-13-
หลังจากทำภารกิจกันเสร็จแล้ว ผมก็ได้แต่นั่งมองเพื่อน ๆ อย่างเอ๋อ ๆ
“คลื่นตรงนี้เป็นแอนตี้โนท (Antinode) นะ ก็แทนสูตรแล้วก็ได้คำตอบเลย ลองดูดี ๆ” หัวหน้าอธิบายชล ที่กำลังนั่งขยับแว่นหนา ๆ ของเธออยู่
“กัณฐ์มีอะไรจะถามมั๊ย ?” หัวหน้าเข้ามาคุยกับผม
ผมส่ายหัวอย่างไม่ต้องคิด
“นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วนะ เริ่มอ่านได้แล้วล่ะ” หัวหน้าบอกผม
ผมได้แต่พยักหน้าหงอย ๆ ....แล้วหัวหน้าก็ส่งหนังสือชีวะเล่มหนามาให้ผม.... - -* .... เพื่ออะไรค้าบบบบ!!
“รอน ๆ ทางนี้หน่อย” ฝ้ายส่งเสียงเรียก
“อ๊ะ เดี๋ยวมานะ” พอหัวหน้าไปผมก็นั่งจ๋อย เหลือบไปมองไอ้ภีมกับหญิงบีมที่นั่งจิบโค้กชมวิวอ่านหนังสือกันอยู่ริมระเบียงก็รู้สึกหยอง ๆ ไงพิกล
“ไง.. ไม่อ่านเหรอ ?” เธียรถามผมเบา ๆ
“ทำไม!” ผมตอบเสียงแข็งกลบเกลื่อนความอาย
“ฉันสอนให้เอามั๊ย ?” เธียรถามยิ้ม ๆ เอื้อมมาจับมือของผม
ผมสะดุ้งรีบดึงมือกลับ… แต่นิ้วสาก ๆ ของเขาเหนียวแน่นหนึบ ไม่มีการปล่อยให้หลุดออกมา
“มือเล็กจัง… อืม…ฝ่ามือตรงนี้เป็นข้อต่อกระดูกแบบสไลด์ (Gliding Joint) มันจะขยับได้นิดหน่อย” เขาบอกกดลงบนฝ่ามือผมเบา ๆ ….ผมได้แต่ฟังเขาอย่างเอ๋อ ๆ และรู้สึกว่าหน้าตัวเองกำลังจะไหม้เกรียม
“นิ้วแต่ละข้อกับศอกของนายเป็นข้อต่อแบบบานพับ (Hinge Joint) มันก็หักลงมาได้แต่หมุนไม่ได้..คล้าย ๆ บานประตูนั่นแหละ …..ไหล่กับขาของนายเป็นข้อต่อแบบลูกกลมในเบ้ากระดูก (Ball and shocket Joint) เห็นมั๊ยว่ามันหมุนได้ไม่ว่านายจะขยับไปทิศไหน…ส่วนคอของนาย…” เธียรอธิบายเรื่อย ๆ และใช้มือสากร้อนของเขาสัมผัสและขยับร่างกายของผม แต่พอมาถึงคอผมก็รีบขยับหนี…
เล่นอะไรของเขาเนี่ย!!!!! …ผมอายจะตายอยู่แล้วนะ!!!
บังเอิญโทรศัพท์ของผมดังขึ้น …ชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
ผมรีบปลีกตัวออกไปรับโทรศัพท์
“หวัดดีฮะ อาเล็ก” ผมส่งเสียงทักทายอย่างยินดี
“กัณฐ์บู้! ทำไมไม่อยู่รออาเฟ้ยอ่ะ” เสียงปลายสายสะบัดอย่างไม่พอใจ
“กลัวพี่เมยกินหัวอ่ะ” ผมหัวเราะ
“โอ๊ยย! คิดถึงกัณฐ์จะตายอยู่แล้ววว เก๋อกะหวังก็ฝากคิดถึงมาด้วยน๊า” เก๋อคือน้องชายของผมครับ ส่วนหวังคือญาติ เป็นลูกของคุณลุง
“อื้ม! แล้วมาถึงกี่โมงเหรอ ?”
“ตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว กัณฐ์กลับเมื่อไหร่อ่ะ อาเฟ้ยจะรอรับ”
“พรุ่งนี้เที่ยง … แล้วเจอกันนะฮะ”
“ค้าบโผม ฝันดีน๊าค๊าบ”
“ฝันดีฮะ” ผมยิ้มวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี
“ใคร ?” เสียงของเธียรถามอย่างเย็นชา ผมเหลือบมองเขางง ๆ …นายอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อหร๊ายยยย!!
“นายมีเพื่อนชื่ออเล็กซ์ด้วยหรือไง ??” เขาถามเสียงเครียด ผมกอดอกมองเขาใจเต้นโครมคราม… คงเพราะผมเรียกอาเล็กเร็ว ๆ หมอนี่เลยได้ยินผิดเป็นอเล็กซ์ไป
“เกี่ยวกับนายหรือไง ?”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อนาย….เป็นเมียฉัน” ท้ายเสียงของเขากระซิบแผ่วเบา ...ผมอ้าปากเหวอหน้าร้อนไปหมด
“น..นาย!!” เขาใช้มือปิดปากผมไว้แน่น
“จะเสียงดังทำไมเล่า” เขาถามยิ้ม ๆ รั้งเอวผมเข้าไปใกล้ โอยยย~~~~~~
ยิ่งเห็นหน้าเขาใกล้ ๆ ผมก็ยิ่งเข่าอ่อน จะเป็นลมล้มพับลงไปแล้ววววววววว
“ป..ปล่อย” ผมบอกเบา ๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง
“กัณฐ์ นาย….. ” ผมตาลายไปหมดเมื่อเห็นริมฝีปากของเขากำลังขยับอยู่ใกล้ ๆ
“เลือดกำเดาไหล” ผมสะดุ้ง เช็ดของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาจากรูจมูกงง ๆ
โธ่!! น่าอายจริง ๆ ทำไมผมต้องเลือดกำเดาไหลด้วย!!
“เงยหน้าขึ้นนะ ฉันจะพาเข้าไปในบ้าน” เธียรบอกเบา ๆ อย่างห่วงใย เขาใช้แขนโอบไหล่ประคองผม
แว๊กกกกกกกกก!!! มืออุ่น ๆ ของเขาทำเอาใจผมเต้นเหมือนกลองระรัว ผมจะตายมั๊ย!! ผมจะตายรึเปล่า ?
ผมรู้สึกมึนไปหมด หน้าร้อน สมองหมุนติ้ว …โอย….ไม่ไหวแล้ว…
“กัณฐ์!” ผมได้ยินเสียงเรียกของเขา ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ
“อือ…” ผมครางเบา ๆ รู้สึกดีเมื่อมีอะไรเย็น ๆ มาสัมผัส
ผมคว้าจับสิ่งที่คิดว่าเป็นผ้าเย็น ๆ นั้นมาไว้ตรงซอกคอ
“เป็นไงบ้างกัณฐ์” เสียงคุ้นหูถามเบา ๆ ผมขยับลืมตาขึ้นมอง
“หัวหน้า?” ผมถามงง ๆ รีบปล่อยมือตัวเองที่จับมือของหัวหน้าออก
“นายเป็นลม แล้วก็เลือดกำเดาไหลอ่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นรึเปล่า ?” หัวหน้ายิ้มถาม
ผ้าที่เปียกหมาด ๆ วางแหมะเข้าตรงหน้าผากของผม
“ร่างกายอ่อนแอจริง ๆ เลย ถ้าเธียรไม่ไปดูนาย ป่านนี้นายนอนตายอยู่ข้างนอกแน่ ๆ” ไอ้ภีมบ่น ผมหน้าร้อน เมื่อได้ยินชื่อของเขา… หรือว่าผมฝันไป…ผมต้องคิดไปเองคนเดียวแน่ ๆ เลย…
ผมเหลือบไปมองเขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว… และไม่มีทีท่าจะสนใจผมซักกะติ๊ด
……เฮ้อ……
ประมาณเที่ยงคืน ทุกคนก็พากันขึ้นไปยังห้องนอนของตนเอง ผมเดินรั้งท้าย กำลังคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ผมจะเป็นลมนั้นคือเรื่องจริงหรือผมแค่ฝันไป…
“ไม่เป็นไรนะ” เสียงทุ้มกระซิบถามเบา ๆ ที่ข้างหู ...ผมผวา! รีบก้มหน้าหลบงุด ๆ
นิ้วมือสากลากคลึงฝ่ามือของผมเบา ๆ ราวกับต้องการปลอบประโลม ….หรือว่าอย่างอื่นวะ…?
“นายทำให้ฉันตกใจแทบแย่” ผมหันควับไปมองหน้าเขา
“….ฉันจะจำไว้ว่านายขี้อายขนาดไหน” เขามองผมยิ้ม ๆ …..ทำไมยิ้มแบบนี้ ? ……
………………………………………………………………..….ผมไม่ได้ฝันไปหรอกเรอะ!!
ผมเหงื่อแตกพลั่ก รีบวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง
“กัณฐ์เป็นอะไร ?” หัวหน้าหันมาถามงง ๆ
“ป..เปล่า” ผมปฏิเสธเบา ๆ
……..นี่มันเกิดอาเพศอะไรขึ้นกับชีวิตของผมกันเนี่ย!!!!!!!
ผมนอนแทบไม่หลับทั้งคืน พยายามคิดเรื่องที่เกิดขึ้น …ความเปลี่ยนแปลงของเธียร….
หรือว่าเธียรเริ่มจะหลงเสน่ห์ผม... คนมันหล่อน่ะ ทำไงได้... เฮ้ย! จะบ้ารึไง~!!!
อ๊ากกกกกกกกกกกกก~~!!!
จะปล่อยให้มันคาราคาซังแบบนี้ไม่ได้!! ผมต้องคุยกับเขา!!
ผมตัดสินใจลุกขึ้นเมื่อเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา และเดินตรงไปยังห้องของเขา
ก๊อก ๆ ๆ
“…” ผมยืนรออย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครเปิด
ก๊อก ๆ ๆ
สงสัยว่าจะยังไม่ตื่นกันแฮะ….
ผมตัดสินใจเดินกลับ แต่เสียงเปิดประตูดังขึ้นเสียก่อน
“อืม… มีอะไรกัณฐ์” ไอ้ภีมเปิดประตูถาม ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตาเพิ่งตื่นนอนของมันสุดตรีนจริง ๆ
“อุ๊บ!” ผมแอบหัวเราะเบา ๆ
“หัวเราะอะไร ?” มันเลิกคิ้ว เกาก้นตัวเอง
“น่าเกลียดจริง ๆ เลย” ผมบ่นเบา ๆ
“อ๊ะ.. อยากดมเหรอ ?” มันถาม ...ผมไหวตัวแต่หลบไม่พ้นรัศมีมืออสูรของมัน
“ไอ้ภีม!!” ผมร้องโหยหวนเมื่อมันล็อกคอ แล้วเอามือที่เกาก้นเมื่อกี้มาป้ายหน้า
กรี๊ดดดดดดดดดดดด~~!! ผมกรีดเสียงร้องในใจ ไอ้อุบาทว์เอ๊ย!!
มันหัวเราะชอบใจ แมร่งโรคจิตโคตร ๆ
“โอ๊ย!!” มันร้องเสียงหลงเมื่อผมเผลอใช้กำปั้นทุบหลังของมัน
“ป..เป็นอะไรรึเปล่า ?” ผมถามอย่างตกใจ รีบเลิกเสื้อมันขึ้น
“อย่า!” ไอ้ภีมรีบห้าม ดึงเสื้อลง…แต่ผมเห็นรอยฟกช้ำบนตัวมันแล้วก็หัวเราะไม่ออก… ไม่น่าล่ะ มันถึงใส่เสื้อตลอด… รอยฟกช้ำบนหลังของมันยังไม่หายดี ปรากฎเป็นรอยเขียว ๆ ม่วง ๆ บนแผ่นหลังกว้าง
“ข… ขอโทษนะ” ผมบอกเบา ๆ…..ด้วยความสำนึกผิด
“ฮึ…ฮะ ๆ…นายนี่มัน…” ภีมหัวเราะเบา ๆ โอบกอดตัวผมแน่น
“หยึย!” ขยะแขยง!! …ท้ายประโยคผมคิดต่อในใจง่ะนะ…..
“ภีม ..ปล่อย” เสียงเย็น ๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง ไอ้ภีมทำหน้างง ๆ แต่ก็ปล่อยผมโดยดี
“ธ..เธียร” ผมเรียกชื่อเขาเบา ๆ รีบก้าวไปหา
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ” ผมบอกเสียงเครียด….. ตายเป็นตายวะ!
….. ถึงเขาจะไม่ชอบผม………..ถึงเขาจะเกลียดผม
……แต่มันก็ยังดีกว่าให้เขาเสแสร้ง ทำให้ผมตายใจ…..
แบบนั้นมันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า……
_____________________________________
กรี้ดดดด อย่าเพิ่งทวงเค้าน่ะตะเอง คิคิ กลับบ้านดึก แรดลืมตัวง่ะ เค้าชดเชยให้ 2 ตอนเลย คิคิ เป็นไง กัณฐ์เสียเลือดสาดดด เลย :laugh:กร๊ากกกก