“ฟ้า”
‘เฮ้ยย’ เกือบจะวิ่งละ ถึงมันจะเพิ่งทุ่มแต่มันก็มืดแล้วนะ พอตั้งสติดูดีๆ ไอ้วานี่หว่า แม้จะยังอยากวิ่งหนีแต่ก็ทำได้แค่
“อ้าวมาไง วา” มือก็ใช้ลูกกุญแจไขประตูห้อง พยายามทำนิ่งๆ ไม่ให้ใครคนนั้นเห็นว่ามือมันสั่น พอเข้าห้องได้ก็อยากจะปิดประตูใส่หน้ามัน แต่ก็ทำไม่ได้
‘ทำก็กลัวสิ’ แต่กูกลัวจริงนะ
วาเดินตามเข้ามาในห้องราวกับเป็นห้องของตัวเอง พอปิดห้องเท่านั้นแหละ มันก็เข้ามานัวเนีย จนแทบระทวย
“อ๊ะ คุณ เดียว อื้อ คุยกันก่อน” ฟ้าครามเอามือดันหน้าคนรุกรานให้ออกห่าง แต่ทันทีที่มองสบตากับร่างสูงฟ้าครามก็รีบเปลี่ยนคำเรียกในทันที
“วา คะ คือ ใจเย็น คุยกันก่อนนะ” ฟ้าครามรีบเอาน้ำเย็นเข้าลูบทันที
“คุยไร มึงหลบหน้ากูมากี่วัน ทีงี้หละจะคุย” มันยอมซะที่ไหน
‘เชี่ย ในเมื่อยังไงมึงก็จเอาแล้วจะให้กูเรียกชื่อทำไม๊’
“ไม่คงไม่คุยแล้วฟ้า กูรักมึงกูก็บอกไปแล้ว...” เสื้อ เสื้อหลุดไปแล้ว
“อ๊า แล้วจะไม่ถามผมบ้างหรอ อืออ” มันไซ้ซอกคอแล้ว
“ปากแข็งอย่างมึง รู้แค่ว่ากูรักมึง และมึงเคลิ้มไปกับกูก็พอแล้ว”
“เชี่ย เฮ้ยยย ไอ้ว๊า” มันพามาที่เตียงตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย เมื่อไหร่ยังไงไม่รู้ แต่ตอนนี้
‘ไอ้ปลาหมึก ปล่อยกู๊.....’ มันปล่อยตอนเช้าอีกจนได้ ก่อนปล่อยยังมีอิดออดไปอีกหนึ่งดอก
เมื่อคืนก็อีก มันทำมึนเข้ามานอนในห้องด้วย แล้วได้หลับได้นอนซะเมื่อไหร่ มันเอาแต่ใจ อ้างโน่นอ้างนี้ ขี้เอากว่าจะได้นอน ก็เลยเที่ยงคืนไปโข ทั้งที่ตัวเองก็มีห้องบนบ้านใหญ่กับพี่ของมัน ผมชอบเวลามันอยู่กับพี่ชายนะ เวลาไอ้สองพี่น้องนี่อยู่ด้วยกัน ฮาแตกจริงๆ
วันแรกที่มันมา พอเช้าต่างคนก็ต่างเดินขึ้นตึกใหญ่ ของผมก็ไปตามหน้าที่บอดี้การ์ด ส่วนมันก็คงไปอาบน้ำนอนต่อนั้นแหละ แต่ดันเจอกับพี่มันที่ตื่นลงมาซะก่อน
“ไอ้ดื้อ บ้านเค้าไม่ได้มีไว้ให้กลับเช้านะ”
“เฮียยยยยธิ๊ว เลิกเรียกแบบนี้ซะทีเดะ โตจนมีเมียแล้ว” คำตอบมันทำเอาวัวหลังหวะแถวนั้นถึงกับสะดุ้ง
“คำแรกหนะ ลากให้มันยาวๆ เข้าไว้นะ ไอ้ดื้อ ไม่งั้นเฮียจะลากมาตบปาก” ไอ้ดื้อค้อนตาคว่ำ
“ไหนมาให้เฮียกอดก่อน ไม่ได้เจอมาเป็นเดือนแล้ว” ให้มันบ่นแค่ไหน แต่มันก็เดินไปให้เฮียมันกอดอย่างว่าง่าย
“ไปซนที่ไหนมา...กลับเอาป่านนี้” ไหงพอกอดน้องแล้วต้องมองมาที่ผมแปลกๆ ล่ะเหีย เอ้ย เฮีย
ไอ้วาแพ้ทางพี่ชายมัน บ่นกระปอดกระแปดแต่ก็เดินเข้าไปให้กอด มันน่ารัก ผู้ชายตัวโตๆ คนนึงผิวขาวจั๊ว ยิ้มแย้ม คุยกระซิบกระซาบกับน้องที่ตัวเตี้ยกว่าคนพี่แค่หน่อยเดียว ผิวเข้มเพราะออกแดด
‘เห็นนะ ไอ้ที่ไม่โดนแดดงี้ข๊าวขาว’
แม้จะหน้าหงิก หน้างอ แต่ปากก็เฮียอย่างงู้น เฮียอย่างงี้ กอดกันหอมกันยังกับเด็ก
‘แล้วทีอยู่ด้วยกัน มันทำเอาผมเหนื่อยกาย (กับไอ้คนน้อง) เหนื่อยใจ(กับไอ้คนพี่) เอาแต่ใจกันจริงๆ’ ฟ้าครามแอบหันหลบไปหาว
‘วิฮิ้ววว วันนี้ไอ้วาเข้าเวร สบายหละ’ อาบน้ำอาบท่ากำลังกลิ้งตัวบนที่นอนนุ่มกะว่าจะได้นอนสบาย แต่ที่ไหนได้
“ตริ้งง ตริ๊งงง” เสียงเรียกเข้าถี่กระชั้นแบบนี้ ตั้งไว้ให้ไอ้คนพี่คนเดียวเลยนะ
