- 2 -
ถามว่ามีเรื่องอะไรคิดมากที่สุด....อะไรที่มันรบกวนจิตใจในตอนนี้...กูตอบไม่ถูก....มันผสมปนเป
กันไปหมด..ไม่ว่าจะเรื่องความรู้สึกของคนในครอบครัว..เรื่องของกูกับไอ้พี่โต๋...เรื่องของพ่อสิงห์แม่อรที่กูรักเคารพ
เหมือนพ่อแม่กูอีกคน...ไม่รู้พวกท่านจะโกรธจะเกลียดกูหรือเปล่า?....จะเอ็นดูกูเหมือนเดิมไหม?..กูยังจะมีโอกาส
ได้เจอพวกท่านไหม?....หรือกระทั่งพวกเพื่อนในแก็งค์สิงห์โตดำทุกคน..กูคงไม่มีโอกาสได้เจอพวกมันอีกแล้ว...
เพราะเปิดเทอมมา..กูไม่ได้เรียนที่เดิมแล้วนี่..
ทุกๆ เรื่องมันเก็บไว้ในหัวพาให้คิดตลอดเวลา...ไม่สามารถบอกเล่าให้ใครฟังได้...กูไม่กล้าติดต่อ
กับใครเลย..หลังจากความพยายามที่จะติดต่อไอ้พี่โต๋หมดสิ้นลง....จะได้ประโยชน์อะไรเล่า..หากกูติดต่อกับพวกมัน..
ซึ่งผลลัพธ์ก็รู้อยู่แล้ว...ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือกูได้...เมื่อพวกผู้ใหญ่เค้าตัดสินใจกันไปแล้ว...นั่นคือไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงได้อีก...ที่สำคัญกูไม่กล้ายืดอกออกไปขอร้องพวกท่าน...บอกตรงๆ..กูเองรู้สึกผิดและละอายใจที่ทำให้
พวกท่านผิดหวังกับเรื่องนี้.
เพราะฉะนั้น...กูจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ภายในไม่แสดงให้ทุกคนรู้..ว่ากูรู้เรื่องแล้ว...เลยทำให้พวกเค้า
หาสาเหตุอาการของกูไม่เจอเหมือนกัน...ต่างสรุปว่กันว่าที่กูเป็น..เพราะดันใช้พลังปราณในการต่อสู้กับกรองกุมภ์จนหมดก๊อก
และยังมากดดันต่อเนื่องยาวนาน...รวมถึงความเสียใจกับการจากไปของไอ้พี่เทคที่สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือกูอีก...
ต่างเหมารวมเอาทุกเรื่องว่าคือต้นเหตุความเครียดทั้งหมด...พยายามพากันปลอบโยนให้กูสบายใจ...โดยไม่มีใครเอ่ยถึง
เรื่องไอ้พี่โต๋กันเลย....เหมือนเป็นเรื่องต้องห้ามที่ไม่ควรนำมาเป็นประเด็น...ซึ่งกูก็ปิดปากเงียบเช่นกัน..ไม่พูดถึงแม้แต่
จะเอ่ยถามเสียด้วยซ้ำ..
ย่างเข้าสัปดาห์ที่สาม....กูทรุดหนักผอมจนหนังติดกระดูก...สังเกตุเห็นความหนักใจของทุกคน
ที่แสดงออกได้ดี...เริ่มกังวลกันมากมาย...พยายามผลัดเปลี่ยนกันมาคอยดูแลเอาใจกูสารพัด....โดยเฉพาะแม่ษา
ไม่ยอมห่างกูเลยด้วยซ้ำ
กูพยายามบอกให้ทุกคนไม่ต้องกังวล..เดี๋ยวก็คงดีขึ้น...แม้ปากจะพยายามพูดให้ทุกคนรู้สึกสบายใจ...
แต่ร่างกายกับทรุดลงเรื่อยๆ...จนในที่สุดน๊อคไปอีกครั้ง...ซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าครั้งนี้กูวูบหมดสติไปตอนไหนเมื่อไหร่...
จำได้ว่าในขณะที่หลับ...กูไปเจอไอ้พี่เทคมันที่ไหนสักแห่งไม่รู้จัก...เราสองคนมีโอกาสได้นั่งคุยกัน
ยังกับว่ามันยังมีชีวิต..หน้าตาของมันดูมีความสุขมาก...
“พี่ดีใจจัง..ที่ได้เจอตะเกียงอีก” มันยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนมาให้ รอยยิ้มของมันทำให้
หน้ามันหล่อขึ้นเป็นกอง ทั้งที่เดิมมันก็หล่ออยู่แล้ว
“ตะเกียงก็ดีใจครับ...พี่เป็นไงบ้างสบายดีไหม?” “พี่สบายดี...แต่ไม่สบายใจ..ที่รู้ว่าตะเกียงไม่ดูแลตัวเองเลย..ทำให้พี่เป็นห่วงมาก..
จนต้องมาพบเพื่อเตือนสติด้วยตัวเอง” มันตอบกูมา
“
อืม...ขอโทษครับ..ที่ทำให้พี่เป็นห่วง...ตะเกียงคงเป็นน้องที่แย่เอามากๆ...ถึงตอนนี้
ยังทำให้พี่ลำบากใจอีกจนได้” กูตอบมันไปอย่างไม่สบายใจ
“
ช่างเถอะ...พี่เข้าใจ....ต่อไปนี้สัญญากับพี่...ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี...รับปากพี่ได้ไหมครับ”
มันยิ้มเอามือลูบหัวกูไปด้วย..ก่อนจะดึงเข้าไปซบตรงไหล่มัน..กูไม่ได้ขืน...กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ..เหมือนได้รับกำลังใจมากมาย
เราต่างคนต่างนั่งกันเงียบๆ มันก็ยังเอามือลูบหัวกูช้าๆ ไม่มีใครพูดอะไรอีก
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ..มันถึงได้เอ่ยปากขึ้นมาว่า
“
เอาหละ...ตะเกียงมานานแล้ว..ได้เวลากลับเสียที..ไปกันเถอะพี่พาไปส่ง” ก่อนจะดึงมือกูลุก...
เราเดินจับมือกันตลอดทาง...กูก็เชื่องเดินตามมันต้อยๆ..โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันพากูไปส่งที่ไหน....เหมือนว่าเราเดินมา
กันไกลไม่น้อย...กระทั่งถึงที่ไหนไม่รู้...รอบข้างว่างเปล่า..ขาวโพลนไปหมด..ดูไม่ออกว่าทิศไหนเป็นที่ทิศไหน..
มันเหมือนกันหมด..
“
ถึงแล้วนะครับ...พี่คงส่งตะเกียงได้แค่นี้...อย่าลืมที่รับปากพี่ไว้..กลับไปดูแลตัวเองให้ดี...
สัญญากับพี่สิครับ” มันก้มเอามือลูบหัวกูเบาๆ พร้อมกับขอคำยืนยันให้กูรับปาก..กูเงยหน้าจ้องตามัน...มีแต่สายตาอบอุ่น
อ่อนโยนแสดงความรู้สึกไม่ซ้อนเร้นฉายชัดออกมา..เป็นดวงตาที่มันเคยใช้มองกูก่อนสิ้นใจในวันนั้น..ไม่รู้น้ำตากูไหล
มาตอนไหน...รู้สึกตัวก็ตอนมันเอามือเกลี่ยเช็ดให้ข้างแก้มเบาๆ...ก่อนจะก้มลงมาจูบหน้าผากกูนิ่งๆ...แล้วถอนจูบกลับไป
“
ครับ....ผมสัญญาจะดูแลตัวเองให้ดี....พี่ครับตะเกียงอยากบอกพี่ว่า...ผมรักพี่ครับ” กูพูดจบ..
มันฉีกยิ้มกว้างน้ำตารื้นคลอเบ้า...ยิ้มครั้งนี้ของมันสว่างไสวจนกูแสบตาไปหมด....ต้องปิดเปลือกตาลงทันที...
มันสว่างจร้ามากเกินไป...ทันได้ยินประโยคสุดท้ายมันพูดตอบมาว่า
“ขอบคุณมากครับ...ดวงใจของพี่” แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไปอีกครั้ง
ลืมตาตื่นมารู้สึกพร่าเบลอ...เห็นเงาหน้าคนลางๆ..เหมือนจะคุ้นเคย..แต่ก็ไม่ชัดเจน...กำลังก้ม
มองหน้ากูตอบตอนนี้...ก่อนที่กูจะกระพริบตาติดๆ กัน แล้วค่อยเปิดตามองอีกครั้งเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ...จนเห็นเป็น
หน้าคนคุ้นเคยจริงๆ...คนๆ นั้น....จ้องตอบกูดวงตาอิดโรย..แต่แฝงแววดีใจ..ห่วงใย..กังวล..ปนเปกันดูยุ่งเหยิงไปหมด
กูจ้องมันนิ่งๆ..ไม่รู้นานเท่าไหร่...ก่อนที่จะสัมผัสถึงมือหนาค่อยเกลี่ยน้ำตาตรงหางตาให้ทั้งสองข้าง...
เรายังคงมองกันอยู่อย่างนั้น...กูไม่รู้ว่าน้ำตาไหลออกมาได้ยังไง..พักนี้บ่อน้ำตาคงมีปัญหา...มักไหลออกมาเอง
โดยกูไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามันไหลตอนไหน....
“
ขอบคุณมากครับ...ขอบคุณที่ตื่นมาอีกครั้ง...ขอบคุณจริงๆ ที่ไม่ทิ้งกันไป...ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่คืนหัวใจให้ผมมา” เสียงทุ้มนุ่มหูที่ไม่ได้ยินเป็นเดือน..พูดเหมือนคนละเมอตรงหน้า...สายตามันไม่ละไป
จากหน้ากูเลย...กระทั่ง
“
ฮ่ะแฮ่ม!...พ่อว่าให้ทุกคนได้ถามอาการน้องหน่อยดีไหม?..โตโต๋” เสียงพ่อสิงห์...ทำให้สติกู
กลับคืนมาทันที..ก่อนจะค่อยมองสำรวจไปรอบๆ..บัดนี้คร่าคร่ำไปด้วยผู้คนที่กูรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี....พ่อเกริก..แม่ษา..
พ่อสิงห์..แม่อร..พี่เต้..พี่ตระกูล..พี่ตระการ...ไอ้พี่บอมย์...ไอ้พี่รัน..ไอ้พี่พรต..ไอ้พี่หน่อง...ไอ้พี่ชัด..ไอ้พี่ต้า..ไอ้พี่วิน...
ไอ้พี่กาน..ไอ้พี่โทนี่...และคนสุดท้าย..น้องสาวคนเล็กของกู...ไอ้ตระกอง
กูงง...มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมทุกคนมารวมตัวกันเต็มห้อง..มาตั้งกะเมื่อไหร่....มาทำไมกัน...
นัดกันมาหรือไง..หรือกูกำลังฝันหลับยังไม่ตื่น...สายตาแต่ละคนที่มองกู..มีทั้งน้ำตาคลอเบ้า..มีทั้งแวววิตกกังวล..
ยิ่งแม่ษากับแม่อรด้วยแล้ว...ตาแดงช้ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก...
“หิวน้ำ..” กูพูดเสียงแหบพร่า..แทบจะไม่ได้ยิน..เพิ่งรู้สึกว่าคอแห้งมากมาย...ไอ้พี่โต๋มัน
รีบจัดการรินน้ำอุ่นใส่แก้ว...เสียบหลอดดูด....ก่อนจะพยักหน้าให้ไอ้พี่บอมย์หมุนปรับระดับเตียงให้ส่วนหัวยกขึ้นช้าๆ....
ท่ามกลางสายตานับยี่สิบคู่ที่มองตลอดเวลา โดยยังไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น
จากนั้น..มันก็เอาหลอดดูดมาจ่อถึงปากให้กูค่อยๆ ดูดน้ำกินทีละนิดๆ...รู้สึกชุ่มคอขึ้นหน่อย....
ก่อนจะบิดหน้าหนีเมื่อรู้สึกอิ่มหลังจากจิบไปได้ค่อนแก้ว...ไอ้พี่โต๋มันเอาแก้ววางคืนตรงโต๊ะหัวเตียง...กูเหลือบตามอง
การกระทำของมันตลอด...เริ่มมีโอกาสสำรวจหน้าตาของมันจริงจัง..พอมันหันกลับมาจ้องกูอีกครั้ง..
และไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคิดทำอะไรอยู่..มือกูก็ไวก่อนความคิด..ค่อยเอื้อมลูบคลำใบหน้าของมันเบาๆ
โดยลืมไปว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพังสองคน...
หน้าตาหล่อเทพของมันตอนนี้...ครึ้มไปด้วยหนวดเคราที่ขาดการดูแลเอาใจใส่มาหลายวัน...ขอบตาคล้ำ
ยังกะหมีแพนด้า..หน้าตอบซูบเหมือนคนอดหลับไม่ได้พักผ่อนมานาน...แววตาอิดโรยแต่ก็ยังวาววับเหมือนยิ้มได้..
ไม่มีใครทักท้วง...ไม่มีใครพูดอะไร..แม้แต่ตัวมันก็ปล่อยให้กูลูบไปตามใบหน้าของมันยังกะฝัน..
มันคือความจริง...ใบหน้ามันอยู่ตรงนี้จริงๆ..กูสัมผัสได้...เกือบสามอาทิตย์ที่ไม่ได้เห็น...ไม่ได้คุยกัน...ไม่รู้ข่าวคราวมันเลย...
ตอนนี้ตัวเป็นๆ อยู่ตรงนี้แล้วจริงๆ ..ก่อนจะรู้สึกถึงมือหนาค่อยประกบมือกูบิดปากจูบลงบนกลางฝ่ามือนิ่งๆ..เหมือนประทับ
รอยจูบถ่ายทอดพลังผ่านจูบนี้ให้ซะงั้น
ไม่ได้พูดโกหก...จูบนี้อุ่นหวาบ..ความร้อนแล่นผ่านกลางฝ่ามือวิ่งเข้าถึงหัวใจ...จนทำให้หัวใจที่คิดว่า
มันเต้นช้า..ช้ามาก...กลับมาโครมครามยังกะกองรัวอีกครั้ง...เรียกความร้อนวิ่งขึ้นหน้าทันที...ปานนี้หน้าคงแดงเถือกแล้วแน่ๆ...
ไม่ต้องเดาก็รู้
“อย่าทำให้พี่ตกใจอีกนะครับ...อย่าทำเหมือนทิ้งกันไป...รับปากพี่สิครับ” กูไม่เข้าใจมันพูดถึงอะไร...
แต่เห็นแววตาที่มีน้ำตารื้อขึ้นมา...พาใจหาย...จนต้องรีบพยักหน้าให้ไปทันที...ถึงเห็นรอยยิ้มดีใจของมันกลับมา...
ขับให้หน้าเหนื่อยล้าของมันสว่างจ้าเปล่งประกายวิบวับขึ้นมาทันที..กูมองตาค้างเผลอยิ้มออกไปให้มันเช่นกัน..
นับเป็นร้อยยิ้มแรกที่ตื่นมา..รู้สึกว่ายิ้มออกมาจากใจเลยว่างั้นก็คงได้...
ก่อนที่เราสองคนจะสร้างโลกส่วนตัว..โดยลืมนึกไปว่าพวกเราไม่ได้อยู่ตามลำพัง...ต่อเมื่อพ่อเกริก
เดินมาเอามือลูบหัวกูเบาๆ...ไอ้พี่โต๋มันถึงถอยหลบออกไป ให้พ่อๆ แม่ๆ..และทุกคนสลับกันเข้ามาทักทายพูดจา
ถามไถ่อาการ..กูตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง..เพราะยังจับต้นชนปลายเรียงลำดับไปถูก..ก่อนจะรู้สึกหนักหัวจนตาจะปิด..
จนทุกคนสังเกตุได้พากันหยุดคำถาม...ปล่อยให้ไอ้พี่โต๋เข้ามากุมมือกูไว้ เอามืออีกข้างลูบหัวกูอย่างนุ่มนวล...
พร้อมกระซิบบอกกูว่า
“
เหนื่อยก็หลับพักผ่อนนะครับ...พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน..แล้วค่อยตื่นขึ้นมาเจอกันนะครับสัญญา....
ห้ามหลับนานเป็นอันขาด..” กูจำได้แค่นั้น....รู้สึกว่าตนเองเผลอยกยิ้มมุมปากให้มันไป ก่อนจะผล่อยหลับไปในที่สุด.......
สัญญาจากคนเขียน...จะมีเรื่องของพี่รันกับไอ้พี่พรตต่อ
ในภาคมหา'ลัย แน่นอน...ใครเป็นแฟนคลับคู่นี้ติดตามได้ต่อจากตะเกียง
ในชื่อเรื่อง...'เหยี่ยวหัวใจ' รับรองได้ชมความรั่ว...มันส์..ฮา..ของไอ้พี่พรต
และการแก้ไขปัญหาของกุนซือเทพ...สิงห์รัน
สรุปไตรภาคย์..ของตะเกียงพิเศษ..ประกอบด้วย
ตะเกียงพิเศษ...เป็นเรื่องสมัยมัธยม
เหยี่ยวหัวใจ...เป็นเรื่องตอนเรียนมหา'ลัย
จอมใจนักเลง...วัยหนุ่มใหญ่ตอนทำงาน
พระเอก& นายเอก...ก็ตามเนื้อเรื่องแต่ละตอนนั่นแหละค๊า
ใครรักนิยายของเราอย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยน๊า..
รักทุกคนเช่นกัน
Luk.