ามาเยือน ผมก็อยู่ช่วยงานทางบ้านตลอด ส่วนกุ๊นก็ลงไปทำงานที่กรุงเทพ ตลอด 2 เดือนผมและกุ๊นเลยไม่ได้เจอกันเลย ทำให้ผมคิดถึงกุ๊นมากขึ้นกว่าเดิม

“มันจะคิดถึงเรามั้ยน้า....” ผมบ่นกับตัวเองทุกครั้งที่คิดถึงกุ๊น ตลอด 2 เดือน ตงจะมาช่วยงานผมเกือบทุกวัน โดนตงจะมาคุย มาเล่นกับผมจนเรียกแม่ผมว่าแม่ได้อย่างสนิทปาก วันสงกรานต์ก็ได้ตงนี่แหล่ะพาผมเที่ยว ช่วงปิดเทอมเลยไม่เหงา

“เกม... จบ ม.6 แล้วเกมจะเรียนต่อที่ไหน” ตงถามผมขณะที่นั่งแช่เท้าในแม่น้ำมูลที่เขื่อน

“อืมม... กะว่าจะต่อที่ ม.อุบล นี่แหล่ะตง ไม่อยากไปไกลๆ บ้านนะ” ผมตอบตงไป

“แล้วตงหล่ะ” ผมถามตงกลับ

“อืมมม.... เรียนต่อกับเกมนี่แหล่ะ” ตงพูดแล้วก็หันมายิ้มหวานให้ผม

“จะมาเรียนตามเกมทำไมเนี่ยะ” ผมพูดขึ้นพลางหันไปทางอื่น มองดูเด็กๆ เล่นน้ำ

“เกมไม่รู้จริงเหรอ” ตงพูดขึ้นพลางจับมือผม

“อะ... อะไร” ผมพูดขึ้น

“...” ตงปล่อยมือผมและมองออกไปข้างหน้า “สารภาพตรงๆ เลยนะ ตงชอบเกม ชอบตั้งแต่งานกีฬาสีวันนั้นแล้ว จำตอนที่เกมถามเราได้เปล่าว่าทำไมเราถึงหยุดเรียน 1 ปี แล้วเลือกมาเรียนที่นี่” ตงพูดต่อ

“...” ผมพยักหน้า

“...และเราก็บอกว่า มาตามหาหัวใจ” ต่อพูด “ซึ่งก็หมายถึง...”

“....” ผมเงียบครับ และก็ภาวนาในใจว่า อย่าเป็นกูเล้ยยยยย

“เกม” ตงพูดขึ้น ทำเอาพูดตกใจพอควร “เราชอบเกม” ตงพูดพร้อมกับมองหน้าผม

“...” อึดอัดเป็นบ้า ผมไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น

“แต่ตงรู้... ว่าเกมชอบกุ๊น เราจึงเป็นได้แค่เพื่อน... แค่เพื่อนเราก็ดีใจแล้ว” ตงพูด

“...” ไม่มีเสียงเอื้อนเอ่ยจากปากผมใดๆ ทั้งสิ้น พูดอะไรไม่ออกครับ

“เราขอโทษแล้วกัน” ตงพูดขึ้น

“อืม... ไม่เป็นไรหรอก เราก็... ไม่รู้จะพูดยังงัยดี แต่ก็ขอบใจนะที่ชอบเรา แต่ยังงัยตงก็เป็นเพื่อนที่ดีๆ ที่สุดคนหนึ่งของเรา ขอบใจนะ” ผมพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน แล้วตงก็ไปส่งผมที่บ้าน เหตุการณ์นี้ทำเอาผมนอนไม่หลับเลยครับ เฮ้อ.......

แล้วก็ได้เวลาเปิดเทอม ผมและเพื่อนๆ พากันขึ้น ม.5 แล้วครับ เย้ๆๆๆๆ ดีใจจัง

“อ๊ะ... ของขวัญ อาจจะช้าไปหน่อย แต่ก็สุขสันต์วันเกิดครับ” กุ๊นยื่นกล่องของขวัญให้ผม หลังจากที่กุ๊นมารับผมที่บ่านเพื่อจะไปโรงเรียน

“จำได้ด้วยเหรอว่าเกมเกิดวันไหน” ผมถามกุ๊น

“จำได้ดิ 25 เมษายน วันเกิดแฟนตัวเอง จำได้ขึ้นใจเลย” กุ๊นพูดขึ้น เขินนะเนี่ยะ

“เหอๆๆ” ผมหัวเราะพลางแกะกล่องนั้นดู

“...” มันเป็นสร้อยคอทองคำหนักราวๆ 1 สลึงได้ “เกินไปเปล่าอะกุ๊น”

“ไม่หรอก กุ๊นเต็มใจให้นะ” กุ๊นพูดพลางดึงผมเข้าไปกอด

“ขอบคุณครับ” ผมพูดพลางหอมแก้มมัน

“อ่า... อยากได้มากกว่านั้นอะ” ทะลึ่งอีกแล่ะไอ้นี่ ได้คืบจาเอาศอก

“ทะลึ่ง” ผมพูดพลางเขกหัวมันทีนึง

“เจ็บนะ” กุ๊นพูดก่อนที่จะพาผมออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน

“กุ๊น... จบ ม.6 เกมจะต่อที่ม.อุบลนะ กุ๊นจะเรียนต่อที่ไหน” ผมถามกุ๊นขณะเดินทางไปโรงเรียน

“กุ๊นก็ต้องไปเรียนกับเกมสิ แฟนกันก็ต้องเรียนด้วยกันสิ” กุ๊นพูดขึ้น

“สัญญาแล้วนะ” ผมพูด

“ครับผม” กุ๊นพูด ก่อนที่จะมาถึงโรงเรียน


“เกิดเรื่องใหญ่แล้วเกม...” เสียงหมิงพูดขึ้นเมื่อผมเดินเข้ามาในห้องในเช้าของวันที่ 20 กรกฎาคม

“เรื่องอะไร” ผมถามหมิง

“คือ... เก่งเสียแล้ว” หมิงพูดขึ้น

“เฮ้ย... อย่าล้อเล่นนะหมิง” ผมพูดขึ้นด้วยความตกใจ

“ไม่ได้ล้อเล่น เก่งเสียด้วยอุบัติเหตุเมื่อคืนราวๆ 4 ทุ่ม” หมิงพูดต่อ

“เต้หล่ะ...” ผมถามหาเต้ทันทีที่แน่ใจว่าหมิงไม่ได้พูดเล่น

“คงไม่มาหรอก คงอยู่ทีบ้านเก่งนะ” หมิงพูด แล้วผมจึงวิ่งไปที่ห้องพักอาจารย์

“อาจารย์ครับ วันนี้พวกผมขอลาครึ่งวันนะครับ” ผมไปขออนุญาตอาจารย์

“ทั้งหมดเลยเหรอ” อาจารย์ถาม

“ใช่ครับ” ผมตอบไป

“งั้นอาจารย์ให้พวกเธอลาทั้งวันเลยแล้วกัน เดี๋ยวอาจารย์ตามไปนะ” หลังจากที่อาจารย์อนุญาตแล้ว พวกผมจึงพากันไปงานศพของเก่งทันที...

“เมื่อวานยังคุยกันอยู่เลยนะเก่ง” ผมพูดขึ้นขณะที่จุดธูปไหว้ศพ

“ทำใจดีๆ นะเต้” ผมเข้าไปปลอบเต้ ที่ตอนนี้ดูโทรมมากๆ

“...” เต้ยิ้มให้ผม ดวงตาที่ผ่านการร้องไห้มามาก ทำให้ผมสงสารเพื่อนคนนี้มาก หลังจากนั้นผมก็ให้นิและว่านมานั่งเป็นเพื่อนเต้ แล้วพวกผมก็เข้าไปช่วยงานที่ครัว

“ขอบใจนะจ๊ะ” แม่ของเก่งพูดกับพวกผม ดูท่านโทรมมาก คงจะร้องผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“น้องเก่งไม่น่าจากไปเร็วขนาดนี้เลย ฮือๆๆ” แม่ของเก่งร้องไห้ขึ้น ผมจึงเดินเข้าไปปลอบโยนท่าน

“ปลงซะเถอะคุณ” เสียงพ่อของเก่งเอ่ยขึ้น ผมจึงลุกขึ้นไปช่วยเพื่อนๆ ต่อ

“น้องครับ...” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “...น้องคนนั้นเป็นใครเหรอ”

“เพื่อนสนิทเก่งนะครับ” ผมพูดขึ้น พลางมองดูหน้าคนข้างหน้าที่ใส่แว่นตาดำ เหมือนจะอำพรางตัวเอง “พี่สงสัยอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามต่อ

“ไม่มีอะไรครับ... พี่เป็นพี่ชายของเก่งนะครับ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น

“ครับ” ผมพูดก่อนที่จะเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อนครับ” พี่ชายของเก่งพูดขึ้นอีก

“ครับ?” ผมพูด

“น้องคนนั้นเป็นแค่เพื่อนสนิทไอ้เก่งจริงๆ นะ” พี่ชายเก่งพูดขึ้น

“แล้วพี่คิดว่าเขาเป็นอะไรกันหล่ะครับ” ผมพูดด้วยอารมณ์โมโหนิดหน่อย (เย็นไว้ๆ เกม)

“เปล่าครับ... พี่ชื่อกฎนะครับ ไม่กวนแล้วครับ” พี่เขาพูดพลางเดินไปที่โต๊ะที่แม่เขานั่งอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปนั่งเป็นเพื่อนเต้ต่อ...


หลังจากงานศพเก่งผ่านไป ดูเต้จะเงียบๆ ไป ทำให้เพื่อนๆ จะห่วงเต้มากเลยไม่ยอมให้เต้เขาอยู่คนเดียว เพราะทุกคนในห้องรู้ดีว่า เต้และเก่งไม่ได้เป็นเพื่อนธรรมดาๆ กัน

“ไม่ต้องห่วงน่า เราไม่คิดสั้นหรอก” เต้พูดกับเพื่อนๆ แต่ทุกคนก็ไม่ไว้ใจ ยังคงอยู่เป็นเพื่อนเต้อยู่ตลอด โดยจะมีก้องและว่านเป็นคนพาเต้กลับบ้าน และไปรับที่บ้านทุกวัน

“เฮ้อ... สงสารเต้จริงๆ” ผมพูดกับกุ๊น

“อืม...” กุ๊นพยักหน้า “เกม... เย็นนี้กุ๊นไม่ได้ไปส่งนะ คือ... กุ๊น... ต้องไปซ้อมบอลกับไอ้โต้งที่โรงเรียนที่บ้านมันอะ” กุ๊นพูดต่อ

“อือ... ไม่เป็นไร” ผมพูดก่อนที่จะก้มไปอ่านหนังสือ “เดี๋ยวกลับกับนิก็ได้” ผมพูดต่อ

“อือ...” กุ๊นพูด “งั้นเดี๋ยวกุ๊นขอตัวก่อนนะ” กุ๊นพูดพลางลุกขึ้นและวิ่งออกไป

“เดี๋ยว...” ผมเรียกไม่ทันแล้ว เพราะกุ๊นทำหนังสือตก “ไม่รอบคอบซะเลย” ผมพูดพลางก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้น และมีซองสีชมพูซองหนึ่งหล่นจากหนังสือ

“อะไร...” ผมคิดในใจ และก้มลงไปหยิบ และเปิดออกดู


‘นี่เป็นการ์ดใบที่ 6 แล้วที่เจนส่งให้กุ๊น “เราชอบกุ๊นนะ” บอกทุกครั้งที่ให้การ์ดไปกุ๊นคงไม่เบื่อนะ เจนดีใจนะที่กุ๊นก็ชอบเจนเหมือนกัน เจนจะรอที่เดิมนะ... Jane’

เหมือนมีอะไรหนักๆ มาตีที่หัวผม มันดูเงียบ มึน งงกับข้อความที่อยู่ในการ์ดแผ่นนั้น

“นี่มันอะไรกัน” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา เหมือนโลกทั้งโลกมันหยุดอยู่ตรงนั้นนานมาก ผมไม่มีแรงทำอะไรทั้งนั้นแล้ว...

“เกม...” เสียงกุ๊นดังขึ้น ผมรีบเก็บการ์ดใส่ในหนังสือกุ๊นตามเดิม และรีบเช็ดน้ำตาก่อนที่กุ๊นจะวิ่งมาถึง

“กุ๊นลืมหนังสืออะ... เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะ เพื่อนเขารออยู่ ไปนะ” กุ๊นพูดเสร็จก็วิ่งออกไป โดยมีกระดาษอีกแผ่นร่วงลงมาจากหนังสือของกุ๊นอีกครั้ง เป็นกระดาษที่ถูกเขียนโดยลายมือของกุ๊น

‘กุ๊นดีใจจัง ที่เจนชอบกุ๊น กุ๊นแอบชอบเจนมาตั้งแต่ประถมแล้วนะ ดีใจมากๆ ... Koon’

เป็นกระดาษเขียนจดหมายที่เขียนง่าย แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่กุ๊นมีให้กับเจน ผมยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม

“...” ผมร้องไห้กับตัวเองเบาๆ อยู่นานพอควร จนเย็นแล้ว ทุกคนกลับบ้านหมดแล้ว ผมไม่มีเรียวแรงพอที่จะทำอะไรทั้งนั้น

เจ็บจัง....

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (2 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 03-10-2007 10:45:29
 :m15:เศร้าจังเลย ว่างก็มาต่อเลยนะคะเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมาก ๆ ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านคะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (2 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 03-10-2007 10:57:37
เศร้าจัง  :sad2:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 04-10-2007 03:46:42
บทที่ 10 อกหัก

..........


ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกเรียนนั้นอยู่นานพอควร นานจนทุกอย่างเริ่มเงียบ เริ่มมืด บรรยากาศโดยรอบไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว อาการคนอกหักมันเจ็บแบบนี้เหรอ...

“เกม... ทำอะไรอยู่ทำไมยังไม่กลับอีก” เสียงของตงดังขึ้น

“เอ่อ...” ผมรีบเช็ดน้ำตา ก่อนจะเก็บหนังสือใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้น “กำลังกลับนะ”

“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมตาแดงๆ อะ” ตงถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ไม่มีอะไร” ผมพูดก่อนที่จะก้าวเดินออกไป

“เดี๋ยว... จะกลับยังงัย เดี๋ยวเราไปส่ง...” ตงพูดขึ้นพลางหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางบนโต๊ะขึ้นมาดู “เพราะกระดาษแผ่นนี้ใช่มั้ยที่เกมตาแดงนะ” ตงพูดพร้อมกับชูกระดาษนั้นขึ้น

“...” ผมส่ายหน้า “ไม่มีอะไรจริง แค่โจ๊กนะ เกมจะร้องไห้ทำไม” ผมพูดพลางเดินไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาจากตง
“เดี๋ยวเราไปส่ง” ตงดึงมือผมขึ้นบนรถมอไซต์ ตลอดทางที่ตงขับไปส่งผมที่บ้าน ทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆ อย่างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตั้งแต่วันวาเลนไทน์เมื่อต้นปี กุ๊นดูเปลี่ยนไปมาก ตั้งแต่เรื่องไปรับ-ส่งผม เรื่องไปทานข้าวเที่ยง เรื่องไปทำกิจกรรมกับกลุ่มอื่น ทุกครั้งกุ๊นมักจะอ้างว่าไปซ้อมบอลกับเพื่อน นี่ผมโง่มานานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ยะ...

“...” ผมยื่นหน้าไปซบที่หลังของตงและร้องไห้ออกมา จนถึงบ้าน

“ทำไมกลับค่ำจังเกม” แม่ผมถามขึ้นทันทีที่ผมถึงบ้าน

“พอดีอาจารย์ให้ผมกับเกมตรวจข้อสอบและพิมพ์งานช่วยนะครับแม่” ตงพูดขึ้น ก่อนที่จะดึงผมขึ้นบนห้อง...

“แม่ เกมไม่กินข้าวนะ” ผมพูด ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไป…

“...” ผมร้องไห้ออกมาทันทีที่ขึ้นมาอยู่บนห้อง

“ร้องออกมาเลยเกม” ตงดึงผมเข้าไปกอด ผมร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของตงอยู่นานพอควร

“ขอบใจนะ” ผมพูดพลางเช็ดน้ำตา

“พรุ่งนี้คุยกับกุ๊นให้รู้เรื่องซะ” ตงบอกผม

“...” ผมพยักหน้า “ตงนอนเป็นเพื่อนเราได้มั้ย เราไม่อยากอยู่คนเดียว”

“ได้ดิ แต่เราขอกลับไปบอกแม่เราก่อนได้มั้ย” ตงพูด ก่อนที่เขาจะลุกออกไป ราวๆ ครึ่งชั่วโมงตงก็กลับมาอยู่เป็นเพื่อนผม

ผมร้องไห้ โดยมีตงอยู่ข้างๆ ผม ผมร้องไห้ในอ้อมกอดของตงนานแค่ไหนไม่รู้ รู้เพียงแต่ผมร้องไห้จนหลับไปในคืนนั้น คืนที่ผมเสียใจมากที่สุดในชีวิต 17 ปีของผม...


รุ่งเช้า ผมและตงก็มาโรงเรียนด้วยกัน เพื่อนๆ หลายคนเห็นหน้าผมต่างพากันตกใจ

“ทำไมหน้าเกมโทรมอย่างนั้นอะ อย่างกับผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน” แขพูดขึ้น ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้ม ผมยังไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้นในตอนนี้...

“เกม... ทำไมตาบวมอย่างนั้นหล่ะ” กุ๊นพูดขึ้นเมื่อผมนั่งลงที่เก้าอี้

“...” ผมยิ้มพลางลุกออกจากตรงนั้นและเดินลงไปข้างล่าง

“เดี๋ยวดิเกม...” กุ๊นร้องขึ้นและวิ่งตามผมลงไปข้างล่าง

“เกมเป็นอะไร ทำไมไม่บอกกุ๊น” กุ๊นเดินมานั่งข้างๆ ผม

“ไม่มีอะไร... เมื่อวานเหนื่อยมั้ย” ผมพูดขึ้น

“เหนื่อย?... อ๋อ... เหนื่อยสิ” กุ๊นพูดและก็ยิ้มให้ผม

“อือ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ทุกอย่างมันจุกที่คอผมหมด ทำไมผมไม่พูดออกไปว่ารู้เรื่องหมดแล้ว...

“เดี๋ยวเย็นนี้เราไปเล่นที่เขื่อนกันนะ” กุ๊นชวนผมคุย

“ไม่หล่ะกุ๊น กุ๊นไปเถอะ เกมไม่ว่างอะ” ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่พยายามไม่ให้มันสั่น

“เกมไม่สบายหรือเปล่า” กุ๊นถามผมขึ้น

“กุ๊น... เกมขอถามกุ๊นซักอย่างได้มั้ย” ผมหันไปถามกุ๊น

“ได้สิ” กุ๊นพูดและยิ้มให้ผม

“กุ๊นเบื่อมั้ยที่คบกับเกม” ผมถามกุ๊นออกไปด้วยเสียงที่สั่นนิดๆ

“...” กุ๊นทำหน้าสงสัยก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ทำไมต้องเบื่อด้วยหล่ะ แฟนทั้งคน”

“เหรอ... แล้วกุ๊นเหนื่อยมั้ย” ผมถามต่อ

“ทำไมเกมถามอย่างนั้นหล่ะ... ทำไมกุ๊นต้องเหนื่อย... เกมถามแบบนี้หมายความว่าเกมเบื่อและเหนื่อยกับการคบกับกุ๊นเหรอ” กุ๊นพูดขึ้นด้วยสีหน้าครียด

“ใช่ เกมเหนื่อยมาก... เกมอยากหยุดแล้ว เกมไม่ไหวแล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“เพราะไอ้ตงใช่มั้ย...” กุ๊นเริ่มเสียงดัง “เกมชอบมันแล้วใช่มั้ย... แล้วกุ๊นหล่ะ เกมเอากุ๊นไปไว้ที่ไหน” กุ๊นพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มโมโหมากขึ้น

“ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้นกุ๊น” ผมพูด “...ถามใจตัวเองสิว่าเป็นเพราะใคร” ผมตะคอกใส่กุ๊น ทำให้กุ๊นมีสีหน้าที่เริ่มไม่สู้ดีแล้ว

“เกม... เกมหมายความยังงัย” กุ๊นทำผมด้วยน้ำเสียงที่ค่อยลงมาหน่อย

“กุ๊นรู้ดีแก่ใจ...” ผมพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกจากตรงนั้น และตรงขึ้นบนห้อง

“เกิดอะไรขึ้นเกม” หมิงถามผม

“ไม่มีอะไร” ผมพูดพลางเดินไปขนของที่โต๊ะผมไปไว้ที่โต๊ะข้างๆ เต้ที่เคยเป็นของเก่ง

“มีอะไรหรือเปล่าเกม” เสียงของเจนพูดขึ้น ผมจึงหันไปมองหน้าผู้หญิงคนที่แย่งกุ๊นไปจากผม

“ก็เสียสละโต๊ะให้เจนได้นั่งกับกุ๊นไง ไม่ดีเหรอ เป็นแฟนกันแล้วนี่ ต้องนั่งด้วยกันไม่ใช่เหรอ เราจะอยู่เป็นก้างทำไม” ผมพูดก่อนที่จะดึงมือเต้ลงไปข้างล่างและตรงไปที่ท่าน้ำ ตง หมิง ยุทธ แข นิ ว่าน และก้องก็วิ่งตามลงมา

“แกไม่ต้องตามมาไอ้กุ๊น” เสียงตงตะโกนขึ้น...

“เกิดอะไรขึ้นเกม” เต้พูดขึ้นทันทีที่มาถึงท่าน้ำและผมก็เริ่มร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

“เกม...” เพื่อนๆ ที่ตามมาด้วยพูดขึ้น “ทะเลาะกับกุ๊นเหรอ” ยุทธถามขึ้น สงสัยเพื่อนๆ จะได้ยินที่ผมกับกุ๊นทะเลาะกัน

“...” ผมยังคงร้องไห้ และบอกให้เต้บอกเรื่องของผมที่คบกับกุ๊นให้เพื่อนๆ ฟัง...

“ว่าแล้ว... ว่าเกมกับไอ้กุ๊นต้องไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาๆ” แขพูดขึ้น

“แล้วมันเรื่องอะไรหล่ะที่เกมร้องไห้” นิพูดขึ้น

“ก็อย่างที่เราพูด กุ๊นและเจนคบกันเป็นแฟนตั้งแต่วันวาเลนไทน์แล้ว โดยที่เราไม่รู้จนเมื่อวาน” ผมเล่าให้ทุกคนฟัง

“มันเกินไปแล้วนะ” เต้พูดขึ้น “เกมยอมเหรอ”

“แล้วจะให้เราทำยังงัยหล่ะ ให้เราไปเสียงดังโวยวายกับเจนเหรอ... เราทำไม่ได้หรอก” ผมพูดขึ้น

“แล้วเกมจะทำไง” หมิงถามผม

“ไม่รู้... ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรมนะ” ผมพูดขึ้น หลังจากนั้นพวกเราก็พากันขึ้นห้อง โดนอาจารย์ดุเรื่องที่ไม่เข้าแถว ตลอดทั้งวันที่เรียนกุ๊นหันมาทางผมตลอด และพยายามจะเข้ามาคุยกับผม แต่โดนหมิง ยุทธและตงขวางไว้ กุ๊นเลยได้แต่มอง ผมแทบเรียนไม่รู้เรื่อง มันไม่มีกะจิตกะใจเรียนเอาซะเลย...

“กุ๊นขอคุยหน่อยได้มั้ย” กุ๊นเดินเข้ามาหาผม ตอนที่ยุทธ หมิงและตงไม่อยู่

“เราว่านายกลับไปนั่งที่เดิมดีกว่านะกุ๊น” เต้พูดขึ้น

“ไม่... ยังงัยเราก็จะคุยกับเกมให้รู้เรื่องก่อน” กุ๊นพูดขึ้น

“นาย...” เต้กำลังจะพูด ผมก็แทรกขึ้น

“ไม่เป็นไรหรอกเต้... เดี๋ยวเรามานะ” ผมพูดก่อนที่จะเดินลงมาข้างล่าง โดยมีกุ๊นเดินตามมา

“ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเราขึ้นไป” ผมพูดกับตง หมิงและยุทธที่เดินกลับมาพอดี

“...” ผมนั่งลงที่ม้านั่ง

“เกม... กุ๊นขอโทษ” กุ๊นพูดขึ้น

“เรื่องอะไรกุ๊น... กุ๊นทำอะไรผิดเหรอ” ผมพูดพลางยิ้มให้กุ๊น

“ก็เรื่อง...” กุ๊นหยุดพูด

“เรื่องอะไร... เรื่องที่กุ๊นกับเจนเป็นแฟนกันนะเหรอ... เกมดีใจด้วยนะ” ผมพูดพลางก้มหน้า บังคับให้น้ำตาไม่ไหล ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับผมนะ

“เกม... ถึงกุ๊นจะชอบเจน แต่กุ๊นก็ยังรักเกมนะ เรายังคงเป็นแฟนกันเหมือนเดิมนะ” กุ๊นพูดขึ้น

“จะไม่เห็นแกตัวไปหน่อยเหรอกุ๊น... กุ๊นทำแบบนั้นแล้วคิดว่าเกมจะมีความสุขเหรอ มันเจ็บยิ่งกว่ากุ๊นทิ้งเกมนะ” ผมพูด แล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาจนได้

“แล้วเกมจะให้กุ๊นทำยังงัย... กุ๊นไม่ยอมเลิกกับเกมแน่นอน” กุ๊นพูด

“งั้นกุ๊นก็เลิกกับเจน” ผมพูด ทำให้หน้าของกุ๊นซีดลงทันที

“เอ่อ...” กุ๊นพูดอะไรไม่ออก

“งั้นกุ๊นก็ทิ้งเกมซะ มันจะได้ไม่เจ็บทั้งสองฝ่าย” ผมพูดไปร้องไห้ไป

“กุ๊นรักเกมนะ กุ๊นทิ้งเกมไม่ได้หรอก” กุ๊นพูดแล้วก็ร้องไห้ออกมา

“ลืมมันซะเถอะกุ๊น คำสัญญาที่กุ๊นมีไว้กับเต๊บ และคำสัญญาที่มีให้กับเกม เกมจะถือว่ามันเป็นแค่คำพูดเล่นๆ ที่กุ๊นพูดออกมา เกมไม่ถือสามันหรอก เกมจะถือว่ามันเป็นแค่ฝันร้าย…” ผมพูดพลางลุกขึ้นเดินออกจากตรงนั้น ปล่อยให้กุ๊นร้องไห้อยู่ตรงนั้น นับจากวันนี้ ความรักที่ผมเคยมี ผมจะกองมันไว้กับความเสียใจที่โดนคนที่รักมากที่สุดหักหลัง ทิ้งมันไปกับสายน้ำ ที่สุดท้ายก็ไม่มีทางรวมเป็นสีเดียวกันได้ ทิ้งไปกับแม่น้ำที่ไหลไปเรื่อย ไม่มีทางไหลย้อนกลับได้อีกแล้ว

ทำไมมันถึงเจ็บจัง...

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-10-2007 04:57:53
เศร้าจังเลย กุ๊นมีเหตุผลรึป่าวว่าไมถึงเลิกกะเจนไม่ได้  :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 04-10-2007 10:07:28
 :m8:เศร้าจังเลย กุ๊นใจร้ายเนอะ :a6:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 04-10-2007 10:51:40
เจ็บเเค่วันนี้ถ้าตัดมันไปได้เเล้วจิตใจคงดีขึ้นเองในไม่ช้า :o12:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 04-10-2007 12:14:44
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 04-10-2007 12:17:52
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเล้าเป็ด


หนึ่งปี Thaiboyslove


บ้านหลังใหม่ แหล่งรวมความอบอุ่น สนุกสนาน ความบันเทิงเริงใจต่างๆ

อุตส่าห์ครบ 1 ปีกันแล้ว เราได้จัดงาน "เซ็งเป็ด อวอร์ด" ขึ้น

ขอความร่วมมือจากลูกเป็ดทุกๆ คน ช่วนกันเสนอชื่อผู้เข้าชิงรางวัลในสาขาต่างๆ ทั้งนิยายและ อื่นๆ รับผลการเสนอชื่อถึงวันที่ 16 ตุลาคมนี้เท่านั้น และจะเริ่มโหวตกันในวันที่ 17 ตุลาคมเป็นต้นไป

รักใครชอบใคร รักนิยายเรื่องไหน อย่างลืมไปให้กำลังใจเสนอชื่อกันได้ที่นี่ครับ

เซ็งเป็ด อวอร์ด เดอะ นอมินี่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2614.0)

ถึงวันที่ 16 ตุลาคมนี้เท่านั้นนะครับ
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (4 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-10-2007 20:40:09
โอ้ว่าอนิจจาความรัก เพิ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล มีแต่ไหลเชี่ยวเป็นเกลียวไป ไหนเลยจะไหลกลับคืนมา
 :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 05-10-2007 22:30:47
บทที่ 11 เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

..........

จากวันนั้นก็ผ่านมาเกือบ 1 ปีแล้ว ผมยังคงรักกุ๊นอยู่เหมือนเดิม ผมยังนอนร้องไห้ทุกวัน แต่ผมก็ไม่ทำตัวให้เลวร้ายลงหรอก อย่างที่ผมบอก มันเป็นฝันร้าย ที่ตื่นขึ้นมาผมก็ต้องลืมฝันร้ายนั้นให้ได้ กุ๊นกับเจนก็คบกันอย่างเปิดเผย และก็ห่างออกจากลุ่มของผม เพื่อนๆ ในกลุ่มผมรวมทั้งกลุ่มของเต้ก็ไม่คุยกับกุ๊น โดยเฉพาะตง ยุทธและหมิง 3 คนนี้แทบจะไม่มองหน้า 2 คนนั่นเลย

เวลาที่กุ๊นเดินสวนกับผม กุ๊นก็คงยังมีรอยยิ้มให้ผมเสมอ รอยยิ้มที่กุ๊นเคยยิ้มให้ผมตอนที่เราคบกัน รอยยิ้มที่จริงใจและยังห่วงผม ต่างกันตรงที่แววตาของกุ๊นดูเศร้าหมองลงกว่าเดิม...

“กุ๊นอยากให้เกมรู้ไว้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กุ๊นก็ยังรักเกมเสมอ ไม่มีวันเปลี่ยนด้วย” คำพูดที่กุ๊นพูดกับผมในวันที่เราเลิกกัน ผมจำได้ มันก้องในหูผมตลอด ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงเพลง “ขอเป็นคนของเธอ” ของโบ สุนิตา น้ำตาผมจะไหลออกมาตลอด...

“นี่เกมยังจะเลือกลง ม.อุบลมั้ย” ตงถามผมขึ้น ขณะที่อยู่ที่ห้องแนะแนว

“ไม่รู้สิ” ผมตอบตงไป “เราอาจจะไม่เรียนที่นี่อีกแล้ว”

“แล้วเกมจะไปเรียนที่ไหน” ตงถามผมต่อ

“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมตอบ หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจซื้อใบสมัครโควตาของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยไม่ได้บอกใคร...

“แล้วเกมได้ไปสอบเอนทรานซ์ที่โรงเรียนอะไร เราได้ที่โรงเรียนลือคำหาญฯนะ” ตงพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนได้รับใบแจ้งสถานที่สอบเรียบร้อยแล้ว

“เราได้ที่โรงเรียนศรีปทุมนะ คนเดียวด้วยไม่มีเพื่อนเลย” ผมพูด ตั้งแต่ผมเลิกกับกุ๊น ดูเหมือนตงจะร่าเริงขึ้น ตงมักจะไปไหนมาไหนกับผมตลอดแทบจะเรียกว่า มีผมที่ไหนมีตงที่นั่น แถมผมยังย้ายโต๊ะมานั่งข้างๆ ตงอีกต่างหาก ทำให้เพื่อนๆ มองว่าผมกับตงเป็นแฟนกัน โดยเฉพาะกุ๊นที่ดูจะไม่พอใจ ผมและตงก็ได้แต่หัวเราะ ผมไม่กล้าคิดกับตงเขาเกินไปกว่านี้หรอกครับ ตงดีเกินไป เขาดีแสนดีซะจนผมไม่กล้าที่คิดไปเกินกว่าเพื่อน (ไม่ใช่ผมจะชอบคนเลวนา) ตงเข้าใจผมดี และเขาก็พอใจในฐานนะที่เขาเป็น “เพื่อน” เป็นสิ่งเดียวที่เรามีให้กันได้ แต่ถึงอย่างไร ตงก็ปฏิบัติต่อผมดีทุกอย่าง จนผมชักหวั่นไหวซะแล้ว... เหอๆๆ

..........

ขึ้นเทอมสองของปีสุดท้ายของการเป็นนักเรียนของผม มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีเกิดขึ้นมากมายสำหรับผม มากซะจนผมแทบตั้งตัวไม่ทัน

5 พฤศจิกายน 2544 คุณปู่ของผมเสียชีวิตด้วยเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ผมช็อกมากๆ เพราะปู่ผมยังคงแข็งแรงดี แต่ท่านก็ด่วนจากไป จึงเป็นวันรวมญาติครั้งใหญ่...

8 พฤศจิกายน 2544 ผลคะแนนสอบเอนทรานซ์ออก ผมสอบได้คะแนน 320 คะแนนพอดี น้อยซะเหลือเกิน แต่ก็ทำให้ผมดีใจได้ ส่วนเต้เขาได้ตั้ง 350 น่าอิจฉาเป็นบ้า ส่วนของคนอื่นๆ ก็ 200 กว่าๆ

8 ธันวาคม 2544 ผลสอบโควตารอบแรก ปรากฏว่า ผมและเต้สอบได้โควตา สาขาเทคโนโลยีการอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในปีนั้นมีผมและเต้สอบได้สองของโรงเรียน เพราะคนอื่นๆ เลือกคณะที่เกินตัว ทำให้ผิดหวังกันเป็นแถบๆ

“ดีใจด้วยนะเกม” กุ๊นเดินเข้ามาคุยกับผม “เกมเก่งจริงๆ นะ” กุ๊นพูดและยิ้มเศร้าๆ

“ขอบใจนะ” ผมพูดและยิ้มให้เขา ผมไม่อยากเชื่อว่า ผู้ชายที่ยืนตรงหน้าผม จะเป็นกุ๊นคนที่ผมเคยรัก แค่ 1 ปี เขาเปลี่ยนไปมาก ผอม คงเพราะเขาสูบบุหรี่ และดื่มเหล้าด้วยมั้ง เปลี่ยนไปซะผมตกใจ

2 มกราคม 2545 ผลการสอบสัมภาษณ์ออกมา ผมและเต้ก็ผ่านการสอบสัมภาษณ์ ในที่สุดผมก็ได้เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้วสินะ ผมจะได้ไปจากที่ๆ ผมอึดอัดที่สุด

“เกมจะไปเรียนที่นั่นจริงๆ เหรอ” กุ๊นเข้ามาคุยกับผม

“ใช่ เราอยากไปเรียนที่นั่น ที่ๆ อาจทำให้เราลืมเรื่องราวร้ายๆ ของที่นี่ได้” ผมพูด

“...” กุ๊นเงียบและเดินกลับไปนั่งที่เดิม

“ยินดีด้วยนะ อย่างนี้ต้องฉลอง” กลุ่มของผมและเต้ก็พากันไปฉลองที่หาดคูเดื่ออย่างสนุกสนาน...

..........

“เกม...” เสียงคนเรียกผมที่หน้าบ้าน

“เจน...” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกผมเป็นใคร

“เกมช่วยไปรับกุ๊นหน่อยได้มั้ย เจนนึกถึงใครไม่ออกอะ กุ๊นเมาหนักมาก ช่วยหน่อยนะ” เจนพูดกับผม

“แล้วทำไมไม่ส่งกลับบ้านหล่ะ” ผมถามออกไป

“ก็กลัวแม่กุ๊นจะว่านะ นะๆๆๆๆ เกม” เจนพูดอ้อนวอนผม พูดขนาดนั้นผมก็ต้องช่วยหล่ะนะ ยังงัยก็เพื่อน... และผมก็ขับมอไซต์ออกไปรับกุ๊นที่บ้านเพื่อน

“มึงรู้มัย ว่ากูรักเกมมันมากแค่ไหน กูรักมากๆ กว่าเพื่อนคนอื่นอีก...” เสียงกุ๊นดังขึ้น และอีกมากมายที่เขาพูดเพราะความเมา

“ใคร?” กุ๊นถามขึ้นเมื่อผมหิ้วปีกมันไปขึ้นมอไซต์

“นั่งดีๆ ตกลงไปตายกูไม่รับผิดชอบนะ” ผมตะคอก ทำให้กุ๊นเงียบทันที

“...” กุ๊นร้องไห้ขึ้น ตลอดทางที่ผมพามันมาที่บ้านมันกอดผมตลอดและร้องไห้มาตลอดทาง ซึ่งเพื่อนๆ ก็ขับมอไซต์ของกุ๊นตามมาด้วย

“ขอบใจนะเกม เดี๋ยวเรากลับก่อนนะ” โต้งพูดขึ้น และก็ขึ้นมอไซต์ของเพื่อนที่ตามมาอีกคันขับออกไป

“ไปอาบน้ำก่อน...” ผมโยนผ้าเช็ดตัวให้มัน และมันก็ทำตาม (มันเมาจริงเปล่าวะ) ผมขึ้นไปบนห้อง พอมันอาบเสร็จก็ตามผมขึ้นไป...

“นอนไปก่อนนะ เดี๋ยวเราทำการบ้านก่อน” ผมพูดออกไปโดยไม่ได้หันหน้าไปคุยกับมัน

“...” มันขึ้นไปนอนบนเตียงโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

“เรากลับมาเป็นเหมือนเก่าไม่ได้เหรอ” มันพูดขึ้นมาหลังจากเงียบมานาน

“ถ้าหายเมาแล้วเดี๋ยวเราไปส่งที่บ้าน...” ผมพูด

“เกม...” กุ๊นพูดขัดผมขึ้น “กุ๊นรักเกมนะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ”

“ถ้าเมาก็นอนไป อย่าพูดมาก รำคาญ” ผมพูดไปพลางทำสมาธิเพื่ออ่านหนังสือให้ได้

“เกม...” กุ๊นพูดขึ้นอีก

“เงียบ!!!” ผมตะคอกใส่มัน “จะอ่านหนังสือ เมาแล้วก็นอน อย่าพูดมาก”

“...” กุ๊นร้องไห้ออกมา ผมแทบไม่มีสมาธิอ่านหนังสือแล้ว น้ำตาผมมันไหลออกมาจนได้

“กุ๊นมาพูดอะไรเอาป่านนี้ ตอนนั้นทำไมกุ๊นไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน มันสายเกินไปที่เราจะกลับไปอยู่ตรงเดิม ตอนนี้กุ๊นมีเจนแล้ว เกมมันก็แค่คนที่ผ่านมาและก็ผ่านไป คนที่กุ๊นควรทำดีด้วยคือเจน คนที่กุ๊นควรรักให้มากๆ คือเจน ไม่ใช่เรา ลืมมันซะเถอะ” ผมพูดไปร้องไห้ไป

“เกม...” กุ๊นร้องไห้แล้วลุกขึ้นมาดึงผมเข้าไปกอด นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้รับอ้อมกอดแบบนี้ อ้อมกอดที่ผมโหยหามาตลอด ทำไมๆๆๆ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้...

“พอเถอะกุ๊น...” ผมพูดพร้อมกับพยายามผลักกุ๊นออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล แล้วกุ๊นก็ร้องเพลงๆ หนึ่งให้ผมฟัง


‘พรุ่งนี้เธอจะลาฉัน วันเวลาได้พาเธอไป
และไม่เคยรู้เลย ว่าฉันจะต้องรอไปนานเท่าไหร่

ได้พบกันแค่วันนี้ มีเพียงความเงียบงันในใจ...
อยากให้เราสองคน ร่วมกันจดจำเวลานี้ไป...

แววตาที่มองฉัน แค่เห็นก็เข้าใจ ว่ามีคำมากมายอยู่ในนั้น...

ฉันจะจำเธอไปในแบบนี้ จำความรู้สึกนี้
เก็บอยู่ในหัวใจ เมื่อยามที่ไกลกัน...
ฉันจะมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย จะจำทุกอย่างไว้...
และจะมีหัวใจเก็บไว้ให้เธอคนเดียว...
ฉันสัญญา...

พรุ่งนี้คงต้องทนเหงา ในเวลาที่เธอไปไกล...
สิ่งที่เราสองคน คิดจะบอกกันยังมีเต็มหัวใจ...

แววตาที่มองฉัน แค่เห็นก็เข้าใจ ว่ามีคำมากมายอยู่ในนั้น...

ฉันจะจำเธอไปในแบบนี้ จำความรู้สึกนี้
เก็บอยู่ในหัวใจ เมื่อยามที่ไกลกัน...
ฉันจะมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย จะจำทุกอย่างไว้...
และจะมีหัวใจเก็บไว้ให้เธอคนเดียว...
ฉันสัญญา...

ถ้าเธอยังมีใจและรักฉันดังเดิม เราคงได้เจอกันใหม่
เพื่อเติมวันเวลาที่งดงามในใจ ทำให้ยาวนานกว่าวันนี้...

ฉันจะจำเธอไปในแบบนี้ จำความรู้สึกนี้
เก็บอยู่ในหัวใจ เมื่อยามที่ไกลกัน...
ฉันจะมองเธอเป็นครั้งสุดท้าย จะจำทุกอย่างไว้...
และจะมีหัวใจเก็บไว้ให้เธอคนเดียว...
ฉันสัญญา...’


“ไม่ว่าจะยังงัย กุ๊นก็จะรักเกมตลอดไป” กุ๊นพูดขึ้นหลังจากร้องเพลงนั้นจบ

“เกมก็รักกุ๊นนะ... แต่ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมแล้ว กุ๊นมีคนที่รักกุ๊นและดูแลกุ๊นแล้ว ถ้าวันนั้นกุ๊นไม่ทรยศเกม ทุกอย่างมันคงไม่จบแบบนี้” ผมพูด

“...” กุ๊นจูบผม สัมผัสที่ผมไม่ได้รับมานาน

“กุ๊นรักเกมเสมอ หัวใจของกุ๊นที่กุ๊นให้เกมไป ขอให้เกมรักษามันไว้... ดูแลตัวเองให้ดีนะ กุ๊นคงไม่ได้ดูแลกุ๊นอีกแล้ว กุ๊นเสียใจที่ทุกอย่างมันจบแบบนี้ กุ๊นขอโทษ...” กุ๊นพูดไปร้องไห้ไป ก่อนที่กุ๊นจะเดินลงจากบ้านผมและขับรถมอไซต์ออกไป ผมได้แต่มองเขาเดินจากไป ผมร้องไห้กับตัวเองเบาๆ นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่มันทำให้ผมได้คิดอะไรมากมาย จากนี้ไปทุกอย่างคงจบแล้วสินะ ทำไมมันต้องจบแบบนี้ ทั้งๆ ที่ผมหวังไว้ว่าจะร่วมกันสร้างฝันด้วยกัน ทำไมๆๆๆๆ ทุกคำถามวนเวียนในใจผมตลอด แต่ผมก็ตอบคำถามนั้นไม่ได้...

“พรุ่งนี้คงต้องทนเหงา ในเวลาที่เธอไปไกล
สิ่งที่เราสองคน คิดจะบอกกันยังมีเต็มหัวใจ...”

มันคงเป็นแบบนี้ตลอดไปสินะ

เจ็บจัง...

..........
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-10-2007 22:48:45
เศร้า & งง ทำไมกุ๊นถึงทิ้งเกมไป  :m28: :m28: เราอ่านตรงไหนตกไปรึป่าว
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 05-10-2007 22:58:52
ไม่ใช่กุ๊นทิ้งเกมเเต่เกมทิ้งกุ๊นตะหากย้อนไปอ่านได้อาจจะตกหล่นไปนะ :m26:
หัวข้อ: Re: [Love Story No.2] คนแรกของหัวใจ... ของนายขี้เหร่เจ้าเสน่ห์ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 06-10-2007 00:23:10
เรื่องนี้2หน้า พอไหววุ๊ยส์ เด่วพรุ่งนี้ค่อยอ่านนะเต้   :a2:
หัวข้อ: Re: [Love Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-10-2007 09:19:33
กุ๊นพูดซะน่าสงสาร ทุกอย่างมีเหตุถึงมีผล
ถ้าวันนั้นกุ๊นไม่นอกใจไปมีเจนอีกคน มีเหรอที่เกมจะออกจากชีวิตไป
ทำอะไรไว้ ก็รับผลนั้นเถอ  :a14:  :a14:
หัวข้อ: Re: [Love Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 06-10-2007 12:44:09

               อ่านตามยังมะทัน แต่จะมาเก็บแน่ อิอิ รอนิดนะเต้อะอะ :laugh: :laugh: o17 :m14:

                                                                                            CargO CargO
หัวข้อ: Re: [Love Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ by นายเต้ (อีกตอน 5 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 06-10-2007 13:41:56

        ทันแล้วเต้     เร็วปะออะอะ  :m11: :m23: :m11: :a2:

         งงอะ รักแล้วงัยทำงี้  หรือแค่พลาดไปนอกใจนิดหน่อย   จบเลยเศร้าซะ :laugh: :amen: :o11: o12

         เรื่อง ของเกมกับกุ๊นจบแล้วจริงอะ   แอบลุ้น return ได้ปะ  :serius2:  :impress:

                                                                        CargO CargO

                                 
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 06-10-2007 20:36:18
บทที่ 12 ชีวิตใหม่

..........

“สวัสดีครับ ผมชื่อ นายเชษฐวัทน์ ชื่อเล่น เกม รหัส.... มาจากโรงเรียน.... จ.อุบลครับ” ผมกล่าวแนะนำตัวเองแก่เพื่อนใหม่และรุ่นพี่ การเริ่มต้นการเป็นนิสิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยของผม และการแนะนำตัวของน้องใหม่อย่างพวกผมก็ก็สิ้นสุดลง จากนั้นรุ่นพี่ปี 2 ก็ให้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ตอนนั้นผมค่อนข้างรู้จักเพื่อนๆ เยอะ แต่กลุ่มที่ผมสนิทด้วยมีไม่กี่คน

ยุ สาวน้อยน่ารัก เรียนเก่ง นิสัยดี คุยเก่ง เรียนเก่ง แอร์ สาวสวยประจำกลุ่ม ดูไฮโซแต่ติดดิน โตโต้ กะเทยไฮโซ มีเรื่องเด็ดๆ ให้กลุ่มหัวเราะได้ทั้งวัน และโก๋ หนุ่มผิวเข็ม หน้าตาพอใช้ได้ นิสัยดีนิดหนึ่ง กลุ่มผมมักเป็นกลุ่มที่สนุกสนานอยู่ตลอด ผมมักจะโดนเพื่อนกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา คงเพราะเหตุการณ์ที่เจอก่อนจบ ม.ปลายมั้ง...

“เกม... ทำไมเงียบจัง พูดหน่อยก็ได้” ยุพูดขึ้น

“...” ผมยิ้ม “เราพูดไม่ค่อยเก่งนะ”

“จ้า...” โตโต้ขัดขึ้น “พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจใช่มั้ยย่ะ” หล่อนพูดอย่างจีบปากจีบคอมาก น่าหมั่นไส้จริงๆ

“แล้วนี่จะพากันเข้าคลาสเชียร์มั้ย” แอร์พูดขึ้น

“เข้า...” ทุกคน ยกเว้นผมพูดขึ้น

“แกหล่ะ ไม่เข้าเหรอ” โก๋พูด

“เอ่อ... ไม่รู้ดิ คงเข้ามั้ง” ผมพูดไป แต่สุดท้ายผมก็โดยโก๋นี่แหล่ะดึงเข้าร่วมกิจกรรมจนได้..

..........

พอเลิกเรียนผมก็ตรงดิ่งกลับห้องทันที ผมไม่ค่อยอยากไปไหนเท่าไหร่ คงเพราะผมยังปรับตัวไม่ค่อยได้กับบรรยากาศใหม่ๆ แบบนี้...

“กลับมาแล้วเหรอ...” นายโชกุน รูมเมทผมทักขึ้น

“อือ... นายจะไปไหนอะ” ผมถามก่อนจะเดินเข้าห้องไป หอพักที่ผมพักอยู่เป็นหอพักในมหาวิทยาลัย หอที่ผมพัก พักได้ 4 คน ห้องน้ำในตัว โชกุนเป็นหนึ่งในรูมเมทของผม เป็นหนุ่ม สถาปัตย์  ออกฮิบฮอบๆ ดูน่ารักไปอีกแบบ

“ว่าจะเข้าคณะนะ ว่าแต่เกมจะเข้าคลาสเชียร์มั้ย” โชกุนถามผมต่อ

“อืมม... คงเข้านะ ขี้เกียจฟังพวกรุ่นพี่บ่นนะ... แล้วนายอะ” ผมพูด

“ไม่เข้าครับ... ไปหล่ะ” ว่าแล้วเขาก็วิ่งลงไป ผมพักห้อง 302 อยู่ชั้น 3 เลยไม่ค่อยเหนื่อยเวลาขึ้นลง แต่พวกอยู่ชั้น 5 น่าสงสารอะครับ

“กลับมาแล้ว” เสียงรูมเมทผมอีกคนพูดขึ้น

“อืมม... เป็นไงหนุ่ม” ผมทัก

“ก็ OK. เรียนสนุกดี... แล้วนายหล่ะ” หนุ่มพูดขึ้น

“เหมือนกัน แล้วเย็นนี้จะเข้าเชียร์เปล่า” ผมถาม

“ไม่เข้า ขี้เกียจอะ” ว่าแล้วหนุ่มก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ส่วนผมก็นั่งฟังเพลงและเขียนบันทึกส่วนตัวต่อไป... (ไม่ขอเอ่ยถึงรูมเมทอีกคนนะครับ เพราะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่)

ผมเข้ามาเรียนที่นี่ได้ 2 เดือนแล้ว ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง เพื่อนๆ ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น รูมเมทก็สนิทกันดี มีกิจกรรมแปลกๆ ได้ร่วมกันทำตลอด จนพี่หอขึ้นมาเตือนบ่อยๆ เช่น เล่นผีถ้วยแก้วเอย เล่าเรื่องผีกันเอย สารพัดจะพากันเล่น

2 เดือนที่ผ่านมาจึงทำให้ผมร่าเริงมากขึ้น คงเพราะรูมเมทผมนี่แหล่ะมั้ง 55+…

“ยิ้มได้แล้วสินะ” โชกุนพูดขึ้น ขณะที่ผมนั่งอ่านการ์ตูน และมันนั่งทำงาน ส่วนคนอื่นๆ ไปไหนไม่รู้

“เราว่าเกมยิ้มแล้ว ดูดีกว่ากันเยอะเลยนะ แรกๆ ที่รู้จัก เรากลัวจะพูดกับนายไม่รู้เรื่องซะแล้ว” นายเต้พูดต่อ

“อ่ะนะ เราดูแย่ขนาดนั้นเชียว” ผมพูดพลางยิ้ม และเก็บหนังสือการ์ตูน และเดินไปนั่งข้างๆ มัน

“เปล่า... แค่คิดว่านายคงเจอเรื่องแย่ๆ มาก่อนที่จะมาเรียนแน่ๆ” มันพูดต่อก่อนที่จะหันไปทำงาน ผมก็มองดูด้วยความทึ่งครับ เพราะงานที่ผมมองเป็นการเขียนแบบ ผมหล่ะอยากทำแบบนี้เป็นมั่งจังเลย...

“โชกุนจะเอาไรป๊ะ เด๋วเราไปโรงอาหาร” ผมเอ่ยขึ้น

“อืมม... ขอขนมล่ะกัน ขนมอะไรก็ได้นะ” โชกุนพูด ก่อนที่ผมจะเดินลงไป หอพักในมหาวิทยาลัยนี้ มีนิสิตมาอยู่ค่อนข้างเยอะ ทั้งปี 1 ปี 2 หรือแม้กระทั่ง ปี 3 และ 4 ก็เยอะ หอที่ผมพักเป็นหอที่เพิ่งสร้างเสร็จ จึงมีคนอยู่ค่อนข้างน้อย แต่ก็เสียงดังมาก...

“พลั่ก...” เอาแล้วไงเกม ซุ่มซ่ามชนใครเข้าอีกแล้ว

“เดินเหม่อไปถึงไหนเกม” โก๋นั่นเองครับ โล่งอก นึกว่าจะมีเรื่องกับคนอื่นไปซะแล้ว

“เปล่า แค่คิดอะไรเพลิน แล้วนายไปไหนมา” ผมพูด

“มากินข้าวกับเพื่อนๆ นะ” โก๋พูด เพื่อนๆ ที่ว่าคือเพื่อนโรงเรียนเขาครับ

“อืม... เดี๋ยวเราไปซื้อของก่อนล่ะกัน” ผมพูดพลางเดินเข้ามินิมาร์ทไป...

..........

เรื่องที่ฮาที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตในหอพักกับรูมเมทผม ช่วงนั้นเป็นช่วงราวๆ เดือนสิงหาคม พ่อ แม่และน้องชายผมได้มาเยี่ยมที่มหาลัย โดยที่รูมเมทผมไม่รู้ วันนั้นพ่อแม่และน้องชายผมกำลังเดินตามขึ้นมา และผมก็ไปเปิดประตูห้องก่อน ปรากฏว่า 3 คนนั้นกำลังดูหนังสืออย่างว่าอยู่ พวกมันแทบทำอะไรไม่ถูกครับ ผมหัวเราะจนท้องแข็ง หื่นเป็นบ้าเลยพวกนี้ พ่อ แม่และน้องชายผมเข้ามาในห้องทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว ยกเว้น หนังสือโป๊ที่กางหราอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือผม นายเต้โยนผ้าเช็ดตัวขึ้นไปคลุมไว้ พ่อผมหัวเราะเลยครับ แม่และน้องชายผมคงไม่ทันสังเกตมั้ง แต่เรื่องนี้เป็นโจ๊กล้อกันตลอด ก็ไม่รู้ว่าถ้าผมขึ้นมาช้าอีกนิดนึง สงสัยได้เห็นเปรตเดินดิน 3 ตัวกำลังช่วยตัวเองอยู่เป็นแน่ 55+ นึกทีไรหัวเราะทุกที เมทเรา...

..........

“เกม...” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผม

“เอ่อ...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรครับ ก็คนที่เรียกผมอะ ผมไม่รู้จักเขาเลยครับ งงสุดๆ

“ไม่ต้องทำหน้างงอย่างนั้น เราเป็นแฟนโชกุน เขาชี้ให้เราดูว่านายเป็นรูมเมทเขา ทำความรู้จักตอนนี้เลยแล้วกัน” ว่าแล้วเธอก็ยื่นมือมา ผมก็เลยต้องยื่นมือไปจับเพื่อเป็นการทักทาย

“อะแฮ่ม...” เสียงกระแอมดังมาจากระเบียงห้องข้างบน “จะจับมือกันนานมั้ย” โชกุนนั่นเองครับ เหอๆ หึงแฟนมันดั๊วะ

“เราวุ้นนะ”

“เดี๋ยวเราฝากเนี่ยะขึ้นไปให้โชกุนหน่อยนะ” ว่าแล้วผมก็รับของฝากขึ้นไปให้โชกุน แล้วผมก็เดินขึ้นหอไป...

“น้องครับ...” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

“ครับ...” กรูจะได้ขึ้นหอมั้ยเนี่ยะ

“น้องรู้จักคนที่ชื่อ เกม มั้ยครับ เรียน Food นะครับ” พี่คนนั้นถามหาผมนี่นา

“ครับ... รู้จักครับ ทำไมเหรอ” ผมแกล้งทำเป็นรู้จัก (ก็ตัวกรูเองอะ)

“พี่ฝากของให้น้องเขาหน่อยนะครับ พอดีมีคนฝากมาอีกที” พี่คนนั้นพูดขึ้นพลางยื่นของให้ผม

“ครับ แล้วให้บอกเขาว่าใครฝากมาหล่ะครับ” ผมพูดไป

“พี่ชื่อ เอก นะครับ ฝากด้วยนะครับ” พี่เขาบอกชื่อ

‘ชื่อเอกเหรอ ไมกูไม่รู้จักว่ะ’ ผมคิดในใจ

“แล้ว... OK. ครับเดี๋ยวบอกเขาให้ ผมขอตัวนะครับ” ผมพูดพลางเดินขึ้นห้องไป...

“ไมช้าจัง หิวๆๆๆๆ” โชกุนบ่นขึ้น

‘ทำอย่างกับเด็กๆ เหมือน...’ ผมคิดถึงใครบางคนที่มีนิสัยคล้ายๆ โชกุน

‘เลิกคิดได้แล้ว’ ผมคิดในใจก่อนที่จะยื่นของฝากจากแฟนเขาไป

“แล้วนั่นดอกไม้ใคร” นายเต้ถามพลางมองมาที่ดอกไม้และของในถุง

“ไม่รู้ เขาฝากมาให้เรา” ผมพูดพลางวางถุงดังกล่าวไว้บนโต๊ะ

“อืม...” โชกุนเดินมาเปิดดู

‘ทำไมเหมือนกันจังวะ อ๊ะ... ไม่ใช่ๆๆ’ ความคิดผมกำลังตีกันอยู่ในสมอง

“มีการ์ดด้วย... ‘ตั้งใจเรียนะครับ... พี่เอก’” โชกุนอ่านให้ผมฟัง

“เฮ้ย... นี่มันจากผู้ชายนี่หว่า เพื่อนเราเสน่ห์แรงไม่เบาเว้ย” มันเริ่มต้นแซวผม

“สงสัยเขาให้ผิดคนมั้ง ถ้าเป็นของเราจริงเขาต้องรู้จักเราดิ แต่ไหงดันบอกว่า ฝากให้น้องคนที่ชื่อเกมด้วย เหอๆๆ” ผมพูดพลางเก็บของในถุงและถือเดินลงไปข้างล่างเพื่อคืนพี่คนนั้น แต่พี่เขาหายไปแล้ว..
.
“เจอมั้ย” โชกุนถามผมขึ้นหลังจากที่ผมเดินเข้าห้อง

“ไม่เจอ” ผมพูดพลางถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป...

ตลอดเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผมอาบน้ำ ผมได้แต่คิดเรื่องในอดีต ทำไมผมไม่ลืมมันซักทีนะ เมื่อกี้ก็เช่นกัน ทำไมทุกพฤติกรรมของโชกุน เราต้องโยงไปถึงมันตลอด ผมคิดไป ถามตัวเองไป

“ทำไมอาบนานจังวะ” หนุ่มนั่นเองครับพูดขึ้น

“ก็เหนียวตัวมาทั้งวันแล้วอะ ก็เลยอาบนาน” ผมพูดพลางยิ้ม ก่อนที่จะแต่งตัวและนั่งอ่านหนังสือต่อไป ผมมาอยู่ที่นี่เกือบจะ 3 เดือนแล้ว ทำไมผมถึงยังไม่ลืมคนๆ นั้นซักทีนะ...

“จะไปไหนอะ” โชกุนถามผม

“ลงไปโทรศัพท์นะ จะฝากอะไรเหรอ” ผมพูด

“ไม่เอา” โชกุนพูดก่อนที่จะก้มลงไปทำงานตัวเอง...

“...” ผมเดินลงไปข้างล่างหอเพื่อที่จะไปโทรศัพท์สาธารณะที่ติดตั้งไว้ข้างล่าง

“...” ผมกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อนคนหนึ่งขึ้น

//สวัสดีค่ะ// เธอพูดขึ้น

“สวัสดีครับ... ขอสายคุณแขหน่อยครับ” ผมแกล้งพูดไป

//กำลังพูดอยู่ค่ะ ใครพูดค่ะ// แขพูดกลับมา

“จำเราไม่ได้เหรอ...” ผมพูดเสียงปกติ

//เกม... เป็นไงบ้าง สบายดีเปล่า// แขถามผม

“ก็สบายดี เพื่อนๆ เป็นไงบ้าง” ผมถามเธอไป

//จะเอาข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนหล่ะ// แขพูดมา

“เฮ้ย... มีเรื่องไม่ดีด้วยเหรอ... เอาข่าวดีก่อนแล้วกัน” ผมตอบกลับไป

//ข่าวดีเรื่องแรก ตงแต่งงานแล้วนะ เมื่อตอนเดือนกรกฎา นี่เอง// แขตอบกลับมา

“จริงดิ โห เซอร์ไพรส์สุดๆ เลย” ผมพูดกลับไป

//ข่าวดีเรื่องที่สอง ยายนิได้แฟนแล้ว เป็นฝรั่งซะด้วย// แขพูดถึงนิ

“เหอๆ เพื่อนเรา” ผมพูด

//สุดท้าย... ข่าวร้าย อาจจะดีสำหรับฉัน เพื่อนในกลุ่มเรา หรือแก (หรือเปล่า) แต่ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่ไม่รู้...// แขพูดขึ้น ทำให้ผมวิตกซะแล้วว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับคนๆ นั้นหรือเปล่า

//กุ๊นกับเจนเลิกกันแล้ว... แต่แกไม่ต้องดีใจนะ กุ๊นมันมีแฟนใหม่แล้ว ด้วยเหตุใดไม่ทราบ// แขพูดต่อ

“อืมม... ขอบใจนะ เราลืมเรื่องนั้นหมดแล้วหล่ะ” ผมพูดไป

//โกหก ฟังแค่น้ำเสียงแก ฉันก็ไม่เชื่อแล้ว แต่ยังงัยแกก็ตัดใจให้ได้เหอะ แล้วอีกอย่าง หาหนุ่มหล่อๆ ให้เราซักคนดิ หุหุ// อะนะเพื่อนผม

“555+ หล่อๆ นะเยอะ แต่ที่โสดนะหายากว่ะ...” ผมพูดไม่ทันจบก็มีคนพูดแทรกขึ้นจากข้างหลังผม ทำเอาผมตกใจเลยครับ

“เราไง...” โก๋นั่นเองครับ “คุยกับใครเหรอ ท่าทางสนุกเชียว” โก๋พูดต่อ

“แป๊บนะ...” ผมพูดกับแขก่อนที่จะหันมาพูดกับโก๋ “...คุยกับเพื่อนนะ แล้วนายไปไหนมา” ผมถามมันต่อ

“แข แล้วค่อยคุยกันนะ” ผมพูดก่อนที่จะวางสายไป

“เราเพิ่งกลับจากโรงอาหาร กำลังขึ้นหอ เห็นนายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ก็เลยแวะมาทักก่อน” โก๋พูด

“อือ...” ผมยิ้ม “เดี๋ยวเราไปซื้อของก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” ผมพูดก่อนที่จะเดินไปมินิมาร์ทอีกครัง

“พลั่ก...” อีกแล้วไอ้เกม ที่เดิมอีกต่างหาก

“ขอโทษครับ... เป็นอะไรหรือเปล่า” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น พลางยื่นมือมาดึงผมให้ลุกขึ้น

“ขอบคุณครับ... ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ทันระวัง” ผมพูดพลางมองหน้าเขา

‘ทำไมคุ้นหน้าจังว่ะ...’ ผมคิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน

“กระเป๋าตังนายใช่มั้ย” นายคนนั้นยื่นกระเป๋าตังค์ให้ผม “รูปข้างในน่ารักดีนะครับ หลานเหรอครับ... อ๊ะ โทดทีที่เสียมารยาท” เพิ่งรู้ไงว่ะว่าเสียมารยาทในการเปิดกระเป๋าคนอื่นดูเนี่ย

“ไม่เป็นไร... ไม่ใช่หลานหรอก เป็นรูปผมกับเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กๆ นู่นครับ” ผมพูดพลางเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย

“เกม...” นายคนนั้นพูดขึ้นเบาๆ

“นายว่าอะไรนะ” ผมถามขึ้นเพื่อความแน่ใจว่าเขาเรียกผม

“เปล่าๆๆ ไม่มีอะไรครับ นายมาซื้อของเหรอ เดี๋ยวเราไปก่อนนะ” นายคนนั้นพูดแล้วเดินออกจากตรงนั้นไป แปลกไม่รู้จักกันซักหน่อยแล้วจะมาลาทำไม อืมม... ว่าแล้วก็ไปซื้อของก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่ำซะก่อน.....

