เข้ามารายงานตัวว่ายังสบายดีนะคะ
หายไปนานมาก....ไม่มีข้อแก้ตัวใดนอกเสียจาก สมองตัน คิดอะไรไม่ออก ฮาๆ
ตอนที่ 24 รักคือการให้อภัย
สวัสดีค่ะท่านผู้ชม...ในที่สุดตอนนี้เราก็มาถึง...แต่นแต๊น......คอนโดพี่โต้งกันแล้วค่ะ หลังจากที่น้องฐาไม่ได้มาที่นี่นานเป็นเดือน แต่ทุกภาพความทรงจำทั้งดีและร้ายยังคงอยู่ไม่จางหายเลยสักนิด
หลังจากรถจอดสนิท พี่โต้งก็เดินอ้อมมาเปิดประตูทางด้านซ้ายมือให้ หนูเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่เขาด้วยดวงตากลมโตบ้องแบ๊ว ถ้าไม่คิดขยับกายจะเจอคำถามสยองขวัญเหมือนเดิมอีกไหมนะ
‘จะให้อุ้ม หรือเอากันบนรถดี?’ อ๊า....แค่คิดก็ใจเต้นโครมครามแล้วค่า
แต่แล้วก็ผิดคาด...กลับมีเพียงความเงียบที่เดินทางแหวกอากาศส่งมา และคุณพี่โต้งก้มลง
แอร๋ย..... ไม่คิดจะถามอะไรแต่คิดจะทำตามตัวเลือกที่สองเลยเหรอคะ น้องฐาตาโตเท่าไข่ห่าน หัวใจเต้นระทึกค่ะ...
แต่เปล่าค่ะ สงสัยหนูจะมองโลกในแง่ดี เอ๊ย..แง่ร้ายไปนิด เพราะพี่เขาแค่โน้มตัวลงมามาปลดเข็มขัดนิรภัยให้หนูเฉยๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าจะถอยห่างเพื่อให้หนูก้าวออกจากรถแต่อย่างใด หนำซ้ำกลับสอดแขนเข้ามาใต้แผ่นหลังของหนูอีกต่างหาก.....อย่าบอกนะคะว่า....
“อุ๊ย...ดะ...เดี๋ยว.....พี่จะทำอะไรคะ” ส่งเสียงสูงถามไปอย่างตกใจพร้อมทั้งกางแขนยันอกพี่เขาไว้ไม่ให้ทำอะไรได้ถนัด
“ก็เห็นว่านั่งนิ่งไม่ยอมลงสักทีเลยคิดว่าน้องฐาอาจจะไม่มีแรงเดิน พี่ก็เลยคิดว่าจะอุ้มไป” กรี๊ดดดด ไม่เอ๊า....ยกมือขึ้นกางห้านิ้วเป็นปางห้ามญาติกันเลยทีเดียว
“มะ....ไม่ต้อง...หนูเดินเองได้ค่ะ” รีบตอบทันทีเลยค่ะ น้องฐาออกจะหน้าบางขนาดนี้ ขืนปล่อยให้อุ้มไปล่ะก็อายเขาตายเลย ผลักพี่เขาออกไปแล้วก็ดึงดันจะเดินเองให้ได้ค่ะ พี่โต้งพยักหน้าเข้าใจยอมก้าวถอยหลังออกจนพ้นระยะประตูรถ มองหนูก้าวเท้าลงจากรถเหมือนข้างล่างเป็นเหวสูงชันถ้าไม่ระมัดระวังจะตกลงไปตายเยี่ยงนั้น!
พอหนูเดินออกมายืนตัวลีบสั่นเป็นเจ้าเข้า ด้วยเสื้อผ้าก็ชื้น ฝนก็ตกปรอยๆ ลมก็โชยพัด พี่โต้งปิดประตูรถแล้วหยิบเสื้อแจ็กเกตที่หนูเอาถือไว้ไปสะบัดออกคลุมหัวหนูไว้ค่ะ หลังจากใช้รีโมทล็อกรถเรียบร้อยก็โอบไหล่หนูเดินเร็วๆ เข้าไปในตึก เดินโอบกันเดินไปท่ามกลางฝนพรำ แบบว่าโรแมนติกอีกแล้วอ่ะค่ะ
พอถึงตัวตึก พี่โต้งก็ดึงเสื้อแจ็กเก็ตไปพาดแขนตัวเองไว้แล้วจูงมือหนูให้เดินตามต่อไป
พอเดินเข้าไปในคอนโดแล้วก็อดนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ไม่ได้ มาที่นี่แล้วสะเทือนอารมณ์ชะมัด จนต้องถอนใจอย่างหดหู่ แล้วก็รู้สึกถึงแรงบีบมือที่แรงขึ้นจนต้องหันไปมองเจ้าของร่างสูงที่มาด้วยกัน
“พี่ขอโทษ พี่เองก็เสียใจนะที่วันนั้นพูดอะไรออกไปตามอารมณ์มากกว่าความรู้สึกที่แท้จริง แต่ถ้าเราไม่ได้มาเจอกันในสถานการณ์นั้น บางทีเรื่องอาจจะไม่ร้ายแรงขนาดนี้ก็ได้”
..........??...........อะไร.....หมายความยังไง.......
ทำไมหนูถึงโง่แบบนี้ ทั้งที่พยายามทำความเข้าใจ แต่ก็ยิ่งไม่เข้าใจอะไรเลย
อีพี่โต้งบ้า ทำเป็นแต่ตบหัวแล้วก็ลูบหลัง....แล้วก็ไม่ยอมอธิบายด้วยว่าที่มาทำบ้าๆ แบบนั้นเพราะอะไร พูดแต่ว่าเสียใจ คิดแล้วก็โมโหแฮะ
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ หนูไม่ได้อยู่ในฐานะที่ต้องรับรู้หรือรับฟังอะไรอีกแล้ว”
พี่โต้งถอนใจหนักๆ ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูกระจกแล้วจูงมือเดินต่อไป
และแล้วในที่สุด...ตอนนี้หนูก็กลับมาอยู่ในห้องของพี่โต้งเรียบร้อยแล้ว พี่โต้งหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้ามาให้หนูค่ะหนูก็เข้าไปอาบน้ำ พอเดินออกมาพี่โต้งกำลังนั่งหน้ายุ่งอยู่ที่โซฟา หนูเดินไปนั่งข้างๆ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่ก็...รีบอาบน้ำเถอะนะคะ เปียกฝนเหมือนกันเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ขอบใจ” บอกแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไปค่ะ
หนูเองก็นั่งจมอยู่กับความเงียบ คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความจริงก็ยังรอคอยและคาดหวังว่าสักวันจะได้กลับมารักกันอีก แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงกลับกลัวอย่างบอกไม่ถูก
ทำไงดีล่ะ....
ถ้าคืนดีง่ายๆ ก็จะมองว่าไร้ค่า
แต่ถ้าเล่นตัวนานๆ แล้วอีพี่โต้งหมดความอดทนเลิกง้อ...
ทำไงดี...
ทำไงดี..
“คิดอะไรอยู่เหรอ หน้าเครียดเชียว”
“ก็คิดว่า...จะทำยังไงดี” เอ๊ะ.....อั๊ยหยา......หนูเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงที่ส่งเสียงถามมาหน้าเหวอ พี่โต้งอาบน้ำเสร็จตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยตกใจหมดเลย
“อาบน้ำเสร็จแล้วทำไมไม่เช็ดผมให้แห้งเล่า ผมยาวแบบนี้ มันแห้งยาก ดูสิ เสื้อเปียกหมดแล้วเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เอ๋... นั่นสิ หนูมัวแต่คิดมากเรื่องพี่เขาจนลืมเช็ดผม
พี่โต้งนั่งลงข้างๆ ขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วดึงผ้าขนหนูที่หนูพาดคอตัวเองไว้เฉยๆ เช็ดผมให้หนูอย่างแผ่วเบา
ดีมากค่ะ ถ้าแรงไปเดี๋ยวผมที่หนูต่อมามันจะพันกันยุ่ง...
ที่จริงถ้ามีไดเป่าผมด้วยก็ดีหรอกนะคะ แต่ไม่อยากจะถามให้มากเรื่อง มีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้ก็สุขใจดีเหมือนกันนะคะ เหมือนคู่รักโรแมนติกอะไรแบบนั้น...
รอยยิ้มหวานค่อยจางลงขณะที่หนูเงยหน้าดูใบหน้าขาวซีดที่อยู่ตรงหน้า เต็มตา
หัวใจเต้นถี่....
คิดถึงมาก.... คิดถึงใจจะขาด
อีพี่พี่โต้งบ้า .... เอาน้ำมันพรายดีดใส่หนูตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
ทำไม หัวใจดวงเล็กๆ ของหนูมันถึงเอาแต่ร่ำร้อง....
รัก....มาก...จนทนไม่ไหว...เหมือนจะล้นออกมา
ฮือ.....ฮึก......อย่ามาทำดีกับหนูแบบนี้ไม่ กลัวใจตัวเองมันจะอ่อน ยังไม่มันจะง้ออะไรให้เป็นกิจจะลักษณะเลยก็ยกโทษให้ง่ายแล้ว ไม่เอาๆ
“เป็นอะไรคะ...ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”
หนูส่ายหน้าเร็วๆ แล้วก้มหน้าลงซ่อนแววตาสั่นไหว แย่งผ้าขนหนูในมือพี่เขามาถือไว้ หันหน้าหนีแล้วเช็ดผมให้ตัวเองช้าๆ เหมือนคนใจลอย
“คือ...น้องฐาอาจจะเข้าใจพี่กับเอผิด” ทั้งๆที่ยังหันหลังให้แต่ก็หูผึ่ง พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกัน อยากรู้นักว่าสองคนนี้เขามีซัมติงรองอะไรกันหรือเปล่า....
“เราสองคนไม่มีอะไรลึกซึ้งต่อกันมากกว่าความเป็นพี่น้องหรอกนะ” งั้นเหรอ...ไม่สนิทชิดเชื้ออะไรกัน แล้วทำไมพี่เขาพูดอะไรพี่โต้งต้องเชื่อทุกอย่างด้วย ทีกับเราจะฟังคำอธิบายสักนิดก็ไม่มี ชิส์!
“แล้วอีกอย่างเอมันก็มีแฟนแล้วด้วย”
งั้นเหรอ... แล้วยังไง....ก็แค่....
หือ...ว่าไงนะ!!!
“หา....” หนูร้องหันขวับไปหาพี่โต้งแล้วทำตาโตทันที
“ไม่จริง...” หนูหันไปเถียงทันทีเลย ก็ตอนคุยโทรศัพท์ในห้องน้ำ....ยังบอกรักกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ....แล้วไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ งง
“จริง.... เอมันเป็นแฟนเพื่อนพี่เอง ไอ้ซาไง น้องฐาก็เคยเจอแล้วนี่ จำได้ไหม” เพล้ง!!! หน้าแหกเลยทีเดียว หลงไปจิกไปกัดอีพี่เอไว้ตั้งเยอะทำไงดีเนี่ย.... โฮ ม่ายยยยย
“ถ้าจำไม่ได้เดี๋ยววันหลังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาจะแนะนำให้รู้จักซ้ำอีกรอบก็ได้” แหม พูดเหมือนต่อไปเราจะมีโอกาสได้ไปไหนต่อไหนด้วยกันบ่อยๆ อย่างนั้นแหละ
ถึงจะหมดเรื่องพี่เอแล้วก็ไม่ได้แปลว่าหนูจะต้องยกโทษให้พี่ทันทีซะหน่อย เชอะ!
“จนถึงตอนนี้พี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าชอบหรือติดใจอะไรในตัวหนู แต่หลายครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้ม ใบหน้าท่าทางตลกๆ ได้ฟังความคิดเห็นแปลกๆ แต่ก็น่าสนใจ เวลาอยู่ใกล้แล้วต้องอมยิ้ม หัวเราะ ทำให้พี่อดคิดไม่ได้ว่า ถ้ามีน้องฐาอยู่ข้างๆ โลกก็คงไม่น่าเบื่อ ความจริงแล้วหลังจากที่น้องฐาไป พี่ก็ยังคิดถึงน้องฐาอยู่เสมอ ถึงจะรู้สึกโกรธและเสียใจมากแค่ไหน แต่ก็ทำใจไม่ได้ที่จากกันไปทั้งๆ แบบนี้ พออารมณ์เย็นขึ้น พี่ก็พยายามโทรหาแต่ก็โทรไม่ติด พยายามจะถามข่าวจากน้องกิ๊ง แต่น้องกิ๊งก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ พี่ก็เลยปลอบใจตัวเองว่าเราอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กัน” พี่เขาทำเสียงเศร้าสลดหดหู่ยังกับมีใครตาย
จริงสิหลังจากเลิกกัน หนูก็ทำโทรศัพท์หายไป หนูก็เลยไม่รู้ว่าพี่เขาติดต่อมาบ้างหรือเปล่า
ส่วนกิ๊ง หนูก็ดันบอกมันไปว่าหนูเป็นคนทิ้งพี่โต้งไปเอง มันก็เลยทำเป็นไม่สนใจ...
ฮือ....โชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตน้องฐาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจริงๆ เล้ย
“จนกระทั่งวันนี้ ที่เอทำให้พี่ได้มาเจอน้องฐาอีกครั้ง มันทำให้ความรู้สึกเดิมกลับคืนมา พี่ยังเป็นห่วง ยังหึงหวงเราอยู่ ถึงยังไงน้องฐาก็ยังมีอิทธิพลกับความรู้สึกของพี่อยู่วันยังค่ำ แล้วพี่ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า พี่ไม่อยากปล่อยมือน้องฐาไปอีกเป็นครั้งที่สอง” พี่โต้งจับมือหนูมากุมไว้
“ยกโทษให้ความงี่เง่าของพี่ แล้วกลับมาอยู่ข้างๆ กันอีกครั้งเถอะนะคะ”
เฮ้อ.....ถอนใจอย่างปลงชีวิต....
ชีวิตของหนูคงเหมือนนิยายน้ำเน่าเรื่องหนึ่งที่บางทีก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่ก็ยังทนอ่านต่อ
เหมือนซีรี่ส์เรื่องยาวแม้จะรู้ว่าพล็อตเรื่องหลักเป็นอย่างไร แต่ก็ยังนั่งดู
เหมือนภาพยนตร์ภาคต่อที่ฉายซ้ำๆ ซากๆ
.....ทรานฟอร์เมอร์.....ไม่เอาๆ น้องฐาไม่อยากเล่นหนังหุ่นยนตร์เป็นนางเอกเรื่องนี้โทรมทุกภาค
.....เดอะไพเรท....ไม่ดีๆ น้องฐาว่ายน้ำไม่ค่อยแข็ง แล้วก็เกลียดการรอคอยมากๆ จะให้คอยพระเอกเป็นสิบปีก็ไม่ไหวหรอก
....ตำนานสมเด็จพระนเรศวร...ไม่ดีกว่าวางแผนรบไม่ค่อยเก่ง ถ้าแผนรักก็ว่าไปอย่าง
....แฮร์รี่ พอตเตอร์....เหรอ? นางเอกอย่างจินนี่ไร้บทบาทไปนิดนะคะ
รู้แล้วล่ะค่ะ น้องฐาต้องเป็นนางเอกเรื่องแวมไพร์ทไวไลท์ ถึงจะรู้ว่าต่อไปต้องกลายเป็นผีดิบดูดเลือด ก็ยินดีพลีกายเพื่อความรัก อา....เอ็ดเวิร์ดที่รัก ถึงว่าอีพี่โต้งหน้าซีดๆ ที่แท้ก็...(รั่วต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด)
ทั้งๆ ที่คาดเดาได้ว่ายกโทษให้อีพี่โต้งไปแล้ว วันข้างหน้าอาจจะต้องเจ็บอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังไม่เข็ด
แต่ชีวิตจริงไม่ใช่เรื่องง่ายที่นึกอยากจะเปลี่ยนพระเอกนางเอกกันง่ายๆ เหมือนทรานฟอร์เมอร์เปลี่ยนนางเอกหรอกนะคะ
ในเมื่อชีวิตคนเราไม่ได้ยั่งยืนยาวนานอะไรนัก และไม่ได้โรยด้วยกุหลาบเสมอไป แม้สักวันหนูอาจจะต้องเจ็บอีกพันครั้ง หรือต้องร้องไห้อีกสักพันรอบ แต่ถ้าแลกกับการที่ได้มีช่วงเวลาที่มีความสุขกับคนที่ตัวเองรัก สักนาทีก็ถือว่าคุ้มค่า
พรุ่งนี้อาจจะจะเจ็บจนทนไม่ไหว ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ไม่เป็นไร ขอให้วันนี้หนูได้มีโอกาสทำตามสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการก็เพียงพอแล้ว
แหงนเงยขึ้นสบนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่ค่อยเคลื่อนต่ำลง ใกล้เข้ามาทุกขณะ
อ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดร่างของหนูเข้าไปในอ้อมกอดอุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นครีมอาบน้ำยี่ห้อเดียวกัน
หัวใจดวงเล็กๆ ข้างในหน้าอกเล็กๆ เต้นระส่ำ พร้อมกับบอกตัวเองว่า ไม่อาจต้านทานความรู้สึกที่อัดแน่นในใจนั้นได้ พริ้มตาลงรับจุมพิตหอมหวานที่ฟ้าประทานลงมาให้อย่างเต็มใจ
“พี่รักน้องฐานะคะ” ฮือ...... อยากจะร้องไห้......
ที่จริงก็ไม่อยากยกโทษให้ง่ายๆ แบบนี้หรอกนะ
แต่ช่างเถอะ...ก็ความรักคือการให้อภัยนี่คะ.....
แล้วทำไมน้องฐาจะยอมให้อภัยให้คนที่น้องฐารักไม่ได้ล่ะ...
จบตอนนี้ไปก็ยังไม่คลี่คลายอะไรมากนัก รู้แต่ว่าน้องฐายอม...อีกแล้ว....ซึ่งจริงๆนิสัยน้องฐาก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะคือเป็นคนใจอ่อน ส่วนอีพี่โต้ง นิก็ไม่คิดว่าว่าคนอ่านจะต้องให้อภัยพี่โต้งตามไปด้วยหรอกนะคะ เพราะถ้าไม่รัก...ก็ไม่ต้องให้อภัยก็ได้ ฮาๆๆๆ ขอประทานอภัยสำหรับท่านผู้อ่านนะคะ ที่นิขึ้นต้นเรื่องของน้องฐา ด้วยคำว่าเรื่องสั้น เพราะนิคิดไว้ว่ามันคงไม่ยาวยาว แต่พอแต่งไปแต่งมา น้องฐากับพี่โต้งขยายกิจการจากการขายตับไปขายมาม่าเพิ่ม... ฮา
มันก็เริ่มออกทะเลไปเรื่อยๆ จนมันยาวขึ้นมาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
ก็เริ่มสำนึกได้ว่ามันไม่สั้นมาได้สักพักแล้วแหละค่ะ ก็เลยลบคำว่าเรื่องสั้นออกไปแล้ว
ขออภัยอีกครั้งถ้าทำให้หลายคนหลงเข้ามาอ่านด้วยคิดว่ามันจะสั้น
...................................................
จากเรพข้างล่างเผื่อมีคนสนใจ yingza2010...
อ่านตอนนี้แล้วคำถามๆ หนึ่งผุดขึ้นมาทันที
"ทรานฟรอฯ เปลี่ยนนางเอกแล้วเหรอ???"
ฮั๊ยย่ะ!! ไปดูมาตั้งสามรอบพึ่งรู้
ก่อนไปดูอ่ะไม่รู้ค่ะ พอดูแล้วก็งง แล้วก็แอบหวังอยู่ตลอดเรื่องว่านางเอกเก่าจะโผล่มาและอยากรู้มากว่าทำไมพระเอกในเรื่องถึงเลิกกับนางเอกคนเก่าไป(อินมากไปหน่อยไม่อยากให้ในเรอื่งเลิกกันทั้งที่ความจริง ไม่เกี่ยวเลย) แต่แฟนนิบอกว่า มันจะออกมาได้ไง ในเมื่อนางเอกคนก่อนปฏิเสธไม่อยากเล่น แต่นิไปหาข้อมูลในเน็ตดู ปรากฏว่า นางเอกเก่า มอแกน ดันไปว่า ผู้กำกับว่าบ้าอำนาจ เลยโดนเขี่ยออกจากบทไปคว้านางเอกใหม่ชื่อโรซี่มาเล่นแทนค่ะ (มีบางกระแสบอกว่ามอแกนเองก็ไม่อยากเล่นด้วยเหมือนกัน) จบข่าว