“ฟ้าครามครับ”
“ยังไม่นอนใช่มั้ย ขึ้นมาที่ห้องผมหน่อย”
“ครับ” นั้นประไร คิดแล้วไม่ผิด
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
หือ วันนี้พี่ท่านหล่อเนี้ยบในชุดกางเกงผ้าไหมเลียบลื่นสีน้ำเงินเข้ม คลุมด้วยเสื้อคลุมเดียวกัน ในมือถือแก้ววิสกี้
‘โอ๊ยยย เท่โคตร’
“คุณธิว เรียกผมมามีอะไรหรือครับ
“นอนเป็นเพื่อนหน่อย”
“ฮ๊ะ วะ ว่าไงนะครับ”
“บอกให้นอน”
“มะ ไม่ดีกว่าครับ ผมขอตัว”
‘ท่าจะเมาซะหละมั้งเนี่ย หวังว่าพรุ่งนี้คงลืมนะว่าเราขัดคำสั่ง’
ฟ้าครามหันหลังเตรียมออกจากห้อง แต่มือใหญ่ที่ไม่รู้เข้ามาใกล้ตัวขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คว้าเข้าที่ต้นแขนก่อนกระชากให้หันกลับไป แล้วรวบร่างที่เล็กกว่าเข้ามาในอ้อมแขน
“คุณ!!!” ฟ้าครามใช้มือทั้งสองข้างดันอกคนร่างใหญ่เอาไว้เต็มที่
‘ไอ้สองคนพี่น้องนี่ มันจะเหมือนกันเกินไปไหม’
ธิววิชจู่โจมอย่างเร็วไม่ปล่อยให้ฟ้าครามตั้งตัว มือหนาจับคางตรึงไว้ ประกบปากที่ร้อนรุ่มเข้าหา
“อ๊ะ” ฟ้าครามร้องอย่างตกใจ เป็นโอกาสให้ธิววิชส่งเรียวลิ้นผ่านเข้าสำรวจอย่างเร็ว ฟ้าครามดิ้นรนอยู่ในอ้อมกอดอันแข็งแกร่ง ไม่นานก็ต้องเลิกดิ้นเพราะดูเหมือนยิ่งดีร่างกายก็ยิ่งเสียดสีกับอีกฝ่ายมาขึ้นเท่านั้น ตาพราวระยับของคนตัวโตแสดงถึงความพอใจในความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ดิ้นอีกสักหน่อยล่ะ” ร่างสูงถอนปากออก
“ไม่ และช่วยปล่อยผมด้วย” ฟ้าครามสั่งเสียงแข็ง
“เรามาสนุกกันดีกว่าน่า”
“ไม่ ปล่อยผมนะคุณธิว” ฟ้าครามพยายามดิ้นรนอีกหน
“ไม่ปล่อย อย่าเล่นตัวจะดีกว่า” เสียงไม่สบอารมณ์ และดวงตาที่แข็งกราว ทำเอาฟ้าครามต้องเปลี่ยนกลยุทธ
“เอ่อ คุณธิว คุณธิว ปล่อยผมก่อนนะครับ ขอเวลาให้ผมทำใจสักหน่อยได้ไหมครับ” ฟ้าครามพยายามถ่วงเวลาเพื่อหาทางออก
“ผมว่า ผมให้เวลาคุณมามากแล้วฟ้าคราม หลายคืนที่ผมให้เวลาคุณทำความคุ้นเคยกับการนอนในห้องเดียวกัน”
‘หา ไอ้ที่เรียกมานั่งหลับในห้องนี่เค้าเรียกว่าให้เวลาคุ้นเคยหรอวะเนี่ย’ ครามถึงกับเหวอ
ร่างบางถูกดึงให้หมุนไปตามแรงฉุด ก่อนโดนเหวี่ยงโครมลงบนที่นอนหนานุ่ม ฟ้าครามกลืนน้ำลายเอื้อก สมองรีบคิดหาทางหนีทีไล่อย่างปั่นป่วน
ร่างสูงโถมกายลงมาทาบทับ ดักทางหนีที่ดูท่าว่าหนียังไงก็คงไม่รอด กักร่างบางเอาไว้ใต้ร่างจนแทบไม่มีที่ให้ขยับตัว มือหนาสอดเข้ามาในเสื้อยืดสำหรับใส่นอน
“อ๊ะ คุณธิว คือ เดี๋ยว” อย่าพยายามหาข้ออ้างเลย ยังไงชั้นก็ไม่ปล่อยนายไปแน่
“ไม่ ครับ ไม่ได้อ้าง แต่ ผะ ผะ ผม อ๊ะ อืออ” มือหนาจู่โจมอย่างต่อเนื่อง ทำเอาฟ้าครามถึงกับติดอ่าง
“อืออ พะ พอเถอะครับคุณธิว อย่าทำแบบนี้” สองมือพยายามปัดป้อง คนด้านบนหาได้ใส่ใจ
“ผมเป็นของวา ผมมีอะไรกับวาแล้ว ฉะนั้น กรุณาปล่อยครับ” ร่างหนาหยุดมือที่กำลังรุกรานยอดอกทั้งสองข้างด้านในเสื้อ
“อ๊ะ ไม่นะครับ” ฟ้าครามร้องเสียงหลง เมื่อมือหนาถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกอย่างรวดเร็ว ร่างท่อนบนเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงสว่างจ้าของดวงไฟ สายตาที่จ้องเขม็งกับอกขาวที่กำลังหายใจหอบ ก่อนมือหนาจะไล้มือไปตามร่องรอยแดงที่มีให้เห็นอยู่ทั่ว
“นี่หนะหรอที่น้องผมทำไว้” ธิววิชชี้ไปที่รอยแดงตามหน้าอกผ่อง ฟ้าครามพยักหน้ายอมรับ ก่อนที่จะเหวอหนักขึ้นไปอีกเมื่อ ธิววิชประกบปากลงขบเม้น ดูดกัด ไปตามรอยแดงแต่ละรอยจนทั่ว
‘แทนที่จะปล่อย นี่กูไปกระตุ้นต่อมหื่นมันเข้าหรือไงนะ’ ฟ้าครามคิดอย่างงงงวย
“ไม่นะครับ อ๊า พอ คุณธิว หยุด อ๊ะ ได้โปรด คุณธิว” เสียงห้ามมันดูสั่นๆ
“ต่อไปนี้มันเป็นรอยที่ชั้นทำ” บ้าเอ้ยย ฟ้าครามได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ ร่างกายยังต่อด้านด้วยการดิ้นรนให้หลุดออกจากอ้อมกอดของธิววิชให้จงได้
‘ไอ้สองพี่น้องนี่มันจะแข็งแรงไปไหนวะ’ ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดรอดเงื้อมือธิววิชไปได้ จนฟ้าครามเริ่มจะเหนื่อยซะเองแล้ว
ริมฝีปากอุ่นของธิววิช เข้าครอบครองยอดอกชูชัน อีกครั้งอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขบเม้มย่างดูดดื่มในนาทีต่อมา ฟ้าครามถึงกับเผลอกลั้นใจหายใจ
“ปล่อยตัวตามสบาย ฟ้า อย่าฝืน” ธิววิชถือโอกาสเรียกชื่อฟ้าครามแค่ฟ้าคำเดียว ก่อนจะขบเม้นปรนเปรอยอดอกที่แข็งเป็นไตทั้งสองข้างด้วยมือและปากต่อ
“คุณธิว” มือบางจิกลงที่ไหล่ของธิววิชปากก็เรียกชื่อชายหนุ่มอยู่ตลอด
ร่างสูงหยุดมือและปากของตัวเองชันตัวขึ้นเพื่อปลอดเสื้อคลุมและกางเกงออกจากตัว ร่างแข็งแกร่งเปิดเปลือยต่อสายตา ทำเอาสติที่กระเจิงหายพากันกลับมา ฟ้าครามพลิกตัวกระดืบหนีแต่ยังไม่ทันได้ไปถึงไหนร่างสูงก็ทาบทับลงมาอีกครั้ง ปากร้อนลากไล้ไปตามแผ่นหลัง เน้นย้ำ ทิ้งร่องรอยเอาไว้อย่างจงใจ ปลายนิ้วลูบไล้สัมผัสไปตามแนวกระดูกสันหลัง เลื่อนต่ำลงจนถึงก้นงอน
“อ๊ะ คุณธิว อย่าครับ” นิ้วเรียวสอดแทรกเข้าหาช่องทางด้านหลังก่อนจะสอดลึกลงไป
“อ๊า อย่าครับ อย่า หยุดเถอะครับ” แม้ปากจะร้องห้าม แต่ร่างกายกลับเกร็งแน่นรับการสำรวจ มือบางกำแน่นกับผ้าปูที่นอน ซุกหน้ากับหมอนนุ่ม หายใจหอบแรง เมื่อร่างสูงเร่งความเร็วของนิ้วที่สอดใส่ จากหนึ่งเพิ่มเป็นสอง ก่อนจะถอดถอนแล้วเติมเต็มด้วยตัวตนที่แข็งชัน
“อ๊ะ อ๊าาาาา” ร่างบางส่งเสียงร้องอู้อี้อยู่กับหมอน แม้ครั้งนี้จะไม่เจ็บเท่าครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับวาเลนท์ แต่ความแข็งขึนใหญ่โตกว่าที่เคยก็สร้างความเจ็บปวดเอาเรื่องอยู่ดี คนด้านหลังไม่ได้เอาแต่ใจจนไม่สนใจความเจ็บที่ร่างบางได้รับ เมื่อเข้ามาได้ก็หยุดนิ่งให้ร่างบางได้ปรับตัว มืออุ่นเลื่อนมาด้านหน้ากอบกุ่มส่วนอ่อนไหวของฟ้าคราม ปฏิบัติหน้าที่อย่างชำนาญ เสียงหายใจหอบ และร่างกายที่ผ่อนการเกร็งลงอย่างเห็นได้ชัดของฟ้าคราม เป็นสัญญารบอกให้ร่างสูงเริ่มขยับตัวย่างช้าๆ และเร็วขึ้นเมื่อฟ้าครามตอบรับจังหวะการขยับของเขาได้
“อย่างงั้น คนดี” เสียงแหบพร่า กระซิบชิดใบหู แรงโหมกระหน่ำที่เร็งแรง ทำเอาร่างบางได้แต่ขยับโยนไปตามแรงของผู้กระทำอย่างไม่อาจช่วยตัวเองได้
.
