ตอนที่ 15 มาแว้ววว
ความรู้สึกเหมือนตัวเองขยับไม่ได้แม้จะพยายามพลิกไปพลิกมา อืมมม อยากจะกลิ้งซักสองทียังทำไม่ได้ มันเป็นอะไรวะ หรือตอนนี้กลายเป็นมัมมี่ไปแล้วกระดุกกระดิกไม่ได้ ทำไมมันมืดๆวะ เฮ้ยยย !! อ้อปิดตาอยู่
ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาแต่แสงจ้าของแสงแดดกลับทำให้ตาผมรีบปิดสนิททันทีก่อนจะกระพริบปริบๆ ปิ๊บๆ ใหม่ อ้าค่อยยังชั่ว ผมกลอกตาไปข้างซ้ายทีนึง อ่ะจึ้กๆ ข้างขวาอีกทีน่า อ่ะจิ๊กๆ เหลือไปเห็นเจ้าโอโอะหน้าฮา แต่ทำไมมันนั่งก้มหน้างั้นวะ มือลูบหน้าไปมา สงสัยจะเครียดจัดเป็นไรมากเปล่าหว่า อยากจะถามปากก็ไม่มีแรง เฮ้อแล้วจะกินข้าวได้มั้ยเนี่ย ถัดไปอีกนิดก็เห็นโนโนะตาดุ ยืนกอดอกหันออกไปนอกระเบียง สีหน้าเคร่งเครียดกว่าเก่า อืม .. สงสัยจะมีเรื่องใหญ่กันแฮะ ควรจะเงียบๆไว้ดีกว่าเดี๋ยวไปทำลายสมาธิ แต่แอร์เย็นๆแบบนี้มันก็เริ่มทำให้ผมเข้าสู่นิทราอีกรอบแฮะ อืม แง่มๆ แจ้บๆ
“ทำไมพอยท์ยังไม่ฟื้นอีกนะพี่ นี่มันวันที่สิบห้าแล้วนะ” ร่างสูงของทัตสึโอะเสยผมแรงๆเครียดจัดเงยหน้ามองไปที่ร่างบนเตียงที่ยังหลับไหล นาซึโนะไม่ได้ตอบคำถามของน้องชายเพราะรู้ว่าคนถามไม่ได้หวังคำตอบจากเขาเท่าไหร่ สายตาคมทอดมองร่างบางที่นอนนิ่ง ใบหน้าที่มีผ้าก๊อซแปะอยู่ตามแก้มลงไปถึงคอด้านหลัง เขาได้แต่หวังว่าพอยท์จะไม่คิดมาก ..
เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่กลับนานชั่วกัปชั่วกัลป์ในความรู้สึก หมอเดินมาตรวจรอบแล้วรอบเล่าก็แจ้งว่าปกติดี เพียงแต่รอเวลาตื่นเท่านั้น .. ซึ่งไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่
อาจจะอีกวินาทีต่อไป
นาทีต่อไป
ชั่วโมงต่อไป
วันต่อไป
เดือนต่อไป
ปีต่อไป
หรืออีกสิบปีต่อไป
ไม่มีใครรู้ .. ไม่มีเลย
วันต่อมาสองพี่น้องถูกตามเข้าไปที่บริษัทเร่งด่วน แม้จะอยากอยู่เฝ้าคนสำคัญที่โรงพยาบาลก็ตามแต่ด้วยเหตุที่ว่า คนทางนี้ก็สำคัญกว่า ขายาวๆสองคู่ก้าวอย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องผู้บริหารระดับสูงที่ถูกทิ้งว่างมาหลายปี นับตั้งแต่เจ้าของห้องย้ายไปทำงานที่อเมริกา บนเก้าอี้ตัวใหญ่ปรากฏร่างชายชราที่แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่แววตาฉลาดหลักแหลมก็มิเคยเปลี่ยนแปลง ชุดกิโมโนสีดำตามสไตล์ของเจ้าตัวขับเน้นให้ดูน่าเกรงขามเข้าไปอีก
“สวัสดีครับคุณปู่” ทั้งสองโค้งอย่างสวยงามตามแบบฉบับญี่ปุ่น ค้างไว้อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผู้สูงวัยบอกให้นั่ง
“ได้ยินว่าพวกแกไปทำเรื่องมา ถึงขนาดยกคนไปทำลายแก๊งอื่นถึงที่”
“ครับ”
“รู้มั้ยว่าไม่เหมาะสม พวกแกเอาเกียรติของเรนงะไปเสี่ยงชัดๆ นับวันพวกแกยิ่งปีกกล้าขาแข็งใช้อำนาจไม่รู้เรื่องรู้ราว ฉันอุตส่าห์วางใจว่าพวกแกโตแล้ว อายุตั้งยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดแค่นี้ยังไม่รู้จักใคร่ครวญให้ดี”
“ขอโทษครับ”
“หึ ฉันรู้นะว่าพวกแกพาคู่ขาเข้ามานอนกกถึงในตระกูล และมันคนนี้ก็เป็นตัวสำคัญที่ทำให้พวกแกทำตัวสิ้นคิดแบบนี้ ทั้งๆที่มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่ยังจะทำงามหน้าอีก หลงเสน่ห์มันมากหรือยังไง”
“ท่านปู่ครับ แต่พอยท์ ..” ทัตสึโอะส่งเสียงจะค้านเต็มที่
“หุบปาก ผู้ใหญ่จะพูดอย่าสอดปาก ปู่เคยสอนไม่ใช่หรือทัตสึโอะ เด็กคนนั้นสำคัญมากหรือไง เรื่องเมื่อหกปีก่อนก็รอบหนึ่ง ปู่หลงคิดว่าเด็กนี่กลับไทยไปแล้วจะไม่มีอิทธิพลต่อพวกแกอีก ที่ไหนได้ยังย้อนกลับมาสร้างปัญหา พ่อแม่มันก็เป็นตัวต้นเหตุให้พ่อพวกแกตาย ยังจะไปอ้อมล้อมดูแลมันอีก งามหน้านัก” เสียงตวาดกราดเกรี้ยวของชายชราที่ด่าว่าพอยท์ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ในเมื่อคนที่มีอำนาจสูงสุดคือปู่คนนี้ และปู่คนนี้ยังเป็นพวกหัวเก่ามากอีกด้วย หลังจากเหตุการณ์ที่ลูกสะใภ้และลูกชายจากไปก็ได้แต่โทษว่าเป็นความผิดของพ่อแม่พอยท์ ทั้งๆที่ฝ่ายนั้นก็สูญเสียไม่แพ้กัน
“ฉันจะจัดงานหมั้นให้พวกแกกับหนูรินเนะและหนูมิกะให้ไวที่สุด สมควรเป็นฝั่งเป็นฝากันได้แล้ว ไม่ใช่เวลามาเสเพลมั่วกับใครไปทั่ว”
“ปู่ครับ ผมขอคัดค้าน”
“นี่แกก็เป็นไปอีกคนหรอนาซึโนะ ! สองพี่นอกเกลือกกลั้วผู้ชายคนเดียวกัน บัดสี ! พวกแกมันตัวทำเสื่อมเสียวงศ์ตระกูล ออกไป ออกไปให้หมด อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า จนกว่าจะถึงวันหมั้น อย่าให้ฉันรู้ว่าพวกแกไปโผล่หน้าอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นอีก มาทำงานที่นี่ทุกวัน จำใส่สมองเอาไว้ พวกแกมีคู่หมั้นอยู่แล้ว !” สองพี่น้องทำได้แค่รับคำก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน งานนี้ไม่ง่ายแล้ว .. ปู่ที่ดูจะไม่ยอมรับง่ายๆ แถมยังลากผู้หญิงตัวปัญหาที่พวกเขาอุตส่าห์พยายามหลีกไม่พบหน้ากันสุดชีวิต ทำไมเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ
“อะไรนะคะแม่ คุณปู่ของนาซึโนะซังโทรมาหาแม่บอกว่าจะให้รินเนะหมั้นกับนาซึโนะซังแล้วหรอคะ” สาวน้อยหน้าสวยวางเครื่องประทินโฉมลงทันทีที่ได้ข่าวจากผู้เป็นแม่
“ใช่จ้ะ ลูกสาวแม่จะได้แต่งงานกับผู้ชายอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยนะ ดีใจมั้ยลูก”
“แล้วยัยมิกะล่ะคะแม่”
“แน่นอนว่าได้หมั้นกับทัตสึโอะซังด้วยจ้ะ”
“กริ๊ดดดด หนูกับมิกะกำลังจะเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงทั้งประเทศ ไม่ได้ละๆ หนูต้องรีบไปทำสปาร์เดี๋ยววันงานจะไม่สวย เดี๋ยวชาวบ้านเค้าจะนินมาหาว่าหนูโทรมไม่สวย โทรชวนยัยมิกะไปด้วยกันดีกว่า” มือเรียวที่ทำเล็บสีสวยหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดกดโทรหาเพื่อนสาวคนสนิททันที
“นี่ยัยมิกะไปทำสปาร์เตรียมตัวหมั้นกันเร้ววว ชาวบ้านจะได้อิจฉาพวกเรากันสุดๆไปเลย”
“นี่แกฉันยังกริ๊ดไม่หายเลยตอนที่แม่ฉันบอกน่ะ ไม่อยากจะเซดดดดดดดด”
“ฉันก็เหมือนกัน แต่อย่างว่าล่ะนะคนสวยๆรวยๆแบบพวกเรามันก็ต้องเป็นดาวคู่กับดาวแบบนาซึโนะซังกับทัตสึโอะซังนั่นแหละ”
“เออแกแล้วที่แว่วว่าเขาซุกผู้หญิงกันไว้ที่บ้านล่ะ”
“ยัยบ้า คุณปู่เค้ากลับมาขนาดนี้นังนั่นคงโดนเฉดดดดดหัวออกจากบ้านเรนงะแล้วน่ะสิ สมน้ำหน้า อยากมายุ่งกับคนสูงๆไม่รู้จักเจียมกะลาหัว”
“ดีนะที่พวกเราไม่ได้ไปบุกถึงบ้านเรนงะเพื่อดูหน้านังนั่นก่อนไม่งั้นคุณปู่มองว่าไร้มารยาทแน่เลยแก”
“ใช่ๆ ตอนนี้ได้เวลาทำคะแนนแล้วล่ะแก แต่ฉันก็อยากเห็นหน้านังนั่นอยู่เหมือนกันนะ อยากจะไปบอกมันต่อหน้า ว่าต่ำๆอย่างมันน่ะก็เป็นได้แค่ดอกไม้ริมทาง ที่วันนึงมันก็ต้องโรยราเป็นดอกหญ้าโดนเหยียบ โฮะๆ”
“ฉันล่ะถูกใจคำพูดเธอจริงๆเลยรินเนะ ป่านนี้คงไปแต่งตัวสวยยั่วเศรษฐีคนใหม่ไปแล้วมั้ง พวกเราอย่าไปใส่ใจเลยกับอีแค่ผู้หญิงราคาถูกชอบจับคยรวย”
“ย่ะ ใครมันจะเหมือนเพชรยอดมงกุฏแบบพวกเราล่ะเนอะแก นี่ๆเดี๋ยวแค่นี้ก่อนเจอกันที่สปาร์ร้านเดิมนะจ๊ะ ต้องไปสวยกันหน่อยงานนี้รับรองพาดหัวข่าว”
“แน่นอนย่ะแก เดี๋ยวเจอกัน บาย”
สองสาวต่างพากันต่อว่าผู้หญิงที่ไปทำให้สองพี่น้องติดใจ โดยที่หารู้มั้ยว่ามันผิดถนัด คนๆนั้นดันเป็นผู้ชายต่างหาก แล้วดูเหมือนสองพี่น้องนี่แหละที่พยายามจะทำให้ผู้ชายคนนี้สนใจซะด้วย งานนี้จะสงสารใครดี ?
หญิงสาวชั้นต่ำที่แท้จริงเป็นผู้ชายไม่แคร์โลก ?
หรือสองสาวที่ด่าคนมั่วซั่ว ?
หรือจะเป็นสองพี่น้องที่ดูเหมือนจะต้องเผชิญกับปัญหาหนัก ?
หรือจะเป็นคุณปู่ที่ยังไม่เคยรับรู้นิสัยของหญิงสาวว่าที่คู่หมั้นหลานชาย ?
หรือจะนักอ่านที่มาขยันเม้นกันทุกคน ?
หรือนักเขียนที่ขยันดองจนเค็มแข่งกับปลาร้า ?
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มองซ้ายมองขวาเหมือนเดิมแต่คราวนี้สองพี่น้องไมอามี่ไม่อยู่แฮะ กลับกลายเป็นเจ้าหญิงน้อยนั่งถักไหมพรมอยู่ข้างๆ
“อ้ะ พี่พอยท์ฟื้นแล้วหรอคะ”
“ขะ .. ขอน้ำหน่อยครับจ้าหญิง” เสียงแห้บจนน่ากลัวของผม เหมือนผีดิบคืนชีพยังไงชอบกล เจ้าหญิงน้อยรีบเทน้ำใส่แก้วพร้อมหย่อนหลอดมาประเคนถึงที่ ผมดูดน้ำจนหมดแก้วค่อยรู้สึกชุ่มคอขึ้นหน่อย
“ดีใจจังพี่พอยท์ฟื้นแล้ว หนูมาเฝ้าพี่พอยท์สามวันแล้วค่ะ”
“พี่หลับไปแปปเดียวเองแฮะ”
“เปล่าค่ะ ก่อนหน้านั้นอีกสิบห้าวันค่ะ” อืม … นี่นอนนานไปมั้ยจำได้ว่าตื่นมารอบนึงแล้วนา เออช่างมันๆ
“แล้วไอ้พวกนั้นหายไปไหนกันหมด”
“พี่ๆติดธุระค่ะ เลยส่งนัตสึกิมาเป็นองครักษ์พี่พอยท์แทน อิอิ หนูพาลาล่ามาเฝ้าพี่พอยท์ด้วยน๊า” ตุ๊กตาตัวโปรดสีเหลืองกำลังยิ้มแย้มอยู่บนหัวเตียงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ ในเมื่อตอนนี้คิดถึงสองคนนนั้นมากกว่า
บ้าน่า .. เป็นไปได้ยังไงกัน
ผมคิดถึงคนอื่นมากกว่าลาล่า ?
โฮกกกกกกกกกกกกกกกก
“โธ่ลาล่า พอยท์ไม่ได้นอกใจลาล่านะ โอ๋ๆกำลังน้อยใจพอยท์อยู่ใช่มั้ย” ผมคว้าลาล่ามากอดแนบแน่น ในใจก็สาปแช่งไอ้สองพี่น้อง
หึ ! ไอ้พวกเลวมาทำตูนอกใจลาล่าสุดที่รักได้ไงว้า