เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part พิเศษ นอกรอบ 2
ครบรอบแต่งงาน...
.
.
.
.
วีไม่ได้หายเงียบไปไหนหรอกค่ะ....ยุ่งกับงานที่บริษัทฯ มีเวลาไปทำบุญกับหลวงพี่ที่วัดบ้าง
ไม่บ่อยนัก ล่าสุดไปตอนเข้าพรรษาที่ผ่านมา..หลังจากทำบุญถวายภัตตาหารพร้อมสังฆทานเรียบร้อยแล้ว
มีเวลาได้พูดคุยกับท่านที่กุฏิสงฆ์ซึ่งท่านใช้จำวัดก่อนเดินทางกลับพอสมควร งานนี้วีไปกับพี่วาดสองคน
ซึ่งสนิทกับหลวงพี่นั่นแหละค่ะ มีโอกาสคุยส่วนตัวเพราะพี่สาววีขอตัวไปให้อาหารปลาที่เขตอภัยทานของวัด
ประโยคที่วีกับหลวงพี่พูดคุยกันลองฟังดูนะค่ะ
“
โยมเป็นอย่างไรบ้าง..งานที่บริษัทฯยุ่งมากไหม?..” ท่านถามขึ้นมา
“ยุ่งนิดหน่อยค่ะ....แต่ก็ไม่มีอะไร...เรียบร้อยดีค่ะ” วีตอบท่านไป
“อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ...อย่าโหมงานจนลืมนึกถึงตัวเองละ..เจ็บป่วยขึ้นมาจะลำบาก...” ท่านเตือน
พร้อมสายตาห่วงใย..ซึ่งวีเห็นชัดเจนก่อนท่านจะเบือนเฉหลบไป
“
ค่ะ...วีจะพยายามดูแลตัวเองให้ดี..หลวงพี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ” ตอบท่านไปพร้อมกับหัวใจฟูฟ่อง..
ไม่มีคำอธิบายบอกความรู้สึก
“
ไม่ใช่พยายาม...การดูแลตัวเองให้ดีต้องอาศัยความพยายามเชียวหรือ?...หลวงพี่อยากให้โยมดูแล
โดยไม่ต้องพยายาม..คือตั้งใจดูแลตัวเองให้มาก..โยมเข้าใจใช่ไหม?” เล่นเอาหน้าแดงเลยประโยคนี้..เหมือนจะตำหนิ..
แต่ก็เชิงสั่งสอนไปด้วย..งานนี้หลวงพี่เจตนาอบรมปรามวีเต็มๆ
“ค่ะวีเข้าใจ...รับปากจะดูแลตัวเองให้ดี” ตอบท่านไปอย่างไวเลยวุ้ย!
“
อึม..ดีแล้วหละ...ยังไงเงินทองก็ของนอกกาย...ทรัพย์สินต่างๆ เรายึดติดไขว้คว้าหามาเกือบตาย
สุดท้ายก็เอาไปด้วยไม่ได้..แม้แต่สังขารเราเองก็เถอะ...ทำเอาแค่พอกินพอใช้อย่าเกินกำลังมากไป...เราเองก็ไม่มีลูก
ที่จะต้องคอยห่วง..หามาได้ก็เท่านั้น..เข้าใจที่หลวงพี่พูดใช่ไหมโยม?” โอย!...อีกแล้ว...มาอีกหนึ่งระลอก...วีเข้าใจนะ..
ที่หลวงพี่ท่านเน้นย้ำวีเรื่องนี้ เพราะท่านรู้จักนิสัยวีดี...วีเป็นคนที่ทุ่มเทกับงานมาก..
คือไงดีหละ..เมื่อรับงานมาแล้ววีจะทุ่มเทเอาใจใส่ในรายละเอียดและลงลุยกับลูกน้องมาโดยตลอด...
บ้างทีถึงกับอดหลับอดนอน ลืมทานข้าวไปเลยก็มีเมื่องานมันติดพันมากๆ...สมัยที่ท่านอยู่ก็อาศัยท่านช่วยจัดการให้ตลอด...
แถมคอยว่ากล่าวตักเตือนประจำ..ซึ่งวีดื้อท่านได้ซะทีไหน..เลยเหมือนมีคนมาคอยบังคับอยู่กลายๆ..ทำให้ตารางเราต้องหยุด
ตามเวลา...เพราะท่านจะไม่ยอมให้วีโหมงานเกินกำลัง...
เรื่องกินข้าวอีกเหมือนกัน..ท่านคอยกินกับเราทุกมื้อ..เพราะฉะนั้นวีจะไม่กินก็ไม่ได้เพราะท่านรออยู่...
มีเพียงบางครั้งซึ่งไม่บ่อยมากเท่าไหร หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องไปรับรองดูแลลูกค้าก็แยกกันกิน..มันเลยเหมือนบังคับให้เรา
ตรงเวลา...แต่พอท่านไม่อยู่..ท่านคงเดาเอาว่าวีต้องละเลยดูแลตัวเองแน่ๆ...ไอ้เราก็ทำจริงซะด้วยสิ..คืออย่างที่บอก...
มันติดพันลืมเวลาไปเลยก็มี...พอถึงตรงนี้เลยก้มหน้างุดหลบตาคมกริบของท่านที่จ้องเหมือนเราเป็นเด็กทำความผิดซะงั้น
ขนาดอายุปาเข้าไปเลขสี่แล้วนะนั่น...ยังไม่หยุดเขินสักทีเมื่อต้องเจอกับสายตาแบบนี้เลยจริงๆ
“
เอาหละ!...ต่อไปนี้หากไม่จำเป็นมาก..โยมไม่ต้องมาหาหลวงพี่ก็ได้นะ...ช่วงนี้เข้าพรรษาแล้ว...
หลวงพี่อยากปฏิบัติธรรมให้เคร่งครัด” พอท่านพูดมาวีก็เข้าใจนะ..แต่ก็งงนิดๆ..ทำไมมันเกี่ยวอะไรกับการปฏิบัติให้เคร่ง...
เลยถามให้หายสงสัย
“
เอ่อ...วีไม่เข้าใจค่ะ..หลวงพี่จะปฏิบัติศีลในกุฏิบำเพ็ญธรรมโดยไม่รับกิจนิมนต์หรือค่ะ...
ถึงมาพบไม่ได้” ถามไปแหละ
“
อ่ะแฮ่ม!..เปล่าหรอก...หลวงพี่ยังรับกิจนิมนต์ญาติโยมปกตินั่นแหละ..คือหลวงพี่
เจอหน้าโยมทุกครั้ง...พอทำวัตรเย็นเสร็จก็ต้องอาศัยหลวงตาท่านปลงอาบัติให้ตลอด....เลยคิดว่าช่วงเข้าพรรษา
ถ้าไม่เจอกันได้คงดี...จะได้ไม่ต้องปลงอาบัติ...หลวงตาท่านล้อหลวงพี่ทุกครั้งที่โยมมา...พอโยมกลับท่านมักเปรยว่า
เย็นนี้หลังทำวัตรเสร็จ..คงรับปลงอาบัติหลวงพี่อีกแล้วแน่ๆ” พอท่านเอ่ยมาแบบนี้ เล่นเอาวีหน้าร้อนแทบไหม้...
อย่าเข้าใจว่าพระกับวีกำลังคุยอะไรกันนะค่ะ..คือคนบวชพระถือศีล 227 ข้อ มีข้อบังคับมากมาย หนึ่งในนั้นคือมโนกรรม...
ความคิดก็เป็นอาบัติทางธรรมวินัย..ดังนั้นสิ่งที่ท่านพูดมา วีเข้าใจ..ความหมายทางตรงคือตัววี..เป็นเหตุทำให้ท่าน
มีมโนกรรมทางธรรมวินัย..ท่านเลยต้องปลงอาบัติทุกครั้งที่วีมาพบ..
“
วีเข้าใจแล้วค่ะ....เออ...ถึงกับต้องไม่เจอสามเดือนเลยเหรอค่ะ?” วียังอดย้ำถามท่านอีกครั้ง...
เพราะระหว่างเข้าพรรษา..ราวเดือนตุลามันครบรอบวันแต่งงานของเราทั้งคู่..ซึ่งทุกปีเราจะทำบุญเลี้ยงพระใส่บาตร
และฉลองแต่งงานกันสองคนประจำ...แต่ปีนี้มันอยู่ในช่วงพรรษา..ซึ่งหลวงพี่ท่านก็ยังไม่สึกเป็นบรรพชิต...คงไปทำ
แบบนั้นไม่ได้...แต่วีก็ตั้งใจไว้ว่าจะมาทำบุญเลี้ยงพระที่วัดกับท่านแทน...พอฟังท่านพูดแบบนี้เลยหดหู่ใจแป๋ว
ไปเลยทันทีเหมือนกัน
“หลวงพี่เข้าใจ...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก..เพียงแต่ถ้ามันจำเป็นโยมก็มา..ปีนี้หลวงพี่คงบอกให้โยม
อดทนมากๆ...ถือว่าเป็นการสร้างบารมีร่วมกันนะโยม..หลวงพี่เองก็ต้องอดทน...แต่เป็นพระมันพูดไม่ได้...โยมคงเข้าใจ..
อะไรที่เคยทำมา..ขอละเว้นปีหนึ่งแล้วกัน...เอาหละ...หลวงพี่ต้องไปปฏิบัติธรรมก่อน..ได้เวลาแล้ว...โยมจะกลับ
เลยหรือเปล่า?” ดูเวลาบ่ายสองโมง..ได้เวลาที่ท่านต้องไปฝึกวิปัสนากรรมฐาน เดินจงกลม...วีเลยถือโอกาส
กราบนมัสการลาท่านเลยแล้วกัน เพราะต้องขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯอีก....เป็นอันจบการพูดคุยกับหลวงพี่ท่านในครั้งนี้
ระหว่างที่พี่สาวทำหน้าที่ขับรถกลับ วีนั่งคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ วีกับหลวงพี่แต่งงานอยู่กินกันมา
ยี่สิบกว่าปี ไม่อยากเชื่อว่าจะผ่านมานานขนาดนี้ ย้อนไปคิดๆ ดูเหมือนเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง ท่านในตอนนี้
ยังไม่แก่เลยสักนิด..กลับดูสุขุมนุ่มลึกมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อนอีก...สังเกตุคำพูดความคิดของท่านดูเอาแล้วกัน
ใครจะเชื่อว่ากลสิทธิ์ในวันนั้น...จะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สมบูรณ์ได้อย่างทุกวันนี้..ที่สำคัญท่านยังคงรักมั่น
และห่วงใยวีไม่เสื่อมคลาย..นึกไปแล้วเผลอยิ้มมีความสุขเสียซะงั้น...ก่อนจะหวนนึกถึงวันครบรอบแต่งงานเราสองคน
ในปีแรก รู้สึกมีความสุขมากมาย
ครบรอบแต่งงานปีแรก...กลสิทธิ์ทำเซอร์ไพรส์วีอย่างมาก ถึงกับลงทุนจองเรือล่องเจ้าพระยา
โรงแรมดังระดับห้าดาวสำหรับดินเนอร์ตอนเย็น..ราคาไม่ต้องพูดถึง....ยอดชายควักกระเป๋าแบ่งเงินเดือนออกเกือบครึ่ง
สำหรับอาหารค่ำมื้อนี้เลยทีเดียว....เค้าจัดบรรยากาศดีมากมีเดี่ยวไวโอลินบนดาดฟ้าเรือด้วย..โรแมนติกสุดๆสำหรับคู่รักคู่เดท..
ที่มาทานดินเนอร์ล่องเรือในค่ำคืน...
เช้ามาเราพากันไปถวายภัตตาหารเพลเลี้ยงพระเก้ารูปที่วัดกันก่อน ถือโอกาสทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา...
ปล่อยกบอีกหนึ่งคู่...เพราะกบถือเป็นการเสริมด้านชีวิตคู่ชีวิตรักและครอบครัวให้มั่นคงราบรื่นและสุขสมหวัง...ต้องซื้อมาจาก
ตลาดสดให้แม่ค้าเค้าเลือกให้...จำไว้ด้วยว่าสัตว์ที่เราปล่อยต้องห้ามกินอีกเป็นอันขาด...กบเป็นสัตว์จำศีล..บารมีธรรมของ
สัตว์ชนิดนี้ดีนักแล...
แม้จะรู้ตัวก่อนว่าช่วงเย็นคงทานดินเนอร์นอกบ้าน แต่คิดแค่ว่าน่าจะเป็นร้านอาหารที่ไหนสักแห่ง
บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเองมากกว่า ที่จะเป็นเรือสำราญล่องเจ้าพระยาซึ่งกลพาวีมาทาน
รู้สึกตะหงิดตั้งกะตอนแรกที่กลบอกคอนเซ็ปให้วีแต่งตัวแล้วหละ...ทีแรกวีกะจะใส่กางเกงยีนส์แบบผู้หญิง
ขายาวทั่วไป กับเชิ๊ตแขนสั้นเข้ารูปสีหวาน คาดเข็มขัดบวกแต่งหน้านิดหน่อยคงโอเค แต่พ่อยอดชายดันเป็นคอสตูม
ให้เองเลยเสร็จสรรพ จัดชุดเดรสรัดรูปสีดำกระโปรงสั้น คอเว้าลึกให้วีเสียนี่...ส่วนตัวพ่อล่อสูตรสีน้ำตาลเข้มสวมทับเชิ๊ต
สีขาว กางเกงยีนส์ลีวายสีน้ำเงินรองเท้าหนัง..แต่งซะหล่อ
วีเลยต้องตามนั้น เป็นหญิงจ๋าเซ็กซี่ได้อีก...คือชุดนี้วีได้เป็นของฝากจากรุ่นพี่ที่ทำงานแกไปเที่ยวพักร้อน
ที่ฮ่องกงแล้วซื้อมาฝาก...ใส่ไปงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทฯ ครั้งเดียวไม่ใส่อีกเลย...เพราะใส่แล้วมีแต่คนมอง...คอมันเว้าลึก
จนเห็นเนินอกนิดๆ..แถมยังเป็นกระโปรงสั้นเลยเข่าอีก...แขนเป็นผ้าระบายลูกไม้โปร่งฉลุลายอวดผิวต้นแขนขาวผ่องยาวแค่
ครึ่งแขนสีดำล้วน..ทำให้ขับผิวขาวเหลืองของวีให้เนียนจนเด่นเลย
หลายคนบอกว่าวีสวมชุดนี้แล้วสวยเซ็กซี่มาก...แต่วีก็อายเกินจะกล้าอีก..เลยใส่แค่ครั้งเดียวเก็บไว้ในตู้
มาตลอด..วันนี้ยอดชายนึกไงรื้อออกมาให้วีใส่ไปดินเนอร์ฉลองครบรอบแต่งงานซะงั้น...สุดท้ายก็ต้องตามใจเค้าหละ...
เพื่อไม่ให้ดูหน้าเกลียดมากนัก...วีปล่อยผมซึ่งยาวเกือบกลางหลังดึงมาปกด้านหน้าไว้ด้วย ไม่อยากเปิดหน้าอกที่เว้าลึก
ให้ล่อแหลมมากเกินไป ปกติวีจะรวบผมมัดไว้ด้วยโบว์....วันนี้เลยปล่อยผมตรงเพื่อการนี้..มองตัวเองในกระจก..
ยังสวยได้อีกไม่อยากเชื่อ....อดภูมิใจตัวเองไม่น้อย..กลเองส่งยิ้มสายตากรุ่มกริ่มวิบวับ...พาเอาหน้าร้อนไปเหมือนกัน...
ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองนัก...ด้วยความสูง 170 บวกรูปร่างเอวบางร่างน้อย สูงเพรียว ผิวขาวหน้าตา
ออกหวาน..ไม่มีใครดูออกว่าวีคือสาวประเภทสอง...อาจเพราะกิริยาท่าทางของวีเรียบนิ่งไม่โดกเดกเกินงามด้วยมั้ง
เลยไม่สะดุดให้ใครดูพิรุธ....กลสิทธิ์ยกยิ้มหน้าบานที่เห็นสายตาตั้งแต่เด็กบริการ จนถึงลูกค้าบนเรือมองวีอย่างชื่นชม
ยอดชายยืดซะไม่มี มือไม่ยอมปล่อยมือวีจับเดินซะสวีท ก่อนพาไปนั่งโต๊ะที่จองไว้สองที่ริมราวระเบียงดาดฟ้าเรือ
เห็นวิวแม่น้ำพร้อมรับลมแม่น้ำเย็นสบายบรรยากาศดีมากๆ ในขณะที่ไวโอลีนก็บรรเลงเพลงคลอไปด้วย
พร้อมกับอาหารที่ยอดชายออร์เดอร์เตรียมไว้เสร็จสรรพ ทั้งกุ้งมังกร....ขาปูอลาสก้า...ไวน์แดง..ฯลฯ
หลังจากทานอาหารอย่างละเมียดละไม..พร้อมกับจิบไวท์ไปด้วยจนกรึ่มๆ คำพูดหวานหูที่เงียบไปสักพัก เพื่อให้เราได้ทาน
อาหารและดื่มด่ำบรรยากาศสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประดับไฟตามวัดสำคัญต่างๆริมแม่น้ำแลดูสวยงามอลังการ
กลสิทธิ์ก็เปิดบทสนทนาขึ้นมา
“
วีรู้ไหม?...กลเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้” วีเงยหน้ามองกล วางช้อนกับส้อม
หลังจากส่งอาหารคำสุดท้ายเข้าปาก ตามด้วยยกไวท์แดงขึ้นจิบเป็นแก้วที่สอง คิดว่าหน้าคงแดงเห่อไปแล้วหละ
กับไวท์ที่กิน วีรู้สึกหน้าตึงๆ ก่อนจะจ้องตอบตาคมวาววิบวับฉ่ำหวานที่มองสบมา แล้วถามขึ้นว่า
“
ทำไมกลถึงคิดงั้น” กลสิทธิ์อมยิ้มนิดๆ แบบอารมณ์ดีสุดๆ แล้วพูดตอบมาว่า
“ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกหรอก..ที่จะไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี เพราะได้เมียทั้งสวยทั้งเก่ง..ทั้งอ่อนหวาน
เข้มแข็ง..ฉลาด..น้ำใจงามมองโลกในแง่บวก..ที่สำคัญรักและให้เกียรติสามีหรอกครับวี” หึหึหึ!..อยากจะบอกว่าน้ำเน่า..
แต่มันกลับเป็นน้ำเน่าที่อิ่มหัวใจชะมัด...งานนี้นอกจากจะไม่รู้สึกอยากอ๊วกแล้ว ยังเรียกเลือดวิ่งขึ้นหน้าจนจะทะลุออกหัวแล้ว..
ไม่นับความร้อนตึงจากไวท์ที่กินไปก่อนหน้านี่อีกนะ
“กลชมวีมากไปเหอะ...วีใช่ดีปานนั้นสักหน่อย..แต่ก็ขอบคุณมากนะค่ะที่กลชม...วีเองอยากบอก
เหมือนกัน....วีคงเป็นเมียที่โชคดีมากที่สุดในโลกที่ได้รับสิ่งที่ดีจากสามีของตัวเอง ทั้งความรักและการดูแลเอาใจใส่
ด้วยดีเสมอตลอดมา...ขอบคุณมากค่ะ..นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้กลทำให้วีมีความสุขไม่เปลี่ยนแปลงหรือ
ลดน้อยถอยลงเลย..มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน...หากเป็นเช่นนี้ไม่เสื่อมคลาย...วีว่ามันคงเพิ่มตามอายุของเรา
ที่เพิ่มขึ้นทุกปีจริงไหม?” วีเลยถือโอกาสพูดแสดงความรู้สึกบอกกลไปด้วยเช่นกัน ไม่ลืมที่จะขอบคุณกลด้วย
ที่ทำให้เรามีวันนี้ เพราะความอดทนของกลและความจริงใจที่มีให้วี ไม่ต้องนึกถึงความรักที่แสดงออก
อย่างไม่เคยเบื่ออีก...ทำให้เราทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด ทั้งที่เป็นชีวิตคู่ที่เริ่มต้นไม่
ปกติธรรมดาเสียด้วยซ้ำ
“กลต่างหากต้องเป็นฝ่ายขอบคุณวี...นี่อะไรมาแย่งกลพูดเสียก่อน..แต่ช่างเหอะ...ขอบคุณวีมากครับ..
ขอบคุณจริงๆที่อยู่ข้างกันตลอด..ไม่ปล่อยมือกัน...ถ้าไม่มีวีในวันนี้...กลก็ไม่รู้เหมือนกันชีวิตกลจะเป็นได้อย่างทุกวันนี้หรือไม่...
ที่แน่ๆเชื่อว่าคงไม่สามารถใช้คำว่ากลเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกได้อย่างเต็มปากเหมือนที่พูดได้หรอก...
ขอบคุณอีกครั้งครับวี” คำพูดพร้อมกับสายตาที่ส่งประกายวิ้งๆ..หวานฉ่ำมาให้..หวาย..หวาย...ตายแล้วเล่นเอาวี
ต้องรีบยกไวท์ขึ้นจิบแก้เขิน ก่อนที่น้องบริกรจะตรงรี่เข้ามารินไวท์เติมให้ทั้งแก้วของกลและวี...เป็นการเบรคการหยอด
ที่กำลังจะตามมา..ให้หน้าวีได้พักหายใจหายคอ...ก่อนมันจะร้อนจนระเบิดเพราะคำพูดกลสิทธิ์จนได้
เป็นการฉลองครบรอบการแต่งงานที่หวานและเป็นความทรงจำที่สวยงามครบรอบหนึ่งปีที่วีไม่มีวันลืมอีก
เหตุการณ์หนึ่ง วีมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง ไม่รวมความสุขที่กลสิทธิ์มอบให้ฉันผัวเมียหลังจากกลับมาถึงคอนโดฯ
เล่นเอาวีสำลักความสุขจนเข่าอ่อนนอนยาวเกือบเที่ยงของอีกวัน โชคดีที่ตรงกับวันหยุดงานเพราะเป็นวันอาทิตย์
ประจวบเหมาะแบบนี้นี่แหละ กลสิทธิ์เลยจัดหนัก หากวีไม่ขออุธรณ์บอกว่าไม่ไหวแล้ว คงได้หลับนอนกันหรอก..
ไม่รู้ว่ายอดชายเค้าดื่มไวท์หรือยาโดป...แรงดีไม่มีตก..แถมมีความต้องการอย่างไม่ลดละเลิกอีกตะหาก...
ยังกะเข้าหอกันใหม่ๆ ซะงั้น...ช่างเข้ากันจริงครบรอบแต่งงานหนึ่งปี พี่ท่านเล่นฉลองไม่นึกถึงสังขารวีเลยสักนิด..
ล่อทั้งหน้าหลังบนล่าง..ครบหมดทุกทางที่พี่แกจะลุยได้...
ยี่ห้อนี้มีคนเดียว....
หายากนะนั่น...ยี่ห้อกลสิทธิ์..ของเค้าดีจริง...
อ่านให้หายคิดถึงกัน ถือว่าวีมาทักทายแล้วนะค่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมทักทายพูดคุยกันบ้างนะค่ะ..สำหรับหลายท่าน
ที่ PM เข้ามาถามไถ่ข่าวคราวของวีกับหลวงพี่ หวังว่าคงหายคิดถึงกันแล้วนะค่ะ
วีสบายดีค่ะ..มีเวลาก็แว่บเข้ามาอ่านโพสอิทของทุกรีไพส์..ขอบคุณความรักความคิดถึงที่มอบให้กันไม่เสื่อมคลาย..
วีเองก็คิดถึงผู้อ่านและ fc ทุกคนเช่นกัน
ส่วนเรื่องหนังสือ รอกันอีกนิดนะค่ะ ตอนนี้ทางคุณหนึ่งโมฯ Poes
กำลังเร่งดำเนินการอยู่ค่ะ คาดว่าคงเร็วๆ นี้น่าจะตอบเมลล์ให้
คนที่ลงชื่อแจ้งเมลล์ไว้กับคุณหนึ่งแน่นอนค่ะ ที่คุณหนึ่งยังไม่ตอบกลับ
ไม่ใช่ว่ายังไม่ได้รับเมลล์นะค่ะ แต่เห็นว่ารอให้เปิดจองโอนเงินก่อนคงแจ้งค่ะ
แต่ยืนยันได้รับเมลล์ของทุกท่านที่แจ้งชื่อไว้แล้วค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ไปแจ้งก็ติดตามกันเองนะค่ะ
ถือว่าเป็นการร่วมทำบุญกันค่ะ งานนี้ยืนยันค่ะวียกให้เล้าฯทำทุกขั้นตอนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับรายได้ค่าใช้จ่าย
เหลือเท่าไหร่ให้เล้าฯ ส่งตัวแทนไปทำบุญถวายกับหลวงพี่ที่วัดโดยตรงเลยค่ะ ขออนุโมทนาบุญ
สาธุกับทุกท่านมา ณ ที่นี้อีกครั้งนะค่ะ กับการสั่งซื้อหนังสือ....กุศลที่ร่วมกันทำคงส่งผลให้ผู้อ่านทุกท่าน
ประสพสิ่งเสมอใจ ขอให้ได้พบดวงแก้ว ให้แคล้วหมู่มาร ให้ได้พบพระนิพพานกันทุกคนเช่นกันนะค่ะ....
รักและคิดถึงเสมอ
ปราณวี.
ปล. ตอนพิเศษนอกรอบไม่มีในหนังสือนะค่ะ....ในหนังสือมีตอนพิเศษที่จัดไว้ให้แล้วตะหากค่ะ