"รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw  (อ่าน 570944 ครั้ง)

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
แต่งพรุ่งนี้เลยมั้ย
แต่งกับคุณฟ้านะ :z2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แต่งพรุ่งนี้ก็ได้ แต่งกะใครกันนะ

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
แล้วหมอจะแต่งกับใครอ่ะ แต่งพรุ่่่่่่่่่่่่่่่่งนี้ขอเป็นฟ้านะ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
แต่งกับคุณฟ้าใช่มะ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
แต่งกับใึครดีล่ะคุณหมอ

ออฟไลน์ i_ang

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-0
    • เพจนิยาย


รออ่านตอนต่อไปจ้า
ปล.ส่วนตินลม อยากให้มีตอนพิเศษวาเลนไทน์ตินลมตอนเรียนอะ
ที่ลมให้หัวใจติน(?)ใช่ไหมคะ ? ถ้าจำไม่ผิด ฮ่าๆ เอ๊ะรึลงไปแล้วหว่า
ชักไม่มั่นใจ  :m28:

+1 จ้าาาาา

คนเขียนนะคะ :: ตอนวาเลนไทน์ตินลม ลงเป็นตอนพิเศษไปแล้วค่ะ รึว่าจะเอาเป็นวาเลนไทน์ภาคของลมดีเนอะ
งั้นเอาตอนพิเศษตอนนี้ด้วยละกันเนอะ

ออฟไลน์ ทิวลิปสีส้ม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
เม้นๆ แสดงตัวว่าตามอ่านเรื่องนี้อยู่ค่ะ เพิ่งอ่านทัน
คนเขียนเป็นคนที่ปูเรื่องได้เนียนดีค่ะ ชื่นชม อ่านแล้วไม่สะดุด มันกลมกลืนดีโดยเฉพาะคู่ที่สอง คู่ของคุณหมอกับคุณฟ้า
ด้วยระยะเวลาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นตัวกำหนดที่ไวมาก แต่เนื้อเรื่องและการบอกเล่าความรู้สึกทำให้มันเป็นอะไรที่ทำให้ความผูกผันของคู่นี้ดูยาวนาน ละเอียดอ่อนและทำให้คนอ่านเชื่อได้ว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ จนมองข้ามเรื่องเวลาแบบทิ้งลืมไปได้เลย
เสียดายนิดนึงตรงที่ว่าคู่ของสองคนนี้เหมือนเป็นคู่ที่สร้างเพื่อเปิดและปูเรื่องให้หลายคู่อื่นเลยทำให้ความเด่นมันตกลงไป (เพราะใจมันอยากจะไปรู้เรื่องของคู่อื่นซะแล้ว กร๊าก)
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้กลบให้เสน่ห์ของคู่นี้ลดลงนะคะ ก็ยังชอบคู่นี้อยู่เหมือนตอนที่เริ่มอ่านแรกๆ ชอบตรงที่คู่นี้ ตรง และ เปิดเผย กันทั้งคู่
จริงๆ แล้วก็ชอบคาแรคเตอร์ นิสัยของคนแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้ชอบคู่นี้มาก
แม้ช่วงหลังจะแอบหงุดหงิดหน่อยตรงที่คุณฟ้าดันเก็บเรื่องเอาไว้ในใจคนเดียวจนร้องไห้ซะมากมาย แต่ก็เอาเถอะ ดราม่านิดหน่อยพอเป็นรสชาติ
คู่ของตินกับลมเองก็น่ารัก หวานกันซะมดเมิ้ดกระจายเต็มหน้าจอเลยทีเดียว ฮ่าๆ
+1 ให้ทั้งคนโพสและคนแต่งนะคะ สนุกมากมาย ขอบคุณค่ะ

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 28 แต่งเลยดีไหม?

“แต่งวันพรุ่งนี้เลยดีไหมครับ?”

พอผมพูดจบ คนที่พิงแผ่นหลังไว้กับอกผมตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามามองผม ตากลมรื้นน้ำตาเต็มไปด้วยความตกใจและผิดหวังปนเปกัน ก่อนน้ำตาจะนองหน้า

“พรุ่งนี้...” คุณฟ้าทวนคำราวกับคนละเมอ

“ไม่ร้องนะครับ” ผมเช็ดน้ำตาบนแก้มของคุณฟ้า คุณฟ้าร้องไห้จนแก้มช้ำไปหมด

“อย่าเพิ่งแต่งได้ไหมครับ...ฮึก...มันเร็ว...เร็วไป...ผม...” คุณฟ้าขอร้องด้วยเสียงสั่นสะอื้น ดึงมือผมที่กำลังเช็ดน้ำตาให้มากุมไว้ มือคุณฟ้าก็สั่นมากเหมือนกัน ผมจึงรวบมือเล็กนั้นไว้เสียเอง

“เร็วไปหรือครับ งั้นเอาเป็นอาทิตย์หน้าดีไหม เพราะ...” ผมยังพูดไม่จบ คุณฟ้าก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

“ฮึก..คุณ...ฮึก...คุณหมอ...ผม...ผม...ฮึก...”

“ฟังผมพูดให้จบก่อนสิครับ” ผมบอกคนเจ้าน้ำตา พลางจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เจ้าตัดกลับเบี่ยงหน้าหนี ผมเลยต้องดึงมือกลับมากุมมือเล็กไว้ตามเดิม แล้วบีบมือนั้นเบาๆ

“ฮึก...ฮึก...พูดมาสิครับ...ฮึก...” คุณฟ้าว่า ตั้งท่าจะดึงมือหนีผม แต่ไม่สำเร็จเพราะผมไม่ยอมปล่อย

“ถ้าไม่แต่งนี่ไม่ได้เลยนะครับ ทำน้องชายคุณฝนเสียหายมาตั้งเยอะแล้ว แถมทำให้ร้องไห้อีก ต้องรีบรับผิดชอบครับ ไม่อย่างนั้นเธอคงเอาผมตาย”

ผมพูดประโยคที่เหลือจนจบ ตากลมโตเบิกกว้างราวกับประหลาดใจในคำพูดของผมมากมาย น้ำตาเม็ดโตไหลทะลัก กลัวเหลือเกินว่าคุณฟ้าจะร้องไห้จนเป็นลม เพราะคุณฟ้าร้องไห้หนักมาก ร้องซะยกใหญ่ ตากับหน้าแดงช้ำไปหมด ไม่คิดมากก่อนว่าคุณฟ้าจะเจ้าน้ำตามากมายขนาดนี้ อันที่จริงผมก็น่าจะรู้นะว่าคุณฟ้าเจ้าน้ำตามาก ตอนที่เลิกกับคุณนนท์ก็ร้องไห้หนักมาก ตอนขากลับจากทะเลที่คุณฟ้าโทรไปหาคุณนนท์ ตอนนั้นก็ร้องไห้มาตลอดทาง และอีกหลายครั้งที่ผมเห็นน้ำตาของคุณฟ้า ไม่ว่าจะเป็นดีใจหรือเสียใจ เจ้าตัวร้องตลอด 

อ่อนไหวจริงๆ คนรักของผม

“คุณหมอ...ฮึก...ฮื่อออ...” คราวนี้คุณฟ้าของผมปล่อยโฮใหญ่แล้ว ผมเชื่อนะว่าตอนนี้คุณฟ้าร้องไห้เพราะดีใจมากกว่าเสียใจอย่างตอนแรก

“ผมพูดจริงนะครับ ผมอยากให้คุณฟ้าเชื่อใจผมและเชื่อว่าผมรักคุณฟ้าจริงๆ ผมอยากใช้ชีวิตไปกับทุกฟ้าทุกๆ วัน ไม่เคยคิดอยากใช้ชีวิตกับใครนอกจากคุณฟ้าคนเดียว” 

“.....” คุณฟ้ากำลังเก็บทุกคำพูดของผมใส่ไว้ในหัวใจ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ

“ผมไม่อยากให้คุณฟ้าเสียใจเพราะผม ผมไม่อยากเป็นคนที่ทำให้คุณฟ้าร้องไห้ ผมอยากเป็นคนที่ทำให้คุณฟ้ามีรอยยิ้มและมีความสุขมากกว่านะครับ อยู่กับผมแล้วคุณฟ้าต้องยิ้ม ห้ามร้องไห้เด็ดขาด สัญญากับผมนะครับ” 

“...ฮื่ออ...” คุณฟ้ายังคงร้องไห้ ร้องหนักกว่าเดิมเข้าไปใหญ่

“สัญญานะครับว่าอยู่กับผมแล้วจะไม่ร้องไห้อีก” ผมขอร้อง ส่วนคุณก็พยักหน้าหนักๆ

“...ครับ...ฮึก...ไม่ร้องแล้ว...ฮึก...ครับ...” คุณฟ้าพูดไปก็ร้องไห้ไป ผมเป็นห่วงคุณฟ้ามากเพราะเล่นร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลย เสียใจก็ร้อง ดีใจก็ร้อง

“เพราะผมรักคุณฟ้า ผมถึงไม่อยากเห็นคุณฟ้าร้องไห้” ผมบอกคนเจ้าน้ำตา แล้วก้มจูบที่ปากเล็กนั้น สัมผัสได้ว่าปากคุณฟ้าร้อนผ่าว ไม่ใช่แค่ปากน่าจูบแต่รวมถึงทั้งใบหน้าและตามเนื้อตัวด้วย มันร้อนจี๋ คุณฟ้าต้องไข้กลับแน่เพราะร้องไห้หนักบวกกับจิตใจอ่อนแอ ไอ้อาการที่เริ่มดีขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนกลับมาเป็นเหมือนตอนแรกที่เป็นลมอยู่ในอ้อมแขนผม

“ร้องไห้เยอะเห็นไหมครับไข้กลับเลย นอนก่อนนะครับ ผมไปเอายามาให้ทาน” ผมประคองตัวคุณฟ้าให้นอนลง จูบหน้าผากมนไปทีก่อนจะลุกไปเอายานอกห้อง

มองดูนาฬิกาตอนที่เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมยาและน้ำในมือ ตอนนี้ปาเข้าไปตีสามกว่าแล้ว แต่ผมกลับไม่รู้สึกง่วงเลย ยิ่งเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงแล้วทำให้ไม่นึกอยากนอน อยากดูแลจนกว่าไข้ของคุณฟ้าจะลด คุณฟ้าป่วยก็เพราะผม รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ ทั้งที่คุณฟ้ารักผมมาก (ไม่อย่างนั้นคงไม่ร้องไห้เหมือนจะขาดให้ได้) แต่ผมก็ยังดูเหมือนเป็นผู้ชายที่ไม่มีความชัดเจนหรือความแน่นนอนให้คุณฟ้าได้อุ่นใจอะไรเลย คุณฟ้าถึงได้หวั่นไหวจนกลายเป็นแบบนี้

ถ้าผมเล่าเรื่องของผมกับน้องลมให้คุณฟ้ารู้ตั้งแต่แรก คุณฟ้าจะหวั่นไหวกับสิ่งที่เห็นได้มากขนาดนี้ไหม และถ้าผมเล่าเรื่องของน้องเนยให้คุณฟ้าฟัง บอกให้คุณฟ้ารู้ว่าผมไม่ได้อยากแต่งงานกับน้องเนย แล้วกำลังคิดหาทางออกของที่ดีที่สุดให้กับเรื่องนี้ คุณฟ้าจะมั่นใจในตัวผมและไม่เชื่อในสิ่งที่ใครบางคนบอกไหม ซึ่งใครคนนั้นผมก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมถึงรู้เรื่องของผมกับน้องเนยได้ รอให้คุณฟ้าหายดีและเลิกหวั่นไหวกับเรื่องแต่งงานที่ไม่ใช่ความจริงนี่เสียก่อน ผมจะลองถามดูอีกครั้งว่าไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร

ทั้งที่ผมก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วนะว่ารักคุณฟ้า...รักมาก ทุกการกระทำของผมที่มีให้คุณฟ้า มันออกมาจากใจทั้งหมด ไม่ได้เสแสร้งหรือแกล้งทำเลย หรือเพราะการแสดงออกของผมมันไม่ชัดเจนพอให้คุณฟ้ามั่นใจ

“ทานยาก่อนนะครับ” ผมประคองตัวคุณฟ้าให้กึ่งนั่งกึ่งนอน ป้อนยาเม็ดเล็กสองเม็ดเข้าไปในปาก แล้วตามด้วยน้ำเปล่า คุณฟ้าดูจะลำบากหน่อยกว่าจะกลืนยาลงคอได้

“ปวดหัวมากไหมครับ” ผมถาม คุณฟ้าพยักหน้าแล้วคว้าแขนผมเข้าไปกอด ใบหน้าที่แนบกับท่อนแขนของผมร้อนมาก

“ตัวคุณฟ้าร้อนจี๋เลย ผมเช็ดตัวให้ดีกว่านะครับ” ว่าแล้วผมก็ขยับตัวลุกขึ้น ส่วนคุณฟ้าก็ปล่อยแขนผมเช่นกัน

ผมหยิบชามใบเล็กบนโต๊ะขึ้นมาเอาไปเปลี่ยนน้ำ ก่อนเข้าไปเปลี่ยนน้ำผมก็ไม่ลืมที่จะเดินไปลดแอร์ลง พอเดินออกจากห้องน้ำกลับมาที่เตียงก็พบว่าคนไข้ของผมนั่งอยู่กลางเตียง ในสภาพที่กึ่งๆ จะเป็นชีเปลือยแล้ว ชุดนอนถูกพับวางไว้ที่ปลายเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวของคุณฟ้าเหลือเพียงกางเกงตัวจิ๋วสีขาวเท่านั้น

“คุณหมอจะได้ไม่เสียเวลา” คนไข้ของผมว่างี้ขณะที่ล้มตัวลงนอนตามเดิม มันเป็นข้อดีของคุณฟ้าในหลายๆ ข้อ คือคุณฟ้าไม่ใช่คนขี้อาย ผมยังจำได้ติดตาจนถึงทุกวันนี้ วันที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันครั้งแรก ตอนที่คุณฟ้าอาบน้ำแล้วผมเดินเข้าไปเจอ ตอนนั้นแทนที่คุณฟ้าจะอายกลับเป็นผมอายเสียเอง แม้กระทั่งตอนที่เรามีอะไรกัน ถึงผมจะไม่ปิดไฟ คุณฟ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร กอดกันทีไรจะเห็นชัดว่าสีผิวของผมกับของคุณฟ้าตัดกันมาก ผมเป็นคนสีผิวออกจะแทนๆ

“ถอดกางเกงด้วยสิครับ”

“ถอดด้วยเหรอครับ” เจ้าตัวถามเสียงเบาเพราะไม่มีแรงมากเนื่องจากป่วย นั่งร้องไห้อยู่ตั้งนานสองนานโดยที่ไม่เป็นลมนี่ก็ถือว่าเก่งมาก แถมยังลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าไว้รอผมอีก ก็ถือว่าเก่งเหมือนกัน

“ครับ” ผมวางชามไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะทรุดนั่งข้างตัวคุณฟ้า

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณฟ้า ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบอกแบบนี้ไปแล้ว เขาจะอายหรือเปล่า แต่สำหรับคุณฟ้าแล้ว พอผมบอกเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาถอดกางเกงออกทันที พับเก็บเรียบร้อยรวมไว้กับชุดนอนตรงปลายเตียง ก่อนล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

ผมไม่ได้อยากใช้คนป่วยที่สภาพโรยแรงอย่างคุณฟ้านะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าคุณฟ้าจะทำตามที่ผมบอกหรือเปล่า

“คุณหมอ...” คุณฟ้าเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเหนื่อยมาก ขณะที่ผมกำลังเช็ดช่วงตัวให้คุณฟ้าอยู่ หลังจากก่อนหน้านี้เช็ดใบหน้าและแขนไปแล้ว

“ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมามองคนไข้ของผม

“อยากกอดผมไหม?” ผมบอกแล้วว่าคุณฟ้าไม่ใช่คนขี้อาย เพราะกอดของคุณฟ้าที่ถามผมมานั้น ไม่ใช่กอดแบบกอดแน่นอน มันเป็นกอดที่มากกว่ากอด กอดที่แปลว่ามีอะไรกัน

“ป่วยอยู่นะครับ” ผมขำมากกว่าจะตกใจ วางผ้าขนหนูผืนเล็กในมือลง ขยับเข้าใกล้เพื่อที่จะก้มจูบหน้าผากมนได้ถนัดขึ้น

“ผมอยากให้คุณหมอกอด” เมื่อผมละปากออกจากหน้าผาก คุณฟ้าก็พูดประโยคนี้ออกมา เจ้าตัวมองตาผมอย่างอ้อนๆ ควรเป็นผมไหมที่ต้องเป็นฝ่ายอ้อนขอ แต่นี่กลับเป็นคุณฟ้าที่พูดมันเสียเอง

“ไม่เอาครับ ผมกลัวกอดแล้วจะป่วยหนักกว่าเดิม” ไม่ใช่ผมไม่อยากกอดคุณฟ้า อยากกอดแทบตาย ไม่ได้กอดคุณฟ้ามานานเท่าไหร่แล้วก็คร้านจะนับ แต่เพราะคุณฟ้าป่วย ผมถึงต้องหักห้ามใจและห้ามใจอย่างมากด้วย ก็เนื้อตัวขาวๆ ตรงหน้ามันช่างยั่วยวนเหลือเกิน

“คุณหมอไม่อยากกอดผมมากกว่า” คนไข้ของผมว่าอย่างงอนๆ แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ผมต้องล้มตัวลงนอนคว้าร่างเปลือยเปล่าแต่ร้อนจี๋ไว้หลวมๆ ช่วงนี้คุณฟ้าเจ้าน้ำตาและขี้งอนมากเป็นพิเศษ สาเหตุเป็นเพราะผม

“อยากสิครับ ทำไมผมจะไม่อยากกอดคุณฟ้า ตั้งกี่วันแล้วที่ผมไม่ได้กอดคุณฟ้า อยากกอดใจจะขาดแต่คุณฟ้าป่วย ผมถึงไม่อยากรังแก ขืนผมทำ คนที่ลำบากคือคุณฟ้านะครับ” พอผมพูดจบ คุณฟ้าก็นิ่งไป ผมนึกว่าคุณฟ้าจะเข้าใจแล้วเลิกคิดเรื่องที่จะให้ผมกอด เลยจะลุกขึ้นไปเช็ดตัวให้ต่อแต่คุณฟ้ากลับดึงแขนผมไว้เสียก่อน พร้อมพูดประโยคที่ทำให้ผมอึ้งไปกับความคิดของคุณฟ้า

“กอดผมนะครับคุณหมอ กอดผมให้ผมรู้ว่าคุณหมอยังต้องการผมอยู่” ตาคุณฟ้าดูเศร้ามากยามที่เอ่ยปากบอกเหตุผลว่าทำไมถึงอยากให้ผมกอด

“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ” ผมลูบใบหน้าเนียน อยากให้ผมกอดเพราะอยากมั่นใจว่าผมยังต้องการตัวเองอยู่งั้นเหรอ คุณฟ้าในวันนี้กับคุณฟ้าในนั้นวันที่กลับทะเล ช่างเป็นคุณฟ้าที่ต่างกันลิบลับ ผมไม่อยากให้คุณฟ้าอยู่ในสภาพนี้เลย สงสารครับ รู้สึกสงสารมาก พอๆ กับที่รู้สึกผิดที่ทำให้คุณฟ้าเป็นคนขาดความมั่นใจได้อย่างนี้

“นะครับคุณหมอ กอดผมหน่อย” คุณฟ้ายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ทั้งที่ตัวเองก็แทบจะไม่มีแรงพูดอยู่แล้ว ตัวเปลือยเปล่าที่ผมกอดอยู่ก็ร้อนเหลือเกิน

“อย่างอแงสิครับ คุณฟ้าไม่สบายอยู่นะครับ เอาไว้ให้หายดีก่อนแล้วผมจะกอดไม่ปล่อยเลยครับ” ผมบอกหวังให้คุณฟ้าเชื่อแล้วเปลี่ยนความตั้งใจเสีย ขณะเดียวกันก็ไม่อยากมองสบสายตาเว้าวอนนั้นเลย

“กอดผมหน่อย”

“ไม่ได้ครับ...อื้อออ...” ให้ตายเถอะคุณฟ้าดื้อมาก พอผมพูดจบก็ดึงผมเข้าไปจูบปากทันที แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่หดหายไปเพราะเป็นพิษไข้ ทำให้เจ้าตัวจูบแลกลิ้นกับผมได้แปบเดียวก็หมดฤทธิ์ นอนแหบแฮ่กๆ อยู่ในอ้อมแขนผม

“เห็นไหมว่าเป็นไง นี่แค่จูบนะครับ” ผมว่า ปัดปอยผมบริเวณหน้าผาก คุณฟ้าปรือตามองผมก่อนจะหลับตาลง สักพักก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ สงสัยเมื่อครู่คงพักเหนื่อย พร้อมกับรวบรวมพลังขึ้นมาใหม่ เพราะพอลืมตาขึ้นมาก็ยังยืนยันความตั้งใจเดิมของตัวเอง

“กอดผมนะครับคุณหมอ” ถ้ามันเป็นเวลาปกติผมคงจะกอดคุณฟ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เชิญชวนแล้ว แต่นี่คุณฟ้าไม่สบายตัวร้อนจี๋ (แต่ไม่ถึงกับต้องไปหาหมอ) ผมจะกล้ากอดได้ยังไงล่ะ

“เอาไว้หายดีก่อนนะครับ”

“ไม่เอา ผมอยากให้คุณหมอกอดผมวันนี้ ตอนนี้” ตากลมฉายแววจริงจัง จนผมอ่อนใจ

“คุณฟ้าครับ อย่าดื้อสิครับ”

“คุณหมอ...” เรียกผมซะเสียงเศร้าอย่างนี้ ผมใจแข็งต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ก็ได้ครับกอดก็กอด แต่ขอผมเช็ดตัวคุณฟ้าให้เสร็จก่อนนะครับ แล้วก็ขอไปอาบน้ำก่อน ไม่อยากเอาตัวเหม็นๆ มากอดคุณฟ้า” ขืนผมไม่ยอม คุณฟ้าคงตื้อให้ผมกอดไม่เลิก เลยจำต้องรับปากไป แต่ผมก็ไม่คิดจะทำอย่างที่คุณฟ้าขอจริงๆ หรอก ผมแค่รับปากปก่อน กะว่าจะเข้าไปอาบน้ำให้นานหน่อย สภาพคนป่วยตัวร้อนจี๋แบบนี้คงฝืนตัวเองได้ไม่นาน สักพักคงอ่อนล้าและหลับไปเอง

“ครับ” พอผมรักปากเจ้าตัวก็ยิ้มออกมาได้ เป็นยิ้มที่ดูเหนื่อยอ่อนมาก แน่ล่ะคนเป็นไข้จะให้ยิ้มสดใสคงไม่ได้

ผมเช็ดตัวให้คุณฟ้าต่อ โดยที่คุณฟ้าก็มองหน้าผมอยู่ตลอดเวลา พาลทำให้ผมอยากโยนผ้าในมือทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด แล้วจับเนื้อตัวเปลือยเปล่ามากอดให้สมกับที่คิดถึง ได้แต่คิดครับ ไม่กล้าทำอย่างที่คิดเพราะคนน่ารักแสนดื้อของผมยังอาการน่าเป็นห่วงอยู่

“ใส่เสื้อก่อนนะครับ” ผมบอกเมื่อเช็ดตัวให้คุณฟ้าเสร็จ แต่กว่าจะเสร็จได้ก็ห้ามใจตัวเองหนักเหมือนกัน กำลังจะหันไปหยิบชุดนอนที่พับวางอยู่ตรงปลายเตียง เสียงแหบๆ ของคุณฟ้าก็ดังห้ามขึ้นเสียก่อน

“ไม่ต้องครับคุณหมอ ใส่แล้วเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี” คุณฟ้าว่าแล้วยิ้มเขิน ผมแทบจะหลุดขำ ขำที่คุณฟ้าทำเขินตอนพูด แต่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเขินหรืออายอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วขำที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ากำลังถูกผมหลอก

“ไม่ใส่ก็ไม่ใส่ครับ” ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ผ้าห่ม ดึงมันมาห่มเนื้อตัวเปลือยเปล่าของคุณฟ้าแทน

“อาบไวๆ นะครับ” คนบนเตียงตะโกนเสียงเบาตามหลังผมที่กำลังเดินเข้าในห้องน้ำ พูดเหมือนรู้แน่ะว่าผมจะอาบน้ำช้า แน่นอนครับ ผมต้องอาบน้ำช้ามากเป็นพิเศษแน่
.

.

.

“เอ่อ...”

เกือบชั่วโมงที่ผมอยู่ในห้องน้ำ แต่ต้องอึ้งเมื่อเปิดประตูออกมาเจอคุณฟ้านอนตะแคงหันหน้ามาทางผม ตากลมโตที่คิดว่าน่าจะซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาไปนานแล้ว กลับยังคงมองมาที่ผมราวกับเฝ้ารอเวลาที่จะได้เห็นผมอีกครั้ง

“ผมรอคุณหมอ” ปากบางขยับบอก ราวกับรู้ความคิดผม

ผมเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างตัวเด็กดื้ออย่างคุณฟ้า ตัวผมมีเพียงผ้าขนหนูพันเอว เอามืออังที่หน้าผากวัดไข้ อาการไข้น่าจะดีขึ้นมาหน่อยเพราะไม่ร้อนจี๋อย่างตอนแรกแล้ว ถึงจะดีขึ้นมานิดแต่ผมก็ไม่อยากรังแกคุณฟ้า แม้เจ้าตัวจะเต็มใจก็เถอะ ใครจะกล้ามีอะไรกับคนป่วยล่ะครับ กลัวอาการจะทรุดหนักมากกว่าเดิม

“นอนกันดีกว่านะครับ ผมง่วงแล้ว” ผมบอก คุณฟ้าตวัดตามองผมทันที ก่อนน้ำตาจะมอคลออยู่ที่เบ้ารอเวลาไหล แต่ผมไม่อยากให้คุณฟ้าร้องไห้อีกแล้ว เลยต้องตัดสินใจยอมตามใจคุณฟ้าจนได้

“ไม่ง่วงแล้วครับ ผมจะกอดคุณฟ้าเดี๋ยวนี้แหละครับ”

“กอดสิครับ” 

“ถ้าพรุ่งนี้ป่วยหนักกว่าเดิม แล้วไปทำงานไม่ได้ล่ะครับ”

ผมลองถามย้ำเอากับคนไข้ที่น่ารักของผมอีกครั้ง เจ้าตัวจะเลือกให้ผมกอดหรือจะเลือกงานของตัวเอง อย่างที่รู้ๆ คุณฟ้าห่วงงานที่ร้านมาก ตั้งแต่เปิดร้านเชิญครับมา คุณฟ้าไม่ไปทำงานแค่สามครั้งเอง เป็นสามครั้งที่มีผมเป็นสาเหตุ ครั้งแรกคือตอนที่ไปเที่ยวทะเลกับผม ครั้งที่สองคือวันที่ผมกอดคุณฟ้าจนเจ้าตัวไปทำงานไม่ได้ แถมเป็นวันที่ผมเจอกับพี่สาวและพี่เขยของคุณฟ้าอีกด้วย ครั้งที่สามก็ล่าสุดนี่ไงครับที่คุณฟ้าหลบหน้าผมโดยไม่ยอมมาทำงานถึงสองวัน

“ไม่เป็นไรครับ” คุณฟ้าว่า ก่อนจะรั้งคอผมเข้าไปประกบจูบ

ปากนิ่มที่ผมสัมผัสมันร้อนผ่าวเพราะอาการของไข้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะหยุดมันแล้วครับ เมื่อคุณฟ้าอยากให้ผมกอด ผมก็จะกอด กอดให้คุณฟ้ามั่นใจว่าผมรักคุณฟ้าและต้องการคุณฟ้าเสมอ

.

.

.

 ผมเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นคุณฟ้ายังนอนอยู่ในท่าเดิมเหมือนตอนที่ผมเปิดประตูออกไป ผมเพิ่งกลับจากซื้อข้าวเช้าไปให้ยีนที่ร้านเชิญครับ ทีแรกที่ยีนเห็นผมรีบบอกผมเลยว่าคุณฟ้ายังไม่มา ถ้าอยากคุยกับคุณฟ้าเดี๋ยวยีนจะจัดการให้ผมได้คุยให้ได้ เพราะไม่อยากเห็นเจ้านายตัวเองเหมือนศพเดินได้และไม่อยากให้เราสองคนเลิกกัน ผมนึกขอบใจยีนจริงๆ แต่ผมก็บอกไปครับว่าผมกับคุณฟ้าดีกันแล้ว ยีนดูตกใจมาก ถามใหญ่ว่าดีกันได้ยังไง ดีกันตอนไหน ง้อยังไง และอีกสารพัดคำถาม แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมาก แค่บอกว่าดีกันเมื่อคืน ก่อนจะบอกให้ยีนดูแลร้านแทนคุณฟ้า

ผมเดินมาทิ้งตัวลงนอนข้างคนป่วยที่นอนซุกหน้ากับหมอน ตัวเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ผมจะใส่เสื้อให้แต่เจ้าตัวงอแงไม่เอาจะนอนทั้งอย่างนี้

อาการของคุณฟ้าดีขึ้นแต่ไม่ถึงกับหายขาด เพราะตัวยังอุ่นๆ ร้อนๆ อยู่ ดีนะครับที่อาการป่วยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อคืนไม่อยากบอกเลยว่าผมเห็นแก่ตัวไม่น้อย นึกแล้วก็ละอายใจมากเหมือนกัน แทนที่จะหยุดแค่ครั้งเดียว ผมกลับกอดคุณฟ้าไปสองรอบ ต้องโทษตัวเองที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ แอบโทษคุณฟ้านิดหน่อยเพราะน่ารักเหลือเกิน น่ารักจนทำให้ผมอดใจไม่ไหว แล้วเพราะผมคิดถึงคุณฟ้าด้วยแหละครับ

“คุณ...หมอ...” คุณฟ้ารู้สึกตัวก็เรียกผมทันที น้ำเสียงที่เรียกเบามาก เข้าใจว่าเป็นอาการของคนป่วยและเหนื่อยมาตลอดทั้งคืน

“ครับ” ผมหอมแก้มนุ่มไปที ปัดเส้นผมที่ปรกรกใบหน้านั้นไปด้วย ผมคุณฟ้ายาวมาก ยาวจนมัดจุกด้านหลังได้แล้ว เจ้าตัวเคยบอกว่าจะไปตัดแต่ก็ยังไม่ไปสักที อ้างว่าไม่ว่างเพราะงานที่ร้านยุ่ง
 
“กี่โมงแล้วครับ” คุณฟ้าถาม ขยับเข้ามากอดผมทั้งที่ตายังปิดอยู่

“แปดโมงครับ”

“แล้วไม่ไปทำงานเหรอครับ”

“ไม่ไปครับเพราะต้องดูแลคนป่วย เมื่อคืนรังแกไปเยอะ” ผมว่า ตอนซื้อข้าวเช้าไปให้ยีน ผมก็แวะไปฝากงานให้เบียร์ดูแลแทน วันนี้ผมมีผ่าตัดทำหมันสุนัขตัวหนึ่ง เป็นสุนัขจรจัดในซอยถัดไปจากคลินิก พนักงานออฟฟิศคนที่คอยให้น้ำให้ข้าวมันกิน อุ้มพามาฝากไว้ให้ช่วยทำหมันให้มันหน่อย

“ไม่เห็นจะเยอะเลย มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว” คุณฟ้าเถียงได้น่ารักมาก ผมไม่รู้ว่าเจ้าตัวอายกับคำพูดตัวเองหรือเปล่า เนื่องจากคุณฟ้าเอาหน้าซุกที่อกผม ทำให้ผมไม่เห็น แต่ฟังจากน้ำเสียงแหบแห้งนั้นแล้ว ไม่น่าจะเขิน

“คุณฟ้า”

“ครับ” คุณฟ้าเงยหน้าขึ้นมามองผม คงเห็นว่าผมเรียกแล้วไม่ยอมพูดอะไรต่อ

“วันนี้ไปบ้านผมกันนะครับ”

ผมควรทำให้คุณฟ้ามั่นใจในตัวผมจริงๆ เสียที เพราะผมไม่อยากเห็นคุณฟ้าเป็นแบบเมื่อคืนอีกแล้ว

>>>>>>>>>>>>>Happy Na Ka<<<<<<<<<<<<<<<
คนเขียนขอคุย :: ตอนนี้ไม่ค้างเท่าไหร่เลยเนอะ อิอิ แต่มันเหมือนออกทะเลไปไกลแสนไกลมากกก
แต่มันก็ใกล้เข้ามาแล้ววววว ใกล้จะจบแล้วน้า แต่ยังหาฉากจบที่สวยงามไม่ได้ ปวดเฮดดดด 555+
เหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณทุกคลิกที่คลิกเข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
อ่านแล้วชื่นใจ ^_______^

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
คู่นี้เค้าคุยกัน อ้อนกัน น่ารักอ่ะ
หวานตลอดด

Panny

  • บุคคลทั่วไป
คุณฟ้าน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกให้ความช่างอ้อนของคุณฟ้า

พาเข้าบ้านซะที เฮ่อ คุณหญิงแม่จะว่าไงละทีนี้ >"<

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ขอขอบคุณจริงๆค่ะที่แต่งเรื่องนี้และอัพวันนี้ อารมณ์นอยๆที่สั่งสมมาเริ่มหายไปเลยค่ะพอได้อ่านคุณฟ้ากับคุณหมอเนี่ย

รู้สึกอิจฉาคุณฟ้านะคะที่ได้เจอคนที่รักจริงอย่างนี้

แฮบปี้ๆ~

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คุณฟ้าน่ารักมากมาย
ว่าแต่พาเข้าบ้านแล้วคุณแม่จะไม่ว่าอะไรหรือคะคุณหมอ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เย้....เชียร์คู่นี้สุดใจขาดดิ้น

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ดีใจที่คุณหมอเริ่มแสดงความชัดเจนกับฟ้ามากขึ้น ตอนหน้ามาลุ้นเรื่องบ้านคุณหมอต่อค่า :call: :call:


ปล. เรื่องนี้ใกล้จบแล้วหรือคะ รู้สึกแป๊ปเีดียว แต่ยังค้างอีกหลายคู่เลยอ่ะ โดยเฉพาะคุณยะกับพี ไม่ทราบว่าจะแต่งต่อหรือไม่คะ   :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10

ขี้อ้อนจังนะคุณฟ้า แล้วคุณหมอจะอดใจไหวได้ไง :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
คุณหญิงแม่เป็นลมแน่ๆ ฮ่าๆ สู้ๆ นะครับ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
คุณหญิงแม่จะขัดขวางมั๊ยเนี่ย

 :z3:

ออฟไลน์ mahmeow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
คุณหมอเปลี่ยนเรื่องได้เนียนมากอะ...

เปลี่ยนตัวเจ้าสาวเฉยเลยนะเนี่ย...55+

สงสารคุณฟ้า...ตอนขอไม่ให้คุณหมอแต่งงานยิ่งน่าสงสาร...T_T

คุณหมอจะพาไปบ้านก็ดีใจอยู่หรอก...แต่รอให้คุณฟ้าตาหายบวมก่อนดีไหม...เอิ่มม....= =

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
คุณฟ้าช่างอ้อนจริงป่วยอย่างนี้ยิ่งอ้อนคุณหมอใหญ่เลย

Acid

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย คุณฟ้าน่ารักมากมาย ไม่สามารถอธิบายได้ อิจฉาพี่หมอ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ตาย ๆ ใครเจอลูกอ้อนแบบนี้ทนไหวก็เทพแล้ว
คุณหมอจะพาฟ้าไปเปิดตัวกับที่บ้าน ลุ้นระทึก

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 29

“ไปบ้านคุณหมอ”

ผมทวนคำพูดนั้นที่คนตรงหน้าเอ่ยปากชวน ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อาการป่วยของผมดีขึ้นแล้ว ผมไม่รู้สึกปวดหัวมากอย่างเมื่อคืน ที่เป็นมากคืออาการปวดแสบที่ตา เมื่อคืนผมร้องไห้หนักมาก ชนิดที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น

“ครับ ไปบ้านผม” คุณหมอลุกขึ้นตามแล้วบอก บอกแล้วยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้ขอบตาผมร้อนผ่าว ผมดีใจจนอยากร้องไห้ แต่พยายามจะไม่ร้องครับ กลัวคุณหมอรำคาญน้ำตาของผม แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกบางอย่าง

“จะดีหรือครับ” ผมถามเสียงเบา แอบคิดในแง่ร้ายไม่ได้ว่า คุณหมอชวนเพราะอยากตัดรำคาญเรื่องที่ผมไม่เชื่อใจคุณหมอหรือเปล่า ทั้งที่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่อง คุณหมอไม่เคยพูดถึงเรื่องครอบครัวให้ผมฟังเลย ส่วนเรื่องที่ผมรู้จักพี่ชายและหลานคุณหมอ มันเป็นความบังเอิญ ไม่ใช่ความตั้งใจของคุณหมอ

คุณหมออาจจะรักผมแต่ยังไม่พร้อมพาผมไปแนะนำให้ครอบครัวรู้จักก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่อยากไปครับ แม้ในใจของผมรอเวลานี้มาตลอดก็ตาม ผมอยากเป็นคนที่มีตัวตนสำหรับครอบครัวคุณหมอ ไม่ใช่ใครคนหนึ่งที่ครอบครัวคุณหมอไม่คิดว่ามีคนๆ นี้อยู่บนโลกใบนี้

“ดีสิครับ ผมรู้นะ...ว่าคุณฟ้าอยากเจอครอบครัวของผม”

สิ่งที่คุณหมอพูดมันถูกต้องครับ ผมอยากรู้จักครอบครัวคุณหมอ ผมอยากให้ครอบครัวคุณหมอรู้ถึงการมีตัวตนของผม อยากให้ครอบครัวคุณหมอรู้จักผมในฐานะคนรักของลูกชายท่าน ไม่รู้ว่าความต้องการของผมมันมากไปไหม...

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมถูกพ่อแม่ที่ให้กำหนดทิ้งไปตั้งแต่เกิดหรือเปล่า ถึงทำให้ผมหวั่นไหวเสมอหากต้องกลายเป็นคนไม่มีตัวตนสำหรับใครสักคนที่ผมอยากให้เขารู้จัก

ผมไม่อยากเอาความรักของผมทั้งสองครั้งมาเปรียบเทียบกันนะครับ ตอนที่คบกับนนท์ ทันทีที่ตกลงคบกัน นนท์พาผมไปที่บ้านแล้วบอกกับพ่อของนนท์ว่าได้ตกลงคบกับผมแล้ว ซึ่งครอบครัวของนนท์ก็ยอมรับเรื่องของผมกับนนท์ได้

ส่วนความรักครั้งนี้ของผมกับคุณหมอ แม้ผมจะรู้สึกว่ามันดีกว่าความรักครั้งเก่าของผมมาก มันดีมากๆ ด้วยซ้ำ ดีในแบบที่ว่าผมไม่คิดไม่ฝันมาก่อนมันจะเต็มไปด้วยความคิดถึง ความโหยหา อยากอยู่ใกล้ อยากอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง คุณหมอทำให้ผมอบอุ่นที่หัวใจ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังถูกรักจากผู้ชายที่แสนดีมากๆคนหนึ่ง คนที่เขารักผมจริงและผมก็รักเขาอย่างเต็มหัวใจ

แต่ลึกๆ ในใจของผมแล้ว ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมอยากให้คุณหมอทำเหมือนที่นนท์ทำ ผมอยากให้คุณหมอพาผมไปรู้จักกับครอบครัว แล้วบอกกับครอบครัวว่าผมคือคนรักของคุณหมอ ผมต้องการการกระทำที่ชัดเจนนี้ ซึ่งผมก็ทำได้แค่อยากแต่ไม่เคยเอ่ยปาก เพราะผมกลัวว่าผมจะเรียกร้องมากเกินไป จนทำให้คุณหมอรู้สึกรำคาญไปเสีย

“คุณฟ้า...คุณฟ้าครับ” มือคุณหมอที่เกลี่ยอยู่บนใบหน้าผม ทำให้ผมรู้สึกตัวหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง

“ร้องไห้ทำไมครับ” คุณหมอถาม เช็ดน้ำตาบนหน้าผมไปด้วย ผมไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหน

“ผมขอโทษ” ผมก้มหน้าแล้วบอก ไม่กล้าสบตาคุณหมอ รู้สึกผิดที่ตัวเองร้องไห้ต่อหน้าคุณหมออีกแล้ว ทั้งที่เมื่อคืนรับปากคุณหมอไปแล้วว่าจะไม่ร้อง

“ขอโทษทำไมครับ”

“ขอโทษที่ผมร้องไห้” ผมเงยหน้าขึ้นมาบอก

“ตอนนี้ก็หยุดแล้วนี่ครับ คุณฟ้าคนเก่งของผม ไม่ร้องแล้วเห็นไหม”

ตาสีเข้มของคุณหมอมองผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด กอดคุณหมออบอุ่นและอุ่นเข้าไปถึงหัวใจของผม

“ผมรักคุณหมอนะ รักมาก รักจริงๆ นะครับ” ผมเฝ้าบอกความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ข้างใน ความรักของผมที่มีต่อคุณหมอมันมากมายเหลือเกิน มากเสียจนไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว แค่เดือนกว่าๆ ที่เราคบกัน

“ผมรู้ครับ ผมก็รักคุณฟ้าเหมือนกัน คุณฟ้ารู้ใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มบอกและถามอยู่ข้างหูของผมในคราวเดียวกัน

“รู้ครับ”

เพราะคุณหมอทนใจเย็นกับความอ่อนไหวของผมมาตลอด วันนี้ผมถึงมั่นใจว่าคุณหมอรักผม ไม่ต่างจากที่ผมรักคุณหมอเลยสักนิด ก่อนหน้านี้ผมอาจไม่มั่นใจในความรักของคุณหมอเพราะเรื่องของคุณลม แต่ตอนนี้ผมไม่อยากคิดเรื่องของคุณลมอีกแล้ว คุณหมอเป็นคนดีเกินกว่าจะหลอกว่ารักผม โดยที่ใจของคุณหมอไม่ได้รักผมจริงอย่างปากว่า

คุณลมกลายเป็นอดีตของคุณหมอไปแล้ว ส่วนผมคนนี้คือปัจจุบันของคุณหมอและจะเป็นตลอดไป...ด้วย

“คุณฟ้าครับ” คุณหมอดันตัวผมออก เพื่อให้เราได้สบตากัน ผมชอบสายตาของคุณหมอที่มองผม เพราะมันดูเต็มไปด้วยความรักที่คล้ายจะมีให้ผมเพียงคนเดียว เพราะผมคือคนเดียวที่คุณหมอรัก

“ครับ”

“ไปรู้จักกับครอบครัวผมนะครับ” คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น

“เพราะเรื่องที่ผมร้องไห้หรือเปล่าครับ คุณหมอถึงต้องพาผมไปบ้านเพื่อให้ผมสบายใจแล้วก็เลิกร้องไห้” ผมถามอย่างที่ใจคิด คุณหมอนิ่งไปนิด ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วถามผมว่า

“ทำไมคิดแบบนั้นละครับ”

“บางทีคุณหมออาจจะยังไม่พร้อมเปิดเผยเรื่องของผมให้ที่บ้านรู้”

“ก่อนหน้านี้ผมอาจจะยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับ” น้ำเสียงที่บอกผมจริงจังมากครับ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าน้ำตาของผมบังคับให้คุณหมอ ‘ต้องพร้อม’ ทั้งที่ความจริงคุณหมอยังคง ‘ไม่พร้อม’

“เพราะน้ำตาของผมใช่ไหมครับ คุณหมอถึงต้องพร้อม”

คุณหมอถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง

“เพราะผมรักคุณฟ้าต่างหากครับ ผมถึงไม่อยากให้คุณฟ้าร้องไห้เสียใจเพราะผมอีก ผมอยากทำให้คุณฟ้าเชื่อว่าผมรักคุณฟ้าจริงๆ ไม่ได้รักแบบบ๊อบปี้เลิฟ แต่ผมรักคุณฟ้าในแบบที่อยากใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด”

คำพูดของคุณหมอทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันไหลอีกจนได้

“...ไม่ร้องนะครับ ไหนว่าจะไม่ร้องแล้วไงครับ” ผมรีบยกหลังมือเช็ดน้ำตาทิ้ง

“ไม่ร้องแล้วครับ”

ผมยิ้มให้คุณหมอ เห็นคุณหมอยิ้มตอบกลับมาแล้วรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่ควรคิดมากใช่ไหม ผมควรเชื่อทุกคำพูดของคุณ คุณหมอบอกว่าไม่อยากเห็นผมร้องไห้ ส่วนผมก็ไม่อยากทำให้คุณหมอไม่สบายใจเพราะการที่ผมเอาแต่ร้องไห้ ผมจะพยายามไม่ร้องไห้เพื่อให้คุณหมอสบายใจ

“คุณหมอ...”

“ครับ”

“ผมรักคุณหมอ” ผมบอกคำเดิมๆ กับคุณหมอ เป็นคำเดิมๆ ที่ผมไม่นึกเบื่อที่จะพูดมันออกมาให้คุณหมอรู้

.

.

.

 “โทรศัพท์ครับคุณหมอ”

ผมหยิบโทรศัพท์ของคุณหมอที่ส่งเสียงร้องเพราะมีคนโทรเข้ามา ผมเดินเข้าไปในห้องครัว เอามันไปให้คุณหมอที่ยืนปลอกแอปเปิลตรงเคาน์เตอร์ คุณหมอวางมีดลง ล้างมือและรับโทรศัพท์ไปจากผม

“ว่าไงยัยภา” คุณหมอพูดกับคนปลายสาย ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร คุณหมอเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร ถึงได้ยกมือขึ้นปิดโทรศัพท์ไว้ แล้วพูดเสียงเบากับผมว่า

“น้องสาวผมครับ”

ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหยิบแอปเปิลขึ้นมาปลอกต่อ หูก็ฟังคุณหมอพูดกับน้องสาวตัวเองไปด้วย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น.....พี่ยะกับพี.....แล้วพีเป็นไงบ้าง.....ได้เดี๋ยวพี่จะรีบไป”

น้ำเสียงของคุณหมอฟังดูไม่ดีเลย

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เกิดเรื่องขึ้นที่บ้านนิดหน่อยครับ”

“เรื่องคุณยะกับน้องพีใช่ไหมครับ” ผมได้ยินคุณหมอพูดชื่อน้องพีกับคุณยะเมื่อครู่ นึกเดาว่าต้องเรื่องของสองคนนี้แน่ๆ

“ครับ...”

“ใช่เรื่องนั่นหรือเปล่า...” เรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่จะไม่เป็นความลับอีกแล้ว ถ้าใช่เรื่องนี้จริงๆ ก็คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู น้องพียังเด็ก ส่วนพี่ชายคุณหมอก็อยู่ในฐานะของพ่อ แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆ ก็ตามเถอะครับ

“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะยัยภาไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร แต่บางทีอาจไม่ใช่เรื่องนั้นก็ได้...”

“งั้นคุณหมอก็รีบไปเถอะครับ” ผมบอก แอบหวังเล็กๆ ว่าคุณหมอจะชวนผมไปด้วยกัน แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะที่บ้านของคุณหมอเกิดปัญหา ขืนคุณหมอพาผมไปด้วยคงได้เกิดปัญหายกกำลังสองขึ้นมาแน่ๆ

แต่แล้วคุณหมอก็ทำให้ความหวังเล็กๆ ของผมเป็นความจริงขึ้นมา ด้วยประโยคที่ว่า...

“ไปด้วยกันนะครับ”

“จะดีหรือครับ” แม้ความหวังเล็กๆ ของผมจะเป็นจริง แต่ผมก็เกรงว่าเรื่องของผมกับคุณหมอจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้หนักขึ้น ปัญหาของคุณยะกับน้องพีก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ครอบครัวคุณหมอจะรับได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เจอเรื่องของผมเข้าไปอีกคงมีแต่แย่กับแย่

“ดีสิครับ”

“แต่...”

“อย่าคิดมากครับ เรื่องของพี่ยะกับพีไม่เหมือนเรื่องของผมกับคุณฟ้าหรอกครับ”

“แต่ผมกลัวคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณหมอจะเครียดยกกำลังสองสิครับ” ผมบอกอย่างที่คิด แต่คุณหมอส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

“ไม่หรอกครับ”

“แต่ว่า...”

“หรือว่าคุณฟ้าไม่อยากไป” คุณหมอถามแล้วยิ้ม คงรู้สินะว่าผมอยากไป

“อยากครับ แต่...” แต่ผมไม่รู้ว่าผมสมควรไปดีไหม

“อยากไปก็ต้องไปครับ” คุณหมอว่า

“ครับ”

นั่นสินะครับ อยากไปก็ต้องไป ผมจะทนเก็บความยากนี้ไปทำไมกันให้ทรมาน

ความอยากของผมมีมากเหลือเกิน...

ผมอยากรู้จักครอบครัวของคุณหมอ อยากรู้จักคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอ อยากรู้ว่าว่าท่านทั้งสองหน้าตาเป็นยังไง จะได้รู้เสียทีว่าคุณหมอหน้าตาเหมือนใครมากกกว่ากัน และผมยังอยากเห็นหน้าน้องสาวของคุณหมอและบรรดาหลานๆ ของคุณหมอด้วย

ผมอยากเห็นบ้านที่คุณหมอเติบโตมา อยากเห็นห้องนอนของคุณหมอ อยากเห็นกรอบรูปในห้องนอนคุณหมอ อยากเปิดอัลบั้มรูปในวัยเด็กของคุณหมอ อยากเห็นรูปตอนรับปริญญาของคุณหมอ อยากเห็นต้นไม้ใบหญ้าบ้านคุณหมอ อยากเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายในรั้วบ้านของคุณหมอ อะไรทุกอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

อยากเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่หลอมรวมกันเป็นคุณหมอที่แสนดี คนที่ยืนอยู่ข้างผมในตอนนี้...ว่าเป็นอย่างไร

และ...

ผมอยากให้ครอบครัวของคุณหมอ...รู้จักผม

ผมจะได้กลายเป็นคนที่มีตัวตนอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของคนในครอบครัวคุณหมอ...บ้าง

.

.

.

รถของผมที่มีคุณหมอเป็นคนขับเลี้ยวเข้ามาในซอยอย่างช้าๆ ผ่านบ้านหลายสิบหลัง ซึ่งแต่ละหลังถูกปลูกสร้างมาอย่างดี ด้วยอาณาบริเวณกว้างขว้าง ฟ้องฐานะของผู้คนในละแวกนี้ว่าร่ำรวยไม่น้อยเลย

รถแล่นผ่านแนวต้นไผ่สีเขียวใบยาวเล็กไหวตามลมซึ่งปลูกขนานไปกับความยาวและความสูงของกำแพงรั้ว คุณหมอชะลอรถและประตูรั้วค่อยๆ เปิดออก ก่อนล้อรถจะแล่นเข้าไปในบริเวณบ้านหลังแนวกำแพงต้นไผ่ ผ่านสวนหน้าบ้านที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้สูงทั้งสองฝั่ง มีโต๊ะเก้าอี้ไม้ตั้งวางเป็นบ้างจุด แต่ไม่ทำให้บรรยากาศของความเป็นสวนที่น่าจะสร้างขึ้นมาเพื่อเดินชม มากกว่านั่งชม

จากรั้วบ้านจนถึงโรงจอดรถที่คุณหมอกำลังดับเครื่องและก้าวออกมา รวมถึงผมด้วย มันห่างกันน่าจะประมาณสักสองร้อยเมตร ผมกวาดตาไปรอบๆ บริเวณที่ยืนอยู่ บอกได้เลยว่าได้กลิ่นอายของความเป็นไทยจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเรือนหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งเสาทั้งตัวเรือนคงเป็นไม้สักทั้งหมด

“คุณหมอ”

ผมหันไปหาคุณหมอ อยากขอกำลังใจหรือคำพูดอะไรสักอย่างจากคุณหมอ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจปนกันไปหมด ตื่นเต้นที่ได้เห็นบ้านและได้เห็นในสิ่งที่คุณหมอคุ้นเคยมาตลอดชีวิต แต่ก็อดเป็นกังวลใจถึงสิ่งที่จะตามมาไม่ได้เลย ครอบครัวคุณหมอจะรังเกียจผมไหม แล้วจะชิงชังในความสัมผัสของผมกับคุณหมอหรือเปล่า จะบังคับให้คุณหมอต้องเลือกไหม เลือกพวกเท่าหรือเลือกผม

อย่างที่ผมรู้ ครอบครัวคุณหมอได้หาลูกสะใภ้เอาไว้แล้ว นั่นคือน้องเนย พวกท่านคงไม่ต้องการเปลี่ยนลูกสะใภ้จากผู้หญิงเป็นผู้ชาย

แค่คิดว่าคุณหมอจะต้องเลือก...ผมก็รู้ได้ทันทีครับว่าคุณหมอจะเลือกใคร

“คุณฟ้า” คุณหมอเรียกชื่อผม พร้อมดึงตัวผมเข้าไปกอด ลูบหัวผมเบาๆ

“ไม่มีหรอกครับ อย่าคิดมาก คุณพ่อกับคุณแม่ผม ท่านทั้งสองใจดีครับ”

ผมก็หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอจะใจดีพอที่จะยอมรับเรื่องของผมกับคุณหมอได้

“ครับ”

แล้วผมก็ต้องรีบผลักตัวคุณหมอออกอย่างไว เมื่อคนใช้บ้านคุณหมอเดินตัวลีบมาทางที่ผมกับคุณหมอ ไม่ต้องถามว่าเธอเห็นอะไรไหม แน่นอนว่าเธอต้องเห็น

“คุณนุคะ...คุณท่านรออยู่ที่เรือนของคุณนุค่ะ” พอบอกเสร็จสาวใช้บ้านคุณหมอก็เดินเลี่ยงไปยื่นกุมมืออยู่ข้างๆ คงรอให้คุณหมอกับผมเดินไปก่อน

ชื่อของคุณหมอที่สาวใช้เรียกเป็นชื่อที่ผมเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก แล้วผมอยากเรียกคุณหมอด้วยชื่อของคุณหมอจริงๆ บ้าง

ผมคิดว่า...มันต้องดีมากๆ แน่ครับ ถ้าผมได้เรียกคุณหมอด้วยชื่อนั้น

“ไปครับ”

คุณหมอยื่นมามาให้ผมจับ แต่ผมไม่ได้ยื่นมือไปจับ เกรงสายตาของคนใช้บ้านคุณหมอด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือไม่คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ หากผมจะจับมือคุณหมอเดินไปหาคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอให้ท่านทั้งสองเห็น เพราะผมยังไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะรู้สึกแบบไหนกับความสัมพันธ์นี้ของเราสองคน

เมื่อผมเลือกที่จะประสานมือเข้าหากัน คุณหมอถึงได้ดึงมือตัวเองกลับ ก่อนจะเดินนำผมไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐแดงทอดไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ตัวบ้านหลังใหญ่ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า แต่มันลึกเข้าไปข้างในด้านหลังของเรือนหลังใหญ่

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ผมพยายามจะมุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่อยู่รอบตัว คิดว่าจะเก็บทุกรายละเอียดของบริเวณบ้านคุณหมอเอาไว้ให้มากที่สุด แต่สุดท้ายผมก็มองเห็นแต่แผ่นหลังของคุณหมอที่เดินอยู่ตรงหน้าผมเท่านั้น...

มีบางครั้งคุณหมอหันมายิ้มให้ผม เหมือนจะยื่นมือมาให้ผมจับ แต่ผมก็ส่ายหน้าเสียทุกครั้ง อยากจับมือคุณหมอนะครับ แต่ผมไม่กล้าพอที่จะทำมันที่นี่ เมื่อผมยังไม่แน่ใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
 
>>>>>>>>>>>Happy Na Ka<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุย :: ใกล้จบแล้ว...มั้ง และคงจากไปอย่างเหงาๆ
ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ  :pig4:

สีเหลืองอ่อน//aeaw

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ลุ้นๆๆๆๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แอบตื่นเต้นไปด้วย

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
เตรียมทำใจกับมาม่าปริมาณที่ผู้ประสบภัยอย่างเรายังกินไม่หมด

ออฟไลน์ zazoi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 970
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-1
ว้าว ในที่สุดก็จะได้เจอครอบครัวหมอแล้วนะคะ ตื่นเต้นจังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงแล้วไม่รู้ว่าเรื่องของพีกับคุณยะ เป็นไงม่างเนี่ย
อ่านตอนนี้แล้วสงสารฟ้าจัง ดูแล้วเป็นคนคิดเยอะ และต้องการความรักความอบอุ่นมากๆเลยนะเนี่ย :sad11:


ปล. ทำไมใกล้จบแล้วต้องจากไปเงียบๆคะ ห้ามไปไหนก่อนน้า เพราะยังมีเรื่องของอีักหลายคู่ค้างอยู่นะคะ ไหนจะคุณยะกับพี และเรื่องของหนึ่งอีก ยังไม้รู้ชะตากรรมเลยค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งไปนะค้า :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ลุ้นอะไรเข่นนี้ สงสารคุณฟ้าร้องไห้เสียขนาดนี้
หวังว่าตอนหน้าคุณฟ้าจะไม่ต้องร้องไห้นะคะ
ยกป้ายไฟเชียร์คุณฟ้า

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกให้เสมอค่ะ
จะจบแล้วเหรอเนี่ย เราชอบเรื่องนี้มากนะคะ ได้หลายๆ อารมณ์ดี

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด