Room 44
มันเป็นเกมส์นรกชัดๆ!!!!!! “ไปป์คร้าบบบบบบบบบบบบ....คินคิดถึงไปป์จังเลย ไหนมาหอมต้อนรับสามีหน่อยเร๊ว”
การเปิดประตูอย่างเริงร่านี่มันอะไรกันว้อยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! ผมมองภาพไอ้พระเอกที่ดี๊ด๊าเกินความจำเป็นกระโจนเข้ามากอดจนผมแทบเซกลิ้งขลุกๆลงไปกับพื้น
“ภคิน...เอ๊ย!!!! คินปล่อยได้แล้วน่า”
“วันนี้เงินเดือนออกด้วย ไปกินข้าวนอกบ้านกันนะครับ” ว่าแล้วมันก็ซุกหน้าลงฟัดคอผมไปมา อ้ากกกกกกกกกกกก....ไอ้หมาบ้าเอ๊ย!!!!!!
“คิน....เอ่อ...กะ...เอ๊ย!! เราว่าเราเลิกเล่นเกมส์นี้กันแล้วดีมั้ย”
มันขมวดคิ้ว “อ้าว..ทำไมล่ะ เพิ่งเล่นได้3วันเองนะ อีกอย่างไปป์เป็นคนตกลงเล่นเองนะครับคนดี” มันว่าพลางบีบจมูกผมเล่น แต่ไอ้คำพูดที่ออกมาเนี้ยหวานเลี่ยนชวนสำรอกซะไม่มีล่ะ....
......โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย....แค่ฟังก็ขนลุกแล้ว.....เอาล่ะ เพื่อความเข้าใจเราจะตัดภาพกลับไปที่สามวันก่อน ก่อนที่หายนะจะเริ่มต้นขึ้น.....
“ห้ามพูดคำหยาบหนึ่งอาทิตย์.... ใครแพ้ต้องทำตามที่อีกฝ่ายต้องการ” ผมเลิกคิ้วกับคำท้าประหลาดๆนั่น “แล้วทำไมกูต้องเล่น?”
ไอ้พระเอกดีดนิ้วก่อนจะเริ่มทำสีหน้าจริงจัง “ก็ไหนๆมึงก็ไม่พอใจที่กูซกมก ส่วนกูก็ไม่พอใจที่มึงไม่ยอมเรียกชื่อเล่น งั้นมาพนันกันดีกว่า..... ถ้าใครชนะอีกฝ่ายก็ต้องยอมทำตามที่บอก”
“แล้วทำไมต้องแข่งห้ามพูดคำหยาบวะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ถนัด”
“กูก็ไม่ถนัดเหมือนกันนั่นแหละ.....อย่าบ่นมากเลย ถ้าอีกฝ่ายพูดคำหยาบให้มาจดใส่ไวท์บอร์ดที่แขวนอยู่ข้างประตูห้องนอน ตกลงตามนี้นะ”
“ไม่เอา!!!!ไม่เล่น!!!!!!!” ผมตอบแทบจะเป็นเสียงตะโกน
“เออ...เล่นๆไปเหอะน่า เอางี้ถ้ามึงหลุดคำหยาบกูจะสูบไปป์หนึ่งที” ดูเงื่อนไขมันสิ......
“อ้าว...แล้วถ้ามึงหลุดละ”
“กูยอมให้มึงสูบคินก็ได้” ทำไมกูฟังแล้วมึงมีแต่ได้กับได้วะ.... แล้วคินนี่มันยาสูบประเภทไหนทำไมกูไม่เคยได้ยิน???
“ไม่เอา!!!!!!!!!! เลิกๆไม่เล่นเว่ย!!!!!!!!!!!!”
“โอเค!!! ตกลงตามนี้นะ....งั้นกูจะนับถอยหลังเริ่มเกมส์แล้ว 5....4.....3.....2......1 เริ่มได้!!!!”
“เหี้ยไรเนี้ย ไม่เล่น!!!”