.
“อ๊า อืออ” เสียงร้องครางดังกระหึ่มภายในห้อง สองร่างที่ยังขยับโยกเป็นจังหวะ ขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ร่างบางนั่งคร่อมทับร่างสูงใหญ่ก่อนจะถูกกระตุ้นให้เป็นฝ่ายขยับโยก
“อ๊า คุณธิว พอ อ๊า พอแล้ว ฟ้าไม่ไหวแล้ว” เสียงอ้อนวอนแหบโหย ร่างที่แทบจะนั่งทรงตัวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ฟุบซบลงกับออกกว้าง ฟ้าครามถูกจับพลิกคว่ำลงกับที่นอนอีกครั้ง ร่างบางปล่อยทำสิ่งไปตามแต่ที่คนนำจะพาไป ไม่รู้ว่าไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ร่างนี้ได้ปลดปล่อยความสุขสมออกไป สติรางเลือนเต็มที่ ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ทั้งเปลี้ยไปหมดทั้งร่างกายแล้ว สติสุดท้ายรับรู้เพียงแค่ประตูห้องถูกเปิดออกร่างคุ้นตาของวาเลนท์ยืนเด่นอยู่ที่กรอบประตู อารมณ์พุ่งขึ้นสูงพัดเอาสติรับรู้จากไปพร้อมกับเสียงร้องของการปลดปล่อยครั้งสุดท้าย
.
.
.
กว่าที่ฟ้าครามจะตื่นอีกครั้งก็เป็นเวลาบ่ายกว่าเข้าไปแล้ว ในบ้านเงียบเชียบ กินอาหารเสร็จฟ้าครามก็ออกมานั่งเล่นที่เก้าอี้สนามที่ตั้งอยู่ด้านข้างตัวบ้าน
‘ป่านนี้น่าจะอยู่ที่ทำงานกันหมดแหละ’ ฟ้าครามนั่งนิ่งมองไกลออกไปที่ท้องฟ้า สีฟ้าสดใส ลมอุ่นๆ พัดอ่อนๆ มาเป็นระยะ
‘ผมจะบอกคุณว่ายังไงดีล่ะ วา แล้วคุณจะว่ายังไงบ้างนะ แล้วทำไม คุณธิวถึงได้....โอ้ยย’ หน้าที่ผ่อนคลายเมื่อครู่เริ่มขมวดมุน ด้วยความสับสน สุดท้ายก็สลัดศีรษะเอามือกุมขยุ้มผมเอาไว้ ร่ำร้องอยู่ใจใจอย่างสับสน และในตอนนั้นเอง แรงพาดจากทางด้านหลังที่มาแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัว ส่งผลให้ฟ้าครามถึงกับสลบไป
.
.
.
โครงบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จถูกทิ้งร้างมานานในที่เปลี่ยวห่างไกล ทั้ง หญ้าทั้งต้นไม้ขึ้นรก ร่างบางของฟ้าครามโดนลากเข้ามาโยนลงกับพื้นปูนชื้นๆ สกปรก ฟ้าครามที่พอจะรู้สึกตัวบ้างแล้ว แต่พยายามนิ่งเพื่อให้คนร้ายไม่รู้
‘เชีย ใครตีหัวกูวะ ปวดหัวชะมัด แรงขนาดนี้แม่งกะเอาตายเลยนี่หว่า ’ ฟ้าคราม ข่มความปวดตุ๊บๆ ที่ท้ายทอย หันไปมองรอบตัวเพื่อหาทางหนี ความเจ็บไม่ได้มีแค่ที่หัวแต่ที่แขนสูงกว่าข้อมือทั้งสองข้างก็เจ็บไม่แพ้กัน แต่ฟ้าครามแสร้งทำเป็นลืมๆ มันไป
‘โล่งขนาดนี้ เผลอเมื่อไหร่กูวิ่งแน่’
ฟ้าครามพยายามนอนนิ่งๆ เงียบ เพื่อรอโอกาส แต่จู่ๆ ร่างกายก็แสดงอาการแปลก กระสับกระส่าย เหงื่อออก ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เวลาเคลื่อนไป ความร้อนรุ่มก็ยิ่งทวีขึ้นเป็นระยะ ร่างกายแขนขาอ่อนสิ้นเรี่ยวแรง แต่ส่วนกลางลำตัวกลับแข็งชัน เสียงหายใจหอบจากความกระสันที่เพิ่มมากขึ้น ร่างบางสั่นอย่างเห็นได้ชัดจากการต่อต้านอารมณ์ความปรารถนา มือใครสักคนจิกเข้าที่กลุ่มผมกลางศีรษะกระชากให้เงยหน้าขึ้นมองสบตากัน
“อะไรที่เป็นของกูก็ต้องเป็นของกู อีร่าน วันนี้กูจะให้มึงมีผัวเก้าคนสิบคนแล้วจากนั้นกูจะค่อยๆ เฉือนมึงออกทีละชิ้นที่ละชิ้น” คนพูเอามีดกดจ่อที่ข้างแก้มก่อนไล้มีดลงมาที่ลำคอ
“แล้วดูซิว่า พอมึงเป็นศพที่ผ่านผู้ชายมานับไม่ท่วน ไอ้ธิวจะยังรักมึงอยู่ไหม” คนร้ายสะบัดมือปล่อยผมที่กำไว้ ทำเอาฟ้าครามเกือบลงไปจูบพื้นคนร้ายเก็บมีด แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะเก่าๆ ที่วางอยู่ไม่ห่าง ชายหน้าเหี้ยมเดินเข้ามาแก้มัดฟ้าครามก่อนลากมาโยนลงที่กองผ้าเก่า อยากจะสู้อยากขัดขืนแต่ก็ไม่มีแรงจะทำได้ มันเอามีดพับออกมาจากางเกง สอดเข้ามาตัดกระดุมออกทีละเม็ด ทีละเม็ด หน้าตาบ่งบอกถึงความสุข ความสนุกที่ได้ค่อยๆเล่นกับเหยื่อ สาบเสื้อถูกเปิดออกกว้าง ให้เห็นเนื้อขาวๆ ที่รอยจ้ำแดงยังแสดงตัวเด่นหราตามเนื้อตัว มันเอามีดมาจ่อไว้ที่คอ มือสกปรกอีกข้างของมันลูบไล้ไปจนทั่ว เสียงหายใจแรงฟืดฟาดน่ารังเกียจ ฟ้าครามได้แต่ ภาวนาให้มีคนมาช่วย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เมื่อคืน ร้อนแรงสิท่า” มันหัวเราะหยัน มือหยาบขยำขยี้ไปตามหน้าอก หน้าท้อง กดนิ้วจิ้มไปตามจุดต่างๆ ก่อนจะมาหยุดที่หัวนมทั้งสองข้าง มันก้มตัวลง เอาฟันมาขบอย่างแรง คนร้ายที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้เดินเข้ามาใกล้ มองไปตามตัวที่มีรอย ก่อนจะตบมือเข้าที่แก้ม ฟ้าคราม อย่างไม่ยั้ง มันตบ ตบ ตบ จากเจ็บจนกลายเป็นชา ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิน
“อ๊ะ หยุด อ๊าา ฮืออ ออกไป โอ๊ยย” ฟ้าครามอ้อนวอนเสียงแผ่ว มันกัดแรงๆ จนเจ็บไปหมดทั้งสองข้าง มือมันล้วงเข้าไปในกางเกง สอดนิ้วเข้าไปเข้าไปทางช่องทางด้านหลัง
ยังไม่ทันที่มันจะทำอะไรไปมากกว่านั้น เสียงโครมครามดังมาขัดจังหวะ จนมันผละไป ร่างบางได้แต่นอนขดตัวคราง ฮือ อยู่บนผ้าเหม็น
เสียงกรีดร้องอย่างไม่พอใจดังแว๊ดๆ ใกล้เข้ามา เสียงรองเท้าประทบพื้นเข้ามาหยุดอยู่ด้านข้าง ฟ้าครามมองไล่จากลองเท้าขึ้นไปจนเห็นหน้าคนที่เข้ามาช่วย น้ำตาของความโล่งใจไหลอาบแก้ม
“ฟ้าคราม” เสียงธิววิช เรียก ก่อนร่างกายจะโดนอุ้มลอยขึ้น
“ไม่เป็นไรนะคนดี ไม่ร้องนะ” เสียงกระซิบแผ่วปลอบประโลมอยู่ที่ข้างหู
“พี่ธิว” วางมันลงเดี๋ยวนี้ อย่าให้นิวต้องยิงพี่” ก่อนที่ธิววิชจะได้ออกจากตัวบ้านที่ โล่งจนไม่มีที่กำบัง คนที่เรียกตัวเองว่านิวก็สะบัดหลุดจากบอดี้การ์ดคนอื่นคว้าปืนตกจากมือใครซักคนยิ่งมั่วซั่วเข้าใส่กลุ่มบอดี้การ์ดจนต้องกระโดดหลบ หนีกันกระเจิงไปคนละทิศละทาง ก่อนจะวิ่งเข้ามาแผดเสียงใส่ธิววิช แต่ก็ละล้าระลังไม่กล้ายิง บอดี้การ์ดที่มีสติเกือบตามเข้ามา แต่ธิววิชสงสัญญาณให้หาที่กำบัง ก่อนตัวเขาจะกระโดดออกจากตัวบ้านแล้วพาตัวเองและฟ้าครามเข้าไปหลบในพงหญ้าที่สูงท่วมหัวแล้วเข้าไปหลบที่หลังต้นไม้หรือซากต้นไม่ที่หมายตาไว้แล้วอย่างรวดเร็ว
ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ทำมันเสี่ยงแต่ธิววิชประเมินนิวได้อย่างถูกต้อง เขาไม่อยากให้คนของเขาต้องมาเสี่ยงกับคนบ้า และไอ้คนบ้าที่ว่านี่ก็เกลียดความสกปรกยิงกว่าอะไรดี แค่ต้องมายืนอยู่ที่นี่ก็คงแทบอ้วก แต่ด้วยทิฐิอยากเอาชนะทำให้ยังไม่หนีกลับบ้านไปอาบแอลกอฮอล์ เหมือนตอนที่เป็นบอดี้การ์ดแล้วต้องไปแตะต้องของที่เจ้าตัวคิดว่าสกปรกจนต้องเอาแอลกอฮอลที่พกติดตัวออกมาเทลาดมือด้วยความขยะแขยง
“ไอ้พวกนั้นมันอยู่ไหน กูบอกให้มาที่นี่ทำไมมันยังไม่มา” นิวกระชากหัวลูกน้องที่วิ่งตามมาสมทบหลังหลุดจากกลุ่มบดีการ์ดมาได้
ธิววิชกวาดสายตาหาบอดี้การ์ดที่มากับเขา เห็นว่าแต่ละคนหาที่หลบอยู่รอบๆบ้าน แต่ก็มีบางคนที่บาดเจ็บบ้าง ดีที่นิวไม่ได้คิดจะตามไปฆ่าใครเพราะมัวมุ่งความสนใจมาที่ตัวของเขากับฟ้าคราม
“ไม่รู้ครับนาย ตอนที่มามันก็ขับรถตามมาดีๆ แต่ทำไมยังมาไม่ถึงก็ไม่รู้ครับนาย
“ม่ายยย” เสียงนิวกรี๊ดร้องอย่างขัดใจ ก่อนจะยิงกราดอีกครั้ง คนแรกที่โดนเข้าไปเต็มๆ ก็คือลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างตัว พอลูกน้องล้มลง นิวก็ตรงเข้าไปกระทืบซ้ำ อย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะหันกลับมาทางที่ธิววิชวิ่งหลบไป แล้วกระหน่ำยิงตามมาอีกชุด
ธิววิชกอดร่างบางที่ตอนนี้นอนตัวสั่นอย่างน่าสงสารเอาไว้แน่น
‘ถ้าปืนอยู่ในมือนะ ให้มือสั่นอย่างงี้ด้วยเอา ระยะนี้ไม่พราด’ ฟ้าครามที่กำลังสั่นด้วยความโกรธและเพราะฤทธิ์ยาคิดอยู่ในใจ
“ทนหน่อยนะฟ้าคราม อดทนนะครับ วามาแล้วนะอีกเดี๋ยวก็จบแล้วนะครับ ฟ้า” เสียงธิววิชกระซิบที่ข้างหู ฟ้าครามพยักเหมือนหน้ารับรู้ พยายามข่มกลั้นอาการตัวเองอย่างเต็มที่
เสียงปืนที่หมดลูก ดัง แชะ แชะ ตามจังหวะการกดไกปืน จู่ธิววิชก็ตะโกนออกไป
“นิว ฆ่าผู้ชายพวกนั้นทำไม”
‘เฮ้ย ไอ้เหียธิ๊ว อยู่เงียบๆ ดีกว่ามั้ย ปล่อยไอ้วามันจัดการไป มันมาแล้วไม่ใช่หรอ ไปยั่วให้มันอีกทำไม๊’
“พี่ธิวจะสนไปทำไม ว่านิวฆ่าพวกมันทำไม พี่ธิวไม่สนใจนิว ไม่เคยรับรู้ว่านิวรู้สึกยังไง แค่นั้นยังไม่พอพี่ธิวยังไล่นิว เกลียดนิว ยกเลิกสัญญากับบริษัทนิว ทำไมพี่ธิว ทำไมพี่ธิวจะรักนิวบ้างไม่ได้ ถ้าไม่รักทำไมพี่ธิวต้องไล่นิวด้วย ทำไม๊ ทำไม ทำไม ในเมื่อพี่ธิวไม่รักนิว พี่ธิวไม่ต้องการนิว พี่ธิวก็ต้องตาย ต้องทรมานอย่างที่นิวเป็น นิวจะทำลายพี่ นิวเกลียดพี่ธิว” คนสติคุ้มคลั่งกรีดร้องอย่างขัดใจ แล้วเปลี่ยนสรรพนาม
“ในเมื่อมึงไม่รักกู มึงก็ต้องตาย แต่ให้มึงตายเร็วมันก็ง่ายเกินไป มันไม่สาแก่ใจกู มึงต้องโดนทรมาน โดนทำร้าย มึงทำกับกู” หน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธช่างน่าเกลียดน่ากลัว ไม่เหลือความน่าดูเลยจริงๆ
“แล้วทำไมต้องเป็นอาอนันท์ อาพี่ไปทำอะไรให้นิว” ธิววิชยังพยายามถามต่อไปอีก เพื่อวาเลนท์ที่นำกำลังตำรวจเคลื่อนเข้าในตำแหน่งและพร้อมจะลงมือแล้ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้แก่นั้นหนะหรอ มันเสือกเรื่องของกูไง มันให้คนมาสืบ มันเสือก มันเสือก มันเสือก กูไม่ยอม กูไม่ยอมตายในคุกหรอ กูไม่ยอม มันต้องตาย ตาย ตาย ตาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า กูยิงมันกับมือกูเอง ยิ่งมันเหมือนยิงหมา ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วทีนี้กูก็จะยิงมึง แล้วก็เป็นไอ้หน้าสวยนั้น พอมันมาพี่ธิวก็รัก หลงมัน นิวต้องทน ต้องทรมานใจ เห็นภาพที่พี่รักพี่ทะนุถนอมมันเป็นเดือนๆ”
‘ทะ - นุ – ถะ - นอม ตอนไหนวะ’ ถ้ามีปืนนะพ่อจะยิงแสกหน้าแม่มเลย ข้อหาตาถั่ว
“พี่ไม่รักนิว นิวไม่ว่า แต่ทำไม่พี่ต้องไปรัก ไปหลงมัน นิวไม่ผอมไม่สวย ไม่ขาวเหมือนมัน พี่ธิวเลยไม่รัก ทำไมมึงไม่รักกู กูเกลียด เกลียด กูเกลียดมึง กูจะทรมานมัน จนมันร้องขอให้กูฆ่าก่อนที่กูจะส่งมันไปหามึงในนรกไง ไอ้ธิว ฮือ ฮือ ฮือ ทำไมมึงไม่รักกู ทำไมพี่ธิว ไม่รักนิว ฮือ ฮือ ฮือ ตาย มึงต้องตาย” นิวยกปืนขึ้นชี้ปลายกระบอกปืนมาทางที่คิดว่าธิวและฟ้าอยู่ แต่คงลืมไปว่ากระสุนหมดไปแล้ว พอนิวกดนิ้วเข้าโกร่งไก ก็มีแต่เสียงแช๊ะ แช๊ะออกมาอีกเหมือนเดิม ก่อนจะล้มลงไปนอนกับพื้นตามแรงโถมเข้าใส่ของตำรวจที่ตามมาเพื่อจับกุม นิวดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ครั้งนี้ไม่สามารถที่จะสลัดให้หุดได้
แม้สติจะเลือนๆไปบ้างเพราะทั้งเจ็บทั้งยา แต่ฟ้าครามก็ยังพอมีเวลาคิด คิด คิด
‘เดี๋ยวสิ นี่นายเค้าให้กรูเป็นเหยื่อล่อหรือเปล่าเนี่ย ไม่นะ ใจร้ายกะ ฟ้าครามเกินไปแล้วนะ’..............................
...
.
.
“ฟ้า” วาเลนท์เรียก คนนั่งเหม่อเสียงดัง จนฟ้าครามถึงกับสะดุ้ง เกือบครบอาทิตย์แล้วที่ฟ้าครามออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักที่บ้าน ใช่บ้าน บ้านของไอ้สองพี่น้องจอมหื่น จอมบงการที่ไม่ยอมให้ฟ้าครามกลับไปอยู่ที่ห้องของตัวเอง ไม่ว่าฟ้าครามจะขู่ว่าจะแจ้งความข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือจะขอร้องดีๆ ทั้งสองคนก็ไม่ยอมให้ฟ้าครามไป ฟ้าครามได้แต่นิ่ง หลบเลี่ยงที่จะคุย เพราะตัวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอายังไง
“ระหว่างเรากับพี่ธิว ฟ้าจะเลือกใคร เราสองคนตกลงกันว่า จะให้ฟ้าเป็นคนตัดสินใจ” วาเลนท์ บอกกับฟ้าครามในห้องนั่งเล่นในเช้าวันหนึ่งหลังจากที่ฟ้าครามพักรักษาตัวจนหายดีแล้ว ก่อนที่จะหมดวันลาพักในอีกสี่วัน ฟ้าครามหันมองหน้าคนพูด แต่ไม่อยากตอบ จึงเลือกที่จะเงียบและหลบสายตา จนธิววิชพูดต่อ
“พี่กับวาพร้อมจะยอมรับการตัดสินใจของฟ้า ไม่ว่าฟ้าจะเลือกใคร ไม่ว่าจะเป็นพี่ หรือวา อีกคนที่ไม่ถูกเลือกพร้อมจะยินดีกับความสุขของคนที่เรารักเสมอ”
“วา ถ้าผมเลือกคุณธิว คุณจะตัดใจใช่มั้ย ความรักคุณนี่มันตัดได้ง่ายเหลือเกินนะ ส่วนคุณธิว ผมไม่รู้ว่า... ผมไม่รู้ว่าจะพูดถึงความสัมพันธ์ของเราว่าอะไร แต่ในเมื่อคุณให้ผมตัดสินใจ” ฟ้าครามนิ่งเงียบไปสักครู่
“คุณธิว วา จะยอมรับการตัดสินใจของผมใช่ไหม จะยอมรับและไม่คัดค้านการตัดสินใจของผมไม่ว่าผมจะเลือกอะไรใช่ไหม”
“ใช่” สองพี่น้องตอบมาพร้อมกัน
“งั้นผมขอบอกว่า ผมไม่เลือกใครเลย ปล่อยผมไป ให้ผมไปตามทางของผม เราสาม คนใดคนหนึ่งอย่าต้องมาเสียสละเพื่อใครจะดีกว่า” พูดจบฟ้าครามหมุนตัว ก้าวยาวๆ ไปเก็บของที่ห้องนอนจะได้ไปจากที่นี่เสียทีที ประตูห้องยังไม่ทันได้ล็อกก็โดนดันเข้ามาด้วยแรงคนอารมณ์ร้อน
“กูไม่ยอมให้ทิ้งไปง่ายๆ หรอกนะ ฟ้าจะเลือกใครก็เลือกมาสักคน ไม่ว่ายังไงฟ้าก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะอยู่กับกู หรืออยู่กับพี่ธิว แต่ฟ้าจะทิ้งเราทั้งสองคน กูไม่ยอมว่ะ”
“วา” เสียงคนพี่เรียกน้องอย่างปรามๆ ก่อนที่ประโยคถัดมาจะทำเอาฟ้าครามแทบล้มทั้งยืน
“ในเมื่อฟ้าเลือกไม่ได้ พี่จะถือว่าฟ้าเลือกเราทั้งสองคนก็แล้วกัน” พี่ธิวใช้มือข้างนึงยึดข้อมือฟ้าครามเอาไว้แน่นส่วนอีกมือก็คว้าเอวน้องชายกระชากเข้าหาตัวแล้วก้มหน้าเข้าหาจนปลายจมูกแนบติดกัน
“พี่ธิว” เสียงแผ่วอย่างตกใจหลุดจากปากของวาเลนท์ ก่อนที่จะโดนปิดด้วยปากของคนเป็นพี่ชาย ยิ่งมายืนเทียบกันแบบใกล้ชิดแบบนี้ยิ่งเห็นว่าพี่ธิวทั้งสูงทั้งใหญ่กว่าไอ้วาอย่างเห็นได้ชัด
‘เฮ้ย นี่กูคิดอะไรอยู่’
พอเรียกสติตัวเองกลับมาได้ ฟ้าครามก็เริ่มดิ้นสะบัดแขนให้หลุดจากมือแข็งแรง ไม่นะ ข้อมือยังไม่ทันหลุด วาเลนท์ที่หลุดจากจูบร้อนแรงของพี่ชายก็คว้าเอวฟ้าครามดึงเข้าหาตัว
แม้จะยังดูงงๆ กับสิ่งที่พี่ชายตัวเองทำ แต่ไม่รู้อะไรดลใจ วาเลนท์เลือกที่จะปล่อยเลยตามเลย เพราะเป็นแบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียฟ้าครามและไม่ต้องมีใครเสียใจกับรักครั้งนี้อีกด้วย
คนผิวเข้มดันเพื่อนตัวเองไปที่เตียงกว้าง ผลักเบาๆ ให้เพื่อนนอนลงกับที่นอนนุ่มก่อนโถมตัวตามลงไปปากและมือปรนเปรอจนฟ้าครามได้แต่ร้องคราง ก่อนจะเลื่อนตัวลงสู่ด้านล่าง พี่ธิวเดินเข้ามารับหน้าที่ให้ความสุขกับปากและแผงอกขาวผ่องต่อ ฟ้าครามได้แต่นอนเกร็งตัวรับความสุข ไม่รู้ผ่านไปอีกกี่สุข จนผล็อยหลับไปพร้อมการกระแทกกระทั้นของธิววิช ไม่รู้เผลอหลับนานเท่าไหร่มารู้ตัวอีกที่ เพื่อนผิวเข้มก็คร่อมตัวอยู่ด้านบน ส่วนเอวและต้นขาพาดอยู่บนขาของเวาเลนท์ เข่าถูกมือใครบางคนจับยกอยู่
“อ๊า เฮียธิว อืออ โอ๊ย โอ๊ยย” รู้สึกตัวเต็มที่ก็ตอนได้ยินเสียงร้องครางอย่างเสียวซ่าน ของเพื่อนที่มองดีๆจะเห็นมันอยู่ในท่าคลานสี่ขา มองเลยไปด้านหลังพี่ธิวยืนด้วยเข่า กำลังขยับโยกเข้าใส่วาเลนท์อย่าแรง เมื่อพี่ธิวกระแทก วาเลนท์ก็กระดอนมาด้านหน้ากระแทกกับร่างกายฟ้าครามที่รอรับอยู่ด้านหน้า
“โอ๊ยย เฮีย อ๊า อือมดี วา เฮีย วา อ๊า เฮีย วา ฟ้า อ๊า ซี๊ดดด” เสียงร้องเสียงครางปนกันยุ่งฟังไม่ได้สรรพ ไม่รู้เสียงใครเป็นใคร กว่าเกมจะจบก็เล่นเอาแทบพับ เราสามคนนอนเรียงกันมีวานอนกลางหนุนแขนเฮียธิวหลับไปก่อน มองดีๆ มือเฮียธิวยกลูบเล่นกับผมนุ่มของน้อยชาย มืออีกข้างโอบกอดลูบไล้เบาไปตามตัววาเลนท์
‘เอ้ย มันใช่มั้ย ได้ใหม่ลืมเก่าอย่างฟ้าครามป่ะวะ’ ฟ้าครามนอนมองอย่างเพลียๆๆ อยากจะหลับก็อยาก แต่มันขัดใจ เลยพลิกตัวข้ามวาเลนท์เข้าไปแทรกนอนตรงกลางสองพี่น้องมันซะอย่างงั้น วาเลนท์ขยับตัววาดแขนกอดฟ้าครามไว้ ส่วนเฮียธิว เขกเบาที่หัว ก่อนจะกอดฟ้าครามบ้าง แต่มือที่กอดก็ยังกอดเลยไปถึงวาเลนท์อยู่ดี ฟ้าครามมองมือแล้วหันไปเชิดหน้ามองเฮียธิวด้วยหางตา ก่อนจะหันไปกอดวาเลนท์แล้วนอนหลับบ้าง
.
.
.
The End