Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2286379 ครั้ง)

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยจากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ทั้งคิน ไปป์ และคนรอบข้าง
ทำอะไรก็คิดถึงและระมัดระวังจะไม่ทำให้เป็นห่วงซึ่งกันและกันอีกละนะ
แถมยังทำให้เข้าใจกันและกันมากขึ้นอีกด้วย  :o8:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แง่ ๆๆ เศร้าอ่ะ  :m15:+1

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
แอบเสียดายนะเนี่ยที่คินตื่นมาแล้วปกติดี  ไม่ความจำเสื่อมอย่างที่คิดไว้ (ดูละครมากไปรึเปล่าวะ ฮ่าๆๆ)

kimyunjae

  • บุคคลทั่วไป
หายเร็วๆนะ ฮือ น่าสงสารอ่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ตอนหน้าขอของหวานด่วน :z3:

บวกเป็ด

zaeferrol

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:    :เฮ้อ:  คินก็อาการหนักอยู่เหมือนกัน แค่ตัวหน่ะ แต่ใจตอนนี้คงพองโตคับอกเลยแหละ
พ่อคู้นนน กว่าจะคิดได้

แค่ไปป์ไม่พูดก็ไม่ได้หมายความไม่รัก นี่เนอะ  :L1:

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ภคินหายไวๆนะ อย่าทำไปป์ร้องไห้เยอะกว่านี้นะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สั้นง่ะ   :a5:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
โล่งไปที :เฮ้อ:
นึกว่าจะได้กินมาม่าชามโตซะแล้ว

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เหลือแค่ปรับความเข้าใจกันล่ะนะ คินต้องมั่นใจในความรักของไปป์มากขึ้นแล้วล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พี่เดียวดาย โดนซะแระ

ฮ่าๆๆๆ

เข้าใจตัวเองกันแล้วก็ดี ถือว่ารอบนี้ ภคินไม่ได้โดนตีนฟรี

ไปป์เข้าใจตัวเองมากขึ้น

ภคินก็เข้าใจไปป์มากขึ้น


รีบๆดีกันนะ

เค้าว่ารอบนี้ดีกันเมืือไหร่ สงสัยจะจัดหนักกันแหงงงง


ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
คนไม่พร้อมก็เลยขี้ใจน้อยเป็นพิเศษ

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
จริงๆคู่นี้รักกันมากเนาะ  แค่คนนึงขี้ใจน้อย คนนึงปากแข็งอ่ะ   :เฮ้อ:
แต่คินไม่เป็นไรมากก็ดีแล้วค่ะ 

ออฟไลน์ SakataGintoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ภคิ๊นนนน~~
รีบๆคืนดีกะหนูไปป์น้า  หายไวๆด้วยล่ะ

เราปิดเทอมแล้วแต่ว่า...
มันเที่ยวไม่สนุกเท่าอ่านเรื่องนี้หรอกจ้า  ฮ่าๆๆ
 :bye2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
หายไวๆ นะภคิน   :impress:


จะว่าไปอีกคนก็ขี้น้อยใจ อีกคนก็ไม่ค่อยกล้าแสดงออก   เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ..... :z10:


เป็นซีนที่ซึ้งมากๆครับ +เป็ดให้เลย  o13

ออฟไลน์ sz4music

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดีกันเร็วๆนะ ขอร้องงงง

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ภคิน โคตรคิดมาก ขี้น้อยใจสุดๆ

แต่บางทีไปป์ก็ไม่ชัดเจนไง แคร์สายตาคนรอบข้างมากไปหน่อย  :เฮ้อ:

บางทีมันอาจจะเขินก็ได้นะ ไม่ได้อายคนอื่นขนาดนั้นหรอก

อยากให้ปรับความเข้าใจกันเร็วๆ

bobbery

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกอ่านตอนไปป์โวยวาย ก็คิดแแบเออว่าไปป์แอบเป็นห่วงแต่ปากแข็งไรงี้ ก็ว่าน่ารักดี...แต่พอไปป์หยุดโวยวายแล้วเสียงสัั่่นร้องไห้ปั๊ป...น้ำตาเราไหลตามมาหยดติ๋งๆเลยค่ะ :monkeysad: ซึ้งอ่ะ ต่อไปภคินจะได้เข้าใจขึ้นบ้างนะ ขี้น้อยใจจัง :เฮ้อ: สุดท้ายก็พี่คนแต่งสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้จ้า :3123:

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
ชอบคำสุดท้ายมากเลยอ่านแล้ว.    ชอบอ่ะ. ชอบมากๆเลย

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ไปป์รักคินมากเลยนะ ส่วนคินรู้ความรู้สึกไปป์แล้วใช่ไหม ทีหลังสงสัยอะไรก็อย่าคิดเองเองเองนะ ถามกันคุยกันให้เข้าใจ

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
ซึ้งมากๆนะสำหรับตอนนี้   เพราะทั้งแม่+ไปป์ ก็ได้บอกความรู้สึก ออกมาแล้ว
แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่  เพราะมีอะไรต้องบอกกันตรงๆ ตอนที่โตตอบกันได้อ่ะนะ
แอบฮ่าตอนคินโทรคุยกับอาร์ทอ่ะ  แต่ละประโย๕ เด็ดมว๊ากกกกก  ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ momoshiro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-1
ภคิน... ได้ยินขนาดนี้แล้ว กรุณาอย่าแอ๊บงอนนังไปป์นะ! มันไม่แมน = =''


คือไม่ชอบเห็นมันสองสวีทกัน! มัน... ดู...แปลกๆ เหมือน.. อะไรซักอย่างที่ค้างๆคาๆ บอกไม่ถูก....

(เม้นชักจะสั้นลงทุกครั้ง = ='')

น่าจะน้ำเน่ากว่านี้อีกนิดนะคุณน้องเอาแบบว่า... ภคิณลืมตาตื่นมาเห็นไปป์ร้องไห้... แล้วต่อด้วยประโยคเน้

"บ่าดีไห้ บอกว่าบ่าดีได้ เฮาบอกหื้อดัก ได้ยินก่อ บ่าดีไห้ น้ำต๋ามันบ่าได้จ๊วยหยังได้ มันย้อยลงบนแผม ฮาแสบ ฮาบอกว่าหื้อดัก!!"

: P

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ไปป์ปากแข็ง ภคินขี้น้อยใจ
ไหนๆคินก็รู้ความรู้สึกไปป์แล้ว ไปคุยกันซะให้รู้เรื่องง  :angry2:
คนอ่านจะลงแดงโว้ยย  :fire: :m31:

ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
คินไปป์สู้ๆๆๆๆๆ
สู้โว้ยยยย

ออฟไลน์ bowlyngz

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านมาถึง ซีเคร็ตรูมแล้ววว ยังตามไม่ทันซากกกกที  ไม่ชอบแซกเลย เหมือนเป็นผู้ชายในอุดมคติ เอื้อมไม่ถึง 555 รักค่าค่ะ ถ้าถ้ายังหาแฟนไม่ได้ ก็ส่งมาทางนี้ 555

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามตอ่ไปนะคร้าบบบบ

maii

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งมาก
น้ำตาไหลเลย
 :sad11:

ออฟไลน์ bowlyngz

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านมาถึงตอนที่52ค่ะ โอ้ยยย ทนไม่ไหวจริงๆ ต้องเม้นก่อนแล้วอ่านต่อ ฮามาก ฮามากเล่นเกมไม่พูดคำหยาบ ซะปากบวม 55 คนแต่งไม่อธิบาย ไม่เป็นไร ฟินเอง 55 น้องเห็ดมีวิวัฒนาการ ฮิ้ววว ชอบจริงๆ สงสัยได้เชื้ออาร์ทมา 55 อาร์ทจะเป็นพระเอกละครเวที โอยยยอารายจะฮาจนาดนั้น ไหนจะสติกเกอร์บนรถน้องเห็ดที่คู่นรกแตกทำไว้อีก 55 ..เห็นไปป์พูดเป็นรางบ่อยๆว่า โจ้จะมีสามี T_Tงั้นเชียร์เลยๆ 55 คนไหนที่อ่นไปถึงไกลๆแล้วคิดถึงตอนที่52 ก็ย้อนกลับไปอ่านนะคะ ฮาแตกกก
ป.ล.น้องค่าที่รักหายไป ไปจีบดาวจีบเดือนคณะไหนอยู่หล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ bowlyngz

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ู^
^
^
^
พิมพ์ตอนผิดค่ะ T_T ต้องอบกว่าเป็นRoom 44 หน้า 109 ค่ะ Room52 เค้าดราม่ากันแล้ว อย่าสับสนนะคะ
ป.ล.จะรีบอ่านให้ทันค่ะ ชอบกินมาม่า 555


ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Room 53

   “จากกราฟของทางบริษัท  จะเห็นได้ว่ากำไรของเราเพิ่มขึ้นถึง 7%  นอกจากนี้ยังสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้มากถึง 10%  ทั้งนี้เป็นผลจากการวิจัยพฤติกรรมการเลือกบริโภคน้ำผลไม้สดบรรจุขวด...”

   เสียงหยั่งกะท่องมนต์เลยวุ้ย  ผมแทบจะนอนฟุบหลับไปกับโต๊ะอยู่แล้ว  ถ้าไม่ติดว่าต้องมานั่งฟังบรรยายในห้องสโลปใหญ่  ถ้าหลับไปมีหวังโต๊ะเล็คเชอร์ล้มพับอายชาวบ้านเขาตายเลย  สุดท้ายก็เลยนอนเอนหลังพิงพนักแล้วปรือตาลงนิด ๆ  ง่วงก็ง่วง...  ที่จริงเมื่อคืนนอนหลับอยู่หรอก  แต่มันดันปวดตาจากการร้องไห้ไม่หายนี่สิ

   ไอ้ฟาร์เริ่มหาทางรอดในชีวิตด้วยการเล่นฟรุตนินจาอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม  และแน่นอนว่าไม่สนกูด้วย  ที่จริงวันนี้ผมไม่มีเรียนช่วงบ่ายนะ  แต่อาจารย์บังคับให้ทุกคนในคณะมาฟังบรรยายพิเศษจากตัวแทนฝ่ายการตลาดบริษัทเครื่องดื่ม  พอคนบรรยายเดินเข้าห้องเท่านั้นแหละ  ผู้หญิงทุกคนที่มันทำท่าจะหนี  มันวิ่งกลับไปนั่งแทบไม่ทันอะครับ  เพราะคนที่มาบรรยายแกหล่อเชียวครับ  เห็นว่าชื่อคุณชลธีอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ  ที่จริงแกก็วัยกลางคนเลยนะ  ไม่รู้ทำไมนักศึกษาสาวสมัยนี้ชอบผู้ชายมีอายุหรืออย่างไร  หรือมันได้อารมณ์เสี่ยเลี้ยงเด็กดีวะ?

   ไอ้ผมก็หาวแล้วหาวอีกเป็นรอบที่ร้อย  ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นร่วมห้องที่มันดูกระตือรือร้นจะฟังดีเหลือเกิน  โอเค  ผมยอมรับว่าคุณคนนี้แกเก่งจริง ๆ ครับ  แต่แกมีปัญหาตรงการสื่อสารอย่างแรงครับ  ไอ้หน้าตาขึงขังจริงจังกับหน้าที่การงานนั่นมันก็หล่อชวนให้สาวกรี๊ดอยู่หรอก  แต่คุณท่านเล่นมีเสียงโทนเดียวเป็นโมโนโทนแบบนี้  ผมขอบายเหอะครับ  ฟังแล้วจะหลับเอาได้

   ผมนี่นิสัยแย่ว่ะ  นินทากระทั่งวิทยากร  เฮ้ออออออออ  สงสัยวันนี้ความดันต่ำแต่เช้า  แถมยังปวดท้องไม่หาย  ต้องนั่งกระดกยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินไปครึ่งขวดถึงจะออกจากห้องมาได้  วันนี้ไอ้ฟาร์ขับรถมารับผมถึงหอเลยนะ  เป็นไงล่ะ  นั่งรถมาเรียน...   ดูไฮโซขึ้นมาทันตา  แต่แม่งผมมันคงพวกบ้าน ๆ ไปหน่อย...  ถึงได้คิดถึงไอ้เน่าที่อยู่ใต้หอขึ้นมาแทนซะงั้น

   อารมณ์แบบนี้ใครจะไปฟังอะไรรู้เรื่องล่ะ  หัวสมองมันฟุ้งซ่านจนลำดับไม่ถูกว่าจะคิดอะไรก่อนหลังดี...  นิสัยเสียของผมเลยล่ะ  ไอ้โรคคิดมากเนี่ย  คือคนอื่นมองอาจจะคิดว่ามันไร้สาระไปวัน ๆ  แต่บทจะเครียดผมเครียดจนเว่อร์กว่าชาวบ้านเขาเลย  ตอนนี้ผมก็เครียดถึงขนาดแอบหลับในห้องไม่ลงแล้ว  ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด

   “ไปป์...  สีหน้ามึงไม่ดีเลยว่ะ” ฟาร์เขย่าแขนผมเบา ๆ “กลับห้องมั้ย  เดี๋ยวกูขับรถไปส่ง”
   “ไม่อยากกลับห้อง...” ไม่อยากอยู่ในห้องกว้าง ๆ นั่นคนเดียว
   “แล้วมึงอยากไปไหน?”
“อยากไปหาภคิน...”

   ฟาร์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ “เสียชื่อไอ้ไปป์ซึนหมด...” มันว่าขำ ๆ ก่อนจะยัดมือถือลงกระเป๋าไป “ไปเมื่อวานมันก็ไม่ฟื้นมาคุยกับมึงนี่นา”
   “วันนี้มันต้องฟื้นแน่ ๆ  เมื่อวานมันง่วงเพราะยาแก้ปวดหรอก”
   “’โอเค...  กูก็ขี้เกียจฟังแล้วเหมือนกัน  เดี๋ยวกูไปส่งที่โรง’บาลเอง” ทำเป็นพูดดี  มึงได้ฟังด้วยเรอะ  ไอ้เห็ดเอ๊ย!  ได้แต่กัดมันในใจแหละครับ  ผมยังต้องพึ่งใบบุญลูกมันอยู่  เราค่อย ๆ เดินทำตัวลีบ ๆ ออกมาทางประตูด้านข้าง  โชคดีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น  เพราะมัวแต่สนใจมองวิทยากรอยู่...  ผมกับฟาร์เลยหลุดรอดออกมาได้อย่างสบาย ๆ

   เราเดินลงบันไดลงมาช้า ๆ  ฟาร์เองก็พยายามเดินช้ากว่าปกติเพราะมันกลัวผมจะตกบันไดตาย  ให้ตายเหอะ  ถึงจะดูโทรมแต่ผมก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย

   “อ้าว!  ไปป์คร้าบบบบบบบ” เสียงคุ้น ๆ  ผมชะงักแล้วหันไปทางต้นเสียง  ไอ้เด็กเสื้อช็อปนั่งกันสลอนเต็มม้านั่งเลยครับ  แน่นอนว่าแกนนำมันคือไอ้ค่าที่โบกมือเริงร่าอยู่  ซึ่งผมไม่มีอารมณ์จะเถียงกับมันตอนนี้ “มาทำอะไรครับ”
   “นี่คณะกู” ผมมองหน้าตอบเป็นเชิงว่า  มึงนั่นแหละมาทำอะไร
   “อ้าว  เหรอครับ  ค่าคงไม่ได้มานานไปหน่อย” กูเรียนตั้งแต่มึงเข้ามหาลัยแล้วไอ่โง่...
   “แค่นี้นะ  กูรีบ”
   “แล้วลูกพี่หายไปไหนครับเนี่ย  ปกติเห็นตามกันอย่างกับเงาตามตัว”

   ผมชะงักไปกับคำถาม...  นี่ผมกับมันในสายตาคนอื่นตัวติดกันขนาดนั้นเลย?  คนทั่วไปมองพวกเราด้วยสายตาแบบไหนกันนะ?  ภคินน่ะ  คนรู้จักกันทั้งมหา’ลัย  แล้วในขณะที่ผมเดินอยู่ข้าง ๆ มัน  ทุกคนคิดอะไรอยู่?  มองพวกเราเป็นตัวประหลาดรึเปล่า  แล้วเขาจะรู้มั้ยว่าเราเป็นอะไรกัน?

   ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนอื่น  ยิ่งอีกฝ่ายเป็นถึงภคินด้วยแล้ว...

   “ไปป์ครับ...  ไปป์” ไอ้หน้าตี๋โบกมือผ่าน ๆ เรียกสติผมจนสะดุ้งโหยง
   “ฮะ!?”
   “เป็นอะไรไปน่ะครับ” มันขมวดคิ้ว “ไม่เห็นต้องตะลึงในความหล่อของค่าขนาดนี้เลย”
.
   ไอ้เวรเอ๊ย...   ถ้าไม่ติดว่าแค่ยกแขนยังแทบไม่ขึ้นผมจะยกตีนถีบมันจริง ๆ นะ  ถึงจะรู้ว่าสติมันไม่สมประกอบ  ไม่ควรใส่ใจ  แต่พอมาเจอแต่ละประโยคที่หลุดจากปากมัน  ผมล่ะอยากจะจัดให้สักดอก  บ้าเอ๊ย! ทำกูเครียดไม่รู้ตัวนะมึง

   “ค่า...  กูไม่มีเวลาให้มึงกวนประสาท  กูกำลังรีบ” ว่าแล้วผมก็คว้าข้อมือไอ้ฟาร์ที่ยืนเอ๋อ ๆ ลากแขนมันลิ่ว ๆ ออกมาเลย  ซึ่งไอ้ค่าก็เกาหัวงง ๆ ว่ามุกมันไม่ผ่านตรงไหน...  ว่าแต่มันมาทำอะไรที่คณะผมวะ  อยู่ตั้งไกล...  เออ  ช่างมันเหอะ  พอเครียดลงกระเพาะแล้วต่อมเสือกไม่ทำงานทุกที  ผมสาวเท้ายาว ๆ รอให้ฟาร์ปลดล็อกแล้วทิ้งตัวนั่งตรงเบาะข้างคนขับอย่างหมดสภาพ

   “อารมณ์ไม่ดีเหรอวะ  หน้าเครียดกว่าเดิมอีก” มันว่าพลางสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์ดับร้อน  ไม่รู้ว่าจะดับอารมณ์ผมด้วยรึเปล่า
   “กูคิดมากอีกแล้วว่ะฟาร์...”
   “หือ?” มันเลิกคิ้ว  ค่อย ๆ หักพวงมาลัยเอารถออกจากซอง “เรื่องอะไรล่ะ...  กูเห็นมึงคิดมากทุกเรื่อง”
   “เรื่อง...  โอ๊ย!  แม่งเยอะว่ะ  คือกูไม่รู้จะพูดยังไงดี  เรื่องแรกคือ  กูกลัวภคินมันจะเป็นอะไรหนัก  ถึงหมอจะบอกว่ามันไม่เป็นอะไรแล้ว  แต่ขามันหักเลยนะเว่ย  ขาหัก!  แล้วไหนจะซี่โครงมันอีกล่ะ  ถะ... ถ้ามันหายแล้วไม่เหมือนเดิมล่ะวะ”
   “ไปป์” ฟาร์พูดเสียงเข้มขึ้น “มึงเป็นหมอรึไง?”

   เอ่อ...  ผมอ้าปากค้างไว้  ชะงักไปเพราะไม่รู้จะเถียงอะไรต่อดี  คือ... กูก็ไม่ได้เป็นหมอจริง ๆ นั่นแหละ  แต่ทำไมกูจะคิดว่าอาการมันหนักกว่าที่เห็นไม่ได้วะ  ก็ดูสภาพมันสิ  แต่ก็อาจจะเป็นอย่างที่ฟาร์มันบอก  หมอเขาก็ยืนยันมาแล้วนี่นาว่ามันไม่ได้เป็นอะไร  เฮ้ออออออออออ  ฟุ้งซ่านจริง ๆ ด้วย  ให้ตายเหอะ

   “มึงอย่าคิดอะไรให้มันเยอะเลยไปป์  เฮ้ย!  ไอ้เชี่ยนี่  มึงจะเข้าเลนไหนกันแน่วะ!?” เอ่อ...  ฟาร์  มึงจะปลอบหรือจะด่า  เอาสักอย่างเหอะ “หมอบอกไม่มีอะไรก็ไม่มีสิวะ”
   “กูเป็นต้นเหตุทำให้มันเจ็บตัวแท้ ๆ เลย” ผมแหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้าเบื้องหน้าหลีกหนีการจราจรที่แสนวุนวาย “กูบอกเพื่อนเก่ามันว่ากูไม่ได้เป็นอะไรกับมัน”
   “....” ฟาร์เลือกที่จะเงียบ  ผมรู้ดีว่าถ้ามันไม่ตอบหมายความว่ามันไม่มีคำตอบให้เรื่องนี้  ครับ...  ผมรู้ตัวเองว่าผิด  ผมไม่ควรพูดอย่างนั้นออกไป  ถึงจะมีเหตุผลบางอย่างก็เถอะ

   ผมยอมรับว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้จริง ๆ  ไม่อยากเลย  ไม่มาลองเป็นผมคงไม่เข้าใจ  จะให้ไม่คิดอะไรกับเรื่องนี้ก็คงไม่ได้หรอก  ผมเป็นผู้ชายนะ  แล้วผู้ชายอย่างผมก็ดันมีแฟนเป็นผู้ชายอีก...  มันผิดนะ  ผมรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง  มันทำให้ครอบครัวผมต้องเสียใจ  ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง

   แต่จะให้ผมเดินออกมาจากภคิน  ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกัน  แค่นึกภาพมันนอนอยู่บนเตียงคนไข้เมื่อวานนี้มันก็เสียวยอกขึ้นมาในอกแล้ว  เห็นมันเจ็บผมยังเจ็บด้วยขนาดนี้  เรื่องจะให้ทิ้งมันไว้คนเดียว  ผมทำไมได้หรอก  ไม่มีผม... ภคินอยู่ไม่ได้แน่ ๆ  แล้วถ้าไม่มีภคินล่ะ... ผมจะเป็นยังไง?

   ครับ  ผมยังมีพ่อ  มีแม่  มีเชอร์  มีเพื่อน ๆ ที่ผมรัก...
   ยังมีทุกอย่าง  ยกเว้น ‘ความสุข’  เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผมคนเดียวอีกต่อไปแล้ว  มันขึ้นอยู่กับภคินด้วย


   ผมเคยคิดว่าภคินมันบ้าที่เอาชีวิตมาผูกกับผม  แต่ต่อจากนี้ไปคงว่ามันไม่ได้แล้วล่ะ  ตัวผมเองก็ผูกชีวิตไว้กับมันโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน  ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากตอนไหน?  เมื่อไหร่?  รู้ตัวอีกที  ชีวิตก็ไม่ใช่ของตัวเองคนเดียวอีกต่อไป

   ตื่นเช้ามองหน้ามัน  กินข้าวก็กินพร้อมมัน  จะไปที่ไหนก็ไปกับมัน  จะนอนก็ต้องล้มตัวนอนพร้อมมัน
   ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ขาดมันไม่ได้แล้ว  ชีวิตผมมีแต่มัน... มัน... มัน...  ภคิน... ภคิน... ภคิน...
   ไอ้คนเอาแต่ใจเอ๊ย  ขนาดใจกู  มึงยังบังคับกันได้ขนาดนี้


   “ฟาร์...”
   “ไอ้เหี้ย!  ขับอย่างกับพ่อมันเป็นเจ้าของถนน...  ฮะ!?  มึงว่าอะไรนะไปป์”
   “เออ  ช่างเหอะ  มึงด่าไอ้ซีวิคข้างหน้าก่อนเหอะ  มันปาดหน้ามึงคืนแล้ว”

   กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลได้  เล่นเอาไอ้ฟาร์น้ำลายแห้งไปหมดครับ  ยิ่งไกลจากมหาลัยอยู่ด้วย  ฟาร์บอกให้ผมขึ้นห้องไปเถอะไม่ต้องห่วง  เดี๋ยวมันจะแวะไปทำธุรกรรมทางการเงินให้ป๊า  พอผมชวนขึ้นไปเยี่ยมภคินด้วยกัน  มันก็จ้องหน้าผมเงียบ ๆ  แล้วตบไหล่ผม

   “ไปคุยกันให้รู้เรื่อง...  กูน่ะมาเยี่ยมเมื่อไหร่ก็ได้  ไปเหอะ  มันอยากเจอมึงนะ

   ผมยิ้มบาง ๆ ให้...  ฟาร์เข้าใจผมมาตลอด  ถึงผมจะมีแซ็ก  มีเวฟ  มีโอ๊ตแล้ว  แต่การเข้ามหาลัยก็ทำให้ผมได้เจอเพื่อนดี ๆ อย่างมัน  ฟาร์อาจจะเงียบกับคนอื่น  แต่มันพูดมากกับผม  และมันก็เป็นเพื่อนที่เข้าใจผมมาตลอด  มันไม่เฮ้วไม่ลุยเหมือนไอ้พวกนั้นก็จริง  ติดจะลูกคุณหนูด้วยซ้ำ  น่าแปลกที่เราเข้ากันได้ดีมาก  ถึงเราจะชอบเถียงอะไรไร้สาระกันอยู่บ่อย ๆ  แต่เวลามีปัญหาทุกครั้งมันก็โดดลงมาช่วยผมทุกที...  มันเป็นเพื่อนตายอีกคนของผม

   มองหน้ามันแล้วมันเขี้ยวจนต้องขยี้หัวเห็ดให้กระจุย “ขอบใจที่มาส่งว่ะ”
   “เออ  ข้าวสักมื้อก็พอ”

   ผมเดินออกจากลานจอดรถช้า ๆ  มือก็ล้วงหามือถือในกระเป๋ามากดโทรออก  คุณน้าบอกผมว่า  ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่ห้องเพราะต้องออกมาทำงาน  ซึ่งผมก็เข้าใจเธอนะ  ครอบครัวเขามีกันอยู่แค่นี้  ภคินดันมาเจ็บอีก  คุณน้าก็ต้องไปหารายได้เพิ่มเพื่อชดเชย  โอเค  แสดงว่าตอนนี้ภคินอยู่ที่ห้องคนเดียว  น่าจะเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้ปรับความเข้าใจกับมัน

   ผมสาวเท้าเร็วขึ้นแทบจะวิ่งอยู่แล้ว  อยากเจอเร็ว ๆ  อยากคุย  อยากสูดกลิ่นน้ำทะเลเย็น ๆ  อยากสบตา  อยากกอด...  ผมเลี้ยวตรงหัวมุมตึกผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปด้านใน  พยายามเดินให้ช้าลง  เพราะการวิ่งในโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องดีนัก  หัวใจผมสูบฉีดเลือดแรงขึ้นเรื่อย ๆ  ไม่รู้ว่าเกิดจากความเหนื่อยหรือตื่นเต้นกันแน่  ผมขึ้นบันไดไปที่ชั้นสาม  เลี้ยวซ้ายถัดไปสามห้อง  นั่นแหละ...  ในที่สุดก็มายืนอยู่หน้าห้องนี้แล้ว  ห้องที่มีกระดาษเสียบไว้ด้านหน้าว่า ‘ภคิน   โพธิวัฒน์สกุล’

   บ้าชะมัด  แค่เห็นชื่อหัวใจเต้นแรงขึ้นเหมือนจะหลุดออกมาด้านนอก  ไหนจะหอบแฮ่กจากการวิ่งอีก...  เอาล่ะไปป์  ใจเย็น ๆ ก่อน  ตั้งสติดี ๆ นะ  ตอนนี้ภคินมันอยู่ตรงหน้าแล้ว  มีแค่กระดานไม้แผ่นเดียวที่กั้นเอาไว้  แล้วผมจะพูดอะไรดีล่ะ?  ขอโทษ?  กูเสียใจ?  เจ็บมากมั้ย?  อะไรที่จะทำให้ภคินรู้สึกดีได้  โธ่เว้ย!  วิ่งมาเพื่อจะมาทำหน้าโง่อยู่หน้าห้องรึไงกันไอ้ไปป์!?  ทำไมต้องมาคิดอะไรไม่ออกตอนนี้ด้วย

   เอาล่ะ!  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด  มือขวาที่กุมลูกบิดเย็นเยียบค่อย ๆ บิดช้า ๆ  ก่อนจะผลักประตูเข้าไป...

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7

   “เฮ้ย!  ทำอะไรน่ะ!?”

   ผมตกใจกับภาพตรงหน้า  ไอ้ภคินแทบจะตกลงมาจากเตียงอยู่แล้ว  มันบิดตัวเอื้อมหยิบอะไรสักอย่างที่ผมไม่ได้สนใจ  เพราะวิ่งไปคว้าตัวมันไว้ก่อนที่มันจะล้มหัวฟาดพื้น  ตกใจเสียจนลืมตัวว่าเรายังมีเรื่องติดค้างใจกันอยู่  ผมกอดแขนภคินข้างนึงไว้และพยายามลากมันกลับขึ้นเตียง  แต่เจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือ  มันชะงักค้างในท่าเดิมแล้วเปลี่ยนจุดโฟกัสมาอยู่ที่ใบหน้าผมแทน

   บ้าเอ๊ย  อย่ามองแบบนั้นได้มั้ย?  ดวงตาเรียวสะท้อนภาพผมออกมาอย่างชัดเจน...  อีกแล้ว  นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นทำให้ผมถลำลึกลงไปอีกแล้ว  แววตาของมันที่ใช้กับผมไม่เคยเปลี่ยนไปเลย  มันชวนให้หัวใจเต้นแรงขึ้น...  ชั่วเวลา ณ ขณะนั้น  ราวกับเข็มนาฬิกาหยุดเดิน  ภคินค่อย ๆ ขยับปากช้า ๆ

   “ปวดเยี่ยว”

   เชี่ยเอ๊ย!  ให้มันได้แบบนี้สิ  นี่เป็นคำแรกที่มันพูดกับผมเหรอวะเนี่ย!  ผมรีบหันควับไปมองมือซ้ายของมันที่ตอนนี้มีไม้ค้ำอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว  โธ่เว้ย!  ไอ้กูก็นึกว่ามึงจะน้อยใจหนีไปที่ไหน  ที่แท้ก็ปวดเยี่ยว “แล้วทำไมไม่เรียกพยาบาล”
   “ไม่เอา  เดี๋ยวเขามาแอบส่องของกู”
   “ใครจะไปอยากดูวะ  ตาบอดกันพอดี” บ่นไปอย่างนั้นแหละ  ตอนนี้ผมสอดแขนข้างนึงที่เอวมัน  แล้วพยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้น  อ่า  พอก้มลงมองเฝือกที่ขาขวาแล้วเจ็บแทนชะมัดเลย  ภคินเบ้หน้าเล็กน้อยจังหวะที่ดีดตัวขึ้นจากเตียง  คาดว่ามันคงระบมไปทั้งตัว  มันกับผมพากันเดินอย่างทุลักทุเลไปทางห้องน้ำ  ผมเอื้อมมืออีกข้างไปเลื่อนประตูออก

   “อูยยยยยยย” มันครางเบา ๆ  ผมเลยต้องจับแขนมันให้แน่นขึ้น  เผื่อมันจะทรุดลงไป
   “เจ็บเหรอ...”
   “ไม่เจ็บมั้ง  เยินซะขนาดนี้” ทำไมไอ้พวกนั้นไม่อัดมันปากแตกไปเลยวะ  จะได้ไม่ต้องมาเถียงกะกูแบบนี้  ตอนนี้มันอยู่ในสภาพยืนอิงไม้ค้ำข้างหนึ่งส่วนอีกข้างมีผมประคองเอาไว้  ภคินหันกลับมาจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง “ยังจะมองอีก  แกะเชือกกางเกงดิ”
   “เอ้า!  ไอ้ห่านี่  มีมือมีตีนก็ทำเองสิวะ”
   “มึงดูมือกูนี่!” มันแบมือข้างขวาให้ผมดู “จับช้อนแดกข้าวยังลำบากเลย”
   “โธ่เว้ย!  เรื่องเยอะจริง” บ่นไปก็หน้าแดงไป  ไอ้นรกแตกเอ๊ย!  เปิดห้องมาก็ด่ากันเลยเหรอวะ  แล้วนี่กูจะพูดอะไรดีล่ะเนี่ย  แม่งเขินก็เขิน  แต่ก็ต้องจำใจทำ  ผมค่อย ๆ คลายปมโบว์ที่ผูกตรงช่วงเอวมันออกช้า ๆ  แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่พื้นแทน  ไม่กล้าสบตา “เสร็จละ...  รีบ ๆ เยี่ยวได้ละ
   “ถ้ากูบอกว่ากูถือของกูไม่ไหว  มึงจะว่ายังไง”
   “ทำไม...  มันหนักมากนักรึไงไอ้ห่า” อย่านะมึง  ตัดมือกูทิ้งเหอะ  ผมมองอย่างเหยียดหยาม “อันเท่าหนอน”
   “ระดับกูพญานาคเท่านั้นแหละ” มันยักไหล่ “ถือไม่ดีนี่กูฟาดคอห่านล้ม  ได้จ่ายค่าซ่อมให้โรง’บาลนะเว้ย”
   “อย่างมึงอะ  พญานาคบนกล่องไม้ขีดไฟแหละโว้ย”

เดี๋ยวสิ...  มันใช่เวลามาตีกันว่าของใครใหญ่มั้ยเนี่ย!?  ผมล่ะปวดหัวกับตัวเองและไอ้คนข้าง ๆ นี่จริง ๆ  ยิ่งมันหันกลับมาจ้องหน้าผมด้วยแววตาจริงจังแล้ว... “ใหญ่ไม่ใหญ่ก็ทำมึงนอนซมได้ละว้า...”

   อุก... จุกไปถึงทรวงใน  ความพ่ายแพ้มันกระแทกลงมากลางหัว  ประหนึ่งไอ้ภคินได้เหยียบผมลงไปจนจมดิน  อั้ก! น้ำท่วมปากเถียงไม่ออกโว้ย! “ตกลงไม่มีบริการใช่มั้ย  จะได้เยี่ยวละ”
   “เออสิวะ!  อย่าให้กระเด็นมาทางกูนะมึง”
   “จะพยายามละกัน” ไอ้พระเอกหันมายักคิ้วกวนประสาทให้ “กูจะล่อให้ยิ่งกว่าสปริงเกอร์”

   แสรดดดดดดดดดดดดดด  ไอ้พระเอกนรก  จิตใจมึงทำด้วยอะไร!?  ผมเริ่มเกร็งตัวพร้อมจะปล่อยให้มันร่วงอยู่หน้าส้วมคนเดียว  แขนขวาของภคินที่อยู่ในอุ้งมือของผมสั่นนิด ๆ  ภคินคงเจ็บ...  เห็นว่ากระดูกซี่โครงหักตั้งสองซี่  ไม่เจ็บก็บ้าแล้ว  ผมก้มหน้ามองพื้นปล่อยให้อีกฝ่ายปฏิบัติภารกิจส่วนตัวไป

   ในห้องน้ำไร้ซึ่งบทสนทนาใด ๆ  อ่า  อึดอัดชะมัดเลย  ผมควรจะพูดอะไรดีนะ  ในเมื่อหัวสมองมันว่างเปล่าขนาดนี้  ทั้ง ๆ ที่อยากจะมาเจอหน้าแท้ ๆ  แต่เอาเข้าจริง ๆ กลับไม่รู้จะพูดอะไรดี  ความรู้สึกมันตีกันในหัวไปหมด  ผมอยากให้ภคินเข้าใจผมบ้าง  รู้ว่าตัวเองผิดที่พูดออกไปแบบนั้น  แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้จริง ๆ  บ้าเอ๊ย…

   “ขอโทษนะ...”

   มันไม่ได้ออกมาจากปากผม...  มันมาจากคนข้าง ๆ  ดังขึ้นมาแทรกเสียงฉี่ที่ก้องไปทั่วห้องน้ำแคบ ๆ

   ขอโทษงั้นเหรอ?  ภคินขอโทษผม  ขอโทษเรื่องอะไร?

   ผมถึงขั้นเผลอตัวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกฝ่ายทันที  ไม่รู้ว่าภคินคิดอะไรอยู่  เพราะมันไม่ยอมสบตากับผมอย่างเคย  ภคินแหงนหน้าขึ้นมองเพดานด้านบน “กูมาลองคิด ๆ ดูแล้ว  กูก็ผิดเองแหละ...  ที่น้อยใจอะไรโง่ ๆ  ตอนที่มึงบอกไอ้ตุ้ยว่าไม่ได้เป็นอะไรกับกู  กูก็เอาแต่คิดอยู่ตลอดว่า...  มึงอาจจะไม่ได้รักกูจริง ๆ ก็ได้”
   “ภคิน...” ผมครางเรียกมัน
   “กูคิดว่ามึงอาจจะอึดอัดมาตลอดที่กูบังคับให้มาเป็นแฟน  แต่พอคิดว่ามึงเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ  ถ้าคนอื่นรู้ว่ามึงเป็นเมียกู  มึงก็คงอาย  กูเข้าใจ...  กูไม่โกรธมึงหรอก” มันว่าพลางดึงกางเกงขึ้นมาสวม “กูโกรธตัวเองมากกว่า... ที่เอาแต่คิดว่ามึงไม่ได้รัก  ถ้ามึงไม่ได้รักกู  มึงจะมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม...  จริงมั้ย?”

   อ่า  ให้ตายเถอะ  ใบหน้าหล่อคมนั่นเลื่อนลงมามองหน้าผมช้า ๆ  วินาทีที่มันค่อย ๆ คลี่ยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากทำเอาผมแทบลืมหายใจ...  รอยยิ้มของภคินเหมือนกับน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตที่กำลังใกล้ตายของผม  ขอบคุณที่มันเข้าใจ  แต่การที่มันมาขอโทษผมก่อนแบบนี้  ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดต่อมันตีตื้นขึ้นมาในอก...

   ผมเองก็ผิด... ที่ไปตอบไอ้ตุ้ยมันแบบนั้น  รู้ทั้งรู้ว่าภคินมันคิดยังไง  ผมรู้ว่าบางทีมันก็คงจะสงสัยในความรักที่ผมมีให้มัน  ผมไม่เคยทำอะไรให้มันมั่นใจเอาเสียเลย  คอยแต่หลบหลีกคนอื่น  หนีความจริงมาตลอด  ไม่อยากให้คนอื่นรู้  สนใจแต่สายตาที่คนอื่นมองมา

   จนลืมถามตัวเองว่า...  ได้สนใจสายตาคนตรงหน้านี้บ้างหรือเปล่า

   “กูต่างหากต้องขอโทษมึง” ผมขยับตัวเอื้อมไปช่วยมันผูกเชือกกางเกง “กูเอาแต่คิดเรื่องของคนอื่น  จนลืมคิดถึงความรู้สึกของมึงไป  ภคิน  กูไม่ได้อยากจะแก้ตัวหรอก  กูรู้ว่าตัวเองผิดเต็ม ๆ  แต่กูจะบอกว่าพ่อไอ้ตุ้ยแกรู้จักกับพ่อกู  เพราะงั้นตอนนั้นกูถึงรีบตะโกนออกไป  ขอโทษที่ไม่ได้คิดถึงจิตใจมึงเลย” มือผมยังจับที่เชือกบริเวณเอวกางเกงไม่ห่าง  แม้ว่าจะผูกเสร็จแล้วก็ตาม “มึงรู้มั้ย...  กูกังวลมาตลอด  กูกลัวพ่อแม่รู้  กลัวจะทำให้เขาผิดหวัง  แล้วตอนนี้... กูก็กลัวเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง”
   “.......”
   ผมหลับตาลงแล้วซบหน้าลงบนไหล่มัน “กลัวทำให้มึงเจ็บ”
   “ไปป์...” ผมชอบฟังเสียงทุ้ม ๆ นี่เวลากระซิบที่ข้างหูจัง “กูจะไม่สัญญาหรอกว่า  นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะทะเลาะกัน  โลกใบนี้มันสอนให้กูเชื่อว่า  ชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอก  มันมีตัวแปรอะไรหลาย ๆ อย่างเข้ามา 1+1 อาจมากกว่าสอง  หรืออาจติดลบไปเลยก็ได้”

   ภคินช่างเป็นคนที่มีอะไรขัดกันในตัวเองเยอะจริง ๆ  ในขณะที่มันมองโลกเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย  ต่างกับนิสัยที่ไม่ได้เข้ากับความเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย  มันเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ต้องการความอบอุ่นจากคนที่มันรัก...

   “ในอนาคตเราอาจจะทะเลาะกันอีก...  ไม่สิ  กูว่ากูกับมึงต้องทะเลาะกันอีกแน่ ๆ” ผมหลุดหัวเราะเบา ๆ  ถูกของมันว่ะ “กูจะใช้สติให้มากกว่านี้  อย่างน้อยที่สุด  กูก็จะไม่คิดอะไรโง่ ๆ อย่างวันนั้นอีก...  โอเคมั้ย?”
   “อืม...” ผมสูดกลิ่นน้ำทะเลเย็น ๆ ที่โหยหามานาน  แค่ได้สัมผัสก็ทำให้หัวใจพองโตไปหมดแล้ว  ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก  ผมยังจะต้องเจออะไรอีกมากมาย  ขอแค่มีไหล่ของคนคนนี้ให้ซบลงไปก็เพียงพอแล้ว...

ที่ยากกว่าการรัก คือ การอยู่กับรักต่างหาก...

   ในเมื่อทุกอย่างไม่มีทางควบคุมได้  1+1 ไม่เคยเท่ากับสอง...  เราคงยังต้องเจออะไรอีกมากมายในชีวิต  ไม่มีอะไรที่ลงตัวไปหมดทุกอย่างเหมือนในละครหรอก  เพราะเราเป็นมนุษย์ผู้ซึ่งไร้ความสมบูรณ์แบบ  และเราเองก็ไม่สามารถเติมใครอีกคนให้เต็มอย่างสมบูรณ์แบบได้  ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ  การอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบนั้นให้ได้ต่างหาก

   ภคินเอียงหัวมาซบหัวผมอีกทีนึง  มันถูเส้นผมลงมาเบา ๆ “อยากกอดมึงจัง...” ผมผละออกมา  เราจ้องตากันเงียบ ๆ โดยไร้คำพูดใด ๆ  ภคินค่อย ๆ โน้มหัวลงมาจนหน้าผากชนกับผมเบา ๆ  เหมือนถูกหลอมละลายด้วยสายตาเว้าวอนแบบนั้น...  หัวใจผมเต้นแทบจะหลุดออกมาด้านนอก  มันค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาเพื่อจะเชยคางผม...

   เผียะ

   ผมปัดแขนมันทิ้งโดยสัญชาตญาณ  ภคินเบิกโพลงอย่างตกใจ  ก่อนแววตานั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด  มันเบือนหน้าออกไปอีกทางเหมือนจะสกัดกั้นความน้อยใจ  ไม่นะ... มันไม่ใช่

   “ภคิน...  มึง...”
   “พอแล้ว...  อย่าพูดเลย”
   “มะ... ไม่ใช่นะมึง  กูไม่ได้ตั้งใจ...”
 “........”
   “แต่... มึงเยี่ยวแล้วยังไม่ล้างมือ”

   เรามองหน้ากันก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดัง ๆ ด้วยความโล่งใจ  ฮ่า ๆ ๆ  ผมพยุงภคินที่ล้างมือเรียบร้อยแล้วออกมาจากห้องน้ำ  จัดแจงให้นั่งบนเตียงแล้วเอาไม้ค้ำไปวางไว้ข้างหัวเตียงตามเดิม  มันฉีกยิ้มกว้างให้ผม “แม่ง...  หัวเราะจนซี่โครงหักเพิ่มอีกซี่แล้วมั้งเนี่ย”
   “เอ้า!  อย่ามาโทษกูนะ  ใครใช้ให้มึงเส้นตื้นเล่า”
   “เดี๋ยวถ้าอาหารเย็นมาเสิร์ฟเมื่อไหร่  มึงต้องป้อนกูเป็นการขอโทษ”
   “ขอโทษเหอะครับคุณพี่  ผมไปทำอะไรผิดตอนไหน” ผมจิ้มหน้าผากมัน “ก็มึงไม่ล้างมือจริง ๆ นี่หว่า”
   เหมือนโดนเล่นทีเผลอ...  เพราะไอ้พระเอกมันรอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว  มันคว้าข้อมือผมแล้วกระชากเข้าไปใกล้ ๆ  แน่ใจนะว่ามึงป่วย  แรงควายชิบหาย “แต่ตอนนี้ล้างแล้ว...  ขอสูบไปป์ให้ชื่นใจหน่อยได้มั้ย”
   “นี่มันฟาดหัวมึงไม่ได้เอาความหื่นกระเด็นออกไปเลยใช่มั้ย?”
   “เดี๋ยวกูพิสูจน์เอง” มืออุ่น ๆ เชยคางผมขึ้นมาช้า ๆ  ใบหน้าหล่อคมค่อย ๆ โน้มลงมา  ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะแนบกันสนิท...  ภคินจูบผมเบา ๆ ขบเม้มที่ริมฝีปาก  แล้วค่อย ๆ สอดลิ้นเข้ามาภายใน...  เป็นจูบที่หวานเสียจนผมแทบแทบนั่งไม่ติด...  เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ  หัวสมองมันโล่งไปหมด...  ผมงับเบา ๆ ที่ริมฝีปากบางนั่นคืนบ้าง  เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้มันรู้ว่าตัวเองรู้สึกดีแค่ไหน...  ในขณะที่ผมกำลังสอดลิ้นตอบรับอีกฝ่ายนั้น

   “ไอ้คิน!  พวกกูได้ข่าวว่ามึง...”

   ตึง!  ตึง!  ตึง!

   ไอ้เหี้ยโจ้เปิดประตูออกมาได้อล่างฉ่าง  อลังการงานสร้างเสียยิ่งกว่าเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์สามภาครวมกัน  สมาชิกที่ยืนอยู่หน้าประตูทั้งหมดอ้าปากค้าง...  ประกอบไปด้วย  ไอ้โจ้  เจ้าภาพงาน  ไอ้กัน  ผู้ติดตาม  ไอ้ฟาร์  ซึ่งไม่รู้รีเทิร์นกลับมาทำไม  และไอ้อาร์ท  ที่สีหน้าดูไม่ตกใจสักนิดเลย  แต่มันกลับส่งเสียง หึ ๆ ๆ อย่างน่าสยดสยอง...

   “ไม่นึกเลยนะครับ  ว่าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศกันขนาดนี้” มันยิ้ม “ไม่เกรงใจผีสางกันบ้างเลยนะครับ”

   โอ๊ย! เช้ดดดดดดดดดดดดดดดดด  หน้ากูร้อนจนควันจะขึ้นแล้ว  ไอ้เหี้ยอาร์ท!  ผมฟุบหน้าลงกับเบาะนอนเพื่อหนีความจริง  กูอยากจะกระโดดออกไปนอกหน้าต่างตอนนี้เลย...  แม่งกำลังเคลิ้ม ๆ  เอ๊ย!  กำลังอายโว้ย!

   “จุ๊ ๆ ๆ ๆ  แหม...  เดี๋ยวนี้น้องไปป์เค้าพัฒนาเว้ย” ไอ้เหี้ยโจ้เริ่มก่อนเลยครับ  แม่งมาเดินวนรอบเหมือนกูเป็นเจดีย์งั้นแหละ  และแน่นอนว่าคู่ขามันต้องตามมาสมทบ
   “พี่กันว่าแล้ว...  น้องไปป์ต้องไม่ใช่หนิม ๆ  เห็นแบบนี้เร่าร้อนเหมือนกันนะเราน่ะ” แล้วมันสองคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะอันน่าสะอิดสะเอียน  เชี่ยยยยยยยยยยย  กูเกลียดพวกเมิงงงงงงงงงงง!
   “ห่า!  ขัดจังหวะ” ไอ้เหี้ยนี่ก็ไม่ได้มีองมีอายอะไรกับเค้าหรอก  ไอ้ภคินขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด...  ดูก็รู้ว่าหัวเสียแค่ไหนที่ถูกขัดตอนกำลังเคลิ้ม ๆ “จะได้กันอยู่แล้ว”
   “น้อย ๆ หน่อยครับคิน  เดี้ยงขนาดนี้  อะไร ๆ มันก็ไม่แข็งไม่แรงหรอกครับ” เหยดดดด  อะไรแข็งวะ  เชี่ยอาร์ท  มึงมาพูดให้เคลียร์ก่อนดิ๊

   ไอ้ฟาร์ที่ตอนนี้อาฟเตอร์ช็อกค้างคา  ค่อย ๆ กระดึ๊บเข้ามาในห้องมากขึ้น  โถเพื่อน...  ถึงมึงจะไม่เคยเจอหนังสด  แต่กูเชื่อว่าหนังโป๊มึงก็ต้องผ่านมาบ้างล่ะวะ  มันพยายามทำตัวลีบ ๆ ไปนั่งที่โซฟา  และมองผมถูกไอ้พวกที่เหลือรุมฉีกขย้ำเนื้ออย่างทารุณ  โดยไม่คิดจะหยิบยื่นความช่วยเหลือมาสักนิด

   “ไหนจ๊ะ  น้องไปป์...  ให้พี่คินฉีดยาแก้เขินให้หน่อยมั้ยครับ” ไอ้กันมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยอยู่บนหัวผม  แม่ง!  อยากดีดให้กระเด็นอัดข้างฝา “ดูซิ...  ทำไมหูแดงจังเลย”
   “อ๊ะ...  ไหน ๆ ๆ” เชี่ยโจ้ชะโงกหน้าออกมาจากอีกฝั่ง “ชะอุ๊ย!  ดูสิเขินใหญ่เลย  น่าร้อคเอ๊าะ!”
   “โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย  กูไม่ไหวละนะ  พวกมึงจะคุมคามทางเพศกูไปถึงไหนวะ” กูเลิกฟุบหน้าให้มันแซวเล่นแล้ว  ต้องด่า ๆ ๆ  ด่ามันคืนนนนน “อะ... ไอ้พวกไม่มีใครเอาแล้วอิจฉาคนอื่น!”
   “ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  พี่กันขา  เขาหาว่าเราไม่มีใครเอาค่ะ” ไอ้โจ้สวมบทโปรดของมันทำกระแซะคู่หูมันใหญ่  ไอ้กันก็เล่นด้วยเว้ย  มันทำทีเป็นตบไหล่เพื่อนรักปลอบใจ
   “ไม่เป็นไรโจ้  ไม่มีใครเอา... ดีกว่าเอากันเอง”
   “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” กูเกลียดเสียงหัวเราะมึงสองคนมาก!

   เถียงก็แพ้...  ไม่เถียงก็แพ้...  ชีวิตไอ้ไปป์ชักจะอยู่ยากขึ้นทุกทีแล้วว่ะ  ผมหมดอาลัยตายอยากในชีวิตมากกว่าเดิม  เมื่อไอ้พระเอกเองก็ไม่มียางอายอะไรเล้ย!  มันลอยหน้าลอยตาดูผมถูกทารุณด้วยคำพูดอย่างมีความสุข  โชคดีที่มันเองไม่ได้โดดลงมาร่วมวงด้วย  ไม่งั้นก็เอามีดแทงกูเลยเหอะ

   “อยู่ดี ๆ ก็มาสูบไปป์กันในโรง’บาลหน้าตาเฉย  ขี้ยาว่ะ!” โจ้...  มึงยังไม่จบกับกูใช่มั้ย
   “ไอ้ห่า...  เสพสารเสพติดในโรง’บาล  มีโทษจำคุกตลอดชีวิตนะเว้ย” ไอ้กัน  หนุ่มเมืองใต้ผู้ฝักใฝ่ธรรมะถามขึ้น  เพื่อส่งมุกให้ตัวพ่อที่นั่งเงียบอยู่นานตบมุกคืน
   “ยอมก็ได้” ภคินยักคิ้วเผล่มาทางผม “แต่ขอจองจำในห้องหัวใจคนนี้ได้มั้ยล่ะ”

   ผมหลับตาลงก่อนที่เสียงจากสัตว์นรกจะกรีดร้อง “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววว”

   แม่ง!  มึงแดกยาม้ากันเข้าไปเรอะ!?



   TBC

วันนี้เรามาTalkแบบมีสาระกันดีกว่าค่ะ  จากที่ไร้สาระมานาน ฮ่าๆๆ

ขอเขียนถึงมุมมองความรักเสียหน่อย เพราะไม่รู้ว่าเขียนงงไปมั้ย คือคนเขียนต้องการจะสื่อว่าคนเราเป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่มีวันต่อกันพอดี คือเราไม่สมบูรณ์ในตัวเอง และไม่สามารถต่อกับใครให้สมบูรณ์ได้ ขนาดแม่เรายังเคยทะเลาะเลยจริงไหมคะ  ดังนั้นการจะอยู่กันโดยไม่ทะเลาะกันน่ะมันเป็นไปไม่ได้หรอก  ที่อยากจะสื่อให้ทุกคนเข้าใจ(ซึ่งไม่รู้ว่าสำเร็จมั้ย55)ก็คือโลกนี้ไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด และไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ  เหมือนคินกับไปป์ก็ต่างเป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่มีวันต่อกันพอดี ที่เราทำได้ก็เพียงแค่หมุนให้เหลี่ยมมันแนบกันเกือบสนิทที่สุดเท่านั้น

รู้สึกตัวเองเขียนดราม่าได้ไม่ยาวเลยแฮะ มากที่สุดคือ1ตอนเอง เกรงจะได้ฉายาดราม่าพริบตา  คราวหน้าจะพยายามให้มากกว่านี้ค่ะ/ก้ม/

PS.ยินดีต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่ทุกคนค่ะ(และหน้าเก่าเราจำได้ทุกคนค่ะ55) ขอบคุณที่เลือกใช้บริการสายการบินของเรา
PS.มีแขกรับเชิญพิเศษด้วยนะคะ ใครยังไม่รู้ว่าเป็นใคร เชิญค่ะ โปรโมทกันหน้าด้านๆเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
PS.ใกล้จบแล้วเหมือนกันนะเนี้ย ใครอยากได้รวมเล่มเก็บตังรอไว้นะคะ เพราะแลดูมันจะแอบหนาเบาๆ :))
PS.ใครอยากได้ของแถมเป็นอะไรลองเสนอเข้ามาได้นะคะ คนเขียนยังมืดแปดด้านอยู่
PS.เอ่อ...คุณพี่สาบเมืองคะ อ่านเม้นแล้วหยุดขำไม่ได้ แต่คินมันอู้เมืองบ่าจ้างน่ะก่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด