คนโพสขอเม้าท์ วันนี้เหนื่อยสายตัวแทบขาด กำลังจะนอน ได้ยินเสียงน้องไอ (โฟน) ดัง ตึ๊ง ๆๆๆ ติดๆกัน
เอาหล่ะเหวย สะดุ้งลุกในบัดดลว่า ต้องเป็นน้องแอ๋วคนแต่ง ข้อความมาหา(รึมาทวงการบ้านหว่า)
เมือคิดได้กระนั้น จึงดีดตัวอย่างแรง เพื่อเปิดเล้าเป็ดแล้วโพส ตอนพิเศษ ของ คุณหมอนุ กะน้องฟ้า ให้ ทุกๆท่านรับชิม นะขอรับ
เชิญรับชม รับชิมค่ะ บางส่วนจากตอนพิเศษรัก...เชิญครับ (ตอน...บางสิ่งที่อยากขอ บางอย่างที่อยากได้)
*** ส่วนนี้...คนเขียนเห็นว่ามันน่ารักดี (ส่วนตัวล้วนๆ) เลยแอบอยากให้อ่านกัน
แต่ส่วนอื่น (ของตอนนี้) ไม่ได้เอามาลงให้นะคะ T^T
ด้านหน้าหาดมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าสีขาวสะอาดตาผูกริบบิ้นฟ้าน้ำทะเล ปลายริบบิ้นสะบัดไหวไปตามแรงลมยามค่ำ ทั่วบริเวณประดับด้วยแสงไฟจากตะเกียงที่ตั้งอยู่รายรอบ ชวนโรแมนติกด้วยบทเพลงบรรเลงแสนหวานที่ดังเพียงเบาๆ คัพเค้กถ้วยเล็กน่ารักถูกแจกจ่ายด้วยมือของเจ้าของงาน หมอพิษณุและน้ำฟ้าอยู่ในชุดเหมือนกันคือชุดผ้าฝ้ายเนื้อนิ่มสีขาวพิมพ์ลายดอกไม้เล็กๆ
แขกในงานมีเพียงสามสิบกว่าคน
“อะไรนะครับพี่ฟ้า พี่ฟ้าจะให้ตามกับดาวออกไปเต้นรำ” เด็กชายตามใจถามย้ำ ไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า หันไปมองเพื่อนคนเดียวของตัวเองก็ทำหน้าเต็มใจสุดๆ
“ตามก็ พี่ฟ้าก็พูดออกชัด ดาวยังได้ยินเลย” สาวน้อยดวงดาวว่า เธอตักคัพเค้กคำสุดท้ายเข้าปากต่อ
“ออกไปเต้นเปิดงานให้พี่หน่อยนะตาม ดาว” น้ำฟ้าบอกอีกครั้ง เขาอยากเต้นรำกับหมอพิษณุ แต่ไม่กล้าออกไปเต้นคู่แรก ถึงแม้จะเป็นเจ้าของงานก็เถอะ เพราะเขาอาย แล้วอีกอย่างคือน้ำฟ้ารู้มาว่า ดวงดาวกับตามใจเคยอยู่ชมรมเต้นรำมาก่อนตอน
“ได้ค่ะพี่ฟ้า” เด็กดวงดาวยิ้มอย่างยินดี ผิดกับตามใจที่ยังอายๆ อยู่
“จะดีหรือดาว” ตามใจถามเพื่อน แล้วก็หันไปมองรอบงาน มีที่รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง ตามใจเลยอาย
“ดีสิตาม ทำไมจะไม่ดีล่ะ ถ้าไม่ดีแล้วพี่ฟ้าจะให้เราเต้นออกไปเต้นทำไม เนอะพี่ฟ้าเนอะ” สาวน้อยทำเสียงดุเพื่อนที่กลัวไม่เข้าเรื่อง
“ตามกับดาวช่วยพี่หน่อยนะ กลับกรุงเทพแล้วพี่จะเพิ่มเงินเดือนให้ดาว แล้วพี่ก็จะเพิ่มเวลาทำงานให้ตามด้วย” น้ำฟ้าบอก
“งั้นก็ได้ครับ” ตามใจรับคำทันทีไม่มีอิดออด ไม่อายมันแล้วงานนี้ เขาอยากทำงานเยอะๆ ได้เงินมากๆ
“งั้นก็ไปกัน” ดวงดาวคว้าแขนตามใจ ทำท่าจะดึงให้ลุกขึ้น แต่น้ำฟ้ารั้งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวพี่ของบรีฟอะไรอีกนิดหน่อยนะ” น้ำฟ้าบอก พลางก็ยิ้มหวานให้หมอพิษณุที่เดินเข้ามานั่งข้างๆ
“บรีฟอะไรคะพี่ฟ้า” สาวน้อยน่ารักถาม
“อย่างนี้นะ พอดาวกับตามเต้นจบเพลงแรกแล้วใช่ไหม ให้ดาวไปดึงพี่ยีนกับพี่แดนขึ้นไปเต้นนะ ส่วนตามก็ไปดึงเอาพี่เก้ากับพี่แอน”
เก้ากับแอนคือพนักงานคนใหม่ของร้านเชิญครับ ที่น้ำฟ้ารับเข้ามาทำงานเพราะเขาจะได้มีวันหยุดพักผ่อนกับคนรักอาทิตย์ละสองวัน
“ได้ค่ะ”
“ได้ครับ”
ดวงดาวและตามใจรับปากพร้อมกัน แล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปหน้าเวที ซึ่งก็คือหาดทรายตรงหน้าที่มีซุ้มดอกกุหลาบสีขาวอยู่ด้านหลัง แต่น้ำฟ้าก็ดึงแขนไว้เพราะยังบอกไม่หมด
“ยังไม่หมดนะ ฟังพี่ก่อน พอจบเพลงที่สองดาวก็ไปดึงพี่ป้องกับพี่ปั้นนะ แล้วตามก็ไปดึงพี่คมกับพี่หญิงนะ”
“โหยพี่ฟ้าขา งั้นดาวว่านะคะ ดาวกับตามดึงทุกคู่เลยดีไหมคะ” ลูกน้องสาวของน้ำฟ้าว่า
“ดีมากเลยดาว ตามนี้นะ แต่ว่า...ห้ามมาดึงพี่กับคุณหมอเด็ดขาด เข้าใจนะ”
“อ้าว แล้วพี่ฟ้ากับคุณหมอไม่เต้นเหรอครับ” ตามใจถามอย่างสงสัย
“เถอะน่า เดี๋ยวพี่กับคุณหมอก็หาจังหวะไปเต้นเองแหละ ไปเถอะ ไปเต้นเปิดงานให้พี่หน่อย”
“ครับ”
“ค่ะ”
เด็กชายตามใจและสาวน้อยดวงดาวเดินไปแล้ว ทั้งโต๊ะจึงเหลือแค่เจ้าของงานเลี้ยงสองคน
“อายหรือครับ” หมอพิษณุเอ่ยปากถาม หลังจากที่นั่งฟังคนรักสั่งการเด็กตามใจและดวงดาวด้วยอารมณ์ขำๆ
“ก็มันอายๆ เขินๆ ยังไงไม่รู้ครับ” น้ำฟ้าบอก
“แล้วพี่นุจะได้เต้นรำกับน้องฟ้าไหมเนี้ย” หมอหนุ่มแกล้งถาม ดึงมือคนรักมากุม ทำตาปริบๆ
“ได้สิครับ แต่เรารอให้คนเต้นเยอะๆ ก่อนนะครับพี่นุ ขืนออกไปเต้นตอนนี้ ขาฟ้าได้ขวิดกันแน่ อายคมกับเอ็มด้วย สองคนนี้มันชอบล้อฟ้าอยู่ด้วย” ประโยคสุดท้าย น้ำฟ้าบอกเหมือนจะฟ้องคนรัก
คมกับเอ็มคือเพื่อนสนิทของน้ำฟ้า ว่าไปแล้วงานเลี้ยงริมหาดคืนนี้ มีเพื่อนของน้ำฟ้ามาแค่สามคน คนที่สามก็คือน้ำนนท์ คนที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงโต๊ะตัวหน้าสุด เพราะคนที่มาพร้อมกันกลับไปเต้นรำกับคนอื่นแทน
“พี่นุ ดูนั่นสิครับ คุณอิงกับคุณหนึ่ง เต้นรำด้วยกันด้วย”
น้ำฟ้าชี้ให้หมอพิษณุดูคนทั้งคู่ อันที่จริงน้ำฟ้าเห็นตั้งแต่ตอนที่ตามเดินไปดึงอชิตะกับคณิตแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะยอมออกมาเต้นด้วยกัน เพราะตั้งแต่เข้างานมา น้ำฟ้าไม่เห็นคนทั้งคู่คุยกันเลย แทบจะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ นั่งก็นั่งคนละโต๊ะ อาศัยแค่เดินเข้างานมาพร้อมกันเท่านั้น
“ยังไม่ดีกันอีกหรือครับ” ถามเพราะอยากรู้ น้ำฟ้าไม่รู้เรื่องของอชิตะกับคณิตว่าเป็นยังไงแล้ว เพราะหมอพิษณุไม่เคยเล่าให้ฟัง แล้วเขาก็วุ่นเกินกว่าจะมีเวลาถาม
“ก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ”
“หรือครับ”
น้ำฟ้ายังจับตามองคนทั้งคู่ที่เต้นแทบจะแยกออกไปจากกลุ่มคู่เต้นคู่อื่นๆ ไม่ได้ดูคู่อื่นๆ เต้นเลย แต่แล้วน้ำฟ้าก็หันหน้าหนีแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ อชิตะก็ก้มลงไปจูบปากคณิต
“เป็นอะไรไปครับ อายเหรอ?” หมอพิษณุถามขำๆ เพราะอาการหันหน้าหนีภาพตรงหน้าของน้ำฟ้า หมอหนุ่มก็เห็นเหมือนคนรัก เห็นเพื่อนจูบลูกน้องคนสนิทที่เลื่อนขั้นกลายเป็นคนรักไปแล้ว
“ก็อายสิครับ หรือพี่นุไม่อาย ชอบดูคนอื่นจูบกันหรือครับ” คนน่ารักของหมอพิษณุถามอย่างงอนๆ เพราะโดนล้อ
“ไม่ชอบดูคนจูบกันหรอกครับ แต่ชอบจูบเองมากกว่า” ไม่พูดเปล่า หมอหนุ่มรีบฉกริมฝีปากบางทันที ทำเอาคนโดนจูบทำตาโตเพราะตกใจ ก่อนจะเขินแบบสุดๆ เมื่อแขกของงานต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดและโห่ร้องด้วยความถูกใจ น้ำฟ้าไม่รู้ตัวเลยว่าแขกของงานน่ะพากันจับตามองเจ้าของงานสองคนอยู่ตลอดเวลา
“พี่นุ ฟ้าบอกว่าแล้วอย่าทำ” เจ้าตัวโวยวายอย่างอายๆ
“ทุกคนเขาอยากเห็นนะครับ ไม่ทำงานมันก็ไม่สมบูรณ์” หมอพิษณุว่ายิ้มๆ ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งข้างน้ำฟ้า พี่สะใภ้ของเขาก็เข้ามากระซิบว่าให้จูบน้องชายตัวเองโชว์แขกหน่อย ไม่อย่างนั้นงานมันจะกร่อย
“.....” น้ำฟ้าพูดไม่ออก เพราะเขินสายตาทุกคนเกินกว่าจะเอ่ยคำใดออกมาได้ในเวลานี้
“พี่ฟ้าครับ ออกไปเต้นได้แล้วครับ” เด็กชายตามใจเดินยิ้มเข้ามาบอก เด็กน้อยรับหน้าที่มาจากแขกหลายๆ คนของหมอพิษณุและน้ำฟ้า
“พี่บอกแล้วไงตามว่าห้ามมาเรียกพี่ไปเต้น” น้ำฟ้าดุเสียงเบา ไม่กล้าดุเสียงดังเพราะเขายังตกเป็นเป้าสายตาอยู่ ทุกคนหยุดเต้นกันหมดแล้ว
“ตามไม่ได้ขัดคำสั่งพี่ฟ้านะครับ แต่พี่ๆ เขาสั่งตามมา” ตามใจบอกเสียงอ่อย ด้วยกลัวพี่ฟ้าของเขาจะไม่เพิ่มเวลาทำงานให้ เพราะขัดคำสั่ง
“อย่าไปดุตามสิครับ ไปเถอะครับ ไปเต้นกัน” ว่าแล้วหมอพิษณุก็ดึงมือเล็กให้ลุกขึ้น
“ห้ามหอม ห้ามจูบนะครับ ไม่งั้นฟ้าจะโกรธพี่นุ” น้ำฟ้ากระซิบบอก น้ำเสียงเบาแต่หนักแน่นด้วยสีหน้าและแววตา
“ครับผม” หมอพิษณุรับคำขู่ด้วยรอยยิ้มหวาน เขาก็ไม่คิดจะทำอยู่แล้วเพราะไม่ใช่พวกชอบโชว์ เขาอยากหอมอยากจูบน้ำฟ้าในที่ไม่มีใครเห็นมากกว่า
เสียงปรบมือของบรรดาแขกของหมอพิษณุและน้ำฟ้าก็ดังก้องไปทั่วบริเวณหาด เมื่อหมอพิษณุจูงมือน้ำฟ้าเดินไปยังพื้นหาดทรายเม็ดละเอียด และเมื่อเดินมาถึง บทเพลงที่ถูกหยุดลงเมื่อครู่ เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมือใหญ่ที่วางบนเอวบาง และมือที่เล็กกว่าก็วางตรงไหล่หนาทั้งสองข้าง
Some people live for the fortune
Some people live just for the fame
Some people live for the power yeah
Some people live just to play the game
Some people think that the physical things define what's within
And I've been there before
But that life's a bore
So full of the superficial
Some people want it all
But I don't want nothing at all
If it ain't you baby
If I ain't got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain't got you
Some people search for a fountain
The promise is forever young
Some people need three dozen roses
And that's the only way to prove you love them
Hand me the world on a silver platter
And what good would it be?
With no one to share, with no one who truly cares for me
Some people want it all
But I don't want nothing at all
If it ain't you baby
If I ain't got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain't got you, you, you
But everything means nothing
If I ain't got you
If I ain't got you with me baby
Nothing in this whole wide world don't mean a thing
If I ain't got you with me baby
“หอมหน่อยๆ”
เสียงหนึ่งตะโกนบอกเจ้าของงานที่เต้นรำและมองตากันหวานซึ้ง ความเขินอายในตอนแรกของน้ำฟ้าคล้ายถูกคลื่นลูกเล็กหอบเอาไปเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเรียบร้อยแล้ว
“หอมคุณหมอหน่อยสิฟ้า ”
อีกหนึ่งเสียงตะโกนย้ำ น้ำฟ้าจำได้ดีว่าคือเสียงของพี่สาวฝาแฝดของเขาเอง แล้วประโยคที่ทำเอาน้ำฟ้ากลับมาเขินอีกครั้งก็คือเสียงตะโกนของเพื่อนสนิทชื่อคม
“ไม่หอม ไม่ยอมให้กลับไปเข้าหอนะเว้ย”
แล้วก็มีทั้งเสียงตบมือและเฮลั่นหาด จากนั้นก็มีเสียงตะโกนบอกดังมาเรื่อยๆ จนจับไม่ได้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร
“หอมๆๆ หอมเร็วๆ หอมหน่อยๆ”
“ว่าไงครับ” หมอพิษณุถามคนรัก นัยน์ตาหวานฉ่ำ รอฟังคำตอบ ที่เคยคิดเอาไว้ว่าไม่อยากหอมแก้มคนรักโชว์แขกในงานก็พลันหายไปเสียแล้ว
“.....” น้ำฟ้ายิ้มแทนคำตอบ ไม่กล้าหันไปมองเจ้าของเสียงตะโกนเหล่านั้นเลย
“อนุญาตให้หอมหรือจูบครับ” หมอพิษณุถามอีก คนรักของเขามองตาขวางนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเบาแต่ย้ำหนักว่า
“หอม” ก็น้ำฟ้ายังอายอยู่นะ ใครจะกล้าจูบปากโชว์แขกล่ะ
แล้วเสียงโห่ฮิ้วและเสียงปรบมือก็ดังลั่นหาดอีกครั้ง เมื่อหมอพิษณุโน้มใบหน้าเข้าใกล้แล้วกดริมฝีปากของตนบนแก้มเนียนที่อุ่นร้อนด้วยความเขินอาย
“พี่ฟ้าด้วยสิคะ” เสียงลูกน้องสาวร่างอวบของน้ำฟ้าดังขึ้น ทำเอาเจ้านายหนุ่มหันไปค้อนแทบจะทันที แต่เจ้าตัวยังยิ้มร่าไม่เกรงกลัวเจ้านายแต่อย่างใด เพราะยังมีอีกหลายเสียงที่ช่วยสนับ
“ใช่ๆ ปล่อยให้คุณหมอหอมคนเดียวได้ไง เสียเปรียบนะเว้ย” เพื่อนสนิทของน้ำฟ้าที่ชื่อเอ็มคือเจ้าของประโยคนี้
“หอมแก้มๆๆๆ” แต่นี่เสียงใครก็ไม่รู้เพราะดังขึ้นพร้อมกัน
“หอมเลยๆๆๆๆๆ” นี่ก็อีก เสียงใครไม่รู้ น้ำฟ้าฟังไม่ออก เพราะมันปนกันมาหลายเสียงมาก
“พี่นุพร้อมแล้วนะครับ”
หมอหนุ่มบอกคนรัก พลางเอียงแก้มเข้าไปใกล้ แล้วคนรักของหมอหนุ่มจะทำอะไรได้ นอกเสียจากจะประทับริมฝีปากที่แต้มด้วยรอยยิ้มบนแก้มของคนรัก...
>>>>> Happy Na Ka <<<<<
บับบาย
สีเหลืองอ่อน