SP Chapter :: Tea & Black :: ชาดำ~* [3]
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงแสงสว่างที่กระทบเปลือกตา… จมูกได้กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้อง... นี่ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?... หลับไปนานแค่ไหนแล้ว ?...
เมื่อกวาดสายตาหาอีกคนหนึ่งก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า... ความสุขที่ผมได้รับนั้น เมื่อเทียบกับความทุกข์ที่ถาโถมตามมาหลังจากได้รับมันแล้วราวกับหยดน้ำผึ้งบนใบมีดโกน... ความหวานเพียงปลายลิ้นเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บของคมมีดที่กรีดเข้าสู่เนื้อของผม...
เกือบจะสิบโมงแล้ว... ใกล้ถึงพิธีแต่งงานเต็มทน... ไม่อยากไปเลย... ยังไม่ผ่านเวลานั้นไปอีกเหรอเนี่ย ?....ผมนอนซุกศีรษะลงบนหมอนอย่างขี้เกียจ... ก่อนเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะโคมไฟ... ลายมือตวัดเขียนด้วยภาษาอังกฤษ... ลายมือเขาอ่านยากมาก ให้ตาย... จะรีบเขียนไปไหน
I’ll come back, If you wait for me.
เฮอะ! ..จะกลับมาทำไมอีกเล่า...
ผมถอนหายใจ ตัดสินใจรีบอาบน้ำและเดินทางไปโบสถ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้... หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมกับเขาจะได้พบหน้ากัน....
เมื่อมาถึงโบสถ์สีขาวสะอาดตา ..ภายนอกประดับตกแต่งดอกช่อดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดวางเป็นซุ้มอย่างสวยงาม
แขกที่มาร่วมพิธีก็เข้าไปข้างในกันหมดแล้วเหลือเพียงแต่นักข่าวกับคนประสานงานไม่กี่คนที่วิ่งวุ่นเพื่อให้พิธีดำเนินไปตามที่ได้วางแผนไว้ ผมชั่งใจอยู่นานว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่.. จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตัวโบสถ์
.. ที่นี่เป็นโบสถ์ที่สวยมาก... หน้าต่างฉลุรายละเอียดเล็กยิบย่อยราวกับผ้าลูกไม้โปร่งบางที่ปล่อยให้แสงส่องผ่านเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับสถานที่ ....คนที่ได้เข้าพิธีวิวาห์ที่นี่คงจะเป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย...
เพิ่งจะเริ่มพิธีจุดเทียน.. แผ่นหลังของผู้ร่วมงานนับร้อยดูลายตาไปหมด ผมไม่รู้ว่าตนเองสมควรจะอยู่ส่วนไหนของงาน แต่โชคยังดีที่สายตาของผมปะทะกับทรงผมอันโดดเด่นของผู้ชายคนหนึ่ง...
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?” ผมกระซิบถาม เมื่อเดินมานั่งลงยังที่หมาย.. ผมนั่งอยู่เยื้องข้างหลังกัณฐ์ แอบมองเส้นผมที่ชี้ฟูเป็นเกลียวยุ่งเหยิง มันดูเหมือนฟองน้ำสีดำพอง ๆ ครอบศีรษะของเขาไว้ ถ้าอยู่ต่างชาติผมอาจมองมันเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่ออยู่เมืองไทยแล้วมันกลับดูแปลกตา... แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ผมกลัว...
“เพิ่งมาถึงไม่กี่วันนี่เองฮะ เธียรบอกว่าจะมาเล่นเปียโนในงานนี้ให้ได้ เลยต้องกลับมาซ้อม ...ผมเลยถือโอกาสทำทรงนี้ซะเลย” กัณฐ์ยิ้มกว้างบอก แถมยักคิ้วจัดทรงผมที่ชี้ฟูของตนอย่างแสนภาคภูมิใจ ...ผมมองคนที่กำลังดีดเปียโนอย่างคุ้นตา... นึกภาพออกทันที ว่าตอนที่เขาเจอหน้าคนรักที่มาพร้อมกับทรงผมใหม่แล้วจะรู้สึกเช่นไร....
“แล้วทำไมวันนี้พี่แบล็คถึงมาสายได้ล่ะฮะ ?” กัณฐ์เอียงคอถามผมอย่างสงสัย
“...ตื่นสายน่ะ”
“พี่แบล็คอ่ะนะ ตื่นสาย ?” เขาขึ้นเสียงสูงถามด้วยหน้าตาตื่น
“ทำไมเหรอ ?” ผมถามงง ๆ
“แปลกน่ะสิฮะ พี่แบล็คเคยตื่นสายเสียที่ไหน ถ้าเป็นไอ้บลูกับไอ้บราวน์ล่ะก็ว่าไปอย่าง” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกัณฐ์เหลือบมามองผม.. เขาอาจรำคาญที่เราคุยกันในระหว่างพิธี แต่เปล่า ..ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ผมนิดหนึ่งก่อนยกมือไหว้..
“สวัสดีค่ะพี่แบล็ค” พอได้ยินเสียงใส ๆ บวกกับท่าไหว้อันแสนงดงามแล้ว ผมนึกออกทันทีว่าเธอคือน้องสาวของพี่ธีร์นี่เอง ...
“สวัสดีครับน้องธา..”
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“ครับ.. น้องธาสวยขึ้นนะครับ”
“ฮะ ๆ พี่แบล็คก็พูดเกินไปค่ะ” ธาหัวเราะเขิน ๆ ก่อนหันไปมองชายวัยกลางคนที่นั่งข้างและแนะนำผมให้กับเขา..
“อ่า.. พ่อคะ นี่พี่แบล็คค่ะ พี่ชายของกัณฐ์” ผมยิ้มฝืดเฝื่อน.. รีบยกมือไหว้และกล่าวคำทักทายกับญาติผู้ใหญ่ของธา...ดันพูดจาแบบนั้นต่อหน้าพ่อของเธอระยะเผาขน...เขาจะมองผมยังไงล่ะเนี่ย ?
ผู้ชายวัยกลางคนหันมารับไหว้ ดวงตาสีสนิมมองสำรวจผมชั่วขณะหนึ่งก่อนหันกลับ... ผมพอจะเดาออกแล้วว่าทำไมครอบครัวนี้ถึงดูดีเอาเสียมาก ๆ เพราะพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งตะวันตกที่ดูแสนจะเจ้าระเบียบ เสื้อผ้าเนี้ยบ จีบคมกริบ.. ถึงแม้จะสูงวัยแล้วแต่ก็ยังมีเค้าความคมคายให้เห็น..
เมื่อเจ้าบ่าว.. เดินมาที่แท่นพิธี ผมมองดูเขาทุกย่างก้าว... สูทสีขาวดูไม่เข้ากับเขาเสียเลย เขาเหมาะกับสีเข้ม ๆ มากกว่า..
ไม่รู้เพราะอะไร คนที่นั่งอยู่ก็มีตั้งมากมายแต่เขาดันหันมาสบตากับผมพอดิบพอดี.. ผมเป็นฝ่ายหลบตาเขา... ดูเหมือนเขามีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งอยู่ในที่นี้ด้วย..
เมื่อเธียรเริ่มบรรเลงเพลง ผู้ร่วมงานต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาว ...อดชื่นชมความไพเราะและสมบูรณ์แบบของบทเพลงที่เขาบรรเลงขับกล่อมไม่ได้..
....ใกล้จะถึงเวลาที่ผมต้องตัดขาดจากเขาจริง ๆ เสียที...
แล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย.. เด็กผู้หญิงโปรยดอกไม้ตามทางเดินเข้ามาภายในโบสถ์ ตามด้วยเด็กผู้ชายที่ถือหมอนรองแหวน เพื่อนเจ้าสาวและชายสูงวัยที่คล้องแขนเจ้าหญิงของงานที่สวมชุดสีขาวฟูฟ่อง.. ทุกย่างก้าวของเธอราวกับจะสะกดลมหายใจของคนรอบข้างเอาไว้...
พี่เอ็กซ์เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ.. ริมฝีปากอิ่มถูกทาเคลือบด้วยสีพีชหวาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบกันบนใบหน้าเธอนั้นช่างงดงามเหมาะเจาะ...
ผู้ปกครองของฝ่ายหญิงส่งตัวเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวได้ยืนเคียงข้างกัน.. คงเพราะสถานที่ ที่แสนสวยงามด้วยล่ะมั้ง จึงทำให้ใครหลายคนต่างมองภาพนั้นด้วยความปลื้มปิติ.. ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ผม...
ผมได้แต่นั่งเหี่ยวเป็นสักขีพยานให้กับความรักของพวกเขา... แอบเช็ดของเหลวใสที่ออกจากจมูก ...น้ำมูกของผมไหลออกมาก่อนน้ำตาเสียอีก.. แย่ชะมัด...
บาทหลวงผู้ประกอบพิธีอ่านข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวฟัง ก่อนจะเอ่ยถามคำปฏิญาณ
“ท่านจะรับนายธานินทร์ ศุกะศุภางค์เป็นสามี ไม่ว่าจะยามสุข หรือทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย จนกว่าจะตายจากกันหรือไม่”
“...ฉ...ฉัน...” เสียงของพี่เอ็กซ์แผ่วเบาและลังเล... เธอสบตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่เคียงข้าง ...สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเต็มเสียง
“ฉัน ไม่...”
“....ผมขอคัดค้านการแต่งงานครับ” เสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างนิ่มนวล ...จบคำก็ตามมาด้วยเสียงฮือฮา ผมที่น้ำตากำลังจะเริ่มไหลได้แต่เบิกตาชะงักนิ่งราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น..
ผมหันไปมองผู้ชายผิวขาวจัดที่ยืนอยู่ฝั่งญาติของเจ้าสาว... ผมคุ้นหน้าเขา เหมือนจะเคยเห็นแต่ก็นึกไม่ออก... คิดอยากสวดขอบคุณพระเจ้าของศาสนาคริสต์ที่ทำให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น...
พี่เอ็กซ์หันกลับมามองเจ้าของเสียง ปล่อยให้น้ำตาไหลพราก.. มาสคาร่าสีดำไหลลงมาพร้อมกับหยดน้ำตาจนดูเหมือนน้ำตาของพี่เอ็กซ์เป็นสีดำ ...เธอยิ้มและหัวเราะเบา ๆ ให้กับผู้ชายคนนั้น ...น่ากลัวพิลึก...
“เธอประสาทเสียไปแล้วรึ อาร์!” เสียงแข็งตวาดถามจากหญิงชราคนหนึ่งที่เป็นญาติของพี่เอ็กซ์... นึกออกแล้ว! ผู้ชายคนนั้นคือน้องชายของพี่เอ็กซ์
“อย่าว่าอาร์เลยค่ะ ...หนูผิดเองค่ะ...”
“เอ็กซ์ นี่แกก็บ้าตามมันไปด้วยเรอะ!!”
“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ คุณย่า.. หนูแต่งงานกับคนที่ไม่รักไม่ได้” พี่เอ็กซ์บอกกับหญิงชราที่นั่งตัวแข็ง
ย่าของพี่เอ็กซ์เริ่มทรงตัวไม่อยู่ ร่างบอบบางนั้นโอนเอียงจนคนอื่น ๆ ต้องรีบเข้ามาช่วยประคอง... เสียงโวยวายตามมาด้วยเสียงประตูของโบสถ์เปิดออกพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งยืนหอบแฮ่ก ก่อนตะโกนดังลั่น
“ผมขอคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ครับ!!” ภายในโบสถ์เงียบกริบ... ผมมองหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ชัดนัก เนื่องจากแสงสว่างค่อนข้างจัดที่สาดส่องเข้ามาทางด้านหลังของเขา แต่การแต่งกายนั้นดูเหมือนจะไม่เหมาะกับงานพิธีแบบนี้ซักเท่าไร..
“แกมาสายไปแล้ว ไอ้เด็กบ้า!!” พี่เอ็กซ์หน้าแดงตวาดเสียงแหลม... ปาดอกไม้ช่อใหญ่แต่มันตกลงกลางโบสถ์ ไปไม่ถึงผู้ชายคนนั้น
“..ฉัน..นึกว่าแก...จะไม่มาซะอีก...” เธอร้องไห้ วิ่งเข้าไปกอดผู้ชายคนนั้นแน่น...
ในความคิดของผมแล้ว...นี่เป็นภาพที่ดูสวยงามยิ่งกว่าตอนที่พี่ธีร์กับพี่เอ็กซ์ยืนคู่กันเสียอีก ผมได้แต่มองพวกเขาเงียบ ๆ .......ที่แท้พี่เอ็กซ์ก็มีคนรักอยู่แล้ว... ถึงได้ชอบทำหน้าหมอง ๆ เวลาพูดถึงเรื่องแต่งงาน.... ....พวกเขาไม่ได้รักกัน....
นักข่าวพากันกรูเข้ามาถ่ายภาพของทั้งคู่ พวกเขาหัวเราะสดใส รีบจับมือวิ่งเคียงคู่กัน... จนหายลับไปจากบริเวณพิธี....ผมนั่งสมองเบลอได้ไม่นานนัก ก็ถูกมือเรียวเล็กของน้องธาลากออกมาบริเวณลานจอดรถ.. ไอ้พี่ธีร์เปลี่ยนชุดยังกะเตรียมการมาแล้วล่วงหน้ายังไงอย่างงั้น...
“ยืมรถด้วยสิ” ธายื่นกุญแจรถของเธอให้พี่ชายอย่างว่าง่าย
“ขอบใจมาก” พี่ธีร์พยักพเยิดให้น้องสาว ก่อนดึงตัวผมเข้าไปใกล้
“สบายมากค่ะ เดี๋ยวหนูไปเคลียร์ข้างในก่อน” ธาทำมือตะเบ๊ะ ขยิบตาให้ผม
ผมได้แต่ยืนงง... พี่ธีร์เปิดประตูรถและดันผมเข้าไปนั่งข้างใน....เสียงล็อคประตูดังขึ้นเบา ๆ... ผมทำอะไรไม่ถูก ตามเหตุการณ์ไม่ทัน เหมือนถูกเขาเหวี่ยงขึ้นไปบนอากาศแล้วปล่อยให้ตกลงมาโดยไม่มีอะไรรองรับ กระแทกพื้นจนสมองไหล...
“นี่มันอะไรกัน..?” ผมถามเขาเบา ๆ
“ฉันไม่นึกว่าเธอจะมาไหว” พี่ธีร์ตอบไม่ตรงคำถาม มองกระจกขับเคลื่อนรถออกจากโบสถ์... ไม่สนใจผมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ...
“นี่...มัน....อะ....ไร....กัน....!” ผมถามย้ำอีกครั้ง โดยพยายามย้ำทุกคำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น... เผื่อเขาจะหูตึง...
“งานแต่งงานไง” พี่ธีร์ยิ้มบอก... รู้สึกเหมือนเลือดในกายของผมจะเดือดปุด ๆ อยากจะระเบิดออกมา...
“คุณธานินทร์! คุณกำลังกวนประสาทผม!”
“.. ฉันกวนประสาทเธอเหรอ ?”
“ทั้ง ๆ ที่คุณก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้แต่คุณก็ไม่บอกผม!” ผมอดโมโหไม่ได้ นึกอยากฆ่าเขาให้ตายเสียตรงนี้.. ปล่อยให้ผมร้องไห้ฟูมฟายโดยเปล่าประโยชน์... โคตรน่าอาย...
“ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ซักหน่อย... ใครจะไปรู้อนาคตได้” พี่ธีร์ก็ยังเถียงไปได้เรื่อย ๆ ตามสไตล์ขี้ตอแหลของเขา ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าพ่อแม่ของเขาเลี้ยงมาได้ยังไง..
“คุณนี่มัน!” เขาเป็นแบบนี้ทุกที.. มีอะไรก็ไม่เคยบอก...
“เธออยากไปทะเล ภูเขาหรือว่าน้ำตก ?”
“ไปทำไม ?”
“ฉันต้องการพักร้อนเลียแผลใจ”
“เลียแผลใจบ้าอะไร ?”
“เธอก็เห็น ฉันถูกปฏิเสธในงานแต่ง”
“สมน้ำหน้า” ผมเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เต็มทน..
“เฮ้อ..! ใครกันน้า ที่บอกว่ารักฉัน... รักนักรักหนา...”
“อ...ไอ้....” ผมพยายามสรรหาคำจะด่าเขา.. แต่เปลี่ยนใจนั่งเงียบ ๆ ดีกว่า... บอกตามตรงว่าตอนนี้ผมอยากมุดลงไปใต้คอนโทรลรถ ผมไม่น่าโง่หลงกลเขาหลายต่อหลายครั้ง..
ผมผ่อนลมหายใจ พิงเบาะ.. พลางนึกว่าถ้าหากเขาต้องเป็นฝ่ายรับคำปฏิญาณก่อนล่ะก็ เขาจะตอบว่าอย่างไร...? แท้จริงแล้วเขาเคยเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างหรือเปล่า ?....ความปลอดโปร่งในสมอง ผสมกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อคืนทำให้ผมผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว....
ธีร์ยิ้ม มองดูผู้ชายที่ไม่กี่ปีก่อนยังเป็นแค่เด็กงี่เง่าที่ชอบดื้อกับเขาไม่รู้จักเวล่ำเวลา.. เมื่อคืนเขาเกือบใจอ่อนไปแล้ว... แต่เขาวางแผนรองรับไว้แล้วหลายชั้น... จะให้มันเหลวไม่เป็นท่าก็กระไรอยู่ ต้องยอมหักหาญน้ำใจคนตรงหน้า... แต่ถ้าจะให้พูดจริง ๆ คือ เขาอยากเห็นแบล็คร้องไห้... เท่านั้นเอง...
เขารู้ว่าแบล็คเจ็บเพราะเขามามากมายแค่ไหน ...แต่ถึงแม้เด็กผู้ชายคนนี้จะโกรธและหนีเขาไปจนสุดปลายฟ้า เขาก็จะตามกลับมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาให้จงได้....
ผมรู้สึกรำคาญ เหมือนมีตัวอะไรไต่ตามร่างกาย พยายามปัดออกไปแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ยอมไปไหน...
“แบล็ค ..” เสียงทุ้มเรียกเบา ๆ ข้างใบหูของผม มือหนาเขย่าตัวของผมซ้ำอีกหลายครั้ง...
“หือ... ?” ผมครางตอบในลำคอ... กระพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับแสง ก่อนมองดูรอบตัว.. ยังอยู่ในรถอยู่เลยนี่... เพียงแต่ที่นั่งของผมถูกปรับให้นอนลง...
“..ที่ไหนอ่ะ...คุณธานินทร์..” ผมลุกขึ้นถามงัวเงีย.. เขาบอกว่านี่เป็นบ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้มีดีไซน์ที่ประหลาดดี.. เขาเลยอยากพาผมมาดู...ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงไปสูดบรรยากาศธรรมชาติ มือปลาหมึกของเขาก็เริ่มทำงาน
“..อย่าแตะต้องผม” ผมส่งเสียงหงุดหงิด ตีเนื้อแน่น ๆ ของเขาไปหลายที แต่เขาไม่รู้จักหลาบจำ.. เคลื่อนตัวใหญ่ ๆ มาคร่อมทับตัวผมจนได้..แถมยังยิ้มแบบกวนประสาทให้อีก... ตัวเราสองคนก็ไม่ได้เล็ก ๆ พอมาอยู่เบาะเดียวกันก็ยิ่งอึดอัด ขยับตัวแทบไม่ได้
“เรียกฉันเหมือนเดิมสิ..” ดูคำเรียกร้องของเขาสิ.. ในหัวมีแต่เรื่องไร้สาระ ยังกับเด็ก...
“หยุดได้มั้ย.. นี่มันในรถ แค่คุณเดินลงไปไม่กี่ก้าวก็ถึงบ้านแล้ว” ผมพยายามพูดกับเขาดี ๆ
“สนใจไหมล่ะ ?”
“ผมสนใจ!”
“นี่! ไอ้คุณธานินทร์!!” ผมเริ่มหมดความอดทนเมื่อมือของเขารุกรานเข้าสู่พื้นผิวใต้ร่มผ้าของผม
“จะยอมเรียกฉันเหมือนเดิม ...หรืออยากให้ฉันรื้อฟื้นความหลัง ?” ทางเลือกของเขาทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างยอมจำนน...
“โอเค ๆ .....พี่ธีร์” เขายิ้มนิด ๆ อย่างผู้ชนะ ...กดจูบเบา ๆ ลงบนริมฝีปากของผม แต่ผมก็ยกมือขึ้นเช็ดอย่างรวดเร็ว.. เขาจึงโน้มตัวลงมาอีกครั้งหนึ่งด้วยจูบที่หนักหน่วงขึ้นพร้อมสำทับเสียงเข้ม..
“ห้ามเช็ด!” แต่ผมก็ยกมือขึ้นเช็ดอีกนั่นแหละ สุดท้ายเรื่องก็จบลงเช่นเดิม.. ผมไม่รู้ว่าถูกเขาจูบอีกกี่ครั้ง จนเจ็บริมฝีปากไปหมด มันถูกเขารุกรานจนบวมเจ่อและแดงช้ำ.. จนผมอดบ่นไม่ได้
“พี่ธีร์ชอบทำแรง ๆ อ่ะ ผมเจ็บนะ ..ถนอมกันมั่งดิ”
“ก็ฉันหมั่นเขี้ยวเธอ”
“หมั่นเขี้ยว ?”
“อืม... เวลาเธอร้องไห้น่ารัก”
“ซาดิสม์ที่สุด...” แก้มของผมรู้สึกร้อน มันถือเป็นคำชมหรือเปล่า ? ...แต่ถ้าต้องถูกทำให้ร้องไห้บ่อย ๆ ด้วยวิธีของเขาล่ะก็ผมคงไม่ยินดีซักเท่าไหร่หรอก....
ผมเดินสำรวจในตัวบ้าน.. ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยแต่ยังคงสะอาด เขาบอกว่ามีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์... ดีไซน์ของสถาปัตยกรรมและของตกแต่งในบ้านประหลาดอย่างที่เขาพูดจริง ๆ แต่มันก็ดูลงตัวและทันสมัย ตัวบ้านถ้าหากดูภายนอกเหมือนกันเป็นอะไรที่บิดเบี้ยวและผิดส่วน แต่เมื่อเข้ามาข้างในแล้วก็รู้เหตุผลว่าทุกอย่างนั้นถูกทำให้สอดรับกับของตกแต่งภายในบ้าน...
พอเขาอาบน้ำเสร็จก็ยื่นผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าของเขาส่งให้ผมแล้วไล่ไปอาบน้ำ...เสื้อของเขามีกลิ่นตัวของเขาติดอยู่นิด ๆ ... พอผมใส่แล้วมันหลวมโพรก... ไม่เหมาะกับผมเอาเสียเลย... เมื่อผมจัดการธุระของตัวเองเสร็จก็พบว่าเขาจัดเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว
“เอามาจากไหน ?” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็อาหารกระป๋องน่ะ ซื้อตอนแวะปั๊ม” เขาตอบเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง ก่อนจะเดินไปฝั่งตรงข้าม ผมนั่งลงรับประทานอย่างว่าง่าย... ความจริงผมก็หิวอยู่เหมือนกัน... ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าแล้ว...
“แต่งงานกันมั้ย ?”
“ค...คุณว่าอะไรนะ ?” ผมสำลักข้าว ย้ำถามเขาอย่างไม่แน่ใจ...
“ฉันถามว่าแกงอร่อยมั้ย ?” เขาตอบยิ้ม ๆ แอบหัวเราะเบา ๆ
“..ไอ้คนขี้โกหก” ผมหรี่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ...
“ฉันเคยโกหกเธอเหรอ ?” เขาทำหน้าเหรอหรา.. เหมือนจะบอกว่าไม่เคยโกหกเลยจริง ๆ นะ...
“เคย!!”
“เรื่องอะไร ?” ผมพยายามนึก แต่กลับไม่มีซักครั้งเลยที่เขาพูดปดกับผม.. มีแต่พูดจาไม่เคยเคลียร์หรือพูดให้เข้าใจผิดไปอีกทางหนึ่ง... เป็นไปได้ไง มันต้องมีซิหน่า... เพียงแต่ตอนนี้ผมยังนึกไม่ออก
“เมื่อกี้นี่ไง!”
“ก็เมื่อกี้คุณไม่ได้ถามว่าแกงอร่อยมั้ย”
“แต่ถามว่า.. แต่งงานกันมั้ย ?”
“...เอาสิ” เขายิ้มหวาน ตอบรับคำพูดของผมอย่างหน้าตาเฉย...
“อ...ไอ้...ไอ้พี่ธีร์!!...” ผมรู้สึกร้อนหน้าไปหมด รู้เลยว่าหน้าตัวเองกำลังแดงเถือก... ผมหลงกลเขาอีกแล้วใช่มั้ย ?? เขาหัวเราะชอบใจลุกขึ้นดึงตัวผมเข้าไปกอด
“...” เสียงกระซิบบอกแผ่วเบาข้างใบหู ...คำพูดที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน ...ออกมาจากปากของเขา.. ผมได้แต่นิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น...
“เป็นอะไร ?”
“เมื่อกี้... อะไรนะ ?” ผมถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจตัวเองนัก... พี่ธีร์ยิ้ม ก่อนเอ่ยอีกครั้ง
“...ฉันรักเธอ”
“...โกหก” คำพูดของผมแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ... ร้อนขอบตาไปหมด นี่เขาตั้งใจจะแกล้งให้ผมร้องไห้อีกแล้วใช่มั้ย ?...... แถมมันยังได้ผลดีเสียด้วยสิ....
“ฉันเคยโกหกเธอเหรอ ?” เขาเลิกคิ้ว เอ่ยคำถามเดิมซ้ำ ...ผมปล่อยให้หยดน้ำตากลิ้งไหลออกจากดวงตาทั้ง 2 ข้างอย่างควบคุมไม่อยู่... ส่งเสียงสะอึกสะอื้น กอดตัวโต ๆ ของเขาไว้แน่น... แต่จู่ ๆ พี่ธีร์ก็อุ้มตัวผมวางลงบนโต๊ะหน้าตาเฉย..
“...อยากลอง..บนโต๊ะอาหารมั้ย ?” เขาถามเสียงกระเส่าข้างใบหู... ขอผมซึ้งซักนาทีไม่ได้เลยรึไง ? คิดถึงแต่เรื่องใต้สะดือตลอด....
“...ตรงไหนก็ได้.. ที่มีพี่ธีร์” แต่ปากของผมดันตอบไปแบบนั้น... โคตรน่าอาย.....ผมช้อนตาขึ้นสบตากับเขา คล้องแขนรอบลำคอหนา...
...ผมได้แต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโต๊ะตัวนี้จะแข็งแรงพอรับน้ำหนักของผมและแรงจากเขาได้.. โดยไม่หักไปเสียก่อน...
+++++++++++++++++++++++++++++ จบบริบูรณ์
:m3:อ๊าาาา จบล่ะน่ะค่ะ ถูกใจไหม สำหรับเหตุผลของพี่ธีร์ ที่ทำมาทั้งหมด สุภาพบุรุษก็เงี้ย อย่าโกรธเค้าเลย หมดพันธะ พี่แกก็จัดเต็มไม่มีกั๊กกันเลยทีเดียว คึคึ
พีเอสซึ.สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ poes, โจ๊กกุ้ง, JJHJJH, oaw_eang(ผู้ท้วงติงเรื่องการขออนุญาติ), qq_oo, roseen, samsoon@doll, nigiri-sushi, Zurruz,tantalize, O[]OVampire, ovam, kny, ๛NaaribuS๛, akera, หมวยลำเค็ญ, sangsom, rellachulla, yayee2, som, saylmya, namngern, SuSaya, chatcha, winndy, Ainsley, drasil, t2007, monoo, namwaan1992, chae, litilttledragon, drasil, loveunomore, k00_eng^^, mamaUM, arun do d, sorso, nam-nueng, momo9476, monoo, pklove, MiU, ลิงน้อยสุดเอ๋อ, KaT@MiCkY, mini_bilieber, →Yakuza★, Still_140C, the_pupae, ChCh13, anuruk97, dolphins, shockoBB, agava1313, mister, silverphoenix, Nuk, pochu52, heaven13, rimdadfa, mana_ai, FiZZ, cocoaharry, rimdadfa, และขาดไม่ได้คือ คุณ YenOh (ผู้แต่ง) พร้อมทั้งผู้ที่ไม่ได้เอ๋ยนามทั้งหลาย ที่ติดตามและอยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนสุดท้าย กราบขอบพระคุณงาม ๆ พร้อมกด +1 แจกให้ทุกท่าน พร้อม แจกเป็ดให้ทุกคนด้วยน่ะค่ะ :m1:ปลาบปลื้มที่สุด แล้วพบกันค่ะ