เท่านั้นแหละผมเจอบทลงโทษแรกไปเรียบร้อย โดนสูบวิญญาณไปแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วหลังจากนั้นถ้าผมง้างปากพูดคำหยาบเมื่อไหร่ก็โดนทุกที ไม่รู้แม่งหูทิพย์มากจากสวรรค์ชั้นไหน ตอนนี้เลยทำได้แค่ไหลตามน้ำไปกับมันให้พ้นอาทิตย์เท่านั้น...
เออ....ว่าแต่มึงเคยบอกกูว่ามึงไม่ถนัดไม่ใช่เรอะ.....แล้วนี่มันอะไรกัน.... “ดูสิครับ....กุ้งของโปรดไปป์เลยนะครับ คินแกะให้เลยเนี้ย”
แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...กูไม่ชินว้อยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!! ขอกูด่าในใจหน่อยเหอะ ไอ้เผด็จการ ไอ้ตอแหล ไอ้สร้างภาพ ไอ้เปรต ไอ้%*^))()*#@$#$#^%&%^*$#$^%&%*^*^&(()_ โอ๊ยยยยยยยยย เก็บกดโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!
ผมนั่งจ้องตามันในร้านสเต็กที่แอบไกลจากหอนิดหน่อย ตัวร้านเป็นลานกว้างๆไม่มีผนังคล้ายเพิงขนาดใหญ่ บรรจุด้วยนักศึกษาผู้หิวโหยหลายร้อยชีวิต โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเป็นแถวเรียงกันได้องศาเป๊ะๆ เสียงพัดลมระบายอากาศด้านบนทำงานอย่างต่อเนื่อง ร้านนี้เป็นร้านเสต็กบุฟเฟต์ยอดนิยมของเด็กมหาลัยผมเลยล่ะ เพราะราคาไม่แพง แถมยังมีของให้เลือกตักเยอะมาก เรียกได้ว่ากินกันจนควายอิ่มเลยทีเดียว......
วันนี้ไอ้พระเอกอารมณ์ดีสุดๆ ด้วยสาเหตุสองประการ ประการที่หนึ่งคือเงินเดือนออก ประการที่สองคือมันได้แกล้งผม....
“โอ๊ะๆ.....กินเลอะ” ว่าแล้วทิชชู่สีขาวก็ป้ายผ่านปากผมดังปื๊ด.....อื้อหือ.....เก็บปากกูไปพร้อมทิชชู่เลยมั้ยแสรดดดดดดดดดดดดดดดด
“ไม่ต้องก็ได้....เช็ดเองเป็น”
“ไม่ได้หรอก แฟนใครใครก็ต้องดูแล....จริงมั้ยครับ” ว่าแล้วมันก็ยิ้มหวานจนผมขนหัวลุกแทบหลุดร่วง ผมรู้โดยสัญชาติญาณว่ามันไม่ได้อยากจะอี๋อ๋อพูดคำหวานเลี่ยนกับผมหรอก ไอ้ที่ทำอยู่น่ะมันสะใจที่ได้แกล้งผมหรอก!!!!!
“ไม่เป็นไร ไม่ได้เป็นง่อย”
“ขอโทษครับ.....เห็นชอบเบ้ปาก นึกว่าง่อย”
“สัส....อุ๊บ!!!“
“เก็บไปหนึ่งแต้มนะครับ กลับบ้านผมรวบยอดเอง” มันเดาะลิ้นอย่างอารมณ์ดี เห็นแล้วก็อยากจะตัดลิ้นทิ้งมันซะเดี๋ยวนี้ จะได้ไม่ต้องเอายัดเข้ามาในปากกู มือข้างที่ถือมีดหั่นสเต็กอยู่สั่นอย่างเก็บอาการไว้แทบไม่อยู่....
ก็รู้อยู่หรอกว่าแค่เรียกชื่อเล่นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย แต่ผมไม่อยากเรียกนี่นา.....ถึงเหตุผลมันจะดูงี่เง่าไปหน่อยก็เถอะ..... เวลาเรียกมันว่า ‘คิน’ ทีไรผมก็มีภาพวาบเข้ามาในหัวทุกที....
‘คิน....แอมมาหาแล้วนะ คิดถึงจังเลยค่ะ’
ภาพอดีตแฟนกันแฟนคนปัจจุบันมันวาบเข้ามาในหัว สมัยเรียนสองคนนี้ตัวติดกันอย่างกับอะไรดีที่ไหนมีคินก็ต้องมีแอม ที่ไหนมีแอมก็ต้องมีคิน ....แล้วมันผิดด้วยเหรอที่ผมไม่อยากเรียกชื่อซ้ำแบบแฟนเก่าน่ะ....
....รู้ว่าไร้สาระ....แต่มันอดคิดไม่ได้นี่นา..... “เหม่ออะไรน่ะหือ....” มันเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาบีบจมูกผมแล้วดึงไปมา
“...ไม่มีอะไร แล้วนี่เมื่อไหร่จะจ่ายตัง อยากกลับห้องแล้ว”
“ไม่กลับ...จนกว่าจะบอกว่าเป็นอะไร” นั่นไง....โรคความดันทุรังสูงมันมาอีกแล้ว คราวนี้มันทำหน้าจริงจังแล้วนั่งท้าวคางจ้องหน้าผมเลย...
“เออ...งั้นถามเลยละกัน ทำไมต้องอยากให้เรียกชื่อเล่นด้วย”
“ก็ชอบอ่ะ!! เรียกคินแล้วมันดูเหมือนแฟนกันดีออก” นั่นไง....มันเริ่มเผยสันดานไม่มีหางเสียงมาละ
“เหอะ....เหมือนที่แอมเรียกอ่ะนะ” คราวนี้มันเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะหัวเราะออกมาลั่นร้าน ไอ้เวรนี่มีอะไรน่าขำวะ ผมเลยก้มลงไปแซะรองเท้าผ้าใบที่ตีนเตรียมเอามาอุดปากมัน
“ทำไม...หึงเหรอ”
“ไม่ใช่ว้อยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!”
“เก็บไปอีกหนึ่งแต้ม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” กูว่าแค่รองเท้าไม่พออุดปากซะแล้วมั้ง.... แถมตีนกูด้วยเลยดีมั้ย
“โห...อะไรครับทำหน้างอทำไม คินล้อเล่น” มันก็เอื้อมมือมาดึงแก้มผมเล่นแต่ผมปัดออกด้วยความไม่พอใจ..... อะไรไม่ได้งอนนะ.....ไม่ได้งอนจริงๆ!!!!!!!
“พอแล้ว....ไม่พูดแล้ว มะ...” กำลังจะ ‘แม่ง’ แต่กลืนอากาศลงคอได้ทัน “รีบๆกินไป...อิ่มแล้ว”
“หึงจนตรอมใจกินอะไรไม่ลงเลยล่ะสิ”
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!....กูใกล้จะบ้าแล้วหมาในปากมันตะกุยลำคอซะจนเป็นแผลอยากจะปล่อยออกมาเดินเพ่นพ่านแทบแย่ มึงจะเล่นงี้มึงเย็บปากกูเลยง่ายกว่ามั้ย!!!!!! “อ๊ะ....สงสารให้สามนาทีพูดตามสบาย”
“เออ....แม่งเอ๊ย ใจจะขาดตายแล้ว!!!!” ผมพูดเหมือนคนไข้เพิ่งได้ออกซิเจน
“กูก็เหมือนกันว่ะ”
“ไม่ต้องมาตอแหล กูเห็นมึงพูดซะคล่องเป็นล่องน้ำเชียวนะ ได้ทีเล่นงานกูเลย”
“ฮ่าๆๆๆๆ ฝึกไว้เว่ย....ภาษาบอกชาติตระกูลนะมึง”
“กูเอาไว้คุยกับคนที่อยากคุยเว่ย กับมึงไม่ต้อง”
“แล้วนี่มึงจะเถียงกูเรื่องนี้อีกนานมั้ย” มันก้มมองนาฬิกาข้อมือ “หมดไปหนึ่งนาทีแล้ว”
“เออ!!! งั้นกูบอกเลยละกันว่ากูไม่เล่นเกมส์ปัญญาอ่อนนี้แล้ว”
“งั้นหน้าที่ซักกางเกงในกูก็ตกเป็นของมึงโดยปริยายนะ”
“ไอ้โสโครกเอ๊ย!!!!! ทำไมแค่ซักผ้าเองทำไม่เป็นรึไงวะ”
แต่คราวนี้ไอ้พระเอกทำหน้าจริงจังใส่ผม ดวงตาเรียวนั่นที่จ้องลึกเข้ามาทำให้ผมหยุดชะงัก มันเหมือนจะมีอารมณ์บางอย่างซ่อนอยู่ในใจ.... ไม่รอให้สงสัยนานมันก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน...
