@@โดยLuk{เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดยLuk{เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้}  (อ่าน 808208 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เง้อ ตอนหน้าต้องเสียน้ำตาแล้วเหรอ
แม่ พี่วีรับไม่ได้แน่เลยอ่ะ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
โอเคคะคุณLuk ทิชชู่อยู่หนายยยยย  :o12:

ployyunho

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตชนบทน่าอยู่มาก ถึงจะไม่มีความเจริญแต่เราก็อยู่กันได้แบบพอมีพอกิน
ใช้ชีวิดสมถะไม่เก่งแย่งชิงดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แถมปลอดภัยไร้มลพิษอีกด้วย
พูดแล้วก็อยากกลับบ้าน แต่อยากให้บ้านมีอินเตอร์เน็ตนะ ได้ป่ะ :m12:
แล้วตอนหน้าจะมาม่าอีกแล้วหรอค่ะ แต่เอาน้ำใสเถอะ อย่าน้ำข้นเลย เกินจะรับแล้ว
ถ้าแม่เข้าใจก็คงดี แต่พี่น้องพี่วีนี่สิ คงยากหน่อย อาจต้องใช้เวลา

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
ซับน้ำตาอีกแล้วเหรอค่ะ ขอซับด้วยความยินดีได้ไหม

เป็นกำลังใจให้หลวงพี่กล กับ พี่วีจ้า

 :pig4: คุณ Luk

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
ก้อพอเข้าจัยนะคร๊ ว่าเรื่องแบบนี้ มันรับไม่ค่อยได้ แต่ทัมไงได้เนอะ คนเราร๊าก กัน ความรักชนะทุกสิ่ง สู้ๆๆ
o13

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เห็นใจจริงๆ  รักต้องห้ามแบบนี้  ได้แต่หวังในความรักที่คนในครอบครัวมีให้ระหว่างกัน  จะทำำให้ฟันฝ่าไปได้

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

 :sad11:
ล่วงหน้าเลยแล้วกัน

แผ่นดินนี้ มีแผ่นผืน ให้ยืนไหม
จ่ายเท่าไร ใจถึงพอ ไม่ร้องขอ
ผิดมากไหม ถึงเห็นแปลก แยกแตกคอ
คนเหมือนกัน ว่าบ้าบอ ทดท้อใจ

ประเพณี กั้นกีดก่อ จำกัดอยู่
ถ่ายทอดสู่ บรรทัดฐาน ประจานไข
คนรักกัน จำกัดเพศ หรืออย่างไร
อย่าติดกับ ที่วางไว้ ในสังคม

สัญชาติญาน ขานบอก ในหมู่สัตว์
เมื่อถึงวัย ที่บ่งชัด ให้สู่สม
ตัวเพศผู้ เห็นตัวเมีย วิ่งเข้าชม
แล้วระดม ผสมเชื้อ เพื่อสืบพันธุ์

แต่มนุษย์ ใจสูง กว่าฝูงสัตว์
ความรักมัด จัดใจ ให้แข็งขัน
ไม่จำเป็น จำกัดเพศ ให้รักกัน
ไม่ได้มุ่ง จ้องสืบพันธุ์ เท่านั้นพอ



 :L2: ขอบคุณครับ Luk

 :3123: วี+กล ฟันฝ่าไปให้ได้

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
คิดว่าแม่พี่วีคนนึงละ
ที่ต้องฟังและยอมรับสิ่งที่ลูกตัวเองเลือกแล้วได้ค่ะ

ออฟไลน์ Me_kame_nishi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 917
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
ขอภาวนาให้เป็นน้ำตาเเห่งความรักและความเข้าใจนะค่ะ.... เพี้ยง :call:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
เฮ้อ น้อง Luk บอกงี้ พี่ไม่กล้าอ่านอ่ะ  :m15: :monkeysad:
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part  42
คำสารภาพ..
.
.
.
.
.
          “วี!...วี!...”  เสียงพี่ชายผมร้องเรียกอยู่ใต้ถุนบ้าน ผมกำลังล้างคอกหมูอยู่
          

          “คับ!..ล้างขี้หมูอยู่หลังบ้าน..อ้าย” ผมตะโกนบอกแกไป
          

          “ยะอะหยัง...วางมือก่อน...ขะใจ๋มาหาอ้ายจิ่ม” (ทำอะไร..หยุดมือไว้ก่อน รีบมาหาพี่เร็วๆ)

แปลกจริงนี่เพิ่งสามโมงกว่า..ยังไม่ห้าโมง ทำไมพี่วันถึงกลับบ้านก่อน แล้วน้ำเสียงร้อนรนนั่นอีก

จะรีบอะไรนักหนา..เร่งผมจัง แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้พี่ผมรอนาน ล้างมือล้างไม้เสร็จก็รีบเดินลัดสวน

ออกมาหาแก..

     พอมาถึง เห็นแม่นั่งอยู่กับพี่วัน พี่เค้าเหงื่อไหลท่วมตัว แถมหน้าซีดเจื่อนอีกต่างหาก

ชักหวิวๆ ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุเลยผม หวังว่าคงไม่มีเรื่องไรนะ


              “มีหยังอ้าย...เร่งผมขะนาด?..” (มีอะไรพี่ เร่งผมจัง)  ผมถามพี่ชายไปทันทีที่เดินเข้ามาถึง


             “วี...ใจเย็นเน้อ...กลมันตกนั่งฮ้าน...บ่าเดี่ยวนี่...ยังบ่ฟื้นเลย อยู่ไอซียู..โฮงบาล

โอเวอร์บรุ๊คปู้นแหน่ะ” (วี..ใจเย็นนะ...กลมันตกนั่งร้าน..ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย อยู่ห้องไอซียู..

โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คโน้นแหนะ)  พอฟังพี่วันพูดจบ สมองผมมึนตึ๊บใจลอยจิตตกไปถึงไหนแล้วไม่รู้  

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ ตกใจจนช๊อคไปเลย มารู้สึกตัวมีสติกลับมาอีกครั้ง

เมื่อแม่เอาน้ำเย็นมาลูบหน้าลูบหัวให้จนเหมือนลูกหมาตกน้ำเลยผม....  


          “วี!..วี!..ลูกแม่...ขวัญเอ้ยขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตั๋ว...ฮู้สึกตัวแล้วก่าลูก...บ่ดียะฮื้อแม่ตกอกตกใจ๋

จะอี้...ป่ะ!..ไปโฮงบาลกันบ่าเดี่ยวนี่”  (วี..วี..ลูกแม่...ขวัญเอยขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัว...รู้สึกตัวแล้วหรือ

ลูก..อย่าทำให้แม่ตกอกตกใจแบบนี้...ป่ะ!..ไปโรงบาลกันเดี๋ยวนี้เลย)   ผมถูกจูงให้เดินขึ้นไปนั่งหน้ารถ

ปิคอัพพร้อมกับแม่ พี่วันทำหน้าที่ขับ รถทำงานพวกพี่ผมนั่นแหละ  

ดิ่งฮ้อพาผมกับแม่ไปโรงบาลกันทันที    


     ขณะนั่งอยู่ในรถ...ผมภาวนาไปตลอดทาง ‘กล..มึงอย่าเป็นอะไรไปนะ...มึงอย่าทำให้กูเสียใจนะ

กล...อย่าเป็นอะไรเด็ดขาด...คุณพระคุณเจ้า..สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย กรรมใดในชาตินี้และชาติไหน  

หากทำให้กลสิทธิ์ ประสพพบแต่เหตุให้เลือดตกยางออก ขอให้แบ่งบุญของลูกไปเกื้อหนุนให้

กลมันด้วย อย่าให้ถึงกับต้องร้ายแรงเลยนะครับ ลูกกราบวิงวอนต่อท่านแล้ว  

จะลดทอนอายุขัยของลูกเพื่อต่ออายุขัยให้กลมันพ้นผ่านความเลวร้ายเหล่านี้

ลูกยินดีและเต็มใจยิ่ง...สาธุ’  

              
               ผมภาวนาอ้อนวอนไปตลอดทาง ใจไปอยู่ที่โรงบาลแล้วตอนนี้หากเหาะไปได้

ผมคงเหาะไปทันที ไม่ต้องกระวนกระวายอยากให้ถึงไวไวแบบนี้หรอก  
          
             ใช้เวลาร่วมเกือบชั่วโมง พี่วันพาผมกับแม่มาถึงโรงบาล ผมวิ่งพรวดเข้าไปทันที

ไม่รอแม้กระทั่งแม่ผมด้วยซ้ำ คิดว่าไงเดี๋ยวพี่วัน คงพาท่านตามมาเอง สอบถามเคาเตอร์พยาบาลแล้ว  

ตรงไปห้อง I.C.U. แทบล้มขะมำหัวทิ่มหกคะเมนตีลังกา เพราะลุกลี้ลุกลนจัด ชีวิตผมไม่เคยขลุกขลัก

ร้อนรนเท่านี้มาก่อน  

            
           ไปถึงหน้าห้องพี่ไวพี่วิน และคนงานสองสามคน ยืนบ้างนั่งบ้างรอกันอยู่เต็มหน้าห้อง

ผมถลาเข้าไปที่ประตูกระจก...พยายามจะกระชากประตูเปิดออกให้ได้ อยากเห็นหน้ากลมัน

มากที่สุดเลยตอนนี้ ผมไม่ต้องการอะไร..อยากเห็นมัน..อยากเจอมัน....
        

             “กล...กล...กูมาหามึงแล้ว...เปิดประตู..เปิดประตู..ขอร้องเปิดประตูให้ผมที...

เปิดประตูให้ผมเข้าไป”    มือทั้งทุบทั้งกระแทก  ต้องการให้ประตูเปิด  

ชั่วโมงนั้น  จิตหลุดไปแล้ว กวีที่เคยมีสติควบคุมได้ทุกสถานการณ์

วินาทีความเป็นความตายของกลสิทธิ์ ผมไม่สามารถควบคุมตนเองไว้ได้

            
           พี่ไวกับพี่วิน พุ่งเข้ามารวบจับผมไว้ทั้งสองคน ก่อนจะช่วยกันทั้งรัดทั้งลากผม

ออกจากตรงนั้น  


          “วี!..วี!....ใจเย็นน๋อง..บ่าดียะจะอี้..วี..ได้ยินอ้ายก๋อ...วี..วี..ฟังอ้าย..ใจเย็นน๋อง..

คุมสติฮื้อดี...วี..วี”  (วี!..วี!...ใจเย็นน้อง...อย่าทำอย่างนี้...วี..ได้ยินพี่ไหม...วี..วี..ฟังพี่นะ..

ใจเย็นน้อง...คุมสติให้ดี..วี!..วี!..)  ทั้งพี่ไว..พี่วิน..พากันลากผมออกห่างจากประตูกระจก

ช่วยกันเรียกช่วยกันพูดให้ผมสงบ จนแม่มาถึงถลั่นเข้ามากอดลูบหน้าลูบหลังผมเอาไว้แน่น

เพื่อให้ผมใจเย็นขึ้น  


          เชื่อไหม?...ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้  ผมไม่ได้ร้องไห้ อาการเหมือนคนคลั่งจิตหลุด...

ห่วงกังวล..วิตกกลัวไปหมด..ไม่ได้ร้องไห้มีน้ำตาไรเลย พยายามจะขืนการล๊อคของพี่ๆ  

เพื่อเข้าไปหากลมันให้ได้  

    แต่พอแม่มาถึงกอดผมไว้แน่น  มือลูบหน้าลูบหัวผม  อ้อมกอดอันอบอุ่น  

สัมผัสอ่อนโยนที่ไหลบ่าเข้าท่วมท้นจิตใจผม ยังไม่ทันพูดไรกับผมสักคำ ตัวผมกับอ่อนแรงยวบ

เข่าทรุดนั่งกับพื้นซุกเข้าหาอ้อมอกแม่ทันที น้ำตาทะลักทะลายไหลเป็นสาย  

สะอึกสะอื้นคร่ำครวญออกมาต่อหน้าทุกคน  


     ทั้งพี่ไว  พี่วิน  พี่วัน  และคนงานอีกสองสามคน ต่างมองผมทรุดกองกับพื้น

ซบอกแม่ที่นั่งประคองกอดผมไว้แน่น...(ตอนนี้ขออนุญาตใช้ภาษากลางเลยนะค่ะ!...

ช่วงพี่วีจิตหลุด..พูดเพ้อออกมาทั้งน้ำตา..ความจริงพี่วีพูดภาษาถิ่น)


             “ฮือ!..ฮือๆๆๆ!!...แม่ครับ...แม่จ๋า...แม่ช่วยกลด้วย...กลมันน่าสงสาร...วีทนเห็นมันเป็นอะไร

ไม่ได้แล้วครับแม่....แม่จ๋า...วีกำลังจะพาลูกเค้ามาเจ็บ..วีผิดครับแม่...วีไม่ดี..วีดันทุรังพากลมาเจ็บหนัก...

หากกลเป็นอะไรไปวีจะทำยังไง...แม่จ๋า..วีกราบแล้วนะครับ...ช่วยกลมันด้วย....ถ้ามันเป็นอะไรไป..

วีจะกลับไปบอกพ่อกับแม่กลมันยังไง...ฮือๆๆๆ!!!.....”  


            “วี..ใจเย็นๆ..ไว้นะลูก..กลไม่เป็นไร...เชื่อแม่..กลไม่เป็นไรเด็ดขาด..วีต้องใจเย็นก่อนลูก...

วีร้องแม่ก็ปวดใจ...พลอยจะร้องไปกับลูกด้วย...กลต้องไม่เป็นไร..เชื่อแม่นะลูก..อึก..อึก..อือๆ”

แม่คงทนเห็นสภาพผมที่หมดอาลัยตายอยาก อ่อนปวกเปียกในอ้อมอกท่านไม่ได้

น้ำตาไหลสะอื้นตามผมไปอีกคน เราสองแม่ลูกกอดกันกลม ผมน้ำตาไหลพรากๆ  

ไม่เคยคิดว่าตนเองจะหลุดโลกสติแตกได้ขนาดนี้ พี่ๆผมและคนที่อยู่ตรงนี้  

ต่างสลดหดหู่กับอาการของผม  


      มีแต่คนพยายามพูดปลอบผม แต่ไม่มีใครกล้ายืนยันกับผมสักคนว่ากลมันไม่ได้เจ็บหนัก  

มันไม่ได้อาการสาหัส คนตกจากนั่งร้าน มันจะไม่หนักได้อย่างไร หากไม่หนักหนาแล้วทำไมถึงสลบ

ไม่ฟื้น แล้วจนปานนี้อยู่ในห้อง I.C.U.  ยังไม่ออกมาเลย ผมร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับอกแม่ไม่มีหยุด  


         “แม่ครับ...แม่จ๋า...แม่ช่วยกลด้วยนะครับ...วีกราบแล้วน้า..กราบวิงวอนให้แม่ช่วยกลด้วย...สาธุ..

สาธุ..แม่ช่วยกลน้าแม่น้า....แม่ของวีเป็นแม่พระ...แม่มีพรวิเศษ..แม่ต้องช่วยกลได้...วีคงตายแน่ๆ

หากกลเป็นอะไรไป...วีไม่ดีเอง..ถ้าจะต้องมีคนไป..ขอเป็นวีไปแทนนะครับแม่...นะ.แม่น้า....

วีเองที่เป็นคนผิด...วีพากลมาเจ็บ..วีทำให้พ่อกลตัดพ่อตัดลูก..วีทำให้แม่กลเสียใจ...

แล้วยังพากลมาเจ็บอีก..ไม่รู้เป็นตายอย่างไร....แม่จ๋า..สงสารเราเถอะน้าแม่...หากกลเป็นอะไรไปจริงๆ.

..วีจะกลับไปเจอหน้าพ่อแม่กลมันยังไง...วีไม่ดีเอง...ฮือๆๆๆๆ..อึก..อึก..เอาวีไปแทนได้ไหม...

ให้วีเจ็บแทนกล...ให้วีตายแทนเถอะนะแม่น้า...”  

                 ผมทั้งร้อง..ทั้งกราบ  น้ำมูกน้ำตาไหลเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเต็มหน้า

คำพูดที่ออกจากปาก ล้วนมาจากความวิตกกังวลที่มีทั้งสิ้น ตอนนี้ผมมองไม่เห็นใครอีกแล้ว

นอกจากแม่ของผม ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ผมคิดว่าแม่คนเดียวเท่านั้นจะช่วยกลมันได้...


         แม่ผมน้ำตานองหน้า ฟังผมพูดแกอดร้องไปกับผมด้วยไม่ได้ ผมคิดว่าแกคงสับสนและไม่แน่ใจ  

ว่าทำไมผมถึงอาการหนักขนาดนี้ พี่ๆ ผมก็เหมือนกัน ต่างอึ้งไปตามๆ กันที่เห็นสภาพผมฟูมฟาย

ไม่เป็นผู้เป็นคน ก่อนแม่จะหันไปสั่งพี่ไว ว่า..


           “ไว...ไปจัดการหาข้าวตอกดอกไม้ แปงสตวงใส่ขันข้าวหื้อครบเน้อ...แล้วมาปาแม่ไป

ตี่กลมันตก...แม่จะเอาสายสิญจ์ไปฮ้องเอาเข้าเอาขวัญมันกลับมา...ขะใจ๋ไปบ่าเดี่ยวนี่

บ่ดีจ้า...โวยๆ ต้วย”  (ไว..ไปจัดการหาข้าวตอกดอกไม้ ทำสตวงใส่ขันข้าวให้ครบด้วย

แล้วมาพาแม่ไปตรงที่กลมันตกนั่งร้าน..แม่จะเอาสายสิญจ์ไปเรียกเอาขวัญมันกลับมา...

รีบไปเดี๋ยวนี้....เร็วๆด้วย)  พี่ไวพยักหน้ารับ ก่อนจะกึ่งวิ่งออกไปพร้อมกับคนงานอีกสองคน

ไปจัดการเตรียมของตามที่แม่สั่ง  


          ผมซุกหน้าซบอกแม่แขนตกนั่งเหยียดขายาว น้ำตาไหลพรากๆไม่มีหยุด

ตาเอาแต่จ้องแต่ประตูห้อง I.C.U.....หมดแรงหมดพลัง หมดอาลัยตายอยาก....

เหมือนจะขาดใจเสียให้ได้

         จู่ๆ...ผมขนลุกซู่ขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย...สัมผัสลมเย็น...เย็นเจี๊ยบ..เย็นมาก..

เย็นจับขั้วหัวใจ...วูบเข้าปะทะเต็มหน้าอย่างแรง..ถึงกับสะท้านหนาวยะเยือกไปทั้งตัวเลยทีเดียว....

ก่อนประตูห้อง I.C.U.  จะถูกเปิดออกมา โดยมีหมอกับพยาบาลเดินตามกันออกมาสองคน

ถามขึ้นว่า...


          “ใครเป็นญาติคนไข้ครับ”  เสียงของหมอ เหมือนเสียงสวรรค์ เรียกสติผมกลับคืนมาทันที

ลุกพุ่งพรวดเข้าไปถึงตัวหมอก่อนใครเพื่อน ก่อนคนอื่นๆ จะเดินเข้ามาสมทบออกันทีหลัง


          “อึก..อึก...ผมครับ..ผมเอง..ผมเป็นญาติคนไข้...หมอครับ..กลไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

ผมรีบถามย้ำ..พร้อมกลั้นเสียงสะอื้นไว้สุดกำลัง  


          “คนไข้อาการตามร่างกายทั่วไป หมอตรวจละเอียดแล้ว กระดูกไม่หัก ไม่มีไรน่าเป็นห่วง  

นอกจากรอยถลอกฟกช้ำตามตัว แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุด...คืออาการทางสมอง...เราไม่เข้าใจเหมือนกัน  

สมองคนไข้ไม่รับรู้ไรเลย...คนไข้สลบนะครับ...ความจริงแล้วควรจะฟื้นแล้วด้วยซ้ำ...ไม่รู้ทำไมคนไข้

ไม่รู้สึกตัว..ตรงนี้แหละครับ..ที่หมอกังวลและกำลังหาทางแก้ไขกันอยู่...เรายังไม่กล้าวินิจฉัยว่าเป็นอะไร...

ต้องรอผลเอ็กซ์เรย์ทางสมองอีกสองชั่วโมง..ว่าได้รับความกระทบกระเทือนไรมากหรือเปล่า

คนไข้ถึงไม่รู้สึกตัว...ถึงตอนนั้นหมอจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง..ตอนนี้คนไข้ต้องแอดมิด..

ญาติสะดวกห้องธรรมดาหรือห้องพิเศษ ติดต่อกับพยาบาลได้เลยนะครับ  

   หมอขอตัวก่อน..คนป่วยเข้าห้องพักฟื้นแล้วสามารถเยี่ยมได้นะครับ”  พูดจบ หมอก็เดินจากไป  




พี่วินรีบดำเนินการจัดการเรื่องห้องพักให้กลมันทันที พี่ผมจัดห้องพิเศษให้  

เพราะญาติสามารถนอนเฝ้าไข้ได้ สะดวกทุกอย่างถึงจะราคาแพงมากก็ตาม

แต่พี่วินพูดว่างานนี่พวกพี่รับผิดชอบเอง ต้องไปเรียกค่ารักษากับเจ้าของบ้านให้รับผิดชอบด้วย  

เพราะเป็นคนจัดหานั่งร้านมาให้...  


             พวกพี่เค้าจะจัดการกันเอง เจ้าของบ้านไม่ยอมหาว่าแพงไป เค้ามีคนรู้จักทำนั่งร้านอยู่แล้ว  

จึงรับอาสาเป็นคนไปหามา ปรากฎว่านั่งร้านมีปัญหา โครงเหล็กหลุด

จังหวะกลมันขึ้นไปบนนั้นกับผู้ช่วยอีกคน เพื่อเดินสายไฟหลังคา สูงกว่าห้าเมตร  

โชคดีอีกคนคว้าจับเสาไว้ได้ทัน แต่กลมันไม่มีที่ยึด หล่นลงมาบนกองทรายที่สั่งมาไว้ใช้ผสมปูน

โชคมันยังดีที่ตกบนกองทราย หากลงบนดินล้วนๆ  ไม่รู้แขนขาจะหักพิกลพิการหรือเปล่า

แต่ถึงกระนั้นอาการก็สาหัส มันสลบคาที่..ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย



      พี่ไวกลับมาพร้อมของที่แม่สั่ง ห้องพิเศษว่างหกโมงถึงได้ห้อง ตอนนี้กลยังนอนห้องI.C.U.

อยู่รอห้องพิเศษ ถึงย้ายออก แม่เตรียมไปกับพี่ไว..พาผมไปด้วย ที่แรกผมไม่อยากมา อยากจะอยู่

รอกลมันฟื้น แต่ไม่รู้แม่มีเหตุผลอะไร บอกผมว่า..หากผมไม่มาแม่ไม่แน่ใจว่า  

พิธีเรียกเอาขวัญกลครั้งนี้จะสำเร็จหรือเปล่า เพราะที่นี่ผมสนิทและคุ้นเคยกับกลมันที่สุด  

ต้องเป็นผมเท่านั้นที่ต้องไปเรียกมันกลับด้วยตัวเอง  


        เพราะพิธีเรียกเอาขวัญ ภาษากลางเรียกว่าดวงจิต ของคนที่ได้รับอุบัติเหตุไม่ยอมฟื้น

เป็นพิธีกรรมลานนาที่สืบทอดกันมานมนานแล้ว หากใครประสพอุบัติเหตุ สลบคาที่แล้วเจ้าของร่าง

ไม่ยอมฟื้น เค้าเชื่อว่าดวงจิตของคนนั้นตกหล่นอยู่ ณ ที่นั่น..หาทางกลับเข้าร่างไม่ถูก  

ซึ่งต้องทำพิธีเรียกขวัญกลับคืนร่าง...


             ผมกับแม่ พี่ไวพี่วันสี่คนพากันมาที่บ้านหลังที่กลตกนั่งร้าน ให้พี่วินอยู่จัดการที่โรงบาล

มาถึงเป็นบ้านสร้างเพิ่งเสร็จ..ฝีมือพวกพี่ๆ ผมเอง  ลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้น  

คำนวนจากหลังคาถึงพื้นสูงกว่าสิบเมตร แต่นั่งร้านที่แผ่นเหล็กห้อยต่องแต่งให้เห็นอยู่ตอนนี้  

สูงห้าเมตรกว่า เป็นจุดที่กลตกลงมา เพราะมันขึ้นไปเดินสายไฟ

             บริเวณที่มันตกเป็นกองทรายประมาณเกือบสามคิว หนาพอสมควรมีรอยร่างคน

ชัดเจนให้เห็น โชคดีที่กลมันเอาก้นลงก่อนหัวตามที่หลัง ผมไม่แน่ใจว่าหากเป็นหลังหรือหัวลงก่อน

มันอาจพิการหรือตายคาที่เลยก็ได้....


          แม่ก็ทำพิธี นำสตวงของเซ่นไหว้วางตรงกองทราย จุดธูปห้าดอกบอกล่าวเจ้าที่ผีบ้านผีเรือน  

ก่อนกล่าวคำเชิญดวงจิตของกลมัน ผมก็นั่งพนมมือน้ำตาคลออยู่ด้วยตรงนั้น แม่เดินเอาสายสิญจ์

ไปร้อยตรงรอยที่กลมันตก แล้วทำเป็นเงื้อนมัดก่อนจะส่งหางสายสิญจ์ยื่นมาให้ผมจับ  

พร้อมกับบอกผมว่า...


              “วี..ลูกอยากให้กลมันกลับไปพร้อมกับลูก ลูกต้องเรียกกลมันเอง พูดยังไงก็ได้

ตั้งจิตให้มั่น เรียกกลให้กลับไปพร้อมกับลูก ให้เกาะปลายสายสิญจ์อีกข้างตามลูกกลับไปเข้าร่าง

เอาหละ..แม่กับพี่ๆ จะยืนห่างไปเจ็ดก้าว รอลูกอยู่ตรงนั้น ลูกพูดกับกลได้เลย

คุยอะไรก็ได้ที่คิดว่าจะพาเอาดวงจิตกลกลับไปได้”  ผมจ้องแม่น้ำตาคลอ ฟังแม่บอกผมว่าต้องทำยังไง  

สมองถึงจะเบลอๆ แต่ผมรู้แม่ต้องการให้ผมทำอะไร  

    พูดจบแม่กับพี่ๆ  ก็พากันเดินไปยืนห่างเจ็ดก้าว ตามที่บอกผมไว้ ผมตั้งจิตพนมมือ

ท่องนโมสามจบ เสร็จแล้วก็เพ่งมองตรงที่รอยมันตก ซึ่งปลายสายสิญจ์ที่แม่ผูกเงื้อนปมมัดไว้

วางอยู่ตรงนั้น อีกข้างผมนั่งคุกเข่าจับไว้อยู่ ตั้งจิตอธิฐานอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยาฟ้าดิน

เจ้าที่เจ้าทาง มาอำนวยพรเปิดทางให้ดวงจิตของกลมัน สามารถสดับรับฟังสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้

ให้มันได้รับรู้ให้ได้ยิน..ถ้อยคำจากปากของผม เพื่อจะได้เข้าใจความรู้สึกของผม....

              แล้วผมก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้นสั่นพร่า น้ำตาอาบแก้มไหลทะลักอีกครั้ง

เพราะมันแน่นจุกอกไปหมด  ช้าๆ ว่า...


               “กล....ได้ยินกูใช่ไหม...มึงฟังกูนะ...กูวี...กวี...สิงห์สุริยะ...เมียมึงไง...

มึงเคยบอกกูไว้ใช่ไหมว่า...มึงจะไม่ทิ้งกู...เราสองคนจะจับมือกัน...ไม่ยอมทิ้งกันเป็นอันขาด....

มึงรู้ไหม...มึงกำลังทำให้กูร้องไห้...ชีวิตกูตั้งแต่รู้จักกับมึงมาสองปีกว่านี้...

กูยังไม่เคยร้องไห้ได้มากมายขนาดนี้มาก่อน.....ครั้งนี้มึงแกล้งกูใช่ไหม...ขอร้องหละนะ...

มึงอย่าทำแบบนี้เลย....กลับไปกับกู...ไปเข้าร่างมึงที่นอนรอดวงจิตมึงอยู่  

มึงจะทิ้งให้กูเป็นม่ายทั้งที่เรายังไม่ได้แต่งงานกันหรือกล....กล...กูขอร้องหละนะ....

กูรู้ว่ากูไม่ดีเอง..ไม่เคยพูดความรู้สึกที่แท้จริงให้มึงได้ฟัง....ทั้งที่มึงรอฟังจากปากกูมาตลอด....

ตอนนี้กูพร้อมจะบอกมึงแล้ว...มึงต้องตื่นมาฟังด้วยตัวเองรู้ไหม....

กูอยากบอกมึงว่า...กูรักมึง....กล....มึงได้ยินกูพูดไหม...กูรักมึง....

               มึงต้องกลับไปเข้าร่าง...แล้วฟื้นขึ้นมาฟังจากปากกูเอง...อย่าทิ้งกูไปเป็นอันขาด....

เข้าใจไหม..มึงสัญญาแล้วนี่...ว่าจะอยู่กับกู..เราจะไม่ทิ้งกัน...กูมาพามึงกลับแล้วนะ...

ได้ยินกูแล้วใช่ไหม..มึงจับสายสิญจ์ข้างนั้นเอาไว้นะ..จับไว้ให้แน่น...กูก็จะจับสายสิญจ์นี่ไว้เช่นกัน...

กูจะไม่ปล่อยมือมึง...เราใช้สายสิญจ์นี่แทนการสัมผัสนะกลนะ...ให้มึงรู้ว่ากูมาจูงมือมึงกลับแล้วกล.

...มึงห้ามทิ้งกูไปเป็นอันขาด...จับไว้นะ...ขอร้องหละกลับไปพร้อมกับกู...ไปเข้าร่างมึง...

ฟื้นขึ้นมาฟังกูบอกรักมึงไง....อยากได้ยินไม่ใช่หรือ....ตอนนี้กูรู้แล้ว....กูรักมึง...

ไปนะกล..ไปด้วยกัน...อย่าแกล้งกู...อย่าทำอย่างนี้....ฮืออออๆๆๆๆ!!!..”  ผมร้องไห้ฟุบลงกองทราย  

           มือจับสายสิญจ์ไว้แน่น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลทะลักลงกองทราย

พี่ไวกับพี่วันรีบเข้ามาพยุงหิ้วปีกผมลุกขึ้น  พากลับขึ้นรถ  ในขณะที่แม่จับสายสิญจ์อีกข้าง

พร้อมกอดผมไว้ลูบหัวผมไปมาเบาๆ  ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า..แม่และพี่ๆ

ได้ยินในสิ่งที่ผมพูดหรือไม่ เพราะผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ใจผมแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ

ไม่สนอีกแล้วว่าใครจะคิดยังไง ผมคิดอย่างเดียวหากกลมันเป็นอะไรไป...

ผมจะรับความรู้สึกสูญเสียมันไปไหวไหม แค่นี้ผมยังแทบขาดใจอยู่แล้ว  

ถ้ามันตายไปจริงๆ ผมคิดว่า..ผมคงอยู่แบบไร้วิญญาณที่มีแต่ร่างแต่ไม่มีหัวใจอีกต่อไป...???





ไม่มีคำบรรยาย   คนพิมพ์ก็ร้องไห้ตามอีกเหมือนกัน... :monkeysad:

Luk.
   
          
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2011 20:18:42 โดย luxilove »

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
 :m15: :monkeysad:
เฮ้อ คำสารภาพรักที่รอคอยยยยยยยยยยยยยยย
 :monkeysad:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :monkeysad:ร้องไห้รอออออออออออออออออออออออออออ


สงสารพี่วี พี่กลที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :monkeysad:

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
:monkeysad:สงสารพวกพี่จัง นับถือความรักของพี่สองคนจิงๆๆ ขอหั้ยรักกันไปนานๆๆ และมีความสุข อย่าได้มีทุกข์อันใดมาแทรกกลางอีกเลย

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: :o12: ขนาดเราแค่อ่านนะยังเศร้าขนาดนี้แต่พี่วีนี่คงโคตรเศร้าเลยอ่ะ

 :L1:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนใจจะขาดอ่ะ อ่านแล้วนึกตามว่าถ้าเป็นตัวเองล่ะ ให้ไปเรียกดวงจิตของคนที่รักมันเหมือนจะหายใจไม่ออก  :o12: :o12:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :sad4: :sad4:เล่นอะไรกันนี่น้องวี

เล่นเอาพูดไม่ออกเลย

ออฟไลน์ april@tbl

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
...บีบคั้นหัวใจเหลือเกิน..

ขนาดเป็นคนอ่านยังทรมานขนาดนี้
ไม่อยากนึกเลยว่าคุณวีจะเจ็บปวดขนาดไหน...ตอนนั้น


harukagd

  • บุคคลทั่วไป
พูดไม่ออก ส่งสารพี่วี :sad4: :o12:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
คนเรามักพูดความในใจตอนสายไปทู๊กกกที

แม่ของวีครองสติได้เยี่ยมเลยค่ะ

ขอเป็นแฟนคลับคุณแม่พี่วีนะ^^

ปล.สงสารพี่วีด้วยคนTT^TT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






b27072010

  • บุคคลทั่วไป
 
“กล....ได้ยินกูใช่ไหม...มึงฟังกูนะ...กูวี...กวี...สิงห์สุริยะ...เมียมึงไง...   มึงเคยบอกกูไว้ใช่ไหมว่า...มึงจะไม่ทิ้งกู...เราสองคนจะจับมือกัน...ไม่ยอมทิ้งกันเป็นอันขาด....

มึงรู้ไหม...มึงกำลังทำให้กูร้องไห้...ชีวิตกูตั้งแต่รู้จักกับมึงมาสองปีกว่านี้...  กูยังไม่เคยร้องไห้ได้มากมายขนาดนี้มาก่อน.....ครั้งนี้มึงแกล้งกูใช่ไหม...ขอร้องหละนะ...

มึงอย่าทำแบบนี้เลย....กลับไปกับกู...ไปเข้าร่างมึงที่นอนรอดวงจิตมึงอยู่    มึงจะทิ้งให้กูเป็นม่ายทั้งที่เรายังไม่ได้แต่งงานกันหรือกล....กล...กูขอร้องหละนะ....

กูรู้ว่ากูไม่ดีเอง..ไม่เคยพูดความรู้สึกที่แท้จริงให้มึงได้ฟัง....ทั้งที่มึงรอฟังจากปากกูมาตลอด....  ตอนนี้กูพร้อมจะบอกมึงแล้ว...มึงต้องตื่นมาฟังด้วยตัวเองรู้ไหม....

กูอยากบอกมึงว่า...กูรักมึง....กล....มึงได้ยินกูพูดไหม...กูรักมึง....



:sad11: :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:

เศร้า ... เศร้า .... และก็เศร้า ...  น้ำตาท่วมจอ (คอม ) เลย

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
อ่านแล้วร้องไห้เลยสงสารวี :sad4:

ออฟไลน์ ~MeiMeiZ@~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารน้องวี :sad4: :sad4:


อ่านมาก็หลายตอนแล้วมาถึงตอนนี้สงสารไอ้กลแล้วว่ะ


ตอนนั้นไม่รู้ว่าคุณแม่จะรู้สึกอย่างไร ได้ยินที่น้องวีพูดหรือเปล่าก็ไม่รู้  จะยอมรับความเป็นจริงได้หรือเปล่าที่ลูกมีแฟนเป็นผู้ชาย


สงสารน้องวีกับกลมัน  อย่าให้เหมือนพ่อแม่ของไอ้กลก็แล้วกัน :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ KOWPOON

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
 :sad11: :sad11: :sad11:

เป็นอี :sad11:ตอนที่ทำให้น้ำตาซึม  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
โอ๊ยมีไรเศร้าไปกว่านี้อีกไหมนิ
ขอให้เรื่องดราม่าไปไวไวไว
ไม่ค่อยจะได้อ่านหวานๆๆๆจะเขาเรย

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:คุณวี ณ เวลานั้น เวลาที่กำลังใจเสียอย่างสุดๆ เพื่อปลอบโยนและเป็นกำลังใจ
แล้วก็นะชีวิตคนเรา ย่อมมีสุข ทุกข์ เศร้าเสียใจ ดีใจ ไม่มีใครจะทุกข์ตลอดไปหรอก
"มีมืดจึ่งมีแจ้ง   สว่างแสงและจำรูญ
มีทุกข์มีอาดูร    ก็ย่อมมีสุขานันท์"
ก็ขอให้เวลาแห่งความทุกข์โทมนัสใจของคุณวี มีระยะเวลาสั้นๆล่ะกัน
สงสารเด็กอายุแค่นั้น(คุณวีขณะนั้น) จะให้มาแบกทุกข์หลายๆเรื่องนัก
คุณวีเค้าเป็นเด็กดี พระท่านคงช่วยให้ผ่านพ้นสิ่งที่เป็นทุกข์ไปเร็วๆแหละ
สุดท้าย :กอด1:น้องLUXเพื่อเป็นกำลังใจเหมือนกัน
เพราะดูเหมือนเวลาเขียนหรือพิมพ์เรื่องนี้ ต้องเสียน้ำตาเยอะหมือนกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2011 20:25:24 โดย yayee2 »

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ระหว่างอ่านน้ำตาก้อคลอตลอดคะ

เหมือนที่พี่วีบอกเลย คำว่ารักของพี่มันมากับสถานการณ์ที่กดดันจริงๆ

ดีใจที่ตอนนี้ ท่านยังอยู่ ขออนุโมทนาบุญด้วยคะ

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
หลังจาก ชื่อตอน และ เม้นของชาวบ้านทำให้ ไม่กล้า อ่าน  แฮ่ๆๆ


เอาเป็นว่าจองที่ไว้ ก่อนดีกว่า  แบบว่า ยังไม่พร้อมที่จะร้องตอนนี้

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

กลอย่าเป็นอะไรมากเลยนะ สาธุ
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด