Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2439603 ครั้ง)

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
555+ เกมส์นี้นี่ไปป์มีแต่เสีย(จูบ)กับเสีย(จูบ)เลย

ส่วนฟาร์กับอาร์ทนี่ก็ดูแอบก้าวหน้านะเนี่ย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
หึๆ อาร์ทมีแฟนคลับอยู่กะเขาเหมือนกัน

ออฟไลน์ OitJi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อิจฉาไปป์อ่ะอยากสูบคิณมั่งจัง 555

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
ก๊ากกกกกกกกกก คินโคตรแสบอ่ะ เกมส์นี้มีแต่ได้ักับได้ล้วนๆ อ่านไปขำไป >//////<
ไปป์ก็เหมือนตกหลุมพรางโดนคินหลอก แม้จะรู้ว่าต้องออกมาอีหรอบนี้
แต่ทำไงได้ 555 พลาดไปแล้ว โคตรฮาาาาา แหมไปป์นี่มีอารมณ์หึงหวงงอนงี่เง่านิดๆเหมือนกันนะ
ไม่อยากเรียกชื่อเล่นเพราะว่าทำให้คิดถึงแฟนเก่ากับแฟนปัจจุบัน น่ารักนะค่าาาาา
เวลาคินกับไปป์สวีทกัน มันไม่ใช่สวีทหวานเว่อ แต่จะเป็นสไตล์คินไปป์ มันจะดิบๆกากๆแต่หวาน น่าร๊ากกกกกก
อ่านแ้ล้วขำพร้อมเขินในเวลาเดียวกัน ท่าจะบ้าละตรู =///= แต่เราเขินคินตลอดเวลา
หวานใส่ไปป์ ก๊ากกกกก ทำตัวเหมือนตัวเองเป็นไปป์ แต่อยากบอกว่าเค้าก้อยากจะ
นั่งซ้อนท้ายไอเน่าอยู่เหมือนกันนะ ฮ่าาาาา 5555 ตอนที่ฟาร์บอกให้ไปป์มองป้ายสีส้มๆ
เราขำมากกกกกกกกกกกกกก คือขำจนน้ำตาไหล เตรียมอัดก๊อบปี้ กร๊ากกกกกกกกกกกกก
นิยายวายในอุดมคติชัดๆเรื่องนี้ 55555555

NRz68

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ไปป์เปรียบเป็นทาสในเรือนเบี้ย
โดนกดขี่ข่มเหงมาก

โดนภคินสูบ .. โดนแมกซ์ซัก .. แล้วยังโดนฟาร์ขู่อีก  :o12:
แต่ฟาร์จ๊ะ ! พัฒนาขึ้นเยอะเลยนะเรา (อาร์ทฝึกมาดีล่ะสิ ฮุวะฮะฮ่า // โดนอัดก็อปปี้!!!)

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ภคินพริ้วมาก ตอนแรกนึกว่าเกมจะสูสี ที่ไหนได้ไปป์แพ้ทางกันเห็นๆจนปากบวมไปถึงไหนๆ
แม็กทักได้แรงส์มาก แถมฮาค่อดๆ ว่าแต่ไปป์นี่จะสู้ใครได้บ้าง ล่าสุดยังโดนน้องเห็ดข่มขวัญไปแบบเบาๆ
สุดท้าย โจ้กันสวดยวดคร้าบบบ(เสียดายโจ้พลาดบทพระเอก)
+1นะคะ รักนะตะเอง จุ๊บๆ

hoshikotegoshi

  • บุคคลทั่วไป
:jul3:
ฮาก๊ากทั้งตอน ดีที่อยุ่อ่านอยู่คนเดียวในห้อง ฮ่าๆๆๆ

พอนึกถึงพ่อพระเอกกับการพูดเพราะแล้วอึดอัดแทนจริงๆ (น้องไปป์ด้วย) :m20:
อ่านไปฮาไป เขอนตามน้องไปป์ไปด้วย  :o8: พ่อพระเอกนี่มันแน่จริงๆ

ปล.ชอบจัง เมียกัญชาเนี่ย เห็นอนาคตน้องฟาร์มาแต่รำไร :pigha2:

(เมื่อกี๊แอบเม้นท์ผิดเรื่องง่ะ อายยยยยยยยยยยยย :z3:)

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
คนแต่งใก้ลสอบแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะครับ  (ไม่ทวงนิยายแล้ว เดี๋ยวคนแต่งไม่ได้อ่านหนังสือสอบ)

คนอ่านจะเข้ามาดูทุกๆ 8 วันนะครับ เพื่อจะดูว่าคนแต่งมาลง ตอนใหม่หรือยัง เพราะเห็นว่า 8 วันมาลง 1 ครั้ง(1 เดีอน ลง 3 ครั้ง)
คนอ่านจะรอคอยอ่านเรื่อง"ประสบการณ์เพื่อนรักใน วัยเรียน"ต่อไปเลื่อยๆ นะครับ (ชื่อเรื่องถูกต้องใช่มั้ย???)
ถ้าในบางตอนไม่เห็นเม้นท์จากคนอ่าน อย่าว่ากันนะครับ เพราะในตอนนั้น อาจจะเลื่อยๆ จนคนอ่านไม่รู้จะเม้นท์ อะไรอ่ะครับ

=====================================================================
ส่วนเรื่อง มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ลุงเห็นว่าตอนสุดท้ายจะมาลงในวันคริสมาสต์ ใช่มั้ยครับ
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเดี๋ยวคนอ่านรอให้ลงถึงตอนจบก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยอ่าน ก็แล้วกันนะครับ
เพราะเว้นระยะห่างของแต่ละตอนนานเกินไป คนอ่านไม่อยากนั่ง นึกย้อนหลังอ่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2011 13:38:28 โดย day9day »

ออฟไลน์ SakataGintoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :a5:
จ๊ากกกกก  ภคินรุนแรงอ่ะ
น้องไปป์เค้าปากเจ่อเลยยยย  ฮ่าๆๆ

เฮียอาร์ทน่ารักจัง  o13

คุณแม่ลูกสอง

  • บุคคลทั่วไป
ไปป์คร้าบบบบ  จะฮาไปไหน  อ่านแล้วฮาได้ทุกตอนไม่เว้นแม่แต่ในงานศพที่เกือบจะไม่ แต่ก็มาเก็บเอาไปจนได้

ภคิคโชคดีจังที่มีคณะตลกเป็นของตัวเองแบบนี้


ฟาร์ดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ตามอาร์ตไปติดติด  นี่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วรุมไปป์คนเดียว

ไปป์ตายสถานเดียว

เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยคร้าบบบบบ
:L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sapphire winnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อยากดูละครสืบสวนบ้าง!!!!!! 555
ชอบแม็กซ์จังเลย ทักมายได้เลิศเลอมาก!
ฟาร์น่ารักกกกกกกกกก~
คินอย่างฮา!

ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
โจ้ กับกัน  ของเขาแรงจริงๆๆ

กรี๊ด  อาร์ทเป็นพระเอก  อยากดูมากๆๆ

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบ 44 ตอนในหนึ่งวัน เหมือนตัวเองไม่มีอะไรทำนะ (ก็ไม่มีอะไรทำจริง ๆ ) แอบขำกับความรั่วของไปป์ และความซกหมกของภคิน (เรียก ภคิน แปลกดีไม่เหมือนใคร เรียก ๆ ไปเถอะ พี่ชอบ)

แอบลุ้นคู่ น้องเห็ด กับ นายกัญชา (ช่างคิดได้นะ นายไปป์) หวังว่า ฟาร์จะได้รับการเยียวยาหัวใจอย่างถาวร

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
แจ้งข่าว!!!

คนเขียนขอลาไปอ่านหนังสือสอบนะคะ  ถ้าไม่อ่านต้องตายด่าวดิ้นเป็นแน่แท้  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด :sad4:

จะมาอัพนิยายให้หลังสอบเสร็จนะคะ(สอบวันสุดท้าย28)



จึงเรียนมาเพื่อทราบ

Indigo

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ง่า
สู้ๆนะ ช่วงนี้สอบเยอะจริงๆ T^T

ออฟไลน์ SakataGintoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :a5:
ลงแดงตายแน่แท้เลยเรา
ข้าน้อยก็สอบเช่นกันล่ะท่าน
หนังสือหนังหาไม่อ่าน  ฮ่าๆๆ
 o22

ยังไงก็สู้ๆนะจ๊ะ รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ o13

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
ฮาตลอดอ่ะ เกรียนดี เอิ๊กกกกกก ตั้งใจอ่านหนังสือนะ ขอให้ทำข้อสอบได้คะแนนเยอะๆๆ

ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ดีนะ ที่มันไม่ติด "ผัวซื้อสด รถซื้อผ่อน" ให้

แต่อย่างฟาร์ ไม่ต้องซื้อ ก็คงโดน(พ่อพระเอกคนใหม่)บังคับยัดเยียดตัวให้เลยล่ะมั้ง

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 o22

คิดถึงเรื่องนี้.....

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
รับทราบคร่าาาาาาาาาาาาา
ตั้งใจอ่านหนังสือนะ.....สู้ๆ...สู้....

ความจริงไปเม้นในเพจแล้ว....และก็ตามมาในเล้าอีกรอบ....

เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ :L2:
ไม่ต้องเร่งรีบ....ยังไงเรื่องเรียนก็ต้องมาก่อนนะคะ....คนอ่านรอได้ o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ OitJi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
มารอตอนต่อไป >0<

senorita dada

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่น๊าา  :a5: :a5:

ออฟไลน์ SakataGintoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad4:
คิดถึงน้องไปป์อ่ะ
มาเร็วๆน๊าาาา

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 o13 คิดถึงจ้า

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
น่ารักอ่ะ  ฮ่าๆๆ คินเวอร์ชั่นนี้ ชอบๆ แต่ขอเป็นพักๆนะ รู้สึกจักกะเดียมพิกล

ฮ่าๆๆ

ขอจิ้มแฟน เพจ ด้วยยย

monkaew

  • บุคคลทั่วไป
ไปป์ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไหนกลับมาด่วนๆๆ :z3:

แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งรอตอนต่อไปด้วยอีกคนครับ
สนุกมาก

ออฟไลน์ 13smblue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หนูฟาร์โดนไปเต็มจร้า  :z2:

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Room 45

ปากบวม...  เป็นอาการของไปป์ในหลายอาทิตย์ต่อมา...

   หลังจากถูกผมสูบเลือดสูบเนื้อมันจนหมดสิ้นความเป็นมนุษย์  ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นบุรุษของมันจนป่นปี้ (อันนี้ผมไม่ได้พูดนะครับ... ไปป์มันบ่นของมันเอง)  แถมมันยังบอกว่าจะลาออกจากคณะแล้ว  เพราะบริหารชีวิตยังไงให้ขาดทุนกับผมย่อยยับแบบนี้...  ฟังแล้วก็สงสารมันนะครับ  แต่ทำไงได้ล่ะ... ใครใช้ให้มาทำตัวน่ารักใส่แบบนี้วะ

   ผมชอบเวลาที่ได้สัมผัสริมฝีปากเล็ก  ๆ  นั่น
   ผมชอบเสียงดัง  ๆ  เวลาโวยวาย
ผมชอบเวลามันอมอมยิ้มจนแก้มป่อง
ผมชอบดวงตากลมโตนั่นเวลาค้อนใส่

ผมชอบ...  ผมชอบ...  และผมชอบ...

   ยังมีอะไรอีกที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับไปป์บ้างล่ะ????

   เข้าใกล้ช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัย  ผมปั่นโปรเจ็คต์แบบไฟลนก้นทุกวันแทบไม่ได้หลับได้นอน  ตัวคณะส่วนใหญ่ของผมไม่มีสอบมิดเทอมหรอกครับ  ช่วงมิดเทอมเลยเหลือแค่ส่งงาน  หนังสือก็อ่านแค่ไม่กี่วิชา  แต่อย่ามาพูดให้ได้ยินว่าเรียนง่ายเชียวนะ...  กูยกพวกไล่ตีจริง ๆ ด้วย...

   ส่วนไปป์...  บอกตรง ๆ ว่าปางตาย  ตัวคณะมันสอบเยอะมากแถมอ่านหนังสือแต่ละเล่มหนา ๆ ทั้งนั้น  มันอ่านไม่ลืมหูลืมตาจนไม่ได้สนใจกูเล้ย  เวลาเข้าไปกระแซะ ๆ เรียกร้องความสนใจก็โดนดุกลับมาอีก  อะไรวะ... แค่นี้ต้องดุกันด้วย

   ผมรอจนมันสอบเสร็จ  ระหว่างนั้นก็นั่งนับคะแนนบนไวท์บอร์ดข้างประตูห้องรอไปก่อน  ขีดสีน้ำเงินต่อท้ายชื่อมันเยอะมาก  แบบขีดจนหมึกจางอะครับ  แม่ง... ตลกดีว่ะ  ว่าง ๆ ผมก็แอบมาขีดเล่นโกงคะแนนมันนิด ๆ หน่อย ๆ  ไม่ต้องห่วงครับไปป์มันซื่อจนโง่  โดนผมหลอกเป็นประจำ  อีกอย่างยังไงเกมนี้กูก็รู้ตัวผู้ชนะมาตั้งแต่เริ่มแล้วนี่หว่า  ชนะขาดซะหน่อยมันจะเป็นอะไรไป... หึหึหึ

   จากวันเริ่มเกมหรรษาที่ฝึกปรือทักษะความเป็นผู้ดีนั่นก็ผ่านมาได้เกือบเดือนแล้ว  แม้ว่าผมจะสูบพลังงานจากมันมาสะสมไว้มากขนาดไหน...  แต่ไม่ได้สวีท (?) กันนาน ๆ มันก็ขาดพลังงานในชีวิตนะเว่ย!  ไม่รู้เหรอที่กูอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะเสียงแว้ด ๆ จากมึงเนี้ยแหละ

   จะว่าไปพอหมดอาทิตย์นั้นมันก็ไม่ยอมเรียกผมว่า ‘คิน’ อีกเลยแฮะ  ดื้อเงียบชะมัดเลยว่ะ  บอกให้เรียกยังไงก็ไม่ยอม... ก็บอกจนปากฉีกถึงหูรูดแล้วว่าไม่เกี่ยวกับแอมหรอก  แต่คนที่ผมสนิทด้วยก็เรียกแบบนี้ทุกคนนี่หว่า  แล้วนี่อะไรวะ?  เป็นถึงแฟนจะมาเรียกชื่อจริงทำซากไร!?

   จะโวยวายไปก็เท่านั้นแหละครับ...  พอไปป์มันอ่านหนังสือมันก็เงียบยังกะโดนผีบุปผาเย็บปาก  เห็นปัญญาอ่อนกอดหมีหน้าโง่ไปวัน ๆ แบบนี้  ที่จริงมันเรียนดีเลยนะครับ  แถมยังเป็นพวกจริงจังเวลาสอบสุด ๆ  เช้าก่อนสอบมันเครียดลงกระเพาะจนผมต้องไปหายาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินมาให้มันดื่มแทนนม  ไอ้แห้งนี่ชอบทำตัวให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย...  ไอ้ผมที่ได้พักช่วงสอบเลยเป็นอันต้องอยู่อย่างหงอย ๆ ไป  กูยอมให้เพราะเหตุจำเป็นหรอกนะ

   และแล้วหลังจากสอบตัวสุดท้ายได้ไม่นานก็เข้าสู่ช่วงวันหยุดปีใหม่  ไอ้ผมก็สบายครับ... งานไม่มีแถมไอ้ไปป์ยังคลานกลับขึ้นมาจากขุมนรกได้สำเร็จแล้ว  ตอนแรกก็วางแผนจะพามันไปเที่ยวต่างจังหวัดเสียหน่อย

   ผมเอาตีนสะกิด ๆ ไอ้ตัวแห้งที่นอนเกลือกกลิ้งกับหมีหน้าโง่ของมันอยู่บนพื้นพร้อมกับเปิดทีวีดูรายการสอดรู้เรื่องชาวบ้านแบบ ‘ตีท้ายครัว’

   “แล้วมันจะไปดูบ้านคนอื่นทำไมวะ”
   “เอ้า... ก็เขาเป็นดาราอะ... ก็ทำให้แฟนคลับดูไง”
   “งั้นมึงคงเป็นแฟนคลับมันทุกคนเลยนะ  กูเห็นมึงดูตลอด” ผมหัวเราะที่เห็นมันเริ่มหน้างอ  เลยยื่นตีนไปสะกิดมันอีกรอบ  ก็นอนที่ไหนไม่นอนดันมาอยู่ใกล้มือใกล้ตีนแบบนี้  เห็นแล้วมันอยากแหย่นี่หว่า

   ไปป์ง้างตีนมันมาเตะป้าบเข้าที่หน้าแข้งผม  อูยยยยยยยยยยย... แห้ง ๆ แบบนี้แรงควายใช่เล่นครับ  มันกระดกก้านอมยิ้มในปากเป็นการกวนประสาทเบา ๆ  จะเล่นกับพี่ใช่มั้ยไอ้น้อง...

   “อั่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...  ไม่เอา  ไม่เล่นแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย” มันเริ่มดิ้นเอากระดูกแทงผม  ฮ่า ๆ ๆ  เล่นกับใครไม่เล่นเสือกมาท้าทายอำนาจมืดอย่างกู  เจอกระโดดทับเข้าไปแม่งก็จอดแล้วไอ้แห้งเอ๊ย!
   “ไหน ๆ ... กูอยากจะรู้นัก  ไอ้ลูกอมนี่มันอร่อยกว่าอมอย่างอื่นตรงไหน” พูดแหย่สองแง่สองง่ามนิดเดียวหน้าก็แดงแล้ว  ไปป์มันแพ้ทางเรื่องลามกครับ...  ชิ่งเขินก่อนตลอด  เข้าทางกูล่ะมึง...
   
ผมก้มไปฟัดแก้มขาว ๆ นั่นเล่นจนเป็นรอยแดงเพราะโดนตอหนวดถูใส่  มันมองค้อนผมแถมยังถีบเอา ๆ

“เฮ้ย ๆ ... นี่ผัวครับ  ไม่ใช่จักรยาน  ถีบไรนักหนาวะ”
   “ผัวเชี่ยไร...  หนักโว้ย!  นี่ก็คนไม่ใช่มอไซด์... มาคร่อมหาป้ามึงเหรอวะ” ยอกย้อนเก่งนักนะมึง...
   “เถียงเก่งนักนะ  ไอ้ปากนี่ใช่มั้ยแม่งชอบเถียงดีนัก” ผมเอามือดึงปากมันเล่น “เดี๋ยวแม่งกัดปากฉีกเลย”
   “โอ๊ยยยยยยย  ไม่เอ๊า...  ภคิ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”

   บรรยากาศมันช่างเข้าด้ายเข้าเข็มซะจริ๊งงงงงง  ผมมองคนใต้ร่างที่นอนหอบแฮ่ก ๆ เพราะใช้พลังงานในการขัดขืนมากไป  ดวงตากลมโตนั่นจ้องเหมือนจะส่งเลเซอร์ออกมาตัดกบาลผมให้แยกเป็นสองส่วน  ปากเล็ก ๆ นั่นเผยอออกช่วยในการหายใจ  เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากจะฟัดให้แม่งตายห่าคาอกกันไปข้างเลย  ผมกระโจนเข้าใส่มันท่ามกลางเสียงโวยวาย...  ด่าได้ด่าไป...  ก็กูจะทำอะ...

เธอและฉัน จับมือเคียงกันนับจากนี้  ผ่านความเดียวดายที่สองเรานั้นเคยมี

   “ภคิน!  โทรศัพท์!”
   “เออรู้แล้ว...  ไม่ได้บอกว่าเป็นกาต้มน้ำซะหน่อย”
   “มึงก็รับซะทีสิวะ” มันบ่นเสียงอู้อี้เพราะโดนผมจูบแถว ๆ จมูก
   “ไม่รับ... กูจะรุก...”
   “พ่อมึงตาย  แสรดดดดดดดดดดดดดดดดด...  เกิดแม่มึงโทรมาทำไงวะ!?”
   “ถ้ามึงจะแช่งพ่อกูแล้วพูดถึงแม่กูในประโยคเดียวกันแบบนี้นะ...”

   บ่นไปงั้นแหละ...  พอมันเอาแม่มาอ้างผมเลยต้องจำใจผละออกมา  ทิ้งแม่งให้นอนน้ำลาย (ผม) นองเต็มหน้า แต่ผมยังสติลนั่งทับอยู่นะครับ  เรื่องอะไรจะออกง่าย ๆ วะ... หึหึหึ

   พอคว้ามือถือที่เพลงจะจบท่อนฮุคอยู่แล้วขึ้นมาดูก็ได้แต่ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ

   ไอ้เพลง!  มึงจะเสือกอยากมาจับมือกูเดินอะไรตอนนี้วะ...

   “เออ... ว่าไงวะ” ผมรับโดยจงใจใช้เสียงให้หงุดหงิดที่สุด  เผื่อมันจะรู้ตัวบ้างว่าขวัดขวางความสุขชาวบ้านมันบาปแค่ไหน
   “โห... อารมณ์เสียไรใส่กูวะ” ปลายสายมันหัวเราะได้น่าหมั่นไส้ที่สุด “เมียไม่ยอมรึไง”
   “กำลังจะยอมถ้าไม่มีมึงโทรเข้ามา”
   “เชี่ย!  มึงได้กันแล้วเหรอ...  พระเจ้า! กูต้องโทรไปอัพเดตกับอิแม็กซ์อย่างด่วน ๆ” คือมึงจะตื่นเต้นทำไม “แล้วครั้งแรกเป็นไงวะ  สนุกมั้ย”
   “เออ... สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก” มากซะจนกูลืมว่ายังไม่ได้กัน “มึงเลิกพูดเรื่องอื่นได้แล้ว  โทรมามีเชี่ยอะไรเนี้ย”
   “อ๋อ...  คือว่านะมึง...”

ผมอ้าปากค้างจนไปป์ที่นอนอยู่ลืมกลัวเสียตัวเด้งตัวเข้าใกล้ผมให้เสือกได้ถนัดขึ้น...

   “เหรอ... เออ... เออ... รู้แล้วน่า  แล้วเจอกัน” พอกดปุ่มวางปุ๊บ  เสียงมันก็มาทันที
   “ทำไมวะ  เพลงทำไมเหรอ”
   “พรุ่งนี้ไอ้เพลงนัดเลี้ยงฉลองสละโสด”

   ไอ้กรรไกรอ้าปากค้างเหมือนลืมหยอดสนิม  ลูกกะตามันแทบจะหลุดออกมากลิ้งนอกเบ้าอยู่แล้ว...  เออ... กูรู้แล้วว่ามึงตกใจ

   “เฮ้ย ๆ ...  ตกใจเชี่ยไรนักหนา” ผมตบแก้มนิ่มเบา ๆ “ยังไงต่อให้มึงโสดมันก็ไม่เอามึงหรอก”
   “โอ๊ยยยยยยยยยยย  ก็คนมันตกใจนี่หว่า!  กูแอบส่องมาตั้งแต่ปี 1 แล้วอยู่ ๆ แม่งมีแฟนหน้าตาเฉย!”
   “มึงก็ชิ่งมีผัวไปก่อนมันแล้วไม่ใช่เรอะ!?”
   “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...  มึงอย่าพูดแบบนั้นนะ!”

   พอมันดิ้น ๆ คราวนี้ผมเลยลุกขึ้นปล่อยให้มันเป็นอิสระ...  ความน้อยใจเล็ก ๆ มันตีขึ้นมาในอกอย่างบอกไม่ถูก  ถ้ามันชอบเพลงถึงขนาดนั้น...  แล้วผมล่ะ...  ไอ้ที่เป็นแฟนกันอยู่ทุกวันนี้มันไม่ได้มีความสุขเลยใช่มั้ย  ก็นั่นสินะ...  ตอนขอคบด้วยผมยังบังคับมันเลยนี่นา...  แบบนี้ถ้าเกิดเพลงมันชอบไปป์ขึ้นมามันก็คงไม่เลือกผมหรอก...

   ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโต๊ะกินข้าวเงียบ ๆ   อารมณ์เมื่อกี้มันเตลิดหายไปหมดแล้ว  ไม่ได้หันไปดูด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายมันได้สนใจบ้างรึเปล่า  อันที่จริงมันอาจจะดีใจก็ได้นะที่ผมไม่ทำอะไรมันต่อแล้ว...  เห็นจะทำอะไรก็ต่อต้านตลอดเลยนี่นา...

   แต่จู่ ๆ ก็มีแขนสอดเข้ามากอดผมจากด้านหลังพร้อมกับความอบอุ่นที่เข้ามาช้า ๆ  ผมยกมือลูบแขนนั้นเบา ๆ เหมือนเป็นระบบอัตโนมัติของร่างกาย

   “เฮ้ย... หึงเหรอวะ” มันว่าพลางโน้มตัวมาข้างหน้าเพื่อจะส่องหน้าผม “หึงเหี้ยไรเนี้ย  กูกับเพลงเนี้ยนะ  แม่งคิดได้เนอะ”
   “ก็มึงชอบมันนี่หว่า”
   “แค่ปลื้มเฉย ๆ เว่ย  กูเจอเวอร์ชั่นจริงเข้าไปให้เป็นแฟนแถมเฟอร์รารี่กูยังไม่เอาเลย”

   ผมหลุดขำกับประโยคนินทาคนอื่นของมัน  ปากกำลังจะเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยมานาน แต่พอนึกขึ้นได้ผมก็กลัวคำตอบมันขึ้นมา...

    ถ้ามันเป็นเพียงเรื่องที่ผมคิดไปเองฝ่ายเดียวล่ะ...

   ผมเลยเลือกที่จะเงียบแล้วดึงมือมันมาถูกับหน้าเล่น...  เหี้ย... ทำไมกูทำอะไรเหมือนคนโรคจิตแบบนี้วะ...
“ภคิน... แฟนเพลงนี่มันผู้ชายหรือผู้หญิงวะ” น้ำเสียงมันบ่งบอกมากว่าสงสัยเต็มประดา...
“ก็แล้วแต่ว่านักร้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ”
“เชี่ย... มุกมึงไม่ผ่านเว่ย!” เสียงแว้ด ๆ ของมันกลับมาอีกแล้ว “กูถามจริงจังนะเฮ้ย” ว่าแล้วผมก็หัวเราะกับท่าทีอยากสอดรู้ของมัน
   “โอ๋ ๆ ๆ  อย่าหน้างอ  ถึงสาวที่มึงเคยเล็งไว้จะโดนฉกไป  แต่มึงได้สิ่งที่มีคุณภาพเหนือกว่าอย่างกูเชียวนะ...  น่าดีใจจะตายเห็นมั้ย”
   “เออ... จะตายเลยเนี้ย” ว่าแล้วมันก็ตบหัวผมเข้าไปป้าบนึง...  อูยยยยยย  รุนแรงนักนะมึง... “แล้วตกลงบอกกูได้ยังว่าแฟนมันเป็นเพศไหนกันแน่”
   “ผู้ฉิงมั้ง” มันง้างแขนเตรียมจะฟาดผมสักป้าบ “โอเค... ไม่เล่นละ  แฟนมันก็ผู้ชายดิวะ  มันไม่ได้เป็นทอมซะหน่อย”
   “อ๋อเหรอออออออออออ...”


   วันรุ่งขึ้นผมกับไปป์ซิ่งไอ้เน่าไปตามนัด  ร้านจุดหมายของเราเป็นร้านนั่งดริ๊งบรรยากาศสบาย ๆ  ตกแต่งร้านด้วยหลอดไฟสีเหลืองในแท่งใสทรงกระบอกสว่างจ้าไปทั้งร้าน  ตรงกลางร้านมีแท่นเวทีวงกลมยกสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้นักดนตรีกำลังจูนเสียงกันหน้าดำคร่ำเครียด  ผมจูงมือไปป์เดินผ่านไปทิ้งตูดนั่งบนเก้าอี้บุหนังนิ่มสบายตูด  ไอ้เดอะแก๊งก็จ้องผมตาไม่กระพริบ

   “มองเชี่ยไรวะ”
   “กิ้ว ๆ  เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาโว้ยยยยยยยยยยยย” ไอ้โจ้ส่งเสียงแซวเหมือนสัมภเวสี
   “อะไรพัฒนา?”
   “แหม ๆ ...  เขาจูงมือกันเดินเข้าร้านเชียวนะ”
   ผมกระตุกยิ้มมุมปาก “เออ... มือนุ่มมาก”
   “ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววว~”

   เอาเลยพวกมึง... แซวกันซะให้พอ...  กูชอบ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  พอโดนแซวไอ้แห้งข้าง ๆ ผมมันก็หน้าแดงแปร๊ดดดดดดด  แต่ปากมันก็ยังไม่สิ้นอิทธิฤทธิ์

   “เสือกว่ะ!  ไอ้พวกไม่มีคู่เนี้ย” เอ้า... ด่าไปหน้าแดงไปอีกมึง  มันจะกลัวมึงมั้ยนั่น
   “ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยย! เดี๋ยวน้องเขาปีกกล้าขาแข็งนะคะพี่กัน”  ไอ้โจ้สวมมาดดัดเสียงกะเทยจิบปากจีบคอพูดได้น่ายันโครมมาก  แต่กูไม่ยันครับ... งานนี้มึงทำดีว่ะโจ้
   “ดูสิ ๆ  หน้าแดงเป็นพี่กี้เลยอะมึง  ฮิ้วววววววววววววว~” ลูกคู่มันทำงานกันเป็นทีมครับ...

   ไอ้อาร์ทนั่งเอนหลังหัวเราะเบา ๆ อย่างโรคจิตกับการละเล่นคล้ายโยนขี้ลงในบ่อปลาดุกให้แม่งเล็มไปคนละนิดละหน่อย  ส่วนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดอย่างฟาร์ก็เข้ามาร่วมด้วยช่วยฆ่าเพื่อนตัวเอง...

   จะว่าไปไอ้สองคนนี้มันไปกันถึงไหนแล้ววะ?  ผมคิดแล้วขมวดคิ้ว...  เรื่องของไอ้อาร์ทน่ะผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนักหรอก  มันทำอะไรไม่บอกใครอยู่แล้ว...  ไอ้ที่ว่าไม่บอกเนี้ย  หมายถึงไม่พูดนะครับ  ที่จริงถ้าถามมันก็ตอบนั่นแหละ แต่ผมมันไม่ใช่พวกชอบเสือกเรื่องชาวบ้านแบบคนแถวนี้ซะด้วยสิ (พูดให้ถูกคือไม่แคร์ใครเลยต่างหาก...)  วันนี้มาเห็นไอ้พระเอกละครคณะนั่งข้างเด็กหัวเห็ดมันเลยชักจะยังไงอยู่นะ...

   “พวกมึงหยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้” ไอ้เพลงตัวแม่ของงานกระแทกแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ “ไปป์! มึงแย่งซีนกูเหรอ...  คืนนี้มันงานสละโสดกูนะโว้ยยยยยย”
   “แย่งซีนอะไรเล่า!  โอ๊ยยยยยย... กูว่ามันชักจะไปกันใหญ่แล้ว  พอ! พอ! เลิกพูดเรื่องนี้... ใครพูดพ่อจะเอาปากฉลามฟาดแม่ง”
   “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...”

   ทุกคนบนโต๊ะระเบิดเสียงหัวเราะกับคำขู่ของมัน  ไปป์มันทำได้แค่โวยวายอ้าปากพะงาบ ๆ สองสามที...  จนคนอื่นเลิกล้อมันไปเองนั่นแหละ  แต่มันก็ยังไม่วายส่งสายตามันด่าทอผมที่ไม่ช่วยอีก...  เอ้า! กูสนุกอยู่  เรื่องไรจะช่วยวะ  อ๊อ... ขออวดนิดนึงเหอะครับ  เดี๋ยวนี้มันยอมให้ผมจับมือเดินแล้วน้า~  แต่เฉพาะบางเวลาที่มันเห็นสมควร (ไม่รู้มันเอาอะไรตัดสินเหมือนกัน)  เห็นมันปรับตัวเพื่อผมขนาดนี้แล้วก็อดจะแอบดีใจไม่ได้...

   วันนี้เป็นคืนวันที่ 31  วันสิ้นปีเหมือนสิ้นใจ... แทนที่กูจะได้สวีท (?) หวานแหววกับไอ้ไปป์อยู่บ้าน  แต่เสือกโดนไอ้เพลงลากมาแดกเหล้าตั้งแต่หัวค่ำ...  มันกลัวไม่เมารึไงวะแม่ง  วงดนตรีในร้านยังไม่ทันจะตั้งสายเลย

   เสียงพูดคุยดังโหวกเหวกไม่หยุด  ไอ้เพลงวันนี้ดูคึกกว่าชาวบ้าน...  จะว่าไปผมไม่คิดเลยแฮะว่ามันจะมีแฟนได้  เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ  ผู้ชายมาจีบมันแต่ละคนมันก็สลัดทิ้งด้วยวิธีเหี้ย ๆ ทั้งนั้น...  ผมเลยไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนบนโลกโชคร้ายแล้ว... แต่มันดันเสือกมี!  แถมยัง...  ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็น...

   “มึงว่าพี่เดียวดายเป็นหมีพันธุ์อะไรวะ!?” เหี้ยโจ้เปิดประเด็นเด็ดที่สุดของค่ำคืนนี้...
   “อืมมมมมมมมม...” ไอ้เพลงลูบคางอย่างใช้ความคิด “ดูจากลักษณะกูว่าหมีควาย”
   “นั่นมันดูจากสมองเว่ย”
   “ภคิน!  มึงเลิกด่าพี่เดียวกูเลยนะ  เชี่ย!”
   “เอ้า!  มึงไม่เห็นเหรอว่าวัน ๆ มันนั่งทำหน้าโง่ทั้งวัน”

   ไปป์มันเตะหน้าแข้งผมดังป้าบ...  แสรดดดดด  หน้าแข็งกูแหกพอดี...

   “จากที่กูได้วิเคราะห์กายภาพและองค์ประกอบทางเคมีแล้ว...” ไอ้กันยักมือลูบคางอย่างใช้ความคิด “กูว่า...หมีเล่นหวย”
   “กูว่าหมีปกหอย” อันนี้ข้อเสนอแนะจากคู่หูของมัน
   “หมีหอย” ไอ้กันไม่ยอมแพ้
   “หมีหัก”
   “หมีเสียบหาย”
   “หมี...”
   “เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เจ้าของหมีตบโต๊ะดังปังอย่างเหลืออด  งานนี้หมีไหน ๆ ก็ไม่ได้เกิด... “มึง! มึง! มึง! และมึง!” มันไล่ชี้หน้าทุกคนรอบโต๊ะ “ใครเสือกมาแตะพี่เดียวของกูมึงเจอดีแน่”

   “เหรอ...” ไอ้อาร์ทที่นั่งนิ่งมานานคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ ... “ผมว่าหมี...”

   ทุกคนกลั้นหายใจรอว่าแม่งจะยิงมุกอะไร...

   “หมีกริซลีย์” มันพยักหน้าแบบใช่... ต้องใช่แน่ ๆ ...“ดูจากลักษณะของขนที่ปกคลุมกับอุ้งเท้าแล้ว”
   “มึงเป็นวิทยาศาสตร์มากไอ้อาร์ท”
มันยิ้มบาง ๆ  “ก็ผมฉลาดนี่ครับ”
“มึงยิงมุกไม่ได้มากกว่า” ไอ้โจ้ถึงกับยอมไม่ได้ที่เพื่อนไม่ตบมุกให้  ถึงกับยกแก้วกระดกแก้เครียด
   “ผมยิงมุกไม่ได้” อาร์ทมันไหวไหล่ไม่แคร์ “แต่ยิงอย่างอื่นได้นะครับ...  จะลองมั้ยล่ะ”
   “ไม่ล่ะ... กูเกรงใจ”

   ฟาร์ที่นั่งข้าง ๆ ถึงกับลูบแขนตัวเองป้อย ๆ แก้ขนหัวลุก  แรก ๆ มึงยังไม่ชินครับเพื่อน อยู่ไปนาน ๆ แบบกูจะดีขึ้นเอง  นักดนตรีในร้านเริ่มบรรเลงบทเพลงส่งท้ายปีเปิดตัวแล้วค่อยเล่นเพลงของเขาไปตามปกติ  คนนั่งกันแน่นเต็มร้านเลยครับ  ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กมอผมที่เหลือรอดจากการกลับบ้านด้วยสาเหตุต่าง ๆ กัน  พ่อแม่ไม่เอา  เบื่อบ้าน  ตั๋วรถเต็ม  สุดท้ายแม่งก็ได้มานั่งหน้าสลอนกันเต็มร้าน...

   “ไอ้คิน” เพลงมันจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง “กูถามอะไรอย่างดิ๊”
   “อะไรวะ” ผมตอบมันพลางยกเหล้าขึ้นจิบ
   “ได้กันยัง”
   “เช้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด! เป็นผู้หญิงมาถามแบบนี้ได้ไงวะ!?” ประโยคนี้ไม่ได้มาจากปากผมครับ  ไอ้คนข้าง ๆ แม่งลุกขึ้นมาชี้หน้าไอ้เพลงเลย  เฮ้ย... เป็นผู้ชายทำแบบนี้ได้ไงวะ
   ไอ้เพลงมันไหวไหล่ไม่สนใจ “อยากรู้ก็ถาม... ไม่เห็นแปลกเลย”
   “โว้ยยยยยยยยยยยยยย!  กูจะไปเข้าห้องน้ำนะ  กูไม่สามารถนั่งร่วมโต๊ะได้ตอนนี้”
   “งั้นกูไปด้วย” ผมรีบลุกตาม
   “ไม่ต้อง!  ท่อเยี่ยวไม่ได้ติดกันเฟ้ย” แล้วทีมึงตะโกนคำว่า ‘ท่อเยี่ยว’ กลางร้านนี่ไม่มีอายมั่งเลยนะ...  มันรีบพาร่างแห้ง ๆ ของตัวเองเดินดุ่ม ๆ ไปที่ห้องน้ำด้านขวามือของร้านทันที

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   “เมียมึงไปละ...  ตอบกูได้ยัง” ไอ้เพลงนี่กูเข้าใจนะ  เพราะมันสงสัยมันเลยถาม  แต่ไอ้สามสี่ตัวที่ทำเป็นเนียนนั่งเงียบรอฟังคำตอบนี่มันอะไรกันวะ
   ผมส่ายหัวเอือม ๆ ก่อนจะตอบสั้น ๆ  “ยัง”
   “เชี่ยยยยยยยยยยยยยย!  ไร้น้ำยา!” ผู้หญิงคนเดียวของโต๊ะกรีดร้อง  กูอยากจะให้พ่อแม่มึงมาเห็นจริง ๆ ไอ้เพลง
   “เขาเรียกว่าสุภาพบุรุษโว้ยยยยยยยยยยยย”
   “อย่าไปเชื่อมัน” ไอ้กันโผเข้ามาดันหน้าผมออก “มันพยายามแล้วตั้งหลายรอบ  สุดท้ายแม่งก็ไม่รอด”
   “ไม่ได้เสียบซะทีเพื่อนกู”
   “ทำเป็นปากดีมึงก็ไม่เคยล่ะว้าไอ้โจ้!”
   “เพราะกูเป็นเพื่อนมึงน่ะสิ” ไอ้โจ้แสแสร้งทำปาดน้ำตากระซิก ๆ “เดินไปไหนแม่งก็ไม่มีคนมอง...  กูเป็นนักศึกษานะไม่ใช่วอลเปเปอร์”
   “มึงมันไม่ได้เรื่อง!” ไอ้เพลงโวยวายประหนึ่งมันเป็นคนรอกูไปเปิดซิงซะเอง “อยู่ห้องเดียวกันแต่แม่งไม่ได้กัน!  นี่มันยุคสมัยไหนแล้ววะ  ไม่เสียตัวในวัยเรียนได้ไงวะ”
   “กูฟังแล้วเครียดกับประเทศเลยว่ะ”
   “อย่ามาทำเป็นคนดี  ฟันหญิงมึงยังเคยเลย”
   “ไอ้ห่า! มันไม่เหมือนกันนี่หว่า”
   “มันก็ยัด ๆ เข้าไปเหมือนกันล่ะว้า...”

   ผู้หญิงสมัยนี้แม่ง... มีเมียเป็นผู้ชายซะยังดีกว่า...

   “ไม่ใช่แบบนั้นเว่ย...”

   ที่ว่าไม่เหมือนน่ะมันไม่ใช่เรื่องนั้น...  จริงอยู่ว่าแฟนกันก็ย่อมอยากกอด  อยากจูบ...  อยากมีอะไรกัน  ผมเองก็เป็นคนธรรมดาที่มีความรู้สึกแบบนั้น  มันไม่เกี่ยวอีกแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง  แต่อีกฝ่ายมันเป็นไปป์ต่างหาก...

   มันเป็น ‘ไปป์’ เชียวนะ  เป็นถึงขั้น ‘ไปป์’ เชียวนะ...

   เป็นสิ่งมีชีวิตที่คนอย่างภคินขาดไม่ได้ในชีวิต...  เกิดมันเจ็บ... มันโกรธแล้วหายไปจากชีวิตผม  แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะ?  จะยิ้มได้เหรอ...  จะหัวเราะได้เหรอ...

   ผมลุกขึ้นยืนตอนที่นักดนตรีสามคนบนเวทีชวนลูกค้ามาร้องเพลงด้วยกัน  ผมโบกไม้โบกมือส่งสัญญาณว่าจะขึ้นไปร้อง  แหม... วันสิ้นปีทั้งที  ขอกูทำอะไรโรแมนติกสักหน่อยเหอะ  การเดินขึ้นไปยืนบนเวทีของผมเรียกความสนใจจากคนในร้านได้ไม่น้อย  ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ... ไม่ต้องมาหมั่นไส้ผม  เขาเรียกว่ารับรู้ความจริงและยอมรับมันต่างหากล่ะ

   ผมรับกีต้าร์จากพี่ตัวสูง ๆ ก่อนจะลองสายนิด ๆ หน่อย  รอเป้าหมายที่ไม่รู้แม่งเดินไปเยี่ยวที่ซิมบับเวหรือไงก็ไม่ทราบได้  เยี่ยวจนท่อเยี่ยวไหลลงคอห่านไปแล้วมั้ง  เออ... นั่นไง  พอด่าปุ๊บมันก็เดินดุ่ม ๆ ออกมาจากห้องน้ำเลย...


http://www.youtube.com/v/8dPZERw3KOM?version=3&amp;hl=th_TH


อยากชวนให้เธอมาหอมปากหอมคอ
และนั่นมันคือความรักที่ฉันต้องการ
ก็ยังไม่ชัวร์ว่าฉันจะทนได้นาน
ก็ยังไม่ลองจะรู้ได้ไง  ว่าอันที่จริงไอ้การหอมปากหอมคอ
จะหยุดทุกอย่างให้มีแค่ฉันกับเธอ  กับเราสองคน
อย่ามองว่ารักอยู่ไกล  อย่าไปวกวน  อย่าไปรีบร้อนกระวนกระวาย


   ผมเหลือบมองใบหน้าน่ารัก ๆ ที่เหวอขึ้น  เพราะอยู่ ๆ ผมก็แม่งมานั่งร้องเพลงจีบมันบนเวทีหน้าตาเฉย  ผมยักคิ้วกวน ๆ ให้มันทีนึงก่อนจะลงมือดีดสายแรง ๆ

แต่ฉันรักเธอ  อยากทำความรักของเราให้มีความหมาย
อยากกอดเธอไว้นาน ๆ  อยากสัมผัสร่างกาย
แต่ไม่อยากทำร้ายอารมณ์อ่อนไหว


   ผมยกนิ้วชี้ไปทางมันแล้วตะโกนร้องเสียงดัง

ให้ความรักของฉันเป็นเรื่องสำคัญ  บอกว่ารักแค่นั้นไม่ต้องใกล้กัน
เอาเพียงแค่หอมปากหอมคอเท่านั้น  อย่าเร็วใจมันตามไม่ทัน
อย่าเพิ่งแตะฉัน  ต้องฉันคงไม่ช้าไป
วันพรุ่งนี้ที่สองเราลองเข้าใจ  ตัวของเราห่าง  หัวใจไม่ห่างไกล
แม้จะนานแค่ไหนแค่เพียงเธอพร้อมวางใจไปด้วยกัน


   ไปป์มันสะดุ้งเพราะสายตาคนทั้งร้านหันควับไปที่มันโดยมิได้นัดหมายไว้  มันขยับปากด่าผม ‘ไอ้เหี้ย’ ทั้ง ๆ ที่ใบหน้าขึ้นสี

ก็เคยได้ยินว่าหอมปากหอมคอ
ก็คือแค่กำลังสวยกำลังงดงาม
ไม่หนัก  ไม่เบา  ไม่น้อย  ไม่ต้องวู่วาม
ไม่เผ็ด  ไม่เดือด  ไม่ร้อน  ค่อยเป็นค่อยไป
ตกลงว่าเราจะหอมปากหอมคอ
นั่นคือวิธีที่ดีของฉันกับเธอ  กับเราสองคน
อาจทำให้ฉันอยู่ไกล  และเธอทุกข์ทน  อาจไม่ใช่รักที่ทันสมัย


   “แต่ฉันรักเธอ!” ไอ้ลูกคู่ที่โต๊ะตะโกนแซวเสียงดัง  บิลด์จนคนบางคนจะดำดินหนีไปแล้ว...

อยากทำความรักของเราให้มีความหมาย
อยากกอดเธอไว้นาน ๆ  อยากสัมผัสร่างกาย
แต่ไม่อยากทำร้ายอารมณ์อ่อนไหว


   “เอ้า! ช่วยร้องให้หน่อยสิครับ” คนในร้านแม่งก็บ้าจี้ร้องตามกันใหญ่

ให้ความรักของฉันเป็นเรื่องสำคัญ  บอกว่ารักแค่นั้นไม่ต้องใกล้กัน
เอาเพียงแค่หอมปากหอมคอเท่านั้น  อย่าเร็วใจมันตามไม่ทัน
อย่าเพิ่งแตะฉัน  ต้องฉันคงไม่ช้าไป  วันพรุ่งนี้ที่สองเราลองเข้าใจ
ตัวของเราห่าง  หัวใจไม่ห่างไกล
แม้จะนานแค่ไหนจะรอวันนั้น  ในวันที่ฉันและเธออาจพร้อมวางใจไปด้วยกัน


   “เอ้า... One  Two Three... ชะ!”

ให้ความรักของฉันเป็นเรื่องสำคัญ  บอกว่ารักแค่นั้นไม่ต้องใกล้กัน
เอาเพียงแค่หอมปากหอมคอเท่านั้น  อย่าเร็วใจมันตามไม่ทัน
อย่าเพิ่งแตะฉัน  ต้องฉันคงไม่ช้าไป  วันพรุ่งนี้ที่สองเราลองเข้าใจ
ตัวของเราห่าง  หัวใจไม่ห่างไกล  แม้จะนานแค่ไหนจะไม่หวั่นไหว


   ผมจ้องเข้าไปในตามันแล้วเปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำ

“จะรอวันนั้นที่ใจเธอพร้อม  จะลองกอดฉัน  จะรอจูบนั้น...”

ผมคลี่ยิ้มบาง ๆ ตอนที่มันประสานสานตาด้วย “รักเธอมากกว่า... นั้น”

   “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววว” เอาเลย!  จัดไปอย่าให้เสียไอ้ลูกน้อง  คู่หูนรกแตกมันรีบปรบมือส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด (ทำไมไอ้เพลงที่เป็นผู้หญิงมันไม่กรี๊ดวะ... กูไม่เข้าใจ)

   นอกเหนือจากเสียงกรีดร้องของไอ้โจ้ (เหี้ยนี่ให้ร้อยเล่นเป็นแสน) ก็ยังมีเสียงพึมพำที่ลอยเข้าหูผม...  ไอ้พวกแบบ  กูว่าแล้วกูเคยเห็น...  แม่งเดือนมหาลัยเป็นเกย์จริง ๆ ด้วยว่ะ  ผู้ชายไม่เหลือบนโลก  เสียดายว่ะ (ถามกูบ้างกูเสียดายมึงมั้ย?)  เออ... มึงลือกันไปถึงสามโลกเลยนะ  ไม่ได้ทำให้กูรู้สึกแย่เลย

   ส่วนไอ้จำเลยรักมันก้มหน้างุด ๆ เดินออกร้านไปแล้ว  ผมเห็นใบหูเล็ก ๆ นั่นแดงแจ๋เลย  มันคงเขินจนไม่กล้านั่งในร้านต่อ  ผมเอากีต้าร์คืนให้พี่นักดนตรีที่ยังมึน ๆ งง ๆ ว่านี่มึงมายืมร้องเพลงจีบผู้ชายเหรอ  แล้วสองขาก็วิ่งออกไปนอกร้าน  โดยไม่ลืมบอกไอ้เดอะแก๊งค์ที่ยังกรี๊ดเหมือนโดนน้ำกรดสาดว่าผมจะกลับบ้านก่อนแล้ว  และขอให้ไอ้เพลงโชคดีกับคนนั้นของมัน...

   วิ่งออกมาหน้าร้านแต่กลับไม่มีวี่แววของคนที่มองหา  แม่ง... ไวอย่างกับปรอท  สอดส่องสายตาหาก็ยังไม่เจอ...  เฮ้ย ๆ  ไม่ใช่ว่าติดล้อรถบรรทุกไปแล้วนะมึง

   ไม่ใช่ว่ามันโกรธผมหรอกนะ...

   พอนึกมาถึงตรงนี้ผมก็หางลู่หูตกอย่างบอกไม่ถูก  ไปป์มันไม่ชอบให้ทำตัวรุ่มร่ามในที่สาธารณะซะด้วย  พอคิดได้แบบนี้ผมก็เริ่มวิ่งออกมาจากหน้าร้าน...

   พลั่กกกกกกกกกกกกกกกก

   “ไอ้ภคิน! ไอ้เชี่ยยยยยยยยย!”

   โดนจู่โจมจากด้านหลังครับ  ไอ้แห้งที่กำลังหาตัวอยู่วิ่งมาถีบตูดผมเข้าไปเต็มตีน  ไม่พอแม่งยังจับมาตีเข่าอีก...  ดูจากใบหูสีแดง ๆ นั่นก็รู้แล้วว่ามันเขินจะแย่  แทบจะระเบิดตัวเองตายแล้ว

   “เฮ้ย ๆ ... พอแล้ว  เจ็บนะเว่ย  เอากระดูกมาแทงเนี้ย”
   “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก...  มึงมัน...  แม่งเอ๊ยยยยยยยย!” มันเอาสองมือกุมหน้าไว้  แต่ปากยังตะโกนด่าผมไม่เลิก  มันมีปากเป็นอาวุธไม้ตายจริง ๆ เว้ย
   “โอ๊ย ๆ ๆ” ผมหลบเท้าที่หวดมาเตะหน้าแข้ง “อะไรวะ... จะโรแมนติกซะหน่อย... มึงไม่ชอบเหรอ”

   แสร้งทำท่าน้อยใจนิด ๆ จนอีกคนมันยอมหยุดเท้าเอาไว้...  แล้วค่อย ๆ เสสายตาหลบผม...

   “อะไร... โกรธเหรอ...” คราวนี้ผมรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาในใจเลย...  จริงอยู่ว่าผมไม่แคร์คนทั้งโลกแต่กับคนตรงหน้านี่มันไม่ใช่...

   ผู้ชายตัวผอม ๆ ตรงหน้าลงไปนั่งยอง ๆ ซบหน้าลงกับหัวเข่า  ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปล๊บกว่าเดิม...  ถ้าไม่ใช่ว่า...

   “เปล่า... กูเขิน”
   “ฮะ!?... อะไรนะ?”
   “เชี่ย!  ก็บอกว่ากูเขิน  จะให้พูดอะไรหลายรอบวะ  ไม่ได้แคะขี้หูรึไง!”

   ผมระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นกับประโยคนั้น  แม่ง... ตะโกนขนาดนี้แม่ค้าส้มตำหน้าปากซอยแกยังรู้เลย  ผมก้าวไปหยุดตรงหน้ามันก่อนจะก้มลงมานั่งยอง ๆ ให้อยู่ในระดับเดียวกัน  บรรยากาศตอนนี้แทบไม่มีรถเพราะร้านอยู่ในซอยเล็ก ๆ  คนที่เข้ามาก็นั่งสลอนเป็นพยานรักให้ผมเมื่อกี้อยู่ในร้านกันหมดแล้ว

   ผมตะปบหน้ามันเบา ๆ บังคับให้เงยหน้าขึ้นมาสบสายตาด้วย  ใบหน้าน่ารัก ๆ นั่นยังดูสดใสแม้ว่าจะมีแค่แสงจากเสาไฟฟ้าข้างทางเท่านั้น  ผมอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อลูกตาดำของมันยอมเลื่อนมาสบด้วยเสียที...

   ทำไมนะ... ทำไมมันถึงได้เป็นคนแบบนี้...

   ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลก...  คิดว่าคงจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตอีกแล้ว...

   ผมหลับตาลงนึกภาพของแฟนเก่า... กับประโยคนั้นที่ยังรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลา...

‘แอมขอบอกอะไรไว้สักอย่างนะ  ที่แอมขอคินเป็นแฟนน่ะไม่ใช่ว่าเพราะคินเป็นคนดีอะไรหรอกนะ  แต่เพราะคินดังมาก  คินมันก็มีดีแต่หน้าตา!  นิสัยห่วยแตก!  คนอย่างคินน่ะไม่มีวันที่ใครจะมารักหรอก!

   ไม่มีงั้นเหรอ...

   ปลายนิ้วผมเกลี่ยเบา ๆ ที่ข้างแก้มนิ่มที่บัดนี้ขึ้นสีเรื่ออย่างน่าจับมาจูบซ้ายทีขวาที...  ความรู้สึกเหมือนมีดอกไม้เบ่งบานในใจนี่มันอะไรกันวะ  ทำอย่างกับกูเป็นสาวน้อยแรกรักไปได้...

   “กูมีอะไรจะบอก...  ฟังให้ดีนะ  เพราะกูจะพูดเบา ๆ”
   “แล้วทำไมมึงไม่พูดให้ดังวะ” ผมเกือบหลุดหัวเราะให้เสียบรรยากาศโรแมนติก  ไอ้แห้งนี่สามารถต่อปากต่อคำกับผมได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ ว่ะ... นับถือยิ่ง!

   แต่ก็ไอ้ผู้ชายตัวผอม ๆ เก้งก้างคนนี้ไม่ใช่เหรอที่คอยอยู่กับผมมาตลอด...  คอยกุมมือในวันที่ไม่มีใคร  คอยนอนหายใจข้าง ๆ กันทุกคืน  คอยทำนู่นนี่ให้คนไม่เอาไหนอย่างผม  คอยปลอบในยามที่ร้องไห้

   คอยสอนให้ผมได้รู้จัก...

   “กูไม่เคยบอกประโยคนี้กับใครเลย...  ตอนนี้กูจะขอใช้กับมึงเป็นคนแรก  และคนสุดท้าย”

   ผมเคลื่อนตัวเข้าไปช้า ๆ ในท่าที่เรานั่งยอง ๆ บนพื้นถนนทั้งคู่  ก่อนจะกระซิบ...




   “กูรักมึง!”

   ครับ... กระซิบเสียงดังมาก...

   แมวจรจัดที่เดินผ่านมาถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้ววิ่งหนีไป  ไม่ต่างจากไปป์ที่มันหลับตาพริ้มให้ผมตะโกนเข้ารูหูหรอก  เพียงแต่ว่ามันทำได้แค่สะดุ้ง  ไม่ได้วิ่งหนีไปไหน  แต่ผงะจนลงไปก้นจ้ำเบ้าอยู่บนพื้น...

   “หะ... เหี้ยเอ๊ย!  พูดเสียงดังทำไมวะ” มันโวยวายเสียงดังไม่แพ้กัน  เออดี... ถ้ามีลูกได้  กูว่าลูกเราคงเป็นนักร้องได้  เสียงมีพลังชิบหาย...
   “อ้าว...  ก็มึงบอกว่าให้พูดดัง ๆ อะ  กูก็อุตส่าห์จัดให้”
   “ไอ้เวรเอ๊ย!  มึงไม่ซื้อโทรโข่งมาประกาศเลยล่ะ”
   “จะเอามั้ยล่ะ?” ผมยักคิ้วกวน ๆ ให้  อีกฝ่ายเลยได้แต่ด่าต่อเป็นคอมโบเซท...  อืม... ด่าได้ด่าไป  กูสนมั้ยล่ะ?

   ผมรู้หรอกว่ามันด่าแก้เขิน  เพราะพอมันด่าจนไม่รู้จะเอาอะไรมาด่าต่อมันก็ก้มหน้าลง  แต่ข้างแก้มยกขึ้นสูง...  ผมรู้น้า...  ว่ามันแอบยิ้มอยู่น่ะ  โอ๊ย! แม่งจะน่ารักเกินไปแล้วนะโว้ย!

   ผมเขยิบเนียน ๆ เข้าไปใกล้ ๆ มัน...

   “เอ้า!  อ้าปากค้างทำไม  สถานการณ์แบบนี้นางเอกต้องตอบกลับว่า ’ไปป์ก็รักคินเหมือนกันนะ’ ไม่ใช่เรอะ”
“ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย” มันจ้องหน้าผม
    “ชีวิตจริงมันยิ่งกว่านิยายหรอกเว่ย...” ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ  เสี้ยววินาทีนั้น... ไปป์ยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บเร็ว ๆ ที่ริมฝีปากผมแล้วผละออกไปแทบจะในทันที  มันก้มหน้าหลับตาปี๋...  แก้มขาว ๆ สองข้างขึ้นสีเรื่ออย่างชัดเจน...

พระเจ้า!  นี่มันวันอะไรกันวะเนี้ย!?

ผมช็อกจนเลือดแทบไปเลี้ยงสมองไม่ทัน...  เพราะไม่มีสักครั้งที่มันจะจูบผมก่อน  พอตั้งสติได้ผมเลยรีบคว้ามันเข้ามากอดแน่น ๆ แล้วซุกหน้าลงไปกับบ่ามัน  รู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจเลยล่ะ  เหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ...  ผมมีความสุขจริง ๆ  ยิ่งเวลาได้สูดดมกลิ่นหอม ๆ จากแชมพูที่ผมเลือกให้ยิ่งทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น...

รู้สึกดีเกินไปแล้ว...

แอบยกมือลูบริมฝีปากตัวเองเบา ๆ เหมือนเป็นการย้ำเตือนว่าผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ?  แต่ความรู้สึกร้อนผ่าวเสี้ยววินาทีนั้นยังตราตรึงอยู่ในหัวผม...  พอมองไปป์ที่เอาแต่หลับตาปี๋ก้มหน้ามองพื้นแล้วก็อยากจะจับตัวมันมาฟัดให้ไส้ไหลออกมาซะจริง ๆ ...  หมั่นเขี้ยวว่ะ!

   “ภคิน...” ผมกอดมันแน่นขึ้นตอนที่ได้ยินชื่อเรียกนั้น “กูแม่งก็ไม่เคยบอกมึงเหมือนกันว่ะ”
   “บอกอะไร”
   “ไม่เอา...  ไม่บอกละ  อยู่ ๆ กูก็เขินว่ะ” มันซุกหน้าอู้อี้กับอกผม...  พอตั้งตัวได้ก็เขินเป็นซะอย่างนั้น...
   ผมผละออกแล้วคว้าบ่ามันไว้ให้จ้องหน้ากันจัง ๆ  “บอกมาเร็ว!”
   “ไม่บอกโว้ย!”
   “จะบอกไม่บอก”
   “อะไรวะ...  ของแบบนี้มีบังคับกันด้วยเหรอ” กูบังคับตั้งแต่ตอนขอมึงเป็นแฟนแล้ว...  ยังไม่ชินอีกรึไงวะ
   “ไม่รู้ล่ะ  มึงพูดเปิดไว้แล้วไม่มาต่อยอดได้ไง  มันค้างเว่ย”
   “ก็ค้างไปดิ...”
   “ไปป์...”
   “ภคิน...”
   “ไปป์...” ผมกดเสียงต่ำกว่าเดิมเพื่อข่มขู่
   “เรียกทำไม... จำชื่อตัวเองได้เว่ย”
   “กูให้เวลา 3 วินาที...  ไม่พูดกูจะสูบไปป์ตรงนี้แหละ” งานนี้กูมีแต่ได้กับได้ครับ...
   “เสพสารเสพติดในที่สาธารณะระวังตำรวจจับนะเว่ย  แหะ ๆ ๆ”
   “หนึ่ง...” ผมเริ่มนับด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม...
   “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย!  อย่าเพิ่งนับดิ” มันเริ่มหน้าเสียครับ... เพราะมันรู้ว่าผมเอาจริงแน่ ๆ
   “สอง...”
   “อีฟตุ๊บ ๆ ไว้ก่อน” มันว่าแล้วก็ไขว้นิ้วโชว์ให้รู้กติกา  ว่าแต่คนไร้อารยะธรรมอย่างผมไม่รู้จักคำว่ากติกาซะด้วยว่ะ...
   “สะ...”

   “เออ! รักเหมือนกันเว่ย!”

   คราวนี้ผมเองซะอีกที่เป็นฝ่ายตะลึง...  ไม่คิดว่าคนปากแข็งอย่างมันจะยอมพูดจริง ๆ ...  ถึงมันจะไม่พูดแต่ผมก็รู้อยู่แล้วว่ามันรักผมแค่ไหน...  ถึงได้ยอมทำทุกอย่างเพื่อผมขนาดนี้...  แต่พอได้ยินคำนี้ชัด ๆ มันยิ่งทำให้รู้สึกดีจนแทบจะระเบิดตัวเองตายมันตรงนี้  หัวใจที่เต้นตุบ ๆ เหมือนจะหลุดออกมาข้างนอกเลย  ซึ่งคาดว่าคนที่บอกก็มีอาการไม่ต่างกันหรอก...
   
   มันก้มหน้ามองพื้นอยู่อย่างนั้น...  จนผมต้องเป็นฝ่ายขยับเข้ามาจูบลงเบา ๆ ที่หน้าผาก...  ที่จริงก็อยากทำมากกว่านี้แหละ  แต่สถานที่มันไม่เอื้ออำนวย...  ผมเลยฉุดแขนมันให้เดิมตามไปที่รถมหัศจรรย์อย่างไอ้เน่า...

   “กลับไปเคาท์ดาวน์ที่ห้องเราดีกว่าเนอะ” ผมว่าพลางสวมหมวกกันน็อกลงบนหัวยุ่ง ๆ นั่น
   “เออ...  น่าจะไปตั้งนานแล้วแม่ง  มายืนผิดผีข้างถนนทำไมวะเนี้ย” มันบ่นอุบอิบ “มีใครมันบ้ามาบอกรักกันข้างทางจนแมวสะดุ้งแบบนี้มั้ยวะ”
   “ไม่มี...” ผมยักไหล่ “กูมันคนพิเศษไง”
   “มึงมันหลงตัวเอง!”
   “แต่มึงน่ะ... คนพิเศษของคนพิเศษ” ผมเขกหัวมันผ่านหมวกกันน็อกเบา ๆ “มึงแม่งโคตรโชคดีเลยว่ะ”
   “พล่ามพอรึยัง  จะได้กลับห้องกันซะที”

   แนะ ๆ ...  ทำเป็นบ่นกลบเกลื่อนความเขิน  คิดว่ากูไม่รู้รึไงเนี้ย  ใจจริงก็อยากจะแกล้งแหย่ให้มันเขินเล่นต่อหรอกนะ  แต่ตอนนี้ผมอยากกลับไปนอนฟัดไอ้แห้งนี่เล่นซะแล้วสิ  เลยได้แต่ขึ้นควบไอ้เน่าแล้วบึ่งรถออกไป...



   2012 โลกจะแตกก็ช่างหัวมันสิ...

   แค่ได้ยืนข้าง ๆ กันตรงนี้..  .ชีวิตนี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว...





TBC


กลับมาแล้วค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
HAPPY NEW YEAR 2012 นะคะทุกคน
หายไปนานเลย  ตอนนี้เลยจัดเต็ม....ยาวสุดๆไปเลย  ที่มาช้าเพราะตอนแรกเขียนเก็บไว้กะจะโพสช่วงสอบ แต่มีการปรับก็เลยลบเขียนใหม่หมด  จึงเวิ่นเว้อดองเกือบข้ามปีอย่างที่เห็นค่ะ/ก้ม/
ขอให้ปีใหม่เป็นปีที่ดียิ่งขึ้นไปอีกนะคะ  รักคินรักไปป์ให้มากๆนะคะ(อะไรของเมิงงงงงงง)
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รักเธอเสมอมิ่งขวัญ :กอด1:

PS.ของขวัญปีใหม่สำหรับทุกคนค่ะ(เผื่อบางคนยังไม่เห็นในแฟนเพจ)  คินแอบขโมยมาให้....



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2012 00:32:59 โดย Indigo »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด