[คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50  (อ่าน 232173 ครั้ง)

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
อยากอ่านเเล้วอะๆๆ

รักคุณชายสุภาพบุรุษมากกก

เเต่ขอเเอบเเซว เเหมๆๆๆ คุณชายสงสัยหิวมากจนต้องทานจากมือน้องน้ำ อิอิอิ

น่ารักมาก ชอบมากค่ะ อ่านไปเขินไป

รักพี่ฟ้าม่วง

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
เมื่อไหร่คุณชายจะรุกบ้างอะ

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
23

  กว่าจะถึงรีสอร์ตที่ว่า ก็เกือบๆ บ่ายโมงแล้ว ป้ายทางเข้าทำจากแผ่นไม้ ปักอยู่บนเสาสูงหน้าซุ้มโค้งมีเถาไม้เกาะ ขับเข้ามาก็ผ่านทางที่เป็นถนนยาวๆ มีต้นไม้ประดับเต็มสองข้างทาง เลยทางเข้ามาแล้วนิดหน่อย ก็พบว่ามีบ้านทำจากไม้ทั้งหลังตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น พนักงานต้อนรับสวมชุดไทยแบบง่ายๆยืนรออยู่ ภาสกรจอดรถข้างๆบ้านหลังนั้น ก่อนจะตกลงกันว่าจะทำอะไรกันก่อน ก็พบว่าต่อให้กินแซนด์วิชมาแล้วแต่ทุกคนก็หิวกันอีกครั้ง ภาสกรจึงตัดสินใจว่า ให้กินข้าวเสียที่นี่ให้เรียบร้อยแล้วค่อยเข้าไปเก็บข้าวของ พอทิ้งกระเป๋าไว้ในรถแล้วทั้งหมดก็ลงจากรถเดินเข้าไปยังบ้านหลังนั้นทั้งที่ยังไม่ทันได้เห็นส่วนอื่นๆของรีสอร์ต
“สวัสดีค่ะ หม่อมราชวงศ์ ภาสกร และเพื่อนๆใช่ไหมคะ”
“ครับ” ภาสกรรับไหว้พนักงานสาวก่อนที่หล่อนจะบอกว่า
“คุณชายจะเช็คอินเลยไหมคะจะได้ให้พนักงานช่วยนำทางไปให้”
“ยังครับ เดี่ยวจะทานข้าวกันก่อน”
“ได้ค่ะ ร้านอาหารอยู่ชั้นบนค่ะ” หล่อนผายมือ จากนั้นทั้งสี่ก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ห้องอาหารมีทั้งที่อยู่ในตัวบ้าน และอยู่บนระเบียงด้านนอก ภาสกรเลือกนั่งสูดอากาศที่ริมระเบียง โดยนั่งโต๊ะที่อยู่ที่มุมหนึ่งของระเบียง
มองลงไปด้านล่างเห็นลานสนามหน้ากว้างใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้เป็นระยะ มีม้านั่งตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ จากนั้นก็มีถนนตัดผ่านข้างๆ ยาวลึกเข้าไปมองเห็นไกลๆว่ามีบ้านหลังเล็กหลังน้อยอยู่เรียงรายเต็มไปหมด
 พอสั่งอาหารหมดแล้ว ยังไม่ทันที่อาหารจะมาเสิร์ฟ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“คุณชาย” ปีเตอร์นั่นเอง หนุ่มเจ้าของรีสอร์ตในเสื้อโปโล กางเกงยีนส์แบบธรรมดาๆ เดินเข้ามาต้อนรับ พอภาสกรเห็นเขาเข้าก็ลุกขึ้นเข้าไปกอดลูบหลังกันสองสามที มองเลยไปเห็นสาวฝรั่งร่างสูงผมทองมัดไว้เป็นหางม้าจูงมือลูกวัยห้าขวบเข้ามาด้วยก็ทักเป็นภาษาฝรั่ง
“สวัสดีโรซาลี จำผมได้ไหม”
“ได้ซีคะ ดีใจจังเลยที่ได้เจอกันอีก ในประเทศของคุณ” หล่อนว่า เข้ามาจับมือภาสกร ก่อนที่จะแนะนำลูกสาวของตนให้ภาสกรรู้จัก “นี่ แมรี่ ลูกสาวฉันค่ะ เตอร์เขาเรียกว่า มะลิ เป็นภาษาไทย”
ภาสกรนั่งยองๆลงทักสาวน้อย
“น่ารัก น่าชังเหมือนแม่เลยนะ” เด็กน้อยยังไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า จึงหลบไปอยู่หลังแม่ ภาสกรเห็นท่าทางก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะแนะนำให้เพื่อนๆของเขารู้จักกับ ดาริกา ปุยฝ้าย และ นที
“เฮ้ยนี่ กินข้าวหรือยัง” ภาสกรถามเพื่อนหนุ่ม
“ยังเลย ยังๆ” เตอร์ตอบเสียงดังอย่างร่าเริง “งั้นขอนั่งกินด้วยนะ เพิ่มอีก 3 ที่เอง ไม่ได้เจอกันนานจะได้คุยกันด้วย หวังว่าจะไม่ว่าอะไรนะ”
“เอาซี” คุณชายรับคำ ก่อนจะทันได้ว่าอะไรเจ้าของรีสอร์ตก็จัดแจง เรียกพนักงานสาวเข้ามาต่อโต๊ะ สั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง อย่างไม่คิดเสียเวลา
 ตอนแรกนทีค่อนข้างเกร็งเมื่อคิดว่ามีฝรั่งมานั่งอยู่ด้วย แล้วภาสกรเองก็เจอเพื่อนเก่าคุยกันสนุกสนาน เขาคงจะทำตัวไม่ถูกแน่ๆ แต่กลับเป็นว่าปีเตอร์นั่งตรงหัวโต๊ะ ติดกับภาสกร คุยกันอย่างออกรสก็จริงแต่ก็ไม่ลืมชวนนทีคุยด้วยไม่ให้อึดอัด ส่วนโรซาลีพอนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับสามี ข้างๆดาริกา ก็ชวนหล่อนคุย คุยไปคุยมาดาริกาก็พบว่า จริงๆแล้ว สาวผมทองเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-อเมริกัน หล่อนเองก็เคยไปเรียนที่ฝรั่งเศสมา กลายเป็นนั่งคุยภาษาฝรั่งเศสกันอย่างสนุกสนาน มีปุยฝ้ายคอยถามคำศัพท์สนุกไปหมด
นทีอยู่ตรงกลางก็ถูกทั้งสามี ทั้งภรรยาเจ้าของรีสอร์ตผลัดกันซักถามพูดคุยไม่ให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวจนมื้อนั้นเป็นอีกมื้อหนึ่งที่มีความสุขเหลือเกิน
 โดยเฉพาะกับเด็กหญิงตัวน้อย แมรี่ ที่พูดคล่องทั้งไทย ทั้งอังกฤษ พอหายตื่นคนแล้วก็ชวนหนุ่มน้อยที่นั่งข้างๆหล่อนคุยเป็นภาษาไทยบ้างอังกฤษบ้าง เล่นกันสนุกสนานบ้าง จนนทีต้องหัวเราะออกมาหลายครั้ง ไปๆมาๆ โรซาลีคุยกับดาริกาเพลิน ลืมดูแลลูกสาว ไม่ได้เห็นว่าหล่อนไม่ได้กินอะไรถนัดนัก นทีจึงกลายเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นไปเลย
 “กินอะไรคะ คนสวย” นทีถามหญิงสาว ใช้คำลงท้ายว่า “คะ” คุยกับเด็กหญิงจนหนูน้อยหัวเราะคิก ตอบไปว่าอยากกินกุ้ง หนุ่มนทีก็จัดแจงแกะเปลือกส่งให้เด็กน้อยกินอย่างเอร็ดอร่อย คนที่นั่งถัดจากเขาไปหันมามองก็อดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นนทีก้มลงหน้าเกือบจะชิดกับเด็กหญิงฟังเรื่องที่หล่อนพูดอย่างสนุกสนาน แล้วก็หัวเราะออกมาเหมือนเด็กๆ นทีรู้สึกว่าภาสกรมองอยู่ก็เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ชายหนุ่มด้วย
    เวลาที่นทีพูดว่า
“เก่งจังค่ะ แม่รี่” ภาสกรก็อดหน้าแดงอย่างไม่รู้ตัวไม่ได้ จู่ๆก็เห็นภาพตัวเองกับนที จูงมือเด็กหญิงตัวเล็กๆไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ กัน มีนทีคอยป้อนข้าวเด็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ตน... คงจะดีหากเขามีครอบครัวเป็นของตัวเอง
มีครอบครัวกับนทีเนี่ยนะ!
ภาสกรสั่นหัวแรงๆราวกับว่า หากทำอย่างนั้นแล้ว ความคิดจะถูกสลัดหลุดออกไปจากหัวได้อย่างนั้น... เขาจะบ้าไปแล้วหรือ อยากมีครอบครัวกับผู้ชายเนี่ย พอมองไปอีกทีก็พบว่า เมื่อเห็นหน้านที ก็เหมือนภาพของดาริกาซ้อนอยู่อีกชั้นหนึ่ง เพราะสองคนนี้หน้าคล้ายกันอย่างน่าประหลาดกระมังเขาจึงเผลอคิดว่าอยากให้นทีเป็นแม่ของลูกเขา ... ความจริงคงอยากให้เป็นดาริกามากกว่าที่อยู่ตรงนั้นในมโนภาพของเขา เขาคงไม่ได้อยากมีลูกกับผู้ชายจริงๆหรอกนะ ถ้าอย่างนั้นก็น่าขำเกินไปแล้ว
    อิ่มข้าวแล้วแมรี่ก็จูงนที หรือที่หล่อนเรียกว่า แนทที่ ลงไปวิ่งเล่นข้างล่าง พอคนพ่อร้องห้ามเพราะเกรงใจ กลัวว่านทีจะกินข้าวไม่อิ่ม หนุ่มน้อยก็บอกว่าตนมีความสุขดีที่ได้เล่นกับเด็กหญิง วิ่งตามไปอย่างสนุกสนาน เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ทำเอาสองหนุ่มที่โต๊ะอาหารหัวเราะขึ้นเบาๆ
“รุ่นน้องนายนี่ ทำลูกฉันติดแล้วไหมล่ะ”
“น้ำก็อย่างนี้ล่ะค่ะรักเด็ก เด็กเล่นด้วยแล้วก็ติดใจ” ปุยฝ้ายแย่งภาสกรตอบ “แต่เอาเข้าจริงจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ติดใจทั้งนั้นแหละค่ะ”
“เห็นด้วยค่ะ” ดาริกายิ้ม “ขนาดหญิงเพิ่งเจอไม่กี่วันยังติดใจเลยคนอะไรหน้าตาก็น่ารัก นิสัยก็น่ารัก ใครได้มารู้จักก็ต้องติดล่ะค่ะ ใช่ไหมคะคุณชาย”
คำถามนั้นเป็นคำถามที่ธรรมดาเหลือเกินแต่ภาสกรกลับตอบไม่ได้ หรือตอบอืมรับไปแล้วเบาๆ ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจ เพราะเสียงหัวใจของเขา มันเต้นดังเหลือเกินจนกลบเสียงอื่นๆที่เขาได้ยินไปจนหมด เมื่อเห็นภาพของนที กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปกับเด็กน้อย มีคำว่า “จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ติดใจทั้งนั้นแหละค่ะ” ที่ปุยฝ้ายว่าก้องอยู่ในหัว
เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ภาสกรยอมรับ อยากเห็นหน้า อยากพูดคุย อยากอยู่ใกล้นทีตลอดเวลา... คำนี้หรือเปล่านะ คำที่จะมานิยามความรู้สึกที่เขามีต่อนที ที่คิดแล้วคิดอีกอย่างไรก็คิดหาคำมาเรียกไม่ได้
เขา“ติดใจ”นที เข้าแล้ว...
“ติดใจ” คงไม่เหมือน “ชอบ”... คงไม่เหมือน “รัก” หรอกนะ

ภาสกรเดินมาตามนทีเมื่อหลายคนกินข้าวเสร็จแล้วพร้อมจะเช็คอินเข้าพักผ่อนที่บ้านพัก ก็พบว่า นทีกำลังวิ่งไล่จับเด็กน้อยอยู่ พอหนุ่มน้อยก้มลงกอด แมรี่ไว้ได้ เด็กหญิงตัวเล็กเหมือนตุ๊กตาก็ร้องกรี๊ดออกมา คุณชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งที่ม้านั่งใกล้ๆ พอนทีเห็นว่าภาสกรเดินเข้ามาก็อุ้มแมรี่เข้าไปหานั่งลงข้างๆภาสกร
“อิ่มแล้วหรือครับคุณชาย”
“อืม” เขารับ เขยิบตัวเข้าไปใกล้นทีเพื่อเล่นกับเด็กหญิงด้วย “คุณเถอะ อิ่มแล้วหรือมาเล่นอยู่แต่กับเด็กน้อยคนนี้”
 “อิ่มแล้ว ผมกินแซนด์วิชมาแล้วตั้งเยอะ” หนุ่มน้อยตอบ เห็นคุณชายหนุ่มก้มหน้าลงมาใกล้ๆเด็กหญิงจี้เอวเล่นจนดิ้นพล่านร้องกรี๊ด หัวเราะอย่างเสียงดังก็หน้าแดง ในเมื่อยิ่งใบหน้าของภาสกรอยู่ใกล้เด็กหญิงมากเท่าใด ก็เท่ากับว่ามันใกล้เขามากเท่านั้น
 “หรอ” เขาว่าพูดเบาๆ อย่างไม่รู้ตัวพอพูดจบประโยคไปแล้วถึงได้รู้ว่าตัวเองพูดอะไรที่ประหลาดได้มากเพียงใด “คุณดูเด็กเก่งจังนะ นที คงจะเป็นพ่อที่ดีได้แน่ๆเลย”
นทีหน้าแดง ไม่รู้จะตอบอย่างไรก็เฉไฉว่า
“หาแม่ให้เด็กยังไม่ได้เลย จะเป็นพ่อที่ดีได้ยังไง” สิ้นประโยค คุณชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มน้อยที่กอดเด็กหญิงอยู่ หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นใบหน้าขาวนวลเนียน รื้นเป็นสีชมพูไปด้วยเลือดฝาด ปากสีชมพูใสอ้าออกเล็กน้อยเพราะเพิ่งพูดจบประโยค เหมือนจะเชิญชวนให้เข้าเคลื่อนตัวเข้าไปหา
ถ้านทีเป็นผู้หญิง ถ้าเขายังอยู่ที่อังกฤษ และถ้าประโยคของเขาเป็น “คุณคงเป็นแม่ที่ดีได้แน่” แล้วนทีตอบว่า “หาพ่อให้เด็กยังไม่ได้เลย...”แล้วล่ะก็ ภาสกรคงจะประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากสีชมพูที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะพูดว่า
“ผมไงครับ พ่อของเด็ก” ไปแล้ว แต่ประโยคใดก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ถ้า” ละก็ในเชิงไวยากรณ์แล้วมันก็เป็นการสมมติสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ภาสกรจึงเรียกสติของตัวเองกลับมา คิดได้ในที่สุดแล้วก็ค่อยๆ ถอนตัวออกจากนที หันไปทางอื่นแล้วพูดเสียงอ่อยๆว่า “เขาทานข้าวกันอิ่มแล้ว ไปเช็คอินกันเถอะ”

   “เอ๊ะ น้องฝ้ายดูสองคนนั้นซีคะ” ดาริกาสะกิดให้ปุยฝ้ายหันไปดู ตอนที่ภาสกรจ้องหน้านทีอยู่ด้วยแววตาลึกซึ้ง ในขณะที่นทีก้มลงคุยกับเด็กหญิงในอ้อมกอดของตนอย่างไม่รู้เรื่องพอดี “นั่นพี่คิดไปเองหรือว่า เขา... เอ้อ เขาดูเหมือน ... อุ๊ยพูดยังไงล่ะคะ เขาดูแปลกๆกันหรือเปล่าคะนี่”
    ปุยฝ้ายหัวเราะ แต่ไม่ตอบอะไรดาริกา
    คนที่ถูกมองไม่เห็นอะไร จึงเดินนำนทีออกมาก่อน ปล่อนให้หนุ่มน้อยเล่นจี้เอวเด็กหญิง แมรี่ดิ้นพล่าน หันไปขยี้หัวนทีจนผมพันกันยุ่ง หนุ่มน้อยร้อง “โอ๊ย” ขึ้นมาเบาๆ แล้วก็ปล่อยมือออกจากตัวของเด็กหญิง ปล่อยให้หล่อนหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับวิ่งหนีจากไป
    ภาสกรหันหน้ามาดูแล้วก็อมยิ้มที่มุมปาก เดินเข้ามาหานที
    “ผมยุ่งหมดแล้ว ไปแกล้งแมรี่เขาทำไมล่ะ คุณนี่”
    ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ก็เอื้อมมือมาลูบผมของนทีให้เข้ารูปเข้าทรง หนุ่มน้อยเขินอายอีกครั้งเมื่อนึกถึงสัมผัสนี้ เมื่อครั้งอยู่ที่โรงพยาบาล และตอนที่ไปที่บ้านของคุณชายหนุ่ม สัมผัสที่อบอุ่นแบบนี้ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว แต่นี่ถึงสาม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า หนุ่มน้อยมีความสุขเพียงใด
    แล้วเมื่อคิดว่า สักวัน เมื่อภาสกรรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับคุณชายอยู่กันแน่ ความรักความเอ็นดูแบบพี่มีต่อน้องที่ภาสกรมีให้เขาจะเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกับเขา หรือว่าต้องจากกันไปเพราะกลายเป็นความเกลียดชังกันแน่
    นทีไม่อยากคิดต่อ จึงยิ้มให้ภาสกร คุณชายหนุ่มก็ยิ้มตอบแล้วเดินกลับเข้าไปหาดาริกา และปุยฝ้าย ความกระดากอายอย่างอึดอัด และน่าลำบากใจนั้น มลายหายไปสิ้น เหลือไว้แต่ความอุ่นใจ สบายใจ และสุขใจเหลือเกิน จนแม้แต่ต้นไม้เพียงไม่กี่สิบต้น ระหว่างทางจากตรงนั้นไปบ้านพักของเขานั้นก็กลับสวยงามขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

   บ้านพักของภาสกร นที ปุยฝ้าย และดาริกา อยู่บนเนินสูงตรงบริเวณเกือบในสุดของรีสอร์ต มันเป็นบ้านหลังย่อม ทำจากไม้ทั้งหลังมีลำธารสายเล็กไหลเอื่อยๆ ผ่านจากหลังบ้านอ้อมไปด้านข้าง บริเวณหลังบ้านนั้นแหละ มีโต๊ะไม้สีขาวสะอาดตั้งอยู่ ไว้ให้นั่งชมวิวกันตอนเช้าๆ
   เพียงเปิดประตูเข้าไปด้านในก็พบว่า ทางซ้ายมือมีบันไดไม้ขึ้นไปยังชั้นสอง ด้านขวามือ มีโต๊ะกระจกกลมมีเก้าอี้เรียงอยู่รอบๆสี่ตัวครบจำนวนคน เดินเลยเข้าไปข้างในก็พบว่า มีเก้าอี้ยาวรับแขก และชุดโทรทัศน์ตั้งอยู่ ห้องใต้บันใดมีบาร์ไม้เล็กๆ เป็นบาร์เครื่องดื่ม มีตู้เย็นขนาดย่อมอยู่ตรงนั้นด้วยด้านในมีทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม และ ไวน์ฝรั่งเศสอย่างดีอีกหนึ่งขวดบรรจุไว้ เดินเลยห้องครัวเข้าไปด้านในก็พบว่ามีห้องนอนขนาดเล็กอยู่คู่กับห้องน้ำที่เปิดโล่งออกข้างนอก มีเพียงฉากไม้ไผ่กั้น กันอุจาดไว้ หากมองขึ้นไปตรงๆจะเห็นกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ข้างนอก ได้เต็มตา มีเสียงลำธารไหลเอื่อยๆอยู่ใกล้ๆ เรียกได้ว่า อาบน้ำกันใต้ร่มไม้ทีเดียว
    แค่เห็นปุยฝ้ายก็ร้องว่า
    “อี๊ ไม่อยู่ล่ะค่ะ คุณชายกับนทีอยู่กันไปนะคะ เป็นผู้ชายอาบอย่างนี้คงไม่เป็นไร แต่ฝ้ายไม่เอาด้วยค่ะ ยิ่งสวยๆอยู่ใครมาปีนดูล่ะก็จบ”
    เรียกเสียงหัวเราะไปยกหนึ่งก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน คุณชายและนทีทิ้งกระเป๋าของตนไว้ตรงนั้น แล้วช่วยพวกผู้หญิงขนของขึ้นไปด้านบน
    บันไดทอดตัวขึ้นไปยังระเบียงทางเดินที่อยู่ด้านหน้าห้องก่อนจะเปิดเข้าไปเป็นห้องนอนห้องหนึ่งพร้อมห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำอยู่อย่างน่าสะดวกสบาย เป็นอันว่าพวกผู้หญิงได้ห้องที่เหมาะสมแล้ว
    “คุณสองคนอยากไปไหนไหม หรือจะพักผ่อนกันก่อน” คุณชายถาม
    “ขับรถมาเหนื่อยๆ คุณชายไปพักก่อนเถอะค่ะ พวกเราอาจจะเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อย แล้วก็ไปเดินเล่นแถวนี้ไม่งั้น ถ้าไม่มีอะไร หญิงคงต้องรบกวนคุณชายนำเที่ยวนอกรีสอร์ตแล้วค่ะ” ดาริกาชี้แจง ภาสกรก็เห็นด้วย จึงปล่อยสองสาวไว้
    ตัวเองเดินกลับลงมาข้างล่างพร้อมนที
    พอเอาของเข้าไปเก็บในห้อง นทีก็ง่วนอยู่กับการจัดกระเป๋าให้ดูวุ่นวายไปอย่างนั้นเอง ยังไม่อยากพูด หรือทำอะไรไปตอนนี้ เพราะ บรรยากาศที่อึดอัด และน่าใจหาย แต่มีความสุขอย่างประหลาด ยังคงอบอวลอยู่จนปรับตัวไม่ทัน พอหันกลับมาอีกทีนทีก็พบว่าภาสกรทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วเรียบร้อย นอนคว่ำ แต่หันหน้ามามองทางหนุ่มน้อยถามว่า “เก็บของอะไรหรอ”
    “เอ้อ พวกของใช้ส่วนตัว ผ้าเช็ดตัวอะไรอย่างนี้ล่ะครับ” นทีว่ามุบมิบ เดินมานั่งที่ปลายเตียง หันหน้ามองภาสกรเช่นกัน
    “นอนพักกันก่อนเถอะ เดินทางมาเหนื่อย”
    ภาสกรบิดตัวไปมา แล้วก็หาวออกมาเสียงดัง ปากกว้างแบบไม่คิดจะปิดปากรักษาภาพจนนทีอดยิ้มไม่ได้ เขาไม่เคยใกล้ภาสกรขนาดนี้เลย ไม่เคยเห็นภาสกรทำตัวเหมือนเด็กอย่างนี้ ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลถึงใกล้กันทางกายก็จริงแต่ทางใจแล้วไม่ได้ใกล้ชิดราวกับเป็นเพื่อนสนิทสนมกันมานานเท่านี้
    หนุ่มน้อยทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันไปทางภาสกรบ้างนอนจ้องตากันอยู่พักหนึ่ง ในความเงียบ ... เงียบอย่างอบอุ่น และสงบอย่างทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันสองคน ต่างฝ่ายต่างไม่ได้สังเกตหรอกว่า ระยะห่างของเตียง เพียงโต๊ะเล็กข้างเตียงกั้นนั้น มันไม่ได้ต่างจากนอนบนเตียงเดียวกันสักเท่าไหร่ ภาสกรยิ้มขึ้นมาก่อน นทีก็ยิ้มตาม “คุณมีความสุขหรือเปล่าครับ” ภาสกรถามเบาๆคล้ายจะกระซิบ
    “ครับ” นทีตอบเบาๆเช่นกัน ทั้งคู่เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่ภาสกรจะบอกว่า
    “ดีใจนะ ที่คุณมีความสุข... ผมก็มีความสุข มากเหมือนกัน” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็หลับตาลงนิ่งๆอย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทิ้งให้นทีนอนจ้องหน้าเขาต่อไปอีกนานหลายสิบนาที จนหนุ่มน้อยเกือบจะห้ามใจไม่ไหว คิดว่านอนอยู่บนเตียงเดียวกันแล้วกระเถิบตัวเข้าไปซุกอยู่บนอกกว้างที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามนั้น ก่อนจะแอบกระซิบเบาๆว่า “ผมมีความสุขมากแล้ว ตั้งแต่มีคุณชายเช่นกันครับ”

ออฟไลน์ SecondaryTrauma

  • Today is a gift, that is why call ... "The Present"
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ดูท่าว่าคุณหญิงดาริกาจะเป็นสาววายด้วยคนหนึ่ง แอบคิดเตลิดไปด้วยว่าคุณหญิงน่าจะเป็นพี่สาวของนทีด้วย

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
คุณชายจะสับสนอีกนานมั๊ย
เป็นกำลังใจให้นที

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ถ้าดาริกาเป็นพี่สาว หรือ ญาติ ของนทีคงจะดีนะ ดูท่าจะเป็นสาววายด้วย   ...เหรอ

อ่านแล้ว ยิ้มตามไปเลย

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
+1 ค่ะ
ติดใจมาตั้งแต่คราวปางบรรพ์แล้ว
เรื่องนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกมีความสุขมาก อ่านรวมเดียวเลย
^^ คุณชายน่ารักมากอ่ะ
อาจจะยังสับสนกับตัวเองอยู่ แต่คงอีกไม่นาน (มั้ง?)
เฮ้ออ ปัญหาเรื่องของที่บ้านคุณชาย คงยิ่งใหญ่
ไหนจะเรื่องพ่อเลี้ยงของน้ำอีก
เอาใจช่วยให้ทั้งคู่ผ่านไปได้ ,,
ปล. คุณหญิงดาริาน่ารักมาก ชักชอบแล้วสิ  ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
รอตอนต่อไป...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






patz

  • บุคคลทั่วไป
ความรู้สึกของคุณชายยังติดอยู่ในกรอบอยู่ แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน คงจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น

แล้วจะรู้ว่า "ติดใจ" "ชอบ" หรือ "รัก" ใช่ความหมายเดียวกันรึเปล่า  :impress2:

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
คุณชายยังไม่รู้ใจสินะ
ทำยังไงน้อคุณชายถึงจะเข้าใจตัวเองซักที

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
คุณชาย“ติดใจ”นที
แต่เรา“ติดใจ”คุณฟ้าม่วง

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักอีกเเล้ว น่ารักทั้งคู่เลย :L1:
รออ่านนะคะ :L1:

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ได้เห็นหน้าทุกวันก็มีความสุขแล้วคับ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
น่ารักมาก ขอบคุณพี่ฟ้าม่วงค่ะ
อยากให้หวานอีกๆ กรี๊ดด

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
คุณชายเริ่มรู้ใจตัวเองมาขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว 
แต่เชื่อว่าอุปสรรคเป้ง ๆ รออยู่อีกเพียบ
แค่คิดถึงหม่อมแม่ก็ท้อใจแทน  เฮ้อออ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
สงสารคุณดาริกา จะชวนปุยฝ้ายเม้าท์เธอก้อไม่เล่นด้วย
  :laugh:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

แอร๊ยยย คุณชายกนนทีน่ารักจัง
ดูท่าแล้วคุณหญฺงดาริกานี่ใช่เล่นจริงๆ ฮ่าๆ ตัวแปรสำคัญนะคะเนี่ยะ เอิ๊กก
ชอบบบบคะ ชอบมากกกกก

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ +1 ให้จ้าา

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
คุณหญิงตอมจิ้นเริ่มทำงานแล้วววว ^^
บวกให้ค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






namwaan1992

  • บุคคลทั่วไป
อ้ากกก ก~
หวานอ่ะ   ^^

ออฟไลน์ J_Dargon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อ่านไปยิ้มไป มีความสุขจิง ๆ  o18

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

babyfaibossy

  • บุคคลทั่วไป
ดูท่าว่าคุณหญิงดาริกาจะเป็นสาววายด้วยคนหนึ่ง แอบคิดเตลิดไปด้วยว่าคุณหญิงน่าจะเป็นพี่สาวของนทีด้วย

เห็นด้วยๆ   :laugh:

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
คุณชายรู้ใจตัวเองเร็วๆหน่อยสิค่ะ

คนอ่านลุ้นจะแย่แล้ว

ห้าๆๆ


BF-e

  • บุคคลทั่วไป
 ~~ ครอบครัวที่อบอุ่น   :-[

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
24

    ภาสกรตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าหนุ่มน้อยไม่ได้นอนอยู่ตรงข้ามแล้ว
ทิ้งโน้ตไว้ว่า “ไปขี่จักรยานเล่นครับ” เท่านั้น พอออกมาข้างนอกก็พบว่าไม่มีใครอยู่ บ้านเลยสักคน ตนจึงเปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นแบบสบายๆ ล็อกบ้านพักเสียแล้วก็เดินออกไปตามหานที บริเวณโดยรอบของรีสอร์ทจัดไว้ไม่หรูหราก็จริง แต่ก็สวยงามเมื่อคิดว่าไม่ค่อยได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ บ้านพักกระจายตัวเรียงรายรอบถนนที่มีอยู่สองฟาก ตรงกลางเป็นเกาะกลางปลูกไม้พุ่มบ้าง ไม้ยืนต้นบ้างสลับกันไป ตัดแต่งไว้งดงามแต่ก็ยังดูเป็นธรรมชาติเหมือนงอกขึ้นมาเอง
    บ้านของภาสกรอยู่บนเนินตรงทางโค้งของถนน มองตรงไปด้านหน้าก็คือส่วนต้อนรับที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อบ่าย มีถนนแยกตัวไปทางซ้ายตอนเข้ามาพอจะจำได้ว่ามีป้ายบอกไว้ว่าไปสวนดอกไม้ และสระว่ายน้ำ ในใจพิจารณาว่าอย่างนทีคงไม่ไปว่ายน้ำแน่ แต่ถ้าจะไปขี่จักรยานอย่างที่เขียนบอกไว้ก็คงต้องไปทางสวนซึ่งเท่ากับว่าไปทางเดียวกับสระว่ายน้ำอยู่ดีกระมัง
    แต่ทางจากบ้านพักไปถึงทางแยกก็ไกลพอตัวอยู่แล้ว เลยไปสวนก็ไกลกว่าเดิมอีกถ้านทีไม่อยู่ที่นั่นจริง จะไม่ยิ่งเสียเวลาหรือ
    ชายหนุ่มไม่ทันได้คิดอะไรมากก็เหลือบไปเห็นป้ายบอกทางอยู่ใกล้ๆบ้านพักของตน จึงเดินไปดู ปรากฏว่าป้ายบอกทางว่าเลยบ้านพักเขาเข้าไปด้านในอีกเรื่อยๆ จะเป็นคลับแอนด์สปา และเรือนผีเสื้อ หนุ่มอารมณ์ศิลปินอย่างนทีน่าจะอยากไปดูผีเสื้อมากกว่ากระมัง อีกอย่างดาริกาและปุยฝ้ายคงไปเข้าสปานวดกันตามประสาผู้หญิง ไม่แน่ถ้าเริ่มจากที่นี่ ไปถามก่อนว่าพอเห็นนทีบ้างไหมก็อาจจะทำให้พบตัวหนุ่มน้อยเร็วขึ้น
    ภาสกรจึงเดินพาตัวเองไปตามทางเล็กๆนั้น
    ทางลาดยางแบบให้รถเดินก็จริง แต่ข้างทางเริ่มไม่มีบ้านพักแล้ว กลับเห็นเป็นลานหญ้ามีต้นไม้ขึ้นเป็นหย่อมๆ มีม้านั่งอยู่ตามจุดต่างๆ มองข้ามลานนั้นไป เห็นไกลๆว่ามีอาคารไม้หลังหนึ่งตั้งอยู่ คงเป็นคลับ แอนด์สปาอย่างที่ป้ายบอก คุณชายหนุ่มจึงเดินออกจากทางลาดยางตัดผ่านสนามหญ้าไปด้วยอารมณ์ดีเหลือเกิน ได้ยินเสียงนกร้องราวกับคณะประสานเสียง มีลมพัดเป็นระยะเจือคล้ายเสียงดนตรี ก็รู้สึกเหมือนได้มาอยู่ในสวรรค์ชั้นฟ้าก็ไม่ปาน ชายหนุ่มกวาดตาเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ ก็เห็นม้านั่งตัวหนึ่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านครอบคลุมไปทั่ว เห็นแล้วอดคิดถึงนทีไม่ได้
    คิดถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ที่หนุ่มน้อยนั่งบนม้านั่ง มีเด็กหญิงแมรี่อยู่บนตัก ริมฝีปากแดงซ่านเพราะเพิ่งกินอาหารเผ็ด อ้าเผยอออกเพราะเพิ่งจบประโยค ดูช่างเซ็กซี่ เย้ายวน น่าหลงใหล... อย่างนั้นหรือ... ภาสกรตกใจ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายคนไหน แม้กับผู้หญิงก็ตาม
    กับเจสสิกาที่เคยคบกันที่อเมริกา ภาสกรก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ โอเคเขาเคยจูบหล่อน แต่เพราะฝ่ายนั้นเริ่มก่อน กับทิฆัมพร เขาก็เคยจูบหล่อนเพราะฝ่ายหญิงเริ่มก่อนเช่นกัน มาครั้งนี้เองที่ภาสกรเป็นฝ่ายนึกอยากโน้มคอนทีลงมา แล้วบรรจงประกบริมฝีปากอวบอิ่มของเขา เข้ากับปากแดงระเรื่อของหนุ่มน้อยเองเหลือเกิน
    นึกภาพตัวเองจูบกับนทีเข้าจริงๆ แทนที่จะขยะแขยง ชายหนุ่มกลับขนลุก หน้าร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน รีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังสปาแห่งนั้น เพื่อที่ว่าใจจะได้ไม่จดจ่ออยู่แต่กับนทีมากไป ภาสกรไม่เคยคิดว่าตนเป็นเกย์ และยังไม่มีแผนว่าจะกลายเป็นในเร็วๆนี้ด้วย

    อาคารไม้สองชั้น ขนาดใหญ่นั้นเป็นทั้งสปา และสปอร์ตคลับ เข้าไปด้านในก็พบว่ามีห้องฟิตเนส และห้องเทเบิลเทนนิส ด้านหลังเป็นคอร์ตแบดมินตัน และเทนนิสด้วย แต่กลับไม่มีสระว่ายน้ำทั้งๆที่ควรจะเอามาไว้รวมกัน แต่แยกไปอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้กลางสวนออกไปต่างหาก
    พนักงานต้อนรับออกมาทักทายภาสกรก่อน  เขารับไหว้หล่อนก่อนจะถามหาดาริกาและปุยฝ้าย ได้ความว่าทั้งคู่นวดอโรมาอยู่ชั้นสอง เข้าไปไม่ได้เพราะต้องถอดเสื้อผ้านวด จะนั่งรอก็กลัวเสียเวลาถามหานทีก็ได้ความอีกเช่นกันว่า หนุ่มน้อยขี่จักรยานวนไปด้านเรือนผีเสื้อ ซึ่งจะไปบรรจบกับสวนดอกไม้ และสระว่ายน้ำเป็นวงกลมพอดี
    ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณแล้วก็ รับแผนที่ของรีสอร์ตมาดูก็พบว่า รีสอร์ตนี้แต่งเป็นวงกลม ด้านหน้าเป็นแผนกต้อนรับ ถนนแยกเป็นสองทางเลี้ยวซ้ายมาจะมีศูนย์สมุนไพรต่างๆ ที่เขาขับผ่านมาตั้งแต่บ่ายแต่ไม่ได้สนใจ วนขวามาเรื่อยๆจะเห็นอาคารแห่งนี้ เรือนผีเสื้อ สระว่ายน้ำ และสวนดอกไม้ตามลำดับ ก่อนจะวนรอบกลับมาเจออาคารต้อนรับอีกที ตรงกลางรีสอร์ตคือบ้านพัก ทั้งแบบโฮมสเตย์ และแบบรายคืน ถือว่าจัดได้น่าประทับใจดี
    ภาสกรเดินออกมาจากอาคารหลังนั้นก็พบว่าตนเดินเข้าไปในตึกด้วยสมองที่มีแต่นทีวนเวียนอยู่จนไม่ได้สนใจว่า ด้านหน้ามีจักรยานจอดอยู่ด้วยสองคัน ของปุยฝ้ายหนึ่ง ของดาริกาอีกหนึ่ง ส่วนนทีไม่ได้ลงอยู่กับสาวๆแต่คงไปขี่เล่นดูวิวไปตามอารมณ์ศิลปิน ภาสกรจึงเดินเรื่อยๆไปอย่างไม่มีจุดหมาย ชะเง้อหานทีไปด้วยตลอดทาง
    กระทั่งมาถึงหมู่เรือนเกษตรคลุมผ้าขาว อย่างที่เคยเห็นในโรงเรียนมัธยม มีป้ายไม้ขนาดใหญ่เขียนไว้ว่า เรือนผีเสื้อ ชายหนุ่มก็แวะเข้าไปเดินวนอยู่พักหนึ่ง พบว่าหน้าเรือนที่อยู่เกือบในสุด มีจักรยานสีแดงคันหนึ่ง จอดพิงไว้ง่ายๆ ก็อมยิ้ม เดาว่าคงเป็นนทีที่อยู่ในนั้นแน่ เขาเดาไม่ผิดแต่แรกว่าหนุ่มน้อยน่าจะมาที่นี่ทั้งที่ยังไม่รู้อะไร แปลกใจว่าตนเดาใจเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานได้อย่างไร
    ในเมื่อใจตัวเองที่รู้จักกันมานานชั่วชีวิต ยังเดาไม่ออกเลย
     นทียืนหันหลังให้ทางเข้า ใส่เสื้อตัวเดิมแต่กางเกงและรองเท้าเปลี่ยนเป็นขาสั้นสบาย คีบแตะแบบลำลองจะได้ไม่ต้องเดินลำบาก นับว่าประหลาดมากที่ภาสกรมุ่งความสนใจไปที่หนุ่มน้อยมากกว่าผีเสื้อหลายสิบตัว ที่บินว่อนตอมดอกไม้นานาชนิดอยู่ตรงนั้น ภาสกรเดินเงียบๆเข้าไปถึงตัวหนุ่มน้อยเอื้อมมือไปบีบหัวไหล่เบาๆ พลางพูดว่า
    “ว่าแล้วว่าคุณต้องอยู่ที่นี่”
    นทีหันมากลายเป็นว่าเกือบอยู่ในอ้อมกอดของคุณชายที่ยืนอยู่ใกล้เหลือเกินไม่ได้ถอยหนีไปไหน ดวงตาคู่โตสวยสองคู่สบประสานกันนิ่งนานจนเห็นภาพสะท้อนของตัวเองชัดเจนในดวงตาของอีกฝ่าย มองกันอยู่นานแทบว่ามีกันและกันอยู่เพียงสองคนบนโลกนี้ ทั้งคู่ก็หลบตากันแทบจะพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งที่ในใจกกลับคิดตรงกันอีกว่าอยากยืนจ้องอยู่อย่างนั้นนานๆ
    นทีแก้เก้อด้วยการพูดทำลายความเงียบขึ้นก่อนว่า
    “คุณชายหาผมเจอได้ไง”
    “ก็เดินมาเรื่อยๆ เดาว่าอย่างคุณคงมาดูผีเสื้อแน่ๆ เห็นไหมล่ะว่าเดาไม่ผิด” ชายหนุ่มว่าเห็นนทีค่อยๆเดินออกไป ก็รีบเดินตามเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะวิ่งหนีหายไปเฉยๆ หากเท้าของทั้งคู่ไม่ได้ย่ำพื้นที่แฉะจากการรดน้ำจนมีเสียง แต่เดินบนพื้นหญ้านุ่มๆละก็ ต่างฝ่ายต่างก็คงจะได้ยินเสียงใจของกันและกัน เต้นโครมครามอย่างชัดเจนแน่ๆ
    “อย่างผมที่มันอย่างไหนหรือ” นทีถามอายๆ หยุดลงที่ดอกไม้ดอกหนึ่ง มีผีเสื้อตัวใหญ่สีฟ้าเหลือบลายสวยเกาะอยู่ ภาสกรก็หยุดตามนึกอยากเข้าไปใกล้กว่านั้น วางคางบนไหล่อ่อนนุ่มอย่างที่เคยทำกับเจสสิกา แล้วหอมแก้มเนียนใสเบาๆ แต่เท่าที่ทำได้ คือยืนห่างออกมาสองสามก้าวแล้วตอบเสียงอ่อนว่า
    “ก็อย่างที่คุณเป็นไง อ่อนไหว อ่อนโยน อ่อนหวาน”
    “อ่อนเยาว์ และอ่อนแอด้วยหรือเปล่าครับ” นทีหัวเราะแล้วหันมาพบว่าภาสกร ยืนยิ้มกว้างให้อยู่ไม่ไกลตอบว่า
    “ถ้าเป็นสักเดือนที่แล้วก็คงอ่อนแอจริงๆ แต่ตอนนี้มาเดิน มาขี่จักรยานได้ คงไม่อ่อนแอแล้วมังครับ” ภาสกรรู้สึกกลัวเหลือเกินกับบรรยากาศ กลัวว่ามันจะพาใจเขาเตลิดไปไกลกว่านี้ เท่าที่เป็นอยู่ก็เรียกได้ว่า ผิดปกติมากแล้วสำหรับคุณชายหนุ่ม น้ำเสียงที่เขาใช้ทั้งเบา ทั้งนุ่มนวล อ่อนหวานคล้ายเสียงรำพัน พร่ำรักของชายหนุ่มที่กำลังจีบหญิงสาว มากกว่าผู้ชายเต็มตัวสองคนคุยกันอย่างที่มันควรจะเป็น
    บรรยากาศไม่เป็นใจอย่างไร ในเมื่อคนสองคนอยู่ในที่ที่เกือบเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่ด้วย มีแต่เสียงพูดของกันและกัน เสียงหายใจ และเสียงฝีเท้าเท่านั้น มีดอกไม้รายรอบ ซ้ำยังมีผีเสื้อสีสวยบินล้อมอยู่อีก ราวกับจะสะกดจิตให้ทั้งคู่เคลิบเคลิ้มอ่อนไหวไป เหมือนฉากหนึ่งในนิยายที่ พระเอกพึงบอกนางเอกว่า
    “วันนี้คุณสวยกว่าผีเสื้อทุกตัวในนี้ รวมกันกับดอกไม้ทุกดอกเสียอีก” แล้วเชิดคางขึ้นประทับริมฝีปากลงไป เป็นฉากที่งดงามเท่าที่นักเขียนคนหนึ่งจะพึงโน้มน้าวให้ผู้อ่านเคลิบเคลิ้มและประทับใจได้
    แต่ภาสกรรู้ดีว่า หากเรื่องนี้เป็นนิยายและเขาเป็นพระเอกละก็ นทีคงเป็นอะไรไปไม่ได้มากกว่าแค่พระรอง หรืออาจเป็นเพียงเพื่อนพระเอกด้วยซ้ำ ส่วนนางเอกนั้น เขายังหาไม่ได้ แน่ละว่าคงไม่รีบหาด้วย กระนั้นในความเงียบที่แสนสุขนั้น ภาสกรอดคิดไม่ได้ว่า หากตัวเองดึงนทีเข้ามาจูบอย่างที่ใจนึกจริงๆ อีกฝ่ายจะโกรธเขาหรือเปล่า แล้วตัวเขาเองจะกลายเป็นเกย์หรือไม่
    เกย์คือผู้ชายที่ชอบผู้ชาย แต่เขาไม่ได้ชอบผู้ชายเสียหน่อย เขาแค่ชอบนที
     เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งจะคิดว่าตัวเองชอบนทีหรือ
    หม่อมราชวงศ์ ภาสกร รชตานันต์ รีบดึงตัวเองขึ้นมาจากความหลงใหลลุ่มหลงเพียงชั่ววูบ ก่อนจะปล่อยให้บรรยากาศพาใจไปให้เตลิดยิ่งกว่านั้น ดึงนทีเข้ามากอดแล้วบรรจงจูบอย่างแผ่วเบาจริงๆ รู้ตัวว่ามือเริ่มเคลื่อนไปหาหนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างห้ามไม่ได้เสียแล้วก็เลยแตะบ่าเขาสองสามทีอย่างที่เพื่อนชายพึงทำเท่านั้น ไม่มากไปกว่านั้นเลย
    “คุณแข็งแรงดีแล้ว ไปขี่จักรยานกับผมดีกว่าเร็ว” แล้วชายหนุ่มก็รีบเดินออกไป ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนใจเต้น หูแดงด้วยความเขินอาย พอๆกับอีกคนที่รีบหนีไปก่อน นทีทำอะไรไม่ถูกอยู่พักเดียวก็รู้สึกตัวตะโกนถามว่า
    “คุณเช่าจักรยานมาแล้วหรือ”
    ได้รับคำตอบว่ายัง นทีก็ประหลาดใจว่าทั้งคู่จะขี่จักรยานด้วยกันยังไง จึงรีบเดินออกมาดูปรากฏว่าภาสกรขึ้นขี่จักรยานของนทีปั่นออกไปแล้ว ซ้ำยังโบกมือให้อย่างล้อเลียนเอ่ยเสียงดังอีกว่า
    “รีบเดินตามมาเร็วพ่อหนุ่ม! ให้ขาทำงานเยอะๆได้หายไวๆ ถึงที่เช่าจักรยานแล้ว ผมได้ของผมถึงจะคืนของคุณให้”

    ภาสกรไม่ใจร้ายพอให้นทีวิ่งตามมาอย่างกระหืดกระหอบก็จริง แต่ทั้งคู่ก็มาไกลเหลือเกินจนนทีหอบแฮก เสียงหัวเราะในตอนแรกว่ามีความสุขดี เริ่มกลายเป็นเสียงหอบตัวโยน จนในที่สุด นทีเดินตามมาไม่ไหว ค้อมตัวลงมือวางบนเข่าที่ย่อไว้อย่างเมื่อยล้า แล้วก็พูดว่า
    “เอาจักรยานผมคืนมานะคุณชาย”
    ภาสกรวนจักรยานไปมารอบหนุ่มน้อยพลางบอกว่า
    “เหนื่อยจนหายใจไม่ทันยังจะพูดอีก เอ้าขึ้นมา”
    นทีเงยหน้ามองภาสกรงงๆ เพราะเจ้าตัวไม่ยอมลงจากจักรยานเสียก่อน จะให้เขาขึ้นไปอย่างไร งงอยู่พักหนึ่งก็เข้าใจ ถามเขาตามข้อสันนิษฐานของตัวเอง
    “คุณจะให้ผมซ้อนหรือ”
    “ใช่ไงขึ้นมาเร็ว”
    “ทำไมคุณไม่ให้ผมขี่ แล้วไปวิ่งตามผมเหมือนที่ผมวิ่งตามคุณล่ะ”
    “เพราะผมไม่อยาก” ภาสกรเลิกคิ้วกวนๆ จนนทีส่งค้อนอันใหญ่ให้ ก็หัวเราะ แล้วบอกว่า “ให้คุณขี่เองก็ยิ่งเหนื่อยสิมาซ้อนผมดีกว่าน่า นั่งเฉยๆพักหนึ่งหายเหนื่อยเมื่อไหร่เดี๋ยวผมคืน”
    “ไม่เอาล่ะคุณชาย ผมเดินต่อก็ได้ใครมาเห็นจะน่าเกลียดมีผู้ชายที่ไหนเขาซ้อนจักรยานผู้ชายด้วยกันบ้าง”
    “เอ๊า ผมเห็นหนุ่มแว้น เขาก็ซ้อนกันยกพวกไปตีกันบ่อยออก”
    “อ๋อ เป็นแว้นจักรยานเนี่ยนะ”
    “ทำไมล่ะ ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ขึ้นมาเหอะ” เป็นอย่างทุกครั้งคือไม่ว่านทีจะค้านอย่างไร ภาสกรก็จะรบเร้าจนหนุ่มน้อยต้องยอมทุกที นทีปีนขึ้นไปซ้อนท้าย ให้ภาสกรปั่นไปสักพัก ชายหนุ่มก็เอื้อมมือมาจับมือเขา ไปวางแปะไว้บนไหล่พูดเบาๆว่า “ทางข้างหน้าเนินเยอะ คุณเกาะไว้ดีกว่าเดี๋ยวตก”
    ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นข้ออ้างที่ทำให้นทีเข้าใกล้ชิดคุณชายหนุ่มมากขึ้นไปอีกต่างหาก ไม่มีใครรู้เลยแม้แต่คนพูดเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้ของตัวเองเช่นกัน
    สองหนุ่มก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่า “ไม่มีใครเห็นหรอก” ของคุณชายมันไม่ได้เป็นไปตามเขาว่า เพราะปุยฝ้ายกับคุณหญิงดาริกาพอนวดเสร็จก็ออกจากสปาขี่จักรยานมาทางเดียวกันกะว่าจะไปว่ายน้ำในสระ พอเห็นภาสกรจอดรถให้นทีขึ้นซ้อนสองสาวก็หยุดมองดู จนภาสกรขี่จากไปพร้อมหนุ่มน้อยซ้อนอยู่ด้านหลัง มีมือขาวนุ่มเกาะไหล่อยู่แน่น เพราะภาสกรปั่นเร็ว ปุยฝ้ายและดาริกาก็มองหน้ากันอย่างเข้าใจ หัวเราะคิกคักเบาๆกันสองคนตัดสินใจขับอ้อมไปทางอื่น ไปดักรอสองหนุ่มที่หน้าอาคารต้อนรับ
    ต่อเวลาให้เขาตกอยู่ในห้วงแห่งความสุข เหมือนมีกันอยู่แค่สองคนบนโลกไปอีกสักครู่หนึ่งแล้วกัน


    ดาริกา กับปุยฝ้ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อเจอสองหนุ่มที่อาคารต้อนรับ ภาสกรกับนที พอเข้าใกล้ตึกนั้นก็เห็นตรงกันว่าคงมีคนเยอะจึงตัดสินใจลงจากรถแล้วต่างฝ่ายต่างจูงจักรยานมาคนละข้างจนถึงที่ พอทั้งสี่เจอกันภาสกรกับนทีก็มีท่าทีประดักประเดิดพอกัน ทำตัวไม่ถูกดูมีพิรุธทั้งที่เมื่อครู่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมากไปกว่าที่มันควรจะเป็น จนดาริกาที่ต่อให้ไม่คิดอะไร เห็นแล้วก็อดคิดต่อไปไม่ได้ว่าความจริงความสนิทสนมระหว่างสองหนุ่มนั้นนอกจากจะมากล้นจนดูเกินเพื่อนแล้ว ยังมีอะไรบางอย่างที่บ่งบอกหล่อนด้วยว่า ความรู้สึกเกินเพื่อนที่หล่อนคิดว่ามีจากภาสกรฝ่ายเดียวเท่าที่หล่อนรับรู้เวลาภาสกรเล่าถึงนทีให้หล่อนฟังแล้ว ยีงมีมาจากนทีด้วยก็คราวนี้ที่ได้มาเห็นกับตานี่เอง แต่ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่พูดถึงหล่อนก็ไม่ปริปากให้ใครระคายหู เก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้อย่างผู้ดีคนหนึ่งที่ไม่คิดละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวใคร
    พอได้จักรยานกันครบแล้ว ทั้งสี่ก็วนรถไปที่สวนดอกไม้ ขี่ชมความงามกันพักหนึ่ง ก็พบมุมสวยของสวน คือมีดอกไม้ปลูกเรียงกันเป็นรูปกลีบดอกไม้ขนาดยักษ์บนพื้นหญ้าสีเขียวสด ปุยฝ้ายเป็นคนออกความเห็นให้ทิ้งจักรยานไว้ แล้วลงเดินแทนได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไปด้วย
    ตากล้องคือดาริกา นอกจากจะถ่ายรูปเดี่ยวของปุยฝ้ายไปเสียมากมายราวกับวันนั้นเป็นวันถ่ายโฟโต้ชูตของหญิงสาวให้กับนิตยสารสักฉบับแล้ว หล่อนก็ไม่ลืมจัดแจงกำกับให้คุณชายยืนถ่ายรูปข้างนที ไปหลายใบด้วย ยิ่งมองผ่านเลนส์ไปเรื่อยๆหล่อนก็ยิ่งรู้ว่ามี “อะไร” บางอย่างระหว่างสองหนุ่มเป็นแน่ เพราะไม่นที ก็ภาสกร จะผลัดกันมองอีกฝ่ายด้วยแววตาลึกซึ้งอยู่เป็นระยะแล้วบางครั้งเวลาหล่อนแนะนำให้กอดคอกัน หรือเอาแขนเท้าไหล่อย่างเพื่อนชายสักคู่พึงทำได้โดยไม่กระดาก หล่อนก็จะเห็นแววเคอะเขิน ไม่แน่ใจในดวงตาของภาสกร ไม่ก็นทีด้วย   น่าสงสารที่ต่างฝ่ายต่างก็ดูเหมือนไม่รู้ใจตัวเอง แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่สองหนุ่มจะได้รู้ใจกันและกันสักทีเล่า

BF-e

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ววว   ผีเสื้อบินว่อน  :-[ :-[

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ลุ้นให้คุณชายตบะแตกเร็วๆค่ะ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
น่ารักจังเลย
ตามที่คุณหญิงว่าเมื่อไรจะรักกันเนี่ย แต่ชอบแบบนี้ค่อยๆรักกันเนอะ
Thank you ka!!!


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด