บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 34 (25/04/11) [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 34 (25/04/11) [END]  (อ่าน 245664 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #450 เมื่อ13-04-2011 11:16:05 »

เข้ามาปูเสื่อรอ คุณเซีย
ป่านนี้ไปเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์แล้วมั้ง อิอิ

cherry blossom

  • บุคคลทั่วไป
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #451 เมื่อ13-04-2011 19:51:52 »

มารอตอนจบ (รึเปล่า)
ขอหวานๆหน่อยน้า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #452 เมื่อ14-04-2011 11:52:27 »

เข้ามานั่งรออีกวัน อิอิ

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #453 เมื่อ14-04-2011 12:10:57 »

ซัมเมอร์เพิ่งจบไป งานพิเศษก้มี ได้ 2 แรงด้วยวันนี้ แต่ขี้เกียจทำงิ 18 นี้ฝึกงานอิก โอ๊ยยยย ขี้เกียจ!!
....ก้เลยมานั่งรอ ขอรอด้วยคน^^  ทั้งวัน

ออฟไลน์ beautyless

  • PP Kintai Love
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #454 เมื่อ14-04-2011 18:02:03 »

เพิ่งกลับจากตจว. ไว้อ่านเสร็จแล้วจะมาเม้นท์ให้นะ



-------------------------

edited :
อ่านเสร็จแล้ว งานนี้สงสัยมู่ได้ครองใจหวางซิงชัวร์ป๊าบ ส่วนนายฉู่นี่เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าอะไรเป็นอะไร

แอบตกใจ นิยายดีๆ สนุกๆ กำลังจะจบซะแล้ว คงฝันหวานน่าดูถ้าได้อ่านตอนจบ  :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2011 01:36:58 โดย beautyless »

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #455 เมื่อ14-04-2011 21:41:35 »

เข้ามารอตอน 34
><

ออฟไลน์ ZIar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +210/-1
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #456 เมื่อ15-04-2011 22:47:33 »

ประกาศ....การ์ดจอพังอีกแล้ว(เว้ย)ค่ะ=[]=!!!
คราวนี้เปลี่ยนรุ่นแล้วยังพังอีก เลยบอกพี่ช่างว่ายกไปเช็คทั้งเครื่องเหอะพี่= ="
ดังนั้นตอนสุดท้ายอาจได้ดองนานเพราะถ้าคราวนี้ยังพังอีกพี่ช่างบอกว่าจะเคลมทั้งเมนบอร์ด....
เวรกรรมอะไรของช๊านนนนนน

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #457 เมื่อ15-04-2011 23:00:16 »

= = โอ้ววว พระเจ้า
เราจะต้องรอกันต่อไปเหรอ แต่...
ยังไงก้จะรอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ คุณเซีย

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #458 เมื่อ17-04-2011 01:34:06 »

พึ่งได้อ่าน

อ่านรวดเดียววันเดียวเลยค่ะ

สนุกมากค่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ
 :L2: :L2:

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #459 เมื่อ17-04-2011 14:06:15 »

เราไม่หวั่นแม้การ์ดจอพัง 5555
ยังไงก็รอได้ค่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
« ตอบ #459 เมื่อ: 17-04-2011 14:06:15 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #460 เมื่อ18-04-2011 18:30:28 »

เรื่องนี้สุดๆจริงๆ หลายตลบซะไม่รู้จะตลบยังไง สรุปแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่านายคนแซ่ฉู่นั่นใครกัน 555+ นี่ไอตามอ่านทั้งวันเลยนะเนี่ย!! o13

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #461 เมื่อ19-04-2011 00:14:17 »

นายฉู่กลับมาหน่อยเหอะ สงสารน้องเฟยนะ
ทำไมทำกันแบบเน้ๆๆๆๆ รอตอนต่อไปจ้า กะลังอินเลย  :monkeysad:

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #462 เมื่อ20-04-2011 00:54:51 »

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ แม้แต่ตอนจบก็ยังต้องรอ  :sad4:
ขอให้จบแบบมีความสุขด้วยเถอะค่า~ คิดถึงอาเฟย
รอคุณเซียร์อยู่นะค้า อ๊ะ ต้องบอกว่า รอคอมของคุณเซียร์มากกว่า  :o9:

ปอลอกุงเกงลิง : นึกดีใจอยู่เหมือนกันที่คุณเซียร์ยังไม่มาลงตอนจบช่วงสงกรานต์
เพราะไปเที่ยวมาพอดี กลัวจะได้อ่านตอนจบช้ากว่าคนอื่น :laugh:
หวังว่าจะได้อ่านตอนจบเร็วๆนี้(อย่างมีความสุข)<<บังคับค่ะๆ ต้องมีความสุขเน้อ 555++

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #463 เมื่อ21-04-2011 18:29:14 »

ทำอะไม่ได้นอกจาก "รอ" และไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน?
ยิ่งกำลังจะจบ ไม่จบแหล่แบบนี้ การรอคอยยิ่งทรมาณ  
ส่งกำลังใจให้คุณ ZIar ขอให้เคลมการ์ดจอได้เร็ว ๆ นะคะ... :m13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2011 02:05:21 โดย Cherry Red »

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: บัลลังก์ปีกหงŪ
«ตอบ #464 เมื่อ22-04-2011 01:50:43 »

ยังซ่อมไม่เสร็จหรอค้า~ อยากอ่านค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a6:
เข้ามาโหยหวน แล้วก็จากไป  :m22: ฟิ้วววว~

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #465 เมื่อ23-04-2011 12:34:12 »

ถึงกับต้องกรี๊ดเมื่อเห็น End. แต่พอเลื่อนลงมาถอนหายใจ ฟู่วว!!
อย่าทำให้ตกใจซิคะ  ใจหายหมดเลย
ตาฉู่ ตกลงเป็คนของใครกันแน่  :serius2:

แต่อ่านตอนนี้แล้ว แอร๊ยยย มีสวีทเล็กๆ เล็กจริงๆ ฮ่าๆๆ
รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้าาา
+1 ให้นะคะ นั่งรอๆๆ  :really2: :really2:

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 33 (11/04/11)
«ตอบ #466 เมื่อ25-04-2011 01:11:41 »

คุณเซียร์ขา~ หายไปนานแล้วนะค้า คิดถึงอาเฟย  :m1:
ได้โปรดพาอาเฟยกลับมาสู่อ้อมกอดนักอ่านทุกๆคนเร็วๆด้วยเถอะค่า

ออฟไลน์ ZIar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +210/-1
Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 34 (25/04/11)
«ตอบ #467 เมื่อ25-04-2011 17:37:59 »

-34-


“ดีจังเลยนะครับที่โรงแรมนั้นเปิดให้บริการได้แล้ว แค่เดือนเดียวรายได้ก็เข้ามามากขนาดนี้” หวางซิงกล่าวขณะถือใบสรุปงบประมาณเข้ามาให้ในห้อง โรงแรมที่ว่านี้คือโรงแรมที่ยกให้ฉู่เหวินจือเป็นคนจัดการตอนที่เข้ามาใหม่ ๆ เจ้าตัววางแผนทั้งที่ตั้ง การวางอาคาร การออกแบบ และการบริหารด้วยตัวเองก่อนที่จะจากไป ซึ่งแม้ในเวลานี้ ฉู่เหวินจือจะหายตัวไปได้ครึ่งปีแล้วก็ตาม ผลของสิ่งที่เจ้าตัวทำเอาไว้ก็ออกดอกออกผลอย่างมหาศาล ทำให้เซินเฟยไม่ต้องเหนื่อยแรงมากนักตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

เซินเฟยมองดูใบรายงานงบประมาณในมือด้วยสายตาเฉยชา สำหรับเขาแล้ว การที่ทุก ๆ อย่างดูเรียบง่ายไปเสียหมดอย่างเวลานี้เหมือนจะไม่ใช่ความเป็นจริง ราวกับกำลังติดอยู่ในความฝันที่ว่างเปล่าและหวนคิดกลับไปถึงช่วงเวลาที่ความวุ่นวายประเดประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ในบางครั้งเขาก็สงสัยว่าช่วงเวลาไหนกันแน่ที่จะเป็นความจริงที่ยืนยาว

เด็กหนุ่มวางแผ่นกระดาษที่เต็มไปด้วยตัวเลขและเส้นกราฟกลับลงไปบนโต๊ะพลางเอนหลังพิงพนักแล้วประสานมือไว้บนตัก

“วันนี้นักสืบมู่มาใช่ไหม?” คำถามของเซินเฟยทำให้หวางซิงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางแล้วพยักหน้า

“แต่คุณมู่ดูรีบจะไปทำงานผมก็เลยไม่ได้รั้งไว้ครับ ไม่ทราบว่าคุณเซินมีธุระอะไรหรือเปล่าครับผมจะได้เรียกตัวให้” เซินเฟยส่ายศีรษะให้กับคำถามของหวางซิง เขาเพียงแค่สังเกตว่าอีกฝ่ายดูมีความสุขเป็นพิเศษจึงลองถามดูก็เท่านั้น จะว่าไป หลังจากจบเรื่องทุกอย่างแล้ว แทนที่หวางซิงและมู่อี้จิงจะห่างกันไปกลับยิ่งเพิ่มความสนิทสนมกันมากขึ้นตามลำดับจนเดี๋ยวนี้ถึงขั้นไปมาหาสู่กันจนเป็นปกติ

ตอนนี้สารวัตรหรงวางมือไปโดยสมบูรณ์แล้ว ถึงเซินเฟยจะนึกเสียดายคนดีมีฝีมือที่ทำงานให้มาตั้งแต่สองรุ่นก่อน แต่มู่อี้จิงก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังไม่ว่าการงานใด ๆ เขาจึงไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเมื่อมู่อี้จิงและหวางซิงยังคงสานสัมพันธ์กันต่อไป

“แล้วมีอะไรอีกไหม?” เซินเฟยเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหวางซิงยังคงเงียบแต่ไม่ได้เดินออกไปจากห้องหรือหันไปทำงานอย่างอื่นตามปกติ

“ครับ” หวางซิงรีบตอบรับแล้วหยิบการ์ดใบเล็ก ๆ ออกมาจากกองเอกสารบนอ้อมแขนก่อนจะวางลงบนโต๊ะแล้วเลื่อนไปตรงหน้าเซินเฟย

เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว นึกแปลกใจว่ามีใครคิดอยากจะเชิญเขาไปงานที่ไหนอีก ในเมื่อช่วงนี้เขตของเขาแทบจะไม่มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น กระทั่งข่าวมงคลก็ยังเงียบเชียบ เขาเลื่อนบัตรเชิญมาตรงหน้ามองดูซองสีชมพูอ่อนปั๊มตราสีทองอย่างสวยงาม แต่รอยปั๊มนั้นทำให้เขาต้องมุ่นคิ้ว เพราะตราสีทองที่ปรากฏบนซองเป็นตราประจำตระกูลหวาง หรือหากพูดให้เจาะจงมากขึ้นก็คือตราประจำตัวของเสวียนอู่ หากมองจากซองแล้วคงจะคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากงานมงคลของทางเสวียนอู่กำลังจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ และทางนั้นต้องการเชิญเขาไปร่วมงานด้วย

หากเป็นเรื่องของทางเสวียนอู่ก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่มีข่าวคราวในถึงหู เซินเฟยเปิดซองออก ดึงการ์ดที่ทำจากกระดาษหอมออกมาเปิดอ่านและเขาพบว่าตนเองคาดเดาไม่ผิด

เสวียนอู่กำลังจะจัดงานหมั้นอาทิตย์หน้า....

ท่าทางคงจะเป็นการจัดการของทางครอบครัว เพราะอย่างไรเสวียนอู่รุ่นปัจจุบันก็เป็นผู้หญิง ในสังคมคนฮ่องกงก็คล้ายคลึงกับคนจีนหลายส่วน การจะปล่อยให้ผู้หญิงอายุน้อยตัวคนเดียวกุมอำนาจทั้งหมดโดยไม่มีบังเหียนถือเป็นเรื่องผิดปกติวิสัย แต่สำหรับมุมมองของเขา ถึงจะสมรสแล้วเขาก็ไม่คิดว่าคนอย่างเสวียนอู่ที่เขาเคยพบคนนั้นจะยอมให้ใครมาอยู่เหนือตนง่าย ๆ ซ้ำฝ่ายชายยังเป็นคนนอก อย่างดีก็แค่เข้ามาเป็นผู้ช่วยจัดการในบางเรื่องเท่านั้น หรือไม่ก็คงได้แค่เป็นสามีแต่ในนาม ไม่มีสิทธิในการบริหารใด ๆ

“ตอบรับกลับไปหรือยัง?”

“เรียบร้อยแล้วครับ” หวางซิงรับคำ เขารู้ดีว่างานในลักษณะใดเซินเฟยจะตอบรับหรือปฏิเสธ หลาย ๆ ครั้งจึงสามารถตัดสินใจเองได้ตามความเหมาะสม ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่รับรองความไว้วางใจที่เซินเฟยมีต่อเลขาของตนเองที่ร่วมทุกข์สุขกันตลอดช่วงที่ผ่านมา

“ถ้าอย่างนั้นก็จัดเตรียมของจำเป็นให้เรียบร้อยด้วย”

สำหรับงานที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการอย่างนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนระดับเดียวกัน หากขาดตกบกพร่องเรื่องใดไปจะถือว่าเป็นการเสียหน้าอย่างยิ่งยวด ด้วยเหตุนั้น หวางซิงจึงรีบออกไปจัดการตามคำสั่งในทันทีเพื่อให้มั่นใจว่าของทุกอย่างต้องเตรียมพร้อม ถึงแม้จะเป็นแค่งานหมั้นไม่ใช่งานแต่งก็ตามที

------------------->

คนตระกูลหวางไม่ใช่คนที่นิยมความเรียบง่ายนัก หากไม่นับเสวียนอู่รุ่นก่อนก็สามารถพูดได้ว่าคนตระกูลหวางทุกคนชื่นชมความหรูหราฟู่ฟ่า มากกว่าครึ่งของคนในตระกูลทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นและธุรกิจบันเทิง แม้แต่เสวียนอู่รุ่นปัจจุบันเองก็มีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นหลายแห่ง ดังนั้นหากใครได้รู้กิตติศัพท์เหล่านี้จะไม่นึกแปลกใจเลยว่าเหตุใดเพียงแค่งานหมั้นจึงจัดเสียโอ่อ่าหรูหราถึงขั้นปิดโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตปกครองเพื่อจัดงานราวกับเป็นงานพบปะเสวนาระดับโลก ซึ่งนั่นก็อาจไม่แปลกเมื่อมองดูดี ๆ แล้ว ในธุรกิจแฟชั่นและบันเทิงมักจะมีการพบปะกับคนภายนอกประเทศบ่อยครั้ง ดังนั้นเสวียนอู่ที่เชื้อเชิญเพื่อนในวงการมามากหน้าหลายตาจะต้องมีสถานที่รับรองอย่างเหมาะสมตั้งแต่วันมาจนถึงวันกลับ

เซินเฟยเดินทางมาถึงงานด้วยรถยนต์ส่วนตัวและการ์ดมากกว่าสิบนาย ซึ่งทางโรงแรมก็ได้จัดเตรียมที่จอดรถเอาไว้แล้วเพื่อไม่ให้เจ้าของงานเสียหน้าได้ ถึงอย่างนั้นเซินเฟยก็ไม่มีโอกาสจะได้เห็นสถานที่จอด เพราะรถมาจอดส่งถึงหน้างานที่ปูพรมแดงรับแขกก่อนจะขับเลยไปเมื่อผู้โดยสารเข้างานไปแล้ว

“ยินดีที่ได้พบอีกนะคะ” หญิงสาวในชุดราตรีดีไซน์ใหม่เอี่ยมสีชมพูหวานเอ่ยทักทายเด็กหนุ่มทันทีที่เขาเดินลงจากรถ ทั้งยังก้าวออกมารับด้วยตนเองแล้วยกมือโบกให้พนักงานต้อนรับถอยออกไป

“เช่นกันครับ” เซินเฟยรับคำก่อนจะยกแขนขึ้นให้อีกฝ่ายควงแล้วพากันเดินเข้าไปที่ซุ้มประตูซึ่งมีชายหนุ่มต่างชาติรูปร่างหน้าตาดียืนอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยิ้มให้เซินเฟยอย่างสุภาพเมื่อเขาส่งตัวคู่หมั้นคืนให้ อีกฝ่ายทักทายเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเซินเฟยก็เจรจาโต้ตอบได้อย่างคล่องปาก ด้วยการพูดจาพาทีกันไม่กี่ประโยคทำให้เซินเฟยเดานิสัยคร่าว ๆ ของอีกฝ่ายได้ว่าค่อนข้างจะเป็นคนสุภาพอ่อนน้อม และค่อนข้างจะเป็นผู้ตาม มิน่าเล่าคนอย่างเสวียนอู่ถึงยอมแต่งงานด้วย

หวางซิงส่งของขวัญที่ติดไม้ติดมือมาให้กับคนที่มีหน้าที่รับของก่อนจะเดินตามเซินเฟยเข้าไปในงานและประกบติดหลังเพื่อคอยกระซิบบอกเด็กหนุ่มว่าแขกคนไหนเป็นใครบ้าง

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยแขกเหรื่อหลากหลายชาติ หลายคนเป็นบุคคลที่เซินเฟยไม่รู้จักจึงมีการเอ่ยทักทายกันตามระเบียบซึ่งเมื่อเดินผ่านกันไปเซินเฟยก็ลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร

โดยปกติแล้ว เซินเฟยไม่ค่อยชินกับคนเยอะ ๆ มากนัก เมื่อเดินทักทายแขกไปไม่ถึงครึ่งงานก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยจึงปลีกตัวไปยืนที่มุมหนึ่งของห้องและหาคอกเทลดื่มแก้กระหายไปพลาง หวางซิงจะคอยดูแลรอบข้างอยู่ตลอดพร้อมกับการ์ดสองคนซึ่งมีหน้าที่เฝ้าระวังภัย ด้วยภาพเช่นนั้นคงมีคนเดาฐานะของเขาได้ไม่ยาก จึงไม่มีใครกล้าเข้ามารบกวนการพักผ่อนของเขายกเว้นบุคคลหนึ่ง....

ชายซึ่งสวมชุดสูทสีดำเรียบกริบเป็นทางการตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเดินก้าวฉับ ๆ เข้ามาในรัศมีที่ทำให้การ์ดของเขาไหวตัวอย่างระแวดระวังและเข้ากันชายคนดังกล่าวออกจากเจ้านายด้วยการขยับเข้าหากันจนเกือบชิด ชายคนนั้นจึงหันไปทางหวางซิงแทน

“ผมเป็นคนของชิงหลง เจ้านายของผมต้องการจะสนทนากับจูเชว่เป็นการส่วนตัวจึงให้ผมลงมาเชิญครับ” เจ้าตัวว่าพลางเปิดถุงมือสีขาวให้เห็นรอยสักรูปมังกรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชิงหลงบนหลังฝ่ามือ

หวางซิงจ้องมองตรานั้นอย่างละเอียดจนกระทั่งรายละเอียดเล้กน้อยก็ยังไม่รอดพ้นสายตาจนแน่ใจว่าเป็นของจริงจึงหันมาทางเซินเฟยแล้วรายงานตามที่อีกฝ่ายพูดอย่างครบถ้วน

เด็กหนุ่มหลุบตาลงพลางครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ

ชายแปลกหน้าที่บอกว่าตนเป็นคนของชิงหลงเดินนำทางไปยังลิฟต์ตัวหนึ่งก่อนจะปล่อยให้ลิฟต์พาขึ้นไปถึงชั้นบนที่ตัวเซินเฟยเองไม่ได้ใส่ใจจะมองตัวเลข แต่คำนวณจากเวลาน่าจะเกินชั้นที่ 20 มาไม่กี่ชั้น

เสียง ‘ติ๊ง’ เตือนให้คนภายในรู้ว่าลิฟต์มาถึงชั้นที่กำหนดแล้ว ชายหนุ่มผู้นำทางกดให้ลิฟต์เปิดประตูค้างไว้แล้วผายมือให้เซินเฟยเดินนำออกไปพร้อมการ์ดและเลขาคนสนิท เจ้าตัวจึงเดินออกมาสมทบ

“เชิญทางนี้ครับ” เขาผายมือไปยังห้องที่อยู่สุดทางเดินด้านหนึ่ง ทว่าเมื่อเซินเฟยเดินไปถึงหน้าห้องเขากลับถูกกันเอาไว้ด้านนอกโดยการ์ดสองคนที่ทำหน้าที่เฝ้าประตู กระนั้นตัวผู้นำทางก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยืนนิ่ง ๆ เซินเฟยจึงเงียบและรอดูสถานการณ์ต่อไป

การ์ดคนหนึ่งเคาะประตูพร้อมบอกคนในห้องว่า “จูเชว่มาถึงแล้วครับ”

หลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็เปิดออกโดยคนด้านใน ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินออกมา เขามีใบหน้าเฉยชาอันเป็นกิจลักษณะประจำตนดังที่ผู้คนเล่าลือกันปากต่อปากถึงชิงหลงผู้ครองด้านตะวันออกของเกาะรวมถึงน่านน้ำฝั่งแปซิฟิกที่เป็นอาญาเขตของฮ่องกง

“มีคนรอคุณอยู่” เขากล่าวพลางเปิดทางให้เซินเฟยเดินเข้าไปในห้อง “ส่วนคนอื่น ๆ ขอให้รออยู่ด้านนอก”

“เขาเป็นเลขาของผม” เซินเฟยว่าขึ้นเมื่อชิงหลงให้การ์ดกันตัวกระทั่งหวางซิง

“ไม่ไว้ใจผมงั้นหรือ?” คำถามของชิงหลงทำให้เซินเฟยเม้มปากนิ่งก่อนจะพรูลมหายใจออกมาแล้วบ่ายหน้ากลับไปทางเดิมพร้อมคำสั่ง

“รออยู่ตรงนี้” จากนั้น ประตูก็ปิดลง

เซินเฟยถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสำรวจห้องตรงหน้า และเขาก็พบว่าที่มุมนั่งเล่นซึ่งประกอบด้วยโซฟายาวสองตัวกับโซฟาเดี่ยวตัวหนึ่งและโต๊ะกระจกมีคนสองคนอยู่ตรงนั้น เพียงแต่เขามองเห็นไม่ชัดนักเพราะดีไซน์ของห้องเป็นการแบ่งสัดส่วนระหว่างประตูกับบริเวณภายในด้วยกระจกแผ่นหนึ่งที่ทำให้เนื้อกระจกเป็นริ้วรอยคลื่นเพื่อให้เห็นภาพด้านหลังไม่ชัดเจนดังที่ควรจะเป็น

เด็กหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่จนกระทั่งบุคคลภายในรู้สึกผิดสังเกตจึงส่งเสียงทัก

“จูเชว่มาถึงที่นี่แล้ว จะไม่เข้ามาหรือครับ?”

เซินเฟยมุ่นคิ้วก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วเดินอ้อมแผ่นกระจกเพื่อให้เห็นสภาพภายในห้องและบุคคลที่รออยู่อย่างถนัดตา

ที่โซฟาตัวยาวนั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังหันหน้ามาทางเขาและส่งยิ้มให้ เรือนผมสีน้ำตาลดูไม่เหมือนคนเอเชียทำให้เซินเฟยรู้สึกแปลกตาตั้งแต่แวบแรกที่เห็น กระนั้นใบหน้าและลักษณะท่าทางของคน ๆ นี้ก็บ่งบอกเขาว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เขารู้จักดี แน่นอน....อาจจะไม่เคยพบปะเจรจากันมาก่อน แต่ว่า หากเป็นรูปถ่ายเขาได้เห็นมานับครั้งไม่ถ้วน...เพราะคน ๆ นี้เคยเป็นเจ้าบ้านตระกูลเซินซ้ำยังเป็นคนที่ชักนำเขาเข้ามาในวงการนี้

“....เซิน...หมิงเฟิ่ง?”

ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้นก่อนพยักหน้ารับแล้วเสมองไปด้านข้างซึ่งมีชายหนุ่มอีกคนในชุดสูทสีดำยืนเอามือไขว้หลังนิ่งสงบอยู่ เจ้าตัวสวมแว่นกันแดดสีดำ เสยผมเรียบกริบ ประดับยิ้มตรงมุมปาก แม้จะดูคุ้นตาแต่กลับไร้ท่าทางหยิบโหย่งอย่างที่เซินเฟยเคยเห็นเป็นประจำทำให้เขาไม่แน่ใจนักในคราวแรก มีเพียงความลึกลับในรอยยิ้มเท่านั้นที่ทำให้เซินเฟยมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่เขารู้จักอย่างแน่นอน

หัวใจของเซินเฟยเต้นผิดจังหวะไปชั่ววูบหนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในวินาทีต่อมาเมื่อได้ยินเสียงเชื้อเชิญ

“นั่งลงก่อนสิจูเชว่”

“อย่าเรียกผมอย่างนั้นเลยครับ ยังไงคุณก็เป็นอาของผมแถมยังเป็นถึงจูเชว่รุ่นก่อนด้วย” เซินเฟยกล่าวแล้วนั่งลงตามคำเชิญ ชายหนุ่มจึงหัวเราะออกมา

“แต่ตอนนี้ผมไม่ใช่คนของตระกูลเซินแล้ว ทั้งคุณกับผมก็เป็นเพียงญาติห่าง ๆ กัน เรียกอย่างนี้จะสะดวกใจกว่าสำหรับเราทั้งคู่จริงไหม?”

“....ครับ ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น” เซินเฟยจำยอมรับเหตุผลของอีกฝ่าย เพราะหากจะให้เรียกจริง ๆ แล้วเขาคงจะรู้สึกกระดากตัวเองเป็นแน่หากจะเรียกอีกฝ่ายเป็นอาหรือพ่อเพราะพวกเขาไม่เคยได้พบกันโดยตรงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งยังไม่เคยพูดคุยกันอย่างที่ญาติหรือกระทั่งพ่อลูกบุญธรรมควรจะทำ

“ซากุระฝากความคิดถึงมาหาคุณด้วย”

“ครับ....” เพราะไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรกับผู้ชายตรงหน้า หรือหากพูดจริง ๆ แล้ว เซินเฟยไม่ใช่คนเจนจัดในการเข้าสังคมจึงไม่ถนัดที่จะคิดหาวิธีตอบโต้กับคู่สนทนาอย่างฉับพลัน โดยส่วนใหญ่หวางซิงจะเป็นคนทำหน้าที่เหล่านี้โดยมีเขาเสริมเป็นช่วง ๆ เมื่อขาดเหลืออะไร ดังนั้นเซินเฟยจึงตอบรับเพียงคำสั้น ๆ และเหลือบสายตามองชายหนุ่มที่เขามั่นใจว่าตนเองรู้จักดี และดูเหมือนเซินหมิงเฟิ่งก็จะเข้าใจเจตนาทางสายตานั้น

“คุณอาจจะไม่รู้แต่ในรุ่นพ่อของผม ท่านมีหัวหน้าการ์ดคนสนิทอยู่คนหนึ่งที่คอยรับใช้ใกล้ชิดมาตั้งแต่สมัยเด็ก เขาเป็นคนแซ่ฉู่ที่ถูกทางบ้านขายตัวมาไถ่หนี้ เมื่อเขาโตขึ้น เขาก็รับเด็กคนหนึ่งมาเป็นลูกบุญธรรมเพื่อให้มาทำงานเป็นหัวหน้าการ์ดของผม” เขาเล่าเรื่องราวในอดีตครู่หนึ่งก็เงียบไปก่อนจะเริ่มพูดต่อ “อาจจะช้าไปหน่อยแต่ผมอยากจะแนะนำคน ๆ นั้นให้คุณรู้จัก”

ชายหนุ่มในชุดสูทดำยิ้มกว้างขึ้นแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ

“ฉู่เหวินจือครับ”

เซินเฟยเม้มปากจนเป็นเส้นตรง แนะนำอย่างนี้จะให้เขาตอบอย่างไร? ยินดีที่รู้จักหรือ? หรือว่าดีใจที่ได้พบอีกครั้ง? ในที่สุดแล้วเซินเฟยจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา เพราะเขาแน่ใจว่าถึงจะพูดอะไรออกไปก็ล้วนแต่ไม่เข้ากับสถานการณ์นี้ทั้งสิ้น

“ผมคิดว่าพวกคุณคงมีอะไรให้คุยกันหลายอย่าง ดังนั้นผมจะให้พวกคุณคุยกันตามสบาย” เซินหมิงเฟิ่งลุกขึ้นยืนแล้วดึงปืนพกของฉู่เหวินจือออกมาจากเสื้อนอกของเจ้าของก่อนวางลงบนโต๊ะกระจก “ผู้ชายคนนี้เป็นสมบัติของจูเชว่ ดังนั้นผมขอยกเขาให้คุณซึ่งเป็นผู้สืบทอดของผม” หลังกล่าวจบ เซินหมิงเฟิ่งก็เดินจากไป ประตูถูกเปิดและปิดลงทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เซินเฟยมองดูปืนที่ถูกขัดจนมันวาวบนโต๊ะ เขาตีความของพ่อบุญธรรมตนเองได้ไม่ยาก ฝ่ายนั้นต้องการทดสอบใจของเขาว่าจะจัดการอย่างไรกับผู้ชายที่ชื่อ ฉู่เหวินจือ ซึ่งตอนนี้ได้กลับมายืนตรงหน้าเขาอีกครั้งในฐานะที่แตกต่างจากครั้งแรก

“นายเป็นคนของเซินหมิงเฟิ่งมาตลอด”

“ผมเป็นคนของจูเชว่ครับ” คำตอบของฉู่เหวินจือสามารถตีความได้หลายแง่ ไม่ได้เจาะจงลงไปอย่างชัดเจน

“นั่นไม่ใช่คำตอบที่ทำให้ฉันพอใจได้ นายก็รู้” เซินเฟยเหลือบสายตาขึ้นจากกระบอกปืนบนโต๊ะแล้วเปลี่ยนท่านั่งโดยยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วเอนศีรษะวางลงบนมือที่เท้าศอกบนที่พักแขน “นายชอบทำเรื่องเซอร์ไพรซ์ แต่ครั้งนี้ไม่คิดหรือว่าเป็นมุกที่ฝืดมาก”

“ขออภัยครับ” วิธีพูดของฉู่เหวิอนจือผิดไปจากปกติทำให้เซินเฟยรู้สึกระคายคออย่างน่าประหลาด หรือว่าตลอดเวลาที่อยู่กับเขาเป็นเพียงการเสแสร้งเท่านั้น?

“พูดมาสิ”

“อะไรหรือครับ?”

“คำสั่งของเซินหมิงเฟิ่ง เขาสั่งให้นายมาข่มขืนฉันแล้วตีจากหรือยังไง?” เซินเฟยประชดแดกดันเสียงเข้มสื่อถึงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ในชั่ววินาทีนั้นเขารู้สึกว่าตัวเองเห็นรอยยิ้มขบขันทอในดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังแว่นกันแดดสีดำ บางทีเขาอาจจะตาฝาด

“อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว เจ้านายสั่งให้ผมทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดันคุณขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุดและหมายรวมถึงการขจัดขวากหนามที่ทิ่มแทงคุณอยู่ด้วย แม้กระทั่งคนใกล้ชิดก็ต้องถูกทดสอบถึงความจงรักภักดี จนถึงตอนนี้หน้าที่ของผมได้สิ้นสุดลงแล้วผมจึงได้จากมา” ฉู่เหวินจือคลี่ยิ้มบางพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างที่เซินเฟยไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก

“แล้วกล้าดียังไงถึงกล้ากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก” เซินเฟยกดเสียงต่ำอย่างคุกคาม

“เจ้านายของผมต้องการยกผมให้คุณอยู่แล้ว แต่เพราะในตอนนี้เขาเป็นเพียงคนไร้ตัวตนตามกฎหมายจึงไม่สามรถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ จำเป็นต้องรอช่วงเวลาอย่างนี้เท่านั้นครับ”

“แสดงว่าตอนนี้นายเป็นของฉันแล้ว?”

“ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น แม้แต่ชีวิตผมก็เป็นของคุณ” ฉู่เหวินจือตอบคำโดยไม่มีท่าทางลังเลหรือกระอักกระอ่วนใจที่ชีวิตตนเองถูกกระทำเหมือนเป็นสิ่งของที่ถูกยกให้คนอื่นง่าย ๆ


ออฟไลน์ ZIar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +210/-1
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาปืนจ่อหัวตัวเองซะ” คำสั่งของเซินเฟยเฉียบขาดเหมือนกับนิสัยของเจ้าตัว หากใครฟังย่อมรู้ว่าไม่ใช่การพูดวางอำนาจเล่น ๆ ถึงอย่างนั้นทันทีที่ได้รับคำสั่ง ฉู่เหวินจือก็ก้มตัวลงแล้วหยิบปืนขึ้นจ่อขมับตัวเองตามคำสั่งโดยไม่ออกอาการสะทกสะท้าน การตอบสนองเช่นนั้นทำให้เซินเฟยเกิดรู้สึกหวั่นไหวเสียเอง แต่เด็กหนุ่มก็สลัดความหวั่นไหวนั้นทิ้งไปก่อนสูดหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่ง

“คำถามต่อไปนี้ ถ้านายตอบให้ฉันพอใจไม่ได้ฉันจะสั่งยิงทันที”

“ไม่ทราบว่าคุณเซินต้องการคำตอบตามความเป็นจริงหรือแค่ให้พอใจก็พอครับ” คำถามเหมือนการพูดเล่นอย่างที่เจ้าตัวเคยทำบ่อย ๆ แต่น้ำเสียงที่ใช้กลับจริงจังเสียจนเซินเฟยนึกโมโหไม่ลง เพียงแต่รู้สึกหงุดหงิดใจที่จะต้องมาตอบคำถามไร้สาระเท่านั้น

“ฉันต้องการความจริง”

ฉู่เหวินจือไม่ได้ตอบรับคำใด ๆ ชายหนุ่มยืดตัวตรง มือหนึ่งไพล่หลัง อีกมือเตรียมเหนี่ยวไกปืนตัดชีวิตตนเองเป็นการแสดงออกว่าพร้อมจะตอบคำถามแล้ว

“ก่อนที่นายจะ....หายตัวไป นายเคยบอกฉันว่านายทำตามคำสั่งของเซินหมิงเฟิ่งอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดแต่มีเพียงสองอย่างเท่านั้นที่นายทำตามใจตัวเอง” เซินเฟยเว้นช่วงแล้วกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจก่อนจะถามต่อ “สองสิ่งนั้น....คืออะไร?”

“อย่างแรกคือการฆ่าเฉียนหยุนครับ”

“นั่นมันคำสั่งของฉัน....”

“ไม่ครับ นั่นเป็นความต้องการส่วนตัวของผม” ฉู่เหวินจือยังคงยืนยันคำตอบเดิม “เรื่องต้นเหตุเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลเซิน พ่อของผมมีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเฉียนหยุนกำลังวางแผนคิดไม่ซื่อกับองค์กรแต่เขากลับเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนจะได้บอกกับใคร แต่เมื่อตรวจสอบรถแล้วพบว่ามีความจงใจทำให้เป็นอุบัติเหตุ ท่านจูเชว่สองรุ่นก่อนระแคะระคายบางอย่างอยู่แล้วจึงรีบส่งตัวผมไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพื่อที่เฉียนหยุนจะได้เอื้อมไปไม่ถึง แล้วตอนที่ผมจะได้กลับมาจัดการสิ่งที่คั่งค้างอยู่ เจ้านายของผม....จูเชว่รุ่นก่อนก็สละตำแหน่งก่อนที่ผมจะสามารถจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้สำเร็จ โดยปกติแล้วผมเป็นคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังดังนั้นจึงไม่มีใครที่รู้จักตัวตนของผม และเป็นเพราะผมถูกส่งตัวไปต่างประเทศตั้งแต่อายุน้อยคนในบ้านตระกูลเซินจึงไม่มีใครจำผมได้...แม้กระทั่งชื่อของผมตอนอยู่ในบ้านใหญ่ก็ยังไม่ได้มีการตั้งให้เรียกอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าบอกว่าเป็น ‘อาเสี่ยวฉู่ (เจ้าฉู่น้อย)’ พ่อบ้านหวางน่าจะจำได้”

เซินเฟยไม่ได้พูดแทรกระหว่างที่อีกฝ่ายเล่าถึงเรื่องอดีตที่เป็นเหตุนำให้เจ้าตัวกระทำตามใจตนเองในประเด็นแรก เท่าที่เขาจับใจความได้ ดูเหมือนฉู่เหวินจือจะรับใช้ตระกูลเซินมานานแล้วเพียงแต่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับที่เขาก้าวเข้ามาในบ้านเท่านั้น

“ตอนที่สละตำแหน่งด้วยการเขียนใบมรณบัตรให้ตัวเอง เจ้านายของผมรู้ดีว่าคุณจะถูกต่อต้านจากภายในองค์กร ผมจึงถูกส่งตัวเข้าไปเพื่อทำงานนี้และทำให้ผมได้มีโอกาสแก้แค้นเฉียนหยุนจนสำเร็จ”

“ฉันเป็นทางผ่านการแก้แค้นของนายสินะ?”

“ส่วนหนึ่งอาจจะใช่ครับ” ฉู่เหวินจือไม่ได้คิดแก้ตัวกับการกระทำของตนเองแม้แต่น้อย

“แล้วเรื่องที่สอง?” เซินเฟยเลิกคิ้ว เขาหวังว่าจะไม่ใช่เรื่องของจือหยิน เพราะถ้าใช่เขาอาจจะสั่งยิงทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาให้ระคายหู

“เรื่องที่ผมกอดคุณครับ” ทว่าคำตอบกลับผิดจากที่คิดไปไกลโข

“อ....อะไรนะ....” เซินเฟยถามตะกุกตะกักเหมือนสำลักน้ำลายตัวเอง “นายคิดจะล้อฉันเล่นหรือยังไง!”

“คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ที่ผมพูดเป็นความจริง ที่ผมกอดคุณเป็นความต้องการของผมเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำสั่งของใครทั้งสิ้นรวมถึงคำสั่งของคุณด้วย” คำตอบของฉู่เหวินจือยังคงแสดงถึงความมั่นคงในความคิดของตนเอง หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายกำลังปกป้องใครบางคนที่อาจเสียหายจากคำตอบนี้อยู่ก็จะต้องเป็นคำตอบที่มาจากใจจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ใครล่ะจะได้รับความเสียหายจากคำตอบข้อนี้ที่สุดหากไม่ใช่ตัวเซินเฟยเอง?

แล้วนี่คือคำตอบที่มีให้คำถามของเขา เจ้าตัวจะปิดบังเพื่อปกป้องเขาทำไม?

เซินเฟยรู้สึกเหมือนหลอดลมตีบตันไปชั่วครู่ ร่างกายเกิดอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อมองไปยังตัวต้นเรื่อง อีกฝ่ายก็ทำเพียงยืนนิ่งอยู่ท่าเดิมโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใดราวกับว่าคำตอบที่พูดออกมานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับตนเองเลยแม้แต่น้อย เห็นท่าทางแบบนั้นแล้ว เซินเฟยก็นึกฉุนเฉียวขึ้นมาในใจ เขากัดริมฝีปาก กำมือแน่นก่อนจะเค้นเสียงด้วยอารมณ์

“ไปตายซะ”

“ครับ” ฉู่เหวินจือรับคำทันทีก่อนจะเหนี่ยวไกปืน ทว่า...

“เดี๋ยว! ไม่....ไม่ต้อง” เซินเฟยรีบกลับคำ เพราะที่เขาพูดออกไปนั้นไม่ได้ด้วยเจตนาจะให้อีกฝ่ายเหนี่ยวไก เพียงแค่พูดเพราะอารมณ์พาไปเท่านั้น แต่เมื่อกลับคำตนเองก็ดูจะเสียหน้าไม่น้อย เซินเฟยคิดหน้าคิดหลังอยู่ครู่หนึ่งก็สูดหายใจลึกหลายครั้งเพื่อปรับสภาพอารมณ์ให้เป็นปกติ “ฉันคิดดูอีกทีแล้ว เรื่องที่นายทำให้กับองค์กรน่าจะสามารถหักลบความผิดของนายได้”

“ครับ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วเพราะคำพูดของเซินเฟยไม่ได้สื่อสารชัดเจนว่าจะเก็บเขาไว้ต่อไปหรือไม่

“.....สิ่งที่นายทำกับฉัน ฉันจะทำโทษนายทีหลัง” เซินเฟยปรับน้ำเสียงตนเองให้อยู่ระดับปกติจนสำเร็จ “ฉันคิดว่าการจะเก็บนายไว้ต่อไปจะมีประโยชน์มากกว่า” ว่าแล้ว เจ้าตัวก็ลุกขึ้นยืน ทว่าเมื่อมองไปข้างหน้า เขากลับเห็นฉู่เหวินจือแย้มรอยยิ้มกว้างก่อนจะเหนี่ยวไกปืนที่เหนี่ยวค้างเอาไว้ เซินเฟยเบิกตากว้างพร้อมกลั้นหายใจ เขารู้สึกเหมือนหัวใจตนเองตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ในช่วงวินาทีที่ไกปืนถูกเหนี่ยวนั้น ร่างกายของเซินเฟยราวกับถูกแช่แข็งด้วยความหนาวเย็นที่ผุดออกมาจากเส้นเลือด อาการชาจับตั้งแต่ปลายมือวูบเข้าไปจนถึงหัวใจที่แทบจะหยุดเต้น

แกร๊ก

เสียงที่ดังออกมาจากปืนไม่ใช่เสียงปกติที่ควรจะได้ยิน ทว่าเป็นเสียงไกที่สะท้อนออกมาเพียงเบา ๆ

ฉู่เหวินจือยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เซล้มลงบนพื้นพร้อมเลือดสีแดงฉาน ชายหนุ่มประดับรอยยิ้มบนเรียวปาก ยกปืนออกจากขมับแล้วผายมือออกทั้งสองข้าง

“ขอโทษด้วยครับ แต่ปืนกระบอกนี้ไม่มีกระสุน”

ม....ไม่มีกระสุน....

เซินเฟยยืนเบิกตาค้างเหมือนกับความนึกรู้ถูกกระชากออกไปจนว่างโหวง และเมื่อตั้งสติได้อีกครั้งเขาก็รู้ตัวว่าถูกล่อเล้นเอาเสียแล้ว เซินเฟยกัดฟันกรอด ล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอก หมายจะหยิบปืนออกมายิงอีกฝ่ายให้ดับดิ้นไปจริง ๆ เสียตรงนี้ ทว่าเพียงพริบตาเดียว ฉู่เหวินจือก็โยนปืนเปล่าในมือตัวเองทิ้งแล้วก้าวเข้าประชิดร่างเซินเฟยก่อนรั้งทั้งร่างเข้ามาปะทะแผงอก

“น....อื้อ!” ก่อนที่เซินเฟยจะได้ประท้วงหรือก่นด่าอะไรออกมา ริมฝีปากก็ถูกประกบปิดอย่างฉับพลันจนคำพูดทั้งหมดถูกกลืนกลับลงไปในคอแทบไม่ทัน

“ผมชนะแล้วนะ คุณเซิน” อยู่ ๆ ฉู่เหวินจือก็พูดออกมาอย่างนั้น

“ชนะอะไรของนาย!”

“อ้อ ผมยังไม่ได้เล่าให้ฟังสินะ” เจ้าตัวว่าแล้วหัวเราะเสียงลึกต่ำ ฉู่เหวินจือกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว!

“ผมเดิมพันกับเจ้านาย...ไม่สิ อดีตเจ้านายเอาไว้ ถ้าผมแพ้หรือก็คือ คุณต้องการให้ผมตาย ผมจะต้องกลับไปทำงานอยู่เบื้องหลังให้กับเขา หรืออีกนัยหนึ่งคือผมจะกลายเป็นคนของชิงหลงไปโดยปริยาย”

เซินเฟยรู้สึกเหมือนลมสว้านกำลังตีขึ้นมาจุกอก ผู้ชายคนนี้กล้ามากที่หายหัวไปแล้วโผล่มาให้เขาเห็นอีกอย่างนี้ แล้วยังกล้าดียังไงเอาเรื่องของเขาไปพนันขันต่อ! ในขณะที่คิดเช่นนั้น สีหน้าของเซินเฟยก็เปลี่ยนสลับแดงสลับเขียว ทั้งโกรธทั้งคลั่ง อยากจะสั่งให้คนข้างนอกเอาเจ้าผู้ชายมากเล่ห์คนนี้ไปถ่วงอ่าวเสียให้เข็ด ปืนที่ยังกุมอยู่ใต้เสื้อร่ำ ๆ อยากจะออกมาทำหน้าที่เสียเต็มประดาแต่เพราะถูกยึดตัวเอาไว้แน่นหนาจึงไม่อาจทำอะไรได้ตามใจ เพราะอย่างนั้นอารมณ์จึงถูกตีให้พุ่งขึ้นอีกเท่าตัว

“แล้วถ้านายชนะจะได้อะไร!” เขาถามอย่างฉุนเฉียว ฉู่เหวินจือแย้มยิ้มกว้าง ดวงตาทอประกายระยับก่อนจะตอบคำ

“คุณจะต้องเป็นของผม”

“อ....อะไรนะ! ฉู่เหวินจือ! นาย.....นี่! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!” ไม่ทันที่เซินเฟยจะได้อาละวาดจนสมใจ ทั้งร่างก็ถูกอุ้มลอยขึ้นด้วยอ้อมแขนแข็งแรง ฉู่เหวินจือสาวเท้าเดินตรงไปยังประตูบ้านหนึ่งที่เชื่อมต่อกับห้องนอนโดยไม่สนใจอาการประท้วงหนักหน่วงของคนในอ้อมแขนแม้แต่น้อย และในที่สุด เซินเฟยก็ถูกทิ้งลงบนเตียงอย่างที่เผลอคาดเดาไว้ในใจเมื่อวินาทีที่ผ่านมา

ฉู่เหวินจือเท้าแขนคร่อมตัวเซินเฟยเอาไว้ข้างใต้ ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปทางไหนได้

“หรือคุณจะบอกว่าตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาคุณไม่ได้คิดถึงผมเลยแม้สักครั้งเดียว” คำตอบตรงประเด็นของฉู่เหวินจือทำให้เซินเฟยหน้าแดงวูบจนถึงใบหู เด็กหนุ่มหลบตาไปทางอื่นโดยไม่ตอบคำถาม ฉู่เหวินจือจึงสรุปเองเสร็จสรรพ “ผมจะถือว่าคุณไม่ปฏิเสธ”

สีหน้าของเซินเฟยไม่ได้แสดงออกว่าอ่อนข้อให้แม้สักนิด เพียงแค่ไม่ยอมตอบคำถามเพราะทำใจแข็งอยู่เท่านั้น ฉู่เหวินจือหัวเราะแล้วพาอีกฝ่ายเอนตัวลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล

“ผมกลับมาเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของคุณแล้วไงล่ะ เฟยเฟยของผม”

เซินเฟยเม้มปากนึกสะเทิ้นอายกับคำพูดนั้นทว่า....อาการแข็งขืนกลับค่อย ๆ หายไปทีละน้อย....

--------------------->

“ยังตกใจอยู่หรืออาซิง?” เซินหมิงเฟิ่งหัวเราะพลางจิบไวน์พลาง ตอนนี้พวกเขามานั่งอยู่รวมกันในห้องสูทอีกห้องหนึ่งที่ชิงหลงจองเอาไว้ซึ่งเป็นห้องตรงข้ามกับห้องที่เซินเฟยกำลังใช้งานอยู่ขณะนี้

หวางซิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะสามารถทำใจรับได้ว่าเจ้านายเก่าของตนเองยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้าอย่างสุขสบาย ซ้ำยังมาอยู่กับคนที่เขาไม่คาดคิด แต่เขาก็ถูกกำชับว่าเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด ขนาดการ์ดที่ขึ้นมาด้วยกันยังถูกไล่ให้ลงไปก่อนเพื่อไม่ให้รับรู้เรื่องที่ไม่สมควรจะรู้

“เลยครึ่งชั่วโมงแล้วนะ” ชิงหลงเอ่ยเตือนเวลาพลางเคาะปลายนิ้วลงบนนาฬิกาข้อมือแบรนด์เนม

“ก็แสดงว่าผมแพ้พนันฉู่เหวินจือน่ะสิ” เซินหมิงเฟิ่งหัวเราะเบา ๆ “ต่อจากนี้คงต้องรับศึกหนักหน่อยนะอาซิง”

หวางซิงกุมขมับ เขาได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากอดีตเจ้านายแล้ว และดูเหมือนความวุ่นวายที่เขาต้องสู้รบปรบมือมาตลอดหลายเดือนก่อนนั้นเป็นเพราะความหวังดีที่อดีตเจ้านายคนนี้มีต่อลูกบุญธรรมของตนเองนั่นเอง ซ้ำยังดูเหมือนว่าจะสนับสนุนให้ฉู่เหวินจือเข้ามาเป็นคนของจูเชว่อย่างถาวรและออกหน้าออกตาในสังคมได้ไม่ต้องอยู่แต่เบื้องหลังอีกต่อไป มันอาจจะเป็นค่าตอบแทนเดียวที่อดีตจูเชว่ผู้ไร้ตัวตนจะสามารถมอบให้กับคนใต้ปกครองผู้ซื่อสัตย์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ถึงอย่างนั้น หวางซิงก็รู้ว่านี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเส้นทางการเป็นเลขายอดเยี่ยมของตนยังต้องฝ่าฟันต่อไปอีกยาวไกลนัก....

โชคดีที่เซินเฟยยังอายุน้อยและไม่มีทีท่าว่าจะสละตำแหน่งกลางอากาศเหมือนพ่อบุญธรรมของตนเอง ดังนั้นภารกิจสำคัญเรื่องการตามหาทายาทจึงสามารถเลื่อนออกไปได้อีกหลายปี...เรื่องนี้คงจะเป็นความโชคดีเรื่องเดียวของเขาสำหรับเรื่องราวที่จะดำเนินต่อจากนี้ไป....


END


-------------------------

เฮ้~ มันจบแล้ววว มันจบแล้วววววววววววว
กรีดร้องทั้งน้ำตา ToT!!!!!

ขออภัยที่หายตัวไปนานมากมาย การ์ดจอพังรอบที่ล้านสองของชีวิต - -...(ประชดช่าง) แถมได้คอมกลับมาเปล่าๆ มานั่งลงโปรแกรมเองอีก2วัน วันนี้เลยรีบนั่งปั่นสุดชีวิต หวังว่าทุกท่านจะยังรอตอนจบตอนนี้อยู่นะคะ XD

ไม่เคยเขียนนิยายยาวขนาดนี้แล้วจบได้มาก่อน (ปกติจะดองก่อนประจำ) ทั้งนี้ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เป็นกำลังใจเสมอมาทั้งนักอ่านที่เมนท์สม่ำเสมอและที่อ่านโดยไม่เมนท์ด้วยนะคะ T T

สุดท้ายนี้....ขอถามว่ามีใครเดาเรื่องถูกตั้งแต่ต้นยันจบบ้าง ยกมือเร้ว~ เดี๋ยวเซียร์ให้รอยยิ้มผูกโบว์เป็นรางวัล~ XD

ปล. อีกไม่นานเรื่องนี้จะมีการเปิดจองรวมเล่มพร้อมกับเรื่องสัตยาธิษฐาน ใครรอสองเล่มนี้อยู่ก็ขอให้ติดตามกระทู้นี้ต่ออีกสักพักนะคะ จะเปิดจองประมาณต้นเดือนหน้า(พ.ค.)แน่นอนค่ะ ^ ^

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
จิ้มมมมม ก่อนอ่านน เข้ามาเจอพอดีเลยเรา

จบอย่างแฮปปี้มีความสุข  :m11:
เฟยเฟยได้กลับมาอยู่ในอ้อมอกอาฉู่อีกครั้งจนได้
เฟยเฟยเสียรู้อาฉู่จอมเจ้าเล่ห์อีกแล้ว อิอิ จนได้สิน๊าาา
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้สนุกมากๆ ได้อารมณ์เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันสุดๆ  o13

ขอบคุณค่ะ  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2011 18:15:28 โดย butterfly_bee »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บัลลังก์ปีกหงส์ ตอนที่ 34 (25/04/11) [END]
« ตอบ #469 เมื่อ: 25-04-2011 17:47:27 »





theblink

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้ว   ขอไปสงบใจ  เดี๋ยวกลับมาเม้นต์ต่อ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
กริ๊สสสสสสสสสส

เดาได้ตอนที่แล้วเอง ห้าๆๆ

ชอบบบบอ่ะ อาฉู่กับเฟยๆ 

ต่อไปเฟยๆช้ำแน่เลยยย

ในใจไม่อยากให้จบเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายค่า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ว้าววว ในที่สุดก็จบ
ขอบคุณคุณเซียสำหรับเรื่องราวสนุกๆนะคะ
ติดตามผลงานเรื่องอื่นต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เดาได้ประมาณ 2-3 ตอนหลังๆ แต่ก็ดีแล้วที่เป็นแบบนี้

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
อา...ตอนจบนี้ที่รอคอย  o7
จบแบบ Happy Endind อีกต่างหาก สมใจสุด ๆ เลย ( ไม่คิดว่าจะจบได้สุขขนาดนี้ )
การที่วาง ฉู่เหวินจือ เป็นตัวละครปริศนา ไม่รู้จุดประสงค์ที่แน่ชัด จนกระทั่งจบเรื่อง เป็นจุดที่มีเสน่ห์มากค่ะ~
ทำให้เรื่องนี้คงกลิ่นอายความลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ได้ตั้งแต่ต้นยันจบเลยทีเดียว
 
ส่วนที่ถามว่าเดาเรื่องถูกไหม? บอกตามตรงว่า ไม่ ( ไม่เคยถูกเลยจริง ๆ )
ถึงจะไม่ได้จบแบบหักมุม แต่ก็จบแบบที่ดิฉันคาดไม่ถึงตามเคย (คุณ ZIar ช่างล้ำลึกยิ่งนัก~ )

ไม่มีตอนพิเศษ อาซิง-น้องมู่ หน่อยเหรอค่ะ? แหม... ก็น่าจะรู้นะค่ะ ว่าบรรดาแม่ยกของคู่นี้ หวังจะอ่านอะไร?
เซินหมิงเฟิ่ง กับ ชิงหลง มาด้วยกันแบบนี้ ดิฉันคิด(ลึก)แล้วนะคะ...
จะรอเปิดจองรวมเล่ม ไม่พลาดแน่นอน !!!

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
เป้นเรื่องที่สนุกมากเลย การดำเนินเรื่องและภาษาเราก็คิดว่าดีแล้วนะ

เป็นกำลังใจให้ผลงานต่อๆไป เพราะชอบอ่านนิยายแปลจีนก้เลยชอบแนวนี้เหมือนกัน

ในที่สุดก็ลงเอยกันไดด้วยดีๆ ยินดีกับเฟยเฟย และเฮียฉู่~  :กอด1:

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
ฮะๆ ก็คิดอยู่ว่าถ้าไม่ใช่ไปหู๋ก็น่าจะเป็นจูเชว่คนก่อนส่งมา
แต่ไม่คิดว่า เซินหมิงเฟิ่ง จะไปอยู่กะชิงหลง
ทั้งเรื่องแทบไม่พูดถึงชิงหลงเลย ฮะๆ

สรุปแล้วสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกค่ะ
ขอตอนพิเศษด้วยก็ดีนะคะ

จะเป็นกำลังใจให้และรอติดตามผลงานค่ะ
 :pig4: คุณ ZIar
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Isuru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
จบแล้ว แงๆๆๆ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ มีตอนพิเศษรึเปล่าเอ่ย
ขอตอนพิเศษอาซิงกับนักสืบมู่ได้ไหมอ่ะคะ
อยากให้เค้าหวานกันสักนิสสสส

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีที่ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
เดาถูกเรื่องเดียวที่จูเชว่รุ่นก่อนไม่ตาย แต่หนีไป แต่ไม่นึกว่าจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนี้

หายไปนานกลับมาก็จบเลย ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้ครับ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
อ้ากกกจบแล้วอิอิแฮปปี้ดี้ด้า


เซินเฟยพลาดท่าเสียทีจนได้ซิเนี่ย



ชอบมากกกกกกกก



จะติดตามผลงานต่อไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด