[คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50  (อ่าน 240237 ครั้ง)

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
อ๋อยยยยยยย ดราม่าได้ใจมากๆ อ่านแล้วปวดใจจี๊ดๆ :sad4: (แต่แอบชอบแบบนี้นะ ฮ่าๆ)
ดาริกาเหมือนจะช่วยคุณชายนะเนี่ย

งื้อ แต่ปวดใจแทน ทั้งนทีทั้งคุณชายเลยอ่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ


Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:
รอค่ะ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
คุณชาย

รีบกลับมาตามหานทีเลย

เห็นมั้ย หนีไปซะแล้วอ่าาาาาาาาาาาาาาา
 :m16: :m16:

AAWW

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12:


รอรอ  ตามมาจากเรื่องที่แล้วววว ชอบมากกกกก

Rawint_PK

  • บุคคลทั่วไป
ปวดใจ...
แล้วอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะได้เจอกันละเนี่ยย..
สงสารนทีจริงๆๆ
คุณชายรีบๆหน่อยนะครับบบ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
สงสารนที คุณชายตามหาให้เจอนะคะ ชอบเรื่องนี้มากค่ะ

jenzda

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
16

   “ตาชาย ไปส่งกันถึงไหนน่ะลูก หนูฟ้าเขาไปหาที่ชายหาดไม่ยักเจอ” เสียงของหม่อมวิไลวรรณ ดังแว้ดมาตามสาย ภาสกรยินพิงกราบเรือสีขาวที่กำลังมุ่งหน้ากลับพัทยา เสียงดังทางฝั่งเขาคงกระทบโสตประสาตของหม่อมวิไลวรรณเสียมาก ทำเอาผู้เป็นแม่ต้องเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นไปอีก กระแทกหูของภาสกรจนแทบจะหูอื้อ “เอ๊ะ แล้วนั่นเสียงอะไร ตาชายลูกอยู่ไหนกันแน่เนี่ย”
   “เอ้อ” ภาสกรนึกหาคำตอบ แต่ก็จนด้วยปัญหา ในเมื่อไม่อยากโกหก ก็ตอบไปตามความจริง “พอดีมีคนโทรมาว่ามีเรื่องที่พัทยาน่ะครับ ชายกำลังจะไปแก้ไขปัญหาให้มันหมดๆไปเสีย”
   “เอ๊ะ อะไรนี่ชายอย่าบอกแม่นะว่าชายจะไปหาพวกนั้นน่ะ”
   ภาสกรถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะว่าต่อไป
   “ชายจะไปจ่ายเงินที่โรงพยาบาล แล้วพวกเขาก็จะได้กลับบ้านเขาไป จะได้หมดปัญหาเรื่องนี้เสียทีครับ คุณแม่”
   ปลายสายเงียบเสียงไปเหมือนพิจารณาคำพูดของลูกชายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดบทเสียดื้อๆ
   “ตามใจชายเถอะ ถ้าชายคิดว่าเรืองมันจะจบ ก็ดีแล้วอย่างลืมนะ แม่ไม่อยากให้แกถูกใครเอารัดเอาเปรียบ” หล่อนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะลงท้ายประโยค “ชายโตแล้ว แล้วก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง คิดดีๆแล้วกัน แม่จะไปสำรวจเกาะกับหนูฟ้าละ”
   แล้วหม่อมแม่ของเขาก็ตัดสายไป

   ภาสกรยืนมองท้องฟ้า แสงตะวันที่แผดแสงจ้ายามบ่ายทำให้ภาสกรเหงื่ออกเล็กน้อย ตัวเขายังอยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนสั้นตัวบาง กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะแบบสบายๆอยู่ ส่วนดาริกา ก็ยังอยู่ในชุดเดรสสั้นครึ่งต้นขาสีฟ้าน้ำทะเล ผมที่เคยปล่อยยาวสยาย รวบไว้ข้างหลังแบบกันร้อน ไม่ให้เกะกะใบหน้า หญิงสาวมองภาสกรด้วยสายตาเป็นกังวลแทนเขา ก่อนจะพูดเสียงเบาๆอย่างเกรงใจว่า
   “เรียบร้อยดีไหมคะ เรื่องทางหม่อม”
   “ก็คงไม่น่ามีปัญหา ยังไงก็ขอบคุณคุณหญิงมากครับในเรื่องนี้ อ้อ ต้องขอบคุณ คุณชาย เตชวัฒน์ กับ คุณชาย นรัตถพล ด้วยครับที่อุตส่าห์ขับเรือมาส่ง” ภาสกรยกมือไหว้คุณชายสองคนที่อายุมากกว่า เขา พลางมองสำรวจพี่ชายของดาริกาเป็นครั้งที่สอง หลังจากได้เห็นมาแล้วที่เกาะ
   คุณชาย เตชวัฒน์ พี่ชายคนโต เป็นชายหนุ่มร่างสูง แม้ว่าภาสกรจะสูงอยู่แล้ว ชายหนุ่มคนนี้ก็สูงกว่าภาสกรขึ้นไปอีก กะคร่าวๆน่าจะเกิน 190 เซนติเมตรด้วยซ้ำ รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำแดดเล็กน้อย กำยำราวกับทหาร ภาสกรมารู้ทีหลังว่า ไม่ใช่ทหารหรอก แต่เป็นตำรวจยศสูงเสียด้วย เคยไปศึกษาด้านการปกครองมาจาก อังกฤษ บุคลิกน่ายำเกรง แต่ก็ไม่ถึงกับดุ เขาอยู่ในกางเกงว่ายน้ำขาสั้นสีดำ เปลือยบน ทำให้ภาสกรเห็นได้ชัดว่า คนคนนี้เป็นคนที่ดูแลร่างกายของตนเป็นอย่างดี ไม่มีไขมันส่วนเกินใดๆบนร่างกาย ใบหน้าไม่เหมือนกับดาริกา ซึ่งภาสกรเดาว่าคงหน้าคล้าย ท่านชายพ่อของเขา ส่วนดาริกา คงคล้าย ท่านหญิง ทิพยวรรณมากกว่า
   พี่ชายคนโตคนนี้ แต่งงานแล้ว อายุน่าจะอยู่ ประมาณสามสิบปลายๆภรรยาและลูก ยังรออยู่ที่เกาะล้าน เจ้าตัวเป็นคนขับเรือพาภาสกรกลับพัทยา
   ส่วนพี่คนที่สองของดาริกา ที่ชื่อ นรัตถพล นั้นดูต่างจากพี่คนโต ซึ่งก็หมายความว่ามีส่วนคล้ายดาริกา ถ้าจะพูดให้ละเอียดคือ เหมือนดาริกาในร่างผู้ชาย จะต่างกันก็ตรงที่ไม่มีหน้าอก และมีลูกกระเดือกเท่านั้น นอกนั้นแล้ว หนุ่มคนนี้ อายุ ใกล้เคียงกับภาสกร อาจจะแก่กว่าสองสามปี แต่รูปร่าง ผอมเพรียวอ้อนแอ้น ราวกับสตรี ผมยาวหยักศกสีดำรวบไว้เป็นหางม้าเหมือนกับน้องสาว เมื่อยืนใกล้กัน ภาสกรยอมรับว่า หากชายหนุ่มคนนี้ ไม่เปลือยท่อนบนให้เห็นว่าเป็นผู้ชาย เขาคงคิดว่าเป็นพี่สาวของดาริกามากกว่าเป็นพี่ชายเสียอีก
   คุณชาย นรัตถพล ดูเป็นมิตรมากกว่า พี่คนโต เขารินน้ำจากกระติกน้ำแข็งให้ภาสกร ก่อนจะพูดจาอย่างเป็นกันเอง
   “แหมเรียกซะเต็มยศ เรียก พี่เต้ พี่รัต ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มร่างบาง พูดจีบปากจีบคอแบบไม่ปกปิด เห็นได้ชัดว่าเป็นชาวรักร่วมเพศ แต่ทว่าไม่มีจริตจก้านท่าทางอื่นๆ ที่กระเดียดไปทางผู้หญิงมากไปกว่าสไตล์การพูด
   “ครับ” ภาสกรยิ้ม “ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งครับ”
   “จริงๆ เรามีโปรแกรมจะขึ้นเรือแล่นรอบเกาะล้านอยู่แล้ว ก็ขึ้นเร็วหน่อยคงไม่เป็นไร” พี่รัตว่าต่อไป “นี่เอง คุณชายภาสกร รัชตานันท์คนดัง พี่อยากเจอมานานแล้ว”
   ดาริกาช่วยอธิบายเสริมว่า
   “หญิงพูดเรื่องของคุณชายไว้เยอะค่ะ พี่รัตเขาก็สนใจ” ภาสกรเลิกคิ้ว “เอ้อ ไม่ได้สนใจอย่างนั้นค่ะ หมายถึง พี่รัตเขาชอบเพชร ชอบพลอย”
   “พี่เสียดาย หากว่าท่านพ่อ ท่านแม่ทรงยอมให้พี่ทำกิจการเพชรพลอยบ้างก็ดี” ที่คุณชาย รัต เรียกแม่ของตนว่า ท่านแม่ ก็เพราะ ท่านหญิงทิพยวรรณนั้น มีบรรดาศักดิ์ เป็นหม่อมเจ้าอยู่แล้ว ไม่เหมือนหม่อมแม่ของภาสกร ที่เป็นคนธรรมดา พอแต่งงานกับหม่อมเจ้าแล้ว ถึงถูก ยกขึ้นให้เป็นหม่อม
   “แล้วตอนนี้ คุณชายทำอะไรอยู่ล่ะครับ”
   “คุณชงคุณชาย บนเรือนี้มีคุณชายตั้ง 3 คนนะ เรียกพี่รัตเถอะพี่ไม่ถืออะไร”เจ้าตัวว่า น้องสาวก็ช่วยเสริมต่ออีกแรง
    “พี่รัต เขาไปเรียนที่อเมริกามาตั้งแต่เด็กค่ะ ใครๆก็เรียก you ทั้งนั้น พอกลับมาไทย เป็นคุณชายบ้าง ชายรัตบ้าง คุณบ้าง พี่รัตเขางงค่ะ ให้เรียก ชื่ออย่างเดียวพอ”
     “พี่เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดอยู่กับบริษัท... น่ะ”คุณชายรัตจีบปากว่าต่อไป บริษัท ที่คุณชายรัตพูดถึง เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ของไทยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้งหลายในไทย เป็นบริษัทที่เรียกได้ว่า ทำทุกอย่าง ขายทุกอย่างตั้งแต่ เอมพีสาม โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนตสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ใหญ่ยักษ์ที่สุดในเมืองไทยขณะนี้
   “โอ้โห บริษัทนี้เชียวหรือครับ”
   “ใช่ แต่มันก็ลำบากนะ เราทำสิ่งที่เราถนัดก็จริง แต่ก็ไม่ได้ชอบมันเท่าไหร่” คุณชายรัตว่า
   ตลอดการเดินทาง คุณชายเต้ หรือ มรว. เตชวัฒน์ แทบจะไม่ได้พูดอะไรนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เต็มใจมาส่ง พอภาสกรกระซิบถามดาริกาว่าทำไมคุณชาย  เต้ ถึงเงียบอย่างนั้นก็ได้คำตอบว่า   
   “พี่เต้ โตที่สุดในบ้าน อายุห่างจากพี่รัต แล้วก็หญิงมาก ก็เลยไม่ค่อยสนิทกัน พี่รัตไม่ได้อยู่ไทยแต่เด็กก็จริง แต่เราก็คุยกันตลอด สนิทกับหญิงมากกว่าพี่เต้ที่แม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็คุยกันไม่ได้ทุกเรื่องน่ะค่ะ”
   โตจนเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ มากกว่าพี่น้องที่สนิทกันซีนะ ภาสกรคิด
   นรัตถพล ดาริกา และภาสกร สนทนากันอีกไม่กี่ประโยค เรือสุวรรณฉายก็เทียบท่าที่พัทยา ภาสกรไม่ลืมที่จะขอบคุณอีกครั้ง แล้วก็ลงจากเรือ มุ่งหน้าไปโรงพยาบาล ปล่อยให้สามพี่น้องตระกูล สุวรรณฉาย แล่นเรือกลับเกาะล้านไป

   ภาสกรใจหาย เขาไม่เคยชินกับสภาพห้องผู้ป่วยในห้องนี้ ที่ไม่มีเงาของนที ชายหนุ่มเคยชินกับการเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วเจอเด็กหนุ่มคนนั้นนอนหันหน้ามาทางเขา แล้วยิ้มให้ ก่อนที่จะกินกับข้าวที่เขาซื้อมาฝากอย่างเอร็ดอร่อย แต่แล้ว พอเปิดประตูเข้ามาเขาก็พบกับห้องที่ว่างเปล่า มีเพียงแผ่นกระดาษแผ่นเดียวที่ยังอยู่บนเตียงเหมือนตอนที่เจ้าของจดหมายเพิ่งวางมันเอาไว้เมื่อวานตอนค่ำๆ
   ภาสกรไม่คิดเสียเวลาที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน
   “เรียน หม่อมราชวงศ์ ภาสกร รชตานันต์” ภาสกรหนาววาบไปถึงหัวใจ นทีจงใจใช้คำที่เป็นทางการแบบนี้กับเขา ราวกับจะยิ่งตอกย้ำให้เขารู้ตัวว่า เขาเป็นใครกันแน่ ภาสกรไล่อ่านจากบรรทัดแรก จนสะดุดที่ “ผมยังยืนยันคำเดิมว่า ผมจะไม่วันลืมคุณชายเลย จริงๆ”
    ภาสกรบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เขาไม่เคยเข้าใกล้ความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต มันเป็นครั้งแรกที่ภาสกรรู้สึกว่า ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตที่จะเป็นไปตามที่เขาต้องการ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่ผิดพลาด และสูญเสียได้พอๆกับคนอื่น วันนั้นทั้งวันภาสกรรู้สึกว่างเปล่า ไม่เศร้า ไม่เสียใจ ไม่โกรธ ไม่รำคาญ ไม่อะไรทั้งนั้น เป็นอาการที่ภาสกรให้คำนิยามไม่ได้จนแล้วจนรอด
   
   สองสามวัน หลังจากนั้น ภาสกรรู้สึกแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยผ่านมาในชีวิต เขากลายเป็นคนขี้เบื่อ ไม่สนอกสนใจอะไร ใครคุยด้วยก็จะพบว่าภาสกรเป็นคนไม่น่าคบไปเลย ทั้งที่ปกติ ใครๆก็รักเขา พูดด้วยแล้วสนุกและชื่นชอบในอัธยาศัยของเขา แต่ระยะนี้ ภาสกรเฉื่อยชา ไม่มีกำลังใจ ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน จนหลายๆคนรอบข้างสงสัย
   เขาอยากเจอนที ใจจะขาด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ได้เจอ เขาไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของนที จึงไม่สามารถติดต่อหนุ่มน้อยได้ เขาไม่รู้แม้แต่ว่าเด็กหนุ่มพักอยู่ที่ไหน จึงไม่สามารถไปหาได้เช่นกัน ทั้งหมดที่ทำได้ คือทำใจ ว่านที และเขา ต่างเดินทางออกจากวงโคจรของอีกฝ่ายไปแล้วโดยสิ้นเชิง
   หม่อมวิไลวรรณ กับ ทิฆัมพรกลับกรุงเทพไปในวันที่สาม นับจากวันที่ทั้งคู่ไปเกาะล้านกันมา ไม่ว่าสองคนนี้จะบ่น จะว่า ภาสกรอย่างไร ชายหนุ่มก็ไม่รู้สึกเดือดร้อน ไม่รำคาญ หรือสนใจแต่อย่างใด ได้แต่นั่งรับฟังคำบ่นจนหูชาของผู้หญิงสองคนบนโลกที่ภาสกรอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอึดอัดที่สุด
   “ถ้าคนพวกนั้นออกจากโรงพยาบาลแล้วแม่ก็วางใจ” เป็นคำพูดที่หม่อมวิไลวรรณพูดกับเขาแล้วทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด เขาควรจะวางใจได้อย่างแม่แต่เหตุใดเขาถึงไม่สบายใจเลยเล่า แม้จะไม่ถึงกับทุกข์ใจ แต่ก็แน่ละ เขาไม่มีความสุขเหมือนก่อน “ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว ถ้าอย่างนั้นแม่จะกลับกรุงเทพ ไว้ท่านพ่ออาการดีขึ้นกว่านี้ เราค่อยลงมาเยี่ยมแกด้วยกัน”
    หม่อมวิไลวรรณ และ ทิฆัมพรกลับไปแล้ว ภาสกรก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่นั่น เขาไม่เข้าไปทำงาน ไม่ดูอะไรที่บริษัท ไม่แม้แต่นั่งทำงานที่บ้าน วันแต่ละวันของเขาเป็นเหมือนๆกันคือ ตื่นนอน กินอาหารเช้าสองคำ ดูทีวี จนเย็น แล้วดื่มนม หรือชาหนึ่งแก้ว แล้วก็นอน ผ่านไปอย่างนี้ จนเพื่อนฝูงชาวไทยที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็ต่างพากันเงียบหายไปจนหมด
   พอภาสกรไม่ติดต่อใคร ก็ไม่มีใครติดต่อเขา
   จนกระทั่ง ดลนภา โทรเข้ามานั่นแหละ ภาสกรถึงจำได้ว่า เขาไม่ใช่นักศึกษาจบใหม่ที่อังกฤษ นอนรอวันถูกเรียกตัวกลับไทย หากแต่เป็นชายหนุ่มที่โตแล้ว มีการมีงานทำเป็นของตัวเอง ภาสกรรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเนือยๆ จนอีกฝ่ายสังเกตได้โดยไม่ต้องจับผิดแต่อย่างใด
   “พี่ดล”
   “คุณชาย ทำไมเสียงนอย อย่างนั้นคะ” คำว่านอย เป็นคำใหม่ที่ภาสกรเพิ่งเรียนรู้มาเมื่อไม่นานมานี้ มันเป็นสแลงในหมู่วัยรุ่นที่ระบาดไปทั่วจนกลายเป็นคำปกติที่ใครๆก็ใช้กัน... นอย คำนี้นิยามอาการของภาสกรได้เป็นอย่างดี น่าแปลกที่เขาไม่นึกถึงมันตั้งแต่แรก
   “ผม เบื่อๆพี่ดล พี่มีอะไรหรือเปล่า”
   “แหม จะมีอะไรล่ะคะ” เสียงของดลนภาแม้จะไม่แหลมเล็กอย่างทิฆัมพร ก็ใกล้เคียงแล้วในคราวนี้ คล้ายกับพี่เลี้ยง ดุเด็กๆ เวลาเด็กเหล่านั้นทำผิด “คุณชายไม่เข้าออฟฟิศมา สามสี่วันแล้วนะคะ”
   “จริงด้วย” ภาสกรว่าอย่างคนเพิ่งรู้ตัว “วันนี้มีงานอะไรพิเศษหรือเปล่าครับพี่ดล”
   “วันนี้ยังไม่มีค่ะ แต่พรุ่งนี้ มีแน่ๆ”
   ภาสกรเงียบรอฟังเสียงของอีกฝ่ายหนึ่งว่าจะบอกอะไรเขากันแน่
   “คุณหญิงดาริกา โทรมาให้พี่แจ้งคุณชายว่าเธอจะขอพบคุณชายที่บริษัทพรุ่งนี้ตอน สิบเอ็ดโมงเช้า คุณหญิงเธอไม่มีเบอร์โทรศัพท์คุณชาย เลยติดต่อเองเป็นส่วนตัวไม่ได้ เรื่องที่คุณหญิงจะพูดเป็นเรื่องงาน แล้วก็คุณหญิงบอกว่าคุณหญิงติดค้างอะไรคุณชายอยู่”
   “คราวหน้า ต้องให้หญิงเลี้ยงจริงๆนะคะ จะเลือกร้านให้ด้วย ถ้ามีปฏิเสธอีกหญิงโกรธจริงๆ” ภาสกรจำประโยคที่ดาริกาเคยบอกเขาไว้ได้ เขาแน่ใจว่าต้องเป็นเรื่องนี้ ดังนั้น ภาสกรจึงไม่ได้ใส่สูท ผูกไท มาที่บริษัทในวันรุ่งขึ้น แต่ใส่เพียงกางเกงแสลค  และเสื้อเชิ้ตสีอ่อนตัวหนึ่งเท่านั้น ชายหนุ่มมาถึงบริษัทก่อนสิบเอ็ดโมงก็พบว่าดาริกามาถึงก่อน
   หล่อนสวยมาก ทุกครั้งที่เจอกันภาสกรจะคิดอย่างนี้ เท่าที่เขาเคยพบ ผู้หญิงไทยปัจจุบันน้อยคนจะเป็นอย่างดาริกา คุณหญิงไม่แต่งหน้าจัด แต่วันนี้ก็แต่มา เพียงทาแป้ง และ ทาปากสีอ่อน ดูแล้วสวยเป็นธรรมชาติ ผมสีน้ำตาลไหม้ ปล่อยลงมาเคลียบ่า ชุดที่ใส่เป็นเสื้อกล้ามสีดำ เผยให้เห็นต้นคอระหง และไหล่สีน้ำผึ้งนวลเนียน กระโปรงสีคัสตาร์ด ยาวเหนือเข่าเล็กน้อย รองเท้าส้นสูงดูเข้ากัน ส่งให้วันนี้ดาริกาสวยมากกว่าครั้งที่เจอกันบนเกาะล้าน แต่ก็ดูไม่สง่างามเป็นทางการเท่าวันที่มาประชุมกันที่นี่
   “คุณชาย มาตรงเวลามากค่ะ” หล่อนว่า
   “ผมทำให้คุณหญิงต้องรอหรือเปล่าครับ” ภาสกรถาม ก็เห็นว่าหญิงสาวกำลังสำรวจรูปร่างหน้าตาที่อิดโรย และซูบลงกว่าเดิมของเขา ชายหนุ่มสังเกตได้จากแววตาว่า แวบหนึ่งดาริการู้สึกเป็นห่วงเขา จะด้วยอะไรก็ตาม แต่หญิงสาวคนนี้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา และรู้สึกแย่ไปกับมัน
   “รอไม่นานจริงๆค่ะ พอดีวันนี้ หญิงมีนัดกับเพื่อน ที่เป็นคนจัดสถานที่ให้กับงานแฟชั่นโชว์ที่จะถึงนี้ คอนเฟิร์มมาแล้วค่ะว่าได้ริมหาดอย่างที่คิดไว้ พอรู้ตารางว่า ต้องคุยกับเพื่อนตอนเช้า แล้วว่างตอนบ่ายก็เลยโทรบอกคุณดลนภา ให้รีบจองตัวคุณชายเอาไว้เลย คราวก่อนเจอกันแวบเดียว คุณชายก็รีบไปทำธุระ คราวนี้ ไหนๆหญิงก็ลงมาพัทยาแล้วต้องรีบพาคุณชายไปเลี้ยงให้ได้ค่ะ”
   หญิงสาวแจ้งว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ภาสกรก็ยิ้มขึ้นมา เป็นยิ้มแรกในรอบ สี่ห้าวันมานี้ที่เขาไม่ได้ยิ้มเลย ไม่รู้เพราะอะไร เพียงพบกับหญิงสาวก็รู้สึกว่า สบายใจคิดมากว่าเดิม อาจเพราะดาริกาหน้าคล้ายนที... ไม่สิ อาจเพราะมีเรื่องอื่นให้สนใจ มากกว่าใจจดใจจ่อ คิดถึงหนุ่มน้อยอย่างเดียวก็เป็นได้
   “ถ้าอย่างนั้น คุณหญิงจะพาผมไปที่ไหน ผมก็พร้อมเป็นผู้ตามแล้วล่ะครับ” ภาสกรตอบอย่างพยายามอารมณ์ดี ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนจะตัดสินใจว่า ภาสกรจะเป็นคนขับรถของเขาไปกับดาริกา แล้วขากลับค่อยกลับมาส่งหล่อน
   ร้านที่ ดาริกาเลือกมานั้นเป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ร้านเล็กๆ อยู่ในบริเวณที่มีร้านค้าหนาแน่นในเมืองพัทยา กระนั้น ก็ยังเป็นร้านที่สวยงาม น่านั่งและ ทำให้ภาสกรไม่สนใจความวุ่นวายนอกร้านไปชั่วขณะ ป้ายร้านบ่งบอกว่าร้านอาหารนี้ชื่อ “Chez Moi” เป็นป้ายไม้เล็กๆน่ารัก สีครีมห้อยอยู่หน้าประตูกระจก มี ดอกไม้ปลอม และเถาวัลย์เลื้อยอยู่อย่างสวยงาม
   ภาสกรผลักบานประตูกระจกเปิด ให้ดาริกาก้าวเข้าไปในร้าน
   “ขอบคุณค่ะ”
   “De rien, mademoiselle.” ภาสกรโค้งให้อย่างล้อเลียน ชั่วขณะหนึ่งเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเศร้า อะไรบางอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้ ทำให้  ภาสกรรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจได้อย่างน่าประหลาด
   “คุณหญิง ดาริกา วันนี้ เป็นเกียรติมาที่ร้านเชียวหรือคะ” เพียงดาริกาเดินเข้าไปในร้าน หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์สีขาวด้วยท่าทางตื่นเต้น ลูกค้าในร้านมีอยู่สองสามคู่ และดูเป็นกันเองดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนที่ภาสกรเดาว่าเป็นเจ้าของร้านจะเดินออกมา คุยกับหญิงสาวได้ในน้ำเสียงปกติ
   พอมาใกล้ๆ ภาสกรก็เพิ่งจะสังเกตได้ว่า หญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิง หากแต่เป็นสาวประเภทสอง หรือที่เรียกกันในระยะหลังๆนี้ว่า สตรีข้ามเพศที่ดูสวยงามราวกับผู้หญิงคนหนึ่งต่างหากเล่า
   “พี่เก๋ก็ อย่าแซว ดาซีคะ” เป็นครั้งแรกที่ภาสกรได้ยิน คุณหญิง ดาริกาเรียกชื่อตัวเองแบบนั้น “พี่เก๋ นี่คุณชายภาสกร รชตานันต์ค่ะ คุณชายคะ นี่พี่เก๋ เพื่อนสนิทของพี่รัต เป็นเจ้าของร้าน เชส์ มัว ค่ะ”
   ทั้งคู่ยิ้มให้กัน เพราะประมาณได้ว่าอายุไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
   “วันนี้ ดามาคุยเรื่องงานน่ะค่ะ ขอนั่งตรงมุม ใกล้ๆ เคาน์เตอร์แล้วกันค่ะ เป็นส่วนตัวดี” ดาริกานำชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่ง โต๊ะตัวใน ห่างจากลูกค้าสอง สามคู่ที่นั่งอยู่ก่อน ภาสกรนั่นหันหลังให้ประตูทางเข้า ส่วน ดาริกานั่งหันหน้าออกนอกประตู
   ทั้งสอง สั่งอาหารแล้วก็คุยเรื่องงานกันก่อน ดาริกาสรุปให้ภาสกรฟังอย่างแน่ชัดว่า วันงานคือวันที่ 25 เมษายน ตรงกับวัน เสาร์พอดี รันเวย์จะอยู่ยาวเลียบไปกับชายหาด เหมือนที่วางแผนไว้ทุกประการ พอออร์เดิร์ฟมาเสิร์ฟ ทั้งคู่ก็คุยเรื่องงานเสร็จพอดี วกเข้ามาเรื่องส่วนตัว ซึ่งดาริกาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนอย่างเป็นห่วง เป็นใย “หญิงเห็นสีหน้าคุณชายไม่ค่อยดี มีอะไรในใจหรือเปล่าคะ”
   ภาสกรอึกอัก อยากตอบแต่ก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรถึงจะฟังดูดีที่สุด
   “คือ อย่างนี้ครับ คุณหญิงจำเรื่องที่ผมรีบขึ้นมาจากเกาะล้านได้ไหมครับ ที่ผมบอกว่ามีธุระ” ชายหนุ่มเริ่มอย่างเนิบๆ พยายามควบคุมสติ ไม่ให้ตื่นเต้นจนเกินไป หญิงสาวที่นั่งตรงข้าม ตักขนมปังที่ลอยหน้าซุปหัวหอมเข้าปาก แล้วก็พยักหน้า  “ผมมีเรื่องบางส่วนที่ยังเล่าให้คุณหญิงฟังไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมอยากเจอคนคนหนึ่งมากๆ เราพบกันโดยบังเอิญ แล้วก็ต้องจากกันโดยไม่ได้ล่ำลา ผมยังรู้สึกติดค้างเขาอยู่ แต่ก็ไปหาไม่ได้... ผมไม่รู้แม้แต่ เบอร์โทรศัพท์ ไม่รู้แม้แต่ที่อยู่ ลึกๆแล้วผมก็เข้าใจว่า เราควรจะแยกย้ายกันไป แต่ผมก็อดใจไม่ให้คิดถึงเขาไม่ได้อยู่ดี”
   “คนคนนี้ คงทำให้คุณชายมีความสุขมากซีคะ ถึงลืมเขาไม่ลง”
   “ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย มันไม่เหมือนกับที่ผมเคยมีมา” ภาสกรว่าต่อไป ตามที่เขารู้สึก ขณะที่อาหารทยอยเสิร์ฟลงที่โต๊ะ
   “หญิงไม่รู้อะไรละเอียด หญิงคงบอกไม่ได้ แต่เท่าที่หญิงดู อาการของคุณชายแบบนี้ เรียกว่า ตกหลุมรักเขาหรือเปล่าคะ”
   ภาสกรนิ่งอึ้ง รัก หรือ เขาไม่เคยนึกถึงคำนี้ จะนึกถึงได้อย่างไรในเมื่อคนที่เขารู้สึกด้วยนี้เป็นผู้ชายนี่นา
   “ไม่ใช่หรอกครับคุณหญิง คงคล้ายๆ ผูกพันมากกว่า”
   ดาริกา ยกสองมือขึ้นประสานแล้วเท้าคาง เวลาหล่อนทำแบบนี้ หล่อนจะดูสวยงามไปหมด จนหากภาสกรเป็นจิตรกร ก็ต้องเรียกว่าหล่อนเป็นภาพวาดที่เขาไม่สามารถวาดเลียนแบบได้... พูดถึงภาพวาด เขาไม่เห็นรูปเหมือนของเขาที่นทีวาดอยู่ที่โรงพยาบาลเลย นทีเก็บมันไปหรือเปล่านะ
   “แล้วที่คุณชายเป็นทุกข์อยู่นี่ คือคุณชายตัดใจจากเธอไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถหาเธอได้พบใช่ไหมคะ ผู้หญิงคนนั้น” ดาริกาถามเป็นประโยคเด็ด ยิงตรงเข้ากลางใจของภาสกร
   “เขาคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงหรอกครับ คุณหญิง เขาเป็นผู้ชาย แล้วก็เป็นชายที่อ่อนกว่าผมมาก ผมรู้สึกกับเขาเหมือนเป็นน้อง ผมไม่เคยมีน้อง ก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง”
   “อ้อ” ดาริกาดูแปลกใจ “อย่างนี้นี่เอง คุณชายถึงได้ว่าไม่ใช่รัก เป็นค่ะ ของแบบนี้มันเป็นกันได้ อย่างหญิงเนี่ยถ้าไม่ได้เจอพี่เก๋นานๆ ก็คงรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนกัน ทั้งๆที่ก็นะคะ ... พี่เก๋ก็ไม่ใช่ผู้ชาย”
   “นั่นซีครับ ความสัมพันธ์แบบนี้ มันก็แปลกนะครับผมเรียกไม่ถูกว่ามันคืออะไร”
   “บางครั้ง... ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อนิยาม ก็ทำให้คนเรามีความสุขได้เหมือนกันนะคะ” ดาริกายิ้มหวาน ยิ้มจนตาแทบจะปิดกัน ทำเอาภาสกรใจเต้น ยิ้มแบบนี้ คล้ายกับยิ้มของนที เขาคิดว่าคุณหญิงดาริกา หน้าตาเหมือนนทีมากทีเดียว และเพราะเหตุนี้เขายังสงสัยอยู่ในใจว่า ที่เขารู้สึกอบอุ่นกับนที เป็นเพราะเขานึกถึงผู้หญิงคนนี้หรือ
   เสียงกระดิ่งที่ประตูหน้าดังขึ้น ใครคนหนึ่งเดินเข้ามา แต่ภาสกรไม่เห็นเพราะนั่งหันหลังอยู่ พอดาริกาเงยหน้าขึ้นจากเนื้อไก่อบไวน์แดงของอร่อยของร้านนี้ ตาก็ประสานกับหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาในร้านพอดี
   “อ้าวน้องฝ้าย วันนี้ไม่มีเรียนหรือคะ”
   ภาสกรหันขวับไปมองคนที่ดาริกากำลังพูดด้วย เป็นไปได้หรือว่าเป็น ฝ้าย เดียวกับที่เขาคิด... นั่น ปุยฝ้าย เพื่อนของนที จริงๆใช่ไหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2011 20:46:56 โดย Purple_Sky »

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
+เป็นกำลังใจให้ครับ+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
อยากให้เจอกันไวไว
รักเรื่องนี้ค่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
รู้สึกแปลก ๆ กับวลีที่บอกว่า  หน้าของดาริกาเหมือนกับนที  
ทำให้คิดว่าระหว่างสองคนนี้อาจมีอะไรเกี่ยวพันหรือเปล่า

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
คุณชาย จะรู้ใจตัวเมื่อสาย รึปล่าว

อย่างให้เป็นอย่างนั้นนะ คะ

สงสาร ทั่งคุณชายและนที

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
เอ้า ได้เบาะแสแล้ว
เอาใจช่วยให้คุณชายเข้าใจตัวเองสักที
บวกๆ ค่า

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
คุณชายนอยด์ไปเลย ตามลุ้นต่อไปขอรับ

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
เบาะแสในการหาตัวนทีมาแล้ว คุณชายต้องหานทีให้เจอให้ได้นะ  :call: :call: :call:

Rawint_PK

  • บุคคลทั่วไป
คุณชาย...
เจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์แล้วไหมล่ะ
แล้วๆ.
น้องฝ้ายมาทำอะไรที่นี่หรออ

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
ค้างค่ะ ค้างจริงๆ
ขอให้เป็นฝ้ายเพื่อนนทีจริงๆเถอะ
 :call:

namwaan1992

  • บุคคลทั่วไป
อะแฮ่มๆ  คุนชายเจอแ้ล้วๆ   ตัวช่วยๆ  ^^

ออฟไลน์ KIMKUNG

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
  นที หายไปกับสายลม  อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
โอ้วววว

หนทางค้นหานทีมาหาคุณชายแล้วววววววว

ฝ้ายจ๋า บอกคุณชายเถอะน้า เริ่มสงสารคุณชายแล้วอ่า

ออฟไลน์ pichayakamon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • My Facebook
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
รวดเดียวมาถึงตอนล่าสุดนี้เลย
หลงรักคุณชายแล้วอ่ะ
เชียร์คุณชายนะคะ
สู้ๆ ตามหาน้องน้ำให้เจอเร็วๆ น๊าาาาาาาาาา ^_______^

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ฝ้ายเดียวกันไหมน้าาาา

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1

BF-e

  • บุคคลทั่วไป

fffx

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ววค้างมาก อย่างน้อยคุณชายก็เจอ ปุ้ยฝ้ายแล้วล่ะน๊า...
ต้องเจอน้ำซิ...รอตอนต่อไปค่ะ :o8:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ SecondaryTrauma

  • Today is a gift, that is why call ... "The Present"
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ความสนุกที่ไม่มีชื่อนิยาม (เช่นกัน)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด