เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part 39
ช๊อค!!...
.
.
.
.
หลังจากผม เรียกรอยยิ้มและความสุขคืนมาบนหน้าของกลสิทธิ์ได้เหมือนเดิม
ผมเองก็ได้คำตอบให้ตัวเองเหมือนกันว่า ฟ้าจะกำหนดเช่นไรก็ตาม..
แต่เมื่อฟ้าให้ผมกับกลได้มาเจอกันแล้ว.....ผมจะร่วมฝ่าฟันไปกับมัน
ไม่ว่าปัญหาหรืออุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า..จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน
ผมจะไม่ท้อถอย ตราบใด..มันยังรักมั่นในตัวผมแล้วหละก็
ผมจะยืนหยัดเคียงข้างไม่ทิ้งให้มันผจญปัญหาเพียงลำพังเป็นอันขาด...
นี่คือความคิดของผม...ที่บอกกับตัวเอง ณ เวลานั้น
ผมและกลสิทธิ์เราต่างใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดมา แทบไม่อยากเชื่อว่าสองปีเข้ามาแล้ว
ตอนนี้ผมกับกลขึ้นปีสองกันแล้ว ปลายเทอมสองเข้ามาแล้วด้วย
ชีวิตรอบข้างกลสิทธิ์มีแต่สิ่งดีดี ผลการเรียนดี..แม่กลดีใจใหญ่..พ่อก็ดีใจ
ที่กลทำให้พวกเค้าภาคภูมิใจ ถึงขนาดฝากเงินใส่บัญชีให้คนละหมื่นเลยทีเดียว
เป็นรางวัลที่มันทำตัวดี..กลมันไม่เคยเอาเงินเก็บมาใช้เลย มีเก็บแสนต้น ๆ
ไม่ได้แอบดูบัญชีมันหรอก มันเอามาอวด..บอกเก็บเงินไว้แต่งเมียว่างั้น
ผมงอนมันไปสามวัน ดันเข้าใจว่ามันตั้งใจเก็บไว้แต่งเมียจริง ๆ
หมายถึงผู้หญิงที่เป็นแม่ของลูกหนะ เพิ่งรู้ว่าผมหึงแม้กระทั่งเจ้าสาวที่ไม่มีตัวตน
แต่มันน้อยใจไง พาลคิดเอาว่า..สุดท้ายมันก็เลือกทางที่ถูกต้อง
ทั้งที่ใจเจ็บ..แต่ก็ดีใจไปกับมันด้วย เพราะอยากน้อยผู้ชายอย่างมัน
คงเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีได้ในอนาคต เหลือแค่สองปีเราก็เป็นบัณฑิตกันแล้ว
ที่ไหนได้..เมียที่มันพูด..ดันหมายถึงผม มันง้อเกือบตายกว่าผมจะยอมทำตัวเป็นปกติ
ยิ่งอยู่กันนาน ๆ ผมยิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที ไม่ได้หมายถึงว่ากระแด๊ะหรือสาวแตกไรงี้นะครับ
ยังปกติเหมือนเดิม..หมายถึงนิสัยขี้งอนขี้น้อยใจมันตะหาก เมื่อก่อนผมไม่เคยเป็นนะ
แต่พักหลังนี่ยังไงไม่รู้แหะ..เวลาโกรธผมจะนิ่ง ไม่จำเป็นจะไม่พูดเลย...ทำเฉยซะมากกว่า...
ไอ้นิสัยนี่แหละ..ที่กลมันกลัวใจผมหละ..บอกว่าผมเวลางอนแล้วง้อยาก
อ่านยากด้วย..เล่นไม่พูดไม่จา...กลัวใจจริง ๆ
แต่มันก็ดีใจ...ที่ผมมีงอนมีหึงมีโกรธมัน..กลับชอบเสียนี่...สรรหาวิธีมาลองใจผมซะงั้น
หากเป็นเมื่อก่อน ผู้หญิงที่มันคบมาแสดงนิสัยแบบนี้ใส่มัน
กลับบอกรำคาญ..พาลเบื่ออีกตะหาก พอเป็นผมมันคอย..หาเรื่องมาให้ผมแสดงความรู้สึกเหล่านี้
เพื่อทดสอบว่าผมรักมันหรือยัง เอากะมันสิ...ไอ้ผมอยากจะบอกเหมือนกัน...
แต่ไม่รู้ว่ารักหรือเปล่ายังตอบไม่ได้..เลยยังไม่เคยบอกรักกลสักครั้ง ทั้งที่อยู่กันมาสองปีแล้วนะเนี๊ยะ
แปลกไหม...ไม่รู้ใครจะคิดยังไง...ผมไม่เคยบอกว่ารักกลเลย...
เพราะผมยังไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของคำว่ารัก แต่ผมรู้สึกห่วง..และผูกพันมากกว่า......
ครอบครัวของเราทั้งสองฝ่ายไม่มีใครสงสัย กลมันกลับบ้าน
ไปเยี่ยมแม่มันบ้าง..เดือนหนึ่งสี่ห้าครั้ง แต่ไม่เคยไปค้าง...ถ้าจะค้างมันหิ้วผมไปด้วย
ส่วนใหญ่จะเป็นคืนวันเสาร์...และกลับวันอาทิตย์
ผมมีโอกาสเจอพ่อกลสองครั้ง กลพาไปเยี่ยมที่ชัยนาทครั้งหนึ่ง
ส่วนครั้งที่สองตอนขากลับจากไปเยี่ยมพี่สาวผมที่นครสวรรค์ เราไปค้างกันสองคืน
ขากลับเลยแวะเยี่ยมพ่อกล ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่หน้าดุมากเชียวหละ..แต่ดูเป็นคนใจดี
เราไม่ได้ค้างชัยนาท..เวลามีไม่พอ..แวะคุยกับท่านครึ่งวัน..ก็เดินทางกลับ
ผมได้มีโอกาสรู้จักน้องสาวกลก็ตอนได้ไปเยี่ยมพ่อกลนี่แหละ เจอน้องต่างแม่อีกสองคนด้วย
แม่เลี้ยงรู้สึกเกรงใจกลมันไม่น้อย ท่านต้อนรับพวกเราดีมาก
น้องสาวกลขอร้องให้มันค้างด้วยสักคืน มันกลับลูบหัวปลอบน้องมันอยู่นานมันอยู่ไม่ได้จริง ๆ
พรุ่งนี้มีเรียนหนำซ้ำเป็นวิชาสำคัญ ไม่สามารถโดดได้ด้วย เพราะต้องพรีเซ็นต์งานกลุ่มอีกตะหาก
สรุปผมกับกลไม่ได้ค้าง เรากลับกรุงเทพในเย็นวันนั้นเลย....
หลังจากนั้นผ่านมาเดือนกว่า ๆ เริ่มสอบปลายภาค มหา’ลัยกลสอบเสร็จก่อนสองวัน
ผมเพิ่งจะสอบเสร็จ ตกลงกันว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านผมที่เหนือ กลมันอยากไปเจอแม่ผมด้วย
มันรอจนผมสอบเสร็จ เราช่วยกันปัดกวาดทำความสะอาดห้อง
รื้อจัดอะไรต่าง ๆให้เรียบร้อยผมชอบทำ เพราะช่วงสอบไม่มีเวลาทำ
มัวแต่หัวฟูเอาสมาธิไปลงหนังสือหมด คุยกันว่าอีกสองวันค่อยเดินทาง
พรุ่งนี้จะแวะไปเยี่ยมแม่กลบอกให้ท่านรู้ไว้สักหน่อย เพราะปิดเทอมใหญ่
พวกผมไม่ได้ลงซัมเมอร์เลยกะไปอยู่ยาวสักเดือน ลองให้กลมันไปใช้ชีวิตชนบทดูมันจะอยู่ได้ไหม
ไม่ได้บอกมันหรอกว่าจะลองทดสอบมันดูคิดไว้ในใจ มันกระดี๊กระด๊าดีใจจะได้เจอแม่ผม
เพราะอยู่กันมาสองปีไม่เคยเจอญาติพี่น้องผมเลย นอกจากพี่สาวที่อยู่นครสวรรค์เพียงคนเดียว
แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เขาพูดกันว่า..ไม่มีใครไม่เคยเจอปัญหา..
ชีวิตไม่ได้ราบรื่นเสมอไป..ผมกับกลก็เหมือนกัน คงถึงเวลาแล้วมั้ง
ที่ฟ้าให้เราฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน ถ้าหากผ่านไปไม่ได้ เราคงไม่มีวันนี้
ตั้งใจว่าวันนี้จะไปบ้านกลกัน เพราะพรุ่งนี้จะนั่งรถทัวร์ไปบ้านผม
กะเอารถของกลไปจอดเก็บไว้ที่บ้าน ขากลับนั่งแท็กซี่กันเอาวางแผนไว้ดิบดี
เช้าแปดโมง..โทรศัพท์ห้องผมดังขึ้น เราเพิ่งตื่นก่อนหน้านี้เอง...
“กริ๊งงงๆๆ!!..กริ๊งงงงๆๆๆ!!!..” ผมเดินไปรับสาย
“สวัสดีครับ ห้องxxx ผมวีพูดครับ”
“วีหรือลูก...กลอยู่ด้วยไหม?.” เสียงแม่กลถามมา
“อยู่ครับแม่..รบกวนแม่รอแป๊ปนะครับ เดี๋ยวผมให้กลมารับ” จากนั้นผมก็เดินไปสะกิดเรียก
ให้มันมารับสาย มันกำลังเก็บเสื้อผ้าจัดใส่กระเป๋าเดินทางอยู่
“กล..แม่โทรมา..รอสายอยู่” ผมบอกมัน..ก็ยักหน้ารับ ก่อนจะลุกเดินไปรับโทรศัพท์
ที่ผมพักสายรอไว้ เห็นมันยืนคุยไรไม่รู้สักครู่ วางหูเสร็จมันก็เดินกลับมาหาผม
ก่อนจะพูดว่า
“วี..มึงอาบน้ำเปลี่ยนชุด ไปบ้านกูกันตอนนี้เลยว่ะ!...ไม่รู้อะไรกะแม่บอกให้กูมาด่วน
อุตส่าห์บอกแล้วว่าตั้งใจจะไปหาอยู่แล้วสิบโมง...เกิดใจร้อนไรก็ไม่รู้ให้ไปตอนนี้
ถามมีธุระไรก็ไม่ยอมบอก” ผมฟังมันพูด ได้แต่สงสัยนิดหน่อย..แต่ก็ไม่ติดใจไรนัก
เดินไปหยิบผ้าขนหนู เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเตรียมตัวไปกะมันนั่นแหละ
พอผมออกมามันก็เข้าไปอาบต่อ เสื้อผ้าของมันแพ็คลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
ของผมเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืน พวกของใช้ส่วนตัวผมแยกจัดไว้แล้วสำหรับสองคน
ไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ พอมันแต่งตัวเสร็จ เราปิดล๊อคห้องเดินทางไปบ้านมันทันที
มาถึงบ้านกลแปลกใจนิด ๆ หากจำไม่ผิดเห็นรถพ่อของกลจอดในบ้านด้วย
จำได้ว่าพ่อกลไม่เคยมาบ้านแม่เลยตั้งกะแยกกันไปมีครอบครัว ครั้งนี้คงจะมีเรื่องสำคัญ
ลงรถเสร็จผมกับมันก็พากันเดินเข้าไปในบ้าน..เข้าไปถึงห้องรับแขก..อยู่กันพร้อมหน้า
อาลพ แม่กล พ่อกล กุ้งนางและกุ้งกุลา กุ้งนางตาบวมช้ำ เหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
โดยมีกุ้งกุลาน้องสาวนั่งจับมืออยู่ข้างกัน พอพวกผมโผล่เข้าไป เราพากันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งหมด
ก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาว่างติดกันสองตัว สายตาอาลพที่มองกลรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม
ฉายแววผิดหวังตัดพ้อ..สลับไปมา ส่วนพ่อของกลหน้านิ่วคิ้วขมวดดูดุได้อีก
แม่นั่งนิ่งไม่ยิ้มแย้มเหมือนเคย บรรยากาศชวนอึดอัดสุด ๆ แต่ผมก็เฉยๆนะ
เพราะไม่รู้ว่ามีเรื่องไรกัน กลมันคงคิดไม่ต่างจากผม
เพราะดูหน้ามันก็ปกติไม่ได้ทุกข์ร้อนลุกรี้ลุกรนไร
พอเรานั่งเรียบร้อย พ่อกลก็ทำหน้าที่เปิดประเด็นพูดขึ้นทันที
“กล...แกทำลูกสาวเค้าท้องใช่ไหม?” เสียงกังวานดังฟังชัด แต่แฝงแววบังคับคาดคั้นในที
เล่นเอาผมตะลึงชะงักไปทันที อะไรกัน...กลทำใครท้อง..ใจหล่นวูบ..เมื่อฟังประโยคนี้
กลสิทธิ์ตาเบิ่งกว้าง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“อะไรกันพ่อ...พ่อว่าไรนะ...ผมทำใครท้อง” ใช่ครับ..มันทำหน้างงเต็กมาก
ผมจ้องหน้ามันพยายามค้นหาความจริงในดวงตามัน ผมมั่นใจว่ามันไม่รู้เรื่องจริง ๆ
ก่อนที่พ่อมันจะปรายตามองไปที่กุ้งนางซึ่งตอนนี้ ก้มหน้าไหล่สั่นไปแล้ว
คงไม่ต้องบอกว่ากำลังร้องไห้อยู่ กุ้งกุลาน้องสาวพยายามกอดปลอบพี่สาวตลอดเวลา
“ก็หนูกุ้งนางไง แม่แกโทรไปตามพ่อตั้งแต่เมื่อวาน นัดให้มาจัดการเรื่องนี้ให้มันเรียบร้อย
เอาหละ...แกเป็นลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ..” พ่อกลสิทธิ์ตัดบทดื้อ ๆซะงั้น
ในขณะที่แม่ อาลพ ผม กุ้งกุลา ยกเว้นกุ้งนาง ต่างพากันจ้องกลเป็นตาเดียวเพื่อรอฟังคำตอบจากมัน
“ผมไม่รับ...และไม่มีวันรับด้วย...เป็นตายยังไงผมก็ไม่รับ...ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเค้า..
จะทำเค้าท้องได้ยังไง” มันพูดเสียงดังฟังชัด นิ่งมาก...เห็นท่าทางมันตอนนี้
ผมมั่นใจทันทีว่ามันไม่ได้ทำแน่ๆ ท่าทางฉะฉานมั่นใจ นิ่งสงบไม่วอกแวก
หรือส่อพิรุธให้เห็นว่าเป็นวัวสันหลังว่ะ..ไม่มีเลย อาลพพูดแทรกขึ้นมาทันทีเลย
“อย่าว่าอาอย่างโง้นอย่างงี้เลยนะกล ลูกสาวอาเป็นฝ่ายเสียหาย ตอนนี้กุ้งนางท้องได้สามเดือนแล้ว
กว่าอาจะรู้..ว่าลูกอาท้อง ต้องพาไปตรวจกันถึงโรงบาล เพื่อความชัดเจนกันเลยทีเดียว
พอมั่นใจแล้วว่ากุ้งนางท้องจริงๆ เราถึงได้หันหน้าจับเข่าคุยกัน อาเลี้ยงลูกมากับมือ
แม้จะไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า...เป็นพ่อที่สมบูรณ์แบบก็ตามเถอะ
แต่อามั่นใจว่า...ไม่มีความจำเป็นใดใดที่ลูกสาวอาต้องโกหก ในเมื่อเค้าสารภาพหมดแล้ว
ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของกล เค้าบอกมีอะไรกับกลมานานแล้ว ทุกครั้งที่กลแวะมาเยี่ยมแม่
ลูกอาอยู่ปีสี่แล้ว ปีนี้เป็นปีสุดท้ายอาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว
แถมเป็นคนในครอบครัวเดียวกันอีก อาเพียงแต่เรียกกลมา...เพื่อจะได้ดำเนินการให้มันถูกต้อง..
นี้คือสิ่งที่อาหวังจากกล” พูดจบอาลพจ้องหน้ากลนิ่งไม่กระพริบตา ในขณะที่กลสิทธิ์หน้าตาดูไม่จืด
มันส่ายหน้าไปมาช้า ๆ แบบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากปากของอาลพ
หันไปมองกุ้งนาง..ก็เอาแต่นั่งมือกุมหน้าร้องไห้ก้มหัวอยู่แบบนั้น ไม่เงยหน้าขึ้นมามองใครเลย
ผมเองช๊อคไปเหมือนกัน จิตตกไปอยู่ตาตุ่มกันเลยทีเดียวกับสิ่งที่ได้ยิน
จากที่มั่นใจกลมันเต็มร้อยเมื่อตะกี้ ว่ามันไม่น่าจะไปทำกุ้งนางท้อง แต่ตอนนี้ผมชักลังเลแล้ว
เพราะผมบอกแล้วว่า กลสิทธิ์เดือนหนึ่งกลับมาเยี่ยมแม่มันสี่ถึงห้าครั้ง ส่วนใหญ่ไม่เคยค้าง
ผมมาด้วยมั้งไม่มามั้ง ถ้าผมจะมาด้วย..ก็เฉพาะตอนที่กลมันมาค้างซะมากกว่า
มันไม่อยากทิ้งผมไว้ที่หอคนเดียว จึงบังคับผมมาค้างเป็นเพื่อนมันประจำ มีเจอกุ้งนางบ้างไม่เจอบ้าง
ถึงแม้จะมองออกว่ากุ้งนางมองกลสิทธิ์ด้วยความรู้สึกแบบไหน
แต่สาบานได้ว่าผมไม่เคยเห็นกลสิทธิ์เปิดโอกาสให้กุ้งนางได้เข้าใกล้เลยด้วยซ้ำ
ซึ่งผมกล้าเป็นพยาน แต่มันจะใช้เหรอในเมื่อเวลาที่กลสิทธิ์มาเองไม่มีผมมาด้วย
ถึงจะไม่ค้างก็เถอะ..เค้าสองคนจะมีอะไรกันหรือไม่ ตรงนี้แหละ..ที่ผมลังเล...
และเริ่มจะไขว้เขวเอาให้ เพราะผมเคยเห็นฤทธิ์ของกุ้งนางที่เข้าไปปล้ำกลสิทธิ์ถึงในห้อง
วันที่กลับจากสุพรรณฯ มาแล้ว ผมจึงไม่รู้ว่ากลสิทธิ์จะโดนแบบนั้นอีกหรือเปล่า
ที่สำคัญ..มันเป็นผู้ชาย...โดนบ่อยๆเข้า จะอดใจไหวแน่หรือ...นี่แหละ..ที่ทำให้ผมคิดหนัก...
ไม่รู้ว่าหน้าตาตัวเองตอนนี้แสดงอาการยังไง....รู้แต่ว่าใจหวิวไปเลย...
พาลทำให้แขนขาเปลี้ยไปเหมือนกัน...กลสิทธิ์จะเป็นพ่อของเด็กในท้องกุ้งนางหรือเปล่า..
ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวมันเอง.......?????????
เตรียมทำใจ ซับน้ำตา...เฮ้อ!
Luk.