เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part 4
เหี้ย!..กวนส้งติง..ชิบหาย.
.
.
.
ผมนั่งทำการบ้านบัญชีอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นข้างที่นอน บอกก่อนไม่มีเตียง..นอนฟูกชนิดจะนอนก็ปู
นอนเสร็จก็พับเก็บ..ในห้องเล็ก ๆขนาด 3x2 เมตร เท่ารูหนู เนื่องจาก..บ้านพี่สาวผมเป็น
บ้านไม้ครึ่งปูนสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างเป็นปูน..ซื้อต่อจากเจ้าของเดิมเค้า ผมอยู่ห้องใต้บันได
ชั้นล่าง ดีหน่อยติดกะห้องน้ำ สะดวกตรงนี้แหละ
อยู่แถวตลาดจอมทอง..บางขุนเทียน ที่ทางในกรุงเทพฯ แพงยังกะทอง ได้ที่ซุกหัวนอนแค่นี้
ก็บุญโขแล้วหละจะบอกให้
“วี..วี..รับโทรศัพท์” เสียงพี่สาวผมเรียกรับโทรศัพท์ สงสัยไอ้โรจ..โทรมาหาชัวร์
“ฮัลโหล”
“วี..กูเอง..มึงโอเคดีใช่ไหม” มันแหละ..ไอ้เชี้ยโรจ คงเป็นห่วงผม กลับมาก็ไม่ได้โทรบอกมัน
กะว่าทำการบ้านเสร็จก่อนค่อยโทรหา มันดันเสือกโทรมาก่อน
“อืม..บายดี..กูโอเค หัวไม่แตก..ตาไม่เขียว..เหยี่ยวไม่เหลือง..มึงไม่ต้องห่วง” ผมตอบมัน
“สัดนี่..กวนได้อีกมึง กูแม่งเป็นห่วง..กลัวไอ้พวกเหี้ยนั่นรุมยำตีนมึง” นั่น..ยัดเยียดให้ผมกินตีนอีก..
ตลอดอ่ะ..กูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มึงเก็บไว้กินเองเหอะ! คิดในใจ
“ไม่มีไร..มันไม่ได้ทำไรกู แค่วานกูติดต่อหญิงให้มันแค่นั้น” ผมบอกความจริงมันไป ผมกับไอ้โรจ
ไม่ค่อยมีความลับอะไรกันหรอก
“ใครว่ะ?..ที่มันให้มึงติดต่อให้อ่ะ”
“น้องเกศแผนกเลขาปีสอง คนที่น่ารักๆถ่ายโฆษณาลูกอมยี่ห้อxxx..มึงยังเคยหม้อเค้าอยู่พักหนึ่งอ่ะ”
“ห่ะ!..มันให้มึงติดต่อน้องเกศเลยเหรอว่ะ!..ไม่ได้ดูหน้าแม่งเลย เค้าคงเอามันหรอก..
หน้ายังกะกระรอกดอย ขนาดกูหล่อปานนี้ ตามหยอดน้องเค้าตั้งหลายครั้ง เค้ายังเมินกูเลย
นับประสาอะไรกะมันว่ะ ..ถุย!..ไอ้ไม่เจียมตัว.”
“เห้ย!..แล้วมึงจะมาถุยเหี้ยไรใส่หูกูเนี๊ยะ” นั่นดิ...ถุยมาได้เต็มหูกูล่ะ.แสรดดดด
“โทษทีว่ะ!..อินจัดไปหน่อย”
“เอ่อ..แล้วนี่มึงทำการบ้านเสร็จยัง"
"อย่าบอกรอลอกกูอีกดิ"
“แม่ง..ถูกต้องนะครับ...โหยมึงโครตรู้ใจกูจริงว่ะไอ้วี...ไม่ติดเป็นผู้ชาย กูจะจีบมึงเป็นแฟน
ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย หาได้ที่ไหนหัวดีเรียนเก่ง กีฬาเยี่ยม แถมรู้ใจกูอีก”
“สัด..พอเลยมึง..อย่าเยอะ..ถามกูก่อนรึยัง กูเอามึงรึเปล่าน่ะ...ตกลงมึงไม่มีไรแล้วใช่ไหม”
“ทำไมว่ะ!...กูคุยกับมึงยังไม่รู้เรื่องเลย จะรีบวางไปไหน”
“กูจะทำการบ้านต่อ เดี๋ยวดึก..แล้วมึงจะคุยไรอีก”
“กูจะถามว่า มึงจะติดต่อน้องเกศให้มันจริงอ่ะ แล้วจะบอกน้องเค้ายังไง ร้อยวันพันปี
กูไม่เห็นมึงคุยกะเค้าเกินสามคำ จู่ ๆจะเข้าไปบอกเค้าว่ามึงจะเป็นพ่อสื่อเนี่ยะนะ..เค้าคงคุยกะมึงหรอก”
นั่นล่ะ..ปัญหากู ยังไม่อยากคิดให้ปวดหัวตอนนี้..ไว้วันจันทร์ค่อยว่ากัน
“ยังไม่รู้โว้ย..แล้วไงเดี๋ยวค่อยปรึกษาไอ้คิ๋มมันก่อน..มันเพื่อนกัน เผื่อมันช่วยกูได้..เอาไง
ค่อยว่ากันอีกที กูวางแล้วนะโว้ย!...รีบทำการบ้านต่อ”
“เอ่อๆ..รักน๊า..เด็กโง่” เหี้ย..เด็กโง่พ่องมึงดิ ..ลอกการบ้านกูตลอด เสือกว่ากูโง่
บทสนทนาผมกับไอ้โรจยุติลง แล้วผมก็กลับมานั่งปั่นบัญชีต่อ นั่งก้นยังไม่ทันอุ่น
“วี..วี..โทรศัพท์..ไงเนี่ยะ..เรื่องคุยเยอะจริง..โทรสายต่อสายไม่เว้นเลยนะเรา” พี่ผมเรียกอีกแหละ
โดนบ่นเลยกู แล้วใครดันเสือกโทรมาอีกว่ะ..เหี้ยโรจมีอะไรอีกมึง..
“ฮัลโหล..มีอะไรอีกว่ะ..กูโดนบ่นเลยสัด...ถ้าไร้สาระมึงโดนกูโบกกบาลวันจันทร์แน่” ยกหูได้
ผมใส่เป็นชุดเลย
“มึงลองมาโบกกูดิ..ไม่จมตีนกูให้รู้ไป” อ้าว!...เสียงไม่ใช่เหี้ยโรจนี่หว่า เสียงใครว่ะ!
“ใครว่ะ?..รู้จักกูได้ไง” งงอยู่..ถามแม่งกลับแหละ
“ไง..ลืมแล้วดิ..งี้เรื่องที่กูให้ทำ มึงจะจำได้ไหมเนี่ยะ! ขนาดไม่ทันข้ามวันมึงยังลืม" เหี้ยกล...
ผมนึกออกแหละ..แต่แม่งเสียงในโทรศัพท์ไมมันทุ้มหล่อได้อีกว่ะ กูเลยจำแม่งไม่ได้
“ไม..โทรมามีไร?” ถามมันกลับ
“กูแค่ลองเช็คเบอร์ที่มึงให้ใช่เบอร์บ้านมึงเปล่า..เผื่อมึงลีลา..กูได้ไม่ต้องรีรอ..จัดหนักให้มึงเลยวันจันทร์”
เหี้ย...นรกจริงตามมาขู่กูอีก ขนาดคุยโทรศัพท์นะนั่น
“แล้วไง..ที่นี้รู้ยัง..ว่าเบอร์บ้านกู..แค่นี้ใช่ไหมกูได้วาง”
“เดี๋ยว!อย่าเพิ่ง..ลองมึงวางเจอกูแน่”
“อะไรของมึงกันว่ะ...ขู่กูอยู่ได้..รู้หรอกมึงมันอันธพาลครองเมือง ไม่ต้องย้ำกูบ่อย”
“ปากดีนะมึง...ด่ากูอันธพาล..อย่างกูนักเลงโว้ย!...ใครเค้าเรียกอันธพาลกัน..เชี้ย” แหนะ!..ไม่ยอมรับ
ความจริงอีก
“เอ่อๆ มึงจะอันธพาลหรือนักเลง ช่างหัวมึงเหอะ...แล้วตกลงมีไร กูรีบพูดมาเร็ว”
“รีบทำเหี้ยไร..ชักว่าวค้างอยู่ดิ...” ดูปากมัน..พูดมาได้ไม่อายสักนิด ลืมไปเปล่า..กูกับมึงเพิ่งรู้จักกัน
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เหอะ...กล้าคุยกะกูขนาดนี้เชียวเนอะ
“สัด..พูดให้มันพ้นเรื่องพวกนี้หน่อยได้ไหมว่ะ..กูไม่ได้เงี่ยนตลอดเวลาแบบมึง”
“เอ่อใช่..โทษทีกูลืมไป...มึงคงชักว่าวไม่เป็น คงเก่งแต่ชักให้คนอื่นเค้า เพราะมึงมันตุ๊ดนี่หว่า5555!”
แม่งเหลือจะทนกับคนอย่างมัน ผมวางโทรศัพท์ทันที ไม่อยากเสวนากับไอ้พวกไร้มารยาท
แบบมันให้รกหูอีก หันหลังเดินได้ไม่กี่ก้าว
“กริ๊ง..กริ๊ง..ๆ” ดังอีกแหละ..โทรศัพท์ จะไม่รับก็กลัวพี่ผมรับแล้วบ่นอีก เลยกลับไปยกหู
ยังไม่ทันได้พูด
“เมื่อกี้มึงวางหูใส่กูทำไม” นั่นกูว่าแล้ว มารยาทสุดตรีนจริง ๆมันไม่คิดบ้างถ้าเกิดคนรับไม่ใช่ผม
มันจะเป็นยังไง
“มึงพูดดีดีหน่อยได้ไหม เกิดเป็นพี่กูรับ มึงไม่คิดบ้างเหรอว่าเค้าจะรู้สึกยังไง ที่ต้องมาฟังมึงพูดแบบนี้นะ”
“เพราะกูรู้ไง..ว่าไม่ใช่พี่มึง กูถึงได้พูด เป็นพี่มึงกูก็ไม่พูดดิ” โอ้ย!..ปวดกบาล เอากะแม่งมันดิ
เทพชิบหาย..หยั่งรู้ได้อีกมัน
“พอๆกูขี้เกียจเถียงกะมึงหละ ตกลงมีอะไรรีบพูดมา กูบอกแล้วกูรีบ”
“กูยังคุยไม่จบ มึงห้ามวางหูใส่กูอีก.”
“ได้ข่าวพ่อกูตายไปเกือบสิบปีแล้วเหอะ มึงเป็นใครสั่งกูได้สั่งกูดีเนี่ยะ”
“กูไม่เปรี้ยวปีนเกลียวเล่นของสูงหรอก ไม่ได้เหี้ยด่าพ่อล้อแม่เหมือนใครบางคน” มันประชดผมแหละ
ผมด่าพ่อมันเมื่อเช้าไง จนเกือบเป็นเรื่อง
“ตกลงมึงมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม กูวางละนะ” ตัดบทแม่งล่ะ..รำคาญโครต หงุดหงิดรมณ์เสียเลยผม
“กูสั่งแล้วว่ามึงห้ามวาง จนกว่ากูจะพูดจบ” ฟังมันพร่ำแค่นั้น สิ้นสุดความอดทนแล้ว
วางหูทันที..แถมดึงสายโทรศัพท์ออกด้วยตะหาก กันไม่ให้มันโทรมาอีก สามทุ่มแล้ว
คงไม่มีใครอุตริโทรมาแล้วตอนนี้ กลับเข้าห้องสงบสติอารมณ์ ก่อนจะปั่นบัญชีต่อให้เสร็จ
จากนั้นแปรงฟันเข้านอน เล่นเอาประสาทตาแข็งเลยกู วันเดียวเจอแต่คนเหี้ยๆเรื่องเหี้ยๆ
กวนสมองกูอยู่ได้ไอ้ห่าราก.....เหี้ยกล.......ไอ้นรก.........
มาต่อให้แล้วนะค่ะ
Luk.