Room 37
“โอ๊ยยยยยยย...เมื่อยๆๆ ปวดเนื้อเมื่อยตัวไปหมดเลย”
“วอร์มไม่พอล่ะสิมึง มัวแต่มาเถียงกับกู กล้ามเนื้อฉีกแน่ๆ”
“งั้นกูว่ากล้ามเนื้อปากมึงคงฉีกไปถึงหูแล้วว่ะ พูดมากจริง”
ว่าแล้วมือใหญ่นั่นก็ขยี้หัวผมซะจนมันชี้เป็นรังนก ภคินส่งเสียวหัวเราะสะอกสะใจก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาสีเขียวอ่อนแล้วคว้าพี่เดียวดายมาหนุน อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! กูบอกกี่ครั้งแล้วว่ามันให้พี่เดียวเสียหุ่นน่ะโว้ย!!!!!
“ภคิน!!! มึงอย่านอนทับพี่เดียวดายสิ.....ไอ้โง่!!!กูบอกมึงกี่ครั้งแล้ว......”
“มันจะเสียทรง” ไอ้พระเอกจีบปากจีบคอพูด “โธ่เว้ย...ไม่นอนก็ได้ไอ้หมีหน้าโง่เนี้ย” มันปาพี่เดียวดายกลับไปมุมโซฟาที่เดิม
“มึงฉลาดตายห่า เตะบอลก็แพ้” ไม่ได้อยากจะตอกย้ำนะ แต่มึงมาด่าพี่เดียวดายของกูก่อน
“ทำไม?? ใช่สิ....กูมันไม่เก่งเหมือนไอ้ต้นงิ้วนี่หว่า”
“ศิษย์น้องมึงอ่ะเหรอ”
ภคินยักไหล่ “ก็แค่ผู้ติดตาม....พูดมากว่ะ ไม่ให้กูนอนบนไอ้หมีควายนั่น มึงก็เอาตักมานี่ดิ”
“เฮ้ย!!!ไม่เอา หนัก!!!!” พูดไปก็เท่านั้นเมื่อพี่ท่านถ่อดแถดเอาหัวมาวางโบ๊ะลงตักกูเรียบร้อยโรงเรียนภคินแล้ว จะเถียงไปก็เล็งเห็นแล้วว่าจะสูญเสียน้ำลายโดยเปล่าประโยชน์ผมเลยต้องให้มันนอนทับ....เออ ให้ขากูชาไปเลยนะสัด
ผมมองเสี้ยวหน้าที่จดจ่ออยู่กับจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าตาไม่กระพริบ ทีวีช่องสามกำลังนำเสนอรายการนำเที่ยวที่ยุโรป เด็กสถาปัตอย่างมันคงจะชอบอะไรพวกนี้เพราะมีงานศิลปะเยอะแยะให้ศึกษา ดูจากแววตาที่ส่องประกายระริกเหมือนเด็กตื่นเต้นที่ได้เห็นของเล่นก็พอจะเดาได้
วันนี้ทั้งผมทั้งมันต่างเหนื่อยล้าจากภารกิจกีฬามหาลัยจนไม่มีอารมณ์จะเถียงกันดังเช่นทุกวันแล้ว กลับมาถึงห้องปุ๊บก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแต่งตัวมานั่งดูทีวีกัน ไอ้พระเอกมันอยู่ในชุดนอนประจำชาติของมัน....ซึ่งก็คือเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์สีตุ่นๆตัวนึง ส่วนผมเป็นพวกติดชุดนอนครับแม่ซื้อให้ใส่ตั้งแต่เด็ก ก็เลยแต่งชุดนอนลายการ์ตูนเต็มยศ คือกูไม่ได้แอ๊บแบ๊วนะครับ ก็แม่ซื้อให้นี่หว่า....
“อยากไปมั่งว่ะ”
“ที่ไหน....ฝรั่งเศสเหรอ?” ผมมองจอทีวีที่ฉายภาพประตูชัยในมุมมองต่างๆ
“ไม่ใช่ อยากไปยุโรปนั่นแหละ ไปให้หมดทุกที่เลย”
“ก็เก็บตังสิวะ”
“เก็บทั้งชีวิตยังไม่พอเลยมั้ง” ผมรู้ว่ามันไม่ได้คิดอะไรกับคำตอบ แต่ผมกลับคิด....เห็นมันทำงานเหนื่อยทุกวันแล้วมาบ่นอะไรแบบนี้แล้วมันน่าหดหู่นะครับ รู้ตัวอีกทีมือผมก็ลูบเบาๆช้าๆบนหัวมัน เหมือนลูบขนแมวเลยครับผมมันนิ๊มนิ่ม แถมเส้นเล็กแล้วตรงอีกต่างหาก ไม่เหมือนของผมที่หยักศกแถมยังแห้งเป็นไม้กวาด...ยิ่งอยู่กับมันมากๆยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทรลักษณ์ขึ้นทุกที
โชคดีที่ภคินมัวแต่สนใจพิธีกรสาวที่กำลังพานั่งเมโทรข้ามฟากไปสเปนเลยไม่ได้พูดจาแซว ผมก็เลยนั่งลูบหัวมันไปเรื่อยๆอย่างนั้นแหละ....เพลินมือดีเหมือนกัน
“เอาล่ะค่ะ สัปดาห์หน้าเราจะพาไปเยี่ยมชมปราสาทนอยชวานสไตน์ พร้อมสัมผัสบรรกาศแบบบาวาเรีย ก่อนจะข้ามฟากไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เมืองปิซ่า.......” “จบซะแล้ว” ใบหน้าคมทำหน้าไม่พอใจเหมือนเด็กๆก่อนจะคว้ารีโมทบนพุงมากดเปลี่ยนช่องไปมา เปลี่ยนไปเปลี่ยนมามันก็หาอะไรดูไม่ได้ซะที ไอ้ครั้นจะดูน้ำหมักป้าเชงก็ไม่ค่อยเจริญหูเจริญตาเท่าไรนัก ไอ้พระเอกกดปิดโทรทัศน์เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเลิกลูบหัวมัน “ไปนอนกันเหอะ”
ผมพยักหน้าตอบ นานๆทีจะได้เข้านอนพร้อมกัน ส่วนใหญ่ผมนอนก่อนตลอดเลยเพราะมันมัวแต่ทำงานส่งอาจารย์ คณะมันไม่ค่อยมีสอบก็จริงแต่งานหนักชิบหายจนแทบไม่ได้หลับได้นอน ผมว่าสู้ไปทรมานเอาช่วงสอบอย่างผมซะยังดีกว่า ไอ้พระเอกยันตัวขึ้นจากตักผม ขว้างรีโมตลงบนโซฟาแล้วดึงแขนผมให้ลุกขึ้นตาม
“เชี่ย....เหน็บแดก” ผมก็เพิ่งจะมารู้ตัวว่าเหน็บกินก็ตอนที่มันลุกออกไปเนี้ยแหละครับ “มีไอ้โง่ที่ไหนมานอนทับก็ไม่รู้”
“โง่ที่ไหน....ที่เหน็บแดกมึงได้นี่แสดงว่าสมองกูใหญ่จนหนักไง” อื้อหือ....ถ้ามึงจะมามุกนี้นะ “มา...กูรับผิดชอบเดี๋ยวอุ้มไปเอง”
“ไม่ต้องโว้ย แค่เหน็บเดินเองได้ ไม่ได้พิการขาขาด......เหยดดดดดดดดดดดดดดดด.....ปล่อยกูลงนะมึง กูเดินเองได้โว้ย!!!!!!”
มันจับผมพาดบ่าซะจนตัวลอย “มึงอย่าดิ้น แล้วก็ไม่ต้องบ่น มึงเคยดูละครที่นางเอกมันเสียตัวป่ะ นั่นแหละมันทำแบบที่มึงทำอยู่ตอนนี้เลย”
“สัด....กูไม่ดิ้นก็ได้ ดีเลย...จะได้ไม่ต้องเดินเอง ดี๊ดี”
ป้าบบบบบบบบบ “เชี่ย!!!!!มึงตีตูดกูทำไม”
“หมันไส้ว่ะแม่ง” มันตอบแค่นั้นแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ผมพยายามเกาะบานประตูไว้แต่ก็โดนมันดึงออกไอ้ครั้นจะเกี่ยวโปสเตอร์ปืนใหญ่ที่รักก็เกรงมันจะขาดหลุดติดมือมาด้วย นักบอลในชุดเสื้อแดงแขนสีขาวมองมาที่ผมแล้วส่งรอยยิ้มโชว์ฟันขาวเหมือนกับจะบอกว่า ‘มึงไม่รอดแน่ๆ’
เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย....ไม่ม๊างงงงงง มันแค่อุ้มมานอนเฉยๆไม่มีห่าเหวอะไรหรอก
ตุบบบบบบบบบบบบบ “อั่ก!!!!เบาๆโว้ยไม่ใช่เตียงสปริงนะครับพี่!!!!!!” ผมอ้าปากค้างจะด่าต่อ แต่ไอ้เปรตนั่นเสือกกระโดดลงมาทับดังแอ๊กเลยครับ เชี่ย...กระดูกสันหลังกูจะเลื่อนมั้ย น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆทับมาได้นะมึง “ภคิ๊นนนนนนนน!!!!!อย่าทับ...ไม่ใช่หมานะมึง มานอนทับกูเนี้ย”
“อ้าว....นึกว่าเป็นหมา” มันเอาแขนยันตัวคร่อมผมไว้ “เห็นเมื่อกี้ลูบหัวใหญ่เลย”
แสรดดดดดดดดดดดดดดดดด.....มึงจะแซวก็แซวตั้งแต่ตอนนู้น มาดีเลย์แบบนี้หนังหน้าที่กูวางกระสอบทรายเอาไว้ก็พังพอดีสิวะ เลือดแดงๆสูดฉีดขึ้นมาที่ใบหน้าผมอีกแล้ว กูไม่ได้ตั้งใจจะมาหน้าแดงเป็นสาวน้อยบ่อยๆนะครับ ก็ใครใช้ให้พี่ท่านมาทำตัวเป็นอันตรายต่อหัวใจผมตลอดเวลาเล่า แล้วยิ่งตอนนี้ที่มันโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมยิ่งทำอะไรไม่ถูกนอกจากหลับตาปี๋......เอาเถ๊อะ!!!! มึงจะทำอะไรกับกูก็ทำซะทีเหอะ อย่ามาสโลโมชั่นแบบนี้ คนหลับตามันลุ้นนะโว้ย!!!
“หลับตาพร้อมเสียตัวเลยนะมึง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เปลือกตาผมรีบเปิดโพลงขึ้นมามองไอ้หน้าหล่อที่กำลังหัวเราะอย่างสะอกสะใจ ผมพยายามจะยกเข่าแทงท้องมันแต่ด้วยน้ำหนักตัวที่กดทับลงมาเลยไม่ได้ทำร้ายมันให้สาแก่ใจได้
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถ้าไม่มีอะไรก็ปล่อยกูได้แล้ว จะได้นอนซะที”
“แล้วถ้ามีล่ะ” เฮ้ยๆ....มึงไม่ต้องทำเสียงแหบพร่าเลยนะไอ้ห่า ทำเสียงหลบเป็นลิเดียไปได้...
“ภคิน....ไม่เล่นนะมึง”
“แล้วใครว่าเล่นล่ะ...หือ?” แล้วมันก็โน้มตัวเอาสายตาวิบวับๆนั่นเข้ามาใกล้หน้าผมเรื่อยๆ คราวนี้ผมพยายามไม่ดิ้นตามเกมส์ ทำใจกล้าหน้าหนาจ้องตามันตอบ.....เฮ้ยๆ...มันชักจะใกล้เกินหัวใจกูจะรับไหวแล้วนะ....
ดวงตาของผมเบิกโพลงจนแทบหลุดออกมาวินาทีที่ภคินมันประกบริมฝีปากลงมาจริงๆแถมมันยังจ้องตาผมคืนอีก สุดท้ายก็เป็นตัวเองนี่แหละที่ทนหน้าด้านต่อไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายปิดเปลือกตาเสียเอง สัมผัสที่ริมฝีปากคราวนี้ดูจะรุนแรงกว่าครั้งไหนๆเพราะคนข้างบนมันจงใจบดเบียดลงมาแรงๆ รวมถึงขบเม้มปากล่างผมย้ำๆซ้ำๆจนหายใจแทบไม่ออก
ลมหายใจร้อนๆเป่ารดบนใบหน้าเริ่มทำให้ผมหายใจลำบากมากขึ้น ผมจึงเริ่มขืนตัวด้วยการดิ้นแล้วส่งเสียงอืออาในลำคอว่า ‘เหี้ย...กูหายใจไม่ออก’ แต่เหมือนฟ้าชังสวรรค์แกล้ง....ไอ้พระเอกมันทำหูทวนลมแถมยังจูบผมแรงกว่าเดิมอีก โอ๊ย...หน้ามืดตาลายไปหมดแล้วนะมึง
พอเห็นผมใกล้สิ้นลมหายใจมันถึงได้ถอดริมฝีปากออกมา ผมรีบหายใจเข้าเอาออกซิเจนไปเลี้ยงสมองก่อนที่จะกลายเป็นเอ๋อ....แต่โล่งใจได้ไม่ถึงสามวินาที ไอ้ลมหายใจร้อนๆนั่นก็กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันโฟกัสเป้าหมายไปที่คอผมแทนครับ เกิดมากูเพิ่งเคยรู้จักคำว่า ‘หายใจรดต้นคอ’ ชัดเจนก็วันนี้ล่ะวะ หายใจอย่างเดียวไม่พอพี่ท่านก็เริ่มซุกไซร้แถวๆคอผมจนขนแขนแสตนอัพ...แสตนอัพ....แสตนอัพ....แสตนอัพ เฮ้ย!!นี่ไม่ใช่เวลามาร้องเพลงโปรดแม่มึงนะไอ้ไปป์!!!
“ภะ...ภคิน มึงเล่นอะไรของมึงเนี้ย”
“ไม่ได้เล่น...กู ‘เอา’ จริง“ ทำไมมึงต้องเน้นคำตรงคำว่า ‘เอา’ ด้วยวะสัด....
“มะ...ไม่ดีม๊างงง.... อืออออออ” จะด่าต่อแต่ต้องหลุดครางออกมาเมื่อมันจูบหนักๆลงบนคอผม แถมไม่ใช่จุดเดียวเสียด้วย เหี้ยนี่จูบเรี่ยราดมาก
ผมพยายามจะส่งเสียงห้ามมัน สมองสั่งการแต่ร่างกายมันกลับไม่ทำตาม จะต่อต้านก็ไม่ทำ แถมยังได้แต่ส่งเสียงครางอือในลำคออีก เลือดในกายสูบฉีดแรงกว่าปกติจนตัวผมแทบจะแดงไปทั้งตัวอยู่แล้ว ยิ่งตอนที่ภคินเริ่มส่งมือเข้าไปลูบไล้ใต้เสื้อนอน มือเย็นๆของมันสร้างความแตกต่างให้กับผิวกายอันร้อนระอุของผม
“เชี่ย...มึงจะล้วงเข้ามาทำไมวะ”
“ก็เล้าโลมมึงไง”
“ห๊ะ...อะไรเล้าโลมไหน....วงเล้าโลมรึเปล่า หรือว่าโฬม พัชฏะ แหะๆๆๆ”
“มุกเยอะจริงนะมึง” แล้วทำไมมึงไม่ขำวะ....กูจะเนียนทำฮาซะหน่อย
“อื้ออออออ...ไม่เอาน่าภคิน อือ....” นอกจาไม่ฮาแล้วยังชวนเสียตัวหนักกว่าเดิมอีกกู ไอ้ภคินมันคงรำคาญที่ผมยิงมุกไม่เลิกเลยเปลี่ยนเป้าหมายมาไล่จูบไปตามหน้าอกผมแทน คราวนี้อย่าว่าแต่ยิงมุกเลย....หัวสมองผมโล่งไปหมด ตาพร่ามองไปทางไหนก็มีแต่สีขาว น้ำตาเริ่มไหลคลอนิดๆด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้น.....
มันกดจูบหนักๆบนหน้าอกจนผมส่งเสียงครางออกมาดังๆ เชี่ย...อายชิบหาย แบบนี้มันก็รู้พอดีว่าผมเคลิ้มตามมันแล้ว ผมเริ่มบิดตัวไปมาอย่างทรมานเพราะแรงอารมณ์ และต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมือหนาๆด้าน(ที่ด้านน้อยกว่าหนังหน้ามันไปนิดเดียว)ตะปบลงมาที่กางเกงผม
“เชดดดดดดดดดดดดดดดดด...ไม่เอานะมึง”
“เอาสิ”
“ไอ้ห่า...มึงก็พูดง่ายนี่หว่า มึงไม่ใช่กูซะหน่อย”
“เออ...ก็ใช่ไง กูไม่ใช่มึง”
“มึงอย่าพูดง่ายๆแบบนั้นสิวะ!!!!”
“เอ๊า!!! แล้วจะให้กูพูดยากเหรอ” มันก้มมองที่เป้ากางเกงผม “มาขนาดนี้แล้ว....จะให้หยุดมันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ”
“ไม่เกินไปหรอก มึงทิ้งกูไว้ที่นี่ เดี๋ยวกูไปห้องน้ำเอง...โอเค๊? ตกลงตามนี้นะ” ผมพยายามดึงขอบกางเกงออกจากมือมัน แต่ไอ้เวรนั่นเสือกดึงยางยืดไว้แน่น “ไอ้ภคิน!!!....เดี๋ยวเอวกางเกงกูยานพอดี!!!”
ใช่เรื่องต้องห่วงมั้ยวะเนี้ยกู.... “ไปป์...มึงไม่ไว้ใจกูเหรอ กูศึกษามาแล้วนะ”
“เสียตัวนี่มันเกี่ยวอะไรกับไว้ใจไม่ไว้ใจวะ”
ไอ้ภคินถอนหายใจรดหน้าผมด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าถ้ามันไม่มีอารมณ์อยู่ตอนนี้คงยันกูตกเตียงไปแล้ว มันทำเสียงเข้ม “ไปป์....กูอยากให้มึงเป็นของกูว่ะ”
“มึง...คือแบบ....กูกลัวว่ะ กูยังไม่พร้อม” เห็นหน้ามันแบบนี้แล้วก็รู้สึกผิด ผมเลยตอบได้ไม่เต็มเสียงนัก
เปรี๊ยะ!!!!!!“แอ่กกกกกกกกกกกกกกก”
ไอ้ภคินแม่งดีดยางยืดกางเกงกูเฉยครับโดนเอวกูดังเปรี๊ยะ!! เจ็บไปถึงไส้ติ่งจนต้องร้องอูย “มึงไม่พร้อมแต่กูพร้อมแล้ว และกูไม่รอแล้ว” ว่าแล้วพี่ท่านก็พุ่งเข้ามายื้อแย่งกางเกงกับผม เอาล่ะครับ...ฝ่ายแดงไอ้ไปป์ไกลปืนเที่ยง ปะทะ ฝ่ายน้ำเงินภคินกินผู้ชาย!!!! กางเกงนอนตัวนี้ใครหนอจะเป็นผู้ครอบครอง!!!!!!
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกก...มึงไม่รอกูหน่อยล่ะ ไม่เคยฟังเพลงพี่โบ สุนิตาเหรอ ถ้าเธอพร้อมฉันก็พร้อมไปด้วยกัน เดินบนทางที่สองเราเลือกไป~”
“ไม่ฟังเว่ย!!! กูฟังแต่พี่ชิน บอกมาคืนนี้ อยากได้กี่ครั้ง~”
“ภคิ๊นนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!! ไม่เอาน่ามึง” เพราะมัวแต่คิดมุกปัญญาอ่อนมันเลยได้โอกาสรวบมือผมไว้ได้ ห่าบีบข้อมือกูขนาดนี้มึงหักกระดูกกูไปเลยดีกว่ามั้ย
ผมมองใบหน้าหล่อคมที่จ้องลงมาอย่างไม่มีอารมณ์ตลกเหมือนเมื่อกี้ สายตาของมันสะกดผมเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน ทำไมผมจะไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งมันทั้งผมก็ต่างถูกปลุกอารมณ์มาด้วยกันทั้งคู่ จะให้หยุดตรงนี้ก็คงยาก...
แต่ผมก็ยังกลัว... มันเป็นเรื่องน่ากลัวนะครับที่ผู้ชายธรรมดาไม่เคยมีเซ็กซ์แม้กระทั่งกับผู้หญิง แต่ได้เปิดตัวอลังการกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรก แม่ง....เกิดมายังไม่เคยมีใครจับเนื้อตัวกูมากเท่ามึงเลย ถ้าไม่นับแม่แก้วที่อาบน้ำให้แต่เด็กนะ
เกิดเป็นความเงียบปกคลุมบรรยากาศไปทั้งห้อง มีแต่เพียงสายตาของเราที่ประสานเข้าด้วยกันเหมือนจะรอคอยให้ใครเอ่ยปากออกมาก่อนแทนการสื่อสารกันด้วยสายตาแบบนี้...
“ภคิน....กูขอโทษจริงๆนะ...” ผมรู้สึกผิดชะมัดตอนที่เห็นสีหน้าผิดหวังนิดๆของมัน มันก้มลงจุ๊บเบาๆบนหน้าผากผม
“ยังไม่ถึงขั้นนั้นก็ได้ ถ้ามึงยังไม่มั่นใจ” สีหน้ามันสลดลงชั่วครู่ ก่อนมุมปากข้างนึงจะยกยิ้มได้กวนส้นตามแบบฉบับมันแท้ๆ
“แต่ถ้าแค่นี้....กูทำเป็นนะ” ไม่รอให้กูถามต่อ พี่ท่านคว้ากางเกงนอนผมแล้วดึงพรวดเดียวลงไปกองอยู่ที่ส้นตีน ผมที่ยังตามเกมส์ไม่ทันถึงกับอ้าปากค้าง ไม่รอให้กูด่าอะไรต่อแล้ว....มันก้มลงไปจัดการกับส่วนนั้นของผมทันที
หมดเรี่ยวแรงจะต้านทานอะไรแล้ว สุดท้ายก็ได้แต่ร้องครางเสียงแหบแห้งจากการถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยริมฝีปากคู่เดิมที่เฝ้าพรมจูบมาตั้งแต่เริ่ม อา....ผมคงจะแพ้ให้มันตลอดจริงๆ
มือผมเริมจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนแทบหลุดออกมาจากฟูก สองมืออุ่มจนร้อนของมันเคล้นคลึงไปที่สะโพกของผมยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้อารมณ์พุ่งสูงขึ้น ผมแหงนหน้าขึ้นสูงๆเพื่อสูดเอาออกซิเจนสลับกับส่งเสียงคราง
“ภะ...ภคิน...อื้ออออออออออ.....อา พะ...พอแล้วมึง” ผมเริ่มบิดตัวแรงขึ้นเมื่อมาถึงปลายสุดของอารมณ์และเรียวลิ้นนั่นยังคงตอบสนองตัวเองอย่างเร่าร้อน นัยน์ตาพล่าเลือนไปด้วยน้ำตา ก่อนจะครางเสียงดังพร้อมกับปลดปล่อยออกมาจนหมด
ไอ้พระเอกถึงได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มด้วยสีหน้าภูมิใจประหนึ่งได้เหรียญทองโอลิมปิค ไอ้ผมจะอ้าปากด่าก็ไม่มีเรี่ยวมีแรงเหลือแล้วเลยได้แต่นอนส่งสายตาอาฆาตพยาบาท อยากลุกขึ้นมาปาดคอมันใจจะขาด หรือไม่ก็ปาดคอตัวเองตายห่าไปเลย เพราะตอนนี้กูอายมากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!
“เดี๋ยวๆ...มึงอย่าเพิ่งหลับสิ ภารกิจมึงยังไม่เสร็จเลยนะ” หา...ยังมีอะไรอีกวะ
ผมอ้าปากจะเถียงมันต่อ แต่มันมือไวกว่าคว้ามือผมมาสัมผัสกับบางอย่างที่อยู่ใต้กางเกงบ็อกเซอร์เน่าๆตัวนั้น ซึ่งมันกำลังมีอาการไม่ต่างจากผมเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านี้เลย....
“จัดการให้ด้วยนะ” น้ำเสียงเด็ดขาดนั่นทำให้กูมั่นใจซะยิ่งกว่ามั่นใจเสียอีกว่าจะไม่มีวันหนีมันพ้นแน่ๆ....
สรุปยกนี้....ฝ่ายน้ำเงินภคินกินผู้ชายชนะไป!!!!!!!
แต๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง………………………………………………………………..
…………………………………………….
……………………….
…………
อากาศร้อนอบอ้าวของโรงอาหารกลางในเวลาคล้อยบ่ายเรียกให้เหงื่อจับกันเป็นหยดที่ขมับและหน้าผาก ผมนั่งแกว่งเท้าขณะที่จ้วงข้าวเข้าปากให้เร็วที่สุด เหลือบมองไอ้หัวเห็ดเพื่อนรักที่สบตากันเพียงเสี้ยววินาทีมันก็อ่านใจผมออกเพราะดูจากปริมาณข้าวต่อหนึ่งคำของมันใหญ่กว่าปกติมาก
“มึงจะรีบกินไปไหนวะไปป์” เสียงทุ้มๆที่คุ้นเคยดังมาจากฝั่งตรงข้ามผม “อุตส่าห์มากินข้าวด้วย”
“กะ....กูมีเรียนต่อ”
“ตอแหลนะมึง กูเช็คตารางแล้ว วันนี้มึงไม่มีเรียน” อุ่ก...รอบคอบจริงนะมึง
อยู่ๆไอ้อาร์ทที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้พระเอกก็พูดขึ้นมาลอยๆ “กินข้าวเร็วระวังอาหารไม่ย่อยนะครับ....ผมเป็นห่วง”
ผมหันควับไปมองเสี้ยวหน้าที่ผมทรงเห็ดไม่ได้บดบัง แอบเห็นว่ามันแดงเรื่อขึ้นมานิดๆ แต่มุกจีบหนุ่มมึงเสี่ยวแดกมากนะไอ้อาร์ท ไปเทรนมาจากไอ้ภคินรึเปล่าเนี้ย
อันที่จริงแค่ต้องมานั่งกินข้าวประชันหน้ากับไอ้ภคินก็ทำเอาผมกระเดือกอะไรแทบไม่ลงแล้ว ก็เหตุการณ์เมื่อคืนก่อนยังฉายชัดอยู่ในมโนภาพเหมือนหนังที่ฉายซ้ำๆในช่องทรูวิชชั่น ก็รู้อยู่นะว่าแฟนกันสมัยนี้เรื่องแบบนี้มันค่อนข้างปกติ ยิ่งกับผู้ชายที่เป็นแฟนกันเองยิ่งไม่น่าแปลกอะไรใหญ่เลย แต่ผมไม่ได้หน้าหนาแบบภคินมันซะหน่อย อยู่ๆจะให้มองหน้ากันปกติทั้งๆที่เมื่อคืนก่อนเราเพิ่งจะ......เอ่อ... พัฒนาระดับความสัมพันธ์ขึ้นมานิดหน่อยน่ะเหรอ???
อาการเขินอายก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมจ้วงข้าวแดกเหมือนจับกังเพิ่งได้รับเกลือแร่ แต่สาเหตุหลักๆเลยก็คือ.......
“โอ๊ะๆๆๆ น้องคนนั่นหุ่นสะบึ้มไม่ไหวแล้ว” ไอ้โจ้ว่าพลางวาดมือเป็นเชฟทรงนาฬิกาทรายแล้ว ‘พวกมัน’ ก็พากันผิวปากวี๊ดวิ้วเหมือนพวกวินมอเตอร์ไซค์แซวสาว
ครับ...’พวกมัน’
“เห็นแล้วอยากเดินเข้าไปบอกอะไรสักอย่างว่ะ” ครับ....สมาชิกใหม่เอี่ยมแกะกล่อง อิมพอร์ทจากแดนไกลมานั่งใส่เสื้อช็อปทำหูดำ(หน้าหม้อ)อยู่ตรงนี้
ใช่แล้วครับ!!! ไอ้ค่าที่ตอนนี้ออสโมซิสตัวเองเข้ากับแก๊งค์เอฟโฟร์ของไอ้ภคินได้เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะยิ่งกับไอ้คู่หูรักยมด้วยแล้ว.....
“บอกว่าอะไรวะ”
“ฉันโต๊ะเธอ!!!” “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว~”
ตึง!!!!!! ใครไม่เก๊ทมุกไม่ต้องตกใจครับ หากท่านมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ท่านอาจไม่รู้จักเพลงฉันโต๊ะเธอของพี่ไท ธนาวุฒิก็เป็นได้
ว่าแล้วไอ้ค่าที่ผันตัวเองกลับไปเป็นชายแท้ก็ลุกขึ้นยืนทำดีดกีต้าร์แล้วแหกปากลั่นโรงอาหาร
“ฉันโต๊ะเธอ ฉันโต๊ะเธอ นอกจากเธอ ฉันไม่โต๊ะใคร~” แม่สาวหุ่นสะบึ้มที่ตอนแรกทำท่าจะเดินมาให้ท่าถึงโต๊ะ เจอแบบนี้ถึงกับเดินกลับหลังแทบไม่ทัน ผมล่ะเสียดายหน้าตามันจริงๆ ไม่ต้องกูหรอก เอาผู้หญิงนี่แหละ...ชาตินี้มึงจะจีบติดมั้ยแสรดดดดดดดดดด
“ไอ้ค่า...มึงหยุดเต้นซะที คนมองทั้งโรงอาหารแล้ว กูอายเขา”
“ไปป์ครับ...ถึงไปป์จะเป็นอดีตแฟนคลับและแฟนศิษย์พี่คิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไปป์จะห้ามค่าได้นะครับ”
“ไอ้ห่า กูไปเป็นแฟนคลับมึงตอนไหน”
“จนถึงเมื่อวานครับ” ไอ้ค่ายักไหล่ “ค่าเข้าใจว่าคนเรามันยังมีจิตผูกพันกันอยู่ แต่ค่าเลือกทางเดินนี้แล้ว”
“เหี้ยค่าแม่งเพ้อเจ้อว่ะสัด!!!!!” อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา.....ท่องไว้ไปป์...ท่องไว้ “เมื่อไหร่มึงจะเลิกวนเวียนอยู่แถวๆนี้วะ”
“ค่าก็แค่อยากเจอคนในฝัน”
“งั้นมึงก็ไปนอนไป” “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” มันหัวเราะกันรอบโต๊ะเลยครับงานนี้ แม้แต่ไอ้ค่าที่โดนตอกหน้าก็หัวเราะไปกับเค้าด้วย...เฮ้ยๆ เนียนเหรอมึง
ผมได้ข่าวแว่วๆไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า.... เห็นว่าไอ้ค่าเล็งสาวดาวสถาปัตปีนี้เอาไว้มันก็เลยทำมาวนเวียนอยู่แถวๆนี้ ไม่รู้ว่าสาวสวยชะตาขาดคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง แต่ให้เดาไอ้ค่าคงแดกแห้วตามเดิม เออ....ว่าไปมันไปไฟฟ้าสถิตใส่น้องเขาตอนไหนวะ
ขณะที่ผมกำลังนินทาไอ้ค่าท่าสายตาอยู่ ไอ้โจ้ก็เดินมาตบบ่าผมแปะๆ กูก็งงสิครับพี่ “อะไรมึงไอ้โจ้”
ไอ้โจ้ยิ้มโชว์ฟันครบสามสิบสองซี่ “โตเป็นสาวแล้วนะ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!(ในใจครับในใจ) กูรีบเอามือคว้าปกเสื้อนักศึกษาเข้ามาปิดคอทันที มึงเห็นอะไรไม่รู้แหละ แต่กูร้อนตัวไปแล้วเรียบร้อย “ไอ้สัดโจ้!!!!มึง!!!”
“โห....จริงเหรอวะเนี้ย” เท่านั้นแหละไอ้คู่ดูโอ้มันโผล่มาอีกข้างทันที สัดกันเบิดตาคมๆแบบคนใต้ของมันจนแทบถลนออกมานอกเบ้า แถมหลุดสำเนียงบ้านเกิดออกมา “แร่งเว่อร์!!!!!!!!!!!!!!!”
“ยังเว่ย!!!!พวกมึงคิดเหี้ยอะไรอยู่เนี้ย
“อื้อหือ ปิดใหญ่เลยว่ะ ไหนๆเอามาดูดิ๊” ไม่ว่าเปล่าเหี้ยโจ้กระโดดมาตะครุบยื้อแย่งคอเสื้อกับผม ใช่เรื่องมั้ยเนี้ยมึง!!!!!!!
“ศิษย์พี่ไม่ธรรมดาจริงๆว่ะ” ไอ้ค่ายกนิ้วโป้งให้ศิษย์พี่มันที่นั่งหน้าบานไม่คิดจะอธิบายความจริง มึงจะสวมรอยเลยใช่มั้ย
“กูยังไม่โดนโว้ย ไม่เชื่อกูจะวิ่งไล่เตะมึงให้ดูเลยสัด”
จากนั้นก็เริ่มโปรแกรมฆาตกรรม วิ่งจนเหนื่อยครับ ไอ้พวกนี้แม่งวิ่งเร็วอย่างกับแดกยาม้าเข้าไป แต่ด้วยแรงแค้นกูก็ตามไปไล่เตะมันจนได้ เอาจนหมดแรงไอ้พระเอกที่นั่งยิ้มภาคภูมิใจเหมือนกูได้รางวัลวิ่งกรีฑามาก็เดินมาลากแขนผมไป แล้วกระซิบว่าจะพาไปฉลองเสียตัว เลยได้แดกตีนผมเข้าไปอีกป้าบนึง....
ผมทิ้งไอ้ฟาร์ไว้กับกลุ่มกองโจรโดยมีสายตาด่าทอจากมันตามหลังมา....โทษทีว่ะเพื่อน แต่เรื่องแบบนี้ต้องเอาตัวรอดเอง ไอ้พระเอกพาผมเดินลัดตึกมาที่ช่องจอดมอเตอร์ไซค์ของคณะมนุษยศาสตร์ ไอ้เน่าจอดอยู่โดดเด่นท่ามกลางเหล่ามอเตอร์ไซค์ชั้นนำทั้งหลาย อื้อหือ...กล้ามากนะมึงไปจอดข้างเขาเนี้ย
แต่แทนที่ไอ้พระเอกจะออกรถ มันดันมาจดๆจ้องๆก้มๆเงยๆอะไรตรงหน้าผมก็ไม่รู้ ไอ้ผมก็ขมวดคิ้ว “มองอะไรมึงวะ ไม่ขึ้นรถรึไง” โอ๊ะ...ใช้ศัพท์หรูซะด้วยกู....ขึ้นรถ
“ดูว่ามันเห็นรอยจริงมั้ย” คราวนี้พี่ท่านปากว่ามือถึงครับ จับปกเสื้อนักศึกษาผมแหกออกดูแม่งเลย ไอ้ผมก็ไม่ได้ตั้งตัวเลยอ้าปากค้าง
“จางจะตาย สงสัยดูดเบาไป....อั่ก” เสียงที่ตามหลังมาคือมันโดนผมตีเข่าครับ ไอ้เหี้ย!!!!!!!!!!พูดมาได้หน้าตาเฉย กูไม่ได้หนังหน้าเสริมใยเหล็กแบบมึงนะโว้ย ไอ้#%**&@#%$&^*()$#&%$&%^$&^
“พอเลยนะมึง ไม่งั้นกูกลับไปนอนอีกห้องแน่ๆ”
“ไม่เห็นต้องอายเลยมึง กูเห็นมาหมดแล้ว”
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! พอ!!!!เลิกพูดเรื่องนี้!!!!” ผมชี้หน้ามัน “ไม่งั้นกูกลับเอง!!!”
เหมือนเห็นกูลนลานแล้วมีความสุข มันยิ้มตอบแบบสนุกมากที่เห็นผมโวยวาย ก่อนเสื้อวอร์มสีเทาที่ใช้ใส่กันแดดของมันจะหล่นปุ๊มาบนบ่าผม ไอ้ภคินจัดแจงใส่เสื้อคลุมทับให้แล้วรูดซิบขึ้นมาติดคอจนกลายเป็นเสื้อคอเต่าไป พออ้าปากจะถามมันก็เอามือขยี้หัวจนยุ่งไปหมด
“ไม่ต้องเถียง ใส่ไว้...กูหวง” แม่ง..จะขยันให้หัวใจกูทำงานหนักทำไมวะเนี้ย มันขึ้นควบไอ้เน่าไว้แล้วเรียกผมไปซ้อนท้าย ดีนะมันไม่เห็นว่าผมกำลังอายอยู่ ไม่งั้นคงได้ล้อจนไม่ได้กลับห้องกันพอดี
รถมอเตอร์ไซด์ผุๆแล่นกระตุกๆไปตามถนนสองเลนในมหาลัยด้วยความเร็วติดลบ โชคดีที่วันนี้ผมกับมันกลับห้องเร็วเลยทำให้ไม่โดนรถด้านหลังบีบแตรไล่อย่างทุกวัน สารภาพเลยว่ากูแอบอายทุกครั้งที่โดนบีบแตรแล้วหันมามองหน้า ไม่ใช่อะไรครับ ถ้าเป็นสาวๆขับเธอก็พร้อมจะให้อภัยไอ้มอเตอร์ไซค์เน่าทันที แต่หากสังเกตจากสีหน้าจะพบว่ามีการชื่นชมคนขับแต่ไม่เคยมีตกหล่นมาถึงคนซ้อนแม้แต่น้อย.....ช่างน่าน้อยใจจริงๆกู
ฟิ้ววววววววววววววววววววววววววววว~ รถช็อปเปอร์สีดำสุดหรูขับผ่านเฉียดไอ้เน่าไปอย่างรวดเร็ว จนผมทันมองเห็นแค่เงาประกายวับๆของรถเท่านั้น ผมที่เพิ่งจะแดกข้าวกลางวันมาก็เริ่มง่วงๆเบลอแอบแนบหน้าลงกับหลังมันนิดหน่อย
“มึง....ซื้อช็อปเปอร์ขับดีมั้ยวะ” ผมถามมันเสียงอู้อี้
“มีเงินเหรอ”
“ไม่ใช่....กูหมายถึงมึงอะ ไม่คิดจะซื้อรถใหม่เหรอ”
“ไม่คิด ไอ้เน่ามันยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต ถ้าล้อมันไม่หลุดให้กูดูต่อหน้ากูก็ไม่เปลี่ยนหรอก” อื้อหือ...เน่าเอ๊ย มึงนี่มันน่าสงสารจริงๆ ถูกทารุณเยี่ยงอิเม้ย “ทำไม...มึงอยากได้เหรอ”
“มะ...มึงจะซื้อให้กูรึไง” ใครจะกล้าบอกล่ะว่าผมคิดเล่นๆกับตัวเองว่าถ้าไอ้ภคินขับช็อปเปอร์มันคงเท่น่าดูเลย
“เปล่า...เรื่องอะไรกูต้องซื้อให้มึง ขาแม่งเก้งก้างแบกรถไม่ไหวโดนทับตายพอดี” ผมง้างมือจะทุบหลังมันสักแอ่ก ถ้าไม่มีประโยคถัดมา “รอซ้อนกูอ่ะดีแล้ว”
ผมเก็บมือที่จะทุบมันไว้ แล้วเปลี่ยนไปจับเสื้อมันแทน สายลมเย็นๆพัดผ่าน ประกอบกับวันนี้แดดไม่แรงเท่าไหร่ ชวนให้ผมเคลิ้มนอนซบหลังไอ้พระเอกมันเบาๆ...
อยากบอกเหมือนกันว่าไม่ต้องช็อเปอร์หรอก ซ้อนไอ้เน่าก็มีความสุขจะแย่แล้ว.....TBC
ใครเดาว่าฝั่งนี้จะมีสกอร์คะ...ไม่มีนะคะ คนเรามันต้องพัฒนาไปทีละขั้นตอนค่ะ เอิ๊กกกกกกกก
เขียนฉากเรทไม่ดีต้องขออภัยด้วยนะคะ คนเขียนไม่สันทัดจริงๆค่ะ นิยมแต่ฉากด่าทอต่อว่า(อะไรที่มันดูบ้านๆเราจะถนัดเป็นพิเศษ 5555)
เป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกท่านนะคะ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ
PS.ถ้าเปิดให้ส่งคำถามมาถามตัวละคร(หรือคนเขียน)จะมีใครเล่นด้วยมั้ยคะเนี้ย 555
PS.ถามหน่อยค่ะ มีใครทันมุก"ฉันโต๊ะเธอ"รึเปล่าคะ
Cacao - ฟาร์ไม่ซึนนะคะ เป็นยันเดเระค่ะ
momoshiro - แต่ละเม้นของท่านช่าง...5555555 เดี๋ยวส่งคินไปทางแม่สายดีกว่าค่ะ จะฝากมันซื้อซีรีย์เกาหลี 555555
MinKKniM - คินไม่ใช่แมนซินะคะจะได้ยิงโหดแบบเมื่อคืน ฮ่าๆๆๆ
kdragon - ชอบเพลงเอิ้วเหมือนกันค่ะ ฟังทีไรอยากลุกขึ้นเต้นหน้าคอมทุกที
NRz68 - ผิดค่ะ...พระเอกต้องมาก่อนสิคะ!!! (ยืนไวอาลัยให้คิน ฮ่าๆๆ) ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ทุกคนค่ะ