“ขอโทษที่เอาแต่ใจอยากให้เรียกชื่อเล่น” มันยิ้มบางๆ “แต่เวลาฟังแล้วกูรู้สึกดีน่ะ”
บ้าเอ๊ย...อย่ามาทำหน้าแบบนั้นได้มั้ย กูแพ้ทางเว่ย!!!!!!! “กะ....ก็....ไม่รู้ดิ แม่ง!! เอาตรงๆเลยนะอย่างแรกกูไม่ชิน....กูเขิน อย่างที่สองกูฟังแล้วนึกถึงแอม....” อ้ากกกกกก..ผมไม่กล้ามองหน้ามันแล้วตอนนี้ เอาแต่ก้มหน้าคางติดอกเหมือนโดนลงโทษสมัยเรียนรด.
“ไปป์...”
“อะ....อะไรเล่า!!!”
“เงยหน้าดิ๊”
“ไม่เอากูเขินโว้ย”
“งั้นกูจูบกลางร้านเลยนะ อย่ามาน่ารักให้มันมากนัก”
“นะ......น่ารักเชี่ยไร....กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว่ย” พูดแล้วก็ซุกหน้าลงกว่าเดิม....อีกสามนาทีกูจะมุดลงไปนั่งใต้โต๊ะแล้ว
“เก็บตังเลยละกัน”
…………………………………………………………..
……………………………………..
………………………….
………….
“ฟาร์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!กูจะเป็นบ้าแล้ววววววววววววววววว!!!!!”
“เฮ้ย!!! ใจเย็น....อย่ามากระโจนใส่กู” ไอ้เตี้ยรีบเอามือดันผมออกก่อนจะทันได้บีบคอมัน หนอย...รู้ทันการโจมตีของกูตลอดเลยนะมึง “ชาติที่แล้วเกิดเป็นหมารึไงวะ”
“อะไร....มีอะไรบ่งบอกว่ากูเกิดเป็นหมา”
“อย่างแรกคือไอ้นิสัยชอบพุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายกูแบบเมื่อกี้นี้ อย่างที่สองคือหมาในปากมึง และอย่างสุดท้ายชาติที่แล้วมึงชอบแทะรองเท้าชัวๆ เพราะตอนนี้ปากมึงเยินมาก กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!! ไอ้เห็ดเวร ไอ้เตี้ย เมียไอ้กัญชา!!!!!!!! กูขอให้มึงไม่รอดบ้างละกัน ทีใครทีมันนะโว้ยยยยยยย!!!!!! ผมรีบเอามือตะครุบปากตัวเองก่อนจะโดนมันวิจารณ์ไปมากกว่านี้ สภาพตอนนี้บอกได้เลยว่าหลายวันที่ผ่านมาไอ้เปรตนั่นรุมสูบเลือดเนื้อผมไปปานใด และ....ผมหลุดคำหยาบไปมากเพียงใด........
“กูแม่งจะบ้าแล้วเนี้ย เกมห่าอะไรหลอนประสาทยิ่งกว่าSAWอีกว่ะ หรือกูควรจะใช้โอกาสนี้ไปผ่าฟันคุดดีมั้ยวะ”
“เป็นความคิดที่ดี” ฟาร์ยักไหล่เหมือนไม่สนใจ แน่ล่ะ...ไม่ใช่เรื่องของมึงนี่....
“มึงดูดิ...ปากกูบวกอย่างกับคนเป็นเริมอ่ะ แม่งคนอื่นมาเห็นนะกูตายแน่ๆ....”
“ต๊าย!!!! อิไปป์ไปโม๊กให้ชู้มาเหรอยะ!!!!!!” ......นรกมีจริง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!.... ไอ้แม๊กซ์ใช้หนวดของมันล็อกพิกัด แล้วพุ่งเข้ามาโจมตีผมด้วยคลื่นความเร็วสูงจนตั้งรับไม่ทัน ผมมองกะเทยในชุดนักศึกษาเสื้อรัดติ้วกระดุมแทบกระเด็นกับกางเกงขาเดฟ พร้อมด้วยรองเท้าหนังเงาวับของมัน ขายาวๆเก้งก้างนั่นสาวเท้าป้าบๆเข้ามาหาผมเหมือนเมียมาตามผัวกลับบ้าน
“ตะโกนหาพ่อมึงเหรอแม๊กซ์” ดังขนาดนี้กลัวชาวบ้านเขาไม่สนใจรึไงวะ
“ไม่ได้ย่ะ เรื่องชั่วๆของแกฉันต้องแฉให้เขารู้โดยทั่วกัน” มันมายืนตรงหน้าผมโดยสายตาจิกๆนั่นกำลังวิเคราะห์องค์ประกอบทางกายภาพของปากผมอยู่ ผมรีบยกมือปิดไว้....คือไม่ใช่ว่าอายอะไรนะ แต่กูกลัวมันอ่ะ
“อิไปป์!!!! ปิดหาป๊าแกเหรอยะ เอามาดู” ว่าแล้วมันก็ถลาเข้ามาดึงมือผม โอ๊ย..ไอ้ห่า กะเทยเหี้ยไรแรงควายกว่ากูอีก!!! ไอ้ฟาร์ก็ไม่ได้หยิบยื่นความช่วยเหลือใดๆมาให้นอกจากหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
“ปากมึงก็มี เกิดมาไม่เคยเห็นรึไงวะ” ผมยักคิ้วใส่มัน “อ๊อ....กูลืมไปมึงมันสนทนาผ่านทางตูด แต่ละคำที่พ่นออกมานี่เหม็นเชียว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด.....อินี่ มีผัวแล้วต่อต้านกูดีนักนะ” ยื้อแย่งกันไปมาสุดท้ายมันก็ยอมไปยืนคุยกับผมดีๆแทน(เอ๊ะ....หรือไม่ดีวะ?)
“แม๊กซ์...อย่าไปแกล้งมันเลย ไปป์มันเป็นโรคปากเท้าเปื่อยในสุกรอ่ะ ไม่ได้มีอะไรเลยจริงๆ” ไอ้เห็ดเริ่มหันมาแท๊กทีมกับกะเทยโจมตีผม
“ต๊ายยยยยย...อมจนปากเปื่อยล่ะสิไม่ว่า” แล้วมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะอันหลอนประสาท “แสดงว่าของพ่อพระเอกเขาไม่ธรรมดา เป็นไงมั่งยะอิไปป์....ใหญ่ป่ะๆ”
“ใหญ่เชี่ยไรล่ะ ไม่เคยเห็นโว้ย!!!!!” ผมรีบโวยวายกลบเกลื่อน แม่งภาพนี่ก็ย้อนเข้าหัวกูชัดเป็น4Dเชียวนะมึง “แม๊กซ์...มึงชักจะหมกมุ่นกับเป้าชาวบ้านมากไปแล้วนะ”
“ทำไมล่ะยะ” มันสะบัดบ๊อบ “กูชอบของกู...มึงไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกเวลาได้เห็นผู้ชายที่ใช้ทรัพยากรเนื้อผ้าในกางเกงในอย่างคุ้มค่าหรอกย่ะ แค่เห็นกูก็ฟินละ”
ไอ้ฟาร์ทำหน้าเหยเกแล้วเนียนๆเขยิบมาอยู่ข้างผมแทน..... ทีนี้ย้ายข้างเชียวนะมึง...
“โอเค....กูไม่ถามมึงเรื่องนี้แล้ว ขนลุกว่ะ”
“ใช่ๆ...ฉันว่าเรามาคุยเรื่องผัวแกดีกว่าอิไปป์ ไปทำอีท่าไหนปากบวมมาขนาดนี้ยะ แสดงว่าลีลาแกก็เร้าใจใช่ย่อนะเนี้ย แล้วแกทำกันท่าไหน ทำไมไม่เห็นของผัวยะ”
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!! แม๊กซ์!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมยกมือขึ้นปิดหูแดงๆที่ตอนนี้สีมันเริ่มลามมาถึงหน้าแล้ว “แม่งเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย กูไม่คุยกับมึงแล้วสัส!!!!!”
ผมคว้าแขนไอ้ฟาร์แล้วโกยแนบวิ่งหนีกะเทยหื่นแบบป่าราบ ฟาร์ที่โดนดึงจนปลิวแม่งก็หัวเราะไม่เลิก....ตลกมากใช่มั้ยมึง!!!
ผมลากมันไปที่รถฮอนด้าแจ๊สสีขาวลูกรักของมันที่จอดอยู่ลานหน้าคณะ วันนี้ไอ้คุณ ‘คิน’ ไม่อยู่ครับ เนื่องด้วยมันไปรับงานวิชาดร๊าฟของน้องปีหนึ่งมาทำ แผ่นละร้อยบาท(ได้ข่าวกระดาษก็ของน้องนะ) ท่านจึงไปหมกตัวปั่นงานน้องที่หอเพื่อนที่มีโต๊ะดร๊าฟ ทิ้งให้ผมกลับห้องคนเดียว ซึ่งจะว่าไปก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้มีเวลาหายใจหายคอกับเขาบ้าง อยู่กับมันจะพูดจะจาอะไรก็ต้องระวัง มาเรียนที่คณะนี่ก็ดีเหมือนกันได้ปล่อยลูกในปากออกไปจู่โจมไอ้ฟาร์ไอ้แม๊กซ์บ้าง ไม่งั้นมีหวังลำคอผมโดนตะกุยเละแน่ๆ
“ลูกมึงเงาวับตลอดเวลาจริงๆว่ะ” ผมกล่าวชื่นชมรถขาวๆ เจ้าของมันก็ยืดอกภูมิใจประหนึ่งว่าผมชมมันก็ไม่ปาน
ผมเคยบอกพวกคุณหรือยังครับ? ไอ้ฟาร์มันเป็นคนรักรถมากกกกกกกกกกกกกก!!!!! ที่ผมเรียกว่า ‘ลูกรัก’ เนี้ยไม่ได้ประชดนะครับ แต่มันเลี้ยงรถเหมือนลูกจริงๆ ทะนุถนอมเหมือนไข่ในหิน เดี๋ยวเอาไปล้าง เดี๋ยวเอาไปตรวจเช็คสภาพ เรื่องจะได้เห็นฝุ่นบนลูกมันไม่มีทางซะหรอก เงาวับแทบจะส่องกระจกได้
แม้ว่าเวลาขับรถฟาร์มันจะเกรียนขนาดไหนแต่มันก็ไม่เคยทำให้ลูกมันเป็นรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย ผมยังจำได้ที่มีเด็กมาเช็ดกระจกรถแล้วแบมือขอเงินมันหน้าตาเฉยแล้วไอ้ฟาร์มันไม่ให้ ไอ้เด็กเวรนั่นเอาเหรียญขูดลูกมันเลย...รู้ตัวอีกทีก็ตอนถึงบ้านนู่นแหละครับ ฟาร์ทั้งสาปแช่งมันสารพัด แทบจะเอาตำรวจไปจับมันถึงสี่แยกด้วยซ้ำ...ยังดีที่ป๊ามันไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต สุดท้ายป๊ามันก็ยอมออกค่าทำสีให้ เอาล่ะ!!ใครไม่เคยเจอเห็ดพ่นพิษแนะนำให้ไปลองขูดรถมันเล่นดูนะครับ ส่วนจะมีชีวิตอยู่มั้ย อันนี้ผมไม่ขอตอบ.....
“มึงนี่ล้างรถบ่อยจังนะ” ผมว่าแล้วเสือกไสตัวเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับแถมยังคาดเข็มขัดเสียเรียบร้อย ก่อนเจ้าของคนจะตามเข้ามาแล้วปิดประตูแล้วเริ่มติดเครื่อง
“ก็ฝุ่นมันเยอะจะตาย ปล่อยไว้ก็เกาะเต็มเบาะพอดี...เห็นแล้วกูทนไม่ได้”
ผมขอพูดอะไรอย่างนะเรื่องล้างรถบ่อยเนี้ย.....ไม่ใช่แค่รักความสะอาดเท่านั้นถึงจะทำได้นะ.....ต้องรวยด้วย..
“นั่งรถมึงทีไรหนังคนละม้วนกะไอ้เน่าทุกที”
“ฮ่าๆๆๆๆ” มันหัวเราะ “อย่าดูถูกไปนะเว่ย นั่นรถที่สาวในมหาลัยหมายมั่นจะนั่งเป็นอันดับ1เลยนะ”
“เบาะแข็งขนาดนั้นอ่ะนะ มันสบายตูดตรงไหนวะ หรือว่าตรงตูดไม่สบายแต่ด้านหน้าสบายดี ฮ่าๆๆๆ” งานนี้ได้ถุงลมแบ็กอัพให้ครับ รับรองไม่บุบไม่สลาย
“เอ๊.... อันนี้กูว่าต้องถามคนเคยนั่งนะ เป็นไงล่ะด้านหน้าสบายมั้ย” มันว่าอย่างอารมณ์ดีพลางเคาะนิ้วกับพวงมาลัย กวนตีนเป็นที่สุด!!! มึงติดสันดารไอ้อาร์ทมาใช่มั้ย!!!
“ก็งั้นๆ” ผมว่าแล้วแกล้งทำเป็นมองหมาข้างทางไปเสีย ต้องเนียนเอาตัวรอดครับ ตามมาด้วยการเปลี่ยนเรื่อง... “ฟาร์.. มึงเคยดูละครถาปัตเปล่าวะ”
“มึงคิดว่าถามใครอยู่ล่ะ” อ๊อ...ผมลืมไป คนเก็บตัวอย่างมันจะให้ไปที่ที่คนเยอะๆแบบนั้นน่ะฝันไปเหอะ ให้ไอ้โจ้มีผัวเหอะครับ!!!!
“กูเห็นเขามาตื้อๆไอ้คินให้ไปเป็นตัวเอกเรื่องอ่ะ”
“เขาไม่มาแล้วล่ะ” หือ...ผมขมวดคิ้วเป็นเชิงสงสัยว่ามันรู้ได้ไง ก่อนคำพูดต่อมาจะทำให้ผมช็อกขากรรไกรค้างปล่อยลูกออกมาเพ่นพ่าน...
“ตอนนี้เห็นว่าไอ้อาร์ทจะเล่นเป็นพระเอกให้น่ะ” เชดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....หายนะของมวลมนุษยชาติมันเริ่มจากจุดนี้นี่เอง!!! กูเข้าใจแล้ว!!!! “มะ...มึงพูดจริงเหรอ!!!!อย่างไอ้อาร์ทน่ะนะพระเอกละคร!!!!!!!!!!”
“เออสิ” มันว่าพลางหักพวงมาลัย “มึงรู้มั้ยพอมันพยักหน้าปุ๊บ!!! ไอ้กลุ่มนั้นยอมลงทุนเปลี่ยนบทใหม่ทั้งเรื่องเลย ตอนนี้เลยกลายเป็นละครแบบสืบสวนแทนว่ะ”
“คณะมันก็ทุ่มเนอะ” ผมเกาหัวอย่างงงๆว่าไอ้อาร์ทมันจะไปเล่นละครอีท่าไหนวะ? คือไม่ใช่ว่ามันหน้าตาไม่ดีนะ แต่คนอย่างมันแค่ยืนอยู่เฉยๆก็หลอนจะตายแล้ว นี่จะให้มาแอคติ้งอะไรไม่รู้ โอ๊ยยยยยย....หายนะเห็นมารำไร
ว่าแต่.....ไอ้ฟาร์รู้ได้ไง... ผมหันไปเล่นหูเล่นตากวนประสาทมัน “เดี๋ยวนี้เขาสนิทกันเนอะ”
“ไปป์.....” สายตาของมันยังจับจ้องอยู่ที่พื้นถนนเบื้องหน้า แต่น้ำเสียงแสดงออกถึงความข่มขู่ผมอย่างชัดเจน... “มึงเห็นป้ายสีส้มข้างหน้านั่นมั้ย”
“เห็น....ทำไมวะ”
“ถ้ามึงพูดมากไปกว่านี้เตรียมอัดก๊อปปี้ได้เลย”
....เชี่ย....คงอยู่ด้วยกันมากเกินไปจริงๆ... ผมตะครุบปากตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่จะปล่อยลูกออกมาจากกรง เดี๋ยวนี้ข่มขู่กูนะไอ้เห็ด.... ผมเลยหลุกหลิกมองนู่นมองนี่แทน สายตาเหลือไปเห็นถุงกระดาษที่ใส่พวกไม้ฉากหรืออุปกรณ์วัดอะไรสักอย่าง เอ๊ะ...เรียนบริหารต้องใช้ด้วยเหรอวะ
“ฟาร์...ของมึงเหรอ?” ผมบุ้ยหน้าไปทางถุงที่วางอยู่หน้าคอนโทรลรถ เจ้าของมันก็ยอมหันมาดูด้วย คิ้วบางๆนั่นขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ก่อนจะคลายออกช้าๆ
“อ๋อ....ของไอ้โจ้ไอ้กันมั้ง เมื่อเข้ามันยืมลูกกูไปซื้อของ สงสัยจะลืมไว้”
“โห....ไม่น่าเชื่อว่ามึงจะยอมให้คนอื่นยืมรถด้วย ไม่กลัวเป็นรอยรึไงวะ”
“มึงเจอลูกตื้อมันแล้วจะรำคาญจนทนไม่ได้ว่ะ” มันขมวดคิ้วเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นรกแตก “กูว่าจบมามันน่าจะไปรับจ้างทวงหนี้นะ กัดไม่ปล่อยสุดๆ”
ผมพยักหน้าเห็นด้วยแล้วค่อยๆเอนตัวลงกับเบาะ นอนแหงนหน้าดูกระจกหลัง.... ของบางอย่างสะท้อนวาบเข้าตาจนต้องเหลียวทั้งตัวไปมอง....
“ฟาร์.....นั่นอะไรวะ”
“หือ....” คราวนี้ไอ้หัวเห็ดยอมเหลียวกลับมามองทั้งตัวเพราะรถกำลังติดไฟแดงอยู่
ภาพสีส้มเรืองแสงสะท้อนเขาตาเราทั้งสองคนจนแทบต้องหรี่ตามอง สติ๊กเกอร์อันนั้นถูกติดอยู่ที่มุมหนึ่งของกระจกหลังรถ สีส้มของตัวหนังสือตัดกับสีดำของพื้นหลังอย่างร้ายแรง.... ใช่แล้วนี่มันสติ๊กเกอร์ยอดนิยมของชาวสิบล้อชัดๆ แล้วมันดันมาอยู่บนลูกรักของไอ้ฟาร์..... ผมกับมันอ่านออกเสียงในใจช้าๆ...
‘เมียซื้อสด รถซื้อผ่อน’ “ไอ้โจ้ไอ้กัน ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!” ไอ้ฟาร์ปรึ๊ดแตกกลางสี่แยก ส่วนผมก็ฮาก๊ากเลยครับ
แม่งงงงงงงงงงงง ทำไปได้!!!!!
แต่เฮ้ย!!กูชอบว่ะ!!! กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกTBC
แว๊บมาต่อให้นะคะ
ช่วงนี้คนเขียนใกล้สอบแล้ว ไม่อยากอ่านหนังสือเลย อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกT T
ใครที่กำลังจะสอบ(หรือเพิ่งจะเปิดเทอม55)ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ
PS.มีแฟนเพจแล้วนะ ใครยังไม่ได้กดไลท์ บังคับให้ไปเดี๋ยวนี้ 5555
Indigo's Fan pagePS.แอบโปรโมทเรื่องสั้นแบบลุงๆหน่อย ตอน2เดี๋ยวจะโพสให้เร็วๆนี้นะคะ ไม่ค่อยอยากโพสเลยอ่ะ แบบว่ากลัวจบ(อิบ้า)/โดนตบ/
มากกว่าพี่แต่ไม่ใช่ลุงPS.สอบเสร็จพบลูกเมียน้อยได้ รอก่อนนะคะ/คลานจากไป/