ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ แต่งใหม่ก็มีคิดออกมาบ้างลืมบ้างลดบ้างเพิ่มบ้าง จนในที่สุดก็ออกมา
เป็นตอนที่แต่งแล้วปวดหัวมาก แต่งยังไงก็ไม่ค่อยลื่นเท่าไรค่ะ เลยนาน(มากกกกกก)เป็นพิเศษ ฮา
ผิดพลาดเรื่องเนื้อหา และความสมจริงก็ขออภัยด้วยนะคะ พิมพ์ๆ ลบๆ แก้ๆ นานมาก ถ้าไม่ลงก็คงอีกนาน
ตอนนี้ รสฮาคงน้อยหน่อยนะคะ แบบว่าน้องฐาก็มีช่วงที่ฮาไม่ออกเป็นเหมือนกันค่ะ
ตอนที่ 21 -- >มาม่าผัดขี้เมา >////////<
สับสน...
พี่โต้งทำให้น้องฐามึนงงไปหมดแล้ว สองขาก้าวตามแรงดึง สองตาทอดมองมือตัวเองที่ถูกกระชับแน่น
หลากคำถามเรียงถ้อยเป็นร้อยพัน แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ตอนเจอกันครั้งสุดท้ายยังตัดพ้อต่อว่า ด่าทอสาดเสียเทเสีย แต่พอมาวันนี้ทำไมกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า น้องฐาไม่เข้าใจ
เมื่อไม่รักกันแล้วจะมาทำดีเพื่ออะไร
รู้ไหมทำให้คนๆ นี้ยิ่งเจ็บ....
♪เมื่อเธอลา ใจมันถูกทำร้าย เจ็บไม่หาย ที่เธอทำอย่างนี้
เคยรักเธอทั้งหัวใจ บอกใจพอสักที จากนี้ต้องลืมเธอให้ลง...
น้องฐาเผลอตัวเดินตามพี่โต้งมาได้ไม่ไกลนักก็คืนสติ พยายามบิดข้อมือให้คลายจากการเกาะกุม พี่โต้งหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง แต่หนูหรุบตาต่ำลงตอนที่บอกออกไป
“หนูเดินเองได้ ไม่ต้องจูงหรอกค่ะ” หนูไม่อยากได้รับความใจดีจากคนใจร้ายอย่างพี่อีกต่อไปแล้ว
“เดินเป๋ๆ แบบนี้น่ะเหรอ?” คำถามมีแววเย้ยหยัน หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเมามากจนเดินเป๋อย่างที่พี่เขาว่าจริงหรือเปล่าแต่ก็พยักหน้าให้ หัวสมองมันตื้อเสียจนคิดอะไรไม่ออกแม้แต่จะหาถ้อยคำมาประชดประชันต่อล้อต่อเถียงอย่างเก่า
“ตามใจ” พี่เขาบอกด้วยเสียงกระแทกนิดๆ แล้วหันหลังเดินนำต่อไป หนูเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าด้วยดวงตาที่ปวดแปลบ พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำ แต่ไม่มีแม้เสียงสะอื้นใดที่ยอมปล่อยให้เล็ดลอดออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง
จนกระทั่งถึงห้องน้ำหนูก็ไม่รอให้พี่เขาหันมามอง รีบโค้งตัวเดินผ่านพี่โต้งเข้าห้องน้ำชายปราศจากผู้คนไปอย่างรวดเร็ว
เข้มแข็งไว้นะน้องฐา..... กลับมาร่าเริงเข้มแข็งอย่างเก่าได้แล้ว อย่าให้ใครหรืออะไรมีอิทธิพลต่อเราได้อีก หนูบอกตัวเองแล้วใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาโดยเร็ว
พี่โต้งเดินตามเข้ามาในห้องน้ำ หนูก็ทำเป็นไม่สนใจเปิดน้ำใส่อ่าง แล้วพยายามใช้มือวักน้ำจากก๊อกมาใส่เสื้อตัวเอง
“เร็วหน่อยนะ ฝนลงเม็ด ถ้าตกหนักก็คงติดอยู่ห้องน้ำไปไหนไม่รอดแน่”
“งั้นพี่ก็กลับไปก่อนสิคะ เดี๋ยวหนูกลับไปเองคนเดียวก็ได้”
“จะทำอะไรก็รีบๆ ทำเข้าเถอะไม่ต้องออกความเห็น” อะไรของเขาเนี่ย...
“ค่าๆ” ตอบยานคางนิดๆ หันมาสนใจเสื้อผ้าตัวเองต่อ
อี๋.....แหวะ....เหม็นเหล้า....
เซ็งจิต เสื้อผ้าทั้งเปียกทั้งเหม็น แต่คงทำอะไรไม่ได้มาก คงต้องทนๆ เอาเพราะจะซักก็จะเปียกไปกันใหญ่ ทำความสะอาดเท่าที่พอทำได้ไปก่อนแล้วค่อยกลับไปซักที่หอแล้วกัน ถอนใจแล้วบิดน้ำออกจากเสื้อจนน้ำหยดแหมะ เดินเข้าไปในห้องส้วมเอาสายยางฉีดขาตัวเองล้างน้ำเหล้าแต่น้ำมันแรงค่ะมันเลยกระเด็นจนน้องฐาเหมือนจะเปียกไปหมดทั้งตัว วันนี้มันวันซวยอะไรของหนู ฮือ....
น้องฐาล่ะเซ็ง.... แต่พอหันหลังกลับจะเดินออกก็ต้องชะงัก...
พี่โต้งเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องส้วมขวางทางไม่ให้น้องฐาเดินออก หนูทั้งแปลกใจและตกใจจนต้องก้าวถอยหลัง แต่แขนยาวๆ ของพี่โต้งกลับคว้าข้อมือหนูไว้ไม่ให้ขยับ
“เข้าไปอาบน้ำมาหรือไง เปียกไปหมดทั้งตัวแล้ว” บ่นแล้วส่ายหน้า เอาใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองเช็ดแขนเปียกๆ ของน้องฐาเบาๆ ทำยังไงดี หัวใจเต้นแรง จนหยุดไม่อยู่....
พี่โต้งเงยหน้าขึ้นจากแขนมาสบตาหนู กลัว...ว่าพี่เขาจะเห็นแววตาไหวสะทกอ่อนไหวจึงเสหันไปมองทางอื่นทันควัน
“ทำไมล่ะ....รังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ? แม้แต่หน้าก็ไม่อยากจะมอง” น้ำเสียงมีแววน้อยใจอยู่ในทีทำเอาหัวใจกระตุกวูบ รีบปฏิเสธ
“เปล่าหรอกค่ะ หนูก็แค่ทำตามที่พี่ต้องการเท่านั้น ถ้าไม่จำเป็น จะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีก” หนูนำคำพูดสุดท้ายที่พี่เขาพูดกับหนูกลับมาเตือนสติเราทั้งคู่อีกครั้ง ใจจริงอยากจะทำเสียงแข็งแสดงออกว่าไม่เจ็บ ไม่แคร์ แต่ตอนท้ายยังอดเสียงสั่นไม่ได้
“หึ...ช่างจดช่างจำดีเหลือเกินนะ” ทำเสียงไม่พอใจนิดๆ ค่ะ
“เรากลับกันเถอะค่ะ....” เปลี่ยนเรื่องทันควันแล้วพยายามจะแทรกกายผ่านช่องว่างเพื่อเดินออกจากความคับแคบของห้องส้วม แต่พี่โต้งกางแขนมากันไว้ไม่ให้ผ่านได้
“ไม่ต้องรีบแล้วแหละ เพราะฝนตกหนักแล้ว คงยังไปไหนไม่ได้ รอฝนหยุดก่อนแล้วกัน”
หา!! ฝนตก...ติดแหง็กอยู่ด้วยกันที่นี่สองต่อสอง โรแมนติก หรือมาคุกันแน่เนี่ยเริ่มหวั่นๆ
“เป็นอะไร อยู่กับพี่แบบนี้มันลำบากใจมากหรือไง”
“เปล่าหรอกค่ะ หนูกลัวพี่เอเขาจะเข้าใจว่าหนูให้ท่าพี่ เดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ กลัวไม่โดนแค่น้ำเหล้า ต่อไปจะเป็นน้ำกรดแทน” บอกเสียงเรียบโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง
“เอก็แค่ซุ่มซ่าม ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย” มีแก้ตัวให้กันด้วย เชอะ!!
“เหรอคะ นี่ขนาดไม่ตั้งใจ” น้ำเสียงประชด ก้มลงมองตัวเองเปียกโชกไปทั้งตัวแล้ว หงุดหงิดชะมัด...
“เป็นอะไรไป ตั้งแต่ที่โต๊ะแล้วนะที่เราตั้งแง่ แล้วก็ไปก้าวร้าวใส่เขา ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย”
“ขอโทษนะคะ ลืมไปว่าแตะต้องไม่ได้” ยังไม่เลิกประชดค่ะ พี่โต้งมองหน้ามุ่ยๆ ของหนูนิ่งไปครู่
“อย่าบอกนะว่า....น้องฐาหึงพี่..” คิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าน้ำเสียงนั้นมีความดีใจแฝงอยู่
“หนูรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์จะรู้สึกอย่างนั้น ในเมื่อเรา....” หนูเงยแหงนหน้าขึ้นสบตาของคนตัวสูงกว่าด้วยแววตาสั่นไหว “.....ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว”
ขอบตามันเจ็บ....แสบและสะกดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว....
“ถ้าไม่ใช่ แล้วร้องไห้ทำไม”
“จะมาสนใจอะไรกับน้ำตาดาราแบบนี้ แค่ดีดนิ้วมันก็ไหลพรากๆ แล้วล่ะค่ะ” ตอบแล้วเอามือป้ายน้ำตา พยายามหยุดร้องไห้
“พูดกันดีๆ บ้างไม่ได้เหรอไง ทำไมต้องประชดด้วย พี่พูดด้วยดีๆ นะ”
“ช่างเถอะค่ะ หนูจะร้องไห้ทำไมก็ช่าง มีอะไรก็พูดมา ถ้าไม่มีก็หลบเถอะค่ะ ห้องส้วมแคบๆ ไม่ได้น่าพิศมัยเท่าไรนักหรอก” ทำเสียงเชิดใส่ค่ะ พี่โต้งกระชากแขนน้องฐาไปเผชิญหน้า
“จองหอง อวดดี ถ้าความจำดีนักว่าพี่เคยพูดอะไรไว้บ้างก็น่าจะจำได้ด้วยนะว่าพี่ไม่ชอบถูกใครเมิน”
“แล้วไงคะ...คุ้นๆ จะช่วยเตือนความจำให้ชนิดไม่มีวันลืมไม่ใช่เหรอคะ ก็ดีเหมือนกันนะ เรื่องอื่นพอจำได้แต่ไอ้นอนกับใครยังไงบ้างเนี่ยจำไม่ค่อยได้เลยเพราะหลายคนจัด”
“มั่วมากนัก ระวังเถอะจะเจอแจ๊กพ็อตเข้าสักวัน”
“แหมๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใยน้องฐาหรอกค่ะ ถึงหนูจะสำส่อนแค่ไหน ก็มีสมองมากพอจะดูแลป้องกันตัวเองค่ะ รับรองไม่มีโรคมีภัยมาเบียดเบียน แต่อย่างพี่ก็ไม่น่าห่วงหรอกมั้งคะ ในเมื่อ.....” หนูโอบแขนไปหาพี่โต้งลูบไล้นิ้วเรียวไปตามร่องกระดูกสันหลังแล้วฉกกระเป๋าหนังของพี่โต้งออกมาเปิด ชูซองถุงยางขึ้นมา
“เหมือนเดิมเลยนะคะ นิสัยชอบใส่ถุงยางไว้ในกระเป๋าเนี่ย ว่าแต่หนู ตัวพี่เองก็ใช่ย่อยเหมือนกันนะคะ” พี่โต้งเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าเงินกลับไปเก็บค่ะ แต่ถุงยางยังอยู่ในมือหนู
“มีไว้ในกระเป๋าก็ไม่ได้แปลว่าใช้บ่อยๆ นี่ เอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้นแหละ เผื่อวันดีคืนดี โดนกะเทยที่ไหนตีหัวลากเข้าป่าจะได้มีอะไรป้องกันตัวบ้าง”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด เหมือนโดนด่าเลย จิกตาใส่อย่างโมโห
กัดริมฝีปากตัวเองอย่างเจ็บใจ จับมือพี่โต้งดึงให้เข้ามาในห้องส้วมเดียวกันแล้วหันไปล็อกกลอนเสร็จสรรพ
“จะทำอะไรอ่ะ” ต๊าย....พ่อหนุ่มน้อยไร้เดียงสา ช่างไม่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกะเทยอย่างหนูเสียเลย
“ก็ไม่มีอะไร ไหนๆ ข้างนอกฝนก็ตกไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว หาอะไรทำแก้เซ็งกันดีไหม เช่น สร้างกรณีฉุกเฉินขึ้นมาก็น่าตื่นเต้นดี เสียดาย ไม่มีป่าให้ลากเข้าไป ขอเปลี่ยนเป็นลากเข้าส้วมแทนแล้วกันนะคะ”
หนูส่งรอยยิ้มหวานปานน้ำผึ้งอาบยาพิษ ก้าวเท้าเข้าไปชิดแล้วแตะฝ่ามือลงลูบไล้บริเวณแผงอกนอกเสื้อเชิตสีขาวแผ่วเบา อย่างยั่วยวน
พี่โต้งไม่ตอบกลับค่ะมีแต่ทำหน้างงสุดชีวิต
พ่อค้าตับปิดร้านไปนานแบบนี้ รู้บ้างไหมเนี่ยว่ามีลูกค้าเขาหิวจนใกล้จะลงแดงเต็มทนแล้ว
“ถือว่าสนุกกันเฉยๆ ไม่ผูกมัดเป็นเจ้าของกันและกัน เหมือนกับวันแรกที่เราได้เจอกันไงคะ”
น้องฐาพยายามจะหลอกตัวเองซ้ำอีกครั้งว่าทุกสิ่งที่ทำลงไป.....เกิดจากความใคร่ล้วนๆ ไม่มีความรักเจือปนเลยสักนิดจริงๆ พี่โต้งก็เป็นได้แค่เครื่องบำบัดความใคร่ชั้นเลิศก็เท่านั้นแหละ!! น้องฐาจะไม่รักผู้ชายใจร้าย ปากจัด โง่เง่า คนนี้อีกแล้ว
คิดพลางพยายามแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น ลูบไล้ด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาให้สมความคิดถึง.... หือ.... ไม่ใช่หรอก...ไม่ได้คิดถึงสักหน่อยแค่นึกถึงเท่านั้นต่างหาก...
พี่โต้งไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธค่ะ น้องฐาก็คิดเองเออเองว่าพี่เขาสมยอม...
“นะคะ.... รับรอง น้องฐาจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง” แค่นยิ้มอย่างขมขื่น “เพราะถ้าแค่ระบายความใคร่ล่ะก็ จะผู้หญิง ผู้ชาย หรือกะเทยก็เหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอคะ?” ตอกย้ำเข้าไปอีก ให้หัวใจมันเจ็บมากๆ เจ็บบ่อยๆ เดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง
“น้องฐา พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น ก็แค่กำลังโมโหอยู่ก็เลย...” หือ...หูฝาดหรือเปล่าเนี่ย อยู่ดีๆ ก็ขอโทษ คิดว่าหนูอยากฟังนักหรือไง
♪หมื่นเหตุผลที่ทิ้งฉันไป กี่พันคำที่เธอคร่ำครวญ พูดว่าเธอเสียใจที่ได้ทำกับฉัน
อยากจะขอให้ฉันเห็นใจ ให้อภัยกับเธอได้ไหม รู้หรือเปล่า ว่าใจฉันนั้นคิดยังไง
ไม่เลย... หนูไม่ต้องการคำขอโทษ หรือคำอธิบายอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เซ็กส์เท่านั้นแหละที่ต้องการ
หนูเอานิ้วชี้ไปวางที่ปากพี่เขาเบาๆ ยิ้มหวานและเอียงคอ ขณะที่มือตัวเองก็ไม่อยู่สุขยังลูบไล้ เปะป่าย ล้วงควักลงไปในขอบกางเกงยีน
“เอาไว้พูดทีหลังดีกว่าค่ะ ตอนนี้อย่าพูดอะไรเครียดๆ เลย ฟังแล้วปวดสมอง” บอกแล้วเริ่มรุกไล่ ปลดกระดุมกางเกงยีนของพี่เขาออก จนเผยความเป็นชายให้เห็น พยายามจะช่วยปลุกเร้าเพิ่มความต้องการให้คนตรงหน้า ด้วยปลายลิ้นและริมฝีปากจนสุดความสามารถที่มี จบท้ายด้วยการใส่ถุงยางให้เสร็จสรรพ
จากนั้นก็ดันให้พี่เขาถอยหลังลงไปนั่งบนโถส้วมค่ะ ส่วนหนูเริ่มจัดการกับเสื้อผ้า(ชื้นๆ)ของตัวเอง
“เราจะคุยกันให้รู้เรื่องก่อนไม่ได้หรือไง”
“ไม่ใช่เวลามาคุยหรอกค่ะ เพราะหนูรู้ว่าพี่ก็เริ่มมีอารมณ์แล้วเหมือนกัน” บอกพร้อมกับเซนิดๆ ตอนถอดกางเกงออก ทำไมห้องน้ำมันเอียงนิดๆ ก็ไม่รู้สินะคะ
“ไหวไหมเนี่ย เมาอยู่ไม่ใช่เหรอ...” เอ๋.... นี่หนูเมาเหรอ เมาที่ไหนกัน ไม่ได้เมาสักนิด
“ไม่ต้องห่วงค่ะ” เอานิ้วชี้โบกไปมาประกอบด้วยค่ะ ส่งยิ้มหวานด้วยตาเยิ้มๆ “แอลกอฮอล์ทำให้ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะลดลงแต่การขับขี่อย่างอื่นเพิ่มขึ้นนะคะ” ถอดเสื้อผ้าออกอย่างทุลักทุเลนิดๆ ไม่เมาหรอกค่ะ แค่ไม่เหมือนเดิม....
“ไม่เถียง...” พี่โต้งพึมพำ แต่หนูไม่เข้าใจความหมายหรอกค่ะ
เล็บยาวที่เคลือบสีชมพูอ่อนลากเบาๆ ไปตามแผ่งอกกว้าง เงยหน้าขึ้นใช้สายตาพราวพรายขึ้นมองสบ แล้วไงต่อเนี่ย ขึ้นเลยแล้วกัน ทำๆ เสร็จๆ ค่ะ
ว่าแล้วก็เคลื่อนกายเข้าหาเอามือวางบนไหล่เตรียม....
“เดี๋ยว...จะเอาเลยเหรอ” พี่โต้งถามกลับมา พร้อมทำตาโตๆ
“ก็แล้วจะรออะไรอีกล่ะคะ” ถามกลับไปเหมือนรำคาญนิดๆ
“เดี๋ยวก็เจ็บแย่หรอก” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยเหมือนเก่า ทำให้อดนิ่งอึ้งไม่ได้
อีตาบ้า..... ใครเขาให้มาสงสาร เห็นใจ แสดงความอ่อนโยนตอนนี้....
“โอ๊ย...ไม่ต้องห่วงค่ะ ก็ทำบ่อยจนชินแล้วมันจะไปเจ็บอะไร” ประชดเก่งจริงอะไรจริงค่ะ
“ปากดี” พี่โต้งเค้นเสียงกลับมาค่ะ
“ไม่ดีแต่ปากนะคะ อย่างอื่น...ก็ดีด้วย....” ขี้โอ่เป็นนิสัยจริงๆ เลยหนู
“ไม่เถียง” พึมพำกลับมาเสียงเบา ขณะส่งปลายนิ้วเรียวมาช่วยตระเตรียมช่องทางให้
“อื๊อ.....อุ๊บ” หนูไม่ยอมส่งเสียงครางให้เสียฟอร์มเด็ดขาดค่ะ เอามืออุดปากตัวเองไว้ แต่เมื่อแต่ละนิ้วที่สอดแทรกเข้ามาเริ่มเคลื่อนไหวเข้าออกมันก็เสียวมากจนขาอ่อน ยืนจะไม่อยู่
“พะ....พอแล้วค่ะ...”
ทนไม่ไหวแล้ว.... ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าความจริงหนูยังคงคิดถึงอ้อมกอดนี้... สัมผัสนี้....อยู่เสมอ
ถึงจะเจ็บมากแค่ไหน ก็ยังไม่เข็ดสักที ดีใจที่ได้เห็นหน้า ดีใจที่ยังเห็นว่าเขายังสนใจ
พยายามแล้วที่จะตัดใจ....
ถึงจะบอกให้ใจแข็งสักเท่าไร...แต่...แต่...
♪แต่วันนี้แค่ฉันเห็นเธอ ความเข้มแข็งมันก็ละลาย
ยิ่งเธอบอกให้เราเป็นอย่างเดิมได้ไหม....
เธอรู้ไหมว่าทั้งหัวใจยอมกลับไปกลายเป็นของเธอ
ตั้งแต่เจอเธอยืนหน้าประตู....
“ให้หนูทำสักทีเถอะค่ะ” บอกแล้วจับมือพี่เขาออก ค่อยๆ กางขาไปคร่อมส่วนอ่อนไหวที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายเบื้องล่าง แล้วลดสะโพกลงไปอย่างเชื่องช้า
เจ็บ.... จริงๆ ด้วย...แต่ก็หยุดไม่ได้...
“โอ๊ย...ขนาดทำบ่อยๆ ยังแน่นขนาดนี้ ถ้าเปิดซิงจะขนาดไหนหือถามจริง” พี่เขาถามมาด้วยเสียงแหบๆ
ดูคำพูด.....คำจา....จะตรงไปไหนคะ?
อย่ามาเปิดซิงหนูเลย ขนาดไม่ซิงยังเจ็บขนาดนี้ ถ้าซิงจะขนาดไหนเล่า ฮือ...น้ำตาซึม...เลย
“พี่ว่าเราต้องมาโซคิสนิดแน่ๆ เลย” หือ อะไรคิสๆ คิสที่แปลว่าจูบหรือเปล่า สมองกำลังงงค่ะ
พอสองร่างแนบชิดสนิทกันแล้วหนูก็โอบแขนไปรัดคอพี่โต้งไว้แล้วแตะริมฝีปากลงไปที่ปากหนา หนูเพียงจูบแค่ผิวเผินเท่านั้นค่ะ แต่พี่โต้งนี่สิ ไม่ยอมแค่นั้นทั้งดูดทั้งเอาลิ้นออกมาพัน เป็นนานจนหนูแทบหายใจไม่ทัน
ไม่นานพี่เขาก็ถอนจูบค่ะ แล้วหนูก็รู้หน้าที่ เริ่มจะขย่มโดยมีอีกฝ่ายช่วยจับสะโพกควบคุมจังหวะให้ แล้วเริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างผอมบางของหนู อ่อนโยน เร่าร้อน น่าหลงใหล...อย่างเคย
เหมือนได้รับการเติมเต็มจากบางสิ่งที่ขาดหาย
ขอให้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความฝันทีเถอะ...
แต่ถ้าเป็นความฝันจริงๆ หนูก็อยากจะหลับอยู่อย่างนี้ไม่อยากตื่นเลย
.
.
.
.
.
.
เสียงหอบ หยาดเหงื่อ และของเหลวสีขาวขุ่น บ่งบอกว่าความสนุก สุขสมดำเนินมาจนถึงที่สิ้นสุด
ทันทีที่รู้สึกว่าหายเหนื่อย น้องฐาไม่อ้อยอิ่งนานนัก รีบลุกขึ้นแล้วทำความสะอาดตัวเองแล้วแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
“หนูไม่ได้ยินเสียงฝนแล้ว แต่งตัวเถอะค่ะพี่ จะได้กลับกัน” พยายามทำเสียงเป็นปกติที่สุดตอนที่บอก ทั้งๆ ที่ก็อดจะใจหายไม่ได้ ถ้ากลับออกไป เราก็จะกลายเป็นคนไม่รู้จัก ไม่เกี่ยวข้องกันอีกเหมือนเดิม
ใช่สิ....ก็พี่ไม่ชอบกะเทยนี่
อย่างหนูก็คงเป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ชิ้นหนึ่งก็เท่านั้นแหละ...
คำขอโทษที่เอ่ยเอื้อนก็คงเป็นแค่คำพูดพล่อยๆ ที่หลุดออกมาเมื่อยามความใคร่ ต้องการให้ตอบสนอง หรือสิ่งที่จะต้องคุยกันให้รู้เรื่องจริงๆ ก็คือ... ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่าได้บอกใครเหมือนครั้งแรก...
“เราไม่น่ากลับมาเจอกันอีกครั้งนึงเลย” ชะงักกึกที่ได้ยินประโยคนี้ หนูหันไปมองหน้าพี่เขาด้วยแววตาสั่นไหว
เห็นไหม...พี่เขาเสียใจที่กลับมาเจอกันอีก...
จริงอย่างคิดทุกอย่าง...
หนูผิดเองที่หลงคาดหวัง
หนูผิดเอง...ที่ยังตัดใจไม่ขาด...
“เพราะมันทำให้พี่อดเสียใจไม่ได้ที่ตัดสินใจปล่อยน้องฐาไปในวันนั้น... เคยคิดว่ายิ่งรั้งกันไว้ก็ยิ่งเจ็บ ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมอะไรก็คงดีขึ้น แต่ความจริงกลับไม่ใช่ ถึงบอกเลิกกันไป ก็ไม่ได้ทำให้พี่มีความสุขมากขึ้น ถึงยังไงพี่ก็ยังคิดถึงน้องฐาอยู่ดี.............. ”
อึ้ง...พูดไม่ออก
เจอแบบนี้ก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกันนะคะ
น้ำตาพาลจะไหลลงมาอีกอย่างห้ามไม่อยู่อีกแล้ว...
♪ไม่ได้ยินที่เธอบอกกับฉัน คำเป็นพันมันไม่มีความหมาย
ฉันได้ยินแค่หัวใจ บอกว่ายังรักเธอ วันนี้ฉันแพ้ใจตัวเอง
...
เพลงประกอบ... ยอมตั้งแต่หน้าประตู (ห้องน้ำ) 001
รุ่นใหม่อาจจะไม่เคยได้ยิน เพราะเพลงมันเก่า...
บอกอายุมากเลยค่ะ เขิน...(เก่าตั้งแต่เพลงจำเลยรักแล้ว)
(พยายามหาวิธีใส่เพลงค่ะ แต่ใส่ไม่เป็น ฮือ....)
ที่จริงแล้วอ่านไปก็เหมือนไม่เศร้า แต่ฉากบีบตับที่เขียนไป นิต้องร้องไห้ไปด้วยทุกที สงสัยนิจะอินมากไป
อยากเขียนเลิพซีนแรงๆ สักฉาก แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับไม่ค่อยมีอารมณ์เลยอ่ะค่ะ ผิดความตั้งใจมากๆ เลย
นอกจากไม่ใส่รายละเอียด แถมมีตัดเข้าโคมไฟอีกต่างหาก
ขอโทษนะคะ มันตื้อจริงๆ สมองตันขึ้นมาเฉยๆ TT_TT
ติดไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสแล้วกัน แหะๆ