จบลงด้วยการต่อยตีของพี่น้อง เหอะ ๆ เรารักกันมากครับ รักกันมากกกกกกกกกกกกกกกกก เย็นวันนั้นไอ้เชอร์รบเร้าให้ผมพาไปกิน After You อยู่นั่นแหละ ผมขี้เกียจออกบ้านเลยสัญญาส่ง ๆ ไปว่าพรุ่งนี้จะพาไปเดินเล่นแถวสยามมันถึงจะเลิกงอแง คืนนั้นมันนั่งอ่านหนังสือที่โซฟา ส่วนผมที่ไม่มีงานทำก็อ่านการ์ตูนเป็นเพื่อนมัน (พี่ชายที่ดีครับ กลัวน้องมันเหงา) ส่วนไอ้พระเอกออกไปรับจ๊อบหาเลี้ยงชีพอีกตามเคย...
เชอร์มันอยากเข้าคณะพวกที่ใช้ภาษาน่ะครับ มันเรียนสายศิลป์มา ก็คงสมัครสอบพวกอักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ อะไรเทือก ๆ นั้นแหละ ผมเห็นหนังสือภาษาอังกฤษกองเบ้อเร่อแล้วปวดหัวแทนมันชะมัด จะว่าไปสมัยอยู่ม.6 เป็นช่วงที่ขยันที่สุดในชีวิตจริง ๆ แหละ อ่านหนังสือแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยครับ เห็นมันขยันแบบนี้แล้วผมก็สบายใจแทนพ่อแม่ขึ้นมาหน่อย ผมเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบา ๆ อย่างเอ็นดู
“อ่านเยอะเดี๋ยวก็เครียดทำข้อสอบไม่ได้พอดี”
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เชอร์จะไปเที่ยวไง ก็อ่านวันนี้ไปแทน” มันยิ้มแล้วเอียงหัวให้ผมลูบง่ายขึ้น “แล้วนี่พี่ไปป์ไม่มีงานมีการทำรึไง นั่งอ่านการ์ตูนอยู่ได้”
“เอ้า! ก็แกอ่านหนังสือ พี่จะตีดอทได้ไงวะ คิดมั่งสิ!”
“พี่ไปป์นั่นแหละ เชอร์หมายถึงไม่ทำงานทำการมั่งรึไง? ดูสิพี่คินเค้ายังออกไปทำงานเลย”
“แหม... คำก็พี่คินสองคำก็พี่คิน”
“ไม่ต้องมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยเลยนะ พี่เค้าขยันทำงานจะตาย... ขนาดว่ารวยนะ”
“รวย? ไอ้ภคินเนี่ยนะรวย” แล้วค่าไฟเดือนที่แล้วที่มึงแปะกูไว้คืออะไร
“ก็เห็นในเน็ทเค้าว่าพี่คินเป็นลูกเจ้าของบริษัทอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ” วันนี้นายวิรัลค้นพบแล้วว่า ข่าวสารในโลกไซเบอร์มันน่ากลัวขนาดไหน! ไอ้ภคินเนี่ยนะ ลูกเจ้าของบริษัท! บริษัทอะไรวะ ได้ข่าวว่าแม่มันขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ เอง ไม่งั้นบ้านกูไม่รวยเป็นบิล เกตส์ไปแล้วเรอะ! “พี่ไปป์ทำไมทำหน้างั้นอะ”
“เปล่า... พี่ว่าเรื่องมันตลกดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”
“พี่เค้าดูเป็นเพอร์เฟคท์แมนเนอะว่ามั้ย?” ผมเหลือบไปมองหน้าไอ้เชอร์ด้วยสีหน้าคล้ายจะอ้วกเบียร์เมื่อคืนออกมา
“ไม่!”
“ดูทำหน้าเข้าสิ อย่างกับแพ้ท้อง” มึงอย่าพูดคำนี้ไอ้เชอร์... พอนสแตนกูก็แดกมาแล้ว... คิดแล้วเครียดกับชีวิตตัวเองจริง ๆ
“ไม่มีใครเพอร์เฟคท์หรอกไอ้น้อง” ผมผลักหัวมันเบา ๆ “มันข้อเสียเพียบเลยล่ะ”
ใช่... ทั้งโสโครก สกปรก ซกมก ลามก ไม่สนใจจิตใจคนอื่น เฉยเมยกับผู้คนบนโลก คิดว่าคนทั้งโลกต้องก้มหัวให้ตัวเอง ไอ้คนแบบนี้มันมีอะไรดีวะ! พูดแล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ะ ทำไมคนแสนดีอย่างผมถึงลดตัวไปคบกับมันได้เนอะ
“น่าอิจฉาแฟนเค้าเนอะพี่ไปป์”
“ฮะ!?... อะ... เอ่อ... มะ... ไม่เห็นน่าอิจฉาเลย ซวยล่ะสิไม่ว่า”
“พี่ไปป์นี่อคติกับพี่คินเกินไปนะ ตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนแล้ว แล้วนี่ไปไงมาไงมาเป็นเมทกันได้เนี้ย”
“มึงมองมันในแง่บวกเกินไปหรอกไอ้เชอร์ โดนหน้ามันหลอกแล้ว” ทำไมอารมณ์ชังสมัยอยู่โรงเรียนมันกลับมาวะ... ภคินมันเป็นผู้ชายที่น่าหมั่นไส้มาก เชื่อเลยว่าถ้าเปิดโหวตจากผู้ชายทั่วโลกมันต้องได้ที่ 1 แน่ ๆ “หอพักเขาหามาให้หรอก”
“เหรอ” มันพยักหน้า “แฟนเค้าเป็นไงอะพี่”
“ก็... เอ่อ... ดีแหละมั้ง” จะให้ตอบยังไงวะ เกิดมาไม่เคยต้องชมตัวเองนี่หว่า ผมเกาหัวแก้เก้อก่อนจะบอกให้เชอร์อ่านหนังสือสอบต่อ
เชอร์หันกลับไปสนใจกับหนังสือต่อ ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่านะ... ผมว่าแววตามันดูเศร้าลงยังไงก็ไม่รู้สิ ไม่อยากมองโลกในแง่ร้ายเลยจริง ๆ นะ... แต่เชอร์อาจจะยังชอบภคินอยู่ก็ได้ เขาว่ารักครั้งแรกเป็นความฝังใจ ถึงผมจะไม่แน่ใจว่าภคินเป็นรักครั้งแรกของเชอร์รึเปล่า พอคิดแบบนี้ขึ้นมาผมก็รู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้สิ...
ชีวิตผมแม่งยิ่งกว่านิยาย แฟนคนปัจจุบันเป็นแฟนเก่าของแฟนเก่า แถมยังเป็นคนที่น้องสาวแอบชอบอีก จะมีอะไรซับซ้อนไปกว่านี้มั้ย? ผมจะได้วาด Family Tree ให้พวกคุณดู...
ไอ้ภคินกลับห้องมาประมาณห้าทุ่มได้ หอบหิ้วของใกล้หมดอายุมาให้เพียบ... ลาภปากผมกับไอ้เชอร์ล่ะ แดกกันไม่มีคำว่ากลัวอ้วนทั้งแซนด์วิช ไส้กรอก ซาลาเปา และนมกล่อง พอแดกกับเรียบวุธไปแล้วปัญหาใหม่ก็เกิด..
“พี่ไปป์จะให้เชอร์นอนไหน”
เงียบบบบบบบบบบบบบบบบ.... ผมขอเวลาสมองประมวลผลสามวินาที... “อ๊อ... ก็นอนห้องพี่สิ วันนี้เดี๋ยวพี่ไปนอนกับไอ้ภคินก็ได้”
หูยยยยยยยยยยยยยยยย... ผู้ชายเหี้ยไร ตอแหลจริงกู ที่จริงก็นอนมันอยู่ทุกวี่ทุกวัน!!!!! “เอางั้นก็ได้” พอมันตกลงปุ๊บ ผมรีบวิ่งเข้าห้องไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อยประหนึ่งเป็นพี่ชายผู้แสนดี แผ่นเกมส์พร้อมการ์ตูนถูกเอาไปยัด ๆ ไว้ใต้โต๊ะที่มีฝุ่นเกาะหนา ให้ตายเหอะ... ควายยังดูออกเลยว่ามันเป็นห้องที่ไม่ได้ใช้งานมาสักพักแล้ว ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนาให้ไอ้เชอร์โง่กว่าควายแล้วล่ะครับ
“แหม... ยังกะห้องร้าง”
เรื่องแบบนี้ไม่เคยจะโง่นะมึง! “เออ... นอน ๆ ไปเหอะ เตียงนุ่มสบาย ผิวหน้าแห้ง ไม่ห่อตัวไม่ซึมเปื้อน ไส้ไม่เลื่อนยามเอนกาย” ผมตบเตียงปุ ๆ ประหนึ่งเป็นพนักงานขายเตียง เชิญชวนให้มันนอนเสียทีจะได้ไม่ต้องซักไซ้อะไรให้ผมโชว์ง่าวอีก
ไอ้น้องสาวตัวดีจ้องหน้าผมเหมือนจับผิด แต่ก็ยอมเดินไปล้มตัวลงนอนแต่โดยดี... ดีมากครับเชอรู้ทน้องรัก กูแทบจะโยนอาหารหมาในกระเป๋าให้แทะเล่นเป็นรางวัล ผมปิดไฟให้มันแล้วยิ้มบาง ๆ เอาจริง ๆ นะ...ดีใจที่มันมาหาผมจัง อันที่จริงผมเองก็คิดถึงมันไม่น้อยเลย...
“ฝันดีนะเชอร์”
“พี่ไปป์....” บรรยากาศพี่น้องแสนหวานลอยว่อนในอากาศ
“รอยที่คอพี่เยอะดีนะ” ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แฮ่ก... แฮ่ก... ไอ้น้องเวรเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย!
“ถึงเวลาของเราซะที”
เฮ้ย!” อยู่ ๆ ก็มีเงาตะคุ่ม ๆ เข้ามาเกาะจากด้านหลัง “เล่นเหี้ยอะไรเนี้ย”
ไอ้เปรตนั่นพาดแขนสองข้างลงมาที่บ่าผมแล้วตามมาด้วยหน้าคางเรียว ๆ ที่วางเกยบนบ่า ผมพยายามดันหน้ามันออกแต่ก็ไม่เป็นผล เกิดมากูจะเคยชนะมึงบ้างมั้ยวะ
“ภคิน... ปล่อย” ผมส่งเสียงขู่รอดไรฟัน
“มึงอย่าทำเหมือนเราแอบเล่นชู้กันในบ้านได้เปล่าวะไปป์” มันเขกหัวผมทีนึง นอกจากไม่ยอมปล่อยแถมลากเข้าห้องอีก มึงมันไอ้หน้าด้าน...ไอ้พวกดันทุรังสูง! มันปิดประตูล็อกเรียบร้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผม หูยยยยยย... ขนนี่ลุกซู่ไปหมด
“ยะ... ยิ้มเหี้ยไรมึงเนี้ย”
“ตลกมึงแหละ วันนี้มึงแม่งโคตรลนเลยว่ะ” มันว่าพลางยกมือมาขยี้หัวจนผมหัวยุ่งไปหมด “กูจะบอกว่าไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ น้องมึงจะจับได้เพราะมึงเกร็งเนี้ยแหละ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“หัวเราะเหรอไอ้ห่า” กูจับตีเข่าแม่ง ขนาดว่าโดนแทงมันยังหัวเราะไม่หยุดเลยครับ
“อ๊อ... โทษที กูลืมไปว่ามึงชอบเกร็งอยู่แล้ว เมื่อคืนกูก็บอกแล้วว่าอย่ากะ... อั่ก... โอ๊ย... เอากระดูกแทงทำไมวะ”
“เมื่อคืนมึงปล้ำกูทำไม เจ็บชิบหาย!”
“ปล้ำบ้าอะไร มึงออกจะให้ความร่วมมือกูดีจะตาย” มันแสยะยิ้ม “บอกให้นั่งก็นั่ง บอกให้นอนก็นอน ไป ๆ มา ๆ ทำเยอะกว่าที่บอกอีก นอนเคี้ยวหูกูอยู่ได้”
“เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยยยย ไม่ต้องมาหลอกกู เห็นอย่างนั้นกูไม่ได้เมานะโว้ย... กูรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง”
“งั้นมึงก็รู้เรื่องที่ตัวเองแก้ผ้า แถมไม่พอยังมาถอดของกูอีก แล้วตอนที่มึงบอกว่าจะเต้นในห้องแล้วเสือกมาเต้นบนตัวกูนี่มะ...” สัญญาณขาดหายเพราะผมอุดปากมันเอาไว้ก่อน หืยยยยยยยยยยยยยย... หน้าผมจะระเบิดอยู่แล้ว โคตรขายขี้หน้าประชาโลกเลย ปกติผมไม่ได้เมาบ่อย ๆ นะ... แต่คราวนี้มันไม่ได้ดื่มนานเลยจัดหนักไปนิดแค่นั้นเอง
ไอ้ภคินมองหน้าผมขำ ๆ สะใจมันล่ะสิที่ทำเอาผมเถียงไม่ออก ไม่พอมันยังจุ๊บฝ่ามือผมอีก เลยต้องรีบสะบัดมือออกก่อนจะโดนคุกคามไปมากกว่านี้
“คนอย่างมึงมีเหี้ยอะไรดีวะ ทำไมผู้หญิงต้องมารุมชอบด้วย”
“หน้าตาไง” มันก้มลงมายักคิ้วใส่ “ส่วนลีลานี่ต้องสัมภาษณ์คนแถวนี้แล้วว่ะ เป็นไงมั่งครับคุณไปป์เมื่อคืนโดนสูบไป... สนุกสนานมั้ยครับ” ผมปัดมือที่ทำเป็นยื่นไมค์มาให้ โอ๊ยยยยยยยยยยยย... ไอ้สมองนี่ก็ไม่ฟังกันเล้ย! สูบเลือดขึ้นมาเต็มหน้าแบบนี้แม่งก็รู้กันพอดีว่ากูเขินอยู่
“ห่วยบรม!”
“เอ้า! ถึงจะห่วย แต่ผมช่วยคุณเสียวได้นะคร้าบบบบบบบบบบ”
“แสรดดดดดดดดดดดดดด แดกตีนกูเหอะมึง” เปิดศึกกันกลางห้องครับ ผมยันตีนไปที่แข้งมันเต็มแรงจนมันร้องโอดโอย อูยยยยยยย... ขยับตัวมากไปตูดระบมอีกกู พอมันจับจังหวะได้มันก็ล็อกคอผมไว้พร้อมเอาเข่ามายันแถว ๆ ตูดกูอีก... เจ็บจนน้ำตาแทบไหลครับ
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่เล่นนะมึง มันเจ็บ!”
“เฮ้ย... ขอโทษว่ะ” มันชะงักไปพอเห็นผมร้อง อ้อมแขนนั้นค่อย ๆ คลายออก มันพลิกตัวผมให้หันไปเผชิญหน้ากับมัน “เจ็บมากมั้ย...”
น้ำเสียงอ่อนโยนเสียจนผมใจอ่อน ผมพยักหน้านิด ๆ
“เจ็บ...” ก่อนจะเข่าไปที่น้องชายมันเต็ม ๆ
“แบบนี้เลยสัตว์!” กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๊ย ๆ ๆ ๆ กูขำหน้ามึงตอนนี้ไม่ไหวแล้วภคิน! ไอ้พระเอกทรุดลงไปนั่งกุมเป้าอยู่บนพื้น หน้างี้บิดเบี้ยวแทบจะเขียวอมฟ้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยย หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลหมดแล้วเนี้ย
“อูยยยยยยยยย”
“ปวดมาก ๆ กินพอนสแตนแล้วหายนะมึง กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” โอ๊ย กูอยากจะลุกขึ้นมาเซิ้งอย่างผู้ชนะ ผมเดินผ่านตัวไอ้ผู้ชายที่งอตัวอยู่บนพื้นพลางแสยะยิ้ม แต่มันเสือกมาเกาะขาผมไว้
“เดี๋ยวนี้หัดมีมารยาใช่มั้ย” มันกัดฟันพูด ไม่ทันจะขยับตัวมันก็เตะตัดขาผมลงมาก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น.... โอ๊ยยยยยย....เจ็บชิบหายอะ วันนี้ตูดกูกระแทกพื้นกี่รอบแล้ววะ
ผมได้แต่นั่งเจ็บปวด เลยถึงคราวไอ้ฝ่ายน้ำเงินมันฮุคกลับบ้าง ไอ้ภคินที่น้องชายกลับสู่สภาพปกติไม่หักงออะไรกระโจนขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้ ก่อนจะล็อกแขนแล้วเริ่มฟัดแบบที่มันชอบทำบ่อย ๆ หนวดมันเริ่มขึ้นแล้วเสือกมาถูหน้าผมอะ...เจ็บนะโว้ย!
“พอแล้วน่าภคิน น้ำลายมึงเต็มหน้ากูแล้วเนี้ย” เหมือนเป็นตุ๊กตาให้หมาฟัดอะครับ...อารมณ์นั้นเลยจริง ๆ
“มึงนี่นะ ชอบนินทาชาวบ้านแต่โกหกไม่เก่งเอาซะเลยว่ะ” มันพูดกลั้วหัวเราะ “กลัวน้องเชอร์รู้ขนาดนั้นเลย”
“กะ... ก็ใครมันจะไปอยากให้น้องตัวเองรู้ว่ามีแฟนเป็นผู้ชายล่ะวะ หรือว่ามึงอยากให้รู้”
มันยักไหล่ “แม่คงรู้เรื่องกูกับมึงหมดแล้วกูยังไม่เห็นสนใจเลย”
“นั่นมันมึงนี่หว่า มันไม่เหมือนกันนะเว่ย...”
เราจ้องหน้ากันเงียบ ๆ ในบรรยากาศที่อึมครึมเล็กน้อย ต่างคนต่างมีเรื่องที่คิดอยู่ในหัว... ใบหน้าเรียวคมนั่นขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากัน มันแลบลิ้นเลียริมฝีปากช้า ๆ
“มึงนี่... กลัวคนอื่นรู้จังนะ” ผมเบือนสายตาหลบ ไม่พร้อมจะมองหน้ามันตอนนี้จริง ๆ ในเมื่อสิ่งที่มันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น ผมแคร์คนอื่นจริง ๆ นั่นแหละ... คิดนู่นคิดนี่ตลอดเวลา ถ้าคนอื่นรู้จะทำยังไง สังคมจะทำยังไงกับคนอย่างผม.... แล้วไหนจะครอบครัวอีกล่ะ ถ้าพ่อแม่ผมรู้ขึ้นมาจะทำยังไง?
ป๊อก มันดีดหน้าผากผมแรง ๆ จนต้องยกมือขึ้นมากุม “โอ๊ยยยยยยยยยยยย ไอ้เหี้ย! ดีดทำซากอะไรวะ เจ็บนะโว้ย!”
“เห็นหน้ามึงเครียดแล้วอยากดีดมะกอกว่ะ”
“ไม่แค่อยากแล้ว มึงดีดมาเต็ม ๆ เลยไอ้ห่า อูยยยยยยย... แดงหมดแล้วเนี้ย”
ภคินใช้สองมือประคองใบหน้าผมไว้แล้วยกนิ้วโป้งไล้หน้าผากช้า ๆ แล้วก็...
โป๊กกกกกกกกกกกกกกก เอาหน้าผากโขกหัวผมอีกที แสรดดดดดดดดดดด คราวนี้มึนเห็นดาวจนกลับบ้านไม่ถูกแล้ว กูจะบินสู่จักรวาลเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยย มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี้ย ต้องมาทำร้ายร่างกายกู!”
“ก็เผื่อไอ้ความคิดเต็มหัวสมองเล็ก ๆ ของมึงมันจะกระเด็นออกมาบ้างไง” มันเคาะหัวผม “สมองมีอยู่แค่นี้ คิดอะไรให้มันมากมายวะ”
“ก็มึงไม่ใช่กูนี่หว่า”
“งั้นถามหน่อย อยู่กับกูแล้วมีความสุขมั้ย”
ชิบ... มาถามคำถามแบบนี้มึงจะเข้าโหมดโรแมนติกหรือไง? ใบหน้าหล่อคมนั่นไม่ได้มีท่าทีแหย่เล่นเหมือนเมื่อกี้อีกแล้ว เวลาภคินเข้าโหมดจริงจังทีไรทำเอาผมไปไม่เป็นทุกที “ไปป์... ตอบกูหน่อยดิ๊”
ช่วยอย่าทำหน้าตาลุ้นระทึกแบบนั้นจะได้มั้ย เห็นแววตาที่สะท้อนภาพตัวเองจ้องลึกเข้ามาแล้วทำอะไรไม่ถูก มือไม้ก็ไม่รู้จะเอาไปวางที่ไหน... มันลุ้นคำตอบผมยังกะลุ้นหวย...
“ก็... เอ่อ... มีแหละ” มันทำหน้าสลดไปนิดนึง ผมเลยขยี้หัวมันคืน “ไอ้ควายเอ๊ย... ไม่มีความสุขจะอยู่ด้วยกันทำซากอะไร”
ภคินเบิกตาค้างไปนิดนึงเหมือนเด็กได้คำชม มันรีบก้มมาฟัดผมต่อเป็นการใหญ่ “เห็นมั้ย... ถ้ามีความสุขก็อยู่ไปสิ แค่นี้ชีวิตก็ยุ่งยากจะตายห่า จะทำเหี้ยอะไรให้มันยากกว่าเดิมวะ” มันว่าพลางยักคิ้วกวนตีน
ผมหัวเราะ...
เชี่ยเอ๊ย แล้วจะไม่ให้กูมีความสุขได้ไงวะ TBC
ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องพอนสแตนนะคะ ฮ่าๆๆ ไปป์มันไม่ได้กินยาผิดขนานแต่อย่างใดนะคะ แต่พอนสแตนมันเป็นยาแก้ปวด(อารมณ์เครือเดียวกับพารา)แต่จะเป็นชนิดรุนแรงนิดนึง เค้าเลยใช้สำหรับผู้หญิงปวดประจำเดือนค่ะ เวลาไปออกค่ายปวดตัวกลับมาแม่คนเขียนก็เอาพอนสแตนให้กินเหมือนกันค่ะ 5555 (อันนี้จากที่เราเข้าใจนะ ใครมีข้อมูลอื่นแย้งได้ค่ะ ไม่ได้เรียนด้านนี้ 555) ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าไปป์มันจะมีเมนส์ขึ้นมานะคะ เอิ๊กกกกกกกกก
วันนี้คนเขียนนั่งเล่นSimsimi มีใครไปบัญญัติศัพท์คินไปป์ไว้คะ เจอแล้วฮาแตกอ่ะ 55555
มารับรางวัลเป็นจูบจากพี่โจ้ซะดีๆ เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
เจอกันตอนหน้าค่ะ ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ
PS.ตอนนี้เรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ(ประมาณ3ใน4) เลยขอสอบถามไว้ล่วงหน้าว่าถ้ามีการรวมเล่มจะมีใครสนใจบ้างคะ?
ขอบคุณคุณแมวอัดกระป๋องสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ ไอ้เราก็กินอย่างเดียวไม่รู้เรื่อง 555555
พอนสแตนมันเป็นยาแก้ปวด แต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับ พาราเซตามอล นะ เป็น เมเฟนามิค แอซิด
พอดีเราเป็นพวกแพ้ยาตัวนี้