แล้วก็รักเข้าจนได้ Vol.25“โอย...กูยังมึนอยู่เลยว่ะ...เมาค้างแน่เลยกู” ไอ้หมูบ่นงึมงำ กุมขมับตัวเอง
เมื่อคืนที่ผ่านมาชายหนุ่ม 4 คนดื่มเหล้าโต้รุ่งเคล้าเสียงคลื่น
เมากันเละเทะ
และตื่นขึ้นมาในสภาพ เหมือนศพกองอยู่ทั้ง 4 คน
โดยให้เหตุผลในการดื่มครั้งนี้ว่าเป็นการฉลองสมรสให้ไอ้ส้มและไอ้ไกร ซึ่งมันสองคน
ก็เอาแต่อายม้วนไปม้วนมา
ทั้งเขาทั้งไอ้อาร์ตเลยได้โอกาส แซวเละ
ยิ่งมันอาย ก็ยิ่งแซว
เสียดายจริง ๆ ที่พวกมันไม่ยอมทำอะไรกัน
หลอกถามตอนมันเมา ถึงได้รู้ว่ามันสองตัวอยู่ด้วยกันมาครึ่งปีแล้วแต่ไม่เคยมีอะไรกันเลย
ใครที่ไหนมันจะเชื่อวะ
เห็นมันทำอะไรกันที่หาดชัดเจนขนาดนั้น
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เลยคิดว่าท่าจะจริง ไอ้ส้มมันเล่นแยกห้องนอนกับไอ้ไกรแบบนั้น
มันเป็นผัวเมียกันภาษาอะไรวะ
เมื่อคืนกะว่าจะเปิดโอกาสให้มันสักหน่อย แต่ปรากฏว่าไอ้สองตัวนั่น
เมาไม่รู้เรื่อง หลับไปซะงั้น
ช่างไม่เห็นความหวังดีที่เพื่อนตั้งใจจะทำให้เล้ย ไอ้ส้มไอ้ไกร
อเนกที่ทำตัวเป็นพ่อสื่อ ไม่ได้รู้เลยว่า ทั้งสองคนตกลงกันไว้อย่างไร
ถึงแม้ตัวเองไม่ได้เป็นตัวกลางประสานความสัมพันธ์ของทั้งสอง
แต่สายสัมพันธ์กับเกรียงไกรก็พร้อมจะสานเอง เมื่อกลับถึงบ้าน
โดยไม่อยากได้พยานรู้เห็นแต่อย่างใด
“ไอ้ห่าสองตัวนั่นจะเป็นไงมั่งวะ....กูอุตส่าห์มอมเหล้ากะดูช็อตเด็ดซะหน่อยเสือกเมาหัวทิ่มทั้งคู่อีก” ไอ้อาร์ตผู้ทำหน้าที่เป็นสารถี ออกความคิดเห็น
หลังจากส่งไอ้หมาสองตัวนั่นที่บ้านไอ้ส้มแล้ว ก็อยู่นั่งเล่นที่บ้านมัน
โซฟาหน้าโทรทัศน์ มีผ้าห่มกับหมอนหลายใบวางอยู่
พอถามไอ้ขุนไกร
มันก็บอกว่าที่นอนมันเอง
เลยถามว่าแล้วไอ้ส้มมันนอนที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่าไอ้ส้มมันนอนในห้อง
โดยที่ไอ้ไกรมันนอนนอกห้องมาตลอด หกเจ็ดเดือนนี้
เออ...ไอ้ไกรมันทนได้ไงวะ
ปกติไม่น่าจะทนได้นานขนาดนั้น
ความอดทนมันก็สุดยอดดีจริง ๆ
“ไม่รู้เหมือนกันเว้ย...กูไม่ได้อยากให้มันซัดกันเองหรอกนะ...แต่ยังไงมันก็เพื่อน..ไอ้ส้มมันก็เหมือนน้องกู... เห็นมันอย่างนี้แล้วกูก็อดห่วงมันไม่ได้” หนุ่มร่างท้วมเอ่ยเสียงเครือ เหมือนคุณพ่อห่วงลูกสาวที่ออกเรือนมีครอบครัวไป
“ไอ้หมู...เว่อร์แล้วมึง...ถ้ามึงเศร้าขนาดนั้น...นะ” ไอ้อาร์ตหันหน้าไปมองไอ้หมู ทำตาเยิ้มใส่
“อะไรไอ้ห่าอาร์ต...มองหน้ากูประหลาด ๆ บรื๋อ....ขนลุกว่ะ” อเนกทำท่าทางกอดอกตัวเอง
และมองไอ้เพื่อนหน้าตี๋ผอมแห้ง ด้วยความสยอง
ไม่ไหวละมั้ง ถ้าจะให้กิ๊กกันเหมือนไอ้ส้มไอ้ไกร อ้วกแตกตายห่า
“แหม...หมูก็...อาร์ตชอบหมูน๊า” ไอ้อาร์ตแกล้งทำตาหวานใส่ ลากเสียงยาว
“ไอ้อาร์ตมึงหยุดเลยนะ....กูไม่ล้อเล่นกับมึงหรอก..สยองชิบหาย” ไอ้หมูตะโกนด่า
หนุ่มร่างผอมแห้งเหมือนไม้เสียบผี เสียงดัง
และไอ้อาร์ตก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน ที่ได้แกล้งไอ้หมูได้
และก็ไม่เคยรู้อนาคตหรอกว่า...อะไร..มันก็เกิดขึ้นได้เสมอแหละนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
**********
เรียบร้อยแล้วอาหารทะเลที่ซื้อมาถูกเก็บเข้าไว้ในตู้เย็นเรียบร้อย โดยฝีมือการจัดเก็บของขุนไกร
ส่วนสายสัมพันธ์กำลังกอดรัดนัวเนีย คุณปู่และคุณย่าที่ไม่ยอมห่างเลยตั้งแต่ร่างเล็ก ๆ นั้นกลับมา
คงจะคิดถึงกันมากเลยนะเนี่ย
“ไม่ปวดหัวเหรอส้ม...เมาเละขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อคืน...” ร่างสูงเดินมานั่งข้าง ๆ ร่างบาง
และอุ้มคุณย่าตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก
ส้มมีหมา 3 ตัว
และแมวอีก 2 ตัว
เขาเคยเห็นอยู่เหมือนกัน แต่ไป ๆ มา ๆ แมวที่ส้มเลี้ยงก็หนีออกจากบ้านไปเฉยเลย
ไม่รู้หายไปได้ยังไงหรือว่าหายไปตอนน้ำท่วมซอย ทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นกลับมา
ส่วนเจ้าซ่า หมาอีกตัว ก็เพิ่งโดนรถชนตาย ตอนที่เปิดประตูรั้วบ้านแล้วมันก็วิ่งออกไป
ไอ้ส้มของเขา นั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเกือบสัปดาห์
อดสงสารไม่ได้ ยังไงเจ้าพวกนั้นก็เป็นญาติ ๆ ของส้ม (อืม..ก็ส้มบอกอย่างนี้อ่ะ)
“ไม่อ่ะ...กินหนักกว่านี้ยังเคยเลย..แค่นี้อ่ะเด็ก ๆ “ ไอ้ส้มของเขาข่มขวัญซะงั้น
แล้วเมื่อคืนใครวะ ที่เมาหัวทิ่มไปก่อน
ส้มไม่ใช่หรือไง
แล้วก็นะ ตามด้วยเขานั่นแหละ ก็แหม ไม่ใช่คอทองแดงอย่างไอ้อาร์ตนี่หว่า
ถึงจะอยู่โต้รุ่งได้
“ครับ...ส้มคอแข็งครับ...เก่งสุด ๆ เลย” เกรียงไกรประชดประชันร่างเล็กบางนั้นตรง ๆ
ส่งผลให้สายสัมพันธ์หันมามองค้อนตาขวาง
จนเขาต้องหัวเราะออกมา
นี่ลืมไปหรือเปล่านะ
ว่าใครกันที่เข้ามากอดเขาเมื่อคืนก่อนโน้น
ออดอ้อนออเซาะน่ารักที่สุด แถมยังบอกว่าถ้ากลับถึงบ้านให้เขากลับมาสอนเรื่องนั้นอีกต่างหาก
เห็นว่าเขาไม่ทวงถาม เลยนึกว่าจะเฉย ๆ หรือไง
“ทำเป็นตาขวาง......ข่มขวัญเหรอ...” ร่างสูงอุ้มคุณย่าตัวเล็กให้คนที่นั่งข้าง ๆ และตัวเอง
สาละวนอยู่กับการกอดรัดเจ้าหมาตัวใหญ่
เขาโชคดีที่ส้มเป็นคนรักหมา
และเขาก็ชอบเหมือนกัน ผู้หญิงที่เขาเคยคบ ไม่ชอบสักเท่าไหร่
ไม่เหมือนส้ม ที่รักและก็ชอบหมามาก ๆ เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
“ทำไม...ก็จะขวางอ่ะ...ทำไม...มีอะไรมั้ยวะ” ใบหน้าหวาน งอหงิก ต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย
“ไม่มีหรอก...งอมาก ๆ แบบนี้ต้องจูบ..ถึงจะหาย” ขุนไกรพูดทีเล่นทีจริง..จ้องมองร่างบาง
นัยย์ตาหวานซึ้ง สื่อความหมายชัดเจน
“อ่ะ..อะไร...บ้า...บ้าป่าว..มันจะหายได้ไง..ไปกินปลาหมึกดีกว่า” สายสัมพันธ์รีบลุกเดินหนี
ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำ
พูดบ้าอะไรของมันวะ
จะทวงสัญญาหรือไง ไอ้ส้มเอ้ย ไอ้ส้ม
ไม่น่าปากไวเล้ย ไอ้ไกรมันต้องทวงเรื่องนั้นแน่ ๆ เขาเองก็ประสาท
ดันไปพูดเชื้อเชิญให้ท่าแบบนั้นซะได้ แล้วนี่ก็กลับมาถึงบ้านแล้วด้วย จะทำไงดี จะทำไงดีวะ
สายสัมพันธ์ลอบมองที่หน้าต่างครัว พอเห็นร่างสูงนั้น
ที่เอาแต่นั่งเล่นกับเจ้าหมาสองตัว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
เล่นเอาร่างบาง หายใจหายคอแทบไม่ทัน
***************************
อืม...นี่มันก็ปาเข้าวันที่ 5 แล้วนะ ที่กลับมาจากทะเล แต่ก็ไม่เห็นจะมีวี่แวว
ว่าส้มจะเข้าหาเขาสักที
เช้าไปเรียนพร้อมกัน เย็นซื้อกับข้าวกลับมากินด้วยกัน
นั่งดูรายการโทรทัศน์ แล้วเจ้าส้มก็แยกไปนอน
โดยทิ้งให้เขานอนแหง่วอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม แล้วทีนี้จะเอาไงดีหว่า
อุตส่าห์ดีใจแล้วเชียว ว่าส้มมันโอเคแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าคงอีกยาวไกลล่ะมั้งแบบนี้
ร่างกายก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
ไม่ได้รับการปลดปล่อยเลย ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ท่าจะแย่แน่ ๆ เลย
“ไกร.....หยิบแชมพูขวดใหม่ให้หน่อยสิ...แชมพูมันหมดแล้วเนี่ย” เสียงหวานใสดังลั่นมาจากห้องน้ำ เรียกให้เขาหยิบสิ่งของที่ต้องการส่งให้
เกรียงไกรเดินไปหยิบแชมพูสระผมที่อยู่หลังตู้ของใช้ และเดินเอาไปยื่นให้ที่หน้าห้องน้ำ
“ส้ม...เปิดประตูหน่อยดิ..อ่ะ..ขวดสีฟ้าใช่ป่ะ” ร่างสูงนั้นหยุดยืนและเคาะประตูห้องน้ำ
ที่มีเสียงน้ำหยดเสียงดัง
จนเขาต้องเคาะซ้ำ
“ส้ม...ได้แล้วเนี่ย..แชมพู..เร็ว ๆ ดิ..เค้าจะไปดูบอลต่อแล้วเนี่ย” ขุนไกรตะโกนเรียก
และมือเล็กขาว ที่มีหยดน้ำเกาะพราว ก็ยื่นออกมาจากห้องน้ำ รอรับของที่เกรียงไกรส่งให้
ร่างสูงเหม่อมองมือเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมา
ก่อนจะชะงักงันเหม่อมองนิ่ง
ไม่ได้ยื่นขวดแชมพูส่งให้กับมือเล็ก ๆ นั้น
สายสัมพันธ์เองเมื่อไม่รู้สึกว่ามีอะไรส่งมาให้
ด้วยความลืมตัว
ร่างบางจึงแก้มประตูออก
เพื่อจะมองหาสิ่งที่เกรียงไกรไปหยิบมาให้
ไอ้บ้าไกร หยิบให้แค่นี้เสียเวลาอะไรนักหนา
สงสัยไปนั่งดูบอลต่อแล้วแน่เลย
ร่างเล็กเนียนขาว เปลือยเปล่า ค่อยเปิดประตูออกช้า ๆ
หมายจะมองหาขวดแชมพูสระผม
แต่ก็ต้องรีบปิดแทบไม่ทัน
เมื่อพบคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“อ๊ะ...” ร่างบางอุทานเสียงแผ่ว รีบดึงประตูห้องน้ำปิด
แต่ช้ากว่าร่างสูงที่ดึงประตูเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อย... ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ..” มือเล็ก ๆ พยายามเอื้อมหยิบผ้าขนหนูที่แขวนห่างออกไป
และอีกมือก็พยายามผลักประตูไว้
แต่สติของร่างสูงนั้นหลุดลอยไปเสียแล้ว
ตั้งแต่เห็นเรือนร่างบอบบางนวลเนียนของอีกฝ่ายที่ปรากฏต่อหน้า
แม้เพียงชั่วแว่บเดียวแต่ก็ทำให้ความอัดอั้นในกายพุ่งสูงขึ้น
และสติหลุดลอยไปเรียบร้อยแล้ว
ร่างเล็กพยายามดึงดันขัดขืนแต่ก็ไม่อาจทานทนกับเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายได้
เกรียงไกรแทรกกายผ่านเข้ามาภายใต้หลังประตูเรียบร้อยแล้ว
และดวงตาคม ที่แฝงด้วยความรู้สึกหลากหลายทอดมองร่างเล็กบางเปลือยเปล่า
ที่ดึงผ้าขนหนูมาปิดแทบไม่ทัน
“ห้ามมองนะ...หลีกเดี๋ยวนี้...หลีก...” ร่างเล็ก ๆ ใช้มือยันร่างสูงที่เดินเข้าหา
ทั้งเขินทั้งอายสลับกันไปมา จนแยกไม่ถูก
ใบหน้าเนียนขาว แดงเรื่อไปหมด
รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ร้อนไปทั้งตัว เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะถอยหนี
“ส้ม...” น้ำเสียงทุ้มนุ่มแตกพร่า บ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
ทำให้สายสัมพันธ์เริ่มกลัว
และรับรู้บางอย่างได้จากกระแสเสียงนั้น
มือแกร่งเอื้อมหมายจะปลดผ้าผืนเล็กที่ห่อหุ้มร่างบางไว้อย่างหมิ่นเหม่เต็มที
“ไม่เอานะไกร...ไม่เอาส้มกลัว....” ร่างเล็ก ๆ หวาดผวา ถอยหนีการรุกราน
“ส้ม....” เสียงทุ้มนุ่มนั้นเรียกซ้ำอีกครั้ง นัยย์ตาคมสบกับนัยย์ตาหวานของอีกฝ่ายแน่วนิ่ง
ก่อนจะหรุบต่ำลง
ยื่นขวดแชมพูให้
“เค้าแค่เอาแชมพูมาให้นะ....” เหมือนกับเรียกสติกลับคืนมาได้ เกรียงไกรถอนหายใจยาว
พยายามข่มความรู้สึกตัวเองก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องน้ำ
ทำอะไรวะไอ้ไกร
ทำอะไร
ส้มมันกลัวจะแย่แล้ว
ทำไมถึงหน้ามืด
พรวดพราดเข้าไปหาร่างเล็ก ๆ นั้นได้วะ
ก็ไหนสัญญากับเจ้าส้มแล้วไง
ว่าจะไม่แตะ ถ้าส้มไม่อนุญาต
ไอ้ไกรเอ้ย ไอ้ไกร จะให้ส้มมันเกลียดอีกรอบหนึ่งหรือไงวะ
ร่างสูงนิ่งคิด หย่อนกายลงนั่งที่โซฟา
พยายามสนใจกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลตรงหน้า
แม้ว่าภาพร่างกายเกือบเปลือยของอีกฝ่าย จะรบกวนหัวใจอยู่ตลอดเวลาก็ตามที
*********************