เรื่องสั้นตอนที่ 39 บทสรุปของผู้ชายอยากได้สามี [p140]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นตอนที่ 39 บทสรุปของผู้ชายอยากได้สามี [p140]  (อ่าน 1350656 ครั้ง)

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
จบแบบทำร้ายจิตใจกันมากเลยอ่า

แต่สนุกอ่ะ อยากอ่านต่อจัง

จะมีต่อมั้ยคะ หรือเป็นเรื่องสั้นอื่นเลย

meiko

  • บุคคลทั่วไป
รอทั้งแบมบี้แล้วก็ฟีปี้เลยค่ะ
อยากให้ต่อทั้งเรื่องนี้แล้วก็โรมให้จบ XD
ติดตามผลงานอยู่นะคะ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
งงอะ แล้วตกลงรู้จักกันมาก่อนเหรอ

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
แวมไพร์?
ร้อนแรงจัง

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
น่าจะใช้ ทูบิวคอนติวนิ๊ว...ว..ว.....   (> 3 <)  มากกว่านะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
หมาป่าหรือแวมไพร์อ่ะตัว

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
จะเป็นผีกระหัง(สะกดงี้มะ?)หรือผีอำนะ  o18
(เห็นแต่คนเดาว่าเป็นผีฝรั่ง อยากแหวก อิอิ)

dreamworm

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบนี้เอามีดมาแทงกันดีกว่าT_T

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนุกมากเลย แต่
ค้างมากอ่ะ

agatgy

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยย

อยากอ่านต่อมากมาย ชอบมากเลยแนวปีศาจ กะเด็กน้อยใสซื่อ

มาต่อไวๆนะคร๊าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เอริ่ม...จบแล้วจริงอ่ะ
มันยังค้างๆคาๆในใจไงไม่รุ้ง่ะ
มาต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอ... :serius2:
ดาร์ทนี่เป็นแวมไพร์ใช่มะ
แล้วฉากตอนเริ่มเรื่องนี่เกิดขึ้นเมื่อไรอ่ะ
เกิดตอนเย็นวันจันทร์หลังชมรร.อ๊ะป่าว
หรือหลังจากนั้นไปอีก เห็นบอกว่า1สัปดาห์ก่อน
หรือวันจันทร์นี่คือครบสัปดาห์แล้ว
อะไร  ยังไงอ่ะเนี่ย :really2:

มาต่ออีกนิดนะ นะ นะ :call:
 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Ferfa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-2
ตอนนี้เงียบมากจริงๆ ค้างเยอะด้วย มาเป็นกำลังใจให้น้า สู้ๆๆ

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
มาให้กำลังใจคนเขียน
อยากบอกเหลือเกิน ว่ามันไม่จบค่ะ มันไม่จบ
 :z3:

อยากให้เขียนต่ออีกจังเลย
สนุกมากค่ะ
ดูลึกลับดี
 :call: :call:

nightsza

  • บุคคลทั่วไป
ชอบแนวลึกลับๆ อย่างงี้อ่าา

ไม่ต้องกดดันนะจ้า สู้ๆนะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งรอต่อไป ฮิฮิ

TO.EYEz

  • บุคคลทั่วไป
=,,=
ก็ยังคาใจ ข้างในลึก ๆ ~

จบแบบอาร์ตๆ เอาไปจิ้นต่อ... ฮุฮุ

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ค้างคาใจอย่างแรงงงง :z3: :z3: :z3:
รออ่านต่อค่า :impress2:

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
จะไปหลังโรงเรียนด้วยงะ

nariza6

  • บุคคลทั่วไป
ตามที่ต่อว่าต่อขานมา ก็ตอนที่แล้วเขียนด้วยอารมณ์แบบอยากแทง จึ่กๆๆๆๆ กระซวกไส้เท่านั้น

ตอนนี้ก็ละเอียดขึ้นมาอีกนิดแล้วนะ แต่เสียดาย ขาดอีกนิดเดียวก็จะนึกตอนต่อไปได้แล้วเชียว แต่นึกไม่ออก

ตอนนี้เอาเท่านี้ก่อนนะคะ  :-[

เรื่องสั้นตอนที่ 19 คำลวงของปีศาจ

มันคือ บาปอันนิรันดร์กาล

มันคือ ทัณฑ์อันหนักอึ้งดุจขุนเขา

หากเบาดั่งเม็ดฝุ่นของกาลเวลาที่ทับถมบนกาย

โสตประสาทตื่นตัวอย่างเชื่องช้าจากการรบกวนของเสียงที่แผ่วเบา เสียงของเท้าเล็กๆเหยียบย่างลงกับพื้นอย่างหวาดกลัว  เด็กหรือ??

“ในนี้น่ากลัวชะมัด....เราไม่น่าเข้ามาเลยนะ”

“ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลย ก็แค่บ้านร้าง”

“แต่แม่ฉันเคยบอกว่า ที่นี่เคยมีคนตายด้วยนะ”

“ที่ไหนก็เคยมีคนตายทั้งนั้น บ้านนายเองฉันก็เคยได้ยินว่ามีนะ” เสียงใสของเด็กชายกระเซ้าเพื่อนคนข้างๆสะดุ้งเฮือก

“ล้อเล่นอย่างนี้ไม่ตลกนะเว้ย”

“แกก็อย่าปอดแหกสิวะ”

“นี่....เลิกเห้อะ ฉันว่าเรากลับกันดีกว่า”

“เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นเลย”

“ใช่”

“โธ่เอ้ย เข้ามาดูยังไม่ถึงไหนเลย ดูให้ทั่วๆสิ” ร่างเล็กผอมบาง ผมสีน้ำตาลอ่อนเดินนำเพื่อนๆอย่างร่าเริง ต่างจากคนอื่นๆที่เกาะกันเป็นกลุ่ม สีหน้าไม่ดีเท่าไร

“ข้างในมืดจะตาย ฉันไม่เข้าไปหรอก”

“ฉันด้วย”

“พวกแกนี่....ขนาดมาดูตอนแดดเปรี้ยงๆอย่างนี้ยังกลัวอีกเหรอ ถ้ากลางคืนไม่ฉี่ราดกันหรือไง ไปเถอะ...เร็ว นิถ้าไม่มาอีก ฉันจะบอกให้ทั่วโรงเรียนเลยว่าพวกแกน่ะหัวหดขนาดไหน”

“ฉันไม่ได้หัวหดเสียหน่อย”

“งั้นก็ตามมาสิ” ร่างเล็กเดินเข้ามาดันประตูไม้เก่าๆของห้องสุดทางเดิน  ฝุ่นที่เกาะบานไม้ร่วงกราวราวกับสายน้ำ เสียงไม้เสียดสีกันดังเอี้ยด ทุกคนเกาะกลุ่มอยู่หลังเพื่อนที่ใจกล้าที่สุดอย่างหวาดกลัว กลิ่นเหม็นอับโชยมาปะทะใบหน้าจนนิ่วหนาอุดจมูกกันเป็นแถว แม้จะกลางวันแสงแดดส่องลอดช่องไม้ผุๆทอดเป็นลำ เข้าในห้องที่ปิดทึบมานานแสนนาน

“เฮ้....” เพื่อนๆเรียกเด็กชายที่ใจกล้าเดินเข้าไปสำรวจก่อนเสียงสั่น ภายในห้องยังหลงเหลือกาลเวลาจากอดีตให้ได้เห็น จากพื้นพรม เก้าอี้ไม้โอ๊กเก่าๆ ภาพวาดบนผนัง โคมระย้าเหนือเปียโน ฝุ่นเกาะทุกที่ในห้องราวกับแป้งฝุ่น

“น่ากลัวชะมัด เรารีบกลับดีกว่า...”

“ว้ากกกกก....” หนึ่งในกลุ่มร้องลั่น ทุกคนสะดุ้งโหยงเกาะกันแน่นกว่าเก่า

“อะไร??”

“นั้น....” เด็กชายต้นเสียงชี้ไปที่มุมห้อง

“เผ่นเถอะ”

“เดี๋ยว!!!” มือเล็กๆรั้งเพื่อนไว้สุดแรงไม่ยอมให้ใครไป ดวงตากลมโตจ้องเงาตะคุมที่มุมห้อง เขาส่องไฟฉายในมือไปที่นั้น แสงสว่างกระทบร่างๆหนึ่งที่นั่งพิงฝาเหยียดขายาว สวมหมวกปีกเก่าๆไม่เห็นหน้า

“มีคนตายที่นี่จริงๆ”

“เผ่นเห้อะ...”หากเพื่อนยังไม่ยอมปล่อยมืออีก “แกจะอยู่ทำหอกไรวะ”

“แกนี่มัน.....ไม่รู้ไงว่าเราเจออะไรเข้า”

“ก็ศพสิวะ”

“เอ่อนั้นแหละ พวกเราเจอศพในบ้านร้าง ถ้าโทรแจ้งตำรวจกับนักข่าวพวกเราได้เป็นคนดังแน่ๆเลย”

“ใช่...งั้นรีบออกจากที่นี่ โทรแจ้งตำรวจกันเถอะ”

“เจ้าบ้า” เขาพลั่กไหล่เพื่อนไปทีหนึ่ง “ รีบเผ่นไปตามตำรวจ เราก็ไม่ต่างจากเด็กขี้กลัว หัวหดน่ะสิ ทำตัวให้เหมือนมืออาชีพหน่อย”

“แกว่าไรนะ?”

“ก็เหมือนในการตูนทางเคเบิ้ลไง....เรื่องอะไรนะ นักสืบอะไรนั้น”

“โคนันเหรอ”

“เอ้อ นั้นแหละ เราต้องสำรวจ หาหลักฐาน ร่องรอยอะไรบ้างอย่างก่อนแจ้งตำรวจสิ แบบนั้นถึงจะเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ จริงไหม” แต่ล่ะคนมองตาปริบๆเหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร

“เอาล่ะ....” เด็กชายหันไปมองร่างที่แน่นิ่ง ฝุ่นเกาะหนาบนร่างจนเห็นสีน้ำตาลมากกว่าสีของเสื้อผ้า เขาก้าวเท้าเล็กๆไปข้างหน้า เอื้อมมือจับปีกหมวกบนศีรษะดึงออกช้าๆ

พรึ่บ!!! ใบหน้านั้นเงยขึ้นมองทันที

“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!”

ทุกคนแหกปากลั่นสุดเสียงแล้ววิ่งสุดฝีเท้าออกจากที่นั้นทันที เท้าย้ำโครมๆ เล่นบ้านทั้งหลังสะเทือนลั่นเอี้ยดอ้าด ไล่เอาฝุ่นทรายที่เกาะตามเพดานร่วงลงมาซะจนตลบอบอวลไปหมด

“แค่ก.....แค่ก....” เหลืออยู่คนเดียวที่กำไฟฉายแน่นโบกมือไล่ฝุ่นไปมา พอตั้งสติได้ถึงหันไฟฉายส่องกระทบใบหน้าที่เหี่ยวแห้งแตกระแหง ดวงตาสีเหลืองราวกับสัตว์ป่า เขี้ยวขาววับแยกใส่

“ไปให้พ้น....” คำพูดเย็นยะเยือกใครได้ยินเป็นต้องเย็นที่ขั้วหัวใจ หากเด็กชายยังยืนจ้องตาใสๆ

“ปู่เป็นใครน่ะ?? คนจรจัดหรือเปล่า”

“ข้าบอก....ไปให้พ้น”

“นี่บ้านร้างนะไม่มีเจ้าของ ปู่ไล่คนอื่นไปไม่ได้หรอก”

แฮ่!!!! อีกฝ่ายคำรามลั่น อากาศสะเทือนจนรู้สึกได้ ร่างเล็กถอยห่างออกมานิดหนึ่ง ตกใจแต่ก็ตั้งสติได้ไว เขาส่องไฟไปทั่วร่างสกปรกนั้น

“ข้าจะเคี้ยวเจ้าเป็นอาหารว่างซะ ถ้าไม่รีบไปให้พ้นๆ”

“ว้าว.....เขี้ยวปลอมนั้นทำได้เนียนดีจัง คอนเทคเลนส์ก็สวย คำรามได้น่ากลัวด้วย...ผมตกใจหมด แต่เสียงตอนคำรามไม่ค่อยเหมือนจริงเท่าไรนะ ซื้อกล่องแปลงเสียงมาถูกๆล่ะสิ.....ไม่เอาน่า ผมไม่ได้มาไล่ที่ปู่นะ ถ้าทำให้รำคาญก็ขอโทษด้วย อย่าโกรธกันสิ”

อีกฝ่ายนิ่งอึ้งไปครู่ “เขี้ยวปลอม.....คอนเทคเลนส์เหรอ”

“ใช่ สมัยนี้มีขายถูกๆด้วย อยากมีตาสีอะไรก็หาซื้อได้ง่ายๆ”

“เห้อะ...” เขาเค้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ย “ แกไม่กลัวผีเลยหรือไง”

“ไม่กลัวหรอก แม่บอกว่าผีไม่มีในโลก”

“โง่ชะมัด”

“จริงนะ แม่บอกว่า คนเราตายไปก็เหลือแต่ความว่างเปล่า”

“แล้วความว่างเปล่าหมายถึงอะไรล่ะ” เด็กชายถึงอึ้ง เขาเองก็ตอบไม่ได้เพราะฟังมาแค่นี้

“ความว่างเปล่า.....ก็คือความว่างเปล่า” เขาตอบซื่อๆพลางหัวเราะแก้เก้อ ลมหายใจที่พ่นออกมามีกลิ่นไอของผิวกายที่เจือความรู้สึกนึกคิดของเจ้าตัวมาด้วย จมูกเขาได้กลิ่นซื่อๆของเด็ก  เด็กที่ยังใสสะอาดต่างจากพวกเพื่อนๆที่ความคิดอ่านติดกลิ่นความกลัว

“เจ้า.....เชื่อในพระเจ้าสิท่า”

เด็กชายส่ายหน้าทันที “ผมไม่เชื่อในพระเจ้า”

“ทำไม”

“ผมไม่ได้เป็นคาทอริก”

“แล้วเป็นอะไร....”

เด็กชายเกาหัวแกรกๆ “ไม่รู้สิ.....ผมไปโบสถ์ในวันอาทิตย์กับพ่อ บ้างครั้งก็ไปวัดไทยกับแม่ด้วย ก็เลย....ไม่แน่ใจเท่าไร”

“อ้อ........คนไร้ศาสนา ถึงได้ไม่กลัวผีสินะ” เขาสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง คราวนี้ไม่รู้สึกถึงความคิดอีกแล้ว หากรู้สึกถึงผิวนุ่มและเส้นเลือดที่เต้นตุ๊บบริเวณลำคอ  เด็กชาย 5-6 ขวบกำลังอ่อน น่ากินเหลือเกิน

“ก็อย่างที่บอก ผีไม่มีในโลกหรอก”

“มีสิ เจ้าไม่เห็นเองต่างหาก”

“ใช่ แม่ถึงว่าผมโชคดีไง เพราะคนที่เห็นผีมี สองจำพวก ก็คือ คนดวงซวยสุดๆ กับคนบาปหนาเท่านั้น ผมนั้นดวงดีแล้วไม่มีบาปด้วยถึงได้ไม่เจอไง” ร่างเล็กยิ้มกว้างอวดฟันหน้าหลอไปสองซี่ ทั้งจริงจัง ทั้งจริงใจ จนละลายความกระหายอยากหายไปสิ้น เขาคนนั้นถึงถอนหายใจเฮือกอย่างเหนื่อยหน่ายปนอ่อนใจ

“หึ.....ชักอยากเห็นแล้วว่า แกจะโตมาเป็นแบบไหน”

“ก็เป็นในแบบที่อยากเป็นสิฮะ แม่บอกว่าผมจะมีความสุขในวินาทีเลย อันไหนไม่ดีหรือทำผิดพลาดไปก็ไม่ต้องไปสนใจ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ แล้วเราจะไม่เสียใจเลยเมื่อหันกลับไปมอง”

“แกนี่มัน.....” อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะหาคำพูดออกมาไม่ได้

“ว่าแต่....ปู่เป็นใครเหรอ ทำไมมาอยู่นี่”

“ที่นี่บ้านร้างไม่ใช่หรือ ใครจะมาก็ได้นี่”

“ก็จริง....เอ้า! ถึงจะน่าผิดหวังไปหน่อยที่ปู่ไม่ใช่ศพ นี่...กินแก้หิวหน่อยล่ะกัน” เด็กชายล้วงลูกอมในกระเป๋ากางเกงยื่นให้ อีกฝ่ายเลียริมฝีปากแห้งๆตอนเหลือบมองมือขาวๆนั้น

“ไม่เอาหรอก”

“น่า...ลูกอมรสเลือดเชียวนะ”

“รสอะไรนะ”

“รสเลือด ซื้อจากร้านขายการตูนในเมืองนะ มีรสอ๊วกเหมือนในหนังแฮรี่ พ๊อตเตอร์ด้วย แต่ผมชอบรสเลือดมากกว่า อร่อยนะ”

เขาจ้องมองอยู่ครู่กว่าจะยอมแกะห่อออกหยิบใส่ปาก “ชิ....รสเลือดปลอมชัดๆ”

“ฮะฮะ...”  เด็กชายหัวเราะคิก ชายแก่แปลกหน้าเองก็มีแววตาระริก ชอบใจ บรรยากาศอึมครึ้มปนแห้งๆในห้องกระจายหายไปเกือบหมด

“แบมบี้.....” ข้างนอกมีเสียงตะโกนดังลั่น “แบมบี้ นายอยู่ไหน”

“เพื่อนผมเรียกแล้ว  นี่ปู่จะอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่า”

“ทำไม”

“ถ้าอยู่ตอนเย็นผมเอาอาหารมาให้ดีไหม”

“อืม....” เขาครางเสียงแหบตอนขยับกายลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ฝุ่นไหลออกจากปกเสื้อ พร้อมๆกับกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บทั่วทั้งตัว

“ระวัง...” เด็กชายตกใจนึกว่าคนแก่จะยืนไม่ไหว เขาถลาเข้ามาประคอง ดวงตาสีเหลืองเหลือบมองเห็นแต่ลำคอขาวๆเมื่อมองจากด้านบน ความกระหายพุ่งพล่านอย่างแรง แต่ก็ควบคุมให้สงบได้ในที่สุด โลกมันเปลี่ยนไปขนาดนี้แล้วหรือ ถึงขนาดมีเด็กที่ไม่กลัวผีสาง แล้วเข้าใกล้เขาถึงขนาดนี้

“ไปซะ  ข้าก็จะไปแล้วเช่นกัน”

“เดินไหวนะฮะ”

“อืม....”

“งั้น...ผมไปนะเพื่อนผมรออยู่”

“....นี่” บางอย่างดลใจให้เรียกเขาไว้

“ฮะ??”

“จำที่พูดในวันนี้ให้ดีล่ะ ว่าใช้ชีวิตให้มีความสุขทุกวินาทีน่ะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว” เด็กชายยิ้มกว้างแล้ววิ่งปร๋อออกไป กลิ่นอากาศข้างหลังเขายังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมใสไม่ต่างจากอากาศเย็นบนยอดเขา เสียงพูดคุยของเด็กๆแว่วอยู่ไม่ไกลก่อนจางหาย เขายกปลายนิ้วขึ้นดู เล็บยาวดำสกปรกมีหยดเลือดแดงๆแปดเปื้อนอยู่ มันสะกิดเอาเลือดจากลำคอเด็กคนนั้นออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกเลย

ลิ้นแดงๆแห้งผากค่อยๆเล็มเลียช้าๆ ดื่มด่ำรสชาติที่ห่างหายไปนานนับศตวรรษ ความรู้สึกแผ่ซ่านดุจแสงวาบของดาวหางปะทะเข้าพื้นโลกอย่างจัง ทั้งสั่นสะเทือนความรู้สึก แล้วระลอกคลื่นร้อนผ่าวสั่นคลอนประสาทสัมผัสทุกส่วนในกาย แม้แต่หัวใจเหยี่ยวเฉาก็เต้นเร่า

เปลือกตาค่อยๆลืมขึ้นมอง แววตาสีเหลืองอย่างสัตว์ร้ายจางหายไปกลายเป็นสีฟ้าใสส่องประกาย เขาเลียริมฝีปากอีกครั้งเพื่อไม่ให้ลืมเลือนความหวานที่หลงเหลือในปาก  ช่างยากจะลืมเลือนได้จริงๆ เจ้าเด็กน้อยเอ๋ย.....เจ้าทำให้ซากศพนี้คืนชีพเสียแล้ว

               **********

“นิค......นิคกี้” เสียงเรียกซ้ำๆถึงทำให้ร่างเล็กยืนมองถนนหน้าบ้านในยามค่ำรู้สึกตัว

“ครับ”

“คิดอะไรอยู่ แม่เรียกให้เข้าบ้านหลายครั้งแล้วนะ”

“โทษครับ” ชายหนุ่มโอบไหล่แม่ที่รักเข้าในบ้านอันอุ่นสบาย กลิ่นอาหารไทยลอยคลุ้งไปทั่วเลย “หอมจังเลย”

“ตักข้าวให้แม่หน่อยสิ..... Honey ! Dinner Time”


พ่อแม่เขาชอบสวีทหวานกันตลอดเวลา เห็นแล้วชักกระดากใจ สงสัยคงได้เวลาย้ายออกเสียแล้วมั่ง ร่างเล็กหยิบจานออกจากตู้ตักข้าวใส่จานพลางคิดถึงการย้ายออก เขาอายุ 16 ก็น่าจะได้เวลาแล้ว แต่จะหาค่าเช่าบ้านจากไหนนะ งานพิเศษเหรอ??

เฮือก!!! เคร้ง...

“นิค??” คาร์สเข้ามาทันได้ยินเสียงพอดี “จานแตกเหรอ”

“ไม่แตกครับ แต่หลุดมือลงบนเคาน์เตอร์เท่านั้นไม่มีไรครับ” เขายกจานข้าวให้พ่อแม่ก่อน

“เป็นไร พักนี้เราใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะ มิลเนอร์ว่าเราเหม่อบ่อยๆ”

นันทกวียิ้มๆกำลังคิดว่าเงียบไว้ดีกว่า แต่ก็รู้สึกอัดอั้นในใจจนทนไม่ไหวแล้ว “แด้ด”

“หื้อ”

“แด้ดเคยไหมฮะ ที่อยู่ดีๆ.....ก็รู้สึกหนาวต้นคอบ่อยๆ...เหมือนมีอะไรสะกิดให้เราสะดุ้งอยู่เรื่อย แต่ก็ไม่มีอะไรสักนิด”

“เคยสิ สมัยเด็กบ่อยด้วย แต่พ่อไม่เป็นบ่อยเท่าลุงมาร์โคลของเรา”

“ลุงมาร์โคล??” เขากระพริบตาอย่างไม่คุ้นชื่อคนๆนี้เลย

“ญาติลูกพี่ลูกน้องนะ ลุงเขามางานวันเกิดครบขวบแรกของเราด้วย มีภาพที่แด้ดถ่ายไว้ด้วยจำไม่ได้เหรอ”

“โธ่ ใครจะไปจำได้” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะ

“มาร์โคล โอซีล คนล่ะนามสกุลกับเรา แต่ก็เป็นญาติกันรายนั้นเห็นว่ามี สัมผัสที่6 ด้วยนะ สมัยเด็กหมอนี้ชอบสะดุ้งบ่อยๆชอบมองอะไรที่ไม่มีตัวตน บางทีก็พูดอะไรแปลกๆแด้ดก็ไม่ได้สนใจหรอก คงเป็นคนมีจินตนาการสูงน่ะ ตอนหลังได้ยินว่าเขาไปบวชเป็นบาทหลวงด้วย” คาร์ลพล่ามยาวเหยียดก่อนจะเห็นสายตาของภรรยาเตือนนิดๆ

“ เอ่อ นิคว่าพักนี้เราเย็นต้นคอบ่อยเหรอ”

“ครับ.....ตั้งแต่เด็กใหม่ย้ายมา”

“เด็กใหม่??”

“ดาร์ท ชไนเดอร์ หน้าตาหล่อสุดๆ สาวๆน่ะกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เชียว  แต่กลับเป็นคนเงียบมากดูเป็นผู้ใหญ่กร้านโลก มากกว่าจะเป็นเด็กนักเรียนอย่างผม.....ไม่รู้สิฮะ ตั้งแต่รู้จักเขาผมรู้สึกเย็นวาบต้นคอหลายครั้ง เหมือนมีคนยืนมองอยู่ข้างหลังตลอดเวลา แล้ว......ไม่ค่อยสบายใจเลย”

พ่อมองหน้าเขาชั่วครู่ “คงคิดไปเองน่ะ ลูกหาอะไรทำเสียหน่อยก็ไม่รู้สึกแล้ว”

ชายหนุ่มผิดหวังนิดๆที่พ่อด่วนสรุปเร็วอย่างนี้ เขาบ้าบอไปคนเดียวหรือไง

“จะว่าไป ดาร์ท ชไนเดอร์นี่เป็นชื่อที่แปลกทีเดียวนะคะ ฟังน่ากลัวยังไงชอบกล”

“นั้นสิ พ่อเขาคิดยังไงถึงตั้งชื่อลูกว่า ดาร์ท  ออกมาได้”

“คุณก็.....อย่าลืมสิว่าดาราโปรดของคุณก็ชื่อ ดาร์ทเวเดอร์”

“นั้นมันในหนัง ที่รัก” สองผัวเมียเริ่มจู้จี้กันแล้ว นันทกวีรีบกินให้เสร็จแล้วเก็บจานขึ้นไปห้องของตัวเอง เขาเปิดหน้าต่างออกไป คืนนี้ท้องฟ้าปิดมองไม่เห็นดวงดาวเลย ลมพัดมาเอื่อยๆยังไม่เย็นเท่าต้นคอ น่ารำคาญชะมัด

ชายหนุ่มลูบต้นคอไปมาอย่างหงุดหงิด ทำไมถึงไม่หายเสียทีนะ รำคาญๆๆๆ รำคาญจะตายอยู่แล้ว เขานั่งบนเตียงเท้าคางกับกรอบหน้าต่างมองไปรอบๆพยายามจับสังเกตให้ได้ มีบางอย่างอยู่ข้างนอกนั้น อาจจะกำลังมองมาที่เขาก็ได้ ความรู้สึกมันบอก   ตาพยายามเพ่งมองไปยังเงาของต้นไม้ฝั่งบ้านตรงข้าม  มีอะไรอยู่ที่นั้น ทั้งที่ควรกลัวแต่เขากลับไม่รู้สึกถึงอันตรายเลย เขาจ้องอยู่พักหนึ่งถึงรู้สึกอุ่นขึ้น ลมเย็นที่ต้นคอหายไปแล้ว แถมอุ่นขึ้นทั้งตัวอีกต่างหาก ความอุ่นสบายนี้แผ่ซ่านไปทั้งร่าง จนอดเคลิ้บไม่ได้

นันทกวีเกยคางกับขอบหน้าต่าง จ้องมองความมืดเบื้องหน้าอย่างเพลิดเพลินเมื่อไม่รู้สึกหนาวอีกแล้ว และความรู้สึกบางอย่างปะทุขึ้นอย่างช้าๆโดยไม่ทันตั้งตัว ทุกอณูในร่างกายตื่นขึ้นราวกับถูกโอบกอดด้วยวงแขนอุ่น  ทำให้เลือดในกายแทบเดือดพล่าน

จู่ๆเกิดอารมณ์ได้ยังไงไม่รู้ ชายหนุ่มไม่คิดมาก มันคงเป็นไปตามอารมณ์วัยรุ่นของเขานั้นเอง วิธีแก้ไม่มีอะไรมากนอกจากสอดมือเข้าไปในกางเกง สัมผัสด้วยมือตัวเองก็รู้แล้วว่า มีอารมณ์ขนาดไหน

“อืม....” เขานั่งมองออกไปข้างนอก ขณะที่มือขยับช้าๆปลุกเร้าตัวเองให้เพลิดเพลินไปกับความเร่าร้อนช้าๆ

‘ใช่....ขยับช้าๆ ปลายนิ้วถูร่องที่ปลายแรงๆสิ’ ราวกับมีเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างโสตประสาท นันทกวีทำตามอย่างว่าง่าย

“โอ้ออ...” เยื่อเมือกลื่นๆติดมากับปลายนิ้วทำให้จังหวะสัมผัสลื่นไหล ต้องออกแรงกระชับให้มากขึ้นอีก มันร้อนผ่าวแล้วเสียวซ่านเหลือเกิน ทำไมถึงต้องการขนาดนี้นะ ความร้อนรุ่มทำให้เขาต้องถอดกางเกงยีนต์เกะกะออกให้พ้นทาง มือหนึ่งเร่งรัดอารมณ์ของตัวเองให้พุ่งสูงขึ้น อีกมือประคองถุงนุ่มนิ่มไว้ ก่อนเลื้อยไปข้างหลังอีกนิด ร่องลึกที่เพียงแค่แหย่นิ้วลงไป

“อ๊ะ...” ทำไมตรงนี้ถึงอยากจัง ในตัวเขากำลังร่ำร้องถึงบางอย่าง  บางอย่างที่เข้าถึงได้ “โอ้ยยย...”

มือกำกระชับแล้วเร่งจังหวะจนสติแทบล่องลอย วันนี้เขาเร่าร้อนเหลือเกิน ทั้งร่างเบิ่งบานราวดอกไม้รอให้สัมผัสอยู่ หัวนมเขาชูชัน ผิวกายตื่นตัวถึงขีดสุด

นี่.....นี่ถ้ามี....มีร่างที่แข็งแกร่งอยู่เหนือร่างเขาจะเป็นยังไงนะ

“โอ้ออออ!!!!” นันทกวีถึงในเสี้ยววินาทีนั้น แค่จิตนาการถึงร่างกายกำยำเหนือร่าง ความรู้สึกทั้งมวลก็ระเบิดออกมาเป็นจุล สติเขาดับวูบโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

            ***************

“นิค......นิค......”

เฮือก!!! ร่างเล็กลุกพราดพราดราวกับปลาโดนน้ำร้อนลวก

“อย่าเพิ่งเปิดประตู.....” เขาใจหายวาบเพราะไม่ได้ใส่กางเกงนอน แต่ต้องประหลาดใจที่ฟ้าแจ้งจางปาง บนตัวมีผ้าห่มอยู่แล้ว เฮ้ย...นี่กูหลับไปทั้งแก้ผ้าเลยเหรอ เปิดผ้าออกดูแล้วงงยกกำลังสอง ใครมานุ่งกางเกงให้วะ??

“นิค” แม่เปิดประตูเข้ามา “สายแล้วนะ รีบลุกได้แล้ว”

นันทกวีหน้าร้อนผ่าว นี่แม่เขามาในห้องตอนเขาล่อนจ้อนเหรอเนี่ย “แม่..เมื่อคืนแม่เข้ามาห้องผมเหรอ”

“หื้อ ไม่นี่ เมื่อคืนแม่ดูบอลกับแด้ดเขากว่าจะเข้านอนก็ดึกแล้ว ไม่ได้เข้าห้องลูกเลย”

“งั้นแด้ดล่ะ เข้าห้องผมหรือเปล่า”

“ก็เข้านอนพร้อมกันนี่ ไม่ได้ลุกมาเข้าห้องเราหรอก....มีอะไร”

“.....ไม่มีครับ” แล้วใครใส่กางเกงให้หว่า รึว่าละเมอลุกมาใส่เอง  นันทกวีงงเต็กเขาลุกขึ้นเก็บเตียงทั้งยังมึนๆงงๆ พอหันมา แม่ก็หัวเราะคิก “มีอะไรฮะ”

“นึกอุตริอะไรของเราถึงเอาดอกมาเสียบผมจ๊ะ”

“หา??” หันไปมองกระจก มีดอกไอวี่สีเหลืองดอกหนึ่งทัดหูเขาอยู่ ดอกไอวี่เหรอ?? มาจากไหนกันเนี่ย

“เอ้าๆ อย่าช้าจ๊ะ รีบแต่งตัวแล้วไปโรงเรียนได้แล้วนะ”

“ครับผม” ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำแบบงงๆ เขาลุกมาใส่กางเกงตอนไหน นอนห่มผ้าตอนไหน แล้วดอกไม้นี่มาจากไหนกัน???

คำถามนี้ทำให้เขาจนในคำตอบ คิดจนปวดหัวก็ไม่หาคำตอบไม่ได้ ในที่สุดก็เลิกคิดไปซะ นันทกวีแต่งเครื่องแบบไปโรงเรียน

“แบมบี้” มิลเนอร์เห็นหน้าเขาก็โบกมือเรียก

“ไง การบ้านได้ทำไหม”

“ทำได้ครึ่งเดียวก็เผลอหลับไปเสียก่อนแล้ว แกล่ะ”

“ไม่ได้ทำเลย”

“งั้นต้องรีบหาคนทำแล้ว มาลอกล่ะว่ะ เฮ้ นายมีเศษเหรียญหรือเปล่า เช้านี้ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย จะไปซื้อขนมที่ตู้หยอดเหรียญหน่อย”

“มีถึงหรือเปล่าไม่รู้นะ” ชายหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงออกมา มีเศษเหรียญ เศษกระดาษยับยู่ยี่ กับเศษดอกสีเหลืองเด่นสะดุดตา

“เอ....นี่ดอกไอวี่นี่นา ไปเอามาจากไหนน่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ตื่นมาก็เห็นบนที่นอนแล้ว”

“แหมแห่มแหม....นี่ถ้ามีสาวๆให้ล่ะ แกโชคดีแน่ๆเลย”

“ทำไมเหรอ” นันทกวีทำหน้างง

“น้องสาวฉันน่ะสิบ้าเรื่องภาษาดอกไม้ แล้วคุยให้ฟังจนจำได้เลยว่าดอกอะไรมีความหมายว่าไง ดอกไอวี่สีเหลือง ภาษาดอกไม้แปลว่า ‘ฉันหลงใหลในตัวคุณ’”

“ฉันหลงใหลในตัวคุณ??”

“ใช่ มันหมายความว่ายังงี้” มิลเนอร์ยิ้มกว้างหยิบเศษเหรียญในมือเขาเดินไปโรงอาหารอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้เพื่อนรักยืนงงต่อไป ทำไมช่วงนี้ถึงมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นบ่อยๆด้วยนะ

เฮือก!!!! ร่างเล็กยืนตัวแข็งทื่อ เอาอีกแล้ว.....คอเขาเย็นเหมือนอย่างเคย รู้สึกเหมือนมีใครยืนหายใจรดต้นคออยู่ ความรู้สึกนี้ทำให้อึดอัดเหลือเกิน เขาตัดสินใจหันไปมองข้างหลัง ลานกว้างหน้าตึกเรียนเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนที่ยืนคุยกันบ้าง เดินคุยกันบ้าง ไม่มีใครที่คอยมองเขาเลย

ดวงตากลมโตมองไปทั่ว ก่อนจะเหลือบขึ้นมองชั้นบนที่อยู่เหนือขึ้นไป ใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั้นและกำลังมองมาที่เขา  สายตาคู่นั้นปานประหนึ่งหมุดเหล็กที่ตอกลงบนร่างกายให้ขยับเขยื้อนไม่ได้  ต้องยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น

ดาร์ท ชไนเดอร์  เขากลัวคนๆนี้จริงๆ

            *************

ยังนึกตอนจบให้สมบรูณ์ไม่ได้แปะไว้ก่อนล่ะกัน  :bye2: :bye2:



Beerkuran

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านต่อ

นิคกี้น่ารักมากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
อย่างนี้นี่เอง มีความหลังกัน

แล้วน้องแบมบี้จะจำได้มั้ยเนี่ย

จากคุณปู่กลายมาเป็นหนุ่มหล่ออย่างนี้

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากค่ะ แล้วจะรอตอนต่อไปนะจ้า คุรผีดูดเลือดแอบมาหาน้องแน่ๆเลยมะคืน

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
รออ่านตอนต่อไปจร้า
 :กอด1:
เป็นกำลังใจให้  :bye2:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ตอนนี้ดูหวานปนลึกลับนิดๆ แต่พอกลับไปอ่านตอนแรกอีกครั้ง เหมือนฉายหนังคนละม้วน ทำไมถึงได้ดุเดือดเลือดพล่านขนาดนั้นนนน  :m25:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
อยากอ่านต่อ มันดูลึกลับดีแหะ  :impress2:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ดูลึกลับน่าติดตามจริงๆ

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ขอบคุณค่า  :L2:

มีความหลังกันมาก่อนแฮะ รอตอนต่อไป  :bye2:

ออฟไลน์ epoch

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ้า..อยากจะบอกว่าชอบเรื่องชุดนี้มากๆเลยค่า แทบทุกเรื่องเลย แบบว่าอ่านแล้วได้อารมณ์มากๆ
ไม่รู้ทำไมที่เคยอ่านเรื่องอื่นที่มีฉากncเหมือนกัน แต่อ่านเรื่องนี้แล้วมันให้ความรู้สึกมากกว่าอย่างบอกไม่ถูก
แบบว่า.."เร่าร้อน" อะไรประมาณนั้นน่ะค่ะ

ออฟไลน์ Lilyrum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
นายเอกของเราโดนลักหลับรึเปล่าเนี่ย  :z1:

เป็นกำลังใจให้คนเขียน มาอัพต่อเร็วๆนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
นึกถึงลีสแตทใน interview with the vampire ไงไม่รู้ค่า....แบมบี้แอบหว่านเสน่ห์ไปโดยไม่รู้ตัวแต่เด็กเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด