ต้อนรับเดือนแห่งความรักเลยใช่ไหมเนีย
รู้ได้งั้ยอะตัวเอง
เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน เหตุผลโง่ ๆ ขยับร่างกายและแนบใบหน้าลงอิงแอบกับอกอุ่น ๆ ของใครคนหนึ่งที่กอดเอาไว้
อยากจะร้องไห้ แต่ทำได้แค่นอนนิ่ง ๆ และโอบแขนกอดรัดคนที่คิดถึงเอาไว้
คงจะเหนื่อย ถึงได้หลับไปแล้ว
หลับไปชนิดที่ว่าปลุกเท่าไหร่คงไม่ยอมตื่น
เหนื่อยมากหรือเปล่า
ไม่ได้เจอกันไม่เท่าไหร่ ยังรู้สึกได้ว่าคน ๆ นี้ดูไร้ชีวิตชีวา
เหมือนไม่ใช่ฮวยคนที่เคยรู้จักอย่างนั้นแหละ
ไม่ได้เจอกัน ฮวยทำอะไรบ้าง มีความสุขดีหรือเปล่า
คิดแต่ไม่กล้าถาม ได้แต่ถามในใจเงียบ ๆ และเก็บความรู้สึกดีใจเอาไว้ทั้งหมด
ตกใจ ยอมรับว่าตกใจมากที่จู่ ๆ ก็ได้พบกันทั้งที่ไม่คิดว่าจะได้พบหน้ากันอีก
ไม่ได้เมา แต่แกล้งมึน เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับการที่ต้องเผชิญหน้ากันในครั้งนี้อยากจะยิ้ม อยากจะหัวเราะ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ความคิดไปซะหมด
เวลานี้ คนที่พากลับมาถึงห้อง ยังคงหลับตานอนนิ่งๆ และกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ไม่ได้อยากเลิกกัน
แต่ที่ต้องเลิกเพราะถูกบอกเลิก
ไม่ได้ถามเหตุผล แต่ก็โทษตัวเองที่ไม่กล้ายอมรับความจริง
เจ็บใจตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่ก็กลัวความเจ็บปวดที่จะตามมาในภายหลัง
เราเข้ากันไม่ได้
รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก แต่ทำไมถึงหยุดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ไม่ได้
แกล้งทำเป็นยิ้ม แกล้งทำเป็นหัวเราะ ทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งที่รู้ความเป็นไปทั้งหมดตลอดเวลา
ปลายนิ้วที่สัมผัสที่ข้างแก้ม
ปลายจมูกที่แตะสัมผัสลงมาแผ่วเบาที่หน้าผาก
รับรู้หมดทุกอย่าง แต่กลับไม่กล้าพอที่จะบอกว่าไม่ได้เมา และยังเป็นตัวของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
กระพริบตา อยู่ในความมืด และค่อยๆ แหงนเงยใบหน้าขึ้นมองหน้าของคนหลับอีกครั้ง
คิดถึง
อยากเจอ
คิดถึงจนแทบบ้า แต่พอเจอหน้าจริงๆ กลับไม่กล้าเผชิญหน้า ใช้วิธีโง่ ๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงแบบนี้ โง่ใช่มั้ย
หลับแล้ว
เหนื่อยมาทั้งวัน
แล้วพรุ่งนี้เช้าก็จะจากไปอีกแล้ว คราวนี้ไม่รู้ว่าจะบังเอิญได้เจอกันอีกหรือเปล่า
เรื่องบังเอิญแบบนี้คงไม่ได้มีบ่อยนัก
มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะได้เจอกันอีกครั้ง
คิดอย่างหดหู่ใจ แล้วก็ได้แต่นิ่งเงียบ
เดียร์กำลังยิ้ม
ยิ้มเศร้า ๆ เหงา ๆ ก่อนจะหันหน้ากลับมาเอนซบที่แผ่นอกของคนที่โอบกระชับร่างกายเอาไว้ไม่ห่างอีกครั้ง
ฮวยตัวอุ่น
อบอุ่นทุกครั้งที่ได้โอบกอด
พรุ่งนี้ฮวยจะไปแล้ว
แต่กลับไม่กล้าบอก ไม่กล้าห้าม ไม่กล้าขอร้องว่าอย่าไป ได้แต่เป็นคนบ้างี่เง่า
ที่นึกกลัวเรื่องของอนาคตอยู่อย่างนี้
ยังรักอยู่หรือเปล่า ไม่อยากคิดไม่อยากคาดเดา
ความห่วงใยที่มีให้ยังคงเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ใช้ความอ่อนโยนของคนบางคนเป็นเครื่องมือ
ไม่กล้าบอกว่ารัก ทั้งที่รักมากถึงขนาดนี้
ไกลเกินไปแล้วสำหรับเรื่องของเรา
ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นแบบนี้คงดีกว่า
ดีกว่า
แน่ใจแล้วหรือไงว่าดีกว่า
แน่ใจแล้วหรือไงว่าดีจริง ๆ
ถามตัวเองและตอบไม่ได้ว่าจะจัดการยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนล่วงเลยมาถึงเวลานี้
"ฮวย..."
แอบเรียกชื่อใครบางคนในความเงียบงัน ก่อนจะหยัดกายขึ้นและผละออกจากอ้อมแขนของคนกอดอย่างช้า ๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้คนที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันต้องสะดุ้งตื่น
นั่งนิ่ง ๆ จ้องมองคนที่ทอดกายเหยียดยาวอยู่บนเตียงแล้วก็ได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้ม
จะปล่อยให้ไปจริง ๆ เหรอ ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้แค่นี้ สัมผัสได้ถึงขนาดนี้ แล้วจะปล่อยให้ไปจริง ๆ หรือไง
แล้วจะรั้งไว้เพื่ออะไร ในเมื่อรู้ว่าในความเป็นจริง เราไปกันไม่ได้เลย
เราไม่เคยเข้าใจกัน
ไม่เคยรู้ว่าฮวยคิดอะไร
ไม่เคยเข้าใจสิ่งที่ฮวยเป็น แล้วมันก็คงพอ ๆ กับที่ฮวยก็ไม่เคยเข้าใจเหมือนกันว่าคน ๆ นี้คิดอะไร และอยากจะบอกอะไร
ยังไม่ทันเริ่มก็ต้องจบซะแล้ว
มันน่าเศร้า แต่จะทำอะไรได้ คงต้องปล่อยไปอย่างนี้ใช้มั้ย
ยอมโง่เหรอฮวย
ทำไปตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่ที่ฮวยขอ ตั้งแต่วันที่ฮวยบอกให้ลองยอมเป็นคนโง่ดู
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ถึงรักกันแต่ไปกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างก็จะต้องเจ็บปวด
เพราะเป็นคนที่ยอมโง่ ถึงได้แกล้งทำเป็นไม่รับรู้ ไม่รู้สึกรู้สาอยู่นี่ไง
ที่ทำไปทั้งหมด ก็เพื่อเรานะ
จากกันตอนนี้ ยังดีกว่าจากกันในวันที่เราต้องทะเลาะกันและเกลียดกัน
มันคงดีกว่า ที่จะเก็บบางสิ่งบางอย่างเอาไว้เงียบ ๆ รอให้วันหนึ่งเมื่อความรู้สึกจางหายไป เราจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน และนั่งคุยกันถึงเรื่องวันเวลาเก่า ๆ ได้โดยไม่ต้องทะเลาะกันอีก เมื่อเราโตขึ้นกว่านี้ มีความรับผิดชอบมากกว่านี้
ใช้เหตุผล มากกว่าความรู้สึก
ทั้งที่รู้ว่าเหตุผลที่ใช้ตัดความรู้สึกออกไป มันทำร้ายจิตใจอย่างร้ายกาจ
ก้มหน้าลงและแอบใช้หลังมือปาดน้ำตาที่เริ่มไหลบ่าลงมาอย่างช้า ๆ
ก่อนจะเอนกายลงอีกครั้ง และเอนร่างให้แนบซบกับร่างของคนหลับให้มากที่สุด
พรุ่งนี้ฮวยจะไปแล้ว
พรุ่งนี้ตื่นมาเราก็จะไม่ได้เจอกันอีก
แค่คิดก็เจ็บแปลบไปถึงหัวใจ
ได้แต่สะอื้นไห้อยู่คนเดียวเงียบ ๆ โดยไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องรับรู้
คืนนี้ยังได้กอด ยังได้อยู่ใกล้ๆ ได้เห็นหน้า
แต่จากนี้ไปจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
เจ็บจนแทบตาย
แต่ก็ได้แต่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้รินไหลไปมากกว่านี้
"ฮวย....ขืนหลับอยู่อย่างนี้....เดี๋ยวก็ไม่ได้เห็นกันพอดี ว่ามีคนยอมโง่แล้วนะ รู้มั้ย"
เสียงหัวเราะเบา ๆ ในความเงียบ สั่นสะท้านจนแม้ตัวเองยังรู้สึกได้
ทีเวลาแบบนี้ กล้าพูดนัก แต่เวลาต้องเผชิญหน้าจริงๆ กลับไม่กล้าพูด
ดีแล้ว ที่หยุดเอาไว้ ตั้งแต่ตอนที่ถูกถามว่ารักมั้ย หรือแม้กระทั่งการถูกถามว่า คิดถึงหรือเปล่า
คิดถึงสิ
คิดถึงมากด้วย แต่ทำได้แค่ยิ้มและแกล้งพูดจาเพ้อเจ้อใส่
ถ้าตอบออกไปตอนนั้น กลัวจะหยุดตัวเองไม่ได้ กลัวว่าจะพูดอะไรออกไปอีกมากมายจากความรู้สึกทั้งหมด
ดีแล้วที่ไม่จ้องตาเวลาที่พูด ดีแล้วที่หันหน้าหนีไปทางอื่น
ดีแล้ว ที่แอบเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ และคิดว่าเก็บมันไว้อย่างมิดชิดที่สุดแล้ว
ฮวยอย่ารู้เลย ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ เพราะมันอาจเป็นเรื่องตลกที่ฮวยไม่ควรรู้
หยุดมันเอาไว้แค่นี้ และจบมันตรงนี้ดีกว่า จบตอนนี้ดีกว่าที่วันหนึ่งเราต้องพบเจอหน้ากันแล้วได้แต่มองผ่านไป จบตอนนี้คงดีกว่าการที่เราต้องพบเจอกันใหม่ในวันที่เราเกลียดกัน
เค้าจะไปแล้วนะ ตะเองยางไม่ตื่นอีกเหรอ เด็กขี้เซา"
ใครคนหนึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วและเหลือบสายตามองนาฬิกาที่หัวเตียง ก่อนจะหันกลับลงมามองคนในอ้อมแขนที่ยังหลับตานิ่งเงียบอีกครั้ง
ส่งยิ้มให้และแตะปลายนิ้วเบา ๆ ที่ข้างแก้มของคนหลับ
ไม่มีเวลาแล้วนะ ต้องรีบไปแล้ว ถ้าไปไม่ทันเดี๋ยวเครื่องออกไปก่อนคงแย่
ขยับกายและลุกขึ้นถอยห่างอย่างช้า ๆ กว่าจะลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงได้ก็กินเวลาไปหลายนาที
เดียร์ยังนอนหลับอยู่เลย ขืนขยับตัวไปมามาก ๆ เข้า เดี๋ยวก็ได้ตื่นขึ้นมาอาละวาดโวยวายใส่ หาว่ามาทำให้เดือดร้อนอีกน่ะสิ คนจะหลับจะนอนมาทำให้ตื่น แล้วก็อะไรอีกนะ อะไรอีก ที่เดียร์จะพูด
ไอ้ที่อยากให้พูด ไม่ยอมพูด ทีด่าเราปาว ๆ น่ะ ด่าได้ด่าดี นาเดียร์ตาขวางเอ้ย
แบบนี้มันน่านัก
"เค้าจะปายแล้วนะ ตะเองยังไม่ตื่นอีกเหรอ"
ใจจริงอยากจะปลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง ว่าตกลงจะเอายังไงกันแน่
แต่ถ้าทำอย่างนั้นไปจริง ๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องเริ่มต้นคุยกันยังไง
เหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง และหันกลับไปมองคนขี้เซาที่ยังหลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว
เกลี่ยไล้เส้นผมที่ปรกใบหน้าของคนหลับ และส่งยิ้มให้อย่างที่อยากจะยิ้มให้ไม่ว่าเวลาไหนก็อยากจะให้รู้ถึงความรู้สึกนี้
สายแล้ว
ถ้ายังมัวโอ้เอ้อยู่อย่างนี้คงไปสาย
ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ และจัดการล้างหน้าล้างตาอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินกลับมาและหยุดยืนมองร่างของคนที่นอนขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มอีกครั้ง
ย่อกายลงและนิ่งมองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่าย
ส่งยิ้มให้และโน้มใบหน้าลงมาหา
แตะริมฝีปากแผ่วเบาที่ริมฝีปากของคนที่ยังนอนสงบนิ่ง ก่อนจะผละใบหน้าออกห่างและจำใจต้องเอ่ยคำลา
"เค้าต้องไปแล้วจริง ๆ นะ ดูแลตัวเองด้วย อย่าไปอาละวาดใส่ใครนะเดี๋ยวไม่มีใครรักรู้มั้ย"
บอกไปแล้วทั้งที่ไม่อยากบอก หยัดกายลุกขึ้นยืน ก้าวขาเดินจากมา
ก่อนจะหันกลับไปมองเดียร์อีกครั้ง และก้าวเท้าเดินออกจากห้องพักอย่างช้า ๆ
เสียงประตูที่ปิดลงกระชากใจของคนที่แกล้งหลับให้หลุดลอยไปพร้อมกับคนที่เพิ่งเดินจากไป
ดวงตาที่หลับสนิทปรือตื่นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับหยดน้ำที่คลอเอ่อและหยดลงอาบแก้มอย่างช้า ๆ
ไปแล้ว
ฮวยไปแล้ว
ฮวยไปแล้วจริง ๆ
จากนี้ไปคงไม่มีวันได้เจอกันอีก จากนี้ไปเราคงไม่มีทางได้เจอกันอีกตลอดไป
เจ็บปวดใจ เสียใจ รู้ดีว่าต้องเสียใจ รู้ดีว่าจะต้องเจ็บปวดแบบนี้
แต่ก็ยังทำ
เดียร์ทำเพื่อเรานะ
เดียร์ทำแบบนี้เพื่อเรา
เดียร์ทำแบบนี้ เพื่อฮวยคนเดียว
TBC
แหะ แหะ เราอยากลงตอนหวานๆ ฉลอง 14 กุมภาพันธ์ ไม่รู้จะทันหรือเปล่า ซึ่งคาดไว้ตอนแรกจะให้ตอนที่คู่นี้เข้าใจหัวใจตัวเองและยอมรับกันให้ลงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นี้ อิอิ แต่หวานตามสไตล์เค้านะ