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 06-10-2007 21:12:59
ใครอ่ะ ชื่อเล่น ต. หรือเป่า :m11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 06-10-2007 21:46:13
อ่านจบแว้ววววว  :m4:


ทำไมเรื่องนี้มานเศร้าจางเนี่ย แต่ตอนล่าสุดดูเหมือนกามเทพจาเล่นกลให้เกมมาพบกับเต๊บแระ ขอเดาว่าเปงเต๊บ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 07-10-2007 01:03:42
ชอบเรื่องนี้จางเรยคับ
พี่เต้คับ เรื่องนี้ ใช่ "คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต" ในบอร์ดปาล์มป้ะ?
มันคุ้น ๆ น่ะ แต่ก้อหาในบอร์ดนั้นไม่เจอแร้น T.T
อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่อยุ่ บอร์ดนั้นแร้ว
แอบรักคนแต่งนะคับ   :m1: :m1:

 :m4: :m4: :m4: เปนกะลังจัยให้นะคับผม
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-10-2007 01:09:56
ชอบเรื่องนี้จางเรยคับ
พี่เต้คับ เรื่องนี้ ใช่ "คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต" ในบอร์ดปาล์มป้ะ?
มันคุ้น ๆ น่ะ แต่ก้อหาในบอร์ดนั้นไม่เจอแร้น T.T
อ่านเรื่องนี้ตั้งแต่อยุ่ บอร์ดนั้นแร้ว
แอบรักคนแต่งนะคับ   :m1: :m1:

 :m4: :m4: :m4: เปนกะลังจัยให้นะคับผม

ใช่ครับผม เปลี่ยนชื่อเรื่องนิดหน่อยครับ หึหึ

อุ้ย... แอบรักทำไมหละครับ รักเลยดีกว่าไหมครับ อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 07-10-2007 03:12:52
ทำมัยพี่เต้ ต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องอ้ะ
ผมชอบชื่อเรื่องเก่าง่ะ ๆ :m17:
แหะ ๆ ชอบ The Classic มากมาย

"คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต"

ปล. ง้านก้อไม่แอบชอบล่ะนะ หุหุ  :m11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-10-2007 05:09:55
รออ่านต่อจ้า  :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 07-10-2007 06:00:47


ง่า...ชอบเรื่องนี้จังเลยอ่ะ  :m3:  อ่านต่อมาจากเรื่องสะดุดรักฯ

อ่านไปถึงบทที่ 10 แล้วร้องไห้เลย :m15:

หวังว่าคนที่เกมชนด้วยคนเป็นนายเต๊บน๊า   เกมจะได้หายเศร้าซะที

รีบมาต่อเร็วๆนะอยากอ่านจะแย่แล้ว :a9: :a9:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 07-10-2007 11:40:01
 อยากให้เกมพบรักใหม่เร็วๆ :a11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 07-10-2007 12:03:05

            กะจะเชียร์ให้ return    :seng2ped:      แต่ถ้าเป็นนายคนนี้ ยอมละ ลุ้นให้ด้วยคนก็ได้  :laugh:

            นับ 1 ได้แล้ว go go go go     :a2: :a2:

                                                         CargO CargO (รักวุ่นวายนายขี้เหร่ :a5:)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 07-10-2007 13:02:09
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 07-10-2007 13:40:32
เต๊บกลับมาแล้วววววว (รึเปล่าหว่า)

เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-10-2007 16:31:06
อ๊ากสสสสสสสสสส
รอคอยการกลับมาของเต๊ป
 :m3: :m3: :m3: :m3:


ว่าแต่เต๊ปเปลี่ยนชื่อเป็นเอกหรือ :m28: :m28: :m28: :m28:

ชอบเรื่องนี้จริงๆ วางพล็อตและเขียนได้สมจริง
 :m1:
ต้องอ่านสองเรื่องควบคู่กันไปเลยนะนี่

อ่านอีกเรื่อง สงสัยไปถึงอีกเรื่อง

กลุ่มของเต้ กับ กลุ่มของเกม

 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-10-2007 16:51:17
ถ้าเป็นเต๊บจริงก็ดีนะซี  :m1:  :m1:  :m1: จะได้เชียร์  :m3:  :m3: (ยังไงก็ไม่เชียร์กุ๊นหรอก  :a14:)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-10-2007 22:43:21
ทำมัยพี่เต้ ต้องเปลี่ยนชื่อเรื่องอ้ะ
ผมชอบชื่อเรื่องเก่าง่ะ ๆ :m17:
แหะ ๆ ชอบ The Classic มากมาย

"คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต"

ปล. ง้านก้อไม่แอบชอบล่ะนะ หุหุ  :m11:

หึหึ... ก็มาบอร์ดใหม่อะครับ ก็เลยเปลี่ยนชื่อนิดหน่อยนะครับ แต่เนื้อหาเหมือนเดิม เปลี่ยนแค่ชื่อตัวละครหนึ่งตัวเท่านั้นครับ อิอิ ไม่ต้องแอบหรอกคร้าบบบบ  :m1:



ง่า...ชอบเรื่องนี้จังเลยอ่ะ  :m3:  อ่านต่อมาจากเรื่องสะดุดรักฯ

อ่านไปถึงบทที่ 10 แล้วร้องไห้เลย :m15:

หวังว่าคนที่เกมชนด้วยคนเป็นนายเต๊บน๊า   เกมจะได้หายเศร้าซะที

รีบมาต่อเร็วๆนะอยากอ่านจะแย่แล้ว :a9: :a9:

รออ่านดูแล้วกันครับ อิอิ ที่นายเกมหายเศร้านะ มีหลายเหตุผลคร้าบบบบ


            กะจะเชียร์ให้ return    :seng2ped:      แต่ถ้าเป็นนายคนนี้ ยอมละ ลุ้นให้ด้วยคนก็ได้  :laugh:

            นับ 1 ได้แล้ว go go go go     :a2: :a2:

                                                         CargO CargO (รักวุ่นวายนายขี้เหร่ :a5:)

55+ ตกใจอะไรกับ รักวุ่นวายนายขี้เหร่หละครับ อิอิ แต่ก็ขอบคุณที่เชียร์นะครับ

อ๊ากสสสสสสสสสส
รอคอยการกลับมาของเต๊ป
 :m3: :m3: :m3: :m3:


ว่าแต่เต๊ปเปลี่ยนชื่อเป็นเอกหรือ :m28: :m28: :m28: :m28:

ชอบเรื่องนี้จริงๆ วางพล็อตและเขียนได้สมจริง
 :m1:
ต้องอ่านสองเรื่องควบคู่กันไปเลยนะนี่

อ่านอีกเรื่อง สงสัยไปถึงอีกเรื่อง

กลุ่มของเต้ กับ กลุ่มของเกม

 :m11: :m11: :m11: :m11:

คนที่ชื่อเอกเป็นรุ่นพี่ครับผม ส่วนที่ว่าวางพล็อตเรื่องได้สมจริงนั้น ก็เพราะว่ามันมาจากชีวิตจริงของผู้แต่งเองไงหละครับ และเรื่องนี้กับสะดุดรักฯ มันเป็นเรื่องที่เชื่อมต่อกันครับ เพราะเกมกับเต้ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถมนะครับ

ถ้าเป็นเต๊บจริงก็ดีนะซี  :m1:  :m1:  :m1: จะได้เชียร์  :m3:  :m3: (ยังไงก็ไม่เชียร์กุ๊นหรอก  :a14:)

55+ ยังไม่รู้เลยนะครับว่าเป็นใคร ทำไมเลิกเชียร์กุ๊นซะหละครับ มันน้อยใจนา...



ผมขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจและความคิดเห็นนะครับ

นายเต้เองครับผม  o1
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-10-2007 22:51:58
บทที่ 13 การพบกันอีกครั้งของคนสองคน

..........
“กุ๊นรักเกมจังเลยครับ” กุ๊นพูดพลางกอดกระชับผม

“ทานอะไรยัง เดี๋ยวกุ๊นเลี้ยงเอง”

“ไม่เป็นไร กุ๊นทานเถอะ เกมไม่หิวนะ” ผมพูดพลางเกาหัวตัวเอง กุ๊นมาอยู่นี่ได้ยังงัย ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ แถมแต่ชุดนิสิตเหมือนผมอีก งงจัง

“งั้นไม่ต้องทานไปกันเลยดีกว่า เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน” กุ๊นพูด

“อืม”

แล้วผมกับกุ๊นก็เข้าเรียนวิชาแรกของวันนั้นพร้อมกัน แต่ทำไมไม่เห็นเพื่อนๆ ผมเลย มีแต่คนที่ผมไม่รู้จักทั้งนั้น แถมห้องก็ดูเหมือนไม่ใช่ห้องเรียนซะอย่างนั้น

“เป็นอะไรเกม ตั้งใจเรียนหนอยดิ” กุ๊นสะกิดผม

“อือ....”

“โชกุน” ผมพูดขึ้นเบาๆ เมื่อสายตาผมหันไปมองเห็นร่างๆ หนึ่งที่นั่งเยื้องๆ ผม ทั้งรูปร่างและทรงผม นายโชกุนชัดๆ แต่ทำไมมันไม่หันมามองผมนะ

“โชกุน” ผมเร่งเสียงเรียกให้แรงขึ้นกว่าเดิม...

“จะเรียกทำไมเสียงดังจัง อยู่แค่นี้เอง...” ผมกันไปมองที่ต้นเสียง นายโชกุนยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผม แถมเกาหัวตัวเองอย่างงงๆ

“นี่นายฝันเหรอ” ผมหันมองรอบๆ นี่มันห้องพักผมนี่นา นี่ผมฝันไปหรอกเหรอ แต่ทำไมหน้าของกุ๊นมันถึงชัดเจนขนาดนั้น ใบหน้าที่ผมอยากเห็นมานาน...

“เฮ้ย... เราไม่ได้ว่าอะไรนายซักหน่อย” โชกุนพูดพลางเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วยื่นให้ผม นี่น้ำตาผมไหลด้วยเหรอ

“ขอบใจ เราฝันไม่ค่อยดีนะ” ผมปดนายโชกุนไปจนได้

ผมมาอยู่ที่ห้องนี้ได้ 1 เทอมแล้ว เทอมที่ 2 นี้รูมเมทผมอีกสองคนได้ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก ทำให้เหลือแค่ผมกับนายโชกุนที่ยังพักห้องนี้โดยไม่มีใครย้ายเข้า เมื่ออยู่กันสองคนทำให้ผมกับนายโชกุนสนิทกันมากขึ้น

“งั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเหอะ นี่เช้าแล้ว”

“อืมมมม” ผมลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ

“ลงไปกินข้าวด้วยกัน” นายโชกุนชวนผมลงไปทานข้าว วันนี้เป็นวันหยุด ผมจึงลงไปด้วย โชกุนเลิกกับแฟนตั้งแต่เทอมที่แล้ว ผมก็เคยถามเหตุผลเขาเหมือน (ไม่รู้จะไปยุ่งทำไม) นายโชกุนก็ได้แต่มองหน้าผมและก็ไม่พูดอะไร ผมก็เลยไม่ถามมันอีกเลย…

“นั่งด้วยคนได้มั้ย” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น นายคนที่ผมเดินชนเมื่อหลายเดือนก่อนนี่เอง

“เอ่อ... เอ้อ... เชิญครับ”

“มาคนเดียวเหรอครับ”

“เปล่าครับ มากับเพื่อนนะครับ” ผมตอบนายคนนั้นไป

“อืมมมม”

“นายชื่ออะไรเหรอ”

“เดี๋ยวนายก็รู้เอง” นายคนนั้นพูด ก่อนที่โชกุนจะถือของกินมาให้ผม

“เอ่อ...”

“นี่โชกุน รูมเมทเรา... ส่วนนี่เอ่อ...”

“ไม่เป็นไรครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” สองคนนั้นทำความรู้จักกัน โดยที่ผมและโชกุนก็ไม่รู้ชื่อเขา ผมเลยเรียกเขาว่า “นายคนนั้น”

“ขอนะ” นายโชกุนพูดพลางตักเอาชิ้นหมูจากจานผม

“เฮ้ย... เร็วเป็นบ้า”

“นายเอานี่ไปกิน จะได้โตไวไว 55+”

“อะนะ” ผมและนายโชกุนกินข้าวด้วยความสนุก นายคนนั้นเลยขอตัวลุกไปนั่งกับคนอื่น ผมสังเกตดูว่าหน้าเขาจะเศร้าๆ ผมก็ไม่คิดอะไร

“โชกุน!!!”

“555+” โชกุนได้แต่หัวเราะ จะอะไรอีกหล่ะครับ มันเล่นหยิบชิ้นหมูไปจากจานผมไปเกือบหมดแล้ว มันก็ได้แต่หัวเราะ...

“นายกินผักนั่นแหล่ะดีแล้ว” ดูมันพูด

“อะนะ... ขืนกินแต่ผัก เขาก็งอกนะซี”

“555+” มันพูดพลางยื่นผักในจานมันให้ผม

ผมและโชกุนนั่งกินนู่นกินนี่อยู่ตรงนั่นกว่าชั่วโมงครึ่ง โดยที่ผมไม่ทันได้สังเกตว่า มีสายตาของผู้คนมองมาทางเราสองคน....

“ดีจังน้า... มีหนุ่มสถาปัตหล่อๆ นั่งกินกินข้าวเป็นเพื่อน แถมกระหนุงกระหนิงกันอย่างกับแฟน” เพื่อนๆ ในกลุ่มผมพูดขึ้นในเช้าวันจันทร์อันแสนเย็นสบาย

“อะไรนะ” ผมพูดขึ้นเพื่อความแน่ใจว่า สิ่งที่ผมได้ยินไม่ผิด

“ก็เมื่อวันวันเสาร์ตอนสายๆ นายกับเมทไปทำอะไรไว้หล่ะ” โก๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลกๆ

“...” ผมเริ่มทำสีหน้าเบื่อๆ แล้วครับ นิสัยผมเปลี่ยนไปเยอะตั้งแต่เลิกกับกุ๊น หนึ่งในนิสัยที่เปลี่ยนไปนั่นก็คือ -ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับชีวิตผมให้มากนัก-

“เกมนะตกเป็นขี้ปากคนอื่นๆ ใน ม.นะ โดยเฉพาะจากคณะวิทยาการฯ” ยุพูดขึ้น และกล่าวถึงคณะของแฟนเก่าโชกุนด้วย

“พวกนั้นหาว่านายแย่งโชกุนจากเพื่อนเขา นายเป็นผู้ชายนะ มีเรื่องแบบนี้สนุกนักหรือไง”

“แกก็พูดเกินไป เกมมันยังไม่พูดอะไรเลยนะ มีแต่เราที่ว่า ว่าและก็ว่ามันนะ” โตโต้พูดขึ้น

“เรากับโชกุน เป็นเพื่อนกัน เราคบกันแบบเพื่อนด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีแต่คนที่จิตใจสกปรกเท่านั้นแหล่ะที่จะคิดแบบนั้น... โทษทีนะเราขอตัวหล่ะ” ผมพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกจากตรงนั้นแล้วตรงเข้าไปยังห้องสมุดทันที ผมอยู่ที่ห้องสมุดประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเดินไปเรียน โดยที่หลีกลี่ยงที่จะนั่งใกล้ๆ เพื่อนๆ ในกลุ่ม

“เกม... พวกเราขอโทษนะที่พูดไปแบบนั้น” ยุพูดขึ้นหลังจากเลิกเรียน

“...” ผมส่ายหน้า “ไม่เป็นไรหรอก เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เราไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ และเราก็ไม่สามารถทำให้ใครทำให้ใครคิดดีๆ กับเราได้หรอก” ผมพูดก่อนที่จะเดินออกจากห้องพร้อมๆ กับเพื่อนๆ

“เรา... ขอโทษนะ” โก๋พูดขึ้น

“ไม่เป็นไร”

“งั้นเราไปทานข้าวกัน”

จากนั้นกลุ่มเราและเพื่อนๆ ในห้องก็พากันไปทานข้าวกัน ระหว่างทางนั้นผมก็เจอกับวุ้น (แฟนเก่านายโชกุน) ผมจึงเข้าไปคุยกับเธอเพื่อคุยให้เข้าใจว่าเรื่องมันเป็นยังงัย ดูวุ้นจะเข้าใจ แต่เธอก็ไม่คิดจะกลับไปคืนดีกับโชกุนแน่นอน ผมก็ไม่พูดอะไร เพราะคิดว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรมากกว่า...

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมกับโชกุนก็ยังคงไปทานข้าวกันเหมือนเดิม แต่ไม่บ่อยมากนัก เพราะต่างคนต่างก็มีงานสุมหัว นานๆ ผมกับโชกุนจึงจะมีโอกาสได้ไปทานข้าวด้วยกัน...

“วันนี้มาทานข้าวคนเดียวเหรอครับ” นายคนนั้นพูดขึ้นและขอนั่งกับผม หลังจากที่ผมลงมาทานข้าวที่โรงอาหารคนเดียว

“ครับ”

“นี่ตกลงนายชื่ออะไรกันแน่” ผมถามนายคนนั้น

“อืมมม... ยังไม่บอกนะครับ เอาเป็นว่าอีกไม่นานเราจะบอกให้นายรู้ล่ะกัน”

“ตามใจ” ผมพูดพลางทานข้าวตัวเองไป

“นายพักหอไหนเหรอ”

“หอยางสีสุราช ห้อง 302”

“เราพักอยู่อีกหอนะ”

“เอาเป็นว่า วันลอยกระทงเราจะบอกนายเองว่าเราชื่ออะไร” นายคนนั้นพูดก่อนที่จะเดินออกจากตรงนั้นไป ทำไมจะต้องทำตัวลึกลับด้วยวะ อย่างกับเราอยากรู้จักซะ...

“นี่เกม วันลอยกระทงได้เพื่อนไปลอยด้วยยัง”

“ยังอะ... แต่ก็คงเป็นเพื่อนๆ ในคณะนั่นแหล่ะมั้ง”

“ให้เราไปลอยเป็นเพื่อนเอาเปล่า”

“อย่าเลยโชกุน เดี๋ยวเราโดยแฟนคลับนายแหกอกกันพอดี เหตุการณ์ตอนนั้นยังเข็ดไม่หาย”

“55+” นายโชกุนหัวเราะก่อนที่จะออกจากห้องไป

“อยู่คนเดียวเหรอ” โก๋นั่นเองครับ

“แล้วเห็นว่าเราอยู่กี่คนหล่ะ”

“เอ่อ... นายยังโกรธเราอยู่อีกเหรอ”

“เปล่า”

“งั้นเราขอโทษอีกครั้งแล้วกัน” ว่าแล้วนายนั้นก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับนั่งลงตรงปลายเตียงผม

“วันลอยกระทงนี้นายจะไปลอยกับใครเหรอ”

“ไม่รู้ ก็คงจะเป็นเพื่อนๆ นั่นแหล่ะ...”

“อืมมม...” ผมกับโก๋คุยกันอยู่นานพอควร ก่อนที่นายคนนี้จะขอตัวกลับไปที่ห้อง ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะได้มีโอกาสอยู่คนเดียวในห้องกว้างๆ นี้ ทุกครั้งที่ผมอยู่คนเดียวก็มักจะนั่งคิดเรื่องเก่าๆ มันคงเป็นนิสัยอีกอย่างหนึ่งที่ผมมักทำเวลาอยู่คนเดียว ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ครั้งนี้ผมนั่งคิดเรื่องเก่าๆ สมัยมัธยม สมัยที่ผมและกุ๊นคบกัน...

----“เกมเขียนบันทึกอะไรอะ”

“ก็บันทึกเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไง ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับกุ๊นและเกมแหล่ะ” ผมพูดพลางเงยหน้าขึ้นมามองกุ๊น “เผื่อวันหนึ่งกุ๊นทิ้งเกมไปจะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำ”

“ไม่มีวัน กุ๊นไม่มีทางทิ้งเกมเด็ดขาด ยังงัยกุ๊นก็จะรักเกมตลอดไป... แม้เกมจะไม่รักกุ๊นแล้วก็ตาม” กุ๊นพูดพลางมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“เกมก็เหมือนกัน” -------

พอคิดเรื่องนี้ทีไร ผมเป็นต้องนั่งร้องไห้ทุกที ผมพยายามไม่คิดแล้วนะ แต่พออยู่คนเดียว สมองมันก็คิดเรื่องอะไรไปเรื่อย และสุดท้ายก็คิดเรื่องเก่าๆ นี้จนได้...

.............

วันลอยกระทง

“หวัดดี หาตัวพบจนได้” นายคนนั้นทักผมขึ้น

“นี่เกม นายไปรู้จักเด็กวิศวะได้ไงนะ” แอร์พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“ไม่รู้เหมือนกัน”

“ผมขอลอยกระทงด้วยคนนะครับ” นายคนนั้นพูดขึ้น ทำให้ทุกคนในกลุ่มผมหันไปมอง และทำหน้าประหลาดใจ ประมาณว่า -ฉันไปรู้จักนายตั้งแต่เมื่อไหร่- แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่ดูเหมือนพวกเพื่อนๆ จะปล่อยให้นายคนนั้นมาลอยกระทงกับผมซะมากกว่า อะไรกันว่ะ...

“นายอธิษฐานว่าอะไร”

“ถ้าบอกนายจะเรียกว่าอธิ....” ผมไม่อยากพูดต่อเลย ทำไมบทสนทนานี้มันเหมือนตอนนั้นจัง...

------“เกมอธิษฐานว่าอะไรเหรอ”

“ถ้าบอกเขาจะเรียกว่าอธิษฐานเหรอ”

“อ่ะนะ... ส่วนกุ๊นอธิษฐานว่า ขอให้เราสองคนอยู่ด้วยกันนานๆ และขอให้เกมรักกุ๊นมากๆ”

“เกมก็อธิษฐานแบบนั้นเหมือนกัน” --------

เฮ้อ.... อดทนเกม เดี๋ยวคนอื่นได้แตกตื่นกันพอดี มาลอยกระทงแล้วกลับจะร้องไห้เนี่ยะ อดทนๆๆๆๆๆๆ

“ไม่สบายหรือเปล่า ดูหน้านายซีดๆ นะ”

“ไม่เป็นไร สงสัยจะแพ้ควันธูปมั้ง”

ผมหันไปมองหาคนอื่นก็ไม่มีแล้ว เพื่อนๆ คนไม่รู้ไปไหน ตกลงคืนนี้ผมต้องเดินกับนายคนนี้เหรอ แปลกๆ แฮะ...

“เกม นายกินขนมนี่มั้ย” นายคนนั้นพูดขึนพลางยื่นขนมให้ผม

“ไม่เอานะ ไม่ชอบ... เดี๋ยว นายรู้จักชื่อเราด้วยเหรอ”

“เอ่อ... ก็... เราได้ยินเพื่อนนายเรียกแบบนี้อะ” นายคนนั้นพูดเหมือนจะแก้ตัว

“ถามจริงๆ เหอะ นายชื่ออะไรอะ”

“อยากรู้จริงๆ เหรอ”

“ไม่แล้วหล่ะ” ผมพูดจริงๆ ครับ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ไอ้บทสนทนาแบบนี้

“อ๊ะ... ขอโทษๆๆๆๆ เราลืมไปว่าเกมไม่ชอบบทสนทนาแบบนี้”

“นี่... นายเป็นใครกันแน่ ทำไมรู้อะไรเกี่ยวกับเราเยอะจัง”

“เดี๋ยวเราไปนั่งคุยกันตรงนั้นดีกว่านะ” ว่าแล้วนายคนนั้นก็จูงมือผมไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนข้างๆ คณะวิทยาศาสตร์

“เอ้า... เราตามนายมาแล้ว ที่นี้บอกได้ยังว่าชื่ออะไร”

“...” นายคนนั้นเดินเข้ามากอดผม

“เฮ้ย... ทำไรว่ะ จะมากไปแล้วนะ” ผมเริ่มโวยวาย นี่ไม่รู้จักกันแล้วมาทำแบบนี้ ขนาดคนที่รู้จักกันยังไม่กล้าทำแบบนี้เลยอะ

“เกม”

“...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรครับ (ดิ้นไม่หลุดจากอ้อมกอดของมัน แหะๆ)

“จำเราได้เปล่า”

“จำไม่ได้ เราเคยรู้จักกันเหรอ” ผมพูด ก่อนที่นายคนนั้นจะเลิกกอดผม แล้วพูดขึ้นว่า...

“สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายเศรษฐ์พล ครับ ชื่อเล่น เต๊บ ครับ” พอนายคนนั้นเอ่ยจบ เหมือนเรื่องราวต่างๆ เหตุการณ์ต่างๆ ไหลเวียนเข้ามาในความทรงจำผม รอบๆ ข้างเงียบลง ในสมองมีเรื่องราวต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่ผมจะกระโดดกอดนายคนนั้นอย่างดีใจ...

..........

มีคนทายถูกด้วย 55+  :m14:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 07-10-2007 23:09:33
หุหุ
มาจิ้มพี่เต้คนแรก  :laugh: :laugh:
จารอตอนต่อไปนางับตะเอง  :give2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 07-10-2007 23:15:16
มาต่ออีกไวๆๆน๊า
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... รักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพใหม่ 6 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 00:02:02

         อีกแหละ อ้ายเต้มานหลอกให้กรูค้างอีกแหละ   ต้องจิ้นต่อเองอยู่เรื่อย  :undecided: o9 o12

        ร อ ก๊ า น ต่ อ ไ ป นะ น า ย เ ต้    :o11: :m21: :m23:

                                     
      CargO CargO (ปกติพูดเพราะ แต่กรุณาพูดตามดังให้ได้ความรู้สึกคนอ่าน ฮิอิ  :laugh: :m11: :m23:)
         
        PS พูดมะเพาะรับได้ปะ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 08-10-2007 00:45:33
เป็นเเต๊บจริงๆด้วย :m20:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 08-10-2007 00:49:02
บทที่ 14 คนแรกของหัวใจ (อีกครั้ง)

.........

“สวัสดีครับ ผมชื่อ เด็กชายเศรษฐ์พล ครับ ชื่อเล่น เต๊บ ครับ”

“เต๊บ!!!”

“ใช่ครับ เต๊บเอง”

“จริงนะ” ผมพูดเสียงสั่นๆ เพราะยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่ มันอำเราเล่นหรือเปล่าว่ะ แต่มันไม่น่ารู้จักเต๊บเลยนี่นา ดูๆ ไปหน้ามันก็เข้าเค้าอยู่นะ

“ตัวจริงเสียงจริงเลยครับ” เต๊บพูดพลางดึงมือผมไปแตะที่ตัวมัน

“...”

“เงียบไมอะ... ไม่ดีใจเหรอที่เจอเราอะ”

“...” ผมส่ายหน้า ผมยังตั้งตัวไม่ติดต่างหาก เกือบ 10 ปีที่เราทั้งสองไม่ได้ติดต่อกัน ผมคิดว่ามันลืมผมไปแล้วด้วยซ้ำ
“เราฝันอยู่ใช่เปล่า”

“ไม่ได้ฝัน นี่ความจริง เต๊บรู้ว่าเป็นเกมตั้งแต่วันที่เราเดินชนกันแล้ว เพราะรูปที่อยู่ในกระเป๋าตังค์เกมนั่นแหล่ะ แต่ไม่คิดว่าเกมจะลืมเรา”

“เกือบ 10 ปีเชียวนะ จะให้เราจำหน้านายได้ไง แถมตอนนั้นนายก็สูงไม่ต่างจากเราเท่าไหร่ แต่นี่อะไร” ก็จะไม่ให้พูดแบบนี้ได้ไงครับ ผมแค่ 175 แต่มันคง 180 กว่าๆ นู่นแหล่ะมั้ง

“สูงกว่ากุ๊...” ผมแทบจะหยุดพูดไม่ทัน ไม่คิดว่าปากจะเร็วเอ่ยชื่อคนนั้นอีก

“ไอ้กุ๊นมาเรียนนี่ด้วยเหรอ”

“เปล่า”

“อ้าว... แล้วนี่...”

“หยุดพูดเรื่องคนอื่นเหอะ ว่าแต่นายเหอะ รู้ว่าเป็นเราตั้งนานไหงปิดเงียบอะ”

“ก็เพื่อให้มั่นใจว่าเกมจำเราไม่ได้จริงๆ นะสิ”

“อย่างที่บอกนั่นแหล่ะ 10 ปีมันทำให้นายเปลี่ยนไปขนาดนี้ ใครจะจำได้” ผมและเต๊บจึงเดินคุยกันออกไปจากงาน เต๊บเล่าให้ฟังว่า เขาย้ายที่อยู่กะทันหัน ทำให้ไม่สามารถติดต่อผมได้ แต่เขายังเก็บจดหมายทุกฉบับของผมไว้ เขายังจำผมได้ดีทุกอย่าง แม้จะผ่านมานานแค่ไหน เขาย้ายที่อยู่ประมาณ 5 ครั้ง จนจบม.ปลายเขาจึงตัดสินใจเรียนต่อที่นี่เพื่อที่จะไม่ต้องย้ายตามครอบครัวไปเรื่อยๆ และไม่คิดว่าผมจะเรียนต่อที่นี่ด้วย

“ตอนแรกเราก็ไม่คิดจะมาต่อที่นี่หรอก กะว่าจะต่อที่ ม.อุบล นะ แต่เกิดปัญหานิดหน่อย เลยตัดสินใจมาเรียนที่นี่ เพื่อ...” ผมเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสมัยมัธยมให้เต๊บฟัง แต่บิดเบือนความจริงตรงที่ผมคบกับกุ๊น ผมยังไม่อยากให้เพื่อนเก่าคนนี้ของผมรู้ว่าผมเป็นอะไร...

“เกมยังติดต่อกับไอ้กุ๊นอยู่มั้ย เราจะไปทวงคำสัญญากับมัน”

“...” ผมส่ายหน้า ผมไม่อยากให้สองคนนี้เจอกัน ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่าอีกครั้งเหนื่อย

“ถามจริงๆ นะเกม... เกมกับกุ๊นเป็นแฟนกันใช่มั้ย”

“...” ผมสะดุ้งกับคำถามนี้ ผมว่าผมปิดมิดแล้วนะ ทำไมนายคนนี้มันเก่งจังว่ะ

“ทำไมถามอย่างนั้นหล่ะ”

“ก็... เต๊บฟังที่เกมเล่า มันเหมือนว่าเกมกับกุ๊นเป็นแฟนกัน มันเหมือนมีเส้นบางๆ ระหว่างกุ๊นกับเกมเกิดขึ้นระหว่างที่เกมเล่า แต่ถ้าไม่ใช่ เต๊บก็ขอโทษที่เข้าใจผิดแล้วกัน”

“มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ เป็นเพราะคำพูดเล่นๆ ของเด็กผู้ชายสองคน ทำให้มันเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น... ใช่ เรากับกุ๊นเป็นแฟนกัน แต่... มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว...” ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ ครับ ผมไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว เพราะมันเจ็บจี๊ดๆ ที่หน้าอกข้างซ้าย

“เพราะคำสัญญาที่เต๊บให้มันดูแลเกมดีๆ ใช่มั้ย”

“ไม่ใช่หรอก เรารักกุ๊นจากใจจริง ไม่ใช่เพราะคำสัญญา ส่วนกุ๊นจะคิดแบบเราหรือเปล่า เราไม่แน่ใจ เพราะสุดท้ายเขาก็ไปรักกับ ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขา...”

“...” เต๊บเงียบไปทันที ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ณ ขณะนั้นผมยังรักกุ๊นอยู่ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผม คือเพื่อนเก่าที่ผมรักที่สุด รักในแบบเพื่อน ไม่ใช่ในแบบคนรัก

“นายรังเกียจเหรอ เราไม่ว่าหรอก เพื่อนกันไม่น่าที่จะพัฒนาไปเป็นแบบนั้นได้ อย่างที่เราบอก มันเหมือนเป็นความหลงของคนสองคนเท่านั้น ตอนนี้เราไม่มีเรื่องแบบนั้นแล้ว เราเหนื่อยกับเรื่องนี้ พอแล้ว” ผมพูดพลางทิ้งตัวลงบนม้าหินอ่อนหน้าหอ

“เปล่านะ... ไม่ใช่แบบนั้น เพียงแต่เรา... เต๊บไม่รู้จะพูดยังงัย แต่ไม่ได้รังเกียจแน่นอน เกมเป็นเพื่อนคนแรกที่เรารักมากที่สุด เราจะคิดแบบนั้นได้ยังงัยหล่ะ”

“อืม... ขอบใจนะ”

“งั้นเรากับห้องก่อนนะ แล้วพรุ่งนี้เรามารับไปทานข้าว นะ” เต๊บพูดก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อกลับหอ ส่วนผมก็นั่งเล่นอยู่บริเวณนั้นเพื่อคิดอะไรเรื่อยๆ ทำไมผมถึงได้รักกุ๊นขนาดนั้นโดยไม่เผื่อความเจ็บปวดไว้บ้างเลยนะ คงเป็นเพราะความไว้ใจมั้ง

“ใช่ เพราะความไว้ใจ ต่อไปนี้เราจะไม่ไว้ใจใครง่ายๆ อีกแล้ว” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ

“ไว้ใจใครเหรอ...”

“เฮ้ย... โชกุน มาตอนไหนเนี่ยะตกใจหมดเลย”

“โทดทีๆ”

“แล้วนี่งานเลิกแล้วเหรอ”

“เปล่า เป็นห่วงเกมอะ เดี๋ยวฝันร้ายอีก เลยกลับมาดู ไม่คิดว่าจะมานั่งรอเราข้างล่างแบบนี่ หุหุ”

“ใครมานั่งรอ เหอๆ เรามานั่งคิดอะไรเล่นๆ มากกว่า” ระยะนี้โชกุนพูดกับผมแปลกขึ้นทุกวัน สาธุอย่าเป็นไปอย่างที่เรากลัวเลย...

“เหรอ งั้นขึ้นห้องเหอะ”

“อ้าว ไม่กลับไปอีกเหรอ”

“ไม่แล้ว ขี้เกียจ นอนดีกว่า ไปเหอะ” ผมและโชกุนจึงขึ้นห้อง ผลัดกันเข้าใช้ห้องน้ำ ก่อนที่ต่างคนต่างหลบเข้ามุมตัวเอง เพื่อที่จะทำงานของตัวเอง...

“เกมทำไรอะ”

“เขียนบันทึกนะ นายจะนอนเหรอ ปิดไฟได้นะ”

“เปล่าๆ แค่ถามนะ เห็นเงียบๆ ไป”

“ขอบคุณคร้าบบบบ... ว่าแต่นายทำงานเสร็จแล้วเหรอ”

“ยังเลย... เอ่อ... เกม ช่วยเราอย่างดิ”

“อะ...อะไร” มันขอให้เราช่วยมันอย่างหนึ่ง อะไรว่ะ ระแวงไว้ก่อนหล่ะ

“ช่วยทำอันนี้ให้หน่อยนะ นะๆๆๆๆ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวมื้อนึง” โล่งอกไปที มันให้ผมช่วยกรีดกระดาษเพื่อทำโมเดลให้ ตกใจหมดเลย นึกว่ามันจะให้ช่วย.... (ลามก)

“ได้ๆ”

“ขอบคุณคร้าบบบบ” ผมจึงนั่งช่วยมันทำงานอยู่เสร็จ แล้วจึงพากันหลับกันนอนซะที

“เกม ช่วยปลุกเราด้วยนะ เราตั้งนาฬิกาไว้แล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ” ว่าแล้วมันก็ล้มตัวลงนอน ส่วนผมก็ยังลืมตาในความมืดเช่นเคยเหมือนทุกวัน ก่อนที่จะหลับ ผมมักที่จะนอนคิดอะไรเล่นๆ ก่อน ส่วนใหญ่ก็เรื่องเก่าๆ หรือไม่ก็เรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน...

“ก๊อกๆๆๆๆ”

“คร้าบบบบ” ผมลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง ดึกแล้วนะ ใครมาเคาะว่ะ จะหลับจะนอนเนี่ยะ

“กุ๊น”

“เกม ตื่นสายจังนะ”

“มาได้ไงเนี่ยะ”

“อ้าว ถามแปลกๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปเรียนสายหรอก” ผมงงกับเรื่องนี้มาก ฝันเหรอว่ะ ผมจึงหันไปมองในห้อง ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปหมด นี่มันห้องนอนเราที่บ้านนี่นา

“หรือจะให้กุ๊นอุ้มไปอาบหา”

“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวไปอาบแล้ว” แม้เป็นความฝัน แต่ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดใจ ทำไมช่วงนี้ผมถึงฝันบ่อยจังวะ

“กุ๊นรักเกมนะ”

“เกมก็รักกุ๊น ว่าแต่วันนี้โดดเรียนมั้ย กุ๊นพาเกมไปเที่ยวในตัวเมืองหน่อยดิ นะๆๆๆ”

“ได้คร้าบบบบ” กุ๊นตามใจผมอีกเช่นเคย ขนาดในความฝัน งั้นขอตามใจตัวเองหน่อยแล้วกันวะ

“กุ๊น เกมรักกุ๊นนะ”

“เป็นอะไรอีกเนี่ยะ เกม ร้องไห้ทำไม” ผมกอดกุ๊นไว้แน่นๆ แม้เป็นเพียงความฝัน ผมก็อยากกอดเขาให้หายคิดถึง ความรักมันลืมยากจริงๆ

“ตื๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“เฮ้ย....” ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาที่โต๊ะหนังสือผม

“เฮ้อ...... ฝันอีกแล้วสินะ ทำยังไงเราถึงจะลืมนายได้นะกุ๊น” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะปลุกโชกุนให้ตื่น

“ขออีกห้านาที นะๆๆๆ”

“ไม่ได้ 6 โมงเช้าแล้ว เดี๋ยวก็เก็บงานไม่เสร็จหรอก ตื่นๆๆๆๆ”

“อืมมม” มันยังนอนเหมือนเดิม

“ไม่ตื่นใช่มั้ย”

“เฮ้ย... จะทำไรเนี่ยะ”

“555+” ผมก้มหน้าลงไปทำท่าจะหอมแก้มมันนะครับ ผมแค่แกล้งมันเท่านั้นแหล่ะ ไม่คิดจะทำจริงหรอก ได้ผลครับ มันตื่นทันที แถมทำท่าทางเหมือนรักนวลสงวนตัว

“เวอร์ๆๆๆ เราแค่แกล้งนิดหน่อย ไม่คิดจะทำจริงซักหน่อย”

“...”

“เฮ้ย... ถ้าทำให้โกรธก็ขอโทษนะ เราแค่แกล้งเล่นๆ เท่านั้นอะ” เหอๆ ใจเสียแล้วครับ แค่คิดจะแกล้งมันเล่น หวังว่ามันจะไม่โกรธนะ

“...” ผมไม่ทันตั้งตัว มันดึงผมลงไปกอด แล้วขึ้นคร่อมผมทันที

“เฮ้ๆๆๆ...” ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร มันก็ก้มลงมาจูบผมทันที ผมก็ได้แต่ดิ้น แต่ดิ้นยังงัยก็ไม่หลุด ก็ผมตัวบางกว่ามันนี่หน่า นายโชกุนจูบผมอยู่นานพอควร จนมันถอนปากออก…

“ระ... เราขอโทษ”

“ไม่เป็นไร” ผมพูดพลางเดินกลับไปนอนที่เตียงตัวเอง ส่วนโชกุนก็นั่งเก็บงานอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวออกไปตึกคณะ

“เมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้นวะ เราฝันหรือเปล่า โชกุนจูบเราเหรอ บ้าๆๆๆๆ เป็นไปไม่ได้” ผมเหมือนคนโรคจิตเข้าทุกที เอาเหอะ ถือว่าเหตุการณ์เมื่อกี๊เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบแล้วกันว่ะ

..........

“เกมจะกินอะไร เดี๋ยวเราไปสั่งให้”

“อืมม... อะไรก็ได้ที่อร่อย” ผมบอกเต๊บไป ก่อนที่เต๊บจะเดินไปซื้อข้าวมาให้ ผมนั่งคิดถึงเรื่องเมื่อเช้าอยู่จนไม่ทันสังเกตว่ามีคนมานั่งลงข้างๆ

“เราขอโทษเรื่องเมื่อเช้านะ”

“เฮ้ย... มาตอนไหนเนี่ยะ”

“เราขอโทษจริงๆนะ อย่าโกรธนะ”

“ไม่เป็นไร แต่ทีหลังอย่าทำอีก ยังงัยเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน” ผมคุยกับโชกุนอยู่ซักพัก ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับขึ้นหอ

“อ้าว... ทำไมไม่ชวนเพื่อนกินข้าวด้วยกันหล่ะ”

“โชกุนเขาง่วงนอนนะ” ผมพูด แล้วเราทั้งสองก็กินข้าวกัน

“จำวันที่เกมลงมากินข้าวกับเพื่อนคนนั้นได้เปล่า ตอนแรกเต๊บคิดว่าเกมเป็นแฟนกับคนๆ นั้นซะอีก เล่นหยอกล้อกันซะสนุก”

“รูมเมทนะ”

“อืมมม... แล้วตอนนี้เกมมีแฟนยัง”

“ไม่อะ ยังเหนื่อยอยู่ ยังไม่อยากคิดอะไร”

“เกมยังคิดถึงกุ๊นอยู่ใช่เปล่า”

“ก็ไม่เชิงนะ เต๊บอย่าลืมสิ เกมกับกุ๊นเป็นเพื่อนกันตั้ง 10 ปี ความสัมพันธ์มันแนบแน่นจนแทบจะตัดไม่ขาด ถ้าจะลืมเรื่องต่างๆ คงต้องใช้เวลานาน”

“เกมก็ลองเปิดใจรับใครซักคนมาดูแลสิ เผื่อจะลืมกุ๊นได้”

“ใครหล่ะจะมาสนใจเรา”

“เราไง...” ผมได้แต่มองหน้าเต๊บด้วยความสงสัย ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้ากำลังสารภาพรักกับผมงั้นเหรอ เฮ้อ.... อย่าเพิ่งเลย เรายังเข็ดกับเรื่องกุ๊นไม่หาย รอก่อนนะ......

..........

เอ้า... ดูสิ ตานี้จะเชียร์ใคร 55+
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 08-10-2007 01:02:24
หุหุ
มาจิ้มพี่เต้คนแรก  :laugh: :laugh:
จารอตอนต่อไปนางับตะเอง  :give2:

ชะอุ้ย... อย่าจิ้มแรงสิครับพี่ไม่เคย  :m14:


         อีกแหละ อ้ายเต้มานหลอกให้กรูค้างอีกแหละ   ต้องจิ้นต่อเองอยู่เรื่อย  :undecided: o9 o12

        ร อ ก๊ า น ต่ อ ไ ป นะ น า ย เ ต้    :o11: :m21: :m23:

                                    
      CargO CargO (ปกติพูดเพราะ แต่กรุณาพูดตามดังให้ได้ความรู้สึกคนอ่าน ฮิอิ  :laugh: :m11: :m23:)
        
        PS พูดมะเพาะรับได้ปะ

พูดไม่เพราะ เด๋วจับตีก้นให้ลายเลยนิ (แต่รับได้ครับ) มาลงให้แล้วนะครับ ไม่ค้างแล้วนะครับ อิอิ

เป็นเเต๊บจริงๆด้วย :m20:

อ๊ะ... แหม ทายถูกหละถูกใจเชียว ต่อไปทายให้ถูกแล้วกันว่าเกมจะเลือกใคร หึหึ

ไว้คุยกันใหม่นะครับ บายๆ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 08-10-2007 01:22:02
มาช่วยดันนน
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 08-10-2007 01:39:05
 :m4: :m4: :m4:

ป๋มเชียร์โชกุนด้ายป้ะ
เอ๊ะ รึว่าจะ เต๊บ ดีนะ
ไม่เปนไร ๆ ควบสองเรยละกัน  :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 01:46:23
         ผู้ชาย 1 คน กับทางสามแพร่ง แล้วใครจะไปรู้ละว่าทางไหนมันตัน ทางไหนมันขรุขระ
      
         ทางไหนมันอ้างหว้าง ใครจะชี้นำเราได้  เราทำได้ก็แค่ทำตามที่หัวใจมันเลือกมันเชื่อว่า
      
        ทางนี้มันคงสบายและราบรื่น ทำให้เรามีความสุขได้  แม้เราจะพลาดมานั่งเสียใจก็ตาม

        มันก็เป็นสิ่งที่เราเลือกถึงแม้ว่า เราจะไม่อยากได้มัน (แอบปรัชญาซะง๊าน)

        เออ เจ้าของกระทู้ ชื่ออะรายนะ  ช่วยนำทางให้หน่อยดิ  กำลังหลงอยู่  :o11: :o11:

                                                               Cargo cargO  (นอนได้แล้วอ้าย ปอ :a6:)                            
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 08-10-2007 02:08:25
 :m11:จะกลายเป็นมะรุ่มมะตุ้มรุมรักนายเกมรึป่าว??


ขอยกมือเชียร์ :a1:เต๊บให้พิชิตใจเกมได้แล้วกันน๊า 

ชอบอ่ะให้อีก +1แล้วกันเนอะ :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-10-2007 04:02:39
เชียร์ใครดีหว่า  :m21: :m21:  รอลุ้นต่อดีกว่า
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 08-10-2007 05:39:28
เรื่องราวกำลังน่าติดตามครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: icezanesta ที่ 08-10-2007 11:05:35
มาช่วยดันคับ   o1

อยากรุจัง   :m28:  ว่าเกมจะเลือกใคร

ยังไงก็มาต่อเร็ว ๆ นะค้าบ   :m18:
 
อ่อ   อย่าหักโหมทำงานมากนะ  เด๋วไม่สบาย

 :m22:  แวบมาดูแล้วก็ย่องไป   :m7:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ++FutOi++ ที่ 08-10-2007 11:27:30
เอา 2 คนเลย
ชอบทั้งคู่เลยยยยยยยยยย
3 คนชู้ชื่นไปเลยก็ดีค่ะ  :m3:
อิอิ

สนุกมากกก  :m11:
อ่านรวดเดียวจบเลยยยยยยยยยย

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-10-2007 13:15:02
เหวอ เต๊บสารภาพรักแล้ว
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

แต่เสียจูบให้โชกุนแล้วด้วยสิ
จะเลือกใครดีหนอ
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ปล.ทำไมเต้เสน่ห์แรงงี้อ่ะ โดยเฉพาะกับพวกเดียวกัน
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 08-10-2007 13:50:06
ไม่ใช่จีบกันไปจีบกันมาเเห้วทั้งคู่นา ดูจากชื่อเรื่องเเล้วมันสังหรไงชอบกล หึๆ :m26:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 08-10-2007 16:15:03
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๐Robin๐๐ ที่ 08-10-2007 19:49:27
ว้ายยยยยยยย กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด เชียคายดีน้ออออ ควบ 2 ก้อดีนะคับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 08-10-2007 21:22:36

      เขา done มา เราก็ done ไป เห้อ...    o16 o16 o16

                                                          เต้ (CargO CargO อ้าวนึกว่าคนเดียวกัน :try2:)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 09-10-2007 02:12:56

เข้ามารอตอนต่อไปอ่ะ :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (หนึ่งตอน 8 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 09-10-2007 17:33:19

      พี่เต้ตตตตตตตตตตตตตต          กลับมาเร็วนะ คิดถึงมาก ๆ อะ :m8: :o8: :m25:

      ไม่เจอซักนาที เหมือน 10 ชาติเลย (เว่อป่าววะ)   :m28: :m23:

      หัวใจมันทำได้แค่รอร้อรอ                 cargo 
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (ใหม่ 9 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 09-10-2007 22:10:00
มาช่วยดันคับ   o1

อยากรุจัง   :m28:  ว่าเกมจะเลือกใคร

ยังไงก็มาต่อเร็ว ๆ นะค้าบ   :m18:
 
อ่อ   อย่าหักโหมทำงานมากนะ  เด๋วไม่สบาย

 :m22:  แวบมาดูแล้วก็ย่องไป   :m7:

อยากรู้ก็ติดตามละกันนะครับผม พี่ขอบคุณมากๆ ครับที่เป็นห่วงเรื่องงานพี่เต้นะครับ

เอา 2 คนเลย
ชอบทั้งคู่เลยยยยยยยยยย
3 คนชู้ชื่นไปเลยก็ดีค่ะ  :m3:
อิอิ

สนุกมากกก  :m11:
อ่านรวดเดียวจบเลยยยยยยยยยย

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ


ชะอุ้ย... พอดีไม่ชอบกินแซนวิชอะครับ  :laugh:

เหวอ เต๊บสารภาพรักแล้ว
 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:

แต่เสียจูบให้โชกุนแล้วด้วยสิ
จะเลือกใครดีหนอ
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

ปล.ทำไมเต้เสน่ห์แรงงี้อ่ะ โดยเฉพาะกับพวกเดียวกัน
 :m20: :m20: :m20:

อุ้ย... ผมว่า ผมมีสเน่ห์กับพวกที่ชอบของแปลกมากกว่านะครับ แฮ่ๆ :m14:

ไม่ใช่จีบกันไปจีบกันมาเเห้วทั้งคู่นา ดูจากชื่อเรื่องเเล้วมันสังหรไงชอบกล หึๆ :m26:

อือ... ผมก็ว่างั้นแหละครับ งั้น...... เขียนให้ชวดทั้งสองคนดีไหมครับ อิอิ

ว้ายยยยยยยย กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด เชียคายดีน้ออออ ควบ 2 ก้อดีนะคับ  :laugh:

ผมก็ว่าอย่าสงนั้นแหละครับ เห็นด้วยๆๆๆ (นายวันทอง 555+)


      เขา done มา เราก็ done ไป เห้อ...    o16 o16 o16

                                                          เต้ (CargO CargO อ้าวนึกว่าคนเดียวกัน :try2:)

ผมก็เพิ่งรู้นะครับว่าเรา... เป็นคนคนเดียวกันแล้ว เมื่อไหร่เหรอครับ?  :m28:


      พี่เต้ตตตตตตตตตตตตตต          กลับมาเร็วนะ คิดถึงมาก ๆ อะ :m8: :o8: :m25:

      ไม่เจอซักนาที เหมือน 10 ชาติเลย (เว่อป่าววะ)   :m28: :m23:

      หัวใจมันทำได้แค่รอร้อรอ                 cargo 

 :o8: (บ่มีอีหยังเว่าครับ)

:m4: :m4: :m4:

ป๋มเชียร์โชกุนด้ายป้ะ
เอ๊ะ รึว่าจะ เต๊บ ดีนะ
ไม่เปนไร ๆ ควบสองเรยละกัน  :m3: :m3:


เชียร์ใครก็ได้ครับ น้องพลับขอสองครับ  :m14:

         ผู้ชาย 1 คน กับทางสามแพร่ง แล้วใครจะไปรู้ละว่าทางไหนมันตัน ทางไหนมันขรุขระ
       
         ทางไหนมันอ้างหว้าง ใครจะชี้นำเราได้  เราทำได้ก็แค่ทำตามที่หัวใจมันเลือกมันเชื่อว่า
     
        ทางนี้มันคงสบายและราบรื่น ทำให้เรามีความสุขได้  แม้เราจะพลาดมานั่งเสียใจก็ตาม

        มันก็เป็นสิ่งที่เราเลือกถึงแม้ว่า เราจะไม่อยากได้มัน (แอบปรัชญาซะง๊าน)

        เออ เจ้าของกระทู้ ชื่ออะรายนะ  ช่วยนำทางให้หน่อยดิ  กำลังหลงอยู่  :o11: :o11:

                                                               Cargo cargO  (นอนได้แล้วอ้าย ปอ :a6:)                             

สาธู้......................  o2



ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจนะครับ

กระผม น้องพลับของฉอง เอ๊ยยยยย ไม่ช่ายยยยย นายเต้ขี้เหร่ต่างหากหละครับ  :m23:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (ใหม่ 9 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 09-10-2007 22:15:11
บทที่ 15 Winter season

..........

ผ่านวันลอยกระทงมาเกือบเดือนแล้ว นี่ก็ใกล้ปีใหม่เข้ามาทุกที เต๊บเข้ามาอยู่ข้างๆ ผมมากขึ้น แต่ผมยังไม่ได้ตอบรับให้เต๊บมาเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อน ผมยังคงเหนื่อยกับเรื่องพวกนี้อยู่ ขอแค่เป็นเพื่อนก่อนแล้วกัน เต๊บเขาก็เข้าใจ เราจึงอยู่ในฐานะเพื่อนกันเท่านั้นเอง...

“โชกุน... ตื่นได้แล้ววววว นี่สายแล้วนะ” เช้าตรู่ที่อากาศสดใสในเหมันต์ฤดูที่หนาวเหน็บ ผมก็ยังคงเป็นนาฬิกาปลุกให้เมทคนนี้อยู่ไม่เปลี่ยน เมทผมก็ยังคงตื่นยาก ไม่มีเปลี่ยนเช่นกัน...

“ขอ 10 นาที นะเกมมมมม”

“ไม่เอา เดี๋ยวไปเรียนสายจะมาว่าเราไม่ปลุกนะ... ตื่น!!!!!”

“คร้าบบบบบ แม่...” มันประชดผมด้วยการเรียกผมว่าแม่ (ทูนหัวได้เปล่า อิอิ) แล้วก็ลุกขึ้นงัวเงียเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมก็... นอนต่อดิครับ จะลุกทำไมหล่ะ ก็วันนี้มีเรียนบ่ายนี่หน่า หุหุ...

“อ่า... เกม อย่ามานอนให้เราเห็นดิ เดี๋ยวเราก็อยากกลับไปนอนต่ออีกหรอก” อ่าว... ไอ้นี่ ซวยกูอีก

“โชกุน... นายให้เราปลุกนายเองนะ แถมนาฬิกาปลุกนาย เสียงดังปวดหูจะตาย และนี่เพิ่งตี 5 เอง จะให้เรารีบตื่นไปไหน นายต้องไปทัศนศึกษาไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวไปไม่ทันไม่รู้ด้วยนะ”

“ครับๆๆๆๆๆๆ” มันพูดแล้วก็เดินไปล้างหน้าแปรงฟัน บ่นพึมพัมคงเดียว แล้วก็แต่งตัว ส่วนผมก็กำลังเข้าเฝ้าพระอินทร์อีกครั้งครับ อิอิ...

“เกม...” อะไรอีกว่ะไอ้นี่ กรูจะนอน....

“ไปนะ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” ว่าแล้วมันก็ก้มลงมาหอมแก้มผม... เฉยเลยอะ ไอ้นี่ เล่นทีเผลอ แน่จริงบอกก่อนดิ (เหอๆ)

“...” ผมไม่ทันจะด่ามัน มันก็วิ่งออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว ไอ้ลิงเอ๊ย...

“ไปนะ...” มันโผล่หน้าเข้ามาอีก ผมตกใจจนสะดุ้งเลยครับ ก็คิดว่ามันไปแล้วนี่

“เออ... ปิดประตูให้ด้วย” ผมพูดแล้วก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง...

พักนี้นายโชกุนทำตัวแปลกๆ เวลาที่มันอยู่ในห้องมันมักจะร้องเพลงรักๆ ให้ผมฟัง บางครั้งก็จับกีตาร์ขึ้นมาดีด และก็ร้องเพลง ซะงั้น ปกติมันก็ทำอยู่หรอก แต่มันจะร้องพวก พาราดอกซ์เอย ซิลลี่ฟูลเอย ประเภทร็อกหนักๆ นะครับ แต่มาช่วงนี้ ผมมักจะได้ยินมันร้องเพลงของ นพ พรชำนิ, บอย โกศยพงษ์ อะไรประมาณนี้ หรือว่า.... มันจะมีความรักหว่า... แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจมากกว่าเดิม ก็ไอ้พฤติกรรมห่ามๆ ที่มันทำนี่แหล่ะ อย่างเช่น ผมเป็นคนที่นอนเร็ว ส่วนมันจะนอนดึกๆ และมักเปิดประตูห้องเพื่อให้อากาศถ่ายเท และข้างนอกมักจะมีพวกคุณๆ สาวกล้ามโตร้องตะโกน แหกปากหาผู้ชายมาสังเวย นายโชกุนก็จะเดินออกไปยืนหน้าห้อง แล้วก็พูดว่า...

“อีกะเ_ย เลิกแหกตู_ ร้องหาส_มีได้แล้ว เด็กกูกำลังนอน รำคาญโว้ย”

พอสิ้นเสียงนายโชกุน ก็มักจะมีเสียงตอบกลับจากเหล่าสาวกล้ามกลับมาว่า

“เพค้า... ” แล้วทุกอย่างก็เงียบลง ผมก็หลับตาลงอย่างสบายใจ... ฉะนี้แล... (ผมหล่ะกลัวซักวันจะโดนเหล่าแม่สาวกล้ามโตพวกนี้ดักตบจริงๆ)

เหอๆ ไอ้พฤติกรรมห่ามๆ ของนายโชกุนมีอีกเยอะ แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจมากที่สุด ก็ไอ้ที่มันเล่นทีเผลอนี่แหละ (หอมแก้ม) หรือเวลาที่ผมเขียนบันทึกอยู่เงียบๆ อยู่ที่โต๊ะตัวเอง และโชกุนนั่งทำงานตัวเองอยู่ที่โต๊ะของมัน บางครั้งมันก็จะเดินมายืนข้างหลังผมเงียบๆ เอาหน้ามาชะโงกดูผมเขียนบันทึก แล้วเรียกให้ผมหันกลับไปดูมัน แน่นอนครับ จมูกผมวางพอดีเป๊ะที่แก้มมัน มันก็จะยิ้มและพูดขึ้นว่า...

“ฮั่นแน่... แอบหอมแก้มเขาดั๊วะ” แล้วมันก็หัวเราะและเดินกลับไปนั่งโต๊ะทำงานของมัน ไอ้ผมเหรอครับ นั่งหน้าแดงเป็นตูดลิงอยู่ที่โต๊ะตัวเองเหมือนเดิม พูดไม่ออกครับ ไม่รู้มันหมายความว่าไง... (คิดดิเกม คิดๆๆๆ)

หลังจากโชกุนออกไปผมก็นอนต่ออย่างมีความสุข จนเวลา 9 โมงเช้าก็มีคนมาเคาะประตูห้องผม โอยๆๆๆๆ ยังไม่อยากตื่นเลย ใครมันช่างบังอาจมาเคาะว่ะ...

“ใครว่ะ...” ผมพูดและงัวเงียลุกขึ้นไปเปิดประตู

“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”

“โอย.... เรียนตอนบ่ายนู่นแน่ะ จะรีบไปไหน” ผมพูดกับแขกที่มาเยือน โก๋นั่นเองครับ ผมเดินกลับไปนอน โดยที่โก๋เดินมานั่งปลายเตียงผม...

“นั่งตรงนั้นอย่าอำกันนะ”

“อะนะ... เราไม่ใช่ผีซักหน่อย... ว่าแต่... ตื่นได้แล้ว นี่ 9 โมงแล้ว เข้าเมืองไปซื้อเครื่องเขียนเป็นเพื่อนหน่อยนะ”

“โอย.... ไปซื้อที่ศูนย์หนังสือก็ได้นี่ จะถ่อเข้าไปทำไม” ผมปฏิเสธมันทันทีครับ ไอ้ผมมันขี้เกียจนี่หน่า หน้าหนาวแบบนี้อยากนอนตื่นสายๆ หน่อย แถมยังมีเรียนบ่ายอีกด้วย จะมากวนทำไมเนี่ยะ

“นะๆๆๆๆ เราอยากไปซื้อในเมืองอะ มันถึงมีของที่เราอยากได้ นะๆๆ”

“เออๆๆๆ” ผมตาสว่างแล้วครับ ถึงตาไม่สว่าง ผมก็คงนอนฟังมันบ่นๆๆๆๆๆ แน่ ไม่รู้กูไปทำกรรมอะไรกับใครไว้ ถึงได้เจอแต่พวกพิลึกๆ แบบนี้ฟ่ะ

ผมใช้เวลาในการอาบน้ำไม่ถึง 5 นาทีครับ ทำไงได้หล่ะ ก็นำมันเย็นซะขนาดนั้นอะ...

“ไหงอาบเร็วขนาดนั้นอะ วิ่งผ่านน้ำรึเปล่าเนี่ยะ”

“ช่างเหอะ เราไม่เหม็นหรอก ไม่เชื่อดมดูดิ” ผมพูดไปงั้นแหล่ะ แต่ที่ไหนได้ มันเดินเข้ามาดมผมจริงๆ อะครับ ตรงซอกคอพอดี ขนผมลุกทั่วทั้งตัวเลยครับ (เสียวสันหลังวาบ)...

“เย้ยยยย... เอาจริงดิ ไอ้นี่ ลามปาม”

“555+ อย่าท้านะเว้ย รีบๆ แต่งตัวได้แล้ว หนาวไม่ใช่เหรอ” มันพูดเสร็จผมก็หันหน้าเข้าตู้เสื้อผ้า ชักหวั่นๆ แล้วดิครับ ไอ้ผมมันความรู้สึกไวซะด้วย (อย่าคิดลามกนา) ก็ผมรู้สึกว่ามีสายตาจ้องมองผมทางข้างหลัง มีอยู่ 2 คน จะใครซะอีกหล่ะครับ ว่าแล้วก็เสียวๆ สันหลังยังไงไม่รู้ครับ เหอๆ

“นายนี่ขาวจังเลยนะเกม”

“อืม... ขอบใจ” ผมพูด แต่ก็ไม่ได้หันกลับมามองมัน (อย่าหันหลังให้มันดิเกม หันหน้าสู้เลย 55+)

“เทียบกับเราแล้ว คนหล่ะสีเลย” พอมันพูดเสร็จผมหัวเราะเลยครับ

“55+ โทดทีที่ขาวนะ หุหุ” ผมได้ทีประชดมันเลยครับ ใครใช้ให้มันดำกว่าผมหล่ะ ช่วยไม่ได้ เหอๆ แต่ก่อนที่จะโดนสายตาแทะไปมากกว่านี้ กระผมต้องปกป้องอิสรภาพของตัวเองไว้ก่อน เลยถือเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ แต่งตัวในห้องน้ำนี่แหล่ะ

“ให้ตายสิ ตอนที่โชกุนอยู่ เราไม่ยักกะรู้สึกเหมือนมีใครมองเราขนาดนี้เลย” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ในห้องน้ำขณะแต่งตัวอยู่...

“เสร็จยัง รอนานแล้วนะ อาบน้ำแป๊บเดียว แต่งตัวซะนานนะ”

“คร้าบบบบ เสร็จหลายรอบแล้วครับ”

“เสร็จอะไรหล่ะครับ”

“...” ขี้เกียจพูดกับมันแล้ว แต่งตัวเสร็จแล้วนี่ ไปเลยดีกว่า

“นายออกค่ารถให้เรานะ โทษฐานปลุกเราแต่เช้า”

“อะนะ” มันบ่นไปงั้นแหล่ะครับ สุดท้ายก็มันนั่นแหล่ะจ่าย ให้มันรู้ว่าร่างกายผมที่มันมองก็มีราคา (หรือเปล่าหว่า....)
กว่าจะซื้อของเสร็จมันพาผมเดินไปนู่นมานี่ที ชักเหนื่อยแล้วครับ ไอ้นี่ ผมไม่น่าหลงมากับมันเลย ให้ตายสิ...

“เหนื่อยแล้วเหรอเกม... ก็ได้ๆ งั้นเรากลับกัน” แล้วมันก็พาผมขึ้นสองแถวกลับเข้า ม. เวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว จะมีเวลากินข้าวไหมเนี่ยะ...

“แหม... ไปออกเดทกันมาก็ไม่บอก” โตโต้เริ่มแซวผมแล้ว

“เดท เดิทที่ไหน พูดบ้าๆ”

“จ้า......” ก่อนที่มันจะพูดไปมากกว่านี้ ผมก็เดินเข้าห้องเรียนไปทันทีครับ ขี้เกียจฟังมันพูด

“นี่... พวกเธอ ปีใหม่นี่จะพากันไปไหนดีจ๊ะ” โตโต้พูดขึ้นหลังจากเรียนเสร็จ ขณะที่เรากำลังเดินไปยังโรงอาหาร

“เราว่าจะกลับบ้าน” ยุพูดขึ้น ทุกคนก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน คือจะกลับบ้าน

“แล้วเกมหล่ะ กลับมั้ย เราจะได้มีเพื่อนกลับด้วย”

“ไม่รู้เหมือนกัน เรา... ไม่อยากกลับนะ” ผมพูดไป ยุอยู่จังหวัดเดียวกันกับผม เพียงแต่อยู่คนละอำเภอเท่านั้น ผมไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่อยากกลับไปเจอหน้า... อีก เฮ้อ.... กลุ้มใจ

“ทำหน้ากลุ้มใจอีกแล้วนะเกม” แอร์พูดขึ้นบ้าง ทุกครั้งที่ผมทำหน้ากลุ้มใจ ก็ได้สาวสวยคนนี้และพูดทักผมตลอด

“เปล่าๆ เราเพียงแค่คิดว่า จะกินอะไรดี แฮ่ๆ” แล้วพวกเราทั้ง 5 ก็เดินเข้าโรงอาหารไป หลังจากนั้นก็พากันกินข้าว ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นห้องใคร ห้องมัน...

“ทำไมเวลาพูดถึงบ้าน นายมักจะมีสีหน้าไม่ค่อยดีทุกทีหล่ะเกม”

“ไม่มีอะไรนี่ แค่คิดอะไรเล่นๆ เท่านั้น” ผมตอบคำถามของโก๋ ที่ถูกถามระหว่างการเดินขึ้นหอ ผมไม่รู้จะตอบมันยังงัยดี จะให้บอกว่า -ผมมีความหลังอันแสนเจ็บปวดรวดร้าว- งั้นเหรอ เหอๆ ผมเดินเข้าห้องตัวเองที่แค่เลี้ยวก็ถึงแล้ว แต่โก๋ต้องเดินไปอีกกว่า 10 ห้องถึงจะถึง ผมเข้ามาในห้องแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง

“ทุกครั้งที่พูดถึงบ้าน เรามักมีสีหน้าไม่ค่อยดี... งั้นเหรอ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ

“เฮ้อ.... ลืมๆ ซักทีเถอะเกม มันผ่านไปตั้งนานแล้ว...” ว่าแล้วก็อาบน้ำดีกว่า แม้จะหน้าหนาว แต่เมื่อเช้าอาบน้ำแป๊บเดียวเอง รู้สึกมีกลิ่นตุๆ แล้ว (เน่าแล้ว เหอๆ)...

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ได้เวลาที่ผมจะจัดการกับความรกรุงรังของห้องนี้แล้วสินะ เฮ้อ รกเป็นบ้า ส่วนใหญ่ก็มีแต่ของนายโชกุนทั้งนั้น ส่วนของผมก็รกเฉพาะในส่วนของตัวเองเท่านั้น กว่าจะเสร็จ เล่นเอาเหนื่อยครับ เสร็จจากปัดกวาดห้องแล้ว ก็ถึงคิวเสื้อผ้า ยังไม่ซักหรอกครับ แช่ไว้ก่อน (พ่อสอนไว้ 55+) แล้วค่อยซักตอนดึกๆ ดีกว่า จะได้บรรยากาศอันแสนเหน็บหนาว (สุดท้ายก็ต้องแช่ไว้จนวันรุ่งขึ้นค่อยซัก ก็ลมหนาวมันพัดผ่านมาซะไม่อยากแตะน้ำเลยนี่หน่า)...

“ว้าว.... Home sweet Home สะอาดขึ้นเป็นกองเลยแฮะ เมทเราน่ารักจริงๆ” นายโชกุนพูดขึ้นทันทีที่เดินเข้าห้อง

“อย่างนี้ต้องมีรางวัล หึหึ...” ไอ้นี่ชักน่ากลัวขึ้นทุกวันแฮะ

“แต่น แตน แต๊น...... นี่ครับของฝาก” ว่าแล้วมันก็ยื่นถุงกระดาษให้ผมถุงหนึ่ง แต่ข้างในบรรจุสิ่งของมากมาย ทั้งผ้าพันคอ ขนม (มันยัดใส่ด้วยกันครับ) และอะไรต่อมิอะไรมากมาย...

“ขอบคุณครับ”

“แค่ขอบคุณเองเหรอ”

“จะเอาอะไรอีกเล่า” ผมพูด แต่สายตายังคนมองที่ขนมมากกว่า

“ก็... แบบที่เราทำเมื่อเช้าไง”

“ทะลึ่งๆ เดี๋ยวเหอะ”

“แหะๆ” แล้วมันก็เดินเข้าห้องน้ำ แค่ล้างหน้าครับ มันไม่ยอมอาบน้ำ ซกมกมากๆไอ้นี่

“ก็มันหนาวอะ เอาไว้อาบทีเดียวพรุ่งนี้ดีกว่า...” แล้วมันก็นั่งทำงานตัวเองต่อไป ส่วนผมนะเหรอครับ ขอไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวถ้าได้เลขเด็ดๆ จะมาบอกน่ะ หุหุ.......

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (ใหม่ 9 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 09-10-2007 22:28:25
น่ารักสดใสวัยรุ่นจริงๆ :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (ใหม่ 9 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 09-10-2007 22:34:36

       เอ้ย เต้  งัย มะ มี ของ ฝาก  ซะ ง๊าน  มา ตัว เปล่า เด๋ว โดน ลง โทษ ให้ มา วิ่ง ใน หัวใจ ซะ

        เ ห้าย ตาย คา อก ซะ   (โหดไปอะป่าว ว่า  ทำม่ะลงแน่ ๆ) :undecided: :o11: o12

=================================================================

          ดีนะ ที่แอบเห็นว่าเต้ โพสแล้ว      แต่ยังอยากลงโทษ อยู่ดี   จะแสกให้เต้เป็นเกม  ก๋าผมเป็น โชกุน

          จะได้แอบหอมแก้ม ซะ   :m14: :m11: :m11: 
 
         แต่เอ้ เกมมานจะเลือกใคร (เบื่อจิง multiple choice  ขอ only one best answer ได้ปะ )  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

                                                                   Cargo CargO (<-- อ้ายนี่มันไม่ทำมาหากินหรืวะ)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 10-10-2007 05:01:00
บทที่ 16 คนแรกของหัวใจ (ได้หรือยัง)

..........

มีคนบอกไว้ว่า “ฤดูหนาวเป็นฤดูกาลของคนรัก” ผมก็เห็นด้วยนะ ดูจากแถวๆ บ้านผม มักจะมีคู่แต่งงานหลายคู่ที่แต่งงานกันในฤดูหนาว แต่มันจะเป็น “ฤดูแห่งความรัก” หรือเปล่านี่สิ ผมชักไม่แน่ใจซะแล้ว เพราะรักแรกของผมก็จบลงในฤดูนี่นะสิครับ...

“ตื่นเช้าจังเกม...” เสียงยานคางของนายโชกุนที่พูดขึ้นขณะที่ตัวมันเองยังคงนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ตอนนี้ก็เกือบจะ 7 โมงเช้าแล้วนี่นะ

“อือ... เราจะไปตักบาตรที่วัดนะ นายนอนต่อเถอะ”

“อือ...” แล้วผมก็เดินลงจากห้องมารอคนที่จะพาผมไปตักบาตรที่วัดป่า ข้างๆ มหาวิทยาลัย ใกล้จะ 7 โมงแล้ว พระคงใกล้กลับจากบิณฑบาตแล้วมั้ง

“รอนานมั้ยครับ”

“ไม่นาน เพิ่งลงมานี่แหล่ะ” ผมพูดตอบไป เต๊บคุยกับผมว่าจะชวนผมไปตักบาตรที่วัดแห่งนี้หลายครั้ง แต่ติดตรงที่ผมขี้เกียจตื่น พอดีวันนี้วันหยุดก็เลยตอบตกลงเต๊บไป

เต๊บขับมอเตอร์ไซค์ไปจนถึงวัด ที่จริงวัดแห่งนี้อยู่ติดกับมหาลัย ถ้าจะเดินก็แป๊บเดียว แต่นี่มันใกล้จะ 7 โมงแล้ว เต๊บก็เลยชวนนั่งมอเตอร์ไซค์จะเร็วกว่า...

“ถึงแล้ว...” ผมและเต๊บช่วยกันนำกับข้าวไปจัดเตรียมกับพวกนิสิตที่มาทำบุญทุกๆ วัน พอจัดเสร็จก็พากันยกสำรับไปถวายพระภิกษุที่ประจำวัดนี้ ผมและเต๊บนั่งฟังเทศน์จนจบ มีกรวดน้ำด้วย พอพระท่านเริ่มฉัน ก็พากันเอาอาหารที่เหลือมาร่วมวงรับประทานกัน ผมและเต๊บขอตัว แต่ก็ขอขนมนิดๆ หน่อยๆ ไปฝากเมทผมหน่อยดีกว่า เหอๆ...

“วัดนี่ร่มรื่นดีจังนะ” ผมพูดขณะเดินดูบริเวณโดยรอบวัดกับเต๊บ

“อื้อ... เทอมที่แล้วเต๊บก็มานั่งสมาธิกับชมรมพุทธศาสนา บรรยากาศตอนกลางคืนนี่วังเวงมากๆ”

“เหรอ... เหอๆ เกมขอบายนะ ไม่ไหว ให้นั่งนะนั่งได้ แต่ต้องไม่ใช่ในวัดนะ”

“เกมกลัวผีนี่หน่า...”

“ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะ”

“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกม... เต๊บจำได้หมดแหล่ะครับ”

“...” ผมไม่รู้จะพูดอะไร ก็มันเล่นจีบซึ่งๆ หน้าแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ไม่ถือสามันหรอก ผมหล่ะสงสารมันมากกว่า ก็เล่นจีบผมตั้งแต่ลอยกระทงแล้ว ผมยังไม่ใจอ่อนเลย คงเพราะผมยังรัก.... มั้ง

“เกมว่าเรากลับกันดีกว่านะ”

“ครับ” แล้วผมกับเต๊บก็พากันออกจากวัดไป 8 โมงกว่าแล้วนิ

“เดี๋ยว 10 โมงมารับไปกินข้าวนะครับ”

“อืม... ได้” ผมพูดแล้วก็เดินขึ้นหอไป

‘ทำไมเราไม่รับรักเต๊บนะ’ ผมคิดระหว่างที่เดินขึ้นหอไป คำตอบที่ได้มันก็อยู่ในใจผมแล้ว อาจเพราะผมยังเข็ดเรื่องนี้อยู่ หรือไม่อาจจะเพราะ...

“เรายังรักกุ๊นอยู่...” ไม่ว่าเมื่อไหร่ กุ๊นก็ยังคงเป็นคนที่ผมลืมไม่ลงอยู่ดี

‘งั้นก็ไม่ต้องลืมสิ’ เสียงหนึ่งในสมองผมดังขึ้น

“ทำไมหล่ะ” ผมตั้งคำถามกับตัวเอง

‘เก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่ดี เก็บมันไว้เพื่อคอยเตือนตัวเองไม่ให้ถลำลึกกับเรื่องนี้ไง’ ในที่สุดผมก็ได้คำตอบของหัวใจจนได้

“ใช่ ไม่ต้องลืม เก็บไว้เตือนตัวเองดีกว่า” ผมเดินบ่นพึมพำกับตัวเองจนลืมดูว่าเดินถึงไหนแล้ว ตาย... ชั้น 5 เหอๆ... ผมต้องรีบเดินลงจากชั้น 5 ซะงั้น จะบ้าตาย เดินคิดซะเพลิน เฮ้อ...

“กลับมาแล้ว...” ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง นายโชกุนยังนอนอยู่ ผมก็ไม่ได้ปลุกมันหรอกครับ นานๆ มันจะได้พักผ่อนบ้าง ปล่อยมันนอนดีกว่า...

“กลับมาแล้วเหรอ...” มันงัวเงียลุกขึ้นนั่ง ดูเหมือนหน้ามันจะซีดๆ นะ

“เป็นอะไรหรือเปล่าโชกุน... ไมตัวร้อนอย่างนี้หน่ะ” ผมยื่นมือไปแตะหน้าผากมันตัวมันร้อนจี๋เลยครับ สงสัยมันจะเป็นไข้ซะแล้ว อากาศเปลี่ยนแปลงก็งี้ แถมมันไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเท่าไหร่

“เดี๋ยวเราไปขอยาพี่หอให้นะ รอแป๊บ” ผมเดินลงไปขอยากับพี่หอมาให้มันกิน ที่จริงผมมักจะซื้อยาพาราติดห้องไว้ พอดีมันหมดในวันนี้ซะด้วย เฮ้อ...

“อ๊ะ... กินแล้วก็นอนซะ เดี๋ยวเราไปซื้อโจ๊กมาให้” ก่อนที่ผมจะลงไปซื้อโจ๊กให้มัน ผมก็ต้องเช็ดตัวให้มันก่อน ตัวมันร้อนจี๋ขนาดนั้น ถ้าไม่เช็ดให้มันเย็นลง มีหวังมันช็อคแน่....

หลังจากที่ซื้อโจ๊กมาให้มันกิน และให้มันนอนพักผ่อนต่อ มันหลับสนิทแล้ว มีเสียงกรนเบาๆ ด้วย สงสัยจะเพราะทั้งฤทธิ์ยาและฤทธิ์ไข้มั้ง ก่อนจะเช็ดตัวให้มันอีกรอบเพื่อให้ไข้ลดลง พอทำเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปรอเต๊บมารับไปทานข้าว....

“เกมจะทานอะไร เดี๋ยวเราไปสั่ง”

“อะไรก็ได้เต๊บ” ผมพูดพลางมองออกไปยังลานกว้างหน้าโรงอาหาร

“นั่งเหม่อรอใครครับ”

“พี่เอก… รอเพื่อนอยู่ครับ เขากำลังไปสั่งข้าวให้” ผมพูดกับพี่เอก ก่อนที่พี่เอกจะนั่งลง พี่เอกคนนี้เป็นพี่รหัสปี 3 ของผม หน้าตาจัดว่าดี สูงกว่าผมพอควร ผมกับพี่เอกไม่ค่อยสนิทกัน แม้จะเป็นสายรหัสเดียวกันก็ตาม อาจเพราะผมไม่ใช่คนกิจกรรมเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยสนิทกับรุ่นพี่เท่าไร

“เพื่อนจริงเหรอครับ”

“ก็เพื่อนจริงๆ ครับ พี่เอกคิดว่าเป็นใครหล่ะครับ”

“เปล่าครับ... งั้นเดี๋ยวพี่ไม่กวนหล่ะครับ ทานให้อร่อยนะครับ” พี่เอกพูดพลางลุกออกจากโต๊ะไป

“ใครเหรอเกม” เสียงเต๊บดังขึ้น พร้อมกับถือจานข้าวมาด้วย

“พี่รหัสนะ แกเข้ามาทัก ไม่รู้แกมาทำอะไรเหมือนกัน” ก่อนที่เต๊บมันจะถามมากไปกว่านี้ ผมก็รีบทานทันที...

“เกม... ปีใหม่นี้เกมจะกลับบ้านเปล่า”

“ไม่หล่ะ ขี้เกียจ มันไกลนะนั้งรถตั้งหลายชั่วโมง”

“อืม... ไม่กลับไปคุยกับ... เอ่อ.... กุ๊น ให้รู้เรื่องเหรอ”

“ไม่หล่ะ... ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว คุยอีกก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” ผมพูดพลางก้มกินข้าวต่อ

“...หยุดพูดถึงคนอื่นได้แล้ว นายอยากให้เรากลับไปคบกับกุ๊นอีกเหรอ”

“เปล่าๆ... ไม่พูดแล้ว กินข้าว...”

“แล้วเต๊บจะกลับบ้านหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นหลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย

“ถ้าเกมไม่กลับเราก็ไม่กลับ อยู่เป็นเพื่อนเกมดีกว่า”

“อะนะ จะเอาชีวิตตัวเองผูกติดกับคนอื่นทำไมเนี่ยะ”

“... เกมไม่รู้จริงๆ เหรอ…”

“...” มันเล่นถามแบบนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรสิครับ

“10 กว่าปีที่เราไม่ได้ติดต่อเกม เรายังคิดถึงเกมเสมอ คิดถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่ร่าเริงสดใสคนนั้นเสมอ ความรู้สึกเราไม่เคยลดลง มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรายังจำความรู้สึกตัวเองได้ดีว่าเรารู้สึกยังงัย ตอนที่เกมเดินเข้ามาทักเต๊บตอนเข้าประถมใหม่ๆ ความรู้สึกแรก เรารู้สึกว่าตื่นเต้นจังที่เด็กผู้ชายคนนี้เข้ามาทัก เพราะถ้าเกมไม่เข้ามาทำความรู้จักกับเต๊บ เต๊บก็ไม่รู้จะกล้าพอที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเกมหรือเปล่า... แค่นี้ เกมยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”

“เต๊บ... ขอเวลาเกมหน่อยแล้วกันนะ เราเริ่มจากคำว่าเพื่อน เราไม่อยากเสียเพื่อนดีๆ อย่างนายไป เราอยากให้เวลามันเป็นตัวพิสูจน์มากกว่า... เรารู้ว่านายรู้สึกยังงัยกับเรา ความรู้สึกของนายมันแรงจนคนรอบๆ ข้างเขารู้ แต่เรายังสับสนอยู่...”

“... เต๊บเป็นรักแรกของเรา แต่กุ๊นคือคนแรกของหัวใจเรา นายสองคนมีสิ่งที่เหมือนและแตกต่างกัน สิ่งที่เหมือนคือนายทั้งสองคือเพื่อนที่เรารักที่สุด ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันคือ ความผูกพัน ขอเวลาเราหน่อยแล้วกันนะ...”

“ได้เกม... เต๊บจะรอจนกว่าวันที่เกมพร้อมที่จะรักเต๊บ วันที่เกมลืมกุ๊นได้จริงๆ เต๊บจะรอ” เต๊บพูดแล้วก็มองหน้าผม เราสองคนนั่งอยู่ตรงนั้นจนเกือบเที่ยง ผมจึงขอตัวขึ้นไปทำการบ้านให้เสร็จ ส่วนเต๊บก็กลับหอของเขาเช่นกัน…

“เป็นไงโชกุน...” ผมถามอาการเมทของผมทันทีที่เข้ามาในห้อง นายโชกุนยังคงนอนอยู่บนเตียง

“อืม... ค่อยยังชั่วแล้วหล่ะ... ได้เมี... เอ่อ... เมทดีแบบนี้”

“ก็ดี ต่อไปก็รักษาสุขภาพหน่อยแล้วกัน พักผ่อนหน่อยก็ดี อย่าโหมทำงานให้มากนัก” ผมพูดพลางเอื้อมมือไปแตะหน้าผากมัน

“อือ... ตัวไม่ร้อนเท่าเมื่อเช้าแล้ว หิวมั้ยเดี๋ยวไปซื้อมาให้”

“อื้อ...”

“เอาอะไร”

“อะไรก็ได้” มันพูดเสร็จผมก็เดินลงไปโรงอาหารเพื่อซื้อโจ๊กมาให้มันกินหน่อย เฮ้อ.... เหนื่อยกับเมทจังว่ะ แต่ก็มีความสุขดี เหมือนอยู่กับเด็กน้อยยังงัยไม่รู้ 55+

“อิ่มแล้ว....” นายโชกุนพูดขึ้นหลังจากทานโจ๊กพร่องไปเกือบหมดถ้วย

“กินได้เยอะดีนี่ อะนี่ ยา” ผมพูดพลางยื่นยาและน้ำให้โชกุน

“ขอบใจนะเกม... ถ้าไม่ได้เกม เราแย่แน่ๆ”

“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน นายนอนพักผ่อนเถอะ” ผมพูดพลางผลักให้มันนอนแล้วเลื่อยผ้าห่มห่มให้มัน

“ขอบคุณครับ... แม่” ดูมัน ดูแลให้แล้วยังมาแซวกันอีก

“ไม่เป็นไรครับพ่อลูกชายหัวฟู” ผมเลยแซวมันคืนซะ เราทั้งสองหัวเราะด้วยกัน ก่อนที่ผมจะกลับไปนอนเล่นที่เตียงตัวเอง หยิบหนังสือมาอ่าน แล้วก็เผลอหลับจนได้...

‘เราชอบนาย’ เสียงแผ่วเบาเหมือนลอยมาตามลมมากกว่า ใครมาพูดบอกรักกันแถวนี้นะ แล้วทำไมมันมืดจังเลย มองไปทางไหนก็มืดไปหมด......

“...”

“ตื่นแล้วเหรอ” เป็นนายโชกุนที่มายืนจ้องหน้าผมอยู่ที่เตียง ดูทำท่าเลิ่กลั่กพิกล... นี่ผมหลับไปนานแค่ไหนเนี่ยะ

“ตอนนี้ 6 โมงเย็นนะ... เกมไม่สบายหรือเปล่า เหงื่อเต็มเลย”

“เปล่า... คงร้อนมั้ง เดี๋ยวเราอาบน้ำก่อนแล้วกัน” ผมพูดพลางลุกขึ้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

‘เสียงนั่น มันพูดเปล่าหว่า’ ผมคิดในใจระหว่างที่อาบน้ำถึงถ้อยคำที่ผมได้ยินเหมือนในฝันก่อนที่จะตื่น...

‘คงไม่ใช่หรอกมั้ง...’

“อาบนานจัง นึกว่าเป็นอะไรไปแล้ว... มาเดี๋ยวเช็ดหัวให้... ไม่ต้องเกรงใจ” ผมต้องยอมให้มันเช็ดผมให้ ขัดมันไม่ได้เพราะมันแรงเยอะกว่าผมอีก

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไร นายดูแลเราเมื่อเช้า ลำบากกว่านี้อีก”

“อืม...” ผมยิ้มให้มันก่อนจะเดินไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย

“เกม... พรุ่งนี้ว่างมั้ย”

“อืม... ทำไมเหรอ”

“ว่าชวนไปขอนแก่นนะ ไปมั้ย”

“เอ่อ...”

“ไปนะ เราอยากให้เกมไปเป็นเพื่อนนะ แม่เราอยากเห็นนายด้วย นะๆๆๆๆ”

“ก็ได้...”

“ขอบใจนะ” แล้วมันก็ยิ้มซะหวาน ทำท่าดีใจเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ซะงั้น

“แล้วไปตอนไหนหล่ะ”

“10 โมงเช้า... งั้นตอนนี้ไปทานข้าวเถอะ เราหิวแล้ว” ผมและนายโชกุนก็ออกไปทานข้าวข้างนอก ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจับปลาสองมือยังงัยไม่รู้ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้รู้สึกเกินคำว่าเพื่อนกับทั้งเต๊บและโชกุน แต่มันก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมันไม่กระจ่าง แต่เอาเหอะ... ยังงัยทั้งสองก็เป็นเพื่อน เพื่อนคือเพื่อน เพื่อนกับแฟนมันแทนที่กันไม่ได้อยู่แล้ว......

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 10-10-2007 10:38:33
คนใจร้าย
 :m19: :m19: :m19:
ดูจิเต๊ปก็ออกดี โชกุนก็ออกจะน่ารัก
 :a14: :a14: :a14:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-10-2007 10:51:02
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 10-10-2007 12:09:34
ความรู้สึกคลุมเครือนี่เเย่จัง :sad2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 10-10-2007 13:13:59

    ยังง๋ายในใจผมก็มีแต่กุ๊น อะ กลับมาทำความเข้าใจกันเถอะนะ    ยังไงก็ยังรักเขาอยู่นี่   :m8:

    ผมเคยผิด  ผมก็แค่อยากให้เขาได้โอกาสเมือนกัน   :เฮ้อ:
 
                                                                     cargo cargo
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๐Robin๐๐ ที่ 10-10-2007 21:48:39
 :serius2: แล้วตกลงนี่คัยดีก่ากันอ่ะ มาแบบนี้ทีไร ผมจาเปงลมมมม :sad2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 10-10-2007 22:24:48
ร้องเพลงอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนของทาทา รอ เข้ากะเรื่องนี้ดีจริงๆ  :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-10-2007 01:30:41
แหะๆ...ในที่สุดก้ออ่านจนปัจจุบันเยยง่า

น่าสงสารพี่เกมจังเยยง่า

ปัญญามากมายที่เข้ามา

แถมยังต้องมารับอารายอีกตั้งมาก

ยังไงก้อสุ้ต่อไปนะอะ

อย่าลืมมาต่อให้อีกนะฮะ

ห้ามลืมมาต่อเยยนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

ปล.....ขอสมัครเปงสมาชิกขาประจำเยยนะฮะ

          ไม่อนุญาตก้อต้องอนุญาต :m5: :m5:

          เพราะจะอ่านต่อไปเรื่อยๆเยยง่า คุคุ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 11-10-2007 01:50:57
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง2คน
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-10-2007 14:02:10
เต๊บ ..โชกุน  :m18: ..เต๊บ....โชกุน :m18:

เลือกใครดีน๊า :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-10-2007 15:45:01
กามเทพ :a4:ช่างเล่นตลกจัง :a4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-10-2007 20:37:37
มารอนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อด้วยนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

ห้ามลืมมาต่อเยยนะฮะ

อยาก่อานต่อมากมายนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-10-2007 17:03:00
เชียร์เต๊บ  :m18:   :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-10-2007 21:06:10
มารอต่อไปนะฮะ

อย่าลืมมาต่อให้อีกนะฮะ

ห้ามลืมเลยนะฮะ

ยังไงก้อจะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 12-10-2007 22:41:52

               เต้ของผมหายไปหน๋าย   กับมาพร้อมหัวใจของผ๋มเร็วนะ  คิดถึงอะอะ  :sad2: :m5:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-10-2007 21:17:20
มารอเหมือนเดิมนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

จะรอนะฮะ

อย่าลืมมาต่อนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 14-10-2007 10:05:11

        naitaen !! :sad2: :sad2: :sad2: :serius2: :serius2: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพให้อีกแล้วนะครับ 10 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 15-10-2007 04:11:52
โชกุน โชกุน โชกุน โชกุน

ไปขอนแก่นคราวนี้ เหมือนจะจำได้ว่ามีอะไรดี ๆ น้า  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 15-10-2007 14:40:27

               เต้ของผมหายไปหน๋าย   กับมาพร้อมหัวใจของผ๋มเร็วนะ  คิดถึงอะอะ  :sad2: :m5:

        naitaen !! :sad2: :sad2: :sad2: :serius2: :serius2: :o12: :o12: :o12:
มารอนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อด้วยนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

ห้ามลืมมาต่อเยยนะฮะ

อยาก่อานต่อมากมายนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

กระผมนายเต้ต้องขอโทษเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนด้วยนะครับ พอดีผมเดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพอย่างปัจจุบันทันด่วนนะครับ เลยไม่ได้เข้ามาบอกกล่าวและหายไปเฉยๆ

พอดีพี่ส่าวผมคลอดครับ เหอๆ ได้หลานชาย ไอ้เต้ได้หลานชายครับ น่ารักมากมายครับ อิอิ มีแต่คนรักคนหลงครับหลานคนนี้ ไอ้เต้ก็หลงครับ ทั้งรักทั้งหลง เลยขออาสาตั้งชื่อให้เลยครับ 55+

ต้องขอโทษอีกครั้งหนึ่งนะครับที่หายไปเฉยๆ และหายไปนานตั้ง 5 วันแนะ ขอโทษครับผม  :m5:

ที่เหลือเชียร์ให้ขึ้นนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 15-10-2007 14:48:38
บทที่ 17 คำว่าเพื่อน

..........

วันนี้ผมต้องรีบตื่นเป็นพิเศษ เพราะต้องรีบมาซักเสื้อผ้าให้เสร็จก่อนสิบโมงเช้า ส่วนนายโชกุนนะเหรอ กว่าจะตื่นก็ปาไปเกือบ 10 โมง...

“ตื่นได้แล้ว... นัดเราไว้แท้ๆ กลับตื่นสาย”

“ครับๆๆๆๆ” มันพูดแล้วก็ลุกงัวเงียเดินเข้าห้องน้ำ กว่ามันเสร็จสิบโมงกว่าแล้ว

“รถใครอะโชกุน”

“รถเพื่อนนะ ยืมมันมาใช้ อย่าพูดมากน่า ขึ้นรถเร็ว” (ทำไมต้องดุด้วยอะ) ว่าแล้วผมก็ขึ้นรถคันนั้น เราทั้งสองใช้เวลากว่าชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงขอนแก่น...

“มาแล้วครับแม่...”

“มาแล้วเหรอจ๊ะ...” ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน ดูใจดีมากๆ แถวยังดูสวยอีกต่างหาก

“แม่ครับ นี่เกมรูมเมทผม ที่เล่าให้แม่ฟังบ่อยๆ นะครับ”

“เกม นี่แม่เรา”

“สวัสดีครับ”

“ไหว้พระเถอะจ๊ะ หน้าตาน่ารักดีนะ ไปเข้าบ้านลูก เดี๋ยวร้อน... ทานอะไรกันมาหรือยังจ๊ะ”

“ยังเลยครับแม่... กำลังหิวพอดีเลยครับ”

“งั้นเดี๋ยวแม่หาอะไรให้กินแล้วกัน”

“ผมช่วยมั้ยครับ”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”

“ครับ” นายโชกุนเลยพาผมเดินสำรวจบ้าน บ้านของมันน่าอยู่ดีครับ มีสวนหลังบ้านอากาศเย็นดี โชกุนอยู่กับแม่สองคน แม่ของโชกุนเป็นพยาบาลวิชาชีพ เพิ่งรับปริญญาโทไปหมาดๆ ไม่นานนี่เอง

“บ้านนายน่าอยู่ดีนะ”

“น่าอยู่ก็มาอยู่สิ”

“อะนะ”

“กับข้าวเสร็จแล้วจ้า...” เสียงแม่ของโชกุนเรียกเราทั้งสองไปกินข้าว

“แม่ต้องไปทำงานแล้วนะจ๊ะ จะค้างคืนหรือเปล่าวันนี้ แม้ต้องเข้าเวรซะด้วยสิ”

“ค้างครับแม่ ผมจะพาเกมทัวร์ขอนแก่นก่อน พรุ่งนี้เย็นๆ ค่อยกลับนะครับ”

“งั้นก็ดี ลูกเกมไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะจ๊ะ แม่ไปหล่ะ”

“ครับ”

“นายจะพาเราไปเที่ยวไหนอะ”

“อืม... เดี๋ยวพาไปไหว้พระ และคืนนี้ไปเที่ยวผับกัน พอดีเพื่อนเราร้องเพลงอยู่ที่นั่นนะ”

“เพื่อนที่คณะเหรอ”

“อืมมม... ไอ้อาร์นะ จำได้ป๊ะ ไอ้ที่แสดงเป็นโจรในละครถาปัดนะ”

“อ๋อ... คนขาวๆ สูงๆ นะเหรอ”

“ใช่ๆ” แล้วผมกับโชกุนก็ทานข้าวกันจนอิ่ม จากนั้นมันก็พาผมไปไหว้พระ ไหว้พระธาตุขามแก่น เป็นครั้งแรกที่ผมมาเที่ยวที่จังหวัดนี้แบบจริงๆ จังๆ รถราเยอะจนปวดหัว บรรยากาศรอบๆ บึงแก่นนครก็ร่มรื่นดี ไหว้พระเสร็จมันก็พาผมมาเดินเล่นที่บึงแป๊บนึง ก่อนจะไปที่อื่น มันพาผมไปซื้อของนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับบ้านมัน...

..........

“พร้อมออกตระเวนราตรีเมืองขอนแก่นยังคุณหนู” นายโชกุนพูดล้อเล่นกับผม ก่อนที่เราทั้งสองจะออกจากบ้านไปยังผับดังกล่าว (ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว) เวลาขณะนั้นราวๆ 3 ทุ่มเห็นจะได้ ผู้คนในตัวเมืองขอนแก่นยังเยอะอยู่ แล้วรถของนายโชกุนก็มาจอดหน้าร้านๆ หนึ่ง ภายในร้านบรรยากาศดีมาก เป็นร้านที่ขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป...

“นั่งรออยู่นี่นะ เดี๋ยวเราไปสั่งเครื่องดื่มก่อน”

“อืม...” นายโชกุนหายไปซักพักก็กลับมาพร้อมกับเพื่อนเขาคนหนึ่ง ผมมองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นเพื่อนคนที่ชื่อ อาร์

“เกม... นี่อาร์... อาร์... นี่เกมเมทกู”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เราทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน

“ไม่ยักคิดว่าคนอย่างเกมจะมาเที่ยวแบบนี้นะครับ”

“55+ โชกุนลากมาครับ”

“คงใช่ ไอ้นี่มันนักเที่ยวตัวยงเลยครับ”

“เหรอ”

“ครับ เห็นโชกุนมันพูดถึงนายหลายครั้ง ยังไม่ได้มีโอกาสคุยด้วย มีอะไรขาดเหลือก็บอกแล้วกัน”

“ครับ” ผมพูดพลางยิ้มให้เพื่อนใหม่คนนี้ เราคุยกันอยู่ได้พักนึง อาร์ก็ขอตัวไปร้องเพลง ผมกับโชกุนจึงน่งคุยกันต่อ
“นายดื่มของแบบนี้มั้ยเกม”

“อยากลองเหมือนกัน แต่อย่าเข้มนะ เรากลัวเมาอะ”

“555+ เด็กน้อยจัง”

“อะนะ.... ขอบคุณคร้าบบบ” ซักพักผมก็รู้สึกมีสายตาหลายคู่จ้องมาบริเวณที่ผมนั่ง แต่ผมก็หาเจ้าของสายตานั้นไม่เจอ รู้สึกเสียวสันหลังยังงัยไม่รู้

“เป็นไรเกม”

“เปล่า รู้สึกเหมือนมีคนจ้องเราอยู่นะ”

“เหรอ... คิดมากไปมั้ง”

“นั่นดิ” แล้วผมกับโชกุนก็สนุกกับเสียงเพลงต่อ การเที่ยวครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาสถานที่แบบนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วกัน ว่ามั้ยครับ เหอๆ

เสียงเพลงยังคงขับกล่อมคนฟังเรื่อยๆ เสียงของนักร้องเพราะจริงๆ ผมชอบเสียงแบบนี้มาก ก็เลยค่อยข้างสนุกกับการฟังเพลงพอควร...

“เกม เดี๋ยวเราไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ”

“อืม...” แล้วผมก็นั่งคนเดียว พอโชกุนลุกออกจากที่นั่งแป๊บนึงก็มีคนเดินมานั่งตรงที่ของโชกุน

“มากับเพื่อนเหรอครับ” ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น ดูท่าทางไม่น่าไว้วางใจเลย

“เอ่อ... ครับ มากับเพื่อน”

“เฮ้อ... โล่งอกไปหน่อยครับ นึกว่ามากับแฟนซะอีก” สะอึกเลยกู หาว่ากูมากับแฟน

“เพื่อนครับ เห็นเพื่อนผมเป็นผู้หญิงได้ไงเนี่ยะ”

“ผมไม่ได้เห็นเพื่อนคุณเป็นผู้หญิงซะหน่อย... ผม เรียว ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชื่อเรียวเหรอ ญี่ปุ่นจังวะ แต่หน้าตามันก็ตี๋จ๋า จริงๆ แหล่ะ แม้จะมองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เถอะ

“ครับ ผมเกม ครับ” ผมก็พูดไปตามมารยาทแหล่ะครับ

“เกมเรียนที่ไหนเหรอครับ”

“ที่ ม......ครับ”

“ที่เดียวกันกับผมเลย ผมเรียนมนุดอิง ครับ”

“เอ่อ... ผมเรียน ฟู้ด ครับ”

“ว้าว... ท่าทางจะทำกับข้าวเก่งนะครับ ผมกำลังต้องการคนทำกับข้าวให้ทานพอดีเลย”

“...” เงียบดิครับ ไม่รู้จะพูดอะไรอีก เห็นชัดๆ ว่ามันกำลังจีบผม (หรือเปล่า)

“ผมไม่ได้ต้องแม่บ้านหรือคนรับใช้หรอกนะ แต่...”

“เกม...” เฮ้อ.... สวรรค์ทรงโปรด มีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยจนได้

“เพื่อนคุณมาแล้ว งั้นผมไม่กวนแล้วนะครับ เจอกันที่ ม. นะครับ” แล้วนายคนนั้นก็ลุกออกจากตรงนั้นไปยังกลุ่มเพื่อนของเขา

“ใคร?” นายโชกุนถาม

“ไม่รู้ อยู่ๆ ก็เข้ามาคุย”

“เขาเรียกเข้ามาจีบ ระวังตัวหน่อยดิ ดื่มอะไรจากแก้วมันหรือเปล่า”

“เปล่า”

“ดีแล้ว พวกนี้มันไว้ใจไม่ได้หรอกนะ” แล้วผมกับนายโชกุนก็นั่งคุยกันและฟังเพลงกันต่อ โดยที่สายตาที่จ้องมองผมนั้นผมยังรู้สึกได้ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะหันกลับไปดู เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมเล่นกับมันด้วย...

ราวๆ 5 ทุ่มกว่าๆ วงของเพื่อนนายโชกุนก็ร้องเพลงเสร็จ และเดินลงจากเวที โดยมีอีกวงขึ้นร้องต่อ...

“ว่าไงครับ เราร้องเพลงเป็นไงบ้าง”

“ก็เพราะดีนะครับ เราฟังจนเคลิ้มเลย”

“เหรอ ขอบคุณครับ... แล้วแกจะกลับ ม. วันนี้เลยเปล่าโชกุน”

“เปล่า... พรุ่งนี้เย็นๆ แม่กูอยากคุยกับเกมเขาหน่อย”

“...” อาร์ยื่นหน้าไปกระซิบนายโชกุนแล้วมองมาทางผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ หันไปฟังเพลงของอีกวงที่กำลังเล่นอยู่บนเวที

“ไอ้เหี้ย... ไม่ใช่ซักหน่อย”

“เฮ้ย... อย่าโกหกกูหน่อยเลย กูดูสายตามึงออกนะเว้ย”

“อย่าเอ็ดไป... เหี้ยรู้ทันกูอีกแล่ะ”

“555+ ไอ้โชกุนเอ๊ย....” แล้วสองคนนั่นก็หัวเราะกัน ผมก็ทำหน้าสงสัยครับ

“ไม่มีอะไรเกม ไอ้เหี้ยนี่ถามว่าจะไปต่อกับพวกมันมั้ย”

“ไม่เอาดีกว่า เราว่ามันดึกแล้ว แถมเรารู้สึกมึนๆ แล้วอะ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่า”

“ครับผม ไม่เป็นไร คราวหน้ามาเที่ยวอีกนะ เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง แล้วเจอกันที่ ม. นะ เราขอตัวหล่ะ... ไปก่อนนะโชกุน” แล้วอาร์ก็เดินไปสมทบกับกลุ่มเขา ไม่นานผมกับโชกุนก็ออกจากผับนั่นเหมือนกัน...

“เป็นไงเกม”

“ก็ สนุกดี ประสบการณ์ดีๆ”

“อืม...”

“นายขับไหวมั้ยอะ”

“ไหวๆ เราไม่ได้มาวซักหน่อย” มันพูดและก็ทำท่าทางเหมือนขี้เหล้านะครับ

“55+”

แล้วผมกับโชกุนก็มาถึงบ้านด้วยสวัสดีภาพ

“อาบนำก่อนมั้ยเกม... อะผ้าเช็ดตัว” ว่าแล้วมันก็ยื่นผ้าเช็ดตัวให้ผมแล้วล้มตัวนอนบนเตียง ผมเลยเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อชำระกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้าที่ติดตัวผม...

“โชกุน... ลุกไปอาบน้ำ”

“คร้าบบบบบ” แล้วมันก็งัวเงียไปอาบน้ำ เสร็จแล้วมันก็ออกมาแต่งตัวแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที

“โชกุน...”

“อะไร...”

“มีที่นอนปิ๊กนิกมัยอะ”

“จะเอาไปทำไม”

“ก็ปูนอนข้างล่างนะ”

“ไม่มี... มานอนบนเตียงด้วยกัน เตียงออกจะใหญ่”

“เอ่อ...”

“มานอน ปิดไฟด้วย...” มันทำเสียงดุ จนผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ เฮ้อ... เอาวะ นอนก็นอน แล้วผมก็เดินไปปิดไฟและกลับมานอนบนเตียงกับมัน ล้มตัวลงนอนได้ไม่นานผมก็หลับด้วยความเพลียทันที...

..........

‘เสียงอะไรว่ะ หนวกหูจัง... โอย... ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้ว่ะ’ ผมคิดในใจ ก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ภายนอกหน้าต่างสว่างแล้ว

‘เออ... เมื่อคืนกินเหล้านี่หว่า ไม่เอาอีกแล้ว’ ผมคิดพลางจะพลิกตัวเพื่อลุก ก็รู้สึกได้ว่ามีคนนอนกอดผมจากข้างหลัง กอดผมไว้ซะแน่นเชียวครับ จะมีใครอีกหล่ะ ในห้องนี้มีผมกับโชกุนสองคนเท่านั้นนี่หน่า...

“อรุณสวัสดิ์ครับ...” เสียงนายโชกุนดังขึ้นใกล้ๆ หูผม สะดุ้งสิครับ ขนลุกเลยอะ...

“เอ่อ... อรุณสวสัดิ์เช่นกัน” ผมพูดพลางแกะมือมันออก แต่มันไม่ยอมแฮะ

“เอ่อ... โชกุน เราจะไปล้างหน้านะ”

“อย่าเพิ่งดิ อากาศยังหนาวอยู่ นอนซักพักก่อนนะ”

“...” ไม่รู้จะพูดอะไรต่อครับ ทำไมมันต้องกอดผมด้วยอะครับ ฮือๆๆๆ คิดไม่ออกอะ

“โชกุน...”

“อะไร บอกให้นอนไง ยังเช้าๆ อยู่เลย”

“เราปวดฉี่อะ”

“อ้าวเหรอ...” แล้วมันก็ปล่อยผมเป็นอิสระ ผมจึงเดินเข้าห้องนำ ทำธุระทุกอย่าง ก่อนจะออกจากห้องน้ำ พออกมาก็เห็นไอ้หัวสิงโตนั่งยิ้มหน้าแป้นอยู่บนเตียง...

“เข้านานจัง นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วซะอีก” มันพูดพลางเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงเดินลงไปข้างล่างแล้วเข้าครัวสำรวจของในตู้เย็น มีของสดอยู่บ้าง เลยลงมือทำกับข้าว 2-3 อย่าง ก่อนเดินไปเรียกมันลงมากินด้วยกัน...

“กลับมาแล้วจ้าเด็กๆ” เสียงของแม่นายโชกุนดังขึ้น ผมจึงเดินไปเปิดประตูให้ท่าน

“เป็นไงบ้างจ๊ะ ลูกชายแม่พาไปเกเรที่ไหนบ้าง ดื่มเหล้าหรือเปล่านิ”

“นิดหน่อยครับคุณแม่... คุณแม่ทานอะไรมาหรือยังครับ”

“ยังเลยจะ แม่ว่าจะซื้อกับข้าวเข้ามาก็ลืมสนิทเลย... เอ๊ะ หอมอะไรนะ หอมน่าทานจัง”

“ผมทำกับข้าวสองสามอย่างนะครับ ขอโทษที่ใช้ห้องครัวนะครับ”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอเรา น่ารักจริงๆ ไม่เหมือนไอ้ลูกชายแม่ ไม่เอาไหนซะเลย”

“นินทาอะไรผมคร้าบบ... อรุณสวัสดิ์ครับแม่”

“จ้า... จะ 10 โมงแล้วจ๊ะพ่อลูกชาย เดี๋ยวเก็บของแป๊บนะจ๊ะ” แล้วคุณแม่ของโชกุนก็เดินเอาของไปเก็บโดยมีโชกุนถือของช่วย ส่วนผมก็ไปเตรียมโต๊ะอาหารให้พร้อม ก่อนคู่แม่ลูกจะเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร...

“กับข้าวน่ากินมากจ๊ะ... หอมด้วย ดูไว้โชกุน เพื่อนเราเก่งแค่ไหน”

“โหยแม่ มีคนทำให้กินผมจะหัดทำทำไมเล่า” แล้วผมและแม่ลูกคู่นั้นก็ทานข้าวด้วยกัน

“อร่อยมากเลยจ๊ะ มิน่าดูลูกชายแม่มีเนื้อหนังมากกว่าเดิม มีคนดูแลมันดีนี่เอง”

“ไม่เท่าไหร่ครับ นานๆ ผมถึงจะได้ทำอะไรให้โชกุนเขากินนะครับคุณแม่ มีเวลาไม่เท่ากันนะครับ”

“จ๊ะ… เก็บไปล้างซะโชกุน”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ... ไปโชกุน เอาไปล้าง”

“คร้าบบบบ” แล้วนายโชกุนก็เก็บถ้วยชามไปล้าง ส่วนผมก็โดนคุณแม่ของโชกุนพาไปคุยกันที่ข้างบ้าน...

“โชกุนอยู่โน่นเป็นไงบ้างลูกเกม”

“ก็เป็นเด็กดีครับ เพียงแต่ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่ครับ”

“อืม... อย่างนี้แหล่ะ แม่ก็เตือนเขาตลอดให้หัดดูแลตัวเองหน่อย เมื่อวันก่อนโชกุนโทรมาบอกแม่เรื่องที่ไม่สบาย แม่ขอบใจนะที่ดูแลลูกชายตัวดีของแม่นะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

“เห็นโชกุนว่าเราเช็ดตัวให้มันด้วย อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ก็ตัวเขาร้อนมากนะครับ ผมกลัวเขาช็อกก็เลยต้องเช็ดตัวเพื่อให้ไข้เขาลดนะครับ”

“อืม... รู้เรื่องการปฐมพยาบาลดีนี่เรานะ”

“ก็ไม่เท่าไหร่ครับ พอดีผมเคยเจอกับตัวเองเรื่องตัวร้อนแล้วช็อกนะครับ ก็เลยจำได้ว่าต้องเช็ดตัวให้ไข้ลดนะครับ”

“จ๊ะ... แล้วลูกเกมว่าโชกุนลูกแม่เป็นไงจ๊ะ”

“ก็... ดีครับ”

“เหรอจ๊ะ”

“ครับ” ไม่รู้จะพูดอะไรครับ ไม่รู้ด้วยแหล่ะว่าคุณแม่ของโชกุนต้องการอะไร

“แม่ดูสายตาของลูกชายแม่ออกนะ เวลาที่มันมองลูกเกมนะ”

“เอ่อ...”

“ตอนกินข้าว แม่ก็สังเกตว่าโชกุนมันจะมองลูกเกมเวลาทานข้าวตลอด”

“...”

“ไม่มีใครเขาทำอย่างนี้หรอกนะจ๊ะ”

“...” เหอๆ พูดไม่ออกครับ แต่ท่านยังยิ้มอยู่นะ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกกลัว เพราะผมเชื่อว่าผมกับโชกุนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าคุณแม่เขาต้องการอะไรเท่านั้นเอง...

“ไม่ต้องเครียดหรอกจ๊ะ แม่จะดีใจมากเลยนะถ้าได้ลูกเกมมาเป็นลูกอีกคน อย่างน้อยแม่ก็หายห่วงที่มีคนดูแลลูกชายจอมเกเรของแม่ได้...

...ไม่ตลกในสิ่งที่แม่พูดใช่มั้ยจ๊ะ พ่อของโชกุนเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ทำผู้หญิงร้องไห้มาเยอะ แม่ไม่อยากให้ลูกชายแม่ต้องเป็นผู้ชายแบบพ่อเขา เพราะฉะนั้นถ้าโชกุนได้ลูกเกมมาเป็นแฟน แม่จะดีใจมากเลยนะ แต่ถ้ามันไปเอากะเทยแม่ก็ไม่ยอมหรอกนะ” (ผมไม่ได้ดูถูกกะเทยนะครับ) เหอๆ คุณแม่จีบแทนลูกเหรอเนี่ยะ เอาหล่ะสิครับ ผมไม่รู้จะพูดอะไร

“ลำบากใจมั้ยจ๊ะ หรือว่ารังเกียจจ๊ะ”

“เปล่าครับ เพียงแต่ว่า มันกะทันหันไปนะครับ”

“เหรอจ๊ะ ไม่เป็นไร คบกันเรื่อยๆ ก่อนก็ได้”

“เอ่อ....”

“จ๊ะ?” ตายๆๆๆๆ จะเอาไงดีว่ะกู น้ำท่วมปากมันเป็นอย่างนี้นี่เอง...

“คุยอะไรกันครับ ท่าทางสนุกเชียว” นายโชกุนเดินเข้ามาตรงที่ผมกับคุณแม่เขาคุยกันอยู่

“เปล่าจ๊ะ แม่แค่คุยเรื่องเปิ่นๆ ของเราให้เกมเขาฟังเท่านั้นแหล่ะจ๊ะ”

“คุณแม่เผาผมอีกแล้ว” เฮ้อ... โล่งอกไปที อย่างน้อยบรรยากาศอึดอัดแบบนั้นก็ผ่านไป แม้จะไม่ทีเดียวก็ตาม ผมกับโชกุนอยู่อีกซักพัก ราวๆ บ่ายโมงเราจึงขอตัวกลับ ม.

“แล้วผมจะมาเยี่ยมอีกนะครับ”

“จ้า... มาเที่ยวบ่อยๆ นะจ๊ะ แม่ถูกชะตากับเราจริงๆ”

“สวัสดีครับ” ผมและโชกุนจึงเดินขึ้นรถ

“อย่าลืมที่แม่พูดนะจ๊ะ ลูกเกม” ท่านพูดแล้วก็ยิ้ม ก่อนที่โชกุนจะออกรถไป

“เรื่องอะไรเหรอเกม”

“เปล่า ไม่มีอะไร” กูจะบอกมึงได้เหรอว่าแม่มึงอยากได้กูเป็นลูกสะใภ้นะ ตายๆๆๆ ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เกมเอ๊ย.... ทำไงดีเนี่ย ส่วนนายโชกุนก็ยิ้มอย่างมีความสุข ความสุขอะไรว่ะ กูหล่ะปวดหัวจริงๆๆๆๆ.........

..........

เรื่องนี้ลงตอนเดียวนะครับ พอดีรีบไปทำธุระครับผม

นายเต้ขี้เหร่อย่างแรงครับผม :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 15-10-2007 16:31:09
น่ารักจังโชกุน มีตัวช่วยด้วย :m4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 15-10-2007 16:45:21

       กลับมันยาวชะทะลุถึงก้านสมองเลย  หายคิดถึงชั่วคราว    o17 o17 o17
 
      ยินดีด้วยกับหลานชาย  (ระวังเป็นตัวป่วนละ  :a13:  )

      แล้วแต้ละมะอยากมีลูกชายบ้างเหรอ  อ้ายเราละอยากมีอะ (ต้องทำไงอะบอกหน่อยดิ)  :m28: :m28: :m23:

       เสร็จงานแล้วคิดถึงกันบ้างนะ   :m5: :m18:  :m23: :laugh:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-10-2007 16:47:01
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-10-2007 17:50:00
ขอบคุณครับ o14
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-10-2007 18:00:20
แม่โชกุนน่าร๊ากกกก :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-10-2007 18:22:21
คุคุ...ร้ายกาจมากมายง่า

แล้วแบบนี้พี่เกมจะทามยังไงละฮะเนี่ย

คุณแม่พี่โชกุนเล่นขอเลยซะงั้น คุคุ

ยังไงก้อจะรออ่านต่อไปนะฮะ

อย่าลืมมาต่อให้อีกนะฮะพี่เต้

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุ คุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 15-10-2007 20:44:42
บทที่ 18 สวัสดีปีใหม่

.........

หลังกลับจากขอนแก่น โชกุนมันเลื่อนเตียงมันมาติดกับเตียงผม (เตียงสองชั้น) มันไม่บอกเหตุผล ถามมันมันก็ได้แต่ยิ้ม และมีอีกอย่างที่แปลกไป โชกุนตื่นเช้ากว่าผมตลอด และชอบเปิดเพลงเพราะๆ ที่ผมชอบ ทั้งที่มันชอบเพลงร็อกหนักๆ ผมว่ามันเพี้ยนไปแน่ๆ...

“โชกุน นายเป็นอะไรหรือเปล่า ไมพักนี้ดูแปลกๆ ไปนะ”

“มีความรักมั้ง” ว่าแล้วมันก็ฉีกยิ้มให้ผม แม่ง... น่ารักเป็นบ้า...

“เหรอ... แนะนำให้เรารู้จักมั่งดิ”

“เออ... เดี๋ยวได้รู้จักแน่ เกมรู้จักดีซะด้วยสิ หุหุ”

“อืม... จะรอ ว่าแต่ปีใหม่นายจะไปไหนป๊ะ”

“คงไม่อะ งานเขียนแบบเข้ามาเต็ม คงไม่ได้ไปไหน”

“เหรอ เราว่าจะชวนไป...”

“ไปๆๆๆๆ งานไม่เยอะแล่ะ” ไอ้นี่ เปลี่ยนเร็วยังกะปรอท

“555+ ล้อเล่น ไม่ได้ชวนไปไหนหรอก เราก็ไม่ได้กลับบ้าน ที่ ม. เราก็คงไม่มีอะไรมั้ง”

“เหรอ...” แล้วมันก็ทำหน้าจ๋อยๆ 555+ ตลกเป็นบ้า

มหาลัยเริ่มหยุดแล้ว (ที่จริงนิสิตพากันหยุดเองมากกว่า) อีกแค่ 2 วันก็เข้าปีใหม่แล้ว ไม่รู้ผมจะเจออะไรบ้าง เฮ้อ...

“ทำไมมานั่งหงอยคนเดียวอย่างนี้หล่ะครับ” เสียงเต๊บดังขึ้นจากข้างหลังผม

“ก็เพื่อนกลับหมดนี่ จะให้นั่งกะใครหล่ะ แล้วเต๊บไปไหนมาเหรอ”

“ไม่ได้ไปไหนมาหรอก จะมาหาเกมนี่แหล่ะ จะชวนไปกินข้าวหน่ะ”

“อืม.... เรายังไม่หิวเลย ซักบ่ายๆ ได้มั้ย”

“ได้คร้าบบบ แล้วแต่คุณชายจะสั่งครับ”

“เวอร์ๆ” แล้วเราทั้งสองก็หัวเราะด้วยกัน

“ไม่ได้เห็นเกมหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้นานแล้ว มีเรื่องสุขใจอะไรเหรอครับ”

“เปล่านี่ คงเพราะทำใจกับเรื่องเก่าๆ ได้แล้วมั้ง” ใช่สิพักหลังๆ มานี่ผมลืมเรื่องเก่าๆ แทบสนิท สงสัยเพราะมีคนอยู่รอบๆ ผมเยอะมั้งครับ

“ลืมได้ก็ดีครับ เริ่มต้นกับคนที่รักเกมอย่างจริงใจจะดีกว่านะครับ”

“ใครหล่ะที่รักเราจริง”

“เต๊บไงครับ จะมีใครซะอีกหล่ะ”

“ได้ทีหวานเชียว...”

“น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน...”

“55+ เจ้าบทเจ้ากลอนจัง”

“ก็เพราะเกมนี่แหล่ะ”

“พอๆๆๆ เลี่ยน”

“คร้าบบบบบบบ”

“เต๊บ... เกมถามจริงๆ นะ”

“ครับ”

“เต๊บแน่ใจเหรอ เรื่องของเกมนะ”

“แน่ใจครับ เต๊บสัญญากับตัวเองไว้ตั้งแต่รู้จักเกมครั้งแรก ว่าจะไม่ทำให้เกมเสียใจแน่นอน เต๊บจะรักและปกป้องเกม และจะอยู่กับเกมตลอดไป...”

“กุ๊นก็พูดแบบนี้ สุดท้าย.... เอาเหอะ แล้วเรื่องของพ่อแม่เต๊บหล่ะ”

“เอ่อ...”

“ท่านจะรับเรื่องของเราได้มั้ย... ถ้าวันหนึ่งท่านต้องการให้เต๊บแต่งงาน เต๊บจะทำไง” ขนาดยังไม่ได้คบกันนะเนี่ยะเรา…

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เต๊บก็จะอยู่เคียงข้างเกมเสมอ”

“ตอบไม่ตรงคำถามอะ”

“ก็ ยังงัยก็ช่างไงครับ เต๊บรักเกมเสมอ จะอยู่ดูและเกมตลอดไป”

“ครับๆๆๆๆๆ พอแล้ว หวานซะ เตรียมนานมั้ยเนี่ยะ”

“เต๊บไม่เคยเตรียมสิ่งที่จะพูดกับเกม ทุกอย่างมันเกิดจากใจของเต๊บ ใจที่มีให้เกมคนเดียว”

“เกมขออย่างหนึ่งได้มั้ย”

“ครับ”

“วันใดที่เต๊บเปลี่ยนใจ ช่วยบอกเราให้รู้เป็นคนแรก อย่าให้เกมรู้จากคนอื่นนะ”

“ได้ครับ เต๊บจะบอกเกมเป็นคนแรก... เอ๊ะ ตกลงเกมยอมที่จะคบกับเต็บแล้วใช่ป๊ะ”

“เปล่าซะหน่อย แค่เกริ่นๆ ไว้เท่านั้นเอง อนาคตยังอีกไกลพ่อยอดชาย”

“คร้าบบบบบ 555+” แล้วผมก็ออกไปทานข้าวกับคนที่ผมคิดว่า น่าจะเป็นคนที่ผมรักที่สุด... แล้วโชกุนหล่ะ!!!

..........

วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า คนที่อยู่กับผมตอนนับถอยหลังก็คือเต๊บ ส่วนเมทสุดที่รักผมไปฉลองกับเพื่อนที่คณะนู่น...

“Happy New Year 2003 ครับเกม”

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ เย้ๆๆๆๆ”

และแล้วปีใหม่ก็ผ่านไป 2546 ผมจะถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของผมอย่างเต็มตัว ผมจะเปิดหัวใจของตัวเอง ให้ใครที่แน่จริงเข้ามาพิสูจน์ความจริงใจซะที 555+...

“วันพรุ่งนี้ไปเที่ยวงานปีใหม่ในเมืองกับเต๊บนะ”

“ได้ๆ อย่าลืมมารับแล้วกัน”

“ครับผม งั้นเดี๋ยวเต๊บกลับหอก่อนนะ เกมขึ้นหอดีๆ หล่ะ”

“คร้าบบบบบ แล้วเจอกันนะ” แล้วผมก็เดินขึ้นหอ บรรยากาศเงียบ แต่หน้าหอเสียงดังเพราะมีการฉลองของแต่ละหออย่างสนุกสนาน ผมไม่ขอเข้าไปฉลองด้วยหรอก หนาวครับ ขอขึ้นหอดีกว่า...

“กลับมาแล้วเหรอ...” เสียงยานคางของใครซักคนดังขึ้น หลังจากที่ผมเปิดประตูเข้าไป

“กินเหล้ามาอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ยะ”

“แหะๆๆ นิดหน่อยเอง...” ว่าแล้วมันก็นอนลงบนเตียง แถมกินเนื้อที่เตียงผมอีก ไอ้นี่วอนซะแล้ว...

“นี่ๆ เขยิบไปหน่อย” ผมเอาเท้าเขี่ยมัน

“อืม...” มันขยับไปอยู่ในบริเวณเตียงของมัน

“เกม...”

“อะไร จะนอน”

“เราถามอะไรหน่อยสิ”

“อืมมม... ว่ามา”

“เด็กวิศวะคนนั้นเป็นอะไรกับเกมเหรอ”

“เต๊บนะเหรอ... เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยประถมนู่น”

“เป็นแค่เพื่อนเหรอ”

“แล้วนายจะให้เป็นอะไรหล่ะ”

“ไม่รู้สิ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันออกบ่อยอะ”

“ก็แค่เพื่อนนะ ทำไมเหรอ”

“เปล่า แค่ถามดูเฉยๆ”

“จะพูดอะไรก็รีบๆ พูดนะโชกุน ถ้าสายไปกว่านี้เราไม่รับรอง” ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนทันที แต่ดูเหมือนนายโชกุนกำลังต่อสูกับความรู้สึกและความคิดของตัวเองอยู่อย่างเงียบๆ จนผมผล็อยหลับไป...

..........

“อรุณสวัสดิ์ครับ” เสียงนายโชกุนดังอยู่ข้างๆ หูผม นี่แสดงว่ามันแอบนอนกอดผมทั้งคืนแน่นอน ไอ้นี่ช่างกล้า...

“อืม... อรุณสวัสดิ์เช่นกัน... กอดตอนไหนเนี่ยะ”

“ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หนาว หานอนข้างไม่เจอ ก็เลยกอดซะ”

“โห... หาว่าเราเป็นตัวแทนของหมอนข้างเหรอ ค่าเราต่ำต้อยซะ”

“ไม่ใช่ๆ ที่จริงก็ตั้งใจกอดแหล่ะ แหะๆ”

“อืมม... แต่ตอนนี้เลิกกอดได้แล้ว จะไปล้างหน้า”

“คร้าบบบ” แล้วผมก็ลุกขึ้นไปล้างหน้า ทำธุระ อาบน้ำ แต่งตัว แต่นายโชกุนยังคงนอนหลับอุตุเหมือนเดิม

“หมอนข้างมันก็อยู่ข้างๆ มัน ไอ้ห่าอยากกอดกู แล้วเจือกทำไก๋”

“อะไรๆ ได้ยินนะ เดี๋ยวนี้ชักพูดไม่เพราะนะ”

“เหอๆ นึกว่าหลับอยู่ซะอีก งั้นก็ตื่นได้แล้วจะได้เก็บที่นอน”

“ไม่อาวววว หนาวอะ”

“ท่านชายขอรับ นี่มันจะ 9 โมงเช้าแล้วขอรับ”

“ครับๆๆๆๆ ตื่นก็ตื่น” แล้วสงครามจิตวิทยาที่เกิดขึ้นก็ยุติลง ซึ่งทุกครั้งก็เป็นฝ่ายผมที่ชนะ

“เกมจะไปไหนเหรอ”

“เปล่านี่ ก็วันนี้วันแรกของปีใช่มั้ย เราต้องช่วยกันทำความสะอาดห้องนะ”

“เหวอ... ทำความสะอาดห้อง โชกุนมี...”

“ไม่ต้องพูด ยังงัยวันนี้ต้องทำช่วยกัน... นะครับ” แล้วผมก็ทำหน้าดุใส่มัน

“คร้าบบบบ.... ขนาดยังไม่ได้เป็นเมียนะเนี่ยะ” ประโยคหลังมันพูดเบาๆ ครับ

“บ่นอะไรโชกุน!”

“เปล่าครับ ไม่ได้บ่น กำลังคิดว่าจะทำอะไรดีก่อนครับ” แล้ววันนี้ทั้งวันผมกับโชกุนก็ช่วยกันทำความสะอาดห้องซะสะอาดเอี่ยมอ่องเลยครับ ผมกวาด มันถู หุหุ สนุกดีครับ แต่กว่าจะเสร็จได้เล่นเอาเหนื่อย ก็นายโชกุนเล่นแกล้งผมสารพัด เดี๋ยวเหอะไอ้นี่...

“ไปอาบน้ำ” ผมไล่มันไปอาบน้ำครับ เพราะขืนให้มันอยู่ทำชิ้นสุดท้าย มีหวังไม่เสร็จกันพอดี

“อาบด้วยกันมั้ย”

“ไอ้นี่ ทะลึ่ง เดี๊ยะ”

“แหะๆ ล้อเล่น ไปอาบแล่ว” พอมันอาบเสร็จ ผมก็ทำเสร็จพอดีและก็ถึงเวลาผมอาบน้ำพอดี

“เดี๋ยวเราถูหลังให้เอาเปล่า”

“ทะลึ่ง” แล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำ โดยมีโชกุนยืนหัวเราะอยู่ข้างนอก...

“นี่ตอนเย็นไปไหนหรือเปล่าโชกุน”

“อืม... รุ่นพี่เรียกไปเลี้ยงอีกแล้วนะสิ ไม่ไปไม่ได้ซะด้วย”

“เหรอ อย่ากินให้มากแล้วกัน”

“เป็นห่วงเหรอ” แล้วมันก็เอาหน้ามาวางบนไหล่ซ้ายผม ผมเลยหันไปดูมัน แก้มผมไปวางพอดีเป๊ะกับจมูกมัน อายดิครับ มันเล่นห่ามๆ มามากก็เพิ่งมาอายเอาตอนนี้แหล่ะ

“แก้มนายนี่นุ่มจัง หอมด้วย” ดูมันพูด กรูอายนะว้อย...

“...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรครับ ก็เลยแต่งตัวไป ขณะที่กำลังใส่เสื้อ (หลังจากที่สวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว) ทุกคนคงนึกภาพออก มือผมยังอยู่ในเสื้อ นายโชกุนมาจากไหนไม่รู้จับเข้าที่เอวผม ไอ้ผมมันบ้าจี้มาแต่ไหนก็ดิ้นดิครับ

“หยุดนะโชกุน 55+” มันจี้ไม่หยุดครับ จนผมล้มลงไปบนเตียงมันก็ยังไม่หยุดจี้

“ไอ้บ้า หยุดนะว้อย...” พอมือผมหลุดจากเสื้อได้ก็ตรงไปที่หูมันทันที (มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติครับ ถ้ามีใครมาจี้เอวผม มือผมจะไปจับหูคนนั้นทันที)

“เอ่อ.... ขอโทษครับ” เสียงบุรุษนายหนึ่งดังขึ้นที่ประตู เป็นผลให้นายโชกุนกระเด้งตัวออกจากผมทันที

“เหี้ยไอ้อาร์ ไม่เคาะประตูว่ะ”

“กูจะรู้เหรอว่ามึง...” แล้วนายอาร์ก็เอานิ้วมือมาถูกันไปมา

“เฮ้ๆๆ อาร์ นายอย่าเข้าใจผิดนะ ไอ้หัวสิงโตนี่มันแกล้งเรานะ เราบ้าจี้ก็เลยดิ้น อย่าเข้าใจผิดนะ”

“555+ ครับผม ไม่ต้องอายครับ” อาร์พูดเบาๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย... นี่โชกุน พูดอะไรหน่อยสิ”

“...” มันเงียบครับ กรูจะบ้า

“แกมีไรว่ะ” โชกุนพูดขึ้น แต่คนละเรื่องเลย

“ก็จะมาถามว่าเย็นนี้แกจะไปมั้ย”

“ไปๆ ลองไม่ไปดิ กรูตายแน่”

“เออๆ แล้ว 6 โมงเจอกันนะ… ไปหล่ะครับ เบาๆ หน่อยนะ”

“ไอ้อาร์...” นายโชกุนไล่เตะเพื่อน ก่อนที่มันจะกลับเข้ามาในห้อง

“แกล้งเราจนได้เรื่อง...”

“ขอโทษครับ” มันทำหน้าสำนึกผิดครับ

“55+ อย่างนายสำนึกผิดเป็นด้วยเหรอโชกุน”

“อะนะ... ว่ากันได้” แล้วผมก็แต่งตัวใหม่อีกรอบ คราวนี้ผมเข้าไปแต่งในห้องนำครับ เดี๋ยวโดนมันแกล้งอีก...

“นี่นายจะไปตอนไหน”

“ราวๆ 6 โมงนะ อีก 2 ชั่วโมง ยังพอมีเวลา กุ๊กกิ๊ก

“ทะลึ่งๆ เดี๋ยวโดนๆ”

“55+ ว่าแต่เกมจะไปไหนหรือเปล่า”

“เรานัดเพื่อนไว้จะไปในเมืองนะ ประมาณ 6 โมงครึ่งนะ”

“อืม... หนุ่มวิศวะนั่นนะเหรอ” แล้วมันก็ทำหน้าจ๋อยๆ

“ใช่... ทำไม”

“เปล่า... ไม่มีอะไร”

“มีอะไรก็พูดดิ ไม่พูดจะรู้เรื่องเหรอ”

“ไม่มีอะไรจริงๆ... หรืออยากให้มีครับ” มันยื่นหน้ามาพูดกับผมใกล้ๆ ผมเลยบีบจมูกมันซะ หมั่นไส้มันจริงๆ

“โอ๊ย... เจ๊บนะ เกมใจร้ายอะ”

“55+ สมน้ำหน้า หาเรื่องเองนิ”

“เปล่าซักหน่อย”

“โชกุน... เปิดโอกาสให้พูดแล้วนะ”

“เอ่อ.... พูดอะไร”

“เฮ้อ... แล้วแต่ไม่พูดก็ไม่พูด ขี้เกียจถามและ” ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนอ่านหนังสือบนเตียง กะว่าจะหลับซักงีบก่อน แต่พอหลับตาก็รู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องหน้าผมอยู่

“โชกุน... จะอำเราเหรอ” ผมพูดขณะที่ยังหลับตาอยู่

“เกม... ถ้าเราพูด มันจะเป็นยังงัย”

“ถ้านายไม่ลอง นายจะรู้เหรอว่าผลมันจะเป็นยังงัย”

“เรากลัวว่าถ้าเราพูดออกไปแล้ว ทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม”

“ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม...” ผมพูดพลางลืมตาและลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องหน้ามันคืน และพูดต่อไปว่า

“...ตั้งแต่นายพาเราไปพบแม่นายแล้วหล่ะ... จะพูดได้ยัง”

“เรา.... เอ่อ.... เรา........ เราชอบนาย เกม”

“ก็แค่นั้น เห็นมั้ย ทุกอย่างมันก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กลัวอะไร...” ผมพูดพลางหันหน้าไปทางอื่น อะไรว่ะ ตอนที่เต็บบอกว่าชอบเราทำไมไม่รู้สึกอะไรว่ะ แต่ทีนายโชกุนบอก ทำไมรู้สึกใจมันเต้นแรงๆ พิกล....

ช่วยบอกหน่อยเถอะครับว่า ผมเป็นอะไร.....

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-10-2007 22:04:31
รักโชกุนเข้าแล้วอะดิไม่ต้องสงสัยเลยหุๆ :m9:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-10-2007 21:16:05
ทำมายทำกะเต๊บอย่างนี้

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

คนเรามักไม่เห็นค่าของสิ่งที่ได้มาง่ายๆ
 :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 16-10-2007 22:17:31
บทที่ 19 หนึ่งคนสองใจ

.........

หลังจากที่โชกุนสารภาพความในใจแล้ว ผมรู้สึกว่า มันจะกล้าเล่นอะไรห่ามๆ กับผมมากขึ้นกว่าเดิม ดูไม่อายเหมือนแต่ก่อน (หน้าด้านขึ้นว่างั้นเหอะ) แต่มันยิ่งทำให้ผมลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน แม้ว่าผมจะชอบมันอยู่บ้าง แล้วจะให้ผมทำยังงัยดีหล่ะ ยังเหลือเรื่องค้างคาระหว่างผมกับเต๊บอยู่แท้ๆ...

“เป็นอะไรเกม...” โชกุนพูดขึ้น หลังจากเห็นผมเงียบๆ ไป

“เปล่า... ไม่มีอะไร”

“เกมลำบากใจหรือเปล่า ที่เราพูดแบบนั้นไป”

“ไม่รู้สิโชกุน เราคงให้คำตอบอะไรกับนายไม่ได้”

“เราเข้าใจเกม เอาเป็นว่า เรายังคงเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่มั้ย”

“ใช่...” ผมพูดและยิ้มให้โชกุน แม้ผมจะชอบโชกุน แต่ผมไม่อยากให้อะไรมันเกินไปมากกว่านี้ กว่าคำว่า เพื่อน

“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิโชกุน...”

“อืมม... ไม่มีอะไร แค่คิดว่า ไม่น่าสารภาพเลย”

“เราไม่รู้หรอกนะว่านายชอบเราตรงไหน ขี้เหร่ก็ขี้เหร่ ซุ่มซ่ามก็เป็นที่หนึ่ง...”

“แต่เกมน่ารักในสายตาเรา ความซุ่มซ่าม ความเปิ่นของเกมคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเกมน่ารัก แต่ที่สำคัญ เกมดูแลเราในตอนที่เราไม่สบาย นั่นเป็นสิ่งที่เราประทับใจที่สุด ไม่ว่าเราจะทำผิดยังงัย เกมก็ให้อภัย เวลาที่เราพลาด เกมก็เป็นคนที่อยู่ข้างเราเสมอ”

“...” ผมได้แต่ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับผู้ชายตรงหน้า

“เราไปกินข้าวกันเถอะ” ผมชวนโชกุนไปทานข้าว ในวันที่อากาศสดใสของกลางเดือนมกราคมที่แสนจะอบอุ่น...

..........

วันนี้ผมมีเรียนบ่ายเลยไม่รีบเท่าไหร่ พอมาถึงห้องเรียน บรรยากาศในห้องเรียนดูแปลกๆ เหมือนทุกคนจับจ้องคอยเวลาผมปรากฏตัวซะอย่างนั้น ความรู้สึกอึดอัดเลยแผ่ซ่านอยู่รอบๆ ตัวผม สายตาที่ไม่เป็นมิตรของเพื่อนๆ หรือผมคิดไปเองหว่า...

“เกม... มานี่แป๊บ” เสียงโตโต้ดังขึ้น ผมจึงเดินออกไปนอกห้อง โดยมียุ แอร์และโก๋ อยู่ตรงนั้นด้วย ซักพักเต้ก็เดินออกมา

“...” โก๋ยื่นซองๆ หนึ่งให้ผม ข้างในเป็นรูปถ่ายขนาดโปสการ์ด เป็นรูปของผู้ชายสองคนกำลังเคลียคลอเต้นกันอย่างสนุกสนานในสถานที่แห่งหนึ่ง แวบหนึ่งผมก็รู้ทันทีว่าเป็นรูปใคร...

“ทำไมเหรอ” ผมถามทุกคนด้วยความสงสัย

“นายอธิบายได้มั้ยว่ารูปพวกนี้มันคืออะไร” เป็นโก๋ที่ถามผมคนแรก

“ก็รูปเรากับโชกุน ไปเที่ยวกัน ทำไม?” ผมยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่า แค่ไปเที่ยวกันแค่นี้ ต้องเป็นเรื่องด้วยเหรอ

“เราว่าไม่เห็นแปลกที่เกมจะไปเที่ยวกับเพื่อน” เต้เอ่ยขึ้น

“ไม่แปลกหรอกถ้ามันแค่นี้จริงๆ” โก๋พูดต่อ

“หมายความว่าไง?”

“มีคนบอกว่า นายกับเพื่อนของนาย หลังออกจากผับดังกล่าวก็พากันเข้าโรงแรมทันที”

“ว่าไงนะ... โรงแรม...”

“ใช่ ส่วนเข้าไปทำอะไรมีแต่นายที่รู้เท่านั้นแหล่ะ”

“รูปนี้จะไม่ดังเลยนะเกม ถ้ามันไม่ได้โพสต์ตามเน็ต และว่าเสียๆ หายๆ ตอนนี้เด็กวิทยาการฯ เกลียดนายเข้าไส้แล้ว” โตโต้พูดบ้าง

“แล้วไง... ต้องให้เราพูดอะไรหล่ะ บอกว่า ขอโทษ งั้นเหรอ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ความจริง”

“จริงไม่จริง ใครจะรู้หล่ะ” โก๋พูดขึ้น

“...” ผมเดินเข้าไปในห้องและหยิบสัมภาระออกจากห้องทันที คำว่าเพื่อนไม่สามารถทำให้เชื่อใจกันได้เลยเหรอ

“เราไม่รู้หรอกว่าพวกนายคิดยังงัย แต่เรื่องแค่นี้ทำให้พวกนายพูดต่างๆ นานา โดยไม่ฟังคำพูดจากปากเกมเลย เราเสียใจนะ คำว่า เพื่อน ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย และนาย โก๋ เราไม่คิดว่านายจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้...” เสียงของเต้ดังขึ้น และเต้ก็หยิบของเดินตามผมออกมา รวมทั้งเพื่อนในกลุ่มของเต้ด้วย

“อย่าคิดมากเลยเกม” เต้พูดปลอบผม

“เราไม่ได้คิดมากเรื่องรูปเลยนะเต้ แต่คิดเรื่องเพื่อนมากกว่า คิดได้แค่นั้นเหรอ”

“แต่มีเราที่เห็นแตกต่างไปจากคนอื่น” เสียงของโตโต้ ยุและแอร์ดังขึ้น

“แวบแรกที่เห็นรูป เราก็รู้แล้วว่าแค่เพื่อนกินเหล้าด้วยกัน ไม่มีรูปยืนยันว่านายสองคนเข้าโรงแรมซักหน่อย เราเที่ยวมาเยอะ ทำไมจะไม่รู้” แอร์พูดขึ้น

“ช่างเหอะ อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่า ใครคือเพื่อนแท้...” ผมพูดพลางเดินตรงไปยังโรงอาหารทันที สรุปคาบนั้นไม่มีการเรียนการสอน เพราะอาจารย์ที่สอนรับรู้เรื่องทั้งหมด เลยให้คุยกันให้เข้าใจ....

..........

“ไปเที่ยวกับแฟนก็ไม่บอกเต๊บสักคำนะ” เสียงของผู้ชายที่ผมอยากเจอหน้ามากที่สุดดังขึ้น

“เต๊บคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

“เปล่านี่ครับ เต๊บจะคิดอย่างนั้นได้ไง เกมกับโชกุนเป็นแค่รูมเมทกัน การไปเที่ยวมันก็ไม่แปลก ใช่มั้ยครับ” ไม่ว่าเมื่อไหร่ผู้ชายคนนี้ก็คือคนที่คอยปกป้องผมเสมอ

“แค่เต๊บเข้าใจเรา เราก็ดีใจแล้ว เราสาบานนะว่าไม่เป็นแบบที่เขาพูดกันแน่ เราแค่ไปเที่ยวกับโชกุนเท่านั้น ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้น”

“ครับผม เต๊บเชื่อ เอาเป็นว่าเกมไปเที่ยวกับเต๊บบ้างดิครับ”

“เต๊บจะพาเราไปเที่ยวไหนหล่ะ”

“สระบุรี ไปมั้ย”

“ไปดิ เมื่อไหร่ดี”

“ปิดเทอมก่อนซัมเมอร์ โอเคมั้ย”

“ตกลง” ผมคุยกับเต๊บอยู่นานพอควร ก่อนที่เต๊บอาสาพาผมไปตระเวนในตัวเมือง ซื้อของใช้ส่วนตัว ก่อนที่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวขึ้นไปเหยียบห้องพักของเต๊บ เต๊บพักกับเพื่อนคณะเดียวกัน ห้องถือว่าเรียบร้อยดี ขนาดว่าเป็นเด็กวิศวะนะเนี่ยะ เหอๆ...

..........

เรื่องของผมกับโชกุน ยังมีคนพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็น้อย เพราะข้อมูลที่มีไม่สมบูรณ์ คนส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อ อาจจะเพราะเด็กคณะสถาปัดพากันออกมาปฏิเสธ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในกลุ่มของโชกุนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ทำให้ผมหายห่วงไปเยอะครับ...

“เข็ดแล้วโชกุน แฟนคลับนายนี่น่ากลัวเป็นบ้า ต่อไปถ้าจะไปไหนกับนาย ต้องคิดหนักแล้ว” โชกุนฟังแล้วก็หัวเราะชอบใจ ไอ้หมอนี่เคยมีเรื่องทุกข์ใจกับเขาบ้างเปล่าวะ....

แล้วเรื่องราวต่างๆ ก็เงียบหายไป เพื่อนๆ ในห้องพากันขอโทษผมเป็นการใหญ่ ยกเว้นอยู่คนเดียว คือ โก๋ เขาเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินมา เขาเชื่อว่าแหล่งข่าวนั้นไม่มั่ว แล้วแหล่งข่าวที่ว่า คือใครหล่ะ... ช่างเหอะ ผมไม่สนใจแล้ว แต่อย่าให้เจอ ผมไม่เอาไว้แน่ หึหึ...

..........

“เกม นายจะไหน” เต้พูดขึ้น หลังจากที่ผมลากเพื่อนคนนี้มาด้วย ตอนนี้เราทั้งสองอยู่ที่ บขส.

“ขอนแก่น”

“ขอนแก่น!! นายจะไปทำอะไร”

“เหอะน่า เรามีธุระ และอีกอย่างจะพานายไปไหว้พระด้วย นะนะ”

“เออๆๆ ไม่ไปก็ไม่ได้แล้วนี่”

“55+” แล้วผมกับเต้ก็ขึ้นรถประจำทางเดินทางไปยังขอนแก่น

“แล้วนี่จะไปไหน”

“เราขอแวะไปที่แห่งหนึ่งก่อนแล้วกัน ไปเป็นเพื่อนแป๊บ เดี๋ยวพาไปไหว้พระ”

“โรงพยาบาล นายมาเยี่ยมใคร”

“ไม่ได้มาเยี่ยม แต่มาหาคุณแม่ของโชกุน”

“คุณแม่ของโชกุน?” เต้พูดอย่างงงๆ แต่ก็ยอมไปกับผมโดยดี

“อ้าวลูกเกม ไปไงมาไงจ๊ะ”

“สวัสดีครับคุณแม่ เกมนี่คุณแม่ของโชกุน”

“สวัสดีครับ ผมเต้ เพื่อนเกมครับ”

“สวัสดีจ๊ะ น่าตาน่ารักเชียว ลูกเกมมีอะไรหรือจ๊ะ”

“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณแม่นะครับ”

“ว่ามาจ๊ะ แม่ว่างพอดี”

“คุณแม่จำเรื่องที่คุยกับผมได้มั้ยครับ คุณแม่ครับ ผมอยากทำตามที่คุณแม่พูดนะครับ แต่...”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่เข้าใจ เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้ แต่คนที่ลูกควรบอก คือโชกุน นะจ๊ะ”

“ผมกะว่าคุยกับคุณแม่ก่อนนะครับ”

“เหรอจ๊ะ แม่เข้าใจจ๊ะ” ผมกับคุณแม่ของเต้คุยกันอยู่นาน ก่อนที่ผมจะขอตัวพาเต้ไปไหว้พระ...

“เรื่องอะไรเหรอเกม” ผมจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้เต้ฟัง

“เราว่าโชกุนก็น่าคบนะ”

“เราคิดกับโชกุนมากกว่าเพื่อนไม่ได้นะสิ”

“เพราะเต๊บใช่มั้ย”

“ใช่... ยังงัยเต๊บก็เป็นคนที่เรารักมาก่อน”

“สงสารโชกุนนะ แค่มาทีหลังคนอื่นเท่านั้น”

“แกก็อย่าพูดให้ฉันลำบากใจดิว่ะ”

“มันขึ้นอยู่กับแกนะเกม แต่คราวนี้แกเข้มแข็งขึ้นมากนะ ตั้งแต่เรื่องของกุ๊น”

“เหรอ คงงั้นมั้ง ขืนอ่อนแอเรื่อยๆ ขึ้นคานกันพอดี” ก่อนที่เราจะพากันหัวเราะและไปไหว้พระก่อนจะไปตระเวนซื้อของ และกลับมหาลัยในที่สุด...

.........

“กลับมาแล้วเหรอ... ไปไหนมาเนี่ยะ ของเยอะแยะ” โชกุนพูดขึ้นหลังจากที่ผมกลับมาจากขอนแก่นมาถึงหอ

“ไปเที่ยวกับเพื่อนมานะ” ผมไม่รู้จะสู้หน้าโชกุนยังงัยดี

“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าไม่สู้ดีอย่างนั้น ไม่สบายเหรอ” โชกุนพลางก้าวเข้ามาแตะหน้าผากผม ทุกอย่างที่โชกุนทำให้ผม ผมรู้ว่ามันออกมาจากใจจริงของเขา มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แต่ยังงัยเรื่องทุกอย่างต้องชัดเจนภายในวันนี้ ผมไม่อยากให้ใครต้องเจ็บอีกแล้ว...

“โชกุน... เรามีคำตอบสำหรับเรื่องของเราแล้วนะ”

“เหรอ... ตกลงเกม...”

“เราว่า เราสองคนคงเป็นได้แค่เพื่อน ขอโทษนะโชกุนที่เราให้ได้แค่นี้ เราไม่อยากให้นาย...”

“ดีแล้วที่เกมบอกเราตอนนี้ ถ้าขืนเกมบอกเอาตอนที่เรารักนายมากกว่านี้ เราคง...” โชกุนดึงผมเข้าไปกอด ก่อนที่เราทั้งสองจะร้องไห้ด้วยกัน ผมรู้ว่าผมผิดที่ไม่ทำให้กระจ่างตั้งแต่แรก ผมกลายเป็นคนโลเลไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยะ...

“แต่ยังงัยเราก็ชอบเกมนะ เกมคงห้ามให้เราชอบเกมไม่ได้ ใช่มั้ย”

“เราอยากให้นายมองคนอื่นบ้าง นายนะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่านะ ไม่เหมาะกับผู้ชายแบบเราหรอก” ผมพูดพลางขอตัวไปอาบน้ำ นี่เราทำร้ายคนที่รักเราอีกคนแล้วสินะ ทำไมแกถึงใจร้ายขนาดนี้นะเกม โชกุนเป็นคนดีขนาดนั้น ทำไมแกถึงไม่รัก ทำไม.....

..........

ต่อไป... ผมคงเป็นคนเลวในสายตาเพื่อนๆ แน่ๆ เลย  :m15:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-10-2007 22:39:38
เขาดี ๆ ทำไมไม่รัก  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :o12:  :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 16-10-2007 23:58:31
ถ้าคนที่เราแอบรักเขาคิดเหมือนเกม มันคงจะดีเผื่อเราจะมีหวังบ้าง แต่นะของงี้มันขึ้นอยู่กะใจแหละ ถ้าเกมชอบ โชกุนก็เลือกไปเลย  จะคบกับใครเราต้องมีความสุขน๊าจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 17-10-2007 09:25:44
เเหล่งข่าวที่เชื่อถือได้คือไอ้โก๋เองรึเปล่า :m16:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (อัพต่ออีกตอนครับ 15 ตุลาคม 2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-10-2007 17:02:02
น่าสงสารโชกุน แต่ก็ไม่มีใครสมหวังไปซะหมด
มันก็ต้องมีที่จับคู่แล้วไม่ลงตัว
บอกซะแต่เนิ่นๆ เจ็บก็ยังพอทำใจได้
 :m17: :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 17-10-2007 22:54:45
บทที่ 20 การเริ่มต้นของความรักครั้งใหม่

..........

จากวันที่ผมบอกความจริงให้โชกุนว่าเราทั้งสองคงเป็นได้แค่เพื่อน จนถึงสอบปลายภาคของปี 1 อย่างพวกผม ผมและโชกุนแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลย แม้ว่าผมและโชกุนจะอยู่ห้องเดียวกันตลอดซัมเมอร์ แต่คนที่พาผมไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ กลับเป็นเต๊บมากกว่า ผมชักอดสงสารโชกุนไม่ได้แล้วสิ แต่ก็เตือนตัวเองไว้เสมอว่า ถ้าผมใจอ่อน คนที่ต้องเสียใจมันจะไม่ใช่แค่เต๊บ แต่มันอาจจะเป็นโชกุน หรือรวมถึงตัวผมเองด้วยก็ได้...

ปิดเทอมภาคฤดูร้อนผมยังคงอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพื่อเรียนในช่วงซัมเมอร์ด้วย เต๊บชวนผมกลับบ้านผมที่อุบล ผมก็ปฏิเสธ ชวนกลับบ้านเต๊บที่สระบุรี ผมก็ปฏิเสธเพราะเรียนช่วงซัมเมอร์มันมีเวลาพักแค่สามวันต่อสัปดาห์ ผมเลยไม่อยากไปไหน...
แต่ในช่วงสงกรานต์หยุดติดต่อกันตั้งอาทิตย์ ผมและเต๊บจึงตกลงจะไปเที่ยวที่บ้านของเต๊บที่สระบุรี สงกรานต์ที่นั่นก็สนุก ทำให้ผมลืมเรื่องราวเครียดๆ ได้ หลังวันสงกรานต์มีเบอร์แปลกๆ โทรเข้าเครื่องของเต๊บตลอด และเต๊บก็มักเลี่ยงไปคุยคนเดียวทุกครั้ง...

“ใครโทรมาเต๊บ ทำไมต้องเดินออกไปคุยตั้งไกล”

“ไม่มีอะไรหรอกเกม... วันนี้ไปกินข้าวกับเต๊บนะ” สรุปผมก็ไม่รู้ว่าใครโทรเข้า

“เราว่าจะไปกินเป็นเพื่อนโชกุนนะ”

“ไปเป็นไรเกม ไปกินกับเพื่อนเถอะ” เสียงโชกุนดังขึ้น “เรามีนัดแล้ว” นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของโชกุน

“เหรอ...” ทำไมผมรู้สึกผิดหวังที่โชกุนมีนัดนะ

“งั้นทานให้อร่อยนะ” แล้วผมกับเต๊บก็ออกไปทานข้าวข้างนอก ม. กัน ช่วงนี้เป็นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ปลายภาคเรียนฤดูร้อน ไม่กี่วันข้างหน้าก็สอบปลายภาคแล้ว ก่อนที่จะเปิดเทอมของปีการศึกษาหน้าต่อไป...

..........

หลังจากกลับมาจากไปทานข้าวข้างนอกกับเต๊บผมก็ตรงขึ้นห้องทันที พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับข้าวของกลุ่มหนึ่งที่ถูกเก็บอย่างเป็นระเบียบ กล่องกระดาษ 3-5 กล่องถูกวางเรียงราย ทุกกล่องล้วนบรรจุข้าวของของเจ้าของอย่างเป็นระเบียบ...

“โชกุน... ทำอะไรเหรอ” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย

“เกมมาแล้วเหรอ... คือ เราจะย้ายออกนะ แจ้งพี่หอไว้แล้วว่าจะย้ายไปอยู่ข้างนอก เนี่ยะก็เก็บใกล้เสร็จแล้ว พรุ่งนี้เช้าคงจะให้รถเพื่อนมาขนไปให้”

“ย้ายออกทำไมเหรอ... นายเกลียดเราขนาดนั้นเลยเหรอ…” เสียงผมเริ่มสั่นแล้ว

“เกม... เกมอย่าคิดแบบนั้นเด็ดขาด...”

“แล้ว....”

“ที่เราย้ายออก... เรา... เราแค่ไม่อยากเห็นเกมไปไหนมาไหนกับใคร เราอยากอยู่ห่างๆ เกม เผื่อมันจะลืมเกมได้...” โชกุนพูดเสร็จผมก็เดินไปกอดมันทันที นี่ผมทำร้ายจิตใจคนที่รักผมขนาดนี้เลยเหรอ...

“…You can take my picture off your shelf
You can go all around by yourself
You can tell the others that we are blue
But darling I know one thing you can not do
You can never stop me loving you
You can never stop the way
That my heart beating too
You can never stop me loving you
That one thing you never do….”  

โชกุนฮัมเพลงๆ หนึ่งให้ผมฟัง เสียงของโชกุนเหมือนกำลังบังคับให้ตัวเองปกติที่สุด

“หวังว่าเกมจะไม่ห้ามเรานะ...”

“โชกุนไม่ย้ายออกไม่ได้เหรอ...”

“เกม... ถ้าเรายังอยู่ตรงนี้ เรายิ่งจะรักเกมมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งจะตัดใจจากเกมยากกว่าเดิม มันเจ็บนะเกม ที่คอยมองคนที่ตัวเองรักต้องเดินไปไหนมาไหนกับคนอื่น ที่ไม่ใช่ตัวเอง...”

“เกมเข้าใจเรานะ...”

“...” ผมได้แต่ร้องไห้ครับ มันรู้สึกไม่ดีมากๆ ที่ทำกับโชกุนแบบนี้...

“อย่าร้องไห้ดิ เกมไม่ผิดนะ... เลิกร้องไห้น่า...”

“Send me the pillow that you dream on
Don’t you know that I still care for you?
Send me the pillow that you dream on
So darling, I can dream on it too
Each night while I’m sleeping, oh so lonely
I’ll share you love and dream
That once was true...”  

โชกุนพูดบทความบทหนึ่งขึ้น

“คุ้นๆ นะโชกุน... ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน” ผมพูดเบาๆ

“ก็มานิยายที่เกมชอบไง เราเห็นเกมชอบเอาออกมาอ่านประจำ ก็เลยลองหยิบมาอ่าน แล้วเจอข้อความนี้เลยฝึกไว้ หวังว่าซักวันที่ได้เป็นแฟนกับเกมแล้วจะพูด แต่...”

“จะขอหมอนเราเหรอ... เหม็นน้ำลายนะ”

“55+” แล้วมันก็เดินเข้ามากอดผม ทั้งเสียงหัวเราะและสะอื้นไห้ที่ต่างระบายออกมาจากใจของทั้งสองคน มิตรภาพแบบนี้คงหาได้ยาก...

..........

รุ่งเช้าผมกับเต๊บก็ช่วยกันขนข้าวของของโชกุนขึ้นรถจนหมด กว่าจะเสร็จเล่นเอาหอบเลยครับ

“ขอบใจมากนะเกม นายด้วยเต๊บ ฝากดูแลเจ้าชายคนนี้ด้วยนะ ไปหล่ะ” แล้วโชกุนก็ออกจากหอพักนั้นไป

“ท่าทางโชกุนจะชอบนายมากนะ” เต๊บพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

“ไม่คิดว่าคนขี้เหร่ๆ แถมขี้แยอย่างเกมจะมีคนมาหลงมากขนาดนี้”

“โชกุนไม่ได้ชอบเราหรอก... แต่รักเลยแหล่ะ”

“...” เต๊บเงียบ

“หึงเหรอ...”

“เต๊บจะหึงทำไมหล่ะ เกมกับเต๊บไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”

“อืมมม... ใช่ งั้นเกมขอตัวนะ ยังง่วงๆ อยู่” ผมพูดพลางเดินขึ้นหอทันที

“อ้าว... ตามมาไมอะเต๊บ”

“...” มันไม่พูดอะไรแต่แทรกตัวเข้าไปในห้องและล้มตัวลงนอนที่เตียงทันที

“นี่ๆๆๆ เกมจะนอน ลุกออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

“...” มันยังเงียบอีกครับ แถมหลับตาห่มผ้าอย่างสบาย

“เป็นอะไรอีกหล่ะ... ถ้ายังเงียบอีกไม่ต้องพูดกันอีกเลยนะเต๊บ”

“เป็นแฟนกับเต๊บนะ” มันเด้งตัวขึ้นมาจับมือผมและพูดประโยคนั้นออกมา

“แน่ใจนะ เรานะขี้เหร่นะ แถมขี้แยอีกต่างหาก รับได้เหรอ”

“ได้ดิครับ รอมาตั้งนาน ยังงัยก็ได้ครับ”

“งั้น... รออีกแล้วกันนะ”

“อะไรนะ จะให้รออีกเหรอ ที่ไอ้กุ๊.... เอ่อ...”

“กุ๊น... จะพูดอย่างนี้ใช่มั้ย หึงก็บอกมาตามตรงเถอะ”

“คร้าบบบบบ หึงห็หึง”

“ก็แค่นั้น เก๊กอยู่ได้... เขยิบไปอีก ง่วง” ผมพูดพลางล้มตัวลงนอน โดยมีเต๊บนอนกอดผมอยู่ ก่อนที่เราจะหลับไปด้วยกันในเช้าที่อากาศแจ่มใส...

..........

ผมไม่อยู่หลายวันนะครับ กลับมาคราวหน้าคงขึ้นปี 2 แล้ว อิอิ

นายเต้จอมงี่เง่าครับผม
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 17-10-2007 23:04:25
นายเเต๊บมีเเววไม่ดีอีกคนละเฮ้อออ :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-10-2007 00:47:09
สงสารโชกุนจังเลย  :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 18-10-2007 08:52:54
คนดีๆก็ไม่รักรักแต่คนที่ไม่ค่อยดีเพราะไรน๊าไงก็เคารพการตัดสินใจครับผม :a1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-10-2007 10:24:40
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-10-2007 11:04:48
เต๊ปแอบโทรหาใครหรอ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ตัดใจเสียแต่ตอนนี้ดีกว่านะ โชกุน
หันมามองเราบ้างก็ได้นะ
 :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 18-10-2007 11:19:05
        ผมไม่อยู่หลายวันนะครับ กลับมาคราวหน้าคงขึ้นปี 2 แล้ว อิอิ

         o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

       อยากอ่านต่อแล้ว  มีล้างร้ายรออยู่งไม่รู้   มะอยากให้มีเลย

       โชกุน น่าสงสารสุด ๆ อะ   แต่ไงก็ยังรักกุ๊นเหมือนเดิม

       รอนะ 22/10 นี้   
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-10-2007 16:28:46
นายเต๊บมีพิรุธ  :m17:  :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: icezanesta ที่ 19-10-2007 21:02:32
เริ่มเข้าข่ายไม่น่าไว้ใจอีกคนละ   :m26:

ไม่เชียร์เต็บแล้ว  โชกุนดีก่า

จาเอาโชกุนอะ จาเอา   o9

รอพี่เต้มาต่อนะค้าบ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-10-2007 22:04:34
แหะๆ...ไม่ได้เข้ามาหลายวัน

แต่ก้อมาตามอ่านหมดแย้วนะฮะ

แย้วแบบนี้จะเปงยังไงต่อไปนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อย่าลืมมาต่อนะฮะ

ห้ามลืมเลยนะฮะ

จะรอนะฮะพี่เต้

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ โดย นายเต้ (New Update!!! October 18 2007)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 20-10-2007 23:35:57
กำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 21-10-2007 19:36:03
ลูกเป็ดขี้เหร่

..........

ย่างเข้าสู่เดือนที่สองการยอมรับเต๊บเข้ามานั่งข้างๆ ผมแทนคนอื่น และเป็นเดือนที่สอง หลังจากโชกุนเดินหันหลังออกจากห้องนี้ไป ทุกอย่างเข้าสู่ปกติ เพื่อนๆ หลายคนเริ่มเข้ามาขอโทษกับหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเทอมที่แล้ว ผมแทบจะไม่ได้จำเรื่องไร้สาระต่างๆ นั่นเลย แต่เมื่อเพื่อนๆ เขาเข้าใจได้ ผมก็ดีใจครับ...

ทุกอย่างเข้าสู่ปกติ แต่มีอยู่หนึ่งที่เริ่มเปลี่ยนไป...

“เกม... พักนี้แกกินเก่งมากเลยนะ ลองไปชั่งน้ำหนักดูหน่อยดิ เท่าไหร่แล้วเนี่ยะ” โตโต้พูดขึ้นขณะที่กลุ่มของพวกผมกำลังทานข้าวในโรงอาหาร ทำให้ผมหยุดกินแล้วหันมาสำรวจตัวเอง เอ... ดูจะมีน้ำมีนวลขึ้นแฮะ เหอๆ...

“เหรอ... อืมมมม ไม่มั้ง ก็แค่เอวเพิ่มขึ้น 2 นิ้วเอง 55+” ผมพูดแต่ก็ยังคงกินต่อไป หลายๆ คนก็เริ่มพูดเหมือนโตโต้มากขึ้น ผมนะ ถ้าได้เกิดมีความสบายใจเมื่อไหร่ กินเยอะตลอด และอีกอย่าง น้ำหนักผมมันคงที่มากว่า 5 ปีแล้ว ขึ้นบ้างนิดหน่อยคงไม่ป็นไรหรอกมั้ง

“ขึ้นบ้างนิดหน่อยของแกเนี่ยะ ฉันว่าไม่ต่ำกว่า 10 กิโลแน่เกม” ไอ้เพื่อนเต้แซวผม เหอๆ จริงเหรอเนี่ยะ

“เต๊บมันเลี้ยงแกดีขนาดนั้นเชียวเหรอว่ะเนี่ยะ”

“เปล่านี่ เหอๆ เราสบายใจมั้งเลยสนุกปากไปหน่อย”

“ให้มันสนุกน้อยๆ หน่อยก็ดีนะ”

“เต๊บมันก็ไม่เห็นว่าอารายเลย”

“จ้า... คงเกรงใจแกแหล่ะ” ผมเริ่มจะสำรวจตัวเองแล้วหละครับ พักนี้รู้สึกอึดอัดจริงๆ แหละ กางเกงตัวเดิมก็ใส่ไม่ได้ด้วย หุหุ ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ววววว

“ทำอะไรครับ...”

“เฮ้ย...” ตกใจดิครับ กระผมมันคนขวัญอ่อนซะด้วย เหอๆ

“ขอโทษครับ เกมตกใจขนาดนั้นเชียว แอบคิดถึงใครใจลอยเนี่ยะ”

“เปล่านะเต๊บ เราค่ำลังคิดว่าจะไปชั่งน้ำหนักดีหรือเปล่า”

“55+ นึกว่าอะไร ป๊ะเดี๋ยวพาไปชั่ง” ว่าแล้วมันก็ดึงมือผมไปยังเครื่องชั่งดิจิตัลที่อยู่หน้าศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัย

“อ่ะ... ไม่เป็นไรเต๊บ แบบว่า...”

“แบบว่าอะไรครับ... หือ?”

“เปล่า...” ว่าแล้วผมก็เดินขึ้นบนตาชั่งทันที เหอๆ หลับตาแล้วค่อยๆ เปิดตาดูดีกว่า

“โห... เกม น้ำหนักขึ้นเยอะขนาดนี้เลยเหรอ” เสียงเพื่อนๆ เหล่าเพชฌฆาตตัวดีดังขึ้น ดาบพร้าทิ่มแทงร่างกายและจิตใจผมพรุนไปหมดแล้วววววว

“เกือบ 80 เลยเหรอเนี่ยะ สงสัยนายจะเลี้ยงดีไปหน่อยนะเต๊บ” มันยังคงพูดต่อไปโดยไม่ได้มองดูหน้าผมเลยว่าตอนนี้มันซีดแค่ไหน ว่าแล้วผมก็เดินลงจากเครื่องชั่งและเดินกลับขึ้นหอทันทีเลยครับ ฮือๆๆๆ อ้วนแล้วอะ... เต๊บต้องไม่ชอบแน่เลย (55+)

พอขึ้นมาบนห้องผมก็อาบน้ำแล้วก็นั่งอ่านหนังสือ เต๊บตามผมขึ้นมาติดๆ ผมแอบมองดูเต๊บ ดูหน้าตาเขาดูดีขึ้นมากกว่าตอนปีหนึ่งตั้งเยอะ หน้าก็ใส้ปิ๊งเชียว ผมกับเต๊บอายุครบ 20 ทั้งสองคนแล้ว แต่ทำไมมันต่างกันอย่างนี้วะ เต๊บหล่ะหล่อเอาๆ ส่วนผมดิ เฮ้อ.... ขี้เหร่เอาๆ

“ถอนหายใจอะไรครับ...” เต๊บพูดพลางดึงผมเข้าไปกอด แล้วก็หอมแก้มผม

“...” ผมส่ายหน้าแล้วก็พยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดมัน เพื่อจะไปอ่านหนังสือต่อ

“กังวลเรื่องน้ำหนักเหรอ...”

“...” เหอๆ ผมนิ่งทันทีครับ

“กังวลทำไมหล่ะ... เต๊บก็ไม่เห็นว่าเกมจะดูแตกต่างจากเดิมเลย”

“...” เกมยังนิ่งครับ

“เต๊บว่ากอดอุ่นดีออก” อ่า... แปลว่าผมอ้วนขึ้นจริงๆ ด้วย

“เกมอ้วนแล้วเต๊บยังจะมาสนใจอีกเหรอ”

“เกมดูถูกเต๊บนะเนี่ยะ... เกมจะเป็นยังงัยเต๊บก็ยังชอบเหมือนเดิมแหล่ะ”

“อืมม...” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่ก้มหน้าต่อไป

“เดี๋ยวเราลงไปทานข้าวกันนะครับ จะ 2 ทุ่มแล้วเนี่ยะ”

“ไม่เอาอะ... เกมจะลดน้ำหนัก...” จ๊อกกกกก เสียงท้องผมดังขึ้น มันทรยศผมอะ

“555+… อย่าทรมาณตัวเองเลยน่าเกม”

“ไม่เอา...” ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นไปอ่านหนังสือต่อ

“งั้นเดี๋ยวเต๊บไปซื้อผลไม้มาไว้ให้นะครับ”

“เต๊บจะกินข้าวก็ได้นะ เกมไม่ว่า”

“ไม่เป็นไรครับ แฟนไม่ทาน เต๊บก็ต้องไม่ทานเหมือนกันครับ” ว่าแล้วมันก็หอมแก้มผมอีกครั้ง เหอๆ

“ไม่เป็นไรหรอก”

“เอาน่า เกมอ่านหนังสือไปเหอะ เด๋วเต๊บมานะครับ” แล้วเต๊บก็ออกไปซื้อผลไม้ ส่วนผมก็อ่านหนังสือต่อไป

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 21-10-2007 19:44:14
สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ

..........

-ตอนแรกที่ได้มีโอกาสรู้จักกับเกม ได้คุยกับเกม เรารู้สึกได้เลยว่าว่า

“คนนี้แหล่ะที่จะเปลี่ยนชีวิตเราได้”

และก็ไม่ผิดหวังเลย 3 ปีที่ได้รู้จักเกมมา เกมได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่มีได้ตัวเราจนหมด จากเด็กที่ไม่สนการเรียน เราก็หันมาตั้งใจเรียน จากเด็กที่ชอบเที่ยวเตร่ เราก็เลิกเที่ยว เลิกดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ จากเด็กที่ไม่เคยเห็นค่าของตัวเอง เราก็มองค่าของตัวเองมากขึ้น

เกมรู้ใช่มั้ยว่าเกมมีอิทธิพลต่อเรามากแค่ไหน มากกว่าคนอื่นที่เรารู้จักมาด้วยซ้ำ แต่เราก็รู้ว่า ไม่มีทางไหนเลยที่เราจะก้าวไปยื่นข้างๆ เกมได้ แม้ในยามที่เกมไม่มีใคร เรายังไม่อาจก้าวไปแทนที่ใครตรงนั้นได้เลย

เกมเคยอ่านหนังสือเล่มนี้มั้ย “ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน” หนังสือเล่มนี้มันเป็นตัวจุดประกายให้เราเดินในทางที่ดี ประจวบกับที่เราได้มารู้จักกับเกม ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า “ตัวเรามีค่าต่อคนอื่น” มีอยู่ตอนหนึ่งในหนังสือ เราชอบมากเลยนะ เรารู้สึกว่า มันตรงกับเราดีจัง

   “ตาคู่นั้นฝันซึ้งตรึงใจฉัน
ทุกคืนวันพร่ำเพ้อละเมอหา
เมื่อยามห่างไกลน้องเจ้าของตา
ในอุราทุกระทมตรอมตรมใจ

   ดวงตาเธออบอุ่นละมุนนัก
แทนความรัก ความพะวง ความหลงใหล
เฝ้าแต่หวังจะแนบชิดเป็นนิจไป
นานเพียงไรก็จะอยู่... คู่เคียงเธอ”-…

“ทำอะไรครับผม” เสียงใครซักคนดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันกลับไปดู แล้วจมูกสันโด่งก็ประทับลงบนแก้มผมอย่างตั้งใจ

“ชื่นใจจัง... อืมม ... อติยะ สังคะปัด เพื่อนเกมเหรอครับ?” เต๊บพูดพลางนั่งลงข้างๆ ผม และอ่านข้อความในเฟรนชิบของผม

“อืม... เป็นเพื่อนสมัยม.ปลายอะ”

“อือออออ... หน้าตาดีนี่ครับ กิ๊กเกมเหรอ หึหึ”

“บ้า... เพื่อนจริงๆ”

“เพื่อนกันเขาไม่เขียนเฟรนชิบหวานขนาดนี้หรอกนะครับ” ว่าแล้วมันก็ดึงผมเข้าไปกอดอีก

“สำหรับเกมแล้วเขาคือเพื่อนที่หวังดีที่สุดสำหรับเกม ในตอนที่เกมเศร้าสุดๆ ก็ได้เขานี่แหละคอยปลอบใจ แต่เกมไม่เคยคิดกับเขาเกินไปกว่าคำว่าเพื่อนหรอกนะ” ผมพูดแล้วก็ยิ้มๆ

“น่าขอบใจนายคนนี้จังนะ” เต๊บพูดพลางหยิบสมุดเล่มนั้นมาเปิดดู จนถึงหน้าสุดท้าย...

“สร้อย...” เต๊บเอ่ยขึ้น จนทำให้ผมหันกลับไปมอง สร้อยคอจี้รูปหัวใจที่ผมหามากว่า 1 ปี ที่แท้มันมาอยู่หน้าสุดท้ายของเฟรนชิบเล่มนี้เองเหรอ

---“ของที่กุ๊นให้เกม กุ๊นไม่เอาคืนหรอกนะครับ มันอยู่สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ...”---

ผมคิดถึงคำพูดนั้นในวันปัจฉิมนิเทศนักเรียนม.ปลาย พร้อมกับหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาดู

“ของใครเหรอครับ...” เต๊บถามพร้อมกับวางเฟรนชิบเล่มนั้นลง ก่อนที่จะหันมาทางผม

“ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เกมได้จากกุ๊นนะ เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว...” ผมพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบเฟรนชิบเล่มนั้นมา แล้วก็เปิดหน้าสุดท้าย ซึ่งผมไม่เคยเปิดจนถึงหน้านี้เลย...

“เกมเคยคืนกุ๊นไปตอนที่ทะเลาะกัน แต่ตอนปัจฉิม กุ๊นบอกว่าเอามาไว้ที่สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ เกมไม่คิดมาก่อนเลยว่ามัน... จะอยู่ตรงนี้...” ผมพูดแล้วก็มองไปตรงหน้าสุดท้ายที่ทำขึ้นมาแบบพิเศษเพื่อเก็บสิ่งของเล็กๆ ของสมุดเฟรนชิบเล่มนี้ ก่อนที่จะเอาสร้อยเส้นนั้นกลับเข้าที่เดิมของมัน

“...” เต๊บเงียบไป และยังคงมองดู “สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ”

“คิดมากน่าเต๊บ... มันผ่านมานานแล้ว เกมแทบจะไม่เหลือความทรงจำตรงนั้นแล้วหล่ะ”

“ครับผม... เต๊บเชื่อเกมครับ” เต๊บพูด ก่อนที่ผมและเต๊บจะออกไปหาอะไรทานหน้ามอต่อไป

..........

“ดูแกไม่อวบแล้วนะ” เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังมากระทบโสตประสาทผม

“ปากแกนี่... ไม่เป็นมงคลจริงๆ ไอ้เต้”

“55+... สงสัยจะออกกำลังหนักนะเนี่ย หุหุ”

“ใครจะไปเหมือนแกเล่า 55+” ได้ทีกัดมันคืนครับ

“อืม... อย่าพูดถึงมันเลย” เต้พูดพลางก้มหน้าอ่านหนังสือ ช่วงนี้เต้กับพี่กฎมีเรื่องระหองระแหงใจกัน ผมก็ไม่รู้จะทำยังงัยเหมือนกัน --เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า--

“แล้วเต๊บเป็นไงบ้าง พักนี้ไม่ค่อยเห็นหน้า”

“ก็ลงปฏิบัติการเยอะพอควร อยู่ห้องเดียวกันแท้ๆ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่หรอกถ้าไม่ใช่วันหยุด”

“รักกันดีๆ หน่อยละกัน อย่าให้มันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยล่ะ...”

“อืม... จะพยายาม เราก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอก ถ้าเต๊บมันคิดจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ เราก็ยินดีนะ”

“แกคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”

“อืม... แล้วแกหล่ะ เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะ” ต่างคนต่างมองตากันแล้วก็เงียบ ความเป็นเพื่อนของผมกับเต้ที่มีมานาน ทำให้รู้ใจกันบ้าง

“จะพยายาม...” แล้วมันก็ยิ้มออกจนได้

“เอ้อ... เกม เมื่อวานมีคนโทรหาเรานะ ทายซิว่าใคร”

“อืม... ใครอะ เพื่อนสมัยมัธยมเหรอ”

“ใช่ๆ... กุ๊นนะ”

“อือ... เหรอ แล้วเขาว่าไงบ้างหล่ะ”

“ก็ไม่มีอะไร มันโทรมาถามสุขทุกข์ธรรมดา... ถามถึงแกด้วย...”

“ว่าไงสองหนุ่ม มานั่งจู๋จี๋กันแถวนี้นี่เอง” เสียงเพื่อนๆ ดังขึ้น ช่วยผมได้เยอะ เหอๆ

“เข้าเรียนได้แล้ว...” ก่อนที่ผม เต้ และเพื่อนๆ จะเดินเข้าห้องเรียนต่อไป...

..........

“ทำอะไรอยู่ครับ” ผมเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเต๊บนั่งอ่านอะไรซักอย่างบนโต๊ะหนังสือผม หลังจากที่กลับมาจากการเรียนอันหนักหน่วงของวันนี้

“กำลังดู ‘สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ’ อยู่ครับ”

“...” ผมเดินไปนั่งบนเตียง และมองดูสิ่งที่อยู่ในมือของเต๊บ

“เต๊บอยากให้เกมโยนมันทิ้งมั้ย”

“...” เต๊บเงียบและมองมาที่ผม

“มันเป็นสิ่งสุดท้ายของมิตรภาพสำหรับเกมนะครับ เกมจะตัดใจทิ้งมันได้เหรอ”

“แต่เกมไม่อยากให้เต๊บมาเป็นกังวลมันแบบนี้นี่ครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เก็บมันไว้ที่ ‘สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ’ นี่แหล่ะดีที่สุด”

“เต๊บรู้ว่าเกมลืมเรื่องราวที่ผ่านมาได้หมดแล้ว และเกมกับเต๊บก็เริ่มต้นทุกอย่างใหม่ด้วยกัน” เต๊บพูดหลังจากลงมานั่งที่เตียงกับผม และดึงผมเข้าไปกอดด้วย

“เรื่องที่ผ่านมาเป็นอดีตสำหรับเกม แต่เต็บคือปัจจุบันและอนาคตของเกม เชื่อเกมนะ...” ผมพูดพลางยื่นหน้าไปหอมแก้มมัน เป็นการเอาใจ เหอๆ

“ครับผม เต๊บเชื่อใจเกมครับ” และมันก็หอมแก้มผมเช่นกัน ยังงัยซะคนที่อยู่ตรงหน้า ก็คือคนที่ผมรัก ณ ขณะนี้ ใช่มัยครับ...

“เดี๋ยวเต๊บอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วเราลงไปทานข้าวกัน”

“ชวนเกมทานข้าวอีกแล้ว ยิ่งอ้วนๆ อยู่”

“55+ อ้วนที่ไหน เกมผอมลงจากเมื่อเดือนที่แล้วตั้งเยอะ” มันพูดและกอดผมแน่นกว่าเดิม

“ปากหวาน...”

“รู้ได้ไงครับว่าหวาน... เคยลองแล้วเหรอ” มันยิ้มเจ้าเล่ห์อีกแล่ว

“นี่ๆ.... อย่าคิดทะลึ่งเด็ดขาด” ผมพยายามจะดิ้นออกจากอ้อมกอดของเต็บ แต่ไร้ผล

“....” ไม่ช้าเต๊บมันก็ทำสำเร็จสำหรับการจูบผม เป็นจูบที่ยาวนาน และหวานที่สุดเท่าที่ผมได้รับจากมัน เหอๆ

“คราวหน้าจะไม่เฉพาะจูบนะครับ” มันพูดพลางลุกขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำต่อไป

“ไอ้บ้า...” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะหยิบสมุดเฟรนชิบเล่มนั้นขึ้นมา แล้วเปิดหน้าสุดท้าย

“สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ... เข้าใจใช่คำนะไอ้ตี๋”

“เอ๊ะ...” ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า นอกจากสร้อยของกุ๊นแล้วยังมีซอกเล็กๆ ซอกหนึ่งซ่อนอยู่ ผมจึงพยายามแงะๆ มันดู ปรากฏว่าเป็นการ์ดใบๆ เล็ก ที่ข้างในบุด้วยกลีบกุหลาบสีขาวที่ถูกสตัฟฟ์ไว้อย่างดี และกระดาษแผ่นหนึ่ง จ่าหน้าว่า --ถึง เกม-- ของใครหว่า ว่าแล้วผมก็เปิดอ่านทันทีครับ

--ตอนที่เกมอ่าน ไม่รู้ว่าจะเป็นตอนไหน เพราะเราแอบทำซอกเล็กๆ ซอกนี้ไว้โดนไม่ได้บอกใคร และเราคิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็น และตอนที่เกมเปิดอ่านไม่รู้ว่าเกมจะยังจำคนๆ นี้ได้มั้ย คนที่คอยมองเกม โดนที่เกมไม่เคยหันมอง คนที่เกมเห็นเป็นแค่เพื่อน และตอนที่เกมเปิดเจอไม่รู้ความรู้สึกที่เกมมีต่อเราจะเป็นยังงัย แต่สำหรับเรา คำว่า “รัก” ที่เรามีให้เกม คงไม่ลดน้อยถอยลงแน่นอน เรายังจำได้ คำพูดที่เกมเคยบอกกับเรา “...ตงก็เป็นเพื่อนที่ดีๆ ที่สุดคนหนึ่งของเรา...” คำพูดนี้ทำให้เรารู้สึกดีมาก แม้จะผิดหวังไปนิด แต่เราก็คิดว่า “แค่นี้” ก็ดีพอสำหรับผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้แล้ว

คำพูดสุดท้ายที่เกมพูดไว้กับเรา ไม่รู้ขณะที่เกมอ่านจดหมายนี้อยู่จะจำมันได้มั้ย “...เกมรักพี่ตงนะ แต่ความรักของเกมที่มีให้พี่ตง คือ ความรักที่เพื่อนมีให้แก่เพื่อน แต่พิเศษอย่างหนึ่ง พี่ตงเป็นเพื่อนที่เกมรักมากที่สุด...” ตอนนั้นเรารู้สึกดีมากๆ รู้สึกว่า โลกนี้ทั้งใบมีแค่เรากับเกมสองคน แม้จะเป็นแค่ “เพื่อน” แต่ก็พิเศษกว่าเพื่อนคนอื่น แต่มีคำพูดหนึ่งที่เราอยากพูดกับเกมมาก แต่ไม่มีโอกาสได้พูด

“พี่ตงคนนี้รักเกมมากที่สุด มากกว่าใครที่เคยเข้ามาในชีวิต” เราอยากพูดอย่างนี้กับเกมมากๆ อ้อ... การ์ดใบที่อยู่กับจดหมายนี้เราสั่งทำพิเศษเลยนะ เพื่อ“คนพิเศษ” คนนี้คนเดียว... พี่ตงของเกม (final pages of Friendships: สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ) and You can never stop me loving you--

พออ่านจดหมายนั่นเสร็จผมก็เลยพลิกการ์ดใบนั้นดู ในกลีบกุหลาบที่ทำเป็นพิเศษนั้น มีคำๆ หนึ่งเขียนไว้

--- ตง&เกม (ถ้าเป็นไปได้) ---

น้ำตาผมตกเลยครับ ผมอยากตอบพี่ตงจังเลยว่า “ความรู้สึกที่ผมมีให้ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเสมอ” ทำไมผมพลาดคนดีๆ แบบนี้ไปได้น่ะ...

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจ ทำไมทั้งพี่ตงและกุ๊นถึงพูดเหมือนกันว่า...

“สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ”

ไม่เข้าใจเลยอะครับ...

..........

กลับมาแล้วครับเพื่อนๆ คิดถึงผมบ้างเปล่า ส่วนผมคิดถึงทุกๆ คนเลยครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 21-10-2007 20:19:18

   ยิ่งอ่าน ยิ่งซับซ้อน   ความรักนี้มันไม่ธรรมดาจริง ๆ    o2 o2

  เมื่อไรรักเราจะได้กลับคืนบ้าง อะ เต้  :a1: :a9:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-10-2007 20:53:06
สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ  :a5:  :a5: คืออะไร  :m28:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-10-2007 02:38:14
มิตรภาพ ต่อให้ผ่านกาลเวลาไปนานขนาดไหน
มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เพียงแต่บางคนคิดว่ามันหายไปก็เท่านั้น
 :m1: :m1: :m1:

ลองเข้าไปสัมผัสมันดูอีกรอบ
มันเหมือนเดิม

รออ่านอยู่นะครับ
 :m11: :m11: :m11:

หวังว่าเกมจะมั่นคงกับเต๊บ
อย่างน้อยก็ได้จูบแล้วหล่ะหว่า คิกคิก
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-10-2007 10:49:39
พี่เต้คร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

มาต่อเยยได้มั้ยฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

มาต่อเยยนะฮะ

อย่าลืมมาต่อนะฮะ

อยากอ่านจิงๆนะ

แล้วมานจะเปงยังไต่อไปนะฮะพี่เต้

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: icezanesta ที่ 22-10-2007 11:34:23
รอพี่เต้มาต่อ   :a12:

เสียดายพี่ตง  :o11:

แต่ยังไงก็จะเอาโชกุนง่ะ  o9   o9  จะเอาโชกุนอะ คิคิ

รีบ ๆ มา ต่อ นะ ค้าบ

ให้รอนาน ระวังเค้าไประเบิดบ้านนะ  o12

:m4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแว้ววววว 21/10/2550)
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๐Robin๐๐ ที่ 22-10-2007 20:26:39
สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ...................เหรอ ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ ซักวันผมคงเข้าใจนะ  :เฮ้อ:

มาต่อเรวๆนะคับบบบ

ปล. จาเปงลม
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 22-10-2007 23:28:44
ดวงดารา จันทร และสุริยัน

..........

‘ถ้าเปรียบ เกม เป็นดั่ง ดวงดาว ผมก็คงได้แค่ ดวงตะวัน แม้จะสาดแสงหล่อเลี้ยงสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้อยู่เคียงคู่ ดวงดาว ได้เลย ผิดกับพระจันทร์ตอนค่ำคืนอย่างกุ๊น แม้จะสาดแสงได้เพียงยามค่ำคืน กลับได้อยู่เคียงข้างและเคียงคู่ดวงดาวได้ตลอด อยากเป็นดวงจันทร์บ้างจัง คงจะมีความสุขดี...

ถ้าเกมได้อ่านจดหมายฉบับนี้ เราสองคนคงได้อยู่คนละที่แล้ว ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องทำ เกมมีหน้าที่ที่จะต้องเรียน ส่วนเราก็มีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างดีเช่นกัน เมื่อวันก่อน เราได้มีโอกาสคุยกับกุ๊น ที่จริงไม่อยากจะบอกเกมเลยเกี่ยวกับตัวผู้ชายคนนี้ แต่เราก็มองไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะไม่บอกเกม กุ๊นมันเลิกกับเจนแล้วนะ มันไม่บอกเหตุผล แต่เราว่าเรารู้นะว่าทำไม นั่นเพราะมันยังคงรักและคิดถึงเกมเพียงคนเดียว เกมอาจจะได้ยินจากปากของคนอื่นแล้วว่า กุ๊นมันมีแฟนใหม่แล้ว แต่เราบอกไว้ตรงนี้เลยว่า กุ๊นมันไม่คิดจะมีใครอีก มันบอกว่าจะรอจนถึงวันที่เกมให้อภัย และกลับไปรักกันอีกครั้ง...

เท่านี้เราก็รู้เลยว่า ดวงจันทร์รักและคิดถึงดวงดาวมากแค่ไหน พระอาทิตย์อย่างเราเทียบไม่ได้เลย...

คิดถึงครับ

ตง

15 กันยายน 2545

..........

ผมนั่งอ่านจดหมายฉบับนี้จนจบ อือ... จดหมายจากพี่ตงงั้นเหรอ 15 กันยา 45 นี่มันเมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้วนี่หน่า จดหมายก็ประทับตราว่ามาถึงเมื่อวาน (20 สิงหาคม 2546) แต่วันประทับตราของวันที่ส่งนี่สิ 19 กันยายน 2545... Oh My Buddha!!! จดหมายฉบับนี้ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 ปีเลยเหรอเนี่ยะ ทำไมช่วงนี้มีอะไรให้ผมได้ประหลาดใจตลอดเลยนะเนี่ยะ เฮ้อ....

จดหมายฉบับนี้ ผมคงไม่ให้เต๊บได้เห็นหรอก ผมไม่อยากเห็นร่องรอยแห่งความกังวลเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขา เก็บจดหมายฉบับนี้ไว้ในกล่องดีกว่า อยู่อย่างสงบนะเจ้าจดหมาย....

ปีนี้เป็นที่ 2 ของการเรียนในสถาบันแห่งนี้แล้ว ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น จนแทบจะตั้งตัวไม่ติด นับแต่เรื่องของโชกุน เรื่องการผิดใจกันกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับโชกุน จนมาถึงเรื่องการพบกับเต๊บอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอีกเกือบ 3 ปีข้างหน้านั้น ผมจะเจออะไรอีกหรือเปล่า ถ้าต้องเจอก็ขออย่าให้หนักหนาเลย ผมเหนื่อยแล้ว...

“นั่งทำอะไรครับคนดี...” เต๊บนั่นเองครับ

“กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ ครับ แล้วนี่เต๊บไม่มีเรียนแล้วเหรอครับ”

“ครับผม... ว่าแต่เกมทานอะไรยังครับ” เต๊บพูดแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอด กอดอีกแล่ะ ไอ้นี่ กอดดีเจงๆ

“ยังเลยครับ.... กะว่าจะรอทานพร้อมเต๊บนี่แหล่ะครับ”

“น่ารักจริงๆ แฟนใครครับเนี่ยะ...” ว่าแล้วมันก็หอมแก้มผม ไอ้นี่... เริ่มลามปามแล่ะ

“บ้า...” ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นกะจะไปล้างหน้าซะหน่อย แต่ไอ้คุณเต๊บนี่สิดึงมือผมไว้...

“อะไรอีกหล่ะ... เกมจะไปล้างหน้าอะครับ”

“...” มันเงียบครับ แต่มองหน้าผมแบบ... ยังงัยดีอธิบายไม่ถูกอะครับ

“มีอะไร...”

“...” มันไม่พูดอะไร แต่ดึงผมลงไปแล้วก็.... ใช่แล้วครับ จูบ... ดูดดื่มซะด้วย 555+ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยโดนมันจูบนะ แต่ทำไมรู้สึกว่า มันแตกต่างจากครั้งก่อนๆ มากมาย แรกๆ ผมก็ขัดขืนมันอยู่หรอก แต่พอซักพัก... ชักเคลิ้มครับ 55+ ไม่อายเลยเรา ไม่พอครับ มันจูบอย่างเดียวไม่พอ มือมันเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วอะ (O_o” จาเสียบริสุทธิ์เหรอเรา) ซักพักมือมันก็ปลดกระดุมผมออกได้ทุกเม็ด เหอๆ เอาแล้วสิเรา มือมันมาถึงหน้าอกผมแล่ว.... อ๋า.... ทำไมมันเสียวๆ อย่างนี้หว่า อย่าถามนะครับว่ามือผมอยู่ไหน ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ครับ ก็เลยกอดคอมันไว้ O_O ตอนนี้ปากมันไม่ได้อยู่ที่ปากผมแล้วอะ มันไซร้ผมแล้ว ฮือๆๆๆๆ ไมมันเก่งจังว่ะ...

“อือ....” ส่งเสียงน่าอายออกไปจนได้ไอ้เกมเอ๊ย เพราะอะไรหล่ะ ก็ปากไอ้คุณเต๊บนะจิครับ มาถึงหัวนมผมแว้วววววววว....

‘ครั้งหน้าไม่แค่จูบแน่’ มันเคยพูดกับผมแบบนี้ ไม่คิดเลยว่ามันจาเร็วขนาดนี้ (ชักติดเรทแล้วอะ เหอๆ) ตอนนี้มันหันขึ้นมาจูบผมแล้ว ผมไม่ทันสังเกต แต่มองอีกที่เสื้อผมกับเสื้อของมัน (แค่เสื้อนา) หายไปไหนแล้วอะ ฮือๆ ผมจาเสียหนุ่มจริงๆ เหรอเนี่ยะ... เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน แล้วมันก็ผลักผมลงไปนอน....

“เกมครับ... วันนี้เต๊บขอนะ...” มันไม่พูดเปล่า แต่มันไซร้คอผมด้วย...

“ตะ...เต๊บ... เอ่อ.... แน่ใจนะ... อ๊ะ...” เสียงหายเป็นช่วงเชียว ไอ้เก๊มมมมมมมมมมมม...

“แน่ใจสิครับ... นะครับ” มันพูดพร้อมกับมองหน้าผมแบบอ้อนๆ

“....” เอาไงดีว่ะ ต้องมีข้อตกลงนิดหน่อยหล่ะวะ

“ละ... แล้วใครจะเป็นฝ่ายทำอะ...” พูดไปซะแล้ววววว...

“เต๊บไม่เอาเปรียบเกมหรอกครับ...” มันพูดพลางยิ้มให้ผม...

“...” ไม่มีอะไรครับ แบบว่า.... อ๊า.... อายจัง ผมพยักหน้าอะครับ

“งั้น... เต๊บขอก่อนนะครับ” ไม่ขออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ หุหุ เด๋วติดเรท ไม่ดีๆ 55+...

.........

“เราเป็นมากยิ่งกว่าแฟนแล้วนะครับ...” มันพูดพลางจูบกะผมอีกครั้ง

“อืมม...” ไม่รู้จาพูดอะไรอะครับ ก็มันอายนี่หว่า... เหอๆ

“เขินอะไรครับ…”

“เปล่า... แค่ไม่คิดว่าจะ...”

“หึหึ... ยังมีอีกครับ ไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเดียว...” มันพูดแล้วก็ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แล้วมันก็ลุกเดินโทงๆ ไปหยิบผ้าขนหนู ไม่อายเลยยย

“เขินอารายคร้าบบบบบ เมื่อกี๊ยิ่งกว่านี้อีก...”

“ไอ้บ้า...” ไม่รู้จะแก้เขินยังงัย ก็เลยโยนหมอนใส่มันซะ มันก็เลยได้แต่หัวเราะร่วนเชียว

“แต่เมื่อกี๊เกมก็ใช่ย่อยนะครับ ขนาดว่าครั้งแรก เล่นซะเต๊บระบมไปหมดนะเนี่ยะ 55+” แล้วมันก็หัวเราะมากขึ้นกว่าเดิม

“ไอ้บ้าเต๊บ...” ผมเลยลุกวิ่งไล่เตะมัน

“โอ๊ย...” เหอๆ เจ๊บโว้ยยยยยย ไม่เอาอีกแล้ว

“เจ๊บมากมั้ยอะครับ...”

“ไม่เท่าไหร่อะ... ก็ดูของเต๊บดิ จิ๊ดเดียวเอง 55+” ขอกัดมันหน่อยเหอะ

“เดี๋ยวเจอดีไม่ใช่น้อย...”

“แล้วเต๊บไม่เจ็บบ้างเหรอครับ...”

“เจ็บดิครับ... แต่เต๊บอดทนได้ เพื่อแฟน...” แล้วมันก็หอมแก้มผม เหอๆ

“งั้นอาบน้ำด้วยกันนะครับ...” มันชวนผม แต่ไม่รอให้ผมตอบหรอกครับ มันอุ้มผมเข้าห้องน้ำทันที...

“มะเดี๋ยวเต๊บอาบให้...”

“ไม่เป็นไรครับ...” ไม่ฟังอีกแล่ะ แล้วมันก็อาบให้ผมจนได้

“งั้นเดี๋ยวเกมอาบให้เต๊บด้วยล่ะกัน...” แล้วผมก็มีโอกาสพินิจพิจารณาร่างกายของเต๊บแบบจะๆ ครั้งแรก อืมม.... สมส่วนดีแฮะ มีกล้ามนิดๆ มี 6 แพ็คด้วย มองดูตัวเองเหอๆ ต่างกันจังวุ้ยๆ แม้จะส่วนสูงผมกะมันจะใกล้เคียงกัน (มันสูง 183 ผม 178)

“นี่ๆ พอเลยไอ้ลามก...” อะไรซะอีก ก็ไอ้เต๊บน้อยมันไม่อยู่นิ่งๆ แล้วสิ เหอๆ ไม่เอานะ...

“แหะๆ...” มันยิ้มแบบเขินๆ ก่อนที่เราทั้งสองจะล้างตัวแล้วก็ออกไปแต่งตัว แล้วก็ออกไปทานข้าวกัน อิอิ... มีฟามสุขจังวุ้ยวันนี้ 55+

เหอๆๆ วันนี้ทำไมติดเรทจังเนี่ยะ...

.........

“ทำไมวันนี้ดูแกมีความสุขจังวะ... ดูดิ ออร่าเปล่งแสบตาเชียว...” เพื่อนเต้ผมแซวผมในเช้าวันต่อมา 15 นาทีก่อนเข้าเรียน

“มีอะไรดีกว่าเรื่องกิน ที่ทำให้แกมีความสุขได้ว่ะ” ไอ้นี่...

“ปากเหรอว่ะนั่นนะ...”

“555+ แล้วนี่น้องรหัสแกเป็นไงบ้างว่ะ”

“ก็ดี เป็นผู้หญิง เจอหน้าฉันทีไร เร่งให้ฉันเลี้ยงตลอด”

“55+ เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง”

“ไอ้นี่... แล้วไอ้วินหล่ะวะ เป็นไงบ้าง”

“มันก็ยังกวนเราเหมือนเดิม แถมตอนนี้เข้าได้ดีกับกฎอีกต่างหาก”

“55+ อยากบอกพี่กฎจังเล้ยยยย ว่าให้ระวังหน่อย...”

“แก... ไอ้เกม...” แล้วเราก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เพื่อนๆ จะทยอยมาและเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนวิชาแรกของวันนี้...

..........

หลังเลิกเรียนแล้วผมกับเต้ก็หามุมสงบๆ คุยกัน...

“แกจำตงได้เปล่า” ผมพูดก่อนที่จะยื่นจดหมายฉบับนั้นให้เต้อ่าน

“อืม.... ดูพี่ตงเขาชอบแกมากเลยนะ” เต้มันพูดขึ้นหลังจากอ่านจดหมายฉบับนั้นเสร็จ

“แกดูวันที่ที่ส่งจดหมาย กับวันที่ที่เราได้รีบจดหมายดิ”

“เฮ้ย.... ข้ามปีเลยเหรอว่ะ...”

“อืมมมม....”

“เต๊บอ่านยัง”

“เราว่าจะไม่ให้มันอ่านนะ”

“อืมมมม... ก็ดีนะ อย่าให้เรือ่งแบบนี้มากระทบความสัมพันธ์เลย”

“คร้าบบบบบ....”

“แล้วนี่แกจะบอกฉันได้มั้ยว่าทำไมวันนี้แกดูอารมณ์ดีจัง”

“เหอๆ ไม่มีอะไรหรอก ก็เหมือนแกกับพี่กฎนั่นแหล่ะ”

“หมายความว่าไงวะ...”

“...” ผมไม่พูดอะไรหรอกครับ แค่ยิ้มๆ ทำไงได้ครับ อายนี่หน่า

“เฮ้ยๆๆๆๆ นี่แกกับเต๊บ...” มันทำท่าได้น่าเกลียดมากครับ

“ไอ้บ้าเอ๊ย....” ผมโบกหัวมันไปทีนึง

“เจ็บนะเฟ้ย...”

“555+”

“แล้วนี่ใครเป็นฝ่าย...”

“แล้วแกจะถามทำไมเนี่ยะ ไม่บอกโว้ย.... พอๆๆๆๆ”

“55+ อย่างแกอายเป็นด้วยเหรอว่ะ”

“อ้าวไอ้นี่” ก่อนที่จะพูดมากไปกว่านี้ ผมกับไอ้เต้เลยกลับหอดีกว่า

พอกลับมาถึงห้อง ก็เห็นพ่อตัวดีของผมนอนหลับอยู่ น่ารักจังวุ้ย ไม่ไหวๆ... (อย่าคิดลึกนา) ก่อนที่ผมจะล้มตัวลงนอนข้างๆ มัน แล้วก็กอดมัน และผมก็หลับไปกับมันอย่างมีความสุข หุหุ อย่าอิจฉานะคร้าบบบบบบ...

..........

หึหึ ปรับอารมณ์ให้ถูกนะครับ แยกแยะให้ออกว่าเรื่องไหนเศร้า เรื่องไหนสดใส 555+ สะจายยยยยยย
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-10-2007 23:47:06
เหอ เหอ เต๊บกับเกมลงเอยกันแล้ว  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 23-10-2007 00:54:06

  เรื่องที่อยากให้เศร้าก็ไม่เศร้าอะ    อยากให้เกมกับกุ๊น (หรือ โชกุนก็ได้อะ ยอม ๆ ) มาคืนดีกันอะ 
  มะเอาเต๊บอะ     :serius2: o9 o9    มะเอา   เชียร์ กุ๊น ขาดใจอะ เรื่องนี่

  จะว่าไปก็ยังมะหายโกรธเรื่องกฏนะ   :m16: :m16: (แอบพาดพิง)

  อยากเป็นดวงจันทร์(กับเต้)บ้างจัง  คิคิค... :laugh3: o3 o18 :o10: :kikkik: :yeb:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-10-2007 07:15:23
หว่า...อีกด้านนึงก้อเศร้าจนไม่เหลืออาราย

แต่อีกด้านทามมั้ยกลับมีความสุขละ

อย่าบอกว่ามานจะมีอารายเกิดขึ้นอีกนะ

ขอร้องละฮะอย่าให้มีอารายอีกเยยนะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะพี่เต้

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อจะรออ่านนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-10-2007 17:31:32
อ๊ะ เมื่อเลือกแล้วก็ทำมันให้ดีนะ อย่าลังเล
 :a2: :a2: :a2:
แต่แบบนี้ก็สงสารกุ๊นนะ มารู้ตัวก็สายเกินไป
 :m21: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 23-10-2007 17:51:53
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อีกหนึ่งความสดใส 22/10/2550
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-10-2007 18:44:50
...............พี่เต้ฮะ :m13: :m13:

คือมารอนะฮะ ช่วงนี่ว่างจัด

ยังไม่เปิดเทอม  :m17: :m17:

พรุ่งนี้เปิด ไม่รู้จะได้เข้าบ่อยมั้ย(แต่ก้อจะพยายาม คุคุ :m23: :m23:)

ยังไงก้อจะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 24-10-2007 02:39:21
บทที่ 4 ตติยบทของความรัก

.........

เปิดเทอมมาได้เกือบ 3 เดือนแล้ว เวลาช่างเดินเร็วซะเหลือเกิน ช่วงนี้เป็นฤดูฝน อากาศจึงค่อนข้างเย็นสบาย ผิดกับความรักของผมกับเต๊บ ซึ่งยังร้อนระอุอยู่นั่นเอง 55+ (อ๊ะอย่าคิดลึกน้าครับ) ข้าวใหม่ปลามันก็งี้แหล่ะคุณผู้โช้ม อะไรๆ ก็เลยเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เริ่มจากความสูงของผมมันเริ่มขยับแล้ว หลังจากที่หยุดนิ่งที่ 175 เซนติเมตร มาตั้งแต่ ม.3 ผ่านมาจะหกปีแล้ว มันขยับมาที่ 178 เซนติเมตรแล้วครับ ดีใจมากๆ อย่างน้อยก็สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอ้เปรตตัวนี้ได้ (อ๊ะโดนเขกหัวดั๊วะ โทดฐานที่ว่ามันเป็นเปรต) และอีกอย่างที่สำคัญ น้ำหนักผมลดแล้วววว จากที่เกือบ 80 กิโล ตอนนี้ปริ่มๆ ที่ 70 กิโลครับ อ๊ะแหม หุ่นเริ่มดีแล้ว สายตาของคนก็เริ่มสายส่องมาทางผมบ้างแล้วจิ 55+ น้ำหนักลด สิวก็เริ่มลด แม้หน้าจะไม่ใสกิ๊กเหมือนคนอื่น แต่ก็พอมองได้หล่ะว้า...

“เดี๋ยวนี้แกเริ่มดูดีขึ้นแล้วนะ ได้น้ำดีแน่ๆ” เสียงกะเทยไฮโซอย่างโตโต้ดังขึ้น หล่อนสะดิ้งได้น่าเตะสุดๆ

“แน่นอน 55+” ผมก็เล่นกับมันครับ

“คะแนนสอบกลางภาคออกแล้ว ไม่น่าพอใจเล้ย” เสียงเพื่อนๆ บ่นครับ ก็จริงแหล่ะ เทอมนี้วิชาหลักๆ ยากมากครับ Stat เอย Analytical Chem. เอย ชีวเคมีเอย เหอๆ แทบตาย

“คะแนนแกเป็นไงบ้างวะเกม”

“อืม... นอกจากแอนอลเคมนะ นอกนั้นน่าพอใจหมด”

“เอาเหอะ แกพยายามหน่อยแล้วกัน”

“โหยแก คะแนนน้อยมากเลยนะ เนี่ยะเราว่าจะไปดร็อบวิชานี้อะ”

“คิดดีๆ นะเกม” ยุเอ่ยขึ้น

“อืม... ถ้าไม่ดร็อบนะ มีหวังเกรดเราตกแน่เทอมนี้”

“อืม... ฉันเห็นเพื่อนๆ กลุ่มอื่นไปดร็อบอยู่นะ” แอร์เอ่ยขึ้นบ้าง

“อืม... เดี๋ยวฉันปรึกษาพี่รหัสก่อนดีกว่า ค่อยดร็อป” จากนั้นพวกเราก็พากันเข้าเรียนทันที ไม่ต้องถามนะครับว่าโก๋หายไปไหน ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่เขาไม่กล้าสู้หน้าผมเท่านั่นเองครับ...

มีอีกอย่างหนึ่งที่มีความเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ผิวหน้าอันเนียนๆ ของสุดที่รักของผม ตอนนี้เริ่มมีสิวให้เห็นบ้างแล้ว ฮือๆ น่าสงสารมากมาย ทำไมนะเหรอ ก็พ่อเล่นเรียนหนักมากๆ กลับมาถึงห้องทีแทบจะไม่อาบน้ำ หลับเป็นตาย ก็คงได้ผมนี่แหล่ะที่คอยปรนนิบัติพัดวี คอยถอดนู่นถอดนี่ เก็บของต่างๆ ให้ ใบหน้าอันหล่อเหลา (ในความคิดผม) ก็เลยเริ่มไม่เนียนเรียบซะแล้ว แต่ช่างเถอะ แฟนทั้งคน ไม่ทิ้งเพราะสาเหตุนี้หรอก 55+...

“เต๊บครับๆ...” ผมเขย่าตัวมันครับ จะอะไรซะอีกหล่ะ ก็พ่อเล่นหลับทั้งช็อปขนาดนั้นนี่หน่า

“อือ...” มันงัวเงียลุกขึ้นแล้วก็มองหน้าผมครับ ด้วยใบหน้าที่เหมือนถูกขัดใจอย่างแรง

“ทานข้าวยังอะครับ” ผมถามมันด้วยความห่วงใย

“ยังอะครับ...” มันทำน้ำเสียงอ้อนๆ (ยังหลับตาอยู่นะครับ)

“แล้วหิวมั้ย”

“...” มันส่ายหัว ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง

“...” ผมก็เลยได้แต่ถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวและเปลี่ยนใหม่ให้มัน เขินๆ อยู่นะครับ แต่ทนไม่ได้ที่จะเห็นใครนอนบนเตียงทั้งๆ ที่ยังไม่อาบน้ำ (ไม่รวมตัวเอง 55+) เฮ้อ... อย่างกับว่าผมเป็นแม่มันซะงั้นครับ

ประมาณ 5 ทุ่ม เจ้าประคุณทูนหัวก็ตื่นครับ ตื่นมาก็ตาใสเชียว ยิ้มแป้นให้ผมซะงั้น (ถ้าไม่คิดว่าเป็นแฟน สงสัยคงคิดว่าเป็นคนบ้าแน่ๆ เลย หน้ายิ่งเอ๋อๆ อยู่ หุหุ นินทาหน่อยนะเต๊บ)

“เกม’ไมยังไม่นอนอีกหล่ะครับ นี่มันดึกแล้วนะ...” ตื่นมาก็เป็นพ่อกูเลยนะมึง

“ก็... นอนรอให้เต๊บตื่นนี่แหล่ะ”

“ทำไมครับ...” มันขยับเข้ามากอดผมแล้วก็หอมแก้มผม

“ก็เต๊บยังไม่ทานข้าวนี่ครับ เกมก็เลยรอทานข้าว”

“โธ่เกม... ไม่ต้องรอเต๊บก็ได้ครับ”

“ก็อยากทานข้าวกับแฟนตัวเองอะ... ไม่ได้เหรอ” ว่าแล้วก็ทำแก้มป่องๆ ให้มันรู้ว่ากะลังงอนมันอยู่

“เด็กๆ ทำมันก็น่ารักนะครับ 55+ แต่นี่...”

“พอๆ...” ผมตีมันทีหนึ่งก่อนจะลุกไปล้างหน้า

“โกรธเหรอครับ...” มันกอดผมจากด้านหลังขณะที่ผมกำลังล้างหน้า

“โกรธอะไร เกมจะโกรธอะไรเต๊บได้หล่ะครับ...”

“ม่ายอาววววว.... อย่างอนนะครับ นะๆๆๆๆๆๆ”

“นี่แน่ะ... ว่าแต่เขา ตัวเองทำน่ารักตายหล่ะ” ผมเขกหัวมันทีนึง

“โห... เล่นหัว งี้ต้องมีเฮ...” แล้วมันก็อุ้มผมไปที่เตียง เริ่มตระหนักถึงชะตากรรมของตัวเองแล้วหล่ะครับ

“เล่นไรอะต๊บ.... ไม่เอานะ ไอ้บ้า... ปล่อยน้า.....” ดิ้นๆๆๆๆ ครับ ดิ้นเข้าไว้....

“ไม่หยุดดิ้นใช่มั้ย....” ปากว่าปากถึงครับ 555+ อะแหม ไม่อยากบรรยายเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เอาเป็นว่า เป็นเรื่องน่ารักๆ ของสองคน ที่กำลังข้าวใหม่ปลามันนะครับ... คุณผู้โช้ม...

..........

“ไอ้บ้า... เล่นอะไรไม่รู้ ดูดิ...” อะไรซะอีกหล่ะครับ ก็มันเล่นทิ้งรอยไว้แทบทุกจุดขนาดนี้ ถ้าเกิดใครเห็นผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“แหม... ก็เต๊บแสดงความเป็นเจ้าของนี่หน่าครับ” เจ้าของบ้าอะไร...

“ป๊ะ... เดี๋ยวป๋าอาบน้ำให้...” แล้วมันก็อุ้มผมเข้าห้องน้ำ

“ทำไมวันนี้ยอมง่ายจัง” ปกติผมโวยวายครับที่มันอุ้มเข้าห้องน้ำ

“ไม่มีอะไร ขี้เกียจดิ้น เหนื่อย ดิ้นไปโวยวายไปเหนื่อยจะตาย อีกอย่างโวยวายไปเต๊บก็อุ้มไปเหมือนเดิม...” ผมพูดไปก็เขินไปครับ ก็เลยเอาหน้าซบคอมันไว้ ได้การล่ะ...

“โอ๊ย.... ทำไรอะครับเกม... เจ็บนะเนี่ยะ...” อะไรซะอีก ผมก็กัดคอมันอะดิ ชิ... สำออยเป็นบ้า ทีทิ้งรอยไว้ตามตัวคนอื่นหล่ะทำดีจริงๆ...

“เป็นผีดิบเหรอครับ... เดี๋ยวให้ดูดอย่างอื่นซะนี่ ปากดีจริงๆ...”

“ไอ้บ้า.... เดี๋ยวเจอดีไม่ใช่น้อย” แล้วเราทั้งสองก็อาบน้ำให้กันจนเสร็จ แต่กว่าจะเสร็จเล่นเอาเหนื่อยครับ... คุณผู้โช้ม...

ผมชอบเวลาอาบน้ำเป็นที่สุดครับ อิอิ ไม่ได้ลามกนา ผมชอบจริงๆ แบบว่าได้มีโอกาสมองร่างกายของเต๊บแบบชัดๆ ซักครั้ง ก็แหม เวลา... เนี่ยะ ไม่ค่อยได้มีเวลามองหรอก 55+ ได้จับนู่นจับนี่มันเล่นด้วย ไม่เว้นไอ้เต๊บน้อยครับ เหอๆ หวิดเกิดโศกนาฏกรรมตั้งหลายครั้ง แต่ผมเอาตัวรอดได้ทุกที ได้อาบน้ำให้มันด้วย อันนี้แหล่ะชอบแต๊ๆ ครับ ก๊ากกกกก....

“เอาหล่ะ... เหนื่อยพอแล่ะ...” ผมพูดพลางดึงมือมันไปนั่งบนเตียง ก่อนที่จะลงมือเช็ดผมให้มัน ส่วนมันนะเหรอก็ได้นั่งหลับตาพริ้มเชียว ได้แต่กอดเอวผมเอาไว้...

“เสร็จแล่ะ... เอาหล่ะทีนี้เข้าเรื่อง...”

“อะไรครับ...” มันทำหน้าตาได้บ้องแบ๊วมากๆ ครับ

“เต๊บครับ... เกมอยากให้เต๊บดูแลตัวเองหน่อยสิครับ”

“มีเมียดูแลทั้งคน...” ดูปากมัน มันน่าหาอะไรยัดไว้จริงๆ

“ไม่ใช่แบบนั้น เต๊บหักโหมกับการเรียนมากไปหรือเปล่าครับ...”

“ทำไงได้หล่ะครับเกม... เต๊บอยากเป็นวิศวกรที่ดีนี่ครับ เต๊บก็เลยต้องตั้งใจหน่อย”

“หักโหมกับตั้งใจไม่เหมือนกันนะครับ”

“เต๊บเข้าใจคร้าบบบบ.... แค่มีเกมคอยเป็นห่วงเป็นใย แค่นี้เต๊บก็ชื่นใจแล้วครับ” หอมอีกแล่ะ แก้มตูช้ำหมดแล้ว

“...” ไม่มีอะไรครับ ก็แค่หน้าผมมันเริ่มไม่รับแขกแล่ว

“เกมครับ.... เต๊บขอโทษนะครับ ที่เต๊บไม่ค่อยมีเวลาให้เกมเลย เต๊บสัญญาว่าจะเจียดเวลาให้มากที่สุดให้เกมนะครับ”

“เกมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอครับ... เกมเป็นห่วงเต๊บนี่นา ร่างกายของเราไม่ใช่เครื่องยนต์นะครับ...”

“ครับผม...” มันพูดแค่นั้น ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแน่นกว่าเดิม ก่อนที่พากันหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ทำร่วมกันเมื่อสักครู่นี้ อิอิ ลามกปิดท้ายจนได้ตู 55+ (สุดท้ายก็ไม่ได้ทานข้าว อิ่มอกอิ่มใจครับ คุณผู้โช้ม...)

..........

อิ่มใจจากเรื่องนู่นหละสิ ชิๆ เบื่อจริงๆ ถูกใจกับพระเอกใหม่ผมไหมหละครับ  :m20:

ชิ... ไปหละ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-10-2007 11:43:56
เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-10-2007 12:38:06
ตกลงทำไรกันเหยอ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย ทำไมมันถึงอิ่มหล่ะ
 :m21: :m21: :m21:

เต๊บมัวแต่ยุ่งแบบนี้ ระวังเกมจะมีชู้นะ
ยิ่งน่ารักๆอยู่
 :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 24-10-2007 12:52:40

            เอา กุ๊น คืนมา   :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-10-2007 17:55:57
ร้ายกาจมากมายเลยนะฮะพี่เต้

แย้วแบบนี้จะไปไหนเสีย

หรือว่าจะมีนะเนี่ย

ขออย่าให้มีเลยนะ แต่ถ้าไม่มีก้อก้อจืดจิเนอะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะพี่เต้

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: YENCHA ที่ 25-10-2007 11:38:40
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:


ยังไม่อ่านเลยแต่มาเมนท์ไว้ก่อน เด๋วคืนนี้จะอ่านน้าหอยทากคุง


 :bye2: :bye2: :bye2: :o8:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาใหม่แล้วครับ เอิ๊ก 24/10/
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-10-2007 18:43:56
มารอคร๊าฟฟ..............พี่เต้

จะรอต่อไปนะ คุคุ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีกตอน 25/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 25-10-2007 23:56:06
 o1
..........

บทที่ ๕ ตติยบทของความรัก ตอนที่ ๒

..........

กี่ปี กี่เดือน กี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที กี่วินาทีแล้ว ที่ความรักของผมโบยบินจากไป จากความรักครั้งก่อนกับผู้ชายที่ชื่อกุ๊น จนมาถึงครั้งสองของผู้ชายชื่อเต๊บ ก่อนที่จะมาเจอเต๊บ ผมเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่า ความรักสำหรับผมแล้วมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน คำตอบที่ได้มีแต่คำว่า ไม่รู้ คนที่เข้ามาในชีวิตผมหลังจากที่เลิกกับกุ๊นไปแล้ว ตั้งแต่พี่ตง และโชกุน ทั้งสองคนล้วนแต่มอบความรู้สึกที่ดีให้ผมโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากผม และโดยที่ผมไม่เคยคิดจะให้ซะด้วย เหมือนผมเฝ้ารอใครซักคนมาเยือน มามอบความรักให้ผมและผมมอบความรักกลับคืนด้วย นั่นก็คือ เต๊บ

ตอนนี้ผมคิดว่าผมเจอคนที่ผมจะมอบความรักที่แท้จริงให้แล้วหละครับ และความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ มันคือความรักที่จริงจังและจริงใจ แม้ในใจผมจะยังหวั่นๆ อยู่บ้างก็ตาม แต่ผมคิดอยู่เสมอว่า อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราควรทำวันนี้ในแต่ละวันให้เป็นวันดีๆ ที่สุด วันข้างหน้าไม่รู้ผมจะต้องเจอใครอีกมากมาย และเต๊บจะต้องเจอใครอีกมากมายเช่นเดียวกันกับผม เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่ยึดติดกับความรักครั้งนี้มากเท่าไหร่นัก อาจเป็นบทเรียนมาตั้งแต่ความรักครั้งก่อน ที่สอนให้ผมต้องเข็มแข็งและยับยั้งชั่งใจมากขึ้นกว่าเดิม แม้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม นอนอยู่ข้างๆ ผม จะเป็นคนที่ผมรักมากที่สุดอีกคนหนึ่งก็ตาม

ถ้าถามผมว่า ผมพอใจกับชีวิต ณ ขณะนั้นหรือยัง ผมตอบได้เต็มปากเต็มคำได้เลยว่า พอใจยิ่งยวด ผมอยากมีเต๊บอยู่ข้างๆ ผมไปตลอด เรียนด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน แค่นี้ผมก็สุขใจจนหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว ผมคิดได้ทันทีว่า ความสุขไม่ต้องสร้างหรอก มันจะเข้ามาหาเรื่อยๆ เองแหละ ไม่ว่าเราจะทำอะไร ขอแค่มีคนๆ นี้ซะอย่าง ความสุขก็เกินร้อยแล้ว อย่าขวนขวายให้เหนื่อยเลยครับ ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่เราคิดดี (พล่ามมากจังเลยวุ้ยวันนี้เรา 55+) ...

“นั่งคิดอะไรคนเดียวครับ...” มาแล่ะมารขัดความสุข (จริงเร้ออออ... -> มีคนแซว)

“กำลังนั่งคิดถึงเต๊บนั่นแหล่ะ”

“จริงอ๊ะ มิน่า วันนี้อะไรๆ ก็ดีไปหมด... ชื่นใจจัง” ว่าแล้วมันก็หอมแก้มผมแถมยังกอดผมด้วย

“อือ... เหนื่อยป๊ะ”

“ไม่เหนื่อยเลยครับ มีแฟนคิดถึงตลอด เหนื่อยแค่ไหนก็หายเหนื่อยได้ครับ”

“เว่อ...”

“เปล่าซักหน่อยครับ แล้วนี่เกมทานอะไรยังครับ”

“รอเต๊บอยู่นี่แหละครับ ถ้ามาช้าอีกนิดเดียว ไม่รอแน่ๆ”

“คร้าบๆ งั้นไปกันเถอะครับ” ถ้าวันนี้คนที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นโชกุน จะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะครับ พูดแล้วไม่อยากคิดเลยครับ เหอๆ...

........

วันนี้เป็นวันหยุดที่สดใสอีกวันหนึ่งของผม อาจจะเพราะได้พ่อตัวดีคนนี้นอนข้างๆ จนถึงสายได้ เมื่อคืนนี้ฝนตกเลยทำให้เช้านี้อากาศเย็นสบาย การนอนกอดหนุ่มหล่อ ขาว ตี๋ (ไม่ดัดฟันนะ) จึงเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุด เฮ้อ... หันมองตัวเองแล้วช่างอนาถใจ ทำไมเกิดมาขี้เหร่จังเรา...

“ถอนหายใจอะไรครับผม...” มันพูดแต่ก็ยังหลับตา แถมกระชับกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม

“เปล่า...” ว่าแล้วผมก็กอดมันเหมือนกัน จินตนาการเอานะครับ หน้าผมซบอยู่บนหน้าอกแน่นๆ มันอะ คิดแล้วยังอยากกลับซบอีกเลย 55+ (กลับมาด่วน...)

“วันนี้เราหาอะไรๆ สนุกๆ เล่นดีกว่าไหมครับ”

“อะไรหละ ไอ้สนุกๆ เนี่ย”

“ก็อย่างเช่น...” มันไม่พูดเปล่าหอมแก้มผมอีก ชิ...

“ไม่เอา อย่ามาลามกแต่เช้านะ”

“ครับๆ แหม เล่นแค่นี้เอง”

“อืม.... ไม่ต้องทำอะไรหรอก นอนแบบนี้แหละ จะได้ไม่เสียพลังงาน” น้าน... เกมเอ๊ย มิน่าถึงอ้วน (ใครๆ อ้วน ชิชะ...)

“ขี้เกียจแต่เช้า ไม่ดีนะครับ”

“เปล่าซักหน่อย นานๆ ทีจะได้อยู่แบบนี้อะครับ เต๊บมีแต่เรียนหนัก ขอซักวันเหอะนะครับ”

“ครับๆ ก็ได้ครับ” เวลาตอนที่มันหลับก็เหมือนเด็กดีนะครับ ไม่อยากจะคิดว่าจะเป็นคนเดียวกันกับเด็กชายเต๊บเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แม้จะเป็นคนที่ผมเฝ้ารออยากจะเจอ แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเป็นแบบนี้ เป็นแฟนกัน เป็นของกันและกัน อนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงผมก็ยอมแล้วหละครับ ผมเชื่อว่าผู้ชายที่อยู่ตรงนี้คงทำให้ผมมีความสุขที่สุด ไม่อยากเทียบกับความรักครั้งก่อนหรอก ดูไม่เป็นธรรมกับเขา ยังไงซะครั้งก่อนมันเกิดขึ้นตอนที่เราทั้งคู่ยังเด็ก แต่ตอนนี้ผมบรรลุนิติภาวะเรียบร้อยแล้ว ผมคิดดีแล้ว ผมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ...

“...แค่เพราะหัวใจมันบอก อาจไม่ค่อยพอ แต่ฉันก็ยังมั่นใจ ว่าต้องใช่เธอ

เสียงหัวใจเรียกร้องแปลกๆ ให้รู้สึกดีที่มีเธอ ขอเชื่อหัวใจตัวเอง แค่สักครั้งหนึ่ง

ถึงแม้ว่ามันดูเสี่ยง ที่ตัดสินใจ ขอเชื่อในความรักสักหน่อย

แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ...”  

ผมร้องเพลงๆ หนึ่งออกมา ไม่รู้ว่ามันร้องออกมาได้ไง ไม่ทันคิดด้วยซ้ำ แค่มองหน้าเต๊บผมก็ร้องออกมาได้ทันที ทำให้มันยิ้มกว้างเลยครับ หึหึ เป็นใคร ใครก็ปลื้มแหละ มั้งนะครับ เต๊บลืมตาขึ้น พร้อมกับหอมแก้มผม แล้วก็ร้องเพลงๆ หนึ่งขึ้น ทำให้เช้านี้มีแต่ความสดใส นี่คงจะเป็นรอยยิ้มแรก ที่ผมยิ้มออกมาด้วยความสบายใจที่สุด ตลอดเกือบ 3 ปีมา...

..........

“...ฉันมีแต่เธอที่คอยห่วงใย จะเก็บดวงใจที่มีไว้ให้เธอ

แม้คนมากมายที่มาได้เจอ ก็ไม่มีใครเหมือนเธอเลยสักคน

แค่มีเธอคนเดียว โลกดังเป็นเหมือนทุกอย่างที่ใจถามหา

ทุกวันที่ผ่านไป ในหัวใจนั้นมีเธอ

ฉันเคยผ่านวันที่ดูสับสน และไม่มีใครสักคนมาเข้าใจ

แล้ววันและคืนที่เลยผ่านไป กลับสดใสเพราะว่าเธอเดินเข้ามา

แค่มีเธอคนเดียว โลกดังเป็นเหมือนทุกอย่างที่ใจถามหา

ทุกวันที่ผ่านไป ในหัวใจนั้นมีเธอ

รู้ว่าความรักที่เก็บไว้นั้น นั่นเป็นความผูกพัน

ให้เราต่างมีกัน เฝ้ารักเอาใจใส่ จะผ่านกี่ร้อนหนาว

แม้เราต้องห่างไกล ก็ไม่หวั่น

ยังคงเป็นวัน ที่เรานั้นเข้าใจ

แค่มีเธอคนเดียว โลกดังเป็นเหมือนทุกอย่างที่ใจถามหา

ทุกวันที่ผ่านไป ในหัวใจนั้นมีเธอ

ตราบใดที่ฟ้ายังอยู่ ในหัวใจ…มีเธอคนเดียว…รักเธอ…”

..........

“ไม่ว่ารักครั้งแรกของเกมจบแบบไหน ขอให้เกมจงเชื่อไว้อย่างหนึ่ง ถ้าเกิดเราสองคนต้องเลิกกัน สาเหตุจะไม่มีทางมาจากความรักของเต๊บหมดลง ไม่ว่าสถานะของเราทั้งสองจะเป็นยังไง ขอเกมเชื่อว่า เต๊บ ผู้ชายที่ไม่เอาไหนคนนี้ จะรักเกมคนเดียวตลอดไป...”

“...” เฮ้อ... ไม่ร้องไห้ด้วยความดีใจหรอก แต่ขอกอดและหอมแก้มมันนิดหนึ่งเถอะ

“มันก็ไม่เกิดจากความรักของเกมหมดลงเช่นกัน เกมรักเต๊บนะ มันอาจจะไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่ขอให้เต๊บเชื่ออย่างหนึ่งเช่นกัน... เต๊บ จะเป็นคนเดียวที่เกมบอกว่ารักจากความรู้สึกที่บริสุทธิ์”

“ครับผม...” ฮ้า.... เช้าที่สดใสนี้จะอยู่กับกระผมไปนานแค่ไหนนะ อยากรู้จังเลย...

เอาเหอะ วันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยผมก็ได้รู้อย่างหนึ่งว่า ผู้ชายคนที่นอนข้างๆ ผมนี้ เป็นอีกคนที่มอบความรักให้ผมอย่างบริสุทธิ์ใจ แล้วมีรึที่ผมจะไม่ตอบแทนบ้าง การมอบความรักที่บริสุทธิ์กลับคืน คงเป็นสิ่งตอบแทนที่ดีที่สุด ที่ผมพึงมีให้ผู้ชายคนนี้ เต๊บ เศรษฐ์พล...

---เรา รัก นาย---

..........

 o1
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 26-10-2007 00:20:25
บทที่ ๖ วันว่างๆ

..........

วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกเหงามากอีกวันหนึ่ง เต๊บต้องไปดูงานที่กรุงเทพ 3 วัน 2 คืน แน่นอนหละผมต้องนอนคนเดียว มันเลยรู้สึกเหงาๆ พิกล ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเข้าห้องสมุดไปอ่านหนังสือดีกว่า (เด็กดี ครับ เด็กดี) ผมมาถึงห้องสมุดคนก็เยอะพอควร แต่มุมโปรดของผมไม่มีคนนั่งเหมือนเคย มันเป็นมุมอับสายตาคนอื่นนะครับ ที่จริงก็ไม่ค่อยกล้ามานั่งหรอก กลัวมีใครมาทำอันตราย แต่เห็นไม่มีคนเดินเข้าไปถึง ก็เลยชอบมานั่งครับ มันเงียบ และสงบดี เหมาะแก่การนอน เอ๊ย การอ่านหนังสือครับ แหะๆ...

ผมหาหนังสือมาได้ห้าเล่ม เป็นหนังสือเรียนวิชาจุลชีววิทยา และอื่นๆ ส่วนอีกสองเล่มเป็นหนังสืออ่านคลายเครียดครับ คือ Harry Potter ครับ เหอๆ เล่มหนึ่งกับเล่มสองครับ ช่วงนั้นกำลังชอบหนังมันพอดี ก็เลยหาหนังสือมันมาอ่าน ไม่ใช่ภาษาไทยด้วยนะ เป็นเล่มภาษาอังกฤษครับ (ทำเก็กเฉยๆ ที่จริงอ่านไม่ออกหรอก 55+) แต่มันสนุกจริงๆ นะครับ

“มานั่งคนเดียวมุมนี้ ไม่กลัวใครมาทำมิดีมิร้ายหรือครับ...” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น เป็นคนร้ายเปล่าวะ

“พี่อาร์ม...” เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งในสาขาผมครับ แกเรียนปี 3 เรียนสถิติด้วยกัน ผมก็ชอบแอบเหล่แกครับ ก็แหมหุ่นนักกีฬา สูง ขาว เท่ห์อะครับ เป็นใครๆ ก็เหล่บ้างแหละครับ 55+

“พี่นั่งด้วยคนนะครับ พอดีไม่เหลือที่นั่งแล้ว...”

“ได้ครับ... พี่อาร์มเข้ามาไกลจังนะครับ”

“ทำไงได้หละครับ ม.เก่ามันไม่มีหนังสือที่พี่ต้องการนี่ครับ” พี่แกพูดแล้วก็ยิ้มครับ หูย... หล่อเป็นบ้า อิอิ

“ครับ” ว่าแล้วผมก็ก้มอ่านหนังสือต่อครับ (ดึง Harry เก็บไว้ อย่าเพิ่งน้อยใจนะ กำลังรักษาภาพพจน์อยู่)

“น้องเกมอ่านหนังสืออะไรครับ”

“จุลชีววิทยาครับ และก็ออแกนิกเค็มครับ”

“ขยันจังนะครับ”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ พอดีคะแนนกลางภาคได้น้อยนะครับ”

“งั้นพี่ก็มากวนสิครับ” ใครบอกหละคร้าบบ

“เปล่าครับ ผมก็ไม่ได้อ่านจริงจังเท่าไหร่ครับ”

“มิน่า... เห็น Harry วางข้างๆ” พี่แกพูดแล้วก็ยิ้มอีกทีหนึ่ง

“แหะๆ ก็เผื่อคลายเครียดอะครับ”

“จะเที่ยงแล้ว น้องเกมทานข้าวยังครับ”

“เอ่อ... ผมยังไม่หิวอะครับ”

“พี่ถามว่า ทานข้าวหรือยัง ครับ ไม่ได้ถามว่า หิวหรือยัง” เอาแล้วไงไอ้เกม เหอๆ ทำไมๆ เวลาอยู่ใกล้ๆ คนหล่อแล้วถึงสั่นจังวะ (อย่าเพิ่งหมั่นไส้ผมนะครับ แบบว่าพี่คนนี้ผมแอบมองมาตั้งแต่เหยียบมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้วอะครับ)

“...” ผมก็ได้แต่ยิ้มแหละครับ

“ไปทานเป็นเพื่อนพี่หน่อยดิครับ พี่หิวแล้ว”

“เอ่อ...”

“นะๆๆๆๆ พี่ไม่มีเพื่อนนะครับ” เอาไงดี

“ก็ได้ครับ” ตอบตกลงไปแล้วครับ แล้วพี่อาร์มก็พาผมออกไปทานข้าวที่หน้า ม.

“น้องเกมจะทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”

“เอ่อ... ผมของ่ายๆ กว่าครับ”

“รับทราบครับผม” แล้วพี่อาร์มก็เดินไปสั่ง ซักพักเขาก็เอามาให้ ผมกับพี่อาร์มจึงทานข้าวกันอย่างอร่อย

“อิ่มแล้วน้องเกมจะไปไหนครับ”

“ก็คงไปหาหนังสือกลับไปอ่านที่ห้องนะครับ แล้วพี่อาร์มหละครับ”

“ก็คงเหมือนกับน้องเกมแหละครับ พี่นัดเพื่อนไว้ตอนบ่ายสามนะครับ”

“งั้นพี่อาร์มกลับ ม.เก่า เลยก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมนั่งสองแถวเข้าไปเองก็ได้”

“ไม่ได้ๆ พี่พาเราออกมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบสิครับ” ว่าแล้วแกก็ยิ้มอีกที เหอๆ ก่อนที่พี่อาร์มจะพาผมกลับไปที่ห้องสมุด ผมเลยลาแกตรงนั้นแล้วก็เข้าไปหาหนังสืออ่านสักสองสามเล่ม

เอาเข้าจริงผมกลับได้หนังสือตั้ง 5 เล่ม ว่าแล้วก็กำลังจะเอาหนังสือไปยืมที่เคาน์เตอร์ แต่มองออกไปหน้าต่างปรากฏว่าฝนตกอย่างหนักเลยครับ เซ็งเลย เลยเดินเลยกลับไปนั่งมุมโปรดอีกที แต่ตรงมุมนั้นกลับมีคนนั่งอยู่แล้ว เอาไงดี ไม่มีที่นั่งซะด้วย เอาวะ...

“เอ่อ... ขอนั่งด้วยคนนะครับ พอดีไม่เหลือที่นั่งแล้ว” ผมพูดแล้วก็ยิ้มแหยๆ ครับ เพราะกลัวเขาจะไม่ให้นั่งด้วย

“อ๋อ... ตามสบายครับ” แล้วคนนั้นก็ก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ผมก็เลยนั่งลงอ่านหนังสือเงียบๆ

“นายเรียนเอกไหนเหรอ เห็นทีไรหอบหนังสือเป็นตั้งมานั่งอ่านตรงนี้ประจำ” หนุ่มคนนั้นเอ่ยขึ้น

“Food tech นะ ที่อ่านเยอะไม่ได้ขยันอะไรหรอก แค่ไม่มีอะไรทำอะครับ”

“โห... นี่ใช้เวลาว่างด้วยการอ่านหนังสือ เจ๋งนะครับ”

“ขอบคุณครับ”

“นายชื่ออะไร เรา เก่ง นะ เรียนประวัติศาสตร์” เอาแล้วไงครับ เจอหนุ่มประวัติศาสตร์ สาขาที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเป็นผู้ชายเหลือน้อยที่สุดในมหาวิทยาลัย

“ผม เกมครับ”

“นายครับตลอดเลยเหรอ”

“เอ่อ... มันชินแล้วอะครับ”

“อืม....” แล้วเขาก็ยิ้มและก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ผมเลยเหลือบดูใบหน้าหน่อย ก็ธรรมดานะครับ ดีหน่อยที่ขาว เลยถือว่าดูดี

“หนังสือที่นายอ่าน น่าปวดหัวพิกล แล้วไอ้ Food tech อะไรเนี่ย เรียนยากมั้ย” เอาหละ ไม่เป็นอ่านหนังสือแล้ว

“ก็ธรรมดานะ มันยากแค่ Math เท่านั้นแหละ อ้อ... ฟิสิกส์ด้วย นอกนั้นก็พอไปได้”

“เคมีด้วยใช่เปล่า ที่นายว่ามาเรามันโง่ไม่ได้เรื่องเลย”

“อืม... แต่ให้เราไปนั่งอ่านแต่ตัวหนังสือ เราก็ไม่ไหว แบบว่าอ่านแล้วง่วงนะครับ” ผมพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ฝนยังตกอยู่เลย

“นายอยู่หอไหน”

“หอยางสีสุราชนะ” ผมไม่ใคร่จะถามเขากลับหรอกครับ ไม่รู้จะถามทำไม

“อืมม... เราพักข้างนอกนะ อิสระดี” แล้วเขาก็กลับไปอ่านหนังสือต่อ ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเช่นกัน ผมหนังอ่านหนังสือและคุยกับหนุ่มประวัติศาสตร์อยู่พักใหญ่ฝนก็หยุดตก ผมเลยขอตัวกลับหอทันที เดี๋ยวมันกระหน่ำลงมาอีก

พอฝนหยุดตกแล้วอากาศก็ดีมากมายครับ สูดหายใจแล้วสดชื่นดี เหอๆ

“ว่าไงเกม...” ใครอีกหละวันนี้ ทำไมมันมีคนอยากคุยกับผมเยอะจังเลยวันนี้

“อ้าว... นัท” เพื่อนเอกภาษาอังกฤษครับ รู้จักกันตั้งแต่เข้าคลาสเชียร์

“แบกหนังสือเยอะจัง ศาสตราจารย์เกม” ว่าแล้วนัทก็หัวเราะ นัทเป็นหนุ่มหน้าตาใช้ได้ สูงไล่เลี่ยกับผม เก่งภาษาอังกฤษสุดๆ (แน่หละก็อยู่สาขาตรงนี่นา)

“เวอร์ๆ”

“มาเดี๋ยวช่วย” แล้วนัทก็ดึงไปถือ 3 เล่ม ที่จริงผมกับนัทก็พักหอเดียวกัน แต่คนหละชั้นเท่านั้นเองครับ

“นัทไปไหนมาเหรอ ทำไมมาคนเดียว แล้วแฟนหละ”

“กำลังไปห้องสมุดแหละ เห็นศาสตราจารย์เดินมากับกองหนังสือกองโตเลยอดอยากช่วยไม่ได้” พูดแล้วก็ยิ้ม

“อ้าวเหรอ งั้นนัทก็ไปห้องสมุดเถอะ เราไม่กวนแล้ว เดี๋ยวแฟนรอกันพอดี”

“โอย... คำก็แฟนสองคำก็แฟน เรายังไม่มีแฟนซักหน่อย และอีกอย่างเราขี้เกียจแล้ว ไม่เข้าแล้วห้องสมุดอะ” อ้าวไอ้นี่ เอาเหอะ ดีเหมือนกันมีคนช่วยถือของ 55+ ไม่เหนื่อย

ใช้เวลาเกือบๆ 10 นาทีได้ครับสำหรับการเดินจากห้องสมุดมายังหอที่ผมพักอยู่ แถมยังต้องเดินขึ้นชั้นสามอีก อือ... งานนี้มีเหนื่อยครับ

“นี่จะไม่ชวนเข้าไปนั่งก่อนเหรอไง คนอุตส่าห์ช่วยถือหนังสือเหนื่อยนะนี่” ไอ้นี่

“ครับๆ พี่นัท เชิญครับ”

“อ้าว นี่แฟนนายไปไหนนะ” สะอึกครับ ไอ้นี่มันรู้ได้ไงวะ

“อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ไอ้เต๊บนะเพื่อนเราเอง รู้หมดแหละน่า” โล่งอกไปทีครับ แต่ไม่ยักรู้ว่าสองคนนี่รู้จักกัน

“เต๊บไปดูงานที่กรุงเทพนะ”

“แบบนี้นายก็อยู่คนเดียวดิ ไม่กลัวผีเหรอ” แล้วมันก็ทำหน้าตาน่ากลัวครับ

“ผีนะชินแล้ว แต่คนต๊องๆ อย่างนายไม่ชินวะ”

“อ้าว... ว่าสุดหล่อได้ไง”

“หลงตัวเองฉิบ... อ๊ะน้ำ” ผมยื่นแก้วน้ำให้มัน

“ใส่อะไรลงไปเปล่านี่”

“กินไม่กิน”

“ครับๆ Professor”

“นั้นเดี๋ยวเราไม่กวนแล้ว” นัทพูดขึ้นแล้วก็เดินออกไป เฮ้อ.... อยู่คนเดียวแล้วทำไมมันเหงาจัง แต่วันนี้ผมได้คุยกับผู้ชายสามคน แต่ละคนนิสัยต่างกันอย่างเห็นได้ชัด พี่อาร์มสุภาพบุรุษสุดๆ นายเก่งก็ช่างคุย นายนัทก็กวนส้นทีน เหอๆ วันนี้มันเป็นวันอะไรน้อ ทำไมเกมคนที่หน้าตาขี้เหร่ถึงได้เจอกับคนถึงสามคน ซึ่งปกติแล้วไม่มีทางหรอก...

..........

จำตัวละครใหม่ๆ ต่อจากนี้ไปให้ดีนะครับ

เดี๋ยวจะเข้ามาโลดแล่นในนิยายเรื่องนี้มากขึ้น

ขอบคุณครับ ไปหล่ะครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 26-10-2007 00:32:17
      รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

     รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

     รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

     รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

     รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก รัก

          :sad2: :m5: :sad2: :sad2: :sad2: เธอนั้นอยู๋ไหนเหล่า :sad2: :m5: :sad2: :sad2: :sad2:

PS : นายเตเต้ จะแอบผูกเรื่องให้คนอ่านได้หัวจาย วายอีกละคับ  กำลังหวานชื่นอยู๋ดี

        เก็บกดอะป่าว  เห็นคนมีความสุขมะได้   ฮ่า ฮ่า  (ไงใจดีวันนี้ มี 2 ตอนหว่า)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 26-10-2007 04:16:24
ตัวละครเหล่านี้จะมาเป็นสามีเกมทั้งหมดรึคับฮิๆๆ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-10-2007 19:38:04
น่ารักมากมายเยยง่า

ว่าแต่ถ้าเข้ามาแย้วมานจะวุ่นวายขนาดไหนนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ

เปงำลังใจให้นะฮะพี่เต้ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-10-2007 22:09:27
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: icezanesta ที่ 27-10-2007 11:55:24
รออ่านต่อคับ

เปงกำลังใจให้ด้วยคนนะ

ปล.บังอาจเอาเค้าไปแต่งนิยาย  :เตะ1:  :เตะ1:   :เตะ1:  :เตะ1: สะใจ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ~prince™~ ที่ 27-10-2007 12:32:28


               ............................................หวัดดีคับพี่เต้.................................................

               ..........................อ่านนิยายของพี่แล้วเห็นภาพชัดมากๆคับ............................

               .............ก็นะก็ผมเรียนที่ มมส นี่นาเลยเห็นภาพสถานที่ชัดเจนมาก...............

              ....................ได้อยู่ชั้น 5 นี่มันเหนื่อยจิงๆนะคับพี่......เฮ้อ...............................  :เฮ้อ:

              .........................โดยเฉพาะวันไหนที่ไม่ค่อยสบายหน่อยนะ.............................

              ................................แทบได้คลานขึ้นเลยคับพี่.............................................

              ...............................เหนื่อยเจรงๆเลยชีวิตนี้.................................................


            ................แล้วมุมที่เกมไปนั่งอ่านหนังสือเนี่ยมุมไหนคับพี่จะได้ไปนั่งอ่านมั่งเผื่อเจอเนื้อคู่.. o17..........


            ปล. ........หนุกมากมายเลยคับพี่เต้มาต่อเร็วๆนะคับ......รออ่านอยู่นะค๊าฟฟฟฟ..... :m18:





หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-10-2007 13:24:46
ตัวละครเหล่านี้จะมาเป็นสามีเกมทั้งหมดรึคับฮิๆๆ

สงสัยจะเป็นเมีย
กร๊ากกกกกกกก ๆๆๆๆกั๊กๆๆ
 :m20:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-10-2007 13:46:00
มารอพี่เต้นะฮะ

ยังไงก้อจะรอต่อไปนะฮะ :m13: :m13: :m13:

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ต่อให้อีก 2 ตอนก็ได้ 25/10/
เริ่มหัวข้อโดย: YENCHA ที่ 27-10-2007 15:16:41
หายเร็ว ๆ เน่อ หอยทาก เปงกะลังใจให้นะ




 o1 o1 o1 o1 o1 o1 :o11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 27-10-2007 21:49:35
ผมมาลงให้อ่านแทนพี่เต้นะครับ

..........

บทที่ ๗ วันว่างๆ ๒

..........

Devil Man U say: หวัดดีคับ  o1

Game say: ...

Game say: สวัสดีครับ

Devil Man U say: ทำไมต้อง จุดจุดจุด ด้วยคับ  :m29:

Game say: โทษทีครับ พอดีนี่เป็นการเล่น MSN ครั้งแรกครับ เลยตกใจนิดหน่อยที่มีคนมาทัก

Devil Man U say: ผม บิว นะครับ นายอะ

Game say: ผมเกมครับ

Devil Man U say: อย/สส/นน

Game say: ????????  o2

Devil Man U say: อ่านไม่ออกอะ

Game say: เปล่าๆ เราไม่เข้าใจ อย สส นน อะครับ

Devil Man U say: อ่อ... เชื่อแล้วว่านายเพิ่งเคยเล่นเอ็มครั้งแรก

Devil Man U say: เราถามว่า นายอายุเท่าไหร่ สูงเท่าไหร่ หนักเท่าไหร่นะ

Game say: กำ... เหอๆ โทษทีครับ ผมอายุ 20 ครับ สูง 175 หนัก 65 ครับ

Devil Man U say: หุ่นดีนิครับ เรียนที่ไหนครับ คณะอะไรด้วย

Devil Man U say: เราอายุ 20 เท่ากับนาย สูง 180 หนัก 70 ครับ ^o^ หล่อด้วย อิอิ

Game say: กำ ชมตัวเองก็เป็น

Game say: เรียนที่ ม.มหาสารคาม Food Science ครับ

Devil Man U say: อืม... เราเรียนที่ราชภัฎอุบลนะครับ อังกฤษธุรกิจ จะคุยเปล่า

Game say: เห... ทำไมถึงถามว่าจะคุยเปล่า

Devil Man U say: ก็นายเรียนมหาลัย เราเรียนแค่ราชภัฎ

Game say: ไม่เห็นเกี่ยว

Devil Man U say: อืม...

Game say: นายเรียน ราชภัฎอุบล เหรอ

Devil Man U say: ใช่ ทำไม???

Game say: เราเป็นคนอุบลนะ

Devil Man U say: เหรอ... พรมลิขิตแน่ๆ หึหึ :m3:

Game say: ลิขิตอาราย เรามีแฟนแล้ว

Devil Man U say: อ้าวเหรอ งี้ก็อดดิ ไม่เป็นไร ขอเป็นกิ๊ก**แล้วกัน (**คำว่ากิ๊กเนี่ยระบาดในกลุ่มผมนานแล้ว ก่อนที่จะมีการทำวิจัยคำนี้ซะอีก)

Game say: ไม่ไหวๆ ขอเป็นเพื่อนพอละกัน

Devil Man U say:  :sad2:

Game say: เหอๆ

Devil Man U say: เพื่อนก็เพื่อน งั้นขอเบอร์หน่อยจิ

Devil Man U say: เพื่อนขอเบอร์เพื่อนได้นะ

Game say: เอาไปทำไร ไม่ให้หรอก เดี๋ยวโดนหลอก

Devil Man U say: กำ... จะขอไปซื้อหวยนะ  :m20:

Game say:  :m28:

Game say: ไว้ได้คุยกันนานๆ กว่านี้แล้วกัน แล้วจะให้ OK เปล่า

Devil Man U say: ก็ได้ๆ ชอบหรอกนะถึงยอมนะ อิอิ

Game say: กำ... แล้วนี่ไม่มีเรียนเหรอ

Devil Man U say: มี แต่อีก 15 นาที

Game say: งั้นก็ไปเรียนเหอะ

Devil Man U say: คร้าบ... งั้นไว้คุยกันใหม่นะ

Game say: อือ... บาย

Devil Man U Offline.

..........

กรรม เข้าเล่นเอ็มเป็นครั้งแรกก็เจอพวกหน้าหม้อทันที ผมขอสารภาพเลยว่าผมเล่นโปรแกรม MSN เป็นครั้งแรกตอนอยู่ปี 2 ไม่รู้จักมาก่อนเลยไอ้โปรแกรมนี้อะ แต่พอได้เล่น อิอิ เพื่อนเยอะมากๆ คุยทีจนปวดหัว

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมว่าง เต๊บยังไม่กลับจากไปดูงาน คงจะเป็นวันพรุ่งนี้ ผมก็เลยเข้ามาเล่นอินเตอร์เน็ต และไปห้องสมุดเหมือนเคย ชักรู้สึกเหงาๆ แล้วสิกับการไม่มีเต๊บอยู่ข้างๆ แบบนี้ เหอๆ

“หวัดดีเกม...” เสียงหนุ่มนิรนามดังขึ้น

“หวัดดีเอ็ม... เข้าห้องสมุดเป็นด้วยเหรอ” ผมเอ่ยทักไป เอ็มเนี่ยเป็นหนุ่มสถาปัต โดยรวมแล้วก็เป็นคนที่ดูดีอีกคนหนึ่ง

“อ้าว... ว่ากันได้ ห้องสมุดไม่มีพระนี่ เราถึงเข้าได้” เออเนอะ

“55+ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ”

“เปล่า... มากับโชกุนนะ แต่มันอยู่อีกฟาก” เหอๆ ใจมันกระตุกๆ ยังไงชอบกลที่ได้ยินชื่อนี้

“แล้วนี่มาอ่านหนังสือเหรอ”

“ใช่ แต่ไม่ใช่หนังสือเรียนหรอกนะ วันนี้ผ่อนคลายนะ ไม่อยากเครียด”

“ไปนั่งด้วยกันไหมหละ”

“ไม่กวนดีกว่าเอ็ม นายไปทำงานต่อเถอะ”

“ครับผม แน่ใจนะว่าจะไม่ไปนั่งด้วยกัน”

“เกรงใจนะ”

“แค่เกรงใจเหรอ... โอเคๆ ไม่เซ้าซี้แล้ว แต่ถ้าฝ่ายนู้นเขาจะเดินมาทางนี้บ้างคงไม่เป็นไรใช่เปล่า” อ้าวไอ้นี่ กูยิ่งกลัวๆ อยู่

“....” ผมก็ได้แต่ยิ้มครับ แล้วก็ก้มอ่านหนังสือต่อ

“เห็นเอ็มบอกว่าเกมไม่อยากไปนั่งกับเรา” เสียงๆ หนึ่งดังขึ้น โชกุนนั่นเองครับ

“เอ่อ... ไม่อยากไปกวนนะ...”

“กวนอะไรหละ เกมไปนั่งด้วยเราดีใจซะอีก...”

“ก็...”

“อะไร...” เหอๆ ทำไมผมถึงแพ้รอยยิ้มของคนอื่นอยู่เรื่อยเลยนะ

“ก็ไม่อยากกวน ไม่มีเหตุผลอื่น”

“รังเกียจเราเหรอ”

“เปล่าๆๆๆๆ... เราไม่อยากกวนจริงๆ พวกนายทำงาน เราอ่านหนังสือ ไม่เข้ากันเลย”

“ไม่แปลกนี่ เกมอ่านหนังไม่ได้ออกเสียงซะหน่อย”

“...” มันต้อนผมทุกมุมเลยเหรอเนี่ย ไม่มีเหตุผลอื่นที่ผมจะปฏิเสธเลยใช่ไหมเนี่ย

“เออ... ก็ได้” แล้วมันก็ยิ้ม เฮ้อ... นี่กี่ครั้งแล้วที่ผมพ่ายแพ้แก่รอยยิ้มเนี่ย ไม่ไหวๆ ไอ้เกม...

“ต้องให้คนอื่นไปถึงมา ทีเราหละปฏิเสธ”

“อือ...” ไอ้เกมใบ้กินครับคุณผู้โช้ม...

“มึงทำงานไปเลยไอ้เอ็ม” แล้วสองคนนั่นก็ทำงานไป ส่วนผมก็อ่านหนังสือ ก็มีการชวนคุยบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นฝ่ายสองคนนั่นมากกว่า ก็ผมอะไม่มีอะไรจะพูดนี่นา เหอๆ...

..........

ไม่ต้องเป็นห่วงไอ้พี่เต้นะครับ ขานั้นไม่ตายง่ายๆ หรอก หึหึ

ส่วนอีกเรื่องรอพี่เต้นะครับ เพราะแกยังเขียนไม่เสร็จ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-10-2007 21:57:09
ตัวละครเหล่านี้จะมาเป็นสามีเกมทั้งหมดรึคับฮิๆๆ

สงสัยจะเป็นเมีย
กร๊ากกกกกกกก ๆๆๆๆกั๊กๆๆ
 :m20:

น่าคิด น่าคิด   :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-10-2007 23:18:51
นั้น เกมแอบมีชู้ อิอิ
ระวังนะเต๊ปจะซ้อนแผน
ยิ่งมือไวใจเร็วอยู่
 :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 28-10-2007 02:55:54
ใครจะเป็นสามีรึภรรยาอย่างไง ก็เป่ายิงฉุบเก่งๆๆนะอิๆ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-10-2007 15:29:39
คุคุ...แย้วแบบนี้เรื่องมานจะเปงยังไงต่อไปละเนี่ย

ไม่ช่ายพี่เต็บหายไปไม่กี่วัน

ดันมีกิ๊กกานทั้งคู่นะ

ยังไงก้อจะรอพี่เต้ต่อไปนะฮะ

หายเร็วๆนะฮะพี่เต้

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 29-10-2007 13:17:44
หานเร็วๆนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 29-10-2007 19:43:42
บทที่ ๘ วันว่างๆ ๓

..........

หลังจากวันว่างๆ วันนั้น ที่ผมได้มีโอกาสได้คุย เอ่อ... ที่จริงต้องเรียกว่า มีโอกาสได้เห็นหน้าโชกุนมากกว่า ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาย้ายห้องออกไป หลังจากวันนั้นในห้องสมุด ผมก็ไม่ได้มีโอกาสเจอโชกุนอีก แต่กับเอ็ม เจอหน้ากันค่อยข้างบ่อย เพราะพักหอเดียวกัน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมได้เจอกับเอ็มอีก (เอ... รู้สึกเราจะว่างบ่อยจัง อิอิ เต๊บยังไม่กลับครับ)

“เจอกันอีกและ เบื่อหน้าจังหวะ” ดูปากมัน

“อ้าว... พูดงี้ก็สวยดิครับคุณเอ็ม ผมมาของผมทุกวันอะ คุณดิ... เข้าห้องสมุดก็เป็นด้วย”

“55+ พูดไป เราก็อยากเป็นเด็กดีบ้าง เผื่อคนที่เราแอบชอบจะเห็นคุณค่าเราบ้าง”

“เหรอ... ใครคือผู้โชคร้ายวะ”

“พูดซะเสียนะเกม เดี๋ยวเรียกไอ้โชกุนมานั่งด้วยเลยนิ” เหอๆ งั้นไอ้เกมขอเงียบ สงบปากสงบคำก่อนแล้วกันครับ

“ชิ... พอพูดถึงชื่อนี้ทีไร เห็นนายเงียบทุกที...” เอ็มพูดแล้วก็ทำท่าทางน้อยใจ เอากับมันสิ

“55+ นายก็พูดไป เราก็แค่... ไม่มีอะไร หิวข้าว นายหิวยัง” ผมพูดพลางลุกขึ้นเอาหนังสือไปเก็บ

“ไปด้วย กำลังหิวพอดี” แล้วผมก็ได้สารถีพาออกไปทานข้าวหน้าม. เหอๆ ทานข้าวโรงอาหารซะเบื่อแล้วครับ (ที่จริงเลือกไม่ได้มากกว่า อิอิ)

..........

Devil Man U say: สวัสดีครับ เกม

Game say: อือ... หวัดดี บิว ไหงวันนี้ออนอะ

Devil Man U say: คิดถึงเกมไง ไม่ได้คุยตั้งหนึ่งวัน

Game say: แหวะ... พอๆ หวานมากไปแล่ะ

Devil Man U say: เอ๋... เกมแพ้ท้องเหรอครับ ^o^

Game say: ประสาทนะนาย...

Devil Man U say: อิอิ แล้วเกมไม่ได้ไปไหนเหรอ

Game say: ไม่อะ เพิ่งออกจากห้องสมุดมา...

Devil Man U say: ขยันจังนะ งี้แฟนก็รักตายเลยดิ @”

Game say: เหอๆ นายก็รีบหาแฟนดิ

Devil Man U say: กำลังจีบอยู่นี่ไง ไม่รู้จะติดหรือเปล่า

Game say: เหรอ ใครได้นายเป็นแฟน มีหวังต้องประสาทแดกแน่ๆ

Devil Man U say: เว่าไป๊...

Devil Man U say: แล้วเกมกลับบ้านบ่อยเปล่า

Game say: ไม่อะ

Game say: ขี้เกียจ

Game say: นั่งรถนาน

Game say: เหนื่อย...

Devil Man U say: โห... มาเป็นชุด

Devil Man U say: แล้วนี่เราจะมีโอกาสเห็นหน้ากันป๊ะ

Game say: เหอๆ ไม่รู้จิ...

Devil Man U say: อือ...

Devil Man U say: เง้อ....

Devil Man U say: ได้เวลาเรียนแว้ว...

Devil Man U say: ยังคุยไม่หายคิดถึงเลย...

Devil Man U say: ให้เบอร์ได้ยังอะ...

Game say: วู้... ขอดีจัง เอาไว้ก่อน

Devil Man U say:  :sad2:

Devil Man U say: ใจร้าย...

Devil Man U say: งั้นวันหลังคุยกันใหม่นะ ที่ร๊ากกกกกก

Game say: อือ.... บาย

Devil Man U say: บาย

Devil Man U Offline…

..........

คุยกับนายคนนี้แล้วสนุกดีจัง รู้สึกไม่เครียดดี ไม่ยักคิดว่ายังมีคนแบบนี้ในโลกอีก เหอๆ หรืออาจจะเป็นหน้ากากที่เขาสวมใส่อยู่ก็ได้ มองโลกแง่ร้ายจังเรา ToT…

จะห้าโมงเย็นแล้ว ป่านนี้เต๊บคงถึงหอแล้วมั้ง รีบกลับดีกว่า ท่าทางฝนจะตกด้วย... เง้อ.... ไม่ทันจะพูดจบ ToT ฝนตกครับ เฮ้อ... ไอ้เกมเลยติดแหงกอยู่ทีศาลารอรถหน้าห้องสมุด หนาวด้วย...

“ตกมาทำไมตอนนี้วะเนี่ย” เสียงคนที่วิ่งเข้ามาหลบพูดขึ้น ทั้งศาลามีแค่ผมกับคนๆ นั้นเท่านั้นครับ เหอๆ ตกหนักกว่าเดิมอีก

“อ้าว... นายนั่นเอง จำเราได้เปล่า...” งงสิครับ ไอ้เกมยิ่งปลาทองอยู่ด้วย

“เก่งไง คนที่นายขอนั่งในห้องสมุดเมื่อวันก่อนอะ”

“อ่อ... จำได้แล้ว....” เหอๆ ถึงว่าหน้าคุ้นๆ

“เอาไง จะวิ่งกลับหอเลยเปล่า” เก่งเอ่ยถาม

“ไม่อะ เดี๋ยวหนังสือเปียก” หนังสือ 2 เล่มที่ผมถืออยู่สภาพมันยิ่งไม่หน้าดูเท่าไหร่ ถ้าวิ่งตากฝนตอนนี้ มีหวังไม่เหลือกลับคืนห้องสมุดแน่

“อือ... งั้นเราอยู่เป็นเพื่อนแล้วกัน...” แล้วนายเก่งก็นั่งลงข้างๆ ผม ฝนตกหนักมาก มากซะจนไม่ได้ยินเสียงพูดของอีกฝ่าย จึงทำให้ต่างคนต่างเงียบ ผมเลยหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน อ่านได้ประมาณเกือบๆ ครึ่งเล่มฝนก็เริ่มซาๆ และหยุดตกในที่สุด

“ไม่รู้เพราะอะไรนะ ทุกครั้งที่เจอนาย ฝนต้องตกทุกที...” เก่งพูดขึ้นหลังจากฝนเริ่มซา

“เอ่อ... จะด่าหรือชมครับ”

“เฮ้ย... โทษที ไม่ได้ด่า แค่แปลกใจเท่านั้นเองแหละ งั้นกลับหอกันดีกว่า”

“อือ...” ผมกับเก่งเดินไปด้วยกันได้ครึ่งทาง เก่งก็แยกตัวออกไป เพราะเขาเอารถมาจอดไว้ที่โรงอาหาร ส่วนผมก็เดินต่อไปจนถึงหอ

ประตูห้องผมเปิดอยู่ ไม่มีใครนอกจากพ่อคุณทูนหัวของผมครับ ดูเขาวุ่นๆ อยู่กับการเก็บของอยู่เลยไม่ได้สังเกตว่าผมเดินเข้ามานั่งบนเตียงตัวเอง แล้วก็ล้มตัวนอนลงแล้ว (บ้าเอ๊ย... ตัวยังเปียกอยู่เลย)

“เย้ยยยย.... มาตอนไหนเนี่ยครับ ไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจนะเนี่ย” มันทำท่าตกใจได้ตลกสุดๆ

“ก็เต๊บมัวแต่จัดของอะ ไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนหนาว” 55+ ไอ้เกมเอ๊ย ว่าแล้วก็วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

“มานั่งตรงนี้มะ ที่รัก...” ดูแววตามันหื่นมากขอรับคุณผู้ชม

“คิดถึงจังเลย...” มันดึงผมเข้าไปกอดแล้วก็หอมแก้ม (วุ้ย... อย่าเพิ่งอิจฉานะครับ)

“พอแล่ว...” ผมผลักมันออก ไม่ทันแล่ะ มันรวบหัวรวบหางผมทันทีครับ ToT ตั้งหลายทีอะครับ อิอิ...

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 29-10-2007 19:53:01
 :m30: :m30: :m30: :m30: :m30: :m30: :m30:

ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจที่มีให้แก่ผมนะครับ ไม่ขอตอบขอบคุณเป็นรายบุคคลนะครับ

เอาเป็นว่ายังไงก็ขอขอบคุณมากๆ สำหรับทุกอย่างที่มีให้นะครับ อิอิ

 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-10-2007 20:20:49
จิ้นอีกแล้ว  :m10:  :m10:  :m10:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-10-2007 20:35:32
หว่า....อย่าแอบมีกิ๊กกานทั้งสองคนนะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะพี่เต้   สุ้ๆนะ :m17: :m17:

ปล........รักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะฮะ

            เด๋วมานจะกลับมาไม่สบายอีก

           ยังไงก้อหายเร็วๆนะฮะ :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-10-2007 20:52:16
ใครปลอมตัวมาคุยเอ็มกันน๊า
 :m28:
โชกุนยังไม่ตัดใจหรือ อิอิ
มีแฟนอยู่แล้วต้องรักแฟนมากๆสิ
 :m9:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 29-10-2007 21:24:17
มาอ่านๆๆ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 29-10-2007 21:56:24
อ๊ะ ทิ้งไว้ให้จิ้นอีกเรื่องละ  :m25:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 29-10-2007 22:41:37
มารุ้นขออย่าให้มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นเลย  แต่ สงสารโชกุนจัง :o12: o7 o7  แต่ไม่เป็นไรเราขอดามหัวใจให้แล้วกัน :m13: :m3: :m1:  อ่านเรื่องนี้แล้วดีเพราะว่าเป้นจังหวัดของตัวเอง
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 30-10-2007 14:28:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 30-10-2007 15:10:26
เปนกะลังจายให้คับผมพี่เต้

ปล. ชอบพี่เต้ค้าบบบบ  :m3: :m3:
      แต่ว่า รักพี่โชกุน  :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-10-2007 17:46:49
รอพี่เต้นะฮะ

รอ รอ รอ รอและก้อรอ คุคุ :m13: :m13:

ปล....รักษาสุขภาพด้วยนะฮะ คุคุ :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: icezanesta ที่ 30-10-2007 18:41:59
มารออ่านต่อ

สู้ ๆ นะค้าบ  :m4:

รักกันนาน ๆ นะ 
 
แต่ยังไง ถ้าพี่เกม ไม่เอา พี่โชกุน ขอเลยละกันนะคับ   :impress:

ไปแระดีก่า  :bye2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (1 ตอนแทนคำขอบคุณ 29/10/50)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 31-10-2007 00:20:59

                .............. ทะลึ่ง  ตอนจบ สมแล้วที่เป็นเต้  เฮ้ย ..........   o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 31-10-2007 01:48:47
 :m22: :m22: :m22: :m22: :m7: :m7: :m7: :m7:

มารออ่านต่อ

สู้ ๆ นะค้าบ  :m4:

รักกันนาน ๆ นะ 
 
แต่ยังไง ถ้าพี่เกม ไม่เอา พี่โชกุน ขอเลยละกันนะคับ   :impress:

ไปแระดีก่า  :bye2:

เปนกะลังจายให้คับผมพี่เต้

ปล. ชอบพี่เต้ค้าบบบบ  :m3: :m3:
      แต่ว่า รักพี่โชกุน  :m18: :m18: :m18:

มารุ้นขออย่าให้มีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นเลย  แต่ สงสารโชกุนจัง :o12: o7 o7  แต่ไม่เป็นไรเราขอดามหัวใจให้แล้วกัน :m13: :m3: :m1:  อ่านเรื่องนี้แล้วดีเพราะว่าเป้นจังหวัดของตัวเอง

อารายหว่า  :m16: มีแต่คนชอบไอ้โชกุน ใช่สิ ก็มันหล่อนี่นา (คิดถึง จิ๊บบี้ที่มีหัวฟูๆ แบบดีเจ เด นะ) ไม่เหมือนไอ้เกม (ไอ้เต้เองแหล่ะ) ที่มัเจ้าชู้ ชิๆ แถมมีแต่คนชอบพระเอกมากกว่านายเอกของเรื่อง  :sad2: เกิดมาเป็นเตเต้นี่ชั่งอาภัพซะเหลือเกิน ใครก็ได้ปลอบใจด่วนเลย ฮือๆๆๆ ให้จุ๊บแก้มทีหนึ่ง อิอิ (หวาไม่มีเลยเหรอครับ)  :a14:


                .............. ทะลึ่ง  ตอนจบ สมแล้วที่เป็นเต้  เฮ้ย ..........   o17 o17 o17

อ๊ะแหม โก๋ (ชื่อของ cargo ในนิยายภาคพิศดารของผม) อย่างนั้นเจ๊แน๋วแกจะให้ฉายาผมว่า เต้หื่น เหรอครับ มีฉายาเป็นการันตีขนาดนี้ จะมีให้ผิดหวังเหรอครับ (แต่ปล่อยให้จิ้นเอง 55) เอาน่าๆ เด๋วไอ้เต้จัดให้ในภาคพิศดาร โก๋อยากได้กี่ท่า ก็บอกมา มีอยู่ 365 ท่าในปฏิทิน (ในมือ คิดอยู่ว่าจะใช้กับใคร เอิ๊กกก  :m18:) รับรองโก๋ชอบใจแน่นอน 555+

เชิญอ่านนิยายต่อได้เลย แต่ถ้าใครไม่อ่านด้านบนนี้ เหมือนเดิม ขอให้ไม่แข็ง ไม่สู้ นกกระจอดไม่ทันกินน้ำ เรือล่มปากอ่าว 55+ และใครที่รีจิ้มตูดผมเป็นคนแรก ให้หอมแก้มหนึ่งที 55+ (จะมีใครกล้ารีไหมเนี่ยะ หึหึ)

ไปอ่านไป๊...

..........


บทที่ ๙ เมื่อไอ้เกมกลับบ้าน

..........


บนโลกใบนี้มีแต่ความวุ่นวาย แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น แต่นั่นแหล่ะ ถือเป็นสีสันบนโลกใบนี้ แต่ละคนต่างก้าวเดินไปตามที่เจ้าของโลก (ไม่ใช่จ้าวโลกนะ แหะๆ) ขีดเส้นเอาไว้ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ตรงบ้าง (งอขึ้นบ้าง งอลงบ้าง แล้วแต่เก็บแบบไหน ก๊ากกกก ไม่เกี่ยวกันเล้ยยยย) ถอยหลังบ้าง แล้วแต่เขาจะขีดไว้อย่างไร นอกเหนือจากที่เจ้าของโลกใบนี้ขีดไว้แล้ว เรายังสามารถที่จะขีดเส้นเดินของตัวเองได้ ขีดให้ตัวเองเผชิญกับปัญหา หรือจะหลบเลี่ยงปัญหา ขึ้นอยู่ที่เราจะขีดว่าจะทำอย่างไร อย่างเช่นผมที่พร้อมที่จะกลับบ้านเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีที่มาเรียนในระดับอุดมศึกษา

“ถึงอุบลแล้วโทรมาบอกด้วยนะครับ” ไอ้ตี๋เต๊บบอกผมด้วยเสียงที่ยังไม่ตื่น อีกไม่กี่นาทีก็จะ 6 โมงเช้าแล้ว ผมให้เต๊บเข้ามาส่งที่ บขส. ในเมือง แต่ดูตามันยังไม่ตื่นเลย

“คร้าบ... แล้วนี่ไหวเหรอ ตื่นๆๆๆ”

“หอมแก้มทีหนึ่งตื่นเลย” ดูมัน ทะลึ่งไม่เลือกที่ กล้าขอมิรึไอ้เกมจะกล้าขัด 55+

“เอาจริงเหรอเนี่ย” ดูมันตื่นเต้นมากมาย แหะๆ ไอ้ผมมันไม่ค่อยสนใจคนอื่นเท่าไหร่สิ

“ดูทำหน้าเข้า อายอะไรเนี่ย”

“เปล่า... ไม่นึกว่าเกมจะกล้า” เหอๆ ใช่ว่าไม่อาย แต่หน้าด้านไว้ก่อนเว้ย ก็เกือบอาทิตย์ที่ผมจะกลับบ้าน ไม่เห็นหน้ามันก็คิดถึงแย่ดิ แฮ่ๆ

การเดินทางที่แสนจะยาวนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่งในที่สุดก็มาถึงอุบลจนได้ เหนื่อยจริงๆ เล้ย...

//ดีครับที่ร้ากกกก... ถึงยังอะครับ// ผมเพิ่งขึ้นรถเมล์ได้ไม่ถึงห้านาที เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

“อือ... ถึงแล้ว ตอนนี้เค้าอยู่บนรถเมล์นะ คนเยอะมั่กมาก”

//อือ...//

“ตัวเองตื่นยังเนี่ย... เสียงทำไมเหมือนยังไม่ตื่นเลย”

//แหะๆ ก็ว่าจะนอนต่ออีกนะครับ//

“พอเลย... ตัวเองตื่นได้แล้ว นี่จะสิบโมงแล้วนะ... เย้ยยย...” หวาย.... รถเมล์เบรกทำไมเนี่ย เกือบล้มซะแล้วเรา ดีนะที่จับราวไว้แน่น

//เป็นอะไรตัวเอง...// เต๊บมันถามผมด้วยเสียงดูตกใจพอควร อยากบอกมันด้วยว่าแฟนมึงโดนลวนลามด้วย (เหตุสุดวิสัย ให้อภัยๆ)

“รถเมล์เบรกนะ... แล้ววันนี้ตัวเองจะไปไหนไหมเนี่ย”

//บ่ายๆ ครับต้องเข้าตึกนะ//

“อืม... แล้วจะไปไหนต่อ” ตอนนี้รถเมล์มาถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคแล้วครับ มีเด็กช่างเดินขึ้นมากมาย แหะๆ น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย

//ทำไมเงียบไปอะ...//

“เปล่าๆ พอดีมีเด็กช่างขึ้นรถเมล์นะ ต้องชิดในให้เขาขึ้นนะ” เหอๆ คนเยอะชะมัด

//นี่... อย่าไปเหล่เด็กช่างนะ ถ้ารู้หละเจอดีแน่ๆ//

“ไม่ได้เหล่ แค่มองเฉยๆ ตัวเองก็หวงไปได้”

//ไม่ให้หวงได้ไง มีคนเดียวในโลก ยิ่งหายากๆ 55// ไอ้นี่ จะด่าหรือจะชมกูวะ

“บ้า... แล้วนี่ทานข้าวยัง อย่าลืมทานยานะ”

//ครับๆๆๆ... อือ... แล้วยาอยู่ไหนนะ//

“ตัวเองเอาไว้ลิ้นชักหัวเตียง กับหนังสือลามกนั่นไง” เอ... ทำไมรู้สึกเหมือนมีคนมองหว่า...

//ไม่เห็นนะ...// ไอ้นี่มันหาเปล่าวะ

“ก็ลิ้นชักเดียวกันที่เก็บถุงยางนะ เห็นยัง” วาก... คนหันมามองเต็มเลยครับ

//แหม่... เมียเรานี่แสนรู้จังเลยนะ// กรรม ด่ากูอีกและ (มันคงไม่รู้ว่าผมรู้ว่ามันเก็บถุงยางไว้ตรงไหนมั้งครับ (แล้วทำไมต้องวงเล็บบอกเรื่องแบบนี้ด้วยตรู) กรรมๆๆๆๆๆ)

“ไอ้นี่ เมียไม่ใช่หมา เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย...” อือ... ไอ้เด็กเทคนิคคนนี้มันมองแปลกๆ เว้ย อย่านะเว้ย ไอ้เกมสู้คนนะ

//ตัวเองถึงไหนแล้ว//

“ข้ามสะพานแล้วหละ เดี๋ยวก็ถึงท่ารถแล้ว...”

“ไอ้พวกวิปริต...” มีเสียงดังขึ้นข้างหลังผม ผมเลยหันไปมองว่าใครพูด พูดถึงผมหรือเปล่า มองไปก็เจอสายตาเหยียดๆ ของไอ้เด็กเทคนิคคนนั้นที่มองผมตั้งแต่ขึ้นรถที่หน้าวิทยาลัยเทคนิค หน้าตามันก็ดีนะ เสียอย่างเดียว ปากแม่...ง น่าเหยียบดีแท้

//ตัวเองเป็นอะไร ทำไมเงียบอะ//

“เปล่า... ไม่มีอะไร พอดีหมามันเห่านะ” 55+ ไอ้เกมพูดเสียงดังซะด้วยสิครับ คนมองผมเต็มเลย ชะตาใกล้ขาดแล้วไงไอ้เกม เอิ๊กกก...

//อ้าว... ทำไมหมามันขึ้นบนรถเมล์ได้หละ// มันยังไม่รู้ว่าผมกำลังมีเรื่องกับเด็กช่างครับ

“ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมถึงปล่อยให้หมามันขึ้นมาเห่ามาหอนคนอื่นได้” ผมพูดจบก็ยักคิ้วให้ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนั้นทีหนึ่ง มันมองด้วยสีหน้าอาฆาตผมสุดๆ ครับ ฮะๆ ไม่กลัวเว้ย...

“ตัวเองเดี๋ยวค่อยคุยกันนะ เดี๋ยวเขาลงรถไปซื้อของในตลาดก่อน” ว่าแล้วผมก็วางโทรศัพท์ไปก่อนจะก้าวลงรถอย่างสง่างาม (เกี่ยวไหมอะครับ)

“มึง...” ไม่ทันก้าวถึง 10 ก้าว ก็มีคนมาดึงคอเสื้อจากข้างหลัง เกือบหงายหลังเลยผม ก่อนที่มันจะขยุ้มคอเสื้อด้านหน้าผม แหม่ๆ ทำไปได้ไอ้น้อง ตัวก็เตี้ยขนาด....

“มึงด่ากูเหรอ อยากมีเรื่องกะกูใช่ไหม...”

“เฮ้ย... ไอ้บาส... พอเหอะ มึงไปว่าเขาก่อนนะเว้ย... พี่ผมขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะครับ... ปล่อยมือไอ้บาส” แต่ท่าทางมันไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

“กูถามมึงว่ามึงด่ากูใช่ไหม...”

“โทษทีนะครับ ผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ไม่ทันได้สังเกตว่าคำพูดไหนที่ด่าคุณ”

“ก็มึงด่ากูว่าหมาไง วิปริตแล้วยังปากดีอีกนะ อีตุ๊ดส์เอ๊ย...” อ๊ะแหม... ด่าขนาดนี้ไอ้เกมคงต้องสนองตอบซักหน่อยหละมั้ง ความสูงแค่ 170 มั้ง เตี้ยกว่าผมอีก กล้ามากมาย

“กูเป็นตุ๊ดแล้วไปเอากันบนหัวพ่อมึงเหรอ...” ว่าแล้วก็กำคอเสื้อมันคืนครับ มันคงตกใจที่ผมสนองตอบมัน ดิ้นใหญ่เลยครับ “...ไอ้หน้าอ่อน ตัวกะเปี๊ยกเดียวเสือกกล้าเล่นของสูงนะมึง” แหะๆ ว่าแล้วผมก็กำคอเสื้อมันแล้วก็ยกขึ้น ดูเหมือนมันจะเขย่งเท้าตามด้วย

“ปล่อยกูนะมึง... ไอ้วิปริต...”

“คำก็วิปริต สองคำก็ตุดส์... เดี๋ยวกูจูบโชว์หน้าตลาดเลยมึง เฮ้อ... ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้...” ว่าแล้วก็เอื้อมมือซ้ายที่ว่างอยู่ไปจับก้นมันแล้วขยำทีหนึ่ง (หื่นแล้วกู)

“ก้นแน่นดีนี่ 555+”

“มึง...” มันปัดมือผมออกแล้วก็จะเข้ามาชกผม อ๊ะๆๆๆ เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้ไอ้เกมไม่ใจอ่อนหรอกนะ ไม่ทันที่จะคิดเท้าผมก็ไปประทับอยู่บนหน้าอกมันแล้วครับ

“ไอ้บาสพอเหอะ... คนมองใหญ่แล้ว เดี๋ยวพ่อมึงก็มาหรอก... พี่ผมขอโทษอีกทีนะครับ” แล้วเพื่อนมันอีกสองคนก็ดึงไอ้หน้าอ่อนนั่นออกจากตรงนั้น (แล้วทำไมมันไม่ช่วยเพื่อนมันวะ)

“น้องจ๊ะ... กล้ามากเลยนะ ไอ้เด็กพวกนี้มันมาตีกันอยู่หน้าตลาดประจำ โดนเฉพาะไอ้ตี๋นั่น ไม่มีใครอยากยุ่งกับมันเลยนะ น้องเป็นคนแรกที่ทำแบบนั้นนะ” เอาแล้วไงกรู 55+ วีรกรรมที่ควรยกย่องไหมเนี่ย

“ผมว่ามันก็แค่เด็กที่เรียกร้องความสนใจนะครับ” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปซื้อของดีกว่า

“ครับ...” มีโทรศัพท์เข้ามาเลยรับครับ

//ถึงไหนแล้ว...// เสียงหม่ามี้ผมเอง...

“กำลังซื้อของที่ตลาดวารินอยู่ม้า... เดี๋ยวก็ไปขึ้นรถแล้ว” แล้วก็วางสายไป ได้ของครบแล้ว ไปขึ้นรถสองแถวเข้าหมู่บ้านดีกว่า
ผมนั่งรอให้รถออกเกือบสามสิบนาที เฮ้อ... เบ็ดเสร็จการเดินทางของผม ออกจากมหาสารคาม หกโมงเช้า กว่าจะถึงบ้านก็คงเกือบๆ เที่ยงนู่นมั้ง เหอๆ ในที่สุดรถก็ออกซะที ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออก ก็มีคนเดินมาขึ้นคนหนึ่ง ทายสิครับว่าใคร ก็ไอ้เด็กช่างคนที่มีเรื่องกับผมที่หน้าตลาดนั่นแหละ อะไรมันจะมีดวงสมพงศ์กันขนาดนี้วะเนี่ย มันดูชะงักไปนิดก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผม (มันว่างพอดีครับ)

แล้วในที่สุดก็มาถึงทางเข้าบ้านผมซะที ไม่ได้กลับนานแล้ว อะไรๆ เปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่... ไม่อยากเชื่อ ไอ้เด็กเวรนั่นเดินลงมากับผม มันจะตามมาฆ่าผมหรือเปล่าเนี่ย แล้วผมก็เดินเข้าบ้านผม โดยมันก็เดินเลยบ้านผมไป อย่าถามนะครับว่ามันไปไหน ผมไม่รู้คร้าบบบ ไม่ได้สนใจ

“สวัสดีคร้าบบบบ คุณป๊าคุณม๊า เอิ๊กกกกก...” ไม่ได้เจอหน้ามานานคิดถึงจังแฮะ

“ทำไมคอเสื้อยับอย่างนั้นหละเกม” พ่อผมถามขึ้น

“อ๋อ... ไม่มีไรหรอกป๊า มีเรื่องกับเด็กช่างนิดหน่อยนะ แหะ ก็ไอ้เด็กที่เดินผ่านไปตะกี๊นั่นแหละ ซวยฉิบเป๋งเลยป๊า” ผมเรียกพ่อกับแม่ว่าป๊ากับม๊านะครับ ไม่มีอะไรหรอกแค่แอ๊บหรูไปงั้นแหละ 55+

“เอ๋า ทำไมทำหน้างั้นหละ” ไม่มีอะไรครับป๊ากับม๊าผมมองหน้ากันทีหันมามองหน้าผมที

“ก็แต่ไหนแต่ไร เกมไม่เคยมีเรื่องกับใครนี่” อ๋อ... นึกว่าอะไร

“โถ่ป๊า... ไอ้เกมของป๊ามันเปลี๊ยนไป๋แล้ว” เปลี่ยนไปอย่างมากเลยแหละ โดยเฉพาะมีแฟนเป็นผู้ชายนี่สิ อยากบอกใจแทบขาดเลยแหละ แต่ไม่กล้า อิอิ...

..........

ป.ล. หลังจบ ไอ้เด็กช่างคนนี้ เป็นคนทำให้ผมเบี่ยงมาชอบกินหญ้าอ่อนเองคร้าบบบบบ  :laugh:  :laugh: :laugh:

สนุกกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปนอนก่อนหละ แอบมาอึ๊บ เอ๊ยยยยย อัพ ตอนดึกๆ แบบนี้ ไม่ไหวๆ มึนๆ น้ำก็ยังไม่อาบ (ซกมกมาก 55+)

ไปแล่ะ  :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9: :a9:

 :a1: :a1: :a1: :a1: :a1: :a1: :a1:

ป.ล. อีกที ขอฝากเรื่องสั้นเรื่องใหม่ในกระทู้เดิมนี้ด้วยนะครับ ไม่เกี่ยวกับนิยายภาคพิศดารนะครับ ตามลิงๆ เอ๊ย ตามลิงค์ๆ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2668.0

@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"@"
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 31-10-2007 02:10:13
             ขอหอมแก้ม 2 ข้าง ได้ปะ เพราะจิ้มตูด   2  ที (2 เรื่อง)   เอาเราซะผอมเลย (เสียน้ำและเกลือแร่  o12)

          ถ้า   โก๋  มะช่ายพระเอกนี่   มี  เฮ  แน่นายเต้  จะจิ้มเพิ่มให้เข็ด (พระเอกต้องเหมือนกะผมนะคับ คือ หล่อมาก)

                            เต้   ผมก็ยังเด็กนะ   ชอบปะ   (สะใจกรูจริง)
                          :laugh: :laugh: o3 o3 :laugh3: o18 o18 :yeb: :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: ifwedo ที่ 31-10-2007 04:00:20
กินเด็กไม่แบ่งติดคอนะจะบอกให้ฮุๆ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 31-10-2007 07:29:21
เต้หื่นเน๊อะ ชอบกิงหญ้า.....อ่อน  o17
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 31-10-2007 09:15:44
กรรม มีสปอยแถมอีก
แต่ก็ว่าเด็กช่างเถื่อนดี
 :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 31-10-2007 14:16:54
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-10-2007 17:25:53
คุคุ...พี่เกมกำลังจะเปลี่ยนไปหยอเนี่ย

แย้วพี่เต็บจะเปงไงละฮะเนี่ย คุคุ

ยังไงก้อหวังว่าคงจะไม่มีอารายร้ายแรงนะฮะ

อย่าลืมมาต่ออีกนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กาดื๊บ อึ๊บๆ มาอัพตอนดึก อิ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 01-11-2007 00:31:25

   เพิ่งเลิกงานอะ   โคตรเหนื่อยเลยอะ    :sad2: :oak:

   มะรู้ว่าใครบางคนจะแอบมาอีกหรือเปล่า (อีแอบ อิอิ) :kikkik: :kikkik:

   แต่มะไหวแล้ว   ขอนอนเอาแรงก่อน   พรุ้งนี้มีเรียนแต่เช้า 8 โมง อะ   :sad5: :sad5:

    เด๋วมะไหว หลับอีก จะเซ็งมาก     คิดถึงเต้  จุ๊บ ๆ :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 01-11-2007 12:33:06
ในตอนนี้มีภาษาถิ่นอีสานอยู่บ้าง เนื่องจากรีฯ ล่างๆ ไม่เข้าใจบ้างเป็นบางคำ ผมได้ถอดเป็นภาษากลางให้แล้วนะครับ ขอบคุณครับ

..........

บทที่ ๑๐ เมื่อไอ้เกมกลับบ้าน ๒

..........

อืมมมม.... กระผมไม่ได้กลับบ้านก็หลายเพลา ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะพอควรแฮะ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินของสังคมที่นี่ชะมัดเลย แต่มิเป็นไร กระผมมันจิ้งจกเปลี่ยนสีได้อยู่แล้วครับ 55+

“เกม... พาแม่ไปบ้านน้าหน่อยสิ” ท่านแม่กระผมบัญชามาตอนเกือบๆ เที่ยง

“แดดๆ แบบนี้นะม๊า ไม่ไหวมั้ง” แต่ไม่ทันที่จะพูดมากกว่านี้ครับ คุณแม่ท่านเอาเรื่องเงินมาอ้าง ชิ แม่นะแม่ รู้อยู่ว่าลูกแพ้เงินที่สุด 5555555

สุดท้ายผมก็ต้องพาคุณแม่สุดที่รักไปบ้านน้าที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยที่กระผมแต่งตัวมิดชิดมาก (แดดแรงมั่กมากครับ)

“ลูกคนหรือลูกผีวะเนี่ยะ” คุณน้าผมแซวครับ เล่นแรงวุ้ย

“แหมน้า ผมนะลูกชายพี่สาวน้านะ ลูกคนหรือลูกผีหละครับ 55+” เล่นของสูงแล้วไงไอ้เกม

“แม่ น้า เดี๋ยวผมขอไปบ้านเพื่อนก่อนนะ เดี๋ยวมา หรือไม่ก็โทรตามได้ครับ” ว่าแล้วก็บึ่งมอเตอร์ไซค์ออกมายังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ข้ามทางรถไฟก็ถึงแล้ว อือ... สภาพบ้านยังเหมือนเดิมแฮะ เพื่อนๆ ทายสิครับว่าผมมาหาใคร อิอิ...

“มาหาไผหละผู้บ่าวน้อย...” (มาหาใครกันจ๊ะ พ่อหนุ่ม) เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น

“ผมมาหาอ้ายตงครับแม่...” (มาหาพี่ตงครับคุณแม่) รู้แล้วสิครับว่าผมมาหาใคร

“อ้อ... ถ่าจั๊กคาวเด้อ เดี๋ยวแม่ไปเอิ้นมาไห่ ... ตงเอ๊ย... มีคนมาหาแน่ะลูก” (งั้นรอสักครู่นะจ๊ เดี๋ยวแม่ไปเรียกมาให้ ตงเอ๊ย มีคนมาหาแน่ะจ๊ะลูก) สักพักก็ปรากฏผู้ชายรูปร่างสันทัด ใบหน้าที่ปรากฏริ้วรอย แต่ยังหล่อเหมือนเดิม

“มาหาผมเหรอครับ...” วากกกก จำเกมที่น่ารักไม่ได้เหรอ เราเปลี่ยนไปขนาดนั้นเหรอเนี่ยะ อ้วนขึ้นเปล่าเรา หือว่าน่ารักขึ้นหว่า 55

“พี่ตง นี่เกมเองนะ จำไม่ได้เหรอ”

“เกม... จริงอะ” ไม่ต้องบอกก็คงรู้มั้งครับ กระโดดกอดผมนะสิครับ นี่ถ้าเป็นไปได้คงหอมแก้มผมเลยมั้งนิ อิอิ

“หนักๆๆๆ เวอร์แล่ะๆ”

“เกมเปลี่ยนไปซะเราจำไม่ได้เลยแฮะ... ขาวขึ้น หล่อขึ้นเยอะเลย” เขินอะ

“เวอร์ๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แล้วนี้พี่ตงทำไรอยู่อะครับ”

“อยากรู้ใช่เปล่า ตามมาเลยครับ...” พี่ตงพาผมเดินเข้าบ้านไป เสียงงอแงของเด็กดังขึ้น ตรงหน้าผมคือเด็กผู้ชายอายุประมาณ 6 เดือนได้ กำลังดื้อเลยครับ

“เฮ้... ลูกพี่ตงเหรอน่ารักจังเลย ขออาอุ้มหน่อยสิครับ...”

“อุ้ย... ลูกหล่า อย่าเอิ้นจั่งสั้น ต้องเอิ้นลูกชายตั้ว” (ต๊าย... อย่าเรียกอย่างนั้นสิจ๊ะ ต้องเรียกว่าลูกสิจ๊ะถึงจะถูก) เหรอครับ ไม่รู้แฮะ

“ลูกชายผมติ ฮ่าฮ่า น่าฮักคือพ่อเกมเลยครับ” (ลูกชายหรือครับ หึหึ น่ารักและหล่อเหมือนกับพ่อเกมจริงๆ) เริ่มชมตัวเองแล้ว 55+

“แล้วนี่ชื่ออะไรครับผม”

“เกม... ชื่อเกม เด็กชายเชษฐวัทน์ สีสังปัด ลูกชายพ่อตง อติยะครับ” ตกใจสิครับ

“เฮ้ย... นั่น...” ไม่มีคำตอบนอกจากรอยยิ้มที่ยังเหมือนเดิมของผู้ชายคนนี้

“แม่ฝากเกมก่อนเด้อ เดี๋ยวข่อยพาหมู่ไปหนี่จั๊กคา” (แม่ครับ ฝากตาเกมก่อนนะครับ เดี๋ยวผมพาเพื่อนไปเที่ยวก่อน) แล้วพี่ตงก็พาผมมานั่งที่ท่าน้ำที่สมัยมัธยมเรามาเล่นกับเพื่อนๆ ในกลุ่มอยู่บ่อยๆ

“ไม่ว่านะครับ ที่เราเอาชื่อเกมมาตั้งให้ลูกชายแบบนี้...”

“เป็นเกียรติมากกว่าครับ ผมดีใจซะอีกครับ...”

“ขอบใจนะ...” รอยยิ้มพิมพ์ใจอีกแล้วววว

“อ๊า.... คิดถึงที่นี่จัง ปีกว่าแล้วที่ไม่ได้มาเหยียบเลย... พี่ตงเป็นไงบ้าง สบายดีเปล่า ดูซูบๆ ไปนะ”

“ก็เรื่อยๆ นะเกม ภาระมันเยอะ เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วนี่นาครับ”

“ชีวิตคนเรามันขีดมาคนละเส้นทาง ผมอิจฉาพี่ตงนะ อย่างน้อยก็มีลูกแล้ว ผมดิ ไม่รู้จะมีโอกาสหรือเปล่า...”

“น่ารักๆ แบบนี้คงหาไม่ยากหรอกมั้งครับ”

“แหมพี่ตง พูดซะเวอร์ ถ้าผมมองผู้หญิงได้ก็ดีสิครับ 55+ อย่ามองผมแบบนั้นสิ ไอ้เกมคนเก่านะมันได้ตายไปแล้วนะครับพี่ตง คนที่พี่ตงเห็นอยู่ตรงนี้นะ ไอ้เกมคนใหม่แล้วครับ”

“เราเชื่อนะ ดูเกมเข้มแข็งขึ้นมาก ไม่เหมือนเกมขี้แยคนเดิมเลย”

“55+ นั่นมันอดีตแล้วคร้าบบบ… เล่นน้ำเปล่าพี่”

“ไม่เอาหละครับ...” ผมไม่รอช้า ถอดเสื้อกระโดดลงน้ำทันทีครับ เย็นชื่นใจจริงๆ ว่ายไปมาซักพักค่อยกลับไปที่แพรอีกครั้ง

“ไม่รู้ทุกคนเป็นไงบ้าง ไม่ได้ติดต่อกันเลย...” ผมพูดขึ้นทันทีหลังจากใส่เสื้อเสร็จ

“ก็สบายดี เท่าทีรู้ข่าว ยกเว้นคนเดียวเท่านั้นแหละ... คงไม่ต้องบอกนะว่าใคร”

“หึ... ไม่เอา ไม่คุยถึงคนๆ นั้น...” อยู่ๆ ก็มีก้อนหินโยนมาตรงที่ผมกับพี่ตงนั่งอยู่ น้ำกระจาย ทำเอาพี่ตงเปียกเลยครับ

“โทษทีเฮียตง ผมหยอกเล่นนะ...” ไอ้เชี่ยเด็กช่างคนนั่นอีกแล้ว

“ไอ้เหี้ยดล... มึงเล่นกับกูแบบนี้กูไม่ว่า แต่นี่เพื่อนกูนะเว้ย...” พี่ตงด่ามันกลับแบบเล่นๆ ชื่อดลเหรอ เข้ากับหน้าตามันดีนี่

“อ้าว... เพื่อนเฮียเหรอ นึกว่า...” มันพูดแล้วทำท่ายิ้มแบบหยันๆ

“นึกว่าอะไร...” พี่ตงเอ่ยขึ้น

“นึกว่าชู้เฮียไง 55+…” ไม่ทันที่มันจะหัวเราะจบ ตัวผมก็ถึงมันแล้ว มือขวากำคอเสื้อ มือซ้ายผลักอกมันแล้วดันไปติดกับกำแพงดิน...

“หยุด.... ไอ้หน้าไหนก็ห้ามเข้ามาใกล้กูกับไอ้ปากหมาตัวนี้...” ผมพูดห้ามเพื่อนๆ มันที่กำลังเข้ามาช่วย พร้อมกับไอ้ดลที่ดิ้นเพื่อให้หลุดจากมือผม

“สมองมึงคิดได้แต่เรื่องทุเรศๆ นะ กูจะด่ามึงว่ายังไงดีกูถึงจะหายโกรธมึงวะ...”

“ปล่อยกูนะมึง...” มันยังดิ้นอยู่ครับ

“มึงจำไว้นะ กูไม่รู้ว่ามึงกับพี่ตงสนิทกันแค่ไหน แต่เท่าที่กุดูการกระทำมึงเขาไม่เรียกว่าสนิท แต่เขาเรียกว่า ลามปาม มึงเข้าใจเปล่าคำว่าลามปามนะ ฮ้า...”

“กูไม่รู้ กูรู้แต่ ไอ้ตุ๊ด...” อะฮ้า... อีกแล้วนะไอ้น้องชาย

“กูนึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้จากปากมึงซะแล้วสิ... เอาซิว่าไอ้ผู้ชายเต็มๆ อย่างมึงแล้ว เจอแบบนี้แล้วจะเป็นยังไง...” แหะๆ คือเพื่อนๆ อย่าว่าผมแกล้งเด็กเลยนะครับ คือเห็นมันน่ารักแล้วหมั่นไส้ที่ลามปามนะครับ ก็เลยแกล้งเด็กมันนิดนึงครับ แหะๆ ไอ้วิธีแกล้งของผมมันไม่คลาสสิกเลยนะครับ แบบว่าชกต่อยนะผมไม่ค่อยถนัด (ขนาดไม่ถนัดนะ...) วิธีที่ผมใช้จัดการกับไอ้เด็กคนนี้ไม่มีอะไรครับ ก็แค่...

จูบ   ...

ใช่แล้วครับ จูบ นั่นเอง มันนิ่งเลยครับ ไม่ดิ้นด้วย แต่ตามันโตด้วยอาการตกใจนะครับ ตัวมันสั่นนิดหนึ่ง สะใจจริงๆ จูบไปก็ชี้หน้าเพื่อนๆ มันห้ามเข้ามาใกล้ จูบจนมันเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้นเลยครับ 55+

“หึหึ... หวานดีนี่หว่า ไม่ยักกะรู้ว่าปากเด็กช่างเหี้ยๆ อย่างมึงจะหวานได้ใจกูขนาดนี้... เคลิ้มเชียวมึง ทำยังกับไม่เคยแหน่ะ” มันหน้าแดงมากๆ ครับ สงสัยยังไก่อ่อนอยู่แน่ (เจนจัดซะนะมึง ไอ้เกม)

“หมดลายเลยนะมึง... วู้... เกือบแล้วไหมหละ เล่นแรงอีกแล้วนะครับที่รัก ชกมาแบบนี้ถ้าหน้าหล่อๆ แบบพี่เป็นไรไป ใครจะรับผิดชอบหละครับ” มันจะชกผมนะครับ แต่ผมรับหมัดมันได้ ไม่งั้นหละเจ็บตัวแน่ๆ ผม

“ไปเหอะพี่ตง... เหนื่อยแล่ะ...” ผมพูดพลางเดินออกจากตรงนั้น

“เกม... เวลามีเรื่องกับใคร เกมทำแบบนี้หมดเลยเหรอเนี่ย” พี่ตงแกยังมีสีหน้าตื่นๆ สงสัยยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“เปล่าหรอกพี่ แค่แกล้งไอ้น้องพี่เล่นเฉยๆ เห็นปากมันกวนบาทาซะเหลือเกิน อีกอย่างนะพี่ ผมไม่กล้าเล่นแรงขนาดชกต่อยหรอก เล่นแบบนั้นผมเป็นฝ่ายเจ็บตัวมากกว่า ดูเพื่อนมันแต่ละคนสิ”

“55+” พี่ตงหัวเราะอย่างชอบใจ “นึกว่าเกมจะเจ๋งกว่านี้ซะอีก”

“อะนะพี่เรา กัดกันเองซะแล้ว...”

“พี่ครับ...” พวกเพื่อนไอ้เด็กดลนั่นเองครับ ยกมาทั้งก๊วนเลยครับ 7 คนได้ เสร็จแน่กรูไอ้เกม

“มีอะไร จะยกพวกมารุมตีนพี่เหรอ สู้นะเว้ย...” ยกการ์ดขึ้นมาก่อนหละครับ

“เปล่าคร้าบบบบ พวกผมแค่ จะมาพูดอะไรนิดหน่อยครับ...”

“อะไรวะ...” ว่าแล้วพวกมันก็คุกเข่าลงตรงหน้าผม

“รับพวกผมเป็นลูกน้องด้วยคร้าบบบ...” 555+ ไอ้เกมหัวเราะท้องหงายเลยครับ พวกมันทำเหมือนกับหนังจีนอย่างไงอย่างงั้น

“ตลกแล้วพวกมึง พี่ไม่เจ๋งขนาดนั้นหรอกเว้ย ถ้าเทียบกับไอ้ดลนะ...”

“โหยพี่ ท่าทางที่พี่ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะครับ ไม่เคยมีใครล้มไอ้ดลได้ ท่าพี่ที่กำคอเสื้อไอ้ดล ก็เท่ห์สุดๆ ไปเลยครับ...” ดูพวกมัน

“พอๆๆๆ พี่ไม่ได้เก่งขนาดนั้นเว้ย เข้าใจเปล่า เลือดขึ้นหน้านะ...”

“อีกอย่างพวกผมก็ต้องขอโทษพี่แทนไอ้ดล ที่พูดไม่ดีไปนะครับ”

“ช่างเหอะ พี่ไม่ถือสา เพราะพี่ได้กำไรแล้ว 55+ และอีกอย่าง ไอ้ดลมันก็พูดจริง ยกเว้นเรื่องพี่เป็นชู้กับเฮียพวกแกนะเว้ย...”

“ยังไงพวกผมก็ต้องขอโทษแทนมันด้วยนะครับ...”

“แล้วมันไปไหนหละ พี่อยากได้ยินคำขอโทษจากมันมากกว่า...” สักพักก็มีคนดึงมันออกมาด้านหน้ากลุ่มครับมันไม่มองหน้าผมครับ ก้มหน้าตลอดเลยครับ

“ไอ้เหี้ย... มึงเสียจูบแรกให้พี่เขาไปแล้ว จะมาอายอะไรวะ”

“แม่ง... มึงมาเป็นกูสิวะ” ถ้าเป็นเพื่อนมึงกรูก็ไม่ทำแบบมึงหรอกเฟ้ย...

“เอ่อ... ผมขอโทษครับพี่เกม...” มันพูดแต่ยังไม่กล้ามองหน้าผม

“มองหน้ากูดิวะ...” ผมจับหน้ามาเงยขึ้น ต้องเงยครับเพราะมันเตี้ยกว่าผม หน้ามันแดงแจ๋เลยครับ

“เห้ย แดดร้อนขนาดนั้นเหรอวะ ทำไมหน้าแดงแบบนี้” เสียงเพื่อนมันเฮขึ้นทีหนึ่ง

“พี่ๆ ผมจะเสียเพื่อนให้เป็นเมียพี่เหรอครับ 55+”

“ไอ้เหี้ยเวร...” มันหันไปสรรเสริญเพื่อนๆ มัน

“ผมขอโทษอีกครั้งนะครับที่พูดไม่ดีแบบนั้น...”

“ไม่เป็นไรพี่ไม่ว่า แค่อยากจะบอกเราและเพื่อนๆ ของเราว่า...

... ชีวิตเรามันยังมีอีกไกลที่เราจะเจอกับสิ่งต่างๆ อย่าเอาชีวิตของเราเข้าไปเสี่ยงกับเรื่องไม่ดีๆ ถ้าคนที่อยู่ตรงหน้าเราไม่ใช่พี่ เราอาจจะไม่มีสิทธิ์มายืนตรงนี้ได้อีก ปืนผาหน้าไม้มันหาได้ง่าย คำว่าตายคงไม่พ้นจากเราแน่ๆ...

... พวกน้องยังอยู่ในแค่จังหวัดนี้ ถ้าออกไปสู่ภายนอกพวกเราจะรู้ว่าโลกนี้ยังกว้างใหญ่ แม้เราจะเก่งจะเจ๋งในจังหวัดนี้ แต่อย่าลืมว่าที่อื่นเขาก็เก่งก็เจ๋งเหมือนกัน พี่อยากให้ทุกคนใช้คำว่าเก่งคำว่าเจ๋งในทางที่ดีมากกว่ามาใช้ในทางที่ไม่ดีแบบนี้ เข้าใจ๊”

“สาธุ...”

“กูไม่ได้เทศน์ สาดดดด...” พวกมันหัวเราะอย่างชอบใจครับ รวมทั้งพี่ตงด้วย เอากับเขาสิ

“พวกผมจะไม่ลืมที่พี่บอกครับ” เพื่อนไอ้ดลคนหนึ่งพูดขึ้น

“เออ... ถ้าพี่กลับมาคราวหน้าหวังว่าจะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อีกนะ...”

“อ้าว... พี่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกเหรอ”

“พี่เรียนที่มหาสารคามนะ นานๆ กลับที อีกทีคงเป็นปีใหม่ เอางี้ ถ้าปีใหม่พี่กลับมาแล้วเห็นพวกเราทำตัวดี จะเลี้ยงเหล้า...” เฮขึ้นอีกครั้งครับ ไอ้เด็กพวกนี้สอนอยู่แหมบๆ

“เงียบๆๆๆ” ไอ้ดลพุดขึ้น และพูดต่อไปอย่างอายๆ ว่า

“เอ่อ... พี่เกม พี่นะจูบเก่งมากๆ พี่สอนผมหน่อยได้เปล่า” เอาหละสิกรู พวกเพื่อนๆ มันก็หัวเราะอย่างสนุกสนานครับ

“ไม่เว้ย แกก็ไปหาคนสอนคนอื่นดิวะ ไม่แขยงไงวะที่จูบกับผู้ชายไง”

“ตอนแรกก็รู้สึกแขยงนะพี่ แต่แป๊บเดียว จากนั้นรู้สึกเคลิ้มอะพี่”

“ไอ้เหี้ย....” เพื่อนๆ มันหัวเราะด่ามันครับ 55+ นี่แหละเขาถึงเรียกว่าเด็กครับ

“ไม่เว้ย เอาหละๆ พวกนายไปเล่นน้ำต่อเหอะ พี่จะกลับบ้านแล้ว ไปเหอะพี่ตง”

“แล้วเจอกันคร้าบบบบบบบ” ไอ้พวกเด็กนั่นเฮเข้ามายกไอ้ดลขึ้นแล้วก็วิ่งลงน้ำกัน ส่วนผมกับพี่ตงกับบ้านด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม

... เต๊บ เขาขอโทษนะที่แอบไปจูบกับคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง ให้อภัยเขานะ เด็กมันยั่วนะครับ ...  :m23: :laugh:

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 01-11-2007 13:33:14
             ขอหอมแก้ม 2 ข้าง ได้ปะ เพราะจิ้มตูด   2  ที (2 เรื่อง)   เอาเราซะผอมเลย (เสียน้ำและเกลือแร่  o12)

          ถ้า   โก๋  มะช่ายพระเอกนี่   มี  เฮ  แน่นายเต้  จะจิ้มเพิ่มให้เข็ด (พระเอกต้องเหมือนกะผมนะคับ คือ หล่อมาก)

                            เต้   ผมก็ยังเด็กนะ   ชอบปะ   (สะใจกรูจริง)
                          :laugh: :laugh: o3 o3 :laugh3: o18 o18 :yeb: :yeb: :yeb:

 :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:

กินเด็กไม่แบ่งติดคอนะจะบอกให้ฮุๆ

 :m18: :m18: :m18: :m18: :m18: มันอร่อยจนแบ่งใครไม่ได้อะครับ เอิ๊กกกกก :laugh:

เต้หื่นเน๊อะ ชอบกิงหญ้า.....อ่อน  o17

ก็มันเคี้ยวง่าย ย่อยง่ายนี่ครับเจ๊ เหอะๆ ใครๆ ก็ชอบ หรือเจ๊ไม่ชอบหละครับ  :m20:

กรรม มีสปอยแถมอีก
แต่ก็ว่าเด็กช่างเถื่อนดี
 :m3: :m3: :m3: :m3:

หึหึ เถื่อนๆ ก็จริง แต่ไอ้เด็กคนนี้มันต่างๆ จากคนอื่นเยอะครับ ไม่งั้นไม่โดนใจไอ้เต้หรอกครับ 55+

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณครับ  o1

คุคุ...พี่เกมกำลังจะเปลี่ยนไปหยอเนี่ย

แย้วพี่เต็บจะเปงไงละฮะเนี่ย คุคุ

ยังไงก้อหวังว่าคงจะไม่มีอารายร้ายแรงนะฮะ

อย่าลืมมาต่ออีกนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

ไม่มีใครเปลี่ยนไปทั้งนั้นครับผม เชื่อใจผมและเต๊บนะครับ อิอิ  :m13:


   เพิ่งเลิกงานอะ   โคตรเหนื่อยเลยอะ    :sad2: :oak:

   มะรู้ว่าใครบางคนจะแอบมาอีกหรือเปล่า (อีแอบ อิอิ) :kikkik: :kikkik:

   แต่มะไหวแล้ว   ขอนอนเอาแรงก่อน   พรุ้งนี้มีเรียนแต่เช้า 8 โมง อะ   :sad5: :sad5:

    เด๋วมะไหว หลับอีก จะเซ็งมาก     คิดถึงเต้  จุ๊บ ๆ :yeb: :yeb:

 :a14: :a14: :a14: :m14: :m14: :m14: o16 o16 o16 :o8: :o8: :o8:


เหนื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาทิตย์หน้าโน่นนะครับถึงจะมาลงอีกที เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: Serendipity ที่ 01-11-2007 16:11:04
อ่านไม่ทันอ่ะคับ หอยทาก
เยอะเกิน ไว้จะมาอ่านเรื่อยๆนะคับ
เหอะๆๆๆ ได้หลับนอนบ้างม่ะเนี่ย เหงแล้วเหนื่อยแทน อิอิ
 :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใ#
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 01-11-2007 20:01:53
         Qoute : ...เหนื่อยๆๆ อาทิตย์หน้าโน่นนะครับถึงจะมาลงอีกที เหนื่อยมากกกกกกกกก.....


                เต้พูดแบบนี้   .....ฆ่ากันให้ตายซะดีกว่า.....              มาเร็วนะ ๆ    เอิ้ก ๆ   

                o2 :sad2: :sad2: :sad5: :sad5: :dont2: :dont2: :o7: :sad4:      

               เต้   ขอบอกหน่อย ดิ     บางคำพูดแปลมะรู้เรื่องเลย    พยายามแล้วนะ  คับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 02-11-2007 00:52:10
อร๊าาาาาาาซ์ซ์ซ์ซ์ :m10: :m10:

เกมสอนผมบ้างด้ายป้ะค้าบ หุหุ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 02-11-2007 12:05:57

แวะเข้ามาบอกว่าเค้ายังตามอ่านไม่ทันเลยอ่ะตัวเอง :m23:

แต่ตัวเองยังอยู่ในใจเค้าซำเม๋อน้า จุ๊บๆ  :จุ๊บๆ:

หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-11-2007 18:07:02
ร้ายกาจมากมายเยยง่าพี่เกม คุคุ

น่ารักดีเนอะอะ ชนะเด็กช่าง คุคุ

ยังไงก้อจะรอต่อไปนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (อัพใหม่หนึ่งตอนครับ 1 พ.ย. 50)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-11-2007 21:58:52
ชอบน้องบาสสสสสสสส  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (fanfiction 1 วันนี้ 4/11/50)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 04-11-2007 01:24:09
นี่เป็นส่วนที่มีแฟนนิยายแต่งให้ผมตั้งนานแล้ว เคยลงในบอร์ดๆ หนึ่งมาแล้ว ตอนแรกกะจะไม่เอามาลงแล้วหละ แต่ยังไงซะก็เอามาขัดตาทัพไปก่อน เพราะตอนต่อไปของเรื่องราวปกตินั้น ผมยังไม่ได้เขียนเพิ่มเลยครับ

..........

วันนี้เป็นวันที่ 16 ธันวาคม 2549 อีก 2 วันผมก็จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยแล้ว รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับ วันนี้เป็นวันซ้อมย่อยวันที่ 2 กว่า 10 เดือนที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนๆ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ที่ได้เจอเพื่อนๆ อีกครั้งหนึ่ง แน่นอน ย่อมมีกิจกรรมมากมายตามมา โดยเฉพาะเล่นไพ่ 55+ (เงียบไว้นะครับ) นานๆ จะได้เล่นเงินสะพัดในห้องผมกว่าหลายร้อยบาท หุหุ (น้อยใช่มั้ยครับ แน่นอน ไม่เยอะหรอกเพราะเล่นพอสนุกครับ)...

“นี่เกม แกมีคนถือกล้องเปล่า” โตโต้พูดขึ้น

“ไม่มีอะ ถ่ายเองดิว่ะ”

“ย่ะ...” โตโต้ค้อนขวับ ก่อนที่จะหันไปคุยกับคนอื่นต่อ ในกลุ่มผมยังคงพร้อมหน้าเหมือนเดิม...

“นี่แก ไอ้ดำมันอยากมาขอโทษแกนะ” โตโต้พูดถึงโก๋

“อืมมม... แล้วไง จะขอโทษก็มาเองดิ”

“แปลว่าแกยอมรับมันใช่เปล่า”

“ยอมรับอะไร เพื่อนกันนิ”

“เหรอ... ว้า... ฉันอุตส่าห์เชียร์”

“เชียร์อะไร ฉันไม่ได้คิดอะไรกับมันซักหน่อย”

“จ้า... ไปซ้อมก่อนเถอะ” โตโต้พูดขึ้นก่อนที่จะพากันไปซ้อมรับปริญญาต่อไป...

..........

“โตโต้ เย็นนี้แกไปพักที่ไหน” ผมถามโตโต้ขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการซ้อมย่อย โตโต้มาพักที่ห้องผมชั่วคราว ผมจึงต้องถามไว้ก่อน

“เราว่าจะไปพักกับเพื่อนใน ม.ใหม่ นะ”

“อืมมม จะให้ไปส่งเปล่า”

“ไม่เป็นไร เพื่อนเราจะมารับนะ”

“อืมมม...” ก่อนที่พวกเราจะไปทำกิจกรรมกันต่อ...

..........

ตอนนี้เป็นตอนเย็นของวันที่ 16 ธันวาคม อากาศเริ่มเย็นแล้ว หลังจากโหยหาฤดูหนาวมากว่า 2 เดือน ในที่สุดก็หนาวจนได้ อิอิ...

“....” เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น

“ใครโทรมาว่ะ นี่จะ 3 ทุ่มแล้วนะ” บ่นไปงั้นแหล่ะครับ

“ว่าไง หมิง”

//ยินดีกับบัณฑิตใหม่คร้าบบบบ// เสียงจากปลายสาย

“ขอบคุณคร้าบบบบ อยู่ไหนอะ”

//เราอยู่ บขส. มารับหน่อยดิ//

“จริงดิ หมิงมาจริงเหรอ”

//จะโกหกทำไมหล่ะ เราหนาวนะ มารับเร็วๆ...// หมิงพูดก่อนที่จะตัดสายไป

“อะไรว่ะไอ้นี่...” บ่นนิดบ่นหน่อยตามประสาคนอย่างนายเกม 55+ ก่อนที่ผมจะฝ่าลมหนาวไปรับเพื่อนรักของผม...

“มันอยู่ไหนเนี่ยะ...” ผมบ่นไปมองหาหมิงไป ลืมถามมันซะด้วยสิว่ามันมารอผมตรงไหน พอโรไปหามันดันปิดเครื่อง อะไรว่ะ...

“เกม...” เสียงๆ หนึ่งเรียกผมขึ้นจากทางด้านหลัง

“กะ... กุ๊น!!” เหอๆ เซอร์ไพรส์เป็นบ้าเลย

“มองตั้งนาน ดูเปลี่ยนไปเยอะนะ” กุ๊นพูดพลางยิ้มอย่างไมตรีจิตรให้ผม ใจละลายแล้วเกมเอ๊ย...

“มาได้ไงอะ แล้วหมิงหล่ะ”

“หมิงไม่ได้มาหรอก”

“อ้าว... แล้ว...”

“เกม... กุ๊นหนาวนะ กุ๊นว่ากลับไปคุยที่ห้องเกมดีกว่ามั้ย” ยิ้มอีกแล้ว... ไอ้นี่มันจะเอารอยยิ้มนี้พิชิตผมอีกเหรอ ให้ตายสิ เย็นไว้เกมเอ๊ย เย็นๆๆๆ...

ในที่สุดก็มาถึงห้องพักของผม หนาวเป็นบ้า... แต่ทำไมรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ ว่ะ...

“เกมอยู่คนเดียวเหรอ บ้านออกใหญ่ ไม่กลัวผีแล้วเหรอ”

“เปล่า... พักกับรุ่นพี่อีกคนนะ ส่วนข้างบนก็ไม่มีใครอยู่”

“อืมมม... ห้องเกมนี่อุ่นดีเนอะ” ดูมันยังชวนผมคุยต่อ คนไรว่ะหน้าหนาเป็นบ้า

“กุ๊นนอนบนเตียงนะ เดี๋ยวเกมนอนข้างล่างเอง”

“ได้ไง... นี่มันห้องของเกมนะ”

“งั้นเกมนอนข้างบน ส่วนกุ๊น...”

“กุ๊นก็จะนอนข้างบน...” ว่าแล้วมันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงผม

“เอ่อ...” เอาไงดีว่ะ ไม่ได้เจอกันเกือบ 5 ปี ผมชักทำตัวไม่ถูกซะแล่ว ตกม้าตายซะแล้วเกมเอ๊ย...

“เกมรังเกียจกุ๊นขนาดนั้นเลยเหรอครับ... งั้นเดี๋ยวกุ๊นไปหาที่พักข้างนอกก็ได้” ว่าแล้วกุ๊นก็หยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องผม

“เดี๋ยวก่อน... มันดึกแล้วนะ” ผมคว้ามือกุ๊นไว้ ก็มันทำหน้าตาน่าสงสารอะครับ จะใจร้ายเกินไปก็ไม่ดี อิอิ

“....” ยิ้มอีกแล่ะ ไอ้นี่มันยิ้มดีจังวะ

“กุ๊น... กุ๊นมากะทันหันแบบนี้ เกมตั้งตัวไม่ทันอะ”

“ครับ... กุ๊นเข้าใจครับ แต่กุ๊นอยากมาแสดงความยินดีกับเกมอะครับ”

“อือ... ก็ไม่ว่าอะไรนี่ มานอนได้แล้ว...”

“คร้าบบ” แล้วมันก็กระโดดขึ้นบนเตียงผม ก่อนที่ผมจะตามขึ้นไปนอนบนเตียงเช่นกัน บางครั้งการกระทำของคนเรา มักจะไม่มีเหตุผลจริงๆ นะ เฮ้อ....

..........

หวังว่าคงถูกใจแฟนคลับไอ้คุณกุ๊นนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (fanfiction 1 วันนี้ 4/11/50)
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 04-11-2007 01:29:53

            จิ้มตูดให้หายคิดถึงอีกซักที   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: o17 :o8: :o8: :o8: :o8: o3 :laugh3: o18 :o7: :sad4: :dont2: :oak: :interest: :kikkik: :yeb: :kikkik: :yeb:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (fanfiction 1 วันนี้ 4/11/50)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-11-2007 09:53:06
ถ่านไฟเก่า หุหุ  :m14:  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (fanfiction 1 วันนี้ 4/11/50)
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 04-11-2007 14:31:54
เรื่องพิเศษนี่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องตอนนี้ป่ะครับหรือเเยกออกไปอะ :m28:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (fanfiction 1 วันนี้ 4/11/50)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2007 14:45:59
เรื่องพิเศษนี่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องตอนนี้ป่ะครับหรือเเยกออกไปอะ :m28:
ช่ายๆฮะ มาต่อกานเยยรึเปล่าฮะ :m28: :m28:

แย้วพี่เต็บละ พี่เต็บไปไหนซะละนั่น

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 04-11-2007 18:26:23
ผม ติม ลูกพี่ลูกน้องของพี่เต้นะครับ มาลงนิยายแทนพี่เต้ครับ

 เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งของแฟนนิยายแห่งบอร์ดหนึ่งของพี่เต้นะครับ ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อเรื่องปกตินะครับ

..........

“บัณฑิตใหม่คร้าบบบ... เช้าแล้วนะครับ ตื่นได้แล้ว” เสียงใครว่ะ น่ารำคาญจัง จะนอน...

“อย่ากวน... จานอน”

“จะตี 5 ครึ่งแล้วนะครับ เดี๋ยวก็ไปซ้อมใหญ่ไม่ทันหรอกครับ” จริงสิ วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่พิธีพระราชทานปริญญาบัตรนี่หน่า ตายแล้วววววว...

“เฮ้ย... กุ๊นมาไงอะ”

“อ้าว....”

“อ๋อ... แหะๆ” เขินแล้วเกมเอ๊ย... แต่จะไม่ให้ผมแปลกใจได้ไงหล่ะครับ คนไม่เจอกันมาเกือบ 5 ปีแล้ว แล้วอยู่ๆ มานอนหันหน้าใส่กัน แถวยังกอดซะอย่างกับเป็นแฟนกัน (ผมกอดมันนะ 55+) มันต้องตกใจเป็นธรรมดา...

วันนี้เป็นวันซ้อมใหญ่ของพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ผมต้องแต่งชุดครุยวิทยาฐานะเต็มยศ รู้สึกเขินๆ ยังงัยไม่รู้ครับ แถมคนที่ช่วยผมแต่งก็เป็นกุ๊นนี่สิ เหอๆ ยิ่งเขินไปกันใหญ่...

“ยินดีด้วยครับ...” มันพูดเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั้ง และก็ได้กุ๊นนี่แหล่ะเป็นสารถีขับมอไซค์ให้ผม 55+ 6 โมงเช้าเนี่ยะมันหนาวนะครับ

“เกมอะครับ กุ๊นหนาวนะ เกมกอดกุ๊นหน่อยดิ” มันพูดแบบอ้อนๆ ครับ เหอๆ น่าสงสารจัง

“เราเป็นอะไรกัน ถึงจะให้กอดเนี่ยะ”

“... ก็... เป็นเพื่อนก็ได้ครับ นะๆๆๆๆ”

“เออๆๆ....” ผมสวมกอดมันครับ เหอๆ เขินตัวเองชะมัด

“ขอบคุณคร้าบบบบ” แล้วมันก็ขับมอไซค์ต่อไปจนถึง ม.ใหม่ 6 โมงครึ่งแล้ว....

“ทางนี้เกมมมมม” เสียงเพื่อนๆ โบกไม้โบกมือให้ผม หลังจากนั้นเราก็พากันถ่ายรูปมุมต่างๆ กัน โดยมีกุ๊นเป็นคนถือกล้องและดอกไม้ให้ผม 555+ น่าสงสารจังวุ้ย...

“นี่เกม หนุ่มที่ไหนถือกล้องให้ย่ะ... ไหนว่าไม่มีไง” โตโต้กระซิบกระซาบกับผม

“เพื่อนสมัยมัธยมนะ”

“เพื่อนจริงเหรอจ๊ะ ดูเขายิ้มให้แกสิ หวานซะ”

“เหอๆ” ผมได้แต่ยิ้มครับ หุหุ

จากนั้น 7.30 น. ก็ได้เวลาถ่ายรูปเป็นหมู่คณะ ก็ได้พ่อกุ๊นที่น่ารักอีกแหล่ะครับที่เดินตามถือของให้ผม 55+

จากนั้น 8.00-9.00 น. ก็รายงานตัวสำหรับบัณฑิตที่จะรับรอบบ่าย พอรายงานตัวเสร็จก็พากันถ่ายรูป

“นี่เกม จะไม่แนะนำตัวเพื่อนคนนั้นให้พวกเรารู้จักบ้างเหรอ” เสียงของแอร์ดังขึ้น เหอๆ เอาไงวะ

“เอ่อ... นี่ กุ๊น เพื่อนเก่าสมัยมัธยมนะ... กุ๊นนี่ แอร์ ยุ โตโต้....” และอีกหลายๆ คนที่อยู่บริเวณนั้น ดูกุ๊นมันจะไม่เขินเลย แถมคุยกับเพื่อนๆ ผมอย่างออกรสออกชาติซะด้วย เฮอะ...

“นี่กุ๊น คนนู้นเขางอนแล้ว ไปเอาใจคนนู้นเถอะ” เสียง ยุ ดังขึ้น

“ครับ...” แล้วนายกุ๊นก็เดินมายืนกับผม ก่อนที่เราทั้งหมดจะพากันถ่ายรูปอีกรอบ

“นี่ๆๆๆ แก...” ยุสะกิดผมพร้อมกับชี้นิ้วไปยังจุดๆ หนึ่ง

“ถ้ามีคนให้ดอกไม้ช่อนั้นกับฉันนะ จะดีใจมากๆ”

“เอาเบอร์ไอ้ต้ามาดิ เด๋วโทรบอกให้”

“บ้า... เดี๋ยว... มีคนถือมาทางนี้อะ”

“คงเอามาให้แฟนเขาแถวข้างหลังมั้ง...” ก่อนที่ผมจะพูดจบ ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับสายตาผู้คนนับพันก็หันมาทางผม และมีเสียงกรี๊ดจากรอบๆ ข้างผมดังขึ้น และเสียงฮือฮาตามมา ผมชักเริ่มอายแล้วดิครับ หันไปมองกุ๊น ขานั้นก็ทำหน้าบึ้งแล้วก็หันไปทางอื่นแทน ส่วนเพื่อนๆ ผมทำหน้าอิจฉาอย่างออกหน้าออกตา

“แกรับไว้ดิเกม” โตโต้ตระโกนขึ้น ตายห่า มันดันตระโกนตอนที่ทุกคนเงียบเสียงลงนะสิครับ เกมดังแน่คราวนี้ ฮือๆๆๆ

“เขาคงเอาให้ผิดคนมั้ง” ผมยังคนดูท่าทีคนข้างหน้าอยู่ (ผมมองไม่เห็นหน้าเขาครับ เพราะช่อดอกไม้บังไว้

“Congratulation ครับบัณฑิตใหม่” เสียงผู้ชายนี่หว่า ให้ผิดคนชัวร์ๆ

“เอ้า... รับไว้ดิครับเกม” พอเจ้าของช่อดอกไม้เปิดเผยตัวเองเท่านั้นแหล่ะ ผมหันไปทางกุ๊นทันที เหอๆ มันไม่มองมาทางนี้เลยครับ

“โชกุน... มาไงเนี่ยะ” ผมพูดและรับดอกไม้ด้วยท่าทีเขินๆ นิดนึง

“ก็มาแสดงความยินดีกับเกมนะดิ… ถ่ายรูปก่อนนะครับ” โชกุนพูด และเรียกเพื่อนเขาเข้ามาเป็นตากล้องถ่ายกับผม ผมมองไปทางกุ๊น มันคงรู้หน้าที่จึงเดินถือกล้องมาถ่ายรูปด้วย จากนั้นเพื่อนๆ ผมก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วย บริเวณนั้นวุ่นวายไปทันที

“ขอบใจมากนะโชกุน”

“ไม่เป็นไร เอ้อ... แล้วนี่เต๊บหล่ะ”

“เต๊บเขาไม่ได้มารับหรอก เขาอยู่อเมริกานู่น” ผมพูดกับโชกุนซักพัก เจ้าหน้าที่ก็มาประกาศให้จัดแถวเพื่อเตรียมตัวเข้าหอประชุมต่อไป...

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-11-2007 18:30:59
โชกุนนนนนนนน คิดถึงจัง  :m3:  :m3:  :m3: ว่าแต่เต๊บไปอเมริกา  :m21: รู้สึกมีลาง  :m29:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2007 18:37:18
ง่าๆ....ทามัม้ยพี่เต๊บถึงไปอยุ๋ เมกา ง่า

เอาพี่เต๊บกลับมานะ

ว่าแต่งานนี่ถ้าพี่เต๊บมาด้วยนี่ก้อครบเลยจิ อ๊อต้องพี่ตงด้วยนะฮะ คุคุ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ  :m13: :m13:

ปล..........หวัดดีฮะพี่ติม(พี่รึเปล่าหว่า)

              ยังไงก้อมาลงแทนพี่เต้อีกนะฮะ

             แต่ถ้าพี่เต้ว่างให้พี่เต้มาลงนะฮะ รอพี่เต้ต่อไปนะ :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 04-11-2007 19:31:54
เชียร์โชกุนอ่ะ :m3: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐๐Robin๐๐ ที่ 04-11-2007 19:56:48
แล้วเต๊บ ไปเมกา ทะมายนิ โฮะๆๆ หนุ่มๆเพียบ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 04-11-2007 23:50:46
 :m3: :m3: :m3:

ที่รักผมมาแว้วววว

ผม รัก โชกุน ค้าบบบ

 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (ลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 2 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-11-2007 17:29:21
มารอพี่เต้เหมือนเดิม.....จะรอทุกๆวันเยยนะฮะ

ยังไงก้อรีบเข้ามาในเล้าเป็ดเร็วๆนะฮะ

จะรอนะฮะพี่เต้ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 05-11-2007 22:25:53
..........

ตลอดเวลาของการพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งในวันซ้อมใหญ่และวันจริง ผมก็ได้กุ๊นนี่แหล่ะครับเป็นผู้ถือของและถือกล้องให้ผม เหอๆ แม้จะเป็นคนถือของก็ได้ถ่ายรูปกับผมหลายภาพพอควร จนเสร็จงานกุ๊นก็ยังคงอยู่กับผม ดูเขาล้าๆ ไปบ้าง แต่พอผมพูดดีๆ ด้วยก็ดูสดชื่นทันที เหอๆ...

“เกม ผู้ชายหัวฟูๆ ที่ถือดอกไม้มาให้เกมเมือวันก่อนนะ ใครเหรอ” กุ๊นถามถึงเรื่องเมื่อวันก่อน

“อ๋อ... เพื่อนคณะอื่นนะกุ๊น เป็นเมทเก่าเกมเอง”

“เพื่อนจริงเหรอ”

“เพื่อนจริงๆ เป็นเพื่อนที่ค่อยข้างสนิทกันนะ… แล้วนี่กุ๊นจะกลับวันไหนเหรอ” ขอเปลี่ยนเรื่องคุยนะครับ เหอๆ เด๋วมันคุ้ยผมหมดเปลือกแน่

“กุ๊นลางานถึงปีใหม่นะครับ”

“อืมมม” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก่อนที่ครอบครัวผมจะมาถึงและถ่ายรูปกับซะหลายภาพ โดยมีกุ๊นเป็นคนถือกล้อง ทุกคนล้วนคุ้นเคยกับกุ๊นหมดแล้วเลยไม่มีใครแปลกใจที่เจอกุ๊นที่นี่

“กุ๊นกลับบ้านกับเรามั้ย”

“กลับอุบลนะเหรอ... อืมม... ก็ดีนะ” ก่อนที่เราจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี ต่อไป กว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบ 4 ทุ่มแล้ว พ่อแม่ผมจึงชวนกุ๊นนอนที่นี่ และทานข้าวด้วยกัน อากาศที่นี่หนาวมากๆ จึงไม่มีใครอาบน้ำ จากนั้นก็พากันเข้านอน โดยผมและกุ๊นก็นอนห้องเก่าของผม

“นานแล้วนะ ที่กุ๊นไม่ได้มาที่นี่” กุ๊นพูดพลางล้มตัวลงนอนบนที่นอนของผม

“ใช่ 5 ปีแล้วมั้ง ตังแต่วันที่กุ๊นเมา...”

“เกมยังจำได้เหรอ” กุ๊นกระเด้งตัวขึ้นมานั่งมองหน้าผม

“ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกมไม่เคยลืมมันเลย” ผมพูดขึ้น พร้อมกับท่าทีที่หงอยลงของกุ๊น

“แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว เกมไม่คิดอะไรแล้วหล่ะ” แล้วมันก็ยิ้มออก เหอๆ

“กุ๊นอยากขอโทษเกมอีกครั้ง” ก่อนที่กุ๊นจะร้องเพลงๆ หนึ่งให้ผมฟัง เพลงที่มันแอบเอาลงเครื่องคอมพ์ผมไว้ และผมก็เปิดเพลงนั้นขึ้นด้วยความบังเอิญเมื่อ 2 วันก่อน

..........

ถึงแม้เราจะจบวันฝันไป แต่ยังมีเธอในใจไม่คิดเปลี่ยน
ถึงแม้ว่าโลกนี้จะหมุนเวียน ฉันนั้นยังเหมือนเดิม

ถึงแม้จะจบวันของเรา เธอจะมีเขามีใครก็แล้วแต่
ถึงแม้เธอไม่เคยมาเหลียวแล ฉันนั้นยังเหมือนเดิม

ไม่ได้คิดถึงทุกครั้งที่หลับตา แต่คิดถึงทุกเวลาที่หายใจ
คนๆเดิมถึงวันนี้ยังห่วงใย เข้าใจไหมว่าฉันรักเธอเสมอ

ถึงแม้จะจบวันของเรา เธอจะมีเขามีใครก็แล้วแต่
ถึงแม้เธอไม่เคยมาเหลียวแล ฉันนั้นยังเหมือนเดิม

ไม่ได้คิดถึงทุกครั้งที่หลับตา แต่คิดถึงทุกเวลาที่หายใจ
คนๆเดิมถึงวันนี้ยังห่วงใย เข้าใจไหมว่าฉันรักเธอเสมอ

เพราะคนหนึ่ง อยู่ในใจ ของคนหนึ่ง เก็บไว้ ไม่เคยจะลืม

ไม่ได้คิดถึงทุกครั้งที่หลับตา แต่คิดถึงทุกเวลาที่หายใจ
คนๆเดิมถึงวันนี้ยังห่วงใย เข้าใจไหมว่าฉันรักเธอเสมอ

..........

--ทุกครั้งที่หลับตา ทุกเวลาที่หายใจ-- คือชื่อของเพลงนี้ กุ๊นร้องเพลงนี้ให้ผมฟัง ก่อนที่ผมและกุ๊นจะหลับไปในอ้อมกอดซึ่งกันและกัน ในคืนที่แสนจะเหน็บหนาว

*เพราะคนหนึ่ง อยู่ในใจ ของคนหนึ่ง เก็บไว้ ไม่เคยจะลืม* ผมชอบประโยคนี้จัง ฝันดีนะครับ...

..........

หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 05-11-2007 22:38:22
..........

วันนี้วันที่ 20 ธันวาคม 2549 อีก 11 วัน ก็จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ 2550 วันนี้ ผมและครอบครัว รวมทั้งกุ๊น ด้วย ได้ไปฉลองรับปริญญาที่หาดคูเดื่อ ชายหาดแม่น้ำมูลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งหมดมาถึงประมาณ 10 โมงเช้า กุ๊น พี่เขยผม และน้องชายผมดูจะดีใจออกหน้าออกตามากที่สุด เพราะถือโอกาสใส่เบ็ดปลาด้วย ส่วนเรื่องอาหาร แม่และพี่สาวผมเป็นคนจัดการสั่ง ผมและพ่อได้แต่นั่งดูพวกลิงกำลังตกปลา…

ไม่ช้า ทั้งพี่เขย น้องชาย และกุ๊น ก็กระโดดลงแม่น้ำมูล ว่ายกลับมากลับไปอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าออกไปไกล เพราะแพที่พวกผมมาเล่นค่อยข้างอยู่กลางแม่น้ำ

ประมาณ 11 โมงอาหารทั้งหมดก็ยกมาที่แพพวกผม ทั้งสามหนุ่มก็เลิกเล่นน้ำแล้วก็ขึ้นมาเช็ดตัว ก่อนที่จะพากันกินอาหารกัน ทั้งสามคนที่เล่นน้ำพากันตัวสั่นเพราะหนาว สมน้ำหน้า 555+ ก็อากาศช่วงนี้มันหน้าหนาวนี่หน่า ลมก็ค่อยข้างดีซะด้วยสิวันนี้

“หัวเราะไรเกม” กุ๊นหันมาถามผม

“เปล่า” ผมเฉไฉก่อนที่จะทานข้าวต่อ

หลังจากทานข้าวเสร็จ (ซึ่งก็ไม่ได้ทานหมด เพราะก็มีเรื่อยๆ) พ่อผม พี่เขย น้องชายผมและกุ๊น ก็ช่วยกันตกปลาต่อ ส่วนแม่และพี่สาวก็นั่งคุย ผมนะเหรอ นั่งแช่เท้าในน้ำเล่นแถวๆ นั้นแหล่ะครับ เย็นดี หุหุ ซักพัก กุ๊นก็มานั่งแช่เท้าเป็นเพื่อนผม

“ไมไม่ตกปลาต่อหล่ะ”

“ขี้เกียจแล้ว อยากคุยกับเกมมากกว่า”

“คุยอะร้ายยยย เกมไม่มีอะไรจะคุยด้วยซักหน่อย” ผมพูดก่อนจะลุกไปนั่งอีกแพ (ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว แพจึงค่อนข้างว่าง) แล้วกุ๊นก็ลุกตามผมมา

“มีเยอะแยะเลยหล่ะครับ” มันพูดต่อ

“อะไรหล่ะ”

“ก็… เกมไม่พูดถึงเต๊บเลย กุ๊นอยากรู้เรื่องเต๊บอะครับ”

“รู้ไปทำไม” ผมถามมัน

“อ้าว… เพื่อนกันนี่ครับ ก็อยากรู้เรื่องเพื่อนเป็นธรรมดาครับ” มันพูดพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม แล้วผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น (เกี่ยวกับเต๊บ) ให้กุ๊นฟัง

“น่าอิจฉาเต๊บมันจัง” กุ๊นพูดพลางล้มตัวลงนอน

“อิจฉาอะไร”

“ก็อิจฉาที่มันได้อยู่ข้างๆ เต๊บตลอด 4 ปีที่ผ่านมา…” เหมือนมันจะพูดอะไรต่อ แต่มันก็เงียบไป

“จะพูดอะไรเหรอกุ๊น… รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ เรื่องมันผ่านไปแล้วอย่าเอามาคิดให้ปวดหัวเลย เกมลืมมันหมดแล้วหล่ะ” ผมพูดพลางล้มตัวนอนข้างๆ มัน

“เกมหมายความว่า… เกมให้อภัยกุ๊นแล้วใช่ป๊ะ” มันพูดพร้อมกับกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

“เปล่าซักหน่อย เกมไม่ได้บอกว่าจะให้อภัยซักหน่อยนี่”

“เหรอ…” มันทำหน้าสลด “เราจะกลับมาเป็นเหมือนเก่าไม่ได้เหรอครับ”

“ถ้ากุ๊นสะสางเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย ทำตัวใหม่ ทำตัวดีๆ ทุกอย่างก็เหมือนเดิมได้” พอผมพูดจบ ไอ้ตี๋ผมมันก็ยิ้มหน้าบานเลยครับ

“เกมให้โอกาสกุ๊นใช่เปล่าครับ”

“อืมมม ใช่ แต่ครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้ายังเหมือนเดิม ไม่มีครั้งต่อไปแล้วนะ”

“เย้ๆๆๆๆๆ” มันร้องขึ้นอย่างดีใจก่อนที่จะกระโดลงน้ำทันที ไอ้บ้า…

“มีอะไรหรือเปล่าเกม” พี่สาวผมเดินมาถาม

“เปล่า ไม่มีอะไร คุยกันสนุกๆ นะ” พี่สาวผมจึงเดินกลับไปที่แพร ส่วนผมนะเหรอ นั่งยิ้มให้กับไอ้ลิงตี๋ที่กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานครับ

‘นายจำได้มั้ยเพลงที่นายร้องให้เราฟังเมื่อคืน -เพราะคนหนึ่ง อยู่ในใจ ของคนหนึ่ง เก็บไว้ ไม่เคยจะลืม- เราเป็นแบบนี้จริงๆ’ ผมพึมพำกับตัวเอง เหอๆ อีกครั้งสินะ ที่การให้อภัยคนอื่นมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง

ประมาณบ่ายโมงก็พากันเดินทางกลับบ้าน โดนมีปลาติดไม้ติดมือกลับ 3-4 ตัว ถึงบ้านราวๆ บ่าย 2 ผม กุ๊น พี่สาวและพี่เขยก็จัดเตรียมของเดินทางลงกรุงเทพ (ขอหยุดพักสมองหน่อยเถอะ) ก่อนที่จะออกเดินทางกันทันที โดยที่จะแวะที่สารคามก่อน เพราะผมต้องเอาของที่ไม่จำเป็นเก็บที่บ้านพัก ก่อนเดินทางคร้าบบบ...

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 05-11-2007 22:44:53
เย้ๆ  :m4: :m4:
ได้จิ้มพี่เต้ซะที  :m3:
ถึงจาเปนคนลงแทนก้อเหอะ  :m3:
ขอทีเถอะ  :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-11-2007 23:14:14
งงอ่ะ  :m28: เกมจะ return กับกุ๊นเหรอ
แล้วเต๊บที่ไปเรียนเมืองนอก นี่เลิกกันแล้วเหรอ  :m28:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 05-11-2007 23:29:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-11-2007 15:22:52
อะ แฟนฟิคทำให้คิดถึงกุ๊น ที่แสนซน
 :m3: :m3: :m3:

น้องดลโดนจูบไปถึงกับเคลิ้มเลย
อยากรู้จริงๆว่าเก่งจริงป่าว
 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (มาลงแทนพี่เต้ครับ fanfiction 3
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-11-2007 21:55:40
ร้ายกาจมากมายเยยง่าฮะ......

พี่เต๊บเลิกก่ะพี่เกมจิงๆหยอเนี่ย

ว่ามานเปงยังไงละฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากรุจังว่าพี่กุ๊นจะรักพี่เกมมากมายเหมือนเดิมรึเปล่า

ยังไงก้อจะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะฮะ

พี่เต้มาต่อเองเร็วๆนะฮะ.........รอพี่เต้ต่อไปนะ :m17: :m17:

ปล.........คนโพสแทนก้อสู้ๆต่อไปนะฮะ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-11-2007 05:34:20
งงอ่ะ  :m28: เกมจะ return กับกุ๊นเหรอ
แล้วเต๊บที่ไปเรียนเมืองนอก นี่เลิกกันแล้วเหรอ  :m28:
ร้ายกาจมากมายเยยง่าฮะ......

พี่เต๊บเลิกก่ะพี่เกมจิงๆหยอเนี่ย

ว่ามานเปงยังไงละฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากรุจังว่าพี่กุ๊นจะรักพี่เกมมากมายเหมือนเดิมรึเปล่า

ยังไงก้อจะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะฮะ

พี่เต้มาต่อเองเร็วๆนะฮะ.........รอพี่เต้ต่อไปนะ :m17: :m17:

ปล.........คนโพสแทนก้อสู้ๆต่อไปนะฮะ :m13: :m13:

และอีกหลายๆ รีฯ ที่คิดเหมือนสองคนนี้

อย่าเพิ่งคิดไปเองคร้าบบบบบบ รอๆๆๆๆๆๆ ท้ายเรื่องจะเฉลยว่าเป็นไปอย่างไรบ้าง

แฟนฟอคฯ นี้แฟนนิยายเขาเขียนขึ้นทันทีที่นิยายเรื่องนี้ถึงตอนที่เกมยอมคบกับเต๊บ (นานแล้ว ตั้งแต่อยู่ที่บอร์ดอื่น) แล้วก็ส่งมาให้ผมพิจารณา เห็นว่ามันสนอง need ของสาวกไอ้กุ๊น ก็เลยเอามาลงนะครับ อิอิ ชอบคิดไปเองอยู่เรื่อยเลย (แล้วคิดว่าตอนนี้ผมเป็นโสดหรือมีแฟนแล้วหละครับ หึหึ)  :m14:

:m3: :m3: :m3:

ที่รักผมมาแว้วววว

ผม รัก โชกุน ค้าบบบ

 :m1: :m1: :m1:

เชียร์โชกุนอ่ะ :m3: :m1:

เอาอีกแล้ว สาวกไอ้โชกุน เอ้าๆๆๆๆ ใครจะ แฟนฟิคฯ เรื่องไอ้โชกุนมั่ง สนองนี้ดเพื่อนๆ หน่อยครับ อิอิ (สนองนี้ดผมด้วยก็ดี 55+)  :laugh:

เย้ๆ  :m4: :m4:
ได้จิ้มพี่เต้ซะที  :m3:
ถึงจาเปนคนลงแทนก้อเหอะ  :m3:
ขอทีเถอะ  :oo1: :oo1:

เหอๆ อย่านะๆ พี่เต้จิ้มคืนแล้วจะหนาว  :laugh:

อะ แฟนฟิคทำให้คิดถึงกุ๊น ที่แสนซน
 :m3: :m3: :m3:

น้องดลโดนจูบไปถึงกับเคลิ้มเลย
อยากรู้จริงๆว่าเก่งจริงป่าว
 :m11: :m11: :m11: :m11:

ปี้เรย์ก๊าบบบบบบ ปี้เรย์อยากทดสอบบ้างไหมหละครับ อิอิ เด๋วสนองนี้ดให้ เอามะๆๆๆๆ  :m14:


ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมไม่ขอตอบคำถามนะครับ โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

ขอบคุณมากครับผม   o1
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-11-2007 05:58:34
..........

ผมกับกุ๊นไปนอนเอาแรงที่หอพักพี่สาวคืนหนึ่ง ก่อนที่ผมและกุ๊นจะเดินทางต่อ

“แน่ใจนะว่าจะไม่ให้ฉันไปด้วย (อยากไปว้อย)” พี่สาวผมถามขึ้น

“ตัวเองอยากไปก็ไปดิ ลางานได้เปล่าหล่ะ”

“เออๆๆๆ... ฉันลางานไม่ได้ ยังงัยก็เดินทางดีๆ หล่ะ... พี่ฝากน้องชายตัวแสบพี่ด้วยนะกุ๊น” พี่สาวผมหันไปคุยกับกุ๊น

“ได้ครับ” ก่อนที่ผมและกุ๊นจะเดินทางไปขึ้นรถที่สายใต้ต่อไป

“เกมเคยไปเหรอ ชะอำ เหรอ” กุ๊นถามผมด้วยความไม่แน่ใจ

“เคยดิ ตอนปี 1 ก็.... 4 ปีที่แล้วอะ”

“อะนะ... พึ่งพาได้มั้ยเนี่ยะ” มันบ่นครับ

“นี่... ตัวเองอยากเที่ยวเองนะ งั้นเกมไม่ไปแล่ว...”

“โอ๋.... อย่าเพิ่งงอนนะ กุ๊นรู้ที่จะไปแล้วคร้าบบบบ” 555+ ผมก็แกล้งงอนไปงั้นแหล่ะครับ รู้อยู่แล้วหล่ะว่ามันนะต้องเตรียมแผนการล่วงหน้าไว้แล้ว อิอิ ผมต้องเล่นกับมันหน่อยครับ

“เออ... ไปซื้อตั๋วได้แล่ว” แล้วผมก็ไล่มันไปซื้อตั๋ว เพื่อที่จะเดินทางไปที่ อ.ชะอำ จ. เพชรบุรี

“ขึ้นรถครับ” แล้วผมกับกุ๊นก็เดินขึ้นรถทัวร์กรุงเทพ-ชะอำ ทันทีครับ

“เกมนั่งข้างใน ส่วนกุ๊นจะนั่งข้างนอกเองครับ”

“ไมอะ”

“เกมเมารถไม่ใช่เหรอ”

“นี่... นั่นมันสมัยก่อน ตอนนี้เกมคนเดิมเปลี่ยนไปแล้วครับ”

“เหรอครับ กุ๊นไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนตรงไหน... นอกจาก... ดำ” ไอ้นี้ กล้ามากที่ล้อเรื่องผิวฉันเดี๋ยวได้ตายไร้ที่ฝัง

“บังอาจมาก....” สงครามย่อยๆ ระหว่างผมกับกุ๊นก็เกิดขึ้นบนรถทัวร์ โดยที่มีสายตามากมายจับจ้องที่ผมสองคน สงสัยเขาจะคิดว่า ‘ไอ้ควายสองตัวนั่นมันทำอะไรอย่างกับเด็กๆ’ 55+ ผมกับกุ๊นอายุจะเหยียบ 24 แล้วคร้าบบบบบบ เหอๆๆๆ

“เกมจะกินอะไรมั้ย เดี๋ยวกุ๊นลงไปซื้อให้”

“อืมมม... ขอน้ำเปล่าแล้วกันนะ”

“ไม่เอาน้ำอัดลมเหรอ”

“ไม่เอาอะ เกมเป็นโรคกระเพาะอักเสบอะ”

“เหรอครับ อืมมมม อย่างนี้ต้องจำกัดเรื่องอาหารด้วยเดะ”

“ทำเป็นรู้ดี...”

“เกมอย่าลืมสิ พ่อกุ๊นเสียเพราะโรคอะไร...” มันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินลงรถไป...

“จะไปไหนเหรอครับ...” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

“เอ่อ.... ไปชะอำครับ” ผมพูดออกไปด้วยความสงสัย ใครว่ะ

“จำพี่ไม่ได้เหรอครับ” ถ้าจำได้กูจะงงเหรอว่ะ

“อ๋อ... พี่เอก ไปไงมาไงครับเนี่ยะ”

“พี่จะกลับไปโรงงานนะครับ”

“พี่เอกทำงานที่ไหนเหรอครับ” แล้วบทสนทนาย่อยๆ ของผมกับพี่เอกก็เกิดขึ้น ก่อนที่กุ๊นจะเดินขึ้นมา แล้วการเดินทางของผมและกุ๊นก็เริ่มต้นขึ้น...

“ใครเหรอเกม” กุ๊นถามผมด้วยความสงสัย (แกมอารมณ์หึงนิดนึง)

“รุ่นพี่เก่าที่มหาลัยนะ เป็นพี่รหัสเกมด้วย”

“แฟนเรานี่เสน่ห์แรงไม่เบานะ หนุ่มวิศวะ หนุ่มหัวฟูนั่น แล้วก็รุ่นพี่อีก”

“นี่ๆ... ที่ไล่มานะ ยังน้อยครับ” 555+ หน้าหงิกทันทีเลยครับ หุหุ แกล้งคนนี่สนุกดีจริงๆ จะให้ไล่ให้ฟังมั้ยหล่ะคร้าบบบบบ 55+

แล้วกุ๊นมันก็งอนผมจริงๆ ครับ มันแกล้งนอนหลับไม่คุยกับผมจนเกือบถึงราชบุรี ผมต้องทำอะไรซักอย่างซะแล้วสิ หึหึ

“รับอะไรมั้ยค่ะ” เสียงพยักงานสาวดังขึ้น

“ผมขอผ้าเย็น 2 ผืนครับ” ผมพูดพลางยิ้มให้คุณเธองามๆ หนึ่งที ก่อนที่จะได้ของว่างมา 2 ชุดด้วย
 
“กุ๊น... ทานไรมั้ย” เงียบครับ ยังเงียบอีก ว้อยยยยย กูง้อใครไม่เป็นว้อย (แต่ก็ต้องง้ออะครับ)

“เฮ้ย...” 555+ มันร้องครับ จนพนักงานสาวคนนั้นต้องเดินมาดูทันทีครับ (ผู้โดยสารคนอื่นด้วยอะครับ)

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”

“ไม่มีอะไรครับ เพื่อนผมเขาฝันร้ายนิดหน่อยครับ”

“ค่ะ” เธอพูดและยิ้มแบบจืดๆ ทีนึง ก่อนที่จะเดินสะบัดก้นกลับไปที่นั่งเธอ

“เล่นอะไรอะเกม” มันทำเสียงเข้มครับ อะไรง่ะ ง้อแล้วนะโว้ย...

“เออ... ไม่กวนแล่ะ นอนไปตามสบายนะ เด๋วถึงแล้วจะปลุก” พูดจบผมก็หันหน้าออกไปนอกหน้าต่างทันที มองทิวทัศน์ข้างทางดีกว่าเป็นไหนๆ ชิ...

“เกมดื่มน้ำมั้ย” เสียงกุ๊นพูดขึ้น ก่อนที่จะมีแก้วน้ำยื่นมาให้ผม ผมก็รับและวางไว้ที่วางแก้วข้างหน้าผม

“เกมกินขนมมั้ย” มันพูดและก็ยื่นมาอีก ผมก็รับไว้และก็วางตรงที่วางเหมือนเดิม

“เกมเอาผ้าเย็นมั้ย” มันพูดแล้วก็เอาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าผม ผมจับผ้าเย็นแล้วก็วางไว้ข้างๆ ขนม (ในฐานะที่เป็นนักโภชนาการ อย่าทำตามเด็ดขาดนะครับ)

“...” มันเงียบครับ เหอๆ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร 55+

เห็นมันเงียบๆ ผมเลยหันๆ ไปดูมันนิดนึง เผื่อมันกำลังทำหน้าสำนึกผิดจะได้ยกโทษให้ 55+ ที่ไหนได้ ไอ้บ้า..... ตื่นเดี๋ยวนี้นะ... มันหลับเฉยเลยอะครับ ฮือๆๆๆ แล้วการมาพักผ่อนของผมคราวนี้มันจะเป็นยังงัยกันเนี่ยะ อยากจะบ้าตายยยยยย....

..........
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 07-11-2007 06:05:21
..........

“ฮ้า.......... ในที่สุดก็มาถึงจนได้” เสียงไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ดังขึ้น ผมก็ได้แต่มองแล้วก็เดินเข้าที่พักทันทีครับ...

“เกมๆๆๆๆ ไปเล่นน้ำกันมะ”

“....” ผมเงียบและก็เก็บของก่อน แล้วก็เดินเข้าไปอาบน้ำต่อ

“...” มันเงียบตามครับ หึ... ให้มันรู้หน่อยว่าใครเป็นใคร

“เกมโกรธกุ๊นเหรอครับ” หึหึ มันเริ่มง้อแล้วครับ

“เปล่านี่ เราจะทำอย่างนั้นทำไมหล่ะ”

“ก็อาการเกมมันฟ้องอะครับ” มันพูดแล้วก็ฉีกยิ้มให้ผม

“นายสำคัญตัวเองมากไปเปล่า เราเป็นอะไรกันฮ้า...”

“ขอโทษ เราลืมไป” มันพูดแล้วก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ผมเลยลงไปเดินเล่นรอบๆ บังกะโล

“ไปเดินที่หาดเหอะ” ผมชวนกุ๊นทันทีที่มันเดินลงมาจากบังกะโล

“...” เงียบ เหอๆ สงสัยจะงอนกู ไอ้นี่

“ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้นะกุ๊น เกมว่าเรากลับดีกว่านะ เบื่อแล้ว งอนกันไปงอนกันมา ง้อกันไปง้อกันมาแบบนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่เลิก...” ผมพูดแล้วก็เดินลงไปที่ชายหาดทันที ขี้เกียจแล้วหล่ะครับ อย่างว่าแหล่ะ ไม่ได้คุยกันมาตั้งกว่า 5 ปี อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงไปหมดแหล่ะ

“...” เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกๆ ซะด้วยสิ

“สวัสดีครับ”

//สวัสดีครับเกม...// เสียงนี้ผมจำได้แน่นอนครับ

“เต๊บ... โทรมาจากเมกาเหรอ”

//ใช่แล้วครับ เต๊บขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้โทรมาตั้งแต่วันรับ//

“ไม่เป็นไร แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง สบายดีเปล่า”

//สบายดีครับ แล้วเกมหล่ะ ยังเนื้อหอมเหมือนเดิมเปล่า//

“หุหุ ไม่หรอกเต๊บ ตั้งแต่เต๊บไป ก็ไม่มีใครมาจีบเกมแล้วว”

//อย่าปิดกั้นตัวเองสิครับ//

“เปล่าซักหน่อย เพียงแต่เกมไม่ค่อยได้ไปไหน...” ผมพูดยังไม่จบกุ๊นก็แย่งมือถือผมไปคุยเฉยเลย

“ทำอะไรอะกุ๊น เอากลับมานะ” ผมพยายามแย่งโทรศัพท์กลับมาจากมัน แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงปล่อยให้มันคุยกับเต๊บซะ ส่วนผมนะเหรอ เฮอะ... ไปเดินเล่นดีกว่า…

“อ๊ะ...” กุ๊นพูดพลางยื่นมือถือให้ผม

“อย่างอนดิครับ มาเที่ยวทั้งที นะๆๆๆๆๆ” มันเริ่มต้นง้อผมแล่วววว

“กุ๊นขอโทษครับ...” ว่าแล้วมันก็ขโมยหอมแก้มผม

“ไอ้บ้า ทำไรเนี่ยะ...”

“ก็หอมแก้มไงครับ....”

“บ้า...” ไม่ได้เขินหรอกครับ โตๆ กันแล้ว 55+

“กุ๊นขอโทษที่งอนเกมนะครับ ดีกันนะๆๆ” มันพูดและยื่นนิ้วก้อยมาที่หน้าผม

“โอ๊ย............” ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่... กัดนิ้วมันเท่านั้นแหล่ะ เหอๆ

“เจ็บอะเกม กัดแรงด้วย” หน้างอเลย 55+

“เจ็บแค่นี้ไม่ถึงตายหรอก...”

“...”

“มันยังไกลหัวใจตั้งเยอะ” ผมพูดพลางลุกขึ้นเดินเล่นตามชายหาดต่อ ตะวันใกล้จะตกทะเลแล้ว เลยหยิบกล้องมาถ่ายรูปเล่น ไม่ได้มาตั้งเกือบ 5 ปี ชะอำยังงัยก็เป็นชะอำเหมือนเดิม น้ำทะเลก็ยังเย็นเหมือนเดิมแฮะ...

“...” กุ๊นนั่งลงข้างๆ ผม

“กุ๊นขอโทษเกมนะครับ สำหรับเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นเรื่องที่ให้อภัยกันยาก แต่กุ๊นก็อยากขอโทษครับ...”

“พอเถอะกุ๊น กุ๊นขอโทษเกมมาหลายครั้งแล้ว อีกอย่าง เกมก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจซักนิด”

“จริงอะ... แต่มีคนบอกกุ๊นนะว่าเกมนะยังคิดถึงกุ๊นตลอด”

“ตะกี๊คุยอะไรกับเต๊บบ้าง...”

“ก็หลายเรื่องนะ ส่วนใหญ่ก็เรื่องเกม...”

“อยากรู้อะไรก็ถามเกมเองดิ”

“ก็... กลัวเกมไม่บอกอะ” มันพูดพลางดึงมือผมไปจับ แล้วก็เอากล้องจากมือผมไปถ่าย รูป ดึงผมเข้าไปกอดแล้วถ่ายบ้าง แอบถ่ายตอนผมเผลอ และตอนมันแอบหอมแก้มผมด้วย (โรคจิตอะ)...

“ขึ้นที่พักเถอะ น้ำค้างลงแล้วเดี๋ยวไม่สบาย” กุ๊นดึงมือผมให้ลุกขึ้นแล้วเราทั้งสองก็ขึ้นบังกะโล อากาศค่อนข้างเย็น แต่ภายในห้องกลับอบอุ่นเป็นบ้า

“หิวข้าวมั้ย”

“ยังอะ กุ๊นหิวเหรอ”

“ยังครับ เดี๋ยวดึกๆ ค่อยออกไปหาไรกินดีกว่าครับ” แล้วมันก็ดึงผมไปนอนบนเตียง คุยกันหลายเรื่องครับ ส่วนใหญ่ก็เรื่องผมกับเต๊บ ผมคิดจะถามเรื่องของมันอยู่หรอก แต่ไม่กล้า ก็เลยไม่ถามดีกว่า...

“แล้วตกลงเกมกับนายหัวฟูนั่นเคยคบกันเปล่า” มันถามถึงโชกุน

“ก็ไม่เชิงว่าคบกันนะ ก็แค่พาไปดูหนัง กินข้าว ไปซื้อของ พาไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ เท่านั้น นอนด้วยกัน กินด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ...” ผมพูดแล้วก็ยิ้ม (อ่านไม่ผิดหรอกครับ อาบน้ำด้วยกันมาแล้ว ห้องน้ำแคบๆ ผู้ชายสูงไม่ต่ำกว่า 178 เซนฯ 2 คน แก้ผ้าอาบน้ำอะครับ... จิ้นเอาเอง 55+)

“โห... มีอาบน้ำด้วยกันดั๊วะ... อิจฉาหว่ะ”

“ไอ้บ้า... แค่อาบน้ำ ไม่ได้ทำอะไรกันซะหน่อย”

“ก็มันอิจฉานี่หน่า เป็นแฟนกับเกมตั้งเกือบ 4 ปี ไม่เห็นได้เคยอาบน้ำด้วยกันเลย”

“ทะลึ่ง... แล้วตอนเข้าค่ายลูกเสือหล่ะ”

“อะโด่... นั่นมันเข้าค่าย ไม่ใช่แบบคู่รักซักหน่อย” แล้วมันก็ทำหน้าทะลึ่งใส่ผม

“ไอ้บ้า...”

“เดี๋ยว ไอ้หัวฟูนั่นเคยพาเกมไปไหว้พ่อแม่ด้วยเหรอ”

“ใช่... ทำไมเหรอ”

“เปล่า แค่คิดว่าดูมันจริงจังกับเกมดีนิ ทำไม...”

“ไม่คบกันนะเหรอ... เกมรู้สึกดีกับโชกุนนะ แต่มันก็เป็นได้แค่เพื่อน แม้สิ่งที่ทำด้วยกันมันอาจจะเกินกว่าคำว่าเพื่อนไปบ้าง แต่เกมคิดมากกว่านั้นไม่ได้อะครับ”

“อืมมม... แล้ว... แบบนี้หล่ะมันเคยทำกับเกมป๊ะ” ว่าแล้วมันก็หอมแก้มผม (เผลอไม่ได้อะครับ ทำไมผู้ชายที่ผมรู้จักชอบแอบหอมแก้มผมทุกคนเลย ฮือๆ เหมือนตัวเองส่ำส่อนไงไม่รู้ อิอิ)

“มากกว่านี้ยังเคย”

“ว่าไงนะ!” มันพูดพลางลุกขึ้นนั่งและมองหน้าผม

“มากกว่านี้... แค่ไหน”

“ก็... จูบ... กอด... และก็...” ผมพูดพลางยิ้มนิดๆ

“และก็อะไร!...”

“ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยหล่ะ...”

“เปล่าๆ ก็เกมจะพูดว่าอะไรหล่ะครับ”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่กอดจูบลูบคลำ เท่านั่นแหล่ะ”

“อ่า.... มันยิ่งกว่าแฟนกันอีกนะเนี่ยะ”

“หุหุ” ผมพูดพลางลุกขึ้นนั่งข้างๆ มัน

“อิจฉาโชกุนอะดิ่ โด่....”

“ยิ่งกว่าอิจฉาอีก...” หน้างอกว่าเดิมอีก 555+

“หิวแล่ะ ไปหาไรกินเหอะ” แล้วมันก็พาผมไปหาของกินแถวๆ นั้นแหล่ะครับ มันเป็นร้านอาหารของบังกะโลนะครับ อาหารก็อร่อยดี

“เกมแพ้อาหารทะเลมั้ย?”

“ไม่ครับ กินได้หมด แหะๆ” แล้วผมกับกุ๊นก็พากันทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนที่จะพากันไปเดินเล่นต่อ แม้อากาศจะเย็น ลมแรงไปนิด แต่ก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ เราเดินเล่นกันซักพัก ก่อนที่จะพากันขึ้นบังกะโลและพักผ่อนเพื่อเอาแรงไปเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ... อุ่นดีจัง กอดใครหว่า... อิอิ...

.............

จุใจไหมครับ หึหึ ถ้าจุใจก็เม้นต์เยอะๆ นะครับ แล้วเจอกันวันหลังครับ (ไม่มีกำหนด 55+)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-11-2007 08:43:59
อ๊ะให้จูบเกมจริงหรือ ระวังเผลอจายไปจะ........

กอดจูบลูบคำ
 :m11: :m11: :m11: :m11:

หวาๆๆ เตปไม่อยู่ เลยเสร็จโจรกุ๊นเลย
 :m18: :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 07-11-2007 10:56:53
อ้างถึง
“ไม่ครับ กินได้หมด แหะๆ” แล้วผมกับกุ๊นก็พากันทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนที่จะพากันไปเดินเล่นต่อ แม้อากาศจะเย็น ลมแรงไปนิด แต่ก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ เราเดินเล่นกันซักพัก ก่อนที่จะพากันขึ้นบังกะโลและพักผ่อนเพื่อเอาแรงไปเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ... อุ่นดีจัง กอดใครหว่า... อิอิ...

แน่ใจเย๋อออว่าพักผ่อนเอาแรงอ่ะ กลัวจาหมดแรงซะมากกั่ว อิอิ  :haun5:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 07-11-2007 12:06:01
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: Ex'ecuzě ที่ 07-11-2007 13:15:15
 :m3: :m3: :m3:

เชียร์กุ๊นนะคับ

 :m3: :m3: :m3:

ปล. แต่ผมยังรักโชกุนเหมือนเดิม  :m1:
      ขอตอนพิเศษโชกุนบ้างจิ้  :m17:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-11-2007 17:49:44
คุคุ....ร้ายกาจมามกายเยยนะฮะ

น่ารักมากมายด้วยง่า

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะพี่เต้ คุคุ

ปล...........พี่เต้มาต่อเองแย้ว น่ารักมากมาย คุคุ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 07-11-2007 20:37:53

             ปล่อยให้คิดถึงตั้งนานนะเราอะ  :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-11-2007 18:49:05
ง่าพี่เต้ยังไม่มาต่อเยยหลอฮะ

มาต่อได้แย้วนะฮะพี่เต้

อยากอ่านต่อมากมายเลยนะฮะ

จะรอนะฮะพี่เต้ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: giffyaof ที่ 10-11-2007 00:00:39
มอรอลุ้นน่ะครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาแล้วครับ 7 พ.ย. fanficti
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-11-2007 14:50:52
ง่าๆ.....ลืมพี่เต้ไปได้ไงง่าเนี่ย

ขอโทดนะฮะไม่ได้เข้ามาดันซะนานเยยนะนี่

ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยจินะฮะพี่เต้

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะนี่

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาหลังจากหายไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 30-01-2008 07:08:13
 :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:

ขอโทษนะครับที่หายไปนาน ช่วงนี้กำลังวุ่นวายกับวิทยานิพนธ์ครับ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นี้ ผมก็จสอบะ Defend แล้ว (สอบจบ) ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอโทษจริงๆ นะครับ

 :m21: :m21: :m21: :m21: :m21: :m21: :m21:

..........

เมื่อไอ้เกมกลับบ้าน 3

..........

วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วของการอยู่ที่บ้าน คิดถึงที่รักจังเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างหนอ หะหะ วันนี้ตื่นเช้าหน่อยเพราะต้องตักบาตรเช้า ตามจริงไม่ได้อยากตื่นเลย แต่คุณนายที่บ้านนี่สิ บ่นๆ จนนอนต่อไม่ไหว เฮ้อ... กะจะนอนตื่นสายๆ ซักหน่อย...

“ตื่นเช้าเป็นกับเขาด้วยเหรอครับ พี่เกม...” หนุ่มน้อยหน้าใสกิก เดินผิวปาก ในมือถือสิ่งของที่บ่งบอกว่า กำลังจะไปตักบาตรเช้าเช่นกัน...

“เดินไปกับผมไหมหละครับผม จะได้มีเพื่อน” ไอ้นี่ ชักปีนเกลียว

“ให้เกียรติด้วยนะครับ...” ธนดล ยังคงเอ่ยเอื้อยต่อไป

“ปากแกนี่น้า... ไอ้ดล...” ผมพูดพลางส่ายหัวกับไอ้ความปีนเกลียวของมันอย่างเอือมระอา ไม่ใช่ว่าผมไม่ชิน แต่... ผมไม่ชอบครับ แหะๆ

“ทำไมเหรอครับ น่า... (จูบ) เหรอครับ” เสียงมันหายไปในคอ พร้อมกับรอยยิ้มอย่างทะเล้น ตามประสาเด็กเทคนิคห่ามๆ

“ทะลึ่งแล้วมึง จะไปทำบุญซะหน่อย ทำอารมณ์กูหม่นเลย...” ผมเอ่ยออกไปอย่างระอา

“เดี๋ยวผมปลุกให้... เอาไหมหละครับ 55+” มันพูดขึ้นพลางวิ่งออกไปข้างหน้า มันคงรู้ชะตากรรมตัวเองดี ว่ามันกำลังโดนเตะ...

..........

บทสวดกรวดน้ำจบลงพร้อมกับน้ำหยดสุดท้ายจากแก้วใบใหญ่ในมือผมและน้องดล ก่อนที่ผมและน้องดลจะเดินออกไปข้างนอกศาลาเพื่อจะกรวดน้ำตรงโคลนต้นไม้ใหญ่ ที่ใบกำลังปลิวไหวต้องลมยามเช้าอย่างเอื่อยๆ...

“......” ผมและน้องดลกำลังแผ่เมตตาแด่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ก่อนจะลุกขึ้นและเดินกลับเข้าไปในศาลา เพื่อเก็บสิ่งของกลับบ้าน...

“พี่เกมจะกลับมหาวิทยาลัยตอนไหนหรือครับ...” ดลเอ่ยขึ้นทันทีหลังพ้นขอบขัณฑสีมา

“พรุ่งนี้ตอนสายๆ นะ ทำไมหรือ...” เดินกันไป คุยกันไป กับหนุ่มน้อยน่าใส พร้อมบรรยากาศยามเช้า โรแมนติกไปอีกแบบ

“งั้นเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมไปส่งที่ บขส. ได้ไหมครับ ยังไงซะผมก็ไม่มีเรียน”

“ตามใจแล้วกัน พี่ขึ้นรถตอนเที่ยง มาทานข้าวกับพี่ก่อนแล้วกัน” ผมพูดพลางยิ้มให้เด็กหนุ่มด้วยน้ำใสใจจริง

“เริ่มด้วยอาหารเช้ามื้อนี้เลย ได้ไหมครับ...” เด็กหนุ่มพูดพลางอมยิ้มอย่างดีใจ

“ได้อยู่แล้ว... พี่จะโชว์ฝีมือทำกับข้าวให้ดู หุหุ” 

“จะทานได้ไหมหละครับ...” ดลพูดด้วยสีหน้ายียวน ก่อนที่ผมจะยกเท้าขึ้น ดลวิ่งหนีอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงหัวเราะ ทั้งของผมและดล แล้วมิตรภาพของผมแล้วน้องดล ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ...

มื้อเช้ามื้อนี้ มีขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ ดลช่วยผมหยิบนู่นนี่เรื่อยๆ แถมยังสั่งให้ผมใส่นู่นบ้าง ใส่นี่บ้าง หน้าตากับข้าวเลยออกมาซะน่าดู รสชาติดีอย่าบอกใครเชียว...

“เห็นไหมพี่เกม... ใส่ไอ้นี่อร่อยออก...” มันกำลังชื่นชมกับรสชาติของอาหารที่มันมีส่วนร่วม

“ครับผม น้องดล อร่อยจริงๆ...” ขอประชดหน่อยแล้วกัน 55+ แล้วเราทั้งสองก็ทานอาหารที่เราช่วยกันทำมื้อนี้จนหมด และดลก็ช่วยผมล้างถ้วยชาม ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เด็กคนนี้มันดื้อจริงๆ

“วันนี้พี่เกมทำอะไรเหรอครับ...” ดลเอ่ยถามขึ้นเมื่อล้างถ้วยชามเสร็จเรียบร้อย

“คงนอนเล่นเฉยๆ... แล้วดลหละ ไม่มีเรียนเหรอวันนี้...” ผมเอ่ยกลับ

“ไม่มีครับ งั้นผมขอมาขลุกอยู่กับพี่ได้เปล่าครับ อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ...” ดลเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสนุก

“ก็ได้... แต่เราต้องหยิบหนังสือมาอ่านด้วย ไม่งั้นไม่อนุญาต...” ดลสีหน้าละห้อย สงสัยมันจะขี้เกียจอ่านหนังสือ

“ครับๆ” เด็กหนุ่มรับปาก ก่อนจะเดินออกไป เพื่อมุ่งหน้ากลับไปเตรียมตัวกลับมาที่นี่อีกครั้ง

..........

เก้านาฬิกาแล้ว แต่ต้นไม้ภายนอกยังคงทำหน้าที่ให้ความเย็นและความสดชื่นแก่บ้านหลังนี้เป็นอย่างดี ผมนั่งมองบรรยากาศภายนอกบนโต๊ะเขียนหนังสือ ส่วนไอ้ดลกำลังเข้าเฝ้าพระอินทร์ เสียงกรนเบาๆ ดังขึ้นพร้อมกับการยุบพองของหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ ไอ้ดลมันดูดีพอควร แม้ส่วนสูงมันจะน้อยไปหน่อย แต่อย่างมันคงมีคนมีจีบไม่น้อย ใบหน้าได้รูป จมูกเป็นสัน ปากชมพู ตัวขาวๆ หึหึ ถ้าไม่ติดว่ามีเต๊บแล้ว ไอ้ดลไม่พ้นมือผมแน่...

“...” ไอ้ดลมันขยับตัว บิดขี้เกียจ ลืมตาขึ้นแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่มันจะมาหยุดสายตาที่ผม แล้วเผยอปากยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นนั่ง

“ไง... เฝ้าพระอินทร์ได้เลขกี่ตัว นิดๆ หน่อยๆ มึงก็ยังเอานะ...” มันไม่ตอบ แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ พร้อมลอบยิ้มอย่างอายๆ มึงจะน่ารักไปไหนอีกหวะไอ้ดล...

“หะหะ... ขอโทษครับ” มันพูดขึ้นเบาๆ ก่อนที่จะพลิกตัวกลับแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือ

“พี่เกมคิดอะไรอยู่เหรอครับ... คิดถึงแฟนชัวร์ๆ” มันพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ผมทีหนึ่ง ผมไม่ตอบคำถามมัน แต่ส่งรอยยิ้มให้มัน ก่อนที่ผมจะลุกเดินมาล้มตัวลงบนเตียงตัวเอง ข้างๆ มัน

“ทำไมบ้านพี่เกมเงียบจัง” มันพูดขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องไปที่หนังสือ

“พ่อกับแม่พี่ไปบ้านคุณยาย ส่วนน้องพี่ไปโรงเรียน...” ผมอธิบายให้มันฟัง มันพยักหน้า ก่อนจะเงียบไปพร้อมๆ กัน ผมจึงหลับตาลงเพื่อผ่อนคลาย

ผมรู้สึกถึงการขยับตัวอย่างแผ่วเบาของดล ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่ามีอะไรซักอย่างมีวางไว้บนหน้าอกผมอย่างตั้งใจ และกอดรัดผม...

“มีอะไรเหรอดล...” ผมถามมันโดนไม่ได้ลืมตา ดูมันจะชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะชักมือกลับ แต่ผมเอื้อมไปจับมือมันไว้ เกิดความเงียบขึ้นสักครู่ ก่อนที่มันจะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“ผมนึกว่าพี่เกมหลับซะแล้ว หะหะ…” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองหน้าไอ้ดล ที่ตอนนี้มีสีแดงระเรื่ออยู่บนใบหน้า

“จะลักหลับพี่รึไง พี่ไม่ยอมนะ ถ้าจะทำอะไรต้องทำตอนที่รู้สึกตัวสิวะ...” หะหะ ได้ผล หน้ามันแดงเป็นลูกตำลึงเลยครับ ผมจึงดึงหน้ามาซบที่หน้าอกผม หน้าอกมันสัมผัสกับสีข้างผม เสียงหัวใจของดลเต้นอย่างรวดเร็ว ปานจะออกมาภายนอก

“ผมได้ยินเสียงหัวใจพี่เกมแล้ว...” เสียงดลพูดขึ้นที่หน้าอกผม มือข้างซ้ายผมโอบไหล่ดลไว้และจับที่หัวมัน แก้มใสๆ ของมันสัมผัสที่หน้าอกผม แขนขวามันราบไปกับพื้น แขนซ้ายกอดผมไว้อย่างหลวมๆ ก่อนที่ผมจะพลิกตัวนอนตะแคง ดูดลจะชะงักนิดหนึ่ง ผมดึงมันขึ้น หน้ามันจึงซบอยู่ที่ซอกคอผม ลมหายใจแผ่วๆ รดคอผมอย่างสม่ำเสมอ แขนซ้ายผมเป็นหมอนให้มันหนุน ส่วนแขนขวากอดเอวบางๆ ของมันไว้อย่างหลวมๆ เช่นเดียวกับมัน

ผมค่อยๆ เชยหน้าของดลให้เลยขึ้นมา รู้สึกมันจะสั่นน้อยๆ สายตาหลุบลงไม่กล้าสู้ แก้มใสเจือไปด้วยสีชมพูดอ่อนๆ ก่อนที่ผมจะประทับรอยจูบลงที่ปากได้รูปของดล สายตาผมยังคงจับจ้องอาการของดลอยู่ตลอดเวลา แต่เด็กหนุ่มกับหลับตาลงด้วยความตื่นเต้น รสจูบที่ผมมอบให้ดลวันนี้แตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อน ทั้งความรู้สึก ความอ่อนโยน แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความเร่าร้อน

ดลยังคงเม้มปากแน่นด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวใจของเด็กหนุ่มยังคงทำหน้าที่เต้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ดลกอดคอผมแน่น มือซ้ายผมจับหัวดลไว้ ส่วนมือขวาสอดส่ายเข้าไปในเสื้อของดล สัมผัสเบาๆ ที่ยอดอก ดลครางในคอเบาๆ ก่อนจะเผลออ้าปากขึ้น โอกาสของผมมาถึง ลิ้นผมทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม สอดส่ายเข้าไปสำรวจโพลงปากของ ดลอย่างเร่าร้อน กลัวเด็กหนุ่มจะขาดอากาศหายใจ ผมจึงถอนปากออกจากปากหวานนุ่ม ดลหน้าแดงหอบหายใจนิดๆ และยังคงกอดคอผมไว้อย่างเคย

“เป็นไง...” หนึ่งคำถามที่ออกจากปากผม ทำเอาดลหน้าแดงซ่านมากขึ้น ก่อนจะมุดหน้าลงมาซบที่อกผมอย่างเขินอาย มือขวาผมจึ้งเอื้อมไปช้อนหน้าของดลเงยกลับขึ้นมาอีกครั้ง

“อายเหรอครับ...” เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆ

“พี่เกมนี่เก่งจังเลยนะครับ...” ดลพูดขึ้นอย่างอ่านๆ แต่ผมยังคงมองหน้าเด็กหนุ่มอยู่อย่างนั้น มองด้วยสายตาพิศวาสหรือเปล่า ไม่ทราบได้ แต่ดลไม่กล้าที่จะสู้สายตาผม

“พี่ขอมากกว่านี้ได้ไหมครับ...” ดลเงยหน้ามามองผมอย่างช้าๆ แก้มใสแดงซ่านขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ด้วยท่าทางเขินอาย...

“น่ารักจัง...” ผมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะก้มลงจูบที่ปากนุ่มนั้นอีกครั้ง ดลเอ๊ย... แกเปิดทางให้กูมากเกินไปแล้ว อีกหน่อยแกจะลงเหลือคำว่า ผู้ชายไหมนะ...

“อือ...” เสียงครางเบาๆ ในคอของดลเกิดขึ้น เมือผมละจากปากนุ่มไปที่หู ก่อนจะไซ้ซอกคอขาวอย่างอ่อนโยน บัดนี้เสื้อของดลได้พ้นออกจากร่างกายแล้ว ดลเอ๊ย แกนี่มันน่ากินจริงๆ ขาวๆ มีกล้ามหน่อยๆ นั่นสเป๊ค กูเลย...

ดลครางดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อปากผมไซ้ลงมาสัมผัสกับยอดหน้าอก หน้าอกแข็งเป็นไต ก่อนที่ผมจะเลื่อนขึ้นไปแลกจูบกับดล มือทั้งสองกำลังปลดเข็มขัดเด็กหนุ่ม ในที่สุดกางเกงของดลก็หลุดพ้นปลายเท้า เหลือเพียงอาภรณ์เพียงผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกาย ชั้นในสีขาวสะอาดตาที่กำลังทำหน้าที่ห่อหุ้มสัญลักษณ์แห่งเพศชาย แต่หน้าที่ของมันแทบจะไม่เห็นผล เพราะสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายนั้น แทบจะดันชั้นในนั้นจนเกือบจะปริแตก

ผมเอื้อมมือไปสัมผัสสิ่งนั้นภายนอกชั้นในอย่างแผ่วเบา ดลครางหนักกว่าเก่า แต่ปากผมยังปิดปากนั้นเอาไว้ ถ้าปากนั้นเป็นอิสระ คงส่งเสียงออกมาดังน่าดู ในที่สุดชั้นในสีขาวสะอาดตาก็หมดหน้าที่ของมัน เมื่อผมดึงมันออกจากร่างกายของดลอย่างแผ่วเบา สัญลักษณ์นั้นตั้งตรงแข็งขัน ชูชันท้าสายตา แต่มีเพียงมือผมเท่านั้นที่สัมผัสมันอย่างแผ่วเบา

“พี่เกม...” ดลครางเรียกชื่อผมอย่างกระสัน แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงหลับตาอยู่ ก่อนที่ผมจะละออกจากตัวดลอย่างเสียดาย เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างนึกเสียดายสัมผัส ผมถอดอาภรณ์ในร่างกายออกจะหมดทุกชิ้น เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบเด็กหนุ่มข้างหน้า เด็กหนุ่มหลบสายตาด้วยความอายเมื่ออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากปลายเท้าผม ผมล้มลงคร่อมเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนที่จะก้มลงจูบปากนุ่มนั้นอีกครั้ง...

(โครมไฟ เอิ๊กกกก)

..........

ป.ล. ผมอาจจะมาลงได้อาทิตย์ละครั้งนะครับ ไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ ครับ

ป.ล.2 ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้วันหลังนะครับ

 :m13: :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาหลังจากหายไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: artkung ที่ 30-01-2008 07:40:52
แง้ พี่เต้ ค้างอย่างแรง

ทำไมต้องไปที่โคมไฟทุกทีเลยอ่ะ วัยรุ่นเซ็ง งิงิ  o13  o13  o13
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาหลังจากหายไปนาน 31.01.51
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-02-2008 04:14:00
 :oni2: มาทันตอนสำคัญ  :serius2: ค้างอย่างแรง เอาแบบละเอียดดิ  :m23:

เป็นกำลังใจให้นะ รออ่านต่อจ้า  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาหลังจากหายไปนาน 31.01.51
เริ่มหัวข้อโดย: boyzaa55 ที่ 01-02-2008 12:43:39
 :m25: :m25: :m25: :m25:

 :m30: :m30: :m30: :m30:

 :m10: :m10: :m10: :m10:

พี่เต้ ค้างๆ เอ๊กซ์ได้อีกพี่  :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ กับรักวุ่นวายนายขี้เหร่ Part II โดย นายเต้ (กลับมาหลังจากหายไปนาน 31.01.51
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 03-02-2008 17:59:06
อ่านมาตั้งแต่บ่าย เขียนดีมากครับ

มีหลายอารมณ์ดี ดีใจที่ได้อ่าน

ขอให้คนแต่งเจอคนที่ใช่เร็วเร็ว

ขอบคุณครับ





หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 22-02-2008 12:02:53
มาขัดจังหวะฉากเอ๊กซ์ๆๆๆ ด้วยฉากน่ารักๆๆๆๆๆ ละกัน  :m23: :m23: :m23: :m23:

-------------------

อาบน้ำด้วยกัน


---------


ผมเข้ามาเรียน เล่น พัก ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ 3 เดือนแล้ว สามเดือนแห่งการปรับตัวกับเพื่อนใหม่อย่าง โชกุน กับใครอีกหลายๆ คน ผมเริ่มที่จะปรับตัวได้บ้าง กับเพื่อนๆ ในเอก ใครจะเชื่อ ว่าคนอย่างผมจะเข้ากับคนอื่นได้ยาก หน้าซื่อๆ แต่ร้ายใช่เล่น หึหึ...

“ไง... คุณเกม ตื่นได้แล้วกระมั้งครับ” ทุกๆ เช้า มักจะได้ยินเสียงใสๆ ปนขี้เล่นก่อกวนตลอด แปลกเนอะ ผมมักจะเป็นคนปลุกรูมเมทให้ตื่น แล้วรูมเมทก็มาปลุกให้ผมตื่นอีกที เหอะๆ

“ไม่เอาโชกุน... อย่ากวน วันนี้ไม่มีเรียน...” ความขี้เกียจเข้าครอบงำ ไม่มีอะไร เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย อ่านหนังสืออะครับ

“สอบ General chemistry 10 โมงเช้า ตอนนี้ 9 โมง 30 ...” เสียงโชกุนยังคงวนเวียนก่อกวน เอ๊ะ... สอบ 10 โมงเหรอ

“ว้ากกกกกกกก โชกุน ทำไมปลุกช้าจัง...”

“แหง่ะ... พอเลยเกม เราปลุกเป็นสิบรอบแล้ว ตื่นๆๆๆๆๆๆ” ผมกระโดดลงจากเตียง หยับผ้าขนหนู กำลังจะวิ่งเข้าห้องน้ำ...

“อะไรอีกโชกุน เรารีบนะ” จะอะไรซะอีกครับ ก็มันดึงมือผมไว้

“ดูอะไรนี่ก่อน” มันพูดพลางชี้ไปที่ตัวมัน เปลือยด้านบน ด้านล่างนุ่งผ้าขนหนู ตรงเป้าตุงๆ พิกล (ไปไกลแล่ะไอ้เกม)

“แล้วไง ผมจะเข้าห้องน้ำ...”

“ไม่ต้องหน้าแดง... เอางี้ เรารีบ นายก็รีบ อาบด้วยกัน โอเค้...”

“ไม่นะโช... อายเป็นนะว้อย”

“อาย... สอบช้า ด้าน สอบทัน... จะเลือกข้อไหน 9 โมง 40 แล้ว”

“ว้อย เอาก็เอา...” และแล้ว ห้องน้ำอันแคบๆ ก็มีคนสองคน (หมีควาย) ยืนอัดกันภายใต้สายน้ำจากฝักบัว

“อ้วน...” หนึ่งคำหลุดออกจากปากโชกุนทันทีที่ผ้าขนหนูหลุดจากเอว พร้อมนิ้วจิ้มที่พุงผม

“หยาบคายหวะโช...” เกิดมาไม่เคยอาบน้ำกับใคร วันนี้ครั้งแรกที่อาบน้ำกับคนอื่น แถมกับรูมเมทที่น่ารักอีก ซ้ำยัง เอ่อ... แก้ผ้าล่อนจ้อนอาบด้วยนี่สิ ตะบะที่สั่งสมมาหลายปีจะแตกไหม 55+

“เฮ้ย... หุ่นใช้ได้นี่หว่าโชกุน เห็นใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ นึกว่าลุงพุง” ก็นะครับ เอิ๊กกกก แอบสำรวจเรือนร่างรูมเมทแล้วครับ

“ห้ามอ่านกินนะเมิง... อาบๆๆๆๆๆ” ไอ้โชกุน ใครจะอ่านกินเมิงวะ....

“55+ ... หัวนมตั้งแล้วเมิง...” ปากว่า มือถึงครับ พูดปุ๊บ มือจับที่หัวนมผมปั๊บ จะไม่ให้ตั้งได้ไงเล่า น้ำเย็นจะตาย

“ไอ้โช ทะลึ่งหวะ อาบน้ำว้อย ไม่มีอารมณ์มาเล่นพิเรนทร์ๆ ด่ากูไม่ให้อ่านกิน แกเล่นถึงเนื้อถึงตัว เดี๋ยวเหอะเมิง” มันหัวเราะครับ อย่าให้ถึงที่ผมแล้วกัน จะเอาคืนให้หนักเลยเชียว

“โชกุน... โชกุนน้อยตั้งแล้วหวะ ใหญ่ใช้ได้นี่หว่า อย่าแข็งนะเมิง ขี้เกียจชักแข่งกะเมิง 555555” เอาคืนหน่อยเหอะ 55+

“นี่เมิงอ่านกินกูจริงๆ เหรอเกม เมิงตายยยยย” มันบีบครีมอาบน้ำใส่หัวผมครับ ฟองเต็มหัวเลย กว่าจะล้างออกตั้งนาน ผมเลยเอาคืนมันด้วยวิธีเดียวกัน ห้องอาบน้ำเต็มไปด้วยฟองสบู่ ถ้าอยู่ในอ่างจากุชชี่ คงจะดี แต่นี่น้องน้ำแคบๆ ครับ
และแล้วเรื่องดีๆ ในเช้าอันสดใส ก็เกิดขึ้นในห้องน้ำแคบๆ ห้องนั้น

“สายๆๆๆๆๆๆๆ” 10 โมง 8 นาที ใช้เวลาในการอาบน้ำนานเกินไป เพราะไอ้โชกุนคนเดียว เซ็งๆๆๆๆ จะเข้าสอบทันไหมเนี่ย

“วันหลังอาบด้วยกันอีกนะจ๊ะ... 55+” ฝากไว้ก่อน ไอ้โชกุน....

“เดี๋ยวเกม....” มันดึงมือผมไว้อีกแล้วครับ

“อะไรอีกวะ ไอ้โชกุน คนยิ่งรีบๆ”

“ดูอะไรนี่ก่อน.... ไม่ใช่ตัวกู” มันชี้มือไปที่ปฏิทินบนหัวเตียงผม

“ไอ้โช.... เมิงแกล้งกรู เมิงตายยยยย”

“55+” เสียงหัวเราะชอบใจของมันดังขึ้น พร้อมกับการวิ่งไล่เตะก้นมันของผม


“จันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2545 สอบเจนเคม 10 โมงเช้า”


แต่วันนี้ “อาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2545” มันน่าไหมหละครับ คุณผู้โช้มมมมม

--------------------------------------------------

สั้นไปนิด แต่ยิ้มได้ใช่ไหมครับ   :m4:  :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-02-2008 20:47:59
โชกุนน่ารักจังเลยคับ แต่รีบมาต่อตอนของดลดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 22-02-2008 23:10:51
อารมณ์ค้าง.... :angry2:   :angry2:
  มาต่อเรยยย.... :oni3:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-02-2008 20:36:30
เต้ค๊าบเรื่องอื่นพักไว้ก่อน :m12:

มาต่อเรื่องน้องดลก่อน :o8:

ฟางชอบบบบบบ :m13:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 23-02-2008 21:34:02
 :m23: :m23: มารออ่านด้วยคนครับ   :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ ตอนพิเศษ โชกุน โดย นายเต้ (22 กุมภาพันธ์ 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-02-2008 22:20:29
 :m12: ค้างพอรู้ว่าไม่ใช่วันสอบแล้วจะทำไนกานต่อมั้ย  :o8:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-04-2008 14:37:51
ความเดิมตอนที่แล้ว

-----------------------

ดลครางดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อปากผมไซ้ลงมาสัมผัสกับยอดหน้าอก หน้าอกแข็งเป็นไต ก่อนที่ผมจะเลื่อนขึ้นไปแลกจูบกับดล มือทั้งสองกำลังปลดเข็มขัดเด็กหนุ่ม ในที่สุดกางเกงของดลก็หลุดพ้นปลายเท้า เหลือเพียงอาภรณ์เพียงผืนเดียวที่ห่อหุ้มร่างกาย ชั้นในสีขาวสะอาดตาที่กำลังทำหน้าที่ห่อหุ้มสัญลักษณ์แห่งเพศชาย แต่หน้าที่ของมันแทบจะไม่เห็นผล เพราะสัญลักษณ์แห่งความเป็นชายนั้น แทบจะดันชั้นในนั้นจนเกือบจะปริแตก

ผมเอื้อมมือไปสัมผัสสิ่งนั้นภายนอกชั้นในอย่างแผ่วเบา ดลครางหนักกว่าเก่า แต่ปากผมยังปิดปากนั้นเอาไว้ ถ้าปากนั้นเป็นอิสระ คงส่งเสียงออกมาดังน่าดู ในที่สุดชั้นในสีขาวสะอาดตาก็หมดหน้าที่ของมัน เมื่อผมดึงมันออกจากร่างกายของดลอย่างแผ่วเบา สัญลักษณ์นั้นตั้งตรงแข็งขัน ชูชันท้าสายตา แต่มีเพียงมือผมเท่านั้นที่สัมผัสมันอย่างแผ่วเบา

“พี่เกม...” ดลครางเรียกชื่อผมอย่างกระสัน แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงหลับตาอยู่ ก่อนที่ผมจะละออกจากตัวดลอย่างเสียดาย เด็กหนุ่มลืมตาขึ้น พร้อมกับแสดงสีหน้าอย่างนึกเสียดายสัมผัส ผมถอดอาภรณ์ในร่างกายออกจะหมดทุกชิ้น เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบเด็กหนุ่มข้างหน้า เด็กหนุ่มหลบสายตาด้วยความอายเมื่ออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากปลายเท้าผม ผมล้มลงคร่อมเด็กหนุ่มเอาไว้ ก่อนที่จะก้มลงจูบปากนุ่มนั้นอีกครั้ง...


---------------------------



บทที่ ๒๔ เมื่อไอ้เกมกลับบ้าน จบ

---------------------------

“วากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

“เย่ยยยย พี่เกม ร้องทำไมอ่า” นั่นสิผมร้องทำไม เหงื่อเต็มหน้าผมไปหมดทั้งๆ ที่อากาศเย็นสบาย

“โอ๊ยยยย” ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมหยิกแก้มตัวเอง ผมฝันหรอกเหรอครับเนี่ย ผมฝันว่าผมกับไอ้ดลกำลังมีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ คิดแล้วขนลุกว้อย

“พี่เกมเป็นอะไรครับ ร้องซะผมตกใจ... เฮ้ย พี่เกม” ผมต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงไอ้ดลดังขึ้น แต่คงสะดุ้งแรงเกินไป สะดุ้งจนตกเตียง

“เป็นไรเนียะเฮีย ไหวไหม ลุกๆๆๆ”

“ขอบใจ ไหวๆ” ผมค่อยๆ ลุกครับ เพราะไอ้เกมน้อยกำลังผงาดค้ำกางเกงอยู่

“โหยพี่กู ใหญ่ใช้ได้นี่หว่า...”

“ทะลึ่งไอ้ดล ...”

“แล้วพี่เกมฝันอะไรอะครับ ถึงแข็งปั๊กขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าฝันว่ากำลังจึ๊กกะดื๋ยผม ไม่ยอมน้าพี่เกม ผมเสียตัวให้พี่เกมในความฝันแล้วเหรอ” แล้วมันก็ทำท่าร้องไห้ น่าถีบฉิบหาย

“ดล...” ผมจ้องหน้ามันครับ ไม่รู้สิ จะเรียกได้ว่าผมชักสนใจมันแล้วสิ

“อะ... อะไรครับพี่เกม” มันตอบผม แต่ลบตา แล้วก้มหน้า องศาที่มันมอง ไม่พ้นไอ้เกมน้อย หะหะ

“พี่จูบดลได้ไหม” หึหึ หน้าด้านฉิบ ขอจูบคนอื่น ดลมันก้มหน้าอีกครั้ง สังเกตว่าหน้ามันจะแดงๆ นะ ก่อนที่จะจบหน้าดลให้แหงนขึ้นมา พร้อมกับที่ผมก้มลงไปลิ้มรสปากของน้องดลอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะครั้งนี้ผมใส่ความอ่อนโยนลงไปด้วย ไม่วายที่ดลมันจะตัวสั่น ก่อนที่ผมจะผละออกด้วยความเสียดาย ผมไม่อยากทำลายชีวิตเด็กคนนี้

“ขอโทษนะดลที่พี่ทำแบบนี้” ก่อนที่ผมจะดึงมันเข้ามากอด

“พี่เกมครับ พี่เกมรักผมไหมครับ” มันพูดพร้อมกับทำหน้าตาน่ารัก บ้องแบ๊วจริงมึง

“รักดิหวะ แต่ไม่ได้รักแบบแฟนนะเว้ย พี่รักเราเหมือนพี่น้อง”

“โห่... พี่เกม ไม่โรแมนติกเลย ผมก็รักพี่แบบพี่คนหนึ่ง ผมไม่ได้เป็นเกย์ซักหน่อยนิครับ” แล้วมันก็ทำหน้ากวนตีน ได้ใจผมจริงๆ 55+

“ตกลงพี่ฝันอะไร ทำไมถึงได้ตุงกางเกงอย่างงั้นอะ” มันทำหน้าตาสงสัย พร้อมกับชี้มาที่เป้าผม ไอ้นี่นิ

“เออ... กูฝันว่าได้ฟัดมึงไง ไม่งั้นกูจะตกใจขนาดนั้นเหรอว่ะ”

“แหง่ะ ผมไม่เร้าใจพอ ทำให้พี่เกมร้องขนาดนั้นเชียว” แล้วมันก็ก้มหน้าเหมือนกำลังน้อยใจ

“ที่พี่ตกใจ ไม่ใช่เพราะดลไม่น่าเอาหรอก (แอบหื่น) แต่เพราะพี่รู้สึกว่าไม่น่าทำแบบนั้นต่างหากหละ พี่ไม่อยากทำลายชีวิตบริสุทธิ์แบบเราหรอกนะ” แล้วก็ยิ้มให้มันทีหนึ่ง

“ผมรู้ พี่เกมมีแฟนแล้ว เลยไม่อยากนอกใจแฟนใช่เปล่า”

“ถ้ากูอยากมีชู้นะ ก็ไม่สะทกสะท้านหรอกไอ้ดล เข้าใจพี่เปล่าเนี่ย เองชักเหมือนเกย์แล้วนะ มาทำงอนๆ เดี๋ยวได้เป็นเมียพี่จริงๆ หรอก” แอบหื่นอีกแล้วกู -*-

“เง้อ... ไม่เอาอะพี่เกม ไม่ต้องมาแอบหื่นกับผมนะ ขนลุกเลย” แล้วมันก็โชว์ขนแขนที่กำลังลุกชัน

--------------------------

วันนี้ทั้งวัน ไอ้น้องดลมาขลุกอยู่กับผม ถามโน่นถามนี้ เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ติดพี่ ทำให้รู้สึกว่ามันน่ารักดีจัง ผมต้องใช้หิริ โอตตัปปะ กับขันติ โสรจจะ เป็นอย่างมากในการสู้รบปรบมือกับไอ้น้องดล ถ้าผมเผลอ มันก็จะมาเป่าลมใสหูผม อดทนและก็อดทน ครับ แต่มันสิ หัวเราะชอบใจมาก

“มึงไม่คิดถึงวันแรกเลยนะไอ้น้องดล”

“ไม่ต้องไปคิดถึงพี่เกม ก็ตอนนั้นไม่ได้มองเลยนี่หน่า ว่าพี่เกมน่ารักแค่ไหน” แล้วมันก็ทำตากรุ้มกริ่ม เฮ้อ ไอ้ดลนะไอ้ดล จะอดทนไหวไหมนะ

“พรุ่งนี้พี่เกมก็จะกลับแล้วสินะ เฮ้อ ... ต้องคิดถึงพี่เกมแน่ๆ”

“16 จะ 17 แล้วนะมึงนะ ไปหาแฟนเป็นตัวเป็นตนเหอะ”

“เฮ้อ... ชาตินี้จะหาคนแบบพี่เกมได้ไหมน้า” ดูมันพูด

“พี่ก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรมากหรอกนะดล ถ้าแกอยากลองก็ได้นะ” เป็นครั้งแรกที่ผมชนะมัน มันหัวเราะแล้วก็ก็ส่ายหน้าไปมาอย่างจนมุมครับ

----------------------------

เช้าวันสุดท้ายของการอยู่บ้านของผม เป็นเช้าอีกหนึ่งวันที่อาการสดใส เย็นสบาย และยังเป็นอีกหนึ่งวันที่ผมกับดล ‘ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมชัน’

“สาธุ เกิดชาติหน้า ให้พี่เกมเป็นผู้หญิงทีเถอะ เพี้ยง” ดูมัน กวนตีนฉิบ

“สาธุ เกิดชาติหน้าขอเป็นเกย์ และให้ไอ้ดลเกิดเป็นเกย์ แล้วให้มันมาเป็นเมียผมทีเถอะ เพี้ยง” 55+ ดอกนี้กูขอคืนนะไอ้ดล

“กรรม พี่เกมอะ เดี๋ยวผมเอาจริงเลย” ก่อนที่ผมและดลจะเดินกลับเข้าบ้าน พร้อมกับอาหารเช้าที่อร่อยอีกวันหนึ่ง พร้อมอาการกวนตีนของมันตลอดเช้า

“พี่เกม เดี๋ยวผมไปแต่งตัวก่อนนะ ครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ” แล้วผมและดลก็แยกกัน ผมจัดกระเป๋า พร้อมกับเตรียมตัวอาบน้ำ 

ครึ่งชั่วโมงถัดจากนั้น ดลเตรียมพร้อมกับชุดนักศึกษา ดูหล่อไปอีกแบบ พร้อมมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ส่วนผม เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ไม่อะไรมากมายครับ

“โห่พี่เกม เท่หวะ...”

“ดลก็หล่อนะ น่ารักไปอีกแบบ ดูไม่มีพิษสงเหมือนใส่ช็อป” พร้อมกันนั้นผมก็ล่ำลา ย่า พ่อ แม่และญาติๆ ของผม แล้วเดินก้าวขาขึ้นรถไอ้ดล แล้วออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปยัง บ.ข.ส.

-------------------------------------

ประมาณครึ่งชั่วโมง ดลก็พาผมมาถึง บขส. พร้อมอวัยวะทั้ง 32 ของผม ที่ยังอยู่ครบ

“ไอ้ดล แม่ง ขับน่าหวาดเสียว” ผมบ่นทันทีที่ก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์ของมัน

“เอาน่าพี่เกม มันเร็วดี แล้วนี่พี่เกมขึ้นรถกี่โมงครับ”

“ประมาณเที่ยงครึ่งอะ เหลือ ชั่วโมงหนึ่ง ไปหาไรกินก่อนเหอะ” แล้วผมกับไอ้ดลก็ไปหาข้าวกินแถวๆ ขนส่ง ก่อนที่ผมจะกลับมาขึ้นรถที่เดิม

“พี่เกมจะกลับมาอีกเมื่อไหร่อะครับ”

“ก็คงซักปีใหม่นะ ทำไม คิดถึงพี่ขนาดนั้นเชียว”

“คิดถึงดิครับ ว่าแต่ก่อนไป ขออะไรหน่อยได้เปล่าครับ”

“อะไร...” ไม่ทันที่ผมจะพูดหรือเอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น ไอ้ดลก็แอบหอมแก้มผมฟอดใหญ่ๆ ช่างกล้าจริงๆ แม่ง

“ยังหอมเหมือนเดิม โชคดีนะครับ”

“อือ โชคดี รักษาตัวดีๆ นะมึง อย่าเสือกไปหาเรื่องใครอีกหละ” แล้วผมก็หันหลังกลับ ตรงไปยังรถที่จอดรอ

“อ้าวไอ้ดล มาทำอะไรแถวนี้วะ” เสียงใครซักคนกำลังคุณกับดลแว่วหลังมา

“มาส่งแฟนอะพี่กุ๊น” ก่อนที่ผมจะตกใจไปมากกว่านั้น พนักงานก็ผลักผมขึ้นบนรถ พร้อมกันกับพนักงานขับรถก็เคลื่อนรถออกไป สิ่งที่ผมมองเห็น ก็แค่...

-ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมายังจุดที่รถเคลื่อนตัวออก พร้อมกับมองเข้าในรถอย่างโหยหา-

‘และผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ในรถ ที่มองออกไปยังผู้ชายคนนั้น อย่างโหยหาเช่นกัน...’

.....................................
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 28-04-2008 14:46:33
ต้องขอโษที่ผมหายไปนาน วุ่นวายกับการทำวิทยานิพนธ์ ตอนนี้เริ่มโอเคแล้ว และใกล้จะสำเร็จแล้ว

จากนี้ไป อาจจะลงมากขึ้น แล้วแต่โอกาสและสถานที่ครับ

เพราะผมจะหางานทำอะครับ

ถ้าหายไปซัก อาทิตย์ อย่าว่านะครับ

แหะๆ

แวะมาทักทายครับผม

จาก

นายเต้ คนเดิมครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-04-2008 15:56:42
 :a6: หลงคิดว่าในฝันเป็นเรื่องจริง
 ลุ้นมานานหลายเดือน แล้วก็ฝันสลาย o7

หางานได้แล้วรีบมาเลยนะค่ะ คนอ่านลงแดงไปหลายรายแล้ว :oni2:


แต่น้องดลรอดมาได้ไงเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 01-05-2008 21:18:25
มาอ่านแระพี่เต้

ชอบดองจิง ๆ

เด๋วจะให้ไปดองผักขายที่ตลาด  :angry2:

สงสัยจะขายดี 5555+

ไปแระ ๆๆๆ

ร.ศ.เต้
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 04-05-2008 11:53:52
รออ่านต่อนะ

 :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 14-05-2008 00:04:05
 :serius2: :serius2: ได้ไงอ่ะ  เด็กรถนี่ทำขัดใจมากๆเลยนะครับ  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: samuchii ที่ 17-05-2008 17:48:36
 :o  เด็กรถนี่มันน่านัก หุหุ  :angry2:

รอๆๆๆ อ่ะฮับ  :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: madamkung ที่ 21-07-2008 14:21:29
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ ล่วงหน้า
เซ็งเป็ดอวอร์ดครั้งที่สอง
เริ่มให้โหวตกันเดือนสิงหาคมนี้
ยังไงช่วยกันเข้าไปดูรายละเอียดกันหน่อยค่ะ ตาม linkนี้เลยนะคะ

รายละเอียด และ ของรางวัล เซ็งเป็ดอวอร์ดครั้งที่ 2 จ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5282.0)
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต โดย นายเต้ (28 เมษายน 2551)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 16-08-2008 15:00:23
 :เฮ้อ: อารมณ์............. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 18-08-2008 15:14:07
บทสรุปของ

คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต

โดย นายเต้

เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงกับผม ผมกับเพื่อนสนิทสองคน คือ ติม และ เต๊บ ผมกับติมเรียนด้วยกันตั้งแต่ ป.1 จนถึง ม.6 แต่กับเต๊บ มีเวลาด้วยกันแค่ 3 ปี คือ ป.1 ถึง ป.3 ด้วยเหตุผลทางราชการที่คุณพ่อของเต๊บต้องย้ายไปประจำการที่ สระบุรี ผมกับติมรักกันมากกว่าคำว่าเพื่อนจนที่สุดกลายเป็นแฟน และสุดท้ายไม่เหลือมิตรภาพ เหลือเพียงเยื่อใยเส้นบางๆ เท่านั้น

เต๊บ คือคนแรกของหัวใจผม แต่ ติม หรือ กุ๊น ที่ทุกคนรู้จัก คือคนสุดท้ายของชีวิต จริงหรือ?

ตอนที่ผมเริ่มต้นเขียนเรื่องนี้เมื่อสายๆ ของวันที่มีฝนตกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ให้ความรู้สึกเหมือนรถไฟสายด่วนฮอกวอตท์กับลังแล่นไปยังสถานที่ๆ ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อเรื่องนี้ว่าอย่างไร เผอิญเรื่องแรกที่ผมเขียนและลงไปก่อนหน้านี้คือ “สะดุดรัก... ที่พักใจ” ผมก็มาสะดุดตรงที่ว่า เป็นการเลียนชื่อจากซีรีย์เกลาหลียอดฮิต ความคิดเลยมาติดอยู่ที่ที่เรื่อง “คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต” ภาพยนตร์เกาหลีที่เรียกน้ำตาผมเป็นกะละมังมาแล้ว มาใช้เป็นชื่อเรื่องๆ นี้ แรกเริ่มเดิมที เต๊บจะเป็นทั้ง คนแรก และคนสุดท้าย เพราะเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ เต๊บ เพียงคนเดียว แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อ ติม หรือกุ๊น เข้ามาในชีวิตผมอีกครั้งเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นช่วงรับปริญญา ไม่มาเปล่า มาพร้อมกับเพลง “ทุกครั้งที่หลับตา ทุกเวลาที่หายใจ” แล้วคนสุดท้ายของชีวิตของผม ก็เปลี่ยนจากเต๊บมาเป็น ติม พระเอกของโครงเรื่องจึงถูกโฟกัสมาที่ติมคนเดียว (เต๊บตกกระป๋อง) แต่ตอนนี้ผมไม่มี ติม แล้วครับ จึงเป็นอะไรที่เหมาะเจาะ (เกินไป) กับคำที่ว่า “คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต”

เต๊บกับผม เราเลิกรากันด้วยดีเมื่อปลายปีการศึกษา 2546 ด้วยเหตุผลของเรื่องอนาคตของชีวิต เต๊บต้องไปเรียนต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่อเมริกา มหาวิทยาลัยที่เป็นข่าวเมื่อปีสองปี ที่นักศึกษาเกาหลีฆ่าเพื่อนนักศึกษาในสถาบันนั่นแหล่ะครับ ตอนนี้เต๊บปักหลักอยู่ที่อเมริกาแล้วกับครอบครัวที่อบอุ่น ภรรยาที่แสนดีกับลูกชายตัวน้อยๆ น่ารักๆ ที่ชื่อว่า จิม (แต่ไม่น่ารักเท่าน้องโชกุนลูกผมแน่นอน หุหุ) เต๊บมันสอนให้ น้องจิม เรียกผมว่า “แด๊ดเต้” จนติดปากครับ

เพราะฉะนั้น ตอนพิเศษคั่นเวลาในนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง เป็นช่วงที่ผมกับ ติม เริ่มคบกันอีกครั้งในฐานะ “แฟนใหม่” แต่ที่ผมต้องเขียนไว้ว่า “เป็นแฟนฟิก” เพียงเพราะอยากให้เซอร์ไพรส์มากกว่าครับ

พี่ตง พี่ชายที่แสนดีของผม คนหน้าตาดีมักไม่โชคดีเสมอไป ชีวิตครอบครัวล้มเหลว ผู้ชายที่ได้ชื่อว่า “หวังดีกับผมเสมอมา” ผมรักพี่ตงในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง พี่ชายที่แสนดีของไอ้เต้ พี่ชายที่ผมจะไม่มีวันลืม ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไต้หวัน ลูกชาย (น้องฮ่องเต้ ชื่อนี้ผมเป็นคนเรียกเอง) วัยกำลังซน เวลาเจอผมมักจะเรียก “พ่อเต้” เสมอ ผมมีลูกชายถึง 3 คนแล้วนะครับ อิอิ

ยุทธ ผู้ชายบ้านๆ ที่ไม่มีบทบาทกับนิยาย แต่ชีวิตจริงกับมีบทบาทอย่างมากมาย จะเรียกได้ว่าเป็นคนคั่นเวลาระหว่างติมกับเต๊บเลยก็ว่าได้ ถ้าเรียกให้ดูดี ก็ “คนพิเศษที่ทำหน้าทีเวลาที่ไอ้เต้ไม่มีใคร” (ยกเว้นพี่ตง) แต่ถ้าเรียกอย่างดูหมิ่นดูแคลนก็ “ตัวฆ่าเวลา” ดีๆ นี่เอง แต่เขาคือเพื่อนรู้ใจมากที่สุดอีกคนหนึ่ง มีครอบครัวที่อบอุ่นแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีเจ้าตัวน้อยเท่านั้นเอง

ฮ่องเต้ หรือ โชกุน ที่เพื่อนๆ รู้จัก คืออีกหนึ่งคนที่มีบทบาทอย่างมากในชีวิตผม หนุ่มสถาปัตยกรรมสุดเซอร์ แต่ไม่เซ่อ แฝงเสน่ห์ไว้รอบกาย ใครจะคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต จะมีคนอย่างนายคนนี้มาอยู่ข้างๆ เป็นที่อิจฉาของใครหลายๆ คน หนุ่มที่ฮอตที่สุดในเวลานั้น แต่สุดท้ายก็ได้รับเพียงคำว่า “เพื่อน” เพียงเพราะเขามาทีหลังเต๊บ เท่านั้นเอง

น้องดล “หนุ่มช่าง ตูดเล็ก เสป๊กไอ้เต้” เป็นเด็กช่างที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับชีวิตผมได้ดีพอควร ไม่ได้เป็นของเล่นยามแก้เหงา แต่เป็นน้องสุดที่รักที่ผมรักมากคนหนึ่ง แม้จะเคยๆ กันมาบ้าง แต่ความรู้สึกมันเป็นคนพิเศษที่ไม่มีทางพัฒนาเป็นแฟนได้ (มันบอกผมเอง) ตอนนี้มันเป็นวิศวกรที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ติดต่อกันบ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะมันมีคนรู้ใจเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

นี่เป็นส่วนหนึ่งของตัวละครที่มีอยู่จริง และเป็นจริงตามนิยายผม (บ้าง) ยังมีหนุ่มๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้เขียน และไม่มีโอกาสได้เขียนอีกแล้ว เอาเป็นว่าจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนสรุปหละกันนะครับ

พี่อาร์ม รุ่นพี่สุดหล่อสุดเท่ห์ของผม ผมคบกับพี่อาร์มตอนอยู่ปีสาม (หลังเลิกรากับเต๊บ) คบกันอยู่ช่วงระยะสั้นๆ ก็มีคนมาสะกิดว่า “เป็นชู้กับเมียกู” แต่เป็นระยะสั้นๆ ที่ประทับใจ ไม่มีใครเอาใจผมได้เท่าพี่อาร์มอีกแล้วครับ

นายเก่ง เอกประวัติศาสตร์ คบกันอยู่ระยะหนึ่งเท่านั้น เหตุเพราะไม่ได้อยู่ใกล้กัน เป็นคนขี้หึง เอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่ผมก็ยอมบ้างหละ ก็คบกันแล้ว แต่เพราะอย่างว่า อยู่ห่างกัน เขาอยู่ ม.ใหม่ ผมอยู่ ม.เก่า เวลาเราไม่เท่ากัน สุดท้ายก็เลิกกันครับ

นายนัท เอกอังกฤษ หนุ่มนัยน์ตาชวนฝัน จะบอกว่าเป็นเพื่อนคนแรกในมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ นุ่มๆ ไม่ใจร้อน สอนผมตลอด สมแล้วกับการเป็นอาจารย์ในปัจจุบันนี้ จะบอกว่าคบกับนัทก็ไม่เชิง เพราะเราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย แต่ไปดูหนัง กินข้าว กอดกัน หอมกันเป็นธรรมดา ก็นานหน่อยเพราะต่างกันต่างให้เกียรติกัน ห่างกันไปเพราะต่างคนต่างมีอนาคตที่แตกต่างกัน

นายเอ็ม เพื่อนโชกุน นายนี่เข้ามาเพียงหวังแก้แค้นให้เพื่อน (ให้นายโชกุนนั่นแหล่ะ) แต่ไปๆ มาๆ กลับโงหัวไม่ขึ้นเอง คบกับเอ็มแล้วผมสบายใจ เพราะไม่มีเรื่องให้ปวดหัว ตามประสาผู้ชายกวนตีนๆ เหมือนกัน เพียงแต่เอ็มมันยอมนิดหนึ่งตรงที่เป็นคนซักเสื้อผ้าให้เท่านั้น ก็รักมันนะ แต่มันถอนตัวออกไปเอง เพียงเพราะมีคนขอมา...

หมดแล้วสำหรับคนที่เอ่ยถึงในเรื่องราวนิยายทั้งหมด แต่ยังเหลืออีก 2 คน ที่ไม่ได้ปรากฏ ในหน้ากระดาษ หน้าไหนเลย เพียงเพราะไม่มีโอกาสมาโลดแล่นเท่านั้นเอง...

น้องหนึ่ง สิ่งแวดล้อม เป็นน้องที่รู้จักกันโดยบังเอิญ ผ่านน้องในเอกคนหนึ่งที่ไปกินเลี้ยงช่วงนับปริญญา เป็นเด็กน่ารักครับ แม้จะขัดกับหน้าตาเถื่อนๆ มันบ้าง แต่มันชอบผมมากเอาการ เพียงเพราะผมสอนอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับการใช้ชีวิตกับมัน ก็เป็นช่วงที่ผมสนุกดี เพราะมันพาผมเที่ยว เลี้ยงหนัง เลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้า แม้มันจะไม่ได้ดูดีมากมาย แต่มันที่โรแมนติกมากๆ มีอะไรเซอรไพร์สผมตลอดเวลา

สุดท้าย น้องโต้ง น้องในเอก (สมภารกินไก่วัด) การได้รู้จักน้องคนนี้เป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ เพราะผมจะพยายามเลี่ยงที่จะรู้จัก หรือสนิทแน่นแฟ้น ท้องชนหลังกับใครในสาขาตัวเอง เพราะภาพลักษณ์ที่ดีที่น้องๆ ยกให้ มันค้ำคอ แต่กับโต้ง ซึ่งเป็นเพื่อนกับน้องสาวผม (น้องสาวแท้ๆ ครับ) ห่างจากผม 3 ปี มาสนิทกับน้องเขาเมื่อปีสุดท้ายที่ผมเรียนปริญญาตรี เพราะต้องทำงานสาขาด้วยกัน ได้มันไปรับไปส่ง แม้ภายนอกจะดูหยิ่งๆ นิ่งๆ ขรึมๆ แต่เป็นคนขี้อายมาก หน้าตี๋ ขาว สูง (ตูดเล็กสเป๊กไอ้เต้) ก็คบกับน้องเขาแบบซ่อนๆ หน่อย เพราะน้องสาวผมก็คุมผมเหมือนกัน ดูพฤติกรรมผมไปด้วย แต่น้องสาวผมบอกว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะโต้งมันบอก เพื่อนๆ ผมก็คอยๆ แซวเหมือนกัน แต่คงไม่เอะใจมาก ยกเว้นที่สนิทๆ กัน แต่สุดท้ายก็เลิกกันหลังจากคบกันได้เกือบๆ 10 เดือน เพราะคุณแม่ของน้องขอร้องครับ ว่าอย่าเกินเลยไปกว่านี้ (เมื่อสายไปนะครับคุณแม่) สุดท้ายเลยกันเป็น พี่สนิทน้องสนิทกันครับ

มันอาจจะรู้สึกใจหายซักหน่อย ที่ผมจะไม่เขียนเรื่องนี้อีกแล้ว เพียงเพราะผมอยากให้เรื่องราวดีๆ มันจบที่ผมกับติมได้กลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง ผมไม่อยากเขียนถึงตัวเองในช่วงที่ไปคบกับคนนั้นทีคนนี้ที เพราะมันทำให้คนที่จากไปเป็นห่วงเปล่าๆ อีกอย่าง เพื่อให้เกียรติติม ในฐานะ “คนแรกของหัวใจ... คนสุดท้ายของชีวิต” ตัวจริง แม้จะมีเรื่องราวอีกมากมายที่น่าสนใจก็เถอะ แต่ผมจะคงเขียนต่อไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่มีกุ๊นให้เขียนถึงในฐานะ “คนสุดท้ายของชีวิต” อีกต่อไปอยู่ดี

หวังว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะไม่ว่าผมนะครับ ที่อยู่ๆ ก็มายุติบทบาทตัวเองในนิยายเรื่องนี้ อาจจะเรียกได้ว่า กับบอร์ดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะต่อไปผมอาจจะให้น้องที่รู้จักกันมาสานต่อผมต่อไปสำหรับเรื่อง “สะดุดรัก... ที่พักใจ” ในช่วงที่ผมจะหายไปจากบอร์ดนี้ อาจจะมีเรื่องราวดีๆ อีกหลายบทความออกมา แต่ก็ไม่สัญญาครับ เพราะจิตใจด้านโรแมนติก ลึกซึ้ง ทะเล้น เฮฮา คงปลุกปั้นได้ยากสักหน่อย เพราะมันด้านชาเต็มทน ผมกลายเป็นคนเงียบๆ หลังจาก ติม จากผมไปนั่นแหล่ะ...

ด้วยรัก

นายเต้

ป.ล. ใครที่อยากจะคุยกับผม แอดมาที่ tae.normalอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com นะครับ ผมยินดีเสมอครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 18-08-2008 15:34:54
สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้

18 สิงหาคม 2551 คิดถึงติมที่สุด

เพิ่งลาสิกขาบทเมื่อเช้านี่เอง ผ่านมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้วกับการที่ไม่มีติมอยู่ข้างๆ ถามว่าทำใจได้หรือยัง ตอบได้เลยว่าไม่ การได้อยู่ภายใต้ผ้าเหลือง ทำให้สงบลงบ้าง แต่ร้องไห้ทุกคืน

นี่คงเป็นครั้งแรกหลังจากที่ติมจากไป ที่ผมได้ปรากฏตัว ภายใต้หน้าตาเรียบเฉย แฝงไปด้วยความเศร้าและเหงาหงอย

วันนั้นตรวจเลือดเสร็จ เดินออกมาก็ไม่เจอติมแล้ว คิดว่าคงไปห้องน้ำ แต่รอเป็นชั่วโมงก็ไม่กลับมา ชักเป็นห่วง แต่หมอเรียกเข้าไปพบก่อน ออกมาก็ยังไม่เจอ จนประชาสัมพันธ์ประกาศตามเรา เลยรู้ว่าติมอยู่ไอซียู ตกใจมากว่าติมเป็นไร คุณแม่กับพี่ๆ ของติมอยู่ครบ ติมอยู่บนเตียงกำลังเขียนอะไรไม่รู้ สายอะไรต่อมิอะไรระโยงรยางค์ไปหมด รอยยิ้มเดิมๆ ปรากฏขึ้น แต่ดูอ่อนล้า ติมเป็นเนื้องอกในสมอง คุณแม่บอกเองกับปาก ผมคงร้องไห้แน่ถ้าเป็นคนอื่น แต่ต่อหน้าติมผมจะไม่ร้อง ผมรู้ว่าไม่นานติมต้องจากไปแน่ๆ ผมไม่อยากให้ติมเป็นห่วง เลยไม่ร้อง แต่พยายามแล้วนะ ไม่วายน้ำตามันไหลเหมือนเดิม ยิ่งพอได้กอดติมเท่านั้นแหล่ะ ต่างคนต่างร้องไห้ แล้วติมก็จากไป จากไปในอ้อมกอดของผม ผมคงช็อกมากๆ เลยทำให้ สติสัมปชัญญะ ดับลงทันที

ตื่นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ห้องๆ หนึ่ง เพดานสีขาว สายน้ำเกลือเต็มไปหมด พ่อ แม่ พี่สาว น้องชาย พี่เขย ยืนล้อมเตียง ผมหลับไป 4 วันเต็มๆ กับการช็อก คำแรกที่ผมพูดคือคือถามหาติม ทุกคนเงียบ ผมอยากให้ใครก็ได้บอกว่าติมยังไม่ตาย แต่พี่สาวบอกว่าติมตายแล้ว ตอนนี้ตั้งศพที่บ้าน ยังไม่ได้เผา เพราะติมไม่ยอมให้ใครยกโลงเขาไปเผา คงรอผม
ผมออกจากโรงพยาบาลตอนเย็นถึงบ้านก็เกือบเช้า ตรงไปที่บ้านติมทันที ศพติมตั้งมาวันนี้เป็นวันที่5 แล้ว ซึ่งปกติแค่สามวันก็เผา แต่ไม่มีใครยกโลงบรรจุศพของติมได้ เลยตัดสินใจรอผม ให้ผมเป็นคนมาบอกติมให้ไปสู่สุขคติ ผมเดินเข้าบริเวณงานก็มีฝนตกลงมาปรอยๆ ลมพัดแรง เพียงสักพักก็หยุด ผมไม่อยากร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง วันนี้จึงได้เผาศพติม ทุกคนสามารถยกโลงติมลงมาเพื่อเคลื่อนไปยังวัดประกอบพิธีฌาปนกิจได้ ผมตัดสินใจบวชหน้าไฟให้ติมทันที เพิ่งลาสิกขาบทเมื่อสายๆ ของวันนี้ครับ หัวยังเหม่งอยู่เลย

ติม คนที่รักผมไม่อยู่แล้ว

ติม คนที่ผมรักไม่อยู่แล้ว

ติม คนที่ทั้งรักผมและผมรักเขาไม่อยู่แล้ว

ติม หรือกุ๊น ที่เพื่อนๆ รู้จัก วันนี้ไม่มีเขาอยู่อีกแล้วบนโลกนี้ ผมคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบลงได้ ในเมื่อไม่มี กุ๊น ให้ผมเขียนถึงอีกต่อไป ผมคงต้องยุติบทบาทตัวเองลงเพียงเท่านี้ ที่เหลือคงต้องให้น้องคนหนึ่งจัดการให้ต่อไป

ลาก่อน ติมที่รัก เต้จะไปเจอติมเร็วๆ นี้แน่นอน

เต้
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 18-08-2008 15:46:07
บันทึกสองหน้าสุดท้าย จากบันทึกส่วนตัวของติม

6 สิงหาคม 2551 : 22.30 น.

วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะปวดหัว ปวดจนอยากที่จะร้องออกมาดังๆ แต่ทำไม่ได้ เพราะมีเต้นอนอยู่ข้างๆ เห็นเต้นอนหลับ น่ารักจริงๆ อยากฟัดอีกรอบ แต่ทำไม่ได้ พรุ่งนี้เต้ต้องไปตรวจเลือดต้องพักผ่อนเยอะๆ

มองดูเต้แล้วอยากร้องไห้จัง ทำไมเราต้องเป็นโรคนี้ด้วยนะ อยากอยู่กับเต้นานๆ นานกว่านี้ ไม่อยากลุ้นวันต่อวันแบบนี้ว่าจะมีโอกาสตื่นขึ้นมาเห็นท้องฟ้าหรือเปล่า ไม่อยากลุ้นว่าตื่นขึ้นมาพบตัวเองไม่หายใจแล้ว

กว่า 6 เดือนแล้วที่แม่ พี่ชาย และพี่สาวร้องไห้ทุกวัน เราสงสารแม่และพี่ๆ อยากให้คิดว่าคนเรามีชีวิตเพื่อความตายเท่านั้น แต่สุดท้ายเราก็แอบไปร้องไห้คนเดียวเหมือนเดิม อยากร้องไห้ดังๆ สักครั้ง เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น มารู้ตัวเมื่อสายว่าเป็น เนื้องอกในสมอง ผ่าตัดกับอยู่เฉยๆ โอกาสเป็นตายเท่ากัน งั้นขออยู่รอวันตายแบบไม่ผ่าตัดดีกว่า ผ่าตัดแล้วตายไม่ได้เห็นหน้าเต้ แต่ถ้าอยู่อย่างนี้ อย่างน้อยก็ได้กอด จูบ หอมแก้ม คนที่เรารักนานๆๆๆๆๆๆ เท่าที่เราอยากทำ
เจ็บอีกแล้ว เจ็บมากกว่าเดิมด้วย มันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนแล้วหละว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว ไม่อยากตายเลย อยากอยู่กะเต้นานๆ ขอได้ไหมสวรรค์ อยากอยู่กับเต้นานๆ

ไม่อยากให้เต้รู้เลย ไม่อยากให้เต้ร้องไห้ ไม่อยากให้เต้เป็นกังวล ไม่อยากให้เต้เสียใจ ไม่รู้จะอยู่ถึงวันพรุ่งนี้หรือเปล่า ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีลมหายใจแล้ว เต้จะอยู่ยังไง เต้จะยังรักเราไหม

ถ้าเผื่อตายจริงอยากให้เต้คิดถึงติมบ้าง แต่ไม่อยากให้เต้เศร้าจนไม่เปิดใจกับคนอื่น อยากให้เต้ความสุขกับคนอื่นบ้าง ไม่อยากให้เต้ยึดติดกับเรา ที่ตายไปแล้ว

อีกแล้ว วันนี้มันจี๊ดแบบนี้หลายครั้งมาก มากกว่าทุกวัน มากกว่าตั้งแต่รู้ตัวเมื่อ 6 เดือนก่อน เราคงทำกรรมไว้มากสินะ
ตลอดหกเดือนนี้ เต้ถามอยู่เสมอว่าทำไมกินยาเยอะจัง เราก็ตอบผ่านๆ ไปว่ายาบำรุง รู้ว่าเต้ไม่เชื่อ แต่เต้ไม่ก็อยากเซ้าซี้เรา น่ารักแบบนี้ไงถึงได้รักหมดใจ ไม่นานเต้คงรู้ว่าเราเป็นอะไร...

เต้ ติมรักเต้นะ ติมรักเต้มากที่สุด ไม่เคยมีใครที่ติมรักเท่าเต้ รักมากๆ รักจนไม่อยากที่จะตาย อาจเพราะรักเต้ก็ได้ ทำให้ติมอยู่มาได้เกือบ 2 เดือน ทั้งๆ ที่อาการน่าจะทรุดและตายไปตั้งแต่เดือนมิถุนาแล้ว เต้ ติมอยากอยู่กับเต้นานๆ นะ แต่คนบนฟ้าเขาไม่เห็นใจติมเลย ติมคงทำไม่ดีกับเต้ตอน ม.5 ทำให้คนบนฟ้าลงโทษติม ให้ติมต้องจากเต้ไปอีกครั้งด้วยการตาย มันทรมานนะถ้ารู้ว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งทำดีแก้ไขตัวเอง กลับมารักกับเต้ใหม่ไม่กี่ปีเอง
โอ๊ย เจ็บอีกแล้ว สงสัยต้องนอนแล้ว ได้แต่ภาวนาให้มีวันพรุ่งนี้เท่านั้น

ติมรักเต้ครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: naitae.ks ที่ 18-08-2008 15:50:06
7 สิงหาคม 2551

ตอนนี้เต้คงรอผลเลือดแล้วก็รอติมด้วย เต้คงสงสัยว่าติมอยู่ไหน ตอนนี้ติมอยู่ในห้องไอซียู วาระสุดท้ายคงจะมาถึงแล้ว แม่ พี่สาว และพี่ชายก็ร้องไห้ หมอให้เตรียมใจไว้ว่าคงไม่รอด ไม่เอา ติมไม่อยากจากเต้ไป ติมอยากอยู่กับเต้ ติมขอพยาบาลเขียนบันทึกหน้าสุดท้ายนี้เอง หมอเขาให้ติมขอได้หมดว่าอยากเอาอะไร ติมอยากเขียนบันทึกความรู้สึกนี้มากที่สุด อยากขอโทษแม่กับพี่ ที่แต่ก่อนทำตัวไม่ดี อยากขอบคุณเต้ที่ให้โอกาส จนติมเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ตอนนี้ติมบอกให้พยาบาลเรียกเต้ให้แล้ว ติมรู้ว่าคงอยู่ได้ไม่นาน ติมอยากเจอเต้ก่อนที่จะหลับตาลงพร้อมกับหมดลมหายใจ...






ติมอยู่บนเตียงกำลังเขียนอะไรไม่รู้ สายอะไรต่อมิอะไรระโยงรยางค์ไปหมด รอยยิ้มเดิมๆ ปรากฏขึ้น แต่ดูอ่อนล้า ติมเป็นเนื้องอกในสมอง คุณแม่บอกเองกับปาก ผมคงร้องไห้แน่ถ้าเป็นคนอื่น แต่ต่อหน้าติมผมจะไม่ร้อง ผมรู้ว่าไม่นานติมต้องจากไปแน่ๆ ผมไม่อยากให้ติมเป็นห่วง เลยไม่ร้อง แต่พยายามแล้วนะ ไม่วายน้ำตามันไหลเหมือนเดิม ยิ่งพอได้กอดติมเท่านั้นแหล่ะ ต่างคนต่างร้องไห้ แล้วติมก็จากไป จากไปในอ้อมกอดของผม ผมคงช็อกมากๆ เลยทำให้ สติสัมปชัญญะ ดับลงทันที
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 18-08-2008 15:58:49
ตลอดเวลาที่อ่านเรื่องนี้มา ยอมรับได้เลยว่าทึ่งในจิตใจของผู้ชายชื่อกุ๊นมาตลอด ผมอ่านเรื่องนี้หลังจากที่อ่าน สะดุดรัก...ที่พักใจ vertion ของ เต้ & กฎ ซึ่งจะมีชื่อของ กุ๊นโผล่มากระชากอารมณ์ผมไปด้วย สงสารน่ะ
ความรักที่ผู้ชายคนนี้มีให้มัน......ไม่รู้ซิ แต่โดนใจอ่ะ ซึ้ง

หลังจากติดตามเรื่องราวทั้ง 2 เรื่องมา ตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน กะลังอินเชียว แต่วันนี้ เล่นซ่ะกระชากอารมณ์อีกรอบ ไม่คาดว่าเรื่องราวของ กุ๊น (ติม) จะมาจบแบบนี้ เศร้าจัง............

เก็บความรู้สึกดี ๆ ความรักดี ๆ ผู้ชายดี ๆ คนนี้ไว้ในความทรงจำน่ะครับ  ไม่นาน....เวลาจะทำให้คุณเข้มแข็ง

หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-08-2008 16:18:13
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะเต้ ขอให้เต้เข้มแข็งนะค่ะ
ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 18-08-2008 16:31:21
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะจ้ะ

เก็บเรื่องราวความทรงจำดีๆ ไว้เป็นแรงใจในวันหน้านะจ้ะ

พี่เชื่อว่าติมคงมองลงมาจากฟ้า และอยากให้เต้มีความสุขและดำเนินชีวิตต่อไป

เป็นกำลังใจให้จ้ะ รักษาสุขภาพด้วย  :กอด1:

หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: madamkung ที่ 18-08-2008 16:33:56
อืมม เสียใจด้วยค่ะเต้ เหมือนอย่างที่ฟางบอก ขอให้เข้มแข็ง แล้วก็ที่สำคัญ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ  
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: Givesza ที่ 18-08-2008 17:27:36
 :กอด1:

พี่เ้ต้ครับ น้องกิฟ๊คนนี้ขอเป็นกำลังใจให้พี่เต้ หอยท่กของกิฟ๊นะงับ

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้คุยกานเลย แต่อยากจะขอให้พี่เต้เข็มแข็ง กิฟ๊และทุกๆคนเป็นกำลังใจให้พี่เต้ตลอดน๊างับ

พี่หอยทากของกิฟ๊ ว่างๆมาปล่อยลูกปล่อยหลาน มาวิ่งเล่นก็ได้นะงับ

และน้องคนนี้ขอเป็นเพื่อนที่อยู่ข้างๆพี่เต้ตลอดปรายงับ  :m13:

สู้ๆคัฟ พี่เต้  o13
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: subaru ที่ 19-08-2008 11:24:45
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เข้มแข็งไว้คะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: ThyRist ที่ 19-08-2008 12:52:36
อ่านจบแล้วอึ้งครับ T-T

ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย T-T

..
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: slmzaa ที่ 19-08-2008 15:38:09
เสียใจด้วยนะครับ       ขอให้คุณพระคุ้มครองครับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: pop_pukluk ที่ 08-09-2008 10:27:40
ดีคับ พี่เต้

ป๊อกเองนะคับ หายไปนานม่ะได้คุยกันเลยนะคับ

ป๊อกเข้ามาเป็นกำลังใจให้พี่เต้นะคับ ยังไงก้อสู้ๆนะคับ

ป๊อกจะให้กำลังใจพี่เต้เสมอนะคับ
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 08-09-2008 19:20:46
 :L2:เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: koihime ที่ 17-03-2009 11:53:01
เสียใจด้วยนะครับ...  :monkeysad:

แต่ก็ขอให้พี่เต้สู้ๆ นะ...  :mc4:
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: wava ที่ 26-06-2010 00:09:09
ได้อ่านมานานแล้ว มาเจออีกครั้งก็ยังตรึงใจอยู่
หัวข้อ: Re: [Story] คนแรกของหัวใจฯ (สิ่งสุดท้ายของมิตรภาพ กับการยุติบทบาทของนายเต้)
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 31-05-2011 16:37:03
เสียใจด้วยครับ ขอให้รักจงเจริญ :L2: