เรื่องสั้นคั่นเวลา....ผู้ชายหยอกล้อกัน โดย aoikyosuke
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นคั่นเวลา....ผู้ชายหยอกล้อกัน โดย aoikyosuke  (อ่าน 419240 ครั้ง)

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3

anna_007

  • บุคคลทั่วไป
อยากรูัจิงอ่ะว่าหัวเราะอะไร :laugh5:

ก็หัาเราะให้นายถามไง ความจริงอยากร้องให้มากกว่า

ร้องอยากจะร้องใหั ให้กับไอันี้ ไม่รู้ทำไงเลยหัวเราะแทน

งง งงอะดิ

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
 :m30: เจอคำตอบรีบนถึงกับมึน  o2  :laugh3: :laugh3:

เอาตอนใหม่มาแก้มึน 555555

เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน เรื่องที่ยังมาไม่ถึง

"เรื่องของเรา.........เอาไว้ค่อยคุยทีหลัง ไม่มีเวลาแล้วเดี๋ยวเครื่องออกก่อนซวยแน่ ไปล้างหน้าเร็ว อยากมีคนไปส่ง.......จะไปมั้ย...ไม่ได้บังคับแค่อยากมีคนไปส่งแค่นั้น...ได้มั้ย"

ไม่รู้
รู้แต่ว่า....น้ำมูกยืด หน้าตายุ่งเหยิง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง สภาพยับยู่ยี่แบบนี้ ขืนเดินออกไปหมาได้เห่ากันระงม เพราะคิดว่าเป็นคนมาเก็บของเก่าไปขาย

"เอ้า อย่าเอามือไปขยี้ตาแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็ยิ่งตาบวมกันพอดีหรอก ไปเร็ว ไปล้างหน้าก่อน เอ้า...นี่ผ้าขนหนูจะอาบน้ำด้วยก็ได้นะ แต่แค่ 5 นาทีพอ"

เหรอ

5 นาทีพอเหรอ แล้วเสื้ออยู่ไหนวะ กางเกงอยู่ไหนล่ะ

"เอาเสื้อตัวนี้แหละ กางเกงตัวนี้ก็ได้ แล้วก็......"

เฮ้ยยยยยยยยยย

คนที่ยังอยู่ในอาการมึนชีวิต ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก และยังคงมีอาการเอ๋อ ๆ เบลอ ๆ รีบยกมือขึ้นตะครุบบางสิ่งบางอย่างที่ถูกดึงมาจากลิ้นชักในตู้เสื้อผ้ามาถือเอาไว้ แล้วก็รีบวิ่งลิ่วหนีหายเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

"สีขาวซะด้วย......ใส่สบาย....กระชับ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

อย่ามายุ่งกับกางเกงในกู แม่กูเพิ่งซื้อให้ใหม่ตอนกลับบ้าน เที่ยวมาหยิบนั่นหยิบนี่ในห้องคนอื่นเดี๋ยวก็ด่าแบบไม่ซ้ำคำหรอก ไอ้ห่าฮวย ไอ้บ้า

"รีบ ๆ อาบน๊าาาาาาาา ขืนอาบช้า เค้าจาค้นตู้แล้วน๊า...ว่ามีกางเกงในสีขาวอีกกี่ตัว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

โว้ยยยยยยย มันตลกตรงไหนวะ หัวเราะอยู่ได้ ไอ้บ้าเอ้ย เดี๋ยวไม่ไปส่งแน่มึง คอยดูก็แล้วกัน

ฮวยยืนกอดอกหัวเราะอยู่หน้าห้องน้ำ แต่เสียงปึงปังโครมครามในห้องน้ำ ก็ทำให้ยิ้มและหัวเราะออกมาได้

ตลกจะตาย แกล้งนาเดียร์
สนุกอย่าบอกใครที่ได้แกล้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบแหย่ ชอบทำให้มันหน้าหงิกหน้างอนัก
รู้แต่ว่า ถ้าเดียร์มันทำหน้าแบบนั้น มันน่ารักดีพิลึก แล้วก็ไม่เหมือนใคร ๆ ที่รู้จักเลยสักคน

เรื่องของเรา....คงต้องมานั่งคุยกันใหม่แล้ว ว่าจะเอายังไงกันแน่
จะคบกันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

รู้แต่ว่าตอนนี้ชอบ....แล้วก็รัก...รักทั้ง ๆ ที่เดียร์มันก็เป็นแบบที่เป็นนั่นแหละ รักที่เป็นคนแบบนั้น
อะไรก็ได้ที่เดียร์เป็น
งี่เง่า โวยวาย คิดอะไรอยู่บ้างก็ไม่รู้ ไม่รู้ในสมองคิดอะไรเอาไว้บ้าง ทำไมร้องไห้ได้มากขนาดนั้น
รักเหมือนกันไม่ใช่เหรอ......ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ก็คิดออก มองยังไงก็รู้ว่าอย่างน้อยนาเดียร์มันต้องมีใจให้บ้างแหละน่า ไม่อย่างนั้นทำไมถึงยอมให้ทำอะไร อะไร ได้ตั้งมากมายขนาดนั้น

นิสัยแบบนั้น ไม่มีทางยอมให้ใครมายุ่งวุ่นวายพัวพันด้วยหรอก

ขอเข้าข้างตัวเอง.....ว่าอย่างน้อยถ้าเดียร์ไม่รัก....มันก็ต้องชอบกันบ้างล่ะว๊า ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยเถ้ออออ

ยืนยิ้ม แล้วก็ได้แต่ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เหลือบมองนาฬิกาก็รู้ว่ายังพอมีเวลาอยู่บ้าง

ไปแบบที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ยังดีกว่าไปแบบโกรธกันแล้วมองหน้ากันไม่ได้

จะทำยังไงดีนะ ทำยังไงถึงจะรู้ว่าเดียร์คิดอะไรอยู่กันแน่
ไม่ทันได้คิดอะไร ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับคนที่โผล่หน้าออกมาอย่างรวดเร็ว

"เดี๋ยวนะ แป๊บเดียวนะ..."

รีบ กำลังรีบมาก ผมเผ้าเปียกลู่ หัวหูยังกระเซอะกระเซิงอยู่ แต่ต้องรีบเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังมีผ้าขนหนูพาดอยู่ที่บ่า เดินมาค้นอะไรกุกกัก ๆ ในลิ้นชักโต๊ะ แล้วก็สะบัดผมสองสามที ก่อนจะหันหน้ามามองคนที่ยืนกอดอกแล้วก็จ้องมองมาชนิดแทบไม่กระพริบตา

"มองหาห่าอะไรวะ รีบไม่ใช่เหรอ เจอกุญแจแล้ว ไปสิ จะไปยังอ่ะ"

มองอะไร ก็มองเดียร์ไง ทำไมเป็นยังไงมันก็เป็นอย่างนั้นตลอดเลย คราวก่อน ที่ลากไปเดินเที่ยวด้วยกันได้ นาเดียร์มันก็แต่งตัวได้น่าดูชมมาก ลากร้องเท้าแตะ เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ไม่เกรงสายตาคนมอง
แล้วดูคราวนี้สิ

ก็ยังเหมือนเดิม หน้ายังเปียกน้ำ หัวหูยังเละเทะอยู่เลย บอกว่า 5 นาที แต่ครึ่งชั่วโมงก็ทัน ไม่ได้จริงจังซะหน่อย แล้วจะไปสภาพนี้แน่เหรอ เฮ่อ กลุ้มใจกับเดียร์จริง ๆ เลยว่ะ

"นั่งนี่ก่อน เอ้า หวีผมด้วย เช็ดหน้าด้วยเถอะคร้าบบบบบคุณ นอกจากกินเหล้า เที่ยวเตร่ หัวช้า โง่ ทำอะไรไม่ค่อยได้เรื่อง......ไม่เคยใส่ใจตัวเอง....มีอะไรบ้างที่ทำให้ตัวเองภูมิใจ ถามหน่อย"

อยู่ดี ๆ อยู่ในสภาวะเร่งรีบ แล้วก็ถูกถาม ชนิดที่ยังคิดคำตอบไม่ทัน
ไม่มี
ไม่มีอะไรน่าภูมิใจ
งี่เง่า
เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ หัวช้า ไม่เคยใส่ใจตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ดีหมดแหละ ไม่มีอะไรน่าภูมิใจตรงไหนด้วย
ก็กูเป็นแบบนี้อ่ะ โดนว่าออกบ่อย น้อยใจก็บ่อย
คนไม่มีอะไรดีแบบนี้ รู้ตัวอยู่หรอกว่าไม่มีค่าพอจะให้ใครมารัก ถึงได้อยากเลิกคบกันนี่ไง
เลิกคบไปเลยนี่แหละดีที่สุด ใช่มั้ย งั้นไปแล้วก็ไปลับเลย ไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีกก็ได้

คราวนี้จะเสียใจสักปี สองปี เดี๋ยวก็หายเองแหละ ง่ายนิดเดียวเอง

คิดอะไรง่าย ๆ แต่ใบหน้าและท่าทางที่แสดงออก ทำให้ฮวยต้องรีบหุบปากตัวเองเอาไว้

เดียร์ไม่โมโห ไม่โวยวายใส่ ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แต่นั่งเงียบ ก้มหน้านิ่ง ๆ อยู่หน้ากระจก

ปากเสียแล้วมั้ยล่ะ ใช่ที่เดียร์มันเป็นแบบนั้น ก็แล้วมันผิดหรือไง ที่เป็นแบบนั้นในเมื่อยอมรับได้เองกับสิ่งที่เดียร์เป็น

"ไอ้ฮวยคนนี้ก็พอกัน ใจคิดอะไรก็พูดไปตามปาก เดียร์ไม่ดี ไม่มีอะไรน่ารัก แต่ก็ไม่เคยดูตัวเอง ว่าแกล้งเอาไว้เยอะ เอาแต่ใจตัวเองบังคับให้ทำตามใจตลอด หัวเราะเห็นเป็นเรื่องสนุก ทั้งที่เดียร์โกรธแทบตาย
ไอ้ฮวยคนนี้มันก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจหรอก......เดียร์จะรับได้หรือเปล่า ยังไม่รู้ตัวเลย แถมยังปากดีไปว่าคนอื่นอีกนะแบบนี้มัน.....น่าโมโหเนอะ"

ยอมรับตัวเองที่เป็นแบบนั้น มีคนบอกมาหลายคนให้ลด ๆ ลงบ้างไม่อย่างนั้นจะทำให้คนที่อยู่ด้วยเสียใจ
จริง
ที่ทำให้เสียใจ
ทำมาแล้ว รู้ด้วยว่ามีคนเสียใจที่ทำแบบนั้น พูดจาพล่อย ๆ แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แบบนี้ไม่ยิ่งเรียกว่างี่เง่ากว่าเหรอ

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ

หันมองไปคนละทาง และจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

"เรื่องของเราจะเป็นไปได้มั้ย รักทางไกลมันเหนื่อย ยิ่งไม่เข้าใจกันก็ยิ่งเหนื่อย คิดไปคนละเรื่องยิ่งแย่ คนนี้เป็นแบบนี้ อีกคนก็เป็นอีกอย่าง....เราคงไปกันไม่รอดแน่ ๆ เลยเนอะเดียร์ว่ามั้ย"

กังวลใจอยู่ลึก ๆ ถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง แต่ไม่เคยพูดออกมาสักครั้ง ครั้งนี้ถึงได้เพิ่งได้พูด และเป็นคำพูดที่ทำให้คนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่หน้ากระจกต้องหันกลับมามอง

ก็ใช่น่ะสิ

เรื่องนี้ไง ที่ทำให้ทุกข์ใจอยู่ตอนนี้ เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องที่จะไปกันไม่รอดเรื่องเดียว ที่อยากให้รู้ว่าทำไมถึงต้องทำตัวงี่เง่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน และตลอดเวลาที่อยู่ใกล้กัน

กลัว

กลัวเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

"มันเป็นไปไม่ได้หรอก....รู้ว่าคบแล้วต้องเลิกกันจะคบทำไม....สู้เลิกไปตอนนี้ไม่ดีกว่าเหรอ"

กลั้นใจพูดออกไป และเป็นครั้งแรกที่เดียร์ได้พูดกับอีกฝ่ายตรง ๆ
คิดว่ากล้าพอแล้วที่จะพูด แต่น้ำเสียงที่สั่นพร่ามาพร้อมกับสายตาที่หวาดหวั่นและใบหน้าที่หมองเศร้าลงในทันทีที่พูดคำนี้

"ไม่อยากคุยเรื่องนี้ตอนนี้ ไม่มีเวลา จะรีบไป"

ฮวยรีบพูดตัดบทเพราะยังไม่อยากรับรู้เรื่องบางเรื่องในเวลานี้ให้มากกว่าที่ควร

ที่จริงจะคุยต่อก็ได้ แต่คงไม่จบง่าย ๆ ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ เอาไว้หลังจากนี้ค่อยคุยกันใหม่น่าจะดีกว่า คงหาทางออกได้ดีกว่านี้ และคงไม่ต้องทนอึดอัดใจต่อไป ถ้าได้เปิดใจคุยกันตรง ๆ สักครั้ง

รีบก้าวขาเดินออกจากห้องพักอย่างรวดเร็วมายืนอยู่หน้าห้อง
เดียร์เดินมาล็อคกุญแจเรียบร้อยและเดินตามคนที่เดินนำหน้าไปก่อน

เรื่องที่คุยกันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว คนที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดเดินและรอให้คนเดินตามเดินมาหาเพื่อจะได้ก้าวไปพร้อมกัน

"ถ้าจับมือตอนนี้เดียร์คงอาย ถ้าจูงมือเดียร์ตอนนี้สงสัยคนคงมองกันน่าดู"

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดอย่างนั้น แต่คำถามที่เอ่ยถามทำให้คนตัวเล็กกว่าที่เดินอยู่เคียงข้างต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะก้มหน้าลงและคิดทบทวนถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง

ถ้าผู้ชายสองคนเดินจูงมือกัน คนคงมองว่าประหลาด รับได้เหรอแบบนี้ถ้าต้องถูกสายตาของใคร ๆ ทิ่มแทงและถูกนินทา

ถ้าคบกันก็ต้องถูกคนมองและต้องถูกนินทา อุปสรรคมันเยอะกว่าที่คิดไว้อีก และอุปสรรคก็คงไม่ใช่แค่เรื่องนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเจอ ถ้าคบกันจริงจัง

"อายแน่....ถ้าทำแบบนั้นแล้วก็คงถูกมอง" ตอบออกไปและหัวเราะน้อย ๆ เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว

"นั่นสินะ....เดียร์คงอาย...หือ"

อยากจะร้องไห้กับสิ่งที่ได้ยิน แต่ฝ่ามือกลับถูกรั้งและกุมไว้แน่นด้วยฝ่ามือของคนที่บอกว่าอาย

เวลานี้อยากจะหัวเราะลั่นให้คนทั้งโลกได้ยินกับสิ่งที่ได้รับในเวลานี้
อายงั้นเหรอ ทั้งที่คิดว่าเดียร์มันคงจะอายที่จะต้องเดินจูงมือกัน แต่อยู่ ๆ กลับทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
อยู่ ๆ ก็ดึงมือไปจับไว้แน่น และแกว่งมือไปมาทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ

งั้นเหรอ

เราจะไปกันไม่รอดงั้นเหรอ

เราจะต้องเจอกับคำดูถูกเหยียดหยามงั้นเหรอ รักทางไกลมันเหนื่อยมากนักใช่มั้ย เราสองคนจะเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย งั้นเหรอ มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อย่างนั้นใช่มั้ย

"ไอ้ฮวยไอ้บ้า....ไม่อายคนเหรอ มาเดินจูงมือกันแบบนี้ เห็นมั้ยว่าคนมองกันใหญ่แล้ว"

ได้ยินชัดถึงคำพูดของคนที่ยังกระชับฝ่ามือเอาไว้แน่น และคน ๆ นั้นยังพูดประโยคนี้ออกมาได้โดยมีเสียงหัวเราะเล็ก ๆ เจือปนออกมาด้วย

คิดไม่ถึงว่านาเดียร์จะกล้าทำ

คิดไม่ถึงว่าอยู่ดี ๆ จะได้รับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ และในเวลานี้รู้สึกได้อย่างไม่คาดฝัน

"อ๊ะ โทษทีที่แกล้ง...โกรธเหรอ จับมือนิด ๆ หน่อย ๆ ทำเป็นหวง เล่นตัวนักนะ กลับมาคงต้องขอคุยกันยาวแล้วแบบนี้...คงต้องคุยเรื่องอะไรกันอีกเยอะเลยล่ะ.......เรื่องปรับปรุงตัวเอง เรื่องที่ต้องคิดแทนกันอีก แล้วก็เรื่องที่เราต้องใส่ใจกัน เรื่องของคนรอบข้าง อะไรอีกนะ มันเยอะแยะไปหมดเลยนี่สิ ตอนนี้ยังคิดไม่ทันเลย กลับมาคงต้องคุยกันใหม่แล้วล่ะแบบนี้"

คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่ก็รู้สึกถึงฝ่ามือที่เกาะกุมแน่นไม่ห่าง

หันกลับไปมองใบหน้าของคนที่เดินเคียงข้างและก็ได้เห็นว่าสายตาที่ส่งผ่านมาก็มีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้น เดียร์ก็ยังพยักหน้ารับกับสิ่งที่เพิ่งบอกออกไป เหมือนกำลังทำความเข้าใจกับสิ่งที่ต้องคิดเผื่อกันในอนาคต

"อื้อ.....งั้นก็....เดินทางดี ๆ นะ แล้วก็กลับมาไว ๆ แล้วกัน....."

ได้รับคำอวยพรแสนธรรมดาเป็นของขวัญแต่ฮวยกลับยิ้มกว้างกับสิ่งที่ได้ยิน ได้แค่นี้แต่จะดีแค่ไหนถ้าได้อ้อนขออะไรบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ จากอีกฝ่ายบ้าง

"แค่เนี้ยะ....ไม่พอหรอกน่า แค่เนี้ยะเหรอ" แกล้งทำเสียงงี่เง่าใส่และก็ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเดียร์ที่ทำให้ต้องอมยิ้ม

"เออ....อีกอย่างก็.....ก็....กลับมาเร็ว ๆ แล้วกัน....ไปนาน ๆ คือว่า.......เอ่อ....ถ้าไปนาน...เดี๋ยวคิดถึงนาน..."
TBC....


 :o8: :o8: :o8:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
งอนคนเขียนแล้วอะ

หยุดเม้นท์ 1 สัปดาห์ อิอิ

 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

anna_007

  • บุคคลทั่วไป
รอนะฮวยมาช้า เดี่ยวหม่ำเดียร์ซะเลย :interest:

yukisaki

  • บุคคลทั่วไป
จุ๊บลาไปเลยจร้าเดียร์(จะมากกว่านั้นก็ไม่ขัดนะ///)

ออฟไลน์ artsitnarak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ต่อไวๆนะงับ



รักพี่เดียจัง



55+



 :mc2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
แอบอ่านอยู่ครับ

แต่ว่า งง

ข้ามตอนไปหรือเปล่าครับ

รบกวนเช็คหน่อย

รู้สึกว่ามันไม่ติดต่อกันอะครับ

 :serius2: :serius2:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักดีครับ ตอนนี้

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
แอบอ่านอยู่ครับ

แต่ว่า งง

ข้ามตอนไปหรือเปล่าครับ

รบกวนเช็คหน่อย

รู้สึกว่ามันไม่ติดต่อกันอะครับ

 :serius2: :serius2:

 :o :o :o จ๊ากกกกกกกกกกก

มันหายไปตอนหนึ่ง  ขออภัยผู้อ่านทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย  o1 :m5:

ขอบคุณ คุณ Junrai Hyper อย่างที่สุด  :impress:

งอนคนเขียนแล้วอะ

หยุดเม้นท์ 1 สัปดาห์ อิอิ

 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

 :o โอ๋ โอ๋ โอ๋ ไม่งอนนะคนดี หายงอนเถอะน๊า  :loveu:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2008 20:56:35 โดย LoVeMoDe »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
ลงย้อนตอนที่ข้ามไปน๊า  ขออภัยในความผิดพลาด  :m5:

เรื่องสั่นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน สงสัยเราคงต้องเป็น.......กันแล้วมั้ง


หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า อยากจะเป็นบ้าตอนที่นับเวลาอยู่ในใจ ถ้าข้อสันนิษฐานนี้ไม่ผิดพลาดตรงไหน หรือถ้าหากว่าไม่เข้าข้างตัวเองมากจนเกินไป สิ่งที่คิดเอาไว้ก็น่าจะเป็นจริง

ออกมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องและทำใจเอาไว้ล่วงหน้าว่าสิ่งที่คิดอาจไม่เป็นอย่างที่หวังก็ได้

แล้วก็ยืนพิงประตูห้องอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะได้เห็น

นาเดียร์อาจจะนอนหลับไม่รู้เรื่อง อย่างที่เห็น

หรืออีกทีก็แกล้งหลับ

ถ้าแกล้งหลับจริง แล้วทำไมถึงนอนนิ่ง ๆ ให้กอด ให้จูบได้ง่าย ๆ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาโวยวายเหมือนที่เคยทำ แบบนี้มันผิดจากที่เป็นอยู่มากจนเกินไป เดียร์มันคิดอะไรอยู่หรือไง

ไม่มั่นใจนักว่าจะกล้าก้าวเดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งเพื่อพิสูจน์สิ่งที่คาดหวังเอาไว้หรือเปล่า
แต่มือก็เอื้อมจับลูกบิดประตูเอาไว้แล้ว

ถ้าหลับ จะตัดใจกลับทันที คงไม่ปลุกขึ้นมานั่งคุยกัน

แต่ถ้าไม่.....แค่อยากรู้เหตุผลให้แน่ชัด ว่าทำไปทำไม แล้วทำไปเพื่ออะไร

เกลียดมาก เลยไม่อยากเจอ แล้วทำไมถึงยอมให้แตะต้องได้มากมายขนาดนั้น มันไร้เหตุผลจนเกินไป

แล้วถ้าไม่.....ก็แค่ความรู้สึกเฉย ๆ ตัดรำคาญ ไม่อยากยุ่งด้วยอีก แค่ยอมให้แตะนิดแตะหน่อยคงไม่เป็นไร

ถ้าเป็นอย่างนั้นคงคิดหนัก

แล้วถ้าหากว่า.....................

อย่าเข้าข้างตัวเองให้มากนัก เพราะถ้าผิดหวังคงไม่มีใครปลอบใจ แถมยังต้องเสียใจอีกต่างหาก

เพราะฉะนั้น.....อะไรก็ได้

ยังไงก็ได้

ไม่คิดอะไรอีกแล้ว

เหลือบสายตาดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกครั้ง เหลือเวลาไม่มากนัก ไม่เป็นไรช่างมัน ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว
ไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว จะมีอะไรให้ต้องคิดอีกหรือไง

คนที่ยืนครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่หน้าประตูห้อง ตัดสินใจครั้งสุดท้าย

มือกำแน่นที่ลูกบิดประตู หมุนลูกบิดและใช้ฝ่ามือผลักประตูเข้าไปหา................................




ลุกขึ้นนั่งกอดเข่า และซบใบหน้าร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบ ๆ

ทำไมตอนเลิกกับพี่แจนไม่เห็นร้องไห้นานหลายวันขนาดนี้วะ

แล้วทีไอ้คนที่ไม่ได้คบด้วย ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย คิดอะไรก็ไม่เหมือนกัน มีแต่เรื่องให้ขัดใจกันตลอด ทำไมถึงได้ร้องไห้ซ้ำซาก ไม่หยุดหย่อนแบบนี้

คิดนิดเดียวก็พาลจะน้ำตาไหล

บ้าหรือไงวะ ร้องไห้จะเป็นจะตาย ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร นี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง

ก็แค่ไอ้ฮวย นิสัยก็เฮงซวย พูดจาก็ไม่เคยเข้าหู ชอบแกล้งให้โมโห มันมีดีตรงไหนกัน ถึงได้ร้องไห้ให้มันมากขนาดนี้
ตอนที่ต้องจากกัน นอกจากส่งข้อความมาขอเลิก จะบอกสักคำว่าจะไปแล้วยังไม่มี

แล้วแบบนี้ยังจะเห็นเป็นคนสำคัญไปได้ยังไง

สงสัยคงอาการหนักแล้ว ที่เอาแต่คิดถึงมัน

คิด.....เดียร์กำลังคิด และหาเหตุผลมาหักล้างเพื่อให้ความรู้สึกเสียใจจางหายลงไปบ้าง

แต่ก็ได้แค่คิด

เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะร้องไห้มากขึ้น

แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี

ขืนยังจมอยู่กับความคิดของตัวเองคนเดียวแบบนี้สงสัยมีหวังได้บ้าเข้าสักวันแน่ ๆ

ลุกขึ้นยืนและปาดน้ำตาทิ้ง แต่ก็ไม่สามารถจะหยุดได้

โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จะร้องไปถึงไหนวะเนี่ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
แค่ไอ้ฮวยมันไม่อยู่แล้ว แค่ไม่ได้เจอกันคงไม่ถึงกับตายหรอกมั้ง

เออ ไม่ถึงกับตายหรอก

แต่มันเสียใจ เสียใจ เสียใจ จะมีใครเข้าใจมั้ยว่าคนกำลังเสียใจ

แง แง เสียใจโว้ยยยยยย เข้าใจมั้ยวะ เข้าใจมั้ยว่า....................


ว่า......


ว่า......


ว่า.....


ว่า.....


เอ่อ......เสียใจ....ร้องไห้อยู่ด้วยแหละตอนนี้......ง่า....แล้วไงวะ.....

แล้ว.....เข้ามาได้ไง....มาตอนไหน...มาเมื่อไหร่.....เอ่อ เมื่อกี้ก็เดินไปแล้ว.... นี่กำลังร้องไห้เล่นบทโศกให้อยู่เลยนะเนี่ย ไม่ซึ้งเลยเหรอ

ง่า......

เข้ามาได้ไง เข้ามาตอไหนเหรอครับพี่ แล้วทำไมขมวดคิ้วมุ่นอย่างนั้น หน้าก็ดุโคตรเลย
ไม่เคยเห็นมันทำหน้าบึ้งขนาดนี้เลยนะ เพิ่งเคยเห็นนี่แหละครั้งแรกเลย ครั้งแรกที่ได้เห็นเลยแหละนะ

"เป็นบ้าอะไร....น้ำตานองหน้าแบบนี้...." เข้ามาตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าไอ้ฮวยที่คิดว่าเพิ่งจากไปไกลแสนไกล จนต้องร้องไห้คร่ำครวญถึง ตอนนี้มันเปิดประตูเข้ามาแบบถือวิสาสะ แล้วมันก็ก้าวขาเดินฉับ ๆ เข้ามาเหมือนกับว่ามันกำลังรีบจะไปตามควายที่หายไปงั้นแหละ

หน้ามันก็ดุด้วย

เสียงมันก็โหด

อุตส่าห์ซึ้ง เข้ามาถึงโดนมันด่าเข้าให้แบบไม่ทันตั้งตัว กำลังยืนอ้าปากค้าง น้ำตาน้ำมูกท่วม สภาพทุเรศสิ้นดีชนิดที่ไม่น่าให้อภัย


ปากหมา

ไอ้ปากเสีย ปากเน่าปากหนอน เข้ามาในห้องเขาแล้วยังมายืนด่าเจ้าของห้องอีกเหรอวะ แม่งชั่วแล้วมึง

เดี๋ยวกูก็................

"บ้า.....นาเดียร์บ้า....อย่ามาทำหน้าแบบนี้นะ เป็นอะไรนักหนา จะให้จากไปดี ๆ ไม่ได้เลยหรือไง"

แล้วมันความผิดกูหรือไงวะ ที่กูร้องไห้อ่ะ ไม่มีสิทธิ์ร้องหรือไง ยุ่งอะไรด้วยวะ ห๊า จะร้องจะทำหน้าอย่างนี้แล้วจะทำไม จะทำไมวะ ถามหน่อย จะทำไม....

ไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะยังยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ยังไหลพรากไม่หยุด

หน้าหงิกหน้างอ หน้าบึ้ง หมดสภาพ แล้วก็เริ่มโมโหที่ถูกด่า

"ก็.....มันหยุดไม่ได้นี่....ฮือ ฮึก.....ฮืออออออออออ ก็ใครใช้ให้ไปอังกฤษล่ะ...ฮือ อย่ามายุ่งกับกูอีกนะโว้ย ไอ้เลวฮวยยยยยยยย"

คิดอะไรไม่ค่อยออก ทำเหมือนเด็ก ๆ ที่เถียงไปข้างๆ คู ๆ ไร้เหตุผล แล้วก็ได้แต่กำชายเสื้อของตัวเองแน่น
ไม่กล้าสู้หน้าคนอีกคนที่ทำหน้าเหมือนกำลังโมโห

"โธ่เว้ย"

ได้ยินไม่ชัด ไม่รู้ว่าไอ้ฮวยมันจะโมโหอะไรมากมาย กะอีแค่ร้องไห้แค่นี้ ไม่รู้มันจะอยากด่าอะไรนักหนา

แต่รู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่ คนที่ทำเสียงฮึดฮัดโมโห เดินเข้ามาหาแล้วกระชากร่างเข้าไปกอดแน่น
จนหายใจแทบไม่ออก

"นาเดียร์เอ้ย นาเดียร์ ทำไมวะ มันจะอะไรกันนักกันหนาเนี่ย ห๊า มันอะไรกัน มันเรื่องบ้าบออะไรกัน"

เฮ้ย......ไอ้ฮวยมันถามใครวะ ถามใครเนี่ย

ถามทำไม

ถามแล้วทำไมถึงได้......ทำไมถึงต้องตัวสั่นเวลาพูดด้วยล่ะ ทำไมเสียงพร่าแบบนั้น แล้วทำไม.....

ยังไม่เข้าใจ ยังมึน ยังงง

แต่แขนที่เคยทิ้งลงข้างตัว กลับค่อย ๆ ยกขึ้นกอดตอบอีกฝ่ายอย่างช้า ๆ

ผ่านมาตั้งนานไม่เคยรู้ แต่ตอนนี้เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่คนเดียว

ยังมีใครอีกคนที่เพิ่งทำให้รับรู้ในเวลานี้เองว่าคน ๆ นั้นก็เสียใจไม่แพ้กัน

"เดียร์ไม่รู้หรอกว่าเสียใจแค่ไหนที่เดียร์ไม่รั้งไว้เลยสักนิด เดียร์ไม่รู้หรอกว่าเสียใจแค่ไหนตอนที่ถูกไล่ให้กลับมากรุงเทพ รู้มั้ยตอนที่กลับไปไต้หวันต้องทำใจมากแค่ไหน ไม่ต้องไล่แล้วนะ ไม่ต้องไล่ไปไหนอีกแล้ว.....ถ้ายังไล่เค้าไปอีก....รู้เอาไว้เลย....ว่าถ้าไล่อีกครั้ง....โดนแน่เดียร์...ไม่เอาไว้แล้ว...ไม่ปล่อยแล้วด้วย จำไว้เลย."

TBC....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-02-2008 21:01:23 โดย LoVeMoDe »

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน เรื่องที่ยังมาไม่ถึง

"เรื่องของเรา.........เอาไว้ค่อยคุยทีหลัง ไม่มีเวลาแล้วเดี๋ยวเครื่องออกก่อนซวยแน่ ไปล้างหน้าเร็ว อยากมีคนไปส่ง.......จะไปมั้ย...ไม่ได้บังคับแค่อยากมีคนไปส่งแค่นั้น...ได้มั้ย"

ไม่รู้
รู้แต่ว่า....น้ำมูกยืด หน้าตายุ่งเหยิง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง สภาพยับยู่ยี่แบบนี้ ขืนเดินออกไปหมาได้เห่ากันระงม เพราะคิดว่าเป็นคนมาเก็บของเก่าไปขาย

"เอ้า อย่าเอามือไปขยี้ตาแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็ยิ่งตาบวมกันพอดีหรอก ไปเร็ว ไปล้างหน้าก่อน เอ้า...นี่ผ้าขนหนูจะอาบน้ำด้วยก็ได้นะ แต่แค่ 5 นาทีพอ"

เหรอ

5 นาทีพอเหรอ แล้วเสื้ออยู่ไหนวะ กางเกงอยู่ไหนล่ะ

"เอาเสื้อตัวนี้แหละ กางเกงตัวนี้ก็ได้ แล้วก็......"

เฮ้ยยยยยยยยยย

คนที่ยังอยู่ในอาการมึนชีวิต ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก และยังคงมีอาการเอ๋อ ๆ เบลอ ๆ รีบยกมือขึ้นตะครุบบางสิ่งบางอย่างที่ถูกดึงมาจากลิ้นชักในตู้เสื้อผ้ามาถือเอาไว้ แล้วก็รีบวิ่งลิ่วหนีหายเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

"สีขาวซะด้วย......ใส่สบาย....กระชับ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

อย่ามายุ่งกับกางเกงในกู แม่กูเพิ่งซื้อให้ใหม่ตอนกลับบ้าน เที่ยวมาหยิบนั่นหยิบนี่ในห้องคนอื่นเดี๋ยวก็ด่าแบบไม่ซ้ำคำหรอก ไอ้ห่าฮวย ไอ้บ้า

"รีบ ๆ อาบน๊าาาาาาาา ขืนอาบช้า เค้าจาค้นตู้แล้วน๊า...ว่ามีกางเกงในสีขาวอีกกี่ตัว....ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

โว้ยยยยยยย มันตลกตรงไหนวะ หัวเราะอยู่ได้ ไอ้บ้าเอ้ย เดี๋ยวไม่ไปส่งแน่มึง คอยดูก็แล้วกัน

ฮวยยืนกอดอกหัวเราะอยู่หน้าห้องน้ำ แต่เสียงปึงปังโครมครามในห้องน้ำ ก็ทำให้ยิ้มและหัวเราะออกมาได้

ตลกจะตาย แกล้งนาเดียร์
สนุกอย่าบอกใครที่ได้แกล้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบแหย่ ชอบทำให้มันหน้าหงิกหน้างอนัก
รู้แต่ว่า ถ้าเดียร์มันทำหน้าแบบนั้น มันน่ารักดีพิลึก แล้วก็ไม่เหมือนใคร ๆ ที่รู้จักเลยสักคน

เรื่องของเรา....คงต้องมานั่งคุยกันใหม่แล้ว ว่าจะเอายังไงกันแน่
จะคบกันหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

รู้แต่ว่าตอนนี้ชอบ....แล้วก็รัก...รักทั้ง ๆ ที่เดียร์มันก็เป็นแบบที่เป็นนั่นแหละ รักที่เป็นคนแบบนั้น
อะไรก็ได้ที่เดียร์เป็น
งี่เง่า โวยวาย คิดอะไรอยู่บ้างก็ไม่รู้ ไม่รู้ในสมองคิดอะไรเอาไว้บ้าง ทำไมร้องไห้ได้มากขนาดนั้น
รักเหมือนกันไม่ใช่เหรอ......ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ก็คิดออก มองยังไงก็รู้ว่าอย่างน้อยนาเดียร์มันต้องมีใจให้บ้างแหละน่า ไม่อย่างนั้นทำไมถึงยอมให้ทำอะไร อะไร ได้ตั้งมากมายขนาดนั้น

นิสัยแบบนั้น ไม่มีทางยอมให้ใครมายุ่งวุ่นวายพัวพันด้วยหรอก

ขอเข้าข้างตัวเอง.....ว่าอย่างน้อยถ้าเดียร์ไม่รัก....มันก็ต้องชอบกันบ้างล่ะว๊า ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยเถ้ออออ

ยืนยิ้ม แล้วก็ได้แต่ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เหลือบมองนาฬิกาก็รู้ว่ายังพอมีเวลาอยู่บ้าง

ไปแบบที่ไม่ได้ทะเลาะกัน ยังดีกว่าไปแบบโกรธกันแล้วมองหน้ากันไม่ได้

จะทำยังไงดีนะ ทำยังไงถึงจะรู้ว่าเดียร์คิดอะไรอยู่กันแน่
ไม่ทันได้คิดอะไร ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับคนที่โผล่หน้าออกมาอย่างรวดเร็ว

"เดี๋ยวนะ แป๊บเดียวนะ..."

รีบ กำลังรีบมาก ผมเผ้าเปียกลู่ หัวหูยังกระเซอะกระเซิงอยู่ แต่ต้องรีบเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งที่ยังมีผ้าขนหนูพาดอยู่ที่บ่า เดินมาค้นอะไรกุกกัก ๆ ในลิ้นชักโต๊ะ แล้วก็สะบัดผมสองสามที ก่อนจะหันหน้ามามองคนที่ยืนกอดอกแล้วก็จ้องมองมาชนิดแทบไม่กระพริบตา

"มองหาห่าอะไรวะ รีบไม่ใช่เหรอ เจอกุญแจแล้ว ไปสิ จะไปยังอ่ะ"

มองอะไร ก็มองเดียร์ไง ทำไมเป็นยังไงมันก็เป็นอย่างนั้นตลอดเลย คราวก่อน ที่ลากไปเดินเที่ยวด้วยกันได้ นาเดียร์มันก็แต่งตัวได้น่าดูชมมาก ลากร้องเท้าแตะ เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ไม่เกรงสายตาคนมอง
แล้วดูคราวนี้สิ

ก็ยังเหมือนเดิม หน้ายังเปียกน้ำ หัวหูยังเละเทะอยู่เลย บอกว่า 5 นาที แต่ครึ่งชั่วโมงก็ทัน ไม่ได้จริงจังซะหน่อย แล้วจะไปสภาพนี้แน่เหรอ เฮ่อ กลุ้มใจกับเดียร์จริง ๆ เลยว่ะ

"นั่งนี่ก่อน เอ้า หวีผมด้วย เช็ดหน้าด้วยเถอะคร้าบบบบบคุณ นอกจากกินเหล้า เที่ยวเตร่ หัวช้า โง่ ทำอะไรไม่ค่อยได้เรื่อง......ไม่เคยใส่ใจตัวเอง....มีอะไรบ้างที่ทำให้ตัวเองภูมิใจ ถามหน่อย"

อยู่ดี ๆ อยู่ในสภาวะเร่งรีบ แล้วก็ถูกถาม ชนิดที่ยังคิดคำตอบไม่ทัน
ไม่มี
ไม่มีอะไรน่าภูมิใจ
งี่เง่า
เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ หัวช้า ไม่เคยใส่ใจตัวเอง ทำอะไรก็ไม่ดีหมดแหละ ไม่มีอะไรน่าภูมิใจตรงไหนด้วย
ก็กูเป็นแบบนี้อ่ะ โดนว่าออกบ่อย น้อยใจก็บ่อย
คนไม่มีอะไรดีแบบนี้ รู้ตัวอยู่หรอกว่าไม่มีค่าพอจะให้ใครมารัก ถึงได้อยากเลิกคบกันนี่ไง
เลิกคบไปเลยนี่แหละดีที่สุด ใช่มั้ย งั้นไปแล้วก็ไปลับเลย ไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีกก็ได้

คราวนี้จะเสียใจสักปี สองปี เดี๋ยวก็หายเองแหละ ง่ายนิดเดียวเอง

คิดอะไรง่าย ๆ แต่ใบหน้าและท่าทางที่แสดงออก ทำให้ฮวยต้องรีบหุบปากตัวเองเอาไว้

เดียร์ไม่โมโห ไม่โวยวายใส่ ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แต่นั่งเงียบ ก้มหน้านิ่ง ๆ อยู่หน้ากระจก

ปากเสียแล้วมั้ยล่ะ ใช่ที่เดียร์มันเป็นแบบนั้น ก็แล้วมันผิดหรือไง ที่เป็นแบบนั้นในเมื่อยอมรับได้เองกับสิ่งที่เดียร์เป็น

"ไอ้ฮวยคนนี้ก็พอกัน ใจคิดอะไรก็พูดไปตามปาก เดียร์ไม่ดี ไม่มีอะไรน่ารัก แต่ก็ไม่เคยดูตัวเอง ว่าแกล้งเอาไว้เยอะ เอาแต่ใจตัวเองบังคับให้ทำตามใจตลอด หัวเราะเห็นเป็นเรื่องสนุก ทั้งที่เดียร์โกรธแทบตาย
ไอ้ฮวยคนนี้มันก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจหรอก......เดียร์จะรับได้หรือเปล่า ยังไม่รู้ตัวเลย แถมยังปากดีไปว่าคนอื่นอีกนะแบบนี้มัน.....น่าโมโหเนอะ"

ยอมรับตัวเองที่เป็นแบบนั้น มีคนบอกมาหลายคนให้ลด ๆ ลงบ้างไม่อย่างนั้นจะทำให้คนที่อยู่ด้วยเสียใจ
จริง
ที่ทำให้เสียใจ
ทำมาแล้ว รู้ด้วยว่ามีคนเสียใจที่ทำแบบนั้น พูดจาพล่อย ๆ แบบนี้ ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แบบนี้ไม่ยิ่งเรียกว่างี่เง่ากว่าเหรอ

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ

หันมองไปคนละทาง และจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

"เรื่องของเราจะเป็นไปได้มั้ย รักทางไกลมันเหนื่อย ยิ่งไม่เข้าใจกันก็ยิ่งเหนื่อย คิดไปคนละเรื่องยิ่งแย่ คนนี้เป็นแบบนี้ อีกคนก็เป็นอีกอย่าง....เราคงไปกันไม่รอดแน่ ๆ เลยเนอะเดียร์ว่ามั้ย"

กังวลใจอยู่ลึก ๆ ถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง แต่ไม่เคยพูดออกมาสักครั้ง ครั้งนี้ถึงได้เพิ่งได้พูด และเป็นคำพูดที่ทำให้คนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่หน้ากระจกต้องหันกลับมามอง

ก็ใช่น่ะสิ

เรื่องนี้ไง ที่ทำให้ทุกข์ใจอยู่ตอนนี้ เรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องที่จะไปกันไม่รอดเรื่องเดียว ที่อยากให้รู้ว่าทำไมถึงต้องทำตัวงี่เง่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน และตลอดเวลาที่อยู่ใกล้กัน

กลัว

กลัวเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

"มันเป็นไปไม่ได้หรอก....รู้ว่าคบแล้วต้องเลิกกันจะคบทำไม....สู้เลิกไปตอนนี้ไม่ดีกว่าเหรอ"

กลั้นใจพูดออกไป และเป็นครั้งแรกที่เดียร์ได้พูดกับอีกฝ่ายตรง ๆ
คิดว่ากล้าพอแล้วที่จะพูด แต่น้ำเสียงที่สั่นพร่ามาพร้อมกับสายตาที่หวาดหวั่นและใบหน้าที่หมองเศร้าลงในทันทีที่พูดคำนี้

"ไม่อยากคุยเรื่องนี้ตอนนี้ ไม่มีเวลา จะรีบไป"

ฮวยรีบพูดตัดบทเพราะยังไม่อยากรับรู้เรื่องบางเรื่องในเวลานี้ให้มากกว่าที่ควร

ที่จริงจะคุยต่อก็ได้ แต่คงไม่จบง่าย ๆ ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำ เอาไว้หลังจากนี้ค่อยคุยกันใหม่น่าจะดีกว่า คงหาทางออกได้ดีกว่านี้ และคงไม่ต้องทนอึดอัดใจต่อไป ถ้าได้เปิดใจคุยกันตรง ๆ สักครั้ง

รีบก้าวขาเดินออกจากห้องพักอย่างรวดเร็วมายืนอยู่หน้าห้อง
เดียร์เดินมาล็อคกุญแจเรียบร้อยและเดินตามคนที่เดินนำหน้าไปก่อน

เรื่องที่คุยกันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว คนที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดเดินและรอให้คนเดินตามเดินมาหาเพื่อจะได้ก้าวไปพร้อมกัน

"ถ้าจับมือตอนนี้เดียร์คงอาย ถ้าจูงมือเดียร์ตอนนี้สงสัยคนคงมองกันน่าดู"

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดอย่างนั้น แต่คำถามที่เอ่ยถามทำให้คนตัวเล็กกว่าที่เดินอยู่เคียงข้างต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะก้มหน้าลงและคิดทบทวนถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง

ถ้าผู้ชายสองคนเดินจูงมือกัน คนคงมองว่าประหลาด รับได้เหรอแบบนี้ถ้าต้องถูกสายตาของใคร ๆ ทิ่มแทงและถูกนินทา

ถ้าคบกันก็ต้องถูกคนมองและต้องถูกนินทา อุปสรรคมันเยอะกว่าที่คิดไว้อีก และอุปสรรคก็คงไม่ใช่แค่เรื่องนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเจอ ถ้าคบกันจริงจัง

"อายแน่....ถ้าทำแบบนั้นแล้วก็คงถูกมอง" ตอบออกไปและหัวเราะน้อย ๆ เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว

"นั่นสินะ....เดียร์คงอาย...หือ"

อยากจะร้องไห้กับสิ่งที่ได้ยิน แต่ฝ่ามือกลับถูกรั้งและกุมไว้แน่นด้วยฝ่ามือของคนที่บอกว่าอาย

เวลานี้อยากจะหัวเราะลั่นให้คนทั้งโลกได้ยินกับสิ่งที่ได้รับในเวลานี้
อายงั้นเหรอ ทั้งที่คิดว่าเดียร์มันคงจะอายที่จะต้องเดินจูงมือกัน แต่อยู่ ๆ กลับทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
อยู่ ๆ ก็ดึงมือไปจับไว้แน่น และแกว่งมือไปมาทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นแหละ

งั้นเหรอ

เราจะไปกันไม่รอดงั้นเหรอ

เราจะต้องเจอกับคำดูถูกเหยียดหยามงั้นเหรอ รักทางไกลมันเหนื่อยมากนักใช่มั้ย เราสองคนจะเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย งั้นเหรอ มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อย่างนั้นใช่มั้ย

"ไอ้ฮวยไอ้บ้า....ไม่อายคนเหรอ มาเดินจูงมือกันแบบนี้ เห็นมั้ยว่าคนมองกันใหญ่แล้ว"

ได้ยินชัดถึงคำพูดของคนที่ยังกระชับฝ่ามือเอาไว้แน่น และคน ๆ นั้นยังพูดประโยคนี้ออกมาได้โดยมีเสียงหัวเราะเล็ก ๆ เจือปนออกมาด้วย

คิดไม่ถึงว่านาเดียร์จะกล้าทำ

คิดไม่ถึงว่าอยู่ดี ๆ จะได้รับสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ และในเวลานี้รู้สึกได้อย่างไม่คาดฝัน

"อ๊ะ โทษทีที่แกล้ง...โกรธเหรอ จับมือนิด ๆ หน่อย ๆ ทำเป็นหวง เล่นตัวนักนะ กลับมาคงต้องขอคุยกันยาวแล้วแบบนี้...คงต้องคุยเรื่องอะไรกันอีกเยอะเลยล่ะ.......เรื่องปรับปรุงตัวเอง เรื่องที่ต้องคิดแทนกันอีก แล้วก็เรื่องที่เราต้องใส่ใจกัน เรื่องของคนรอบข้าง อะไรอีกนะ มันเยอะแยะไปหมดเลยนี่สิ ตอนนี้ยังคิดไม่ทันเลย กลับมาคงต้องคุยกันใหม่แล้วล่ะแบบนี้"

คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่ก็รู้สึกถึงฝ่ามือที่เกาะกุมแน่นไม่ห่าง

หันกลับไปมองใบหน้าของคนที่เดินเคียงข้างและก็ได้เห็นว่าสายตาที่ส่งผ่านมาก็มีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้น เดียร์ก็ยังพยักหน้ารับกับสิ่งที่เพิ่งบอกออกไป เหมือนกำลังทำความเข้าใจกับสิ่งที่ต้องคิดเผื่อกันในอนาคต

"อื้อ.....งั้นก็....เดินทางดี ๆ นะ แล้วก็กลับมาไว ๆ แล้วกัน....."

ได้รับคำอวยพรแสนธรรมดาเป็นของขวัญแต่ฮวยกลับยิ้มกว้างกับสิ่งที่ได้ยิน ได้แค่นี้แต่จะดีแค่ไหนถ้าได้อ้อนขออะไรบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ จากอีกฝ่ายบ้าง

"แค่เนี้ยะ....ไม่พอหรอกน่า แค่เนี้ยะเหรอ" แกล้งทำเสียงงี่เง่าใส่และก็ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเดียร์ที่ทำให้ต้องอมยิ้ม

"เออ....อีกอย่างก็.....ก็....กลับมาเร็ว ๆ แล้วกัน....ไปนาน ๆ คือว่า.......เอ่อ....ถ้าไปนาน...เดี๋ยวคิดถึงนาน..."

TBC....

dawa_11

  • บุคคลทั่วไป
 :m4:   ยังนึกอยู่เหมือนกันว่าเราอ่านข้ามไปป่าว

 :m4:   แล้วก้อจะได้เข้าใจกันซะทีเนอะ

 :bye2:  แล้วจะมารออ่านต่อนะ

bamtham

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นว้อยยยย !!!!! ใกล้หวานเย้วน้าาาา :m1:

คุยกันดีดีได้แล้วม้าง มึนอ่ะ o2 o2

tor13

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นกันต่อว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรแบบว่าเดาเนื้อเรื่องไม่ได้น่ะเรื่องนี้ :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อเร็วๆ  :m1:

three

  • บุคคลทั่วไป
คุยกันดีๆตั้งแต่ทีแรกก็ไม่ต้องมานั้งเป่าปี่อยู่หรอก :angry2:

anna_007

  • บุคคลทั่วไป
 :haun5: อาไร เจอขำหน่อยเดีย ลงผิดตอนเลย

ลัอเล่น  โอ๋ไม่ว่า ไม่ว่า (แต่อย่าเผอเชียว) :laugh5:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
:haun5: อาไร เจอขำหน่อยเดีย ลงผิดตอนเลย

ลัอเล่น  โอ๋ไม่ว่า ไม่ว่า (แต่อย่าเผอเชียว) :laugh5:

  :o น่ากลัวจริงๆๆคนๆนี้  :try2:

ต่อๆๆๆๆ

เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน แค่นี้นะ

ซึ้งจนแทบน้ำตาไหล อึ้งไปไม่มาก แค่อ้าปากค้างแล้วก็หุบยิ้มไม่ได้
พูดมาได้ว่าอย่าไปนาน เดี๋ยวคิดถึงนาน คนฟังหัวใจแทบวาย เพราะสำลักความสุข

ป่านนี้ทำอะไรอยู่ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนที่โบกมือให้ เห็นทำตาปริบ ๆ แล้วก็เบือนหน้าหนีแล้วก็ยอมโบกมือตอบแบบฝืน ๆ
แค่นั้นก็ดีใจแทบแย่ นั่งกุมมือกันมาตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกัน ถึงเดียร์มันจะทำหน้าเหมือนไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ที่ต้องจับมือกัน แต่ก็ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก น้องนาจ๋าน้องนา อยากจะยิ้มให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
ทำไมเวลาที่ได้ฟังคำพูดน่ารัก ๆ จากคนที่คิดว่าไม่น่าจะพูดอะไรน่ารัก ๆ ได้ ทำไมมันทำให้รู้สึกดีได้มากขนาดนี้

ยิ่งนาเดียร์ด้วยแล้ว

ขนาดตอนนี้ยังไม่อยากจะเชื่อเลย แค่คำว่าคิดถึงคำเดียว ทำไมถึงได้หวานจับใจได้ถึงขนาดทำให้เก็บเอามาทำให้ยิ้มได้ขนาดนี้นะ แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้รับเลยจริง ๆ ฝันไปหรือเปล่า

ถ้าแค่ฝันจะทำยังไง ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะฝันครั้งนี้ดีจนไม่อยากตื่นอีกแล้ว

ฮวยกำลังนั่งยิ้มและคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่คนเดียวภายในห้องพัก มาถึงก็ได้แต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
เดี๋ยวต้องไปติดต่องาน เหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ได้แต่อยากจะเร่งให้เวลาเดินเร็วขึ้น

อังกฤษเวลาช้ากว่าเมืองไทย 6 ชั่วโมง ขืนโทรไปตอนนี้นาเดียร์ได้ด่าตาย
แต่อยากโทรไม่ว่ายังไงก็อยากโทรไปหา

นาเดียร์
นาเดียร์จ๋า

โห่เอ้ย คิดถึงเว้ย เมื่อไหร่จะได้กลับไปซะที กว่าจะได้กลับไปก็โน่นเลย อีกตั้งสองอาทิตย์แถมก่อนหน้านั้นยังต้องกลับไปไต้หวันก่อนอีก อะไรมันจะปั่นป่วนยุ่งเหยิงขนาดนี้นะ

อยากจะรีบ ๆ กลับไปเคลียร์ ๆ อะไรให้รู้เรื่องกันไปซะ ไม่ต้องคาใจอยู่แบบนี้
แต่ก็นั่นแหละ
เดี๋ยวเดียร์อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา แล้วบอกว่าไม่เอา ไม่คบด้วยหรอก ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจะทำอะไรไม่ถูก

งั้นก็ยืดเวลาไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ ไม่ถามดีกว่า ให้เป็นไปแบบที่เป็นดีที่สุดแล้ว
ไม่เร่งรัด ไม่เร่งเร้าให้มากจนเกินไป เรื่อยๆ ช้า ๆ ให้มีเวลาคิดทบทวนและตั้งตัวกับเรื่องในอนาคตบ้างก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน

แต่ว่า............เฮ่อ

เอาวะ ไม่โทรตอนนี้มีหวัง ได้คลั่งตายกันพอดี ขอได้ยินเสียงหน่อยเถอะ นิดเดียวก็ยังดี ขอโทษนะเดียร์
แต่ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ

หน้ายังยิ้มจนหุบยิ้มไม่ได้ มือคว้าโทรศัพท์ในห้องพักมากดหาหมายเลขที่ต้องการติดต่อ
และเพียงชั่วเวลาไม่นาน เสียงงัวเงีย เหมือนคนยังไม่ตื่นนอนของใครคนหนึ่งก็ดังมาตามสาย

"ฮาโหลลลลลลลลลลล อื้อ มีรายวะโทรมาทำไมป่านนี้เนี่ย เว้ยยย"

นั่นไงรับปุ๊บหาเรื่องปั๊บเลย นาเดียร์ของแท้ เสียงเวลางัวเงียเหมือนยังไม่ตื่นนอนทำไมมันน่ารักนักว๊า
"เป็นอะไร โทรมาหัวเราะใส่ ท่าจะบ้า มีอะไรว่ามา"

ไม่มีมากหรอก แค่อยากบอกว่าคิดถึงเดียร์มาก ๆ แค่นั้นแหละ

"ว่าที่สุดที่รักในอนาคตโทรมาหาเพราะคิดถึงเดียร์จนทนไม่ไหว นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หุบ เพราะคิดว่าเสียงเดียร์ตอนยังไม่ตื่นนอนนี่มันเซ็กซี่ชะมัด ผิดหรือไงจ๊ะ เดียร์จ๋า"

คนที่ยังไม่ตื่นเต็มตาแทบจะหัวทิ่มตกลงมาจากเตียง คิดว่าเป็นใครโทรมาแกล้งกลางดึก แต่เพราะเสียงที่จดจำได้ดีว่าเป็นใคร ภายในใจก็เต้นระทึกขึ้นมาในทันที จนแทบจะระงับความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ไหว

ลุกขึ้นนั่งและเอื้อมมือเปิดไฟที่โคมไฟหัวเตียงก่อนจะขยับกายลงมานั่งอยู่ข้างเตียง

ที่เคยง่วงงุนมีอันตื่นขึ้นมาได้ในทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีใครมาปลุก

"ที่รักบ้าอะไรวะพูดมาได้...ไปถึงแล้วเหรอ มีธุระอะไร"

ใจจริงอยากจะพูดให้ดีกว่านี้ แต่ติดตรงที่ว่าคิดไม่ออกว่าตัวเองจะพูดจายังไงเพื่อไม่ให้เป็นการผิดปกติจนเกินและก็เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับความรู้สึกได้ว่าเวลานี้ดีใจมากแค่ไหน ทำอะไรไม่ค่อยได้ทำได้แแกล้งทำเสียงเข้ม ๆ ใส่เพราะกลัวว่าจะถูกหาว่าทำตัวไม่ปกติเหมือนเวลาที่ได้เจอกัน

"ก็่ว่าที่สุดที่รักบอกว่าคิดถึงไง คิดถึง คิดถึง เข้าใจมั้ย คิดถึง บอกแบบนี้หัดซึ้งซะบ้าง พูดมาก ๆ คนพูดจะน้อยใจตายแล้วรู้เอาไว้ด้วย"

อ่อ งั้นเหรอ พูดซะเฉยชา แล้วบอกว่าคิดถึงแบบเฉยชาเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อหรอก ล้อกันเล่นอีกน่ะสิ พูดไม่เคยจริงจังซะที ไอ้ฮวยแหละที่มันบ้า น้อยใจอะไรวะ ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องน้อยใจเลย

"เออ"

แค่เนี้ยะ ตอบมาแค่เนี้ยะนะ คนอุตส่าห์ร่ายไปซะยาวเหยียด ตอบมาแค่เนี้ยะ น่าน้อยใจจริง ๆ เลยว่ะ

"กวนเหรอ" น้อยใจเป็นใครก็น้อยใจ ฮวยถามออกไปทั้งที่หน้าเริ่มเครียดกับสิ่งที่อีกฝ่ายตอบมา

"ถามมาได้ ตอนนี้ก็กวนอยู่จริง ๆไม่ใช่เหรอ" โหเดียร์ตอบอย่างนี้เลยเหรอ อ่อ กวนอยู่ว่างั้นเลยไม่อยากคุยด้วย นี่มันทางไกลเลยนะครับคุณเข้าใจผมหน่อยได้มั้ยว่าผมอยู่ครึ่งค่อนโลก ถึงทะเลาะกันตอนนี้ก็กลับไปหายากนะ ไม่ใช่กรุงเทพ-เมืองกาญจน์เหมือนครั้งก่อนที่เราทะเลาะกันนะคร้าบบบบ

"งั้นก็.....แค่นี้ก็ได้ นอนเหอะไม่กวนแล้ว" น้อยใจขั้นเอคงน้อยไป น้อยใจขั้นแซดคืออาการที่ฮวยกำลังจะเป็น และสิ่งที่รู้อีกอย่างลวงหน้าคือรู้ว่านาเดียร์ไม่มีทางง้ออยู่แล้ว ต่อให้จะไปเป็นตายร้ายดีที่ไหนฝ่ายนั้นก็คงไม่เคยคิดจะสนใจอยู่แล้ว ปล่อยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ให้ไปไหนต่อไหนก็ตั้งหลายครั้ง กะอีแค่จะวางสายไป มีหรือนาเดียร์จะมาสนใจ

"ไม่นอนแล้ว ตื่นแล้ว ทำอะไรอยู่อ่ะ" ขยับกายสองสามครั้งหลังจากพยายามตั้งสติและพยายามหยุดความตื่นเต้นของตัวเองให้ได้ ไม่อยากบอกว่าตื่นเต้น เดี๋ยวฮวยรู้มันจะขำ แต่เวลานี้ตั้งสติได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องพูดจาให้ตรงตามที่คิดสักที

"คิดถึงเดียร์อยู่ บอกไปแล้วนี่ แต่ไม่บอกแล้ว บอกไปก็ไม่เข้าใจหรอก"

เข้าใจสิ เข้าใจ ไม่เข้าใจจะนั่งฟังอยู่นี่ทำไม ออกจะชอบด้วยซ้ำ ถึงจะพูดเหมือนพูดเรื่อยเปื่อยก็เหอะ แต่ฟังแล้วรู้สึกว่า..........ฮวยมันก็...น่ารักดีเหมือนกันมั้ง คิดว่างั้นนะ

"เออ ไม่เข้าใจ อยากให้เข้าใจมาพูดต่อหน้าสิ เผื่อจะเข้าใจ"

กลายเป็นต้องหัวเราะหลังจากที่ทำหน้าเครียดมานาน เดียร์มันก็รู้ว่าไปเจอตอนนี้ไม่ได้ มันถึงได้แกล้งพูดอย่างนี้ไงล่ะ
กล้ามากนักนะ เดี๋ยวกระซิบให้ฟังข้างหูเวลาเจอหน้ากันแล้วจะรู้สึก คราวนี้ถ้าไม่ฟังก็ต้องฟังแหละ ให้มันรู้กันไปว่าจะไม่เข้าใจอีก ขืนไม่เข้าใจอีกครั้งน่าดูแน่

"เดี๋ยวต้องไปข้างนอกแล้วนะ ที่นี่เขาเตรียมเอกสารไว้ให้แล้ว เดี๋ยวยังไงค่อยคุยกันนะ นอนต่อได้แล้ว ฝันดีแล้วกันเดียร์ จะรีบไปแล้ว"

อือ ไปเถอะ ไปทำงานแล้วใช่มั้ย จะไปไหนก็ไปเถอะ
พยายามจะคิดอย่างนั้น
ทั้งที่ภายในใจคิดไปคนละทาง
แค่นี้เองเหรอ คุยได้แค่ไม่กี่นาทีเอง ต้องไปแล้วเหรอ เดี๋ยวก็เหงาตายกันพอดีสิแบบนี้

กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น และเผลอถอนหายใจออกไป จนทำให้อีกฝ่ายได้ยิน และฮวยก็ถึงกับต้องส่งเสียงหัวเราะมาตามสาย
"ดีใจล่ะสิ ไม่ต้องคุยแล้ว ถอนหายใจโล่งอกเลยนะ"

ใครบอกว่าโล่งใจ ใจหวิว ๆ พิกลล่ะสิไม่ว่า แค่บอกว่าจะไปแล้ว ก็รู้สึกเหงา ๆ ขึ้นมา อยู่ตั้งไกลถึงอยากไปเจอก็ไม่ได้
แล้วจะให้ทำยังไงได้ล่ะ ก็ได้แต่ทำแบบนี้ล่ะมั้ง

"ฮวย....."

ได้ยินเสียงเรียกจากปลายสาย น้ำเสียงแผ่ว ๆ อ่อนล้าที่ทำให้ฮวยที่กำลังนั่งหัวเราะต้องนิ่งเงียบลงทันที

อยู่ดีๆ ก็เรียก
เรียกด้วยน้ำเสียงเหงาหงอยพิกล ไม่เหมือนเดียร์เวลาปกติที่มักจะทำเสียงเอะอะโมโหโวยวายอยู่ตลอดเวลา

นั่นสิ ถึงไม่ต้องบอกก็รู้ เวลานี้อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหงาขึ้นมา

เราอยู่ห่างกันตั้งครึ่งโลก ถึงอยากกอดตอนนี้ก็ทำไม่ได้ ได้ยินแค่เสียงมันจะพอได้ยังไง
อยากกอดอยากสัมผัสแตะต้อง....แต่ทำเวลานี้ไม่ได้ มันยิ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าเข้าไปใหญ่

ปัญหาตอนนี้เลยล่ะ ยังไม่ทันไรปัญหาก็เริ่มมาให้เห็นซะแล้ว

เฮ่อ แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีนะ

"นาไม่เป็นไรใช่มั้ย......น้องนาของเค้าไม่ได้เป็นไรหรอกจริงมั้ย เนอะ"

เออ ไม่เป็นก็ไม่เป็น กลับมาเร็ว ๆ สิ แล้วจะไม่เป็น กลับมาตอนนี้สิแล้วจะไม่เป็น กลับมาสิ กลับมาสิ กลับมาเดี๋ยวนี้เลย แล้วจะไม่เป็นไร จะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วย กลับมาสิวะ กลับมาตอนนี้เลย กลับมา กลับมา

"เออ ไม่เป็น ไปทำงานเหอะ เดี๋ยวพลาดนัด.... ฝรั่งเขาถือไม่ใช่เหรอเรื่องเวลาอ่ะ"

ตอบออกไปทั้งที่เสียงเริ่มสั่น แต่ก็ทำได้แค่รีบปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำงานก็เหนื่อยพอแล้วอย่าให้ฮวยมันต้องมากังวลกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย ไม่อยากสร้างปัญหาให้ต้องปวดหัวมากกว่านี้

"งั้นแค่นี้นะ แล้วเจอกัน"

ปลายสายวางไปแล้ว แต่เดียร์ยังกำโทรศัพท์ในมือเอาไว้แน่น ก่อนจะค่อย ๆ วางโทรศัพท์ลงบนพื้นและเอนหน้าก้มลงแนบซบบนฟูกนอน

ร่างกายยังสงบนิ่ง ดวงตาปิดสนิทเหมือนคนอยากนอนพักผ่อน
แต่เพียงไม่นานร่างกายกลับค่อย ๆ สั่นสะท้านแรงเร็วขึ้นในเวลาถัดมา

เสียงสะอื้นไห้ในลำคอ ที่พยายามสะกดกลั้นเอาไว้คงไม่มีใครได้รับรู้ ว่าเวลานี้กำลังรู้สึกทั้งเหงาทั้งเศร้ามากแค่ไหน

ยังไม่ทันไรก็เกิดปัญหาซะแล้ว

ปัญหาเล็ก ๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไรมากมาย

น้ำตาหยดลงที่ข้างแก้ม ทั้งที่พยายามจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่กลับทำไม่ได้

ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายกับสิ่งที่เกิดขึ้นนัก เรื่องไม่ได้ใหญ่โตจนต้องเก็บมาใส่ใจให้รกสมอง

เรื่องเล็ก ๆ
เรื่องเล็กน้อยแค่นิดเดียวสำหรับใครหลายคน

ก็แค่เรื่องที่เพิ่งจะรับรู้ในเวลานี้...........ว่าการคิดถึงใครสักคนจนแทบขาดใจมันเป็นยังไง

TBC

 :m15: :m15: :m15: กลายเป็นรักทางไกลไปซะแล้ว  :m15:

niph

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12:
เศร้า
ถึงแม้เรื่องจะดูเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






FOAM

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวฮวยก้อกลับมาแล้วน่า

เดียร์ไม่ต้องเศร้า

 :a1: :a1: :a1: :a1: :a1:

anna_007

  • บุคคลทั่วไป
 o16 ไมเอาไม่กลัว คู่ของฮวยกะเดียร์ยังไม่กลัวเลย

มามะคนดีของต้า ขอหยอกนิดนึง นะ นะ

 :loveu:

bamtham

  • บุคคลทั่วไป
เดียร์ กะ ฮวย  o13 o13

เค้าจาเป็นกำลังจายให้

dawa_11

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  ระยะทางพิสูจน์รักแท้สินะ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวก็กลับมา รักแท้ต้องมีอุปสรรคหน่อย  :a2:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะลงเอยกันซะทีเนี่ย...

ลุ้นกันเหนื่อยแล้วนะ

สงสารป๋าฮวยจะแย่แล้วววววววววววว

 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12 o12



 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:


 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
อ่านตอนนี้แล้วหวังว่าทุกคนคงมีรอยยิ้มกันบ้าง หลังจากให้ปวดตับกันมานาน หุ หุ หุ  :oni1:

เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน เนี่ยแหละของฝาก

"ว่าที่สุดที่รักกลับมาแล้วคร้าบบบบบบบบบ"

ไม่ได้เห็นหน้าเกือบเดือน ดีใจจนพูดเป็นคำพูดไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่งค้างและในเวลาไม่นานเมื่อตั้งสติได้ก็ต้องแกล้งทำหน้านิ่งเฉย จะทำเป็นตื่นเต้นยิ้มกว้างก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะตกใจกับท่าทางที่แปลกไป

"เออ" ตอบกลับออกไปอย่างนั้นและเดินกลับเข้ามาจัดการกับกองกระดาษและสีน้ำที่ยังวางอยู่เกลื่อนพื้นห้อง

"ง่วงนอนด้วย เนื้อยยยยยยยย เหนื่อย กว่าจะมาถึงได้ ขออาบน้ำก่อนนะ" ไม่ได้ฟังคำอนุญาตทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของห้อง รื้อค้นกระเป๋ากระจัดกระจายแล้วก็คว้าผ้าขนหนูเดินลิ่วเข้าห้องน้ำไปแล้ว

ไม่อยากจะเชื่อ

ไอ้ฮวยนะนั่น คนที่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องเวลานี้ คือไอ้ฮวยจริง ๆ

รื้อค้นของกระจัดกระจาย ทักทายด้วยคำพูดบ้า ๆ แล้วก็ทิ้งให้คนตื่นเต้น ยืนนิ่งและปั้นหน้าเรียบเฉยอยู่ที่เดิม

รอ
รออยู่เกือบสองอาทิตย์
คิดถึงจนกลัวว่าจะมากจนเกินไปด้วยซ้ำ
หางานให้ตัวเองทำ หาอะไรทำให้ยุ่งเหยิงเข้าไว้เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดมาก

แต่สุดท้ายก็กลับมานั่งรออีกจนได้
รอให้กลับมา และเมื่อกลับมาจริง ๆ กลับทำได้แค่ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกดีใจให้ออกนอกหน้าจนเกินไป

ทั้งที่ดีใจจนแทบแย่แล้วแท้ ๆ แต่ก็ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"นาเดียร์ ยาสระผมหมดทำไงดี"

เสียงตะโกนจากห้องน้ำทำให้คนที่ยังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง สะดุ้งสุดตัวและรีบลุกขึ้นทันที
ยาสระผมหมด ทำไงดี เอ่อ มันหมด
หมดเหรอ ไม่นะ ยังไม่หมดนี่ เห็นว่ายังอยู่นะ ยังใช้อยู่เลย วันก่อนก็ยังใช้

"เดี๋ยวนะ เดี๋ยว" รีบลุกขึ้นและเดินไปค้นหาของที่เพิ่งซื้อเอาไว้และเคาะประตูเรียกให้คนในห้องน้ำมารีบของที่ส่งให้

"ได้แล้ว" ตะโกนบอกแข่งกับเสียงน้ำที่ดังจนแทบกลบเสียง มีมือยื่นออกมาจากห้องน้ำเพื่อรับขวดยาสระผม แต่เมื่อยื่นของให้ ฝ่ามือเปียกน้ำของคนที่ยื่นออกมากลับคว้าข้อมือเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"เฮ้ยยยยยย" ตกใจและพยายามบิดข้อมือของตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุม แต่นอกจากฝ่ายนั้นจะไม่ยอมปล่อยกลับแกล้งโผล่หน้าออกมาและยิ้มร่านัยน์ตาพราวระยับจนเดียร์ต้องรีบหลบสายตาหนี

"อาบน้ำด้วยกันเถอะ"

ห่าแล้วมั้ยล่ะ ไม่เอายังไม่อาบ ไม่อยากอาบตอนนี้ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา

"ไม่ร้อน ไม่อาบ เฮ้ย ปล่อยแขนก่อน นี่ไงยาสระผมเอาไปสิ ปล่อยซะทีสิวะจะจับทำไมเนี่ย"

ทำเสียงฮึดฮัด และทำหน้างี่เง่าใส่ ทั้งที่ตกใจแทบตาย แต่นอกจากฮวยไม่ยอมปล่อยแล้ว ยังยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้เห็นหน้าลำบากใจของคนที่มายื่นขวดยาสระผมให้

"เดียร์จ๋า ถ้าบิดแขนมาก ๆ มือนี้คว้าประตูไว้ไม่ได้ แล้วประตูเปิดออก ถ้าเปิดออกปุ๊บ...นาเดียร์ก็จะได้........เห็นของดีเลยนะ....ฮ่า ฮ่า มาอาบน้ำด้วยกันเหอะนะจ๊ะ นะจ๊ะ"

ไอ้....ไม่รู้จะพูดอะไรกับมันแล้ว ไอ้ฮวย ไอ้เฮงซวยไอ้ ไอ้

เริ่มโมโหกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ มาถึงก็แกล้งเลย ไหนว่าเหนื่อย ง่วง อยากนอน แล้วทำไมถึงได้

"แหมอุตส่าห์จะเอาอะไรให้ดู โอเคไม่อาบก็ไม่อาบ อุตส่าห์ชวน แล้วจะบ่นเสียใจว่าไม่ได้เห็นของดีไม่ได้นะรู้เปล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

ตลก
ตลกนักนะ
ตรงไหนที่ว่าตลกวะ แกล้งกูนี่ตลกจังนะ ตลกเหลือเกิน

คนในห้องน้ำกลับเข้าไปอาบน้ำแล้ว ส่วนคนนอกห้องน้ำ เริ่มหงุดหงิดโมโห หันกลับไปมองประตูห้องน้ำแล้วก็เลยเดินไปเตะประตูห้องน้ำแก้โมโหโครมใหญ่

แต่กลับได้รับเสียงหัวเราะที่ดังลั่นกว่าเดิมกลับมา

"โธ่โว้ย"

แหกปากโวยวายให้ฮวยได้รับรู้ แล้วก็เดินมานั่งอยู่บนเตียง จัดการรวบสมุดที่วางเกลื่อนเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย บ่นพึมพำกับสิ่งที่คนแกล้งมันชอบแกล้งนักหนา

เพียงไม่นานที่บ่น
เพียงไม่นานที่โมโห

และเพียงไม่นานเมื่อเงยหน้าขึ้น ถึงได้รู้ว่าเวลานี้ตัวเองกำลังยิ้ม ยิ้มทั้งที่ยังหน้าบึ้ง ยิ้มทั้งที่โมโหกับการถูกแกล้ง

กลับมาแล้ว
ฮวยกลับมาแล้ว
รอมาสองอาทิตย์ แล้วฮวยก็กลับมา กลับมาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน

ตอนนี้กลับมาแล้วนั่นไง ตอนนี้กำลังอาบน้ำอยู่

กระเป๋าก็ยังวางอยู่ตรงนี้

กลับมาแล้วจริง ๆ นะ ฮวยมันกลับมาแล้ว

แล้วดูสิ่งที่มันทำนะ กลับมาถึงก็แกล้งทันที ไม่รู้จะสนุกอะไรกันนักหนา ไม่เข้าใจจริง ๆ

"เฮ่ย จ๊ะเอ๋ ยิ้มให้ใครจ๊ะ ยิ้มกับหนังสือได้ด้วยเหรอ"

สะดุ้งสุดตัวกับเสียงที่เอ่ยทัก และต้องรีบถอยห่างออกมาเมื่อได้เห็นหน้าของคนที่ก้าวเดินเข้ามายืนใกล้ๆ จนเต็มตา
"อะไร ไม่ได้ยิ้มเลย ไม่เห็นเหรอว่าไม่ได้ยิ้ม บ้าหรือเปล่าวะ ใครมันจะไปยิ้มเพ้อเป็นคนบ้าเหมือนคนบางคนได้ทั้งวันวะ"

แกล้งทำเป็นพูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อยเฉไฉไม่ยอมมองหน้าแล้วก็เดินไป หยิบจับคว้านั่นคว้านี่มาถือเอาไว้ จัดของในห้อง ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดที่จะจัด

เดินหนีวนไปวนมาโดยมีคนเดินตาม
ไม่รู้จะเดินตามทำไม อยากเดินนักไปเดินทางอื่นไม่ได้หรือไง เกะกะจริง ๆ

"อ้าว ไม่ให้ยิ้มได้ไง คนมันดีใจ ได้กลับมาเห็นหน้าเดียร์ทั้งที คิดถึง คิดถึง ได้ยินเปล่าว่าคิดถึง ได้ยินมั้ยคร้าบบบบบบบบ ได้ยินมั้ย"

ได้ยิน ได้ยินแล้ว ชัดมากจนไม่อยากฟังด้วย เลิกเดินตามมาพูดกรอกหูแบบนี้ซะทีไม่ได้หรือไง เห็นมั้ย หนังสือเล่มใหญ่กับเล่มเล็กมันสลับกันหมดจนเรียงไม่ถูกแล้ว ความผิดไอ้ฮวยมันทั้งนั้นเลยเนี่ย ความผิดไอ้ฮวย แล้วมันจะรับผิดชอบยังไงวะ

"แล้วเดียร์อ่ะ คิดถึงป่ะ"

ไม่

ตอบได้คำเดียวว่าไม่

กำลังจะอ้าปากพูด แล้วก็มีอันต้องหุบปากเงียบ เมื่อหันมาเจอกับใบหน้าของคนที่ทำเหมือนพูดเล่น แต่น้ำเสียงจริงจังจนไม่กล้าคิดจะพูดคำว่าไม่ออกไปอีก

"ว่าที่สุดที่รัก คิดถึงเดียร์นะ....เดียร์ไม่อยากตอบไม่ต้องตอบก็ได้ เพราะว่าที่สุดที่รักง่วงนอนแล้ว เหนื่อยจังเลย"

เห็นทุกอย่าง ทั้งท่าทางที่จริงจังและน้ำเสียงที่เอ่ยบอกไม่ได้มีแววล้อเล่นเลยสักนิด ฮวยแกล้งยกมือขึ้นปิดปากแสดงให้เห็นว่าเหนื่อยกับการเดินทางจริง ๆ ก่อนจะเดินไปทิ้งกายลงนั่งบนเตียงและคว้าหมอนมาวางเอาไว้จัดการกับที่นอนให้เข้าที่เข้าทาง และล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว

"เหนื่อยมากเลย ไม่กวนแล้วนะ ว่าที่สุดที่รักนอนแล้ว"

ว่าที่สุดที่รัก พูดซ้ำ ๆ อยู่ได้ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง ทำเหมือนไม่จริงจัง แต่ทำให้คนอื่นตื่นเต้น จนไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง แล้วก็เดินไปนอนกลิ้งบนเตียง บ่นว่าเหนื่อย ๆ แล้วก็หลับไปง่าย ๆ อย่างนี้เหรอ ไอ้บ้าฮวยมันร้ายนัก

"มานั่งตรงนี้หน่อยได้มั้ย" เห็นว่าฮวยยกมือขึ้นตบที่นอนสองสามครั้ง ก่อนจะปรือตาขึ้นและเอ่ยเรียกเสียงเบา เหมือนอยากขอร้องอยู่ในที

ไม่ได้จำใจเดินเข้าไปหาตามที่ถูกขอร้อง แต่เดินเข้าไปหาด้วยความเต็มใจโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายต้องเอ่ยบอกซ้ำอีก

นั่งอยู่ข้าง ๆ คนที่นอนเหยียดยาวแล้วก็ถูกคว้ามือไปกุมเอาไว้แน่นโดยที่ฮวยไม่ได้ขอหรือรอให้อนุญาตเลยด้วยซ้ำ

"ที่จริงอยากกอด แต่กลัวถูกเตะเหมือนที่เดียร์เตะประตูห้องน้ำ...โดนเตะคงเจ็บแย่ ยังไม่พร้อมทะเลาะกับเดียร์เลย ต้องชาร์จพลังก่อนถึงจะลุกขึ้นมาทะเลาะด้วยได้นะ ขอนอนพักแป๊บเดียว"

คงจะเหนื่อย

ถึงจะพูดไปยิ้มไป แต่สีหน้าท่าทางที่แสดงออกก็ทำให้รู้ว่าคงเหนื่อยกับการเดินทาง

"จับมือแค่เนี้ยะ ไม่รู้ตื่นมาจะถูกชกหรือเปล่า รำคาญหรือเปล่า ถ้ารำคาญไม่จับแล้วก็ได้นะ"

เปล่าไม่ได้รำคาญ เพียงแต่คิดว่า....ถ้าเหนื่อยขนาดนี้ไม่ต้องพูดอะไรแล้วก็ได้ อยากให้นอนพักมากกว่าไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ได้ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่อยากให้นอนพักผ่อนแค่นั้น

"ฮวย....."

เรียกชื่อของคนหลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และเอื้อมมือแตะที่หลังมือของคนที่หลับตานิ่ง ๆ อยู่บนเตียง

"อือ ฟังอยู่"

ไม่ต้องฟังมากหรอก มันไร้สาระ นอนไปเถอะ ไม่ได้อยากให้ฟังอะไรเลย เพราะฟังแล้วอาจนึกโมโหก็ได้

"ไหนของฝากอ่ะ ไม่เห็นมีเลย"

อยากจะซึ้งแต่กลับต้องหัวเราะลั่นและปรือตาตื่นขึ้นมาดูหน้าของคนที่ทำหน้ามุ่ยถามหาของฝาก
นาเดียร์ คนกำลังซึ้ง ดันมาถามถึงของฝาก ไปรื้อเอาเลยโน่นอยู่ในกระเป๋า เดี๋ยวเหอะ นาเดียร์นี่มันยังไงเดี๋ยวก็หัวเราะให้ตายไปเลย

"โห่ ไอ้เราก็อุตส่าห์นึกว่าจะบอกว่าคิดถึงฮวยจังเลยจ่ะ หรือไม่ก็ ฝันดีนะจ๊ะ จุ๊บ ๆ แล้วดันมาทวงของฝากซะได้ ดีนะที่ซื้อมาไม่งั้นสงสัยโดนด่าอีก เดี๋ยวนะเดี๋ยวหาให้"

ลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว และยังหัวเราะไม่เลิก ของฝากเหรอ อยู่ในกระเป๋า เดี๋ยวจะไปหยิบให้เดี๋ยวนี้แหละ

ฮวยกำลังจะก้าวลงจากเตียง

แต่กลับต้องยิ้มกว้างมากขึ้น เมื่อคนที่เอาแต่ทวงของฝาก โผเข้ามาหา และกอดเอาไว้แน่น แบบที่ไม่ทันให้ตั้งตัวเลยสักนิด

"ไหนของฝาก ไม่เห็นมีเลย อยากได้ของฝากแล้ว"

ยังได้ยินเสียงพูดที่ยังดังแผ่ว ๆ อยู่ที่ข้างหู และสัมผัสได้ถึงเรียวแขนที่กอดรัดเอาไว้แน่นจนต้องยกมือขึ้นกอดตอบเดียร์เอาไว้

อะไรเนี่ย ทำไมถึงได้..........ดีใจนะเนี่ย รู้มั้ย รู้บ้างมั้ยว่าดีใจ

ยิ้มเพราะมีความสุข

ยิ้มเพราะดีใจ

กอดให้สมกับที่อยากกอด ให้สมกับที่คิดถึง โอบแขนกอดรัดเดียร์เอาไว้ และยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดกับสิ่งที่ได้ตอบกลับมาในครั้งนี้

"คิดถึงเดียร์นะ คิดถึงเดียร์ที่สุดจริง ๆ นะ คิดถึง คิดถึง"

พร่ำพูดแต่คำนี้ซ้ำซาก แต่ก็อยากจะบอกให้รับรู้มากขึ้น

หลับตาลงอย่างมีความสุขและซึมซับรับไออุ่นของร่างที่โผเข้ามากอดเอาไว้แน่น

ดีใจยิ่งกว่าดีใจ

ดีใจจนพูดไม่ออกกับสิ่งที่เดียร์แสดงออกให้รับรู้ในเวลานี้

"เดียร์อย่าทำให้เป็นบ้าสิ ยิ้มจนปากจะฉีกอยู่แล้วรู้มั้ย แค่นี้ก็ดีใจจนจะตายอยู่แล้ว เดียร์เอ้ย"

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ

อยากให้เดียร์แสดงความรู้สึกแบบนี้ออกมาให้เห็นบ้าง

เดียร์รู้มั้ย

ถ้าไม่รู้อยากให้รู้เอาไว้

หัดอ้อนแบบนี้ให้มันเยอะ ๆ บ้างเถอะ เพราะยิ่งทำแบบนี้มากเท่าไหร่ คนถูกอ้อนก็ยิ่งดีใจกับสิ่งที่ได้รับทุกที ที่เดียร์ยอมทำ

TBC.....

ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม  :m13:

ballza

  • บุคคลทั่วไป

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
บอกได้คำเดียวว่า  :pig3: :pig3: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด