นิว่าไม่สั้น แต่จบแบบนี้คนอ่านคงว่าสั้นอีกตามเคย แต่สั้นๆ ค่อยๆทยอยลงดีกว่าหายไปนานๆเนอะ ฮาๆ (แก้ตัวไปเรื่อย)
หลายตอนแล้วยังไม่เลิกมาม่า ไม่รู้จะมีคนทนกินผงชูรสไม่ไหวจนเลิกอ่านไปบ้างไหม
.........................
ตอนที่ 22 ดีเท่าไร ไม่หายกัน
“เพราะมันทำให้พี่อดเสียใจไม่ได้ที่ตัดสินใจปล่อยน้องฐาไปในวันนั้น... เคยคิดว่ายิ่งรั้งกันไว้ก็ยิ่งเจ็บ ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมอะไรก็คงดีขึ้น แต่ความจริงกลับไม่ใช่ ถึงบอกเลิกกันไป ก็ไม่ได้ทำให้พี่มีความสุขมากขึ้น ถึงยังไงพี่ก็ยังคิดถึงน้องฐาอยู่ดี.............. ”
หมายความว่ายังไง....
เข้าใจทุกอย่างดีแล้วเหรอ....
รู้แล้วว่าเราไม่ผิดงั้นเหรอ....
“พี่รู้แล้วเหรอคะว่าหนูกับโอ๋ไม่ได้...” ถามออกไปอย่างดีใจ แต่อีกฝ่ายไม่รอให้หนูพูดต่อค่ะ พี่โต้งเดินมาจับมือหนูขึ้นไปกุมไว้เบาๆ แล้วสวนกลับมาทันที
“เรื่องที่มันแล้วไปแล้วก็อย่าไปพูดถึงมันเลยนะ คนเราก็ต้องทำเรื่องผิดพลาดกันบ้างเป็นธรรมดา แล้วพี่ก็รักน้องฐามากพอที่จะอภัยให้ได้ อย่างน้อยน้องฐาก็เคยบอกว่ารักพี่ใช่ไหม แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว เรากลับมาคบกันใหม่เถอะนะ” น้ำเสียงนุ่มวิงวอนอย่างอ่อนหวาน
“แล้วไม่กลัวหนูจะนอกใจอีกเหรอคะ หนูอาจจะมีกิ๊กอีกมากมายซ่อนไว้ พี่จะทนได้เหรอคะ”
“ก็ไปเลิกให้หมดสิ สัญญาว่าต่อไปนี้จะมีแต่พี่คนเดียว พี่จะลืมเรื่องทั้งหมดซะ เหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น พี่สัญญาจะรักและดูแลน้องฐาให้ดีที่สุด”
ซึ้ง...จนน้ำตาจะร่วง แต่ก็เศร้าจนหัวใจจะปริแตก...
มันหดหู่อย่างประหลาด ที่มองเห็นใครคนนึงที่รักเรามากจนถึงขนาดมองข้ามความชั่วของเราได้ทั้งหมด ไม่สนใจเลยว่าที่ผ่านมาจะดีร้ายยังไง
แต่หนูกลับไม่แน่ใจว่าควรจะดีใจที่พี่เขารักหนูขนาดนี้ หรือเสียใจกันแน่ที่ก็ยังลบภาพแย่ๆ ออกไปไม่ได้สักที
บางครั้ง ความรัก....ก็ยังมีความสำคัญไม่เท่ากับความเข้าใจ
ถึงจะรักแค่ไหน แต่ถ้าไม่เข้าใจ สักวันนึงก็คงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกซ้ำๆ ซากๆ
“หนูทำไม่ได้หรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ....” หนูพยายามไม่มองหน้าพี่โต้งค่ะกลัวตัวเองจะใจอ่อนอีกหนูยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้าจับมือที่กุมมือหนูไว้ออกเบาๆ
“ขอบคุณนะคะที่บอกความรู้สึกของพี่ให้หนูรู้ หนูดีใจมากจริงๆ” อดน้ำตาไหลไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่เสียใจนะ มันซึ้งมากต่างหาก “แต่เรื่องของเรา มันคงสายเกินกว่าจะแก้ไขแล้วล่ะค่ะ ถ้ารักหนูแล้วมันเจ็บปวดทรมานมากนัก ก็อย่าทนเลยนะคะ ปล่อยหนูไปตามทางเหมือนอย่างวันนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว หนูคงไม่ดีพอสำหรับพี่หรอกค่ะ”
ตอบออกไปอย่างนั้นพี่โต้งก็อึ้งค่ะ ทำหน้าเศร้าจนหนูสงสารเลย แต่ทำแบบนี้ก็ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ
♪ไม่ต้องบอกฉัน ถึงวันที่เลยผ่าน...ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใคร ที่ไหนยังไง...
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์พี่โต้งดังมาค่ะ เหมือนจะตอกย้ำความชั่วของหนูยังไงไม่รู้สิคะ
“รับสายสิคะ” หนูบอกเมื่อพี่โต้งยังคงนิ่งปล่อยให้เพลงดังไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดจะรับเหมือนไม่ได้ยิน
ในที่สุดก็ถอนหายใจแล้วดึงมือถือออกมากดรับสาย
“เอเหรอ ว่าไง......” พอได้ยินชื่อคู่สนทนาหนูก็หันหลังเปิดประตูแล้วเดินออก ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะใจแข็ง ต่อให้มาง้อขอคืนดียังไงก็จะไม่ยกโทษให้แต่ก็ยังอดรู้สึกปลาบแปลบไม่ได้ที่ได้รู้ว่ามีคนอื่นที่พี่เขาสนใจห่วงใยมากกว่า
ไม่อยากฟังก็ยังได้ยินบทสนทนาแว่วมาเข้าหูโดยไม่ตั้งใจอยู่ดี
“เหรอ... ใจเย็นๆ นะ พี่เป็นห่วง” หึ เป็นห่วงเป็นใยกันขนาดนี้ยังจะมาขอคืนดีกับเราอีกทำไม...
“อือ.....พูดไปหมดแล้ว....แต่ไม่สำเร็จ....” คุยกันเรื่องอะไรนะ
“รักสิ....รักมากเลย” ฮือๆๆ ฟังแล้วแสลงใจ ...ก็ดี รักกันเข้าไป รักกันแล้วจะมาสนใจหนูทำไม
อีพี่โต้งบ้า เกลียด....เกลียดที่สุด....
“อือ พี่จะพยายาม ขอบใจนะเอ ขอให้เอโชคดีด้วยเหมือนกัน” ล่ำลาอาลัยอาวรณ์กันเข้าไปสิ ฟังแล้วมันเจ็บหัวใจจนพุดอะไรแทบไม่ออก
จากที่ซาบซึ้งกินใจอยู่ดีๆ มาตอนนี้มันอภิมหาหงุดหงิด ยืนหน้าหงิกอยู่หน้าห้องส้วม จนพี่โต้งเดินออกมา
“ฝนหยุดตกแล้วจริงๆ ด้วย กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ” พี่โต้งพูดเสียงอ่อนโยนใส่ เหมือนใจดีสู้เสือน่ะค่ะ
“พี่กลับไปก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูตามไปทีหลัง” บอกเสียงนิ่งๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจค่ะ
“พี่จะรอหน้าห้องน้ำนะ รีบออกมาล่ะ”
พยักหน้าหงึกหงักให้ แล้วเดินไปหยุดยืนอยู่หน้ากระจกมองภาพเงาที่สะท้อนอยู่ในนั้น....
อร๊ายยยยยย........ผีดิบที่ไหนเนี่ย น้องฐาร้องไห้จนหน้าเละไปหมดแล้ว รับไม่ได้ค่ะ ตัดสินใจล้างหน้ากลบเกลื่อนคราบน้ำตาทันที พอล้างหน้าแล้วใบหน้าขาวเลยซีดหนัก เฮ้อ....ทำไงดีไม่มีแป้งมาโบ๊ะเลยอ่า จะกลับออกไปทั้งสภาพแบบนี้คนอื่นเขาต้องรู้แน่เลยว่าร้องไห้มา สิ่งเดียวที่พอจะช่วยได้ตอนนี้คือลิปสติกแท่งเดียวที่พกมาด้วย น้องฐาไม่รีรอที่จะใช้มันแต่งแต้มริมฝีปากหวังว่าจะช่วยเพิ่มสีสันให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้สักนิด..
“น้องฐา ทำอะไรอยู่ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ” พี่โต้งเรียกแล้วเดินเข้าห้องน้ำมาอีกครั้ง น้องฐาตกใจจนสะดุ้งเฮือกหันไปมอง ลิปสติกที่กำลังทาไถลปื้ดออกไปนอกขอบปาก หนูเห็นตัวเองในกระจกแล้วตาเหลือกเลย
“อร๊ายยยยยยยย” ปากช้านนนนนนนนนน
อยากจะเศร้าจริงๆ เลยคุณผู้ชม
“ร้องทำไม.....” พี่โต้งถามอย่างตกอกตกใจตามไปด้วย ก้าวพรวดๆ มายืนอยู่ข้างๆ น้องฐาเลิกทาลิปแล้วเอานิ้วโป้งถูขอบปากตัวเองให้หายเลอะ ไม่ตอบคำถามคนข้างกาย
“ไหนดูซิ” พี่โต้งว่า เชิดหน้าหนูให้หันไปหาจนคอเกือบเคล็ด “อ่ะ....อุ๊บ....ฮ่าๆๆๆ” จากนั้นพี่เขาก็หัวเราะลั่น น้องฐาเบะหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะความอับอายที่เกิดขึ้น พี่โต้งชะงักแล้วหยุดหัวเราะหน้าเจื่อน หนูสะบัดหน้าให้หลุดจากปลายนิ้วที่ยึดปลายคางตัวเองแล้วหันหน้าเข้าหากระจกดังเก่า พยายามจะถูรอยลิปออกแรงๆ เป็นการระบายอารมณ์
พี่โต้งจับไหล่หนูให้หันไปหาทั้งตัว หนูเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเจ็บแค้น แล้วก็ได้แต่อึ้งที่พี่เขาดึงเอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองออกมาเช็ดมุมปากให้หนูอย่างอ่อนโยน
หัวใจของหนูเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น ดีใจ ซาบซึ้ง....
อย่า...อย่าทำแบบนี้... อย่าทำให้หนูคิดถึงความหวานชื่นในวันเก่า....
รักไม่ใช่เหรอ... รักพี่เอไม่ใช่เหรอ...แล้วจะมาทำอย่างนี้กับหนูอีกทำไม...
“ก็ไม่รู้ว่าจะทาไปทำไม ออกไปก็ดื่มเหล้าอีก ทาไปก็ลบอีกอยู่ดี” เช็ดไปก็ไม่วายบ่น หนูดึงผ้าเช็ดหน้าในมือพี่โต้งแล้วเอามาเช็ดปากตัวเอง หนูรู้ตัวดีว่าแต่งไปก็คงไม่สวยขึ้นมาได้ แต่หลุดพ้นจากสภาพศพเดินได้ก็พอใจแล้วค่ะ
“ผู้ชายอย่างพี่จะไปเข้าใจความรักสวยรักงามของสุภาพสตรีอย่างหนูได้ยังไงล่ะคะ” จีบปากจีบคอตอบกลับไป ตั้งใจจะทาลิปต่ออีก
“หึ...เหรอ.... แล้วจะสวยไปให้ใครดูนักล่ะ หรือจะไปล่อตะเข้แถวไหนอีก” พูดดีไม่เท่าไรก็เริ่มจะกระแนะกระแหนหนูอีกแล้วสิคะ
“แถวไหนก็ได้ค่ะ ขอให้มีผู้ชายเป็นพอ” เงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายเต็มตาแล้วส่งรอยยิ้มท้าทาย ไม่สะทกสะท้านกับสายตาหมิ่นแคลนที่ทอทอดมองลงมาอย่างสมเพชเวทนาเย้ยหยัน
“พี่ก็น่าจะรู้ว่าร่านๆ อย่างหนูเนี่ย มันขาดผู้ชายไม่ได้ ถ้าไม่เอาน้ำออกเนี่ยมันทรมานจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ” ประชดประชันกลับไปอย่างไม่ลดละ ช่างเถอะ ในเมื่อเข้าใจว่าเลวไปแล้วจะอธิบายไปก็เท่านั้น คงไม่ดูดีขึ้นมาได้ เลวแค่นี้ก็ยังน้อยไป ชั่วให้สะใจเท่าไรก็ยิ่งดี ....เจ็บบ่อยๆ ก็คงชินไปเอง....
“แล้วผัวไปไหนซะล่ะถึงได้ปล่อยให้หนูต้องหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยว ไร้ที่ระบายแบบนี้” พี่โต้งนี่ปากตลาดสมเป็นพ่อค้าจริงๆ นะคะ
อยู่ตรงนี้ไง ยืนอยู่ตรงหน้านี่ไง คนที่ทำให้หนูต้อง เหงา อ้างว้างโดดเดี่ยว ซึมเศร้า ทุกข์ทรมานใจขนาดนี้
หนูเงยหน้าขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย แล้วยิ้มหวานอย่างเสแสร้ง
“คนไหนล่ะคะ พอดีว่าเยอะจนนับไม่ถ้วน หรือถ้ามองในอีกแง่ คนที่แค่นอนด้วยชั่วครั้งชั่วคราวก็ไม่อาจเรียกว่าผัวได้ เรียกว่าคู่ขา หรือฉากผ่าน จะยังเข้าท่ากว่า” ไหนๆ ก็เจ็บแล้ว หนูไม่ยอมเจ็บคนเดียวหรอกค่ะ เรา...มาเจ็บ...ใจ...ร่วมกันเถอะ
“ถามจริงๆ เถอะ ยังไม่มีอีกเหรอ... คนที่น้องฐาจะเรียกว่าตัวจริงน่ะ แม้แต่ตอนนี้ ก็ยังไม่คิดที่จะหยุดบ้างเลยเหรอ”
อยากจะร้องไห้จริงๆ ถึงจะไม่ยอมกลับไปก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีคนอื่นสักหน่อย
♪ฉันหยุดแล้ว....แล้วเธอ...หยุดได้ไหม....
“ก็อยากจะหยุด แต่ก็คงจะหยุดไม่ได้แล้วมั้งคะ”
“พี่อยากรู้นัก ว่าถ้าวันนั้นพี่ให้โอกาสน้องฐาเลือก น้องฐาจะเลือกพี่ไหม”
“ถึงจะตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ เพราะเราย้อนอดีตไม่ได้ อย่าว่าแต่โอกาสเลือกเลย แม้แต่โอกาสอธิบายพี่ก็ยังไม่ให้ เพราะพี่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดมากกว่า มาถามตอนนี้ก็คงสายเกินไปแล้ว ถ้าในสายตาของพี่เห็นหนูเลวมากนัก ก็อย่ามาจมปลักกับกะเทยร่านๆ อย่างหนูเลยค่ะ แต่ถ้านึกติดใจจะไปกินข้าว ดูหนัง อย่างพี่น้อง พออยากทำก็นัดเจอกันเป็นครั้งคราวก็ได้ สนุกกับหนูเป็นบางวันแล้วกลับไปผูกพันกับคนดีๆ อย่างพี่เอดีกว่า” แต่ละคำกว่าจะพูดออกมาได้ก็กล้ำกลืนฝืนทนน่าดู แต่ก็ออกมาจากใจค่ะ
“น้องฐา...เรากำลังเข้าใจผิดนะ พี่กับเอน่ะ....”
“ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ เพราะพี่จะไปรักใครชอบใคร จะไปนอนกับผู้หญิง ผู้ชาย หรือกะเทยคนไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหนูอยู่แล้ว!” ..........................................................
ตอนแต่งนั่งร้องไห้ ไปหลายกระบุง แต่กลับมาอ่านก็เฉยๆ นะ ขอโทษที่ทำให้คนอ่านเศร้าตามไปด้วย
แม้แต่นิยังไม่รู้เลยว่าจะดีกันเมื่อไรดี
เพราะในความเป็นจริง จะให้คนสองคนลดทิฐิ หรือเปลี่ยนนิสัยแย่ของตัวเองบางทีก็ไม่ง่าย
พี่โต้งแกไม่รักดีค่ะ ดีแต่รัก .... ไม่ค่อยรับฟังอะไร คิดแต่ว่าตัวเองถูกอย่างเดียว จะทำอะไรก็ไม่คิดไต่ตรองให้รอบคอบ บ้าเลือด ...เวลาจะดีก็ดีใจหาย เวลาโมโห ก็ร้ายซะไม่มี ทั้งปากจัด กัดเจ็บ ใครจะไปทนได้....
ส่วนน้องฐาเอง....มีอะไรก็ช่างมันๆ ใครอยากจะเข้าใจอะไรตัวเองผิดยังไงก็ช่างมันไม่แคร์ตลอด แม้แต่กิ๊งที่เป็นเพื่อนสนิทแท้ๆ ยังคิดว่าว่าฐากร้านโลกเลยแล้วคนอื่นจะไปเหลืออะไร
อีกอย่าง นิสัยชอบประชดประชันก็แก้ไม่หายสักที ....
สรุปแล้ว นิสัยของสองคนนี้....
มันเข้าใจกันยากมาก
แต่ก็จะพยายามให้ดีกันเร็วๆค่ะ
.........................................
สวัสดีคะ
ระหว่างรอลงตอนใหม่ คือ เจ้จะรบกวนเข้ามาบอกว่า...
ตอนต่อไปๆ อย่าเขียนฉาก Nc เรท มากนักนะ ประมาณไม่ควรเขียนให้มีฉากบรรยายการร่วมเพศ รวมถึงการทำ oral sex
เด๋วเล้าฯ โดน ict ปิด จบเห่กันพอดี
แต่ถ้าเขียนแบบเชิงเปรียบเทียบ น่าจะได้นะเจ้ว่า ช่วยๆ กันหน่อยนะคะ
เจ้สอง
|
แหะๆ กดอ้างอิงแล้วมันโหลดนานอ่ะ เลยก๊อบข้อความมาแทน
จะบอกว่ารับทราบนะคะ จะพยายามลดเรตลง หรือเขียนในเชิงเปรียบเทียบแทน
แต่ถ้าแอบๆเขียนเจ๊หนึ่งจะไปฟ้องเจ๊สองไหม? ฮาๆๆๆๆๆ
ดีใจนิยายเค้ามีโมดุ(ๆ)มาอ่านด้วยนะ แต่เวลาทำผิดเนี่ยอันตรายจัง ฮาๆ
มีไรบอกได้นะคะ อย่าเพิ่งแบนนิยายหนู